• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#10561
ยินดีให้บริการ ทุกขนาดพื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#10562
ขายบ้านบางระจัน 126วา ขายถูก โทร 0837124115
#10564
ยินดีให้บริการ ทุกขนาดพื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#10566
ขายบ้านบางระจัน 126วา ขายถูก โทร 0837124115
#10567
หลังจากที่พยายามมาอย่างยาวนาน ในที่สุด พับบลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (พีไอเอฟ) กลุ่มทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบียที่มี โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารของประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นหัวเรือใหญ่ ก็ประสบความสำเร็จในการเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เป็นที่เรียบร้อย โดยว่ากันว่ามูลค่าของดีลนี้อยู่ที่ 305 ล้านปอนด์

    เรื่องดังกล่าวถือเป็นข่าวใหญ่ของโลกลูกหนัง เพราะว่ากันว่า พีไอเอฟ มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแล้วถึง 360,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว นั่นหมายความว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะเทงบช็อปก้อนโตให้กับ นิวคาสเซิ่ล ในช่วงหลังจากนี้ จนอาจจะทำให้ "สาลิกาดง" ก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างต่อเนื่องอีก 1 ทีมก็ได้

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวการที่เศรษฐีระดับโลกมาเทคโอเวอร์ฟุต.มันไม่ได้มีตอนจบที่แฮปปี้เอ็นดิ้งเหมือนอย่างกรณีของ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เสมอไป และวันนี้เราก็จะมาย้อนตัวอย่างของดีลการเทคโอเวอร์ทีมลูกหนังที่ตอนแรกมีโปรเจ็กต์ชวนฮือฮาสุดขีด แต่สุดท้ายก็จบแบบไม่สวยมานำเสนอกันสักหน่อย

    - อันจิ มาคัชคาล่า
    เมื่อเดือนมกราคม ปี 2011 สุไลมาน เคริมอฟ มหาเศรษฐีชาวรัสเซียกลายเป็นข่าวดังหลังจากทุ่มเงินซื้อ อันจิ เข้ามาเป็นของตัวเอง โดยทันทีที่เข้ามาเป็นเจ้าของทีมแล้วนั้น เขาก็วางแผนที่จะพัฒนาโครงสร้างต่างๆ ของทีม อย่างเช่นการสร้างสนามแห่งใหม่ทันที ซึ่งงบส่วนที่ว่าก็ถูกวางเอาไว้ที่เกิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

 

ADVERTISEMENT


นิวคาสเซิ่ล ระวัง! 3 การเทคโอเวอร์สุดฮือฮาที่สุดท้ายจบไม่สวย
 

    นอกจากจะประเคนเงินก้อนโตกับเรื่องโครงสร้างแล้วนั้น เคริมอฟ ยังเซ็นเช็คก้อนโตไปกับการเสริมทัพด้วย โดยแค่ปีแรกที่เข้ามาอยู่กับทีมเขาก็ทำให้นักเตะอย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส และ ซามูเอล เอโต้ มาเล่นในสีเสื้อของ อันจิ ได้ ขณะที่ในเดือนมีนาคม ปี 2012 มันก็มีรายงานว่า เคริมอฟ อนุมัติงบการเสริมทัพเป็นจำนวนมากกว่า 230 ล้านยูโร ด้วยเป้าหมายว่าทีมต้องได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายใน 3 ฤดูกาล โดยที่ อันจิ ถึงขันได้กุนซือระดับ กุส ฮิดดิ้งค์ มาคุมทีมให้ด้วย

    ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 อันจิ ก็ถึงขั้นได้ วิลเลี่ยน ดาวเตะชาวบราซิเลียนมาจาก ชัคตาร์ ด้วย ทั้งที่ตอนนั้นเขาเป็นที่สนใจของหลายต่อหลายทีม อย่างไรก็ตาม พอถึงเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน มันกลับมีการตัดสินใจลดงบประมาณการทำทีมของ อันจิ เหลือเพียง 50-70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อซีซั่นเท่านั้น ทั้งที่ตอนแรกมีการวางแผนว่าจะมีงบในการทำทีมสูงถึง 180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อฤดูกาล

ADVERTISEMENT


 

