• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#10051
ถมที่ ขุดสระ จัดสวน วางท่อ ติดต่อ 080-022-3804
www.mmee2000.com ทำจริงไม่ทิ้งงาน
#10053


ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 84 รายระหว่างรักษาตัวที่บ้าน ในจำนวนนี้ 36 รายมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว เสียชีวิตใน 1-9 วันหลังรายงานผลติดเชื้อ, 11 รายเสียชีวิตในช่วง 10-19 วัน, 9 รายเสียชีวิตไปแล้วจึงรายงานว่าติดเชื้อโควิด ระยะเวลาผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตยาวนานที่สุดคือ 30 วันหลังรายงานผลติดเชื้อ และมี 24 รายที่ไม่รู้ว่าระยะเวลาเสียชีวิตชัดเจน

ผู้ป่วยที่เสียชีวิตกว่าร้อยละ 80 เป็นผู้สูงอายุ โดยมี 36 รายที่อายุ 80 ปีขึ้นไป, ช่วงวัย 70 ปีเสียชีวิต 24 ราย, ช่วงวัย 60 ปีเสียชีวิต 11 ราย, ช่วงวัย 50 ปีเสียชีวิต 7 ราย, ช่วงวัย 40 ปีเสียชีวิต 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในช่วงวัย 30 ปีมี 3 ราย และช่วงวัย 20 ปีเสียชีวิต 1 ราย



การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาสร้างความกังวลว่า ผู้ติดเชื้อจะมีอาการทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วจนอาจเสียชีวิตได้ระหว่างรักษาตัวที่บ้าน

นายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ประกาศนโยบายเมื่อต้นเดือนนี้ ให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่รักษาตัวที่บ้านเป็นหลัก เพื่อสงวนเตียงในโรงพยาบาลให้สำหรับผู้ที่อาการหนักเท่านั้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้านในขณะนี้มีมากกว่า 45,000 คน เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า

อัตราผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเพราะไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ติดเชื้อได้ง่าย และผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่ยังไม่ถึงคิวได้รับวัคซีน



นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า จะติดตามอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อตัดสินใจว่าจะให้การแข่งขัน "พาราลิมปิก" มีผู้ชมหรือไม่ โดยงานพาราลิมปิกจะเริ่มต้นในวันที่ 24 ส.ค.นี้

ขณะนี้ญี่ปุ่นอยู่ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะในการควบคุมการระบาด เขาเรียกร้องให้คนหนุ่มสาวหลีกเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา โดยมีข้อมูลว่าร้อยละ 70 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงโตเกียว เป็นกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี.
#10054


หัวเว่ย ยังมั่นใจประเทศไทย ย้ำชัด คือ ยังเป็นตลาดกลยุทธ์หลักของหัวเว่ย เร่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มที่ ขยายส่วนธุรกิจพลังงานดิจิทัลเป็นครั้งแรกในไทย ลงทุนต่อเนื่อง 5G คลาวด์ พัฒนาทักษะดิจิทัลในประเทศ สวมบทป๋าดัน หนุนไทยสู่ดิจิทัลฮับแห่งอาเซียน และผู้นำด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอาเซียน

เจย์ เฉิน รองประธานหัวเว่ยเอเชียแปซิฟิก กล่าวถึงเทรนด์ เทคโนโลยีทั่วโลกที่น่าสนใจในยุคนิวนอร์มอล ว่า สองปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับทุกคน การรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดในขณะนี้ทำให้เราเห็นว่าทุกประเทศหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น

ข้อมูลจากรายงาน Global Connectivity Index ฉบับล่าสุดของหัวเว่ยระบุว่า ประเทศที่มีความพร้อมทางด้าน ICT มากกว่าประเทศอื่นจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้น้อยกว่า ทั้งในแง่ของภาคสังคมและภาคเศรษฐกิจ รวมทั้งยังสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือตลาดประเทศไทย ที่สถานการณ์ระบาดในตอนนี้ทำให้เห็นว่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ICT และเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มที่ในช่วงก่อนหน้านี้ มีผลเป็นอย่างยิ่งกับการช่วยให้ประเทศยังคงฟื้นตัวและเดินหน้าต่อไปได้ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติ

3 เรื่องดันไทยขึ้นดิจิทัลฮับอาเซียน

เจย์ เฉิน ระบุว่า ประเทศไทยค่อยๆ ก้าวขึ้นเป็นดิจิทัลฮับในภูมิภาคอาเซียนจากหลายองค์ประกอบ เรื่องแรก คือ ไทยได้พัฒนาแผนเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมแห่งชาติ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการเดินตามวิสัยทัศน์ไทยแลนด์ 4.0

เรื่องที่สองคือข้อมูลอ้างอิงจาก Speedtest Global Index 2020 ระบุว่าประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งใน 176 ประเทศในแง่ของความเร็วอินเทอร์เน็ตแบบฟิกซ์บรอดแบนด์ ซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในแง่การวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเทคโนโลยี 5G

เรื่องที่สามคือประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในภาคเกษตรกรรม กาคสาธารณสุข ภาคอุตสาหกรรมการผลิต และการสร้างอีโคซิสเต็มด้านดิจิทัล

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านการบ่มเพาะบุคลากรด้านดิจิทัล ซึ่งหัวเว่ยได้มีส่วนสนับสนุนผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น Huawei ASEAN Academy ซึ่งตั้งเป้าบ่มเพาะบุคลากรในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคให้ได้ถึง 300,000 คนภายในระยะเวลาห้าปี และจะมีสัดส่วนในการฝึกอบรมบุคลากรในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วนถึงหนึ่งในสามจากจำนวนบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมทั้งหมด

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า หัวเว่ยยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและพลังงานดิจิทัลมาเนิ่นนาน ซึ่งได้รับการนำไปประยุกต์ใช้ในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค โดยส่วนธุรกิจพลังงานดิจิทัลของหัวเว่ยได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ทั้งในแง่ของผลประกอบการและส่วนแบ่งตลาด ทั้งในส่วนธุรกิจ Prefabricated Modular Data Center, Smart PV และ Site Power Facility ที่หัวเว่ยถือว่าเป็นผู้นำส่วนแบ่งตลาดในระดับโลก

สำหรับส่วนธุรกิจ mPower หัวเว่ยถือเป็นบริษัทแห่งแรกในโลกที่ส่งมอบนวัตกรรมใหม่ในชื่อว่า X-in-1 ePowertrain ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานให้แก่รถยนต์พลังไฟฟ้า นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ Modular Power ประสิทธิภาพสูงเป็นจำนวนมากกว่า 300 ล้านชิ้นทั่วโลก โดยในปี 2563 หัวเว่ยทำยอดขายในส่วนธุรกิจพลังงานจากทั่วโลกได้มากกว่า 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้บริการประชากรถึง 1 ใน 3 จากทั่วโลก

นั่นทำให้หัวเว่ยตัดสินใจขยายส่วนธุรกิจพลังงานดิจิทัลสำหรับตลาดประเทศไทยในปีนี้ โดยปัจจุบัน หัวเว่ยได้ให้บริการลูกค้าระดับองค์กรธุรกิจมากกว่า 1,000 รายในตลาดประเทศไทย ทั้งนี้ องค์กรธุรกิจ 35 แห่งจาก 50 แห่ง ได้เลือกหัวเว่ยเป็นพาร์ทเนอร์ในด้านพลังงานดิจิทัล

"หัวเว่ยกำลังสร้างเครือข่ายพาร์ทเนอร์สำหรับด้านการบริการ การติดตั้ง และด้านโซลูชันมากกว่า 50 รายในประเทศไทย โดยหัวเว่ยคาดว่าการขยายส่วนธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยสร้างงานในทางอ้อมได้มากกว่า 1,000 ตำหน่งในประเทศไทย ซึ่งหัวเว่ยทีมกับพาร์ทเนอร์หวังว่าเทคโนโลยีชั้นนำและกรณีตัวอย่างการใช้งานในระดับโลกจะสามารถช่วยส่งเสริมประเทศไทยในการขึ้นเป็นผู้นำด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอาเซียนได้"



ลงทุน 4 ด้านหลักต่อเนื่อง

อาเบล เติ้ง ย้ำด้วยว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญของหัวเว่ย ซึ่งหัวเว่ยจะยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยใน 4 ด้าน อันได้แก่ ด้านเทคโนโลยี 5G ด้านดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ ด้านพลังงานดิจิทัล และด้านการพัฒนาทักษะดิจิทัล โดยมีจุดประสงค์เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งบรรลุเป้าหมายในการเป็นประเทศผู้นำด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภูมิภาคนี้ให้จงได้

"ในด้านเทคโนโลยี 5G ประเทศไทยได้ขึ้นเป็นผู้นำในเรื่องการริเริ่มติดตั้งเครือข่าย 5G ในระดับภูมิภาคไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายรายต่าง ๆ ในไทยที่ช่วยผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปีนี้ ประเทศอื่น ๆ ก็จะเริ่มตามทันไทยในแง่ของการขยายเครือข่าย 5G ต้องการจะเอาชนะในยก 2 ต่อจากนี้ ประเทศไทยจำเป็นต้องผลักดันให้มีอัตราการใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นอย่างเร็วที่สุด เพื่อสร้างงานและโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ รวมถึงช่วยเพิ่มสัดส่วนที่เศรษฐกิจดิจิทัลจะมีผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ซึ่งหัวเว่ยจะสนับสนุนประเทศไทยผ่านการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านนวัตกรรม 5G และเสริมสร้างอีโคซิสเต็มในประเทศ" คุณอาเบลกล่าว

ทั้งนี้ หัวเว่ยได้ลงทุนเป็นเงิน 475 ล้านบาทในโปรเจ็ค 5G EIC เพื่อพัฒนานวัตกรรม 5G สำหรับใช้งานในหลากหลายภาคอุตสาหกรรม สร้างโมเดลธุรกิจใหม่ และเพิ่มทักษะให้แก่สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี โดยหัวเว่ยยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อจัดงานประชุมสุดยอด 5G Summit ในไทยในปีนี้ เพื่อช่วยวางรากฐานให้แก่อุตสาหกรรมและอีโคซิสเต็มของ 5G ในประเทศ

ซึ่งหัวเว่ยเชื่อว่างานประชุมสุดยอดในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลในประเทศไทยด้วยการประยุกต์ใช้ 5G ในอุตสาหกรรมแนวดิ่ง นอกจากนี้ หัวเว่ยยังจะได้รับการสนับสนุนจากดีป้าในการสร้างอีโคซิสเต็มของพาร์ทเนอร์เพื่อก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรด้าน 5G และเพื่อสร้างอีโคซิสเต็มสำหรับนวัตกรรมและแอปพลิเคชัน 5G ในภาคอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์

"ที่สำคัญคือหัวเว่ยจะยังคงมุ่งมั่นสร้าง อีโคซิสเต็มของ 5G ในประเทศไทยต่อไป เพื่อสร้างนคร 5G ระดับแนวหน้า และมีมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานของโครงข่าย 5G ในขั้นสูง เสริมแกร่งแอปพลิเคชันรวมทั้งนวัตกรรมด้าน 5G เพื่อสร้างโมเดลและคุณค่าใหม่ทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูงพอที่จะขึ้นเป็นเมือง 5G แห่งภูมิภาคอาเซียน รองรับการเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี 2565 ของไทยที่จะจัดขึ้นในจังหวัดกรุงเทพมหานคร พัทยา และเชียงใหม่" เขากล่าวเสริม

ปีนี้ หัวเว่ยจะลงทุนเป็นเงิน 700 ล้านบาท สำหรับศูนย์ข้อมูลการให้บริการคลาวด์แห่งที่สามในประเทศไทย ซึ่งทำให้หัวเว่ยเป็นผู้ให้บริการ HUAWEI CLOUD ระดับโลกในไทยเพียงรายเดียวที่มีศูนย์ข้อมูลในประเทศถึงสามแห่ง

โดยหัวเว่ยต้องการสนับสนุนด้านการวางจุดยืนให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ดูน่าลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติในด้านการตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) และการลงทุนในครั้งนี้ยังช่วยสร้างงานใหม่กว่า 200 ตำแหน่ง ด้วยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในไทยกว่า 200 ราย

ทั้งนี้ หัวเว่ยต้องการจะผลักดันให้ประเทศไทยดูน่าดึงดูดและน่าลงทุนมากขึ้นในสายตาขององค์กรธุรกิจข้ามชาติ ที่ต้องการจะตั้งศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคนี้

หัวเว่ยยังเชื่อว่าหัวใจสำคัญของการผลักดันการพัฒนาด้านดิจิทัลนั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ซึ่งทางบริษัทได้ผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ผ่านการบ่มเพาะบุคลากรในไทย เพื่อช่วยลดช่องว่างเรื่องการขาดจำนวนบุคลากรด้านดิจิทัลในประเทศไทย ด้วยโครงการพัฒนาอย่าง Huawei ASEAN Academy ประเทศไทย ซึ่งตั้งเป้าฝึกอบรมบุคลากรที่ทำงานด้านไอทีในไทยให้ได้รับทักษะในระดับโลกเป็นจำนวน 100,000 คนภายในเวลา 5 ปีนี้
#10055


