• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - deam205

#3641

ณ วันนี้รูปแบบการใช้จ่ายเงินเปลี่ยนไป จากการใช้เงินสด เปลี่ยนมาเป็นเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยการทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น

ทำให้ธนาคาร และสถาบันการเงินต่างๆ ออกมาพัฒนาช่องทางการเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์กันมากขึ้น

ตอบโจทย์ "โลกไร้พรมแดน" ได้อีกมิติหนึ่ง

ทั้งนี้ "นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยว่า โลกการเงินในอนาคต บทบาทและแนวทางในการกำกับดูแลของ ธปท.จะต้องเปลี่ยนแปลงไป เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการเงินทำได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น โดยดำเนินการผ่าน 3 มิติหลัก ได้แก่ 1. More Open Data คือ ทำอย่างไรให้ข้อมูลถูกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้มากขึ้น หรือข้อมูลที่เกิดขึ้นจากสารพัดกิจกรรมที่ประชาชนได้ทำให้ใช้งานได้มากขึ้น เช่น ข้อมูลจากการทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มาก ซึ่งปัจจุบัน ธปท.ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันและโอนข้อมูล เริ่มจากข้อมูลเดินบัญชีของแต่ละธนาคาร (Bank Statement) เพื่อให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีข้ามธนาคารได้ง่ายขึ้น และสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้สะดวกขึ้น

2. More Open Competition หรือการแข่งขันที่ต้องกว้างขึ้น ซึ่งมีหลายมิติ ทั้งการแข่งขันจากผู้เล่นใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ธนาคาร ให้สามารถเข้ามาแข่งขันกับผู้เล่นเดิมในอุตสาหกรรม (Existing Player) รวมถึงเปิดให้ผู้เล่นปัจจุบันสามารถปรับตัวเพื่อแข่งขันกับผู้เล่นรายใหม่ได้ ซึ่งในต่างประเทศจะเห็นว่าธนาคารเริ่มเข้าไปซื้อ หรือทำการควบรวมกิจการ (M&A) บริษัทฟินเทค เพื่อเตรียมตัวรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยแนวทางหนึ่งที่ ธปท.จะช่วยเหลือได้ คือ การปรับปรุงแนวทางการทดสอบและพัฒนาระบบ (Sandbox)เพื่อให้เกิดการแข่งขัน เกิดผู้เล่นใหม่ และเกิดนวัตกรรมใหม่ เพราะที่ผ่านมายอมรับว่าไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร

3. Open Infrastructureหรือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับทั้งผู้เล่นใหม่ และผู้เล่นปัจจุบันให้เข้ามาใช้งานได้ เพื่อให้เกิดการแข่งขันและต่อยอดในเชิงนวัตกรรมได้ เช่นระบบฐานข้อมูลกลาง (Central Web Service: CWS) ซึ่งเป็นวิธีการนำข้อมูลใบแจ้งหนี้ (Invoice) ที่อยู่ในระบบมารวมไว้ตรงกลาง เพื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ต้องการสินเชื่อโดยมีใบแจ้งหนี้เป็นหลักประกัน (Factoring) สามารถเข้าถึงได้สะดวกและง่ายขึ้น ซึ่งธนาคารและนอนแบงก์สามารถเข้ามาร่วมใช้บริการได้ เพื่อให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ จากปัจจุบันเป็นอุปสรรค (Pain Point) สำคัญของระบบการเงินไทย อีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญ คือ สกุลเงินดิจิทัล (Digital Currency) โดยเฉพาะสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ซึ่ง ธปท.มองว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ต้องจัดเตรียมไว้รองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเข้ามา


ด้าน "นายผยง ศรีวณิช" ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทยได้วางวิสัยทัศน์ และกระบวนการทำงานของธนาคารพาณิชย์ในช่วง 3 ปี เพื่อทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์สามารถเติบโตยั่งยืน มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพภายใต้ภาวะความท้าทาย และเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีการวางแนวทางการผลักดันความยั่งยืนใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1. การเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มศักยภาพให้กับการแข่งขันประเทศ โดยการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มให้เกิดความเชื่อมโยงกัน ไม่เกิดความซ้ำซ้อน และสามารถต่อยอดได้ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งได้เริ่มมีการนำระบบต่าง ๆ ที่ให้บริการแล้วมาต่อยอดการให้บริการ เช่น ระบบพร้อมเพย์, การพัฒนาระบบเช็คเคลียริ่ง, โครงการไทยแลนด์สมาร์ทอินฟราสตรัคเจอร์, อี-อินวอยซ์, อี-ซิกเนเจอร์ รวมถึงการพัฒนาระบบ Open Bangking เพื่อสร้างความเท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นในระบบผู้ประกอบการด้านการเงินในประเทศ ทั้งธนาคารพาณิชย์ และนอนแบงก์ อีกทั้งยังต้องสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการจากการสร้างความปลอดภัยในการใช้บริการไซเบอร์

2. การผลักดันระบบการเงินไทยให้เป็นผู้นำในภูมิภาค CLMV ที่มีการค้าร่วมกันเป็นจำนวนมาก พัฒนาระบบ Inter-Bank ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การชำระเงินเกิดความรวดเร็ว และการนำเงินในรูปแบบดิจิทัลที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พัฒนาขึ้น คือ CBDC มาใช้เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรม ซึ่งจะเป็นการสร้างระบบอย่างไม่มีอุปสรรคและไร้รอยต่อ สร้างการต่อยอดสู่การก้าวสู่ระบบ e-Mone ,3. การสร้างความยั่งยืน โดยมีตัววัด ระยะเวลาในการดำเนินงานตามแผนที่แน่นอน พร้อมกับการทำบริการการเงินให้เกิดความเท่าเทียมกัน ซึ่งธนาคารพาณิชย์จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน การให้ความรู้ รวมถึงการนำระบบพิจารณาสินเชื่อที่มองไปถึงอนาคตมากกว่ารูปแบบเดิมที่เน้นการมองไปที่อดีต จากการนำพฤติกรรมการใช้น้ำ-ใช้ไฟมาประกอบ ทำให้เกิดการพิจารณาหนี้สินให้ครอบคลุม สามารถแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ ไม่เกิดช่องว่างทางกฎระเบียบ มีการรวมหนี้ประชาชน มีประสิทธิผลและเกิดความเป็นธรรมกับลูกหนี้ และ4. การให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคลในองค์กรของธนาคารพาณิชย์ การดูแลบุคลากรสถาบันการเงินให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพิ่มความสามารถให้กับบุคลากรของธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนภายใต้ Thailand Next

ดังนั้นถึงเวลาที่จะต้องศึกษาการเปลี่ยนแปลงการเข้าถึงธุรกรรมการเงินให้ชัดเจน!

เพราะหากช้า....เราอาจจะตกขบวนที่จะเดินหน้าไปสู่โลกอนาคต!
#3642


พลพรรคแข้งฟุตซอลทีมชาติไทย กอดคอกันเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกชิงแชมป์โลกที่ลิธัวเนีย ตามคาดหมาย หลังรวมพลังถล่ม หมู่เกาะโซโลมอน เมื่อคืนวันที่ 19 กันยายน 2564 โดยที่ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ทำแฮตทริกได้ด้วย

ศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 ที่ลิธัวเนีย นัดสุดท้ายของกลุ่ม C ทีมชาติไทย อันดับ 3 มี 1 แต้ม ยังไม่ชนะใคร ลงสนามเจอกับหมู่เกาะโซโลมอน บ๊วยของกลุ่มไม่มีแต้ม เกมนี้หากพลพรรค 'ช้างศึก' คว้าชัยชนะก็จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ทันที

สำหรับเกมนี้ ทีมชาติไทย ส่ง 5 ตัวจริงลงสนามประกอบด้วย คฑาวุธ หาญคำภา​ เป็นนายประตู ตามด้วย รณชัย จูงวงษ์สุข, วรุฒ หวังสะมาแอล, มูฮัมหมัด อุสมานมูซา และ นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์

เริ่มเกม 4 นาที ไทยนำก่อนเลย มูฮัมหมัด อุสมานมูซา กระชากขึ้นขวาแล้วตบให้ นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ แปตุง 1-0 ขณะที่ นาที 6 ลูกสองก็มา ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ได้.หน้าประตูแล้วชิพ.ข้ามผู้รักษาประตูแบบเหนือชั้น 2-0

โซโลมอน พยายามตีไข่แตกจน นาที 15 ก็ทำสำเร็จ โคลแมน มาเกา ยิงอัดเสาไกลแล้ว เอลิส มาน่า พุ่งมาแปเปลี่ยนทางตีไข่แตก 1-2 แต่นาที 17 ไทยยิงนำห่าง กฤษดา วงษ์แก้ว เติมมาทางซ้ายแล้วแปนิ่มๆ 3-1 และจบครึ่งแรกที่ผลนี้

ครึ่งหลัง นาที 24 ช้างศึก กดเพิ่มเม็ดสี่จากลูกสวนกลับ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ตัด.ได้แล้วจ่ายยัดให้ เจษฏา ชูเดช กระทุ้งเข้า 4-1 ต่อมา นาที 27 โซโลมอน ได้จุดโทษหลัง คฑาวุธ หาญคำภา รวบคู่แข่งล้มแล้ว ไมกาห์ ลีอาลาฟา ซัดเปรี้ยงไล่มาอีก 2-4

ไทย บุกแหลกจนนาที 32 นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ วิ่งไปตบเข้าขวาให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง แปกลางประตูทิ้งห่าง 5-2 ต่อด้วย นาที 34 จังหวะโอเพ่นเพลย์ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ป้ายออกเสาไกลให้ เจษฏา ชูเดช สะกิดต่อเข้าประตูเป็น 6-2

ช้างศึกยังยิงไม่เลิก นาที 37 จิรวัฒน์ สอนวิเชียร เติมขึ้นมาซ้ายแล้วตบ.เข้า 7-2 ส่วน นาที 38 โซโลอมน ยังไม่ยอมแพ้หลังได้ฟรีคิกเยื้องซ้ายแล้ว ราโกโม่ วิ่งมาหวดไล่ตามอีก 3-7 ต่อด้วย นาที 39 ทีมไทยเอาอีก พีรพัฒน์ แก้ววิลัย กระทุ้งพาทีมหนีไปอีก 8-3

สุดท้าย นาที 40 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง จัดการซัลโวแฮตทริคพาทีมไทยชนะปิดกล่องไป 9-3 แม้ตอนท้าย เซีย จะยิงให้ โซโลมอน ตามมาอีก 4-9 แต่ก็ได้แค่นั้น จบเกม ไทยชนะ 9-4 ผลการแข่งขันนี้ทำให้ทีมชาติไทย ที่ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ในกลุ่ม C มีทั้งหมด 4 แต้ม ผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายตามความคาดหมาย คว้าอันดับ 3 ดีที่สุดเข้าไปพบกับ คาซัคสถาน วันที่ 23 กันยายน 2564
 
#3643


นายชานนท  โตวิกกัย กรรมการบริหาร บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ LAUNDRYBAR เปิดเผยว่า "รางวัลแฟรนไชส์ไทยขนาดกลางยอดเยี่ยม ที่ลอนดรี้บาร์ ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ ครั้งนี้ สะท้อนถึงการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการ ที่รับรองว่าเราเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้มาตรฐาน สามารถสร้างธุรกิจร้านสะดวกซักให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างผลกำไรให้แก่ผู้ประกอบการ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการ

"ลอนดรี้บาร์" คว้ารางวัลแฟรนไชส์ยอดเยี่ยม จาก Thailand Franchise Award 2021

ในปัจจุบันร้านสะดวกซักลอนดรี้บาร์เปิดให้บริการแล้ว 109 สาขาทั่วประเทศ คาดว่าสิ้นปี 2564 จะขยายเพิ่มได้เป็น 160 สาขา แน่นอนว่าเรายังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานการบริการและพัฒนาคุณภาพของแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับสุขอนามัยของพี่น้องชุมชนชาวไทย และเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจแฟรนไชส์ไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้เติบโตต่อไป"

ปัจจุบัน ลอนดรี้บาร์ เดินหน้าขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และขยายฐานการให้บริการ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจให้ครอบคลุมและทั่วถึง เราเน้นทำการตลาดเชิงรุก อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้แบรนด์ ลอนดรี้บาร์ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยได้เจรจาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและทางการตลาดกับร้านสะดวกซื้อ อาทิ 7-ELEVEN และ บิ๊กซี  รวมทั้งกับ สถานีบริการ PTT เพื่อจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และซักฟรีผ่านแอปพลิเคชัน LBPay ของเรา เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้บริการและผู้ลงทุนแฟรนไชส์

"ลอนดรี้บาร์" คว้ารางวัลแฟรนไชส์ยอดเยี่ยม จาก Thailand Franchise Award 2021

สำหรับรางวัล "Thailand Franchise Award 2021" จัดขึ้นเป็นปีที่ 2  โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ไทยได้แสดงศักยภาพการบริหารจัดการธุรกิจที่มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล อีกทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการและผู้สนใจลงทุน โดยมุ่งหวังให้รูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์เป็นทางเลือกเพื่อช่วย 'สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้' ให้ประชาชนทั่วไปและผู้ที่อยากเริ่มธุรกิจใหม่ ได้มีกิจการเป็นของตนเองได้โดยง่าย ความเสี่ยงต่ำ สร้างผลตอบแทนไว และตั้งตัวได้เร็วขึ้น

โดยในปีนี้ มีรางวัลรวมทั้งสิ้น 13 รางวัล นอกจาก ลอนดรี้บาร์ แล้ว ยังมีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่านี้ รวม 10 แบรนด์ อาทิ แบรนด์ Dairy Queen ตำมั่ว และ OfficeMate Plus จากที่สมัครเข้าร่วมทั้งหมด 37 แบรนด์
#3644



นิยามของการดูแลผิวหน้าของคุณผู้ชายเพื่อ แก้ปัญหาผิวที่ร่วงโรยและเสื่อมสภาพ พร้อมช่วยปรับสมดุลผิวทั้งภายในและภายนอกด้วยเซรั่มบำรุงผิว สำหรับผู้ชาย พร้อมเผยผิวหน้าที่ดูเรียบเนียน แลดูกระจ่างใสพร้อมความมั่นใจมาอย่างเต็มขั้น โดยสถานการณ์ในช่วงนี้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ต้องซ่อนผิวหน้าของตนเองเอาไว้ภายใต้หน้ากาก รวมถึงต้องเจอกับมลภาวะต่าง ๆ ความเครียด และอาหารที่รับประทาน เป็นเหตุให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพ อ่อนแอ และดูไม่มีชีวิตชีวา แต่ปัญหาเหล่านี้เราสามารถแก้ไขด้วย Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum เซรั่มผู้ชาย ที่สามารถเสริมความแข็งแรงให้ผิว ด้วยการบำรุงขั้นสูงสุด ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยพร้อมให้ผิวหน้าของคุณผู้ชายทุกคนดูเรียบเนียน และแลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น 


คุณสมบัติที่โดดเด่นของ เซรั่ม Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum คือความสามารถในการดูแลผิวหน้าของคุณผู้ชาย ที่พร้อมฟื้นบำรุง แก้ปัญหาต่าง ๆ บนผิวหน้าที่คุณผู้ชายมักจะต้องเผชิญอยู่บ่อยครั้ง เรียกได้ว่า เป็นเซรั่มผู้ชาย เพื่อผิวของคุณผู้ชายโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ว่าผิวหน้าที่ร่วงโรย และดูไม่สดชื่นนั้นจะเกิดจากปัจจัยภายในอย่างอาหารที่กิน ความเครียดสะสม หรือเกิดจากปัจจัยภายนอกอย่างมลภาวะ ฝุ่นควันต่าง ๆ ก็สามารถจัดการได้ ด้วยการปรับสมดุลของเซลล์ผิวตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก จึงสามารถแก้ปัญหาผิวเสื่อมโทรมได้อย่างตรงจุด คืนความสดใสและดูมีชีวิตชีวาให้แก่ผิว ซึ่งหากใช้เป็นประจำจะรู้สึกเลยว่ารูขุมขนแลดูกระชับขึ้น ริ้วรอยแลดูตื้นขึ้น รวมถึงผิวหน้ายังแลดูเรียบเนียนละเอียดมากขึ้นอีกด้วย พร้อมให้ผิวใหม่ของคุณผู้ชายแลดูกระจ่างใสความมั่นใจมาเต็มทันที 


โดยคุณสมบัติที่โดดเด่นของเซรั่มบำรุงผิว Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum เซรั่มสีน้ำเงินขวดนี้ได้อัดเต็มไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยในการฟื้นบำรุงผิวอย่าง Blue Algae Extract สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำเงิน ซึ่งทำหน้าที่ฟื้นคืนสภาพผิวที่เคยโทรมจากปัจจัยภายนอก โดยทำงานร่วมกันกับ PRO-XYLANE™  ที่มีคุณสมบัติในการชะลอความร่วงโรยของผิว ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว และทำให้ผิวที่เคยเสื่อมโทรมกลับมามีแลดูสุขภาพดีได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังมี Japanese Cedar Bud Extract หน่ออ่อนต้นไม้อายุแก่กว่าพันปี ซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะมิโน และแร่ธาตุที่จำเป็น จึงสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลัดผิว พร้อมเปลี่ยนผิวได้เคยร่วงโรยให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งนึง โดย Cedar Bud Extract จะฟื้นบำรุงตั้งแต่โครงสร้างของผิวชั้นใน พร้อมเสริมความแข็งแรงให้ผิวหน้าชั้นนอกได้อีกด้วย และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ Life Plankton™ แพลงตอนที่มีต้นกำเนิดจากแหล่งธรรมชาติ และเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับไบโอเธิร์ม ส่วนสำคัญที่ช่วยปลอบประโลม พร้อมลดการระคายเคือง และกระตุ้นการทำงานของผิว เพื่อให้ผิวหน้าของคุณผู้ชายดูแข็งแรงมากยิ่งขึ้น 


ผลลัพธ์หลังใช้งานจากผู้ทดลองใช้ 42 คนที่ใช้ พบว่าเซรั่ม Biotherm ขวดนี้ไปเพียงแค่ 4 สัปดาห์พบว่าช่วยในการฟื้นบำรุงผิวหน้าให้ดูกระชับขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ก็แลดูลดเลือนลง นอกจากนี้เมื่อใช้เครื่องมือในการทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ พบว่าช่วยในการลดเลือนริ้วรอยได้มากถึง 38% ช่วยให้ผิวแลดูกระชับได้ถึง 15%  รวมถึงช่วยให้ผิวแลดูแน่นขึ้น 9.8% ซึ่งหากคุณผู้ชายคนใดต้องการที่จะทดสอบประสิทธิของผลิตภัณฑ์สามารถใช้ Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum เพื่อพิสูจน์ความเปลี่ยนแปลงของผิวได้เลยค่ะ 


นอกจากนี้ ด้วยเนื้อสัมผัสของเซรั่มบำรุงผิวขวดนี้เราพบว่า เนื้อสัมผัสนั้นแสนบางเบา รวมถึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ในทันทีโดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะเอาไว้ โดยขั้นตอนการใช้งานนั้นก็แสนง่ายดายเป็นอย่างมาก เพราะเพียงลูบไล้เซรั่มให้ทั่วบริเวณผิวหน้าทั้งใบหน้าและลำคอ ทั้งเช้าและเย็นเป็นประจำ คุณก็จะเห็นถึงผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพกับผิวด้วยตาของคุณเอง 


สำหรับท่านใดที่สนใจบำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่มบำรุงผิว Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum สามารถสั่งซื้อได้ในปริมาณ 50 ml มูลค่า 3,500 บาทเท่านั้น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือส่องผลิตภัณฑ์ของ Biotherm ชิ้นอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ผ่านทางเว็บไซต์  https://www.biotherm.co.th/ หรือช่องทางใด ๆ ก็ตามที่เป็นร้านค้าของ  Biotherm แล้วมาพิสูจน์ความแข็งแรงของผิวไปด้วยกันค่ะ 
 
