• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#9826


นายยรรยงค์ ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า EIC ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 เหลือ 0.7% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 0.9% โดยมีสาเหตุหลักจากผลของการระบาดในประเทศรอบล่าสุดที่รุนแรงมากกว่าคาด ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเดินทางเข้าไทยน้อยกว่าเดิมตามความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ระบาดในประเทศ สะท้อนได้จากหลายประเทศที่มีการประกาศให้ไทยเป็นประเทศความเสี่ยงสูงด้านการระบาด COVID-19 เช่น สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จึงมีการปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวเหลือ 1.7 แสนคน (เดิมคาด 3 แสนคน) นอกจากนี้ การใช้จ่ายของภาคเอกชนได้รับผลกระทบหนักจากการระบาดในประเทศและมาตรการ lockdown เช่นกัน สะท้อนจากดัชนีการบริโภคภาคเอกชนเดือนกรกฎาคมที่หดตัวถึง -8.1%YOY รวมถึงการลงทุนก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์คนงานในช่วงเดือนกรกฎาคม โดยแม้ว่าจะกลับมาดำเนินการได้แล้ว แต่มาตรการ Bubble and seal ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นและทำงานได้ไม่เต็มศักยภาพ

ทั้งนี้ คาดว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศจากการระบาดจะมีมากสุดในช่วงไตรมาส 3 ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงต้นไตรมาส 4 จากแนวโน้มการฉีดวัคซีนครบโดสของประชากรที่จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นและการกลับมาดำเนินการของกิจกรรมเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามแม้จะมีการฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4 แต่ EIC คาดว่า GDP ไทยในช่วงครึ่งหลังของปีจะติดลบแบบ %YOY โดยทั้ง 2 ไตรมาสสะท้อนผลกระทบที่รุนแรงของการระบาดที่ยืดเยื้อต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยปี 2564 ยังมีปัจจัยสนับสนุนซื้อหวยออนไลน์จากภาคส่งออกและเม็ดเงินภาครัฐ โดยภาคส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่อัตราเติบโตจะชะลอลงในช่วงที่เหลือของปีจากฐานของปีก่อนหน้าที่สูงขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่มีการสะดุดตัวจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาทั่วโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในอาเซียน อีกทั้งปัญหาด้าน Supply chain disruption ที่อาจเกิดขึ้นจากทั้งการปิดโรงงานในประเทศ และการหยุดการผลิตในประเทศคู่ค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตเดียวกัน ในส่วนของภาครัฐยังมีการเบิกจ่ายต่อเนื่องจากทั้งในงบประมาณและจากหลายมาตรการช่วยเหลือแต่มาตรการที่มียังไม่เพียงพอ ทั้งใน 1) เชิงพื้นที่ที่ช่วยเหลือรายได้นายจ้างและลูกจ้างเพียง 29 จังหวัดที่โดน lockdown ขณะที่ผลกระทบกระจายตัวไปยังทั่วประเทศ 2) เชิงระยะเวลาที่ช่วยเหลือรายได้เพียง 1-2 เดือน ขณะที่ผลกระทบลากยาวอย่างน้อย 6 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน และ 3) เชิงเม็ดเงินที่มีมาตรการช่วยเหลือจากการโอนเงินโดยตรงเพียง 2 แสนล้านบาท ขณะที่ EIC ประเมินผลกระทบการระบาดระลอก 3 มีมากถึง 8.5 แสนล้านบาท ดังนั้น EIC จึงคาดว่าภาครัฐจะต้องออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี โดยจะเป็นการใช้เม็ดเงินจนหมด พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และอีก 2 แสนล้านบาทจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท

สำหรับปี 2565 EIC คาดเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ที่ 3.4% จากการฟื้นตัวจากทั้งอุปสงค์ภายในและนอกประเทศ ตามความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนที่มากขึ้น โดยอัตราการฉีดวัคซีนที่มากขึ้นทั่วโลกในปีหน้าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร่งขึ้นจากปีก่อน ซึ่งทำให้การส่งออกไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอลงมาที่ 4.7% นอกจากนี้ ภาคท่องเที่ยวระหว่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นเป็น 6.3 ล้านคน ด้านเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวเช่นกันจากอัตราการฉีดวัคซีนที่คืบหน้า โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 อาจมีผู้ได้รับวัคซีนครบโดสถึง 70-80% ของประชากร ซึ่งส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ สำหรับภาครัฐ แม้การใช้จ่ายบริโภคจะมีแนวโน้มหดตัวตามกรอบงบประมาณที่ลดลง แต่การลงทุนภาครัฐยังมีแนวโน้มขยายตัวจากเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจในโครงการเมกะโปรเจกต์และอัตราเบิกจ่ายปี 2564 ที่ต่ำจากมาตรการปิดแคมป์คนงานที่จะกลับมาเร่งตัวในปีหน้า นอกจากนี้ ยังคาดว่าภาครัฐจะใช้เงินที่เหลือราว 3 แสนล้านบาทจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปี 2565

"จากผลกระทบที่รุนแรงและยืดเยื้อของการระบาดระลอก 3 ทำให้เราปรับลดจีดีพีลงเล็กน้อย และยังเลื่อนระยะเวลาที่จีดีพีในการกลับไปสู่ช่วงก่อนโควิด-19 จากต้นปี 2566 มาเป็นกลางปี 2566 ซึ่งถือว่าเป็นอยู่ในระดับท้ายๆ ของภูมิภาค สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างก่อนและหลังเกิดโควิด-19 ที่มาก หรือมีความเสียหายทางเศรษฐกิจที่สูง และเท่ากับมีแผลเป็นทางเศรษฐกิจที่ลึกขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวด้วย ดังนั้น นอกจากการเยียวยาผลกระทบ-การฟื้นฟูแล้ว การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะในเศรษฐกิจยุคหลังโควิด-19 ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคไปมาก ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการของเราตามไม่ทันประเทศที่ได้ลงทุนในด้านต่างๆ เตรียมพร้อมไว้แล้ว"

ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ในปี 2565 แต่จะเป็นการฟื้นตัวแบบช้าๆ เนื่องจากผลของแผลเป็นเศรษฐกิจ โดยแผลเป็นในภาคธุรกิจที่การเปิดกิจการยังมีการหดตัวสูงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม ยานยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่กิจการที่เปิดใหม่ในระยะหลังมักมีขนาดเล็กและอยู่ในสาขาที่มีการลงทุนน้อยกว่าโดยเปรียบเทียบ เช่น ภาคเกษตร และร้านอาหาร การลดลงของจำนวนกิจการใหม่ในภาพรวมและลักษณะของกิจการเปิดใหม่ที่เปลี่ยนไปจะเป็นข้อจำกัดในการขยายตัวต่อการลงทุนและการจ้างงานในระยะข้างหน้า นอกจากนี้ แผลเป็นยังเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน สะท้อนจากอัตราการว่างงานช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่องที่ราว 1.9% เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากในช่วงก่อนโควิด-19 ขณะที่ผู้ที่ยังมีงานทำอยู่มีรายได้เฉลี่ยลดลง จากการลดลงของจำนวนชั่วโมงการทำงานที่ทำให้รายได้โอทีและโบนัสหดตัวลงมาก อีกทั้งแรงงานยังมีการเคลื่อนย้ายไปในงานที่รายได้ต่ำลงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการย้ายไปทำงานในภาคธุรกิจที่ค่าแรงเฉลี่ยต่ำลง หรือการเปลี่ยนจากลูกจ้างเป็นประกอบอาชีพอิสระซึ่งมีรายได้ต่ำกว่า โดยสภาวะตลาดแรงงานที่ซบเซานี้จะบั่นทอนความสามารถของภาคครัวเรือนในการหารายได้และการบริหารจัดการหนี้ที่อยู่ในระดับสูงซึ่งคาดว่าน่าจะยังเป็นหนึ่งในภาระหนักของภาคครัวเรือนไทยต่อเนื่องในระยะปานกลาง

ดังนั้น ภาครัฐควรพิจารณากู้เงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อลดขนาด Output loss และแผลเป็นเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้กระทบศักยภาพของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า โดยจากการคำนวณของ EIC พบว่าแม้เศรษฐกิจจะเติบโตที่ 3.4% ในปี 2565 แต่ยังต่ำกว่าระดับศักยภาพมาก จึงทำให้มี output loss ในระดับสูงและผลของแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกขึ้น

