• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - fairya

#7996
รังนกเขาหลง  



ตั้งบูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้านค้าขาย เรียกโชคเรียกลาภเรียกเงินเรียกทอง ค้าขายดี ส่งเสริมเรื่อง ความรักครอบครัวคู่ครอง 

วิธีบูชา เครื่องบูชาใส่พานประกอบด้วย ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก

แล้วอธิษฐาน ขอในสิ่งที่ต้องการ


รังนกเขาหลง เป็นรังนกกายสิทธิ์ ท่านพญาแถนกล่าวว่า มีประวัติเล่าให้ลูกหลานฟังว่า ถ้าใครได้เห็นรังนกเขาหลง คนนั้นมีบุญบารมีสูงส่ง เขาเป็นรังนกกวักเงินกวักทอง หรือไทรเงินไทรทอง ขอพรได้สิบประการ เช่น ที่อยู่เรือนชานเข็ดขวางอยู่ไม่ได้ หรือบ้านนั้นมีทรวงขวางลูกขาวงเมียเจ็บออดๆแอดๆ อยู่อย่างนี้ ถ้ามีรังนกเขาหลงบูชา เจ้าจงเก็บดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิรน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก แล้วใส่ลงไปในรังนกเขาหลง แล้วจงอธิฐานว่า สาธุฯ สิ่งร้ายๆหรือเสนียดจัญไรรำคาญใจบ่อยๆ ให้ออกไป เมื่อท่านทำอย่างนี้แล้ว ท่านจะสุขสบายทั้งกายใจ เจ้ารังนกกายสิทธิ์ เขาจะกวักเงินกวักทองเข้าเรือนชาน ตัวผู้กงัดเข้า ตัวเมียเก็บไว้ ถ้าใครมีไว้สักการะบูชาคนนั้นมีบุหลาย ถ้าใครมีประจำบ้าน สามารถคุ้มครองบ้านเรือน และประสบลาภบันดาลผลให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขอยู่เป็นทุกทิวาราตรี ของกายสิทธิ์ใครมีบุญก็ได้ไป ไว้บูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้าน เรียกเงินเรียกทอง เรื่องมหาเสน่ห์ก็ดี ใครมีแฟนคิดนอกใจ ลองนำไปบูชาดู ของกายสิทธิ์ หายาก เครือเขาหลงที่อยู่ในรังก็ถือว่าเป็นของดี ม้วนเก็บเป็นก้อนบูชาพกใส่กระเป๋าตังค์ ก็เป็นมหาเสน่ห์ โชคลาภ เรียกเงินเรียกทองได้ดี



เครือสาวหลง เครือเขาหลง หรือ เครือเถาหลง คือ ไม้ชนิดเดียวกันที่อยู่ในป่าลึก มีเทวดารักษา ผู้มีวิชาอาคมถึงไปขอตัดเอามาได้ ที่ชื่อ อย่างนี้ก็เพราะว่า ไม้นี้ ถ้าคนหรือสัตว์เผลอไปข้ามเข้าก็จะหลงป่า

แม้แต่นกที่บินผ่านต้นก็จะหลงอยู่ที่ต้นไปไหนไม่ได้ ปละตกลงมาตาย ตรงใต้ต้นเครือเขาหลง นี้จึงเต็มไปด้วยซากสัตว์

ส่วนที่ชื่ออีกชือ ว่าเครือสาวหลงนี้ก็เพราะว่า เครือสาวหลงนี้ถ้าได้ส่วนปลายเครือเล็กๆ จะคล้ายเส้นผมขน เอามาเสียบตรงร่องฟันจะทำให้หญิงหลงงงงวย ครับ

และสมัยก่อนเอาเครือนี้ฝังตรงคอกวัวควายโขมยที่มาโขมยก็จะลักไปไม่ได้

โดยจะหลงอยู่แถวคอกนั้น เครือสาวหลงนี้ เป็นการม้วนตัวของเครือไม้เขาหลง หรือ สาวหลงที่ม้วนเองตามธรรมชาติ ม้วนเป็นบ่วง ที่เรียกว่า บ่วงนาคบาท

ว่านสาวหลงนี้จัดอยู่ในประเภท ว่านเสน่ห์ เมตตามหานิยม บ้านเรือนอาศัยร้านค้าขายใด หากนำมาปลูกไว้จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ว่านนี้นิยมกันมาแต่โบราณ เป็นว่านที่มีสรรพคุณให้ผลถึงกับปิดบังไม่ยอมแพร่งพรายผู้เป็นเจ้าของนั้น หวงแหนยิ่งนัก ผู้มีว่านนี้อยู่ในครอบครองจะทำให้มีเสน่ห์มหานิยม รากต้นและใบของว่านนี้ ในกระบวนพิธีสร้างพระผงพระเครื่องด้านเสน่ห์มหานิยมแล้วจะขาดว่านนี้ไม่ได้

ในจำนวนผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมอยู่ในพระเครื่องจะต้องมีผงของว่านสาวหลงนี้ด้วยเสมอไปนอกจากนั้น เพียงแต่ใครมีราก ใบ กิ่ง ดอก ของว่านนี้พกพาติดตัว เดินทางไปยังทิศทางต่าง ๆ ผู้ที่ได้กลิ่น ว่านถึงกับให้งงงวย หลงใหล ยิ่งนำราก ใบ กิ่ง ดอก ของว่านนั้นมาฝนกับน้ำมันจันทน์ น้ำมันเเก้ว หรือ ผสมกับขี้ผึ้งทาปากด้วยแล้วจะเป็นยอดของขบวนเสน่ห์มหานิยมอีกด้วย นักเลงเจ้าชู้พากันรู้จักมาแต่โบราณกาลส่วนที่ชื่ออีกชือ ว่าเครือสาวหลงนี้ก็เพราะว่า เครือสาวหลงนี้ถ้าได้นำส่วนใดส่วนหนึ่งของเครือเล็กๆ เอามาเสียบตรงร่องฟันจะทำให้หญิงหลงงงงวย

