• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#10546


โควิดระบาด ส่งผลให้ความต้องการเครื่องมือ-อุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงยาเวชภัณฑ์พุ่งต่อเนื่อง ดันยอดขายสินค้า" เทคโนเมดิคัล" และ " เซนต์เมด" โต ผู้บริหารยิ้มพร้อมปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่ม ขณะราคาหุ้น SMD-TM คึก โบรกฯ แนะ ซื้อ

ต้องยอมรับว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคดังกล่าว แต่ในหลายภาคธุรกิจกลับได้รับผลดีจากสภาวะดังกล่าว และหนึ่งในนั้นไม่พ้นผู้ผลิต แอลกอฮอล์ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ แมส ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) และอีกมากมายที่เกี่ยวเนื่องกัน ดังนั้น บริษัทที่ผลิตและขายสินค้าประเภทเหล่านี้ จึงคึกคักมาก

บริษัท จดทะเบียนหลายแห่งที่ได้รับผลดียิ้มรับ และปรับเป้าหมายรายได้ ตลอดจนการขยับขยายแผนงานการลงทุนเพื่อให้ทันความต้องการหรือดีมานด์ที่มีเข้ามาต่อเนื่อง บริษัทขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai อย่าง บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิต และบริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM มุ่งเน้นการขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่กลุ่มโรงพยาบาลและร้านยาเวชภัณฑ์เป็นหลัก จึงรับอานิสงส์เต็มสูบ

โควิดไม่คลาย TM ยอดขายพุ่งต่อเนื่อง

TM หรือ บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) แม้ว่าเดิมนั้น จะมุ่งเน้นการขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่กลุ่มโรงพยาบาลและร้านยาเวชภัณฑ์เป็นหลัก แต่เมื่อภาวะและ เพื่อการการเติบโตเพิ่มมากขึ้น TM ได้ตัดสินใจขยายฐานลูกค้าไปสู่ประชาชนทั่วไปหรือผู้บริโภครายย่อย โดยเปิดร้านค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ออนไลน์ภายใต้ชื่อแพลตฟอร์ม "TM CARE SHOP" อีกทั้ง ทั้งอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุ เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ และผลิตจากโรงงานของบริษัทที่ได้รับมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งหลังจากที่ TM เปิดให้บริการร้านค้าออนไลน์ TM CARE SHOP ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี

นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TM เผยว่าหลังโควิดระบาด อุปกรณ์ใช้สำหรับควบคุมการไหลของออกซิเจน (Oxygen High Flow) เครื่องผลิตออกซิเจนในความเข้มข้นที่สูง (Oxygen Concentrator) มีความต้องการมาก ในการดูแลผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงเครื่องฟอกอากาศ ดักจับฝุ่นป้องกันเชื้อโรค ซึ่ง TM ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสฯที่เจาะตลาด อย่าง สเปรย์พ่นจมูก (TAFFIX) สมุนไพรฟ้าทะลายโจร และ กระชายขาว ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ที่ TM เป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายอยู่ในกลุ่มประเภทป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น เห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวยังดีมานด์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

นอกจากได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 (Antigen test kit) ซึ่งเริ่มจำหน่ายมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีจุดเด่นของชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit ยี่ห้อ Humasis นั้นสามารถตรวจ Antigen โดยให้ความแม่นยำมากกว่า 90% ใกล้เคียงกับการตรวจแบบ Rt-PCR ที่มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือสูง พร้อมทั้งยังมีค่า Sensitivity อยู่ที่ 93-93.3% และมีค่า Specificity 99.1-100% โดยครอบคลุมการตรวจสอบได้เกือบทุกสายพันธุ์ โดย TM ขายทั้งในแบบ professional use และ home use ให้กลุ่มโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชน รวมถึงกลุ่มสมาคมร้านขายยาเวชภัณฑ์ และ กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้ยอดออเดอร์ Antigen test kit ดีมานด์พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ไตรมาส3/2564 TM มีรายได้จากยอดขายชัดเจน

"จากปัจจัยบวกในข้างต้นส่งผลให้บริษัท ฯ มั่นใจว่า ภาพรวม TM ตั้งแต่ในไตรมาส3 ปีนี้ มีโอกาสปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมคงตั้งเป้าการเติบโตปี2564 ที่ 700 ล้านบาท และเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำและตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ครบวงจรอันดับต้นๆ ของประเทศ " นางสุนทรีกล่าว

ทั้งนี้ สินค้าที่ TM มีมาร์เก็ตแชร์สูงสุดคือถุง สำหรับใช้เก็บสารคัดหลั่งระหว่างผ่าตัด ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าโรงพยาบาลรัฐอยู่ที่ 60% และลูกค้าโรงพยาบาลเอกชน 40% และมีแผนนำสินค้าใหม่ หรือเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวกับสมองเข้ามาจำหน่าย เพราะมีมาร์จิ้นสูง จากปกติบริษัทจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้กับหัวใจ เป็นต้น

นอกจากนี้ TM ยังก่อสร้างโครงการ "The Parents" ของ บริษัท ทีเอ็ม เนิร์สซิ่ง แคร์ จำกัด หรือ TMNC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ TM ล่าสุดมีความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการ "The Parents" ว่า ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้า The Parents ออกแบบก่อสร้างแล้วมากกว่า 95% คาดยื่นขออนุญาตก่อสร้างจากกรุงเทพมหานครได้เดือนตุลาคม 2564 และเปิดประมูลผู้รับเหมาก่อสร้างภายในพฤศจิกายน 2564 ก่อนจะก่อสร้างในเดือนมกราคม 2565

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการ The Parents Nursing Home นั้นขณะนี้คืบหน้า 30% โดยวางฐานราก วางโครงสร้างใต้ดิน และคานหลักของอาคาร และเริ่มขึ้นชั้น 1 ในเดือนกันยายนนี้แม้ก่อนหน้านี้ทางภาครัฐจะมีคำสั่งให้ปิดแคมป์คนงาน และหยุดก่อสร้าง 1 เดือน เพื่อยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่การวางแผนและการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพทำให้แผนการสร้างของ "The Parents" ยังคงเป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้น คาดทยอยเปิดให้บริการได้ภายในปี 2565

ทั้งนี้ หลังจาก "The Parents" เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบแล้วคาดว่าสัดส่วนรายได้ธุรกิจของ TM จะมีการเปลี่ยนแปลง โดย "The Parents" จะมีสัดส่วนรายได้เป็น 20% ของรายได้รวม และจะเพิ่มกลุ่มลูกค้าเงินสดให้เพิ่มสูง ทำให้ TM มีกระแสเงินสดเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจที่มากขึ้น ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของ TM แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

สำหรับ ธุรกิจในกลุ่ม "The Parents" มีธุรกิจหลัก ประกอบด้วย "โรงเรียนการบริบาล เดอะพาเร้นท์ส" เพื่อสร้างนักบริบาลสำหรับบริการผู้สูงอายุ รวมทั้ง "เดอะพาเร้นท์ส เนิร์สซิ่งโฮม" สำหรับบริการและดูแลผู้สูงอายุในทุกสภาวะของร่างกาย และ "โรงพยาบาลเวชศาสตร์ฟื้นฟู เดอะพาเร้นท์ส" สำหรับบริการดูแลผู้สูงอายุและประชาชนทั่วไปที่มีภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต จากโรคหลอดเลือดในสมองหรือจากอุบัติเหตุ การบาดเจ็บจากการทำงานที่ต้องการฟื้นฟู และทำกิจกรรมบำบัดเพิ่มสมรรถนะของร่างกายที่ดีขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจ "The Parents" ใช้งบในการลงทุนก่อสร้าง 450 ล้านบาท และ TM ถือหุ้น 80% ส่วนที่เหลือ 20% ถือหุ้นโดยกลุ่มแพทย์

SMD นำเข้า-ขายชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 คึก

สำหรับ บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิต นั้น เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับผลดีอย่างชัดเจนจากการเกิดระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุด ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้นำเข้าและวางจำหน่ายชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 แบบเร่งด่วน (SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test) หรือ ATK แบรนด์ Baicare แล้ว ซึ่ง ATK มีค่า Positive Predictive Value หรือค่าความน่าจะเป็นที่จะติดเชื้อโควิดจริงเมื่อ ATK ให้ผลบวก และมีค่า Negative Predictive Value หรือค่าความน่าจะเป็นที่จะไม่ติดเชื้อโควิด เมื่อ ATK ให้ผลลบ อยู่ในระดับดีมาก โดยอ้างอิงจาก Clinical Validation Report หรือผลการทดสอบจากโรงเรียนแพทย์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย

ทั้งนี้ ชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 แบบเร่งด่วน (SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test) จากผู้ผลิต Baicare (Tianjin) Biotechnology Co., Ltd. China เป็นชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Rapid Test) ด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างจากทางโพรงจมูก รู้ผลเร็วภายใน 15 นาที ถือเป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้เกิด Rapid Treatment หรือการรักษาพยาบาลมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้อัตราการแพร่กระจายเชื้อหรือการระบาดลดลงและสามารถลดอัตราการเสียชีวิตลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMD กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายชุดตรวจ ATK 100 ล้านบาท หรือมีมาร์เก็ตแชร์ในช่วง 1.5-2 % จากมูลค่าตลาดรวม 2,000 ล้านบาทต่อเดือน อ้างอิงจากความต้องการใช้ชุดตรวจ ATK มากกว่า 20 ล้านชุดต่อเดือน ซึ่งรัฐให้การสนับสนุนมาตรการทางภาษีให้ภาคเอกชนสามารถนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปหักภาษีค่าใช้จ่ายได้ 150 % ทำให้แนวโน้มความต้องการชุดตรวจ ATK เพิ่มต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ SMD ได้ร่วมมือกับ ปตท. หรือ PTT จัดตั้งโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการวิกฤต (ICU) โครงการลมหายใจเดียวกัน บริเวณหน้าโรงพยาบาลปิยะเวท มูลค่าครุภัณฑ์การแพทย์ทั้งสิ้น 86.90 ล้านบาท และรับใบสั่งซื้อครุภัณฑ์การแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 สำหรับโรงพยาบาลสนาม "CP WHA & CHULARAT" ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 เครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ โครงการดับบลิวเอชเอ เมกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ ชลหารพิจิตร จ.สมุทรปราการ มูลค่าครุภัณฑ์การแพทย์ ทั้งสิ้น 44.40 ล้านบาท รวมใบสั่งซื้อครุภัณฑ์การแพทย์สำหรับโรงพยาบาลสนามสองแห่ง มูลค่า 131.30 ล้านบาท

ทั้งนี้ แม้ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ของประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้น แต่หลักการพื้นฐานของระบาดวิทยามักจะพบว่าจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิดขาลงมักจะมีจำนวนที่ใกล้เคียงกับขาขึ้นเสมอ จึงทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่มีอาการหนักในระดับสีส้ม และสีแดง ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก

สำหรับการ จัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ดังกล่าวนั้น SMD ขายให้กับ โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลรัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลรัฐในสังกัดสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลรัฐในสังกัดกองทัพฯ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก นิติบุคคล และบุคคล มาเป็นระยะเวลามากกว่า 20 ปี มีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลังจากเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็พบว่าความต้องการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการหนักในระดับสีส้มและสีแดง

แม้ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ของประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ทำให้การตรวจคัดกรองผู้ป่วยเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากการเฝ้าระวังสังเกตอาการได้ด้วยตัวเองจากภายนอกแล้ว ปัจจุบันยังวัดผลได้จากค่าปริมาณความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation) โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Fingertip Pulse Oximeter อีกทั้งเครื่องมือชนิดนี้ยังใช้ใน Home Isolation และ Community Isolation ด้วย

ดังนั้น จากสถานการณ์ดังกล่าว SMD จึงนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดจากปลายนิ้ว (Fingertip Pulse Oximeter) ที่ได้รับการอนุญาตให้นำเข้าจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้แก่โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ล่าสุด SMD ได้เซ็นสัญญาซื้อขายและส่งมอบเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด 10,000 เครื่อง มูลค่ารวม 8 ล้านบาท ให้กับกองสร้างเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเซ็นสัญญาซื้อขายเพิ่มอีก 25,000 เครื่อง มูลค่า 20 ล้านบาท เมื่อต้นเดือนกันยายน กำหนดส่งมอบปีงบประมาณ 2564 รวมมูลค่าการสั่งซื้อ ทั้ง 2 สัญญา เป็นเงิน 28 ล้านบาท ซึ่งสนับสนุนมูลค่างานในมือที่รอส่งมอบ (Backlog) เพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท คาดรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดปีนี้ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2564 แตะ 1,200 ล้านบาท

"ความต้องการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่ง SMD ได้ตระหนักถึงความต้องการ จึงได้นำเข้าเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดเพื่อจัดจำหน่ายให้แก่โรงพยาบาลรัฐ เอกชน นิติบุคคล และบุคคล รองรับความต้องการที่มีอย่างต่อเนื่อง " ดร.วิโรจน์ กล่าว

โบรกฯแนะให้ "ซื้อ" SMD-TM

บล.เคทีบีเอสที แนะนำ "ซื้อ" SMD ให้ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท หลัง SMD ได้ใบสั่งซื้อครุภัณฑ์การแพทย์สำหรับโรงพยาบาลสนามสองแห่ง คือ รพ.บางปะกอก รพ.ปิยะเวท ร่วมกับบ PTT และ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 ร่วมกับ CP และ WHA รวมมูลค่า 131.30 ล้านบาท ซึ่งรายการนี้ไม่ได้รวมอยู่ใน backlog 300 ล้านบาท คาดก่อนหน้านี้ โดยเครื่องมือแพทย์ที่ PTT ซื้อคือ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดสัญญาณชีพ ซึ่งบริษัทมีของในสต๊อกจะส่งมอบไตรมาส 3/2564

อย่างไรก็ดี เครื่องให้น้ำเกลือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่จะต้องสั่งนำเข้ามา และอาจจะส่งมอบในไตรมาส 4/2564 ส่วนด้าน WHA มีการสั่งซื้อเครื่อง high-flow คาดส่งมอบได้ไตรมาส 3/2564 เช่นกัน นอกจากนี้ด้านชุดตรวจ Rapid Test Kit เริ่มวางขายแล้ว และตัวเลขมาร์จิ้นของการขายชุดตรวจได้ใกล้เคียงเครื่องมือแพทย์อื่น ๆ

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรไตรมาส 3/2564 อาจจะ surprise ตลาดได้อีกครั้ง หลังยอดขายทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถาณการณ์โควิดที่ยังมียอดติดเชื้อใหม่เหนือ 1 หมื่นคนต่อวัน ทั้งนี้ ยอดขายใหม่ที่ได้จาก PTT CP และ WHA จะช่วยชดเชยรายได้บางส่วนที่หายไป จากการส่งมอบสินค้า oxygen concentrator ไม่ทันราว 20 ล้านบาทในไตรมาส 3/2564

พร้อมกับ ปรับกำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้น 12% อยู่ที่ 193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปรับรายได้ขึ้นมาที่ 1.25 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากยอดขายเครื่องมือแพทย์ ที่มีความต้องการสูง โดยใช้ในห้อง ICU, Semi ICU และโรงพยาบาลสนาม

นอกจากนี้ปรับกำไรปี 2565 เพิ่มขึ้น 3% ที่ 198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่าความต้องการเครื่องมือแพทย์จะยังคงมีสูง และเครื่องให้ออกซิเจน O2Flow สำหรับผู้ป่วยที่หายจากโควิดแล้ว แต่การอักเสบของปอดอาจทำให้เกิดพังผืดในระยะยาว นอกจากนี้คาดบริษัทจะมีรายได้เสริมจากการขายเครื่องกระตุกหัวใจหลังกฎหมายยังคับใช้ในไตรมาส 1/2565 ประกอบกับการขยายธุรกิจเครื่องมือแพทย์ ให้เช่า และ Sleep Lab ซึ่งจะทำให้บริษัทมี recurring income คาดมีสัดส่วน 10% ของรายได้รวม

โดย ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 20.00 บาท อิง PER ปี 2565 ที่ 22.0 เท่า (avg. peer 23.0 เท่า) คาดว่าปี 2564 จะเติบโตได้โดดเด่นหลังการ IPO ซึ่งทำให้มีเงินสดหมุนเวียนมากขึ้น ทำให้บริษัทสามารถสต๊อกของเพื่อส่งมอบให้ทันต่อความต้องการเครื่องมือแพทย์อย่างเร่งด่วนช่วงวิกฤตโควิด ด้านปี 2565 บริษัทจะมีรายได้จากการขาย AED ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ให้เช่าและ Sleep lab โดยคาด EPS จะมี CAGR (2563-2566) เติบโตเพิ่มขึ้น 43% ซึ่งสูงกว่า avg. peer

บล.เอเชียเวลท์ ระบุภาพรวมการลงทุนช่วงนี้คาดว่า SET ยังคงปรับตัวผันผวน จึงยังคงแนะนำลงทุนในลักษณะ Selective จาก สัญญาณเชิงบวกต่อทิศทางการค้าโลก ดีต่อ Global Play และ ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับเพิ่ม ดีกับ Oil Play รวมถึงการ คลายล็อกดาวน์ ดีกับ Re-Opening และจากการที่ ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือด้วยด้านภาษี สำหรับการจัดหา ATK เร่งด่วน ฝ่ายวิจัยมองเป็นบวกต่อเครื่องมือแพทย์ เลือก TM, SMD, WINMED และ BJC พร้อมให้น้ำหนักหุ้นในกลุ่ม Earnings play เพื่อลดความผันผวนของ SET ที่จะเริ่มกลับมามีความเสี่ยงในช่วงปลายเดือน

จากข้อมูลข้างต้น ในสภาวะที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่เพียงทำธุรกิจเครื่องมือและการแพทย์รวมถึงยาเวชภัณฑ์ต่าง ๆ คึกคัก เพราะยังมีหลายธุรกิจเช่นกันที่ได้รับผลดีต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักถึงขั้นต้องปิดหรือยกเลิกกิจการ ซึ่งเป็นวัฏจักร เพราะทุกอย่างย่อมมีบวกและลบเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน
#10548


รัสเซียรายงานพบผูู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันมากถึง 852 คนในวันอังคาร(28ก.ย.) ถือเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศ ส่งผลให้ยอดตายสะสมแตะระดับกว่า 205,500 ราย อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก

สถิติเดิมพบผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 4 วันก่อน หรือวันที่ 24 กันยายน โดยวันนั้นมีผู้เสียชีวิต 828 ราย

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินยอมรับว่าภูมิภาคต่างๆของประเทศกำลังพบเห็นเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มสูงขึ้น ส่วน แอนนา โปปาวา หน้าสำนักงานกำกับดูแลสวัสดิภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค (Rospotrebnadzor) ของรัสเซีย บอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยากที่จะสรุปว่าเมื่อไหร่เคสผู้ติดเชื้อจะชะลอตัว ในขณะที่เวลานี้มีชาวรัสเซียไม่ถึง 50 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว

"ขอบอกว่า เรามีประชากรวัยผู้ใหญ่ 110-115 ล้านคน ในนั้นราว 47 ล้านคนฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว มันไม่ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรวัยผู้ใหญ่ของรัสเซีย ดังนั้นในวันนี้ เราจึงไม่มีเหตุผลใดที่สามารถพูดได้ว่าการแพร่ระบาดจะหยุดลง" ปาโปวากล่าว

รัสเซียเป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่เลวร้ายที่สุด รายงานมีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 7 ของโลก ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮ็อปกินส์ และปัจจุบันพวกเขากำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดระลอก 3

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ พบว่ายอดผู้ติดเชื้อสะสมของรัสเซียอยู่ที่ 7,464,708 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นอยู่ที่ 205,531 ราย

อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก สืบเนื่องจากแนวทางการจำแนกผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัสเซีย

แม้เป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติใช้วัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งก็คือ "สปุตนิก วี" ในเดือนสิงหาคม 2020 แต่รัสเซียยังคงล้าหลังชาติอื่นๆของโลก ในแง่ของจำนวนประชากรที่เข้าฉีดวัคซีน

รัสเซียประสบปัญหาอัตราการเข้าฉีดวัคซีนในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง อันมีต้นตอจากประชากรจำนวนมากยังคงลังเลเข้ารับวัคซีน โดยจนถึงตอนนี้มีประชาชนแค่ 1 ใน 4 ที่ฉีดวัคซีน ผิดกับสหรัฐฯที่มีประชาชนเข้ารับวัคซีนแล้วเกินครึ่ง ขณะที่สหราชอาณาจักรตัวเลขผู้เข้าฉีดวัคซีนทะลุ 2 ใน 3 แล้ว

ในความพยายามกระตุ้นจำนวนผู้เข้ารับวัคซีน เจ้าหน้าที่ในกรุงมอสโกออกคำสั่งในเดือนมิถุนายน ให้ภาคอุตสาหกรรมบริการต่างๆ ไล่ตั้งแต่รับจัดเลี้ยง ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการขนส่ง ฉีดวัคซีนพนักงานอย่างน้อยๆ 1 เข็ม ครอบคลุมอย่างน้อย 60% ของพนักงานทั้งหมดภายในช่วงกลางเดือนกรกฏาคม โดย เปสคอฟ บอกในตอนนั้นว่าแม้ไม่บังคับฉีดวัคซีน แต่พนักงานเหล่านั้นจะเสี่ยงตกงานหากไม่ยอมปฏิบัติตาม

เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา วังเครมลินเปิดเผยว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กำลังอยู่ระหว่างกักโรคตนเอง หลังคนใกล้ชิดของเขาหลายคนมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก แม้ ปูติน มีผลตรวจเป็นลบและ "แข็งแรงดี" ก็ตาม

(ที่มา:ซีเอ็นเอ็น)
#10549
   ขายปลีกและส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต้ะจีน คุณภาพดี

   ขายปลีกและส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต้ะจีนคุณภาพดี ขายส่งผ้าคลุมเก้าอี้ ราคาโรงงาน โรงงานขายผ้าคลุมโต๊ะจีน ราคาถูก ปลีกส่ง โบว์สำเร็จรูปราคาถูก คุณภาพดี   ขายส่งผ้าคลุมเก้าอี้เหล็กโต้ะจีน
  ขายโบว์โต้ะจีนสำเร็จรูปราคาถูก  คุณภาพดี
  ขายส่งผ้าคลุมเก้าอี้เหล็กโต้ะจีน  ขายปลีกส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต้ะจีน โบว์โต้ะจีนสำเร็จรูปราคาถูก
ขายปลีกส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต๊ะจีน ราคาโรงงาน ผ้าคลุมเก้าอี้จีนราคาถูก คุณภาพดี โรงงานขายเอง ขายผ้าคลุมโต๊ะจีนราคาโรงงาน ขายปลีกส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต้ะจีน โบว์โต้ะจีนสำเร็จรูปราคาถูก คุณภาพดี ที่นี่เลยจ้า เชิญสอบถามราคาพร้อมดูตัวอย่างจริงก่อนตัดสินใจ ฟรีๆ ได้เลยจ้า ผ้าคลุมเก้าอี้ ราคาเบาๆ เริ่มต้น 40 บาท,โต๊ะ 85 บาท,โบว์สวยๆ 25 บาทจ้า การันตีผลงาน 10 กว่าปี ผลงานจากหลายโต๊ะจีนหลายโรงแรม ผ้าดีเนื้อแน่น ใช้นาน

ขายผ้าคลุมโต๊ะจีนราคาโรงงาน ขายปลีกส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต้ะจีน โบว์โต้ะจีนสำเร็จรูปราคาถูก 
  ขายส่งผ้าคลุมเก้าอี้เหล็กโต้ะจีน
ผ้าคลุมเก้าอี้พลาสติก ผ้าคลุมเก้าอี้ ผ้าไฮเกรด ราคาเบาๆ เริ่มต้น 40 บาท
ผ้าคลุมเก้าอี้ 4 way เริ่มต้น 50 บาท ผ้าคลุมเก้าอี้ ผ้าวอร์มมัน เริ่มต้น 60 บาท ผ้าคลุมเก้าอี้ ผ้ามองค์ เริ่มต้น 70 บาท

ขายส่งผ้าคลุมเก้าอี้เหล็กโต้ะ ผ้าคลุมเก้าอี้ราคาโรงงาน ผ้าไฮเกรด ราคาเบาๆ เริ่มต้น 75 บาท ผ้าคลุมเก้าอี้ 4 way เริ่มต้น 80 บาท ผ้าคลุมเก้าอี้ ผ้าวอร์มมัน เริ่มต้น 100 บาท ผ้าคลุมเก้าอี้ ผ้ามองค์ เริ่มต้น 120 บาท

