• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Cindy700

#10816

  • ไฟตกหมึกใต้น้ำ แบบใช้หย่อนลงในน้ำ
  • โคมไฟใต้น้ำรุ่นนี้จะมีหลอดไฟLEDทั้งหมด 180LED มีกำลังวัตต์ประมาณ18w ให้แสงสีเขียว ใช้งานง่ายโดยนำสายไฟมาต่อขั้วบวกและลบเข้าแบตเตอรี่แล้วจุ่มไฟลงในน้ำ เพียงเท่านี้ก็เปิดล่อหมึกได้แล้ว แสงสีเขียวจะสว่างส่องในทิศทางรอบตัวโคม ซึ่งจะกระจายแสงได้ดี อีกทั้งแสงสีเขียวของโคมนั้นสามารถทะลุทะลวงชั้นผิดน้ำทะเลได้ดีอีกด้วย
  • การหย่อนโคมไฟลงใต้น้ำควรคำนึงถึงแรงกดอากาศด้วย ยิ่งหย่อนลงลึกเท่าไหร่แรงกดอากาศจะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น (แนะนำควรใช้งานไม่เกินความลึกที่2เมตร)
  • คุณสมบัติไฟตกหมึกใต้น้ำ 15W 12V แสงสีเขียว
  • -หลอด LED สีเขียว ความสว่าง 900 Lumens
  • -ใช้แรงดันไฟ 12 v 18 Watts.
  • -ประกอบด้วยหลอด LED ทั้งหมด 180 หลอด
  • -ใช้สำหรับล่อปลา ล่อหมึก
  • -การใช้งานหย่อนลงใต้น้ำล่อปลา ปลาหมึกใต้น้ำ ใต้ท้องเรือ
  • สายยาว 5 เมตร
สั่งซื้อ https://bit.ly/2VBceGl

 
#10817


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัวโครงการ " Sustainability in Action ยั่งยืนได้ ด้วยมือเรา" รวมพลังพนักงานทั่วประเทศ มีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม นำร่องกิจกรรมปลูกต้นไม้ และ บริโภคอาหารอย่างรู้คุณค่า ไม่เหลือทิ้ง ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟในฐานะบริษัทผลิตอาหารและเป็นผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ร่วมสร้างความยั่งยืน โดยดำเนินธุรกิจใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ" Sustainability in Action ยั่งยืนได้ ด้วยมือเรา" เพื่อให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน ลงมือทำในระดับบุคคล ผ่านกิจกรรม "กล้าจากป่า พนาในเมือง" นำต้นไม้ไปปลูกที่บ้าน และ กิจกรรม "กินเกลี้ยง เลี้ยงโลก" บริโภคอาหารให้หมดจาน ไม่ให้เกิดขยะเหลือทิ้ง สอดรับตามนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs)

"ซีพีเอฟมุ่งหวังว่าความร่วมมือของพนักงานในองค์กร จะเป็นพลังในการส่งต่อโครงการดีๆ จากภายในไปสู่ภายนอก เป็นต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลสำเร็จในระดับของภาคประชาชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน " นายประสิทธิ์ กล่าว


สำหรับกิจกรรม "กล้าจากป่า พนาในเมือง" (Forest in the City) เป็นโครงการระยะ 5 ปี ( ปี 2564-2568) ที่ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น จากต้นกล้าที่เพาะโดยชุมชน เป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมรักษาป่า และเกิดการจ้างงานชุมชนในการเพาะกล้าพันธุ์ไม้ โดยบูรณาการกับโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าของซีพีเอฟ คือ โครงการ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง จ.ลพบุรี และ โครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน ซึ่งมีทั้งไม้เศรษฐกิจ อาทิ พะยูง ยางนา พยอม มะค่าโมง แดง ตะเคียนทอง พฤกษ์ และไม้กระถางที่สามารถดักฝุ่น PM 2.5 อาทิ ลิ้นมังกร โกศลแผ่นดินทอง เสน่ห์จันทน์แดง ไทรใบสัก เป็นต้น

ส่วนกิจกรรม "กินเกลี้ยง...เลี้ยงโลก" (Empty Plate...Save the Planet) เป็นโครงการระยะ 5 ปี ที่มีเป้าหมายร่วมลดปริมาณขยะอาหาร 100,000 จาน หรือ 720 กิโลกรัม ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 18,200 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยโครงการฯจัดทำ เพจกินเกลี้ยง เลี้ยงโลก เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับขยะอาหารและการกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในการลดปริมาณขยะอาหารและขยะสู่หลุมฝังกลบ

นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟตระหนักดีถึงการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่ดีของประเทศ(Good Corporate Citizen) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้บริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนได้ประกาศความมุ่งมั่นไม่ตัดไม้ทำลายป่า มุ่งสู่เป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ สอดรับกลยุทธ์ความยั่งยืนปี 2030 และสนับสนุนเป้าหมาย SDGs 17 ประการ./
#10821


"วัคซีน" ยังคงเป็นประเด็นใหญ่ที่คนไทยให้ความสนใจ ทั้งการจัดหาวัคซีนยี่ห้อต่างๆ เมื่อได้วัคซีนมาแล้วการกระจายแจกจ่ายฉีดให้กับประชาชนมีการจัดสรรอย่างไร และการฉีดให้ประชาชนมีความรวดเร็ว ครอบคลุมแค่ไหน ส่วนการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าเกิดจากอะไร แม้กระทั่งประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนจากนานาประเทศเพื่อนำมาฉีดให้กับ "บุคลากรทางการแพทย์" ซึ่งเป็น "ด่านหน้า" กลับถูก "ทวงถาม" จากบุคคลเหล่านั้น 

การบริหารจัดการวัคซีนของภาครัฐที่ยังไม่ถูกใจประชาชนหลายภาคส่วน เกิดมีข้อกังขามากมาย ล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 1,503,450 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับมีกระแสข่าวการจับฉลากได้ฉีดวัคซีน จำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรคไม่สอดคล้องกับบุคลากร เป็นต้น  

ทั้งนี้  ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม​ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า ...

"โดนเทซ้ำซาก....ที่ธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ร่วมต่อสู้โควิด-19มาตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้วโดยประกาศจัดตั้งรพ.สนามเป็นแห่งแรกของประเทศ เราได้ร่วมต่อสู้มาทุกระลอก จนปัจจุบัน เรามีรพ.สนาม ที่ดูแลเคสสีเหลืองกว่า400เตียง ที่เตียงเต็มตลอด มีรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติที่ดูเคสสีแดงกว่า100 เตียงซึ่งเตียงก็เต็มตลอด เราตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนที่ฉีดวันละ2-3พันคนต่อวัน มียอดคนฉีดกับเราไปแล้วกว่า1แสนคน มีจัดตั้ง Home isolation ที่มีผู้ป่วยในการดูแลกว่า 1,000 คน

แต่ในวันนี้เราได้รับการจัดวัคซีนไฟเซอร์มาเพียง 60% ของที่ขอไป ทั้งที่ ยอดนี้ลดลงกว่าครึ่งในตอนแรกเพราะฉีดเข็ม3ด้วย Az ไปแล้วเพราะไม่เชื่อใจในการบริหารวัคซีนของรัฐบาล ทั้งที่เราส่งชื่อรายชื่อไปใหม่เป็นบุคลากรด่านหน้าที่จำเป็นต้องได้เท่านั้นตามข้อบ่งชี้ที่กระทรวงกำหนดซึ่งส่วนใหญ่คือแพทย์และพยาบาล......" 




พร้อมกันนี้ นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยอย่าง "ปิติ ภิรมย์ภักดี" ผู้บริหารและทายาทของเครือบุญรอดบริวเวอรี่ หรือค่ายสิงห์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน ความว่า..

"ผมว่าจะไม่ลงละนะ แต่สงสารคนไทย

ศบค.พูดโคตรชัดว่าวัคซีนทำให้จำนวนคนตายลดลง

แล้วทำไมถึงเลื่อน ทำไมถึงฉีดไม่ได้ตามเป้า วัคซีนหายไปไหน รักกันมากๆหน่อยสิ

เตือนไว้ก่อนด่ามาจะด่ากลับ หมดความอนทนแล้วเหมือนกัน

ไม่ต้องชื่นชมหรือมาซื้อของบริษัทผม ผมแค่ทำหน้าที่คนไทยคนนึงที่อยากเห็นสิ่งที่ดีขึ้น"

นอกจากนี้ ยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์ครั้งนี้เพื่อเสียสละเป็นกระบอกเสียงให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั่นเอง 


"ด่านหน้าต้องจับฉลากเพื่อจะได้ฉีด บางโรงพยาบาลใช้วิธีผสมน้ำเพื่อให้ครบคน ผมขอสละตัวเองเป็นกระบอกเสียงให้พวกเค้าครับ และเมื่อผมเอาจริงคือเอาจริง"

อย่างไรก็ตาม ปิติ ได้ย้ำการโพสต์ข้อความดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือบุคคลอื่นในครอบครัวแต่อย่างใด 

"ผมมาจากครอบครัวใหญ่ครับ ทุกอย่างที่ผมเขียนหรือพูดไป ผมรับผิดชอบตัวเองได้ครับ ไม่เกี่ยวกับบริษัทหรือคนอื่นในครอบครัว"

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าว มีคนไลก์กว่า 1.7 หมื่นไลก์(Like) แสดงความคิดเห็น(Comment)กว่า 1,000 และแชร์โพสต์ไปแล้วกว่า 1,600 แชร์ (ณ เวลา 09.36 น.) โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยถึงความกล้าในการออกมาแสดงความคิดเห็นท่ามกลางช่วงวิกฤติโรคระบาด เพราะทุกฝ่ายต่างต้องการให้สถานการณ์ดีขึ้น และการบริหารจัดการวัคซีนดี มีประสิทธิภาพ 
#10822


รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้กับประชาชนในราวปีหน้า โดยได้สั่งจองวัคซีน "โนวาแวกซ์" และ "โมเดอนา" เตรียมไว้แล้ว

นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องวัคซีนโควิดของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้เจรจาเพื่อสั่งจองวัคซีนโมเดอนาเพิ่มเติมอีก 50 ล้านโดส และวัคซีนโนวาแวกซ์ 150 ล้านโดส โดยจะส่งมอบในต้นปีหน้า

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังติดตามตัวอย่างของประเทศต่าง ๆ ที่ฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มเติมให้ประชาชน เช่น อิสราเอลที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนเยอรมนี สวีเดน และอังกฤษก็เตรียมจะทำเช่นเดียวกันในราวเดือนกันยายน

รัฐบาลญี่ปุ่นจะตัดสินใจว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือไม่ โดยรวบรวมผลการทดลองทางคลินิกในต่างประเทศ ทั้งเรื่องกลุ่มคนที่จำเป็นต้องรับวัคซีนกระตุ้น และการใช้วัคซีนจากต่างบริษัทกับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 ซึ่งในญี่ปุ่นใช้วัคซีนของไฟเซอร์ และโมเดอนาเป็นหลัก



ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนโควิดในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้ผู้สูงอายุราว 80.0% ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว แต่คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมากที่สุดในขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มให้กับประชาชนทุกคนได้ภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ปีนี้ และกำลังติดตามผลข้างเคียงของวัคซีน รวมทั้งประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์

บริษัทโมเดอนาได้ระบุเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า วัคซีนของตนสามารถคงภูมิคุ้มกันได้ที่ระดับ 93% นาน 6 เดือนหลังฉีดเข็มที่ 2 พร้อมชี้ว่าอาจมีความจำป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อการปกป้องไวรัสกลายพันธุ์หลังจากที่ภูมิคุ้มกันลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม นายทีโดส อัดฮานอม กรีบีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยต่าง ๆ ระงับโครงการฉีดวัคซีนกระตุ้นไว้ก่อนจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เพราะผู้คนหลายล้านคนในประเทศกำลังพัฒนายังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว.
#10823
คิดจะถมที่ ปลูกบ้าน หรือ สร้างโรงงาน ยินดีให้คำปรึกษา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ทิ้งงาน 080-022-3804
#10824
บริการรับถมดิน ทุกชนิด ทุกขนาดแปลง ราคาถูก ตรวจสอบพื้นที่ประมาณราคาฟรี 080-022-3804
#10825
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804 www.mmee2000.com
#10826
ชื่อดีเสริมมงคล เกื้อหนุนให้ประสบความเจริญรุ่งเรืองดังใจหวัง

รับวิเคราะห์ชื่อให้ฟรี !!!!

รับตั้งชื่อ ตั้งชื่อเด็ก เปลี่ยนชื่อ หาชื่อมงคล
ใช้ทั้ง 3 ศาสตร์ คือตามหลักทักษา เลขศาสตร์ อายตนะ

ตามความเชื่อแบบไทย "ชื่อ" เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะไม่เพียงจะเป็นคำที่ใช้แทนตัวเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้คุณให้โทษแก่เราอีกด้วย ดังนั้นการ "ตั้งชื่อ" ให้แก่เด็กหรือแม้แต่เปลี่ยนชื่อให้ตัวท่านเอง ต้องทำตามตำราจึงจะเป็นมงคล

การตั้งชื่อมงคลให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ตามเงื่อนไขของทุกศาสตร์ทุกตำรา เพื่อจะได้ชื่อดี ๆ สักชื่อนึงไม่ง่ายเลย ต้องมีการวิเคราะห์ชื่อแยกแยะอักขระ คำนวณวิเคราะห์ร้อยชื่อพันชื่อหากโชคดีอาจได้มาสักชื่อนึงก็เป็นได้ ได้ชื่อแล้วจะต้องดูผลคำทำนายรวมกับนามสกุลอีก ใช้แต่ละศาสตร์กลั่นกรองชื่อ แต่ละชื่อใช้เวลาในการคำนวณพอสมควร

ค่าครูในการตั้งชื่อ 299 บาท (จากปกติ 599 บาท) ท่านจะได้รับ

รับชื่อมงคล 2-3 ชื่อ มีคำอ่านและคำแปลของชื่อ
วิเคราะห์ชื่อใหม่ให้ทั้ง 3 ศาสตร์ ไม่ว่าหลักทักษา หลักเลขศาสตร์ หลักอายตนะ
ชื่อที่ได้รับจะผ่านการทำพิธีเสริมดวง เสริมมงคลให้ด้วย
ฤกษ์ในการเปลี่ยนชื่อ
พิธีกรรมที่ส่งเสริมการใช้ชื่อใหม่ ให้เกิดความเป็นสิริมงคล

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม วิเคราะห์ชื่อฟรี ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662
id line : teerapat999

เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/3
  
#10827


อว. เผย 10 สถิติในเวลาที่ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 20 ล้านโดส เร็วขึ้น 3.4 เท่า สูงสุดเกินวันละ 670,000 โดส

วันนี้ (10 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว เป็นจำนวนถึง 20 ล้านโดส โดยใช้เวลาเพียง 36 วันในการฉีด 10 ล้านโดสหลังนี้

พร้อมเปิด 10 สถิติสำคัญ ดังนี้

1. ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วมากกว่า 20 ล้านโดส โดย 10 ล้านโดสแรกใช้เวลา 124 วัน แต่สิบล้านโดสหลังใช้เวลาเพียง 36 วัน (เร็วขึ้นกว่า 3.4 เท่า) ขณะนี้มีประชากร 23.9% ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม และมี 6.7% ที่ฉีดครบสองเข็ม นอกจากนี้ 0.3% ได้รับวัคซีนเข็มสามแล้วโดยเป็นบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข

2. ใช้วัคซีนโควิด-19 จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ซิโนแวค (48.77% ของจำนวนโดส), แอสตร้าเซนเนก้า (43.95%) ซิโนฟาร์ม (7.00%) และไฟเซอร์ (0.28%) แต่ในแง่จำนวนคนนั้น มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนกามากกว่าซิโนแวก 1.5 ล้านคน

3. ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ในไทยแล้ว 6 ชนิด และอยู่ระหว่างดำเนินการขึ้นทะเบียนอีก 2 ชนิด

