• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#9752
98 บาท พลิกชีวิตแม่ค้าทั่วไป ไม่เก่งออนไลน์
#9753


SACIT เฟ้นหาช่างฝีมือ เชิดชูสุดยอดบุคคลระดับบรมครู ผู้มีทักษะฝีมือเชิงช่าง อนุรักษ์และสืบสาน รักษาคุณค่าภูมิปัญญาดั้งเดิมในงานศิลปหัตถกรรมหลายสาขา เชิดชูเกียรติ เป็น "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" "ครูช่างศิลปหัตถกรรม" และ "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" ประจำปี 64

นายพรพล เอกอรรถพร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถรรมกรรมไทย (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อจาก ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เดิม เพื่อให้เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยของประเทศทั้งระบบอย่างแท้จริง และด้วยบทบาทภารกิจหนึ่งที่สำคัญของ SACIT ยังคงให้ความสำคัญยิ่ง ในบทบาทการส่งเสริมคุณค่า บุคคลผู้อนุรักษ์ สืบสานเพื่อรักษาคุณค่าภูมิปัญญาดั้งเดิมในศาสตร์และศิลป์เชิงช่าง เพื่อให้ดำรงคงอยู่ส่งต่อไปถึงคนรุ่นหลังได้เห็นคุณค่า และเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการช่วยกันอนุรักษ์ รักษา สืบสานต่อไป และในขณะเดียวกัน ก็มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาต่อยอดผสมผสานผ่านการพัฒนาและสร้างสรรค์สู่ความร่วมสมัย และสมัยนิยม อันจะนำไปสู่การสร้างโอกาสทางการตลาดในเชิงพาณิชย์ต่อไป และการดำเนินกิจกรรมเชิดชูเกียรติบุคคลระดับช่างฝีมือเป็น "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" "ครูช่างศิลปหัตถกรรม" และ "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" จึงนับเป็นการดำเนินงานที่ SACIT มุ่งมั่นให้ความสำคัญ และจะดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งในปี 2564 นี้ SACIT ได้ดำเนินการคัดสรรบุคคลผู้ที่ถือเป็นสุดยอดฝีมือเชิงช่าง และร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับบุคคลระดับบรมครูผู้สืบสานเอกลักษณ์ศิลปหัตถกรรมไทย ยกย่องเชิดชูเกียรติเป็น "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" และ "ครูช่างศิลปหัตถกรรม" และบุคคลผู้สืบทอดงานศิลปหัตถกรรมจากรุ่นบรรพบุรุษ พัฒนาสร้างสรรค์ต่อยอดสืบต่อไปเพื่อเชิดชูให้เป็น "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" ประจำปี 2564 โดยเฉพาะบุคคลเป็นได้รับการเชิดชูเป็น "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" จำนวน 5 คน ในปีนี้เป็นที่น่าภาคภูมิใจยิ่งนัก ทุกท่านยังคงยึดมั่นรักษาภูมิปัญญาในงานหัตถกรรมดั้งเดิมที่นับวันใกล้จะสูญหาย สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นสะท้อนถึงทักษะฝีมืออันล้ำเลิศชั้นครู และมีจิตวิญญาณในความเป็นครูผู้ให้ที่ต้องการจะถ่ายทอดส่งต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน คนรุ่นหลัง ให้ช่วยกันสืบสานรักษาต่อไป