นิวคาสเซิ่ล ระวัง! 3 การเทคโอเวอร์สุดฮือฮาที่สุดท้ายจบไม่สวย
 

    นั่นเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของฝันร้ายของ อันจิ เพราะในเวลาต่อมาพวกเขาก็ตัดสินใจขายนักเตะชื่อดังบางคนเพื่อประคองการเงินของสโมสร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ วิลเลี่ยน ที่โดนขายให้ เชลซี เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2013 หรือก็คือไม่กี่เดือนหลังจากที่เจ้าตัวเพิ่งย้ายมาจาก ชัคตาร์ และพอถึงปี 2016 เคริมอฟ ก็ขายทีมให้กับ ออสมาน คาดีเยฟ

    ปัจจุบัน อันจิ หล่นไปเล่นใน รัสเซียน ฟุต. เนชันแนล ลีก 2 หรือเทียบเท่ากับลีกระดับ 3 ของประเทศรัสเซีย เรียกได้ว่าหมดสภาพของทีมที่เคยไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูโรปา ลีก ในยุคของ เคริมอฟ กันเลยทีเดียว

    - พอร์ทสมัธ
    อเล็กซานเดร เกย์ดาม๊าก ถือเป็นนักธุรกิจลูกครึ่งฝรั่งเศส-อิสราเอล ทื่ร่ำรวยมากคนหนึ่งจากการที่ตระกูลของเขาเป็นตระกูลที่มีเงินเยอะพอตัว โดยเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ อาร์เคดี้ เกย์ดาม๊าก นักธุรกิจชื่อดัง ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่แฟน. พอร์ทสมัธ บางส่วนจะตื่นเต้นในระดับหนึ่งที่เขามาซื้อทีมไปจาก มิลาน มานดาริช เมื่อเดือนมกราคม ปี 2006

 

นิวคาสเซิ่ล ระวัง! 3 การเทคโอเวอร์สุดฮือฮาที่สุดท้ายจบไม่สวย
 

    ในยุคของ เกย์ดาม๊าก "ปอมปีย์" ได้นักเตะชื่อคุ้นหูไปร่วมทัพหลายราย อย่างเช่น ปีเตอร์ เคร้าช์, เจอร์เมน เดโฟ, เควิน-พริ๊นซ์ บัวเต็ง, เอ็นวานโก้ คานู, มิลาน บารอส, เกล็น จอห์นสัน ฯลฯ นอกจากนี้ พอร์ทสมัธ ยังเคยไปถึงตำแหน่งแชมป์ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2007-08 ด้วย

    อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เกย์ดาม๊าก มีปัญหาเรื่องการเงินกับสโมสรในช่วงที่ พอร์ทสมัธ ถูกเข้าควบคุมกิจการจนกลายเป็นการทำให้ พอร์ทสมัธ ต้องปวดหัวกับเรื่องนอกสนามพักหนึ่ง แถมตอนที่เขาขายทีมให้ สุไลมาน อัล ฟาฮิม เมื่อปี 2009 นั้น เขายังโดนกล่าวหาว่าที่จริงเคยตกลงขายทีมให้ อาลี อัล-ฟาราจ ก่อนหน้าที่จะทำข้อตกลงกับ อัล ฟาฮิม ด้วย จนทำให้ อัล-ฟาราจ เดินเรื่องฟ้องร้อง

 

นิวคาสเซิ่ล ระวัง! 3 การเทคโอเวอร์สุดฮือฮาที่สุดท้ายจบไม่สวย
 

    สำหรับคนที่อาจจะสงสัยว่าตอนนี้อดีตแชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัยเป็นยังไงบ้าง เราก็ขอเฉลยว่าปัจจุบันพวกเขาโลดแล่นอยู่ในระดับ ลีก วัน โดยฤดูกาลที่แล้วพวกเขาได้อันดับ 8 ของลีก

    - มาลาก้า
    รุด ฟาน นิสเตลรอย,อีสโก้, ฆัวกิน ซานเชซ, ซานติ กาซอร์ล่า, ชูลิโอ บาปติสต้า, เฌเรมี่ ตูลาล็อง, นาโช่ มอนเรอัล ฯลฯ คือเหล่านักเตะที่เคยเล่นให้ มาลาก้า ทีมฟุต.จากเกาะอันสวยงามของประเทศสเปน ซึ่งดีลเหล่านี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยหากในช่วงหนึ่งพวกเขาไม่มี ชีคห์ อับดุลลาห์ บิน นาสเซอร์ บิน อัลดุลลาห์ อัล อาห์เหม็ด อัล ธานี่ มาเป็นเจ้าของสโมสร

 

นิวคาสเซิ่ล ระวัง! 3 การเทคโอเวอร์สุดฮือฮาที่สุดท้ายจบไม่สวย
 

    ย้อนความหลังก่อนว่าก่อนหน้าที่ อัล ธานี่ จะเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมนั้น มาลาก้า มีปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรงจนทำให้ เฟร์นานโด้ ซานซ์ ประธานของทีมในตอนนั้นไปเจรจาขายทีมให้กับมหาเศรษฐีชาวกาตาร์ และหลังจากเจรจากันเพียง 1 สัปดาห์ อัล ธานี่ ก็ได้เป็นประธานของ มาลาก้า ในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2010

    ทั้งนี้ ดีลของ กาซอร์ล่า นับเป็นดีลที่ฮือฮามากที่สุดเพราะเขานับเป็นการซื้อตัวที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ มาลาก้า ด้วยค่าตัว 21 ล้านยูโร โดยทีม "ชาวเกาะ" ในยุคของ อัล ธานี่ เคยได้อันดับ 4 ใน ลา ลีกา เมื่อฤดูกาล 201-12 จนส่งผลให้พวกเขาได้เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นต่อมาด้วย และนั่นก็ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่พวกเขาได้เล่นเกมชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์"

 

นิวคาสเซิ่ล ระวัง! 3 การเทคโอเวอร์สุดฮือฮาที่สุดท้ายจบไม่สวย
 

    น่าเศร้าที่เกาะสวาทหาดสวรรค์จบลงอย่างรวดเร็ว มาลาก้า มีปัญหาจ่ายค่าเหนื่ยกับภาษีไม่ตรงตามเวลาจนทำให้โดนตัดสิทธิ์จากการเล่นเกมถ้วยยุโรปในฤดูกาล 2013-14, ต้องขายดาวดังของทีมอย่าง กาซอร์ล่า และ อีสโก้ ในเวลาต่อมา และตกชั้นจาก ลา ลีกา ในฤดูกาล 2017-18

    ตอนนี้ มาลาก้า เล่นอยู่ใน เซกุนด้า ดิวิชั่น หรือลีกอาชีพระดับ 2 ของประเทศสเปน โดยถึงแม้ อัล ธานี่ จะยังดำรงตำแหน่งเจ้าของทีมอยู่ แต่สภาพของสโมสรก็ไม่สู้ดีนัก อย่างเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2020 พวกเขาก็ประกาศว่าต้องโละนักเตะทีมชุดใหญ่ทั้งทีมเพื่อที่จะให้สโมสรยังอยู่รอดปลอดภัยเลย

 
#10568
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์ (8ต.ค.)ปรับตัวขึ้น 1.05 ดอลลาร์ จากการที่รัฐบาลสหรัฐยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์)

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ภาคอุตสาหกรรมหันมาใช้พลังงานน้ำมัน หลังจากที่ราคาก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้นในระยะนี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ราคา 79.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ราคา 82.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
 



ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2556

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นมากกว่า 60% นับตั้งแต่ต้นปีนี้

กระทรวงพลังงานสหรัฐออกแถลงการณ์วานนี้ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่มีแผนที่จะระบายน้ำมันจากเอสพีอาร์เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน


ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาระบายน้ำมันจากเอสพีอาร์เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินในประเทศ นอกจากนี้ นางแกรนโฮล์มยังระบุว่า รัฐบาลอาจประกาศห้ามส่งออกน้ำมันดิบเพื่อให้ปริมาณน้ำมันยังคงเพียงพอในสหรัฐ

คำกล่าวของนางแกรนโฮล์มส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ร่วงลงทันทีเมื่อคืนนี้ แต่ราคาน้ำมันได้ฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะระบายน้ำมันแต่อย่างใด

ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. แม้ว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐและอินเดีย ต่างกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้เพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
#10570
ยินดีให้บริการ ทุกขนาดพื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#10572
นักวิชาการ วิทยาลับการจัดการ มหิดล แนะ "5 Foresight of New Consumer" ภาคธุรกิจ บริหารการตลาดให้ตรงใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เติบโตมากับโลกดิจิทัล