ทาคุมิ มินามิโนะ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น โชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล นัดอุ่นเครื่องเอาชนะ โอซาซูน่า 3-1

โดย มินามิโนะ ที่ถูกปล่อยให้ เซาแธมป์ตัน ยืมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา มีส่วนกับทุกประตูที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ในนัดชนะ โอซาซูน่า

1-0 ทาคุมิ มินามิโนะ พา.เข้ากรอบเขตโทษก่อนซัดไปแฉลบ เฆซุส อเรโซ่ เข้าประตู
2-0 มินามิโนะ ทำชิ่งกับ คอสตาส ซิมิกาส ก่อนจะเปิดให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ทำประตู
3-0 มินามิโนะ ครอสจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษให้ ฟีร์มิโน่ ทำประตู

ทั้งนี้กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น ดูเหมือนจะเป็นส่วนเกินของทีม "หงส์แดง" โดยมีรายงานว่ากำลังมีหลายสโมสรให้ความสนใจคว้าตัวดาวเตะรายนี้

สำหรับ ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแรก บุกไปเยือน นอริช ซิตี้ วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม เวลา 23.30 น.
#10057


วันนี้ (10 ส.ค. 64) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงอัปเดตสถานการณ์การรับมือกับ สายพันธุ์เดลตา จากทั่วโลก ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Mahidol Channel โดยระบุว่า สหประชาชาติ ออกมาประกาศต้นเดือน ก.ค. ว่าสายพันธุ์เดลตากระจาย 98 ประเทศ กำลังก่อปัญหาใหญ่ให้กับมนุษยชาติ เพราะสายพันธุ์นี้มีพฤติกรรมหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากเดิม


หลังจากนั้น 30 ก.ค. สหประชาชาติ ออกมาเตือนว่าสิ่งที่คาดการณ์ไม่ทันกับไวรัส เพราะเดลตา รุนแรง ไปเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งกระจาย 132 ประเทศ ที่สำคัญ คือ ใน หนึ่งสัปดาห์ ติดเชื้อเกือบสี่ล้านคน ในหนึ่งเดือนมีคนติดเชื้อเพิ่ม 80% รวมถึงการตาย 80% ในบางพื้นที่ เช่น แอฟริกา ขณะที่ 5 ส.ค. ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศสีเข้มเรียบร้อย

CDC แนะเร่งฉีดวัคซีน ใส่หน้ากาก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าติดตามโรคระบาดต่างๆ ในสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. CDC ได้ออกแนวปฏิบัติล่าสุด แก้ไขจากแนวคิดเดิม เนื่องจากสหรัฐ มีการแพร่ระบาดของเดลตา ขณะเดียวกัน การฉีดวัคซีนยังไม่ไปถึงจุดที่ควรจะเป็น โดยแนะนำ เร่งฉีดวัคซีนโควิดให้เร็วมากขึ้นและใส่หน้ากาก ซึ่งก่อนหน้านั้น เคยออกมาบอกว่าฉีดเยอะพอ บางรัฐส่งสัญญานว่าไม่ต้องใส่หน้ากาก ตอนนี้กลับมาแนะนำว่าขอให้ประชาชนอเมริกัน ไม่ว่าจะไปที่ใดขอให้พิจารณาเรื่องการใส่หน้ากาก


"เหตุผลเพราะมีการรวบรวมตัวเลขติดเชื้อใหม่ 7 วัน ปลายเดือนมิ.ย. อัตราเฉลี่ย 7 วัน ผู้ติดเชื้อราว 12,000 ราย ปลายเดือน ก.ค. ขึ้นไปที่เฉลี่ย 60,000 ราย แปลว่าติดเชื้อ 5 เท่าตัว แสดงว่าเหตุการณ์ต่างๆ ย้อนกลับไป ธ.ค.63 -  ม.ค. 64 ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ มีการฉีดวัคซีนไปเยอะพอสมควร โดยทั้ง 50 รัฐ มีการกระจายเดลต้ากว่า 80%

ขณะเดียวกัน สหรัฐมีการพูดว่า เดลตามีการเพิ่มขึ้น มีคนฉีดวัคซีนครบสองโดส 50% แต่พอเจอเดลตา มีการเพิ่มของการติดเชื้อและสายพันธุ์เดลตาก่อปัญหา 80-87% จากต้นเดือน มิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ราว 8-14% ผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 13,500 ราย และเพิ่มมากว่า 92,000 รายในช่วง 3 ส.ค. 64



สหราชอาณาจักร เผยฉีดวัคซีนครบ ติดเชื้อได้
สหราชอาณาจักร เดลตา สัดส่วนกว่า 90% แทนที่อัลฟาไปเรียบร้อย ข้อมูลการตรวจรหัสพันธุกรรมเดลตา เมื่อ 21 มิ.ย. - 19 ก.ค. จำนวน 1,788 คน พบว่า ครึ่งหนึ่งไม่ได้ฉีดวัคซีน และ 30% เป็นคนฉีดครบแล้ว แปลว่าคนฉีดครบไม่ได้สื่อว่าเราไม่ติดเชื้อ โดยวัคซีนที่สหราชอาณาจักรฉีด คือ mRNA และ แอสตร้าเซนเนก้า

"จะเห็นว่าตอนนี้ เรามียุทธศาสตร์กลางน้ำ คือ วัคซีน ที่ช่วยลดความรุนแรง เสียชีวิต ยิ่งฉีดเยอะ ส่งผลเชิงบวกกับอัตราการรอด อัตราการเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ถ้าข้อมูลฉีดเยอะพอ ส่งผลต่อการแพร่กระจายของเชื้อด้วย"

 

ทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้ว 4.4 พันล้านโดส
ข้อมูลวันที่ 8 ส.ค. 64 ทั่วโลกหลังจากมีการฉีดวัคซีน อัตราการติดเชื้อเริ่มลดลง และกลับขึ้นมา ปัจจุบัน พบอัตราการติดเชื้อ 5-7 แสนรายต่อวัน เสียชีวิตราว 7 พัน – หมื่นกว่าราย ตอนนี้ทั่วโลก ฉีดวัคซีนแล้ว 4,414,063,632 โดส ฉีดวันละ 42,600,503 โดส (ประชากร 7,884,751,830 คน)


สหรัฐฯ ปรับรูปแบบรับมือเดลตา 

สหรัฐ หลังจากเริ่มมีการไล่ฉีดวัคซีน เดือน ม.ค. สถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่หลังจากนั้นเกิดเหตุขึ้นอีก มีการติดเชื้อบางวันแตะหลักแสน แต่การเสียชีวิตไม่เยอะไปตามส่วน แต่เดิมเสียชีวิตสูง 2 – 3 พันรายต่อวัน ตอนนี้เลขสามหลักไม่ถึงห้าร้อยเชื้อว่าเป็นผลของการฉีดวัคซีน

