• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#9706


 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เก็บได้แค่แต้มเดียวจากการบุกไปเจ๊า เบรนท์ฟอร์ด ทีมน้องใหม่ 3-3 เมื่อคืนวันเสาร์ แม้เป็นผลการแข่งขันที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะทัพ "เดอะ บีส์" สู้ได้สุดยอดมาก โดยเฉพาะเกมรุกที่ทำเอาแนวรับ "หงส์แดง" ปั่นป่วนตลอดทั้งเกม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตได้ถึง 4 จาก 5 เกม และนี่คือผลสอบของลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ละคนในนัดนี้ 
 11 ผู้เล่นตัวจริง 

 - อลีสซง เบ็คเกอร์ : 6
  โดนไป 3 ประตู แม้โทษอะไรเจ้าตัวไม่ได้ แต่บางลูกเจ้าตัวน่าจะทำได้ดีกว่านี้เช่นกัน 
 
 - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 5
  เพิ่งหายป่วยกลับมา และเจอเกมที่น่าผิดหวังทันที เละเทะมากเรื่องเกมรับ โดยเฉพาะจังหวะเสียประตูที่สองและสาม 

 - โฌแอล มาติป : 6
  ทำได้เยี่ยมและเยือกเย็นกับจังหวะตามไปเคลียร์.หน้าประตูช่วงต้นเกม แต่ก็ถือเป็นเกมที่เจ้าตัวโดนแนวรุกเจ้าถิ่นป่วนหนัก แถมการสกัดก็ทำได้ไม่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะจังหวะมั่วๆ ที่เสียประตูสาม   

 - เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 6  
  คุมเกมรับหลวมๆ ในช่วงต้นเกม จนเปิดโอกาสทองให้คู่แข่งลุ้นทำประตู และน่าจะทำได้ดีกว่านี้กับลูกโดนตีเสมอ 2-2 แม้ช่วงท้ายเกมมีจังหวะแท็กเกิ้ลสำคัญ แต่โดยรวมถือเป็นฟอร์มที่ต่ำกว่ามาตรฐานมาก


เฮนโด้-โจนส์แจ่ม,หลังป่วน!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมบุกเจ๊าเดือดเบรนท์ฟอร์ด 
 

 - แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : 6
  แม้ได้ชื่อเป็นคนแอสซิสต์ให้ โจนส์ กดประตูนำ 3-2 และเล่นได้อย่างมีพลัง แต่เกมรับค่อนข้างหลวม ฝั่งตัวเองโดนคู่แข่งโจมตีบ่อยครั้ง 
   
 - ฟาบินโญ่ : 6.5 
  เสียท่าที่ปล่อยให้ อีธาน พินน็อค สอดจากข้างหลังทำประตูง่ายๆ แต่สามารถแก้ตัวได้ด้วยลูกเปิดสุดแม่นให้ ซาลาห์ ทำประตูพลิกแซง 2-1 แต่เขาและ ฟาน ไดค์ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ในจังหวะเสียประตู 2-2 

ADVERTISEMENT


 - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม) : 7.5
  อาจไม่ถึงกับโดดเด่น แต่มีฟอร์มที่น่าพอใจเลยทีเดียว ครอส.ได้สุดแม่นยำให้ โชต้า โขกตีเสมอ 1-1 แถมมีจังหวะตามสกัดสำคัญช่วงกลางครึ่งหลัง และเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสมากสุดของทีมในเกมนี้ (3 ครั้ง)

 

เฮนโด้-โจนส์แจ่ม,หลังป่วน!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมบุกเจ๊าเดือดเบรนท์ฟอร์ด 
 

 - เคอร์ติส โจนส์ : 7.5
  เล่นง่าย ผ่าน.แม่นยำ แท็กเกิ้ลได้แข็งแกร่ง และซัดประตูช่วยทีมขึ้นนำ 3-2 แบบสุดสวยช่วงกลางครึ่งหลัง ก่อนโดนเปลี่ยนตัวออกทันที ซึ่งดูแล้วน่าจะมีการตกลงกันไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม 

 - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 7
  เกือบทำประตูได้ตั้งแต่นาทีแรกๆ (ถูก คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ เคลียร์.บนเส้น) แต่ช่วงต้นครึ่งหลังชิงจังหวะเข้าไปยิงประตูพลิกนำ 2-1 ได้อย่างยอดเยี่ยม และถือเป็นประตูเกมลีกลูกที่ 100 ในสีเสื้อ "หงส์แดง" แต่หลังจากนั้นกลับโยนโอกาสทองทิ้งไปเฉย จากการหลุดเข้าไปยิงข้ามคาน และหลังจากนั้นไม่นาน เบรนท์ฟอร์ด ก็มาได้ประตูตีเจ๊า 3-3  

 - ซาดิโอ มาเน่ : 6
  ถึงแม้มีส่วนร่วมกับเกมสูง มีจังหวะผ่าน.สวยๆ ให้ ซาลาห์ ช่วงครึ่งหลัง แต่โดยรวมถือว่าน่าผิดหวัง โดยเฉพาะการเล่นจังหวะสุดท้ายที่ทำไม่ดี 

 

เฮนโด้-โจนส์แจ่ม,หลังป่วน!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมบุกเจ๊าเดือดเบรนท์ฟอร์ด 
 

 - ดิโอโก้ โชต้า : 7
  มีคิลเลอร์พาสส์สวยๆ ให้ ซาลาห์ ตั้งแต่ต้นเกม ก่อนขึ้นโขกทำประตูตีเสมอ 1-1 ได้เฉียบขาด และหลังจากนั้นก็มีโอกาสทองอีกครั้ง ที่ยิงซ้ำ (ลูกยิงชนเสาของ โจนส์) ไปติดเซฟนายทวารเจ้าถิ่น โดยรวมเป็นเกมที่เจ้าตัวทำได้โอเค แม้มีบางจังหวะน่าทำได้ดีกว่านี้ 

 สำรองที่ได้ลงเล่น 

 - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (แทน โจนส์ น. 68) : 5
  ไม่มีอะไรโดดเด่นกับ 20 กว่านาทีในสนาม 

   - Subinho -
#9707
ถมที่ ขุดสระ จัดสวน วางท่อ ติดต่อ 080-022-3804
www.mmee2000.com ทำจริงไม่ทิ้งงาน
#9708
ขายถูกที่ติดถนนเอเซียAH1 บ้านตาก (ตากออก) จ.ตาก ไร่ละ1.5ลบ.โทร 0837124115
#9709


เอดิน เชโก ซัดประตูในครึ่งเวลาหลัง "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน รอดตาย ไล่ตีเสมอ อตาลันตา ไปแบบหืดจับ 2-2 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน

ศึกฟุต.กัลโช เซเรีย อา อิตาลี วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2564 "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน เปิดรังซาน ซิโร่ รับการมาเยือนของ อตาลันตา

เกมนี้ ซิโมเน่ อินซากี กุนซือใหญ่อินเตอร์ มิลาน วาง เลาตาโร มาร์ติเนซ จับคู่แดนหน้ากับ เอดิน เชโก โดยมี ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, นิโคโล บาเรลล่า คุมเกมแดนกลาง ขณะที่ อตาลันตา ของเฮดโค้ช จิอัน กัสเปรินี นำทัพมาโดย ดูวาน ซาปาตา, รัสแลน มาลินอฟสกี และ มัตเตโอ เปสซินา

น.5 อินเตอร์ มิลาน ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ นิโคโล่ บาเรลล่า เปิด.จากริมเส้นฝั่งขวาไปให้ เลาตาโร มาร์ติเนซ วิ่งมาวอลเลย์แบบไม่จับเข้าประตูไปอย่างสุดสวย

อย่างไรก็ตาม อตาลันตา มาได้ประตูตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 30 จากการยิงของ รุสแลน มาลินอฟสกี มิดฟิลด์ทีมชาติยูเครน

น.38 อตาลันตา มาได้ประตูพลิกแซงเจ้าถิ่น 2-1 จากจังหวะที่ รุสแลน มาลินอฟสกี ยิงไปติดเซฟของ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช แต่.เด้งมาเข้าทาง ราฟาเอล โตลอย ซ้ำเข้าไป และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง อินเตอร์ มิลาน โหมบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูคืนให้ได้ และก็มาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 70 จากการยิงของ เอดิน เชโก ศูนย์หน้าตัวเก่ง ช่วยให้เจ้าถิ่นไล่เจ๊า 2-2

น.85 อินเตอร์ มิลาน มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ทีมเยือนไปทำแฮนด์. แต่ เฟเดริโก ดิมาร์โก ซัดไปชนคานเต็มๆ พลาดขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที อินเตอร์ มิลาน เปิดบ้านเสมอกับ อตาลันตา 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม

จากผลเสมอในนัดนี้ทำให้ "งูใหญ่" มีเพิ่มเป็น 14 แต้ม จาก 6 นัด รั้งอันดับ 3 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง เอซี มิลาน 2 คะแนน ขณะที่ อตาลันตา มีเพิ่มเป็น 11 คะแนน รั้งอันดับ 5 ของตาราง

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
อินเตอร์ มิลาน : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช (GK), มิลาน สคริเนียร์, สเตฟาน เดอ ฟรายจ์, อเลสซานโดร บาสโตนี, มัตเตโอ ดาเมียน, นิโคโล บาเรลล่า, มาร์เซโล โบรโซวิช, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, อีวาน เปริซิช, เลาตาโร มาร์ติเนซ, เอดิน เชโก
#9710
ลงทะเบียนเครดิตผู้ขายฟรี ให้คุณมีเครดิตผู้ค้าที่น่าเชื่อถือ
บริการรับฝากเครดิต เพื่อเพิ่มความมั่นใจสำหรับลูกค้าในการโอนเงิน เรายินดีให้ทุกคนฝากประวัติต่างๆ รีวิวต่าง และเราจะรับบริการยืนยันสมาชิกที่ทำตามเงื่อนไขของทางเว็บ ให้มันใจได้ว่าผู้ชื้อจะไม่ถูกผู้ขายโกง ศูนย์ข้อมูล เครดิต ผู้ค้าขาย ประเทศไทย | Credit Seller Thailand

Credit Seller Thailand
#9711
ขายบ้านริมน้ำเจ้าพระยา (สรรพยา) ชัยนาท 850000 โทร 0837124115
#9712




เซรั่มแพลงตอนระดับตำนาน ที่พิสูจน์จริงจากผู้ใช้มากมายทั่วทุกมุมของโลกว่าเพียงแค่ใช้เป็นประจำก็ช่วยฟื้นบำรุงผิว ให้แลดูกระจ่างใส และแลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงไทยที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อน ๆ ตลอดเวลาทำให้เจอกับปัญหาความหมองคล้ำ ไม่นับรวมมลภาวะและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวของเราอ่อนแอ จึงต้องการตัวช่วยที่สามารถปรับผิวหน้าให้แลดูกระชับ แลดูกระจ่างใส และรูขุมขนแลดูเล็กลง ดังนั้น เราจึงขอชวนทุกคนมาฟื้นบำรุงผิวขั้นสุดด้วย Biotherm Life Plankton™ เซรั่มที่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ 


ความโดดเด่นของ เซรั่ม Biotherm
ระดับตำนานขวดนี้คือส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของไบโอเธิร์ม อย่าง LIFE PLANKTON™ ที่มีความเข้มข้นถึง 5% และเป็นความเข้มข้นที่มีระดับสูงสุดของไบโอเธิร์ม ผสานการทำงานร่วมกับไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) จึงมอบความชุ่มชื้นให้ผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน พร้อมช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ และมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง และสุดท้ายคือวิตามินซี (Vitamin C) ที่ดูแลความร่วงโรยเสื่อมสภาพของผิวให้กลับมาสดใสเปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์ และแลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น โดยทุกคนสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวได้เลย หากใช้เป็นประจำและต่อเนื่อง 


พิสูจน์การฟื้นบำรุงผิวขั้นสุด เพื่อคืนผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอีกครั้ง ด้วยการทดสอบการใช้งานของผลิตภัณฑ์ผ่านอาสาสมัครผู้หญิงชาวเอเชียที่มีอายุ 22-60 ปี จำนวน 78 คน ที่ได้ทดลองใช้ Life Plankton™ Elixir ต่อเนื่องเป็นเวลาทั้งหมด 8 วัน ผลลัพธ์ที่ได้พบว่ากว่า 83 % ในกลุ่มอาสาสมัครรู้สีกว่าตนเองมีผิวที่แลดูกระชับขึ้น รู้สึกแลดูเปล่งปลั่งขึ้น รวมถึงริ้วรอยต่าง ๆ แลดูตื้นขึ้นและค่อย ๆ แลดูลดเลือนลง ซึ่งหากคุณผู้หญิงท่านใดกำลังรู้สึกว่าผิวของตนเองกำลังเผชิญกับปัญหาผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอย และดูโทรม สามารถมาพิสูจน์ความสามารถของ เซรั่ม Biotherm Life Plankton™ Elixir ไปด้วยกันกับเราได้ 


