ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ขอบคุณแอดมินค่ะ

จัดเลยค่ะ

 
Samui Elephant Home
Welcome to the largest elephant sanctuary on Koh Samui

      ยินดีต้อนรับสู่บ้านช้างสมุย พวกเราได้เปิดตัวแผนการใหม่อย่างภาคภูมิใจเพื่อเพิ่มการเล่าเรียน ความเข้ากันได้ และความรู้ความเข้าใจระหว่างมนุษย์รวมทั้งช้างในฐานะสิ่งมีชีวิต การดูแลรักษาสุขภาพช้างเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะว่าจำนวนสัตว์สำหรับการดูแลของพวกเราเพิ่มขึ้น

      Welcome to Samui Elephant Home. We have proudly launched a new project to increase learning, compatibility, and understanding between humans and elephants as sentient beings. Maintaining the health of our elephants is paramount as the number of animals in our care increases.

    

 ติดตามเราได้จากเว็บไซต์ samui elephant sanctuary https://www.samuielephanthome.com/

     พวกเราคิดแผนที่จะสร้างโรงพยาบาลช้างที่แรกบนเกาะสมุย ที่บ้านช้างสมุย คุณจะได้โอกาสได้มีส่วนร่วมและมีส่วนร่วมสำหรับการดูแลช้างด้วยการให้อาหารและก็สนทนากับช้างของเราเพื่อสังเกตว่าช้างพวกนี้เป็นความประพฤติปฏิบัติตามธรรมชาติ ร่วมอาบน้ำกับช้าง ศึกษาค้นพบจุดเด่นของมูลช้างสำหรับเพื่อการผลิตกระดาษออร์แกนิก และเยี่ยมชมโรงเลี้ยงช้างของเราสำหรับสัตว์ป่วยไข้ ผู้ดูแลหลักของพวกเราเป็นสัตวแพทย์และก็ข้าราชการกรมปศุสัตว์ เราทุกคนสามารถช่วยเลี้ยงดูช้างได้โดยการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงจริยธรรมที่จริงหัวใจแล้วก็มีประโยชน์

      We plan to build the very first elephant hospital on Koh Samui. At Samui Elephant Home, you will have an opportunity to participate and engage in hands-on elephant care by feeding and communing with our elephants to observe they are natural behavior. Participate in bathing with elephants, discover the advantages of elephant dung for organic paper production, and visit our elephant nursery for sick animals. Our primary caregivers are veterinarians and officers from the Department of Livestock Development. We can all assist in elephant care by supporting sincere and beneficial ethical tourism.

    


โครงการดูแลช้าง
     บ้านช้างสมุย
ในฐานะโรงพยาบาลช้างแห่งแรกบนเกาะสมุย โครงการของเรามุ่งเน้นไปที่การดูแลช้างแล้วก็การอยู่ร่วมกับมนุษย์ ถ้าเป็นได้ เราตั้งเป้าที่จะนำช้างของพวกเรากลับสู่ป่า

Elephant Care Project
SAMUI ELEPHANT HOME
As the first elephant hospital on Koh Samui, our project focuses on elephant care and coexistence with humans. If possible, we aim to return our elephants to the forest.

โครงงานนี้ประกอบด้วยสามขั้นตอน ประการแรกคือการก่อตั้งศูนย์อนุบาลช้างที่จำเป็นร่วมกับกรมปศุสัตว์ เพื่อติดตามสุขภาพของช้างของเราและรักษาโรคและก็การรับเชื้อ ประการลำดับที่สองคือการขยายสถานรับเลี้ยงเด็กรวมทั้งจัดตั้งคลินิกแล้วก็แผนกปศุสัตว์ที่ปางช้าง ในขณะเดียวกัน ขั้นตอนสุดท้ายคือการระดมทุนเพื่อปรับปรุงโรงหมอช้างเพื่อรักษาช้างที่ป่วยไข้ 

This project is consists of three steps. The first is to set up an essential elephant nursery care center, in collaboration with the Department of Livestock Development, to monitor the health of our elephants and treat disease and infection. The second is expanding the nursery and establishing a clinic and livestock department at the elephant camp. At the same time, the final step involves fundraising to develop an elephant hospital to treat sick elephants.

เราวางแผนที่จะคืนช้างสู่ถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติเพื่อรักษาธรรมชาติและก็เพิ่มช้างเอเชียที่มีอิสรภาพ We plan to return elephants to their natural wild habitat to maintain nature and increase the number of freeAsian elephants

     

    samui elephant sanctuary   |   samui elephant haven   |   koh samui elephant sanctuary   |   koh samui elephant 

ที่มา บทความ samui elephant haven https://www.samuielephanthome.com/
 
 

รับสมัครนักศึกษาฝึกงาน วุฒิ ปวช , ปวส และปริญญาตรี เฉพาะสาขาบัญชี  มีค่าตอบแทนคิดเป็นรายวัน
ทำงานตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์  เวลา 08:00 -17:00 น.

เคยไหม?! จะเลือกซื้อแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศทั้งที แต่ว่าก็เลือกที่ชื่นชอบไม่ได้ อยากลองศึกษารีวิวก็ไม่โดน แถมอากาศประเทศไทยก็ร้อนได้ใจดีเหลือเกิน ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว อย่าพึ่งคิดมากแล้วก็ลองมาศึกษารีวิวตรงนี้ดูก่อน เนื่องจากได้ทำการเลือกเฟ้นแอร์ที่น่าสนใจมาไว้ให้แล้ว 3 ยี่ห้อด้วยกัน แต่ละแบรนด์บอกเลยว่ามีคุณภาพสูง คุ้มค่ากับการใช้งานแน่นอน

รีวิว 3 เครื่องปรับอากาศแบรนด์ไหนดี เย็นฉ่ำสะใจ น่าใช้งานสุดๆ

1. Mitsubishi MSY-GT18VF 17742 บีทียู อินเวอร์เตอร์

เริ่มต้นด้วยแบรนด์แรกกับแอร์ Mitsubishi รุ่น MSY-GT18VF 17742 บีทียู อินเวอร์เตอร์ ถือเป็นสุดยอดเทคโนโลยีแอร์ทำความเย็นที่ทำงานเงียบมาก มาพร้อมกับคอมเพรสเซอร์แบบ Inverter ประหยัดพลังงานขั้นสุด สามารถส่งลมไกลถึง 12 เมตร ทำให้เย็นได้ทั่วทุกมุมห้อง มีฟังก์ชัน Fast Cool ที่เพิ่มพลังความเย็นได้ภายใน 15 นาทีเท่านั้น มี Sleep Mode ที่ช่วยให้การพักผ่อนหย่อนใจของคุณหลับสนิทตลอดคืน สะดวกด้วยฟังก์ชัน Wide Mode ที่กระจายความเย็นไปได้ทั้งยังซ้าย และขวาได้มากกว่า 6 ทิศทาง มีสารพิเศษเคลือบระบายความร้อนของพัดลมด้วย

2. Carrier 42TVAB013-W/38TVAB013 12200 บีทียู อินเวอร์เตอร์

มาต่อกันที่แอร์ Carrier รุ่น 42TVAB013-W/38TVAB013 12200 บีทียู อินเวอร์เตอร์กันบ้าง โดยจะมีระบบฟอกอากาศแบบประจุ X-Ionizer ช่วยดักจับฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงกลิ่นไม่พึงปรารถนาต่างๆที่รบกวนด้วย มีคอยล์เย็นที่เคลือบสาร Aqua Resin ลดการสะสมของฝุ่นผง รวมทั้งแบคทีเรียต่างๆมีการส่งลมแบบอัตโนมัติ 4 ทิศทาง กระจายความเย็นได้แบบทั่วทั้งห้อง สดชื่นทุกพื้นที่ มีระบบช่วยกรองไฟ คุ้มครองป้องกันแผ่นวงจรไฟฟ้า เมื่อไฟตก หรือไฟเกิน มีระบบเดินเครื่องที่ทำงานแบบอัตโนมัติ พอไฟกลับมาปกติก็ทำงานได้ต่อในทันที

3. Samsung R18TYHZCWKNST 18000 บีทียู อินเวอร์เตอร์

ปิดท้ายด้วยการไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือแอร์ Samsung รุ่น R18TYHZCWKNST 18000 บีทียู อินเวอร์เตอร์ ที่จะมีเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากการถูกไฟกระชากได้ดี โหมด Digital Inverter Boost กระจายความเย็นออกไปได้ไกลถึง 15 เมตร เหมาะกับการใช้งานในทุกพื้นที่ เสียงรบกวนน้อยมาก หลับสบายไร้กังวล มีโหมดปรับการใช้งานและอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ มี R32 Refrigerant ช่วยเรื่องความเย็นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม

การติดตั้งแอร์ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตามจะต้องได้ช่างผู้เชี่ยวชาญจัดการ รวมถึงที่บ้านต้องมีการติดตั้งสายดินไว้ด้วย คุ้มครองป้องกันไฟฟ้ารั่วไหลเกิดอันตรายถึงชีวิต นอกเหนือจากนั้น ควรจะดูแลรักษาทั้งเครื่อง และก็ระบบไฟฟ้าให้ดี ล้างเครื่องปรับอากาศขั้นต่ำปีละ 2 ครั้ง ที่สำคัญถ้าเครื่องปรับอากาศมีความเสียหาย เสียจะตำแหน่งใดก็ตาม จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูและปรับปรุงแก้ไขโดยทันที อย่าปล่อยเอาไว้เด็ดขาด

ดันคับ

ดันค่ะ

มั่นใจว่าหลายคนที่กำลังจะเลือกซื้อตู้เย็นก็คงจะมีความโลเลกันอยู่บ้าง ซึ่งถ้าลองเลือกดูแล้วจะพบว่าตู้เย็น Mitsubishi เป็นที่นิยมเลือกใช้งานเป็นลำดับต้นๆกระนั้นเพราะอะไรถึงถูกเลือกใช้งานมากมายอย่างนี้ เพื่อให้ช่วยตัดสินใจง่ายมากขึ้น ก็มีเนื้อหาอย่างเจาะลึกมาบอกต่อ เชื่อว่าช่วยให้การตัดสินใจซื้อของคุณเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมแน่นอน

เหตุผลที่ช่วยทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อตู้เย็น Mitsubishi เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น

1. มีหลายรุ่นให้เลือก

จำเป็นต้องกล่าวว่าตู้เย็นยี่ห้อนี้มีให้เลือกหลากหลายรุ่นอยู่ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความต่างกันอยู่แล้ว โดยถ้าจะให้แนะนำก็คือรุ่น MITSUBISHI MR-FC35ER/SSL ที่จะเป็นแบบ 2 ประตู 11.1 คิว มีประสิทธิภาพสำหรับการควบคุมความเย็นผ่านระบบไมโครชิพ Neuro Fuzzy มีความชื้นในช่องแช่ที่ทำให้ผักผลไม้สดชื่นตลอดเวลา อีกทั้งผนังช่องแช่ผสมสารที่ช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียไปอีก หรืออีกรุ่น MITSUBISHI MR-FX41EP/GSL แบบ 2 ประตู 13.3 คิว มีระบบควบคุมการทำงาน จำ รวมทั้งทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค มีพัดลมคู่ทำความเย็น ยืดอายุการใช้งานเครื่อง เป็นต้น

2. มีความน่าเชื่อถือ เชื่อใจได้

แน่นอนว่าตู้เย็นนี้เป็นที่รู้จักเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ประสิทธิภาพจัดเต็ม รับรองความน่าเชื่อถือจากผู้เคยใช้งานจริงมาก่อน มีสถานที่ตั้งแหล่งผลิตที่ชัดเจน เดินทางไปได้จริงๆมีรายละเอียดผู้สร้างบอกให้ทราบ สามารถเลือกเข้าไปดูสินค้าได้อีกทั้งทางออนไลน์ แล้วก็ทางหน้าร้านค้า รับประกันว่าไม่มีผิดหวัง

3. มีราคาที่ค่อนข้างจะเป็นมิตร

โดยทั่วไปแล้วตู้เย็นที่เป็นแบบ 2 ประตูจะค่อนข้างจะมีราคาสูงเนื่องจากด้วยกระบวนการทำงานบวกกับนวัตกรรมต่างๆที่มีในเครื่อง แต่กับตู้เย็นของแบรนด์นี้บอกเลยว่าแต่ละรุ่นราคาเป็นมิตรมาก แถมคุณภาพก็จัดเต็มอยู่เหมือนเดิม โดยลองเปรียบเทียบราคาแล้วก็อยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นต้นๆเพียงแค่นั้น ในขณะที่อีกหลายยี่ห้อแบบ 2 ประตูราคาเกินหมื่นทั้งนั้น

แล้วนอกเหนือจากตู้เย็นยี่ห้อ Mitsubishi ยังมียี่ห้ออื่นที่น่าสนใจไหม

นอกเหนือจากตู้เย็นยี่ห้อนี้แล้ว ยังมียี่ห้ออื่นๆที่ต้องการที่จะให้พิจารณาด้วย อย่างเช่น ตู้เย็น Samsung ที่มีให้เลือกหลายขนาด หลายความจุ แต่ราคาก็บางทีอาจสูงมากกว่า ตัวอย่างเช่น รุ่น RT29K5511S8/ST มีความจุ 10.7 คิว ราคาอยู่ที่หลักหมื่นต้นๆแล้ว หรือรุ่น RT35K5534S8/ST ปริมาตร 12.9 คิว ที่ก่อนหน้าราคาอยู่ที่หมื่นปลายๆแต่ในตอนนี้มีโปรลดอยู่ก็ประมาณหมื่นต้นๆหรืออีกยี่ห้อตู้เย็น Hitachi ที่ราคาถูกลงมาแต่ว่าขนาดปริมาตรก็ไม่มากเท่าไหร่ เช่น รุ่น R-H200PD BSL ปริมาตรอยู่ที่ 7.7 คิว หรือรุ่น R-H230PD BSL ความจุ 8.7 คิว

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเลือกซื้อตู้เย็นของคุณจะตัดสินใจกันได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วยความน่าสนใจทั้งยังด้านความน่าเชื่อถือ ราคา ความจุ หรือรุ่นที่ให้เลือกก็มีมากมายด้วยเหมือนกัน รวมถึงรุ่นอื่นๆก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจให้ทดลองใช้งาน

ขายโรงงานใหม่มินิแฟคตอรี่สมุทรสาคร ขายwarehouseกระทุ่มแบน ขายคลังสินค้าminifactoryสมุทรสาคร  ขอใบอนุญาตรง.4ได้

  ขายคลังสินค้าminifactoryสมุทรสาคร โกดัง minifactoryสมุทรสาคร ขอใบอนุญาตรง.4ได้  ขอใบอนุญาตรง.4ได้ ถนนพันธุวงษ์ ถนนกว้าง 12 ม.
  ขายคลังสินค้าminifactoryสมุทรสาคร ถนนพันธุวงษ์ เลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ขอใบอนุญาตรง. 4 ได้ รถใหญเข้าออกสะดวก ถนนกว้าง 12 ม. โกดัง 2 ไร่ครึ่ง สมุทรสาคร โรงงานมือหนึ่งมินิแฟคตอรี่ โกดังกระทุ่มแบนminifactory โกดัง 2 ไร่ครึ่ง สมุทรสาคร ถนนพันธุวงษ์ เลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ขอใบอนุญาตรง. 4 ได้ รถใหญเข้าออกสะดวก ถนนกว้าง 12 ม.


โรงงานมือหนึ่งขนาดเล็ก  ขายโรงงานใหม่มินิแฟคตอรี่สมุทรสาคร  ใกล้พุทธมณฑลสาย4โกดัง minifactory ขายโรงงานสำเร็จรูป samutsakornขอใบอนุญาตรง.4ได้
โกดังกระทุ่มแบน Minifactory โรงงานใหม่มินิแฟคตอรี่ warehouseสมุทรสาคร ถนนพันธุวงษ์ เลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ขอใบอนุญาตรง. 4 ได้ รถใหญเข้าออกสะดวก ถนนกว้าง 12 ม. โกดัง 2 ไร่ครึ่ง สมุทรสาคร โรงงานมือหนึ่งมินิแฟคตอรี่ โกดังกระทุ่มแบนminifactory โกดัง 2 ไร่ครึ่ง สมุทรสาคร ถนนพันธุวงษ์ เลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ขอใบอนุญาตรง. 4 ได้ รถใหญเข้าออกสะดวก ถนนกว้าง 12 ม.

โรงงานสำเร็จรูป Samutsakorn ขายโรงงานสำเร็จรูป samutsakorn   ขายคลังสินค้าminifactoryสมุทรสาคร โรงงานสวยๆมือหนึ่ง มาตรฐานการก่อสร้างดี
การันตีด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี !!
พื้นโรงงาน รับน้ำหนัก 3-5 ตัน/ตร.ม.
ลงเสาเข็มทุกๆ 2.5 เมตร
พื้นรับน้ำหนักดี ไม่มีทรุด

ขายโรงงานมือหนึ่งสมุทรสาคร สร้างแล้ว 80% สามารถวางมัดจำ และพร้อมเข้าอยู่ภายใน 2-3 เดือน
โรงงาน โกดัง คลังสินค้า warehouse minifactory มือหนึ่ง
ถนนพันธุวงษ์ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
สิ่งแวดล้อมรอบๆโครงการน่าทำงาน น่าอยู่อาศัย
หน้าโครงการติดถนนพันธุวงษ์ ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อจากถนนเศรษฐกิจ
มุ่งหน้าสู่ถนนพระรามสอง และถนนพุทธสาครได้สะดวก

มีตลาด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หาของกินง่าย
ขอใบอนุญาตรง.4 ได้ทุกหลัง ตั้งโรงงานได้เกือบทุกชนิด ยกเว้นโรงงานประเภท หลอมเหล็ก และหลอมพลาสติก

โรงงานใหม่มินิแฟคตอรี่สมุทรสาคร warehouseกระทุ่มแบน
ขายโกดังสมุทรสาคร
ขายโกดังสมุทรสาคร
 ขายโกดังสำเร็จรูปสมุทรสาคร เนื้อที่ดิน 2 ไร่ครึ่ง
พื้นที่โรงงาน 1250 ตร.ม.
พื้นที่ออฟฟิศ 200 ตร.ม.
ราคา 29,000,000 บาท

แถมฟรี 
ผู้ขายออกค่าใช้จ่ายการโอนให้ทุกหลัง
และไฟฟ้า 3 เฟสโหลด 100
ถ้าไฟไม่เพียงพอ สามารถขอเพิ่มได้
ไฟฟ้า ประปา ถนน ครบครัน

 ขายโรงงานสมุทรสาครสามารถทำเป็นโรงงานหรือทำเป็นโกดัง คลังสินค้า และทำเป็น Home Office สำนักงาน เปิดบริษัทได้สะดวก
โกดังสมุทรสาครทำเลดี
ถนนกว้าง 12 เมตร
รถสิบล้อ คอนเทนเนอร์ เดินทางสะดวก
หน้าโครงการติดถนนพันธุวงษ์
ราคาขายต่ำกว่าราคาประเมิน
มีหลายธนาคารคอยให้คำแนะนำ
ซัพพอร์ตผู้ซื้อ ช่วยให้กู้ได้ง่าย

ทำเลที่ตั้งดี เดินทางทะลุได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนเศรษฐกิจ, ถนนสายใยรัก, 
ถนนพันธุวงษ์, ถนนสุคนธวิท, ถนนบางปลา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

สามารถเชื่อมต่อเส้นทางจากถ.เศรษฐกิจสู่ถนนพระราม 2 เพื่อขนส่งสินค้าสู่ภาคตะวันตก และภาคใต้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

ดูรูปเพิ่มเติม https://bit.ly/3l5qErF

 

ขายโกดังสมุทรสาคร ราคาขาย 29,000,000 บาท

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดก่อนได้ค่ะ บริการดี พูดง่าย ขายราคาเป็นกันเองค่า

สนใจติดต่อคุณออย 08-0912-9970

แอดไลน์ คลิ๊ก https://line.me/ti/p/3a4KPfNll4

inbox : m.me/factoryforsalesamutsakorn

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/โกดัง-คลังสินค้า-โรงงาน/โรงงานใหม่มินิแฟคตอรี่/


คำค้น
ขายโรงงานสำเร็จรูปsamutsakorn,โรงงานกระทุ่มแบน, ขายโกดังสำเร็จรูปสมุทรสาคร,ขายโรงงานใหม่สมุทรสาคร, ขายโรงงานมือหนึ่งสมุทรสาคร, ขายโรงงานถูกสมุทรสาคร, ขายโกดังสมุทรสาคร, รับสร้างโรงงานใหม่สมุทรสาคร, โรงงานมือหนึ่งขนาดเล็กกระทุ่มแบน. ขายโกดังสำเร็จรูปใกล้พุทธมณฑลสาย4, factoryforsale factory warehouse samutsakorn, ขายโรงงาน-โกดัง-คลังสินค้า-กระทุ่มแบน-สมุทรสาคร
 