 โดย 5 สุดยอดระดับบรมครู "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" ดังประกอบด้วย ครูเฉลิม พึ่งแตง ผลงาน "ปูนปั้นสด" จังหวัดเพชรบุรี ผู้ที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดช่างปูนปั้นสดชั้นบรมครูแห่งเมืองเพชรบุรี สร้างผลงานปั้นปูนสดแบบโบราณที่มีความสามารถครบบริบูรณ์ สั่งสมประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมาเกือบ 60 ปี ฝากผลงานที่วิจิตรงดงามไว้บนผืนแผ่นดินไทยผ่านวัดวาอารามหลายแห่งนับร้อยผลงาน ครูจรัญ ขัดมัน ผลงาน "เครื่องเงิน" จังหวัดน่าน ผู้รักษาสืบสาน สร้างสรรค์งานเครื่องเงินเอกลักษณ์ของจังหวัดน่านที่มีมาแต่โบราณ สั่งสมทักษะฝีมือ และประสบการณ์มากว่า 53 ปี และยังคงยึดมั่นอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทำเครื่องเงินแบบโบราณไว้ในทุกขั้นตอน เพื่อรักษาไว้ไม่ให้สูญหาย ครูสิริวัฑน์ เธียรปัญญา ผลงาน "ผ้าปัก" จังหวัดเชียงราย ผู้สร้างสรรค์ศิลปะลวดลายบนผืนผ้าทอพื้นถิ่น เกิดเป็นผลงาน "ผ้าปัก" ในมิติใหม่ที่ล้ำเลิศ ด้วยทักษะฝีมือการเขียนลายที่ละเอียดอ่อนช้อย และการปักด้วยเทคนิคการปักลูกโซ่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่งดงาม ผสมผสานบนผืนผ้าหลากหลายวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว และเป็นแบบอย่างของครูผู้ถ่ายทอดความรู้อย่างไม่หวงวิชา ครูเพชร วิริยะ ผลงานแกะสลักไม้ จังหวัดเชียงใหม่ สล่าแกะสลักไม้ฝีมือชั้นบรมครูแห่งดินแดนล้านนาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถ่ายทอดอารมณ์งานแกะสลักไม้รูปช้างให้เสมือนหนึ่งมีชีวิต เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการอนุรักษ์ช้างไทย เป็นที่รู้จักยอมรับในฝีมือทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ครูจักรกริศษ์ สุขสวัสดิ์ ผลงาน "ประดับมุก" จังหวัดนครปฐม ผู้มีฝีมือครบเครื่องสร้างงานประดับมุก หัตถศิลป์ชั้นสูง ตามแบบอย่างเชิงช่างชั้นสูงโบราณที่มีแนวโน้มใกล้สูญหาย เหลือช่างฝีมืออยู่น้อยราย สร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับมุกด้วยใจรักและความมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์ สืบสานให้งานหัตถศิลป์ชั้นสูง ของไทยคงอยู่โดยไม่สูญหายไปตามกาลเวลา 

สำหรับผู้ได้รับเชิดชูเป็น "ครูช่างศิลปหัตถกรรม" ในปี 2564 นี้มีจำนวน 6 คน ที่ถือได้ว่า นอกจากจะเป็นผู้ที่มีทักษะฝีมือเชิงช่างชั้นเลิศทั้งในงานเชิงอนุรักษ์และพัฒนาแล้ว ยังคงมุ่งมั่นสืบสานส่งต่อภูมิปัญญาสู่คนรุ่นหลังไว้อย่างน่าภาคภูมิใจ ดังประกอบด้วย นายวิษณุ ผดุงศิลป์ ผลงาน "หัวโขน" จังหวัดอ่างทอง ผู้สืบทอดการทำหัวโขน ตามแบบสกุลช่าง ผดุงศิลป์ จังหวัดอ่างทอง ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างผลงานหัวโขนที่ตรงตามลักษณะขนบจารีตดั้งเดิม คงความเป็นเอกลักษณ์แบบโบราณในทุกขั้นตอนมาจนถึงปัจจุบัน นายเมี้ยน สิงห์ทะเล ผลงานเครื่องปั้นดินเผา จังหวัดนครราชสีมา ผู้คงภูมิปัญญาเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษนับร้อยปี ใช้ประสบการณ์พัฒนาสร้างผลงานที่มีความโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ เครื่องปั้นดินเผารูป "นกฮูก" ที่งดงามน่าประทับใจราวกับมีชีวิตด้วยเทคนิคและฝีมือการปั้นที่ล้ำเลิศ นายนิทัศน์ จันทร ผลงาน "ผ้าทอลาวครั่ง" จังหวัดอุทัยธานี บุคคลผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยความรู้และทักษะความชำนาญรอบตัวทั้งด้านการทอผ้า และการย้อมสีธรรมชาติแบบโบราณ สร้างสรรค์ผ้าทอตามแบบฉบับผ้าทอลาวครั่งที่ให้สีสันสันสวยวิจิตร คงคุณค่าและต่อยอดภูมิปัญญาผ้าทอลาวครั่งไว้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ นางสิริลักษณ์ ศรีทองคำ ผลงาน "เครื่องทองโบราณ" จังหวัดเพชรบุรี หนึ่งในช่างทองโบราณของเมืองเพชรบุรี ที่คงภูมิปัญญา "เครื่องทองโบราณ" จากรุ่นบรรพบุรุษ สกุลช่างเพชรบุรี ที่เลื่องชื่อ ด้วยฝีมือการทำงานทองด้วยมือแบบโบราณดั้งเดิม และคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ตามแบบสกุลช่างทองเพชรบุรี ที่นับวันจะหาช่างที่จะสืบสานงานทำมือทุกขั้นตอนได้น้อยลงแล้ว นางธัญพร ถนอมวรกุล ผลงาน "ผ้าเขียนเทียน" จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ที่มากด้วยภูมิปัญญาการทำ "ผ้าเขียนเทียน" บนผืนผ้าใยกัญชง ที่มีทั้งความรู้และความชำนาญทั้งการผลิตเส้นใยกัญชง จนถึงการทอเป็นผืนผ้า มีทักษะความชำนาญเป็นพิเศษ ในการเขียนเทียนด้วยมือด้วยน้ำเทียนที่ใช้ภูมิปัญญาผสมน้ำเทียนตามแบบฉบับชาวม้งที่ในปัจจุบันจะหาช่างฝีมือที่มีทักษะในการทำผ้าเขียนเทียนบนผืนผ้าใยกัญชงด้วยมือทั้งกระบวนการได้ยากมากแล้ว นางเจ๊ะนาตีป๊ะ มะหิและ ผลงาน "ผ้าปัก" จังหวัดนราธิวาส ผู้มีทักษะความชำนาญจากการปักลายบนผ้าคลุมผมสตรีมุสลิม สู่การปักที่มีความละเอียดซับซ้อนอย่างการปักซอยแบบไทย สร้างสรรค์ พัฒนางานผ้าปักด้วยเทคนิคปักซอย พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เน้นสร้างสรรค์ลวดลายที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของป่าพรุและสัตว์ที่ใกล้สูญหายของจังหวัดนราธิวาสอย่างลาย "นกเงือก" เพื่อให้เป็นที่รู้จักได้มากยิ่งขึ้น 

ส่วนผู้ที่ได้รับเชิดชูเป็น "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" ในปี 2564 นี้มีจำนวน 4 คน ที่นับเป็นบุคคลผู้ซึ่งสืบสาน รักษา ต่อยอด งานหัตถศิลป์ไทยด้วยใจที่มุ่งมั่นที่จะดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์งานที่ส่งต่อมาจากบรรพบุรุษหรือครูบาอาจารย์ ให้คงอยู่ต่อไป ดังประกอบด้วย นายอัตถสิทธิ์ พงศกรรังศิลป์ ผลงาน "มีดเหล็กลาย" จังหวัดราชบุรี ทายาทผู้สืบสานตำนานมีดเหล็กลายช่างซุ่ย แห่งเมืองราชบุรี สืบสานวิธีการสร้างงาน "มีดเหล็กลาย" ภูมิปัญญาแห่งการสร้างศิลปะบนใบมีดแบบดั้งเดิมที่ใกล้สูญหายต่อจากบิดาไว้ทุกขั้นตอนอย่างน่าภาคภูมิใจ และพัฒนารูปแบบรูปทรงมีดให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้จนเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้ที่นิยมและชื่นชอบทั้งคนไทย และต่างชาติ และยังคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาแห่งการตีมีดเหล็กลายที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน นายวัชรพงษ์ ต้องรักชาติ ผลงาน "ผ้าทอล้านนา" จังหวัดเชียงใหม่ คนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักงานผ้าทอ มีทักษะการทอผ้าในทุกเทคนิค ทั้งเทคนิคขิด จก ยกดอก ยกมุก และ มัดหมี่ โดยเฉพาะการทอผ้า "ตีนจก" ที่จกด้วยขนเม่นแบบโบราณ มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ด้วยความมุมานะ เพื่อร่วมอนุรักษ์ และฟื้นฟูผ้าตีนจกไท-ยวน จากถิ่นต่างๆ ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษชาวไท-ยวนที่ใกล้สูญหายสืบทอดให้คนรุ่นหลังต่อไป นางสุภาวดี อุดมเดชาเวทย์ ผลงาน "ผ้าทอลายยกมุก" จังหวัดนครพนม ผู้มีทักษะ ความชำนาญสืบสานการทอผ้าลายยกมุก เอกลักษณ์ผ้าทอลายโบราณท้องถิ่นจังหวัดนครพนม มรดกทางภูมิปัญญาที่มีอยู่แต่ดั้งเดิม ไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลา สร้างสรรค์ผ้าทอลายยกมุกที่สวยสดงดงามตามเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้อย่างสมบูรณ์แบบ นายธนาธิป ลีธรรมวัฒน์กุล ผลงาน "สลักดุน" จังหวัดนครปฐม คนรุ่นใหม่วัยหนุ่มผู้มีใจรักในศิลปะแห่งการดุนลายโลหะ ด้วยการฝึกฝนเรียนรู้จากประสบการณ์จริงกับครูบาอาจารย์ในงานสลักดุนประจำท้องถิ่น ต่าง ๆ หลายท่าน จนมีทักษะความสามารถพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานสลักดุนแนวผสมผสานทั้งวัสดุและเทคนิคหลากหลายเข้าด้วยกัน เกิดเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นกลมกลืนในทุกมิติรวมกันอยู่ในชิ้นเดียวกันซึ่งไม่เหมือนใคร และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานต่อไป

"SACIT ขอทำหน้าที่เผยแพร่เรื่องราว "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" และ "ครูช่างศิลปหัตถกรรม" "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" ที่ได้รับการเชิดชูทั้ง 15 คนนี้ให้เป็นที่รู้จัก รับรู้ต่อสาธารณะชนในวงกว้าง เพื่อเป็นแนวทางนำไปสู่การสร้างการรับรู้ เรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นแนวทางให้เกิดการนำองค์ความรู้จากภูมิปัญญาไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาต่อยอด ผสมผสานผ่านการพัฒนาและสร้างสรรค์สู่ความร่วมสมัย อันจะนำไปสู่การสร้างโอกาสในเชิงพาณิชย์ต่อไป นายพรพล กล่าว
#9755
ขายบ้านริมน้ำเจ้าพระยา (สรรพยา) ชัยนาท 850000 โทร 0837124115
#9756
ขายถูกที่ติดถนนเอเซียAH1 บ้านตาก (ตากออก) จ.ตาก ไร่ละ1.5ลบ.โทร 0837124115
#9758


เชียงราย - ทั้งขาจรคนผ่านทางและลูกค้าขาประจำแวะเวียนชี้นิ้ว-เขียนออเดอร์กันไม่ขาดสาย..หนุ่มเชียงรายพิการหูหนวก-พูดไม่ได้สู้ขีวิตออกจากงานกลับจากเมืองกรุงร่วมปี ตั้งเต็นท์ชงกาแฟสดขายริมทางเลี่ยงเมือง