ผศ. ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา เราเห็นกระแสของ Digital Disruption เข้ามามีบทบาทต่อการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตอยู่แล้ว แต่ว่าอิทธิพลอาจยังมีไม่มากนักต่อคนเจเนอเรชันต่างๆ ยกเว้นคนยุคใหม่ที่ถือเป็น Digital Citizens เติบโตมากับโลกดิจิทัลอยู่แล้ว แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีนี้ นับเป็นตัวเร่งขับเคลื่อนให้ดิจิทัลเข้ามาอยู่ในชีวิตผู้คนทุกวัยรวดเร็วอย่างมาก ทั้งส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้คนให้มีความกังวลด้านสุขภาพมากขึ้น 

ผศ. ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
ผศ. ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล

ขณะเดียวกันก็มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจบางส่วน เช่น กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว การบริการ และสายสาธารณสุข เหล่านี้ทำให้เกิด New Consumer หรือผู้บริโภคมีพฤติกรรมใหม่ ที่เกิดจากการเรียนรู้ด้านดิจิทัลมากขึ้นด้วยการบีบรัดของสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีพฤติกรรมผสมผสานระหว่างโลกออฟไลน์กับออนไลน์ ชอบทั้งทำกิจกรรมนอกบ้าน และยินดีที่จะทำกิจกรรมอยู่ที่บ้าน


จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้คาดการณ์ภาพของพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไป โดยแนะหลักการ "Foresight" 5 ข้อต่อภาคธุรกิจ ดังนี้ 

การซื้อสินค้า/บริการแบบสบายไร้ความยุ่งยาก (Frictionless shopping) เมื่อผู้บริโภคมีความเคยชินกับการสั่งอาหาร สั่งซื้อสินค้าผ่านมือถือ และเริ่มมองว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียเวลารอต่อคิว หรือวนรถหาที่จอดรถในห้างฯ แล้ว ชีวิตต้องง่าย ทุกอย่างจบได้ที่ปลายนิ้วผ่านโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจต้องทำให้ร้านค้าตนเองง่ายต่อการเข้าถึงและสั่งซื้อมีบริการ สั่งง่าย ส่งง่าย มีจุด Drive-thru หรือเดลิเวอรี่ มีช่องทางการสั่งซื้อ เช่น E-Commerce หรือ Social Commerce ให้ลูกค้าค้นเจอง่ายและสั่งจองได้ไม่ยุ่งยาก 

การตลาดที่สร้างยิ้มผู้บริโภค (Entertaining Life) ผู้คนส่วนใหญ่ยังต้องการความบันเทิงในชีวิต เห็นได้จากอินฟลูเอนเซอร์ที่เน้นความสนุกสนานขำขัน จะมีผู้ติดตามมากมายหลายล้านคนหรือ ads ที่ตลกก็สร้างการจดจำได้ดีกว่าโฆษณาทั่ว ๆ ไป ดังนั้น ธุรกิจ/แบรนด์ต้องรู้จักหยิบความขบขันและความสนุกมาใส่ในการสื่อสารสินค้า หรือจัดกิจกรรมไลฟ์สดให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม มากกว่าการเน้นพูดถึงแต่คุณภาพของสินค้าเช่นเดิม

รู้จักและรู้ใจลูกค้าด้วยข้อมูล (Data-driven consumer) ผู้บริโภคมีความคาดหวังจากธุรกิจ/แบรนด์สูงขึ้นว่าต้องรู้ใจ รู้ความต้องการ เพราะในโลกดิจิทัล แบรนด์สามารถเก็บข้อมูลและรู้จักลูกค้ามาก ยกตัวอย่าง แอปพลิเคชัน Amazon, Netflix มีการนำข้อมูลของลูกค้ามาทำ Recommendation ที่แสดงข้อมูลแนะนำให้สอดคล้องกับความสนใจของลูกค้า เป็นต้น ดังนั้น แบรนด์ต่างๆ จึงถูกคาดหวังว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้านั้นเช่นเดียวกัน 

4. ข้อมูลจากผู้ใช้จริงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ (Community Dependent) การเน้นสื่อสารจากแบรนด์โดยตรงอาจไม่เพียงพอและเน้นใช้สร้างการรับรู้เท่านั้น ลูกค้าในปัจจุบันจะตัดสินใจซื้อโดยพิจารณาข้อมูลจากการรีวิวของผู้ใช้จริง หรือถ้าเป็น KOLs ก็ต้องมีความจริงใจมีความน่าเชื่อถือจริงๆ 

5.  สร้างความเชื่อใจที่จริงจัง (Brands We Trust) ท่ามกลางตัวเลือกสินค้าหรือบริการที่มีมากมาย แบรนด์ต้องสร้างความเชื่อถือไว้วางใจให้ผู้บริโภคเชื่อมั่น ตอบโจทย์มาตรฐานชีวิตที่สูงขึ้น เน้นความปลอดภัยสุขอนามัยและดีต่อผู้บริโภคและสังคมอย่างจริงจัง เกิดเป็นจุดเน้นที่สำคัญต่อการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่มีเป้าหมายหรือ Purpose ที่ชัดเจนในอนาคตต่อไป 
#10573
ขายบ้านบางระจัน 126วา ขายถูก โทร 0837124115
#10574
เปิดยุทธศาสตร์ "สยามพิวรรธน์" รุกตลาดรีเทลโลก ประกาศปักหมุด 11 ประเทศใน 3 ปี ประเดิมจับมือพาวิลเลียนกรุ๊ป บิ๊กอสังหาฯมาเลเซีย นำร่องเปิด 3 แบรนด์รวดในธันวาคมนี้ เผยพร้อมผนึกพาร์ทเนอร์ทั้งเอเชีย ยุโรป

นางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่, ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยมเอาท์เล็ต เปิดเผยว่า สยามพิวรรธน์พร้อมเดินหน้ารุกตลาดรีเทลในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ด้วยศักยภาพและความพร้อม โดยเริ่มศึกษาและเจรจากับพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเข้าไปลงทุนให้ได้ 11 ประเทศภายในระยะเวลา 3 ปี

 

"วันนี้แพลตฟอร์มของธุรกิจรีเทลเปลี่ยนแปลงไปมาก การที่จะรอให้ลูกค้าเดินมาหาเรา อาจจะเป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงต้องปรับยุทธศาสตร์ ปรับกลยุทธ์ในเชิงรุก ด้วยการเดินหน้าเข้าหาลูกค้า การเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ"

 

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีฐานข้อมูลลูกค้าชาวต่างชาติจำนวนมาก รู้ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมาย แต่ละกลุ่มต้องการอะไร เลือกซื้ออะไร ใช้เงินเท่าไร ชอบ-ไม่ชอบอะไร ล้วนเป็นข้อมูลทำให้สามารถคัดสรรและเลือกสิ่งที่ตรงใจลูกค้าได้

สยามพิวรรธน์ ขยับทัพบุกรีเทลโลก 3 ปี 11 ประเทศ
สยามพิวรรธน์ ขยับทัพบุกรีเทลโลก 3 ปี 11 ประเทศ

ทั้งนี้บริษัทเริ่มศึกษาแผนการลงทุนในต่างประเทศมาต่อเนื่อง ก่อนที่จะเริ่มเต็มตัวในช่วงปีก่อน และล่าสุดได้เปิดตัวพันธมิตรรายแรกคือ พาวิลเลียนกรุ๊ป (Pavilion Group) เจ้าของและผู้บริหารห้างระดับไฮเอนท์ และอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์การค้าพาวิลเลียน บูกิต จาลิล (Pavilion Bukit Jalil) ไลฟ์สไตล์มอลล์ที่ใหญ่ที่สุดทางใต้ของกรุงกัวลาลัมเปอร์

 


ในการเข้าไปเปิดโซนดิสคัฟเวอรี่ สยาม บนพื้นที่กว่า 1,200 ตร.ม. โดยภายในโซนนี้จะประกอบไปด้วย 3 แบรนด์ ได้แก่ ร้าน ICONCRAFTร้าน Absolute Siam และร้าน Ecotopia ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์เป็นคอนเซ็ปท์ สโตร์ที่มีโพสิชั่นนิ่งแตกต่างกัน แต่ทุกร้านจะมีอัตลักษณ์ความเป็นไทย ที่นำเสนอสินค้าไทย จากช่างฝีมือคนไทยในหมวดสินค้าต่างๆ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย

อุสรา ยงปิยะกุล
อุสรา ยงปิยะกุล

ลูกค้าชาวมาเลเซียถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูง เป็นลูกค้าหลัก มีจำนวนมากติดอันดับ 1 ใน 5 ลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าทั้ง 3 แห่งคือสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี ร่วมกับลูกค้าชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลีและยุโรป ขณะที่การใช้จ่ายของลูกค้าคนไทยเฉลี่ยกว่า 2,000 บาทต่อคนต่อครั้ง ขณะที่ลูกค้าชาวต่างชาติเฉลี่ย 3,500 บาทต่อคนต่อครั้ง สูงกว่าคนไทย 30-40%

