• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#10651


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดแนวทางอำนวยความสะดวกให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ภายใต้วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ ได้แก่ บริการฝากส่งพัสดุที่บ้าน Pick up Service การจำหน่ายสินค้าของดีทั่วไทย จากแหล่งผลิตทั่วประเทศบนแพลตฟอร์ม Thailandpostmart.com การพัฒนารถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพสินค้า รวมถึงบริการส่งยาให้ถึงที่บ้านโดยที่ไม่ต้องไปโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนารูปแบบการสื่อสารและการขนส่งภายใต้การดำเนินชีวิตวิถีใหม่ที่มีทั้งความรวดเร็ว สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ รวมถึงการอำนวยความสะดวกภายใต้มาตรการความปลอดภัยที่ยังคงให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงการระบาดของเชื้อ COVID – 19 พฤติกรรมหลายรูปแบบของคนไทยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ที่ต้องเปลี่ยนจากการทำกิจกรรมนอกบ้านมาสู่ในบ้าน เนื่องด้วยมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อจำกัดการรวมตัวและประกอบกิจกรรม ทำให้หลายๆ ธุรกิจต้องปรับแนวทางในการดำเนินงานและการให้บริการให้สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) มากขึ้น

ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานด้านการขนส่งหลักของชาติ ได้มีการปรับแนวทางการอำนวยความสะดวกให้กับภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม และภาคประชาชนเช่นเดียวกัน โดยมีทั้งรูปแบบงานบริการสื่อสาร การขนส่ง รวมถึงระบบดิจิทัล ที่ทำให้ทุกภาคส่วนดำเนินกิจวัตรประจำวันในช่วงที่ต้องอยู่บ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย

• ฝากส่งพัสดุได้ที่บ้านกับบริการ Pick up Service ซึ่งเป็นบริการรับฝากสิ่งของนอกสถานที่ ผ่านไลน์ @ThailandPost รองรับทั้งผู้ที่มีพัสดุจำนวนมาก หรือมีขนาดใหญ่ โดยไม่จำกัดจำนวนชิ้น และไม่คิดค่าเข้ารับสิ่งของ สามารถส่งได้ทั้งรายย่อยและรายใหญ่



• การจำหน่ายสินค้าของดีทั่วไทย จากแหล่งผลิตทั่วประเทศ ด้วยแพลตฟอร์ม Thailandpostmart.com ซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล ของดีทั่วไทย สินค้าชุมชน ของใช้ในบ้าน และผลิตภัณฑ์ที่เป็นของดีของเด่น จากทั่วประเทศกว่า 17,000 รายการ นอกจากนี้ ยังได้ใช้ความโดดเด่นของช่องทางดังกล่าว ดำเนิน โครงการ "พี่ไปรฯ ชวนแปลงร่าง ทางรอดในยุคโควิด ชวนคนไทยขายของออนไลน์" เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าในเว็บไซต์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ค่า GP) ซึ่งครอบคลุมสินค้าทุกประเภท รวมถึงกลุ่มสินค้าเพื่อผู้ป่วย COVID-19 ที่ต้องรักษาตัวเองที่บ้าน หรือ Home – Isolation

• บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนารูปแบบการขนส่งดังกล่าว เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์อาหารสด อาหารทะเล ฯลฯ ให้สามารถคง ความสดใหม่ และลดการเสียหาย ด้วยรถที่มีศักยภาพในการควบคุมอุณหภูมิได้ถึง -18 องศาเซลเซียส ตอบโจทย์กับสินค้าประเภทอาหารสด ผลไม้ อาหารทะเล และอาหารแช่แข็ง ที่เริ่มมีการซื้อขายกัน บนช่องทางออนไลน์ในช่วงที่มีการจำกัดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยมีสินค้าที่ได้รับความนิยม อาทิ แหนมเนือง หมูยอ กุ้ง เนื้อปลากะพง เนื้อวัว นอกจากนี้ยังได้เตรียมยกระดับประสิทธิภาพบริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิร่วมกับพันธมิตรเอกชน เพื่อร่วมกันเสริมความเเข็งแกร่งและความครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการให้มากยิ่งขึ้น ในเร็วๆ นี้

• บริการส่งยาให้ถึงที่บ้านโดยที่ไม่ต้องไปโรงพยาบาล เป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ป่วย ที่มีโรคประจำตัว โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเผชิญความเสี่ยงจากการรับยาตามนัดหมาย โดยจะจัดส่งถึงที่อยู่ผู้รับภายในวันทำการรุ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ตลอด 24. ชม. ทางแอปพลิเคชัน Track&Trace หรือ www.thailandpost.co.th
#10652
สนใจติดต่อคุณเป้ง  087-347-6299
บริษัท  สบายใจการบัญชี  จำกัด

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#10653


ศึกฟุต.กัลโช เซเรีย อา อิตาลี วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 เป็นการลงสนามนัดแรกของฤดูกาล 2021/22 "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ทีมแชมป์เก่า เปิดสตาดิโอ จูเซปเป เมียซซ่า รับการมาเยือนของ เจนัว

เกมนี้ ซิโมเน อินซากี กุนซือใหญ่อินเตอร์ มิลาน จัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย เอดิน เชโก กองหน้าป้ายแดง, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, อีวาน เปริซิช, สเตฟาโน เซนซี ขณะที่ เจนัว นำทัพโดย โกรัน ปานเดฟ, ยายาห์ คาลลอน และเอร์นานี

"งูใหญ่" เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ 2 ประตู จาก มิลาน สคริเนียร์ น.6 และฮาคาน ชัลฮาโนกลู น.14 ขึ้นนำทีมเยือนไป 2-0 อย่างรวดเร็ว และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง อินเตอร์ มิลาน ยังดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 74 ก็มาได้ประตูขยับนำ 3-0 จากจังหวะที่ เอดิน เชโก ยิงหน้ากรอบเขตโทษไปติดเซฟของนายทวารทีมเยือน .เด้งมาเข้าทาง นิโคโล บาเรลลา ไขว้มาให้ อาร์ตูโร่ วิดัล ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ซัดเข้าไป

น.87 พลพรรค "งูใหญ่" มาได้ประตูหนีห่างไปอีกเป็น 4-0 จากจังหวะที่ อาร์ตูโร วิดัล เปิด.มาให้ เอดิน เชโก หัวหอกตัวใหม่ของทีม โขกแสกหน้านายทวารทีมเยือนเข้าไป ถือเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื้ออินเตอร์ มิลาน อีกด้วย 

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที แชมป์เก่า อินเตอร์ มิลาน เปิดบ้านไล่ต้อน เจนัว ไปแบบไม่ยากเย็น 4-0 ประเดิมสามคะแนนซีซั่นใหม่ได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
อินเตอร์ มิลาน : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช (GK), มัตเตโอ ดาเมียน, มิลาน สคริเนียร์, สเตฟาน เดอ ฟรายจ์, อเลสซานโดร บาสโตนี, อีวาน เปริซิช, นิโคโล บาเรลลา, มาร์เซโล โบรโซวิช, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, สเตฟาโน เซนซี, เอดิน เชโก

เจนัว : ซัลวาตอเร ซิริกู (GK), ดาวิเด บิราสชี, ซินโญ่ วานฮุสเดน, โดเมนิโก คริสซิโต, อันเดรีย คัมเบียโซ, มิลาน บาเดลจ์, นิโคโล โรเวลลา, สเตฟาโน สตูราโร่, เอร์นานี, โกรัน ปานเดฟ, ยายาห์ คาลลอน
#10654


วิกฤตการระบาดของโควิด-19 กระทบวิถีการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน ผู้ประกอบการรายใหญ่ กลาง เล็ก ต้องตัดสินใจปิดกิจการ ลูกจ้างตกงาน คนทำมาค้าขายหาเช้ากินค่ำ ถูกกระทบด้านรายได้อย่างหนัก พื้นที่ท่องเที่ยวเงียบเหงา จากที่เคยมีรายได้จากนักท่องเที่ยว

ที่ ชุมชนบ้านธรรมชาติล่าง ชุมชนเล็กๆ ตั้งอยู่ในอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมง ทำสวนและบางครัวเรือน มีรายได้จากการให้เช่าที่พัก เพราะที่นี่ เป็นจุดต่อเรือเฟอรี่เพื่อข้ามไปเกาะช้าง ชาวบ้านที่นี่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน แต่ด้วยความเข้มแข็งของชุมชน รวมตัวกันจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ทำให้มีอาชีพและรายได้เสริมรองรับ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้พอสมควร



ล่าสุด ชุมชนฯรวมตัวจัดตั้ง "กลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำดื่มบ้านธรรมชาติล่าง" เดินหน้าแก้ปัญหาคุณภาพของน้ำดื่ม จนสามารถผลิตน้ำดื่มที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย เพื่อบริโภคและจำหน่าย ด้วยความเข้มแข็งของชุมชน ประกอบกับได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐซ่อมแซมและปรับปรุงอุปกรณ์การผลิตน้ำดื่ม ยังได้รับองค์ความรู้การบริหารจัดการและคำแนะนำที่ได้จากภาคเอกชน คือ โรงเพาะฟักลูกกุ้งภาคตะวันออก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน ชุดปฏิบัติงาน รางลำเลียงถังน้ำ รวมถึงการตรวจคุณภาพทางเคมีและจุลินทรีย์เบื้องต้น รวมทั้งโครงการประชารัฐช่วยด้านการขยายโครงสร้างฯ สาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้คำแนะนำขั้นตอนการขอรับรองมาตรฐานคุณภาพจากอย. (ได้รับการรับรองมาตรฐานน้ำดื่ม อย.23-2 -01262-6-0001)



นางสาวรวงทอง วรฉัตร หรือต้อม ชาวบ้านในชุมชน ซึ่งมีอาชีพให้เช่าบ้านพักนักท่องเที่ยว และเป็นหนึ่งในสมาชิกวิสาหกิจชุมชนน้ำดื่มบ้านธรรมชาติล่าง เล่าว่า เมื่อปี 2551 ชุมชนฯ เคยรวมตัวกันเพื่อผลิตน้ำดื่มบริโภคและจำหน่าย แต่ตอนนั้นติดปัญหาตะกอนในน้ำ น้ำกร่อย ทำให้ไม่มีตลาดรองรับ จึงล้มเลิกโครงการไป จนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มกองทุนหมู่บ้านธรรมชาติล่างได้จัดประชุมกับสมาชิกและคณะกรรมการฯ โดยเชิญซีพีเอฟเข้าร่วม เพื่อชี้เเจงการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำดื่มบ้านธรรมชาติล่าง โดยมีเป้าหมายผลิตน้ำดื่มที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เราอยากทำโครงการผลิตน้ำดื่มให้สำเร็จ มองว่าเป็นการช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนในชุมชน สำคัญกว่านั้น ชาวบ้านอีกหลายร้อยครัวเรือน ได้บริโภคน้ำดื่มสะอาดและได้มาตรฐาน



"ขอขอบคุณซีพีเอฟ ที่เข้ามาสนับสนุน ให้คำแนะนำ ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงผลิตน้ำดื่ม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขนส่ง อุปกรณ์ความปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนด้านต่าง ๆ ที่ทำให้สามารถผลิตน้ำดื่มที่ได้มาตรฐาน เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน" รวงทอง กล่าว



ปัจจุบัน วิสาหกิจชุมชนบ้านธรรมชาติล่างมีสมาชิก 98 ราย ปี 2563 ชุมชนมีปริมาณขายน้ำดื่ม 2,100 ถังต่อเดือน (ขนาด 18.9 ลิตร) รายได้รวม 268,000 บาทต่อปี โดยรายได้จากการจำหน่ายน้ำดื่ม 10 % นำเข้ากองทุนของชุมชน และในปี 2564 (ม.ค. - มิ.ย.) มีปริมาณยอดขายน้ำดื่มเพิ่มขึ้นเป็น 2,300 ถังต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 110 % มีรายได้สะสมแล้ว 154,700 บาท โดยมีโรงเพาะฟักลูกกุ้งภาคตะวันออกของซีพีเอฟ ที่เป็นลูกค้าประจำออเดอร์น้ำดื่มชุมชนเดือนละ 1,000-1,500 ถัง ที่เหลือเป็นออเดอร์จากชาวบ้าน ที่สามารถซื้อน้ำได้ในราคาถังละ 12 บาท ส่วนผู้สูงอายุและผู้มีรายได้น้อยในชุมชนสามารถซื้อน้ำดื่มได้ในราคาถังละ 10 บาท



"ตั้ว"หรือนายพงศ์พัทธ์ เสริฐศรี อายุ 18 ปี กำลังศึกษาชั้น ม.6 โรงเรียนแหลมงอบวิทยา จ.ตราด เป็นอีกคนหนึ่งที่มารับจ้างขนน้ำดื่มส่งให้ชาวบ้านในชุมชนทุกวันอาทิตย์ เล่าว่า วันจันทร์-ศุกร์ต้องไปเรียน จึงมารับจ้างขนน้ำได้แค่วันอาทิตย์วันเดียว มีหน้าที่ล้างถังและช่วยยกน้ำส่งในบ้าน เคยขนน้้ำส่งตามบ้านได้สูงสุด 300 ถัง/วัน รายได้เฉลี่ย 300-400 บาท ช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ที่ต้องให้เงินตนไปโรงเรียนทุกวัน แต่แม่ก็จะบอกให้ตนเก็บเงินที่ได้จากการรับจ้างขนน้ำดื่มสำหรับเป็นเงินออม ตอนนี้ทำงานมาได้ 2-3 ปีแล้ว ภูมิใจที่แม้ยังเรียนอยู่ก็สามารถหารายได้ได้เอง ขอบคุณซีพีเอฟที่สนับสนุนคนในชุมชนให้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้จากอาชีพที่ชุมชนเราทำเอง ไม่ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน ชาวบ้านก็ได้บริโภคน้ำดื่มสะอาด ราคาถูก ดีต่อสุขภาพ



ตั้ว บอกด้วยว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่มีผลกระทบต่อปริมาณออเดอร์ที่ชาวบ้านสั่งน้ำดื่ม แต่การขนส่งน้ำต้องมีการระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ทั้งใส่หน้ากากอนามัย สวมถุงมือ พกแอลกอฮอล์ติดรถไว้ตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงของตัวเองและลูกค้าที่สั่งน้ำดื่ม



