• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - kaidee20

#9992

"เจ้ย อภิชาติพงศ์" ถือโอกาส"คอลเอาท์" เรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดในประเทศไทย ระหว่างขึ้นรับรางวัล "Jury Prize" ใน "เทศกาลหนังเมืองคานส์" จากภาพยนตร์เรื่อง "Memoria"

'อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล' หรือ 'เจ้ย' ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทย สร้างชื่อใน 'เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์' อีกครั้งเมื่อ Memoria ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาได้รางวัล 'The Jury Prize' หรือรางวัลขวัญใจกรรมการ จาก Cannes Film Festival ครั้งที่ 74 ที่เพิ่งประกาศไปสด ๆ ร้อนๆ เมื่อเวลาประมาณตีหนึ่งของวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ตามเวลาประเทศไทย โดย Memoria ได้รับรางวัลนี้ร่วมกับภาพยนตร์เรื่อง Ahed's Knee ของผู้กำกับชาวอิสราเอล Nadav Lapid

หากจะพูดว่าอภิชาติพงศ์เป็นผู้กำกับชาวไทยที่ไปโลดแล่น และโด่งดังในต่างแดนมากกว่าในประเทศบ้านเกิดก็คงไม่ผิด เพราะเขาเป็นคนทำหนังนอกระบบ และมักทำผลงานออกมาในแนวทดลอง ใช้นักแสดงที่ไม่ได้เป็นมืออาชีพ ทำให้หนังของเขาถูกจริตคนที่ชอบภาพยนตร์สายประกวด หรือหนังอาร์ตมากกว่า

ความเก่งกาจของอภิชาติพงศ์ฉายออกมาให้เห็นตั้งแต่ในภาพยนตร์สารคดียาวเรื่องแรกของเขา 'ดอกฟ้าในมือมาร' (Mysterious Object at Noon) พ.ศ. 2543 ที่ได้เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติจำนวนมาก และได้รางวัลมาครองถึง 4 รางวัล แถมยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดประจำปี 2543 โดยนิตยสาร The village voice

ชื่อเสียงของอภิชาติพงศ์โด่งดังมากขึ้นเมื่อภาพยนตร์เรื่อง 'สุดเสน่หา' (Blissfully Yours) ได้รับรางวัล Un Certain Regard ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ประจำปี พ.ศ. 2545 และถูกจัดเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่คานส์โดยนิตยสาร Le Cahiers du Cinema

ตามมาด้วย 'สัตว์ประหลาด!' (Tropical Malady) พ.ศ. 2547 กับรางวัล Jury Prize ซึ่งเป็น 'ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก' ที่ได้รับคัดเลือกในสายประกวดหลักของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์อีกด้วย และ 'แสงศตวรรษ' (Syndromes and A Century) พ.ศ. 2549 กับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Lotus du Meuilleur Film-Grand Prix ในงานเทศกาลภาพยนตร์จากเอเชีย ครั้งที่ 9 ประเทศฝรั่งเศส

ก่อนที่จะมาถึงจุดพีคเมื่อภาพยนตร์เรื่อง 'ลุงบุญมีระลึกชาติ' (Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives) (พ.ศ. 2553) ได้รับรางวัล 'ปาล์มทองคำ' ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 63

เรียกได้ว่าอภิชาติพงศ์เป็น 'ผู้กำกับขาประจำ' ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์กันเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีหนังเข้าประกวด และได้รับรางวัลเป็นว่าเล่นแล้ว เขายังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัล (ในส่วนของภาพยนตร์สายหลัก) ประจำเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ปี ค.ศ. 2008 อีกด้วย

แล้วในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 74 นี้ อภิชาติพงศ์ก็สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง และประเทศไทยอีกครั้งเมื่อภาพยนตร์เรื่อง Memoria ได้รับรางวัล Jury Prize (รางวัลพิเศษจากคณะกรรมการ) ไปครอง ซึ่งก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจเท่าไรนัก เพราะในการฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่หนังจบลง ผู้ชมในโรงต่างพากันลุกขึ้นยืนปรบมือให้กับอภิชาติพงศ์เป็นเวลานานถึง 14 นาที ก่อนที่เจ้าตัวจะกล่าวคำว่า Long Live Cinema หรือ "ภาพยนตร์จงเจริญ" ออกมา


ส่วนตอนที่ขึ้นไปรับรางวัล Jury Prize และกล่าวคำปราศัยบนเวทีนั้น อภิชาติพงศ์ได้ถือโอกาสใช้เวทีระดับโลกอย่างเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ 'คอลเอาท์' ถึงสถานการณ์ในประเทศว่า

"ผมโชคดีที่ได้มายืนอยู่ที่นี่ในขณะที่เพื่อนร่วมชาติของผมจำนวนมากไม่อาจเดินทางได้ พวกเขาจำนวนไม่น้อยต้องทุกข์แสนสาหัสจากโรคระบาด เพราะการบริหารจัดการผิดพลาดเรื่องทรัพยากร การสาธารณสุข และการเข้าถึงวัคซีน

ผมอยากจะเรียกร้องรัฐบาลไทย รัฐบาลโคลอมเบีย รวมถึงรัฐบาลประเทศอื่น ๆ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึงกัน ขอให้ตื่นขึ้น และทำงานเพื่อประชาชนของพวกคุณ เดี๋ยวนี้"
#9995
ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ชั้น3 ขนาด 32ตาราง 1.19 ล้านบาท

ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ขายถูกคอนโดบางใหญ่ ชั้น3 ขนาด 32ตาราง 1.19 ล้านบาท ทำเลทอง บางใหญ่ นนทบุรี ขายถูกกู้ได้สูง


ขายถูกคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายถูกกู้ได้สูงคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ขายถูกคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ชั้น3 คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่  ทำเล: บางใหญ่ นนทบุรี ตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ราคา: 1.19 ล้านบาท ขนาด 32ตาราง มีตู้เสื้อ1ใบ และตู้เสื้อผ้าบิ้วอิน1ใบ ครัวบิ้วอิน ขายถูกคอนโดบางใหญ่ ติดรถไฟฟ้าสถานี ตลาดบางใหญ่ ติดตลาดบางใหญ่ สัญจรสะดวกมีป้ายรถตู้รถเมล์หลายสาย ทั้งในชุมชนหมู่บ้านและเดินทางเข้าเมือง กทม.

คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวก
-สวนสาธารณะ
-สวนหย่อม
-มีการรักษาความปลอดภัย (รปภ.)
-CCTV, Key Card และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

จุดเด่นของโครงการ คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่
* การเดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้า(BTS)บางใหญ่ และใกล้ถนนกาญจนาภิเษก และถนนรัตนาธิเบศร์
* โครงการรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ บิ๊กซี บางใหญ่ ตลาดบางใหญ่ และเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต

คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท  ขายถูกกู้ได้สูง


สนใจ
ติดต่อ ชญานิน 0886293244

รายละเอียดเพิ่มเติม


https://kaaiduan.com/คอนโดทำเลทอง/คอนโดซิตี้สเตชั่นบางให/


คำค้น
ขายถูกคอนโดบางใหญ่, ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ , ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท, ขายคอนโดทำเลทอง บางใหญ่นนทบุรี, ขายถูกกู้ได้สูงขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่

 
#9998
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#9999


จะเพราะจุดพีคของสถานการณ์ โควิด-19 มาถึงไวเกินควร หรือการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขเกิดความผิดพลาด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ประเทศไทยได้เดินมาถึงภาวะที่หลายคนกลัวแล้ว นั่นคือจะต้องมีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล หลายชีวิตต้องลุ้นตั้งแต่การได้เตียงและการรักษา แม้กระทั่งลุ้นว่าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่

ต้องยอมรับว่าเรื่อง "เตียงไม่พอ" คือข้อเท็จจริง แต่สิ่งที่บางคนรับไม่ได้คือการ "รอเตียง" ที่อาจเป็นการ "รอตาย" เนื่องจากสถานพยาบาลที่ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจหาเชื้อ "โควิด-19" ของเอกชนบางแห่งใช้ความเป็นความตายของผู้คนเพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ

"จนท.รพ.หรือแล็บไหนไม่ให้ผลตรวจกับผู้ติดเชื้อ หรือ ขู่ว่าถ้าเอาไป หาเตียงที่อื่นจะตัดออกจากคิวรักษา บอก #เส้นด้าย เราจะพาไปแจ้งความฐานกระทำโดยงดเว้น = พยายามฆ่า

หรือ พยายามทำร้าย (ป.อ.มาตรา 59 วรรค 2,80,288หรือ 295)" คือข้อความในเพจของกลุ่ม เส้นด้าย ที่โพสต์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.51 น. หลังจากนั้นคือคอมเมนต์ทั้งแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์กระหน่ำหลายร้อยข้อความ สะท้อนถึงปัญหาที่คล้ายซ้ำเติมวิกฤตนี้ให้หนักหนาขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

"ต้องเข้าใจก่อนว่ามีธุรกิจซ่อนอยู่ในโควิด" ภูวกร ศรีเนียน ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเส้นด้าย จั่วหัวให้จุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ ฟังหลังจากเขาและเส้นด้ายได้รับการร้องเรียนพร้อมเสียงร่ำไห้ของผู้ป่วยที่สิ้นไร้หนทางแต่มิหนำซ้ำยังถูกปิดประตูความหวังด้วยวิธีการหารายได้ของสถานพยาบาลบางแห่งมาแล้วแทบทุกวัน

ภูวกรเล่าต่อว่าการที่ค่าใช้จ่ายของ Hospitel อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐ แต่มีกติกาว่า ตรวจกับสถานพยาบาลใด สถานพยาบาลนั้นจะต้องรับผิดชอบการรักษา กลายเป็นช่องโหว่ให้บางสถานพยาบาลมองผู้ป่วยเป็นกำไร จากปัญหาในช่วงแรกที่เกิดหลายกรณีที่สถานพยาบาลไม่กล้ารับผู้ป่วยเข้ารักษาเพราะตอนนั้นยังไม่มีความแน่นอนว่าเมื่อรับผู้ป่วยแล้ว ใครจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ทว่าปัญหาดังกล่าวกลับตาลปัตรเป็นการยื้อคนไข้ โดยเฉพาะกลุ่มสีเขียว ซึ่งมีอาการน้อยและรักษาง่าย จากคนไข้จึงเปรียบเสมือน "ลูกค้า"

"ภาวะเตียงเต็มที่เกิดกับทุกสถานพยาบาล ทำให้บางแห่งเหนี่ยวรั้งไม่ให้ผลตรวจแก่ผู้ป่วย เพราะถึงเขาจะรับคนไข้คนนี้มารับการรักษาไม่ได้ แต่ส่งผลตรวจให้ เกิดคนนี้เอาผลไปที่อื่น เขาเลยไม่ให้ผลตรวจ รอฉันว่างก่อน ฉันค่อยเรียกคุณมา การที่ไม่ให้ผลตรวจคือคุณไปไหนไม่ได้ ต้องรอฉันแม้คุณจะป่วย มันเกิดเรื่องนี้ขึ้น แล้วคนงงมากว่าทำไมไม่ให้ผลตรวจ คนร้องเรียนเรามาเยอะมาก จนเราเข้าใจกุญแจของเรื่องนี้ว่ามันเป็นเพราะแบบนี้"

อภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย อีกหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเส้นด้ายเปิดเผยถึงกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ว่ามีคนโทรมาหาเลขาของเขาว่าหลังจากขอผลตรวจไปเพื่อหาเตียงจากแหล่งอื่นๆ ระหว่างรอเตียงของสถานพยาบาลที่ตรวจผ่านกลุ่มเส้นด้าย นอกจากสถานพยาบาลจะบ่ายเบี่ยงไม่ให้ผลตรวจ คนไข้ยังถูกขู่ว่าหากเอาผลไปให้เส้นด้าย จะถูกตัดออกจากคิวรอเตียงทันที

"เขารอคิวของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนั้นขู่เขามาว่าถ้าเกิดเอาผลมาให้เลขาผมเพื่อหาเตียงจากที่อื่น คิวนี้ที่คาอยู่จะถูกตัดออกไป ถามว่ามันเป็นสิทธิของผู้ป่วยหรือเปล่าที่จะไปหาที่รักษาที่อื่น ตอนนี้มีผู้ป่วยค้างอยู่บางคนรอผล 5 วัน แล้วยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 วันไปตามผลตรวจอีก ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจะไม่พลิกเป็นเหลือง ไม่พลิกเป็นแดงได้อย่างไร

ถ้าอ่านแชทที่ผมคุยกับบางเคส ไม่ได้ค่ะ ทำอย่างไรก็ไม่ยอมให้ พยายามแล้วค่ะ เขาบอกว่าถ้าเราเอาผลมาให้คุณอภิวัฒน์แล้วเขาจะตัดสิทธิ์ดิฉันออกจากของทางนั้น แล้วคุณอภิวัฒน์หาเตียงได้จริงใช่ไหมคะ ถ้าหาได้จริงจะรีบขอมา ผมก็อ้าว ทีนี้ผมแบกรับหนักกว่าเดิมอีก ซึ่งการอนุมัติรับคนไข้ของหลายแห่งก็ผีเข้าผีออก บางวันให้เยอะ บางวันให้น้อย บางวันไม่ให้เลย"

แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยอมรับว่ามีบางแห่งต้องชื่นชม เพราะแค่ขอเอกสารผลตรวจ เพียงหนึ่งชั่วโมงก็ได้รับแล้ว


ความไม่เป็นธรรมท่ามกลางวินาทีชีวิตแบบนี้ ทำให้นักกฎหมายอาสาและหนึ่งในทีมงานเส้นด้ายอย่าง พีรพล กนกวลัย ต้องออกโรงมาช่วยชี้ช่องให้ผู้ป่วยที่กำลังถูกสถานพยาบาลเล่นแง่

"ไม่ว่าจะตรวจเชิงรุกหรือตรวจทางการ ผลการตรวจควรจะให้ผู้ที่ไปตรวจรับทราบข้อมูล แต่โรงพยาบาลหรือผู้ที่ไปตรวจเชิงรุกนั้นปิดบังผลตรวจ เพื่อเก็บเกี่ยวเคสสีเขียวไปรักษาเอง ซึ่งในบ้านหนึ่งบางทีมี 10 คน ถ้าเป็นคนที่ติดโควิดเป็นหนุ่มสาวเขาก็เอาไปรักษา แต่ปล่อยให้ผู้สูงอายุนอนอยู่บ้าน เด็กนอนอยู่บ้าน แล้วไม่เอาไปสักที ให้เขารอทั้งที่เขารู้ว่าติดแล้วนะ แต่ไม่เอาใบผลตรวจให้เขาเพื่อที่เขาจะมีทางเลือกทางอื่น ถ้าเกิน 48 ชั่วโมง ผมเชื่อว่าคือการปิดบังข้อมูลเพื่อกันไม่ให้คนอื่นมารักษา เป็นผลประโยชน์ทั้งนั้น

ตรวจหนึ่งครั้งก็ 1,600 แล้ว รักษาหนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง Hospitel ก็ 3,000 แล้ว ผมว่าเป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากโควิดแบบนี้มันไม่โอเค เป็นการทำให้ผู้ที่มีสิทธิ์รักษาที่อื่นไม่มีผลตรวจ ที่อื่นก็รับรักษาไม่ได้ ดังนั้นเขาถูกกระทำโดยไม่เป็นธรรม"

ตามข้อเท็จจริง การส่งผลตรวจให้ผู้ป่วยได้นำไปเพื่อหาทางรักษาต่ออาจหมายถึงจรรยาบรรณแพทย์ด้วยซ้ำ แม้ไปไม่ถึงคุณธรรมเหล่านั้นอย่างน้อยก็คือหน้าที่การงานที่สถานพยาบาลต้องทำอยู่แล้ว และเอกสารผลตรวจก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ในฐานข้อมูล จะพิมพ์ออกมาส่งให้ผู้ป่วยที่นอนรอความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ก็นับว่าไม่น่าจะยากหรือวุ่นวายเกินไปนัก จึงเป็นที่มาของวิธีการตอบโต้ที่ภูวกรแนะนำให้ทำในเบื้องต้นก่อนหากถูกปฏิเสธ

"โดยหลักการคือต้องโทรไปขอเอกสารผลตรวจ แต่ถ้าโทรไปแล้วไม่ได้ก็ต้องไปหาด้วยตัวเอง ไปคุยต่อหน้า ไปคุยให้ชัด แต่ประชาชนส่วนหนึ่งไม่รู้สิทธิ พอเขาขู่มาว่าจะตัดสิทธิ์คุณ จริงๆ เขาตัดไม่ได้ เส้นด้ายถึงไปโพสต์ไงว่าเดี๋ยวจะฟ้องให้ มีคนแคปเจอร์ไปให้โรงพยาบาลดูแล้วได้ผลด้วย"

มีตัวอย่างที่อภิวัฒน์เล่าว่าหลังจากที่เส้นด้ายโพสต์เรื่องจะช่วยฟ้องสถานพยาบาลที่ไม่ให้ผลตรวจ มีคนขอผลตรวจแล้วสถานพยาบาลตอบกลับมาว่ารอเตียง 3 วัน แต่ถ้าอยากได้ผลตรวจต้องรอ 5 วัน เขาก็เอาที่พวกเราโพสต์ส่งไป สักพักสถานพยาบาลนั้นส่งผลตรวจให้เขา นั่นหมายความว่าไฟล์ผลตรวจมีอยู่ในมือเพียงแต่จะส่งหรือไม่ส่งก็เท่านั้นเอง

ในแง่กฎหมาย การกระทำของสถานพยาบาลที่ไร้คุณธรรม พีรพลอธิบายในมุมของนักกฎหมายว่าเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมาย

"คนที่โดนกระทำผมบอกให้มอบอำนาจมา ผมจะไปแจ้งความดำเนินคดีให้ ว่าสถานพยาบาลแบบนั้นมีความผิดปิดบังข้อมูล อาจจะเป็นพยายามฆ่าเลยก็ได้ เพราะคุณไม่ให้ผลตรวจ เขาจะไปรักษาที่อื่นก็ไม่ได้ แล้วถ้าเขาตายขึ้นมาเท่ากับคุณเจตนาให้เขาตาย เรื่องนี้สังคมควรรับรู้ว่าแล็บที่มาตรวจอย่าเห็นแก่ตัวมาก คุณได้จากโควิดพอแล้ว

หากต้องฟ้องจริงๆ คือแจ้งความดำเนินคดีปิดบังข้อมูล เป็นการผิดกฎหมายอาญาและน่าจะเป็นละเมิดได้ด้วยครับ แต่พอเราโพสต์ในเพจเส้นด้ายว่าใครจะมอบอำนาจมาให้ผม ซึ่งบางส่วนก็มอบอำนาจมาแล้ว แต่ส่วนราชการที่รู้เขาก็รีบเอาผลตรวจให้เลยทันที อย่างในเขตที่ผมอยู่ไม่มีเลย แต่ผมเชื่อว่าพื้นที่อื่นยังมีอีกมาก"

การขู่ฟ้องกลับอันเป็นมาตรการตอบโต้ของประชาชนที่พอทำได้ ถึงตอนนี้จะทำให้ยังไม่เกิดกรณีที่ต้องฟ้องร้องจริงเพราะสถานพยาบาลส่งผลตรวจให้ก่อนเกิดคดีความ แต่ก่อนหน้านี้มีกี่ชีวิตที่สูญเสียจากความไม่รู้สิทธิของตัวเอง สำหรับสถานพยาบาลที่ยังขู่ตัดสิทธิรอเตียงของผู้ป่วย หรือแม้กระทั่งกั๊กผลตรวจเพราะกลัวเสียรายได้ ภูวกรบอกว่า "นี่คือการค้าความตาย!"
#10000

บอกเลยงวดนี้ 'เลขมหามงคล-แม่น้ำหนึ่ง' มาแรง คอ.ไม่พลาดแห่ซื้อเกลี้ยงแผง

สวัสดีค่ะพบกับ "นางไม้" กันอีกเช่นเคยก่อน.ออกหนึ่งวัน ในคอลัมน์ "เซียนตัวเลข" งวดนี้ก็ตรงกับวันที่ 16 ก.ค.64  ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับว่าสภาพจิตใจของคนไทย ทั้งย่ำแย่และหดหู่ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ที่เกิดจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องตกงาน

แน่นอนว่า ส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจภายในกระเป๋าของเราๆ ท่านๆ แน่นอน และการซื้อหาสลากกินแบ่งรัฐบาลย่อมจะทำให้ผู้ซื้อคิดแล้วคิดอีก ว่าหากซื้อไปแล้วไม่ถูกขึ้นมาจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อของกินเข้าบ้าน แต่นั่นแหละ หากจะซื้อก็ต้องพิจารณาว่าเราเดือดร้อนหรือไม่ ซึ่งนางไม้ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านวิกฤติไปได้ แต่สำหรับงวดนี้ นางไม้ ก็ได้นำเลขเด็ดมาฝากทุกคนอีกเช่นเคย ส่วนใครจะซื้อตามหรือไม่ก็เอาตามอัธยาศัยกัน


สำหรับเลขเด็ดงวดนี้พลาดไม่ได้ทีเดียว นั่นก็คือเลข 28 68 69 95 64 04 904 ซึ่งเป็นเลขที่ตรงกับ วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระชนมายุ ครบ 69 พรรษา ทรงประสูติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2495

ขณะที่เลข 04 64 ตรงกับวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ก.ค.2500 พระชนมายุ 64 พรรษา


นอกจากนี้ยังมีเลขเด็ด 26 72 92 ซึ่งเป็นเลขตรงกับวันเกิดของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2492 อายุครบ 72 ปี ซึ่งงานนี้บรรดาคนรักทักษิณคงอดตามไม่ได้


ส่วนเลขเด็ดแม่น้ำหนึ่ง งวดนี้เจ้าตัวให้เน้นๆ 3 ตัวตรงคือเลข 5-2-4 ขณะที่เลขธูปจุดออกมาแบบครึ่งๆ กลางๆ แต่คอ.ก็ตีเป็น 9 และ 5 ใครสนใจจะลองเสี่ยงดวงดูก็เอาที่สบายใจเงินในกระเป๋า


ปิดท้ายกันด้วยเลขเด็ดคนดัง "มนต์สิทธ์ คำสร้อย" ที่เจ้าตัวทั้งโชว์ลอตเตอรี่ปึกใหญ่ แถมปิดท้ายด้วยเลขธูป ที่ไปทำบุญศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งตรงกับเลข 713 งานนี้แฟนคลับคงต้องลุ้นกันว่าจะออกหรือไม่


สำหรับ นางไม้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ท่าน เฮงๆ รวยๆ ฝ่าวิกฤติโควิดไปได้ และมีโชค มีลาภกันทุกคนค่ะ... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/articles/52089/
#10003
จากเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกเขตกิ่งแก้วและก็โรงงานผลิตน้ำหอมบริเวณลาดกระบังนั้น ทำให้เราทุกคนจะต้องตระหนักถึงอันตรายของประกายไฟ ระบบไฟฟ้าและระบบแสงสว่างในโรงงาน โดยเฉพาะ ไฟฟ้าโรงงาน โรงงานที่เสี่ยงกับการที่จะเกิดอันตรายนั้น จะต้องมีการตรวจเช็คระบบไฟฟ้า แล้วก็แสงสว่างตามมาตรฐานความปลอดภัยโรงงานอย่างสม่ำเสมอ พื้นที่เสี่ยงควรจะใช้อุปกรณ์คุ้มครองป้องกันการเกิดระเบิด โดยทาง บริษัทเซเครทไลท์ จำกัด เป็นผู้นำเข้ารวมทั้งขายโคมไฟกันระเบิดที่มีมาตรฐานการันตีจากยุโรป อเมริกา รวมทั้งได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจพลังงานในประเทศไทย ได้เก็บรวบรวมข้อมูล หลักการเลือกวัสดุอุปกรณ์โคมไฟประเภทป้องกันการระเบิด ไว้เพื่อเป็นข้อมูลเผยแพร่ ดังต่อไปนี้
1 สาเหตุที่อาจทำให้เกิดการจุดระเบิด (Ignition Source)
การออกแบบระบบป้องกันการจุดระเบิดข้างในบริเวณที่มีการใช้หรือจัดเก็บสารไวไฟนั้น ผู้ออกแบบจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงการเกิดบรรยากาศที่มีสารไวไฟปนเปื้อนมากเพียงพอให้มีการจุดติดไฟได้ แม้กระนั้น ยังมีขั้นตอนการผลิตหรืองานบำรุงรักษาที่ไม่สามารถที่จะเลี่ยงสภาพบรรยากาศดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ ด้วยเหตุนั้นจึงจำเป็นต้องพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการจุดระเบิดในสถานที่นั้น ซึ่งต้นเหตุของการจุดระเบิดที่สำคัญ มีดังนี้
•    เปลวไฟ
•    พื้นผิวที่มีความร้อนสูง
•    การอาร์ก และการสปาร์กของอุปกรณ์ไฟฟ้า
•    การถ่ายเทประจุของไฟฟ้าสถิตระหว่างวัตถุที่มีความต่างศักย์ไฟฟ้า
•    การเกิดฟ้าผ่า หรือการถ่ายเทประจุไฟฟ้าจาก บรรยากาศ ลงสู่พื้นดิน
•    การเกิดการเสียดสีของเครื่องจักรกล หรือการกระทบอย่างรุนแรงของโลหะ
•    การเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มสูง
•    การเกิดคลื่นอัลตร้าโซนิกที่มีพลังงานสูง
•    คลื่นพลังงานกระแทกอย่างรุนแรง
•    การแผ่คลื่นพลังงานจากปฏิกิริยาการแยกตัวของไอออน
•    การแผ่คลื่นแสงที่มีความเข้มสูง
•    ปฏิกิริยาเคมีอย่างรุนแรงและเกิดพลังงานความร้อนสูง
2 การเลือกอุปกรณ์กันระเบิด
เราจะเห็นว่า การอาร์กและการสปาร์กของอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในสาเหตุของการจุดระเบิดได้ ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ป้องกันการระเบิด โดยการออกแบบมาจากพื้นฐานแนวคิดคือ สามเหลี่ยมแห่งไฟ การเกิดเพลิงไหม้จะต้องมีองค์ 3 อย่าง หรือ คือ 1. สารไวไฟหรือเชื้อเพลิงในปริมาณมากเพียงพอ 2. ออกซิเจน และ 3. แหล่งจุดติดไฟ หรือในที่นี้ก็คือ การอาร์กและการสปาร์ก นั้นเอง ดังรูป





ดังนี้หากเราเลือกใช้อุปกรณ์กันการระเบิด หรือ โคมที่จะไม่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการอาร์กและการสปาร์ก ก็เท่ากับเราทำลายส่วนประกอบการปะทุได้แล้ว โดยที่หากพวกเราเน้นย้ำเฉพาะโคมฟ้ากันระเบิดแล้ว เลือกเครื่องมือที่มีเครื่องหมายดังต่อไปนี้





ต้องการรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ สามารถติดต่อ บริษัท เซเครทไลท์ฯ 081-409-0439 มีบริการตรวจหน้างานฟรี "เพราะชีวิตเป็นสิ่งสำคัญและอุบัติเหตุสามารถป้องกันได้"