ขายผ้าคลุมโต๊ะจีนราคาโรงงาน ขายปลีกส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต้ะจีน โบว์โต้ะจีนสำเร็จรูปราคาถูก
ขายผ้าคลุมโต๊ะกลมโต้ะจีนราคาโรงงาน เริ่ม 85 บาท ผ้าคลุมโต๊ะเหลี่ยมราคาถูก เริ่ม 300 บาท ผ้าลูกไม้เริ่ม 80 บาท

ขายผ้าคลุมโต๊ะจีนราคาโรงงาน ขายปลีกส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต้ะจีน โบว์โต้ะจีนสำเร็จรูปราคาถูกคุณภาพดี

โบว์โต้ะจีนสำเร็จรูปราคาโรงงาน  25 บาท/ผืน โบว์ไหมแก้วราคา 40 บาท/ผืน และรับผลิต ผ้าคลุมเตียง สเกิร์ตเตียง ปลอกหมอน เบาะ ผ้าม่านเวที ผ้าม่าน และ Backdrop

ผ้ารันเนอร์ และผ้าคลุมอิ่นๆ โรงงานโดยตรง เราผลิตเอง ไม่ผ่านคนกลางจร้า การันตีผลงาน 10 กว่าปีผลงานจากหลายโต๊ะจีนหลายโรงแรม ผ้าดีเนื้อแน่น ใช้นาน


สอบถามราคาพร้อมส่งตัวอย่างจริงก่อนตัดสินใจ ฟรี! *พร้อมบริการสกรีน ราคาสกรีนขึ้นอยู่กับขนาดและลายสกรีนจร้า
ติดต่อ naradaintertrade  098-2857546,086-3314094 Line : @naradainter Line : naris_80 

www.naradainter.com

รายละเอียดเพิ่มเติม

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://cosana.xyz/?p=78

คำค้น

ขายผ้าคลุมโต๊ะจีนราคาโรงงาน, ขายปลีกส่งผ้าคลุมเก้าอี้โต้ะจีน, โบว์โต้ะจีนสำเร็จรูปราคาถูก, ขายส่งผ้าคลุมเก้าอี้ราคาโรงงาน,โรงงานขายผ้าคลุมโต๊ะ, ผ้าคลุมเก้าอี้ราคาถูก , ผ้าคลุมเก้าอี้พลาสติกราคาโรงงาน , ผ้าคลุมเก้าอี้เหล็กราคาถูก, ผ้าคลุมเตียงราคาส่ง , ผ้าคลุมโต๊ะจัดเลี้ยงราคาโรงงาน , โบว์สำเร็จรูปราคาถูก
#10550
ขายบ้านบางระจัน 126วา ขายถูก โทร 0837124115
#10551
ยินดีให้บริการ ทุกขนาดพื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#10553


โรงพยาบาลต่างๆในนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์(27ก.ย.) เริ่มไล่ออกหรือพักงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่เพิกเฉยคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 ของทางรัฐ ผลก็คือก่อภาวะเจ้าหน้าที่ขาดแคลน ทำให้โรงพยาบาลบางแห่งต้องเลื่อนผ่าตัดเคสไม่เร่งด่วนออกไปหรือไม่ก็จำกัดงานบริการบางอย่าง

บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าโรงพยาบาลต่างๆของเมืองยังไม่พบเห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากคำสั่งบังคับฉีดวัคซีน พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับพื้นที่อื่นๆของรัฐนิวยอร์ก ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่าในนิวยอร์กซิตี

โฆษกของคาทอลิกเฮลธ์(Catholic Health) หนึ่งในผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขรายใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันตกของนิวยอร์ก เปิดเผยว่าทางสถานพยาบาลแห่งนี้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเต็มที่ มีทั้งเจ้าหน้าที่ที่ฉีดวัคซีนตามข้อบังคับและคนที่ได้รับการยกเว้น และมีบางส่วนที่ถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

โจแอนน์ คาวานาห์ โฆษกของ คาทอลิกเฮลธ์ ปฏิเสธให้ข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่มากน้อยแค่ไหนที่ถูกพักงานหรือได้รับการยกเว้นสืบเนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์หรือศาสนา แต่ยอมรับว่าทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องเลื่อนการผ่าตัดเคสไม่เร่งด่วนออกไป "จำนวนเล็กน้อย"

ศูนย์การแพทย์เอรี เคาน์ตี ในบัฟฟาโล ระงับการผ่าตัดผู้ป่วยในที่ไม่เร่งด่วนและหยุดรับผู้ป่วยไอซียูจากโรงพยาบาลอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาเตรียมไล่ออกเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จากการเปิดเผยของโฆษก

ปีเตอร์ คัทเลอร์ โฆษกศูนย์การแพทย์เอรี เคาน์ตี ยอมรับว่าการตัดสินใจจำกัดปฏิบัติการบางอย่างจะก่อความไม่สะดวกกับคนไข้ และส่งผลกระทบทางการเงินกับโรงพยาบาล เนื่องจากการผ่าตัดผู่ป่วยในที่ไม่เร่งด่วนนั้น ก่อรายได้แก่โรงพยาบาลราวๆ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อสัปดาห์

ความพยายามผลักดันฉีดวัคซีนครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำทางการเมืองรัฐอื่นๆและผู้นำทางการเมืองรัฐบาลกลาง ยกระดับกดดันชาวอเมริกันชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน บางรายในนั้นต่อต้านการฉีดวัคซีนในเหตุผลทางศาสนาและสุขภาพ

กระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวยอร์กออกคำสั่งเมื่อเดือนที่แล้ว บังคับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคนต้องเข้ารับวัคซีนอย่างน้อยๆ 1 เข็มภายในวันที่ 27 กันนายน กระตุ้นให้โรงพยาบาลต่างๆเร่งรีบผลักดันให้ลูกจ้างฉีดวัคซีน