โดยกว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไปอยู่ในระดับปี 2562 จะต้องรอถึงช่วงกลางปี 2566 ทั้งนี้การปล่อยให้เศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำกว่าศักยภาพหรือมีแผลเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นเวลานาน จะส่งผลเสียระยะยาวต่อเศรษฐกิจไทย ผ่าน 1) จำนวนธุรกิจที่ต้องปิดกิจการมากขึ้น ทำให้การจ้างงานและการลงทุนลดลงมาก กระทบต่อศักยภาพในการเติบโตในระยะข้างหน้า 2) คนว่างงานไม่สามารถหางานได้หรืออยู่ในภาคเศรษฐกิจที่ไม่ตรงกับทักษะ ทำให้คนกลุ่มนี้สูญเสียรายได้เป็นเวลานาน ขาดการพัฒนาทักษะที่เหมาะสม และอาจกลายเป็นผู้ว่างงานระยะยาว ซึ่งจะกระทบกับผลิตภาพของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ขณะเดียวกัน วิกฤตที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มส่งผลกระทบที่รุนแรงกว่ากับแรงงานที่มีรายได้น้อยและทักษะไม่มาก รวมถึงธุรกิจ SME ซึ่งจะส่งผลให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในไทยยิ่งถ่างกว้างขึ้น เสี่ยงต่อการก่อเกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา

ด้วยเหตุนี้ภาครัฐจึงควรพิจารณากู้เงินเพิ่มเติมเพื่อลดแผลเป็นทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสนับสนุนการฟื้นฟูและการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะมาตรการเพิ่มทักษะแรงงาน (Upskill/Reskill) มาตรการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของธุรกิจ SME และการลงทุนเพื่ออุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับกับโครงสร้างเศรษฐกิจและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกภายหลังโควิด-19 โดยแม้การกู้เงินเพิ่มเติมจะทำให้ระดับหนี้สาธารณะปรับสูงขึ้นกว่าเพดานหนี้ที่ 60% ต่อ GDP แต่ยังอยู่ในวิสัยที่ภาครัฐจะสามารถบริหารจัดการได้ในภาวะดอกเบี้ยต่ำและสภาพคล่องในประเทศอยู่ในระดับสูง โดยภาครัฐต้องสื่อสารถึงแผนการลดระดับหนี้ในระยะปานกลางที่น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการคลัง

"การกู้เพิ่มอีก 5 แสนล้านบาทแม้ว่าจะทำให้หนี้สาธารณะทะลุ 66-69% แต่หากนำมาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการลงทุนด้านสาธารณูปโภคด้านดิจิทัลต่างๆ ซึ่งจะต้องมีความร่วมมือกันทั้ง ธปท.ในเรื่องนโยบายการเงิน ภาคเอกชนในเรื่องของการรีสกิลต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเอสเอ็มอีที่ไม่ได้ขาดแค่สินเชื่อเท่านั้น ยังต้องมีการรีสกิลให้สามารถเข้าสู่ระบบออนไลน์แพลตฟอร์มได้ รวมไปถึงการรีสกิลแรงงานด้วยจะเป็นการช่วยลดแผลเป็นทางเศรษฐกิจ และทำให้ขับเคลื่อนต่อไปในโลกหลังโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันแม้ว่ารูมของนโยบายการเงิน และนโยบายการคลังจะมีน้อยลง แต่ยังมีพอที่จะทำได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือจะต้องนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและมีวิชัน"
#9827
ขายถูกที่ติดถนนเอเซียAH1 บ้านตาก (ตากออก) จ.ตาก ไร่ละ1.5ลบ.โทร 0837124115
#9828
ขายบ้านริมน้ำเจ้าพระยา (สรรพยา) ชัยนาท 850000 โทร 0837124115
#9829
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#9831


ก.ล.ต. คาดออกหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุน SME และ Startup จาก SME-PO และจัดตั้ง "SME Board" ได้ภายในปี 2564 เพื่อเพิ่มช่องทางในการระดมทุนให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนได้ตามความเหมาะสมและความต้องการ เผย SME-PP ระดมทุนแล้วรวมเกือบ 800 ล้านบาทใน 2 ปี