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i1140758172.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.27.2f304edfpNDteq



#7997
ส่งรูปภายนอก ภายใน พร้อมรายละเอียดของรถมาที่
ไลน์ : nopcartoday
#7999
 
 
ข้าวอินทรีย์ (Organic Rice)ข้าวเพื่อสุขภาพสุรินทร์ เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโต สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวอินทรีย์แฟร์เทรด ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์(Organic Rice) เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมและสารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวอินทรีย์ ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 
       ประเภทของข้าวอินทรีย์
   1. ข้าวอินทรีย์รับรองมาตรฐาน Certified Organic เป็นระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีป้องกันศัตรูพืช มีการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานอิสระ โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชนและหน่วยงานจากต่างประเทศ มีตราสัญลักษณ์ติดที่ผลิตภัณฑ์ และจะต้องมีการตรวจเพื่อต่ออายุใบรับรองทุกปี
 
   2. ข้าวอินทรีย์ระยะปรับเปลี่ยน In-conversion เป็นข้าวที่อยู่ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มทำเกษตรอินทรีย์ในปีแรกก่อนจะได้รับการรับรองผลผลิตว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยระยะปรับเปลี่ยนเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
 
   3. ข้าวอินทรีย์แบบยังไม่รับรอง Non Certified เป็นการปลูกข้าวอินทรีย์แบบพึ่งตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรแบบพื้นบ้านหรือปลูกในระบบผสมผสานหรือในไร่หมุนเวียน ไม่มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดๆ เกษตรกรกลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ทำการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตส่วนเกินมาจำหน่ายผ่านระบบตลาดท้องถิ่น ทั้งนี้อาจมีการรับรองกันเองในระบบกลุ่มหรือชุมชน ข้าวเกษตรอินทรีย์ ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด  คือ ข้าวที่ได้จากการผลิตภายใต้ระบบการผลิตข้าวอินทรีย์ซึ่งมีการจัดการการผลิตข้าวที่เกื้อกูลต่อระบบนิเวศรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุดิบสังเคราะห์และมีการจัดการกับผลิตภัณฑ์โดยเน้นการแปรรูปด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพการเป็นข้าวอินทรีย์และคุณภาพที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ 
ขั้นตอนการผลิตข้าวอินทรีย์  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
ข้าวอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน
เป็นระบบการผลิต ข้าวorganicส่งทั่วไทย ที่ไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตสารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคแมลงและสัตว์ศัตรูข้าวตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ การผลิตข้าวอินทรีย์นอกจากจะทำให้ผลผลิตข้าวมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษแล้วยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน
ข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล
การผลิตข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล มีกระบวนการผลิตการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และห้ามใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์ในกระบวนการผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการต้องผฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการรับรอง มีขั้นตอนการปฏิบัติเป็นลำดับขั้น ดังนี้
1.เกษตรกรจะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการผลิตข้าวอินทรีย์ (  'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ )
2.เกษตรกรจัดทำบันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต โดยแสดงแหล่งที่มาและปริมาณการใช้
3.สมัครขอรับรองต่อกรมการข้าว เกษตรกรต้องแสดงข้อมูลต่อไปนี้
- ประวัติการใช้พื้นที่
- ประวัติการใช้สารเคมี และผลการวิเคราะห์สารพิษตกค้างในดินและน้ำ (ถ้ามี)
- แผนที่และแผนผังแปลงนาที่ขอการรับรองและพื้นที่ข้างเคียง
- แผนการผลิตในทุกขั้นตอน
- บันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต
- บันทึกกิจกรรมในแปลงนา และข้อมูลอื่นๆ

เส้นทางผลิตข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ต้นข้าวอินทรีย์ 277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook :https://www.facebook.com/Hor.Organic
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ขายข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค
3. ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ #ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4.  ข้าวกล้องอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7. ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์
#ข้าวออแกนิคสุรินทร์
#ข้าวออแกนิกสุรินทร์
#ข้าวอินทรีย์สุรินทร์
#ข้าวคุณภาพสุรินทร์


 

 
 
#8000


ทันทีที่ผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ตัวเลขพุ่งกระฉูด รัฐประกาศ "ล็อกดาวน์" เต็มรูปแบบในพื้นที่สีแดงเข้ม ส่งผลให้ประชาชนแห่ซื้อสินค้าจำเป็น บะหมี่ฯ น้ำดื่ม น้ำอัดลม สินค้าดูแลสุขอนามัย ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ฯ ถูกตุนไว้มากขึ้น ผู้บริโภคหวังลดความถี่ออกนอกบ้าน ช่วยหยุดเชื้อเพื่อชาติ "มาม่า" ย้ำ 3 ส่วน ทำสินค้า "ขาดตลาด" เซเว่นอีเลฟเว่น ข้าวของจำเป็นเกลี้ยงเชลฟ์ "ไลอ้อนฯ" ยันกำลังผลิตเพียงพอ "อ้วยอันโอสถ" ป้อนฟ้าทะลายโจรไม่ทัน "ล็อกซเล่ย์" ชี้น้ำมันพืชแบบขวดขายดีมาก  "น้ำดื่มสิงห์" เร่งกระจายสินค้าให้ทันความต้องการ 

นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์สินคาอุปโภคบริโภคที่จำเป็นกำลังขาดตลาดเป็นบางช่วงบางเวลาเกิดจาก 3 ปัจจัย 1.ด้านปริมาณการผลิตหรือซัพพลายจากโรงงาน ซึ่งขณะนี้การแพร่ระบาดของโรโควิด-19 ส่งผลให้ในส่วนของผู้ผลิตต้องระมัดระวังการดูแลด้านสุขอนามัยของพนักงานมากขึ้น หากมีพนักงานออกจะไม่รับใหม่เพราะกังวลจะมีผู้ติดเชื้อเข้ามา 

