• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#10981


สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารออมสิน "กู้ปีนี้ ผ่อนปีหน้า" ปลอดเงินต้น-ดอกเบี้ยนาน 6- 9 เดือน เช็คเลยเกณฑ์เงื่อนไขการขอกู้ถูกกฎหมายเชื่อถือได้

18 ก.ย.64 ธนาคารออมสิน ออกแคมเปญสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน "กู้ปีนี้ ผ่อนปีหน้า"ปลอดเงินต้นและดอกเบี้ยนานสูงสุด 9 เดือน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนบ้านและหนี้ให้กับผู้กู้ที่ต้องแบกรับอัตราดอกเบี้ยที่สูง ในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อรายได้ 

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารออมสิน มีให้เลือก 2 แบบ เงื่อนไขดอกเบี้ย ดังนี้

1.แบบปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% นาน 9 เดือน 

เดือนที่ 10-12 ผ่อนล้านละ 2,000 บาท ( เฉลี่ยดอกเบี้ย 1.80%ต่อปี )
ปีที่ 2  ดอกเบี้ย 3.525% ต่อปี
ปีที่ 3  ดอกเบี้ย MRR- 2.72% เท่ากับ 3.525%ต่อปี ( ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.50%ต่อปี )
ปีที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR-1.25% เท่ากับ 4.995% ต่อปี 
ฟรีค่าธรรมเนียมบริการสินเชื่อและจัดทำนิติกรรมสัญ
หมายเหตุ : อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 29 ต.ค.64

2.แบบปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน  

เดือนที่ 7-12 ผ่อนล้านละ 1,500 บาท (ดอกเบี้ย 1% ต่อปี)
ปีที่ 2 - ปีที่ 3 ดอกเบี้ย 3.525% ต่อปี  (ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.50% ต่อปี)
ปีที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR-1.25% เท่ากับ 4.995% ต่อปี 
ฟรีค่าธรรมเนียมบริการสินเชื่อและจัดทำนิติกรรมสัญญา
หมายเหตุ : อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธ.ค.64

 : อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ของธนาคารออมสิน ปัจจุบันอยู่ที่ 6.245% 
 

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธ.ออมสิน ปลอดต้น-ดอกเบี้ย 9 เดือน เช็คเงื่อนไขขอกู้
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธ.ออมสิน ปลอดต้น-ดอกเบี้ย 9 เดือน เช็คเงื่อนไขขอกู้


ทั้งนี้ลูกค้าที่รีไฟแนนซ์บ้าน กับธนาคารออมสิน ยังได้สิทธิในการกู้เพิ่มเติม"เพื่ออุปโภคบริโภค" รวมวงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท มีทั้งเงินกู้ระยะยาว (LT) ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก จากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 3.90% ต่อปี และวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (OD) อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.75% หลังจากนั้นคิด MOR+1.00% ต่อปี (MOR ธนาคารออมสินปัจจุบัน = 5.995%) 

เงื่อนไขระยะเวลาชำระเงินกู้

กรณีกู้เพื่อไถ่ถอนจำนองสัญญากู้เพื่อที่อยู่อาศัย 

- ไม่เกิน 40 ปี นับตั้งแต่เดือนที่ต้องชำระเงินกู้และดอกเบี้ยงวดแรกตามที่กำหนดในสัญญา และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี ยกเว้นเจ้าของกิจการที่สามารถพิสูจน์รายได้ที่แน่นอน เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี

กรณีสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค

ไม่เกิน 15 ปี นับตั้งแต่เดือนที่ต้องชำระเงินกู้และดอกเบี้ยงวดแรกตามที่กำหนดในสัญญาและเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ ต้องไม่เกิน 65 ปี

คุณสมบัติผู้กู้

เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคาร
เป็นลูกค้าที่มีสัญญากู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยกับสถาบันการเงินอื่น
มีประวัติการชำระนี้ดี โดยในระยะเวลาย้อนหลัง 1 ปี ไม่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้
มีอาชีพและรายได้แน่นอน
เอกสารประกอบการกู้ยืม

เอกสารสำหรับผู้กู้หลัก / ผู้กู้ร่วม

สำเนาบัตรประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้าน
สลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด) กรณีไม่มีสลิปเงินเดือนใช้หนังสือรับรองเงินเดือน อายุไม่เกิน 2 เดือน
สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด
เอกสารหลักประกัน

สำเนาโฉนดที่ดินทุกหน้า หรือสำเนา นส. 3 ก ทุกหน้า หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด หรือ อ.ช.2 ทุกหน้า
สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง หรือสำเนาใบอนุญาตปลูกสร้างบ้านหรือสำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 หรือสำเนาสัญญาซื้อขายห้องชุด อ.ช.23
สำเนาใบเสร็จการชำระค่างวดสินเชื่อบ้านที่ต้องการรีไฟแนนซ์ฉบับล่าสุด (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
สำเนาสัญญาเงินกู้จากธนาคารเดิม
ที่มา : ธนาคารออมสิน
#10982

Klook สตาร์ทอัพผู้พัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการการจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยว ฉลองครบรอบ 7 ปีการก่อตั้ง แนะ 7 เทรนด์การท่องเที่ยวยอดฮิตและพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่กำลังมาแรง สนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทย

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อโลกมายาวนานมากกว่า 1 ปี โดยธุรกิจท่องเที่ยวถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ และต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างมาก โดยในปี 2564 นี้ Klook ได้ปรับตัวและเรียนรู้จนพร้อมที่จะกลับมาเดินหน้าต่ออย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง รวมทั้งพร้อมจะเป็นช่องทางส่งเสริม และสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้ฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง

ในเดือนกันยายนนี้ เป็นเดือนครบรอบวันเกิดปีที่ 7 ของ Klook เราจึงได้สรุปเทรนด์การท่องเที่ยวและพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวและโอกาสของธุรกิจท่องเที่ยวในยุคใหม่ และแน่นอนครบรอบ 7 ปี Klook ไม่พลาดที่จะเตรียมโปรโมชันและส่วนลดสุดพิเศษเพื่อเป็นการฉลอง ให้การท่องเที่ยวของคุณคุ้มค่าและสะดวกง่ายดายที่สุด

7 เทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่

เทรนด์ #1 ความคุ้มค่าและความยืดหยุ่น
ผลิตภัณฑ์รูปแบบ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลังเมื่อได้ไปเที่ยวจริง" จะได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยว เพราะหลังจากที่นักท่องเที่ยวต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดรอบล่าสุดไม่มากก็น้อย ทุกการใช้จ่ายย่อมต้องระมัดระวังและคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากไม่มีใครต้องการเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์หรือจ่ายเงินไปแล้วไม่สามารถเดินทางได้ อีกทั้งสถานการณ์การเดินทางในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก เรื่องของความยืดหยุ่นจึงเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเช่นเดียวกัน หากสินค้าและบริการสามารถตอบโจทย์นี้ได้ เชื่อว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี


เทรนด์ #2 มองหาประสบการณ์แบบใหม่ หลีกหนีความจำเจและกิจวัตรเดิมๆ
ในช่วงปลายปี 2020 พบว่านักท่องเที่ยวไทยเข้ามาค้นหาและจองกิจกรรมท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มสูงมากถึง 5 เท่า นั่นเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า คนไทยคิดถึงการท่องเที่ยวและพร้อมที่จะออกเดินทางแทบจะทันทีเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เราพบว่านักท่องเที่ยวมองหากิจกรรมการท่องเที่ยวที่พิเศษและแปลกใหม่สำหรับตัวเอง เพราะต้องการหลีกหนีและเปลี่ยนบรรยากาศจากกิจวัตรเดิมๆ ในช่วงโควิด-19 อาทิ กิจกรรมตกหมึกที่คาเฟ่ในพัทยา กิจกรรมดำน้ำลึกที่เกาะเต่า เป็นต้น
เทรนด์

#3 จัดทริปแบบส่วนตัวที่ต้องมาพร้อมกับการเดินทางแบบส่วนตัวเช่นกัน
นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงสถานที่ท่องเที่ยวหรือกิจกรรมท่องเที่ยวที่แออัด และพยายามที่จะลดการสัมผัสกับคนอื่น หรือเลือกที่จะเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ ไปกับเพื่อนหรือครอบครัวที่ตนเองมั่นใจ และวิธีการเดินทางก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ โดยจากสถิติการซื้อกิจกรรมท่องเที่ยวบน Klook บริการเช่ารถได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในหลายประเทศทั่วทวีปเอเชีย โดยยอดการจองเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน

เทรนด์ #4 คอนเทนต์ต้องปังและต้องมีช่องทางการติดต่อที่รวดเร็วทันใจ
มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2023 ประชากรชาวเอเชียแปซิฟิกมากกว่า 1,600 ล้านคน จะรับข่าวสารต่างๆ ผ่าน วิดีโอคลิปบนมือถือ ซึ่งตัวเลขนี้นับว่ากระโดดสูงขึ้น 75% จากตัวเลข 1,200 ล้านคนในปี 2019 ดังนั้นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวต้องไม่มองข้ามการทำคอนเทนต์ผ่านวิดีโอ หรือการไลฟ์สตรีมมิ่ง โดยควรพัฒนาให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการสื่อสารกับลูกค้าและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว

เทรนด์ #5 โหยหาทริปท่องเที่ยวยาวๆ กับจุดหมายปลายทางที่ไกลๆ
ช่วงที่ผ่านมา เราถูกจำกัดให้อยู่แต่กับบ้านนานเกินไป ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่นักท่องเที่ยวจะมองหาทริปท่องเที่ยวระยะไกลที่ใช้เวลานานกว่าทริปที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลของ GlobalData ได้ทำการสำรวจว่าเมื่อสามารถเดินทางข้ามประเทศได้แล้วนั้น นักท่องเที่ยวจะสนใจทริปท่องเที่ยวแบบใด โดยผลสำรวจเปิดเผยว่า 22% ของนักท่องเที่ยวมองหาทริปท่องเที่ยวที่ยาวมากกว่า 10 วัน ในขณะที่ทริปท่องเที่ยวสั้นๆ 1-3 วันได้รับการสนใจเพียง 14%

เทรนด์ #6 ตัวช่วยที่จะทำให้การเดินทางง่ายขึ้น
โควิด-19 ได้สร้างข้อจำกัดและกฎระเบียบมากมายให้นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการต้องยื่นผลตรวจโควิดก่อนเดินทาง การทำประกัน ไปจนถึงการต้องแสดงผลการฉีดวัคซีน นักท่องเที่ยวต้องค้นหาข้อมูลและต้องดำเนินการหลายอย่างที่ทำให้การท่องเที่ยวยุ่งยากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวควรพิจารณานำเสนอบริการแบบครบวงจร ที่พร้อมให้บริการทุกอย่างครบจบที่เดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาได้



เทรนด์ #7 มองหาทริปแบบ Slow life และเข้าหาธรรมชาติมากขึ้น
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตทุกคน หลายคนต้องเผชิญกับความเครียดและ burnout จากงานที่ทำ หลายคนรู้สึกซึมเศร้าเพราะไม่ได้กลับบ้านไปหาครอบครัว หลายคนต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เป็นระยะเวลานาน ดังนั้นเมื่อการท่องเที่ยวกลับคืนมา นักท่องเที่ยวจะต้องการการท่องเที่ยวแบบเนิบช้า ปล่อยใจปล่อยอารมณ์ไปกับธรรมชาติที่ห่างหายไปนาน

จาก 7 เทรนด์ข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวในช่วงที่ต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในอีกมุมก็สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวของทุกภาคส่วน เพื่อที่จะอยู่รอดไปกับโควิด-19 หากผู้ประกอบการสามารถปรับตัว และคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ เชื่อว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะต้องฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง และนักท่องเที่ยวจะสามารถกลับเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 7 ปีนี้ Klook จึงขอมอบของขวัญพิเศษเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักท่องเที่ยว ให้กลับมาเดินทางได้อีกครั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทย พบกับส่วนลดสุดพิเศษตลอดระยะเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันนี้- 30 กันยายน 2021 ที่ครอบคลุมกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลาย ตั้งแต่ โรงแรม, รถเช่า, ทัวร์, สวนน้ำ สวนสนุก และอาหารมื้อเด็ด นอกจากนั้น Klook ยังเปิดตัว Coupon Pack มอบส่วนลดแบบสุดคุ้มสำหรับสายกิน Food Coupon Pack ราคาเพียง 700 บาท ได้ส่วนลดมูลค่า 1,050 บาทกับร้านอาหารบน Klook และสำหรับสายที่พัก พบกับ Hotel Coupon Pack ในราคา 1,555 บาท ได้ส่วนลดมูลค่า 2,400 บาทเมื่อจองโรงแรมบน Klookถ้าพร้อมแล้วไปค้นหาแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวของคุณกันได้เลย https:// www.klook.com/th/tetris/promo/klook7years/
เกี่ยวกับ Klook


1. อารยธรรมบ้านเชียง ประกอบด้วย จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดหนองบัวลำภู
2. อารยธรรมทวารวดี ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดนครนายก จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดยโสธร และจังหวัดมหาสารคาม
3. อารยธรรมศรีโคตรบูรณ-ล้านช้าง ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครพนม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสกลนคร จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดอำนาจเจริญ และ จังหวัดบึงกาฬ
4. อารยธรรมลพบุรี ประกอบด้วย จังหวัดลพบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดนครราชสีม จังหวัดสุรินรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ และ จังหวัดศรีสะเกษ
5. อารยธรรมศรีวิชัย ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชุมพร จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดกระบี่ จังหวัดระนอง จังหวัดสตูล จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส
6. อารยธรรมล้านนา ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน จังหวัดลำปาง จังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา และ จังหวัดตาก
7. อารยธรรมสุโขทัย ประกอบด้วย จังหวัดสุโขทัย จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดพิจิตร และ จังหวัดอุทัยธานี
8. อารยธรรมอยุธยา ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดสมุทรสงคราม และ จังหวัดสมุทรสาคร
9. อารยธรรมธนบุรี - รัตนโกสินทร์ ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดชลบุรี และจังหวัดอ่างทอง
Klook คือแพลตฟอร์มการจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก พันธกิจของเราคือต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้เหล่านักเดินทางทั่วโลก ออกไปค้นพบ จอง และสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีที่สุดได้ทุกที่ทุกเวลา Klook ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ณ ปัจจุบัน Klook มีสำนักงานตั้งอยู่ในกว่ายี่สิบเมืองทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง ทีมงานของ Klook ประกอบด้วยผู้ที่หลงใหลในการท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศ ณ ปัจจุบัน Klook มีกิจกรรมและบริการการท่องเที่ยวมากกว่า 280,000 กิจกรรม บนกว่า 500 เมืองทั่วโลก และ Klook ยังให้บริการรองรับถึง 14 ภาษา และ 41 สกุลเงิน คุณสามารถค้นหาแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวได้ที่ www.klook.com, บล็อก หรือเฟสบุค @Klook
#10983


นิตยสาร Time ยกให้ Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในปีนี้ พร้อมด้วยนักดนตรี ผู้นำระดับโลก นักเคลื่อนไหว และอื่นๆ

จากการรายงานของ cointelegraph ระบุว่า Vitalik Buterin ศาสดาแห่งเหรียญ Ethereum ได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในรายชื่อนักประดิษฐ์ของ Time ในปี 2021 ร่วมกับ Jensen Huang CEO ของ Nvidia, CEO ของ Tesla และผู้สนับสนุน Dogecoin (DOGE) Elon Musk และอื่นๆ ในโปรไฟล์ของเขาเกี่ยวกับผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum, Alexis Ohanian ผู้ร่วมก่อตั้ง Reddit กล่าวถึงบทบาทของ Buterin ในการสร้างเครือข่าย Ethereum ให้มีมูลค่าตลาดมากกว่า 400 พันล้านดอลลาร์ และสนับสนุนการพัฒนาแอพกระจายอำนาจและโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ หรือ NFTs

"ไม่มีใครสามารถคิดค้นการใช้งาน Ethereum ทั้งหมดได้ แต่ต้องใช้ความคิดของคนๆ เดียวในการเริ่มต้นใช้งาน" Ohanian กล่าว "จากที่นั่น โลกใหม่ได้เปิดขึ้น และก่อให้เกิดวิธีการใหม่ๆ ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อคเชน"

อย่างไรก็ตามนิตยสารที่ดำเนินมายาวนานดูเหมือนจะเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับทั้งการรายงานเกี่ยวกับพื้นที่ crypto และยอมรับในธุรกิจของตัวเอง ในเดือนมีนาคม Time กล่าวว่าจะหาหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินที่ "สบายใจกับ Bitcoin และ cryptocurrencies" และประมูล NFT จำนวน 3 รายการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปกนิตยสารบางเล่ม ซึ่งในเดือนถัดมา นิตยสารได้รวมเนื้อหา cryptocurrencies เข้ากับธุรกิจโดยประกาศว่าจะยอมรับการชำระเงินด้วย cryptocurrencies สำหรับการสมัครสมาชิกดิจิทัล นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับผู้จัดการกองทุน Grayscale Time กล่าวว่าจะถือ Bitcoin (BTC) ซึ่งได้รับเป็นการชำระเงินสำหรับซีรีส์วิดีโอเพื่อการศึกษาในงบดุล

"เวลาไม่ได้อยู่ในโอกาสแรกของสิ่งที่เราต้องการจะทำกับคริปโต" ประธาน Keith Grossman กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 กันยายน

ทั้งนี้นิตยสารฉบับนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2466 และเป็นสถาบันในสหรัฐอเมริกา โดยรวบรวมบุคคลสำคัญและบริษัทต่างๆ ที่ทรงอิทธิพล ไทม์รายงานว่ามีผู้สมัครสมาชิก 20 ล้านรายต่อสัปดาห์ทั่วโลก
#10984


พ่อม่ายวัย 70 ปี ที่อุดรธานี ไปเจอเลขชอบ 35 ในแผงเลยซื้อมา 2 ใบ หวังแค่รางวัลเลขท้าย 2 ตัว แต่คนจะรวยถูกรางวัลที่ 1 ได้ 12 ล้าน ดีใจร้องลั่นบ้านก่อนนั่งลงร้องไห้ เตรียมไปไถ่จำนองบ้าน ใช้หนี้ กยศ.ให้ลูก 


เวลา 16.57 น. วันที่ 16 กันยายน 2564 ขณะที่ ร.ต.ท.เผ่า แสงกงพลี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มีนายแดง ทิพเนตร อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/2 หมู่ 2 บ้านม่วง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี แจ้งว่าซื้อหวยออนไลน์ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำงวดวันที่ 16 กันยายน 2564 งวดที่ 36 ชุดที่ 16 และ 17 หมายเลข 070935 จำนวน 2 ใบ 12 ล้าน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยมีตำรวจ และชาวบ้านที่มาติดต่อราชการบนโรงพักมาแสดงความยินดี ขอถ่ายรูปด้วย


นายแดง เปิดเผยว่า เคยทำงานเป็นพนักงานขับรถทัวร์บริษัท 407 พัฒนา สายหนองคาย-ระยอง และเลิกขับมานานแล้วเพราะอายุมาก และเป็นพ่อม่ายแยกทางกับภรรยามา 8 ปี ภรรยาไปมีสามีใหม่ ส่วนตนครองตัวเป็นโสด เลี้ยงลูกตามลำพัง 4 คน ซื้อลอตเตอรี่เสี่ยงโชคเป็นประจำ เคยถูกเพียงเลขท้าย 2 และ 3 ตัวเท่านั้น รางวัลใหญ่ไม่เคยถูก


"ก่อนจะโชคดี เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันพระ ได้เดินทางไปเยี่ยมหลาน ที่ ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร แล้วไปซื้อลอตเตอรี่ที่ตลาด เห็นเลขหน้า 070 ที่ตัวเองชอบ ส่วนเลขท้าย 35 ก็เป็นเลขดังที่ชอบ จึงซื้อ 070935 มา 2 ใบ และเลขท้าย 735 อีก 1 ใบ ตอนนั้นหวังเพียง รางวัลเลขท้าย 2 ตัวเท่านั้น แต่พอหวยออก พบว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ 12 ล้าน ดีใจ ร้องลั่นบ้าน แล้วก็นั่งลง ร้องไห้"

สำหรับเงินรางวัลที่ได้ จะนำไปไถ่บ้านที่จำนองไว้กับธนาคาร 4 แสนบาท ใช้หนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้ลูก 2 คน รวม 3 แสนบาท รวมหนี้ 7 แสน เมื่อใช้หนี้หมดแล้วตนจะซื้อรถยนต์ให้ลูกคนละ 1 คัน และจะไปซื้อที่ดินสร้างบ้านใหม่ที่ จ.สกลนคร เพราะบ้านที่ อุดรธานี คับแคบ ส่วนภรรยาเก่าที่แยกทางกันไปจะกลับมาขอคืนดี คงจะไม่เอาเพราะเข็ดแล้ว ไม่ขอแต่งงานใหม่ ขออยู่เป็นโสด อยู่กับลูกๆ หลานๆ ให้ลูกหลานดูแลในบั้นปลายชีวิต
#10985

วันนี้( 16 ก.ย.) ที่ชั้นใต้ดิน (ชั้น B) ศูนย์การค้า บลูพอร์ต หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานภาคเอกชน และ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานภาครัฐ ร่วมกันเปิดศูนย์บริการภาครัฐจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (Government Center of Prachuap Khiri Khan Province) พร้อมด้วย นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานประจวบคีรีขันธ์ และพล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง 3 ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ ร่วมพิธี

ทั้งนี้ "ศูนย์บริการภาครัฐจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดตั้งขึ้นโดย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ บลูพอร์ต หัวหิน เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลด้านการปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐและการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนและชุมชนในการให้บริการสาธารณะที่ตรงกับความต้องการของประชาชน เพื่อประโยชน์สำหรับประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวในพื้นที่และใกล้เคียง ให้สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐโดยสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และได้มาตรฐาน ณ จุดเดียว เปิดให้บริการเวลา 10.00 – 18.00 น. มีหน่วยงานที่ให้บริการ ประกอบด้วย ที่ทำการปกครองอำเภอหัวหิน ,เทศบาลเมืองหัวหิน, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,สำนักงานสรรพากรพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์,สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดการเปิดให้บริการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการใช้บริการได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 032-905111

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดเพิ่ม 5 จังหวัดท่องเที่ยว ตามนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล ในวันที่ 1 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งรวมถึงพื้นที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือ โครงการหัวหินรีชาร์จ ว่า ขณะนี้อัตราการฉีดวัคซีนในประเทศดีขึ้นมาก สามารถฉีดวัคซีนได้ 50 ล้านโดสจากเป้าหมาย 100 ล้านโดสในปีนี้ ถือว่าประเทศไทยมีความปลอดภัยในระดับหนึ่งที่มีความเหมาะสมในการที่จะเริ่มเปิดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการทางสาธารณสุขที่วางไว้

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ถือเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศที่ต้องหยุดชะงักลงไปกว่าหนึ่งปีครึ่งจากสถานการณ์ของโควิด-19 การกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นการขับเคลื่อน ภาคเอกชน แรงงาน และผู้ประกอบการให้ก้าวต่อไปได้ แต่ทั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับมาตรการของทางภาครัฐและสาธารณสุข โดยเฉพาะการระดมฉีดวัคซีน รวมทั้งจะต้องประเมินจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ นำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม แต่ภาพรวมก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ การเปิดเมือง หรือการเปิดประเทศจะทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าต้องใช้ระยะเวลา 2-3 ปีเศรษฐกิจไทยถึงจะฟื้นตัวกลับมาในระดับเดิมก่อนเกิดโควิด-19

ดังนั้นจะต้องเตรียมแผนพัฒนาด้านอื่นๆไปพร้อมกันอย่างมีทิศทาง เช่น โครงสร้างพื้นฐาน หรือการปรับโครงสร้างด้านภาษี เป็นต้น โดยเฉพาะอำเภอหัวหิน ถือว่ามีความพร้อมอยู่แล้ว การฉีดวัคซีนก็ทำได้ตามเป้าหมายร้อยละ 70 ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐ ซึ่งก็ชัดเจนแล้วว่าหัวหินจะอยู่ในแผนเปิด 5 จังหวัดท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคม นี้อย่างแน่นอน

ด้านนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเปิดเมือง ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือว่ามีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว มีการเตรียมพร้อมด้านการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้รับวัคซีนตามเป้าหมาย ในส่วนของสถานประกอบการ โรงแรมที่พัก มีการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขสำหรับโรงแรม มาตรฐาน SHA และ SHA PLUS รวมทั้งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินและเตรียมความพร้อมในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว เชื่อว่าหัวหินมีความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคม นี้อย่างแน่นอน

สำหรับในระยะแรกกำหนดพื้นที่ท่องเที่ยวในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน 2 ตำบล คือหนองแก และ หัวหิน ก่อน เนื่องจากมีความพร้อมด้านจำนวนประชาชนที่ได้รับวัคซีน และห้องพัก แต่เนื่องจากอำเภออื่นๆก็มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ก็พยายามเร่งรัดให้ทุกอำเภอมีความพร้อมด้วย โดยเฉพาะเรื่องการฉีดวัคซีนให้ประชาชนตามเป้าหมาย หากทุกอำเภอมีความพร้อมก็จะเสนอรัฐบาลไปยังรัฐบาลให้พิจารณาเปิดเมืองให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด
#10986


ผมไม่ได้ถูกหวยหรอกครับ แค่วันนี้เห็นข่าวคนซื้อหวยออนไลน์ถูกรางวัลที่ 1 หลายรายมาก หนึ่งในนั้นห่างจากบ้านผมไปแค่ 10 กว่ากิโลเอง ตอนนี้กำลังเป็นที่ฮือฮาในหมู่บ้านมาก

ผมเลยสงสัยว่า ถ้าเกิดงวดหน้า หรืองวดต่อๆๆๆไปอีก เกิดผมเป็นหนึ่งในผู้โชคดี ถูกรางวัลที่ 1 กับเขาบ้าง เป็นไปได้ไหมที่ผมจะเงียบๆ บอกให้รู้เฉพาะพ่อแม่ ญาติและเพื่อนสนิท ไม่ต้องไปลงบันทึกประจำวัน คือ แค่แบบไปขึ้นรางวัลเงียบๆ ไม่อยากมีกระแสใดๆ เพราะรู้ดีว่าถ้าเป็นกระแส มันต้องมีความวุ่นวายต่างๆตามมาหลังจากนั้นเยอะแน่เลย เผลอๆอาจเป็นทุกขลาภด้วยซ้ำ ปฏิเสธคนไม่เก่งด้วยซิครับ

หวังว่าผมจะได้นำความรู้ที่ได้จากทุกท่านที่มาตอบกระทู้นี้ ไปใช้ได้จริงในงวดถัดไป หรืองวดถัดไปอีกนะครับ ขอให้ทุกท่านที่มาตอบกระทู้นี้ ถูกรางวัลในงวดถัดไปหรือถัดๆๆๆไปอีก ไม่ว่าเลขท้ายสองตัว สามตัว รางวัลที่ 2 ที่ 3 แต่ผมจองรางวัลที่ 1 แล้วนะครับ ขอบคุณ
#10987
ขายบ้านบางระจัน 126วา ขายถูก โทร 0837124115
#10988


เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 ก.ย.64 เจ๊ติ๋ม แม่ค้าลอตเตอรี่ ตลาดป่าไผ่ ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โชว์ภาพในโซเชียลว่า มีลูกค้าเป็นสาวใหญ่อยู่ อ.สันกำแพง ได้ซื้อลอตเตอรี่จำนวน 5 ใบไป เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (16 ก.ย.) ก่อนหวยจะออก และภายหลังกองสลากฯ ได้ออกรางวัลประจำวันที่ 16 ก.ย.64 จึงได้ทราบว่าเป็นผู้โชคดีซื้อหวยออนไลน์ถูกรางวัลที่ 1 คือ หมายเลข 070935 โดยผู้โชคดีเป็นเจ้าของร้านทำลวดใน ต.ป่าไผ่ อ.สันกำแพง หมายเลข 070935 งวดที่ 35 ชุดที่ 25 จำนวน 5 ใบ รวมเป็นเงิน 30 ล้านบาท



ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดตามไปยังร้านที่ผู้โชคดีทำงานอยู่ ปรากฏว่าร้านปิด จึงได้ไปรอที่ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เพราะมีข่าวว่าหญิงผู้โชคดีจะไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวร ก็บอกว่าได้ข่าวมีคนถูกหวย 30 ล้านบาท แต่ยังไม่มีการมาลงบันทึกประจำวันแต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้โชคดีจะไปลงในพื้นที่ไหนก็ได้


ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปทางผู้รู้จักกับสาวผู้โชคดี ทราบเพียงว่ากำลังอยู่ในช่วงแสดงความดีใจกันในหมู่ญาติอยู่ยังไม่ได้มาลงประจำวันไว้



นอกจากนี้ชาวเชียงใหม่ ยังพบผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 อีกราย โดย ร.ต.อ.จำรัส เจริญยิ่ง รองสว.สอบสวน สภ.พร้าว เข้าเวรพนักงานสอบสวน ได้มีนายประกาย เสาร์คำ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 2 ต.แม่แวน อ.พร้าว มาขอลงบันทึกประจำวันเนื่องจากถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 070935 งวดที่ 35 ชุดที่ 16 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท


นายประกาย เผยว่า ตนทำงานเป็นคนขับรถให้เจ้าอาวาสวัดแม่เหียะ อ.พร้าว แต่เดิมตนเป็นคน อ.ไชยปราการ และมาอยู่ที่พร้าว ก่อนที่จะมีโชคตนก็ไม่ได้ฝันอะไร ออกจากวัดก็ซื้อลอตเตอรี่ในตลาด อ.พร้าว จำนวน 4 ใบ และมาตรวจพบว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ ซึ่งเงินที่ได้ตนจะเก็บไว้ให้แม่ และจะสร้างบ้านให้แม่อยู่อย่างมีความสุขกับภรรยาของตน โดยจะใช้อย่างประหยัดที่สุด ขอบอกเลยว่า เงินทั้งหมดให้แม่เป็นคนเก็บ.
#10989


"บลูบิค กรุ๊ป" ปิดเทรดวันแรก 30 บาท เพิ่มขึ้น 12 บาท คิดเป็น 66.67% จากราคาไอพีโอที่กำหนดไว้หุ้นละ 18 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,425.19 ล้านบาท ผู้บริหารปลื้มนักลงทุนต้อนรับคึก ขณะโบรกฯ มอง BBIK รับผลดียุคดิจิทัล ให้ราคา 22-26 บาท

หุ้น BBIK หรือบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก เมื่อเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 36.75 บาท เพิ่มขึ้น 18.75 บาท หรือ 104.17% จากราคาไอพีโอที่ 18 บาท และช่วงเช้าราคาหุ้นปิดเทรดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 15.50 บาท หรือ 86.11% ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 38.50 บาท ต่ำสุดที่ 28.00 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 30 บาท เพิ่มขึ้น 12 บาท คิดเป็น 66.67% มูลค่าซื้อขาย 1,425.19 ล้านบาท

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BBIK เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันแรก 16 กันยายน 2564 ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักเกินกว่าความคาดหมาย ซึ่งการระดมทุนดังกล่าวจะเสริมความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในหลากหลายมิติ และสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า BBIK เป็นหุ้น IPO ที่มีศักยภาพโดดเด่น โดยมีบริการที่หลากหลายและครอบคลุมด้านการวางกลยุทธ์และบริหารจัดการเทคโนโลยีและดิจิทัล ตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรที่ต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและปลดล็อกศักยภาพการเติบโต ที่ผ่านมาจึงได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ ใช้บริการเป็นจำนวนมากและมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับเทรนด์การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานสู่ดิจิทัลที่เกิดขึ้นทั่วโลก

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า BBIK ถือเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล รวมถึงมีเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า สามารถแข่งขันกับบริษัทคอนซัลต์จากต่างประเทศได้ ขณะผลการดำเนินงานมีอัตราเติบโตที่โดดเด่นทั้งรายได้และกำไร อีกทั้งความร่วมมือกับ OR ผ่านบริษัทร่วมทุนจะสนับสนุนการเติบโตแก่บริษัทฯ

บล.ทิสโก้ ประเมินจากการประมาณการเบื้องต้น มูลค่าที่เหมาะสมของ BBIK ในปี 2565 อยู่ที่ 26.50 บาท เทียบกับกลุ่ม TECH MAI ที่ PER 36 เท่าเนื่องจากธุรกิจที่ปรึกษาด้านกลุยทธ์ และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีไม่มีตัวเปรียบเทียบที่ชัดเจนในตลาด โดยส่วนใหญ่ในตลาดจะเน้นงาน System Integrator มากกว่า แนวโน้มของธุรกิจการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี การจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลมีการเติบโตที่สูง ทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ป็นตัวเร่งทำให้ Digital Transformation มีบทบาทมากขึ้น

บล.โกลเบล็ก ให้ราคาเหมาะสม BBIK ที่ 22-23 บาท โดย BBIK ผู้ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการธุรกิจ รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ (Digital Transformation) ซึ่ง 6 เดือนปี 64 มีรายได้และกำไรสุทธิ 126 ล้านบาท และ 30 ล้านบาท ตามลำดับ
#10990


นางสาวพจนา พะเนียงเวทย์ กรรมการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของไทย มียอดขายรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 14,300 ล้านบาทต่อปี

โดยมีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศไทย 5 แห่ง และต่างประเทศ 4 แห่ง ได้แก่ ฮังการี บังคลาเทศ เมียนมาร์ และกัมพูชา มีการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในทุกทวีปทั่วโลกมาเป็นเวลามากกว่า 30 ปี รวม 68 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์ เยอรมนี เนเธอแลนด์ แอฟริกาใต้ เลบานอน อังกฤษ ยูเครน ไอส์แลนด์ จีน อินเดีย กัมพูชา ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น

คิดเป็นมูลค่าการส่งออกกว่า 4,300 ล้านบาทต่อปี นอกจากมาม่าซึ่งเป็นแบรนด์หลักของไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์แล้ว ยังมีแบรนด์อื่น ๆ ที่ส่งออกด้วย อาทิ Ruski, Mendake, Thai Chef, Bamee, Mamy, Papa, President Rice, Bissin, Homey, Green Mate และ Kelly

โดยไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ มีการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีภาพลักษณ์ที่ดี มีการเพิ่มตลาดใหม่ มีการขยายฐานลูกค้า มีการพัฒนาสินค้า ได้รับการรับรองคุณภาพสินค้า มีการจัดการที่ดี และยังมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ได้รับ Prime Minister's Export Award ประเภท Best Exporter

ส่วน Prime Minister's Export Award 2021 ประเภท Best Thai Brand ได้รับจากแบรนด์ "มาม่า" จากเหตุผลที่มาม่าเป็นเครื่องหมายการค้าของไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์เอง เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีการพัฒนาสินค้าที่ดี และเป็นที่ยอมรับของตลาดโลก ซึ่งมาม่านับเป็นแบรนด์ซื้อหวยออนไลน์ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน โดยจะมีอายุครบ 50 ปีในปี 2565

"มาม่า" บูมตลาดไทย-ต่างประเทศ  ดันยอดขาย 1.43 หมื่นล้าน
"มาม่า" บูมตลาดไทย-ต่างประเทศ ดันยอดขาย 1.43 หมื่นล้าน

ความคุ้นเคยของคนไทยที่มีต่อมาม่าทำให้ส่วนใหญ่เรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกแบรนด์ว่า "มาม่า" เป็นเหมือน Generic Name ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สำหรับในต่างประเทศมาม่าก็เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวเอเชียที่ชื่นชอบรสต้มยำกุ้ง และชาวยุโรปที่ชื่นชอบรสไก่

 

นางสาวพจนา กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้ไทยเพรซิเดนท์ฟู้ดส์ ประสบความสำเร็จในต่างประเทศว่า เป็นเพราะคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานโลก อาทิ GMP, HACCP, ISO 9001, ISO 14000, SME TA, BRC, FAIR TRADE เป็นต้น รวมถึงการมีทีมงานที่มีความแข็งแกร่งทั้งทีมขายและทีม R&D ที่สามารถพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกมาได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

 

การมีคู่ค้าที่ดี ความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังใส่ใจในประเด็นที่ละเอียดอ่อน เช่น การใช้น้ำมันรำข้าวแทนน้ำมันปาล์มในผลิตภัณฑ์ที่ส่งไปจำหน่ายยังยุโรป เพื่อลดผลกระทบเรื่องการปลูกปาล์มในพื้นที่ที่อยู่อาศัยของอุลังอุตัง รวมทั้งการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

"มาม่า" บูมตลาดไทย-ต่างประเทศ  ดันยอดขาย 1.43 หมื่นล้าน
"มาม่า" บูมตลาดไทย-ต่างประเทศ ดันยอดขาย 1.43 หมื่นล้าน

ล่าสุด แบรนด์ "มาม่า" ได้รับ 2 รางวัลใหญ่ ในงาน Prime Minister's Export Award 2021 ที่รัฐบาลโดยกรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้จัดขึ้น ได้แก่ ประเภท Best Exporter หรือ ผู้ส่งออกธุรกิจยอดเยี่ยม และประเภท Best Thai Brand หรือแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม

 

"การได้รับ Prime Minister's Export Award นับเป็นความภาคภูมิใจของทีมงานทุกคน รางวัลนี้เป็นเสมือนเครื่องหมายการันตีคุณภาพ ผลงาน ยืนยันถึงความสำเร็จที่ได้รับ และแม้ว่าจะได้รับรางวัลแล้ว แต่เราจะยังเดินหน้ามุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคยิ่งขึ้นไปอีก และเรายังได้ตั้งเป้าหมายว่าจะขยายตลาดเพิ่มขึ้นปีละ 4 ประเทศ และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี"
#10992


ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ตามที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มอบนโยบายให้ ดีป้า เดินหน้าผลักดันให้ทุกภาคส่วนสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ผ่านการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ด้านดิจิทัลแก่ประชาชน ส่งเสริมและสนับสนุนภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยในตลาดสด รวมถึงเกษตรกร และชุมชนในชนบทเข้าถึงและเลือกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมกับบริบทของตนเองจากเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ แก้ไขปัญหา ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ซื้อหวยออนไลน์ ฟันฝ่าผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และเตรียมความพร้อมสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป

สำหรับ กิจกรรม Smart Economy Showcase จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการรายย่อยในภาคอุตสาหกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ในจังหวัดอุบลราชธานี สงขลา และพิษณุโลก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีคุณภาพจากเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพที่ขึ้นทะเบียนกับ ดีป้า ก่อนเลือกประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ตอบโจทย์ธุรกิจ อีกทั้งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ขยายช่องทางการตลาด และสร้างโอกาสทางการค้า โดยดีป้า ได้คัดเลือกดิจิทัลสตาร์ทอัพผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลใน 5 ประเภท ประกอบด้วย Logistics/Delivery, POS, E-Payment, Digital Content และ Services รวมจำนวนกว่า 30 รายเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้คำแนะนำปรึกษาได้ตรงตามความต้องการใช้จริงของบรรดาผู้ประกอบการในพื้นที่


"ดีป้า ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางจังหวัด หน่วยงานพันธมิตร และเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ บริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยดิจิทัลโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการ อีกทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจ และยกระดับผู้ประกอบการไทยท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และข้อจำกัดมากมาย เตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านจังหวัดอุบลราชธานี สงขลา และพิษณุโลกสู่เมืองเศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบต่อไป" ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

ดีอีเอส ผนึก ดีป้า นำเทคโนโลยีดิจิทัล ติดปีกผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัด
ดีอีเอส ผนึก ดีป้า นำเทคโนโลยีดิจิทัล ติดปีกผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัด

 กิจกรรม Smart Economy Showcase จะมีการจัดแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลจากเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพ ซึ่งผู้ประกอบการที่สนใจสามารถปรึกษา สอบถาม และเจรจาจับคู่ธุรกิจ หรือร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ได้จากเจ้าของเทคโนโลยีตัวจริง เพื่อสร้างความมั่นใจในการประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
#10993
ขายบ้านบางระจัน 126วา ขายถูก โทร 0837124115
#10995


สำนักข่าว CNBC รายงานถึงถ้อยแถลงของ Gary Gensler ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ที่เตรียมจะตอบคำถามหลายข้อเกี่ยวกับ bitcoin, และเหรียญที่มีเสถียรภาพและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ จากวุฒิสมาชิกทั้งสองด้านของทางเดินทางการเมือง โดยก่อนการพิจารณาคดี ผู้ควบคุมระดับสูงของ Wall Street กล่าวว่ากลุ่มตลาด crypto กำลังดำเนินการอยู่นอกกรอบการกำกับดูแลของ SEC ที่ปกป้องนักลงทุนซื้อหวยออนไลน์และลูกค้าจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

"เราแค่ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนเพียงพอในด้านการเงินคริปโต การออกการค้าขายหรือการให้กู้ยืม" Gensler กล่าว ซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้มันเหมือนกับยุคคาวบอยที่เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน มีความเสรีศาลเตี้ยตามใจอยากโดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้น เหมือนยุค Wild West ในอดีต หรือ หรือโลกเก่าที่ ผู้ซื้อต้องระมัดระวังซึ่งมีอยู่ก่อนที่จะมีการออกกฎหมายหลักทรัพย์ ขณะเดียวกันสินทรัพย์ประเภทนี้ก็เต็มไปด้วยการฉ้อโกง การหลอกลวง และการละเมิดในบางแอปพลิเคชัน"

เขาเสริมว่าสำนักงาน ก.ล.ต. มีความกระตือรือร้นที่จะเพิ่มอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ และด้วยการอนุมัติของรัฐสภา ได้ขยายเขตอำนาจศาลเพื่อช่วยปิดช่องว่างในการรักษาตลาดคริปโต โดยในคำพูดของ Gensler กล่าวว่าสำนักงาน ก.ล.ต. ต้องการความช่วยเหลือจากฝ่ายนิติบัญญัติในการดูแลข้อเสนอและการขายโทเค็น crypto, แพลตฟอร์มการซื้อขายและให้ยืมเงินดิจิตอล, เหรียญที่มีเสถียรภาพ, เครื่องมือการลงทุนที่ให้สินทรัพย์ดิจิทัลหรืออนุพันธ์ของ crypto รวมถึงการดูแลสินทรัพย์เสมือน อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าจะเพียงพอที่จะสร้างการยอมรับจากพรรครีพับลิกันซึ่งมีสัดส่วนถือครองเสียงในคณะกรรมการที่เรียกร้องให้ ก.ล.ต. เพิ่มความพยายามในการคว่ำบาตรตลาด crypto และแสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาเสนอให้กับนักลงทุนตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา

ด้าน Pat Toomey, R-Pa. สมาชิกอันดับต้นๆ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าทำไม Gensler จึงใช้เวลานานมากในการพิจารณาที่จะคัดค้านหรือสนับสนุนตลาดเหล่านี้ และเพื่ออธิบายว่าทำไม SEC ดูเหมือนจะไม่ชอบที่จะอนุมัติสินทรัพย์ crypto ต่างๆ ตามที่ผู้ช่วยของพรรครีพับลิกันกล่าว

ขณะเดียวกันเขากล่าวกับ CNBC เกี่ยวกับเงื่อนไขของการไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อพูดอย่างอิสระเกี่ยวกับความคิดส่วนตัวของผู้นำพรรคก่อนการแถลงการต่อสาธารณะชน

นอกจากนี้ในกฎระเบียบที่กำหนดและควบคุม Crypto ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหม่สำหรับสำนักงาน ก.ล.ต. โดย Gensler ได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าสภาคองเกรสจำเป็นต้องผ่านกฎหมายเพื่อขยายอำนาจของคณะกรรมาธิการเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการจัดการตลาดมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับ bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ

"สิ่งที่เราต้องการทำคือให้การป้องกันขั้นพื้นฐานจากการฉ้อโกงและการยักย้ายถ่ายเท แพลตฟอร์มการซื้อขาย ที่พวกเขาใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับที่ปกป้องพวกเขา เหมือนพวกเขากำลังซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก" Gensler กล่าวกับ CNBC ในเดือนสิงหาคม

ในขณะนั้น Gensler กล่าวว่าเขาหวังว่าสภาคองเกรสจะสามารถให้อำนาจแก่ SEC ได้มากพอที่จะบังคับให้แพลตฟอร์มการซื้อขายลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ แต่บางคนก็ขัดขืนคำขอในการเริ่มต้นหลักเกณฑ์ของเขา

ขณะเดียวกันในการเคลื่อนไหวของฝ่ายที่สนับสนุนเหรียญคริปโต แสดงความผิดหวังต่อ ก.ล.ต. เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งได้เลื่อนการพิจารณาคดีอีกครั้งที่ระบุว่าจะอนุมัติใบอนุญาติโดยคณะกรรมการแลกเปลี่ยนแห่งชิคาโกเพื่อจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นของ Bitcoin Trust ของ VanEck หรือไม่ โดยหน่วยงานกำกับดูแลมีเวลาหลายเดือนในออกใบอนุญาติการใช้งานซึ่งถูกมองว่าเป็นการลอยแพของกองทุนที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้บรรดาผู้ที่คาดหวังว่า Gensler เข้ามาเป็นผู้ดูแลของ SEC จะทำให้การตัดสินใจเกี่ยวกับภาคนโยบายและโครงสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลมีความรวดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ดีแม้ว่าพรรครีพับลิกัน มักจะแสดงความกดดันให้มีการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้นจาก Gensler เพื่อใช้ประโยชน์จากความเร็วและประสิทธิภาพของสินทรัพย์ดิจิทัล แต่พรรคเดโมแครตกลับแสดงออกในทางตรงกันข้าม โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในความรับผิดชอบและการกำกับดูแลในสิ่งที่ Gensler อธิบายว่าเป็น "Wild West" ดิจิทัล โดย ส.ว. เชอร์รอด บราวน์ ประธานคณะกรรมการ สมาชิกพรรคเดโมแครต ในเขตโอไฮโอ และ ส.ว. เอลิซาเบธ วอร์เรนแห่งแมสซาชูเซตส์ ยอมรับว่าสินทรัพย์ดิจิทัลอาจมีการใช้งานที่น่าสนใจ แต่พวกเขายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการระมัดระวัง และต้องมีการตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้เป็นเจ้าของที่ชัดเจน