• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Prichas

#12016
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

#12017


บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพเพื่อโลกที่ยั่งยืน ด้วยสมดุลของพอร์ตธุรกิจจากทั้งพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป (Thermal Power Business) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Business) ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อลงทุนในบริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC ผ่านบริษัทย่อย Temple Generation I, LLC หรือ "Temple I" ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ขนาด 768 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในรัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นประเทศที่ 7 ที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ มูลค่าการลงทุนรวม 430 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 14,147 ล้านบาท จากการทำสัญญาผ่านบริษัท BKV-BPP Power LLC ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 คิดเป็นเงินลงทุน 215 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 7,074 ล้านบาท ส่งผลให้บ้านปู เพาเวอร์ มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน 384 เมกะวัตต์ นับเป็นผลสำเร็จจากการดำเนินตามแผนกลยุทธ์ขยายการเติบโตสู่เป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 ด้วยการต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจภายในกลุ่มบ้านปู ซึ่งมีฐานธุรกิจผลิตพลังงานที่แข็งแกร่งอย่างแหล่งก๊าซธรรมชาติ บาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเทกซัส รวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter

นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การลงทุนของบ้านปู เพาเวอร์ ในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ "Temple I" ครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดระบบนิเวศ (Ecosystem) จากบริษัทแม่ที่ดำเนินธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่แล้วในสหรัฐฯ และสอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions : HELE) อยู่ในสถานะที่มีการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างกระแสเงินสดได้ทันที จุดเด่นของโรงไฟฟ้าแห่งนี้แบ่งได้เป็น 5 ข้อหลัก คือ 1.เป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยี Combined Cycle Gas Turbines หรือ CCGT ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ผสมผสานกระบวนการทำงานของ Gas Turbine (กังหันก๊าซ) กับ Steam Turbine (กังหันไอน้ำ) เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2.ตั้งอยู่ในรัฐเทกซัสซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง เนื่องจากมีจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงและเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 3.เป็นโรงไฟฟ้าที่จัดอยู่ในลำดับการเรียกจ่ายไฟฟ้า (Merit Order)[1] ที่ดี เหมาะกับสภาพการแข่งขันในตลาด Electric Reliability Council of Texas หรือ ERCOT ที่มีการซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรี 4.มีความพร้อมด้านการขนส่งและการจัดเก็บก๊าซ (Gas Storage) ซึ่งมีส่วนช่วยให้บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มความยืดหยุ่นในการเดินเครื่องเพื่อผลิตไฟฟ้าให้สอดรับกับรูปแบบความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ 5.มีสัญญาระยะยาว 30 ปี สำหรับการสำรองน้ำสำหรับกระบวนการผลิต ทำให้เกิดเสถียรภาพและเอื้อต่อกระบวนการผลิตในระยะยาว และมีระบบจัดการน้ำทิ้งที่ดี สามารถลดการปล่อยน้ำเสียจนเกือบเป็นศูนย์ (Near Zero Liquid Discharge Facility)"



"การลงทุนในครั้งนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม (Customary Closing Conditions) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในสัญญา และคาดว่า BPP จะรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/2564 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าอย่างยั่งยืนด้วยสัดส่วนที่สมดุลระหว่างพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียน โดยมองหาโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี HELE ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง" นายกิรณ กล่าวเพิ่มเติม

จากการลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ "Temple I" ส่งผลให้ในปัจจุบัน บ้านปู เพาเวอร์มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 3,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยภายในปี 2564 ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหวินเจา (Vinh Chau) ระยะที่ 1 ในเวียดนาม กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เคเซนนุมะ (Kesennuma) กำลังผลิต 20 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ชิราคาวะ (Shirakawa) กำลังผลิต 10 เมกะวัตต์
#12018