ดันค่ะ

"แม็คโคร" ปิดดีลใหญ่ส่งท้ายปี เดินหน้าเพิ่มทุนสำเร็จ 50,000 ล้านบาท ผสาน "โลตัสส์" ปั้นแชมเปี้ยนค้าส่งค้าปลีก-อีคอมเมิร์ซ ขึ้นเบอร์หนึ่งในเอเชีย

บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO หรือ บริษัทฯ) ดีลใหญ่จองซื้อหุ้น PO ส่งท้ายปี กับโอกาสของนักลงทุนที่จะร่วมเติบโตไปพร้อมกับแม็คโครและโลตัสในระดับภูมิภาค ล่าสุด การเสนอขายหุ้น PO ของ บมจ. สยามแม็คโคร ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ถือหุ้นเดิมของ MAKRO CPALL และ CPF กลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ถือเป็นดีลใหญ่ส่งท้ายปีท่ามกลางสถานการณ์โควิด ที่ยังคงส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อตลาดค้าส่งค้าปลีกทั่วโลก แต่ยังสามารถปิดดีลระดมทุนได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท หลังจากนี้จะได้เห็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่สู่เป้าหมายการเป็น "แชมเปี้ยนค้าส่งค้าปลีก-อีคอมเมิร์ซ" ขึ้นเบอร์หนึ่งในเอเชีย พร้อมพาเอสเอ็มอีและเกษตรกรไทยลุยตลาดต่างประเทศ

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร (ธุรกิจค้าส่ง) เปิดเผยว่า "ในการเสนอขายหุ้นของแม็คโครนั้น ขอขอบคุณนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปที่ได้ให้การสนับสนุน ถึงแม้ว่าระยะเวลาของการเสนอขายจะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด และเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวดี อย่างไรก็ตาม หุ้นแม็คโครก็ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อศักยภาพของบริษัทฯ และพร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกัน สู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทยระดับภูมิภาค โดยหลังจากนี้ไปบริษัทฯ จะดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ จะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาด้านดิจิทัล การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศรวมทั้งการปรับรูปแบบและขยายสาขา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกประเภท ทั้งลูกค้าผู้ประกอบการและผู้บริโภคทั่วไป นอกจากนี้ทีมงานทั้งแม็คโครและโลตัสส์จะร่วมมือกันเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานในส่วนต่าง ๆ ให้เข็มแข็งยิ่งขึ้น"

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย ระบุว่า "ในนามผู้บริหารโลตัสส์ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ได้ให้ความสนใจและจองซื้อหุ้น MAKRO เพื่อร่วมเติบโตไปกับธุรกิจแม็คโครและโลตัสส์ ซึ่งมั่นใจว่าจำนวนเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้จะเพียงพอต่อการนำไปดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจและสร้างแพลตฟอร์มแห่งโอกาสของผู้ประกอบการไทยในห่วงโซ่ธุรกิจของเรา ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังปรับตัวดีขึ้น และแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่กำลังฟื้นตัว จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลประกอบการได้ตามแผนที่วางไว้"

การระดมทุนครั้งนี้ มีมูลค่าสูงเฉียด 5 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นดีลใหญ่ระดับต้น ๆ ของไทย โดยเป้าหมายแรกจะใช้เป็นเงินทุนเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ใหม่ของการปรับโครงสร้างธุรกิจค้าส่งค้าปลีก เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจแม็คโครและโลตัสส์ และส่งเสริมกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในระดับภูมิภาค ถัดมาคือการบูรณาการทั้งธุรกิจ B2B (MAKRO) และ B2C (Lotus's) ทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย สามารถใช้ศักยภาพจากฐานธุรกิจในประเทศไทย สู่การขยายธุรกิจไปในอาเซียนและภูมิภาคเอเชียใต้ โดยจุดเด่นของรูปแบบธุรกิจ จะมีจุดแข็งจากแพลตฟอร์มค้าส่งค้าปลีก ที่เมื่อต่อยอดกับธุรกิจออนไลน์ เกิดเป็น O2O (Offline to Online) ที่ส่งมอบประสบการณ์การช้อปแบบ Omni-Channel ซึ่งจะทำให้สามารถเจาะตลาดได้ลึกขึ้น เข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น และเป็นผู้เล่นในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซเต็มตัว


ขณะที่การเติบโตของตลาดค้าส่งค้าปลีกในระดับภูมิภาคอาเซียนยังเป็นทิศทางขาขึ้น โดยเมื่อเทียบรายได้จีดีพีต่อจำนวนประชากรในหลายประเทศในอาเซียน พบว่ายังมี "โอกาสในการเติบโต" และขยายฐานธุรกิจนี้ไปได้ทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม และ สปป.ลาว หากพิจารณาถึงภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่แม็คโครได้รุกขยายธุรกิจในเมืองใหญ่ของประเทศเหล่านี้ และสร้างการเติบโตในช่วง 10-15 ปีข้างหน้า ก็มีโอกาสสูงมากที่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซของไทยจะเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งในประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ แล้วเมื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งมีประชากรรวมกันถึง 3,300 ล้านคน ก็จะเห็นถึงทิศทางที่ชัดเจนว่าวันนี้ตลาดในอาเซียนและเอเชียยังมีพื้นที่ให้เติบโตในลักษณะคล้าย S-Curve แสดงให้เห็นว่าภาพรวมตลาดโมเดิร์นเทรดของเอเชีย โดยเฉพาะของสด (Fresh) และสินค้าอุปโภคบริโภค (Grocery) ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเป็นโอกาสให้บริษัทของไทยเข้าไปขยายธุรกิจและยกระดับเป็นผู้เล่นสำคัญระดับโลกได้

ทั้งนี้ จากการพัฒนา "แพลตฟอร์มแห่งโอกาส" เพื่อการสร้างการเติบโตของแม็คโคร หลังรับโอนกิจการกลุ่มโลตัสส์ จะเป็นทั้งโอกาสการลงทุนและโอกาสของผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี และเกษตรกรทั่วประเทศไทย เพราะการรุกกลยุทธ์เป็นผู้นำกลุ่มค้าส่งค้าปลีกในระดับภูมิภาค รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์ม O2O เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในยุคดิจิทัล โดยจะส่งเสริมเอสเอ็มอีและเกษตรกรไทย ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อนำสินค้า ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ บุกตลาดต่างประเทศไปด้วยกัน ผ่าน "แพลตฟอร์มแห่งโอกาส" สร้างระบบนิเวศออนไลน์ของการค้าปลีกรูปแบบใหม่ ที่ช่วยให้เกษตรกร ผู้ผลิตและเอสเอ็มอีขยายช่องทางค้าปลีกได้กว้างขึ้นในตลาดโลก ผ่านการให้บริการแพลตฟอร์มตลาดซื้อขาย (Marketplace) แบบ B2B

ภาพจิ๊กซอว์ของบริษัทไทยกับการก้าวสู่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ อันดับหนึ่งในภูมิภาคนี้ ถือเป็นกลยุทธ์การขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้สิ่งสำคัญคือการขยายธุรกิจของแม็คโครจะไม่ได้ไปในฐานะภาคเอกชนเพียงรายเดียว แต่จะนำศักยภาพของคนไทย ทั้งผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยเติบโตไปด้วยกัน

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมของ MAKRO CPALL และ CPF รวมถึงผู้จองซื้อรายย่อยสามารถตรวจสอบผลการจัดสรรหุ้น PO ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ www.settrade.com โดยการจัดสรรหุ้นครั้งนี้ถือเป็นการตอบแทนนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นเข้าร่วมลงทุนเพื่อเติบโตไปด้วยกัน

ภาวะตลาดหุ้นไทย แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์คล้ายภูมิภาคในช่วงรอผลประชุมเฟด-ราคาน้ำมันร่วง

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ค่อนไปทางลบ ในช่วงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งสัญญาณในทางเข้มงวดมากขึ้น หลังจากที่เผชิญแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯก็สูงกว่าคาดด้วย ทำให้มีโอกาสที่จะเร่งปรับลด QE มากขึ้น และอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นด้วย ซึ่งก็คาดว่าจะปรับขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 65


นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลง 2 วันติดต่อกัน หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางอื่นในสัปดาห์นี้ด้วย อย่างการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) รวมถึงติดตามเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ส่วนบ้านเราให้ติดตามตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะประกาศการปรับการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ในสัปดาห์นี้ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,625 ถัดไป 1,615-1,616 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด

บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เปิดเผยว่า ตามที่ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติเข้าลงทุนและพัฒนาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินโครงการ ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ วางงบลงทุนรวมที่ 369 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน จำนวน 7 แปลง ตามโฉนดเลขที่ 2503, 12432, 12433, 12434, 12435, 20166 และ 20167 เลขระวาง 4846 IV 0076-9 หน้าสำรวจ 391, 1170, 1171, 1172, 1173, 1773 และ 1774 เลขที่ดิน 2687, 2686, 2685, 2684, 2654, 2683 และ 2655 ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รวมเนื้อที่ดิน 2 ไร่ 2 งาน 65 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรมของโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ (ทรัพย์สินในโครงการโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่) ระหว่าง บริษัท ทรัพย์ ทีซีซี โฮเทล เชียงใหม่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (บริษัทถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) กับบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT) โดยมีมูลค่ารวมสุทธิจำนวน 435,000,000 บาท (ซึ่งราคาดังกล่าวไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยบริษัทและ DREIT รับผิดชอบชำระค่าธรรมเนียมจากการจดทะเบียนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องฝ่ายละครึ่ง และ DREIT ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบภาระภาษีอากรที่เกี่ยวข้องเองทั้งสิ้น

2. การเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินโฉนดเลขที่ 30 ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และสิ่งปลูกสร้าง ระหว่าง บริษัท ทรัพย์ ทีซีซี โฮเทล เชียงใหม่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (บริษัทถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) กับ บมจ.ดุสิต ไทยพร็อพเพอร์ตี้ส์ โดยมีมูลค่ารวมจำนวน 130,000,000 บาท

3. งบลงทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาทรัพย์สินในโครงการโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ตามข้อ 1 และทรัพย์สิน ตามข้อ 2 จำนวนประมาณ 369 ล้านบาท (ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

SMART คาด Q4/64 โตรับคลายล็อก LTV-มาตรการกระตุ้นศก.มั่นใจทั้งปีโตกว่า 5%

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/64 คาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐประกาศมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โครงการเมกะโปรเจ็คต์ขนาดใหญ่ภาครัฐที่เคยชะลอตัวจะกลับมาเร่งทำการก่อสร้าง อีกทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ดำเนินการก่อสร้างและซ่อมบำรุง ที่พักอาศัย อาคาร โรงแรม ร้านอาหาร ผลักดันให้ความต้องการใช้งานวัสดุก่อสร้างอิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่มขึ้น


"บริษัทยังคงเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียประเภทการตกแต่งและนวัตกรรมชั้นนำ อีกทั้งผลักดันสินค้าอิฐมวลเบาขนาดจัมโบ้เพื่องานโครงสร้าง ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ลดต้นทุน ทำให้งานก่อสร้างเสร็จรวดเร็ว และ สินค้าอิฐมวลเบาเพื่องานตกแต่งภายใน-ภายนอก โดยมีกระแสตอบรับที่ดี เตรียมขยายกำลังการผลิตอิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่ม 50% เพื่อรองรับปริมาณคำสั่งซื้อและการเติบโตในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องจักรและพร้อมเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลังในช่วงไตรมาส 4/64 ผลักดันรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 5%" นายรังสี กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 338.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 310.43 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.50%

ส่วนไตรมาส 3/64 มีรายได้รวม 103.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 97.87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6.82 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.04 ล้านบาท ลดลง 2.22 ล้านบาท หรือลดลง 24.55% สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขายอิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ปิดแคมป์ก่อสร้าง ส่งผลให้ต้นทุนพลังงาน และราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากงานโครงการภาคเอกชน อาทิ โครงการที่พักอาศัย แนวราบ-แนวสูง โรงแรม ร้านอาหาร ที่เร่งปรับปรุง ซ่อมแซม เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และ งานโครงการภาครัฐ อาทิ อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล โครงการรถไฟฟ้า กลับมาดำเนินการก่อสร้างเพื่อให้ทันตามกำหนดระยะเวลาส่งมอบตามแผนงาน

ยินดีให้บริการ ทุกขนาดพื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804