 

โดยเบื้องต้นทั้ง 3 แบรนด์ที่เปิดให้บริการในมาเลเซีย จะวางจำหน่ายกว่า 1,000 รายการ จากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 300 ราย ถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลกด้วย สำหรับการลงทุนในมาเลเซีย บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายสาขาให้ได้ 3 แห่งภายในระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งนำเสนอสินค้าที่มีความเป็นไทย อาทิ สุขสยาม ฯลฯ เพิ่มเติมต่อเนื่องในแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วย

สยามพิวรรธน์ ขยับทัพบุกรีเทลโลก 3 ปี 11 ประเทศ
สยามพิวรรธน์ ขยับทัพบุกรีเทลโลก 3 ปี 11 ประเทศ

"หนึ่งในนโยบายหลักของสยามพิวรรธน์ คือต้องการผลักดันแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักและสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ ผลักดันให้ Local Hero เติบโตไปสู่การเป็น Global Hero ต่อยอดสู่การค้าขายในเวทีโลก"

 

ทั้งนี้พาวิลเลียน กรุ๊ป เป็นหนึ่งพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้ร่วมเป็น Global Privilege Partners ของสยามพิวรรธน์ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก ที่ผ่านมาได้มอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าของศูนย์การค้าต่างๆ ที่อยู่ในความร่วมมือมาโดยตลอด นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ยังมีพันธมิตรมากมายในหลายประเทศ ซึ่งล้วนมีศักยภาพและสามารถต่อยอดในการจับมือร่วมกันในการขยายการลงทุน

สยามพิวรรธน์ ขยับทัพบุกรีเทลโลก 3 ปี 11 ประเทศ
สยามพิวรรธน์ ขยับทัพบุกรีเทลโลก 3 ปี 11 ประเทศ

โดยขณะนี้เริ่มศึกษาและเจรจาแล้วในหลายประเทศ อาทิ จีน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ ขณะที่บางประเทศพร้อมที่จะให้เข้าไปลงทุนเร็วที่สุด โดยเบื้องต้นวางแผนงานที่จะเข้าไปลงทุนใน 11 ประเทศในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้

 

นางอุสรา กล่าวอีกว่า รีเทลวันนี้เปิดกว้าง มีหลากหลายแพลตฟอร์มที่ให้เข้าไปทำได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความพร้อม ซึ่งวันนี้เองสยามพิวรรธน์ก็เข้าร่วมในหลายแพลตฟอร์ม ทั้งแพลตฟอร์มที่มีอยู่ในประเทศนั้นๆ เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ที่บริษัทได้เข้าไปร่วม พร้อมนำสินค้าไปวางจำหน่ายแล้ว รวมทั้งแพลตฟอร์มที่บริษัทร่วมกับพาร์ทเนอร์พัฒนาขึ้นเอง

สยามพิวรรธน์ ขยับทัพบุกรีเทลโลก 3 ปี 11 ประเทศ
สยามพิวรรธน์ ขยับทัพบุกรีเทลโลก 3 ปี 11 ประเทศ

อย่างไรก็ดี แม้วันนี้กลุ่มธุรกิจค้าปลีกจะสร้างรายได้ในสัดส่วนราว 20% ของผลประกอบการรวมทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นหนึ่งใน Strategic Unit ของสยามพิวรรธน์ การประกาศขยายธุรกิจในต่างประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญที่เขย่าวงการรีเทลโลกไม่น้อย
#10575
ผญ.มากินข้าวน้ำตาลต่ำข้าวโภชนาการสูงคุณภาพดีสำหรับคุณแม่ให้นมลูก
โครงการข้าวอินทรีย์  เครือข่ายข้าวอินทรีย์สุรินทร์  การผลิตข้าวอินทรีย์ต้นทุนต่ำ  ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวปลอดสารพิษ)
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวเพื่อสุขภาพสุรินทร์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวมะลินิลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2. ข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวหอมมะลิสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิก, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ข้าวหอมผกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.  กลุ่มข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิออแกนิก
2.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคสำหรับทารก  ข้าวสุขภาพผกาอำปึล(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารพิษจังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค 6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออร์แกนิค
7.  กลุ่มข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าว

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์