นางอุทิศ พวงนาค อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างกรีดยาง กล่าวว่า ตนและพี่เขยมีอาชีพหลักคือรับจ้าง และมีอาชีพที่เป็นรายได้เสริมจากโครงการผลิตน้ำดื่มของชุมชน ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของที่บ้านได้พอสมควร โดยในแต่ละสัปดาห์ทุกวันอังคารและวันศุกร์จะไปส่งน้ำให้โรงเพาะฟักลูกกุ้งของซีพีเอฟ และวันอาทิตย์เป็นวันที่ออกส่งน้ำให้ชาวบ้าน แต่ละครั้งที่ออกไปส่งน้้ำจะช่วยกันประมาณ 4 คน ตั้งแต่ยกถัง ล้างถัง นำถังใส่เครื่องปั่นเพื่อทำความสะอาดด้านใน กรอกน้ำ ยกถังที่กรอกน้ำแล้วขึ้นรถ จนถึงขนถังน้ำลงจากรถเพื่อส่งตามบ้าน ขอบคุณซีพีเอฟที่เข้ามาสนับสนุนกิจกรรมผลิตน้ำดื่มของชุมชน ช่วยให้ชาวบ้านมีอาชีพและมีรายได้เสริม



"โครงการน้ำดื่มชุมชน" ยังเป็นโครงการที่ได้รับรางวัลระดับ Gold Pitch จากการจัดประกวดรางวัลสามประโยชน์สู่ความยั่งยืน (CPF CSR Awards 2021) ในรอบ CSR Pitching Contest 2021 ที่ซีพีเอฟสนับสนุนให้พนักงานคิดสร้างสรรค์โครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม ตามกลยุทธ์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืนขององค์กร คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกและผู้บริหารของซีพีเอฟ ร่วมพิจารณาคัดเลือกให้ "โครงการน้ำดื่มชุมชน" ได้รับรางวัลดังกล่าว เป็นโครงการที่ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง



กลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำดื่มบ้านธรรมชาติล่าง วางแผนต่อยอดโครงการผลิตน้้ำดื่ม ด้วยการพัฒนาแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ เป็นน้ำดื่มบรรจุขวด สร้างโอกาสในการขยายช่องทางขายใหม่ อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร มินิมาร์ท โรงแรมและรีสอร์ท รวมไปถึงการขยายช่องทางการขายผ่านออนไลน์ เป็นโมเดลสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
#10655


โดย ดร.ร่มฉัตร จันทรานุกูล
มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ กรุงปักกิ่ง (UIBE)

ภายใต้การระบาดของโควิด-19 มามากกว่า 2 ปีและหลายระลอก หลายคนปรับตัวเองไปสู่โหมดปกติใหม่เป็นที่เรียบร้อย การระบาดโรคโควิด-19 กระทบการใช้ชีวิต การไปมาหาสู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศทำให้ทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนต่างก็เริ่มเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องและรายได้ แน่นอนว่าในยามนี้การนำของรัฐในด้านการแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ นั้นสำคัญมาก

จีนเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ปัจจัยหลักสองประการที่สำคัญคือ "หนึ่ง" การระงับการระบาดในประเทศให้ได้มากและรวดเร็วที่สุด "สอง" การให้คนกลับมาทำงาน การผลิตในฝั่งอุตสาหกรรมให้กลับมาเร็วที่สุด เพราะเหตุผลสองประการนี้ทำให้เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นขี้นมาตั้งแต่ไตรมาสสองของปี 2020 เป็นต้นมา

หากท่านผู้อ่านติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจจีนอยู่สม่ำเสมอจะทราบว่าในปี 2020 ทั้งปีจีนมีการเติบโต GDP เฉลี่ย +2.3% ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่มาก แต่เป็นชาติเดียวในโลกที่มีการเติบโตจีดีพีเป็นบวก ส่วนต้นปีนี้หกเดือนแรกการเติบโตจีดีพี ของจีนเฉลี่ยที่ +12.7%

การฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนมาพร้อมกับนโยบายเบนเข็มที่จะเพิ่มการใช้จ่ายเพิ่มการหมุนเวียนในประเทศมากยิ่งขึ้น และการที่จีนคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดีก็แลกมาด้วยการปิดประเทศเป็นเวลายาวนาน

ตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปีที่แล้วเป็นต้นมา การปิดประเทศอย่างเข้มข้นของจีนกระทบกับการเดินทางระหว่างประเทศอย่างมาก การนำเข้าสินค้าต่างประเทศก็มีมาตรการเพิ่มเรื่องการป้องกันโรคระบาดขึ้นมา มีการเก็บตัวอย่างบนพื้นผิววัสดุกล่องหรือสินค้าเพื่อตรวจสอบว่ามีตัวไวรัสโควิด-19 อยู่หรือไม่

หมายความว่าระยะเวลาของสินค้าผ่านด่านเข้าออกจะใช้เวลามากยิ่งขึ้น ตรงนี้เป็นความยากลำบากขึ้นของการค้าและการเดินทางระหว่างประเทศ แต่กระนั้นในปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง กรกฎาคม การค้าต่างประเทศของจีนรวมเติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน 24.5% มีมูลค่าถึง 21.34 ล้านล้านหยวน โดยการส่งออกมีมูลค่ามากกว่านำเข้า แบ่งเป็นส่งออก 11.66 ล้านล้านหยวน และนำเข้า 9.68 ล้านล้านหยวน ทำลายสถิติในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และเกินดุลการค้ารวมกับต่างประเทศ

จีนมีศักยภาพด้านอุตสาหกรรมในการผลิตที่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่ครบเครื่อง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในประเทศและสถานการณ์โลกปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว

โรงงานโลกของจีนไม่ใช่ศูนย์รวมโรงงานโลกที่ใช้แรงงานเข้มข้นอีกต่อไป แม้อุตสาหกรรมแรงงานเข้มข้นจีนยังหลงเหลืออยู่บ้าง แต่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นกลาง-สูงกำลังเติบโตอย่างมากในจีน ทำให้โครงสร้างสินค้าอุตสหกรรมส่งออกของจีนค่อย ๆเปลี่ยนแปลงไป

ด้านการนำเข้าส่งออกของจีนถึงแม้ว่าจะดูเหมือนสดใส แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ยังต้องเฝ้าระวัง คือเรื่องของ ห่วงโซ่อุปทานระดับโลก (Global chain Supply) ที่อาจจะหยุดชะงักในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก อีกทั้งสถานการณ์กดดันทางการค้าที่มีการเมืองระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง

ดังนั้นการเติบโตของการค้าระหว่างประเทศสำหรับจีนเป็นเรื่องดีแต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่แฝงตัวอยู่มาก

โดยภาพรวมแล้ว หกเดือนแรกของปีนี้การเติบโตหลังการฟื้นฟูด้านการระบาดของโควิด-19 ของจีนเริ่มเห็นได้ชัดเจน เศรษฐกิจในประเทศมีสัญญาณค่อนข้างดี กำลังการซื้อใช้จ่ายของประชาชนเริ่มกลับมา ราคาสินค้าในประเทศด้านอุปโภคบริโภคค่อนข้างทรงตัว

สิ่งที่รัฐบาลจีนตัดสินใจเด็ดขาดและยืนหยัดในช่วงเวลาสองปีนี้ คือการใช้มาตรการต่าง ๆ อาทิ ให้ใช้บ้านเพื่อการพักอาศัยอย่างแท้จริงไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ร้อนแรงอีกต่อไป แต่จะกลับมาสู่ภาวะทรงๆ ไม่หวือหวา

รัฐบาลท้องถิ่นต่างก็ต้องตอบรับนโยบายของรัฐบาลกลาง ทำให้เงื่อนไขการซื้อบ้านและปล่อยกู้เงินของธนาคารทำได้ยากขึ้น รายได้จากการปล่อยเช่าที่ดินของรัฐบาลท้องถิ่น ต่อจากนี้อาจจะลดลงแต่ก็ต้องพยายามเบนเข็มไปพัฒนาด้านอื่นที่ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ทำให้หลังจากนี้ไปเศรษฐกิจจีนจะลดการพึ่งพาภาคอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต

ผู้เขียนก็สังเกตเห็นว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนหลายแห่งตั้งแต่เล็กไปจนใหญ่ ต่างเริ่มมีปัญหาทางการเงินชัดเจนยิ่งขึ้น อาชีพในภาคอสังหาริมทรัพย์จีนก็ไม่ร้อนแรง ไม่ทำเงินกันได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนในแต่ก่อนอีกต่อไป

ตัวอย่างใกล้ตัวคือเพื่อนผู้เขียนบางคนที่เคยเป็นเซลล์ขายบ้านก็เปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นกันก็มาก

ยังมีมาตรการอีกด้านหนึ่งคือ การลงดาบบริษัทเอกชนไอที ที่เติบโตใหญ่เกิน ไร้ทิศทาง สุดท้ายอาจเป็นภัยคุกคามต่อประเทศชาติและประชาชน จึงมีการตรวจสอบที่มากขึ้น การลงโทษปรับเงิน การหยุดให้การสนับสนุน เป็นสัญญาณสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการให้บริษัทเอกชนนี้เข้าร่องเข้ารอย กล่าวคือต้องคิดถึงประเทศให้มาก ไม่ใช่จะคิดแต่ผลประโยชน์กอบโกยของกลุ่มตนเองไปจนกลายเป็นการผูกขาดตลาด

หากผู้อ่านที่สนใจประเด็นนี้สามารถไปหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับการลงดาบในบริษัทไอทียักษ์ต่าง ๆ ของจีนเช่น Alibaba, Tencent, Didi, Meituan เป็นต้น

มาตรการต่อมา คือเรื่องของการลงดาบธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาเอกชน ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและชักนำแนวคิดทางการศึกษาไปในทางบิดเบี้ยว ทั้งหมดทั้งปวงนี้คือการจัดระเบียบของรัฐบาลจีน ที่เราก็พอจะคาดเดาได้ถึงแนวทางและแนวโน้มการเติบโตของจีนจะเป็นอย่างไร


หกเดือนสุดท้ายของปลายปีนี้จนอนาคต แนวทางการเติบโตของจีนจะเป็นแบบการเติบโตแบบมีคุณภาพหรือที่ภาษาจีนว่า "高质量发展" (เกาจื่อเลี่ยงฟาจ่าน) จากปัญหาที่ประสบอยู่ในปัจจุบันจะผลักดันสู่การหาทางออกในอนาคต "ประการแรก" คือ มองไกล มีความต่อเนื่อง

"ประการที่สอง" ต้องเป็นกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น การอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อม พลังงานสีเขียว ประหยัดและสะอาด เป็นต้น

"ประการที่สาม" คือหลักประกันคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ นอกเหนือจากประกันสังคมพื้นฐานที่มีอยู่ จีนจะสนับสนุนกิจการประกันภัยและผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ที่แท้จริงต่อสังคมมากขึ้น

ในปัจจุบันอัตราการซื้อประกันภัยส่วนตัวของประชาชนจีนยังต่ำอยู่มาก เนื่องจากการขาดความรู้และขาดความเชื่อมั่นในบริษัทประกันภัย ทำให้ต่อจากนี้รัฐบาลจะเข้ามาควบคุมและตรวจสอบมากยิ่งขึ้น เพื่อความโปร่งใสและประโยชน์ระยะยาวที่แท้จริงของประชาชน

"ประการที่สี่" คือการลงทุนพื้นฐานของรัฐบาลในพื้นที่ห่างไกล กระจายความเจริญ ผลักดันการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่เพื่อเพิ่มรายได้ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของสินค้าเกษตร เป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม

หลังจากนี้ไปจีนจะสนับสนุนธุรกิจที่ทำประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติอย่างจริงจัง ยับยั้งการผูกขาดตลาด ปรับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับยุคสมัย

การเปิดประเทศรับการลงทุนที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งจากความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนส่งผลให้ในปี 2020 จีนกลายเป็นประเทศที่รับการลงทุนทางตรงจากต่างชาติมากที่สุดในโลกจำนวนกว่า 1.05 ล้านล้านหยวนอีกด้วย

จีนแม้ว่าจะเริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดหนักของโรคโควิด-19 มาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ประเด็นปัญหาด้านทั้งในและต่างประเทศก็ยังมีความท้าทาย ดังนั้นต้องค่อย ๆ หาทางออกกันไปทีละเปราะ  
#10656


โธมัส ทูเคิล ผู้จัดการทีม เชลซี มั่นใจว่า โรเมลู ลูกากู กองหน้าที่คัมแบ็กกลับมาอยู่กับทีมรอบสอง จะเป็นคนที่จิ๊กซอว์ที่เติมเต็มความสำเร็จ และแย้มอาจส่งลงไปเปิดตัวยิงใส่ อาร์เซนอล วันที่ 22 สิงหาคมนี้

หัวหอกชาวเบลเยียม กลับมาสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งในรอบ 7 ปี หลังจาก "สิงห์บลูส์" ไปซื้อตัวกลับมาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยราคาเป็นสถิติสโมสร 97.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,470 ล้านบาท)

พลพรรค เชลซี มีศึกใหญ่รออยู่คือ ลอนดอน ดาร์บี แมตช์ ปะทะคู่แค้นอย่าง "ปืนโต" สุดสัปดาห์ และถึงจะเพิ่งย้ายมาแต่ ทูเคิล บิ๊กบอส เชลซี ก็เตรียมส่ง ลูกากู ประเดิมสนามในเกมใหญ่ทันทีเพื่อชัยชนะ

ทูเคิล เผยว่า "เราหวังว่าเขาจะลงสนามสำหรับเกมวันอาทิตย์นี้ เราหวังว่าเขาจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวที่ขาดหาย แต่ในเวลาเดียวกัน เราก็พยายามหาทางแก้ปัญหาสำหรับคำถามใดๆ ที่ถูกถามมาตลอดระหว่างเกม"

"เรายังต้องการลูกทีมที่แข๋งแกร่ง โรเมลู คือคนที่มีบุคลิกและโปรไฟล์ที่เราเคยมองข้ามไป แต่ตอนนี้หน้าที่ของเราคือการผลักดันตัวเองอย่างถึงที่สุด โรเมลู มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อยู่ในช่วงที่แข็งแกร่งและมีความเร็ว เขาคือจอมทำประตูที่ไม่เหมือนใคร"

"แน่นอนว่าเราคาดหวังการทำประตู และตัวเขาเองก็คาดหวังเหมือนกัน เขายิงประตูได้ทุกที่ที่ย้ายไปเล่น ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าเขาจะสร้างผลงานได้ดีขนาดไหนครั้งนี้"
#10657
 
 
 
 
ข้าวอินทรีย์ (Organic Rice) ข้าวกล้องออแกนิค เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโต สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นปลูกข้าวออแกนิค(Organic Rice) เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมและสารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
 
       ประเภทของข้าวอินทรีย์
   1. ข้าวอินทรีย์รับรองมาตรฐาน Certified Organic เป็นระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีป้องกันศัตรูพืช มีการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานอิสระ โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชนและหน่วยงานจากต่างประเทศ มีตราสัญลักษณ์ติดที่ผลิตภัณฑ์ และจะต้องมีการตรวจเพื่อต่ออายุใบรับรองทุกปี
 
   2. ข้าวอินทรีย์ระยะปรับเปลี่ยน In-conversion เป็นข้าวที่อยู่ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มทำเกษตรอินทรีย์ในปีแรกก่อนจะได้รับการรับรองผลผลิตว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยระยะปรับเปลี่ยนเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
 
   3. ข้าวอินทรีย์แบบยังไม่รับรอง Non Certified เป็นการปลูกข้าวอินทรีย์แบบพึ่งตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรแบบพื้นบ้านหรือปลูกในระบบผสมผสานหรือในไร่หมุนเวียน ไม่มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดๆ เกษตรกรกลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ทำการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตส่วนเกินมาจำหน่ายผ่านระบบตลาดท้องถิ่น ทั้งนี้อาจมีการรับรองกันเองในระบบกลุ่มหรือชุมชน ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  ข้าวหอมมะลิออแกนิค คือ ข้าวที่ได้จากการผลิตภายใต้ระบบการผลิตข้าวอินทรีย์ซึ่งมีการจัดการการผลิตข้าวที่เกื้อกูลต่อระบบนิเวศรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุดิบสังเคราะห์และมีการจัดการกับผลิตภัณฑ์โดยเน้นการแปรรูปด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพการเป็นข้าวอินทรีย์และคุณภาพที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ 
ขั้นตอนการผลิตข้าวอินทรีย์  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
ข้าวอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน
เป็นระบบการผลิต ข้าวหอมมะลิออแกนิคส่งทั่วไทย ที่ไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตสารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคแมลงและสัตว์ศัตรูข้าวตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ การผลิตข้าวอินทรีย์นอกจากจะทำให้ผลผลิตข้าวมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษแล้วยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน
ข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล
การผลิตข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล มีกระบวนการผลิตการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และห้ามใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์ในกระบวนการผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการต้องผฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการรับรอง มีขั้นตอนการปฏิบัติเป็นลำดับขั้น ดังนี้
1.เกษตรกรจะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการผลิตข้าวอินทรีย์ (  การผลิตข้าวอินทรีย์(ออแกนิค)  )
2.เกษตรกรจัดทำบันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต โดยแสดงแหล่งที่มาและปริมาณการใช้
3.สมัครขอรับรองต่อกรมการข้าว เกษตรกรต้องแสดงข้อมูลต่อไปนี้
- ประวัติการใช้พื้นที่
- ประวัติการใช้สารเคมี และผลการวิเคราะห์สารพิษตกค้างในดินและน้ำ (ถ้ามี)
- แผนที่และแผนผังแปลงนาที่ขอการรับรองและพื้นที่ข้างเคียง
- แผนการผลิตในทุกขั้นตอน
- บันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต
- บันทึกกิจกรรมในแปลงนา และข้อมูลอื่นๆ

ปลูกข้าวอินทรีย์ กันมั้ย  ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์    รูปภาพสำหรับข้าวอินทรีย์ 277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook :https://www.facebook.com/Hor.Organic
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวอินทรีย์หอมมะลิ
2.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ข้าวสุขภาพปะกาอำปึล #ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4. ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารเคมี จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7. ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์
#ข้าวออแกนิคสุรินทร์
#ข้าวออแกนิกสุรินทร์
#ข้าวอินทรีย์สุรินทร์
#ข้าวคุณภาพสุรินทร์


 

 

 

 
 
#10658


โมรียา จุฑานุกาล กับ วิชาณี มีชัย สองนักกอล์ฟหญิงชาวไทย รีดฟอร์มเก่งตีสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ ก่อนขยับอันดับขึ้นมาไล่กวดกลุ่มผู้นำอย่างน่าประทับใจในศึกเมเจอร์ เอไอจี วีเมนส์ โอเพน รอบสองที่สกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟเมเจอร์หญิงรายการสุดท้ายของปี เอไอจี วีเมนส์ โอเพน ชิงเงินรางวัลรวม 5.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 193 ล้านบาท) ณ สนาม คานุสคี กอล์ฟ ลิงส์ ระยะ 6,480 หลา พาร์ 72 ที่สกอตแลนด์ มาถึงการดวลวงสวิงวันที่สอง

ปรากฏว่าผู้นำรอบนี้คือ มินะ ฮาริเกะ จากสหรัฐอเมริกา กับ จอร์เจีย ฮัลล์ จากอังกฤษ หลังทำผลงานได้ดีตีสกอร์รวมเท่ากัน 7 อันเดอรืพาร์ ขึ้นมานำแทน เซย์ ยอง คิม ผู้นำรอบก่อนที่หล่นไปอยู่อันดับ 3 ร่วม ตามหลังอยู่ 1 สโตรก

ขณะที่สาวไทย รอบนี้ผลงานน่าประทับใจเมื่อ "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล กับ "โปรแจน" วิชาณี มีชัย จับมือกันทำสกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ หลังตีเพิ่มได้ 5 อันเดอร์ และ 4 อันเดอร์ ตามลำดับ อยู่อันดับ 5 ร่วม ตามหลังผู้นำ 2 สโตรก

รองมาเป็น "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล อันดับ 23 ร่วม สกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ หลังตีเพิ่มได้อีก 1 อันเดอร์ ตามด้วย "โปรเหมียว" แพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิช สกอร์คงที่ 1 อันเดอร์พาร์ หลังเก็บเพิ่มเติมไม่ได้ อยู่อันดับ 31 ร่วม

ส่วนสาวไทยคนอื่น "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ กับ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล สกอร์รวมเท่ากันที่อีเวนพาร์ อันดับ 45 ร่วม ได้ไปลุยต่อในอีกสองวันที่เหลือ
#10659


caverta ราคา ถูก ของแท้ ออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที คาเวอร์ต้า อาหารเสริมผู้ชาย แข็งตัวต่อเนื่อง ต่อรอบได้หลายรอบ ส่งฟรี เก็บเงินปลายทาง

caverta ราคา
1 แผง 4 เม็ด

ส่งฟรี เก็บเงินปลายทาง

1 แผง ราคา 200 บาท / แผงละ 200 บาท

3 แผง ราคา 450 บาท / แผงละ 150 บาท

5 แผง ราคา 700 บาท / แผงละ 140 บาท

7 แผง ราคา 910 บาท / แผงละ 130 บาท

9 แผง ราคา 1,080 บาท / แผงละ 120 บาท

25 แผง ราคา 2,500 บาท / แผงละ 100 บาท

50 แผง ราคา 4,500 บาท / แผงละ 90 บาท

100 แผง ราคา 8,000 บาท / แผงละ 80 บาท

วิธีรับประทาน
ทาน 1 เม็ด ขณะท้องว่าง ดีที่สุด.
ยาจะออกฤทธิ์ ประมาณ 12 ชม
ดื่มน้ำตามเยอะๆเป็นน้ำอุ่นจะดี ยาออกฤทธิ์ไว.
ใน 1 วัน ห้ามทานยาเกิน 1 เม็ด (เพราะเป็นปริมาณยาที่ร่างกายสามารถขจัดได้เอง โดยไม่สะสมในร่างกาย).
ห้ามดื่มแอลกอฮอลล์ประสิทธิภาพของยาจะลดลง

caverta ให้ผลอย่างไร
ช่วยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้น
ยืดเวลาการมีเพชสัมพันธุ์ ชะลอหลั่งไว
จะมีกิจกรรมตอนไหนก็ได้แค่มีการกระตุ้น
อาการข้างเคียง

สำหรับคนที่ร่างกายปกติ ที่เกิดจากทานยาไวอากร้า ก็มี ปวดหัว หน้าแดง ตาพร่า ใจเต้นแรง แล้วก็ตาแพ้แสงผลข้างเคียงนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคล บางคนก็ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ

คำเตือนยา คาเวอร์ต้า
ห้ามใช้ยากับเด็ก สตรีที่ให้นมบูตร
ห้ามใช้ยาปลุกเซ็กส์กับบุคคลที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคความดัน และมีโรคประจำตัวอื่นๆ
ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็ก และไม่มีข้อบ่งใช้ในเพศหญิง

วิธีสั่งซื้อสินค้า คาเวอร์ต้า
1. ทัก ไลน์ หรือ ข้อความ แจ้งแอดมิน เลือกของที่ท่านอยากได้ บอกจำนวนสินค้า
2. รอรับสินค้า 1-2 วันทำการ ท่านสามารถรับสินค้าก่อน แล้วจ่ายเงินกับพนักงานขนส่งที่หน้าบ้านได้เลยครับ

Tags :: caverta ราคา,คาเวอร์ต้า ราคา,caverta เก็บเงินปลายทาง
#10660
สนใจติดต่อคุณเป้ง  087-347-6299
บริษัท  สบายใจการบัญชี  จำกัด

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#10661


เนลลี คอร์ดา นักกอล์ฟหญิงเบอร์ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ประเดิมศึกเมเจอร์สุดท้ายของปีด้วยการนั่งเก้าอี้ผู้นำร่วมวันแรกที่ 5 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ เอรียา จุฑานุกาล กับ ปภังกร ธวัชธนกิจ สวิงสาวไทย จบวันแรกด้วยสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟเมเจอร์หญิงรายการสุดท้ายของปี เอไอจี วีเมนส์ โอเพน ชิงเงินรางวัลรวม 5.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 193 ล้านบาท) ณ สนาม คานุสคี กอล์ฟ ลิงส์ ระยะ 6,480 หลา พาร์ 72 ที่สกอตแลนด์ เปิดฉากดวลสวิงวันแรกเป็นที่เรียบร้อย

ปรากฏว่าผู้นำคือ เนลลี คอร์ดา สวิงสาวมือ 1 โลก ที่ประเดิมตี 8 เบอร์ดี เสีย 3 โบกี จบวันสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ ขึ้นนำร่วมกับ เซย์ ยอง คิม จากเกาหลีใต้ กับ มาเดเลน แซกสตอร์ม จากสวีเดน โดยเหนือกว่ากลุ่มอันดับ 4 ร่วมอยู่ 1 สโตรก

ด้านสวิงดังคนอื่น เล็กซี ธอมป์สัน มือดังชาวอเมริกัน เปิดวันแรกตีได้ 3 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 8 ร่วม ตามด้วย ปาร์ค อินบี จอมเก๋าจากเกาหลีใต้ ลงสนามวันแรกตีสกอร์ได้ 2 อันเดอร์พาร์ อันดับ 11 ร่วม

ส่วนสาวไทย ดีที่สุดคือ "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล วันแรกตีเสียดับเบิลโบกีที่หลุม 5 แต่มาแก้ตัวทำ 3 เบอร์ดี จบวันสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ อันดับ 22 ร่วมกับ "โปรแจน" วิชาณี มีชัย, "โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ และ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ที่มี 1 อันเดอร์พาร์ อันดับ 22 ร่วมเท่ากัน

และสาวไทยคนอื่นที่ลงแข่งขัน "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ กับ "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล อันดับ 41 ร่วม สกอร์อีเวนพาร์ "โปรสายป่าน" ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ อันดับ 90 ร่วม ตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ และ "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ กับ "โปรจูเนียร์" จัสมิน สุวัณณะปุระ อันดับ 100 ร่วม สกอร์เกิน 3 โอเวอร์พาร์
#10662


นายพูน พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้(20ส.ค.) ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.35 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้ามองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.30-33.45 บาทต่อดอลลาร์

ในส่วนแนวโน้มค่าเงินบาท แม้ว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าหนัก แต่เงินบาทกลับไม่ได้อ่อนค่าตามไปมาก ซึ่งเรามองว่า มาจากแรงขายเงินดอลลาร์จากโฟลว์การทำธุรกรรมของผู้ส่งออกบางส่วน รวมถึง การขายทำกำไรสถานะ Shorts ค่าเงินบาทของผู้เล่นในตลาด หลังจากที่ผู้เล่นบางส่วนเริ่มมองว่า สถานการณ์การระบาดในไทยใกล้จะถึงจุดเลวร้ายสุด

อย่างไรก็ดี เราคงมองว่าค่าเงินบาทยังมีโอกาสผันผวนและอ่อนค่าลงจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 รวมถึงโมเมนตัมขาขึ้นของเงินดอลลาร์ที่ยังมีอยู่จากทั้งความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย และแนวโน้มการทยอยลดคิวอีในปีนี้ของเฟด ซึ่งเรามองว่าประเด็นเฟดทยอยลดการอัดฉีดสภาพคล่องหรือลดคิวอี อาจส่งผลต่อการจัดพอร์ตของนักลงทุน ทำให้บรรดานักลงทุนต่างชาติอาจทยอยลดการลงทุนในภูมิภาค EM Asia ชั่วคราว เนื่องจากอาจกลัวผลกระทบจากการประกาศปรับลดคิวอีของเฟดจะเหมือนเหตุการณ์ QE Taper Tantrum ในปี 2013