#3645


น้อยคนนักจะรู้ว่าเบื้องหลังสังเวียนนักสู้ของ "กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี" แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ที่กำลังจะลงศึกป้องแชมป์ใน ONE: REVOLUTION 24 ก.ย. นี้ ยังมีอีกหนึ่งฝันอันสูงสุดของชีวิตลูกผู้ชาย นั่นคือการรับใช้ชาติในฐานะทหารประจำหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "หน่วยซีล"

นอกเหนือจากการทำหน้าที่นักกีฬาใน ONE แล้ว กัปปิตัน ยังมีตำแหน่งเป็นอาสาสมัครทหารพรานประจำกรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา มาตั้งแต่ปี 2559 โดยรับหน้าที่เป็นนักกีฬาตัวแทนต้นสังกัดลงแข่งขันในกีฬาภายในกองทัพบกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

จุดเริ่มต้นของชีวิตชายชาติทหารของ กัปปิตัน เริ่มต้นเมื่อขาอายุครบ 21 ปี ซึ่งเขาถูกเกณฑ์ทหารรับใช้ชาติตามหน้าที่ของชายไทยทั่วไป ในตอนนั้น ครูฝึกรู้ว่า กัปปิตัน เป็นนักมวยฝีมือดีจึงสนับสนุนให้ลงแข่งขันชกมวยไทยสมัครเล่นและมวยสากลสมัครเล่น โดยเขาสามารถคว้ารางวัลมากมาย เช่น เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 69 กก. 2 ปีซ้อน (2560 – 2561) และเหรียญทองมวยไทยสมัครเล่น รุ่น 71 กก.ในปี 2562

ในฐานะที่มีประสบการณ์การฝึกทหารเกณฑ์มาแล้วและมีโอกาสได้เห็นการฝึกและการทำงานของทหารเหล่าอื่น กัปปิตัน รู้สึกชื่นชมหน่วยซีลของกองทัพเรือเป็นพิเศษ เพราะเป็นหน่วยที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นและหนักที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษของทุกเหล่าทัพ โดยทหารหน่วยนี้ได้ชื่อว่ามีขีดความสามารถเหนือทหารทั่วไป

กัปปิตัน จึงอยากมีโอกาสได้สัมผัสความท้าทายแบบนั้นบ้าง โดยเขาเผยว่า 'ตอนผมเป็นทหารเกณฑ์ ผมว่าก็ฝึกหนักแล้ว แต่เป็นที่รู้กันว่าหน่วยซีลฝึกหนักและโหดกว่ามาก จึงไม่ค่อยมีใครอยากไปฝึก ผมก็เลยอยากรู้และอยากลองบ้างว่าจะหนักสักแค่ไหน'

'ที่สำคัญ ทหารหน่วยซีล ถือว่ามีเกียรติสูงสุดเพราะคนที่จะผ่านการฝึกได้ต้องเก่งรอบด้านและแข็งแกร่งจริง ๆ เท่านั้น ถ้ามีโอกาส ผมก็อยากได้ลองฝึกและถ้าเป็นทหารหน่วยซีลจริง ๆ ก็คงจะดีมากครับ'
#3646
ผู้สูงอายุควรทาน ข้าวมะลิแดง และประโยชน์ของ ข้าวมะลิแดง น้ำตาลน้อย
ข้าวมะลิแดง ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวกล้องมะลิแดง ข้าวกล้องหอมมะลิแดง ข้าวมะลิแดงสุรินทร์ ข้าวหอมมะลิแดงสุรินทร์ ข้าวกล้องมะลิแดงสุรินทร์
"ข้าวหอมมะลิแดง" /   ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิก  อาหารผิวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
"ข้าวหอมมะลิแดง / ข้าวมะลิแดง " (Red Jasmine Rice) คือ ข้าวเจ้าพันธุ์หนึ่งของไทย ปลูกได้ปีละ 1 ครั้ง   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ เมล็ดข้าวมีรูปร่างเรียวยาว มีสีน้ำตาลแดง มีความนุ่ม หอม อร่อย ไม่ต่างจาก "ข้าวหอมมะลิ หรือมองง่ายๆก้คือ ข้าวหอมมะลิ ที่มีสีแดงเลยเรียกกันว่า "ข้าวหอมมะลิแดง / ข้าวมะลิแดง  /  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุขภาพ"

  

คุณสมบัติเด่น   ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง ใช้เป็นอาหารหลักในการฟื้นฟูกำลัง และเยียวยาผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน
ประโยชน์ของ "ข้าวหอมมะลิแดง / ข้าวมะลิแดง  / ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิคสำหรับทารก"-  ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิคคือ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง
-  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงorganic ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิว
-  ขายข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์  เป็น Growth Factor ตามธรรมชาติสามารถช่วยการเจริญของเซลล์ผิว
 ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ ช่วยชะลอการเกิดและต้านริ้วรอย คงความอ่อนเยาว์
-  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์ คืนความมีชีวิตชีวาให้กับผิว
-   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ อุดมไปด้วยวิตามินบีเช่นเดียวกับข้าวงอก ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง และช่วยลดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย
-  ข้าวหอมมะลิแดงออร์แกนิค มีไฟเบอร์หรือกากใยสูง ช่วยในการดูดซึมไขมัน ทำให้อิ่มนาน และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
-   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์สุรินทร์  อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและทองแดงที่ช่วยบำรุงเลือด เป็นอาหารหลักที่ควรกินสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจางหรือผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน
-  ขายข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ มีสารไนอะซินทำให้ผิวแข็งแรง ลดการเกิดโรคผิวหนังและปัญหาผิวพรรณหยาบกร้าน
-   ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ มีแคโรทินที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงดวงตาให้แข็งแรง
รวมถึงอุดมด้วยใยอาหาร ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ มีเบต้าแคโรทีน และธาตุเหล็กสูง เป็นข้าวกล้องที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ    ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค  ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน คนป่วยเบาหวานและคนที่กำลังคุมน้ำหนักสามารถกินได้อย่างสบายใจ 
ข้าว Hor.Boutique   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค  ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์  ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   นาข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000 โทร. 092-8245655
website : ปลูกข้าวอินทรีย์ กันมั้ย
Facebook : www.facebook.com/Organic.Red.Jasmine.Rice/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ / ข้าวปลอดสาร  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขภาพ 7 ประเภท
1.  ข้าวมะลินิลออแกนิค
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ 3. ข้าวผกาอำปึลorganic4.  จำหน่ายข้าวหอมมะลิสุรินทร์ผสมหลายสายพันธุ์แท้ จากสุรินทร์5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ 6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ 7.   ขายข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

#ข้าวมะลิแดง #ข้าวหอมมะลิแดง #ข้าวกล้องมะลิแดง #ข้าวกล้องหอมมะลิแดง #ข้าวมะลิแดงสุรินทร์  #ข้าวหอมมะลิแดงสุรินทร์  #ข้าวกล้องมะลิแดงสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุรินทร์ #ข้าวมะลิแดงอินทรีย์  #ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ #ข้าวมะลิแดงปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิแดงปลอดสาร  #ข้าวกล้องมะลิแดงปลอดสาร #ข้าวกล้องหอมมะลิแดงปลอดสาร #ข้าวมะลิแดงเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิแดงเพื่อสุขภาพ #ข้าวกล้องมะลิแดงสุขภาพ   #ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุขภาพ
 

 

 
 
#3647


กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือดีพร้อม เผยความสำเร็จจากการดำเนินมาตรการการรวมกลุ่มผู้ประกอบการ หรือคลัสเตอร์โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปีพ.ศ.2549-ปัจจุบันมีจำนวนกลุ่มอุตสาหกรรมที่พัฒนามาแล้วอย่างต่อเนื่องจำนวน 123 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ แบ่งเป็นคลัสเตอร์ทั่วไป 112 กลุ่ม และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือ S-Curve 11 กลุ่ม พร้อมชี้ในปี 64 ได้ดำเนินการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม จำนวน 29 กลุ่ม แบ่งเป็นคลัสเตอร์เกษตรอุตสาหกรรม จำนวน 25 กลุ่ม และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 4 กลุ่ม สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกกว่า 1,200 ล้านบาท พร้อมยังได้เตรียมยกระดับการดำเนินงาน ผ่านการเป็นศูนย์กลางหรือ HUB ด้านการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการในทุกๆกลุ่มสาขาอุตสาหกรรมด้วยการใช้ศักยภาพของหน่วยงาน โดยมีเครื่องมือที่สำคัญได้แก่ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือศูนย์ ITC 4.0 ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือ Thai-IDC เครือข่าย RISMEP และศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี หรือ SSRC

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดีพร้อมได้เป็นผู้ริเริ่มมาตรการขับเคลื่อนการสร้างและพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมถูกกฎหมายเชื่อถือได้ หรือ คลัสเตอร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ.2549-ปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มผลิตภาพและสร้างนวัตกรรมร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเชื่อมโยงการช่วยเหลือในมิติต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีอำนาจต่อรองทางการซื้อ การตลาด และสามารถเติบโตได้ในลักษณะกลุ่ม


โดยผลจากการดำเนินมาตรการดังกล่าว ปัจจุบันมีจำนวนกลุ่มอุตสาหกรรมที่พัฒนามาแล้วอย่างต่อเนื่องจำนวน 123 กลุ่มอุตสาหกรรมครอบคลุมพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมทั่วไป 112 กลุ่ม และคลสัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S – Curve) 11 กลุ่ม มีกระบวนการพัฒนาตั้งแต่การทำความความเข้าใจด้านเศรษฐกิจแบบพึ่งพา หรือ Sharing Economy การพัฒนากลุ่มให้เข้มแข็งในด้านการผลิต การตลาด การแบ่งปันเทคนิคและองค์ความรู้ ตลอดจนการผลักดันให้เข้าใจถึงนโยบายและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ

สำหรับในปี 2564 ภายใต้การนำของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมได้สั่งการให้ ดีพร้อม เร่งพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการพัฒนาคลัสเตอร์ไปแล้ว จำนวน 29 กลุ่ม แบ่งเป็นคลัสเตอร์เกษตรอุตสาหกรรม จำนวน 25 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ คลัสเตอร์น้ำผึ้ง กาแฟ เกษตรแปรรูป ผลไม้แห่งขุนเขา เกลือไอโอดีน สมุนไพรและสปา มันสำปะหลัง อาหารเพื่อสุขภาพ ขนมหวาน ผลไม้ภาคตะวันออก ไม้ยางพารา ผลไม้แปรรูป อาหารแห่งอนาคต อาหารพร้อมทาน เป็นต้น ส่วนคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ คลัสเตอร์การแพทย์ครบวงจร พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดเชียงใหม่ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และดิจิทัล โดยผลสำเร็จจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวยังสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกกว่า 1,200 ล้านบาท



ADVERTISEMENT


นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ดีพร้อมได้ตั้งเป้ายกระดับบทบาท จากเดิมที่เป็นผู้เชื่อมโยงในการประสานผู้ประกอบการให้เกิดการรวมตัวในแต่ละกลุ่ม สู่การเป็นศูนย์กลางหรือ HUB ด้านการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการในทุกๆสาขาอุตสาหกรรมด้วยการใช้ศักยภาพของหน่วยงาน รวมถึงความเชื่อมโยงจากกลุ่มพันธมิตรอย่างครบวงจร

ทั้งนี้มีเครื่องมือที่สำคัญดังนี้ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือศูนย์ ITC 4.0 ซึ่งกระจายอยู่ในศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ จะช่วยกลุ่มคลัสเตอร์ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาเดียวกัน ให้สามารถยกระดับกระบวนการทางธุรกิจ เช่น การผลิต การลดต้นทุน การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆไปใช้ในการเพิ่มมูลค่าบริการและผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งจะเป็นศูนย์กลางในการให้คำแนะนำงานวิจัย และโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มคลัสเตอร์เพื่อให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง



ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thailand Industrial Design Center - Thai-IDC) ซึ่งจะให้บริการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้แต่ละคลัสเตอร์สามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจด้วยองค์ความรู้ด้านการออกแบบ ตลอดจนให้บริการเครื่องมือต่างๆที่สนับสนุนการออกแบบครบวงจร เช่น บริการซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและบรรจุภัณฑ์ การทดลองขึ้นต้นแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ (3D Printing) การจัดกิจกรรมอบรม/สัมมนาเชิงปฏิบัติการหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและบรรจุภัณฑ์ การให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ Co-Working Space ระหว่างนักออกแบบและคลัสเตอร์ผู้ประกอบการ

เครือข่ายส่งเสริม SMEs (RISMEP) ซึ่งเป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานส่งเสริม SMEs สำหรับให้คำปรึกษาปัญหาทางธุรกิจแบบครบวงจร โดยเครือข่าย RISMEP เปรียบเสมือนศูนย์กลางการให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การผลิต การขาย การตลาด การขนส่ง กฎหมายและทรัพย์สินทาปัญญา ฯลฯ มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ในเครือข่ายดังกล่าวกว่า 250 คน ทั้งนี้ กลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆสามารถขอรับคำปรึกษาได้ทั้งช่องทางแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือติดต่อโดยตรงได้ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม



ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SME Support & Rescue Center : SSRC) ซึ่งมีหน้าที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งด้านการเงินและการพัฒนา เชื่อมโยงการบริการของหน่วยงานเครือข่ายที่ส่งเสริมและพัฒนา SMEs และกลุ่มคลัสเตอร์ พร้อมส่งต่อปัญหาของ SMEs ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการและคลัสเตอร์มีเงินทุนเพื่อการพัฒนาธุรกิจ

โดยในปี 2565 ดีพร้อม มีแผนดำเนินการสนับสนุนการรวมกลุ่มคลัสเตอร์เพิ่มอีก 34 กลุ่ม ครอบคลุมกว่า 680 กิจการ แบ่งเป็น คลัสเตอร์เกษตรอุตสาหกรรม 30 กลุ่ม และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย 4 กลุ่ม คาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
#3648


หนังสือพิมพ์ The Straits Times ของสิงคโปร์ มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา Keppel Electric บริษัทผู้ขายไฟฟ้าแก่ภาคครัวเรือนของสิงคโปร์ ในเครือ Keppel Infrastructure Holdings ได้เซ็นข้อตกลงกับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) โดย Keppel จะซื้อไฟฟ้าจากลาว 100 เมกะวัตต์ ผ่านโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน ที่จะส่งไฟฟ้าผ่านประเทศไทย มาเลเซีย ไปถึงสิงคโปร์

คาดว่า EDL จะเริ่มส่งไฟฟ้าให้กับ Keppel ได้ประมาณปีหน้า (2565) ภายหลังจากทั้ง 2 ฝ่ายได้บทสรุปข้อตกลงด้านพาณิชย์ เทคนิค และกฏหมาย และมีการเซ็นสัญญาซื้อ-ขายไฟกันอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน อยู่ในแผนแม่บทการเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้าในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 21 ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2546 และได้มีการเซ็นบันทึกความเข้าในร่วมกันในที่ประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 25 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2550

ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็น 4 ประเทศนำร่อง สำหรับการซื้อ-ขายไฟฟ้าข้ามประเทศผ่านโครงข่ายนี้ ก่อนจะขยายให้ครอบคลุมสมาชิกทั้ง 10 ประเทศในอนาคต โดยทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์มีแผนซื้อไฟฟ้าจากลาวก่อนประเทศละ 100 เมกะวัตต์ ในเฟสแรก และลาวเริ่มส่งไฟฟ้าขายให้กับมาเลเซียผ่านโครงข่ายสายส่งในประเทศไทยไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2560

ปัจจุบัน ลาวได้ขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกันครบทุกประเทศแล้ว โดยมีไทย เป็นลูกค้ารายใหญ่ รองลงมาเป็นเวียดนาม จีน กัมพูชา และเมียนมา
#3649


วานนี้ (17 ก.ย.) นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ("SCC")  ทำรายงานแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงการการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นถูกกฎหมายเชื่อถือได้ในบริษัทกรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด ว่า เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ("SCG Chemicals") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทกรุงเทพซินธิติกส์ จำกัด ("BST") จำนวนร้อยละ 5.37 กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ("BBL") ที่มูลค่า 1,651ล้านบาท 


โดยหลังจากการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ SCG Chemicals ถือหุ้นใน BST เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 54.20 และคาดว่าการซื้อขายหุ้นจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2564

ทั้งนี้ BST เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์กลุ่ม Mixed C-4 เช่น บิวทาไดอีน น้ำยางไนไตรล์และยางสังเคราะห์ ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะถูกนำไปใช้ในการผลิตสินค้าที่ สอดคล้องกับเมกะเทรนด์เช่น ถุงมือยางทางการแพทย์และยางรถยนต์ประหยัดพลังงาน โดย BST รับวัตถุดิบหลักจากโรงงานโอเลฟินส์ของ SCG Chemicals 

 

ดังนั้นการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน BST จะทำให้SCG Chemicals สามารถเพิ่มมูลค่าของสายการผลิตโอเลฟินส์ครบวงจร


ทั้งนี้ ในปี 2563 BST มียอดขายรวม 10,142 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 920 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปี แรกของปี 2564 มียอดขายรวม 10,685 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,905 ล้านบาท

การลงทุนดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยมีขนาดของรายการเท่ากับร้อยละ 0.20 ของมูลค่าของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCC สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 และเมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทำรายการนี้จะเท่ากับร้อยละ 3.68 

ดังนั้นการรายงานสารสนเทศข้างต้นจึงไม่เข้าข่ายที่จะต้องปฏิบัติตาเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
#3650


วันนี้ (16 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มากกว่า 1 ล้านคน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบสาธารณสุขไทย เนื่องจากเป็น 1 ใน 4 เสาหลักของระบบร่วมกับองค์ความรู้, บุคลากรทางการแพทย์ และงบประมาณ ที่ทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยแข็งแกร่ง ไม่ได้ล่มสลายเหมือนที่มีผู้พยายามปรามาส และ อสม.ถือเป็นหมอคนแรกตามนโยบาย 3 หมอ ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ช่วยสื่อสารกับประชาชนเรื่องการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา (Universal Prevention) และสอนการใช้ชุดตรวจ ATK โดยเฉพาะเรื่องใช้ชุดตรวจและทิ้งขยะอย่างถูกต้อง เนื่องจากเป็นขยะติดเชื้อไม่ใช่เพียงแค่โควิด-19 อาจจะมีเชื้อหวัด วัณโรค หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ด้วย หากดำเนินการเก็บทิ้งไม่ดี อาจเป็นแหล่งของการแพร่ระบาดใหม่

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ใน อสม. ดำเนินการฉีดร้อยละ 70 เหลืออีกประมาณ 3 แสนคน หรือร้อยละ 30 ซึ่งจะเร่งฉีดให้ครบโดยเร็วที่สุด โดยฉีดสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ระยะห่างระหว่างเข็ม 3 สัปดาห์ ทำให้สร้างภูมิคุ้มกันสูงและรวดเร็ว ส่วนที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้วก็จะทยอยฉีดเข็ม 2 ให้จนครบเช่นกัน รวมถึงภายในเดือนตุลาคมนี้จะดำเนินการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้แก่ อสม.ที่รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มให้ครบทั้งหมดด้วย เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น

ส่วนที่มีตัวแทน อสม.เสนอให้ผลักดันโครงการเที่ยวปันสุขรอบใหม่ ภายหลังจากควบคุมโรคโควิด-19 ได้แล้วนั้น ถือว่าเป็นโครงการที่ดีจะช่วยประสานให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ อสม. โดยยึดหลักว่าไปเที่ยวต้องมีความประทับใจ สนุก มีความสุข และมีความปลอดภัย
#3651


