• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Prichas

#2681
ฟิทช์ เรทติ้งส์: ธุรกิจไทยมีแนวโน้มกำไรฟื้นตัว แต่ยังมีความท้าทายจากต้นทุนพลังงานที่สูง

ในงานสัมมนาหัวข้อแนวโน้มธุรกิจไทย (2022 Thailand Corporate Credit Outlook) ที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จัดขึ้นผ่านระบบการประชุมออนไลน์ในวันนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า ฟิทช์คาดว่าผลประกอบการของบริษัทในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์จะฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 โดยการเพิ่มขึ้นของต้นทุนพลังงานเป็นปัจจัยความเสี่ยงหลัก ทั้งนี้ ธุรกิจค้าปลีก การบิน และโรงแรมน่าจะยังคงได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อันดับเครดิตของบริษัทส่วนใหญ่มีเสถียรภาพ แม้ว่าบางบริษัทจะมีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สิน (leverage) ที่อยู่ในระดับสูงจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น

คุณเลิศชัย กอเจริญรัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายจัดอันดับเครดิตภาคธุรกิจอุตสาหกรรมของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทไทยที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเริ่มเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากสถานการณ์โรคระบาด อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงแรม การบิน และค้าปลีก ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 และมาตรการจำกัดการเดินทางในปี 2564 น่าจะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าธุรกิจอื่น นอกจากนี้ ต้นทุนพลังงานที่สูงยังเป็นแรงกดดันต่อการเติบโตของกำไรของธุรกิจต่างๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในปี 2565 โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการไฟฟ้าและผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (Small power producers) ที่มีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้อุตสาหกรรมในสัดส่วนที่สูง

บริษัทไทยที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตส่วนใหญ่มีการบริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างรอบคอบในช่วงสถานการณ์โรคระบาด โดยมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายลงทุน และการปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผล อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการกลับเพิ่มมากขึ้น เพื่อฉวยโอกาสในการขยายธุรกิจ หรือการดำเนินการตามแผนการลดปริมาณการใช้คาร์บอน โดยการเข้าซื้อกิจการเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเป็นหลัก ส่งผลให้บางบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น ฟิทช์คาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการฟื้นตัวของผลประกอบการจะช่วยลดผลกระทบจากการลงทุนและการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นในปี 2565

การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในทางลบลดลงในปี 2564 และมีการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในทางบวกสำหรับบางบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 อย่างไรก็ตาม บริษัทที่มีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบยังคงมีจำนวนมากกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โรคระบาด แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและปิโตรเคมีส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนขนาดใหญ่ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอาหาร สะท้อนถึงอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการและผลประกอบการที่ยังคงอ่อนแอจากสถานการณ์โรคระบาด
#2682
TRC พุ่ง 23.53% เก็งเหมืองโปรแตชกลับมาเดินเครื่องหลังรัฐเร่งหาทดแทนปุ๋ยนำเข้า
 
ราคาหุ้น TRC พุ่ง 23.53% หรือเพิ่มขึ้น 0.08 บาท มาที่ 0.42 บาท มูลค่าซื้อขาย 158.84 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.34 น. จากราคาเปิด 0.35 บาท ราคาสูงสุด 0.43 บาท ราคาต่ำสุด 0.35 บาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคา TRC ปรับตัวขึ้นไปมากเพราะมีแรงเก็งกำไรเข้ามา หลังวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้สำรวจเหมืองในประเทศว่าเหมืองใดสามารถผลิตวัตถุดิบที่ทำปุ๋ยได้ โดย TRC มีโครงการเหมืองโปรแตช ที่ถือหุ้นอยู่ 25.13% ในบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) ที่หยุดดำเนินการหลังจากไม่มีการใส่เงินทุนเพิ่ม โดยโครงการนี้ก็มีกระทรวงการคลังร่วมถือหุ้นด้วย และที่ผ่านมาราคาโปรแตชาต่ำไม่จูงใจประมาณ 200 เหรียญ/ตันทำให้การลงทุนไม่คุ้มค่า แต่ปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นแตะ 1,000 เหรียญ/ตันน่าจะมีนัยสำคัญต่อประเด็นนี้ เพราะปัจจุบันไทยนำเข้าปุ๋ยต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ให้แนวต้าน 0.44 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ชนซิลลิ่งวันนี้ แต่หากผ่านไปได้ให้แนวต้านถัดไปที่ 0.50 บาท แนวรับ 0.40 บาท
#2683
เพราะเราเชื่อว่า "ความสำเร็จ ของคนเราไม่เท่ากัน"
คิวยู ซัคเซส มุ่งหวังที่จะช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
และพร้อมปลุกศักยภาพทางธุรกิจ ด้วยสินค้าคุณภาพ
โดยยึดหลักจริงใจ โปร่งใส สินค้าได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ก็เพื่อผลักดันให้เกิด ความสำเร็จในแบบของตัวคุณเอง
เพราะความสำเร็จของคุณ คือสิ่งที่เราปรารถนาเหนือสิ่งอื่นใด
พร้อมจะก้าวไปสู้ความสำเร็จด้วยกันที่นี่กับ คิวยู ซัคเซส

สนใจร่วมสร้างรายไปด้วยกันคลิกที่ลิงค์ด้านล่าง ได้เลยครับ
>>> https://www.qyousatta.com/?ref=62

#2684
บิตคอยน์ร่วงหลุด $40,000 นลท.ซึมซับข่าวไบเดนสั่งหน่วยงานรัฐประเมินคริปโทฯ

ราคาบิตคอยน์ร่วงหลุดระดับ 40,000 ดอลลาร์ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนซึมซับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐเร่งทำการประเมินข้อดีข้อเสียของคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล

ณ เวลา 13.19 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 2,626 ดอลลาร์ หรือ -6.27% แตะที่ 39,284 ดอลลาร์

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาบิตคอยน์ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ หลังจากที่ราคาทะยานขึ้นมากถึง 11% เมื่อวานนี้อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า ปธน.ไบเดนได้ลงนามในคำสั่งบริหาร เพื่อสั่งการให้หน่วยงานทั้งหมดของรัฐบาลสหรัฐทำการประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของคริปโทเคอร์เรนซี พร้อมกับสั่งให้เร่งการวิจัยและพัฒนาสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัล

คำสั่งดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐทำการศึกษา 6 ประเด็นซึ่งได้แก่ การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน, เสถียรภาพด้านการเงิน, การทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย, ความสามารถด้านการแข่งขันของสหรัฐในตลาดโลก, โอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน และนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบ

นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์และดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ปรับตัวลงสู่แดนลบในวันนี้ ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลงตามไปด้วย โดยราคาบิตคอยน์ได้ปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
#2685
'เซ็นทรัลพัฒนา' ผู้นำองค์กรยั่งยืนเดินหน้ามิชชั่น 'NET ZERO 2050' นำ 11 อาคารคว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards ย้ำความมุ่งมั่นสร้าง Sustainable Ecosystem

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของไทยและผู้พัฒนาธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ เดินหน้าเป้าหมาย Net Zero 2050 คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Award จากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จาก 11 อาคารแบ่งเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล 10 แห่งและอาคารสำนักงาน 1 แห่ง ที่มีความโดดเด่นด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ย้ำการเป็นองค์กรยั่งยืนระดับโลกภายใต้วิสัยทัศน์ 'Imagining better futures for all' มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า 'เราได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ better futures ให้กับทุกคน ด้วยบทบาทของเราที่เป็น Place Maker ผู้พัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต ใส่ใจยกระดับคุณภาพชีวิต ไปพร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ที่ที่เราเข้าไป ในโอกาสที่อาคารของเซ็นทรัลพัฒนาถึง 11 แห่งได้รับรางวัลอาคารประหยัดพลังงานในครั้งนี้ เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราที่ได้ตั้งเป้าเดินหน้าสู่การเป็นองค์กร Net Zero ในปี 2050 และนับเป็นความภูมิใจและกำลังใจให้กับทีมงานเซ็นทรัลพัฒนาทุกคนที่ได้ใส่ใจในทุกขั้นตอนของการพัฒนาทุกโครงการของเรา'

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า 'เรามีความตั้งใจในการพัฒนาโครงการที่เรามีความเชี่ยวชาญในทุกรูปแบบทั้งศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, ที่อยู่อาศัย และโรงเรม ให้เป็นพื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่ดีสำหรับคนทุกเจเนอร์เรชั่น โดยให้ความสำคัญในด้าน Green & Energy และ Well-Being โดยในการพัฒนาโครงการเราใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ โดยเฉพาะด้าน Energy Saving เพื่อให้อาคารของเรามีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน โดยเรานำ Innovation และ Design Thinking มาใช้ ได้แก่ การติดตั้ง Solar Rooftop การติดตั้งฝ้าเสริมเพื่อลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร, การออกแบบโดยใช้แสงธรรมชาติภายในศูนย์ฯ ให้มากที่สุด ไปจนถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วทั้งโครงการ อีกทั้งยังนำไปสู่การริเริ่มโมเดลใหม่ๆ ในการพัฒนาศูนย์การค้าในรูปแบบ Semi-Outdoor ที่ประสบความสำเร็จทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ที่เราเข้าไปพัฒนาโครงการ'

โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาได้ผ่านเกณฑ์ประเมินด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน MEA Index (Management of Energy Achievement Index) ของกฟน.และเกณฑ์การประเมินด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards ในปี 2564 ใน 11 อาคาร แบ่งเป็นศูนย์การค้า 10 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล เวสต์เกต, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล รามอินทรา, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และอาคารสำนักงาน 1 แห่ง คืออาคาร centralwOrld Offices จากการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงาน อาทิ การเลือกใช้พลังงานสะอาดโดยติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์ (Solar Rooftop) บนหลังคาของศูนย์การค้า การเปลี่ยนมาใช้เครื่องทำความเย็นประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Chiller) ซึ่งเลือกใช้สารทำความเย็นที่ช่วยลดผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนมากถึง 700 เท่า การติดตั้งหลอดไฟ LED ในศูนย์การค้าและ LED Motion Sensor บริเวณทางหนีไฟและลานจอดรถ เป็นต้น

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนสู่อนาคตภายใต้เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imagining better futures for all ด้วยการสร้างและพัฒนาพื้นที่ที่มีคุณภาพเพื่อดูแลคนและชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศไทย สู่การสร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยเป็นบริษัทอสังหาฯ หนึ่งเดียวในไทยที่เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และ DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ เพื่อสะท้อน Commitment for better futures โปรดรับชมได้ทาง https://youtu .be/ZrUKWsxGZks

ปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนา มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน Mixed-Use Development บริหารจัดการศูนย์การค้ารวม 36 แห่ง (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 20 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์การค้าภายใต้กิจการร่วมค้า 1 แห่ง และคอมมูนิตี้ มอลล์ 18 แห่ง นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 32 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร, โรงแรม 2 แห่ง, และโครงการที่พักอาศัยอีก 22 โครงการ

 
#2686
คลัง เผยยอดใช้จ่ายสะสมโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 กว่า 5.2 หมื่นลบ.

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 โดยจากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 8 มี.ค. 65 ณ เวลา 23.00 น. พบว่า มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (กลุ่มเดิม) จำนวน 25.46 ล้านราย ซึ่งมียอดใช้จ่าย 51,153.1 ล้านบาท และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (กลุ่มใหม่) จำนวน 7.82 แสนราย ซึ่งมียอดใช้จ่าย 1,223.3 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 26.24 ล้านราย และยอดการใช้จ่ายรวม 52,376.4 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 26,620.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 25,756.1 ล้านบาท

สำหรับยอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 21,774.6 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 9,004.4 ล้านบาท ร้าน OTOP 2,342.0 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 18,236.4 ล้านบาท ร้านบริการ 923.4 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 95.6 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีประชาชนที่ได้รับสิทธิทั้งหมด 26.38 ล้านราย ซึ่งเป็นประชาชนกลุ่มเดิมฯ ที่กดยืนยันสิทธิและมีการใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 แล้ว จำนวน 25.46 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านราย สำหรับผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 มีผู้ประกอบการเข้าร่วมแล้วจำนวน 1.35 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.66 หมื่นราย

อย่างไรก็ดี ประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการฯ ระยะที่ 4 ได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 65 และสำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายใหม่ยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือติดต่อเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ หรือสาขาธนาคารกรุงไทย (KTB) ได้อย่างต่อเนื่อง จนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศปิดรับสมัคร
#2687
โปรแกรมทัวร์ลาวใต้ 3วัน2คืนวันที่ 1 : อุบลฯ-ช่องเม็ก-วัดภูพร้าว-จำปาสัก-ปราสาทหินวัดพู08.30 น. รับคณะที่สนามบินอุบลราชธานี  และพร้อมรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 1 ) และเดินทางไป ที่ด่านพรมแดน ช่องเม็ก ไทย-ลาว
10.00 น. ระหว่างทาง แวะถ่ายรูป ก่อนถึงด่านช่องเม็ก  ถ่ายรูป วัดภูพร้าวสิรินธรวราราม ชมโบสถ์ศิลปะแบบล้านช้าง ทัวร์ลาวใต้  ถ่ายรูป ต้นโพธิ์เรืองแสง และพร้อมชมวิว เขื่อนสิรินธร
10.45 น. ถึงด่าน ต.ม ช่องเม็ก ตรวจเอกสารก่อนข้ามสู่ ทัวร์ลาวใต้ สปป.ลาว และเดินชมสินค้าที่ดิวตี้ฟรีก่อนเดินทางสู่เมืองปากเซ ผ่านบ้านเรือนชนบทวิถีชีวิตชาวลาว 2 ข้างทาง ชมทัศนียภาพแม่น้ำโขงและสะพานลาว-ญี่ปุ่น  ออกเดินทาง สู่เมืองปากเซ (ระยะทาง 45 กม.) เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของลาวตอนใต้ ข้ามแม่น้ำโขงที่สะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น ตรงเข้าสู่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก พาทุกท่านสู่ เมือง บาเจียง เจริญสุข เมืองเดียวของลาวที่มีนามสุกลต่อท้าย พร้อมฟังเรื่องราว รักสามเศร้า ของท้าวบาเจียง นางมะโรง และท้าวจำปาสัก เป็นที่มาของที่ต่างๆในลาว
12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่ 2) ในตัวเมืองปากเซ
13.00 น. เดินทางสู่ ปราสาทหินวัดพู หรือปราสาทหินวัดพู เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่สำคัญที่สุดในจำปาสัก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แห่งที่ 2 ของลาว  ตั้งอยู่บนเนินเขาพูป่าสัก หรือ พู. ห่างจากตัวเมืองไป  40 กิโลเมตร เป็นเทวสถานของขอมคล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 12 สมัยพระเจ้ามเหนทรวรมัน เพื่อใช้เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้าและประกอบพิธีทางศาสนาตามลัทธิพราหมณ์ – ฮินดู ต่อมาลาวได้รับพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศเทวสถานแห่งนี้จึงเปลี่ยนเป็นวัดพุทธศาสนานิกายเถรวาท ทัวร์ลาวใต้
17.00 น. นำคณะ เดินทาง ถึง วัดพูสะเหล้า เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ตั้งอยู่บน ยอดเขา จากยอดนี้ เราจะสามารถมองเห็น วิว ของตัวเมือง ปากเซ สะพานข้ามแม่น้ำโขง  พร้อมจุใจ ในการถ่ายรูป
18.00 น. รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 3 ) และพร้อมเข้าที่พักในเมืองปากเซ และพักผ่อนตามอัธยาศัย

ตรานี้รวม
-ค่ารถตู้ปรับอากาศตลอดการเดินทาง
-ค่าที่พัก 2 คืน ( โรงแรมในประเทศลาว 2 คืน พัก 2 ท่าน/ห้อง)
-ค่าอาหารทุกมื้อ ( 8 มื้อ) ตามในโปรแกรม
-น้ำดื่มระหว่างเดินทาง
-ค่าธรรมเนียมสถานที่ต่าง ๆ รวมค่าผ่านแดนไปลาว
-ค่าเรือล่องแม่น้ำโขง
-ค่าประกันอุบัติเหตุตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ท่านละ 1,000,000 บาท
-มัคคุเทศก์นำเที่ยวตลอดการเดินทาง (ลาว )
 
อัตรานี้ไม่รวม
-ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่ามินิบาร์
-ค่าตั๋วเครื่องบิน กทม-อุบล ไปกลับ
-ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3 %
-ค่ารายการอาหารนอกเมนู เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-ค่าทิปคนขับรถและไกด์

 
#2688
ทัวร์หลวงพระบางวันที่ 1: หนองคาย-เวียงจันทร์-วังเวียง-หลวงพระบาง
07.00 น. เจ้าหน้าที่ แอลทูบีทราเวล ให้การต้อนรับ คณะที่สนามบินอุดรธานี หรือ หนองคาย 
08.00 น. เดินทางไปสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว เพื่อรอทำเอกสารผ่านแดนข้ามไปประเทศลาว
09.00 น. จากนั้นนำท่านเข้าสู่ สปป.ลาว(วันนี้เดินทางไปหลวงพระบางเลย ) จากนั้นเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองวังเวียงสายน้ำซองไหลผ่านใสบริสุทธิ์ระหว่างทางชมวิถิชีวิตของชาวลาวและวิวธรรมชาติสองข้างทางอันสวยสดงดงาม(กุ้ย หลินเมืองลาว)วังเวียงเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยสดงดงามอากาศเย็นสบาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวของลาวตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำซองล้อมรอบด้วยเทือกเขาหินปูสูงใหญ่ตระการตา มองเห็นสายน้ำกว้างสลับกับเนินทราย โดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลัง วังเวียงได้ ฉายาว่า "กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว"
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 1)
13.00 น. จาก นั้นมุ่งหน้าเดินทางสู่ หลวงพระบาง ตามระหว่างทางเราแวะถ่ายรูปที่บ้านผาตั้งถ่ายรูปคู่กับผาตั้งและวิวแม่น้ำซอง อันงดงาม ตลอดสองข้างทางท่านจะเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของทิวเขาไรน่าแบบขั้นบันได ละหมู่บ้านชนพื้นเมืองต่างๆของลาว เช่น ลาวสูง ลาวเทิงลาวม้ง 
ไทลื้อ ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่สองข้างทางชมความยิ่งใหญ่ของขุนเขาที่เต็มไปด้วยไม้ป่านานาพันธ์ที่ขึ้นตามธรรมชาติเส้นทางสายนี้จัดเป็นเส้นทางลัดเลาะภูเขาที่สวยที่สุด แห่งหนึ่งของเอเซียอาคเนย์ก็ว่าได้
19.00 น. รับประทานอาหารเย็น(มื้อที่ 2)  เช็คอินเข้าที่พักหลวงพระบาง  จากนั้นนำท่านพาเดินเที่ยวตลาดมืดหลวงพระบาง ชมสินค้าผ้าทอกระเป๋าทำมือ มากมาย
 วันที่ 2: ตักบาตรข้าวเหนียว-พระธาตุพูสี-พระราชวัง-ถ้ำติ่ง-น้ำตกตาดกวางสี
05.30 น. เชิญ ท่านร่วม ทำบุญใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบางในทุกเช้า พระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ จะออกบิณฑบาต เป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจ และสื่อถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวหลวงพระบาง จากนั้นนำท่านเดินชมตลาดเช้าของชาวหลวงพระบางซึ่งเป็นตลาดสด ท่านสามารถเลือกซื้ออาหารพื้นเมือง และของป่า ซึ่งเป็นแบบฉบับของชาวลาว
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 3)
08.00 น. นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวงพระบาง สร้างในรัชสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและลาว เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ จนพระองค์สวรรคต ก็มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ พศ.2518 ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ นำท่านชมหอพระบางเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปางห้ามสมุทรเป็นศิลปะขอมสมัยบายน น้ำหนัก 54 กิโลกรัม เป็นทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์
09.00 น. จาก นั้นนำท่านชม วัดเชียงทอง วัดที่ตั้งอยู่ริมผั่งเม่น้ำโขงสร้างในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ช่วงประมาณ ปี พศ 2102 – 2103 ซึ่งวัดเชียงทองได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์ และเข้าชีวิตศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้าย ชมพระอุโบสถ ที่มีศิลปะแบบล้านช้าง หลังศรแอ่นโค้งต่ำ ซ้อนกันอยู่สามชั้น มีช่อฟ้าที่อยู่ตรงกลางของหลังคารวมกัน 17 ช่อ ถ้าเป็นคนสามัญสร้างจะมี 1-7 ช่อเท่านั้น ชมพระพุทธรูปป่างห้ามสมุทรในอูปมูง ด้านข้างพระอุโบสถ ชมวิหารพระม่านที่ประดิษฐานพระม่าน ผนังสีชมพู ภาพประดับกระจกสีเล่าถึงวิถีชีวิตชาวหลวงพระบาง ชมโรงราชรถ
ออกแบบโดยเจ้ามณีวงศ์ ภายในบรรจุพระพุทธรูปแกะสลักไม้จำนวนมากที่เก็บมาจากวัดร้างต่างๆ
10.00 น. นำ ท่านชม วัดวิชุนราช สร้างในสมั่ยพระเจ้าวิชุนราช (พศ 2046 ) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวทัวร์หลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง
10.30 น. เดินทางไปยังหมู่บ้านซ่างไห เพื่อลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขง รับประทานอาหารกลางวันประเภทปลาน้ำโขงที่หมู่บ้านปากอู
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 4 ) ถ้ำติ่งซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่างสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา ทัวร์หลวงพระบาง
15.00 น. พา คณะไปชม น้ำตกตาดกวางสี ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 30 กม.ผ่านหมู่บ้านชนบทริมสองข้างทาง ชมความงดงามของน้ำตก ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงราว70-80เมตร ถือเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง โดยมีสายน้ำที่ลดหลั่นผ่านชั้นหินปูนลงสู่แอ่งน้ำที่สดใส มีทางเดินลัดเลาะขึ้นไปสู่ชั้นบนเพื่อชมความงามอีกมุมหนึ่งของน้ำตก อิสระให้ท่านดื่มด่ำกับธรรมชาติ เล่นน้ำ บันทึกภาพอันประทับใจ
17.00 น. นำ ท่านขึ้นสู่ เขาพูสี ขึ้นบันได 328 ขั้น เชิญนมัสการธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว ดอกไม้ประจำชาติลาว เมื่อท่านถึงยอดให้ท่านนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งสร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท เมื่อปี พ.ศ.2337 พระธาตุเป็นรูปทรงดอกบัว อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ชมพระอาทิตย์ยามอัสดง วิวทิวทัศน์รอบเมืองหลวงพระบางยามเย็น
18.00 น. รับประทาน อาหารเย็น (มื้อที่ 5) ที่ร้านอาหาร
19.00 น. เช็คอินเข้าที่พักพักผ่อนอย่างสบาย จากนั้นนำท่านพาเดินเที่ยวตลาดมืดหลวงพระบาง 
 วันที่ 3: หลวงพระบาง-พูคูน-วังเวียง-ถ้ำจัง
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 6 )
08.00 น. เดินทางออกจากหลวงพระบางแวะเข้าห้องน้ำถ่ายรูปวิว(จุดนี้จะสูงที่สุดในเส้นทางนี้) ระหว่าง ชมวิวเทือกเขา และ ธรรามชาติ ที่สวยงามของเมืองลาว
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 7)
15.00 น. เดินทางถึง "กุ้ยหลินเมืองลาว"  พาคณะชมถ้ำจัง ถ้ำที่สวยที่สุดของวังเวียงภายในเป็นโถงใหญ่ มีไฟประดับ ภายในบริเวณถ้ำจะสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นฉ่ำ หินงอกหินย้อยอันงดงาม
18.00 น. รับประทานอาหารเย็น(มื้อที่ 8 ) และเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัยหรือท่านใดต้องการเดินเที่ยวเล่นในตัวเมืองวังเวียงยามค่ำคืน ทางทีมงานมีบริการรถรับส่งให้ท่าน
 วันที่ 4: วังเวียง-พระธาตุหลวง-ประตูชัย-หนองคาย
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 9 ) 
08.00 น.จากนั้นออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ กำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ ระยะทาง 150 กม.
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 10 ) ณ ภัตตาคาร ด้วยเมนูอาหารหลากหลาย
13.00 น. นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว (Hor Phra Kaew Museum) ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตก่อนที่จะถูก อันเชิญมาไว้ที่กรุงธนฯโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก(ร. 1) เมื่อปี ค.ศ. 1778 นำท่านเข้าชม นมัสการ พระธาตุหลวงหรือพระเจดีย์โลกจุฬามณี เป็น ปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ สร้างใน สมัยเดียวกันกับการสร้างเมืองเวียงจันทน์ โดยพระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ และ พระอรหันต์ 5  องค์บรรจุพระบรม สารีริกธาตุ ส่วนหัวเหน่าของพระพุทธเจ้าไว้ในองค์พระธาตุ เดิมเป็น พระธาตุองค์เล็ก ๆ ต่อมาในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้นำ พาประชาชน  สร้างพระธาตุองค์ใหญ่ครอบพระธาตุองค์เดิมไว้จนถึงปัจจุบันนี้ สวยงามและ ยิ่งใหญ่ ที่สุดในประเทศลาว
14.00 น. อนุสาวรีย์ประตูชัย (Victory Monument) Victory Monument) สถาปัตยกรรม ผสมผสานลาว ล้านช้าง กับฝรั่งเศส ตั้งตระหง่านสูงเด่นอยู่ ใจกลางนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อรำลึกถึงวีรชนของชาติ ที่ เสียสละ เพื่อชาติบ้านเมืองมา  ทุกยุค ทุกสมัย ชั้นบนสุดท่าน สามารถชมทิวทัศน์ของเวียงจันทน์ได้รอบทิศทาง 
15.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำคณะมาที่ด่านชายแดนลาว-ไทย ให้ท่านแวะช๊อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ที่ Duty free ของลาว ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ทำเอสการข้ามแดน ที่ด่านลาวเลือกซื้อสินค้านานาชาติมียี่ห้อ ราคาถูก ต่างๆ มากมาย อาทิ เหล้า ไวน์ บุหรี่ และเครื่องสำอาง 
16.30 น. เดินทางกลับเมืองไทยด้วยความประทับใจ และส่งท่านตามที่นัดหมาย
#2689
เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย 3 ด้าน

เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย 3 ด้าน
ทีมนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST กล่าวว่าวิกฤต รัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคเศรษฐกิจจริง สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ส่งผลให้มาตรการตอบโต้ทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการต่างประเทศ เริ่มขยายวงกว้าง ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวจาก Covid-19 และสร้างความกังวลว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทรงตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย หากประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากการคว่ำบาตรรัสเซีย อาจแบ่งออกได้เป็น 3 ด้าน ได้แก่

1) ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง - ไม่มาก

-การค้าระหว่างประเทศ: ไทย-รัสเซียมีสัดส่วนที่ไม่สูง ในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ไทยส่งออกไปรัสเซียคิดเป็น 0.5% และนำเข้าคิดเป็นเพียง 0.4% ของมูลค่ารวม

-การท่องเที่ยว: แม้นักท่องเที่ยวรัสเซียที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยในปี 2564 สูงเป็นอันดับที่ 4 แต่คิดเป็นจำนวนไม่มากเพียง 3 หมื่นราย เนื่องจากผลกระทบ Covid-19

2) ผลกระทบด้านห่วงโซ่อุปทานและเงินเฟ้อ - ค่อนข้างรุนแรง

ผลกระทบที่รุนแรงที่สุดจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน คือการเร่งภาวะเฟ้อที่มาจากด้านต้นทุน (Cost Push Inflation) ให้รุนแรงขึ้น ทั้งจากราคาพลังงานโดยตรง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นที่รัสเซียเป็นผู้ผลิตหลักของโลก ส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่ม TRANS PETRO Packaging CONMAT และ Man.cturing (ผลลบมากกว่าผลบวกจากราคาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้น)

-ผลกระทบด้านพลังงาน: หากเกิดกรณีชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย (สหรัฐฯส่งสัญญาณยังไม่ปิดโอกาส แต่ยุโรปไม่เห็นด้วย) ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่จะส่งผลให้ Supply ขาดแคลนอย่างเฉียบพลัน

-ผลกระทบต่อต้นทุนภาคอุตสาหกรรม: รัสเซียเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งแร่โลหะ (metals) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในหลายอุตสาหกรรม ประกอบด้วย Palladium ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็คโทรนิกส์ Platinum ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และ จิวเวอร์รี่ Nickel ใช้ผลิตแสตนเลส ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการผลิตอุปกรณ์ของใช้ในบ้าน (เช่น เครื่องครัว) อุตสาหกรรมการแพทย์ โครงสร้างพื้นฐาน และยานพาหนะ Copper ใช้ในการก่อสร้าง อุปกรณ์อิเล็คโทรนิกส์ และการขนส่ง

3) ความเสี่ยงจากกระแสเงินลงทุนต่างชาติ - ปานกลาง

กระแสเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ช่วง ธ.ค. รวมทั้งสิ้นสูงถึงระดับ 8 หมื่นล้านบาท บนมุมมองเชิงบวกแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว การเริ่มเปิดประเทศ ระดับราคาอยู่ในจุดที่ดึงดูด และเป็นช่วงที่ตลาด DM: Developed Market อยู่ในจุดที่ Valuation ตึงตัว อย่างไรก็ตามวิกฤตที่เกิดขึ้นส่งผลให้ภาพดังกล่าวเริ่มเปลี่ยนไป ตลาดหุ้น DM (S&P500 Stoxx50) ปรับฐานแรงจนกลับไปสู่ระดับเทียบเคียงกับตอนที่เผชิญวิกฤต Covid-19 ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงที่กระแสเงินลงทุนอาจไหลออกจากตลาดหุ้นไทยที่ Outperform สู่ตลาด DM ที่มีส่วนลด

ราคาหุ้นตอบรับเชิงลบไปแล้วพอสมควร และลงมาถึงจุดที่น่าสนใจทยอยสะสม ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันตอบรับความเสี่ยงต่างๆไปแล้วพอสมควร และถึงจุดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่โดนผลกระทบจำกัด นำโดย Tourism COMM จาก

1) SET Index ล่าสุด (ปิดเช้าวันที่ 8 มี.ค.) ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดของปีประมาณ -5.5%                                                                                                                                          

2) Earnings Yield Gap ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของปี ที่ 3.76%                                                                                   

3) ปัจจุบัน SET ซื้อขายที่ P/E 17 เท่า (EPS 94.2) ต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย P/E ย้อนหลัง 5 ปี                                              
#2690
Unicorn ยูนิคอร์น ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง น้องใหม่ มาแรง !
สร้างรายได้ Passive income ของแท้ เกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย
ปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่  ระบบสร้างความสำเร็จชั้นแนวหน้าระดับประเทศ
ขายตรงน้องมาแรง ! ร้อนแรง!! เขย่าวงการขายตรง 
ยูนิคอร์น Unicorn ธุรกิจน้องใหม่ ธุรกิจออนไลน์ สร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัด รองรับตลาด AEC 
ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง น้องใหม่ในโลกยุคดิจิทัล ที่มีระบบ Smart Unicorn Ai ในการสร้างธุรกิจ ให้ทำงานได้ง่ายขึ้น  มีคอร์สเรียนรู้ พร้อมสำหรับผู้สนใจ
รับสมัครตัวแทนธุรกิจ
 
มาร่วมบุกเบิกเป็นต้นสาย 
ยูนิคอร์น Unicorn กับเรา
ฟอร์มทีมผู้นำ 77 จังหวัด ทั่วประเทศ
รีบตัดสินใจวันนี้
สนใจ กรอกข้อมูลรับรายละเอียดเพิ่มเติม
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
 
สนใจ กรอกข้อมูลรับรายละเอียด+ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซด์...
 
 https://www.uncthai.com

รับสมัครตัวแทนธุรกิจ 
Line : @uncth (มี@นำหน้า)










Unicorn, ยูนิคอร์น, Unicornขายตรง, ยูนิคอร์นขายตรง, ธุรกิจเครือข่าย, ขายตรง, ธุรกิจออนไลน์, สร้างรายได้, ธุรกิจเครือข่ายน้องใหม่, UNCTHAI,
#2691
ครม.อนุมัติปรับปรุงการจัดเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัลตามข้อเสนอสรรพากร

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการมาตรการบรรเทาภาระภาษีสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ตามที่กรมสรรพากรเสนอร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ซึ่งจะเป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนคริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนดิจิทัล ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต (Exchange) และการโอนสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมทั้งอนุญาตให้หักผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลใน Exchange ออกจากกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลใน Exchange ในการคำนวณภาษีได้

"ประเด็นนี้จะทำให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนในประเทศไทยเกิดขึ้นใน Exchange ของประเทศไทยซึ่งมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากอยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและทำให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินในอนาคตที่พร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล" นายอาคม กล่าว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ คือ

1. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนคริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนดิจิทัลใน Exchange ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

2. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (Retail CBDC) ตามโครงการพัฒนาและทดสอบการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับการใช้งานภาคประชาชน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

รวมทั้งร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนดิจิทัล เฉพาะที่ตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน เป็นจำนวนเท่ากับผลขาดทุนจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนดิจิทัลที่เกิดขึ้นในปีภาษีเดียวกัน

ทั้งนี้ เฉพาะผลประโยชน์และผลขาดทุนจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลใน Exchange ตั้งแต่วันที่พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ (14 พฤษภาคม 2561) เป็นต้นไป

"การบรรเทาภาระภาษีสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะช่วยให้ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และได้รับความเป็นธรรมในการเสียภาษีมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนที่เกิดขึ้นใน Exchange ของประเทศไทย มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการใช้เงินดิจิทัลในอนาคตต่อไป" นายเอกนิติ กล่าว
#2692
ภาวะตลาดอนุพันธ์: ปรับลงตามตลาดตปท.รับแรงกดดันวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนหวั่นกระทบศก.โลก

นายจรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายผู้แนะนำการลงทุน บริษัท คลาสสิก ออสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ปรับลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก จากวิกฤติรัสเซียและยูเครน หลังจากการเจรจารอบที่ 3 ล้มเหลว โดยรัส เซียมีข้อเรียกร้องที่ยูเครนรับได้ยาก เชื่อว่าสถานการณ์จะยังไม่คลี่คลายได้โดยเร็ว ขณะเดียวกัน รัสเซียถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรไม่ซื้อ น้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ยิ่งกดดันภาวะเงินเฟ้อที่เดิมเร่งตัวมากอยู่แล้ว จึงส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั้งโลก ดังนั้น หุ้นจึงถูกเท ขายออกมาอย่างต่อเนื่อง

นายจรณเวท กล่าวว่า แม้ในวันพรุ่งนี้ตลาดจะรีบาวด์แต่คงยังไม่ใช่ขาขึ้น โดยดัชนี SET หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,640 จุดภายในสัปดาห์นี้จะทำให้ภาพใหญ่เปลี่ยนแนวโน้ม และยังคงแนะนำให้เล่นฝั่ง short โดยให้แนวต้านสำคัญ 997 จุด แนวรับที่ 950 จุด

ส่วนราคาทองคำพุ่งขึ้นจากวิกฤตรัสเซียและยูเครนยังไม่มีท่าทีจะจบลงได้ง่าย ๆ มองทองคำยังเป็นบวก และกองทุน SPDR ก็ยังเข้าซื้อต่อเนื่อง โดยซื้อสะสมแล้ว 1,062 ตัน ตั้งแต่ต้นปี 65 ซื้อมาแล้ว 87 ตันว อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังมากขึ้น หลัง จากราคาขึ้นมาแล้วกว่า 150 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ จาก 1,850 เหรียญ/สหรัฐออนซ์ ไม่แนะนำไล่ซื้อ ส่วนผู้ที่ถือทองคำแนะให้ถือต่อไป ให้แนวรับช่วงสั้นที่ 1,980 และ 1,965 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยมองแค่เป็นการย่อตัว ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 2,030-2,050 เหรียญ สหรัฐ/ออนซ์ แนะนำให้เล่นฝั่ง long

SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 982.97 จุด ลดลง 0.61 จุด, -0.06%

                                          ปริมาณ                สถานะคงค้าง
Total Market                           1,264,693               4,504,397
Total Futures                          1,233,495               4,365,451
SET50 Index                              440,256                 454,423
Sector Index                                -                       -
Single Stock                             642,123               3,686,359
Precious Metal                           112,899                 102,459
- GF10                                    14,200                  23,631
- GF50                                       302                     602
- Gold Online                             97,697                  76,507
- Silver Online                              700                   1,719
Deferred Precious Metal                       17                      22
- GOLD-D                                      17                      22
Currency                                  38,093                 121,975
Interest Rate                                -                        -
Agriculture                                  107                     213
- Japanese Rubber                            107                     213
- RSS3D                                      -                        -
- RSS3                                       -                        -
Total Options                             31,198                 138,946
Call                                       9,888                  48,419
Put                                       21,310                  90,527

สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน

                  นักลงทุนสถาบัน          นักลงทุนต่างชาติ          นักลงทุนภายในประเทศ
Futures             +198,385             +28,688                -222,073
Options                 -527                +242                    +285
#2693
ดัชนี SET ต้นภาคบ่ายร่วงกว่า 30 จุดหลุด 1,600 ขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนรุนแรง

ตลาดหุ้นต้นภาคบ่ายปรับตัวลงต่อกว่า 30 จุดตามตลาดต่างประเทศ จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนรุนแรงขึ้น และยังไม่มีทีท่าสถานการณ์จบลงได้เร็ว ทำให้เกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงโยกไปไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัย

เมื่อเวลา 14.33 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,593.17 จุด ลดลง 33.53 จุด (-2.06%)

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.53 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,591.76 จุด ลดลง 34.94 จุด (-2.15%)

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงต่อเนื่องจาก panic sell ตามตลาดภูมิภาค เนื่องจากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากรัสเซียส่งสัญญาณว่าสถานการณ์จะยุติต้องได้ตามเงื่อนไขที่เรียกร้อง ซึ่งดูแล้วค่อนข้างยาก ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขาย และตลาดหุ้นบ้านเราทิ้งดิ่งลงมา 2% ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศก็ปรับตัวลงแรงเช่นกัน ซึ่งตลาดเอเชียก็ปรับลงไปกว่า 2% ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็พลิกมาเป็นลบหลังจากช่วงเช้าบวก

โดยตลาดหุ้นบ้านเราหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,600 จุด ทำให้มีความเสี่ยงสูง ขณะนี้ก็ต้องปล่อยให้ตลาดปรับตัวลงจนกว่าเข้าสู่ Panic Oversold จนกว่าสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนมีทางออก

ทั้งนี้ให้แนวรับถัดไปที่ระดับ 1,560 จุด แนวต้านที่ 1,600, 1,612 จุด
#2694
พื้นยางฟิตเนส ขนาด 25mm มีคุณภาพ นำเข้าจากต่างประเทศ
[url=www.cctfitness.com/product-category/%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9f%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%aa/]พื้นยางปูฟิตเนส[/url] ขนาด 50×50 cm ความหนา 25 มิล ผลิตจากวัสดุที่เรียกว่า EPDM ที่ใช้สำหรับรับแรงกระแทกสิ่งของที่มีน้ำหนักเยอะอย่างเช่น ดัมเบลหรือแผ่นน้ำหนัก มีความยืดหยุ่นสูง มีความทนทานและรับแรงกระแทกได้เยอะ ผลิตจากวัตถุดิบอย่างดี ใช้งานได้ทั้งที่ร่มและกลางแจ้ง มีน้ำหนักเบาและกันน้ำได้

ติดต่อ
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8 
#2695
บัตรเครดิต ทีทีบี เติมเต็มทุกความสุขเรื่องบ้าน เมื่อช้อปที่บุญถาวรทุกสาขารับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 89,000 บาท

บัตรเครดิต ทีทีบี ร่วมกับ บุญถาวร มอบสิทธิพิเศษสำหรับคนรักบ้านได้ช้อปของตกแต่งบ้าน กระเบื้อง สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ จากแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 89,000 บาท พร้อมแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% และสามารถแบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2565

แบบชำระเต็มจำนวน เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยจำกัดเครดิตเงินคืนสูงสุด 39,000 บาท / บัญชีบัตรหลัก / ตลอดรายการส่งเสริมการขาย โดยลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์พิมพ์ FBV ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026 บัตรเครดิต ทีทีบี รีเซิร์ฟ สามารถรับสิทธิ์ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน
แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) เมื่อมียอดแบ่งชำระตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยจำกัดเครดิตเงินคืนสูงสุด 40,000 บาท / บัญชีบัตรหลัก / ตลอดรายการส่งเสริมการขาย โดยลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์พิมพ์ IBV ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026 บัตรเครดิต ทีทีบี รีเซิร์ฟ สามารถรับสิทธิ์ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน
พิเศษ! รับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 10,000 บาท เมื่อสะสมยอดใช้จ่ายตลอดรายการ รวมชำระเต็มจำนวนและ / หรือ แบ่งชำระอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อครบ 1,000,000 บาทขึ้นไป
พิเศษ! สำหรับบัตรเครดิตประเภทที่มีคะแนนสะสม แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อแลกคะแนนสะสมเท่ายอดใช้จ่าย ในวันจันทร์ - วันศุกร์ โดยแลกรับเครดิตเงินคืน 10% สำหรับบัตรเครดิต ทีทีบี ทุกประเภท ในวันเสาร์ - วันอาทิตย์ แลกรับเครดิตเงินคืน 15% สำหรับบัตรเครดิต ทีทีบี รีเซิร์ฟ อินฟินิท  ทีทีบี รีเซิร์ฟ ซิกเนเจอร์  และแลกรับเครดิตเงินคืน 12% สำหรับบัตรเครดิต ทีทีบี ทีเอ็มบี และธนชาต ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ทุกหน้าบัตรเครดิตทุกครั้งที่ทำการแลกคะแนน พิมพ์ PBV ตามด้วยคะแนนเท่ายอดใช้จ่าย เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026       

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ttb contact center 1428
#2696
Decrypto: Cryptocurrency อาวุธลับต่อกรมหาอำนาจ?

จากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองในปัจจุบันระหว่างยูเครนและรัสเซีย ที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่องมาตลอดสองสัปดาห์ เหล่าประเทศมหาอำนาจฝ่ายโลกตะวันตกนำโดยสหรัฐเมริกาและสหภาพยุโรปซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนแนวคิดแบบเสรีนิยม และเปรียบเสมือนพี่ใหญ่ทำหน้าที่วางระเบียบโลกมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษก็ไม่ได้อยู่เฉย กลับได้เข้ามามีบทบาทในการตอบโต้การกระทำดังกล่าวของรัสเซีย โดยกำหนดมาตราการมากมาย เช่น สนับสนุนจัดซื้อและส่งอาวุธให้ยูเครน ห้ามเครื่องบินรัสเซียเข้าน่านฟ้า แบนสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลรัสเซีย และการยกระดับมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ทั้งต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รัฐวิสาหกิจ และธนาคารบางแห่ง อายัดสินทรัพย์ของรัสเซียในต่างประเทศ

พร้อมห้ามค้าขาย นำเข้า-ส่งออกสินค้าต่าง ๆ รวมถึงกรณีการตัดธนาคารของรัสเซียออกจากโครงข่าย "SWIFT" ซึ่งเป็นระบบสื่อสารหลังบ้านของธนาคารนับหมื่น ๆ แห่งในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และล่าสุดกรณีที่ "VISA" และ "Master Card" ระงับการให้บริการในประเทศรัสเซีย อันเป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงต่อระบบการเงินและการธนาคารของรัสเซียเป็นอย่างมาก

แม้จะมีมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารัสเซียเองก็มีบทบาทสำคัญในด้านเศรษฐกิจ โดยมีทรัพยากรธรรมชาติและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของประชาคมโลกมากมาย เช่น แก๊สธรรมชาติ น้ำมัน แร่หายาก และข้าวสาลี ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงประชาคมโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรป

นอกจากนี้ การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจยังได้สร้างความกังวลให้กับบรรดาเจ้าหนี้ของรัสเซียว่าอาจจะทำให้ไม่ได้รับชำระหนี้ รวมถึงได้สร้างผลกระทบต่อโครงการการลงทุนระหว่างประเทศ "Mega Projects" ต่าง ๆ ในเส้นทางสายไหม (Belt and Road Initiative) ในรัสเซียอีกมากมายหลายโครงการ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่ายังคงมีหลายฝ่ายที่อยากดำเนินการทางการค้าการลงทุนกับรัสเซียอยู่

มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบการเงินสมัยเก่าซึ่งเป็นระบบการเงินแบบรวมศูนย์ (Centralized) ที่การดำเนินการทางการเงินต่าง ๆ ต้องอาศัยตัวกลาง เช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงิน และหน่วยงานต่าง ๆ โดยเมื่อเป็นเรื่องการดำเนินการทางการเงินระหว่างประเทศแล้ว ระบบ "SWIFT" ก็จะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก

โดยระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) หรือ สมาคมโทรคมนาคมทางการเงินโลก เป็นระบบที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูลการโอนเงินระหว่างประเทศ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมของธนาคารระหว่างประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก เช่น การรับส่งข้อมูลคำสั่งซื้อ การทำการค้า การยืนยันการชำระเงิน และการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ณ ปัจจุบันมีสถาบันการเงินกว่า 11,000 แห่ง ใช้บริการชำระเงินผ่านระบบ "SWIFT" ครอบคลุมการใช้งานกว่า 200 ประเทศ

ทั้งนี้ การดำเนินการของ "SWIFT" จะถูกกำกับดูแลและควบคุมโดยคนกลาง ได้แก่ ธนาคารแห่งชาติของเบลเยียม และตัวแทนจากระบบธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารแห่งอังกฤษ ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น และธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ

การตัดธนาคารของรัสเซียออกจากโครงข่าย "SWIFT" จึงเป็นตัวอย่างศึกษาที่ดีต่อกรณีประเทศมหาอำนาจสามารถเข้ามาแทรกแซงและควบคุมการทำธุรกรรมทางการเงินที่ดำเนินการผ่านคนกลางได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะแตกต่างจากการระบบการเงินสมัยใหม่ที่มีการนำเทคโนโลยี "Blockchain" เข้ามาใช้ภายใต้การกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยคนกลางอีกต่อไป

โดยการโอน Cryptocurrency ไม่ต้องข้องเกี่ยวหรือดำเนินการผ่านธนาคาร ที่จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในระดับระหว่างประเทศว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร และการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม DeFi (Decentralized Finance) ที่สถานะภาพทางกฎหมายและเครดิตของผู้ทำธุรกรรม กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถตรวจสอบได้บนโลกไร้ตัวกลาง อีกทั้งปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ที่ออกมาควบคุมหรือให้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซง จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหลายท่านมองว่า ทั้ง Cryptocurrency และ DeFi อาจเป็นสิ่งที่จะถูกนำมาใช้เพื่อแก้เกมส์การถูกคว่ำบาตรโดยเหล่าประเทศมหาอำนาจได้

บทบาทของ Cryptocurrency และ DeFi ที่มีความสำคัญมากขึ้นภายใต้สภาวะสงครามที่ต้องการความคล่องตัวทางการเงินสูง ได้ถูกสะท้อนให้เห็นจากการที่ยูเครนได้เปิดรับบริจาค Cryptocurrency สกุลต่าง ๆ รวมถึงรัสเซียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเอกชนเองก็เริ่มพิจารณาใช้ Cryptocurrency และเป็นเครื่องมือในการดำเนินการต่าง ๆ ภายใต้สถานการณ์การถูกคว่ำบาตรจากระบบ SWIFT ที่เกิดขึ้น

กรณีจึงเห็นได้ว่าบทบาทความเป็นกลางของ Cryptocurrency และระบบการเงินแบบ Decentralized ที่เด่นชัดขึ้น ได้เข้ามาบั่นทอนการควบคุมระบบการเงินโดยภาครัฐและประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ จนผู้เชี่ยวชาญทางด้านสินทรัพย์ดิจิทัลต่างมองว่า Cryptocurrency อาจกลายเป็นอาวุธลับเพื่อใช้ต่อกรประเทศมหาอำนาจได้เลยทีเดียว

นางสาวดุษดี ดุษฎีพาณิชย์

ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านนิติกรรมสัญญา

และอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
#2697
บัวเชิงผนัง พื้นไม้ลามิเนต กระเบื้องยาง By CCT Group

รู้หรือไม่ บัวพื้นไม่ได้แค่เพิ่มความสวยงามแต่ยังมีประโยชน์อีกมากมาย หลายบทความที่ผมได้เขียนเกี่ยวกับความสำคัญของ บัวเชิงผนัง ข้อดีและข้อเสียและเคยเขียนไปถึงเรื่องการผลิตบัวเชิงผนังเลยด้วยซ้ำ แต่รู้หรือไม่ว่าถ้าบ้านของท่านได้ตกแต่งหรือประดับด้วยบัวเชิงผนัง มันจะเพิ่มความสวยงามและเพิ่มความมีสไตล์ให้กับบ้านของท่านเป็นร้อยเป็นพันเท่า และยังสามารถเลือกซื้อ พื้นไม้ลามิเนต และ กระเบื้องยางได้จากเราอีกด้วย บัวเชิงผนัง พื้นไม้ลามิเนต กระเบื้องยาง By CCT Group
 
#2698
SINGER มั่นใจยอดปล่อยสินเชื่อ Q1/65 ทะลุเป้ารับสัญญาณบวกต่อเนื่องจาก Q4/64

นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าในช่วงไตรมาส 1/65 บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มากกว่า 1 พันล้านบาท/ไตรมาส ซึ่งบริษัทเริ่มเห็นสัญญาณของความต้องการสินเชื่อที่มากขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/64 หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เข้มงวด ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศกลับมาเดินหน้า การจับจ่ายใช้สอยก็ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าในร้านค้าของ SINGER อีกทั้งบริษัทยังคงมีการขยายสาขาเฟรนไชส์ต่อเนื่องเพื่อทำให้มีสาขาครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ทั้งปี 65 บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.55 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 45% จากปีก่อนที่ 1.09 หมื่นล้านบาท ซึ่งนอกเหนือจากการเดินหน้าขยายแฟรนไชส์เพิ่มเป็น 7,000 สาขาแล้ว ความสามารถในด้านการเงินก็เพิ่มขึ้นจากเงินเพิ่มทุนของพันธมิตรที่เข้ามา ทำให้บริษัทมีความสามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น และมีต้นทุนทางการเงินลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการรุกตลาดมากขึ้นในปีนี้

ขณะเดียวกันการที่ JMART เปิดเปิดธุรกิจ เจ ดี ยังเป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทสามารถนำสินค้าแบรนด์ของ SINGER ไปขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าดีลเลอร์ของร้านเจ ดี ได้อีกด้วย ซึ่งทำให้บริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นกว่าร้านค้าแฟรนไชส์ที่บริษัทมี ทำให้เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและการขยายสินเชื่อควบคู่กันไปด้วย

ด้านธุรกิจสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) ในปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มรถบรรทุกที่มีความต้องการใช้สินเชื่อค่อนข้างมาก โดยที่ในปี 65 บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินอยู่ที่ 6 พันล้านบาท

ส่วนการควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 65 บริษัทจะควบคุมให้อยู่ในช่วง 3.5-3.9% ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่อยู่ที่ 3.9% โดยที่แนวโน้มของการชำระหนี้ของลูกค้ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น ลูกค้าจำนวนมากกลับมาชำระคืนหนี้ได้ตามปกติ หลังจากเริ่มกลับมาทำงานและมีรายได้

ความคืบหน้าในการนำบริษัท เอส จี แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจโบรกเกอร์นายหน้าขายประกันของบริษัทนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคาดว่าจะสามารถนำ เอส จี แคปปิตอล เข้าตลาดฯได้ภายในไตรมาส 3/65

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 68 จะมีพอร์ตสินเชื่อรวมขึ้นไปแตะระดับ 4 หมื่นล้านบาท จากการเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรุกขยายสาขาแฟรไชส์ที่ในปีนี้จะเพิ่มเป็น 7,000 สาขา ทำให้จะเป็นปัจจัยหนุนต่อการขยายสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไปที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เร่งการเติบโตของสินเชื่อให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป
#2699
การซื้อ-ขายทั้งสิ้นที่จัดการผ่านสะสม ได้ผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างประณีตทุกรายการ
ซื้อ-ขายในราคากลางที่ตลาดเป็นผู้กำหนด พร้อมบริการหลังแนวทางการขายระดับพรีเมียม รวมถึงการไม่เปิดเผยตัวตน พวกเรามอบประสบการณ์การค้าขายที่ดีเยี่ยมที่สุดในตลาด
ซื้อ-ขายง่าย ไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องเผยตัวตน หรือติดต่อกับคนซื้อหรือผู้ขายโดยตรง ช้อปหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการได้ในเพียงแต่ไม่กี่คลิก ในเว็ปไซต์สะสม SASOM
เข้าถึงข้อมูลราคาขายล่าสุดบนแพลตฟอร์ม ช่วยให้คุณสามารถพินิจพิจารณา คาดหมาย รวมทั้งเรียนรู้ค่าของสินค้า เพื่อประกอบกิจการตัดสินใจซื้อ-ขายได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

กรรมวิธีการซื้อ  Jordan 1 Retro High Pine Green Black
ขั้นตอนที่ 1: เลือกของ SASOM ของคุณ
เลือกสินค้าที่คุณปรารถนา แล้วคลิกที่ปุ่มซื้อ ถ้าเกิดปุ่มซื้อไม่พร้อมใช้งาน สามารถอ่านเพิ่มถึงที่กะไว้ "ไม่มีปุ่มกดซื้อผลิตภัณฑ์ที่ฉันปรารถนา"
ขั้นตอนที่ 2: เลือกราคา, ไซส์ แล้วก็ภาวะผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการ
เลือกราคา, ขนาด และก็ภาวะผลิตภัณฑ์ที่คุณปรารถนา แล้วทำงานต่อที่หน้าชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 3: กรอกที่อยู่สำหรับการจัดส่ง  Jordan 1 Retro High Pine Green Black
กรอกที่อยู่aสำหรับการจัดส่ง หรือเลือกที่อยู่ที่คุณบันทึกไว้ คุณสามารถเลือกซื้อบริการเสริม (Add-on service) หรือใส่รหัสส่วนลด (ถ้าหากมี) แล้วกดเห็นด้วยหลักเกณฑ์แล้วก็ข้อจำกัดก่อนคลิกถัดไป
ขั้นตอนที่ 4: จ่ายเงิน  Jordan 1 Retro High Pine Green Black
เลือกขั้นตอนการจ่ายเงินที่คุณต้องhttps://bit.ly/35caTdKได้ โดยคุณสามารถดูข้อมูลหนทางการชำเงินต่างๆถึงที่กะไว้ "ช่องทางการชำระเงิน"
ขั้นตอนที่ 5: สะสมปฏิบัติการจัดส่งผลิตภัณฑ์  Jordan 1 Retro High Pine Green Black
สะสมดำเนินการจัดส่งสินค้าถึงมือคุณ! พร้อมรับประกันสินค้าว่าเป็นของแท้ 100% ประสิทธิภาพรวมทั้งสภาพผลิตภัณฑ์ตรงตามมาตรฐานของสะสม หากเกิดเหตุขัดข้องใดๆ
เกี่ยวกับรายการสั่งซื้อของคุณ ทางเราชัดเจนให้คุณรู้และก็จัดหาลู่ทางที่ดีที่สุดให้กับคุณ!


https://bit.ly/3HLGBLZ
#2700
แบมบู  อินเตอร์เนชั่นแนล
เปิดรับตัวแทนจำหน่ายทั่วปะเทศ
สอนสร้างกำไร หลักแสน หักล้าน
การทำงานใช้ระบบ ออนไลน์ 100 %
ทำงานง่ายๆ ไม่เคยขายออนไลน์ก็เริ่มงานได้
เรียนฟรี คอร์สยิงแอดและคอร์สการขาย
มีแม่ทีมช่วยซัพพอตการทำงานทุกขั้นตอน
สอบถามข้อมูลธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่าง

https://shorturl.asia/KlcV4