ทั้งนี้ แนวต้านของค่าเงินบาทยังคงอยู่ในโซน 33.40-33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเชื่อว่า ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ต่างรอคอยที่โซนดังกล่าวเพื่อทยอยขายเงินดอลลาร์ ชณะที่ แนวรับสำคัญของเงินบาทจะอยู่ในช่วง 33 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอาจเห็นผู้นำเข้า ทยอยเข้ามาซื้อเงินดอลลาร์ได้ หากระหว่างวันค่าเงินบาทมีการแข็งค่าเข้าใกล้โซนดังกล่าว (Buy on Dip) ทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบที่กว้าง จึงทำให้ หากมีโฟลว์การทำธุรกรรมขนานใหญ่เข้ามา อาจกดดันให้ค่าเงินผันผวนสูงระหว่างวันได้

ผู้เล่นในตลาดการเงินยังคงถูกกดดันจากทั้งความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 รวมถึงแนวโน้มเฟดทยอยลดคิวอีในปีนี้ ส่งผลให้ ผู้เล่นในตลาดยังคงเดินหน้าทยอยเทขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง สินทรัพย์ในธีม Reopening & Cyclical plays กดดันให้ ทั้งหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ ต่างปรับตัวลดลงหนัก ในขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น บอนด์ รวมถึง เงินดอลลาร์ ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้

ในฝั่งสหรัฐฯ แนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ลดลงสู่ระดับ 3.48 แสนราย น้อยกว่าที่ตลาดมองไว้ที่ 3.63 แสนราย ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนให้ตลาดมองว่า เฟดมีแนวโน้มทยอยลดคิวอีได้ในปีนี้ หากตลาดแรงงานฟื้นตัวดีขึ้นตามความต้องการของเฟด ซึ่ง "รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด" ได้กดดันบรรยากาศการลงทุนให้อยู่ในโหมดระมัดระวังตัว ส่งผลให้ในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดเดินหน้าขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงออกมาโดยเฉพาะ หุ้นในธีม Cyclical กดดันให้ ดัชนี Downjones ปิดตลาดลดลงกว่า -0.19% นอกจากนี้ ภาวะตลาดระมัดระวังตัว ได้กดดันให้ บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่า 2bps สู่ระดับ 1.24% หนุนให้ หุ้นในกลุ่มเทคฯ ต่างปรับตัวขึ้น ช่วยให้ ดัชนี S&P500 รวมถึง ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปิดตลาด +0.13% และ +0.11% ตามลำดับ

ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ของยุโรป ปรับฐานหนักกว่า -1.54% ตามแรงขายทำกำไร หุ้นในกลุ่ม Cyclical อาทิ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย Kerings -9.5%, Louis Vuitton -6.4% กลุ่มยานยนต์ Daimler -3.4%, BMW -3.1% รวมถึง หุ้นกลุ่มการเงิน BNP Paribas -2.7%, Santander -2.7% ขณะที่ มีเพียงหุ้นในกลุ่มเทคฯ อย่าง Adyen +5.8% ที่สามารถปรับตัวขึ้นสวนตลาดจากแนวโน้มผลกำไรแข็งแกร่งและแรงหนุนจากบอนด์ยีลด์ที่อยู่ในระดับต่ำ

ทางด้านตลาดค่าเงิน โดยรวมเงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการหลุมหลบภัยความผันผวนในตลาด (Safe Haven asset) ส่งผลให้เงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) เดินหน้าปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 93.57 จุด นับเป็นการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่สูงที่สุดในรอบ 9 เดือนกดดันให้ สกุลเงินหลัก อาทิ เงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.168 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเราคงมุมมองว่า เงินยูโรที่ระดับดังกล่าว เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากปัญหาการระบาดของเดลต้าในยุโรปไม่ได้มีความน่ากังวลมากนัก และเศรษฐกิจก็พร้อมจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น ดังนั้น หากนักลงทุนหรือผู้ประกอบการมีภาระต้องแลกซื้อเงินยูโร ก็สามารถเริ่มพิจารณาทยอยซื้อเงินยูโรได้เนื่องจากเงินยูโรได้อ่อนค่าลงมาในโซนแนวรับสำคัญแล้ว

สำหรับวันนี้ ตลาดจะติดตามแนวโน้มสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก โดยในฝั่งประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจกดดันให้ตลาดเข้าสู่สภาวะปิดรับความเสี่ยง ซึ่งภาพดังกล่าวอาจยิ่งหนุนให้ผู้เล่นในตลาดเพิ่มสถานะถือครองเงินดอลลาร์เพื่อหลบความผันผวนชั่วคราวได้

นอกเหนือจากประเด็นสถานการณ์การระบาดของเดลต้าทั่วโลก ในฝั่งยุโรป ตลาดประเมินว่า การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 อาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของชาวอังกฤษมากนัก โดยยอดค้าปลีก (Retail Sales) อาจโตถึง +5.8%y/y ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งการฟื้นตัวต่อเนื่องของการบริโภคนั้นหนุนโดยการเดินหน้าเปิดประเทศ ไปพร้อมกับเร่งคุมสถานการณ์การระบาด ผ่านการเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก และ การเร่งแจกจ่ายวัคซีนประสิทธิภาพสูง
#10663


นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกล. เคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือ PTTGC Drama-Addict แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท PTTGC International Private Limited (GC Inter) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ถือหุ้นร้อยละ 100 เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564

ทั้งนี้ได้มีมติอนุมัติให้ GC Inter เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นร่วมกับ Sime Darby Plantation Berhad (SDP) ในการขายหุ้นทั้งหมดของธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Emery Oleochemicals (M) Sdn. Bhd. (EOM) และ Emery Specialty
Chemicals Sdn. Bhd. (ESC) ให้แก่ Edenor Technology Sdn. Bhd. (ETSB) คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 38 ล้านริงกิตมาเลเซีย (หรือเทียบเท่า 302 ล้านบาท อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทยวันที่18 ส.ค.2564) โดยมูลค่าดังกล่าวอาจมีการปรับปรุงเพื่อให้อ้างอิงจากมูลค่าเงินทุนหมุนเวียนสุทธิและหนี้สินสุทธิของ EOM และ ESC ณ วันที่ รายการเสร็จสิ้น โดยสัญญาซื้อขายหุ้นได้ถูกลงนามแล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2564


EOM ESC และบริษัทย่อยของสองบริษัทดังกล่าว (รวมเรียกว่า กลุ่มบริษัท Emery) เป็นกลุ่มบริษัทที่ GC Interและ SDP ถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 50 โดยการขายหุ้นดังกล่าวมีเงื่อนไขให้ดำเนินการภายหลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มบริษัท Emery โดยแยกธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และธุรกิจในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรป
ออกจากกัน


ทั้งนี้ภายหลังการปรับโครงสร้างดังกล่าว ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังคงอยู่ภายใต้ EOM และ ESC ซึ่งทั้งสองบริษัทจะถูกโอนให้แก่ผู้ถือหุ้นรายใหม่คือ ETSB ในขณะที่ธุรกิจในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปจะถูกโอนออกจากEOM ให้อยู่ภายใต้บริษัท Emery Oleochemicals UK Limited ซึ่งจะถือหุ้นทางตรงโดย GC Inter และ SDP ในสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 50


ETSB เป็นบริษัทร่วมค้าที่มีการถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 50 ระหว่างบริษัท Mega First Corporation Berhad (MFCB) และบริษัท 9M Technologies Sdn Bhd (9M Technologies) ซึ่งตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการเข้าซื้อธุรกิจในครั้งนี้
#10664
สนใจติดต่อคุณเป้ง  087-347-6299
บริษัท  สบายใจการบัญชี  จำกัด

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#10665


นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้เตรียมสนับสนุนสหกรณ์การเกษตร พัฒนาและยกระดับทำธุรกิจค้าขายสินค้าเกษตรระดับพรีเมี่ยม เพื่อนำผลผลิตการเกษตรจากสมาชิกสหกรณ์หรือเกษตรกรทั่วไป                 ในพื้นที่ต่าง ๆ คัดเกรดคุณภาพมาบริการและจำหน่ายสู่ผู้บริโภค นอกเหนือจากธุรกิจปกติที่สหกรณ์รวบรวมผลผลิตและ                 ส่งจำหน่ายให้กับคู่ค้าประจำ ทั้งห้างโมเดินเทรดและพ่อค้าเอกชนเท่านั้น  
 

 ซึ่งกรมฯจะผลักดันให้สหกรณ์ยกระดับเป็น  ตลาดสินค้าเกษตรเกรดพรีเมี่ยม เป็นตลาดทางเลือกสำหรับให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าซื้อสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและมีความเชื่อมั่นในการสั่งซื้อสินค้าจากสหกรณ์  โดยเฉพาะในยุคการค้าออนไลน์ที่ผู้ซื้อสามารถเข้าสั่งซื้อสินค้าได้  ทางอินเตอร์เน็ต คาดว่าแนวทางนี้จะช่วยส่งเสริมให้สหกรณ์การเกษตรเป็นตลาดสินค้าเกษตรกรคุณภาพที่แท้จริง                      สามารถคัดสรรสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำตอบสนองผู้บริโภคซึ่งมีความต้องการสินค้าคุณภาพด้วยเช่นกัน


            " ผมหวังว่าสหกรณ์จะเป็นตลาดสินค้าเกษตรพรีเมี่ยม ตลาดใหม่ และต้องดีกว่าทุกตลาดเพราะเป็นความร่วมมือของสหกรณ์และสมาชิกที่ต้องช่วยกันนำเสนอของดีให้กับผู้บริโภคที่ต้องได้ทานของดีเกรดส่งออก จากเดิมที่ประชาชนทั่วไปมักจะได้บริโภคสินค้าเกรดรอง  จนมีคำพูดที่ว่าคนไทยไม่ได้กินของดี ของเกรดส่งออกหากินยาก เป็นต้น "

            เดิมทีสหกรณ์การเกษตรได้มีการซื้อขายสินค้าเกษตรระหว่างกันในเครือข่ายสหกรณ์ หรือเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้า เพื่อช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกในช่วงฤดูผลไม้ราคาตกต่ำ  เป็นประจำเกือบทุกปี แต่นั่นเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งจากประสบการณ์เหล่านั้น ควรยกระดับมาทำเป็นธุรกิจปกติของสหกรณ์เลย สหกรณ์การเกษตรควรเข้าสู่การทำธุรกิจการค้าสินค้าเกษตรระดับพรีเมี่ยมได้แล้ว  ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมสหกรณ์

  สินค้าเป้าหมายเบื้องต้น เช่น ข้าว  พืชผัก ผลไม้ เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน หรือสินค้าเกษตรที่ผู้บริโภคสนใจจะสั่งซื้อจากสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยกรมมีตัวอย่างสหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จเช่น สหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี  จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช  สหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด และสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่สามารถยกระดับการขายมังคุด เงาะ คัดเกรดคุณภาพ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ                 จนเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ  และในปีที่ผ่านมาสหกรณ์การเกษตรสามารถรวบรวมผลไม้ได้กว่า 30,000 ตัน                   มูลค่ากว่า 789 ล้านบาท

 

 

            "กรมฯ พร้อมสนับสนุนสหกรณ์ที่ต้องการพัฒนาและยกระดับธุรกิจเข้าสู่รูปแบบดังกล่าวโดยสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1 ของกองทุนพัฒนาสหกรณ์(กพส.) นอกจากนั้น พร้อมที่จะประสานให้สหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด เป็นพี่เลี้ยงอบรมการทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ให้อีกทางหนึ่ง  "


อย่างไรก็ตามเป้าหมายสำคัญของโครงการนี้ก็เพื่อให้ขบวนการสหกรณ์เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสมาชิกตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับราคาสินค้าเกษตรของเกษตรกร ขณะที่สหกรณ์เหล่านั้นก็จะต้องเข้าไปช่วยส่งเสริมสมาชิกของท่านในการพัฒนาแปลง พัฒนาสวน พัฒนาไร่ เพื่อยกระดับเป็นแปลงการเกษตรที่ดีหรือจีเอพี  การยกระดับ    โรงคัดบรรจุหรือล้งเป็น GMP เพื่อคัดสรรนำผลผลิตคุณภาพสู่ผู้บริโภค

            ทั้งนี้ก่อนหน้ากรมส่งเสริมสหกรณ์ มีโครงการแก้ปัญหาระยะสั้นในช่วงราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ โดยการสนับสนุนให้มีการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรภายในเครือข่ายสหกรณ์ด้วยกัน เช่น สหกรณ์การเกษตรที่ขายข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับสหกรณ์ที่จำหน่ายผลไม้ในภาคใต้ เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน หรือโครงการแลกผลไม้กับข้าว                    เช่น สหกรณ์ในจังหวัดพะเยาและพิจิตร แลกข้าวกับมะม่วง สหกรณ์ในจังหวัดนครราชสีมา ร้อยเอ็ด แลกข้าวกับผลไม้                กับสหกรณ์ในภาคใต้ เป็นต้น  ช่วยกระตุ้นราคาสินค้าในพื้นที่ให้สูงขึ้น

 

  ผลจากการแลกเปลี่ยนระหว่างข้าวและผลไม้ ปริมาณกว่า 1,221.33 ตัน มูลค่ากว่า 33 ล้านบาท สามารถดูดซับปริมาณและพยุงราคาผลผลิตของเกษตรกรผู้ผลิต   ไม่ให้ตกต่ำ ผู้บริโภคปลายทางได้บริโภคผลไม้ที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้จำหน่ายและผู้บริโภค

 

            ผลจากการขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบัน ปริมาณผลผลิตมังคุดและเงาะของสมาชิกสหกรณ์และ                กลุ่มเกษตรกรในภาคใต้ ผ่านกระบวนการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วกว่า 60 % ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด และคาดว่าปริมาณผลผลิตเงาะจะสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยวในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ในส่วนของปริมาณผลผลิตมังคุดของสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ยังคงเหลือปริมาณผลผลิตที่ต้องเก็บเกี่ยวอีกจำนวน 40 % คาดว่าจะสามารถจำหน่ายผลผลิตได้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งราคารับซื้อผลผลิตมังคุด ปรับตัวสู่ขึ้น จากช่วงเดือนกรกฎาคม ราคาอยู่ที่ 7-10 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 23 – 47 บาท ต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับขนาดของมังคุด ทำให้สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรในพื้นที่มีความพึงพอใจที่สามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่เพิ่มสูงขึ้น