• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - deam205

#3761
ข้าวออแกนิคคือ  ข้าวกล้องออร์แกนิคส่งทั่วไทย   ข้าวอินทรีย์กรมการข้าว โครงการข้าวปลอดสาร    สถานการณ์ข้าวปลอดสารไทย   พันธุ์ข้าวปลอดสาร  ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 

การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( การผลิตข้าวออร์แกนิค
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม เครือข่ายข้าวออร์แกนิคสุรินทร์
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์ เส้นทางผลิตข้าวออร์แกนิคสุรินทร์  

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique การผลิตข้าวอินทรีย์ต้นทุนต่ำ

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 
 
#3762


ในยุคที่ผู้คนใช้เครื่องมือสื่อสารในชีวิตประจำวันจนคล้ายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้ว ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงเวลาเข้านอน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ในภาวะที่การเดินทางระหว่างประเทศก็เป็นไปได้ยาก บางรายอาจไม่ทราบวิธีการเข้าถึงข้อมูลด้านการค้า ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน การมีข้อมูลที่มากกว่าจะช่วยให้เราสามารถวางแผน ตัดสินใจ และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

DITP Overseas เป็นบริการของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) พร้อมจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ โดยรวบรวมข้อมูลความรู้ด้านการค้า และเทรนด์สินค้าใหม่ๆ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 32 แห่ง ใน 6 ภูมิภาคซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกา ลาตินอเมริกา ภูมิภาคยุโรป และCIS ภูมิภาคแอฟริกา และตะวันออกกลาง

โดยข้อมูลของ DITP Overseas เหล่านี้ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ ย่อย และนำเสนอให้เข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้น ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเอกสารข้อมูล ภาพ เสียง และโมชั่นกราฟฟิก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้พิจารณาปัจจัยแวดล้อมของแต่ละตลาดสินค้าที่สนใจ สร้างโอกาสและต่อยอด เพื่อประโยชน์ด้านการค้าของตนเองต่อไป

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กำลังพัฒนาคู่มือการค้าของทั้ง 27 ประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจตลาดใน 6 ภูมิภาคนี้ ช่องทางในการค้นหาข้อมูลการค้าได้สะดวก โดยสามารถกรอกรายละเอียดเพื่อสมัครสมาชิก และรับข่าวสารกิจกรรมด้านการค้าและรับสิทธิในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทางการค้าจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 32 แห่งได้ง่ายๆ ในรูปแบบกิจกรรมสัมมนาออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญตลาดการค้าในแต่ละประเทศ หรือกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์

โดยระบบการจัดเก็บรายชื่อดังกล่าว ยังช่วยเอื้อประโยชน์ให้สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกิจของผู้ประกอบการไทย และสามารถนำเสนอข้อมูลต่อไปยังผู้ซื้อในต่างประเทศที่สนใจได้โดยตรงอีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลสำคัญด้านการค้าเหล่านี้ได้ ผ่านช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์มได้ทาง

FB: DitpOverseas https:// www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube: DITP Overseas
Website: https:// ditp-overseas.com/
#3763


มาแรงในชั่วข้ามคืนสำหรับ 5 บิวตี้ไอเท็มใหม่จาก Burt's Bees (เบิร์ต บีส์) ผู้นำผลิตภัณฑ์จากส่วนผสมธรรมชาติยอดนิยมอันดับหนึ่งจากอเมริกา ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง และอเมริกา พร้อมเสิร์ฟความสวยให้สาวไทยเป็นเจ้าของลิปบาล์ม 2 รสชาติใหม่! สไตล์ทรอปิคัล มาพร้อมทินท์ลิปบาล์ม 2 เฉดสีที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันอันสวยงามของดอกไม้ และมิราเคิลบาล์มสูตรใหม่! หนึ่งในไอเท็มยอดนิยมในตำนานสำหรับทุกคนในครอบครัว

ในยุคที่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ทำให้หลายคนก็มีปัญหาปากแห้งลอก ปากแตก และปากคล้ำ ซึ่งเกิดจากการเสียดสีของหน้ากากอนามัย หรือการใช้ลิปที่มีส่วนผสมของสารเคมี ตัวการที่ทำให้ริมฝีปากแห้ง ปากลอก ปากคล้ำ ทาลิปสติกแล้วสีตกร่องและปากลอกเป็นขุย คืนความมั่นใจให้ริมฝีปากเนียนสวยด้วย Burt's Bees Lip Balm 2 รสชาติใหม่! มีส่วนผสมของ 'บีส์แว็กซ์' (Beeswax) ธรรมชาติ 100% มาพร้อม Tinted Lip Balm 2 เฉดสีใหม่! ลิปบาล์มมีสีจากธรรมชาติ 100% ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันของดอกไม้ ปราศจากพาราเบนส์ พาทาเลตส์ ปิโตรเลียมเจลลี่ และสารเคมีอันตรายทุกชนิด

อีกหนึ่งปัญหากวนใจในช่วงฤดูฝน คือยุงร้ายและแมลงสัตว์กัดต่อย ทำให้เกิดผดผื่น แดง คัน และผิวคล้ำจากการเกา เบิร์ต บีส์ พัฒนา Res-Q Tin with Cica สูตรใหม่! บาล์มอเนกประสงค์สำหรับทุกคนในครอบครัว ให้คุณสนุกกับทุกกิจกรรมได้อย่างมั่นใจ และเป็นไอเท็มขายดีตลอดกาลที่หลายคนชื่นชอบ



Sweet Mandarin Lip Balm ขนาด 4.25 กรัม ราคา 280 บาท เติมความสดชื่นให้ริมฝีปากหอมกลิ่นเปรี้ยมอมหวาน ด้วยลิปบาล์มจากส่วนผสมธรรมชาติแท้ 100% อัดแน่นด้วยส่วนผสมของส้มแมนดารินและเชียบัทเทอร์ ช่วยปกป้องพร้อมบำรุงริมฝีปากให้สุขภาพดี พร้อมบำรุงล้ำลึกด้วยบีส์แว็กซ์สูตรลับของ Burt's Bees ให้ริมฝีปากเรียบเนียน นุ่มละมุน และชุ่มชื่นตลอดวัน ปราศจากพาราเบนส์ พาทาเลตส์ ปิโตรเลียมเจลลี่ และสารเคมีอันตรายทุกชนิด



Watermelon Lip Balm ขนาด 4.25 กรัม ราคา 280 บาท ลิปบาล์มลิมิเต็ด เอดิชั่นจากส่วนผสมธรรมชาติแท้ 100% เอาใจคนรักผลไม้เมืองร้อนด้วยรสชาติหวานฉ่ำและสดชื่นสไตล์ Watermelon พร้อมส่วนผสมของโคโคนัทออยล์และบีส์แว็กซ์ ช่วยบำรุงพร้อมปกป้องริมฝีปากให้เนียนสวย ชุ่มชื่น และสุขภาพดีอยู่เสมอ ปราศจากพาราเบนส์ พาทาเลตส์ ปิโตรเลียมเจลลี่ และสารเคมีอันตรายทุกชนิด



Tinted Lip Balm – Magnolia ขนาด 4.25 กรัม ราคา 590 บาท เติมเสน่ห์ให้ลุคสวยสง่างาม ด้วยลิปบาล์มมีสีชมพูสวยจากส่วนผสมธรรมชาติแท้ 100% ที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกแมกโนเลีย และ Tinted Lip Balm – Daisy ขนาด 4.25 กรัม ราคา 590 บาท เพิ่มลุคมั่นใจด้วยลิปบาล์มมีสีแดงสวย ที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกเดซี่ อุดมด้วยส่วนผสมช่วยบำรุงริมฝีปากจากแว็กซ์ธรรมชาติ 2 ชนิด คือ 'บีส์แว็กซ์' และ 'ฟลาเวอร์แว็กซ์' จากดอกอิลัง อิลัง (กระดังงา) และจัสมิน (มะลิ) เพิ่มความชุ่มชื่นถึงขีดสุดด้วยเชียบัทเทอร์จากต้น Kartie ผสานพลังกับวิตามินอีให้ริมฝีปากนุ่มละมุนชุ่มชื่นนาน 8 ชั่วโมง พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่น ให้ริมฝีปากเรียบเนียน ชุ่มชื่น และสุขภาพดีอยู่เสมอ ปราศจากพาราเบนส์ พาทาเลตส์ ปิโตรเลียมเจลลี่ และสารเคมีอันตราย ทุกชนิด



Res-Q Tin with Cica ขนาด 17 กรัม ราคา 520 บาท มิราเคิลบาล์มจากธรรมชาติแท้ 100% อุดมด้วยส่วนผสมอันทรงประสิทธิภาพจากลาวันดิน (พืชตระกูลเดียวกับลาเวนเดอร์) บรรเทาอาการอักเสบจากพิษแมลงสัตว์กัดต่อย บรรเทาอาการฟกช้ำ และป้องกันการเกิดแผลเป็นจากรอยขีดข่วนได้อย่างดี พร้อมส่วนผสมของ Cica หรือ 'ใบบัวบก' ที่เปี่ยมสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยลดการอักเสบของผิวและรอยแดง ผสานพลังกับโคโค่บัทเทอร์ช่วยให้ผิวนุ่มละมุน ชุ่มชื่น ไม่ทำให้เกิดรอยดำและแผลเป็นหลังการใช้

สารสกัดจากชิโกนิน ช่วยลดการอักเสบ บวมแดง และให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว
สารสกัดจากคอมฟรี่และอาลันโทอิน ช่วยต้านการอักเสบของผิวผสาน
ลาวันดิน (พืชตระกูลเดียวกับลาเวนเดอร์) บรรเทาความเจ็บและลดการระคายเคือง ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็น
สารสกัดจาก Cica (ใบบัวบก) ช่วยลดการอักเสบของผิวและรอยแดงได้อย่างดี
บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ ด้วยกลิ่นหอมจากพืชธรรมชาติแท้ 100%
กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ธรรมชาติ ช่วยผ่อนคลายความเครียดและช่วยให้หายใจโล่งขึ้น
เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและสบายผิวทันที
อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ผิวแพ้ง่าย และผิวไวต่อการระคายเคือง
เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว และสะดวกสำหรับการพกพา
ปราศจากพาราเบนส์ พาทาเลตส์ ปิโตรเลียมเจลลี่ และสารเคมีอันตรายทุกชนิด



เริ่มต้นดูแลริมฝีปากและผิวพรรณอย่างถูกวิธี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติแท้ของเบิร์ตส์ บีส์ (BURT'S BEES) เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและช่วยให้คุณสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ได้แล้ววันนี้ที่ www.burtsbees.co.th และ LINE Official Account: @burtsbeesth
#3764


นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงาน 1 ปี "ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs" หรือ บสย. F.A. Center ประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย ให้คำปรึกษาช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจ จากสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังขาดเงินทุนหมุนเวียน ต้องการสินเชื่อ มีปัญหาหนี้ ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ และพัฒนาธุรกิจ ให้สามารถยืนต่อได้ จำนวน 1,133 ราย (ณ 31 ก.ค. 2564) ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการขอสินเชื่อ จำนวน 782 ราย ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ธุรกิจ จำนวน 200 ราย และต้องการปรับปรุงธุรกิจ จำนวน 151 ราย



ปัจจัยความสำเร็จของศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs มาจากกลยุทธ์ คิดนอกกรอบ ยกระดับการบริการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจาก "นายประกันสู่ ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs" ที่มองเห็นปัญหาร่วมกัน ผสานนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ ด้วย Business Model ที่ต่างไปจากเดิม โดย บสย. ได้จัดหาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน อดีตผู้บริหารระดับสูง ที่มีประสบการณ์จากสถาบันการเงินชั้นนำ คร่ำหวอดด้านการวิเคราะห์ธุรกิจผู้ขอสินเชื่อ การจัดทำบัญชีวิเคราะห์สินเชื่อ การวางแผนการเงิน บริหารสภาพคล่อง การบริหารจัดการหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมดีไซน์ รูปแบบการให้คำปรึกษาธุรกิจแบบเชิงลึก แบบเฉพาะตัว เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังประสบปัญหากู้ยาก ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ แก้โจทย์ธุรกิจ ปัญหาขาดสภาพคล่อง ได้เข้าใจปัญหาที่แท้จริงและนำไปปรับปรุง วางแผนและพัฒนาธุรกิจของตนเองต่อไปได้ โดยศูนย์แห่งนี้ยังได้เปิดหลักสูตรอบรมด้านการเงินและธุรกิจ ที่เหมาะกับธุรกิจทุกขนาดทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ มากกว่า 50 หลักสูตร อาทิ ด้านธุรกิจ กฎหมาย การเงิน บัญชี การเตรียมตัวกู้เงิน ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ผ่านวิกฤต อย่างมั่นใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs เป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้ารับคำปรึกษาว่าสามารถช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้ นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานพันธมิตร หน่วยงานด้านกำกับดูแล ที่เกี่ยวข้องกับ SMEs และคณะผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าศึกษาดูงาน ในฐานะศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงิน SMEs แบบองค์รวม เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ด้านการให้คำปรึกษาทางการเงิน ช่วยผู้ประกอบการแก้หนี้ได้จริง ทั้งนี้ ได้เตรียมยกระดับการให้บริการ "ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs" โดยผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อร่วมให้คำปรึกษาแก้หนี้ เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs รอดพ้นจากวิกฤตโควิด-19 ให้มากที่สุด

ผู้ประกอบธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาหนี้ สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษาฟรีกับ "บสย. F.A. Center" ที่ บสย. Call Center 0 2890 9999 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือติดต่อได้ที่สำนักงานเขต บสย. ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ หรือติดตามกิจกรรมการจัดหลักสูตรอบรมได้ที่หมอหนี้ บสย. ที่ Line @doctor.tcg และ www.facebook.com/tcg.or.th
#3765
เสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ด้วยสินเชื่อบุคคล Speedy Loan ธนาคารไทยพาณิชย์ครับ

ยินดีให้บริการสินเชื่อบุคคล Speedy Loan สำหรับเจ้าของกิจการ จากธนาคารไทยพาณิชย์ครับ 
- ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
- หากอนุมัติแล้วรับเงินสดโอนเข้าบัญชีธนาคาร วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้รวม
- วงเงินอนุมัติเริ่มต้น 20,000 -  5,000,000 บาท
- ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน
- อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น 9.99% - 25% ต่อปี คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 

คุณสมบัติ พนักงานประจำ
 รับรายได้รวม 30,000 บาทขึ้นไป
 เอกสารประกอบการสมัคร 
1. สำเนาบัตรประชาชน 
2. สำเนาสลิปเงินเดือนล่าสุด หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
3. สเตทเม้นย้อนหลัง 3-6 เดือน 
4. หน้าบัญชีรับโอนเงิน

คุณสมบัติ เจ้าของกิจการ
เงินหมุนเวียนบัญชีต่อเดือน 300,000 บาทขึ้นไป
 เอกสารประกอบการสมัคร 
1. สำเนาบัตรประชาชน 
2. ทะเบียนการค้า/หนังสือรับรอง หจก. / บจก. (จดทะเบียนครบ 1 ปี)
3. สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน 
4. หน้าบัญชีรับโอนเงิน
นดีให้คำปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัครครับ
ID line : 0624959144
Tel : 0624959144 ( นิรวิทย์ ครับ)

Facebook :: https://bit.ly/3yPJCaH




#3766

 
วันนี้(14 ส.ค. 2564)​ นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงสิทธิประโยชน์และเงินทดแทนการขาดรายได้ จากกองทุนประกันสังคมในกรณีป่วยโควิด-19 แยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation ว่า สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายบริการทางการแพทย์แก่สถานพยาบาลและแพทย์ผู้ดูแลรักษาพิจารณาแล้วว่าผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การดูแลรักษาในที่พักระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยใช้หลักเกณฑ์การจ่ายประเภทผู้ป่วยใน ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์


นอกจากนี้เมื่อผู้ประกันตนกรณีโรคโควิด-19 สามารถขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลที่รับผิดชอบการรักษาได้ หรือบันทึกภาพหน้าจอจาก Application Line หรือโปรแกรมอื่นใด ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับสถานพยาบาลที่รับการรักษาผู้ประกันตนในสถานที่กักตัว หรือสถานที่ดูแลรักษา และสำเนาเวชระเบียนที่ได้จากการบันทึกหน้าจอจาก Application Line หรือโปรแกรมอื่นๆ โดยมีรายละเอียดระบุวันที่เริ่มรักษา จนสิ้นสุดการรักษา รวมไปถึงการให้หยุดพักรักษาตัวต่อ เพื่อใช้ประกอบการเบิกเงินค่าทดแทนการขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคม

โฆษก สปส. กล่าวด้วยว่า สำหรับเงื่อนไขการเบิกค่าทดแทนการขาดรายได้นั้น ผู้ประกันตนต้องมีการนำส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนใช้สิทธิ และพิจารณาตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน คือกรณีผู้ประกันตนลาป่วย 30 วันแรกรับค่าจ้างจากนายจ้าง หากมีความจำเป็นต้องหยุดพักรักษาตัวนานเกินกว่า 30 วัน ผู้ประกันตนสามารถเบิกสิทธิประโยชน์กรณีขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมได้ ตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วยเป็นต้นไป ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง (จ่ายครั้งละไม่เกิน 90 วัน 1 ปีปฏิทิน แต่ไม่เกิน 180 วัน) ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถยื่นเบิกขาดรายได้ภายใน 2 ปี เมื่อรักษาหายจากอาการเจ็บป่วยแล้ว ให้ติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่สำนักงานประกันสังคมได้ทุกแห่งทั่วประเทศตามที่ท่านสะดวก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
#3767


นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์  กล่าวว่า  นอกจากมาตรการช่วยเหลือขั้นต่ำตามประกาศของธปท.โดยการพักชำระหนี้ 2 เดือน ที่ผ่านมา ทางธนาคารยังมีมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ให้คำปรึกษาและพิจารณาร่วมกับลูกค้าในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถดำรงชีพได้ในระยะยาว

รวมถึงในช่วงที่ผ่านมา ทางธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารจะประเมินลูกค้าตามสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ เช่น ข้อมูลความเสี่ยง การคาดการณ์กระแสเงินสดใหม่ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจ จากนั้น ธนาคารจะกำหนดแพ็คเกจการช่วยเหลือที่เหมาะสมกับลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การปรับอัตราการผ่อนชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย การปรับดอกเบี้ยเป็นขั้นบันได (step-up rates) เป็นต้น

รายงานข่าวจากธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. - 10 ส.ค. 2564 มีลูกค้าสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย (sSME) ลงทะเบียนเพื่อเข้ามาตรการพักหนี้ 2 เดือน จำนวน 262,451 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 108,937 ล้านบาท  ทั้งนี้ ธนาคารก็ยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับลูกค้าทุกกลุ่มด้วยมาตรการที่เหมาะสมอย่างตรงจุด

"แอลเอชแบงก์ คุยลูกค้าทุกราย ย้ำช่วยตรงจุด"  

รายงานข่าวจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH BANK พบว่า  จำนวนลูกค้าที่ขอพักหนี้ตามมาตรการล่าสุด ที่ธนาคารให้พักหนี้ 3 เดือน มากกว่ามาตรการธปท.ให้ 2 เดือน มีจำนวน 49 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 3,400 ล้านบาท ซึ่งธนาคารอนุมัติทุกราย

ประกอบกับตอนนี้ธนาคารยังมีมาตรการช่วยเหลือตามมาตรการ premtive ของธปท. อยู่แล้ว เช่น ลดค่างวดจ่ายเท่าที่มีความสามารถจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยพักเงินต้น จ่ายดอกเบี้ยบางส่วน พักเงินต้น พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารจะคุยกับลูกค้าทุกรายเพื่อช่วยเหลือได้ตรงประเด็นในระยะยาว 
#3768


การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมันกำลังเล่นงานอย่างหนักรัฐต่างๆ อย่างเช่น ฮาวายและออริกอน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยประสบความสำเร็จควบคุมโรคระบาดใหญ่และมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปประเทศ ส่งให้เวลานี้ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทั่วประเทศแตะระดับราวๆ 123,000 คนต่อวัน และเสียชีวิต 500 คนต่อวัน

หลายเดือนหลังจากประสบความสำเร็จในการควบคุมเคสผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ เวลานี้หลายรัฐกำลังก้าวถอยหลัง ท่ามกลางจำนวนคนไข้ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สร้างความอ่อนล้าแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่งานล้นมือ

ออริกอน ก็เช่นเดียวกับฟลอริดา อาร์คันซอและลุยเซียนา ที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และสถานการณ์ในฮาวายก็ไม่ต่างกัน

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแม้ว่าออริกอนและฮาวาย มีระดับการฉีดวัคซีนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศจนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนอาร์คันซอและลุยเซียนาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก ขณะที่ฟลอริดามีอัตราการฉีดวัคซีนพอๆ กับค่าเฉลี่ยทั่วประเทศ

"มันใจสลาย ผู้คนเหนื่อยล้า คุณสามารถเห็นมันในดวงตาของพวกเขา" นายแพทย์เจวัน คูห์ล หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์แห่งศูนย์การแพทย์พรอวิเดนซ์ เมดฟอร์ด เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าว และเล่าถึงสภาพที่คนไข้หลายคนถูกทิ้งไว้บนเตียงเคลื่อนที่บริเวณทางเดินของอาคาร และเครื่องมือสำหรับสังเกตอาคารของคนไข้เหล่านั้นส่งสัญญาณดังตลอดเวลา

ไวรัสกำลังถาโถมโจมตีสหรัฐฯ อีกรอบ ผลจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากและอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า โดยเฉพาะในแถบภาคใต้ของประเทศ พื้นที่ชนบทพื้นอื่นๆ และหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่มีแนวคิดอนุรักษนิยม

ปัจจุบัน เคสผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ราวๆ 123,000 คนต่อวัน สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภพันธ์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตค่าเฉลี่ยดีดตัวสู่ระดับ 500 คนต่อวัน ย้อนกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงเดือนพฤษภาคมอีกครั้ง

ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ที่ผ่านมา ฮาวายเป็นหนึ่งในรัฐที่มีอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ แต่ช่วงไม่กี่วันมานี้ พวกเขารายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 600 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด

ในช่วงเวลาเลวร้ายสุดของเมื่อปี 2020 ฮาวายมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาการหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุด 291 คน ทว่าในการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาการหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล น่าจะแตะระดับ 300 คนในสัปดาห์นี้

แม้ผู้คนในรัฐแห่งนี้มีความต้องการฉีดวัคซีนกันค่อนข้างมาก แต่มันใช้เวลาถึง 3 สัปดาห์ นานกว่าที่คาดหมายไว้ ในการเพิ่มจำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วจากระดับ 50% เป็น 60% และนับตั้งแต่นั้นระดับเข้ารับการฉีดวัคซีนก็คงที่ ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วประเทศอยู่ที่ราวๆ 59%

โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดบนเกาะบิ๊กไอส์แลนด์ของรัฐฮาวาย กำลังรู้สึกถึงแรงกดดัน โดยจากเตียงคนไข้ที่ใช้งานจริง 128 เตียงของศูนย์การแพทย์. เมดิคอล เซ็นเตอร์ มีผู้ป่วยครองเตียงแล้ว 116 เตียง และเตียงผู้ป่วยหนัก 11 เตียงของโรงพยาบาลเต็มอยู่เกือบตลอดเวลา จากการเปิดเผยของโฆษก

ฮิลตัน เรียเทล ประธานและซีดีโอของสมาคมดูแลสุขภาพแห่งรัฐฮาวาย กล่าวโทษการแพร่ระบาดหนักหน่วงขึ้นไปที่การฟื้นตัวในด้านการท่องเที่ยวของรัฐแห่งนี้ "นักท่องเที่ยวเป็นแหล่งต้นตอหนึ่งของการแพร่เชื้อ แต่พวกเขาไม่ได้เป็นแหล่งต้นตอหลักของการแพร่เชื้อ มีความกังวลมากมายเกี่ยวกับผู้คนจากฮาวายเอง พวกชาวบ้านที่เดินทางไปยังภาคใต้ ไปยังเวกัส ไปยังสถานที่อื่นๆ และพวกเขากลับมาแพร่กระจายเชื้อไวรัส"

ในออริกอน ผู้ว่าการรัฐเคท บราวน์ แถลงเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ว่า เกือบทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอีกครั้งยามอยู่ในพื้นที่สาธารณะในร่ม โดยไม่พิจารณาสถานะการฉีดวัคซีนของบุคคลนั้นๆ

เมื่อวันพุธ (11 ส.ค.) ถือเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่รัฐแห่งนี้รายงานมีคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดที่ 665 คน หลังจากเคยพุ่งสู่จุดพีกสุด 622 คน ระหว่างเผชิญการแพร่ระบาดระลอกพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่วัคซีนจะเข้าถึงอย่างกว้างขวาง และเวลานี้เตียงไอซียูทั่วทั้งรัฐมีผู้ป่วยครองเตียงแล้วราวๆ 90%

ที่รัฐฟลอริดา ซึ่งผู้ว่าการรัฐรอน เดอซานติส คัดค้านการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากาก คนไข้ล้นห้องฉุกเฉินบางแห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้แพทย์ต้องตัดสินใจส่งคนไข้หลายคนกลับบ้านไปพร้อมกับออกซิเจนและอุปกรณ์สังเกตระดับออกซิเจนแบบพกพา เพื่อเปิดทางให้เตียงว่างสำหรับรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักกว่า

(ที่มา : เอพี)
#3769


นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บ้านปูยังคงบริหารธุรกิจให้เดินหน้าเพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย ภารกิจเคียงข้างคนไทยในยามวิกฤตินี้ก็เดินหน้าควบคู่ไปอย่างต่อเนื่อง ตามเจตนารมณ์ของคุณชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการของบ้านปู ซึ่งร่วมก่อตั้งกองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19 หวยออนไลน์ขึ้น เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือและขวัญกำลังใจให้กับทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้า นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นวิกฤติที่หนักหน่วงที่สุดและมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง บ้านปูได้จัดสรรเงินช่วยเหลือไปกว่า 120 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มโรงพยาบาล

โดย 2 ส่วนหลักมาจากที่เราสนับสนุนงบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อสร้างหอผู้ป่วยวิกฤติระบบการหายใจบ้านปู 2 แก่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา และงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลในกรุงเทพและพื้นที่ใกล้เคียง 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลสมุทรสาคร และสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา


นอกจากนี้ยังสนับสนุนโครงการนำร่อง Telemedicine ให้แก่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มเครื่องพยุงอาการและช่วยชีวิต ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ เครื่องเฝ้าระวังและติดตามสัญญาณชีพ เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง เครื่องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลสระบุรี และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์รักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และมีความพร้อมในการรับมือกับวิกฤติสาธารณสุขที่เกิดขึ้น



สำหรับการช่วยเหลือภาคประชาชน บ้านปูได้ขยายความช่วยเหลือสู่ชุมชนผ่านองค์กรที่เป็นสื่อกลาง เพื่อให้เข้าถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทั่วถึง อาทิ การสนับสนุนเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท แก่โครงการ "ต้องรอด" ของกลุ่ม Up for Thai เพื่อจัดซื้อวัตถุดิบทำอาหารสำหรับโรงครัวชุมชนต่างๆ ในการผลิตอาหารและแจกจ่ายไปยังชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง

และล่าสุด บ้านปูได้สนับสนุนกล่องเราดูแลกัน หรือ Covid Care Box ซึ่งบรรจุเวชภัณฑ์และสิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้าน พร้อมชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง (Rapid Antigen Test) ผ่านเครือข่าย 'เราดูแลกัน' (We Care Network) มูลค่า 5 ล้านบาทอีกทั้งยังสนับสนุนงบประมาณรวม 7 ล้านบาทเพื่อร่วมสร้างเมรุเผาศพรวมถึงสนับสนุนกิจกรรมการฌาปนกิจให้แก่วัดอีก 20 แห่งในพื้นที่สีแดงเข้มอีกด้วย

การช่วยเหลือของบ้านปูในครั้งนี้เป็นหนึ่งในภารกิจภายใต้ "กองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19" มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของบ้านปู 250 ล้านบาท ที่ดำเนินการช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขต่างๆ ทั่วประเทศ

รวมถึงช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเชิงเศรษฐกิจจากโควิด-19 โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ เมื่อเดือนมีนาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน กองทุนมิตรผล-บ้านปูฯ ได้มอบความช่วยเหลือให้กับ 336 หน่วยงาน ใน 38 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 430 ล้านบาท 
#3770


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จัดตั้ง ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน (Community Seed Bank) มีศักยภาพอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชในระยะสั้น ปานกลาง ระยะยาว 20-50 ปี เก็บรักษาตัวอย่างเมล็ดพืชสูงสุด 10,000 ตัวอย่าง ณ สถานีวิจัยลำตะคอง จ.นครราชสีมา ภายใต้การดำเนิน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ผ่านการขับเคลื่อนใน 3 มิติ คือ สำรวจ-อนุรักษ์ วิจัย-นำไปใช้ประโยชน์ และให้บริการชุมชน มุ่งหวังสร้างความยั่งยืนให้ภาคการเกษตรของประเทศ

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ ในส่วนของ สถานีวิจัยลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าร่วมสนองพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) เพื่อดำเนินการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ ภายใต้การดำเนินงานดังกล่าว วว. จึงได้จัดตั้ง ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน (Community Seed Bank) ขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งสำหรับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชแบบนอกถิ่นที่อยู่อาศัย (Ex situ Conservation) โดยการสร้างสภาพแวดล้อมในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ให้คงความมีชีวิตและอยู่ได้นานที่สุด ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชนแห่งนี้ จะเป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชป่าและพืชพื้นเมือง เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชของประเทศไทย โดยจะทำหน้าที่เป็นแหล่งรวบรวมและเก็บรักษาพันธุกรรมพืชที่ดีและพืชที่มีความสำคัญต่องานด้านการอนุรักษ์



"การจัดตั้ง ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน สอดคล้องกับนโยบาย BCG Model ของรัฐบาลซึ่งให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ที่มุ่งเน้นเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและวิจัยเมล็ดพันธุ์ข้าว พืชผัก ในภูมิภาค เพื่อผลักดันระบบการเกษตรไทยสู่การเกษตรยั่งยืนบนความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมต่อยอดการพัฒนาเมล็ดพันธุ์เป็นสินค้าส่งออกในอนาคต ทั้งนี้ วว. เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานของธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน จะช่วยตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม"  ผู้ว่าการ วว. กล่าว



นายมนตรี แก้วดวง ผู้อำนวยการสถานีวิจัยลำตะคอง วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน มุ่งดำเนินงานขับเคลื่อนใน 3 มิติหลัก คือ 

1.การสำรวจและการอนุรักษ์ เก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืช ทั้งพืชป่า พืชพื้นเมือง และพืชป่าใกล้เคียงพืชปลูก รวมทั้งเป็นแหล่งข้อมูลพื้นฐานทางด้านเมล็ดพันธุ์ 

2.การวิจัยและการนำไปใช้ประโยชน์ ศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของพืช ศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านเมล็ดพันธุ์นำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน 

3.การบริการชุมชน ได้แก่ งานบริการรับฝากเมล็ดพันธุ์เพื่ออนุรักษ์ในธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช ทั้งในส่วนของบุคคล ชุมชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชบางชนิดเพื่อการวิจัยและการใช้ประโยชน์ รวมทั้งการให้บริการด้านวิชาการเกี่ยวกับการอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืช การใช้ประโยชน์และการดำเนินงานของธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน เช่น ศึกษาดูงาน ให้คำปรึกษาด้านเมล็ดพันธุ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเมล็ดพันธุ์สู่ชุมชน



ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน วว. ดำเนินงานเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์จากการสำรวจและงานวิจัย 80% งานบริการรับฝากเมล็ดพันธุ์ 20% มีความพร้อมของบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญด้านการวิจัยและพัฒนาด้านเมล็ดพันธุ์ มีห้องเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ระยะปานกลาง (4 องศาเซลเซียส) เพื่อการอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง โดยเฉลี่ยประมาณ 2-20 ปี และมีห้องเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ระยะยาว (-20 องศาเซลเซียส) เพื่อการอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชในระยะยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 20-50 ปี มีศักยภาพในการเก็บรักษาตัวอย่างเมล็ดพืชสูงสุด ประมาณ 10,000 ตัวอย่าง ปัจจุบันได้เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์จำนวน 140 ชนิด โดยมีเมล็ดพืชที่พบเฉพาะในประเทศไทย (endemic species) 20 ชนิด



ทั้งนี้ ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน วว. เปิดให้ผู้สนใจ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบุคคลทั่วไปเข้าศึกษา อบรม และรับการถ่ายทอดความรู้ด้านเมล็ดพันธุ์ ณ สถานีวิจัยลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
333 หมู่ 12 ถ. มิตรภาพ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130 
โทร. คุณเบญจมาศ 088-1911144 , คุณอรุณวรรณ 087-8793330 
#3771


นางอาภัสรา ภาณุพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT เปิดเผยถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทั่วประเทศ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาครัฐ ยังคงเข้มมาตรการลดความแออัดในที่สาธารณะและปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศ ลดโอกาสการแพร่ระบาดและติดเชื้อไวรัสโควิด-19

SVT ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ แบรนด์ SUN Vending พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันและร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อฟันฝ่าสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้ โดย SVT ได้นำ Vending Machine จำนวน 4 เครื่อง ที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องดื่ม, ขนมขบเคี้ยว, อุปกรณ์เสริมสำหรับมือถือ,หน้ากากอนามัย, น้ำยาฆ่าเชื้อ และเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น ไปติดตั้งบริการบริเวณประตูทางเข้าที่1 และ 3 สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้มีเครื่องดื่ม หรือขนมขบเคี้ยวรับประทาน เพิ่มความสดชื่นและมีพลังระหว่าที่รอคิดเข้ารับการฉีดวัคซีน 

โดยสินค้าทั้งหมดภายในตู้ SVT ได้ร่วมมือกับคู่ค้า นำสินค้าคุณภาพมาตรฐานมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ เพื่อลดภาระค่าครองชีพ แบ่งเบาภาระคนไทยช่วงวิกฤตโควิด-19 รวมถึงยังเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น