<img src="https://i.ibb.co/z8n48w8/750x422-954014-1628605077.jpg" alt="750x422-954014-1628605077" border="0">
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดตัว 10 สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอวกาศ จากโครงการ Space Economy: Lifting Off 2021 ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนและส่งเสริมให้สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการทำเทคโนโลยี ระบบ หรือบริการด้านกิจการอวกาศสามารถต่อยอดสู่ธุรกิจจริง และสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจอวกาศโลก โดยเตรียมผลักดันสตาร์ทอัพทั้ง 10 ราย ผ่านแนวทางการส่งเสริมอย่างหลากหลาย อาทิ การสนับสนุนงานด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้บริษัทสตาร์ทอัพสามารถนำงานวิจัยไปต่อยอดในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการ การเตรียมพร้อมรองรับเศรษฐกิจอวกาศด้วยการพัฒนาให้สตาร์ทอัพสามารถผลิตดาวเทียมได้เองและสร้างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอวกาศ เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ


รองรับการเติบโตอนาคต

พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า เอ็นไอเอ มีนโยบายในการสนับสนุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพที่สนใจทำธุรกิจนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจการอวกาศ หรือ Spacetech ผ่านโครงการ Space Economy: Lifting Off 2021 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับเศรษฐกิจอวกาศซึ่งปัจจุบันมูลค่าสูงกว่า 5 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ และในอนาคตอีกประมาณ 20 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่าสูงขึ้นจากปัจจุบันกว่า 1 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์หรือประมาณ 33 ล้านล้านบาท (ที่มา: สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA)

โดยโครงการดังกล่าวเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมอวกาศของประเทศไทย และพัฒนาบุคลากรของประเทศให้เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงผลักดันให้เกิดการนำประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศไปพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังเห็นว่าเศรษฐกิจอวกาศจะกลายเป็นอีกหนึ่งกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นเครื่องยนต์ในการกระตุ้น GDP ของไทยให้สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเพื่อให้เกิดการการส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้เชี่ยวชาญ ในการส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเศรษฐกิจอวกาศผ่านกลไกต่าง ๆ ดังนี้

1.สนับสนุนงานด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้สตาร์ทอัพสามารถนำไปต่อยอดในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการ

2.ส่งเสริมให้เกิดการผลิตและการใช้โครงสร้างพื้นฐานทางอวกาศ เช่น สถานีภาคพื้นดิน

3.เตรียมพร้อมรองรับการส่งจรวดและดาวเทียมด้วยการพัฒนาให้สตาร์ทอัพสามารถผลิตดาวเทียมได้เองเพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ

4.สนับสนุนการใช้งานด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบนำทาง โทรศัพท์สัญญาณดาวเทียม และบริการด้านอุตุนิยมวิทยา 

5.การสร้างองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์จากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอวกาศให้แก่สตาร์ทอัพของไทยที่สนใจเปลี่ยนมาทำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีอวกาศ

โดยสตาร์ทอัพทั้ง 10 ทีม ล้วนมีความน่าสนใจและมีศักยภาพที่จะต่อยอดไปสู่การสร้างมูลค่าเศรษฐกิจอวกาศในอนาคต ซึ่งประกอบด้วย "Space Composites" ผู้พัฒนาเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ชั้นสูงที่ใช้ออกแบบและผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์เพื่อการสำรวจอวกาศ "iEMTEK" สายอากาศและอุปกรณ์เชื่อมต่อสั่งงานสำหรับระบบสื่อสารบนดาวเทียมขนาดเล็ก "NBSPACE" ดาวเทียมขนาดเล็กเพื่อการศึกษาสภาพทางอวกาศ "Irissar" เรดาร์ อุปกรณ์ และระบบที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ "Halogen" .ลูนเพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศ

"Plus IT Solution" ระบบวิเคราะห์พื้นที่จากภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ และการใช้ประโยชน์อื่น ๆ "Krypton" นวัตกรรมโปรเจกต์คริปโตไนท์ ซึ่งเป็นวิวัฒนาการดาวเทียมในรูปแบบใหม่ "Spacedox" ระบบวิเคราะห์และแจ้งคุณภาพอากาศโดยใช้.ลูนลอยสูงผ่านเครือข่าย Lora และข้อมูลการตรวจวัดจากดาวเทียม "Emone" เทคโนโลยีควบคุมความเร็วการโคจรวัตถุในอวกาศเพื่อลดปริมาณขยะจากอวกาศ และ "Tripler Adhesive" สูตรกาวและสารยึดเกาะเพื่อใช้สำหรับอุปกรณ์หรือเครื่องมือทางอวกาศ


รุกอุตสาหกรรมอวกาศ

สตาร์ทอัพทั้ง 10 ทีมได้รับการอบรมบ่มเพาะจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมด้านอวกาศ เพื่อให้สามารถพัฒนาโครงการ และตอบโจทย์ความต้องการในภาคอุตสาหกรรมอวกาศได้อย่างตรงจุด รวมทั้งสามารถสร้างโมเดลธุรกิจที่เป็นรูปธรรมและต่อยอดได้จริงผ่านการทำงานกับหน่วยงานพันธมิตรที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมอวกาศในรูปแบบ co-creation

โดยตั้งเป้าหมายว่าปลายปีนี้จะช่วยให้สตาร์ทอัพเกิดความเข้าใจในธุรกิจด้านเศรษฐกิจอวกาศ สามารถสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการได้ตรงตามความต้องการของตลาด รวมถึงนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดเพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่มูลค่าเศรษฐกิจอวกาศของโลกในอนาคต

ด้าน กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวว่า โครงการ Space Economy: Lifting Off 2021 เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกับ Thai Space Consortium เพื่อผลักดันเศรษฐกิจอวกาศให้เกิดขึ้น ด้วยการพัฒนาผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีอวกาศให้มีบทบาทและสามารถเติบโตได้ในอุตสาหกรรมอวกาศ โดยได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเอ็นไอเอได้เฟ้นหาบริษัทสตาร์ทอัพที่มีความสนใจหรืออยู่ในธุรกิจอวกาศของประเทศไทย

เพื่อเข้ามาร่วมโครงการบ่มเพาะและพัฒนาในรูปแบบของการร่วมรังสรรค์ (co-creation) เพื่อปูทางไปสู่การสร้างเศรษฐกิจอวกาศให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยบริษัทสตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมอวกาศ จำนวนทั้งสิ้น 10 ทีม ซึ่งมีทั้งสตาร์ทอัพที่อยู่ในอุตสาหกรรมอวกาศอยู่แล้ว

และที่มีเทคโนโลยีเชิงลึก และพร้อมที่จะต่อยอดธุรกิจในอุตสาหกรรมอวกาศ อย่างไรก็ตามการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้ และหน่วยร่วมเห็นว่าบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจ และที่สำคัญสร้างสรรค์โดยคนไทย โดยบริษัทเหล่านี้มีโอกาสจะเติบโตในอุตสาหกรรมอวกาศได้ชัดเจน และสามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศ รวมถึงการเติบโตและพัฒนาไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ในอนาคต

"NBSPACE" ผู้ออกแบบและพัฒนาดาวเทียมดวงเล็กเพื่อใช้สื่อสารกับภาคพื้นดิน Thai-Made Space System หรือ ชิ้นส่วนระบบอวกาศที่ออกแบบและผลิตในประเทศไทย หนึ่งในสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอวกาศ จากโครงการ Space Economy: Lifting Off 2021 และได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จากการนำเสนอรูปแบบเทคโนโลยี นวัตกรรม และแผนธุรกิจ The best Startup in Space Economy: Lifting Off 2021

โดย NBSPACE ให้บริการออกแบบและสร้างดาวเทียมโดยมีแพลตฟอร์มดาวเทียมพร้อมให้บริการ รวมถึงสามารถออกแบบ payload ตามความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศในประเทศได้ ส่วนรายละเอียดหลักๆของเทคโนโลยีคือ ออกแบบและพัฒนาระบบสื่อสารบนดาวเทียม ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่สำคัญของดาวเทียมเพื่อใช้สื่อสารกับภาคพื้นดิน

ส่วนอันดับ 2 ได้แก่บริษัท "Irissar" เรดาร์อุปกรณ์และระบบที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ อันดับที่ 3 บริษัท "Plus IT Solution" ระบบวิเคราะห์พื้นที่จากภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ และการใช้ประโยชน์อื่นๆ

