• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - kaidee20

#9856
เช่ารถถูกสะอาดปลอดภัย 600ต่อวัน นนทบุรี โทร 083-7124115
#9859


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ว่าในพื้นที่ออสติน เมืองที่มีประชากรเกือบ 2.4 ล้านคน เหลือเตียงไอซียูเพียงแค่ 6 เตียงและเหลือเครื่องช่วยหายใจ 313 เครื่อง

"สถานการณ์วิกฤต" เดสมาร์ วอลค์ส ผู้อำนวยการด้านการแพทย์แห่งสำนักงานสาธารณสุขออสเตินระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์(7ส.ค.) ขณะที่มีการแจ้งเตือนสถานการณ์เลวร้ายผ่านข้อความมือถือ อีเมล์และโทรศัพท์สายตรงถึงประชาชนของเมือง

"โรงพยาบาลของเราอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างรุนแรง และเราแทบทำอะไรไม่ได้เลย ในการบรรเทาภาระของพวกเขาที่ต้องรับมือกับเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด" วอลค์สกล่าว

คำเตือนนี้มีขึ้นเพียง 2 วันหลังจากสำนักงานสาธารณสุขของเมืองยกระดับความเสี่ยงสู่ขั้นสูงสุดระดับ 5 สืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก รวมถึงเร่งเร้าประชาชนให้เข้าฉีดวัคซีน หยุดอยู่บ้านและสวมหน้ากากแม้ว่าพวกเขาจะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม

ความเคลื่อนไหวยกระดับความเสี่ยงนี้มีขึ้นหลังจากค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้เข้ารักษาตัวรายใหม่ในโรงพยาบาลต่างๆในเมืองออสติน เพิ่มขึ้นมากกว่า 600% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ส่วนคนไข้ในห้องไอซียูเพิ่มขึ้นถึง 570%

สำนักงานสาธารณสุขของเมืองออสติน ระบุด้วยว่าคนไข้โควิด-19 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 102 รายจนถึงวันเสาร์(7ส.ค.) จากระดับเพียงแค่ 8 รายในวันที่ 4 กรกฎาคม และคาดหมายว่าจำนวนผูู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ เนื่องจากเคสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ออสตินเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า

"เตียงคนไข้ที่เหลืออยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆและการดูแลผู้ป่วยวิกฤต ในระบบโรงพยาบาลของเรา อยู่ในขั้นจำกัดสุดๆ" นายแพทย์วอลค์ส กล่าว พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันสกัดหายนะครั้งนี้

นอกจากเมืองออสตินแล้ว พบเห็นเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วประเทศเช่นกัน ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯพุ่งขึ้นเหนือ 100,000 คนต่อวัน หวนคืนสู่ระดับเดียวกับเมื่อ 6 เดือนก่อน ครั้งที่ประเทศแห่งนี้เผชิญการแพร่ระบาดรุนแรงในช่วงฤดูหนาว

เคสผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์จนถึงวันศุกร์(6ส.ค.) เพิ่มขึ้นเหนือ 750,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮ็อปกินส์ ทั้งนี้เคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานเกิดขึ้นแม้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯเริ่มดีดตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากชะลอตัวมาหลายเดือน

รายงานของบลูมเบิร์กระบุต่อว่าค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวัน เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในเดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงต่ำกว่าระดับที่พบเเห็นในช่วงฤดูหนาวปีก่อนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามพวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่าอัตราการติดเชื้อใหม่ที่พุ่งสูง อาจกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสที่อันตรายร้ายแรงกว่าเดิม

บลูมเบิร์กรายงานว่าทั่วทั้งรัฐเทกซัส ซึ่งมีประชากรราว 29 ล้านคน เหลือเตียงไอซียูแค่ 439 เตียงและเครื่องช่วยหายใจ 6,991 เครื่อง
ในพื้นที่ฮิวสตัน ซึ่งมีประชากร 6.7 ล้านคน เหลือเตียงไอซียูแค่ 41 เตียง ส่วนพื้นที่ดัลลัส ซึ่งมีประชากรมากกว่า 8 ล้านคน เหลือเตียงไอซียู 110 เตียง

จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในเทกซัส มีมากถึง 23,096 คนในวันศุกร์(6ส.ค.) สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และแม้ตัวเลขลดลงเหลือ 11,072 รายในวันเสาร์(7ส.ค.) แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะมีการตรวจเชื้อน้อยลงในช่วงสุดสัปดาห์

(ที่มา:บลูมเบิร์ก)
#9863


รอยเตอร์ - กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 9,690 คนในวันอาทิตย์ (8) นับเป็นยอดติดเชื้อรายวันที่สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่พบในวันเสาร์ (7) ที่ 7,334 คน

กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่พบในนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางการระบาด และ จ.บิ่งเซวือง กับ จ.ด่งนาย ที่อยู่ติดกัน

เวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ประเทศเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วและติดง่ายขึ้น

ประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 210,405 คน ตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,397 คน ตามข้อมูลของกระทรวง