วันนี้ (16 ก.ย.) นพ.กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผอ.สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมออนไลน์ เนื่องในวันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยโลก The 3th World Patient safety Day safe maternal and newborn care เรื่อง "Patient and Personnel Safety ในสถานการณ์โควิด-19" ว่า สรพ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการขับเคลื่อนโครงการ 2P Safety มาตลอดระยะเวลา 4-5 ปี เพื่อส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมมความปลอดภัยต่อผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งในอนาคตจาก 2P ก็กำลังจะขยายเป็น 3P Safety นั้น ส่วนตัวมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะการนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งปี 2563 ถือว่าประเทศไทยทำได้ค่อนข้างดี บุคลากรสาธารณสุขติดเชื้อน้อยมาก และถึงแม้ปี 2564 จะเจอกับสายพันธุ์เดลต้า ที่แพร่กระจายง่ายทำให้บุคลากรติดเชื้อมากพอสมควร แต่ยังต่ำกว่าอีกหลายๆ ประเทศ ตนเชื่อโดยลึกๆ ว่า เกิดจากการผสมผสานระหว่างนโยบายปกติ รวมกับ 2P Safety ซึ่งถูกปูพื้นมาพอสมควรในเรื่องการควบคุมป้องกันโรค การลดความเสี่ยงต่างๆ ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม เป็นต้น 

"ด้วย 2P Safety ช่วยให้เราเตรียมความพร้อมของประเทศ เรียนรู้ และพัฒนาเพื่อรองรับสายพันธุ์อื่นๆ อนาคตก็ต่อยอดเป็น 3P Safety อย่างการระบาดโควิด หากไม่มีส่วนร่วมจากภาคประชาชน ภาคประชาสังคม คงบริหารจัดการได้ยาก ดังนั้น สิ่งที่เราทำคือ การสร้างเครือข่าย เพราะฉะนั้น 2P Safety ทิศทางจะถูกผนวกรวมกับระบบการประเมินรับรอง การจัดระบบการรายงาน และอนาคตจะพูดถึงภาพรวมกับเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพ และความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น" ผอ.สรพ. กล่าว

ด้าน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ประเทศไทยเราทำเรื่องความปลอดภัยในสถานพยาบาลคู่ขนานกับองค์การอนามัยโลก และยังดำเนินการมาตลอด ที่ศิริราช มองว่า บทบาท รพ.นอกจาก 2P Safety แล้วยังมีแนวคิดสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนที่มาติดต่องานอื่นๆ ที่ รพ.ด้วย เพราะแต่ละวันมีประชาชนมากว่า 4 หมื่นคนทั้งคนไข้นอก ญาติ และบุคลากร นอกจากนี้ ยังคิดถึงชุมชนสภาพแวดล้อมห่างไกลศิริราชด้วย เพราะถ้าคนที่มาศิริราชแล้วรับอะไรบางอย่างจากที่นี่ อาทิ สารเคมี สารกัมมันตภาพรังสี ขยะติดเชื้อ เชื้อโรค เป็นต้น แล้วอาจจะนำกลับไปสู่ชุมชนเขาได้ ดังนั้น จึงครอบคลุม 4P Safety คือ patient, personnel, People และ Public

ทั้งนี้ บทเรียนโควิด-19 เป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นว่า 4P มีความสัมพันธ์กัน ที่ผ่านมา มีคนไข้โควิดมานอน รพ.ศิริราช ทาง รพ.ก็ต้องมีมาตรการป้องกันการติดเชื้อในบุคลากร และประชาชนที่มา รพ.ด้วย ดังนั้น ที่ผ่านมา มีคนติดเชื้อจากผู้ป่วยน้อยมาก เพราะมีหน่วยงานที่เข้มแข็ง และมาตรการป้องกันตัวถือเป็นมาตรฐานที่ต้องทำ แต่บ่อยครั้งที่คนศิริราชติดเชื้อ ส่วนใหญ่ติดมาจากภายนอก แล้วค่อยแพร่สู่ผู้อื่น ดังนั้น จะเห็นว่าเชื้อจุลชีพต้องป้องกันรอบด้าน ป้องกันเราไม่ให้ติดเชื้อจากคนไข้ และป้องกันคนไข้ไม่ให้ติดเชื้อจากเรา เพราะฉะนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนอื่นๆ ที่เดินเข้ามาใน รพ.ศิริราช ด้วย อย่างไรก็ตาม โควิด-19 บอกได้ชัดว่าต่อให้คนไข้ บุคลากรใน รพ.ปลอดภัย แต่หากสังคมภายนอกยังมีการระบาดมาก โอกาสที่เชื้อจะหลุดเข้ามาก็ยังมีอยู่จึงต้องทำให้ครอบคลุมถึง 4P Safety

"โดยสรุป ความหมาย 4P Safety ในความเห็นของผม และที่เราเริ่มคุยกันอยู่ P ตัวที่ 3 ควรครอบคลุม 2 กลุ่ม People และ Public ซึ่งอาจจะมีการปฏิบัติแตกต่างกัน แต่หากดูเกณฑ์ที่ทำให้เกิดความปลอดภัย จะอยู่ในประเด็นการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลเหมือนกัน หากหยิบออกมาไฮไลต์ให้ชัดเจน แล้วกำหนดเกณฑ์ติดตาม เกณฑ์ชี้วัด คิดว่าประเทศไทยกำลังจะสร้างอะไรบางอย่างให้กับโลกใบนี้" ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว 

ขณะที่ พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ รอง ผอ.สรพ. กล่าวว่า ในระบบบริการเกิดอันตรายขึ้นได้มากมาย เช่น มีรายงานที่สหรัฐอเมริกา เกิดการเสียชีวิตปีละเกือบ 1 แสนราย มากกว่าอุบัติเหตุ และมะเร็งเต้านม ดังนั้น เรื่อง Patient Safety สิ่งสำคัญคือ การทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อคนไข้ หรือลดอันตรายต่อคนไข้ เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดกรอง รักษา และติดตาม ให้ความรู้ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละกระบวนการมีโอกาสเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ตรงไหน ก็ต้องอาศัยต่อมเอ๊ะ หรือการช่างสังเกต ค้นหา เพื่อวางระบบป้องกันแก้ไข ซึ่งทั่วโลกได้ให้ความสำคัญมาก โดยองค์การอนามัยโลก มีการประชุมนานาชาติ ครั้งที่ 55 ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ต้องมีการปรับคุณภาพการให้บริการให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ป่วย เพื่อให้ประเทศทั่วโลกดำเนินการร่วมกัน ค้นหาช่องโหว่ใน รพ. แล้วปิดจุดนั้นเพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย 

"จากการประชุมครั้งนั้น เราพบว่า สถิติมีการรายงานการเปลี่ยนแปลงมากมาย พบอุบัติเหตุ หรือความเสียหายใจรับบริการใน รพ. ติด 10 อันดับแรกของการเสียชีวิต ดังนั้น การที่ผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างการรักษา เกิดขึ้นในมือของเราจริงหรือ ดังนั้น จึงเป็นบทบาทหน้าที่ของเราด้วย บทบาทหน้าที่ จริยธรรมจะฟ้องกันในเรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะจากข้อมูล 83% ป้องกันได้ และปีนี้เนื่องในวัน Patient Safety Day 17 ก.ย.นี้ ให้ความสำคัญกับแม่และเด็ก เพราะพบสถิติทุกวันมีมารดา 830 คน เสียชีวิตจากการตั้งครรภ์ หรือกระบวนการคลอด ซึ่งส่งผลกระทบกับทารกด้วย" พญ.ปิยวรรณ กล่าว

รอง ผอ.สรพ. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับประเทศไทยมีการประกาศนโยบายเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2559 ในขณะนั้นเพื่อขับเคลื่อนแผนสร้างความปลอดภัยใน รพ. 4 ปี ตั้งแต่ 2560-2564 พบว่า ในปีแรกอาจจะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะเรื่องอัตรากำลังของบุคลากร แต่เห็นแนวโน้มดีขึ้นในบางพื้นที่ บาง รพ. อย่างไรก็ตาม แนวโน้มก็ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยจากข้อมูลพบว่า อุบัติการณ์ อุบัติเหตุในสถานพยาบาล 1,708,670 ครั้ง แก้ไขได้ 42% เพิ่มขึ้นจากปีแรก 20%, 25% และ 27% ตามลำดับ ส่วนก้าวต่อไปในปี 2565 เรายังต้องร่วมมือกันสร้างความปลอดภัยใน รพ. มากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะมีการรับสมัคร รพ. เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.- 18 ต.ค. 2564 ขอย้ำว่า การจะสร้างความปลอดภัยได้ บุคลากรต้องกล้าส่งเสียงความผิดปกติเหล่านี้ออกมาเพื่อให้เกิดการนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
 
#3652


ศุลกากร เร่งลดภาษีขาเข้า "ไวน์-สุรา-ซิการ์" ลงกึ่งหนึ่ง หวังดึงดูดต่างชาติกระเป๋าหนาเข้าไทยระยะยาว พร้อมปรับวิธีปฏิบัติพิธีการศุลกากรสิ่งของติดตัวผู้โดยสารขาเข้าและขาออก จากคิดตามมูลค่าเป็นนับจำนวนสิ่งของแทน

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสมการปรับลดพิกัดอัตราขาเข้าสินค้าประเภทไวน์ สุรา และยาสูบประเภทซิการ์ลงกึ่งหนึ่ง เป็นเวลา 5 ปี ตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2564 ในการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพซื้อหวยออนไลน์สูงเข้ามาพำนักและลงทุนในประเทศ โดยในส่วนของกรมฯ มีอากรที่ชัดเจนอยู่แล้ว คาดว่าจะมีสินค้าประมาณ 30% ที่สามารถปรับลดได้ ทั้งนี้เมื่อมีการปรับลดพิกัดอัตราขาเข้าสินค้าดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ก็จะออกกฎกระทรวงมาดูแลในเรื่องนี้  

นอกจากนี้ กรมได้เตรียมปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวกับการปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรทางท่าอากาศยานให้เหมาะสมและเป็นปัจจุบัน โดยให้ใช้หลักการพิจารณาจากปริมาณ จำนวน หรือสภาพของสิ่งของที่นำเข้าหรือส่งออกว่าเป็นไปเพื่อการใช้ประโยชน์ส่วนตนหรือไม่ แทนการพิจารณาจากมูลค่าของสิ่งของ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2564 ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยดึงชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เสนอ โดยตั้งเป้า 5 ปี (2565 – 2569) มีชาวต่างชาติที่มีรายได้สูง นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ผู้เกษียณอายุที่มีรายได้สูงจากบำนาญมาอาศัยในไทย 1 ล้านคน มีค่าใช้จ่ายต่อหัวเบื้องต้นที่ 1 ล้านบาท/คน ส่งผลให้เงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไทยเพิ่ม 1 ล้านล้านบาท 
#3653