ฉีดวัคซีนแล้ว 350,627,188 โดส ฉีดวันละ 712,389 โดส (ประชากร 333,159,223 คน) 58.5% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 50.1% ได้ครบโดส


สหรัฐ หลังจากที่ตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลง CDC ประกาศให้ประชาชน ถึงแม้จะฉีดวัคซีนครบก็กลับมาใส่หน้ากาก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง คนเยอะ เกิดขึ้น 11 สัปดาห์ ที่ CDC ประกาศให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบไม่ต้องใส่หน้ากากเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ ร้านค้า สถานประกอบการต่างๆ เร่งออกมาตรการรองรับการประกาศ CDC รวมถึงลูกค้าที่ฉีดวัคซีนครบ ขณะที่ รัฐกลาง และของแต่ละรัฐ เร่งออกมาตรการให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนรับการฉีดวัคซีน รับรางวัลหรือบังคับ

"CDC ย้ำว่า คนที่ฉีดครบเรียบร้อยสามารถแพร่เชื้อใกล้เคียงกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน สิ่งที่ดี คือ คนที่ฉีดวัคซีนครบ โอกาสรุนแรงน้อยลง เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน"


จับตา Freedom Day สหราชอาณาจักร 
สหราชอาณาจักร มีประชากรใกล้เคียงกับไทย หลังจากฉีดวัคซีน 8 ธ.ค.63 ทุกอย่างเริ่มดูดี อัตราติดเชื้อลดลง และติดขึ้นมาใหม่จากการระบาดของเดลตาครอบคลุมกว่า 90% อัตราการติดเชื้อจากเดิมสองหลัก ตอนนี้ห้าหลัก 3-5 หมื่นราย แต่เสียชีวิตต่ำ คือ หลักสิบถึงหลักร้อย


ปัจจุบัน สหราชอาณาจักร ฉีดวัคซีนแล้ว 86,207,851 โดส ฉีดวันละ 181,407 โดส (ประชากร 68,281,783 คน) 70.4% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 58.7% ได้ครบโดส


นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ประกาศวันประกาศ Freedom Day ในวันที่ 19 ก.ค. เนื่องจาก สหราชอาณาจักร ฉีดวัคซีน 70% อย่างน้อยหนึ่งโดส และ 60% ฉีดครบโดส ถึงวันที่เลิกใส่หน้ากาก ผับเปิด ภัตตาคารเปิดให้ทาน แต่ตัวเลขการแพร่กระจายไม่ได้วิ่งขึ้นมากมาย เชื่อว่าสาเหตุหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะประกาศ Freedom Day


แต่คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะสูงวัย คุ้นเคยกับการใส่หน้ากาก เชื่อว่ามีส่วนในการลด ขณะที่ บุคลากรทางการแพทย์ ลงนามร่วมกันและเสนอนายกท้วงติง Freedom Day คือ หากคนบอกว่าไม่ใส่หน้ากาก และเกิดมีการกลายพันธุ์ของเชื้ออีก และแพร่ระบาดใหม่ กลายเป็นสิ่งที่กลัวกันเกิดการดื้อต่อวัคซีน

ฝรั่งเศส มี Health Pass
เดิมฝรั่งเศสไม่ค่อยฉีดวัคซีน แต่เริ่มเจอเหตุการณ์พีค เริ่มระดมฉีดเต็มที่ ปัจจุบัน ฉีดวัคซีนแล้ว 77,681,231 โดส ฉีดวันละ 517,893 โดส (ประชากร 65,432,916 คน) 68.9% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 57.3% ได้ครบโดส ฝรั่งเศสเจอเหตุการณ์เดียวกัน คือ อัตราการติดเชื้อลดลง และเริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อเดลตาเข้ามา โดยเพิ่มมาเป็นหลักหมื่นและไม่มีท่าทีลดลง แต่อัตราตายเป็นตัวเลขสองหลัก


การปรับรูปแบบการรับมือวิกฤต COVID19 จากสายพันธุ์เดล จากการสายพันธุ์ เดลตา กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศสเข้าสู่การระบาดรอบที่ 4 (Fourth Wave) จากสายพันธุ์เดลตา รัฐบาลออกมาตรการให้ผู้เข้ารับบริการในสถานให้บริการต่างๆ มี Health Pass แสดงว่าได้รับวัคซีน หรือ ผลการตรวจไม่พบเชื้อ COVID-19 ในระยะเวลาใกล้การใช้บริการ หรือ เพิ่งหายจากการติดเชื้อ COVID-19


รวมถึง รัฐบาลออกมาตรการปรับหากสถานให้บริการต่างๆ ไม่ดำเนินการ (เริ่มจาก 1,500 euros และเพิ่มขึ้นหากผิดซ้ำ จากเดิมที่กำหนดปรับ 45,000 euros) พร้อม บังคับให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานในระบบดูแลสุขภาพ ต้องรับวัคซีน


อิตาลี มี Health Certificate
เจอเหตุการณ์เดียวกัน และตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเป็นหลักพัน และอัตราตายเป็นเลขสองหลัก ฉีดวัคซีนแล้ว 71,240,657 โดส ฉีดวันละ 403,547 โดส (ประชากร 60,364,365 คน) 65.2% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 56.7% ได้ครบโดส


จากการสายพันธุ์เดลตา กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในประเทศอิตาลี รายงานวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา สายพันธุ์ Delta พบเปีน 94.8% ของสายพันธุ์ที่ ระบาดในประเทศ ขณะที่เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พบเพียง 22.7% รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับแก้มาตรการเกี่ยวกับการเดินทางในประเทศ (12 มิถุนายน) มี Health Certificate แสดงว่าได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ ผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ในระยะเวลาใกล้การใช้บริการ หรือ เพิ่งหายจากการติดเชื้อโควิด-19


อิสราเอล อาจล็อกดาวน์หากระบาดหนัก

อิสราเอล ถือเป็นประเทศที่มีการฉีดวัคซีนไปเยอะมาก ฉีดวัคซีนแล้ว 11,588,381 โดส ฉีดวันละ 119,085 โดส (ประชากร 8,808,673 ล้าน) 64.1% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 59.6% ได้ครบโดส


จากการสายพันธุ์เดลตา กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในประเทศอิสราเอล รัฐบาลโดยผู้อำนวยการกระทรวงการสาธารณสุข (Health Ministry Director -Nachman Ash) ให้สัมภาษณ์ถึงอาจต้องมีการล็อกดาวน์หากการแพร่ระบาดเพิ่มจนอาจทำให้ระบบการดูแลสุขภาพล่ม ทั้งนี้ หากต้องล็อกดาวน์ อาจเกิดในเดือนกันยายนในช่วงวันหยุด (Jewish Holidays) ซึ่งน่าจะกระทบกับระบบเศรษฐกิจมากกว่าจะเลื่อนไปเดือนตุลาคม


ออสเตรเลีย ล็อกดาวน์บางพื้นที่
ออสเตรเลีย ผู้ป่วยสามหลัก แต่อัตราตายต่ำ วัคซีนแม้จะฉีดไม่เยอะ ซึ่งมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ฉีด 1 โดส และครึ่งหนึ่งฉีดครบโดส ตอนแรกไม่ แต่ใช้ความเข้มในการจัดการ เมื่อ 3 ส.ค. ออสเตรเลีย มองว่าเดลตา มีแนวโน้มก่อเกิดความรุนแรง ติดเชื้อหนัก ควบคุมยาก ขณะที่การควบคุมพื้นที่ต่างๆ บางพื้นที่ล็อกดาวน์เต็มพื้นที่ และมีการติดเชื้อในเด็กเยอะขึ้น

ออสเตรเลีย ฉีดวัคซีนแล้ว 13,496,355 โดส ฉีดวันละ 184,239 โดส (ประชากร 25,832,112 ล้าน) 34.9% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 17.1% ได้ครบโดส


รัสเซีย เร่งฉีดวัคซีน

แต่เดิมรัสเซีย ฉีดวัคซีนน้อย แต่ตอนนี้เร่งมาก ปัจจุบัน รัสเซีย ฉีดวัคซีนแล้ว 66,216,817 โดส ฉีดวันละ 579,461 โดส (ประชากร 146,003,297 ล้าน) 25.9% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 18.4% ได้ครบโดส สามารถลดความชันของกราฟได้ ทั้งการติดเชื้อและการเสียชีวิต แต่ยังอยู่ที่ระดับ 2-3 หมื่นรายต่อวัน และเสียชีวิตเลขสามหลัก


ประเทศไทย อยู่ในช่วงขาขึ้น 
สถานการณ์ไทย อยู่ในช่วงขาขึ้น มีผู้ติดเชื้อหลักหมื่นรายต่อวันและ เสียชีวิตสามหลัก ข้อมูล 8 ส.ค. 64 ฉีดวัคซีนแล้ว 19,632,537 โดส ฉีดวันละ 401,677 โดส (ประชากร 69,993,382 ล้าน) 21.8% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 6.1% ได้ครบโดส




ขณะที่ ล่าสุดจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันที่ 10 ส.ค. 64 จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 9 ส.ค. 2564) รวม 21,171,110 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 501,330 โดส ได้แก่ 

เข็มที่ 1 : 350,389 ราย
เข็มที่ 2 : 104,484 ราย
เข็มที่ 3 : 46,457 ราย



เดลต้า พบคนอายุน้อยติดเชื้อมากขึ้น 
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ไม่เพียงแพร่ระบาดได้เร็ว (เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา ประมาณ 60%) แต่มีหลักฐานว่าก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงและอันตรายมากกว่าสายพันธุ์เดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่มีอาการรุนแรงในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อยลง (ผลจากหลายปัจจัย) ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ (ไม่ว่าชนิดไหน) มีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ (รายงานจากสหรัฐอเมริกาว่าไม่แตกต่างจากผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่อาการมักไม่รุนแรง)


รายงานจากมหาวิทยาลัย Wisconsin พบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ยังสามารถพบมีปริมาณไวรัสในจมูกและคอ ไม่แตกต่างไปจากผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และหลายประเทศพบการติดเชื้อในเด็กมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง


วัคซีนฉีดแล้ว ยังต้องระวังตนเอง

ขณะเดียวกัน สัดส่วนของประชากรที่ได้รับวัคซีนที่มากพอ จะมีส่วนสำคัญในการลดการแพร่ระบาดและอัตราการเสียชีวิต แต่ไม่ควรเป็นข้อบ่งขี้ในการยกเลิกหรือผ่อนคลายการระวังตนเอง (ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นทำความสะอาดมือ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมากในพื้นที่ ที่จำกัด)

การแพร่ระบาดในกลุ่มคนจำนวนมาก อาจนำสู่การเกิดการกลายพันธุ์ และสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเร็ว จะทดแทนสายพันธุ์เดิมหรือสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดช้ากว่า ขณะที่ ความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ขึ้นกับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อในโลก


3 มาตรการสำคัญ รับมือเดลตา

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า การลดความเสียหายที่เกิดจากวิกฤตที่เกินศักยภาพของระบบการดูแลสุขภาพ โดยการเร่งลดโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อ ขึ้นอยู่กับ 3 มาตรการ สำคัญ คือ มาตรการทางการปกครอง มาตรการทางการสาธารณสุข (การบริหารจัดการควบคุมโรค การพัฒนา ศักยภาพการตรวจหาผู้ติดเชื้อ การบริหารจัดการเตียง สถานพยาบาล) และ มาตรการส่วนบุคคล และทางสังคม (การชี้แจงเหตุและมาตรการ วินัย)

รวมถึง การเร่งฉีดวัคซีนเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ได้แก่ กลุ่มเสี่ยง สูงวัย 7 โรคเรื้อรัง และ ตั้งครรภ์ มากและเร็ว การเร่งค้นหาผู้เสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อ (ATK; RT-PCR) การได้รับยาที่เร็ว (แจ้งลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ) พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ติดเชื้อ (Home Isolation, Community Isolation)


"การเร่ง ฉีดวัควีน ป้องกันการติดเชื้อ ผู้เสี่ยง สูงวัย 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ ให้มากและเร็ว ขณะเดีวกัน การเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อและเสี่ยงแพร่เชื้อ ซึ่งขณนี้มี Antigen Test Kit (ATK) ในการตรวจได้เร็ว ยี่ห้อต่างๆ มีความแม่นยำดีระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะความไวและจำเพาะกว่า 90% การตรวจ ATK  จะสามารถค้นหาคน ควบคุม เข้ากระบวนการรักษา ให้เร็ว และให้ยาเร็ว ตอนนี้มีนโยนบายออกมาแล้ว ในกลุ่มที่เสี่ยงจะอาการรุนแรง มีการแจกยา แต่ต้องลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเพื่อติดตาม รวมถึง การพัฒนาศักยภาพ การดูแลผู้ติดเชื้อ Home Isolation และ Community Isolation" คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าว 
#10058


โดยทั่วไป เมื่อพูดถึง "future of work" ทักษะต่างๆ ที่มักให้ความสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องที่เกี่ยงข้องกับ การวิเคราะห์ข้อมูล(data analysis), ทักษะการเขียนโค้ดดิ้ง รวมถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์

อามิท ซักซีน่า รองประธานฝ่ายขาย อาเซียน เซลส์ฟอร์ซ เปิดมุมมองว่า ในมุมของการศึกษาวิชาการที่สถานบันศึกษาต่างโฟกัสในการเสริมสร้างทักษะและเพิ่มโอกาสในการทำงานจะเกี่ยวข้องกับสาขาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือที่เราเรียกกันแบบย่อว่า STEM

ด้วยยุคแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือ "The Fourth Industrial Revolution" คือยุคแห่งการปฏิวัติพัฒนาทักษะเพื่อรองรับการทำงานในอนาคตอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามในช่วงปีที่ผ่านมา ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจได้สร้างมุมมองของการทำงานที่เปลี่ยนไปให้แก่ธุรกิจ สถานการณ์ล็อคดาวน์และการทำงานจากที่บ้านชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะในเชิง "soft skills" ซึ่งเป็นทักษะสำคัญไม่ว่าการทำงานนั้นจะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือไม่ก็ตาม

เสริมทักษะ ก้าวสู่โลกใหม่การทำงาน

จากรายงานที่เซลส์ฟอร์ซจัดทำขึ้นในประเทศแถบยุโรปพบว่า 74% ของผู้นำทางธุรกิจกล่าวว่าพวกเขาได้หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนา soft skills ให้กับพนักงานมากยิ่งขึ้น

โดยนอกเหนือจากทักษะด้านไอทีของพนักงาน ทักษะเช่น ความสามารถในการจัดการอารมณ์ และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นเริ่มเป็นสิ่งที่ผู้บริหารให้ความสำคัญ ซึ่งเหล่านี้เชื่อมโยงมาจากการที่ผู้นำธุรกิจเหล่านี้ต่างต้องบริหารทั้งธุรกิจและพนักงานในแบบรีโมตแต่ยังต้องคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ จริยธรรม และการบริการลูกค้า

ดังนั้น เพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงานในแบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจไม่ควรมองข้ามการพัฒนาทักษะ soft skills และนี่คืออีก 3 เหตุผลว่าทำไม soft skills จึงเป็นทักษะสำคัญที่ธุรกิจควรให้ความสำคัญในตัวพนักงาน

ประการแรก วิกฤติเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทักษะในการปรับตัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าการที่ธุรกิจมีพนักงานที่มีความสามารถในการปรับตัว ปรับเปลี่ยน โดยไม่กระทบประสิทธิภาพการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ

โดยพนักงานที่มีความสามารถในการปรับตัวเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ มีการคิดในเชิงสร้างสรรค์ สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ จะสามารถคงประสิทธิภาพของการทำงานท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง


เพิ่มสื่อสาร-วัฒนธรรมองค์กร


อีกเหุตุผล การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องทำงานจากต่างสถานที่ แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีจะช่วยธุรกิจได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างงานได้ตามความต้องการของลูกค้า หรือช่วยธุรกิจในการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่หากขาดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของพนักงานในองค์กร ธุรกิจก็ไม่อาจประสบความสำเร็จได้อย่างที่สุด

"ความสามารถในการเข้ากับคนและทำงานร่วมกันจึงเป็นอีกหนึ่ง soft skills ที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพนักงานแต่ละคนต้องทำงานจากต่างสถานที่อย่างในปัจจุบัน"

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานซึ่งพนักงานทั้งหมดเห็นชอบร่วมกัน หรือกำหนดแนวทางปฎิบัติเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน สิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การทำงานของพนักงานได้ การสื่อสารกันระหว่างพนักงานจะช่วยให้การทำงานเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น

สุดท้าย เป็นน้ำหนึ่งอันเดียวและมีเป้าหมายเดียวกัน วัฒนธรรมขององค์กรคือปัจจัยสำคัญที่พนักงานเลือกที่จะอยู่กับองค์กร แต่ในปัจจุบันที่การแพร่ระบาดส่งผลให้พนักงานต้องทำงานจากต่างสถานที่ วัฒนธรรมขององค์กรจึงเริ่มเป็นเรื่องที่อาจเข้าถึงได้ยาก

การมีทักษะในการสร้างความกลมเกลียวจึงเป็นสิ่งที่พนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับหัวหน้างานควรมีเพื่อปลูกฝังและกระตุ้นความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันของพนักงานทุกคนและให้เข้าใจถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของธุรกิจ


ซักซีน่าวิเคราะห์ว่า การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงต้องมีการสื่อสารที่ดี แต่ยังต้องได้ใจพนักงานด้วย ผู้นำทีมควรมีความสามารถในการสร้างทีม รับฟัง ให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ ส่งเสริมในสิ่งที่ขาดของคนในทีม มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ รู้จักเห็นอกเห็นใจ ใฝ่เรียนรู้ ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมั่นคง

"แม้โลกของการทำงานจะเปลี่ยนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่ความต้องการบุคลากรที่มีทักษะความเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพจะยังคงเป็นที่ต้องการไม่เปลี่ยนแปลง"

แม้เทคโนโลยีจะมาเป็นเครื่องมือในการสร้างงานและทักษะ แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้และจะสร้างความแตกต่างทางธุรกิจคือ soft skills ที่พนักงานควรมี ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่สำนักงานหรือจากต่างสถานที่ ความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน ความพร้อมที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกันจะทำให้สถานที่ทำงานในองค์กรนั้นดึงดูดใจพนักงาน
#10059


ฝ่ายประชาสัมพันธ์สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า เนื่องจากกระแสข่าวที่ปรากฏว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ต้องเดินทางโดยรถบัสจากจังหวัดภูเก็ตไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางกลับประเทศ สาเหตุเพราะสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ออกคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2564 ห้ามสายการบินที่ให้บริการผู้โดยสาร (Passenger Flight) ทำการบินเที่ยวบินภายในประเทศรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ซึ่งเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคของ ศบค.

กพท. ขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน ดังนี้

1.ประกาศเรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ฉบับที่ 3) ออกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 ที่กระแสข่าวอ้างถึง นั้นยกเว้นเที่ยวบินที่เกี่ยวข้องกับโครงการพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ (แซนด์บ็อกซ์ Sandbox)


2.แม้ขณะนี้ไม่มีเที่ยวบินประจำตามตารางเวลา ให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและกรุงเทพมหานคร แต่ กพท. เปิดให้สายการบินขออนุญาตทำการบินในลักษณะเช่าเหมาลำ (Charter Flight) จากจังหวัดภูเก็ตมายังสุวรรณภูมิได้ แต่ด้วยข้อจำกัดในด้านของจำนวนผู้โดยสารอาจทำให้สายการบินพิจารณาไม่จัดเที่ยวบินไปจังหวัดภูเก็ตเพื่อไปรับนักท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ เนื่องจากพิจารณาแล้วอาจจะไม่คุ้มในการปฏิบัติการบิน

3.ปัจจุบันยังมีเที่ยวบินให้บริการจากจังหวัดภูเก็ตไปยังสนามบินอู่ตะเภาฯ จังหวัดระยอง ซึ่ง กทพ. ได้ประสานและกำชับสายการบินว่าให้อำนวยความสะดวกกับผู้โดยสาร โดยการจัดรถรับ-ส่งไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบรรเทาปัญหาการเดินทางของนักท่องเที่ยวโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ระหว่างที่ยังไม่มีสายการบินใดให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำในเส้นทางดังกล่าว
#10060


ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เพิ่มระดับคำเตือนการเดินทางสู่ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศไทย  อิสราเอล  ฝรั่งเศส  ไอซ์แลนด์  เวสต์แบงก์และกาซา รวมทั้งอีกหลายพื้นที่ซึ่งครอบคลุมถึงอารูบา และเฟรนช์ พอลินีเซีย ซึ่งเป็นดินแดนของฝรั่งเศสในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยกระดับคำเตือนเดินทางมาไทยเป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเช่นกัน หมายถึงไม่ควรเดินทาง เนื่องจากมีการติดเชื้อโควิด-19 สูงมาก อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงติดเชื้อและอาการรุนแรงอาจน้อยลงถ้าฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 



นอกจากนี้ซีดีซียังเพิ่มระดับคำเตือนการเดินทางสู่ระดับ 3 สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังออสเตรีย โครเอเชีย  เอลซาลวาดอร์  อาร์เซอร์ไบจาน  กวม  เคนยา และจาไมกา

ทั้งนี้ ซีดีซีระบุว่า ชาวอเมริกันที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้
#10061


"RentSpree (เรนท์สพรี)" แพลตฟอร์มช่วยเหลือการเช่าบ้านแบบครบวงจร ก่อตั้งโดย "เอกบุตร สิริศุภางค์" และเพื่อนในขณะที่ศึกษาอยู่ที่สหรัฐ มุ่งแก้ปัญหาและเปลี่ยนแปลงระบบการเช่าบ้านให้รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โดยนำทุกขั้นตอนไปไว้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด


เรนท์สพรี ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินการปล่อยเช่าหรือเช่าบ้านในสหรัฐอเมริกาให้ง่ายขึ้น โดยเปรียบเสมือนตัวกลางระหว่างผู้เช่า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และนายหน้า ลดกระบวนการคัดกรอง ตรวจสอบและเช็คข้อมูลต่างๆ การประเมินค่าเช่า ที่นำมาใช้ในการพิจารณาและตัดสินใจ จนถึงการทำสัญญาเช่า และการซื้อประกันการเช่าบ้านด้วยเพื่อความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

'ฮับ' แห่งวงการเช่าบ้าน

เอกบุตร ซีโอโอ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เรนท์สพรี จำกัด กล่าวว่า "เรนท์สพรี" เวอร์ชั่นแรกได้เจาะจงไปที่ผู้ต้องการเช่าบ้าน โดยช่วยส่งเอกสารแบบฟอร์มการเช่าบ้านและการเช็คเครดิต ให้กระบวนการทุกอย่างเสร็จภายในระยะเวลาไม่กี่นาที แต่ทั้งนี้ในมุมของเจ้าของบ้านหากไม่รู้จักก็จะไม่เกิดการใช้งานและยอมรับในระบบ เนื่องจากผู้เช่าไม่มีอำนาจในการตัดสินใจในกระบวนการสมัครเช่าบ้าน ทำให้ในระยะแรกเจอกับปัญหาตรงจุดนี้

เขาและทีมงานจึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนแผนการตลาดใหม่ทั้งหมด โดยการหันไปเจาะกลุ่มนายหน้าแทนรายบุคคล นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนของเรนท์สพรีจากบิซิเนสโมเดล B2C สู่ B2B2C คือการพาร์ทเนอร์กับสมาคมต่างๆ โดยในสหรัฐจะมีสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ส่วนใหญ่จะมีระบบ Multiple Listing Service หรือ MLS ที่ใช้ตรวจสอบและอัพเดทข้อมูล ทำให้การคัดกรองทางการเงินเป็นไปได้โดยง่าย และเกิดการช่วยโปรโมทเครื่องมือของเรนท์สพรีให้กับเมมเบอร์ขององค์กรอีกทางหนึ่ง


ปัจจุบันเรนท์สพรีมีอัตราการเติบโตมากกว่า 2-3 เท่าทุกปี และถือเป็นสตาร์ทอัพด้านอสังหาที่มาแรงในสหรัฐ มีผู้ใช้บริการมากกว่า 6 แสนราย ทั้งช่วยเหลือเจ้าของบ้านและเอเย่นต์ไปกว่า 1 แสนราย ผ่านการทำธุรกรรมการเช่าบ้านกว่า 5 แสนรายการ โดยได้ขยายไปยังรัฐต่างๆ เช่น เท็กซัส ฟลอริดา จอร์เจีย จากเดิมที่ให้บริการเฉพาะในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น 

"แม้ว่าเรนท์สพรีจะเป็นที่นิยมใช้ในตลาดอเมริกา แต่กลับมีทีมพัฒนาทั้งหมดอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของคนไทยในการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศได้อย่างตรงจุด"


ปั้นซิลิคอนวัลเลย์ขนาดย่อม

ปัจจัยที่เป็นแรงผลักดันให้เรนท์สพรีประสบความสำเร็จ คือ 1.ทีมพัฒนาที่เป็นคนไทยที่มีความเชี่ยวชาญสูง โดยแบ่งออกเป็น 2 ทีมหลักๆ คือ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักออกแบบผลิตภัณฑ์ 2.ความเชื่อมั่นในตัวทีมและให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมในองค์กร 3.ในส่วนของกระบวนการทำงานเป็นการย้อนรอยจากสตาร์ทอัพที่สหรัฐ

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตในสายงานของพนักงาน โดยนำระบบเลเวลเข้ามาใช้กับทุกตำแหน่ง อีกทั้งมีงบเทรนนิ่งให้กับพนักงานทุกคน การให้อิสระในการทำงานและจัดการสิ่งที่ได้รับมอบหมายด้วยตนเอง ทำให้กล้าตัดสินใจ กล้าลองผิดลองถูก สิ่งเหล่านี้ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และทำให้แต่ละคนมี Ownership กับงานมากขึ้นเรียกได้ว่าเป็นซิลิคอนวัลเลย์ขนาดย่อมนั่นเอง

สำหรับความท้าทาย เอกบุตร ชี้ว่า ย้อนไปช่วงแรกของธุรกิจ คือเรื่องของการหาคนมาร่วมทีม อีกทั้งในขณะที่เป็นเทคสตาร์ทอัพมือใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ จึงต้องหาข้อมูลจากหนังสือและทดลองทำทุกอย่างเองทั้งหมด และเมื่อระดมทุนจึงยากที่จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เพราะไม่มีประวัติความสำเร็จ จนต้องใช้ความพยายามกว่า 4 ปี จึงจะสามารถระดมทุนก้อนแรกได้เมื่อปลายปี 2563 ในรอบ Seed Fund เป็นมูลค่า 2.3 ล้านดอลลาร์

"สิ่งที่ทำให้เรนท์สพรีเป็นที่สนใจของนักลงทุน คือ การที่บริษัทมีข้อมูลที่บันทึกไว้ตลอดว่าบริษัทเติบโตได้ 2-4 เท่าต่อปี ทำให้นักลงทุนเกิดความสนใจ บวกกับบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตที่สูง อีกทั้งเป้าหมายของบริษัทเป็นไปได้จริง และบิซิเนสโมเดลมีความยั่งยืน ทำให้ความเสี่ยงในการลงทุนกับเรนท์สพรีน้อยกว่าการลงทุนอื่นๆ"

ณะที่ภาพรวมการแข่งขันของตลาด Prop-Tech Startup ในสหรัฐมีผู้เล่นจำนวนมาก หลายส่วนเป็นองค์กรใหญ่ที่พัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับอพาร์ตเมนต์หรืออาคารขนาด 500 ยูนิตขึ้นไป ตลาดจึงเป็น Red Ocean การแข่งขันสูง ส่วนตลาดที่เป็นเจ้าของบ้านรายย่อย 1-5 ยูนิตยังไม่ค่อยมีผู้เล่นมากนัก แต่เรนท์สพรียังสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาระบบให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เร่งขยายทีมรองรับเต็มสูบ

เอกบุตร กล่าวต่อไปว่า ภาพรวมตลาดและการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้เช่าเพิ่มขึ้น ราคาบ้านสูงขึ้น และคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะย้ายงานไปต่างรัฐมากขึ้น จึงไม่อยากซื้อบ้านแต่ต้องการเช่าแทน ตลาดจึงกลายเป็นของผู้เช่า

ส่วนแผนการดำเนินงานในอนาคต ในแง่การตลาดมีแพลนที่จะเจาะตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ด้วยความที่เซอร์วิสของเรนท์สพรียังเป็นแค่ 1 ใน 10 อย่างที่เกี่ยวกับการเช่าบ้าน จึงวางแผนดำเนินการส่วนที่เหลือให้ครบวงจรในส่วนของการเช่าบ้านทั้งหมด อาทิ การชำระเงินค่าเช่า การซ่อมแซมบ้าน รวมทั้งเครื่องมือสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างผู้เช่าและนายหน้า

หลังจากที่สามารถคว้าเงินทุน รอบ Series A มูลค่ากว่า 8 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 250 ล้านบาทไปหมาดๆ กลยุทธ์หลังจากนี้ตั้งเป้าที่จะต่อยอดธุรกิจผ่านการขยายทีมพัฒนาคนไทยเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากเดิม 55 คน เป็น 300 คนภายในปี 2565 พร้อมทั้งในส่วนของรายได้ตั้งเป้าที่จะแตะ 1 พันล้านบาทภายในสิ้นปีหน้าเช่นกัน
#10063


สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ดิ่งลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.04 ดอลลาร์/บาร์เรล


ทั้งนี้ รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ระบุว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศในขณะนี้สูงพอที่จะส่งผลเสียต่อสภาพภูมิอากาศไปอีกหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีข้างหน้า

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน รวมทั้งพลังงานอื่นๆที่ปล่อยมลพิษในระดับสูงโดยทันที


"รายงานนี้เป็นการส่งสัญญาณให้ยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหินก่อนที่พวกมันจะทำลายโลกของเรา" นายกูเตอร์เรสกล่าวในแถลงการณ์

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งการที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายจังหวัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่จีนออกมาตรการคุมเข้มในหลายเมือง รวมทั้งยกเลิกเที่ยวบิน และการขนส่งในภาคสาธารณะ

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล
#10064
ถมที่ ขุดสระ จัดสวน วางท่อ ติดต่อ 080-022-3804
www.mmee2000.com ทำจริงไม่ทิ้งงาน
#10065


        เงินในกระเป๋าสั่นเลยทีเดียว เมื่อทางค่าย LG ออกทีวีรุ่นใหม่มากรุบๆ ชื่อรุ่นว่า "LG Stand By Me" ตอบโจทย์สายมินิมอลสุด ตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายไปไว้ส่วนต่างๆของบ้านได้ไม่ว่าจะเป็นในครัว ห้องนั่งเลย ห้องนอน เพราะตัวนี้มีล้อเลื่อนได้



        สาวก TikTok น่าจะชอบตรงที่จอสามารถปรับหมุนเป็นแนวตั้งได้เลยทันทีดีงามมาก แถมหน้าจอขนาด 27 นิ้ว  เป็นแบบทัชสกรีน หากลากเครื่องนี้ไปอยู่ในครัวขณะทำอาหาร จะเปิดดูวิธีการทำอาหารจากยูทูปก็ย่อมได้  แต่เด็ดสุดๆ ตรงที่ทีวีเครื่องนี้ สามารถใช้แบบไร้สายได้เลยไม่ต้องยุ่งยากเสียบปลั๊กต่างๆ นาๆ เพราะมีแบตเตอรี่ในตัวเสร็จสรรพ ที่ใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง



บอกสรรพคุณมาขนาดนี้ ราคาน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ตัดสินใจว่าจะฟาดซื้อดีไหม  อดใจไว้ก่อนเพราะทางเกาหลียังไม่บอกราคาแบบเป็นทางการออกมา ที่เกาหลีจะเปิดตัวทีวีรุ่น "LG Stand By Me" เร็วๆ นี้

ระหว่างนี้เข้าไปชมพลางๆ ได้ที่เวปนี้
https:// www.lge.co.kr/tvs/27art10akpl?fbclid=IwAR3-g5oeez6uuOBo9d3OrU3V0fk5SNAepecV6VRdCGQw-TdwL4dUo4j99Z8