นอกจากนี้ หากรับคนเข้าทำงานจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดและใช้เวลา 7 วัน เพื่อรอผลที่ชัดเจน หรือหากโรงงานใดพบญาติมีการติดเชื้อไวรัสจะแจ้งให้พนักงานหยุดงานทันที ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการผลิตสินค้า ทำให้ไม่สามารถใช้กำลังการผลิตได้ 100% 

2.ด้านความต้องการของผู้บริโภคหรือดีมานด์ ต้องยอมรับว่าหลังจากรัฐประกาศมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ทำให้การซื้อสินค้ามีปริมาณมากขึ้น แต่ไม่ใช่การตื่นตระหนกซื้อเหมือนการล็อกดาวน์ในครั้งแรกเมื่อปี 2563 ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูง ทำให้ประชาชนซื้อสินค้าไว้ตุนไว้ เพื่อลดความเสี่ยง ความถี่ในการออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสินค้าบางรายการ บางแบรนด์หายไปจากชั้นวางหรือเชลฟ์ เป็นปกติที่พฤติกรรมผู้บริโภคจะหันไปซื้ออีกแบรนด์ 


นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น ยังเกิดจากทุกภาคส่วนมีการซื้อสินค้าจำเป็นพื่อบริจาคให้กับผู้ป่วย หรือศูนย์ผู้ป่วย พักคอย หน่วยงานต่างๆมากขึ้น ซึ่งแต่ละครั้งเป็นการซื้อสินค้าในปริมาณค่อนข้างมาก เป็นต้น  

"ภาวะสินค้าขาดตลาดครั้งนี้ โรงงานผู้ผลิตมีการระมัดระวังด้านสุขอนามัยของพนักงานมากขึ้น จึงอาจส่งผลต่อการผลิต มีการผลิตน้อยลงบ้าง เช่น บริษัทที่ผ่านมาโรงงานบะหมี่ฯเส้นขาว ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หยุดการผลิตไปราว 2 สัปดาห์ กระทบกำลังการผลิตบะหมี่หึ่งสำเร็จรูปโดยรวมหายไป 2.5% เท่านั้น เพราะเส้นขาวคิดเป็นสัดส่วน 10% ของกำลังการผลิตทั้งหมด แต่บะหมี่ฯเส้นเหลืองมาม่าไม่หยุดผลิต"  

ส่วนที่ 3 ด้านการขนส่งและกระจายสินค้า มีการสะดุดไปบ้าง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ไม่ถึงกับเกิดภาวะ "ช็อต" ทั้งนี้ หากสินค้าผลิตและส่งจากโรงงานจะมีการเติมไปยังร้านค้าต่างๆตลอดเวลา หากวันรุ่งขึ้นไม่มีการเติมสินค้า นั่นเกิดจากโรงงานผลิตได้รับกระทบ อย่างไรก็ตาม บริษัทไทยเพรซิเดนท์ฯ มีการส่งบะหมี่ฯ ไปยังศูนย์กระจายสินค้าของพันธมิตรห้างค้าปลีกต่างๆ จากนั้นทางห้างจะเป็นผู้กระจายไปยังสาขาต่างๆเอง 


อย่างไรก็ตาม การเติมสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และเข้าสู่ภาวะปกติ อาจใช้เวลาอีกระยะ หรือราวเดือนกันยายนนี้ ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องระวังคือกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง จะส่งผลปรมาณการสต๊อก และกำลังผลิตสินค้าอีกระลอก

"ยืนยันว่าการขาดแคลนสินค้าบนเชลฟ์ไม่ได้เกิดจากความตระหนกซื้อ และไม่เหมือนกับเหตุการณ์น้ำท่วม และคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติเดือนหน้า" 

นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ในส่วนการผลิตน้ำดื่มสิงห์ ขณะนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด บริษัทยังคงใช้กำลังการผลิตได้ตามปกติ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค แต่ในด้านการกระจายสินค้า อาจจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวล่า เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส  

  

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังมีกำลังการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น กำลังการผลิตเหลือ 20% หรือ30% บ้าง ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า  แต่ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้ร้านค้าต่างๆ โดยฉพาะในต่างจังหวัด งดให้ตัวแทนจำหน่ายหรือเซลล์เข้าพบ เพื่อป้องกันและดูแลด้านสุขอนามัย 

ทั้งนี้ หากร้านค้าประสบภาวะขาดแคลนสินค้า สามารถติดต่อมายังบริษัทไลอ้อน หรือลบริษัท สหพัฒนพิบูลโดยตรง เพื่อประสานการแก้ปัญหาได้ตรงความต้องการมากขึ้น เช่น บริษัทจะติดต่อซัพพลายเออร์ หรือร้านค้าใกล้เคียงเพื่อป้อนสินค้าให้ ส่วนผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้

"เรายืนยันสินค้าดูแลสุขอนามัย และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆไม่ขาดตลาด ผู้บริโภคไม่ต้องตกใจ และบริษัทยังมีกำลังการผลิตเพียงพอต่อความต้องการ"  

นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคอยู่บ้านมากขึ้น  มีการทำกับข้าวเพื่อรับประทานเอง ส่งผลให้ยอดขายน้ำมันพืชแบบขวดขายดีมาก อย่างบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายและกระจายน้ำมันพืชกุ๊ก พบว่ายอดขาย 6 เดือน มีอัตราการเติบโตเกือบ 100% รวมถึงสินค้ากะปิ น้ำปลา ผงปรุงรส ยอดขายเติบโตเช่นกัน  

นายชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยเฉพาะที่ผลิตจากกระชาย ฟ้าทะลายโจรฯ มีการขาดตลาดอย่างมาก เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคมีสูง ซึ่งบริษัทส่งสินค้าป้อนร้านขายยา 7,000-8,000 แห่งทั่วประเทศ ได้รับคำสั่งซื้อหรือออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก แต่การส่งผลิตภัณฑ์ยังค้างอยู่หลักแสนรายการ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ห้างค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น จะพบสินค้าขาดตลาดค่อนข้างมาก ส่วนห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น เทสโก้ โลตัส ยังพบการขาดตลาดน้อย มีเพียงบางหมวดเท่านั้นที่หายจากเชลฟ์ ส่วนร้านขายยา นอกจากฟ้าทะลายโจรขาดตลาด น้ำยาอุทัยทิพย์ แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ขาดตลาดเช่นกัน
#8001


การประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2564 เมื่อเร็วๆนี้ ได้หารือประเด็น โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ Fตาม มติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2564 อนุมัติผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินที่ภาครัฐได้รับจากโครงการฯ เป็นค่าสัมปทานคงที่ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานผันแปรที่ 100 บาทต่อ TEU (หน่วยนับตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งมีขนาด 20 ฟุต) 

โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2564 ได้มีมติให้กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC เป็นผู้ผ่านการประเมินข้อเสนอซองที่ 4 ได้เจรจาผลตอบแทนเพิ่มเติม อาทิ เอกชนตกลงเพิ่มเงื่อนไขการสร้างท่าเรือ F2 ให้เร็วขึ้น หากแนวโน้มตู้สินค้าเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ เอกชนจะสมทบเงินเข้ากองทุนเยียวยาความเสียหาย ในอัตรา 5,000 บาท/ไร่/ปี  

ทั้งนี้ ได้ข้อตกลงในร่างสัญญาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุด โดยจะเร่งนำเสนอ ครม. พิจารณา และลงนามสัญญาต่อไป

'สุพัฒนพงษ์' ตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 ของกลุ่ม ปตท.

วันนี้ (12 ส.ค. 2564) นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารลงพื้นที่หน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 โครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท. ณ อาคาร EnCo Terminal (Enter) ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  เพื่อติดตามผลการดำเนินงานภายหลังจากที่ได้เปิดหน่วยตรวจฯ พร้อมโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-To-End) กลุ่ม ปตท. อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โดยหน่วยตรวจคัดกรองฯ แห่งนี้ เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ  โดยจะสามารถรองรับได้ 1,500 -2,000 คนต่อวัน   โดยหากตรวจพบว่าเสี่ยงติดเชื้อจะนำส่งตรวจ RT-PCR และ X-ray ต่อไป 
#8002
รังนกเขาหลง  



ตั้งบูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้านค้าขาย เรียกโชคเรียกลาภเรียกเงินเรียกทอง ค้าขายดี ส่งเสริมเรื่อง ความรักครอบครัวคู่ครอง 

วิธีบูชา เครื่องบูชาใส่พานประกอบด้วย ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก

แล้วอธิษฐาน ขอในสิ่งที่ต้องการ


รังนกเขาหลง เป็นรังนกกายสิทธิ์ ท่านพญาแถนกล่าวว่า มีประวัติเล่าให้ลูกหลานฟังว่า ถ้าใครได้เห็นรังนกเขาหลง คนนั้นมีบุญบารมีสูงส่ง เขาเป็นรังนกกวักเงินกวักทอง หรือไทรเงินไทรทอง ขอพรได้สิบประการ เช่น ที่อยู่เรือนชานเข็ดขวางอยู่ไม่ได้ หรือบ้านนั้นมีทรวงขวางลูกขาวงเมียเจ็บออดๆแอดๆ อยู่อย่างนี้ ถ้ามีรังนกเขาหลงบูชา เจ้าจงเก็บดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิรน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก แล้วใส่ลงไปในรังนกเขาหลง แล้วจงอธิฐานว่า สาธุฯ สิ่งร้ายๆหรือเสนียดจัญไรรำคาญใจบ่อยๆ ให้ออกไป เมื่อท่านทำอย่างนี้แล้ว ท่านจะสุขสบายทั้งกายใจ เจ้ารังนกกายสิทธิ์ เขาจะกวักเงินกวักทองเข้าเรือนชาน ตัวผู้กงัดเข้า ตัวเมียเก็บไว้ ถ้าใครมีไว้สักการะบูชาคนนั้นมีบุหลาย ถ้าใครมีประจำบ้าน สามารถคุ้มครองบ้านเรือน และประสบลาภบันดาลผลให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขอยู่เป็นทุกทิวาราตรี ของกายสิทธิ์ใครมีบุญก็ได้ไป ไว้บูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้าน เรียกเงินเรียกทอง เรื่องมหาเสน่ห์ก็ดี ใครมีแฟนคิดนอกใจ ลองนำไปบูชาดู ของกายสิทธิ์ หายาก เครือเขาหลงที่อยู่ในรังก็ถือว่าเป็นของดี ม้วนเก็บเป็นก้อนบูชาพกใส่กระเป๋าตังค์ ก็เป็นมหาเสน่ห์ โชคลาภ เรียกเงินเรียกทองได้ดี



เครือสาวหลง เครือเขาหลง หรือ เครือเถาหลง คือ ไม้ชนิดเดียวกันที่อยู่ในป่าลึก มีเทวดารักษา ผู้มีวิชาอาคมถึงไปขอตัดเอามาได้ ที่ชื่อ อย่างนี้ก็เพราะว่า ไม้นี้ ถ้าคนหรือสัตว์เผลอไปข้ามเข้าก็จะหลงป่า

แม้แต่นกที่บินผ่านต้นก็จะหลงอยู่ที่ต้นไปไหนไม่ได้ ปละตกลงมาตาย ตรงใต้ต้นเครือเขาหลง นี้จึงเต็มไปด้วยซากสัตว์

ส่วนที่ชื่ออีกชือ ว่าเครือสาวหลงนี้ก็เพราะว่า เครือสาวหลงนี้ถ้าได้ส่วนปลายเครือเล็กๆ จะคล้ายเส้นผมขน เอามาเสียบตรงร่องฟันจะทำให้หญิงหลงงงงวย ครับ

และสมัยก่อนเอาเครือนี้ฝังตรงคอกวัวควายโขมยที่มาโขมยก็จะลักไปไม่ได้

โดยจะหลงอยู่แถวคอกนั้น เครือสาวหลงนี้ เป็นการม้วนตัวของเครือไม้เขาหลง หรือ สาวหลงที่ม้วนเองตามธรรมชาติ ม้วนเป็นบ่วง ที่เรียกว่า บ่วงนาคบาท

ว่านสาวหลงนี้จัดอยู่ในประเภท ว่านเสน่ห์ เมตตามหานิยม บ้านเรือนอาศัยร้านค้าขายใด หากนำมาปลูกไว้จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ว่านนี้นิยมกันมาแต่โบราณ เป็นว่านที่มีสรรพคุณให้ผลถึงกับปิดบังไม่ยอมแพร่งพรายผู้เป็นเจ้าของนั้น หวงแหนยิ่งนัก ผู้มีว่านนี้อยู่ในครอบครองจะทำให้มีเสน่ห์มหานิยม รากต้นและใบของว่านนี้ ในกระบวนพิธีสร้างพระผงพระเครื่องด้านเสน่ห์มหานิยมแล้วจะขาดว่านนี้ไม่ได้

ในจำนวนผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมอยู่ในพระเครื่องจะต้องมีผงของว่านสาวหลงนี้ด้วยเสมอไปนอกจากนั้น เพียงแต่ใครมีราก ใบ กิ่ง ดอก ของว่านนี้พกพาติดตัว เดินทางไปยังทิศทางต่าง ๆ ผู้ที่ได้กลิ่น ว่านถึงกับให้งงงวย หลงใหล ยิ่งนำราก ใบ กิ่ง ดอก ของว่านนั้นมาฝนกับน้ำมันจันทน์ น้ำมันเเก้ว หรือ ผสมกับขี้ผึ้งทาปากด้วยแล้วจะเป็นยอดของขบวนเสน่ห์มหานิยมอีกด้วย นักเลงเจ้าชู้พากันรู้จักมาแต่โบราณกาลส่วนที่ชื่ออีกชือ ว่าเครือสาวหลงนี้ก็เพราะว่า เครือสาวหลงนี้ถ้าได้นำส่วนใดส่วนหนึ่งของเครือเล็กๆ เอามาเสียบตรงร่องฟันจะทำให้หญิงหลงงงงวย

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i1140758172.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.27.2f304edfpNDteq



#8004


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียนจำนวน 10,810 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 10,810 ราย เพราะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แยกเป็นนิติบุคคลที่ไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2560-2562 จำนวน 5,795 ราย ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว และกรณีจดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่หรือไม่ได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี จำนวน 5,015 ราย โดยจะขีดชื่อนิติบุคคลจำนวนนี้ ให้เป็นสถานะร้างสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ออกประกาศ (16 ก.ค.2564) เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น เพื่อเป็นการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และปิดช่องว่างของมิจฉาชีพที่จะนำความน่าเชื่อถือของนิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน

ส่วนนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ดำเนินการตรวจสอบ และขีดชื่อออกเช่นเดียวกัน เพื่อจะได้มีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ หากพ้นกำหนดเวลา 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลดังกล่าวจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น แต่แม้นิติบุคคลจะมีสถานะร้างและสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลไปแล้ว ความรับผิดชอบยังคงไม่ได้สิ้นสภาพตามไปด้วย และอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน

นายทศพลกล่าวว่า การปรับปรุงฐานข้อมูลสถานะของนิติบุคคล ถือเป็นภารกิจสำคัญที่กรมฯ ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคลอันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจและตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชน จึงขอฝากไปยังนิติบุคคลจะต้องดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมฯ ถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล รวมไปถึงกรณีที่ธุรกิจมีความจำเป็นจะต้องยุติลง แต่ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นเช่นกัน

สำหรับประชาชน และผู้ประกอบการ จะต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาคู่ค้าหรือการเลือกลงทุนกับธุรกิจใด จำเป็นจะต้องตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะให้ดีเพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยประชาชนและธุรกิจที่ต้องการตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดชื่อ สามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน และสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง โดยตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ บริการออนไลน์ และ DBD Datawarehouse+ หรือแอปพลิเคชั่น DBD Service โดยไม่มีค่ามีค่าใช้จ่าย
 
#8005


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนผลิตผลทางการเกษตรของเกษตรกรไทยในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายของ อ.ส.ค.ในช่วงปลายปี 2564 ซึ่งคำนึงถึงวิถีชีวิตของผู้บริโภคในยุค New Normal ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้เหมือนเมื่อก่อน จึงต้องหันมาเสาะแสวงหาสินค้าใหม่ๆในโลกออนไลน์มากขึ้น ตลอดจนตอบโจทย์ทางการตลาดที่มีแนวโน้มของผู้บริโภคมีความสนใจในการบริโภคผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มรสชาติที่มีความแปลกใหม่และหลากหลายมากขึ้น จึงได้มอบหมายให้ อ.ส.ค. เร่งวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ

ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งยูเอชที เพิ่มขึ้น 2 รสชาติ คือ รสเผือก และรสมะม่วงมหาชนก ตราไทย-เดนมาร์ค ขนาด150 มล. ภายใต้กล่องบรรจุภัณฑ์ยูเอชที "รักเรา รักษ์โลก" โดยวางเป้าหมายเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดื่มนมเป็นอาหารว่าง (snack drink) โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น วัยเพิ่งเริ่มทำงาน ที่ดื่มนมลดลง ให้หันกลับมาดื่มนมอีกครั้ง เพราะสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย สำหรับกลุ่มเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบดื่มนม สามารถดื่มนมได้ง่ายขึ้น เพราะมีรสชาติให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญทั้ง 2 รสชาติให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี ต่อ 1 กล่อง

"การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รสเผือกและรสมะม่วงมหาชนก นอกจากกระตุ้นยอดจำหน่ายนมไทย-เดนมาร์คในช่วงปลายปีงบประมาณ 2564 นี้แล้ว ยังเป็นการสร้างปรากฏการณ์ทางการตลาดใหม่ๆของผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม เนื่องจากทั้ง 2 รสชาติมีความสดใหม่ ผสมผสาน ผลผลิตทางการเกษตร คุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ ซึ่งถือเป็นอีกความภาคภูมิใจที่ อ.ส.ค. ที่ได้ช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้มีรายได้และมีช่องทางตลาดมากยิ่งขึ้นซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ นางสาวมนัญญา กล่าว



ทางด้านนายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า จากผลสำรวจเกี่ยวกับการบริโภคนมของผู้บริโภคซึ่งปัจจุบันนับได้ว่าเฉลี่ยการดื่มนม/คน/วัน ยังนับว่ามีอัตราที่ค่อนข้างน้อย โดยช่วงอายุ 13-20 ปี บริโภคนมลดลงกว่าครึ่ง จากสัดส่วน 89% เหลือเพียง 44% เมื่อเทียบกับวัยอนุบาลและประถมศึกษา ซึ่งเฉลี่ยโดยประมาณ 70% ดื่มนม เพียง 1 ครั้งในตอนเช้าหรือก่อนนอน และสาเหตุที่ไม่ดื่มนม เพราะไม่ชอบดื่มนมถึง 24.50% และคิดว่าไม่จำเป็นอีก 12.58% ดังนั้น อ.ส.ค. จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารมากขึ้น และมีสินค้าใหม่เกิดขึ้น ซึ่ง น้ำนมโคแท้ 100% ไม่ผสมนมผง และเติมรสชาติใหม่ ผสมผสานกับวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพสูงจากเกษตรกรในประเทศไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ถือเป็นโอกาสดีของนมไทย-เดนมาร์ค ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านคุณภาพของสินค้าอยู่แล้ว เป็นผลิตภัณฑ์นมที่ผลิตจากนมโคแท้ 100 % ไม่ผสมนมผง ส่งตรงจากฟาร์มเกษตรไทยจริงๆ อีกทั้งกระบวนการผลิตยังไม่มีการผสมนมผงอีกด้วย เรียกได้ว่าผู้บริโภคจะได้รับคุณประโยชน์ และวิตามินจากธรรมชาติเต็มๆแน่นอน เรายังเล็งเห็นว่า นม ยังคงเป็นอาหารที่มีประโยชน์และสามารถพัฒนาต่อยอดในตลาดได้อย่างต่อเนื่องการดื่มนมถือเป็นเครื่องดื่มทีเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย ให้ทุกคนหันกลับมาดื่มนม ส่งเสริมคนไทยให้มีสุขภาพดี

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รสชาติในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายผลักดันผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คก้าวสู่ "นมแห่งชาติ " ภายในปี 2565 อีกด้วย ซึ่งอ.ส.ค. ได้วางเป้าหมายให้คนไทยได้มีโอกาสดื่มนมที่มีคุณภาพมากขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ต้องการยกระดับความสามารถเกษตรกรโคนมไทยให้ดำรงอาชีพอย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วยการสรรสร้างนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมโคนมให้แบรนด์ ไทย-เดนมาร์ค เป็นที่หนึ่งในใจคนไทย เพื่อส่งมอบคุณค่าให้คนไทยมีสุขภาพดีด้วยผลิตภัณฑ์จากนมโคแท้ 100% ของเกษตรกรไทยตลอดไป



โดย อ.ส.ค.ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเป็นผู้นำองค์กรในด้านการสืบสานพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่เกษตรกรไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน และรองรับน้ำนมดิบที่เพิ่มขึ้น โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีประโยชน์ ช่วยส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพในแต่ละท้องถิ่น เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืนและให้คนไทยมีสุขภาพดีจากการดื่มนม

"สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งยูเอชที รสเผือก และรสมะม่วงมหาชนก ตราไทย-เดนมาร์ค มีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งที่ อ.ส.ค. มีจำหน่ายอยู่แล้ว คือ รสชาติใหม่ ขนาดใหม่ 150 มล.On-the-Go สะดวกในการพกพา พอดีอิ่ม ในกล่องบรรจุภัณฑ์ยูเอชที "รักเรา รักษ์โลก" ซึ่งยังคงคุณภาพของนมที่ดีที่สุด เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำนมโคแท้100% ไม่ผสมนมผง จากฟาร์มธรรมชาติของเกษตรกรไทย ส่งไปผ่านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ ณ โรงงานนมสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ผสมกับวัตถุดิบคุณภาพที่ช่วยสนับสนุนผลผลิตของเกษตรกรไทย ไม่ใช่แค่การแต่งกลิ่น แต่มีรสชาติเข้มข้นจากผลผลิต ในแต่ละท้องถิ่น อย่างเช่นรสเผือก จะใช้วัตถุดิบที่ได้จากแหล่งเพาะปลูกของเกษตรกรไทยในพื้นภาคกลาง จังหวัดสระบุรี ส่วนรสมะม่วงมหาชนกใช้วัตถุดิบที่ได้จากแหล่งเพาะปลูกของเกษตรกรไทยในพื้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดกาฬสินธุ์" นาย สุชาติ กล่าว

โดยผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งยูเอชที รสเผือก และรสมะม่วงมหาชนก ตราไทย-เดนมาร์คจะเป็นสินค้า Limited Edition เฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น สามารถหาซื้อสินค้าได้จากช่องทางออนไลน์ ของ อ.ส.ค ได้แก่ LINE OFFICIAL นมไทย- เดนมาร์ค Shopee Lazada พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่น เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม – 30 กันยายน 2564
#8006
ส่งภาพภายนอก ภายใน พร้อมรายละเอียดของรถที่จะขายมาที่
ไลน์ ไอดี : nopcartoday
#8007


วันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก Bangkok Comprehensive Covid-19 Response Team (Bangkok CCRT) โดยสำนักอนามัย สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง บูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) จิตอาสาพระราชทาน 904 และภาคประชาชน จัดทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 Bangkok CCRT ลงพื้นที่ชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2564

สำหรับการดำเนินการของ CCRT ทำหน้าที่ดังนี้ 1.สำรวจชุมชนเพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคและหญิงตั้งครรภ์ 2.ให้บริการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK)

3.ให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยการจ่ายยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร และให้คำแนะนำในการแยกกักที่บ้าน Home Isolation (HI) และมอบชุด HI แก่ผู้ป่วยที่สามารถกักตัวที่บ้านได้ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ทีมจะนำผู้ป่วยนำส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ Community Isolation (CI)

4.ดำเนินการกักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่บ้าน และมอบชุด Home Quarantine (HQ) หรือส่งเข้า Local Quarantine (LQ) ตามความเหมาะสม 5.ให้บริการฉีดวัคซีนกับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ และ 6.สื่อสารทำความเข้าใจ ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ตลอดจนการปฏิบัติตนให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19

สำหรับผลการดำเนินงาน Bangkok CCRT ระหว่างวันที่ 15 ก.ค.-10 ส.ค.2564 ลงพื้นที่ชุมชนแล้ว 2,623 แห่ง มีประชาชนเข้ารับบริการ 140,391 คน ให้บริการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ 97,697 ราย ให้บริการตรวจ Antigen Test Kit แก่ประชาชน 31,400 ราย ผลไม่พบเชื้อ 27,773 ราย และผลพบเชื้อ 3,627 ราย นำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา 115 ราย นำส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ Community Isolation 70 ราย และแยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation 3,442 ราย พร้อมมอบชุดกักตัว ยาฟ้าทะลายโจร ยาลดไข้ ยาแก้ไอ และยาละลายเสมหะให้แก่ผู้ที่แยกกักตัวที่บ้านได้ใช้ในการดูแลตนเอง
#8009


นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลังของปี 2564 เอ็กโก กรุ๊ป กำลังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจเชื้อเพลิงและระบบสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจหลัก ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง และการนำเข้าแอลเอ็นจีตามที่ได้รับใบอนุญาตจาก กกพ.

รวมทั้งธุรกิจ Smart Energy Solution เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักด้วยนวัตกรรมใหม่และเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต ได้แก่ การลงทุนในบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม กฟผ. เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมไฟฟ้าและธุรกิจ New S-Curve โดยเอ็กโก กรุ๊ป จะเน้นการต่อยอดทางธุรกิจของเทคโนโลยีด้านไมโครกริด ด้านระบบกักเก็บพลังงาน และด้านยานยนต์ไฟฟ้า

"เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยมุ่งต่อยอดธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ในขณะเดียวกัน ได้เร่งขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างสมดุลในพอร์ตโฟลิโอให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านในอุตสาหกรรมพลังงาน ทำให้มั่นใจได้ว่าเอ็กโก กรุ๊ป จะสามารถเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว"

สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564  การดำเนินธุรกิจนับว่ามีความท้าทายมาก ทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องจากเทคโนโลยีดิสรัปชัน แต่บริษัทก็สามารถขยายการลงทุนใหม่ได้สำเร็จ โดยสามารถไปปักธงในสหรัฐอเมริกา ด้วยการลงทุนในโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งได้ปิดดีลเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ในขณะเดียวกัน ยังสามารถขยายการลงทุนสู่ธุรกิจเชื้อเพลิง โดยได้รับมติเห็นชอบการออกใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper License) 200,380 ตันต่อปี จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นอกจากนี้ ยังสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้ดำเนินไปได้ตามแผนงาน"

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เอ็กโก กรุ๊ป มีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การด้อยค่าของสินทรัพย์ การวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า) 2,758 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 313 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2563 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี และกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพาจู และโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 4,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

เมื่อพิจารณากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,510 ล้านบาท ลดลง 3,565 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 จำนวน 2,095 ล้านบาท ลดลง 2,567 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลกระทบทางบัญชีที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการแปลงมูลค่าหนี้สินระยะยาวเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินบาทจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท


ด้านโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โครงการ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้า 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเล "หยุนหลิน" ในไต้หวัน ก่อสร้างแล้วเสร็จ 69% และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ "น้ำเทิน 1" ใน สปป.ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จ 89% นอกจากนี้ ยังมีโครงการธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการ "ขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" ก่อสร้างแล้วเสร็จ 85% ในขณะที่โครงการ "นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง" อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการ

ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,016 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 29 แห่ง คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,695 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 321 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติ แอลเอ็นจี ถ่านหิน ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเซลล์เชื้อเพลิง

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ตลอดจนยังได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย
#8010


นางสาวมนัญญา   ไทยเศรษฐ์   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า   เพื่อเป็นการสนับสนุนผลิตผลทางการเกษตรของเกษตรกรไทยในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายของ อ.ส.ค.ในช่วงปลายปี 2564 ซึ่งคำนึงถึงวิถีชีวิตของผู้บริโภคในยุค New Normal ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้เหมือนเมื่อก่อน    

 

   จึงต้องหันมาเสาะแสวงหาสินค้าใหม่ๆในโลกออนไลน์มากขึ้น ตลอดจนตอบโจทย์ทางการตลาดที่มีแนวโน้มของผู้บริโภคมีความสนใจในการบริโภคผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มรสชาติที่มีความแปลกใหม่และหลากหลายมากขึ้น จึงได้มอบหมายให้ อ.ส.ค.    เร่งวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งยูเอชที เพิ่มขึ้น 2 รสชาติ คือ  รสเผือก และรสมะม่วงมหาชนก ตราไทย-เดนมาร์ค ขนาด150 มล. ภายใต้กล่องบรรจุภัณฑ์ยูเอชที "รักเรา รักษ์โลก" โดยวางเป้าหมายเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดื่มนมเป็นอาหารว่าง (snack drink)

 

โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น วัยเพิ่งเริ่มทำงาน ที่ดื่มนมลดลง ให้หันกลับมาดื่มนมอีกครั้ง เพราะสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย สำหรับกลุ่มเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบดื่มนม สามารถดื่มนมได้ง่ายขึ้น เพราะมีรสชาติให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญทั้ง 2 รสชาติให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี ต่อ 1 กล่อง 

 

"การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รสเผือกและรสมะม่วงมหาชนก นอกจากกระตุ้นยอดจำหน่ายนมไทย-เดนมาร์คในช่วงปลายปีงบประมาณ 2564 นี้แล้ว ยังเป็นการสร้างปรากฏการณ์ทางการตลาดใหม่ๆของผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม เนื่องจากทั้ง 2 รสชาติมีความสดใหม่ ผสมผสาน ผลผลิตทางการเกษตร คุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ  ซึ่งถือเป็นอีกความภาคภูมิใจที่ อ.ส.ค. ที่ได้ช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้มีรายได้และมีช่องทางตลาดมากยิ่งขึ้นซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ  นางสาวมนัญญา กล่าว  


  ทางด้านนายสุชาติ  จริยาเลิศศักดิ์  รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า จากผลสำรวจเกี่ยวกับการบริโภคนมของผู้บริโภคซึ่งปัจจุบันนับได้ว่าเฉลี่ยการดื่มนม/คน/วันยังนับว่ามีอัตราที่ค่อนข้างน้อย โดยช่วงอายุ 13-20 ปี บริโภคนมลดลงกว่าครึ่ง จากสัดส่วน 89% เหลือเพียง 44% เมื่อเทียบกับวัยอนุบาลและประถมศึกษา ซึ่งเฉลี่ยโดยประมาณ 70% ดื่มนม เพียง 1 ครั้งในตอนเช้าหรือก่อนนอน และสาเหตุที่ไม่ดื่มนม เพราะไม่ชอบดื่มนมถึง 24.50% และคิดว่าไม่จำเป็นอีก 12.58% ดังนั้น อ.ส.ค. จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารมากขึ้น และมีสินค้าใหม่เกิดขึ้น ซึ่ง น้ำนมโคแท้ 100% ไม่ผสมนมผง และเติมรสชาติใหม่ ผสมผสานกับวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพสูงจากเกษตรกรในประเทศไทยอีกด้วย    

 

นอกจากนี้ถือเป็นโอกาสดีของนมไทย-เดนมาร์ค ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านคุณภาพของสินค้าอยู่แล้ว เป็นผลิตภัณฑ์นมที่ผลิตจากนมโคแท้ 100 % ไม่ผสมนมผง ส่งตรงจากฟาร์มเกษตรไทยจริงๆ   อีกทั้งกระบวนการผลิตยังไม่มีการผสมนมผงอีกด้วย เรียกได้ว่าผู้บริโภคจะได้รับคุณประโยชน์ และวิตามินจากธรรมชาติเต็มๆแน่นอน เรายังเล็งเห็นว่า นม ยังคงเป็นอาหารที่มีประโยชน์และสามารถพัฒนาต่อยอดในตลาดได้อย่างต่อเนื่องการดื่มนมถือเป็นเครื่องดื่มทีเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย ให้ทุกคนหันกลับมาดื่มนม ส่งเสริมคนไทยให้มีสุขภาพดี 

                นอกจากนี้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รสชาติในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายผลักดันผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คก้าวสู่ "นมแห่งชาติ " ภายในปี 2565 อีกด้วย ซึ่งอ.ส.ค. ได้วางเป้าหมายให้คนไทยได้มีโอกาสดื่มนมที่มีคุณภาพมากขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ต้องการยกระดับความสามารถเกษตรกรโคนมไทยให้ดำรงอาชีพอย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วยการสรรสร้างนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมโคนมให้แบรนด์ ไทย-เดนมาร์ค เป็นที่หนึ่งในใจคนไทย เพื่อส่งมอบคุณค่าให้คนไทยมีสุขภาพดีด้วยผลิตภัณฑ์จากนมโคแท้ 100% ของเกษตรกรไทยตลอดไป โดย อ.ส.ค.ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเป็นผู้นำองค์กรในด้านการสืบสานพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่เกษตรกรไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน และรองรับน้ำนมดิบที่เพิ่มขึ้น โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีประโยชน์ ช่วยส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพในแต่ละท้องถิ่น เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืนและให้คนไทยมีสุขภาพดีจากการดื่มนม  

'  "สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งยูเอชที รสเผือก และรสมะม่วงมหาชนก ตราไทย-เดนมาร์ค  มีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งที่ อ.ส.ค. มีจำหน่ายอยู่แล้ว คือ รสชาติใหม่ ขนาดใหม่ 150 มล.On-the-Go สะดวกในการพกพา พอดีอิ่ม ในกล่องบรรจุภัณฑ์ยูเอชที "รักเรา รักษ์โลก" ซึ่งยังคงคุณภาพของนมที่ดีที่สุด เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำนมโคแท้100% ไม่ผสมนมผง จากฟาร์มธรรมชาติของเกษตรกรไทย ส่งไปผ่านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ ณ โรงงานนมสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ผสมกับวัตถุดิบคุณภาพที่ช่วยสนับสนุนผลผลิตของเกษตรกรไทย ไม่ใช่แค่การแต่งกลิ่น แต่มีรสชาติเข้มข้นจากผลผลิต ในแต่ละท้องถิ่น อย่างเช่นรสเผือก จะใช้วัตถุดิบที่ได้จากแหล่งเพาะปลูกของเกษตรกรไทยในพื้นภาคกลาง จังหวัดสระบุรี ส่วนรสมะม่วงมหาชนกใช้วัตถุดิบที่ได้จากแหล่งเพาะปลูกของเกษตรกรไทยในพื้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดกาฬสินธุ์" นาย    สุชาติ  กล่าว   

                โดยผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งยูเอชที รสเผือก และรสมะม่วงมหาชนก ตราไทย-เดนมาร์คจะเป็นสินค้า Limited Edition เฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น สามารถหาซื้อสินค้าได้จากช่องทางออนไลน์  ของ  อ.ส.ค  ได้แก่ LINE OFFICIAL นมไทย-   เดนมาร์ค Shopee Lazada พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่น เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม – 30 กันยายน 2564