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,577.57 จุด ร่วงลง 292.06 จุด หรือ -0.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,443.05 จุด ลดลง 25.68 จุด หรือ -0.57% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,037.76 จุด ลดลง 67.82 จุด หรือ -0.45%

ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครตได้เสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate tax rate) จากระดับ 21% สู่ระดับ 26.5% รวมทั้งเสนอให้ปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุนซื้อหวยออนไลน์ (capital gains tax) และเงินปันผลขึ้นสู่ระดับ 28.8% ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 3.5 ล้านล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า หากข้อเสนอการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านความเห็นชอบในสภาคองเกรสของสหรัฐ ก็จะทำให้รายได้ของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 ลดลง 5% ในปี 2565

หุ้นทุกกลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ร่วงลงทั้งหมด นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.55% โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.86% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.15% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.43% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 1.82%
 


ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง 1.41% หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.316%

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบินต่างก็ร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ 

บริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดงานอีเวนต์ประจำปีเมื่อวานนี้ และมีการเปิดตัว iPhone 13 รวมทั้ง iPad 9, iPad mini รุ่นใหม่ และ Apple Watch Series 7 อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นแอปเปิลปิดตลาดลดลง 0.96%

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% หลังจากพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนตลาดในช่วงแรก เพราะทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างไรก็ดี ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ รวมทั้งจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Man.cturing Index) เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., ดัชนีการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
#3654
 มาทาน ข้าวไรซ์เบอรี่ และ ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอรี่
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ / ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่อินทรีย์
มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง    'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ  ประโยชน์และสรรพคุณเพียบ!!




 ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่อินทรีย์ ( Rice Berry ) เป็นพันธุ์ข้าวที่ผสมกันระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล กับ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีลักษณะสีม่วงดำ เมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว อุดมไปด้วยวิตามินและมีคุณค่าทางอาหารสูงจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนที่รักสุขภาพ

  •  ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ มีสารที่ชื่อว่า สารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากกว่าวิตามินซีและวิตามินอี ถึง 2 เท่า ทั้งยังมีวิตามินแร่ธาตุมากมายและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล โอเมก้า 3 วิตามินอี โฟเลต เหล็ก และ สังกะสี
  •  ขายข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ สรรพคุณ ของ   ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์กรมการข้าว ที่รู้แล้วต้องรีบหาข้าวชนิดนี้มาทาน
  •  ข้าวไรซ์เบอรี่ปลอดสารพิษมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง
  •  ข้าวไรซ์เบอรี่ออร์แกนิค มีสารที่ชื่อว่า โพลิฟีนอล ที่จะช่วยทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ จึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
  •  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค จะช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆภายในร่างกายได้อย่างเป็นปกติ จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ และ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน
  •  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยลดระดับไขมันและคอเรสเตอรอล
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิคสำหรับทารก ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ชะลอความแก่ ลดริ้วรอย และยังลดการอักเสบที่ผิวหนังได้อีกด้วย
  •  ข้าวสุไรซ์เบอร์รี่ขภาพช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุมักมีปัญหาด้านระบบไหลเวียนโลหิต
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยบำรุงสมอง
  •  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ มีคุณสมบัติช่วยควบคุมน้ำตาล และยังช่วยชะลอการดูดซึมของน้ำตาลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นช้า จึงเหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วน
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าวช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
  •  ข้าวสุไรซ์เบอร์รี่ขภาพ  มีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ มีไฟเบอร์สูง จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ช่วยแก้อาการท้องผูก ใครที่ท้องผูกบ่อยๆควรเปลี่ยนจากการรับประทานข้าวขาวมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยลดน้ำหนัก ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีใยอาหารสูง เมื่อรับประทานจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน ไม่หิวบ่อย ทั้งยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำกว่าการรับประทานข้าวขาว
  •  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต ข้าวไรซ์เบอร์รี่จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุมักมีปัญหาด้านระบบไหลเวียนโลหิต
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยบำรุงสมอง และ ข้าวไรซ์เบอรี่มีโอเมก้า 3 และ วิตามินบี ที่จะช่วยบำรุงระบบประสาทและการทำงานของระบบสมองให้ดียิ่งขึ้น
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์มีโฟเลตสูง คุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ควรหันมารับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพราะมีสารโฟเลตสูง ซึ่งสารชนิดนี้จะช่วยบำรุงลูกน้อยในครรภ์ให้สมบูรณ์แข็งแรง
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ มี เส้นใยของข้าวไรซ์เบอร์รี่จะช่วยลดไขมันและคอเรสเตอรอลให้ลดน้อยลง และยังมีสารแกมมาโอไรซานอลที่จะช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด ทั้งยังช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือด
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่เกษตรอินทรีย์ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
  •  ข้าวสุไรซ์เบอร์รี่ขภาพ มีโอเมก้า 3 และ วิตามินบี ที่จะช่วยบำรุงระบบประสาทและการทำงานของระบบสมองให้ดียิ่งขึ้น
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวไรซ์เบอร์รี่เกษตรอินทรีย์   การผลิตข้าวออร์แกนิค(ออแกนิค)   กลุ่มผลิตข้าวออร์แกนิค  
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  shop.line.me/@hor.boutique
Facebook :  ข้าวปลอดสารไทยมีราคาแพง  
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ   เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวออร์แกนิค
1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสาร จ.สุรินทร์
5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7.   กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ กลุ่มผลิตข้าวอินทรีย์  

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada  ส่งออกข้าวอินทรีย์
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวไรซ์เบอรี่ #ประโยชน์ข้าวไรซ์เบอรี่ #ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิก #ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ #ข้าวไรซ์เบอรี่สุรินทร์  #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ #ประโยชน์ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ออแกนิก #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่อินทรีย์ #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่สุรินทร์
 

 
 
#3655


ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้(14 ก.ย.) สัญญาทองคำตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 12.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,807.1 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงิน QE หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด

สัญญาซื้อหวยออนไลน์ทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.7 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,807.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.9 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 23.885 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 18.8 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 938.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 104.20 ดอลลาร์ หรือ 5% ปิดที่ 1,975.60 ดอลลาร์/ออนซ์


กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% หลังจากพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)


นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.05% แตะที่ 92.6265 เมื่อคืนนี้
#3656


จากการรายงานของ cointelegraph ระบุว่าตามที่กรมภาษีเงินได้ของอินเดียรายงานว่ากำลังพิจารณาเก็บภาษีผู้ค้า crypto และการแลกเปลี่ยน crypto ในเร็วๆนี้ โดยจากรายงานของ ET Now แผนกภาษีซึ่งดำเนินงานภายใต้กระทรวงการคลังของอินเดีย ได้ส่งสัญญาณถึงความสนใจที่จะเก็บภาษีรายได้ซื้อหวยออนไลน์จากการเข้ารหัสลับผ่านการค้าและการแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอ้างว่าการย้ายดังกล่าวจะไม่ให้สิทธิ์ cryptocurrencies กับตำแหน่งประเภทสินทรัพย์ที่ถูกต้อง

Nischal Shetty ซีอีโอของการแลกเปลี่ยน crypto ของ WazirX กล่าวกับ Cointelegraph ว่าการได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับภาษีสินค้าและบริการ (GST) ที่เกี่ยวข้องกับ crypto จะช่วยในการระบุประเภทสินทรัพย์ของ cryptocurrencies

"เป็นเรื่องง่ายที่รายได้ crypto ของคุณต้องเสียภาษีเหมือนกับรายได้อื่น ๆ และควรได้รับการประกาศในการคืนภาษีเงินได้ ณ ตอนนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า GST จะถูกนำไปใช้กับจำนวน cryptocurrency ที่ซื้อหรือค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่จ่ายโดยผู้ใช้"

รายงานเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลอินเดียเชื่อว่ากิจกรรมทั้งหมดที่สร้างรายได้ในสกุลเงินดิจิทัลจะต้องถูกเก็บภาษี ขณะเดียวกันข้อเสนอทางกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีเตรียมจะออกประกาศในไม่ช้านี้ จะให้ความกระจ่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน Shaktikanta Das ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย ได้สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับ cryptocurrencies เช่น Bitcoin (BTC) ว่า "เราได้แสดงความกังวลที่ร้ายแรงและสำคัญของเราเกี่ยวกับ cryptocurrencies ต่อรัฐบาลจากมุมมองของความมั่นคงทางการเงิน

ขณะที่ Evan Luthra ซึ่งเป็นนักลงทุนชาวอินเดียจาก Luthra Group กล่าวถึงความเป็นไปได้ของการออกกฎหมายเกี่ยวกับภาษี crypto ว่าการเก็บภาษีจากสกุลเงินดิจิทัลนั้น "เป็นสิ่งที่ดี"

"ฉันคิดว่านักลงทุนและนักลงทุนที่มีศักยภาพไม่มีอะไรต้องกลัว รัฐบาลที่ตระหนักถึงศักยภาพที่แท้จริงของ cryptocurrencies และนำนโยบายมาสนับสนุนนวัตกรรมในอนาคต"

นอกจากนี้ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ได้เปิดเผยผ่าน mini book เมื่อวันที่ 25 มกราคม เพื่อตรวจสอบกรณีการใช้งานของสกุลเงิน Fiat เวอร์ชันดิจิทัล ในขณะที่รัฐบาลเห็นว่ามีเพียงสองทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล การนำไปใช้และ RBI ซึ่งมีแผนที่จะใช้ CBDC เวอร์ชันของตัวเองหาก "มีความจำเป็น"
#3657


เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เพจ "After Yum" หรืออาฟเตอร์ยำ ร้านยำเจ้าดังพัทยา ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอความยาว 6.24 นาที ที่ 2 เจ้าของร้านอย่าง คุณแต๋ง-กฤษฎ์กูล ชุมแก้ว กับ คุณดุจดิว-ธีรวิวัฒน์ บุตรตะยา ได้ออกมาพูดถึงปัญหาที่ทางร้านได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และเผยถึงทางรอดในช่วงนี้ ทางร้านจึงได้ทำน้ำยำปรุงรส, น้ำปลาร้าต้มสุกปรุง, ทัพพี มาวางขายเพื่อให้ลูกค้าหายคิดถึง อีกทั้งยังบอกสูตรเด็ดเคล็ดลับของทางร้านอีกด้วย โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง.. แล้วเจอกันในไลฟ์สดวันพุธนี้นะคะ"

อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวมียอดแชร์ถึง 9,500 ครั้ง นอกจากนี้ เหล่าเซเลบ เน็ตไอดอล เช่น นัท นิสามณี, Amy Kitiya และลูกค้ารายอื่นๆ ได้แสดงความคิดเห็นให้กำลังใจ และรอสั่งซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก

สำหรับร้าน After Yum (อาฟเตอร์ยำ) ซึ่งเป็นร้านยำเจ้าดังพัทยาที่ตั้งอยู่ในปั๊ม Caltex ที่พัทยากลาง ริมถนนสุขุมวิท ที่ใครต่างก็พูดถึงทั้งความแซ่บของยำต่างๆ มีทั้งบรรดาของทะเลสดๆ กุ้ง หอย ปู แถมยังมีหมูกรอบ ไก่ทอด หมูยอ ก็นำเอามายำอีกด้วย

ปัจจุบัน After Yum มี 2 สาขา อยู่ที่พัทยาซึ่งเป็นสาขาแรก และระยอง อีกทั้งยังเตรียมขยายมาเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ โดยจะปักหมุด 4 มุมเมืองในกรุงเทพฯ เน้นทำเลที่เป็นคอมมูนิตีมอลล์ นอกจากนี้ After Yum ยังเตรียมขยายไปเปิดที่ 'สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว' อีกด้วย
#3658


บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เตรียมเดินหน้าปั้นพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ ทั้งแนวราบและแนวสูง หวังเป็นหนึ่งในผู้นำมิกซ์ยูสโปรเจคด้วยการเสริมแกร่งธุรกิจศูนย์การค้า และ ผู้นำมิกซ์โปรดักซ์ของโครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ วางแผนเปิดตัวโครงการแนวราบ 1 โครงการ มูลค่ารวม 1,850 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ลุยเปิดตัวแบรนด์ใหม่ "นิรติ" บ้านสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอลที่ให้ความสำคัญกับออกแบบแลนด์สเคปที่ร่มรื่นและเป็นจุดเริ่มต้นของทุกแรงบันดาลใจซื้อหวยออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ ตอบรับความต้องการบ้านในระดับราคา 4.29-12 ล้านบาท* ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์กลุ่มลูกค้าเรียลดีมานต์ที่มีกำลังซื้อและเครดิตดี เน้นมอบความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านในระดับสูงสุด โดยโครงการเป็นลักษณะ 'มิกซ์โปรดักซ์' ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ย่านดอนเมือง-วิภาวดี เปิดตัวโครงการ 'นิรติ ดอนเมือง' รวม 262 ยูนิต เปิดจองพรีเซลอย่างเป็นทางการ 18-19 กันยายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่เปิดขายแล้ว อีกสองทำเล ได้แก่ นิรติ บางนา และนิรติ เชียงราย รวม 3 โครงการ นอกจากนี้ยังมี แบรนด์ 'นินญา' บ้านหรูระดับ 9.9-15 ล้าน และ แบรนด์ 'นิยาม' บ้านหรูระดับลักชูรี่ เริ่มต้น 25 ล้านบาท เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนโครงการแนวราบได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้

ร.อ. กรี เดชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ปี 2564 ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย แต่ด้วยความแข็งแกร่งและประสบการณ์กว่า 40 ปี เซ็นทรัลพัฒนา เป็นบริษัทมหาชน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน เอื้อต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาของเมือง สำหรับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ในปี 2564 วางเป้าหมายพัฒนาโครงการให้สอดคล้องไปกับธุรกิจหลักอย่างศูนย์การค้า และมิกซ์ยูสโปรเจค ที่จะเข้าไปเป็นแลนด์มาร์กใหม่ศูนย์กลางการใช้ชีวิต หรือ Center of Life ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ชูอัตลักษณ์ของจังหวัด และต้องเป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยจุดเด่น แบรนด์อสังหา ฯ ของเซ็นทรัลพัฒนา มีความแตกต่างเหนือผู้เล่นรายอื่นๆ ด้วยชีวิตและสังคมคุณภาพ ระดับ 'ลูกบ้านเซ็นทรัล' อยู่ยาวก็ได้ ลงทุนก็มั่นคง พร้อมบริการดูแลหลังการขายด้วย CRM program ที่มากับสิทธิประโยชน์ต่างๆจากกลุ่มเซ็นทรัล และ The 1 และมีนิติบุคคลส่วนกลางที่บริหารโดยเซ็นทรัลพัฒนาเพื่อส่งมอบการบริการให้ลูกบ้านอย่างดีที่สุด สะดวกสบายและปลอดภัย รวมถึงระบบความปลอดภัยเหนือมาตรฐานที่โครงการระดับเดียวกันทำไม่ได้ ด้วยระบบ Double Safety อาทิ Double Gate, VMS (Visitor Management System) ที่ให้มากับโครงการตั้งแต่แบรนด์ระดับเริ่มต้น"

ล่าสุด เราได้เปิดตัว โครงการมิกซ์โปรดักซ์แนวราบ 'นิรติ ดอนเมือง' บ้านสไตล์ โมเดิร์นทรอปิคอลที่ให้ความสำคัญกับออกแบบภูมิสถาปัตย์ที่ร่มรื่น ตั้งอยู่บนถนนเชิดวุฒากาศ บนทำเลศักยภาพ ดอนเมือง – วิภาวดี ใกล้ทางด่วนดอนเมือง - โทลล์เวย์ & รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม และใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาทีถึงจตุจักร* รวม 262 ยูนิต พื้นที่โครงการ 45-3-68.5 ไร่ แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว ขนาดที่ดิน 50.2 ตร.ว. ขึ้นไป, บ้านแฝด 36.9 ตร.ว. ขึ้นไป, ทาวน์โฮม 22.1 ตร.ว. ขึ้นไป และมีพื้นที่ใช้สอย สำหรับบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวประมาณ 180 – 227 ตร.ม. และทาวน์โฮม 2.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 143 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.29 - 12 ล้าน* แยกโซนที่อยู่อาศัย Villa Zone ประกอบด้วย บ้านแฝด 2 ชั้น และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ส่วน Townhome Zone ประกอบด้วย ทาวน์โฮม 2.5 ชั้น และมอบที่สุดของความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ Triple Gate พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ อาทิ Tropical Clubhouse ออกแบบมาภายใต้แนวคิด Reconnect with Nature ผสานความเป็นธรรมชาติให้ทุกๆ วัน คือวันพักผ่อน, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness และ Main Park เชื่อมต่อชีวิตและธรรมชาติ เติมเต็มสมดุลด้วย Playground ขนาดใหญ่ และ Unique Basketball Court ที่ปลดล็อคจินตนาการด้วยดีไซน์แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร

"สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนโครงการแนวราบได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยของ เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ และบริษัทในเครือ ยังมีโครงการอื่นๆ ที่เปิดขายแล้ว ในปัจจุบัน ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม ฟีล พหล34 คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท พื้นที่ 3-2-7.4 ไร่ จำนวน 358 ยูนิต ห้องขนาด 25-35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* ติดรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานี เสนานิคม เพียง 20 เมตร, โครงการบ้าน นินญา กัลปพฤกษ์ (บ้านแฝด)มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ในบรรยากาศ Modern Tropical ติดถนนใหญ่กัลปพฤกษ์ เดินทางเข้าเมืองสะดวก ภายใต้สังคมคุณภาพ เพียง 144 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 9-12 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยว นิยาม บรมราชชนนี (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) คฤหาสน์หรูสไตล์ Modern Classic มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ในสังคมส่วนตัวเพียง 71 ยูนิต บรรยากาศร่มรื่นสวยงาม ระบบสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ ปลอดภัยสูงสุดกับระบบรักษาความปลอดภัยระดับพรีเมี่ยมด้วยการจัดวางผังโครงการให้บ้านทุกหลังไม่ติดรั้วโครงการ, Double Gate แยกเข้าโซนพักอาศัย, นัดหมายผู้มาติดต่อล่วงหน้าผ่านระบบ Visitor Management ที่สามารถบันทึกและตรวจสอบวันเวลาการเข้า-ออกโครงการได้ เป็นต้น" ร.อ.กรี กล่าว

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใคร* https://bit.ly/3vQzxbe
รายละเอียดเพิ่มเติม : 096-047-7256
Add LINE @CPNR หรือ https://lin.ee/0AzYmUd
แผนที่ : https://bit.ly/3ueChiH

*เงื่อนไขและโปรโมชั่นเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
#3659


คืบหน้าสมัครเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ หลังจากนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนให้ทั่วถึง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างวางหลักเกณฑ์ เปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ เพื่อเตรียมเสนอคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมพิจารณาก่อน

จะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์เข้ามาลงทะเบียนซื้อหวยออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มตกหล่นจากมาตรการของรัฐที่ผ่านมาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถเข้าร่วมบัตรคนจนได้อีกกว่า 2 ล้านราย ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับสิทธิ์เดิมมีจำนวน 13.65 ล้านคน จะต้องมาลงทะเบียนใหม่ เพราะกระทรวงการคลังจะมีการปรับเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ์ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ซึ่งเกณฑ์การลงทะเบียนรอบใหม่นี้ จะช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง

  

คุณสมบัติของผู้สมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

-มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป

-ว่างงานหรือมีรายได้ส่วนตัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี

-ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน (เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลากธ.ก.ส., พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้) หรือถ้ามีทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องมีรวมกันไม่เกิน 100,000 บาท

-รายได้ต่อครัวเรือนเป็นตัวประกอบการพิจารณา

-ถ้ามีรถยนต์จะถูกนำมาพิจารณาแต่ถ้ามี 2-3 คันจะไม่ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถ้ามีการถือบัตรเครดิตก็จะถูกนำมาพิจารณาเช่นกัน

ขั้นตอนการลงทะเบียน

ขั้นตอนที่ 1 ไปธนาคารที่สะดวก (ธกส., ออมสิน, กรุงไทย)

ขั้นตอนที่ 2 แสดงบัตรประชาชน

ขั้นตอนที่ 3 กรอกแบบฟอร์มแจ้งข้อมูลส่วนตัว รายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สินของตน

ขั้นตอนที่ 4 เก็บหลักฐานไว้เพื่อยืนยันการลงทะเบียน
#3660


ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว สำหรับนายกสมาคมฟินเทค ประเทศไทย ไม่ผิดโผทุกคนต่างเทคะแนนให้กับ คุณนึก-ชลเดช เขมะรัตนา และ ทีมบอร์ดบริหารสุดแข็งแกร่ง ที่แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในด้าน Fintech ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น คุณท๊อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ที่มีความถนัดเรื่องซื้อหวยออนไลน์ Digital Asset คุณมิล-อมฤต ฟรานเซน ที่ทำงานด้าน Insurtech มาหลายปี คุณโย่-ภคมน ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ที่ปัจจุบันได้คลุกคลีอยู่ในวงการ Lending และสุดท้าย คุณเอก-เอกสิทธิ์ เดี่ยววณิชย์ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน Crowdfunding โดยทางคุณชลเดช ผู้สวมหมวกนายกสมาคมคนใหม่ล่าสุดนั้น ปัจจุบันเป็นผู้บริหารในบริษัท Wealth Tech ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกยอมรับจากทั้งวงการฟินเทค และแวดวงตลาดทุนในบ้านเรามากที่สุดคนนึง

ชลเดช เขมะรัตนา เผยแผนปั้นสมาคมฟินเทคประเทศไทย ให้เป็นศูนย์รวมของผู้มีส่วนได้เสียทุกหน่วยงานเพื่อร่วมกันใช้ฟินเทคพัฒนาอุตสาหกรรมการเงินอย่างยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ โดยผู้ที่มีส่วนได้เสียไม่ได้มีแค่เฉพาะสตาร์ทอัพอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงธนาคาร บล. บลจ. บริษัทประกัน หรือผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ หน่วยงานกำกับดูแล และประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ

ตั้งต้นด้วยการปรับโฉม สร้างความเข้าใจใหม่สู่การเป็น "สมาคมของทุกคน"

เราต้องปรับภาพลักษณ์ให้สมาคมเข้าถึงได้ง่าย เป็นสมาคมของทุกคน ทั้งคนไทยและต่างประเทศที่เข้ามาตั้งธุรกิจในประเทศไทย โดยสมาคมฟินเทคประเทศไทยได้เริ่มติดต่อกับสมาคมฟินเทคในต่างประเทศแล้ว ซึ่งเริ่มจากการหาความร่วมมือกับประเทศที่เป็น Global Fintech Hub ก่อน เช่น อังกฤษ จีน สิงคโปร์ เป็นต้น นอกจากนี้ สมาคมฟินเทคยังได้ Rebranding โดยการเปลี่ยนโลโก้ให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเรียกสมาคมภาษาอังกฤษเป็น TFA ย่อมาจาก Thai Fintech Association

ความท้าทาย 52 สัปดาห์แรก แห่งการสร้าง Networking และ Infrastructure

ความท้าทายแรก คือ ต้องปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ทั้งหมดให้สำเร็จโดยไว โดย TFA แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน คือ 52 สัปดาห์แรก และ 52 สัปดาห์หลัง ในส่วนแรกจะเน้นขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งวางโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแรง การมี Networking ที่ดีจะช่วยให้ผู้ประกอบการด้านฟินเทคเข้ามาพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ในหลายแง่มุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวกับระเบียบและกฎเกณฑ์ทางการ เพราะประเทศไทยมีหน่วยงานกำกับดูแลหลายหน่วยงาน ดังนั้น TFA จึงมีความตั้งใจที่จะช่วยประสานงานกับผู้ประกอบการฟินเทคและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มการประชุมเป็นประจำทุกเดือนกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กลต. และสำนักงาน คปภ. เพื่อวางแผนและทำงานร่วมกันในการพัฒนาวงการฟินเทคในประเทศไทย โครงสร้างพื้นฐานที่ TFA อยากผลักดันให้เกิดขึ้นคือ API Exchange โดยการอาสาเป็นเจ้าภาพในการพัฒนา Market Place สำหรับเผยแพร่และแลกเปลี่ยน API เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาบริการด้านฟินเทคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องทำงานซ้ำซ้อนกัน ใครทำเรื่องอะไรได้ดีก็ให้ทำออกมาในรูปแบบ API ให้หน่วยงานอื่นสามารถนำไปใช้ต่อได้แล้วค่อยมาแบ่งรายได้หรือจ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริง ซึ่งในปัจจุบันมีหน่วยงานที่ทำเรื่อง Open API ได้ดีอยู่แล้ว TFA จึงสามารถร่วมงานกับหน่วยงานดังกล่าวเพื่อกำหนดรูปแบบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และวาง API Roadmap สำหรับการขยายฐานผู้ใช้งาน API Exchange ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเชื่อมต่อกับ API Exchange อื่นที่มีอยู่ในต่างประเทศ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเปิดตลาดไปยังต่างประเทศได้ และให้ผู้ประกอบการต่างประเทศมาลงทุนทำธุรกิจด้านฟินเทคในประเทศไทยได้เช่นกัน

52 สัปดาห์หลัง ต่อยอดฟินเทคสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการเสริมช่องทางความรู้ด้านฟินเทค และดึงความสนใจจาก VC ต่างชาติ

ใน 52 สัปดาห์หลังจะเป็นการต่อยอดจากในส่วนแรก ด้วยการสร้างความร่วมมือกับสตาร์ทอัพ และสถาบันการเงิน ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมใช้ Networking ทั้งหมดที่หามาสร้างให้อุตสาหกรรมฟินเทคในประเทศไทยสามารถอยู่ได้แบบยั่งยืน ซึ่งการทำให้ยั่งยืนนั้นเราต้องเริ่มตั้งแต่รากฐานก็คือการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ Fintech ให้แก่คนในประเทศ แต่ในไทยเรายังขาดช่องทางที่หาความรู้เกี่ยวกับเรื่องฟินเทคและการเงินการลงทุนทั่วไป หรือหากมีข้อมูลดังกล่าวก็อาจจะไม่ครบถ้วน หรือดูยากเกิน ดังนั้น TFA จึงอยากจะช่วยเหลือในส่วนนี้ โดยการทำให้ผู้บริโภคเข้าใจฟินเทคมากขึ้น และรู้ว่าตนเองกำลังจะใช้บริการทางการเงินอะไร มีวิธีการและขั้นตอนรวมไปถึงความเสี่ยงและผลประโยชน์จากการใช้บริการทางการเงินนั้นๆ อย่างไรบ้าง TFA จึงได้มีการวางแผนจัดทำคอร์สด้านการเงินและฟินเทค โดยวิทยากรจะมาจากผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ Fintech ทั้งในและต่างประเทศ โดยกรรมการบริหาร TFA ก็จะเป็นวิทยากรเองด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะมีโควตาสำหรับสมาชิกให้สามารถร่วมเรียนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้เรายังวางแผนจัดทำหลักสูตรและให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินทั่วไปและฟินเทค ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าเราไปสอนเด็กที่เรียนบริหารฝั่งการเงิน และฝั่งเทคโนโลยีให้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการเงิน และ ฟินเทค เราก็จะได้คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจสินค้าทางการเงิน มีภูมิคุ้มกันตัวเองมากขึ้น โดนหลอกได้ยาก รู้จักลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ และสามารถกลายเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพในวงการฟินเทค ประเทศไทยในอนาคตได้

ส่วนการสร้างแรงดึงดูดความสนใจจาก VC ต่างชาตินั้น ที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศยังไม่รู้จักฟินเทค ในประเทศไทยมากนัก TFA จึงอยากทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมฟินเทค ประเทศไทยให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ด้วยการจัดงาน Roadshow กับทางต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็ต้องเป็นในรูปแบบออนไลน์ไปก่อน โดยงานดังกล่าวจะเป็นการแบ่งปันองค์ความรู้ของแต่ละประเทศ และเป็นการทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามารู้จักกับสตาร์ทอัพที่เป็นฟินเทคในไทยมากขึ้น นอกจากนี้เราจะมีการจัดทำ Database บริษัทฟินเทค ในประเทศไทยโดยแบ่งตามกลุ่มธุรกิจและรอบการระดมทุน เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกลงทุนกับสตาร์ทอัพในไทยก่อนด้วย

ตั้งเป้าผลักดันประเทศไทย สู่ Top 5 ฟินเทคฮับ ในเอเชีย ภายใน 2 ปี

TFA ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับคนไทยทุกคนด้วยการเป็นศูนย์กลางด้านฟินเทค เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงและเข้าใจบริการด้านฟินเทคอย่างถ่องแท้มากขึ้น พร้อมมุ่งให้ผู้ประกอบการมีช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในวงการฟินเทคได้มีระบบ API ที่มีมาตรฐานให้สามารถนำไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องทำใหม่ขึ้นมาเอง และยังสามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็น Talent ด้านการเงิน และฟินเทคโดยเฉพาะ รวมไปถึงการได้เข้าถึงนักลงทุนในระดับต่างประเทศ ผ่านตัวกลางอย่าง TFA โดยเราตั้งเป้าให้ประเทศไทยติดอันดับ Top 5 ฟินเทคฮับในเอเชียภายใน 2 ปี ผ่านแผนกลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวมาโดยมีผู้ส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมการเงินและฟินเทคเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาฟินเทค ประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก