• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#9466
สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด
#9469

ประเดิมหุ้นน้องใหม่เข้าตลาดหุ้นไทยตัวแรกของปี 65 สำหรับ บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) ล่าสุดประกาศความพร้อมเข้าซื้อขายผ่านกระดานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 17 ม.ค.นี้ ด้วยราคา IPO หุ้นละ 18 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 17.54 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (1 ต.ค.63-30 ก.ย.64)

นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ TKC เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า จากความเชื่อมั่นของการเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจให้บริการออกแบบ วางระบบ และบริการที่เกี่ยวข้องในงานวิศวกรรมสายงานระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และระบบความปลอดภัยสาธารณะที่มีทิศทางการเติบโตตามเมกะเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนในช่วงเปิดจองซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 7-11 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงเป้าหมายการเติบโตในอนาคตมุ่งสู่การเป็นผู้นำเทคโนโลยี 5G สอดรับกับความต้องการใช้งานทางด้าน IoT AI ระบบคลาวด์ และโซลูชันอัจฉริยะต่างๆ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมามูลค่างานระบบในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมสูงถึงหลักหมื่นล้านบาทต่อปี แม้ภายหลังจากที่มีการประมูลคลื่นความถี่จะมีการลงทุนอย่างมหาศาลในช่วงแรกๆ และลดลงในปีถัดมา แต่หากพิจารณางบลงทุนระบบสื่อสารแต่ละปีก็ยังมีมูลค่าในระดับหมื่นล้านบาทอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเติบโตขึ้นทุกๆปี

"ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 18 ปีและการเป็นผู้รับเหมามาก่อนทำให้บริหารต้นทุนได้ดีกว่าคู่แข่ง และการมีทีมวิศวกร In-House ที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญ ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ทั้งในแง่ความสามารถในการบริการและราคา รวมถึงมีการดูแลและการให้บริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจและความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่น ไว้ใจและใช้บริการต่อเนื่อง"นายสยาม กล่าว
ส่วนอีกหนึ่งจุดแข็งของบริษัท คือ การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเจ้าของผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม และเครือข่ายสารสนเทศชั้นนำระดับโลก เช่น Huawei, Nokia, Cisco, Verint, Oracle, Netka System, XOVIS, Fortinet เป็นต้น ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประกอบกับ ประเทศไทยเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี ทำให้ธุรกิจอยู่ในเทรนด์การเติบโต

วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO ครั้งนี้ ประมาณ 1,404 ล้านบาท นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ เช่น โครงการเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคม ระบบโครงข่ายสื่อสัญญาณ(Transmission Networks) ระบบศูนย์ข้อมูลหลัก ศูนย์ข้อมูลสำรอง ระบบคลาวด์ Smart Solutions ระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัลและระบบตรวจสอบเฝ้าระวัง และการบริหารความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Security) รวมถึงงานบริการเพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่องเป็นต้นภายในปี 65-66

ด้านแผนขยายธุรกิจช่วงหลังจากนี้เมื่อบริษัทระดมทุนตามเป้าหมายแล้วก็จะสามารถเปิดโอกาสเข้าไปประมูลงานเป็นมูลค่าหลักหมื่นล้านบาทต่อปี เป็นส่วนสนับสนุนศักยภาพจากเดิมที่สามารถเข้าประมูลงาน 6-7 พันล้านบาทต่อปีเท่านั้น ประกอบกับยังช่วยเพิ่มศักยภาพทำกำไรที่ดีขึ้นในอนาคตอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17-20% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7-10% ต่อปี

ปัจจุบันโครงสร้างรายบริษัทมาจากงานโครงการมากกว่า 64% รายได้จากงานบริการและบำรุงรักษากว่า 35% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากงานจัดจำหน่าย

ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 64 มีรายได้รวม 1,835.38 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 20.06% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสัดส่วน 99.86% เป็นรายได้จากการขายและให้บริการ และ 0.14% เป็นรายได้อื่น มีกำไรสุทธิ 191.07 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.41%

สำหรับผลประกอบการช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (61-63) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,669.65 ล้านบาท 4,907.25 ล้านบาท และ 2,881.92 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 216.50 ล้านบาท 423.03 ล้านบาท และ 232.85 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.90% , 8.62% และ 8.09% ตามลำดับ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากการบริหารต้นทุนที่ดีทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ประกอบกับความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดีขึ้น

ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TKC คือ กลุ่มนายสยาม เตียวตรานนท์ สัดส่วนก่อน IPO 62.25% หลัง IPO 46.06% และบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) สัดส่วนก่อน IPO 34% หลัง IPO 25.16% สัดส่วนหุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 33,967,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 11.32% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
#9470
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกงฮั่งเส็งปิดเช้าลบ 250.61 จุด กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนมี.ค.

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้

ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ 24,179.16 จุด ลดลง 250.61 จุด หรือ -1.03%

เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด โดยนางเบรนาร์ดได้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยเฟดมีความพร้อมที่จะดำเนินการดังกล่าวทันทีที่โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ยุติลง

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของนางเบรนาร์ดถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.นี้

ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex เปิดลบ 194.98 จุด ตามทิศทางภูมิภาค

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียเปิดตลาดปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียซึ่งเปิดในแดนลบวันนี้ เช่นเดียวกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดีย เปิดตลาดวันนี้ที่ 61,040.32 จุด ลดลง 194.98 จุด หรือ -0.32%

หุ้น Asian Paints ปรับตัวลดลง 2.39% หุ้น HDFC ปรับตัวลดลง 2.34% และหุ้น HCL Tech ปรับตัวลดลง 1.93%
#9471
การสั่งซื้อสายงานคุณบัว
สั่งซื้อสินค้า ผ่านทางไลน์นี้เท่านั้น
https://line.me/ti/p/IC9lu7UckU
หรือ (ID Line: 0982703417)

ทักข้อความเพจ
http://m.me/mooyimyim.aroy.d/

Tel: คุณบัว  0982703417  , 0863622339
Line id:  bua_ja2530
#9472
***กราบขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน***
***ที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง***  

รับประกันขายดีหมดไว ขายง่าย คืนทุนเร็วเรท
ราคาส่ง
กำไรดี มีโปรสะสมทอง
ทดลองขายเพียง 25ห่อ650
สมัครตอนนี้ส่งฟรีตลอดชีพ
สำหรับแม่ทีม เปิด500ห่อ ฝากสต้อก ฝากส่งของได้
ขายอย่างเดียวไม่ต้องเหนื่อยแพค
ลดต้นทุนเป็นตัวแทนร้านเรามมีสินค้าให้เลือกมากมาย
คละได้
สินค้าทุกชิ้นคัดมาแล้วว่าอร่อยและขายได้จริง 

มี 4 รสชาติ รสออริจินอล สไปซี่ หมูมะนาว หม่าล่า

***รับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ***
***รับผลิตในแบลนด์คุณ*** 

รับชมวีดีโอ :
https://www.youtube.com/watch?v=jwYqCfuIlNU&t=2s
- ชุดทดลองขาย 650.- (25ซอง คละรสชาติ ส่งฟรี)
- ชุดเปิดบิลตัวแทน 1,250.- (50ซอง คละรสชาติ ส่งฟรี)  
Dropship
ส่งในนามได้ รับตัวแทนทั่วประเทศ 

การสั่งซื้อสายงานคุณบัวสั่งซื้อสินค้า ผ่านทางไลน์นี้เท่านั้น https://line.me/ti/p/IC9lu7UckU
หรือ (ID Line: 0982703417) 

ทักข้อความเพจhttp://m.me/mooyimyim.aroy.d/
Tel: คุณบัว  0982703417  , 0863622339
Line id:  bua_ja2530 

การทำแบลนด์สายงานคุณหยง
Tel: คุณเปิ้ล  0901979366
 https://www.facebook.com/mooyimyim.aroy.d/
หมูแผ่น,หมูแผ่นกรอบ,หมูแผ่นทอด,ขายส่งขนม,หมูแผ่นนครปฐม








 
#9473
สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด
#9474
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8
#9475
'อาเซียน' ถกเข้ม เดินหน้าผลักดันแผนงานด้านเศรษฐกิจให้สำเร็จภายในปีนี้

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (SEOM Retreat) เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ผลักดันประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์ 4 ด้าน ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ พร้อมเร่งเจรจาจัดทำ FTA อาเซียน-แคนาดา รอบแรกโดยเร็ว ตั้งเป้าสรุปผลภายใน 2 ปี และเตรียมจัดประชุมประเมินความพร้อมการเข้าร่วมความตกลงด้านเศรษฐกิจของติมอร์-เลสเต

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล) เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (SEOM Retreat) เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้รับทราบประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจที่กัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนเสนอให้อาเซียนร่วมกันดำเนินการให้สำเร็จในปี 2565 ภายใต้แนวคิด ?ASEAN A.C.T. : Addressing Challenges Together? จำนวน 17 ประเด็น ภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน ได้แก่ (1) การส่งเสริมความเชื่อมโยงทางดิจิทัล วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อาทิ การพัฒนาระบบนิเวศสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น (Startups) ด้านดิจิทัล (2) การลดช่องว่างการพัฒนาเพื่อความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน อาทิ การจัดทำแผนงานสำหรับกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) เพื่อให้สามารถดำเนินการเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน (3) การส่งเสริมการบูรณาการและความสามารถในการแข่งขันที่มากขึ้นของอาเซียน อาทิ การเริ่มเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน และ (4) การเป็นส่วนสำคัญของประชาคมโลกเพื่อการเติบโตและการพัฒนา อาทิ การสรุปการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และการมีผลใช้บังคับของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) กับประเทศผู้ลงนามทั้งหมด ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดช่องว่างการพัฒนา และทำให้เกิดความยั่งยืนของภูมิภาค

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้หารือแผนการทำงานของอาเซียนด้านเศรษฐกิจปี 2565 โดยเฉพาะการดำเนินการตามกรอบการฟื้นฟูที่ครอบคลุมของอาเซียน (ASEAN Comprehensive Recovery Framework) และแนวทางการปรับปรุงกระบวนการทำงานของอาเซียนในสาขาต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับทิศทาง และสถานการณ์ของภูมิภาคและของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะมาตรการสำคัญที่เสาเศรษฐกิจจะต้องดำเนินการในปี 2565 เช่น การขยายเอกสารที่แลกเปลี่ยนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน (ASEAN Single Window) การจัดทำแผนดำเนินงานในเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน และการจัดทำกรอบเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน เป็นต้น ซึ่งประเด็นและมาตรการดังกล่าวจะมีความสำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) ในปีนี้

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา โดยจะเร่งการเจรจารอบแรกให้เร็วที่สุดเพื่อให้ได้ข้อสรุปตามเป้าหมายที่วางไว้ภายใน 2 ปี และการเตรียมการสำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมอาเซียน-เกาหลีใต้ ที่จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมอุตสาหกรรม รวมถึงการนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ระหว่างอาเซียนและเกาหลีใต้ รวมถึงหารือประเด็นการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต โดยเบื้องต้นที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดประชุมเพื่อประเมินความพร้อมและแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสมในการเข้าร่วมความตกลงด้านเศรษฐกิจของติมอร์-เลสเต

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2564 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 100,709.52 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.91 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไปอาเซียนมูลค่า 58,935.59 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียนมูลค่า 41,773.93 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์

13 มกราคม 2565

ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
#9476
รมว.เกษตร ยันไม่ได้ปกปิดโรค ASF สั่งปศุสัตว์สรุปตัวเลข พร้อมเร่งช่วยเหลือเกษตรกร

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีตรวจพบเชื้อโรค African Swine Fever หรือ ASF ในสุกร (อหิวาต์แอฟริกาในสุกร) จากการเก็บตัวอย่างจากพื้นผิวสัมผัส (surface swab) ที่โรงฆ่าแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐมว่า กรณีนี้ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์รายงานข้อเท็จจริงการปฏิบัติงานโดยละเอียดตั้งแต่ปี 61 จนถึงปัจจุบัน และเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการมาตรการตามมาตรการป้องกันโรค ASF มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยสามารถปลอดเชื้อ ASF มานานกว่า 3 ปี ในขณะที่ประเทศอื่นพบว่ามีการระบาดหนัก

ทั้งนี้ ขอย้ำว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราป้องกันอย่างดีที่สุด เพราะหากไม่ดำเนินการป้องกันแต่แรก จะเกิดการระบาดทั้งประเทศมากกว่านี้ แต่เมื่อมีการตรวจพบเชื้อ ก็ได้เรียกประชุมด่วน และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยกรมปศุสัตว์จะแจ้งไปยังองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (World Organization for Animal Health หรือ Office International des Epizooties; OIE) ต่อไป

"ขอยืนยันอีกครั้งว่าเราไม่ได้ปกปิด เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ไม่ปิดบัง ไม่มีใครอยากให้พี่น้องประชาชนบริโภคหมูแพง ไม่อยากให้ผู้เลี้ยงหมูขาดทุน แต่เมื่อมีจุดที่บกพร่อง ต้องดำเนินการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะนี้กำลังให้กรมปศุสัตว์สรุปตัวเลข ข้อมูลเบื้องต้นได้รับรายงานว่าหมูหายไป 13% จึงมีมาตรการระยะสั้นห้ามส่งออกในช่วงเวลานี้ อีกทั้งมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีอธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุว่า ไม่เคยรับหนังสือรายงานการพบเชื้อ ASF เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏชัด" รมว.เกษตรฯ กล่าว
รมว.เกษตรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินที่ผ่านมานั้น ได้นำไปดำเนินการในเรื่องของเครื่องมือป้องกันและทำลายเชื้อโรค ย่าฆ่าเชื้อ รวมถึงเบี้ยเลี้ยงให้กับเจ้าหน้าที่ชุดตรวจแล้ว

สำหรับเงินชดเชยเยียวยาของสุกรที่อยู่ในข่ายที่มีความเสี่ยงของการติดโรค จะดำเนินการทำลายก่อนเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค โดยกระทรวงเกษตรฯ จะจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรรายเล็กและรายย่อย เนื่องจากเป็นการดูแลผู้เลี้ยงสุกรที่ต้นทุนน้อย และไม่มีความพร้อมในการดูแลฟาร์ม

อย่างไรก็ดี ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงสุกร ในการดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมโรคให้สงบได้โดยเร็ว
#9479
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.21 แข็งค่าจากช่วงเช้า-ธุรกรรมเบาบาง จับตายอดค้าปลีกสหรัฐฯคืนนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.21 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 33.24 บาท/ดอลลาร์ โดยดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเยนและยูโร ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.14 - 33.28 บาท/ดอลลาร์ แต่มีปริมาณธุรกรรมที่เบาบาง

"หลังเปิดตลาดบาททยอยแข็งค่าลงมาแตะที่ระดับ 33.14 แต่กลับมาอ่อนค่าในช่วงท้ายตลาด" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 33.15 - 33.35 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้จะมีการ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญคือ ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 0.1%

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.92 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 114.10 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1458 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1451 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,672.63 จุด ลดลง 7.39 จุด, -0.44% มูลค่าการซื้อขาย 90,986.73 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 827.96 ล้านบาท (SET+MAI)
นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า ธนาคารประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 65 ขยายตัว
3.3% แม้ว่าจะเผชิญกับความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเข้ามากดดัน โดยเฉพาะต่อภาคการท่องเที่ยว โดย
หากการแพร่ระบาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเปิดประเทศล่าช้าออกไป จะส่งผลให้ไทยต้องสูญเสียโอกาสช่วงไฮซีซั่นท่องเที่ยวตลอด
ทั้งไตรมาส 1/65 ซึ่งเป็นปัจจัยที่ธนาคารยังคงติดตาม เพราะจะมีผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงต่อไปด้วย
ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณาราย
ละเอียดการดำเนินโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 อาทิ จำนวนสิทธิที่จะเข้าร่วมโครงการ วันแรกที่จะเปิดรับลงทะเบียน ซึ่งเบื้องต้นคาด
ว่าจะสามารถเปิดรับลงทะเบียนได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และสำหรับวันเริ่มใช้สิทธิโครงการคาดว่าจะอยู่ช่วงปลายเดือน
กุมภาพันธ์ 2565
ไทยร่วมกับกลุ่ม Alliance for GSP Countries (A-GSPC) ซึ่งมีสมาชิก 27 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย
ฟิลิปปินส์ อาร์เจนตินา บราซิล คาซัคสถาน ศรีลังกา ยูเครน เป็นต้น ยื่นหนังสือขอให้รัฐสภาสหรัฐเร่งพิจารณาร่าง
กฎหมายการต่ออายุโครงการ GSP
เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน
การประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ เพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น
รายงานสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WESP) ประจำปี 2565 ของสหประชาชาติ (UN) คาดการณ์เศรษฐกิจ
โลกจะเติบโตเพียง 4% ในปี 65 และเติบโต 3.5% ในปี 66 หลังจากขยายตัว 5.5% ในปี 2564