นายแพทย์มิตเชลล์ คาทซ์ ประธานคณะกรรมการสาธารณสุขและโรงพยาบาลนิวยอร์กซิตี กล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับบลาซิโอ ว่าในโรงพยาบาลรัฐ 11 แห่งของนิวยอร์กซิตี มีเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น 43,000 ราย ในนั้นราว 5,000 รายยังไม่ฉีดวัคซีน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์(25ก.ย.) เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เผยว่าเธอกำลังพิจารณาเสริมบุคลากรจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์จากนอกรัฐ เข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ขาดแคลน โดยจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมากกว่า 450,000 คนทั่วรัฐ มีอยู่ 16% ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน

ศาลกลางแห่งหนึ่งในออลบานี ออกคำสั่งชั่วคราวถึงเจ้าหน้าที่รัฐนิวยอร์ก ให้กำหนดข้อยกเว้นทางศาสนา ในคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ขณะที่ศาลอุทธรณ์กลางอีกแห่งในวันจันทร์(27ก.ย.) วินิจฉัยว่านิวยอร์กซิตี สามารถบังคับครูและเจ้าหน้าที่สถาบันการศึกษาทุกคนให้ฉีดวัคซีน กลับคำพิพากษาเบื้องต้นที่ให้ระงับมาตรการบังคับฉีดวัคซีนบุคลากรด้านการศึกษา

(ที่มา:รอยเตอร์)
#10554
ยินดีให้บริการ ทุกขนาดพื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#10555


การแข่งขันวอลเลย์.เยาวชนชายอายุต่ำกว่า 21 ปีชิงแชมป์โลก ณ เมืองคาร์โบเนีย ประเทศอิตาลี เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564 รอบจัดอันดับ 9-16 สาย G ระหว่างทีมชาติไทย พบ โมร็อกโก

ผลปรากฎว่า ทีมชาติไทย สามารถเอาชนะไปได้แบบไม่ยากเย็น 3 เซตรวด 25-12, 25-15, 25-22

โดยเกมนี้ จักรกฤษณ์ จันทร์ไตร เป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดให้ทีมชาติไทย สามารถทำได้ 13 คะแนน ตามด้วย สุทธิพงษ์ ดรหลักคำ และคมศร ภาษี ทำเพิ่มคนละ 10 คะแนน

ขณะที่นัดต่อไป ทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ อียิปต์ ที่เคยเอาชนะมาได้แล้วในรอบแรก วันอังคารที่ 28 กันยายนนี้ เวลาเที่ยงคืน ตามเวลาประเทศไทย
#10556


TCEB จับมือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ TIEFA จัดงานเทศกาลไฮบริด "ปลุกเมืองหัวหิน ด้วยงานเทศกาล HUAHIN HOP FEST 2021" รวมกูรูชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทย ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ศิลปะวัฒนธรรม และดนตรี ร่วมเสวนาออนไลน์ ตอกย้ำอัตลักษณ์เมืองหัวหินในมุมมองใหม่ ผ่าน Festival Economy พบการจัดงานในรูปแบบไฮบริด ที่ผสมผสานงาน Online และ Showcase อย่างยิ่งใหญ่ไว้ด้วยกัน เริ่มวันที่ 27 กันยายนนี้

นางหริสุดา บุญยวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ร่วมกับ เทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA) จัดงาน เทศกาลไฮบริด "ปลุกเมืองหัวหิน ด้วยงานเทศกาล HUA HIN HOP FEST 2021" สืบเนื่องจากปฏิบัติการเชิง Quick win ภายใต้โครงการ Thailand Riviera ของ TCEB ที่มีเป้าหมายการสร้างเศรษฐกิจผ่านงานเทศกาลตามนโยบาย 1 เมือง 1 สิทธิบัตรงานเทศกาล โดยใช้ Festival Economy เป็นเครื่องมือในการวางรากฐานการสร้างมรดกทางเศรษฐกิจใหม่ ให้แก่เมืองหัวหิน เพื่อเพิ่มมูลค่า ยกระดับ และส่งออกงานเทศกาลที่เกิดจากสิ่งที่เป็นอัตลักษณ์และจุดเด่นของเมืองให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ผ่านการสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างเมือง ชุมชน และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่

"TCEB ได้ร่วมมือกับ เมืองหัวหิน และ TIEFA ในการออกแบบ Festival Design โดยให้เมืองหัวหินเป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องของโครงการ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีมรดกทางศิลปะวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และดนตรี
ที่เด่นชัดในแง่ของ City of DNA ที่ระบุชัดว่าเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพไม่แพ้เมืองแถบทวีปยุโรป หรือประเทศอื่น ๆ ที่สรรค์สร้างเป็นเมืองแห่ง Riviera ซึ่งการจัดงาน HuaHin Hop Fest 2021 หรือเทศกาลแห่งศิลปะวัฒนธรรม จะเป็นการควบรวม สถาปัตย์ ดนตรี และกีฬา โดยนำต้นทุนและมรดกในอดีตของเมืองหัวหิน มาเล่าใหม่ในคอนเซ็ปต์ Nostalgia : เมืองเก่า เล่าใหม่ เชื่อมโยงกับการสร้างมรดกทางเศรษฐกิจใหม่ โดยนำเทคโนโลยีออนไลน์เข้ามามีบทบาทในการสื่อสารและสร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างงานเทศกาลให้เดินหน้าต่อได้แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด ซึ่งความรู้ความสามารถของวิทยากรที่ให้เกียรติมาร่วมงาน จะถูกขยายผลบน Platform Online อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะทำให้เกิดระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่ และผลกระทบเชิงเศรษฐกิจในพื้นที่อันเนื่องมากจากการเช้าร่วมงานเทศกาล ส่งผลให้ชุมชน ผู้ประกอบการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้ที่เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมงาน ได้มีโอกาสทางเศรษฐกิจร่วมกันอย่างเต็มที่"