เวียดนาม ประเทศที่มีประชากร 98 ล้านคน จนถึงขณะนี้ ได้แจกจ่ายวัคซีนไปแล้วเกือบ 8.9 ล้านโดส แต่มีประชาชนไม่ถึง 900,000 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม.
#9864
เช่ารถถูกสะอาดปลอดภัย 600ต่อวัน นนทบุรี โทร 083-7124115
#9865
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#9867


นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อํานวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทางการ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮ้าส์ สปา ภัตตาคาร และร้านอาหาร  ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงและต่อเนื่อง  สสว. จึงมอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เป็นหน่วยร่วมดำเนินโครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย อนุมัติสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 1,200 ล้านบาท เพื่อให้เอสเอ็มอีในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ลงทุนขยายกิจกรรม ปรับปรุง ซ่อมแซม ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ  โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี  หลักประกัน กรณีบุคคลธรรมดา ใช้บุคคลที่น่าเชื่อถือค้ำประกัน ส่วนกรณีนิติบุคคล ใช้กรรมการผู้มีอำนาจแทนนิติบุคคลค้ำประกัน

โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย ดำเนินการสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เอสเอ็มอี โดยเฉพาะที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษได้สะดวก เหมาะสมกับสถานการณ์เร่งด่วน ดังนั้น ได้ปรับปรุงกระบวนการ โดยใช้เกณฑ์พิจารณาจากหลักฐานการเสียภาษีในปี 2563 หรือ 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น

สำหรับคุณสมบัติของผู้ยื่นกู้ในโครงการนี้ต้องเป็นสมาชิก สสว. กรณียังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ สสว. สามารถขอขึ้นทะเบียนก่อนได้ ( http://members.sme.go.th/newportal/)  โดยต้องเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มรายย่อย (Micro) และขนาดย่อม (Small) ตามนิยามของ สสว.  อยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮ้าส์ และธุรกิจสปาที่ตั้งอยู่ในโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮาส์ ใน 10 จังหวัด พื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยว  ประกอบด้วย 1.ภูเก็ต 2.กระบี่  3.พังงา 4.สุราษฎร์ธานี 5.เชียงใหม่ 6.ชลบุรี 7.เพชรบุรี  8.ประจวบคีรีขันธ์  9.บุรีรัมย์  และ 10.กรุงเทพมหานคร หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติม

รวมถึง กลุ่มธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ใน 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด  ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับล่าสุด ประกอบด้วย  1. กรุงเทพมหานคร  2. กาญจนบุรี 3.ชลบุรี  4.ฉะเชิงเทรา 5. ตาก  6. นครปฐม  7. นครนายก  8. นครราชสีมา  9. นราธิวาส  10.นนทบุรี  11.ปทุมธานี  12.ประจวบคีรีขันธ์  13.ปราจีนบุรี  14.พระนครศรีอยุธยา  15.เพชรบุรี  16.ปัตตานี  17.เพชรบูรณ์  18.ยะลา  19.ระยอง  20.ราชบุรี  21.ลพบุรี  22.สงขลา  23.สิงห์บุรี  24.สมุทรปราการ  25.สมุทรสงคราม  26.สมุทรสาคร  27.สระบุรี 28.สุพรรณบุรี และ 29.อ่างทอง  หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติม     

อีกทั้ง ต้องไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเงินทุนในโครงการพลิกฟื้นฯ โครงการฟื้นฟูฯ หรือกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ รวมถึงต้องไม่เป็นหนี้ NPLs ไม่ถูกดำเนินคดี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย    

สำหรับวงเงินกู้ สำหรับบุคคลธรรมดา พิจารณาจากการชำระภาษี ภ.ง.ด.90 ในปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า และความเป็นเจ้าของสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท หากจำนวนเงินที่ชำระภาษี 0-10,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท, จำนวนเงินที่ชำระภาษี  10,001-20,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 200,000 บาท  และจำนวนเงินที่ชำระภาษีมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท กรณีมีสถานประกอบการเป็นของตัวเองหรือบุคคลในครอบครัว ให้วงเงินเพิ่มอีกลำดับละ 50,000 บาท แต่รวมแล้วสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท  สำหรับนิติบุคคล ไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าใช้จ่ายในงบการเงินปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท  

ด้านนางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  กล่าวเสริมว่า ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยสแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ หรือคลิก https://qrgo.page.link/VF6Ka   รวมถึง เว็บไซต์ของ  SME D Bank  ( https://www.smebank.co.th/ ) , Line OA : SME Development Bank  และแอปพลิเคชั่น : SME D Bank  ตั้งแต่เวลา 13.00 น.  ในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะเต็มวงเงิน   โดยใช้เกณฑ์มาก่อนได้ก่อน (first come first serve) หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อกลับ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357
#9868


วันนี้ (8 ส.ค.) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมพูดคุยในกิจกรรม "โสดออนซูม" เปิดหน้าจอ รอเจอหน้าจริง ณ Visualize Lab โครงการนาซ่าสตรีท ถนนรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ว่า นโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตคู่ เป็นหนึ่งในนโยบายพัฒนาคุณภาพประชากร ที่มีแนวคิดมาจากความเข้าใจในวิถีชีวิตคนโสดที่มุ่งให้ความสำคัญกับการทำงาน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต โอกาสในการพบเจอกับเพื่อนต่างสาขาอาชีพมีน้อย ได้เจอเพื่อนกลุ่มเดิมๆ ใช้ชีวิตกับโทรศัพท์ และโซเชียล มีเดีย การพบปะกันในช่องทางออนไลน์ก็มีความเสี่ยงมาก ทำให้มีคนโสดแบบไม่ได้ตั้งใจจำนวนมาก สอดคล้องกับผลการศึกษาจากโครงการเจริญพันธุ์และสุขภาวะ พบว่า คนไทยต้องการมีคู่รักหรือคู่สมรส ร้อยละ 63.3 แต่ในความเป็นจริงคนไทยมีคู่เพียงร้อยละ 53.9 โดยสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ไม่มีคู่รักคือ ไม่เจอคนที่ใช่
"โจทย์สำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันคือ ทำอย่างไรให้คนไทย "มีสมดุลในชีวิต เพื่อสร้างครอบครัวให้มีคุณภาพ" เพราะการสร้างสมดุลให้กับชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องงาน เงิน หรือ สุขภาพ เท่านั้น การมีเพื่อนที่ดี หรือ มีคนพิเศษเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้มีพลังใจในการสู้กับปัญหาและอุปสรรคได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่พวกเรา ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การให้กำลังใจกันและกันเป็นสิ่งสำคัญมาก การจัดกิจกรรมครั้งนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันนโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตคู่ในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งขอเน้นย้ำว่าเราไม่ได้ทำหน้าที่หาคู่ แต่เราทำหน้าที่เปิดโอกาสให้คนโสดได้มีโอกาสพบเจอกันในช่องทางที่เหมาะสม เน้นการสร้างเครือข่าย การพัฒนาศักยภาพ และการให้ความรู้เพื่อให้คนโสดเลือกคู่ที่ "พอดี" กับตัวเอง ลดการหย่าร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้ครอบครัวที่จะเกิดขึ้นมีความแข็งแรง ตั้งแต่เริ่มสร้างครอบครัว" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว  

ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย ได้ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตคู่อย่างมีคุณภาพ ควบคู่ไปกับนโยบายพัฒนาคุณภาพประชากรในด้านอื่นๆ อาทิ การส่งเสริมให้คู่รักที่ต้องการมีบุตร มีการวางแผน มีการเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร การช่วยเหลือให้คู่รักที่ประสบปัญหามีบุตรยาก เข้าถึงการรักษาภาวะมีบุตรยาก การดูแลสุขภาพของแม่และเด็ก ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ถึงหลังคลอด เพื่อให้ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย การส่งเสริมให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูที่ดีเพื่อให้มีพัฒนาการที่สมวัย มีสติปัญญาดี ซึ่งการเลือกคู่ที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นของการ สร้างครอบครัวคุณภาพ และไม่ได้ดำเนินการแบบมาตรการเดี่ยว ๆ แต่ดำเนินการไปพร้อมกับการพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่จำเป็น การสร้างความรอบรู้ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ กิจกรรม"โสดออนซูม" ในรูปแบบออนไลน์ผ่านทางเพจวิวาห์สร้างชาติครั้งนี้ เป็นการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จัดขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายคนโสดรุ่นใหม่ ที่สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกัน เป็นกำลังใจให้กัน และร่วมสร้างสิ่งที่ดีให้กับสังคม ซึ่งอาจจะพัฒนาไปเป็นคู่รัก หรือคู่สมรสได้ในอนาคต ซึ่งกิจกรรมนี้ยังไม่สิ้นสุด เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะมีการจัดกิจกรรมที่พบเจอกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพและให้ความรู้สำหรับคนที่ตกลงคบหากันต่อไป

ทางด้าน นายแพทย์โอฬาริก มุสิกวงศ์ กรรมการแพทยสภา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐได้มีนโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตคู่อย่างเป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมาการดำเนินงานในเรื่องของการ Matching จะดำเนินการผ่านบริษัทจัดหาคู่ที่เป็นภาคเอกชน การออกแบบกิจกรรมมีความน่าสนใจ ตั้งแต่กระบวนการรับสมัครที่ให้สิทธิการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเท่าเทียมมีรูปแบบที่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการหาคู่เป็นหลัก แต่มุ่งเน้นในการสร้างเครือข่ายคนโสด ซึ่งสามารถต่อยอดได้ในอนาคต การที่ภาครัฐเข้ามาส่งเสริมอย่างจริงจังนอกจากจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการเข้าร่วมกิจกรรม ยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้สังคมตื่นตัว และมีทัศนคติที่ดีต่อการมีคู่ และผมคิดว่าความตั้งใจที่ดี กระบวนการที่ดี จะเป็นประโยชน์ และส่งผลทางบวก สิ่งที่ทุกคนจะได้คือ "เพื่อน" ส่วนเรื่อง "คู่" เป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาส เพราะไม่ว่าอย่างไร ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป