ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 5.64 จุด หุ้นกลุ่มน้ำมันกดดันตลาด

[PostDD]

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (14 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มน้ำมัน ซึ่งบดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม แต่ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้จากความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,434.57 จุด ลดลง 5.64 จุด หรือ -0.08% แต่ปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบกว่า 3 เดือนตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ร่วงลง 1.7% ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างไรก็ตาม หุ้นรายตัวที่บวกสวนตลาดได้แก่ หุ้นดร.มาร์ตินส์ ซึ่งพุ่งขึ้น 5.1% หลังบริษัทประกาศเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงิน 50 ล้านปอนด์ (65.52 ล้านดอลลาร์)บรรดานักลงทุนจะรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.ของอังกฤษในสัปดาห์หน้า เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันณ เวลา 21.21 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.803% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.918%ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 7.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค.2567 โดยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากระดับ 18.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว