• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#10984

ควันหลงหลังจากที่ทัพ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี บุกไปเอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 2-0 ในศึกไทยลีก 2021-22 นัดที่ 6 ที่สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงของตาราง มีเพิ่มเป็น 11 แต้ม จาก 6 นัด ตามหลังจ่าฝูงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียง 2 คะแนนเท่านั้น

    ล่าสุด "โค้ชโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือใหญ่ของทีม ได้ออกมาเปิดเผยหลังจบเกมนี้ว่า "ก็ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ที่คิดกันไว้ แต่ก็ไม่ง่ายเลยในการมาเยือนเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ซึ่งตอนนี้ไทยลีกไม่ใช่เฉพาะเชียงใหม่ แต่มีหลาย ๆ ทีมที่มาตรฐานค่อนข้างสูงขึ้นและใกล้เคียงกัน มีผลออกได้ 3 หน้าหมดเลย ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้เกมในไทยลีกสนุกขึ้น"

    "อย่างไรก็ตามเกมในครึ่งแรกของเราก็ทำได้ดี แต่ว่าเราไปเร่งกันนิดนึงในช่วงแรก ทำให้เริ่มเกิดข้อผิดพลาดอีก แต่ในครึ่งหลังพอได้คุยกันก็ทำได้ทำเป้า ถือว่าพอจบเกมพอสกอร์ออกมา 2-0 ทำให้เรารีแลกซ์ขึ้นที่ทำได้ตามเป้า ก็ต้องขอบคุณน้อง ๆ เพราะรู้ว่าแมตช์มันเริ่มถี่ขึ้นแล้ว และเริ่มเหนื่อยขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราเจอแต่ละเกมค่อนข้างหนัก เหลือ 10 คนบ้าง ครึ่งหลังเล่นไม่ดีโดนพับสนามบุกบ้าง แต่เกมนี้ค่อนข้างโล่งใจที่เกมนี้เราสามารถชนะได้" เฮดโค้ชวัย 51 ปีกล่าวปิดท้าย


    สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของการท่าเรือ เอฟซี จะกลับไปเล่นในบ้านทำศึกบิ๊กแมตช์ รับการทาเยือน "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 10 ต.ค.64 ที่สนามแพท สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง AIS Play
#10985
เป็ป กวาร์ดิโอล่า - เจอร์เก้น คล็อปป์ หลีกทางให้หน่อย น้องต้ามาแล้ว! มิเกล อาร์เตต้า ผงาดซิวรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก เดือนที่แล้ว หลังพา อาร์เซน่อล เก็บชัยได้ทั้ง 3 นัด

    มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล คว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำเดือนกันยายน จากการประกาศผลโหวตอย่างเป็นทางการ เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา

    อาร์เตต้า วัย 39 ปี ได้รางวัลนี้เป็นครั้งแรก หลังนำ "ปืนใหญ่" ชนะทั้ง 3 เกมลีกในเดือนที่แล้ว (ชนะ นอริช ซิตี้, เบิร์นลี่ย์ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) จากที่ก่อนหน้านั้นแพ้มา 3 นัดติดในเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา



   จากผลงานที่ยอดเยี่ยมทำให้กุนซือชาวสแปนิช ได้คะแนนโหวตเอาชนะทั้ง เป็ป กวาร์ดิโอล่า (แมนฯ ซิตี้), เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล), เกรแฮม พ็อตเตอร์ (ไบรท์ตัน) และ ดีน สมิธ (แอสตัน วิลล่า) 

รายชื่อผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021/22

สิงหาคม - นูโน่ เอสปิริโต ซานโต (สเปอร์ส)
กันยายน - มิเกล อาร์เตต้า (อาร์เซน่อล) 
#10986
ข้อต่อท่ออ่อนสแตนเลส
ท่อรับการสั่น
ท่อรับการสะเทือน
ข้ออ่อนกันสะเทือน
#10988
ThaiBMA เผยมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ไทยอยู่ที่ 14.9 ล้านล้านบาท เอกชนแห่ออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้น 54% ส่วน 9 เดือนปี 64 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 66,000 ล้านบาท ด้านตลท.เปิดหุ้นไทยจากต้นปี ปรับเพิ่มขึ้น 10.8% และต่างชาติขายสุทธิ 79,000 ล้านบาท

นางสาวอริยา ดิรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่าตลาดตราสารหนี้ไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องแม้ว่าจะยังมีการระบาดของไวรัสโดวิด-19 โดยมีมูลค่าคงค้างอยู่ที่ 14.9 ล้านล้านบาท มีมูลค่าการออกหุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาว ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น54% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว มียอดการออกรวมที่ 817.,556 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจที่เสนอขายสูงสุด5 กลุ่มแรก ได้แก่ Energy 20.6%, PROP 15.1%, FIN 13.6%, Commerce 12.8% และ FOOD 11.8% ทั้งนี้ ผู้จัดจำหน่ายใช้ช่องทางติดต่อเสนอขายตราสารหนี้ผ่านออนไลน์และ Mobile appication มากขึ้นซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนแม้จะมีมาตรการล็อกดาวน์

 

อย่างไรก็ตาม กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ ( Fund flow) ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3 ของปี2564 นักลงทุนยังคงซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทยกว่า 37,579 ล้านบาท แต่กลับมาขายสุทธิค่อนข้างมากในเดือนกันยายน โดยนักลงทุนต่างชาติยังมียอดการซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ตันปีประมาณ 66,000 ล้านบาททำให้ยอดการถือครองตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 915,918 ล้านบาท คิดเป็น 6% ของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ไทย ซึ่ง 90% เป็นการถือครองในตราสารหนี้ระยะยาว และมีอายุเฉลี่ยของพันธบัตรที่ถือดรองเท่ากับ 9.4 ปี


"ตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ Bond yield จะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางในตลาดโลก แต่ส่วนชดเชยความเสี่ยง (Credit spread) ของหุ้นกู้ที่ปรับลดลง ประกอบกับสภาพคล่องในระบบ ทำให้ต้นทุนของผู้ออกตราสารหนี้ภาคเอกชนไม่ได้เพิ่มขึ้นจากช่วงตันปี ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการออกหุ้นกู้ ดังนั้น การออกหุ้นกู้ระยะยาวของปีนี้จะไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ส่วนทิศทาง Bond yield ระยะยาวในรุ่น 10 ปีของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่าจะปรับขึ้นได้อีกไม่มากนัก เนื่องจากตลาดได้ปรับตัวล่วงหน้าสะท้อนปัจจัยหลักต่างๆ ไปแล้ว โดยอาจแกว่งตัวได้ตามตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะมีการทยอยประกาศออกมา"

 

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,605.68 จุด ลดลง 2.0% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า แต่ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ปรับเพิ่มขึ้น 10.8% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่าดัชนีหุ้นไทยเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มบริการ

สำหรับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 100,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.5% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยใน 9 เดือนแรกปี 2564 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,463 ล้านบาทด้านนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนที่สองต่อเนื่องกันในปี 2564 ซึ่งในเดือนกันยายน 2564 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 10,803 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 79,172 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 105,753 ล้านบาท
#10989

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้(7 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 34,754.94 จุด เพิ่มขึ้น 337.95 จุด ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,754.94 จุด เพิ่มขึ้น 337.95 จุด หรือ +0.98% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,399.76 จุด เพิ่มขึ้น 36.21 จุด หรือ +0.83% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,654.02 จุด เพิ่มขึ้น 152.10 จุด หรือ +1.05%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตประกาศว่า แกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐจนถึงต้นเดือนธ.ค. ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนนี้


แม้ว่านายชูเมอร์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าข้อตกลงดังกล่าวมีการระบุวงเงินเพดานหนี้หรือไม่ หรือระบุแต่เพียงการขยายเวลาออกไป แต่ผู้ช่วยวุฒิสมาชิกรายหนึ่งเปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐอีก 4.80 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 28.9 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 28.4 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐลดลง 38,000 ราย สู่ระดับ 326,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย

 หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) พุ่งขึ้น 1.5% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ปรับตัวขึ้น 1.68% หุ้น LVMH เจ้าของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง เพิ่มขึ้น 2.1% หุ้นไนกี้ เพิ่มขึ้น 2.05% 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นแอมะซอน เพิ่มขึ้น 1.24% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 1.21% หุ้นแอปเปิล บวก 0.91% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.59% หุ้น Nvidia ขึ้น 1.81% หุ้นเทสลา ขึ้น 1.39%

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจเช่นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นโบอิ้ง ปรับตัวขึ้น 0.65% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) บวก 1.13% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.03% หุ้นวอลมาร์ท เพิ่มขึ้น 1.18% หุ้นโฮมดีโปท์ เพิ่มขึ้น 2.16% หุ้นทาร์เก็ต เพิ่มขึ้น 1.32%

หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค เพิ่มขึ้น 1.59% ขานรับข่าวนานาประเทศสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) จากเมอร์ค 

นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของ FactSet คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าในเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง
#10990
อย่าเพิ่งยิงแอด ถ้ายังไม่เรียน คอร์สออนไลน์ 98 บาท
#10991
การยาสูบฯ แจงบุหรี่ขาดตลาด เหตุเครื่องจักรเสีย สายพานชำรุด คาดใช้เวลาซ่อม 1 สัปดาห์ เตรียมกลับมาขายใหม่พร้อมปรับขึ้นราคา ด้านสรรพสามิตส่งทีมตรวจร้านค้าส่ง หลังพบกักตุนไม่ส่งบุหรี่ให้ร้านค้าปลีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยาสูบแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า การยาสูบฯ ได้หยุดส่งบุหรี่ให้กับร้านค้าส่งตั้งแต่ 1 ต.ค.64 ที่ผ่านมา เนื่องจากระบบสายพานของเครื่องจักรชำรุด ประกอบกับเปิดให้พนักงานลาพักร้อน ทำให้ไม่สามารถผลิตบุหรี่ออกมาจำหน่ายและต้องหยุดส่งชั่วคราว และคาดว่าหลังจากนี้จะใช้เวลาซ่อมแซมเครื่องจักรอีกประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะกลับมาผลิต และจำหน่ายบุหรี่ได้อีกครั้งช่วง 15-16 ต.ค.นี้ พร้อมกับปรับขึ้นราคาแนะนำขายปลีกใหม่ด้วย

 

"ที่ผ่านมาการยาสูบฯ ได้จัดส่งบุหรี่ให้กับร้านค้าส่งเป็นปกติจนถึง 30 ก.ย.นี้ ซึ่งบุหรี่ทั้งหมดยังเป็นของราคาเก่าอยู่ ดังนั้นควรจะขายปลีกในราคาเดิม แต่หากเครื่องจักรซ่อมเสร็จและกลับมาผลิตได้ ก็จะเป็นบุหรี่ลอตใหม่และเสียภาษีในอัตราใหม่ ซึ่งราคาจะสูงขึ้นแน่ แต่จะแพงขึ้นซองเท่าไรยังไม่ทราบ ต้องรอการพิจารณาการแข่งขันด้านการตลาดก่อน แต่ราคาต้องขึ้นแน่นอนตามภาษีบุหรี่ใหม่ที่ปรับเพิ่มขึ้น"


ขณะที่นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ลงพื้นที่สำรวจตลาดบุหรี่ และสอบถามผู้ค้าส่งที่รับซื้อบุหรี่มาจากผู้ผลิตและผู้นำเข้าบุหรี่ เพื่อหาสาเหตุที่ไม่จัดส่งบุหรี่ให้ร้านค้าปลีก ส่งผลให้บุหรี่ขาดตลาดในช่วงนี้  ขณะเดียวกันจะประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมตรวจสอบกรณีการกักตุนสินค้าบุหรี่อีกทางหนึ่งด้วย

 

ส่วนบุหรี่ราคาใหม่ ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตนั้น ขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตและผู้นำเข้ารายใด แจ้งมายังกรมสรรพสามิต เพื่อคำนวณต้นทุนและอัตราภาษีใหม่ โดยการยาสูบแห่งประเทศไทย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการคำนวณและราคาขายปลีกใหม่  ส่วนบุหรี่นำเข้า ขณะนี้แจ้งการนำเข้ามาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะส่งผลให้กรมสรรพสามิต พิจารณาต้นทุนเร็วๆนี้  เพื่อจะได้จำหน่ายในราคาขายปลีกใหม่ ตามโครงสร้างภาษีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. นี้เป็นต้นไป

สำหรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ได้ประกาศปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมากำหนดให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้า ให้เสียภาษีทั้งปริมาณและมูลค่า โดยให้บุหรี่ที่มีรายขายปลีกแนะนำไม่เกินซองละ 72 บาท จะเสียภาษีมูลค่าในอัตรา 25% และปริมาณ 1.25 บาทต่อมวน ส่วนบุหรี่ราคาแนะนำซองละเกินกว่า 72 บาทขึ้นไป จะเสียภาษีมูลค่าในอัตรา 42% และตามปริมาณ 1.25 บาทต่อมวน ซึ่งมีผลทำให้ราคาขายปลีกปรับเพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายได้แจ้งราคามายังสรรพสามิต  ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าราคาขายปลีกจะปรับขึ้นเท่านั้น ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ อาจปรับขึ้นไม่เท่ากันตามกลยุทธ์การแข่งขันในตลาดบุหรี่
#10992
อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทมีโอกาสที่จะเริ่มกลับมาแข็งค่ามากขึ้น หากตลาดการเงินเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น และ เงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงหลังตลาดรับรู้รายงาน NFP เป็นไปตามที่ตลาดประเมิน

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.80 บาทต่อดอลลาร์ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า


นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทโดยรวมจะยังคงผันผวนตามเงินดอลลาร์เป็นหลัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดก็อาจรอดูข้อมูล NFP ก่อน อย่างไรก็ดี เงินบาทมีโอกาสที่จะเริ่มกลับมาแข็งค่ามากขึ้น หากตลาดการเงินเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น และ เงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงหลังตลาดรับรู้รายงาน NFP เป็นไปตามที่ตลาดประเมิน

 

นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยสุทธิมากขึ้น ตามแนวโน้มการเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินโลก ขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกทยอยเข้ามาขายเงินดอลลาร์มากขึ้น ในช่วงใกล้ระดับ 33.85 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ แนวต้านของเงินบาทอาจขยับลงมาอยู่ในโซน 33.85-33.90 บาทต่อดอลลาร์ และแนวต้านสำคัญยังคงเป็นโซน 34 บาทต่อดอลลาร์

 

ทั้งนี้ เรายังไม่ได้มองว่า เงินบาทจะกลับไปแข็งค่าหนัก เพราะปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้ฟื้นตัวดีมากนักและโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ยังคงมีอยู่ ซึ่งเรามองว่าแนวรับของเงินบาทหากมีการแข็งค่าจะอยู่ในช่วง 33.60 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อาจเห็นผู้นำเข้าบางส่วน เข้ามาทยอยซื้อเงินดอลลาร์มากขึ้น (Buy on Dip)

 

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.75-33.90 บาท/ดอลลาร์  

 

 


ตลาดการเงินโดยรวมเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่อง หลังจากผู้เล่นในตลาดเริ่มคลายความกังวลปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ล่าสุด วุฒิสภาสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ สู่ระดับราว 29 ล้านล้านดอลลาร์ ไปจนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม ลดความเสี่ยงที่สหรัฐฯ อาจผิดนัดชำระหนี้ได้ในระยะสั้น นอกจากนี้ sentiment ในการตลาดเงินยังได้แรงหนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ที่ลดลงสู่ระดับ 3.26 แสนราย ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สะท้อนว่า โมเมนตัมการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของผู้เล่นในตลาด ได้ช่วยให้ ตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐฯ รีบาวด์กลับขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวกได้ โดย ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq +1.05% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.83%

 

ส่วนทางด้านตลาดยุโรป ดัชนี STOXX50 ก็ปรับตัวขึ้นกว่า +2.14% หลังผู้เล่นในตลาดคลายความกังวลวิกฤติพลังงานในฝั่งยุโป จากท่าทีของรัสเซียที่พร้อมจะช่วยสนับสนุนด้านพลังงานและทำให้ราคาแก๊สธรรมชาติทยอยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตลาดหุ้นในฝั่งยุโรป ได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่ม Cyclical อาทิ กลุ่มยานยนต์ Daimler +4.3%, Volkswagen +2.6%, กลุ่ม Tech ASML +3.5%, Adyen +2.0% รวมถึง กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย Kering +3.2%, Louis Vuitton +2.1% 

 

ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นราว 5bps สู่ระดับ 1.58% ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดและสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มมั่นใจว่า เฟดจะสามารถปรับลดคิวอีได้ในการประชุมเดือนพฤศจิการยน ทั้งนี้ เรามองว่า การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ น่าจะ priced-in รายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls: NFP) ในวันนี้ ที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 4 แสนตำแหน่ง ไปมากแล้ว ทำให้ NFP อาจไม่ได้มีผลต่อทิศทางบอนด์ยีลด์ 10ปี มากนัก ซึ่งเรามองว่า ปัจจัยที่จะช่วยให้บอนด์ยีลด์ขยับขึ้นต่อเนื่อง อาจเป็นมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อทิศทางเงินเฟ้อ (Inflation Expectation) รวมถึง บรรยากาศของตลาดการเงินโดยรวม ว่าจะกลับมาเปิดรับความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องหรือไม่

 

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอคอยการรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (NFP) ในวันนี้ ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนสถานะถือครองเงินดอลลาร์ โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ยังคงแกว่งตัวใกล้สู่ระดับ 94.20 จุด ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนของเงินดอลลาร์ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ข้อมูล NFP ซึ่ง เราคงมองว่า เงินดอลลาร์อาจปรับตัวอ่อนค่าลงได้ หาก NFP เพิ่มขึ้นตามคาด เนื่องจากตลาดได้ priced-in การลดคิวอีของเฟดไปมากแล้วและข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นก็อาจช่วยหนุนให้ตลาดกล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ลดความน่าสนใจของเงินดอลลาร์ลง

 

สำหรับวันนี้ เรามองว่า ตลาดจะจับตาไฮไลท์สำคัญ คือ แนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน เพราะหากตลาดแรงงานฟื้นตัวกลับสู่ช่วงก่อนเกิดวิกฤติ COVID-19 เฟดก็จะมีความมั่นใจในการทยอยลดคิวอีมากขึ้น ซึ่ง ตลาดประเมินว่า ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls: NFP) เดือนกันยายน อาจเพิ่มขึ้นกว่า 4.7 แสนราย แต่ถ้าหาก NFP ออกมาต่ำกว่า 2.4 แสนราย อาจส่งผลให้ เฟดยังไม่มั่นใจแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและอาจทำให้ การทยอยลดคิวอีจะเลื่อนไปจากเดือนพฤศจิกายน ที่ผู้เล่นในตลาดได้ priced-in การลดคิวอีในเดือนดังกล่าว

 

ส่วนในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะจับความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินจีนที่เริ่มกลับมาซื้อ-ขาย หลังจากช่วงหยุดยาว ทำให้ราคาสินทรัพย์ในฝั่งจีนอาจผันผวน ตามสถานการณ์ความเสี่ยงปัญหาหนี้ของ Evergrande รวมถึงบริษัทอสังหาฯ อื่นๆ ขณะเดียวกัน ตลาดก็อาจยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้มการคุมเข้มภาคธุรกิจของจีน โดยเฉพาะในกลุ่มเทคฯ อยู่บ้าง นอกจากนี้ ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.00% เช่นกัน เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็เริ่มลดลง หลังอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเริ่มกลับสู่กรอบ 2-6% ของ RBI

 

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า  เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (กรอบการเคลื่อนไหวหลังเปิดตลาดอยู่ระหว่าง 33.79-33.86 บาทต่อดอลลาร์) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ 

โดยเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลง หลังจากเงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงมากกว่าที่คาด และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น โดยบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1.59% แล้วในช่วงเช้านี้ ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐฯ รับรองร่างข้อตกลงยกเพดานหนี้สหรัฐฯ ขึ้น 4.8 แสนล้านดอลลาร์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และส่งต่อให้สภาล่าง และปธน. โจไบเดน รับรอง ตามลำดับ

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ คาดไว้ที่ 33.75-33.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ ทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และเครื่องชี้ตลาดแรงงานอื่นๆ ในเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ 
#10993
บริษัท สบายใจการบัญชี  จำกัด
9/54  หมู่ที่ 8  ตำบลบางเลน  อำเภอบางใหญ่  จังหวัดนนทบุรี   11140
โทร & Line ID.087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

รับทำบัญชีนนทบุรี  รับทำบัญชีบางกรวย  รับทำบัญชีบางใหญ่  รับทำบัญชีบางบัวทอง  รับทำบัญชีไทรน้อย  รับทำบัญชีปากเกร็ด  รับทำบัญชีบางศรีเมือง  รับทำบัญชีพิมลราช  รับทำบัญชีบางคูรัด  รับทำบัญชีบางรักพัฒนา  รับทำบัญชีบางแม่นาง  รับทำบัญชีบางกร่าง  รับทำบัญชีไทรม้า  รับทำบัญชีตลาดขวัญ  รับทำบัญชีบางตะไนย์  รับทำบัญชีบางพลับ  รับทำบัญชีบางรักน้อย  รับทำบัญชีมหาสวัสดิ์  รับทำบัญชีศาลากลางนนทบุรี  รับทำบัญชีอ้อมเกร็ด  รับทำบัญชีแจ้งวัฒนะ  รับทำบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  รับทำบัญชีถนนชัยพฤกษ์  รับทำบัญชีถนนติวานนท์  รับทำบัญชีถนนทวีวัฒนา  รับทำบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  รับทำบัญชีท่าอิฐ  รับทำบัญชีถนนนครอินทร์  รับทำบัญชีบางม่วง  รับทำบัญชีบางกรวย-จงถนอม  รับทำบัญชีถนนบางไกรใน  รับทำบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  รับทำบัญชีบางคูเวียง  รับทำบัญชีบางศรีเมือง  รับทำบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  รับทำบัญชีไทรม้า  รับทำบัญชีถนนพิบูลสงคราม  รับทำบัญชีถนนราชพฤกษ์  รับทำบัญชีตลิ่งชัน  รับทำบัญชีถนนเรวดี  รับทำบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี  รับทำบัญชีธุรกิจนำเข้าส่งออก  รับทำบัญชีธุรกิจซื้อมาขายไป  รับทำบัญชีธุรกิจผลิต  รับทำบัญชีธุรกิจขายสินค้าออนไลน์  รับทำบัญชีขายผ่านShoppee  รับทำบัญชีขายLazada  รับทำบัญชีบริษัทจำกัด  รับทำบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด  รับทำบัญชีและยื่นภาษี  สำนักงานบัญชี  รับงานบัญชี
#10994
ติดต่อสอบถาม โทร 0846623662

ไลน์ไอดี  teerapat999

สนใจสั่งซื้อได้ที่   https://bit.ly/3to47cx

#10995
www.facebook.com/aircoolresin
น้ำยาดับกลิ่นเรซิ่น เรซิ่น กำจัดกลิ่น เรซิ่นไร้กลิ่น