3 สเต็ปการใช้งานไบโอเธิร์ม
เซรั่มแพลงตอนระดับตำนานง่ายและเหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคนที่กำลังเผชิญผิวที่ร่วงโรยและแห้งกร้าน สเต็ปแรกคือการหยดเซรั่มลงบนฝ่ามือในปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นจึงทาลงบนผิวหน้าเบา ๆ ให้ทั่วทุกบริเวณของใบหน้า ทั้งแก้ม คาง และบริเวณลำคอให้เซรั่มซึมซาบเข้าสู่ผิวเร็วมากยิ่งขึ้นก็ใช้ปลายนิ้วมือนวดวนเบา ๆ และสเต็ปสุดท้ายคือการใช้เซรั่มขวดนี้อย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนเข้านอนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกับผิวมากยิ่งขึ้น


 โดยเนื้อสัมผัสของเซรั่มขวดเล็ก ๆ แต่มีประสิทธิภาพสูงขวดนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เนื้อสัมผัสนั้นสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงมีความบางเบาสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพื่อผิวที่แลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 


สำหรับผู้ที่สนใจเซรั่มแพลงตอน LIFE PLANKTON™ ELIXIR เพื่อช่วยในการฟื้นบำรุงผิวสามารถจับจองเซรั่มชวดนี้ได้เลย โดยมีทั้งหมด 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 30 ml ในราคา 2,200 บาท หรือ ขนาด 50 ml ในราคา 3,200 บาท เพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิวที่ถูกคุกคามจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่ทำลายผิวหน้าของเรา โดยสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นในไลน์ LIFE PLANKTON™ ได้เลย ทั้ง Biotherm Life Plankton™ Sensitive Emulsion, Biotherm Life Plankton™ Clear Essence, หรือ Biotherm Life Plankton™ Essence เพื่อผสานการทำงานร่วมกันให้ผิวหน้าของเราดูแข็งแรงและสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น 


หากใครที่สนใจสอบถามและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ LIFE PLANKTON™ ELIXIR รวมถึงผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ของ Biotherm สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทั้งช่องทางออนไลน์และช่องทางออฟไลน์ หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.biotherm.co.th/ แล้วมามีผิวที่อ่อนเยาว์ แลดูกระจ่างใส และรู้ถึงถึงผิวที่กระชับขึ้นไปด้วยกันนะคะ 

 
#9714


การแข่งขันฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 25 กันยายน ประเดิมกันด้วยคู่เอกในช่วงหัวค่ำเตะในเวลา 18.30 น. จ่าฝูง "สิงห์บลูส์" เชลซี จะเปิดเดอะ บริดจ์ รับการมาเยือนของแชมป์เก่า "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยคู่นี้ พีพีทีวีเอชดี ช่อง 36 ถ่ายทอดสด

ความพร้อมเจ้าบ้านเพิ่งผ่านการลงเล่นเกมคาราบาว คัพ รอบ 32 ทีม เข้ารอบได้แบบหืดจับหลังจากเสมอกับ แอสตัน วิลล่า 1-1 ก่อนจะดวลจุดโทษเอาชนะได้ ส่วนฟอร์มในลีกชนะ 4 เสมอ 1 เกมนี้คาดว่า โธมัส ทูเคิ่ล จะกลับมาใช้ขุมกำลังชุดใหญ่ทั้งหมดเอดูอาร์ เมนดี้ น่าจะได้ลงเฝ้าเสา เช่นเดียวกับคู่กลางใช้ จอร์จินโญ่ และมัตเตโอ โควาซิซ ในขณะที่แผงเกมรุกเลือก ไค ฮาแวร์ตซ์ ประสานงานกับ เมสัน เม้าท์ โดยมี โรเมลู ลูกากู ยืนหน้าเป้า


 

ทีมเยือน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นเกมคาราบาว คัพ กลางสัปดาห์มาเหมือนกัน ถล่มเอาชนะ วีคอมบ์ มาได้ 6-1 ทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า เริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะบรรดาแกนหลักฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกได้เกือบหมด ตำแหน่ง เซ็นเตอร์ นาธานอาเก้ ที่ผลงานดีอาจจะได้ลงจับคู่กับ รูเบน ดิอาส ต่อไป แดนกลางใช้ลูกประสบการณ์ของ แฟร์นานดินโญ่ ลงมาคุมจังหวะขนาบข้างไปด้วยตัวสร้างสรรค์เกมรุกอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ และฟิล โฟเด้น ส่วนสามตัวบนเลือก กาเบรียล เฮซุส เล่นกับ เฟร์ราน ตอร์เรส และแจ็ค กรีลิช

ADVERTISEMENT


ผลงานการเจอกัน 5 เกมหลังสุด ไม่มีจบลงด้วยผลเสมอเลย กลายเป็น เชลซี ที่ดูดีกว่าเยอะเอาชนะได้ 4 และแมนฯซิตี้ ชนะ 1 ฤดูกาลที่แล้วเจอกัน 4 เกมในลีกผลัดกันแพ้ชนะ ส่วน.ถ้วย "สิงห์บลูส์" เก็บเรียบทั้ง เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบชิงชนะเลิศ

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์,เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, มัตเตโอ โควาซิซ, จอร์จินโญ่, มาร์กอสอลอนโซ่, ไค ฮาแวร์ตซ์, เมสัน เมาท์ และโรเมลู ลูกากู


 
แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบนดิอาส, นาธาน อาเก้, ชูเอา กานเซโล่, เควิน เดอ บรอยน์,แฟร์นานดินโญ่, ฟิล โฟเด้น, กาเบรียล เฮซุส, เฟร์ราน ตอร์เรส และแจ็ค กรีลิช

อีกคู่ที่เตะในเวลา 18.30 น. "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ล่าสุดที่กระเด็นตกรอบคาราบาว คัพ หลังจากพ่ายคารังให้กับ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 แต่ผลงานในลีกถือว่ายอดเยี่ยมชนะ 4 เสมอ 1 เกมนี้โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เตรียมที่จะกลับมาใช้ทีมชุดใหญ่หลังจากได้พักมาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ตัวที่ยังเล่นไม่ได้คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่เมื่อมองไปในขุมกำลังตัวจริงในเวลานี้ถือว่าฟูลทีมสุดๆ เล่นในระบบ 4-2-3-1 สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ คุมแดนกลางร่วมกับ เฟร็ด แนวรุกใช้ เมสัน กรีนวู้ด ประสานงานกับ บรูโน่ เฟอร์นานเดส และ ปอล ป๊อกบา โดยมี คริสเตียอาโน่ โรนัลโด้ ยืนเป็นหน้าเป้า

ทีมเยือน "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า เสมอกับเชลซีมา 1-1 ก่อนจะดวลจุดโทษแพ้ในศึกคาราบาว คัพ เกมนั้นดีน สมิธ ได้เลือกพักตัวหลักหลายราย เพื่อมาเล่นเกมนี้โดยเฉพาะ ปัญหาใหญ่ที่ต้องกังวลคือต้องรอเช็คความฟิตของ จอห์น แม็คกินน์ มิดฟิลด์คนสำคัญว่าจะพร้อมลงเล่นได้หรือไม่ นอกนั้นไม่มีกังวลอะไร คาดว่าจะปรับแท็กติกเล่นในระบบ 3-5-2 ไทโรน มิงค์ส, คอร์ตนีย์ เฮ้าส์ และเอซรี่ คอนซ่า ยืนเป็นสามแนวรับ ส่วนแดนกลางเมื่อ แม็คกินน์ ไม่พร้อมต้องส่ง มาเวลาส นาคัมบ้า ลงมาคุมเกมร่วมกับ ดั๊กลาส ลุยซ์ และเจค็อบ แรมซีย์ โดยมี แดนนี่ อิงค์ส และโอลลี่ วัตกิ้นส์ เป็นคู่หัวหอก


 
ผลงานการเจอกัน 5 เกมหลังสุด แมนฯยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่าเอาชนะได้ 3 เสมอ 1 และ วิลล่า ชนะ 1 ฤดูกาลที่แล้ว "ปีศาจแดง"ชนะทั้งไปแล้วกลับด้วยสกอร์ 2-1 และ 1-3

คู่ดึกสุดในค่ำคืนวันเสาร์ "ผึ้งน้อย" เบรนท์ฟอร์ด ทีมน้องใหม่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จ่าฝูงร่วมในเวลา 23.30 น.

เจ้าบ้าน เบรนท์ฟอร์ด ถือว่าเป็นทีมน้องใหม่ที่ผลงานดีที่สุดในเวลานี้ลงเล่นไป 5 เกม ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 แถมเกมล่าสุดจัดหนักถล่มเอาชนะ โอลด์แฮ่ม ในศึกคาราบาว คัพ 7-0 ความพร้อมเกมนี้กุนซือ โธมัส แฟร้งค์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แชนดอน บาติสเต้ มิดฟิลด์ที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ จอช ดาซิลวา และแมดส์ บัคห์ โซเรนเซ่น ที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้แดนกลางโอกาสจะตกเป็นของ แฟร้งค์ ออนเยก้า ที่จะได้เล่นร่วมกับ คริสเตียน นอร์การ์ด และวิตาลี ยาเนลท์ ที่เด็ดของพวกเขาอยู่ที่คู่หัวหอก อีวาน โทนี่ย์ และไบรอัน เอ็มเบอูโม่

ทีมเยือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ผลงานดีในการออกสตาร์ทชนะ 4 เสมอ 1 เกมล่าสุดพักตัวหลักยกทีมบุกถล่ม นอริช ซิตี้ 3-0 ในคาราบาว คัพ นัดนี้ไม่มี ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และฮาร์วีย์เอลเลียต ในรายของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หายป่วยแล้วน่าจะพร้อมลงเล่นในเกมนี้ ที่เหลือ เจอร์เก้น คล็อปป์ กลับมาใช้ขุมกำลังชุดใหญ่ทั้งหมด ในระบบ 4-3-3 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คุมแดนกลางร่วมกับฟาบินโญ่ และเคอร์ติส โจนส์ เนื่องจากนาบี้ เกอิต้า ไม่ค่อยสมบูรณ์ ส่วนสามประสานในเกมรุกยังเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า และซาดิโอ มาเน่


 
ทั้งสองทีมไม่เจอกันมานานมากตั้งแต่ปี 1989 ก่อนหน้านี้ดวลกันมาแล้ว 15 ครั้ง ลิเวอร์พูล ชนะได้ 9 เสมอ 3 และเบรนท์ฟอร์ด ชนะ 3

ทางด้าน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทำศึกบิ๊กแมทช์ ลา ลีกา สเปน เจอกับ "เรือดำน้ำสีเหลือง" บียาร์เรอัล เวลา 02.00 น. เจ้าถิ่น "ราชันชุดขาว นำจ่าฝูงของตาราง หลังจากที่เกมล่าสุดเปิดบ้านถล่มเอาชนะ เรอัล มายอร์ก้า 6-1 เกมนี้ยังไม่มี ดานี่ การ์บาฆาล, แกเร็ธ เบล, แฟร์กลองด์ เมนดี้ และดานี่ เซบาญอส ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนข่าวดีคือ โทนี่ โครส กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบได้แล้ว ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร ทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ กำลังเล่นได้อย่างลงตัวมาในระบบ 4-3-3 มาร์โกอเซนซิโอ้ ที่กำลังมั่นใจกดแฮททริกมาในเกมที่แล้วจะลงตัวจริงในบทบาทของมิดฟิลด์ตัวรุก มี เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ และคาเซมิโร่คุมจังหวะ แนวรุกเลือก เอแดน อาซาร์ ประสานงานกับ คาริมเบนเซม่า และวินิซิอุส จูเนียร์

ทีมเยือน "เรือดำน้ำสีเหลือง" ลงเล่นไป 5 เกมเพิ่งชนะนัดแรกคือ เกมล่าสุดด้วยการถล่ม เอลเช่ มา 4-1 ที่เหลือเสมอ 4 และแพ้ 1 เกมนี้ยังไม่มี เกราร์ด โมเรโน่ ดาวยิงคนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ ดานี่ ราบ้า และซามูเอล ชุคเวเซ่ ทำให้ อูไนเอมิรี่ ต้องปรับมาเล่น 4-3-3 ใช้ เอเตียง กาปู เป็นตัวตัดเกม ขนาบข้างไปด้วย ดานี่ ปาเรโฆ่ และมานูเอล ติเกรอส สามประสานในเกมรุกใช้ เยเรมี่ ปีโน่, ปาโก้ อัลคาแซร์ และอาร์เนาท์ ดานจูม่า
#9717


พรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ ระอุด้วยคู่บิ๊กแมตช์สองสนาม ทั้งในวันเสาร์ และคืนวันอาทิตย์ แต่ละคู่จะมีเรื่องราวอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย
    "เชลซี-แมนฯ ซิตี้"