ขณะนี้..ผู้คนที่เดินทางผ่านทางเลี่ยงเมืองเชียงรายฝั่งตะวันออก เขต อ.เมืองเชียงราย ต่างพากันบอกปากต่อปาก บ้างก็ถ่ายภาพเซลฟีลงโซเชียลฯ บอกเพื่อนฝูงแวะอุดหนุน-ลิ้มชิมรสกาแฟ "คาเฟริมทางคนหูหนวก" ได้ตั้งร้านอยู่ริมถนนเขตหมู่บ้านร่องก๊อ หมู่ 5 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย

และเมื่อแต่ละคนแวะเวียนไปใช้บริการต่างก็ติดใจไปตามๆ กัน..แม้คาเฟ่ริมทางคนหูหนวกจะเป็นเพียงร้านที่ตั้งเต็นท์ชงกาแฟสดขาย-มีเก้าอี้สนามให้นั่งแค่ตัวสองตัวก็ตาม แต่เจ้าของร้านคือ นายสุวนนท์ หรือมอส ปันแดง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย เป็นผู้พิการหูหนวกและพูดไม่ได้ ก็สามารถรับออเดอร์บริการลูกค้าได้เป็นอย่างดี

นายสุวนนท์เล่าถึงเรื่องราวในการเปิดร้านว่า ได้ลาออกจากงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ แล้วกลับมาอยู่บ้าน ก็ว่างงานอยู่ร่วม 1 ปี กระทั่งได้รับคำแนะนำจากเพื่อนชาว จ.น่านให้ทดลองขายกาแฟดู รวมทั้งตนมีเพื่อนที่ขายกาแฟที่เชียงรายอยู่ก่อนแล้วด้วยจึงได้ไปศึกษาและทดลองทำดู ก่อนนำเงินออกมาลงทุนจำนวน 10,000 บาท จากนั้นสั่งซื้อเมล็ดกาแฟที่เห็นว่ามีรสชาติดีนำมาชงและค่อยๆ ทำขายมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา



ปรากฏว่าเริ่มได้รับความนิยม ดังนั้นในช่วงเช้าของทุกวันตนจะนำสัมภาระข้าวของและอุปกรณ์เกี่ยวกับการขายกาแฟใส่พ่วงรถจักรยานยนต์ ขี่ออกจากบ้านระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรเพื่อไปตั้งร้านริมถนน เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ผู้คนสัญจรผ่านไปมาตลอด ทั้งนี้ร้านจะเปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น.ไปจนถึงช่วงเย็น โดยจะมีกระดาษและปากกาเตรียมเอาไว้ให้ลูกค้าได้เขียนสั่งเมนู

สำหรับร้านคาเฟ่ริมทางคนหูหนวกจำหน่ายกาแฟสดในรูปแบบต่างๆ เหมือนร้านทั่วไป เช่น อเมริกาโน ลาเต มอคคา เอสเพรสโซ ฯลฯ รวมทั้งยังมีชา เช่น ชานม ชามะนาว นมเย็น โกโก้ นมสด ฯลฯ ราคาตั้งแต่ 30-60 บาท แต่ส่วนใหญ่จะขายแก้วละ 30-40 บาท มีทั้งร้อนและเย็นให้เลือก

ส่วนการสั่งซื้อก็ไม่ได้เป็นปัญหาเนื่องจากลูกค้าขาประจำจะคุ้นเคยและรู้ว่าต้องสั่งซื้ออย่างไร ส่วนลูกค้าใหม่หรือขาจรก็จะมีป้ายที่นายสุวนนท์เขียนตั้งไว้ว่า "ผมเป็นคนหูหนวก ต้องการเลือกเมนู เครื่องดื่มแบบไหน กรุณาเขียนบอกนะครับ ขอบคุณครับ" ขณะที่นายสุวนนท์ได้ออกมาต้อนรับเป็นอย่างดีจนเป็นที่ประทับใจของลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งยังสร้างความชื่นชมให้แก่บรรดาร้านกาแฟต่างๆ ที่เริ่มออกมาตั้งเรียงรายอยู่บนถนนสายเดียวกันนี้ด้วยว่ามีความสามารถแม้จะพิการหูหนวกพูดไม่ได้แต่ก็สามารถทำงานสร้างรายได้ให้ตัวเองได้เป็นอย่างดี
#9763



บีบีจีไอรุกตลาดผู้บริโภคด้วยแบรนด์ B Nature+ ประเดิมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แอสต้า-อิมมู

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) เปิดเผยว่า บีบีจีไอได้เข้าสู่การทำการตลาดกับผู้บริโภคโดยตรง ด้วยแนวคิด "ปลอดภัย ไร้โรค หรือ Stay Safe, Stay Healthy" ออกผลิตภัณฑ์ Asta-Immu (แอสต้า-อิมมู) ที่มีแอสตาแซนทินที่สกัดมาจากสาหร่ายสีแดง ภายใต้แบรนด์ B Nature+ (บี เนเจอร์ พลัส) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยสารสกัดจากธรรมชาติประเภท Nutraceutical (โภชนเภสัช หรือ โภชนบำบัด) ลดความเสี่ยงจากโรคภัยต่างๆ พร้อมช่วยดูแลผิวพรรณ นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์ในด้านสุขภาพและความงามควบคู่กันในหนึ่งเดียว นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติด้วยนวัตกรรมสีเขียวตามแนวทางที่ยั่งยืน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพและความสวยความงามมากขึ้น โดยได้เริ่มจำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊กและ Line OA เมื่อกลางเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา และกำลังขยายช่องทางการขายเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ บีบีจีไอได้ร่วมลงทุนใน Manus Bio Inc. สหรัฐอเมริกา เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ ขยายธุรกิจสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำผลิตภัณฑ์สารให้ความหวานจากธรรมชาติ Natural Sweetener ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงประเภทอาหาร (Food Grade) ออกสู่ตลาด
#9764


นางแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า " ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตลอดจนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่นำดิจิทัลเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ช่วงเวลานี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเปิดตัวแอปพลิเคชัน Emma by AXA สู่ตลาดประกันชีวิตของไทย การมีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง คือหัวใจหลักที่สำคัญ และเป็นทุกสิ่งที่เราทำเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าของเรา ทั้งนี้บริษัทฯ เล็งเห็นความต้องการด้านประกันสุขภาพ และบริการสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า โดยผสมผสานระหว่างตัวแทนมืออาชีพ และที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของเรา กับเครื่องมือดิจิทัล ในรูปแบบการบริการตนเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ชาญฉลาด โดยแอปพลิเคชัน "Emma by AXA" จะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดิจิทัล ที่มีทั้งความชาญฉลาด และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น โดยสามารถช่วยแนะนำลูกค้าได้ทั้งด้านประกันชีวิต รวมทั้งตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพ ความมั่งคั่ง และการดำรงชีวิตของลูกค้า และคนในครอบครัว เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่เป็นหนึ่งเดียว แอปพลิเคชัน Emma by AXA ให้บริการในแอกซ่าเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ รวมถึงอินโดนีเซีย ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ซึ่งในประเทศไทย กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ให้ความคุ้มครองประกันสุขภาพแก่ลูกค้าประมาณ 500,000 ราย โดยมียอดขายกรมธรรม์ประกันสุขภาพแบบรายบุคคลเพิ่มขึ้นถึง 45% และเราคาดว่าจะมีลูกค้าจำนวน 300,000 รายที่จะลงทะเบียนใช้บริการ Emma by AXA ภายในสิ้นปี 2564 และเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ราย ในปี 2565"

นางแซลลี่ โอฮาร่า กล่าวเสริม "แอปพลิเคชัน Emma by AXA เป็นสิ่งสำคัญของบริษัทฯ ในการให้บริการดิจิทัล และช่วยให้เราปรับสถานะของเราจากผู้ดูแลลูกค้าด้านการจ่ายเงินสินไหมทดแทน สู่การเป็นเพื่อนคู่คิดที่จะดูแลกันตลอดไป (Payer to Partner) ทั้งนี้ Emma by AXA จะสนับสนุนคุณภาพชีวิตแบบองค์รวมของลูกค้าตลอดเส้นทางชีวิตของลูกค้า ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านประกันสุขภาพ และถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของบริษัทฯ"

นางภควิภา เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายลูกค้า บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ปัจจุบันดิจิทัลเข้ามามีบทบาท และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน นอกจากนั้น ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เรื่องสุขภาพ และความต้องการการดูแลเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ดังนั้น Emma by AXA จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้บรรลุความต้องการด้านการดูแลสุขภาพ โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวดิจิทัล ที่พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ทั้งด้านสุขภาพ และประกันชีวิต ดังนั้นแอปพลิเคชันนี้ จึงมีบริการพิเศษที่แตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่น โดยในด้านของบริการด้านสุขภาพ Emma by AXA มีบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บริการตรวจสอบอาการเบื้องต้นด้านสุขภาพด้วย AI (Symptom Checker) ซึ่งบริษัทฯ ใช้ฐานข้อมูลของ Mayo Clinic องค์กรชั้นนำระดับโลกที่ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ และยังสามารถใช้บริการ กรุงไทย-แอกซ่า เทเลเฮลท์ หรือบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน บริการด้านการเดินทางหากมีความจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายกับบริการจัดส่งยาถึงบ้าน โดยปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการเทเลเฮลท์นี้ มากกว่า 7,000 ราย และมีความพึงพอใจของลูกค้าในบริการปรึกษาแพทย์ผ่านบริการดังกล่าว อยู่ที่ 98% นอกจากนี้ Emma by AXA ยังให้บริการค้นหาสถานพยาบาลในเครือข่าย ให้การเข้าถึงบริการเครือข่ายโรงพยาบาลทั่วประเทศของบริษัทฯ อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมลิงก์โดยตรงไปยัง Google Maps รวมถึงบริการ "แคร์คุณกว่าใคร" และ บริการขอความเห็นที่ 2 จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งมีหลากหลายบทความเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และสุขภาพ ที่รวมอยู่ในแอปพลิเคชัน Emma by AXA

นอกจากบริการด้านสุขภาพแล้ว Emma by AXA ยังให้บริการข้อมูลด้านกรมธรรม์ประกันชีวิตอีกด้วย ลูกค้าสามารถตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน ตรวจสอบมูลค่ากรมธรรม์ และกองทุนตามราคาตลาด แอปพลิเคชันนี้ยังให้บริการข้อมูลกรมธรรม์ บัตรประกันอิเล็กทรอนิกส์ และการชำระเบี้ยประกันภัยปีต่อผ่านบัตรเครดิต บาร์โค้ด และ และคิวอาร์โค้ด ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าของเรา รวมถึงโครงการ กรุงไทย-แอกซ่า พริวิลเลจ ที่สามารถใช้บริการได้ผ่านแอปพลิเคชันนี้ ซึ่งมอบสิทธิประโยชน์ และของขวัญมากมายให้กับลูกค้าตลอดทั้งปี โดย Emma by AXA จะเป็นผู้ช่วยที่คุณนึกถึงทุกครั้งที่ต้องการคำแนะนำด้านประกันชีวิต การวางแผนทางการเงิน และสุขภาพ และเป็นเพื่อนคู่คิดที่มอบสุขภาพที่ดี และความสะดวกสบายแบบง่าย ครบ จบ ในแอปพลิเคชันเดียว ทั้งนี้การพัฒนา Emma by AXA เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายหลักของบริษัทฯ และเร็วๆ นี้ บริษัทฯ จะขยายการให้บริการอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ การตรวจสอบสถานะการเรียกร้องสินไหมทดแทน สามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ บริการกู้ตามสิทธิกรมธรรม์ และทำรายการสับเปลี่ยนกองทุนผ่านทางแอปพลิเคชัน ซึ่งกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมนี้ เพื่อมอบประสบการณ์ และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเราอยู่เสมอ ตามนโยบายหลักของเรา คือ การมีลูกค้าเป็นที่หนึ่ง และพร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดทำแคมเปญโฆษณาเพื่อสื่อสารแอปพลิเคชัน Emma by AXA ผ่านโฆษณาออนไลน์ 2 ชุด โดยโฆษณาออนไลน์ชุดแรก จะเป็นการเล่าเรื่องราวของคู่สามีภรรยา ที่ได้ใช้แอปพลิเคชัน Emma by AXA เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในชีวิต ที่คอยอยู่เคียงข้าง ดูแล และให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอเมื่อคุณมีปัญหาด้านสุขภาพ ส่วนโฆษณาออนไลน์ชุดที่สอง จะเน้นถึงการเป็นผู้ช่วยในด้านการวางแผนทางการเงินของ Emma by AXA ให้กับคู่สามีภรรยา เพื่อให้มั่นใจว่าการวางแผนทางการเงินของคุณ จะสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวให้กับคุณ ซึ่งภาพรวมของโฆษณาออนไลน์ทั้งสองชุด จะเน้นความสนุก เข้าถึง และจับต้องได้ง่าย เช่นเดียวกับ Emma by AXA ที่ใช้งานง่าย สะดวก เพียงปลายนิ้ว นอกจากนั้น บริษัทฯ ได้รับเกียรติจาก คุณหญิง รฐา โพธิ์งาม นักร้อง นักแสดงชื่อดัง กูรูด้านสุขภาพ เป็นคนทันสมัย ที่มีความมุ่งมั่น และมีบุคลิกคล่องแคล่ว มาร่วมแสดงในโฆษณาทั้งสองชุด โดยเป็นตัวแทนของ Emma ซึ่งสามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของ Emma ได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ โฆษณาชุดดังกล่าว จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป และสื่อสารไปสู่ทุกกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อต่าง ๆ อาทิ สื่อออนไลน์ และสื่อกลางแจ้ง พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีกิจกรรมสนุกๆ สำหรับแคมเปญ Emma by AXA บนแอปพลิเคชัน TikTok เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมสนุกกัน โดยสามารถถ่ายคลิปวีดีโอ และใช้ฟิลเตอร์ของ Emma by AXA พร้อมติดแฮชแท็ก #เอ็มม่าห่วงยู และ #EmmaKTAXA บนบัญชี TikTok ของท่าน เพื่อลุ้นรับรางวัลรวม 350 รางวัล ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 270,000 บาท

นางแซลลี่ กล่าวทิ้งท้ายว่า "บริษัทฯ รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้แนะนำแอปพลิเคชัน Emma by AXA ให้กับลูกค้าของเรา และเราเชื่อว่ารูปแบบการให้บริการของ Emma by AXA จะสามารถสนับสนุนการดูแลลูกค้าของเราในรูปแบบออนไลน์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น Emma by AXA ยังตอกย้ำพันธสัญญาของเรา 'Know You Can' ที่มุ่งมั่น ส่งเสริม สนับสนุนทุกความเชื่อมั่น และดูแลกันลูกค้าของเราตลอดไป"
#9765
ถมที่ ขุดสระ จัดสวน วางท่อ ติดต่อ 080-022-3804
www.mmee2000.com ทำจริงไม่ทิ้งงาน