สำหรับ Vending Machine ทั้ง 4 เครื่อง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เหมาะสำหรับยุค New Normal ตัวเครื่องรองรับการชำระค่าสินค้าผ่าน Cashless Payment ต่างๆ อาทิ พร้อมเพย์, TrueMoney Wallet, Rabbit Line Pay รวมถึงเงินสดทั้งเหรียญและธนบัตร เพื่อความสะดวกรวดเร็วและง่ายสำหรับการใช้บริการของผู้บริโภค โดยเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติทุกเครื่อง ผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

"SVT ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้า รับมือสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และส่งเสริมให้คนไทยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 อย่างทั่วถึง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประเทศไทยก้าวผ่านสถานการณ์โควิด-19 กลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด" นางอาภัสรา กล่าว

ขณะที่ นายพิศณุ โชควัฒนา รองผู้อำนวยการสายงานการผลิต บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT กล่าวว่า การนำ Vending Machine ทั้ง 4 เครื่อง มาติดตั้งให้บริการที่ศูนย์ฉีดวัคซีน สถานีกลางบางซื่อ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนได้เป็นอย่างดี ช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการจัดหาเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว มาให้บริการประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีน
#3772
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#3773


วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. เปิดเผยว่า การปลูกพืชสมุนไพรในพื้นที่ส.ป.ก.ได้สนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมมาตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากเห็นว่าการปลูกสมุนไพรจะสามารถสร้างความมั่นคงเชิงคุณภาพชีวิตได้ แต่การขับเคลื่อนเป็นไปตามความประสงค์ของเกษตรกรนั้นไม่ถือเป็นนโยบายหลัก โดยมีเกษตรกรบางกลุ่มที่สามารถเชื่อมโยงกับตลาดและผลิตในเชิงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรในพื้นที่ ส.ป.ก.รวม 4,500 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วม 5,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 32 จังหวัด แต่ปัจจุบันกระแสการใช้สมุนไพร เพื่อบรรเทาอาการของโรคโควิด-19 มีมากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ และคาดว่าจะมีการวิจัยผลิตตัวยาออกมารักษาในอนาคต ซึ่งส่วนผสมที่สำคัญที่เป็นพืชสมุนไพร ดังนั้นจึงทำให้พืชสมุนไพรมีอนาคตมาก รวมถึงรัฐบาลจึงกำหนดนโยบายเร่งด่วนผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ

ในขณะที่ ส.ป.ก.ได้กำหนดให้ตั้งศูนย์ส่งเสริมและขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดินใน 5 ภูมิภาค ประกอบด้วย จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ลำพูน จ.นครราชสีมา จ. นครศรีธรรมราช และ จ.ฉะเชิงเทรา ที่อยู่ในเขตอีอีซี

สำหรับ จ.ฉะเชิงเทรา นั้น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) มีความสนใจที่จะยกระดับพัฒนาพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการปลูกสมุนไพรเชิงอุตสาหกรรม และร่วมวิจัยสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเกษตรกรรม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งเกษตรกรมีความพร้อมอยู่แล้วสามารถต่อยอดได้ทันที

ศูนย์ส่งเสริมและขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา จะทำหน้าที่เป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า รูปแบบ การใช้ประโยชน์ที่ดินขนาดเล็ก หรือที่ดินแปลงเล็กเพื่อให้ทำการเกษตรให้ได้ผลตอบแทนสูง เพื่อให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้ กับแปลงเกษตรของตนเอง สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้และมีคุณภาพที่ดี เช่น พืชผักปลอดสารพิษตามตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) รวมถึงการทำเกษตรปลอดภัย (การผลิตพืชผักในระบบโรงเรือนมุ้ง การปลูกพืชสมุนไพร)

การพัฒนาตามแนวทางดังกล่าวถือเป็นการพัฒนารูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ มีศักยภาพเหมาะสมต่อการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการส่งเสริม วิจัย พัฒนา ขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน ภาคตะวันออก เพื่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก โดยได้กำหนดทิศทางในการดำเนินงานที่เน้นส่งเสริม สนับสนุนองค์ความรู้ในการขยายพันธุ์พืช การผลิต การอนุรักษ์พันธุกรรมเพื่อการใช้ประโยชน์พืชสมุนไพร ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

รวมทั้งขยายผลการใช้ประโยชน์พืชสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่งเสริมการขยายพันธุ์พืชสมุนไพรที่มีแนวโน้มขาดแคลนและหายาก เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งพันธุ์ดี มีคุณภาพ ยกระดับสมุนไพรไทย พัฒนาเป็นอาหารและยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ โดยใช้หลัก "การตลาดนำการผลิต" และมีการวางแผนระบบการผลิตพืชตามมาตรฐาน GAP หรือเกษตรอินทรีย์ (Organic) สืบสานภูมิปัญญาไทย

'ทั้งนี้โครงการศูนย์กลางการส่งเสริม วิจัย พัฒนา ขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา ภาคตะวันออก มีแผนดำเนินโครงการ 5 ปี (2564-2568) โดยเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถเปิดตัวศูนย์ได้ในเดือน ส.ค.นี้ หลังจากนั้นจะรวบรวม ขยายพันธุ์ อนุรักษ์พันธุกรรมพืชสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม

 

นอกจากนี้ ศูนย์กลางการส่งเสริม วิจัย พัฒนา ขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา จะคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วม 500 ราย ซึ่งหรือพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ต่อรายต่อปี และคาดว่าจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิเฉลี่ยครัวเรือนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3% จากการจำหน่ายวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์และสินค้าจากสมุนไพร

 

รวมทั้งมีแผนการผลิตตามปีปฏิทินการเพาะปลูกพืชสมุนในแปลงปลูก 2 รูปแบบ คือ

1.แปลงสมุนไพรเชิงเศรษฐกิจและมีศักยภาพทางการตลาด พื้นที่ 5 ไร่ จำนวน 17 ชนิด ได้แก่ พริกไทย เคล กระชายดำ กระชายขาว ไพล ขิง ขมิ้น ใบบัวยก พลูคาว กระเทียม ผักชี หญ้าหวาน สะเดา กระทือ กวาวเครือขาว มะแว้งเครือ และเสลดพังพอนตัวเมีย

2.แปลงเรียนรู้ วิจัยและพัฒนา พื้นที่ 6,210 ตารางเมตร จำนวน 11 ชนิด ได้แก่ เคล กระชายดำ กระชายขาว ไพล ขิง ขมิ้น ใบบัวบก พลูคาว กระเทียม ผักชี และหญ้าหวาน โดยมีระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.2564

รายงานข่าวจาก ส.ป.ก.ระบุว่า ที่ผ่านมา ส.ป.ก.ได้ส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรหลายโครงการ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ทดลองปลูก "ฟ้าทะลายโจร" บริเวณสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งวางแผนการปลูกสัปดาห์ละ 1,000 ต้น เพื่อแจกให้เกษตรกรนำไปปลูกในครัวเรือน และใช้รับประทานเป็นยาสมุนไพรเพื่อป้องกันโควิด-19

รวมทั้ง จ.ฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์มีศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าการลงทุนและอุตสาหกรรม ซึ่งมีการกำหนดแนวทางการพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา ให้เป็นพื้นที่เชื่อมอีอีซีสู่เมืองที่อยู่อาศัยชั้นดี โดยมีการพัฒนาแบบจำแนกเชิงพื้นที่อุตสาหกรรมสีเขียวท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยสังคมมีคุณภาพป่าและน้ำอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการแข่งขันด้านการผลิตการแปรรูปและการส่งออกของภาคการเกษตร
#3774


เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 ติดตามความคืบหน้า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกาศผ่าน เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แจ้งว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564

ขอเชิญคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนซิโนฟาร์ม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 12-16 สิงหาคม 2564 ผ่านทาง LINE Official รพ.จุฬาภรณ์ >> https://bit.ly/MomForm

ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะส่งข้อความ SMS ถึงคุณแม่ที่ลงทะเบียนเข้ามาทุกท่านให้เข้ามาดำเนินการทำแบบคัดกรองและใบยินยอม และนัดหมายการเข้ารับวัคซีนต่อไป

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
เข้ารับบริการที่ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อาคาร 9 (ทีโอทีเดิม) ถนนแจ้งวัฒนะ เท่านั้น
ในวันฉีดวัคซีนกรุณานำเอกสารการฝากครรภ์ และบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อแสดงเป็นหลักฐานในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีน
#3775


การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ความคาดหวังของการฟื้นตัวเศรษฐกิจต้องชะลอตัวออกไป แล้วอะไรเป็นตัวบ่งชี้ว่าการชะลอตัว ก่อนการกลับมาของการเกิดระบาดของโควิด-19 นักเศรษฐศาสตร์กล่าวถึง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบ K-shaped Economy ต่อมาก็กล่าวถึง Post-Pandemic Economic Boom หรือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบเฟี่องฟู ซึ่งหากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ จะทำให้เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจของนักลงทุนทั้งในชาติและต่างชาติ 

อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน จากการสถานการณ์ต่างๆ ทั้งด้านการเริ่มของการแพร่ระบาดของระลอกใหม่ของไวรัสที่กลายพันธุ์ทั่วโลก และร่วมถึงด้านการบริหารจัดการรับมือการแพร่ระบาดของรัฐบาล ซึ่งสามารถทำให้เราตั้งคำถามได้ว่า เศรษฐกิจของประเทศเรานั้น จะเป็นอย่างไรหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย จะเป็นกรณีของ Economic DOOM before Economic BOOM หรือ เศรษฐกิจของประเทศอาจจะทรุดร่วงก่อนที่เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง หากภาครัฐไม่มีแผนรองรับวิกฤติต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ เช่น วิกฤติปัญหาการว่างงาน ปัญหาการว่างงานสะท้อนให้เห็นทั้งปัญหาของโครงสร้างแรงงานและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม 

ก่อนที่จะกล่าวถึงปัญหาวิกฤติที่มีแน้วโนมที่จะขึ้นในหลายด้านหลังสถานการณ์คลี่คลาย ประเด็นที่สำคัญคือภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของรัฐบาลที่ไม่ใช่เพียงการรับมือสถานการณ์โควิด-19 แต่เรื่องวิกฤติการสื่อสารชี้แจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆจากภาครัฐ ซึ่งสิ่งเหล่าจะทำให้สถานการณ์ยิ่งดูลบกว่าสิ่งที่เป็น ดูเหมือนว่าสนามนี้ภาครัฐเข้าขั้นวิกฤติจึงทำให้เกิดผลกระทบต่อไปอีกหลายด้าน 

สนามต่อมาคือนโยบายแนวทางการรับสถานการณ์โควิด-19 หากพิจารณานโยบายเบื้องต้นนโยบายหรือมาตรการต่างๆก็คล้ายกับมาตรการของประเทศอื่นๆแต่วิกฤติที่มีแนวโม้มที่จะเกิดขึ้นคือนโยบายที่จะรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจคือ วิกฤติปัญหาการว่างงาน ปัญหาการว่างงานนั้นจะส่งผลกระทบต่อการรับมือการแก้ปัญหาหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การเกิดการว่างงานนั้นมาจากหลายอุตสหกรรม อุตสหกรรมแรกคืออุตสหกรรมการท่องเที่ยว ประเด็นคืออุตสหกรรมกรรมท่องเที่ยวจะใช้ระยะเวลานานเท่าไรกว่าจะกลับมาอยู่ในระดับเดิมที่สามารถรองรับแรงงานได้ เพราะการไม่สามารถกลับรองรับแรงงานเดิมกลับสู่อุตสหกรรมได้ก็จะส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายในประเทศ และยังส่งผลกระทบต่อภาคอุตสหกรรมอื่นและภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ และยังรวมถึงการว่างงานจาก

อุตสหกรรมอื่น ถ้าหากสถานการณ์ดีขึ้นหลายภาคอุตสหกรรมก็สามารถกลับมารองรับแรงงานได้ แต่อีกประเด็นที่ต้องทอดบทเรียนการเรียนรู้การคือโครงสร้างแรงงานของประเทศ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างแรงงานของประเทศที่ยังไม่สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนโครงสารทางเศรษฐกิจและความสามารถในการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งในภาคผลิตเดียวกัน(Intra-sectoral mobility) และ ระหว่างภาคผลิตเดียวกัน (Inter-sectoral mobility) ปัญหาความสามารถการเคลื่อนย้ายแรงงานถือได้ว่ามีความสำคัญต่อการขับเคลือนเศรษฐกิจโดยเฉพาะการเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ แต่ที่สำคัญมากกว่าคือแรงงานที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเพื่อสอดคล้องกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เช่น นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี

นอกเหนือจากการสื่อสารให้ชัดเจนต่อนโยบายต่างๆมาตรการต่างๆเพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจที่ภาครัฐต้องเร่งดำเนินการ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือนโยบายที่ชัดเจนและเร่งด่วที่จะรองรับการว่างงานที่เกิดขึ้นจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19 และการสร้างศักยภาพการเคลื่อนย้ายแรงงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการประเทศให้กลับคืนมา ภาครัฐจะมีนโยบายร่วมมืออย่างไรกับภาคเอกชนเพื่อสร้างโอกาสแก่แรงงานทั้งในและนอกระบบเพื่อสอดคล้องและรองรับต่อการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการประเทศให้กลับคืนมา
#3776


การคว้าตัว ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ทำให้ ปอล ป๊อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ต้องการย้ายไปร่วมทัพ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดยจะปล่อยหมดสัญญากับ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์หน้า เพื่อจะได้โยกแบบฟรีทรานเฟอร์

ป๊อกบา เหลือข้อผูกมัดปีเดียว ดังนั้น มิโน ไรโอล่า เอเยนต์ส่วนตัวจะล้มแผนเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ แมนฯยู และจะปล่อยให้หมดสัญญาเหมือนเมื่อปี 2012 ที่เลือกไปร่วมทัพ ยูเวนตุส ก่อนที่จะย้ายกลับถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์เมื่อปี 2016

กระนั้นก็ตามไม่ง่ายเหมือนกันกับการ ป๊อกบา เนื่องจาก เปแอสเช อาจจะผิดกฎการเงิน โดยตอนนี้มี เมสซี่ อยู่ภายในทีมแล้ว ส่วนกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสต้องการค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นกับการรับอยู่ที่ แมนฯยู ตอนนี้คือ 290,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ดังนั้นยอดทีมเมืองน้ำหอมอาจจะต้องวางแผนโละนักเตะคนอื่นๆ ออกไปเพื่อลดเพดานค่าจ้าง

ซัมเมอร์นี้ แมนฯยู ได้ตัว จาดอน ซานโช มาเติมเกมรุก ส่วน ราฟาเอล วาราน กองหลังจาก รีล มาดริด กำลังจะชูเสื้อด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ ส่วนเป้าหมายอื่นๆ ที่ว่าจะมาแทน ป๊อกบา อย่าง เอดูอาร์โด กามาแวงก้า, รูเบน เนเวส และ ซาอูล ยิเกซ ได้ล้มแผนหมดแล้ว
#3777


บมจ.เอกชัยการแพทย์ หรือ EKH อวดผลงานงวดไตรมาส 2/64 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 65.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 30,090% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 0.22 ล้านบาท อานิสงส์ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น รวมทั้งวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ ดันยอดผู้ใช้บริการเข้ารับการตรวจหาเชื้อคึกคัก ขณะที่ศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจรสดใสไม่แพ้กัน ด้านบอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 8 กันยายน 64 "นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร" เผยแนวโน้มครึ่งปีหลังยังคงขยายตัวอย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นจากการระบาดที่ยังคงรุนแรง มั่นใจหนุนรายได้โต พร้อมปรับเป้ารายได้ปี 64 โตไม่ต่ำกว่า 40%

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการ บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564) มีกำไรสุทธิ 65.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30,090% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 0.22 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 248.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.37 ล้านบาท หรือ 108.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่118.89 ล้านบาท

สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และยังมีรายได้จากการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงมีผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาล เช่น ศูนย์ฉุกเฉิน ศูนย์กุมารเวช ศูนย์สูติ-นรีเวช ยังมีผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท จำนวน 600 ล้านหุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 72 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2564

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่ามีโอกาสขยายตัวอย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นจากการระบาดที่ยังคงรุนแรง และการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คาดว่าจะผลักดันรายได้ปี 2564 เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งปรับเป้ารายได้จากเดิมโต 20% เป็นเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปีก่อนได้อย่างแน่นอน

"ที่ผ่านมา บริษัทฯ เดินหน้ารุกขยายเปิดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น ประกอบกับการให้บริการทางการแพทย์ในด้านต่างๆ ยังสามารถเติบโตในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และมีผู้ป่วย OPD และผู้ป่วย IPD เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 หรือ Hospitel เพิ่ม จึงเป็นสัญญาณบวกต่อภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังของ EKH ที่จะเติบโตอย่างโดดเด่น" นายแพทย์อำนาจ กล่าวในที่สุด
#3778


บรรยากาศโรงเรียนต่างๆ ในรัฐฟลอริดา เปิดการเรียนการสอนเป็นวันแรกเมื่อวันอังคาร (10 ส.ค.) ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องควรให้นักเรียนสวมหน้ากากป้องกันหรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน เป็นผู้ที่ตั้งแง่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคโควิด-19 มาโดยตลอด คราวนี้ถึงขนาดออกกฎห้ามโรงเรียนบังคับการสวมหน้ากาก ขณะที่รัฐฟลอริดากำลังกลายเป็นรัฐที่โควิด-19 ระบาดหนักที่สุดในสหรัฐฯเวลานี้



หน่วยงานหลักในการต่อสู้โรคติดต่อของสหรัฐฯ เตือนคนอเมริกันงดเดินทางมาไทย อิสราเอล ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ และอีกหลายประเทศที่โควิด-19 กำลังระบาดรุนแรง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกาพุ่งขึ้นวันละแสนต่อเนื่อง 3 วันติด แถมอัตราการป่วยรุนแรงสูงขึ้น 40% และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้านเพนตากอนเตรียมขอไบเดนอนุมัติการฉีดวัคซีนให้กำลังทหารมะริกัน ภายในเดือนหน้า

ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) หน่วยงานหลักในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (9 ส.ค.) ประกาศยกระดับคำเตือนเรื่องจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สู่ระดับ 4 ซึ่งหมายถึง "สูงมาก" สำหรับไทย อิสราเอล เขตเวสต์แบงก์ กาซา อารูบา และเฟรนช์โปลีนีเซีย

หลังจากนั้นกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำ "ระดับ 4: ห้ามเดินทาง" สำหรับฝรั่งเศส ไทย และไอซ์แลนด์ โดยอิงจากคำแนะนำของซีดีซี

แต่สำหรับในอเมริกาเอง สถานการณ์การระบาดล่าสุดก็อยู่ในระดับรุนแรงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยตามรายงานของรอยเตอร์ จำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 100,000 คนติดต่อกัน3 วันซ้อน หรือเพิ่มขึ้น 35% จากสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ ลุยเซียนา ฟลอริดา และอาร์คันซอส์ เป็นรัฐที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่อัตราการป่วยรุนแรงทั่วประเทศสูงขึ้น 40% และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อาซา ฮัตชินสัน ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอส์ ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน เผยว่า จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลรายวันพุ่งทำสถิติสูงสุดและขณะนี้ทั้งรัฐเหลือเตียงผู้ป่วยวิกฤตเพียง 8 เตียง

ฮัตชินสันยังเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด ขณะที่ผู้คนมากมายยังลังเลเนื่องจากได้รับข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีน

ส่วนที่เทกซัส เกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการรัฐขอให้โรงพยาบาลต่างๆ เลื่อนการผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนออกไปก่อนเพื่อสงวนทรัพยากรไว้สำหรับผู้ป่วยโควิด

แอ็บบอตต์ที่ออกคำสั่งห้ามรัฐบาลท้องถิ่นบังคับสวมหน้ากากป้องกันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำทับว่า จะเพิ่มจำนวนคลินิกเพื่อให้ผู้ป่วยโควิดเข้ารับการฉีดแอนติบอดี้

ด้านฟลอริดา รัฐที่กำลังระบาดหนักที่สุดในเวลานี้ เมื่อวันอาทิตย์ (8) รายงานเคสใหม่รายวันทำสถิติสูงสุดที่ 28,317 คน ขณะที่จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทุบสถิติ 8 วันซ้อน

นักเรียนส่วนใหญ่ในรัฐฟลอริดายังมีกำหนดกลับเข้าเรียนตามปกติในสัปดาห์นี้ โดยที่เขตการศึกษาบางแห่งยังถกเถียงกันว่า ควรบังคับให้นักเรียนสวมหน้ากากป้องกันหรือไม่ เนื่องจากรอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐ ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน ออกคำสั่งห้ามโรงเรียนของรัฐ ตลอดจนถึงภาคธุรกิจ และหน่วยงานรัฐ บังคับการสวมหน้ากาก โดยอ้างว่า เพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติและปกป้องความเป็นส่วนตัว

ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ป่วยเด็กในอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่า เป็นผลจากการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาที่มีแนวโน้มทำให้เด็กติดเชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์อัลฟาที่ระบาดหนักในอเมริกาก่อนหน้านี้

วิกฤตไวรัสที่กลับมาส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของชาวอเมริกันอีกครั้ง ผลักดันให้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่ยังลังเลรอบใหม่

ในวันจันทร์ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศผ่านบันทึกภายในฉบับหนึ่งว่า จะขออนุมัติจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้บังคับกำลังพลฉีดวัคซีนในช่วงกลางเดือนกันยายน ถึงแม้สำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) ยังไม่ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิดได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าตัวไหนก็ตาม

การใช้วัคซีนในสหรัฐฯเวลานี้ ก็เช่นเดียวกับในประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ หน่วยงานกำกับตรวจสอบเพียงแค่อนุมัติสำหรับการใช้ฉุกเฉินเท่านั้น สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ทางกองทัพยังไม่บังคับให้กำลังพลฉีดเหมือนวัคซีนตัวอื่นๆ เพราะอาจเปิดช่องให้มีการฟ้องร้องทางกฎหมาย เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากไบเดนก่อนเท่านั้น โดยที่ทางประมุขทำเนียบขาวแถลงแสดงท่าทีแล้วว่า พร้อมสนับสนุนการตัดสินใจของเพนตากอนเต็มที่

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคนเชื่อว่า เอฟดีเอจะอนุมัติอย่างสมบูรณ์ให้แก่วัคซีนโควิด อย่างน้อยก็ของไฟเซอร์ ภายในต้นเดือนกันยายนนี้

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)
#3779


เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 ที่สโมสรทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พล.ต.ไพวัลย์ จุ้ยเจริญ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 พร้อมด้วย นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร่วมกันตรวจความพร้อมและเปิดสถานกักกันโรคแห่งรัฐ ตำบลโพธิ์กลาง State Quarantine เพื่อใช้เป็นสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ที่รอผลการตรวจหาเชื้อวิด-19


พล.ต.ไพวัลย์ จุ้ยเจริญ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 กล่าวว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 มีนโยบายสนับสนุนงานด้านสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกองบัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งด้านแพทย์ พยาบาล และกำลังพล ที่จะช่วยเหลือประชาชน จึงได้ร่วมกับทางสาธารณสุขจังหวัด เทศบาลตำบลโพธิ์กลาง เปิดสถานกักกันโรคแห่งรัฐ ตำบลโพธิ์กลาง State Quarantine ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์คัดกรอง ช่วยเหลือด้านสาธารณสุข แบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลหลัก ทั้งแพทย์ พยาบาล และระบบสาธารณสุข ซึ่งสถานกักกันโรคแห่งรัฐ ตำบลโพธิ์กลาง แห่งนี้สามารถรองรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัว ได้จำนวน 50 เตียง

ด้าน นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 488 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต แยกเป็นติดเชื้อนอกจังหวัด 311 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 177 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ พบในพื้นที่ อ.สูงเนิน 119 ราย อ.โนนไทย 52 ราย อ.ประทาย 49 ราย อ.สีคิ้ว 32 ราย อ.ครบุรี 30 ราย อ.เสิงสาง 26 ราย อ.เมือง 23 ราย อ.ห้วยแถลง 21 ราย อ.พิมาย 18 ราย อ.ขามสะแกแสง 16 ราย อ.โนนสูง 16 ราย อ.บัวใหญ่ 16 ราย อ.ด่านขุนทด 11 ราย อ.วังน้ำเขียว 11 ราย อ.ปักธงชัย 8 ราย อ.บ้านเหลื่อม 7 ราย อ.พระทองคำ 7 ราย อ.ชุมพวง 6 ราย อ.ลำทะเมนชัย 6 ราย อ.สีดา 5 ราย อ.จักราช 4 ราย อ.บัวลาย 3 ราย และ อ.ขามทะเลสอ 2 ราย
#3780


การระบาดของโควิด 'เดลดา' ในไทย ทำให้มีผู้ป่วยรายใหม่สูงสุดมากกว่าสองหมื่นราย เสียชีวิตเพิ่มสองร้อยกว่าราย และคาดว่ายังไม่ถึงจุดสูงสุด ปรากฏการณ์ดังกล่าวคล้ายๆ กับหลายประเทศที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังเดลตากระจาย 132 ประเทศทั่วโลก

เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งกระจาย 132 ประเทศทั่วโลก ไม่เพียงแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา 60% แต่มีหลักฐานว่าก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงและอันตรายมากกว่าสายพันธุ์เดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่มีอาการรุนแรงในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อยลง ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบไม่ว่าชนิดไหน มีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ ไม่แตกต่างจากผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่อาการมักไม่รุนแรง


ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ออกแนวปฏิบัติล่าสุด 27 ก.ค. แก้ไขจากแนวคิดเดิม เนื่องจากสหรัฐ มีการแพร่ระบาดของเดลตา ขณะเดียวกัน การฉีดวัคซีนยังไม่ไปถึงจุดที่ควรจะเป็น โดยแนะนำ เร่งฉีดวัคซีนโควิดให้เร็วมากขึ้นและกลับมาแนะนำว่าขอให้ประชาชนอเมริกัน ไม่ว่าจะไปที่ใดขอให้พิจารณาเรื่องการใส่หน้ากาก จากที่ก่อนหน้านี้บางรัฐส่งสัญญานว่าไม่ต้องใส่หน้ากาก เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 5 เท่า จากปลายเดือน มิ.ย. เฉลี่ย 12,000 ราย เฉลี่ยนเป็น 60,000 รายในปลายเดือน ก.ค. และ 50 รัฐ มีการกระจายเดลตากว่า 80%


การแพร่ระบาด อาจนำไปสู่การกลายพันธุ์

วานนี้ (10 ส.ค. 64) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงอัปเดตสถานการณ์การรับมือกับ สายพันธุ์ เดลตา จากทั่วโลก ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Mahidol Channel โดยระบุว่า สัดส่วนของประชากรที่ได้รับวัคซีนที่มากพอ จะมีส่วนสำคัญในการลดการแพร่ระบาดและอัตราการเสียชีวิต แต่ไม่ควรเป็นข้อบ่งชี้ในการยกเลิกหรือผ่อนคลายการระวังตนเอง คือ ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นทำความสะอาดมือ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมากในพื้นที่ ที่จำกัด


"การแพร่ระบาดในกลุ่มคนจำนวนมาก อาจนำสู่การเกิดการกลายพันธุ์ และสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเร็ว จะทดแทนสายพันธุ์เดิมหรือสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดช้ากว่า ขณะที่ ความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ขึ้นกับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อในโลก"


ฉีดวัคซีน ลดเสียชีวิต ยังแพร่เชื้อได้
ขณะนี้ ประเทศไทยขณะนี้ (10 ส.ค. 64)  ฉีดวัคซีนไปแล้ว 21,171,110 โดส ใน 77 จังหวัด "ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์" ระบุว่า  วัคซีนยังครอบคลุมเดลตาได้ระดับหนึ่ง โดยยังคงเร่งฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คนอ้วน ซึ่งถ้าน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมก็ฉีดได้เลยไม่จำกัดอายุ รวมไปถึงเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด เพราะตัวเลข 60-70% ของผู้เสียชีวิตเป็นคนอายุเกิน 60 ปี ขณะที่ CDC ระบุว่า การฉีดวัคซีนยังสามารถลดความรุนแรงกับการเสียชีวิตได้ แต่โอกาสการลดการแพร่กระจายลดลงไปเยอะ เพราะอย่างสหรัฐก็ออกมายอมรับเรื่องนี้เช่นกัน

ติดตามมาตรการหลัง สหรัฐ เริ่มกลับมาใส่หน้ากาก
ขณะเดียวกันมาตรการของไทยในขณะนี้ ต้องติดตาม และต้องมีการปรับเปลี่ยน เหมือน CDC สหรัฐ เมื่อฉีดได้ดีก็เริ่มจะให้ยกเลิกการใส่หน้ากากอนามัย แต่เมื่อระบาดขึ้นอีก 11 สัปดาห์ให้หลังก็ต้องกลับมาใส่หน้ากากใหม่อีกครั้ง ทุกประเทศเหมือนกัน ดังนั้น จึงต้องติดตามมาตรการ หากตัวเลขไม่ลงอย่างที่ควรจะเป็น ก็ต้องมาเข้มมาตรการ แต่หากตัวเลขเริ่มนิ่ง ป้องกันปัจจัยรอบข้างได้ เร่งฉีดวัคซีน ก็จะเกิดคุมไวรัสได้ ซึ่งอาจผ่อนมาตรการลงได้ในเวลาที่เหมาะสม


"ส่วนประชาชนให้ความร่วมมือก็ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีรายงานให้เห็นการทำกิจกรรมบางอย่าง  เช่น กิจกรรมทางศาสนา ทำให้มีการรวมกลุ่มจำนวนมาก จนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ยังมีโรงงานที่อยากทำบับเบิ้ล แอนด์ ชิล แต่ระบบอาจยังทำไม่ได้มาก ทำให้ยังมีคลัสเตอร์ที่อาจควบคุมได้ไม่เต็มที่ แต่สังคมโดยรวมอย่าง กทม. เท่าที่เห็นการ์ดยังไม่ตก และเริ่มเห็นการติดเชื้อใหม่มีแนวโน้มลดลง หากรักษาระยะแบบนี้ได้ และเร่งฉีดวัคซีนจะช่วยได้"

"โดยปัจจุบันไทยฉีดได้ราว 22% ของทั้งประเทศ คาดว่าจะได้ 25% ภายใน ส.ค. และไต่ยอดไปเรื่อยๆ ช่วง ก.ย.-ต.ค. น่าจะเห็นจุดที่วัคซีนมากพอ คู่ขนานกับมาตรการต่างๆ คาดว่าจะเห็นตัวเลขลดลง แต่ต้องไม่มีสิ่งใดเข้ามาก่อให้เกิดการแพร่กระจายมากขึ้น"

ไทยยังไม่ถึงจุดพีค
ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงจุดพีค เพราะตัวเลขของกราฟ ไม่ว่าในกทม. หรือต่างจังหวัด ยังขึ้นอยู่ เพียงแต่บางพื้นที่ขึ้นด้วยความชันน้อยลง ขณะเดียวกัน ช่วงเวลานี้ไปจนถึงปลายปียังมีการแย่งวัคซีนในแต่ละประเทศ การผลิตให้มากไม่สามารถทำได้ทัน ประกอบกับสายพันธุ์ที่กระจายเร็วซึ่งทำให้วัคซีนรุ่นแรกๆ ประสิทธิภาพลดลง ด้าน องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่แนะนำเข็ม 3 เพราะอยากให้ทั่วโลกได้รับวัคซีนให้เยอะพอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริบท ความจำเป็นของของแต่ละประเทศ


สิ่งสำคัญต้องดูสถานการณ์โลกควบคู่กับประเทศไทย ตราบใดที่ทั่วโลกร้อน ไทยไม่มีทางเย็น เพราะวัคซีน ยา และสิ่งอื่นๆ ยังต้องแย่งกัน เป็นสิ่งที่หลุดจากสิ่งคาดการณ์เดิม เดลตาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้สิ่งที่จัดการได้ จัดการไม่ได้ เช่น สหรัฐ หรืออิสราเอล หากไม่ช่วยกัน หากมีการแพร่ระบาดมาก และโชคร้ายมีสายพันธุ์ใหม่อีก ตอนนั้นจะยิ่งเดือดร้อน ตอนนี้จึงต้องเร่งหยุดการแพร่กระจายให้เร็วที่สุด
เข้มมาตรการ เร่งฉีดวัคซีน สกัดโควิด 

"ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์" กล่าวต่อไปว่า การลดความเสียหายที่เกิดจากวิกฤตที่เกินศักยภาพของระบบการดูแลสุขภาพ โดยการเร่งลดโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อ ขึ้นอยู่กับ 3 มาตรการ สำคัญ คือ 1. มาตรการทางการปกครอง 2. มาตรการทางการสาธารณสุข คือ การบริหารจัดการควบคุมโรค การพัฒนา ศักยภาพการตรวจหาผู้ติดเชื้อ การบริหารจัดการเตียง สถานพยาบาล และ 3.มาตรการส่วนบุคคล และทางสังคม


รวมถึง การเร่งฉีดวัคซีนเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ได้แก่ กลุ่มเสี่ยง สูงวัย 7 โรคเรื้อรัง และ ตั้งครรภ์ มากและเร็ว การเร่งค้นหาผู้เสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อ (ATK; RT-PCR) การได้รับยาที่เร็ว (แจ้งลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ) พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ติดเชื้อ (Home Isolation, Community Isolation)

รวมถึงการเร่งฉีดวัควีน ป้องกันการติดเชื้อ ผู้เสี่ยง สูงวัย 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ ให้มากและเร็ว ขณะเดีวกัน การเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อและเสี่ยงแพร่เชื้อ ซึ่งขณนี้มี Antigen Test Kit (ATK) ในการตรวจได้เร็ว ยี่ห้อต่างๆ มีความแม่นยำดีระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะความไวและจำเพาะกว่า 90% การตรวจ ATK  จะสามารถค้นหาคน ควบคุม เข้ากระบวนการรักษา ให้เร็ว และให้ยาเร็ว ตอนนี้มีนโยนบายออกมาแล้ว ในกลุ่มที่เสี่ยงจะอาการรุนแรง มีการแจกยา แต่ต้องลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเพื่อติดตาม รวมถึง การพัฒนาศักยภาพ การดูแลผู้ติดเชื้อ Home Isolation และ Community Isolation