นายประยงค์ จันทเต็ง นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ "เมืองหัวหิน" ถูกหมุดหมายให้เป็นจังหวัดนำร่องภายใต้โครงการ Thailand Riviera ที่มีเป้าหมายการสร้างเศรษฐกิจผ่านการจัดงานเทศกาล และจากความร่วมมือระหว่าง TCEB และ TIEFA รวมถึง ภาครัฐและเอกชนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ร่วมกันระดมความคิดสร้างสรรค์และออกแบบ Festival Design ที่ตกผลึกทางความคิดจากมรดกทางศิลปะ และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองหัวหิน จึงเกิดเป็นงานเทศกาลไฮบริด "ปลุกเมืองหัวหิน ด้วยงานเทศกาล HUA HIN HOP FEST 2021" ที่เราชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทุกคนมีความภาคภูมิใจ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการนำเสนออัตลักษณ์ และความเป็น "เมืองหัวหิน" ที่มีเรื่องเล่าขานมากมายที่จะถูกหยิบยกมานำเสนอในมิติและแนวคิดใหม่ ถูกถ่ายทอดผ่านวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถตลอดการจัดงาน 3 วัน รวมถึงการสร้างงานเทศกาลจริงบนพื้นที่เพื่อเป็นการนำร่องของพื้นที่ สร้างความตื่นตัวในการมีงานเทศกาล บนพื้นที่จริงในเมืองหัวหิน ผ่านการ Showcase ของการแสดงผลงานศิลปะ สถาปัตย์ และดนตรี ในช่วง เดือนตุลาคม และ พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งการขยายผลนี้นำไปสู่การปั้นเมือง เชื่อมโยงทุกส่วนเข้าด้วยกันโดยใช้งานเทศกาลเป็นเครื่องมือ เพื่อสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่ให้แก่เมืองหัวหินอย่างยั่งยืน อีกทั้งจะช่วยขยายผลและสร้างความตื่นตัวให้กับเมืองหัวหิน และเป็นการเตรียมนำร่องจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สู่การเป็นเมืองที่ถูกบูรณาการเพื่อการท่องเที่ยวอีกแห่งของเมืองไทย

สำหรับเทศกาลไฮบริด "ปลุกเมืองหัวหิน ด้วยงานเทศกาล HUA HIN HOP FEST 2021" จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริดผสมผสานการจัดงานเทศกาลทั้งแบบ Online ควบคู่กับการจัดงาน showcase โดยรวมวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถและมีชื่อเสียงในด้านต่างๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ศิลปะวัฒนธรรม และดนตรี ไว้มากถึง 14 ท่าน ที่จะมาร่วมสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อต่างๆ โดยใน วันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564 พบการสัมมนาหัวข้อ "เสน่ห์สถาปัตย์เก่า มาเล่าใหม่" วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม 2564 การสัมมนาหัวข้อ "Hua Hin Art Awake!" วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2564 การสัมมนาหัวข้อ "หัวหินจะกลายเป็น World Music City ได้หรือไม่" ระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม 2564 พบกับกิจกรรม Showcase Hua Hin Art Fest ผ่านการแสดงศิลปะแบบลอยตัว และ Archi Fest ผ่านการฉายภาพ Mapping ครั้งแรกในเมืองหัวหิน และในเดือนพฤศจิกายน 2564 กับกิจกรรม Hua Hin Music City ผ่านการแสดงของดนตรีที่หลากหลาย ให้เมืองหัวหินกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์สามารถสแกน QR Code เพื่อเข้าสู่ระบบการลงทะเบียน ระบบจะส่งลิงค์การเข้าร่วมงานทางอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ติดตามข้อมูลการจัดงานและสามารถรับชมได้ทาง Facebook Fanpage : TIEFA.Thailand.
#10558
ขายบ้านบางระจัน 126วา ขายถูก โทร 0837124115
#10559


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 ก.ย. 2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (24 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทสลาและหุ้นเฟซบุ๊ก ซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นไนกี้ นอกจากนี้ ตลาดยังคลายความวิตกเกี่ยวกับปัญหาของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ของจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,798.00 จุด เพิ่มขึ้น 33.18 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,455.48 จุด เพิ่มขึ้น 6.50 จุด หรือ +0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,047.70 จุด ลดลง 4.54 จุด หรือ -0.03%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ และนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ของจีน รวมถึงการเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่อ่อนแอของเยอรมนี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 463.29 จุด ลดลง 4.21 จุด หรือ -0.90%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,638.46 จุด ลดลง 63.52 จุด หรือ -0.95%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,531.75 จุด ลดลง 112.22 จุด หรือ -0.72% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,051.48 จุด ลดลง 26.87 จุด หรือ -0.38%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ (24 ก.ย.) ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้บดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มพลังงาน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,051.48 จุด ลดลง 26.87 จุด หรือ -0.38%

ความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (24 ก.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยได้แรงหนุนจากภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัว ประกอบกับอุปสงค์ที่เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 73.98 ดอลลาร์/บาร์เรล และในรอบสัปดาห์นี้ พุ่งขึ้น 3%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 78.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561 และในรอบสัปดาห์นี้ พุ่งขึ้นเกือบ 3.7%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (24 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการที่จีนทำการกวาดล้างธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโต และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับบริษัทเอเวอร์แกรนด์ของจีนนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,751.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 30 เซนต์ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 25.4 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 22.425 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 17.1 ดอลลาร์ หรือ 1.72% ปิดที่ 979.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20.70 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,951.10 ดอลลาร์/ออนซ์

--ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (24 ก.ย.) ขณะที่เงินยูโรและปอนด์อ่อนค่าลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.32% แตะที่ 93.3266 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.78 เยน จากระดับ 110.23 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9250 ฟรังก์ จากระดับ 0.9234 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2660 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2648 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1716 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1747 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3660 ดอลลาร์ จากระดับ1.3732 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7256 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7308 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,798.00 จุด เพิ่มขึ้น 33.18 จุดฐ +0.10%,

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,455.48 จุด เพิ่มขึ้น 6.50 จุด, +0.15%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,047.70 จุด ลดลง 4.54 จุด, -0.03%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,051.48 จุด ลดลง 26.87 จุด, -0.38%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,638.46 จุด ลดลง 63.52 จุด, -0.95%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,531.75 จุด ลดลง 112.22 จุด, -0.72%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 60,048.47 จุด เพิ่มขึ้น 163.11 จุด, 0.27%


X


ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,144.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด, +0.03%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,532.06 จุด ลดลง 7.28 จุด, -0.47%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,951.53 จุด เพิ่มขึ้น 36.25 จุด, +0.52%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,061.35 จุด ลดลง 15.09 จุด, -0.49%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,613.07 จุด ลดลง 29.15 จุด หรือ -0.80%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,260.19 จุด เพิ่มขึ้น 181.97 จุด, +1.07%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,125.24 จุด ลดลง 2.34 จุด, -0.075%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,342.60 จุด ลดลง 27.60 จุด -0.37%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,649.30 จุด ลดลง 32.00 จุด, -0.42%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,155.40 จุด ลดลง 355.58 จุด หรือ -1.45%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 30,248.81 จุด เพิ่มขึ้น 609.41 จุด, +2.06%
#10560