สำหรับรางวัล The Popular ได้แก่ "Halogen" .ลูนเพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศ โดยพัฒนา High altitude ballooning platform เพื่อใช้ส่ง payload ต่างๆขึ้นสู่ชั้น stratosphere ที่มีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับอวกาศจริง ด้วยแพลตฟอร์มนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถทำการทดลอง วิจัย พัฒนา หรือตรวจสอบประสิทธิภาพในการทำงานของดาวเทียมก่อนขึ้นสู่อวกาศได้ในราคาที่ถูกกว่าการใช้จรวดทำให้ทุกภาคส่วน อาทิ โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือบริษัทเอกชน ก็สามารถเข้าถึงนวัตกรรมอวกาศได้

เนื่องจากทีมงานมองเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคิดว่าเทคโนโลยีอวกาศเป็นเรื่องไกลตัว ปัญหาใหญ่ที่อุตสาหกรรมอวกาศในประเทศไทยกำลังเผชิญคือ ปัญหาการขาดแคลนกลุ่มลูกค้าและบุคลากร เพราะคิดว่าการทำอะไรที่เกี่ยวกับอวกาศจำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาลและผลที่ได้ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนไป

ส่วนรายละเอียดเทคโนโลยีหลัก คือ Automatic nozzle controlled decent ระบบควบคุมทิศทางการตกของ payload หลังจากที่.ลูนแตกออกให้ไปตกลงที่ที่สามารถเข้าไปเก็บกู้ได้ง่ายและไม่เป็นอันตรายต่อชุมชนหรือสิ่งมีชีวิตต่างๆในพื้นที่ใกล้เคียง แบบอัตโนมัติ โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยยกระดับความปลอดภัยของภารกิจขึ้นอย่างมาก

ภายในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอวกาศได้กลายมาเป็นจุดสนใจของนักลงทุนและผู้ประกอบการจำนวนมากโดยเฉพาะโซนยุโรป และอเมริกา ทำให้มีเงินและเทคโนโลยีจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ แต่ไทยกลับไม่มีการพูดถึงอุตสาหกรรมอวกาศ ด้วยสาเหตุผลที่ว่า 1.ราคาสูง มีเพียงภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ที่เข้าถึงได้ 2.การศึกษา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับด้านอวกาศมากนัก

ทางทีมจึงต้องการแก้ปัญหานี้จึงจะนำ High altitude ballooning platform มาทำให้อวกาศมีราคาถูกลง มีความเสี่ยงต่ำ สามารถเข้าถึงได้ด้วยคนจำนวนมากขึ้น

โดยที่ทางแพลตฟอร์มมีขั้นตอนบริหารจัดการ 3 ขั้นตอนคือ 1.ออกแบบและพัฒนา ทางทีมจะทำงานร่วมกับลูกค้าในการออกแบบทั้งภารกิจและ payload  2.การดำเนินการส่ง.ลูนขึ้นไปพร้อมกับ payload ที่ความสูงประมาณ 35 กิโลเมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศที่มีความใกล้เคียงกับชั้นอวกาศ 3.หลังจาก payload ตกลงมาที่พื้นจะมีการส่งทีมงานไปเก็บกู้กลับมาและนำมาพัฒนาต่อเพื่อทำการทดลองใหม่อีกครั้ง

ทั้งนี้แพลตฟอร์มจะเน้นให้ความรู้ คำแนะนำ ทำให้ลูกค้ามีความรู้สามารถออกแบบ payload ได้ตามต้องการ ทำให้แพลตฟอร์มของ Halogen เหมาะสมต่อการนำมาใช้ในการศึกษาตรงกลุ่มเป้าหมาย 1.Academics อาทิ โรงเรียน สถาบันวิจัย ฯลฯ 2.Non-Academics อาทิ หน่วยงานรัฐ เอกชน เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ

โดยไทม์ไลน์คือในช่วงปีแรกจะเน้นการวิจัยและพัฒนา High altitude ballooning platform เพื่อให้ทำงานไม่มีปัญหา ส่วนปีที่สองจะเปิดให้บริการการส่งการทดลองไปในชั้นบรรยากาศเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ภายในปี 5 ต้องการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการยิงจรวดขึ้นจาก.ลูน

ส่วนคู่แข่งไม่มีในเซกเมนต์นี้ในประเทศไทยยังไม่มี แต่ระดับโลกจะมีบ้างบางราย สำหรับรายได้จะมาจาก 1.Education การให้คำปรึกษา ความรู้ คำแนะนำ space engineering การออกแบบ payload ต่างๆ และค่าดำเนินการจะได้จากการส่งการทดลองต่างๆขึ้นไปในชั้นบรรยากาศด้วย.ลูนของบริษัท 2.Technology & Supply ที่จะมีการจำหน่ายเทคโนโลยีให้กับบริษัทและหน่วยงานที่ต้องการใช้

ขณะเดียวกันแผนดำเนินการทางการเงิน ในปีแรกตั้งใจจะใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับการวิจัยและพัฒนาแพลตฟอร์ม โดยเริ่มทำกำไรได้ในปีที่ 2 เป็นต้นไป และภายในระยะเวลา 5 ปี ตั้งเป้าที่จะได้กำไรอย่างต่ำ 5 ล้านบาท
#12020
 สีผึ้งว่านดอกทอง ฝังดอกว่านดอกทองและตะกรุดนะเมตตามหานิยม



พุทธคุณ เน้นเรื่อง เสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ก่อนว่าคาถาก็ให้นึกขอบารมีพระพุทธเจ้า และคุณครูบาอาจารย์

คาถากำกับ

โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ 

นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ

(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)

แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาป้าย แล้วทาที่ปาก

ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632497251.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfF8zGh5



#12021


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ส.ค. 2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ปิดทำนิวไฮ ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างงานในสหรัฐ โดยข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงหุ้นสายการบินและธุรกิจเรือสำราญ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,264.67 จุด เพิ่มขึ้น 162.82 จุด หรือ +0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,436.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ +0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,788.09 จุด ลดลง 72.09 จุด หรือ -0.49%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยบวกขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 472.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.64 จุด หรือ +0.35%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,820.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.03 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,770.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.30 จุด หรือ +0.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด หรือ +0.40%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคอังกฤษที่ปรับตัวดีขึ้น และการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด หรือ +0.40%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,731.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 12.3 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 23.392 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 16.1 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 987 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 47.90 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 2,650 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.81 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 68.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 70.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.12% แตะที่ 93.0569 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.57 เยน จากระดับ 110.28 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9228 ฟรังก์ จากระดับ 0.9200 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2526 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2572 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1721 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1741 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3839 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3852 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7349 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7335 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 35,264.67 จุด เพิ่มขึ้น 162.82 จุด, +0.46%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,436.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด, +0.10%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,788.09 จุด ลดลง 72.09 จุด, -0.49%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด, +0.40%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,820.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.03 จุด, +0.10%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,770.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.30 จุด, +0.16%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 54,554.66 จุด เพิ่มขึ้น 151.81 จุด, +0.28%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,088.41 จุด ลดลง 39.05 จุด, -0.64%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,623.23 จุด ลดลง 9.34 จุด, -0.14%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,207.36 จุด เพิ่มขึ้น 30.18 จุด, +0.95%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,605.62 จุด เพิ่มขึ้น 322.22 จุด, +1.23%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,529.93 จุด เพิ่มขึ้น 35.30 จุด, +1.01%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,323.64 จุด ลดลง 161.51 จุด, -0.92%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,243.19 จุด ลดลง 17.23 จุด, -0.53%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,888.15 จุด เพิ่มขึ้น 68.11 จุด, +0.24%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,562.60 จุด เพิ่มขึ้น 24.20 จุด, +0.32%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,830.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.10 จุด, +0.33%

ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวานนี้ (10 ส.ค.) เนื่องในวัน Awal Muharram (Maal Hijrah)
#12022
สำนักพรเทวะ (มหาสารคาม)

ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง ดูดวง รับสอนการพยากรณ์ด้วยไพ่ออราเคิล แก้อาถรรพ์ร่างกาย รับลงนะ ลงทอง สาริกาลิ้นทอง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รับทำเทียนสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา รับโชค แก้ชง เสริมดวงเสริมบารมีต่างๆ เรียกคู่ เรียกจิต สักน้ำมันว่านยา 108 ให้บูชาน้ำมันว่านสาวหลง น้ำมันว่านดอกทอง อื่น ๆ รับวิเคราะห์ชื่อ(ฟรี) รับตั้งชื่อ จำหน่ายเพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต ให้บูชาคัมภีร์พระเวทย์

สนใจติดต่อ
นายธีรพัชร์ วงศ์วรนิตย์ (อ.ทองเอก พรเทวะ)

โทร 0846623662

website :  http://goo.gl/Y5nYSO

Facebook: facebook.com/teerapat992018

Line : teerapat999

lazada : https://www.lazada.co.th/shop/porntaywa/?spm=a2o4m.pdp_revamp.delivery_options.1.6dbbfeeao328sS&itemId=1863368460&channelSource=pdp

shopee :   https://shopee.co.th/teerapat992018





#12024
บริษัท สบายใจการบัญชี  จำกัด
9/54  หมู่ที่ 8  ตำบลบางเลน  อำเภอบางใหญ่  จังหวัดนนทบุรี   11140
โทร & Line ID.087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีจังหวัดนนทบุรี , สำนักงานบัญชีบางกรวย , สำนักงานบัญชีบางกร่าง , สำนักงานบัญชีบางใหญ่ , สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง , สำนักงานบัญชีเลี่ยงเมือง , สำนักงานบัญชีพิมลราช , สำนักงานบัญชีบางคุรัด , สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา , สำนักงานบัญชีบางแม่นาง , สำนักงานบัญชีไทรม้า , สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ , สำนักงานบัญชีบางรักน้อย , สำนักงานบัญชีบางพลับ , สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี , สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี , สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม , สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์ , สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์ , สำนักงานบัญชีท่าอิฐ , สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน , สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์ , สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน , สำนักงานบัญชีถนนเรวดี , สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน , สำนักงานบัญชีถนน345
#12025
ขายดาวน์ 215,800 (เดือน กค 2564) ห้อง 1017
#12026
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

#12027


รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.วันนี้ (10 ส.ค.) เห็นชอบเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมการระบาดสูงสุด (สีแดงเข้ม) ที่ให้มีการล็อกดาวน์ 29 จังหวัดตามประกาศของ ศบค.ตามที่ คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานเสนอ โดยให้มีการช่วยเหลือแรงงานประกันสังคมในกลุ่มนี้รวมประมาณ 6.6 ล้านราย ได้รับการช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท 

แบ่งเป็นวงเงินสำหรับมาตรา 39 ใน 29 จังหวัด วงเงิน 7.18 พันล้านบาท และวงเงินสำหรับมาตรา 40 ใน 29 จังหวัดวงเงินรวม 2.62 หมื่นล้านบาท 


สำหรับคุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย


- เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีสัญชาติไทย

- มีสถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะ A (Active) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด) หรือ ณ วันที่3 สิงหาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 16 จังหวัด)

- เป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะรอชำระเงิน W (Wait) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564

- กรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39

- กรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องไม่เป็นข้าราชการหรือผู้รับบำนาญของกรมบัญชีกลาง

-  กรณีเป็นผู้ประกันตนในฐานทะเบียนประกันสังคม (สถานะ Active) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ต้องอยู่ใน 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา.สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา

- กรณีเป็นผู้ประกันตนในฐานทะเบียนประกันสังคม (สถานะ Active) ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ต้องอยู่ใน 16 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ นครราชสีมา  ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี

- กรณีเป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ที่มีสถานะ W (Wait) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ที่อยู่ระหว่างรอชำระเงินสมทบ ต้องอยู่ในพื้นที่ 29 จังหวัด โดยให้ชำระเงินสมทบภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เพื่อเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สมบูรณ์ตามกฎหมาย

ก่อหน้านี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับ กรุงเทพธุรกิจ ว่ากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ให้รายละเอียดแรงงาน และนายจ้างที่อยู่ในกลุ่มประกันสังคมมาตรา 39 และ 40 ใน 29 จังหวัดทั้งที่เป็นผู้ประกันตนเดิม และที่ลงทะเบียนใหม่ตามมติ ครม.ให้กับ สศช.เรียบร้อยแล้วเพื่อให้ได้กรอบและจำนวนที่แน่นอนเสนอให้ ครม.อนุมัติหลังจากก่อนหน้านี้อนุมัติในหลักการแล้ว 

ทั้งนี้แรงงานในกลุ่มนี้ทั้ง 29 จังหวัดที่เข้าเงื่อนไข รวมทั้งอาชีพอิสระจะได้เงินเยียวยาเป็นจำนวน 5,000 บาท โดยในส่วนของ 13 จังหวัดแรกที่มีการประกาศล็อกดาวน์มีผู้ประกันตนในมาตรา 39 ประมาณ 1 ล้านราย ส่วนในมาตรา 40 เดิมมีผู้ประกันตนประมาณ 1 ล้านราย และมีการลงทะเบียนเพิ่มเติมมา 3.1 ล้านราย รวมเป็น 4.1 ล้านราย 

สำหรับ 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 2. กาญจนบุรี 3. ชลบุรี 4. ฉะเชิงเทรา 5. ตาก 6. นครปฐม 7. นครนายก 8. นครราชสีมา 9. นราธิวาส 10.นนทบุรี 11.ปทุมธานี 12.ประจวบคีรีขันธ์ 13.ปราจีนบุรี 14.อยุธยา 15.เพชรบุรี 16.ปัตตานี 17.เพชรบูรณ์ 18.ยะลา 19.ระยอง 20.ราชบุรี 21.ลพบุรี 22.สงขลา 23.สิงห์บุรี 24.สมุทรปราการ 25.สมุทรสงคราม 26.สมุทรสาคร 27.สระบุรี 28.สุพรรณบุรี และ 29.อ่างทอง
#12028
บริษัท สบายใจการบัญชี  จำกัด
9/54  หมู่ที่ 8  ตำบลบางเลน  อำเภอบางใหญ่  จังหวัดนนทบุรี   11140
โทร & Line ID.087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีจังหวัดนนทบุรี , สำนักงานบัญชีบางกรวย , สำนักงานบัญชีบางกร่าง , สำนักงานบัญชีบางใหญ่ , สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง , สำนักงานบัญชีเลี่ยงเมือง , สำนักงานบัญชีพิมลราช , สำนักงานบัญชีบางคุรัด , สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา , สำนักงานบัญชีบางแม่นาง , สำนักงานบัญชีไทรม้า , สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ , สำนักงานบัญชีบางรักน้อย , สำนักงานบัญชีบางพลับ , สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี , สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี , สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม , สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์ , สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์ , สำนักงานบัญชีท่าอิฐ , สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน , สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์ , สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน , สำนักงานบัญชีถนนเรวดี , สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน , สำนักงานบัญชีถนน345
#12029
สำนักพรเทวะ (มหาสารคาม)

ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง ดูดวง รับสอนการพยากรณ์ด้วยไพ่ออราเคิล แก้อาถรรพ์ร่างกาย รับลงนะ ลงทอง สาริกาลิ้นทอง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รับทำเทียนสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา รับโชค แก้ชง เสริมดวงเสริมบารมีต่างๆ เรียกคู่ เรียกจิต สักน้ำมันว่านยา 108 ให้บูชาน้ำมันว่านสาวหลง น้ำมันว่านดอกทอง อื่น ๆ รับวิเคราะห์ชื่อ(ฟรี) รับตั้งชื่อ จำหน่ายเพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต ให้บูชาคัมภีร์พระเวทย์

สนใจติดต่อ
นายธีรพัชร์ วงศ์วรนิตย์ (อ.ทองเอก พรเทวะ)

โทร 0846623662

website :  http://goo.gl/Y5nYSO

Facebook: facebook.com/teerapat992018

Line : teerapat999

lazada : https://www.lazada.co.th/shop/porntaywa/?spm=a2o4m.pdp_revamp.delivery_options.1.6dbbfeeao328sS&itemId=1863368460&channelSource=pdp

shopee :   https://shopee.co.th/teerapat992018





#12030


หมู่บ้านของสาวน้อยมหัศจรรย์ 'ฉวน หงฉาน' แชมป์กระโดดน้ำเหรียญทองโอลิมปิกชาวจีนวัย 14 ปี ถูกปิดห้ามบุคคลภายนอกเข้าเป็นการชั่วคราว หลังมีนักท่องเที่ยวและชาวเน็ตแห่กันไปเช็กอินแน่นขนัด จนเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19

หนังสือพิมพ์โกล.ไทม์สของจีนรายงานว่า มาตรการปิดหมู่บ้านมีขึ้นหลังจากที่มีชาวจีนจากทั่วทุกสารทิศแห่แหนไปเยี่ยมเยียนบ้านของ ฉวน จนเกิดความแออัด ซึ่งขัดต่อมาตรการควบคุมโรคในช่วงนี้

รายงานยังระบุด้วยว่า ชาวเน็ตบางคนถึงขั้นปีนต้นไม้ในบ้านของ ฉวน และขโมย "ขนุน" ไปเป็นของที่ระลึก ขณะที่ชาวบ้านอีกคนเล่าว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไลฟ์สดที่หมู่บ้านไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นเวลาดึกดื่นเที่ยงคืน หรือแม้แต่ตอนฝนตก

แฟนคลับยังขนเอาขนมนมเนย เครื่องเล่นเกม และหยูกยาสารพัดเอาไปให้ที่บ้านของ ฉวน หลังจากที่ทราบข่าวว่า สาวน้อยคนนี้ตั้งใจคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกระโดดน้ำที่ "โตเกียวเกมส์" เพื่อนำเงินไปรักษาแม่ที่กำลังป่วย

ด้วยวัยเพียง 14 ปี ฉวน ถือเป็นนักกีฬาทีมชาติอายุน้อยที่สุดของจีนในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ แต่เธอกลับทำผลงานได้อย่างสุดยอด โดยเฉพาะจากการแข่งขันกระโดดน้ำ 10 เมตรหญิงรอบสุดท้ายด้วยการทำคะแนน perfect tens (10/10/10) ถึง 2 รอบจากการกระโดด 5 ครั้ง ทำคะแนนรวม 466.20

หลังจากที่คว้าเหรียญทองได้สมความตั้งใจ ฉวน ให้สัมภาษณ์ว่าเธอ "อยากหาเงินให้ได้มากๆ" เพื่อเอาไปรักษาแม่ที่กำลังป่วย และอยากจะไปเที่ยวสวนสนุกซึ่งเธอเองไม่เคยมีโอกาสได้ไป เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน

โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองจานเจียง (Zhanjiang) มณฑลกว่างตง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ฉวน ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ส.ค.) ว่าจะมอบการรักษาพยาบาลฟรีให้แก่แม่ของ ฉวน รวมถึงคุณตาของเธอที่กำลังป่วยอยู่เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบอกว่า พวกเขาภาคภูมิใจในผลงานของ ฉวน ที่โอลิมปิก และเต็มใจจะช่วยเหลือครอบครัวของเธอ

บริษัท 3 แห่งในเมืองจานเจียงเสนอที่จะสร้างบ้านใหม่ให้ ฉวน เปิดร้านขายอาหารและขนมขบเคี้ยว (tuck shop) รวมถึงมอบเงินอัดฉีดพิเศษให้ด้วย ขณะที่นักธุรกิจท้องถิ่นคนหนึ่งเสนอมอบเงิน 200,000 หยวนให้แก่บิดาของ ฉวน ทว่าเขาได้ปฏิเสธไป

สวนสนุก สวนสัตว์ และรีสอร์ตหลายแห่งในจีนยังประกาศจะมอบแพกเกจ "เที่ยวฟรีตลอดชีวิต" ให้แก่ ฉวน และครอบครัวด้วย

ที่มา : Malay Mail, Global Times