• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

⚡งานทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน✅ Field Density Test🌏

Started by Chanapot, July 22, 2024, 12:15:05 PM

Previous topic - Next topic

Chanapot

การตรวจสอบความหนาแน่นของดินในสนาม เพื่อเปรียบเทียบกับความหนาแน่นที่ได้จากการทดสอบในห้องแล็บ จุดประสงค์ของการทดสอบ เพื่อหาความหนาแน่นของดินในสนามหรือพื้นที่ก่อสร้าง ว่าหลังจากการบดอัดแล้ว พื้นที่นั้นสามารถรับน้ำหนักตามที่กำหนดได้หรือไม่

โดยทั่วไปการทดสอบหาความหนาแน่นแห้งของดินในสนาม คือ การหาค่าความหนาแน่นเปียกและปริมาณความชื้นในดิน ในการทดสอบหาค่าความหนาแน่นของดินในสนาม จะมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ

🥇🥇🥇1. Sand Cone Methodวิธีนี้อาศัยทรายช่วยในการหาปริมาตรของหลุมโดยทรายที่ใช้คือ ทราย Ottawa Sand ซึ่งขนาดของเม็ดทรายจะมีลักษณะกลมและมีขนาดเท่าเท่ากัน (Uniform) หรือจะใช้ทรายที่ผ่านการร่อนตามมาตรฐาน เพื่อให้ผลที่สม่ำเสมอและไม่แยกตัวขณะทดสอบ
✅✅✅2. Rubber Balloon Methodวิธีนี้ใช้น้ำช่วยในการหาปริมาตรของหลุม ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่าวิธีแรก ในการทดสอบต้องอาศัยลมจากลูกบอลบีบอัดลงไปตรงส่วนบนของผิวน้ำในหลอดแก้วของเครื่องมือเพื่อทำให้น้ำในหลอดแก้วถูกดันออกไปในลูกโป่งยางและไหลลงไปในหลุมทดสอบที่ขุดเอาไว้ใต้ Base Plate ลมที่อัดลงไปนี้มีส่วนช่วยให้น้ำในลูกโป่งอัดแนบสนิทกับก้นหลุม ทำให้ได้ค่าปริมาตรของหลุมที่ถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
📌📌📌3. วิธีนิวเคลียร์เป็นการหาค่าความหนาแน่นของดินและปริมาณความชื้นของดินบดอัดแห้ง หาค่าความหนาแน่นเปียก โดยใช้รังสีแกมม่าส่งผ่านดินที่ต้องการ ก่อนที่จะเข้าที่รับรังสี ถ้ารังสีสะท้อนกลับไปเครื่องรับมาก แสดงว่าดินมีความหนาแน่นสูง ส่วนการหาปริมาณความชื้นโดยใช้นิวตรอน (Newtron)ส่งผ่านเข้าไปในดินและสะท้อนไปยังเครื่องรับช้าแสดงว่าปริมาณน้ำในมวลดินมีมาก วิธีนี้สะดวกและรวดเร็วแต่ค่าใช้จ่ายสูง
🎯🌏📢🎯
Quoteบริการ Boring Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท เจาะสํารวจดิน บริการ รับเจาะดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 เว็บไซต์: เจาะสำรวจดิน.com
🦖✅✅⚡
การก่อสร้างทางหลวง สนามบินขนาดใหญ่ เขื่อนดิน พื้นที่โรงงาน ฯลฯ จะต้องบดอัดด้วยเครื่องมือต่างๆ ตามชนิดและประเภทของวัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง หลังจากการบดอัดแล้ว ต้องตรวจสอบว่าดินมีความหนาแน่นตามที่ออกแบบ เช่น งานชั้นรองพื้นทาง (subbase) ชั้นพื้นทาง (base) จะต้องบดอัดให้ได้ 100% งานชั้นดินเดิม และดินถมจะต้องบดอัดให้ได้ 95% การบดอัดต้องควบคุมความชื้นและพลังงาน ถ้าจำนวนเที่ยวที่บดอัดมากเกินไปก็จะสิ้นเปลืองทั้งค่าแรงงานและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถ้าบดอัดน้อยไปก็จะไม่ได้ความแน่นที่ต้องการจะต้องกลับมาทำงานซ้ำอีก

การการประเมินความหนาแน่นของดิน คือ การหาน้ำหนักของดินในบริเวณที่บดอัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว หารด้วยปริมาตรของหลุมที่ขุดดินออกมา และการที่จะหาปริมาตรของหลุมที่กล่าวนี้ จำเป็นจะต้องวัดหรือใช้วัสดุที่รู้ความแน่น (density) และความถ่วงจำเพาะแน่นอน แล้วไปแทนที่ในหลุมที่ขุดดินขึ้นมา ซึ่งการทดสอบดังกล่าวอาจกระทำได้โดยวิธีใช้ทรายมาตรฐาน (Sand Cone Method) ช่วยในการทดสอบหรือใช้น้ำ (Balloon Density Method) ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็อาศัยหลักอันเดียวกัน

🦖🦖🦖ขั้นตอนการทดสอบ การทดสอบความหนาแน่นในสนาม📌📌📌

🌏⚡✨1. ปรับพื้นผิวทดสอบให้เรียบขนาด 450×450 เซนติเมตร จากนั้นก็วางแผ่นฐานรองให้สนิทกับพื้นดิน แล้วตอกตะปูยึดแผ่นฐานรองให้แน่น ปัดฝุ่นที่ผิวดินและที่แผ่นฐานออกให้หมด
📌🦖🎯2. ใช้สกัด เจาะดินบริเวณตรงกลางแผ่นฐานรองให้มีความลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร และก้นหลุมที่เจาะจะต้องมีขนาดเท่ากับปากหลุมเจาะดินที่ขุดจากหลุมจะต้องเก็บให้หมดโดยใช้ช้อนเล็กตัก ในกรณีเหลือดินน้อยๆให้ใช้แปรงทาสีปัดเศษดินที่อยู่ในหลุมให้เรียบร้อย
⚡✨🥇3. นำดินที่ได้จากการขุดมาชั่งและจดบันทึกค่าไว้หลังจากนั้น นำดินส่วนหนึ่งที่ขุดได้ไปชั่งเสร็จแล้วนำตัวอย่างดินส่วนหนึ่งไปหาค่าปริมาณความชื้น
🦖🎯✅4. คว่ำกรวยทรายที่เตรียมไว้ลงบนปากหลุม เปิดวาล์ว ระวังอย่าให้กระทบกระเทือน
✅👉📢5. เมื่อทรายหยุดไหล ปิดวาล์วและนำทรายที่เหลือในกรวยไปชั่งน้ำหนักพร้อมกรวย และบันทึกค่า
🌏⚡✨6. นำทรายในหลุมใส่กระป๋องเก็บทราย โดยอย่าให้ดินติดขึ้นมาด้วย เพราะทรายจะต้องใช้ทดสอบในหลุมอื่นๆ