ธปท. แนะเจ้าหนี้-ลูกหนี้ประนีประนอมกันมากขึ้น ลด "เส้นแบ่ง" จับมือฝ่าวิกฤต ยันพร้อมออกมาตรการหนุนธุรกิจปรับตัวรับการแข่งขันในโลกยุคใหม่ที่กระแส "ดิจิทัล-ESG" มาแรงและเร็ว พร้อมขอบคุณรัฐบาลขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70%

วันที่ 27 กันยายน 2564 นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการบรรยายพิเศษ หัวข้อ มาตรการช่วยเหลือและการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยยุคโควิด ในงานประชุมสามัญประจำปี 2564 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า  ประเทศไทยเคยผ่านวิกฤตที่หนักหน่วงมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตปี 2540 วิกฤตการเงินโลกปี 2551 วิกฤตน้ำท่วมปี 2554 และมาถึงวิกฤตรอบนี้ ซึ่งหนักกว่ารอบก่อน ๆ แต่ภาคอุตสาหกรรมไทยจะผ่านพ้นไปได้อีกครั้ง เพราะมีความเข้มแข็ง สามารถปรับตัวได้เร็ว 

โดยเห็นได้จากปีที่แล้ว ในช่วง lockdown ที่ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงจากระดับก่อนโควิดถึง 20% แต่สามารถฟื้นกลับมาได้ใน 4 ไตรมาส เช่นเดียวกับช่วงน้ำท่วมปี 2554 ที่ดัชนีฯ ลดลงถึงเกือบ 30% แต่สามารถฟื้นกลับมาได้ภายใน 2 ไตรมาส จึงเชื่อว่า ท้ายที่สุด จะผ่านพ้นจากวิกฤตนี้ไปได้ แต่จะพ้นอย่างไร ในแบบที่ให้คนรอดมากที่สุด ลดแผลเป็นให้เหลือน้อยที่สุด

"สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงแค่แต่ละภาคส่วนทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจในบทบาทและข้อจำกัดของกันและกัน เพื่อไม่ให้เกิด "เส้นแบ่ง" ว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นของลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ ลูกจ้างหรือนายจ้าง รายเล็กหรือรายใหญ่ เพราะทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย และแต่ละคนก็อยู่ในหลายบทบาท มีหมวกหลายใบที่ต้องสวม ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านเป็นเจ้าของธุรกิจ SMEs ท่านก็อาจเป็นลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ แต่ในขณะเดียวกัน ท่านก็อาจเป็นเจ้าหนี้การค้า และเป็นนายจ้างของลูกจ้างด้วย ดังนั้น การหันหน้าเข้าหากัน การประนีประนอมกันมากขึ้น และมองให้รอบด้าน จะทำให้เราเห็นทางออกในการก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันได้อีกครั้ง" ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว


นายเศรษฐพุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการต่าง ๆที่ทำไปแล้ว เป็นมาตรการที่ออกมาเป็นการเน้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจและรายย่อยผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปให้ได้มากที่สุด แต่แน่นอนว่าคงยังไม่เพียงพอสำหรับระยะข้างหน้า ที่ธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทาย และต้องพยายามเติบโตให้ได้อย่างยั่งยืนในโลกยุคใหม่ ซึ่ง ธปท. พร้อมมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนและจูงใจให้ทุกฝ่ายสามารถปรับตัวได้ในช่วงเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่นและทันการณ์

ทั้งนี้ การปรับตัวที่จำเป็นต่อการวางรากฐานให้ธุรกิจและเศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งระยะข้างหน้ามีหลายเรื่องเป็นกระแสใหม่ แต่จะมีอย่างน้อย 2 กระแสสำคัญที่มาแรงและมาเร็ว ที่ทุกคนต้องเตรียมรับมือ อย่างแรกคือ กระแสดิจิทัล และ กระแส ESG (Environmental, Social, and Governance) 

"สองกระแสดังกล่าว นับวันจะยิ่งมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ที่สำคัญ เราต้องออกจากวิกฤตนี้ด้วยแผลเป็นที่น้อยที่สุด และมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการปรับตัวรองรับกระแสโลกใหม่ได้ดีขึ้น" นายเศรษฐพุฒิกล่าว

นายเศรษฐพฺฒิ กล่าวว่า สำหรับภาคธุรกิจ ภายใต้บริบทที่ปัจจัยภายนอกมีความไม่แน่นอนสูง การวางแผนทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง การดำเนินกิจการหรือการลงทุนใหม่ จะต้องให้น้ำหนักมากขึ้นกับกระแสโลกใหม่ ทั้งการให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง และกระแสเรื่องดิจิทัลที่จะทำให้ธุรกิจต้องแข่งขันกันมากขึ้น 


ในส่วนของประชาชน ต้องเตรียมรับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ เร่งวางแผนทางการเงิน จัดเตรียมเงินสำรองสำหรับใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ทางการเงินมากขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มความสำคัญกับการเท่าทันกับกระแสดิจิทัล เพราะนอกจากจะเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับงานในโลกใหม่แล้ว ยังช่วยป้องกันการหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ที่อาจมีเพิ่มขึ้นได้

ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวด้วยว่า ในส่วนของภาครัฐเอง ต้องปรับตัวไปสู่การเป็น facilitator โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของเอกชนมากขึ้น และในการแก้ปัญหาวิกฤตโควิดนี้ ภาครัฐได้ดำเนินนโยบายแบบ countercyclical เพื่อเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน

"ต้องขอบคุณภาครัฐ ที่ล่าสุดได้ขยายเพดานหนี้สาธารณะให้สูงขึ้นเป็น 70% แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะดูแลสถานการณ์ให้ได้มากขึ้นและต่อเนื่อง แต่ก็ต้องใส่ใจกับการใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้น ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เพื่อให้เศรษฐกิจกลับไปเติบโตอย่างเต็มศักยภาพได้ยั่งยืน" ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว