• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#11059
 ความรู้โภชนาการควรู้ของแม่ตั้งครรภ์ข้าวกล้องสุขภาพที่มีน้ำตาลต่ำโภชนาการสูงปลอดสารพิษครรภ์ คุณค่าสารอาหารสูง
   ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษส่งทั่วไทย การรับประทาน "#ข้าวกล้อง" ( ข้าวสุขภาพ) นอกจาก ข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ จะส่งผลดีโดยตรงต่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วยังส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย ข้าวกล้องออแกนิคถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงานต่อร่างกายในการใช้พลังงานต่อวันของเรา คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีความต้องการสารอาหารจาก  ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษที่มากกว่าคนปกติ เพราะต้องน้ำสารอาหารที่จำเป็นหลายๆส่วนไปใช้ในการสร้างพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์  ข้าวกล้องหอมมะลิเพื่อสุขภาพถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ อีกตัวช่วยหนึ่ง เนื่องจาก ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสี มีจมูกข้าว มีเยื่อหุ้มข้าว มีกาบา ซึ่งมีและสารอาหารต่างๆครบ ทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ซึ่งมีอะไรบ้างมาดูกัน..




1. ปัญหาหลักของคุณแม่ตั้งครรภ์ คือ ภาวะท้องผูก ข้าวกล้องมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ได้เป็นอย่างดี
ปัญหาต่อมา คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบเป็นตะคริว เมื่อคุณแม่รับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2 บรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
2. นอกจากคุณแม่จะทานยาที่คุณหมอให้สริมธาตุเหล็กมา ข้าวกล้องยังมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง จาก ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคคือ
3. ในข้าวกล้อง   ข้าวสุขภาพมะลินิล มีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผมของลูกและคุณแม่ที่ผมร่วงบ่อย
4. ใน  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิค มีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ ป้องการให้คุณแม่ไม่เป็นโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้นอีกด้วย
5. ในข้าวกล้องมีไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ในข้าวกล้องเป็นไขมันดีที่ไม่มีคอเลสเตอรอล (Cholesterol)
6. ในข้าวกล้องมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ใน  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ มีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8. ในข้าวกล้องแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมก็แข็งแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

เห็นไหมว่าข้าวกล้อง เช่น   ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ออร์แกนิค มีคุณค่าและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่และคุณลูกมากแค่ใหน เวลาเลือกซื้อข้าวกล้อง อย่าลืมเลือกซื้อข้าวกล้องอินทรีย์ เพราะทุกกระบวนการผลิตไม่มีการใช้สารเคมีดีต่อสุขภาพคุณแม่และคุณลูกอย่างปลอดภัย

เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิค   ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  ที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR)   ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์
ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   การปลูกข้าวอินทรีย์   ส่งออกข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์
Facebook : เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวออร์แกนิค
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique ต้นข้าวออร์แกนิค  เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1. ข้าวหอมมะลิออแกนิค
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค
3.  ข้าวปะกาอำปึลออร์แกนิค (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5. ข้าวอินทรีย์หอมมะลิแดง
6. ข้าวกล้องมะลินิลออแกนิค
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ #ข้าวกล้องสำหรับคนท้อง #ข้าวกล้องสำหรับคุณแม่ตั้งครภ์ #คนท้อง #ตั้งครรภ์ #ตั้งท้อง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#11060
ข้อต่อท่ออ่อนสแตนเลส
ท่อรับการสั่น
ท่อรับการสะเทือน
ข้ออ่อนกันสะเทือน
#11061
หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ได้จัดงานสัมมนาแบบผสมผสานออนไลน์และออฟไลน์ "Reconnecting International Business with Thai Eastern Economic Corridor" มุ่งประชาสัมพันธ์โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในฐานะจุดหมายของการทำธุรกิจให้กับกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติทั้งในและต่างประเทศ โดยมีนักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมงาน 181 คน ทั้งแบบสัมมนาออนไลน์ และเข้าร่วมงานสัมมนา 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันที่ 14 – 16 ตุลาคม 2564 ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยจาก เทรนด์โลกที่เปลี่ยนไป อีอีซีจึงเน้นส่งเสริมกลุ่มอุตสาหกรรม 3+1 ได้แก่ Health & well-being เช่น medical sector, Digital เช่น smart electronics, Decarbonization เช่น automotive และ Logistics

งาน EEC Business Forum – "Reconnecting International Business with Thai Eastern Economic Corridor" จัดขึ้นโดยหอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย (NTCC) ในนามของหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ด้วยความร่วมมือจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.), สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), จังหวัดชลบุรี รวมทั้งภาคเอกชนและผู้สนับสนุนทุกฝ่าย



กิจกรรมตลอดระยะเวลา 3 วันประกอบไปด้วยการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก การเสวนา กิจกรรมสร้างเครือข่าย และการเยี่ยมชมชุมชนตะเคียนเตี้ย ชุมชนสวนมะพร้าวในเมืองพัทยา โดยมีจุดประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสในการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มธุรกิจต่างชาติและกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นในจังหวัดชลบุรี สร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ในการทำธุรกิจของทั้งสองกลุ่ม รวมทั้งนำเสนอข้อมูลล่าสุด โครงการสาธารณูปโภคในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกแก่นักลงทุนต่างชาติ เช่น เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา รวมถึงรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบินทั้งดอนเมือง สุวรรณภูมิและอู่ตะเภา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2568



นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ตัวแทนผู้จัดงานระบุว่า "การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ของงานสัมมนาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้วที่จังหวัดระยอง สมาชิกของเราซึ่งเป็นหอการค้าร่วมต่างประเทศของประเทศต่างๆ ล้วนมีความสนใจอย่างยิ่งที่จะต่อยอดความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นในจังหวัดชลบุรี และที่สำคัญอย่างยิ่งคือการได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแผนการพัฒนาล่าสุดของโครงการสาธารณูปโภคใน EEC เราเชื่อมั่นในศักยภาพของพื้นที่ EEC และจัดงานครั้งนี้ที่มีรูปแบบผสมผสานทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ก็เพื่อช่วยกระจายข้อมูลดังกล่าวไปยังกลุ่มนักลงทุนต่างชาติทั้งในไทยและต่างประเทศพร้อมๆ กัน"


"ปัจจุบันสมาชิกของเรามีมากกว่า 9,000 บริษัทที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย แผนการโปรโมทพื้นที่อีอีซีในครั้งนี้สมาชิกให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากเนื่องจากมีโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานและสาธารณูปโภคดิจิทัลที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิตอลเป็นกลุ่มที่มีความคืบหน้ามากที่สุด ให้ความสนใจลงทุนในพื้นที่อีอีซีมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่ม Smart Electronics เช่น กลุ่มผู้ประกอบชิ้นส่วนสำหรับ EV หรือกลุ่ม smart devices เนื่องจากพื้นที่อีอีซีอยู่ใกล้กับสนามบินถึง 2 แห่ง คือสุวรรณภูมิและ อู่ตะเภา ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกนั่นเอง" นายสแตนลีย์ คัง กล่าวถึงผลตอบรับที่ดีของงานสัมมนาในครั้งนี้
#11062
แอปฯ เงินกู้|แอพเงินกู้ตรวจสอบ รายชื่อ แอปฯ เงินกู้ ถูกกฏหมาย

ทุกวันนี้ พวกเรา ทุกคน ต่างเดือดร้อน ดิ้นรน หาช่องทางกู้เงิน กันต่างๆ นานาๆ เปิดช่องให้ แอปฯ เงินกู้ เถื่อน เข้ามาหลอกลวง คนไทย เป็นจำนวนมา ทั้ง หลอกให้โอนเงินแล้วไม่มี เงินให้กู้จริง ทั้ง ปล่อยกู้ดอกเบี้ย แพงๆ  ทุกวันนี้มิจฉาชีพระบาดอย่างหนัก โดยอาศัยช่วงที่ประชาชนมองหาแหล่งเงินกู้ แอบอ้างเป็นผู้ให้บริการเงินกู้แล้วหลอกลวงเงินจากประชาชน ผ่านช่องทางทั้ง SMS  ไลน์ เฟสบุ๊ก แอพเงินกู้ และโทรศัพท์ โดยใช้ข้อความชวนเชื่อว่า กู้ง่าย ได้เร็ว ดอกเบี้ยต่ำ ใช้เอกสารน้อย ไม่ต้องมีหลักประกัน ติดแบล็กลิสต์ก็กู้ได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย โปรดสังเกตให้รู้เท่าทัน อย่าหลงเชื่อกลโกงของมิจฉาชีพ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง และโทรติดต่อไปยังผู้ให้บริการที่ถูกอ้างชื่อถึง ก่อนตัดสินใจกู้เงิน 
#11063
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเฮลท์แคร์ (Health care) ในประเทศไทย กลายเป็นกิจการดาวรุ่งที่นักลงทุนกำลังจับตามองด้วยปัจจัยหลายประการ อาทิ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ไปจนถึงการผลักดันของภาครัฐ ที่หวังปั้นให้ประเทศไทยกลายเป็นเมดิคัล ฮับ หรือการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติของโลก

เมื่อโควิด-19 ระบาด สิ่งนี้ได้กลายเป็นความท้าทายครั้งใหม่ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของธุรกิจเฮลท์แคร์ประเทศไทย ซึ่งในงานสัมมนา "ธุรกิจ-สังคม สร้างภูมิคุ้มกัน ฝ่าภัยโควิด" จัดโดยหนังสือพิมพ์ "ประชาชาติธุรกิจ" นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ได้ฉายภาพทิศทางของธุรกิจเฮลท์แคร์จากนี้ไปให้ฟังว่า ต้องปรับตัวสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น พร้อมเปิด 'กลุ่มเติมพลัง' สร้างฐานเมดิคัล ทัวริซึ่ม ให้ประเทศไทย

'THG' คิดเร็วทำเร็ว ช่วยเหลือชีวิตผู้คน

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด เครือโรงพยาบาลธนบุรีในฐานะด่านหน้าที่อยู่ในวงการมาร่วม 46 ปี ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสนาม มทบ.11 จำนวน 494 เตียง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 2 จำนวน 168 เตียง และโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน จำนวน 177 เตียง และฮอสพิเทลอีก 10 แห่ง รวมทั้งสิ้นกว่า 4,000 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว เหลือง และแดง พร้อมดึงบุคลากรวิชาชีพอื่น อาทิ สจ๊วต แอร์โฮสเตส แพทย์ พยาบาล จากคลินิกความงาม ฯลฯ ที่ได้รับผลกระทบเข้ามาช่วยทำงานในโรงพยาบาลสนาม ถือเป็นปรากฏการณ์ของพลเมืองที่ออกมาช่วยทำงานด่านหน้า

 "โควิด-19 เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เราต้องคิดให้เร็วขึ้น กรณีโรงพยาบาลสนาม หรือไอซียูสนาม ของเครือธนบุรี ใช้เวลาคิดและทำเพียง 10-15 วัน เพราะหากเราช้าเพียงวันเดียวอาจหมายถึงชีวิตของผู้คนที่สูญเสียไปกว่า 300 คน ถ้าเราสามารถตัดสินใจและทำได้เร็วขึ้น นั่นหมายถึงการเซฟงบประมาณมหาศาล และหมายถึงการช่วยเหลือชีวิตผู้คนที่ประเมินค่าไม่ได้อีกมหาศาล"

'วัคซีน' ภูมิคุ้มกันหลักทางรอดประเทศไทย

สำหรับทางรอดประเทศอย่าง 'วัคซีน' ซึ่งเป็นคำถามคาใจของใครหลายคน นพ.ธนาธิป ให้คำตอบว่า สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดในช่วงเวลานี้คือ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน คนไทยต้องเข้าถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นภายในและภายนอกประเทศ ขณะเดียวกัน องค์กรก็ต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถ เพื่อแข่งขันต่อในสภาวะที่เศรษฐกิจจะตกต่ำไปอีก 3-4 ปี ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าโควิดจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจหดหายไปกว่า 10% จากปัจจัยของระยะห่างทางสังคม


สถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1.5 เมตร ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ส่งผลโดยตรงทำให้ธุรกิจบางประเภทหายไป ในทางกลับกันก็ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นเช่นกัน ในฐานะผู้ประกอบการควรปรับตัวด้วยการหานวัตกรรมใหม่ ระบบการทำงานแบบใหม่ โปรดักต์ใหม่ บริการใหม่ ที่ทำให้ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เพื่อทดแทนช่องว่างที่เกิดขึ้น ผ่านดิจิทัล แม้แต่ธุรกิจเฮลท์แคร์เองก็อาจต้องมีบริการใหม่ ๆ หรือนำดิจิทัลแพลตฟอร์มมาใช้ในธุรกิจและบริการมากขึ้นเช่นกัน

รีเซตธุรกิจเฮลท์แคร์ด้วยดิจิทัล

สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลเองนั้น นพ.ธนาธิป เชื่อว่าต้องรีเซตระบบใหม่ ด้วยการนำเอาระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ให้มากขึ้น เพื่อความสะดวกสบายกับผู้ป่วย รวมถึงตอบโจทย์เรื่องความกังวลของผู้ป่วยโรคง่ายหรืออาการไม่หนักที่ไม่อยากมาโรงพยาบาล โดยต้องลดขั้นตอนเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงหมอได้ง่ายขึ้น ภายใต้ความปลอดภัยใหม่ที่สูงขึ้น

นพ.ธนาธิปเห็นว่า จากนี้ธุรกิจเฮลท์แคร์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต้องปรับตัวหลายอย่างโดยเฉพาะส่วนที่เป็นบริการด่านหน้า เนื่องจากปัจจุบันคนที่อยากมาโรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ป่วยจริงๆ แต่กลุ่มคนที่ก้ำกึ่ง ไม่แน่ชัดว่าป่วยจริงหรือไม่ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีจำนวนค่อนข้างสูง อาจไม่มาโรงพยาบาล การทำธุรกิจในอนาคตจึงต้องตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้

 'กลุ่มเติมพลัง' ฐานลูกค้าใหม่ที่ THG จับตามอง

โดยปกติ การท่องเที่ยวในประเทศไทยจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ ส่วนอีกกลุ่มที่มีจำนวนไม่น้อยนั่นคือกลุ่มคนที่เข้ามาเพื่อรับการรักษาโรคเฉพาะทาง อาทิ มะเร็ง หัวใจ เป็นต้น ทว่าท่ามกลางตลาดขนาดใหญ่ของทั้ง 2 กลุ่มยังมีช่องว่างระหว่างกลาง ซึ่งอาจเรียกว่าเป็น 'กลุ่มเติมพลัง' โดยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เปราะบางทางร่างกาย แต่ต้องการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย เพื่อฟื้นฟูสุขภาพบางประการ อาทิ ผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มนี้ยังไม่เติบโตมากนักในประเทศไทย

นพ.ธนาธิป กล่าวเสริมว่า ภายในระยะเวลา 2-3 ปีหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ผู้คนจะมีความเครียดสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่เคยเป็นโควิด และจะยิ่งมีผลมาก เพราะต้องรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลานาน ก่อให้เกิดความเครียดสะสม ซึ่งที่ผ่านมา เครือธนบุรีได้มีการตั้งโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มเมดิคัล ทัวริซึ่ม ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เน้นการเติมพลัง ฟื้นฟูร่างกายในรีสอร์ต ผ่านการรักษาในลักษณะบำบัด ที่ให้ความรู้สึกเหมือนทั้งรักษาและเที่ยวพักผ่อนไปในเวลาเดียวกัน

พร้อมกันนี้ นพ.ธนาธิปยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือในอนาคตในตอนท้ายว่า

"ทุกอย่างมีวาระของมัน มีโรคระบาด เดี๋ยวมันก็หมดไป คำถามคือหมดแล้วต้องทำอย่างไร เราต้องเรียกความเชื่อมั่นให้ได้ไวที่สุด ตอนนี้อาจเป็นช่วงรีเซตธุรกิจบริการทางการแพทย์ อนาคตไทยอาจจะไปยืนอยู่ที่เลเวลใหม่ของเมดิคัล ทัวริซึ่ม กลุ่มหนักๆ ที่บินมารักษาโรคเฉพาะทางยังมีอยู่ กลุ่มเบิร์น พลัง ชอบการผจญภัย อาจลดน้อยลงหน่อย ยุคโพสต์โควิด หากร่วมมือกันในหลายภาคส่วนทำพื้นที่สำหรับเจาะกลุ่มเติมพลัง เชื่อว่าจะเป็นทาร์เก็ตใหม่ขนาดใหญ่ของเมดิคัล ทัวริซึ่มของประเทศได้"
#11064
"เฮงลิสซิ่ง" เผย มีแผนทำธุรกิจร่วมกับ "ธนาคารกสิกรไทย" ในอนาคต หลังเข้ามาถือหุ้น 10% ตั้งเป้าหมายปี 66 สินเชื่อโตแตะ 1.4 หมื่นล้าน เดินหน้าขยายสินเชื่อจำนำทะเบียน-นาโนไฟแนนซ์-ธุรกิจนายหน้าประกัน หนุนการเติบโต

นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG เปิดเผยว่า การเข้ามาถือหุ้นของธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ในสัดส่วน 10% หรือ 381 ล้านหุ้น ผ่านการทำรายการบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ในช่วงเช้าวานนี้ (19 ต.ค.) นอกเหนือจากจะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นแล้ว คาดว่าในอนาคตจะเห็นความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกันต่อไป  แต่ปัจจุบันยังไม่ได้หารือถึงรายละเอียดอย่างชัดเจน แต่เบื้องต้นมีแผนที่จะทำธุรกิจร่วมกัน

ทั้งนี้ภายหลังบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 1,500 ล้านบาท ไปใช้ในการขยายสินเชื่อเป็นหลัก โดยคาดว่าเม็ดเงินที่ใช้ในการขยายสินเชื่อจะอยู่ที่ 1,000-1,100 ล้านบาท ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน 300-400 ล้านบาท และนำไปลงทุนพัฒนาระบบไอทีของบริษัท 70-90 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นเจาะกลุ่มลูกค้าออนไลน์


สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อ ณ ไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทมียอดสินเชื่อคงค้าง (Outstanding Loan) ทั้งสิ้น 8,400 ล้านบาท โดยคาดว่าปี 2564 จะเติบโต 7-8% มาอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายระยะยาวในปี 2 ปีข้างหน้า (2566) พอร์ตสินเชื่อจะเติบโตแตะ 14,800 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 28-30% ซึ่งคาดว่าแนวโน้มรายได้จะเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อ โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินทุนที่เพิ่มขึ้นและการขยายสาขาใหม่ปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการ 450 สาขา คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 830 สาขาในอีก 2 ปีข้างหน้า


นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายสัดส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ในระยะ 2 ปีต่อจากนี้ โดยปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถฯ อยู่ที่ 27% ตั้งเป้าหมายขยายสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 40-50% ส่วนนาโนไฟแนนซ์ปัจจุบันอยู่ที่ 5% คาดว่าจะขยายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 8% รวมถึงมีแผนขยายธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต จากปัจจุบันที่ 5-6% คาดว่าจะเติบโต 1-2 เท่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า (2566-2567)

 
#11066
19/10/2021 part1

รีวิวบอท V.3 ระบบ Optimus + เงินจริง

ทำกำไรจาก 487.12 $ เป็น 522.43$
กำไร 35.31 $ หรือ 1,179.07 บาท ใน 143 นาที

ดูคลิปคลิกเลย!!
https://www.youtube.com/watch?v=ncCVaK86mWE

- เงื่อนไขการขอรับบอทฟรี
- https://www.autobotfree.com

- เฟสบุคแฟนเพจ
- https://www.facebook.com/Binaryrooms

- ติดต่อสอบถาม Line : @autobotfree
- http://line.me/ti/p/@autobotfree
#11067
www.facebook.com/aircoolresin
น้ำยาดับกลิ่นเรซิ่น เรซิ่น กำจัดกลิ่น เรซิ่นไร้กลิ่น
#11068
อย่าเพิ่งยิงแอด ถ้ายังไม่เรียน คอร์สออนไลน์ 98 บาท
#11069
LH Bank ร่วมกับ เมืองไทยประกันชีวิต ออกประกันชีวิต "ทรัพย์เพิ่มพูน 888"ชูจุดเด่นผลตอบแทนสูงปีละ 8% รับเงินคืนครบสัญญา 888% คุ้มครองสูงสุด 800%

ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร่วมกับ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต ออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ "ทรัพย์เพิ่มพูน 888"  ชูจุดเด่นผลตอบแทนสูงทุกๆปี ปีละ 8%(1) มีเงินคืนตลอดสัญญา รับเงินก้อนโต 888%(2)  จำนวนเงิน         เอาประกันภัยขั้นต่ำ 200,000 บาท มั่นใจตอบโจทย์การออมในทุกไลฟ์สไตล์ ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงิน หรือวางแผนเกษียณ  พร้อมลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท(3) ต่อปี พร้อมรับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ และชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายปีทุกๆ 100,000 บาท รับบัตรกำนัลเซ็นทรัลมูลค่า 1,000 บาท(4)