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนได้มีมติเห็นชอบการออกหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการระดมทุนซื้อหวยออนไลน์ในรูปแบบผู้ลงทุนเป็นวงกว้าง (SME-PO) และการจัดตั้งตลาดรองเพื่อซื้อขายหุ้นของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) หรือ SME Board เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 จากนั้น ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชน โดยปิดรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ให้ความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่ ก.ล.ต. เสนอ และคาดว่าจะสามารถออกหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ภายในปี 2564 หรือไม่เกินต้นปี 2565 พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. จะสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับระดมทุนรูปแบบใหม่และการเข้าจดทะเบียนใน SME Board ที่ใช้ชื่อว่า "LiVE Exchange" ซึ่งจัดตั้งโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


"ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่กลางปี 2564 เพื่อให้มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมและได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด เช่น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย)  เป็นต้น เนื่องจากเล็งเห็นว่า การเปิดช่องทางให้ SME และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) สามารถระดมทุนเป็นวงกว้างได้นั้น จะเป็นการเปิดโอกาสให้ SME และ Startup สามารถเข้าถึงตลาดทุนได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขีดความสามารถและมีความเข็มแข็ง และทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ผู้ลงทุนยังได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสม"

 

นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ก.ล.ต. ได้กำหนดให้นโยบายส่งเสริมและสนับสนุน SME และStartup ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน โดยในปี 2563 ก.ล.ต. ได้เปิดช่องทางให้ SME และ Startup สามารถระดมทุนจากผู้ลงทุนเป็นวงแคบ (SME-PP) และปรับปรุงหลักเกณ์การระดมทุนผ่านคราวด์ฟันดิง ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ SME และ Startup สามารถเข้าถึงตลาดทุนได้ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มี SME และ Startup ระดมทุนผ่าน 2 รูปแบบนี้แล้ว83 บริษัท มูลค่ารวม 795 ล้านบาท


ทั้งนี้ ในเบื้องต้น SME และ Startup ที่ต้องการระดมทุนในรูปแบบ SME-PO ต้องมีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัดซึ่งมีกลไกคุ้มครองผู้ถือหุ้นตามกฎหมาย (ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535) โดยจะผ่อนปรนหลักเกณฑ์ทั้งในตลาดแรกและตลาดรองให้เหมาะสม และไม่เป็นภาระกับ SME และ Startup มากเกินไป เช่น ไม่ต้องยื่นคำขออนุญาต ไม่กำหนดให้มีที่ปรึกษาทางการเงิน และไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมโดยกิจการยังต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด  

 

สำหรับการลงทุนในหุ้น SME และ Startup ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง จะเปิดให้เฉพาะผู้ลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์การลงทุนมีประสบการณ์และมีสินทรัพย์สูงในระดับที่สามารถรับความเสี่ยงได้ เช่น ผู้ลงทุนสถาบัน กิจการเงินร่วมลงทุน (private equity) นิติบุคคลร่วมลงทุน (venture capital) ผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะ (angel investor) กรรมการและพนักงานของเอสเอ็มอี หรือบริษัทในเครือเป็นต้น เพื่อคงหลักการคุ้มครองผู้ลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน
#9833


ร้านบุฟเฟต์ดังย่านสยามสแควร์วัน "Wisdom International Buffet" ออกแถลงการณ์ตอบคำถามในประเด็นหลักๆ 3 ข้อเกี่ยวกับเหตุการณ์ดรามากลุ่มเฟซบุ๊กเบ่งขอกินฟรี พร้อมขอโทษวงการรีวิวที่ทำให้ได้รับผลกระทบ ยันปัญหาจบแล้ว

จากกรณีแอดมินกลุ่มบุฟเฟต์ในเฟซบุ๊กไปขอร้านบุฟเฟต์ดังสยามสแควร์วัน ได้คูปองมา 2 ใบ แต่ขอกินฟรีเพิ่มอีก 2 เป็น 4 คน แลกกับถ่ายรีวิวร้าน อ้าง "รีวิวคือการมากิน แล้วคนกินไม่เสียเงิน" แต่ทางร้านปฏิเสธ โดนข่มขู่สารพัด แถมบอกทางกลุ่มขอแบนร้าน ปรากฏว่าทัวร์ลงตามระเบียบ แอดมินอีกคนหนึ่งต้องขอโทษ ส่วนตัวต้นเหตุปิดเฟซบุ๊กหนี ทั้งนี้ ยังพบอีกว่าแอดมินคนนี้ไม่ธรรมดามีดีกรีเป็นถึงระดับ ดร. และกำลังจะซื้อหวยออนไลน์ได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาชี้แจงในกลุ่มบุฟเฟต์ต้นเหตุ พร้อมกับเปิดเผยว่าตอนนี้แอดมินคนดังกล่าวพ้นจากสภาพการเป็นแอดมินของกลุ่มแล้ว พร้อมออกมาขอโทษและจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

ต่อมา ดร.สันติ สาระพล แอดมินที่ถูกแฉเรื่องคูปอง ได้ออกมาโพสต์ข้อโทษ โดยระบุข้อความว่า "จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อสิ่งทำไป ทั้งข้อความและกิริยาใดๆ ก็ตามที่ไม่ดีและไม่เหมาะสม ที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของผม จากการทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมขอโทษและขออภัยร้าน Wisdom International Buffet ผมขอรับความผิดไว้เพียงผู้เดียว และจะนำบทเรียนที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาปรับปรุงแก้ไข และระมัดระวังคำพูดและการกระทำต่างๆ ในอนาคตให้มากขึ้น ขออภัยต่อทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยครับ"

ล่าสุดวันนี้ (15 ก.ย.) เพจ Wisdom International Buffet ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงดรามาดังกล่าว พร้อมตอบคำถาม 3 ประเด็นหลักๆ ดังนี้

"1. สาเหตุที่ทางร้านตัดสินใจลงโพสต์ดังกล่าว
: เนื่องจากทางร้านของเราก็เป็นร้านร้านหนึ่งที่ต้องการมีพื้นที่ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ร้านของตัวเอง และมองว่าในกลุ่มดังกล่าวก็เป็นพื้นที่ที่กลุ่มลูกค้าของทางร้านเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องรีวิวของร้านบุฟเฟต์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจากข้อความที่ทางคู่กรณีกล่าวว่า "ทางกลุ่มขอแบนร้านนะครับ ถ้าอยากเสียสมาชิกเกือบ 1 ล้านคนในกลุ่ม กับมูลค่าที่หายไปก็ตามใจครับ ในเมื่อแลกกับความรู้สึกที่เสียไป" เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในเมื่อกลุ่มเกิดจากสมาชิกจำนวนมาก และโพสต์รีวิวต่างๆ ในกลุ่มก็มาจากลูกค้าที่มารับประทานที่ร้านของเราหรือร้านอื่นๆ จริง การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบเพื่อแบนร้านใดร้านหนึ่งจากกลุ่มคนจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ ทางร้านจึงจำเป็นต้องออกมาปกป้องตัวเอง และที่สำคัญอีกอย่างคือ ทางร้านไม่รู้ว่าเคยเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นกับร้านอื่นๆ ด้วยหรือไม่ ดังนั้นจึงอยากปกป้องธุรกิจร้านอาหารด้วยกัน ที่มีโอกาสจะโดนเอาเปรียบเหมือนทางร้านค่ะ

2. กรณีเรื่องจำนวนเวาเชอร์ที่ทางร้านให้แก่ทางแอดมินกลุ่ม
: ทางร้านได้มีการส่งเวาเชอร์ให้แก่ทางแอดมินหญิงของกลุ่มดังกล่าวจำนวน 8 ใบ โดยแบ่งเป็น ของร้านอื่นในเครือ 4 ใบ มูลค่าใบละ 2,000 บาท และของร้าน Wisdom International Buffet 4 ใบ มูลค่าใบละ 1,647 บาท (เป็นมูลค่าที่ใช้รับประทานในแพกเกจตัวบนสุดของทางร้าน)

3. สาเหตุการให้เวาเชอร์
: เพื่อต้องการแสดงความขอบคุณที่แอดมินสร้างกลุ่มกลุ่มนี้ขึ้นมา ทำให้ทางร้านสามารถที่จะดูความคิดเห็นของลูกค้าจริงๆ ทั้งของร้านเราเองและร้านคู่แข่งได้อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะสามารถนำมาปรับปรุงการให้บริการของร้านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อขอบคุณที่แอดมินเป็นสื่อกลางช่วยประสานงาน ให้ทางร้านได้ติดต่อกับลูกค้าที่มาใช้บริการได้โดยตรง

โดยทางร้านไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดการ Cyberbullying บุคคลใดๆ และทางร้านต้องขออภัยสำหรับวงการนักรีวิวเป็นอย่างสูงที่อาจทำให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ไปด้วย ทางร้านขอยืนยันว่ายังมีนักรีวิวที่ดีอีกมากที่มีจรรยาบรรณในการทำงาน โดยทางร้านได้มีโอกาสทำงานร่วมกันอย่างดีมาโดยตลอด อย่าโจมตีวงการนักรีวิวแบบเหมารวมเลยนะคะ

ทั้งนี้ ทางร้านได้รับการขอโทษจากทางแอดมินคนดังกล่าว รวมถึงแอดมินเจ้าของกลุ่มแล้ว จึงขอปิดโพสต์ต้นเรื่อง และใคร่ขอให้ลูกค้าทุกท่าน ประชาชน และพี่ๆ นักข่าวอย่าได้ถือโทษโกรธทั้งตัวบุคคลและแบนกลุ่มดังกล่าวเลย การมีพื้นที่ดีๆ ในการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลร้านอาหารต่างๆ นั้นถือเป็นเรื่องดีๆ สำหรับวงการร้านอาหารค่ะ

อย่างไรก็ตาม ทางร้านต้องขอขอบพระคุณลูกค้า ประชาชน และสำนักข่าวอีกครั้ง ที่ให้กำลังใจ และความไว้ใจแก่ทางร้าน เราสัญญาว่าจะพยายามพัฒนาทั้งอาหารและบริการของร้านต่อไป เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารและรับบริการที่ดีที่สุด หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ"
#9834
ขายบ้านริมน้ำเจ้าพระยา (สรรพยา) ชัยนาท 850000 โทร 0837124115
#9835
ถมที่ ขุดสระ จัดสวน วางท่อ ติดต่อ 080-022-3804
www.mmee2000.com ทำจริงไม่ทิ้งงาน
#9836
ขายถูกที่ติดถนนเอเซียAH1 บ้านตาก (ตากออก) จ.ตาก ไร่ละ1.5ลบ.โทร 0837124115
#9837


ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร(14ก.ย.) คาดพายุโซนร้อนนิโคลัสก่อความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานสหรัฐฯน้อยกว่าครั้งที่เฮอร์ริเคนไอดาซัดถล่มเมื่อช่วงต้นเดือน ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ จากความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล และทองคำซื้อหวยออนไลน์ฟื้นตัวเหนือ 1,800 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 70.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 73.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กำลังผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯในอ่าวเม็กซิโก ยังคงหยุดปฏิบัติการราว 39% หลังพายุนิโคลัส ซึ่งขึ้นฝั่งเทกซัสเมื่อวันจันทร์(13ก.ย.) และคาดหมายว่าจะเคลื่อนที่ไปถึงลุยเซียนาในวันพุธ(15ก.ย.) นำมาซึ่งอุทกภัยและฝนตกหนักเล่นงานแหล่งผลิตน้ำมันในแถบอ่าวเม็กซิโก

อย่างไรก็ตามด้วยที่มันส่งผลกระทบต่อกำลังผลิตน้ำมันและและก๊าซธรรมชาติน้อยกว่าที่ครั้งที่เฮอร์ริเคนไอดาซัดถล่มเมื่อช่วงต้นเดือน ส่งผลให้ราคาทองคำในวันอังคาร(14ก.ย.) ทรงตัวในกรอบแคบๆ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบแรงในวันอังคาร(14ก.ย.) จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและความเป็นไปได้มากขึ้นว่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราภาษีนิติบุคคลในอเมริกา กัดเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุน กระตุ้นการเทขายทั่วทั่งกระดาน แม้มีสัญญาณภาวะเงินเฟ้ออ่อนตัวลง

ดาวโจนส์ ลดลง 292.06 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,577.57 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 25.68 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,443.05 จุด แนสแดค ลดลง 67.82 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,037.76 จุด

เบื้องต้นตลาดได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งพบว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. เพื่อหาสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด

นอกจากนี้แล้วนักลงทุนยังจับตาการอภิปรายในสภาคองเกรส ในนั้นรวมถึงข้อเสนอของเดโมแครตที่ต้องการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล หลังมีการปรับลดในปี 2017 ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ณ ขณะนั้น

ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(14ก.ย.) ฟื้นตัวขึ้นเหนือ 1,800 ดอลลาร์ เหตุดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังสหรัฐฯรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 12.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,807.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์ส)
#9840
ถมที่ ขุดสระ จัดสวน วางท่อ ติดต่อ 080-022-3804
www.mmee2000.com ทำจริงไม่ทิ้งงาน