บิ๊กแมตช์ 2 คู่! 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 6

    เชลซี ยืนตระหง่านหัวตารางด้วยการชนะ 4 นัด เสมอ 1 ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สะดุดพลาดเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน ในเกมลีกล่าสุด

    ตลอดชีวิตการเป็นกุนซือของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เขาไม่เคยปราชัยต่อทีมไหน 4 เกมติดต่อกัน แต่การมาเจอกับ "สิงห์บลูส์" ครั้งนี้นั้น โค้ชชาวสแปนิช แพ้มาแล้ว 3 เกมติด

ADVERTISEMENT


    12 เกมล่าสุดที่คู่นี้เจอกันใน พรีเมียร์ลีก ไม่เคยลงเอยด้วยการแบ่งแต้ม โดย เชลซี ชนะได้ 5 ครั้ง และ ซิตี้ ชนะ 7 หน

    หากไม่รวมการทำเข้าประตูตัวเอง เชลซี ทำประตูโดยผู้เล่นที่ไม่ซ้ำหน้ากันถึง 10 รายใน 5 เกมซีซั่นนี้ มีแค่ อาร์เซน่อล เมื่อฤดูกาล 2009/10 เท่านั้นที่ใช้จำนวนนัดน้อยกว่าในการมีผู้เล่นในทีม 10 รายทำประตูบนศึก พรีเมียร์ลีก 

    เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์ของ "เรือใบสีฟ้า" ทำประตูใส่ เชลซี ได้ในเกมลีกตลอด 3 นัดหลังสุด มีแค่ เคร็ก เบลลามี่ เท่านั้นที่ยิงใส่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (ระหว่างปี 2007-2011) 4 นัดติดต่อกันมากที่สุดสำหรับผู้เล่นที่ทำประตูใส่ทีมเก่าติดต่อกันมากที่สุด

    "แมนฯ ยูไนเต็ด-แอสตัน วิลล่า" 

ADVERTISEMENT


บิ๊กแมตช์ 2 คู่! 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 6
    คู่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แอสตัน วิลล่า เดิมทีจะเริ่มเตะในช่วง 3 โมงเย็นตามเวลาท้องถิ่น( 3 ทุ่มตามเวลาประเทศไทย) แต่ต้องขยับมาเล่นกันในช่วงเที่ยงวัน( 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) เนื่องจากช่วงหัวค่ำวันเดียวกันนั้นจะมีคอนเสิร์ตของวง คอร์ตทีนเนอร์ส จัดขึ้นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คริกเกต กราวนด์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากรังเหย้าของ "ปีศาจแดง" ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นห่วงเรื่องการจราจรคับคั่ง และความปลอดภัย

    ไม่มีทีมไหนในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่จะมีทีมใดทีมหนึ่งเอาชนะคู่แข่งทีมเดียวได้มากกว่าที่ "ปีศาจแดง" เอาชนะ "สิงห์ผยอง" ได้มากถึง 37 นัด

    บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำประตูได้ทั้ง 3 นัดในการเจอ วิลล่า ในศึก พรีเมียร์ลีก โดยทั้ง 3 ประตูเกิดจากลูกจุดโทษทั้งสิ้น ซึ่งมีแค่ผู้เล่นเดียวเท่านั้นที่ทำประตูใส่ทีมเดิมด้วยลูกจุดโทษมากกว่าแข้งโปรตุกีส คือ ทรอย ดีนีย์ ที่ยิงทั้ง 4 ประตูใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยมาจากลูกจุดโทษ

    นับตั้งแต่เริ่มเดือนกุมภาพันธ์ มีแค่ เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ (12) เท่านั้นที่ทำประตูบนศึก พรีเมียร์ลีก มากกว่า เจสซี่ ลินการ์ด (11) โดย เจ-ลิงซ์ มีโอกาสทำประตูในสีเสื้อ "ผีแดง" ในลีก 3 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรก หลังจากยิงใส่ นิวคาสเซิ่ล และ เวสต์แฮม มาใน 2 เกมก่อนหน้านี้

    การออกไปเล่นเกมเยือนของ วิลล่า ในเกมลีกซีซั่นนี้ พวกเขาแพ้รวดทั้งสองเกม โดยเสียถึง 3 ประตูทั้งสองเกม ยิ่งไปกว่านั้นทีมของ ดีน สมิธ แพ้นอกบ้าน 5 จาก 8 เกมหลังสุดในลีก (ชนะ 2 แพ้ 1) มากกว่า 15 เกมก่อนหน้านี้ที่แพ้จำนวนเท่ากันจาก 15 เกม (ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 4)

    "เลสเตอร์-เบิร์นลี่ย์"

บิ๊กแมตช์ 2 คู่! 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 6
    เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะทีมที่อยู่ในโซนสีแดงมาแล้ว 6 เกมติดต่อกัน โดยมีสกอร์รวมถึง 15-2 นอกจากนี้ "เดอะ ฟ็อกซ์" ไม่แพ้ต่อ เบิร์นลี่ย์ ในบ้านตัวเอง 10 นัดติดต่อกัน (ชนะ 6 เสมอ 4)

    เบิร์นลี่ย์ เป็นทีมที่ใช้ผู้เล่นจำนวนน้อยที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ (17 คน) อีกทั้ง "เดอะ คลาเร็ตส์" ยังเป็นทีมที่ค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่นชุดตัวจริงมากที่สุดในปีนี้ ( 29 ปี 135 วัน)

    คริส วู้ด กองหน้า เบิร์นลี่ย์ ทำประตูใส่ เลสเตอร์ ซึ่งเป็นทีมเก่าไปแล้ว 4 ลูก โดยมีแค่ เวสต์แฮม(7) และ วูล์ฟแฮมป์ตัน (5) เท่านั้นที่เขายิงใส่ได้มากกว่าใน พรีเมียร์ลีก และสองเกมล่าสุดที่บุกมาเยือน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เจ้าตัวยิงได้ทั้งสองนัด

    "เบรนท์ฟอร์ด - ลิเวอร์พูล"

บิ๊กแมตช์ 2 คู่! 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 6
    คู่ระหว่าง เบรนท์ฟอร์ด กับ ลิเวอร์พูล เป็นการเจอกันในลีกครั้งแรกของทั้งสองทีมนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 1947 โดยครั้งนั้นเสมอกัน 1-1 ที่กริฟฟิน พาร์ค ซึ่งจบฤดูกาลด้วยการที่ "เดอะ บีส์" ตกชั้นจากลีกสูงสุด ส่วน ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกไปครอง

    เบรนท์ฟอร์ด แพ้ในบ้านล่าสุดต่อ ไบรท์ตัน แต่พวกเขาไม่แพ้ในบ้าน 2 เกมติดต่อกันเลยนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2018

    ลิเวอร์พูล แพ้ทีมน้องใหม่แค่นัดเดียวจาก 27 นัด โดยครั้งเดียวนั้นเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลก่อนต่อ ฟูแล่ม (ชนะ 22 เสมอ 4) 

    หาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูได้ จะทำให้เขาทำสถิติเทียบเคียง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ทำประตูใส่ทีมลอนดอน 13 ลูก

    "อาร์เซน่อล - สเปอร์ส" 

บิ๊กแมตช์ 2 คู่! 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 6
    อาร์เซน่อล ตั้งเป้าคว้าชัยเหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 2013/14

    ทั้งสองเกมที่ อาร์เซน่อล ใช้ อารอน แรมส์เดล ยืนเฝ้าเสาในซีซั่นนี้ จบลงด้วยชัยชนะ 1-0 ทั้งสองเกม โดยมีผู้รักษาประตู "ไอ้ปืนใหญ่" คนเดียวเท่านั้นที่สามารถเก็บคลีนชีตใน 3 เกมลีกบนศึก พรีเมียร์ลีกได้คือ อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ และ ดาวิด ออสปิน่า

    มีกุนซือ "ไก่เดือยทอง" แค่คนเดียวเท่านั้นที่คุมทีมเอาชนะบนลีกสูงสุดได้ตั้งแต่เกมแรกที่เจอ อาร์เซน่อล (เสมอ 5 แพ้ 4) ต้องลุ้นกันว่า นูโน่ เอสปิลิโต้ ซานโต จะเป็นคนที่สองหรือไม่ในเกมนี้

    แม้จะยังทำประตูไม่ได้เลยในซีซั่นนี้ แต่ แฮร์รี่ เคน มีสถิติยอดเยี่ยมยามเล่น นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ เมื่อทำไปแล้วถึง 11 ประตู ซึ่งเป็นสถิตินักเตะพังประตูมากที่สุดในศึก ดาร์บี้ นี้