ประกันชีวิต "ทรัพย์เพิ่มพูน 888"ชูผลตอบแทนสูงปีละ 8%คุ้มครองสูงสุด 800%
ประกันชีวิต "ทรัพย์เพิ่มพูน 888"ชูผลตอบแทนสูงปีละ 8%คุ้มครองสูงสุด 800%

นายวุฒิชัย กมลสันติสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Retail Product and Marketing ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้พัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ร่วมกับ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต คือ ทรัพย์เพิ่มพูน 888 ซึ่งเป็นแบบประกันชีวิตที่ให้ผลตอบแทนที่สูงถึงปีละ 8%  ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 ถึงอายุครบ 87 ปี  พร้อมทั้งอีกจุดเด่นคือ        แบบประกันนี้มีเงินคืนแน่นอน ด้วยเงินก้อนสูงถึง 888% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น เมื่อครบกำหนดสัญญา ณ สิ้นปีกรมธรรม์ ที่อายุครบ 88 ปี


ด้านความคุ้มครอง ถือเป็นแบบประกันมอบความคุ้มครองที่สูง กรณีเสียชีวิตสูงสุด 800% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น หรือ 6400% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ  พร้อมกันนี้ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 100,000 บาท(3) 

"ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในปัจจุบัน แบบประกันที่ธนาคารพัฒนาขึ้นนี้ถือเป็นทางเลือกที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการออมเงินของลูกค้า เพราะให้ทั้งความคุ้มครองชีวิต มีเงินคืนตลอดสัญญา ผลตอบแทนสูงและคุ้มค่า รวมถึงสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท(3)  รองรับทุกแผนการเงินในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครได้ง่ายๆ อีกด้วย เราเชื่อว่าแบบประกัน ทรัพย์เพิ่มพูน 888  จะตอบโจทย์ทุกๆ ไลฟ์สไตล์ทางการเงินได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนทางการเงิน วางแผนไว้ใช้เงินในยามเกษียณ รวมทั้งการสร้างหลักประกันทางการเงินให้กับครอบครัว ควบคู่กับความคุ้มครองชีวิตที่ลูกค้าจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเองมากที่สุด"

ประกันชีวิต "ทรัพย์เพิ่มพูน 888"ชูผลตอบแทนสูงปีละ 8%คุ้มครองสูงสุด 800%
ประกันชีวิต "ทรัพย์เพิ่มพูน 888"ชูผลตอบแทนสูงปีละ 8%คุ้มครองสูงสุด 800%

 

สำหรับรายละเอียดของการทำประกันทรัพย์เพิ่มพูน 888  ชำระเบี้ยประกันเพียง 8 ปี อายุรับประกันภัย  ตั้งแต่ 30 วัน- 65 ปี จำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น 200,000 บาท สูงสุด 4,000,000 บาท สมัครง่ายตอบคำถามสุขภาพไม่กี่ข้อ 

โปรโมชั่นพิเศษส่งท้ายปี ซื้อประกันแบบประกันภัยทรัพย์เพิ่มพูน 888 เพียงชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายปีทุกๆ  100,000 บาท รับบัตรกำนัลเซ็นทรัล มูลค่า 1,000 บาท(4) ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม ถึง 30 ธันวาคม 2564

 

หมายเหตุ :

(1) %ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 ถึงอายุครบ 87 ปี

(2) %ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น เมื่อครบกำหนดสัญญา ณ สิ้นปีกรมธรรม์ ที่อายุครบ 88 ปี

(3) เบี้ยประกันภัยนี้สามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่ กรมสรรพากร กำหนด

(4) เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กำหนด

• การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด

• ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายหน้าประกันชีวิต เป็นผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิต และอำนวยความสะดวกในการรับชำระเบี้ยประกันภัยเท่านั้น โดย บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต จะเป็นผู้รับผิดชอบเงื่อนไขความคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไข ซึ่งระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย

คำเตือน : ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
#11070
ติดต่อสอบถาม โทร 0846623662

ไลน์ไอดี  teerapat999

สนใจสั่งซื้อได้ที่   https://bit.ly/3to47cx