4. จำนวนการฉีดวัคซีนมากที่สุดเกิน 670,000 โดสต่อวัน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564

5. จังหวัดภูเก็ต ได้ฉีดวัคซีนโควืด-19 ครอบคลุมประชากรมากที่สุด โดย 75.9% ของคนภูเก็ตได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม และ 59.2% ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว ส่วนกรุงเทพมหานครได้รับวัคซีนแล้ว 70.2% ของประชากร โดย 14.9% ฉีดครบสองเข็มแล้ว ทั้งนี้ทั้งสองจังหวัดมีการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มากกว่า 80% แล้ว สำหรับจังหวัดที่ฉีดวัคซีนให้กับผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเกิน 80% แล้วคือ จังหวัดสมุทรปราการ

6. ประเทศไทยมีจำนวนการฉีดวัคซีนจำนวนเป็นอันดับ 4 ในอาเซียน และร้อยละการครอบคลุมประชากรเป็นอันดับที่ 5

7. ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นอันดับที่ 27 ของโลกในแง่จำนวนโดส

8. ประเทศไทยมีวัคซีนโควิด-19 แล้วมากกว่า 30 ล้านโดส ได้แก่ แอสตราเซนเนกา 12.8 ล้านโดส ซิโนแวก 12.5 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 5 ล้านโดส และ ไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส โดยได้รับบริจาควัคซีนจาก จีน 1 ล้านโดส (ซิโนแวก) ญี่ปุ่น 1.05 ล้านโดส (แอสตราเซนเนกา) สหราชอาณาจักร 0.42 ล้านโดส (แอสตราเซนเนกา) และสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส (ไฟเซอร์)

9. วัคซีนสามารถลดการเสียชีวิต โดยผลการวิเคราะห์ผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวน 819 ราย มี 74.5% ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และมีเพียง 2 รายที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว

10. วัคซีนที่วิจัยและพัฒนาโดยคนไทยอย่างน้อย 4 ชนิดกำลังทดสอบในมนุษย์ ได้แก่ วัคซีน ChulaCov19 พัฒนาโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, วัคซีน HXP-GPOVac พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยมหิดลและองค์การเภสัชกรรม, วัคซีน COVIGEN พัฒนาโดยบริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด และวัคซีน Baiya SARS-CoV-2 Vax 1 พัฒนาโดยบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัดและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
#10829
น้ำมันว่านจูงนาง   ใส่ตะกรุดนะเมตตามหานิยม ให้ทุกขวด  ขวดละ 399 บาท


 หุงด้วย น้ำมันบารมีครู 108 มหามงคล (น้ำมันแช่เหล็กไหลไพลดำ น้ำมันว่านไก่แดง น้ำมันว่าน 108 น้ำมันเกราะเพชร น้ำมันจักรพรรดิ น้ำมันชาตรี มวลสารมหามงคล 108 รัตนชาติฐานรองพระธาตุพระสีวลี )  

ช่วยในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์และโชคลาภ

คาถากำกับ     ปาสุอุชา จิตตังภิกขิรินิเม    ท่อง  9 จบ

แล้วอธิษฐานใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ว่านจูงนางนักเลงชาย หญิง แต่โบราณ ชอบสาว ชอบหนุ่มใด มักจะเอาดอกเอาต้นว่านไปแช่น้ำมันจันทร์บ้างน้ำมันเสน่ห์ต่างๆหรือผสมกับสีผึ้งใช้ติดตัวทางปาก ทาหน้าทางมือ เพราะมีความเชื่อว่าว่านจูงนางนี้มีพลังเสน่ห์เมตตามหานิยมรุนแรง ต่อเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน ชักจูงได้ง่าย ทำให้อีกฝ่ายคล้อยตามง่าย เชื่อง่าย และยังกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายให้เกิดความหลงใหลได้อย่างง่ายดาย และว่านจูงนางนี้ยังสามารถช่วยให้เจรจาค้าขายกับผู้คนต่างๆอย่างได้ผลพ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจมักมีติดตัวไว้ใช้กัน

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย

หรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
 https://www.lazada.co.th/products/-i1162308605-s2732826682.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store