• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Shopd2

#3641


WeWork เปิดตัว G.I.V.E โครงการเสริมแกร่งธุรกิจเพื่อสังคม มุ่งสนับสนุนการเติบโตขององค์กรธุรกิจเพื่อสังคมในไทยและทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้การเข้าถึงพื้นที่ทำงาน ห้องประชุม สถานที่จัดงานและให้คำปรึกษา

WeWork หนึ่งในผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัว WeWork G.I.V.E โครงการส่งเสริมองค์การถูกกฎหมายเชื่อถือได้ไม่แสวงหาผลกำไร (NPO) และธุรกิจเพื่อสังคมใน 6 ประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียตนาม

นายบัลเดอร์ ทอล ผู้จัดการทั่วไปประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย WeWork เปิดเผยว่า "ในฐานะที่ WeWork มุ่งมั่นในการสร้างชุมชน เราจึงเข้าใจความสำคัญของการได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและการสร้างระบบนิเวศของชุมชน รวมถึงภารกิจทางสังคมที่มุ่งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับกลุ่มที่ยังด้อยโอกาส ในช่วงระยะเวลา4 ปีที่ผ่านมา WeWork ได้ให้การสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมไปแล้วมากกว่า 40 โครงการ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงโครงการด้านวิกฤตมนุษยธรรม ปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาทางสังคม ควบคู่ไปกับการทำงานของพันธมิตรทางด้านสังคมของเรา โครงการ G.I.V.E จะเป็นแพลตฟอร์มในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสังคม ในขณะเดียวกันสามารถสร้างผลกระทบที่ดีอย่างยั่งยืนร่วมกันด้วย"

 
โครงการ WeWork G.I.V.E ซึ่งย่อมาจาก Gratitude, Inclusivity, Volunteer, Enrich โดยสะท้อนถึงการตอบแทน การเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ความมีจิตอาสา และการเพิ่มคุณค่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจเพื่อสังคมของ WeWork และตอบแทนชุมชนต่างๆ ในสังคม โดยโครงการนี้จะให้สิทธิ์การเข้าถึงพื้นที่ทำงาน ห้องประชุม สถานที่จัดงาน และเข้าถึงเครือข่ายทั่วโลกของ WeWork


นอกจากนี้ โครงการนี้จะช่วยเอื้ออำนวยต่อการทำงานขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (NPO) และธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อช่วยเหลือสังคมในสิ่งที่ยังขาดแคลน โดยนอกจากให้ความช่วยเหลือเรื่องสถานที่ทำงาน WeWork แล้วยังคงสนับสนุนในการจัดให้คำปรึกษาทั้งด้านความรู้ วิชาชีพ และการพัฒนาตนเองผ่าน WeWork Labs ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ รวมถึง การมีส่วนร่วมและในทีมของชุมชน ระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และการใช้ห้องเก็บอาหาร

 
ที่ผ่านมา ธุรกิจเพื่อสังคมต่างๆได้มีการเติบโตขึ้น ซึ่งปัจุบันมีธุรกิจที่คอยดูแลและแก้ปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมกว่า 1 ล้านแห่งในเอเชียแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่เป็นเรื่องใหญ่ที่องค์กรและธุรกิจเหล่านี้ประสบ คือ การรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ในขณะที่กำลังขับเคลื่อนการดำเนินงานทางสังคมให้เกิดผลสูงสุด ด้วยการที่ WeWork มีกว่า 31 สาขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงอยู่ในฐานะสามารถช่วยในการจัดหาทรัพยากรสำหรับการดำเนินงานและการสนับสนุนต่างๆแก่องค์กรและธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อช่วยสนับสนุนให้เกิดการขยายการดำเนินงานให้ดีขึ้นและส่งเสริมการสร้างการรับรู้ของสังคมเกี่ยวกับองค์กรเหล่านี้เพื่อประโยชน์ของชุมชน




ปัจจุบัน WeWork ได้มีส่วนร่วมและสนับสนุนองค์กรอย่าง UNICEF (ประเทศไทย), UNHCR (ประเทศไทย), Company of Good (สิงคโปร์) และ Happiness Initiative (สิงคโปร์)

นายไซม่อน เลียว ผู้ร่วมก่อตั้ง Happiness Initiative กล่าวว่า WeWork เป็นพันธมิตรอย่างยาวนานของ Happiness Initiative ตั้งแต่ปี 2562 เราสามารถขยายการทำงานและสร้างองค์กรให้เติบโตท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 โครงการ G.I.V.E ยังคงสนับสนุนกิจกรรมจิตอาสาของเราในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชุมชนต่อไป ทางเรารู้สึกยินดีกับความมุ่งมั่นของ WeWork ในการตอบแทนชุมชน อีกทั้งยังภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้

โครงการ WeWork G.I.V.E เปิดโอกาสให้องค์การไม่แสวงหาผลกำไร (NPO) และธุรกิจเพื่อสังคมทุกขนาดที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงได้สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยผู้สมัครจะได้รับการตรวจสอบสถานะองค์กรหรือธุรกิจเพื่อสังคม รวมไปถึงการตรวจสอบภายในเพื่อได้รับการอนุมัติการสนับสนุนจาก WeWork สามารถดูรายละเอียดวิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการ WeWork G.I.V.E ได้ที่นี่
#3642


ส่องฐานะทางการเงิน 6 เดือนแรกปี 2564 โดยเฉพาะไตรมาส 2 ของ 3 หุ้นธุรกิจไทย ในธุรกิจเกี่ยวข้องกับแดนมังกรยังเหนื่อย !! หลังยอดขายที่เคยฝากไว้บน กำลังซื้อคนจีน ยังไม่กลับมาเช่นเดิม ด้าน เอกชน กลับมารุกตลาดมากยิ่งขึ้น หลังเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก !

'คนจีน'!! ถือเป็นหนึ่งใน 'กำลังซื้อ' ที่สำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการไทยในช่วงที่ผ่านมา จนกลายมาเป็น 'ผู้ซื้อหลัก' ไปแล้ว ทว่าตอนนี้ผู้ซื้อหลักดังกล่าวกำลังฉุดรั้งตัวเลข 'ยอดขาย' ให้ผลการดำเนินงานให้ 'ยังไม่สดใส!' เฉกเช่นเดิม 

จากเมื่อวันวาน... กลุ่มธุรกิจคนไทยเคยเอ็นจอยกับ 'กำลังซื้อของคนจีน' ที่นำพาความเฟื่องฟูสุดๆ หนึ่งในนั้นต้องมี '3 หุ้นธุรกิจไทย' บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) ถูกกฎหมายเชื่อถือได้ที่มีสัดส่วน 'ยอดขาย' พึ่งพิงกำลังซื้อจากคนจีนเป็นหลัก !! นั่นคือ บมจ.ดู เดย์ ดรีม หรือ DDD , บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY และ บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN ที่โฟกัสกลุ่มลูกค้าจีนทั้งที่มาท่องเที่ยวในไทย และขยายตลาดไปปักหมุด ณ ดินแดนมังกร

ทว่า เมื่อทั่วโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่รุมเร้าและลากยาว ส่งผลให้รัฐบาลในหลายประเทศต้องพยายาม 'สกัดกั้น' เพื่อหวังหยุดตัวเลขการแพร่ระบาดของผู้ติดโควิด-19 ให้ลดน้อยที่สุด ด้วยการออกมาตรการต่างๆ มา 'จำกัด' ประชาชนของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการปิดประเทศ (ล็อกดาวน์) หรือ การให้ประชาชนทำงานอยู่บ้าน 

จนกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลทำให้กำลังซื้อทั่วโลกเริ่มชะลอตัว ! ยิ่งเฉพาะคนจีนที่เป็น 'ผู้ซื้อหลัก' ของหลากหลายอุตสาหกรรมในไทย

อ่านข่าว : พาณิชย์ เร่งเครื่องดันส่งออก มั่นใจ ปี 65 ยังโตแรง หนุนฟื้นวิกฤตโควิด

3ธุรกิจไทย ยังเหนื่อย ! รอ กำลังซื้อจีน คืนชีพ


สอดคล้องกับ สถานการณ์ 6 เดือนแรกปี 2564 ตัวเลขผลประกอบการ 3 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ DDD-BEAUTY-TKN 'ไม่สดใส' ลดลงหรือแม้แต่ยังขาดทุน โดยเฉพาะไตรมาส 2 ปี 2564 ที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนไม่เบา โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2564 พบว่า หุ้น DDD มี 'ขาดทุนสุทธิ' 141.65 ล้านบาท จากไตรมาส 2 ปี 2563 มี 'กำไรสุทธิ' 48.04 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 107.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6 เดือนแรกปีก่อน 37.18 ล้านบาท ตามลำดับ

หุ้น BEAUTY ไตรมาส 2 ปี 2564 มีขาดทุนสุทธิ 35.17 ล้านบาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 61.36 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรก มีขาดทุนสุทธิ 50.30 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน 101.04 ล้านบาท 

และ หุ้น TKN ไตรมาส 2 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 22.23 ล้านบาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 88.91 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 78.44 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 174.59 ล้านบาท 

ดังนั้น สารพัดปัจจัยลบรุมเร้า ทำให้ 'ความมั่งคั่ง' (Wealth) ของธุรกิจปรับตัว 'ลดลง' ไปด้วย หากย้อนกลับไปดูความมั่งคั่งของธุรกิจเมื่อปี 2560 เทียบกับปัจจุบัน (13 ก.ย.2564) จากระดับหมื่นล้านเหลือพันล้านบาท สะท้อนผ่านตัวเลข 'มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด' (Market Capitalization) โดย หุ้น DDD มีมาร์เก็ตแคปปี 2560 อยู่ที่ 27,966 ล้านบาท ลดลงมาอยู่ที่ 5,594.82 ล้านบาท (13 ก.ย.64) หุ้น BEAUTY มาร์เก็ตแคปปี 2560 อยู่ที่ 62,456.88 ล้านบาท ลดลงมาอยู่ที่ 4,660.65 ล้านบาท (13 ก.ย.64)และ หุ้น TKN มาร์เก็ตแคปปี 2560 อยู่ที่ 28,842 ล้านบาท ลดลงมาอยู่ที่ 9,798 ล้านบาท (13 ก.ย.64) 


'อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า 'เถ้าแก่น้อย' รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทได้เพิ่มน้ำหนักการทำ 'ตลาดต่างประเทศ' มากขึ้น รองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น

โดยเฉพาะตลาดใน 'ประเทศจีน' ที่ถือเป็นตลาดหลักของ TKN นั้น ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงในการทำตลาด โดยแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย (Distributor) เพิ่มอีก 1 ราย เพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และช่องทาง E-Commerce จากเดิมที่มีตัวแทนจำหน่ายได้แก่ Pan Orion Corp รับผิดชอบการจัดจำหน่ายสินค้าเข้าสู่ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) จึงทำให้ TKN มั่นใจกว่า การผสานกำลังร่วมกันระหว่าง 2 ตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนครั้งนี้ จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดส่งออกต่อจากนี้

เช่นเดียวกับตลาดในสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเริ่มเปิดประเทศในช่วงเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น บริษัทได้เดินสายออกบูธงานแสดงสินค้า (Roadshow Exhibition) ตามสถานที่ต่างๆ คาดว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนได้ในไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นต้นไป แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากภาวะค่าระวางการขนส่งสินค้าทางเรือรวมถึงราคาค่าตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังสูงที่ TKN ยังต้องบริหารจัดการให้เอื้อประโยชน์และสนับสนุนแผนการเติบโตด้านผลการดำเนินงานให้ดีที่สุด

ขณะที่ ทิศทางตลาดในประเทศ ยังเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักและกำลังซื้อชะลอตัว ดังนั้น TKN จะบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ให้รัดกุมในทุกด้าน รวมถึงติดตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อแผนงาน TKN 

ในเบื้องต้นประเมินว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยบริษัทมีแผนนำเสนอสินค้าใหม่พร้อมทำแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างโมเมนตัมให้กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนหรือ Quick Service Restaurant (QSR) ของบริษัทในเครือ จะมุ่งขยายช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่มากขึ้น

ขณะที่ บมจ. บิ้วตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลายประเทศเผชิญกับการระบาดในรอบใหม่ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งตลาดในประเทศ จากการระบาดในรอบนี้ที่ค่อนข้างรุนแรงกว่ารอบก่อนๆทำให้รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ใน 13 จังหวัด 25 สาขา

ส่วนตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดจีน ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมซื้อสินค้าออนไลน์ที่เป็นสินค้าจีนมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลจีนส่งเสริมให้คนใช้สินค้าแบรนด์จีน และเข้มงวดการนำเข้าสินค้าต่างประเทศเข้ามาขายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ความนิยมในสินค้าต่างประเทศ 'ลดลง' ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทจึงต้องกลับมาทำการตลาดใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ ใน 3 ด้านหลัก เพื่อรับวิกฤติดังกล่าว คือ ด้านแรก การปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ ด้านที่สอง การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ และด้านที่สาม การขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง โดยมุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีโอกาสขยายตัว สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะการเปิดสาขาร้านค้าปลีก เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากฐานลูกค้าในประเทศ และสามารถสร้างตลาดที่ครอบคลุมในระยะยาว

ทั้งนี้ จากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าว ช่วยลดผลกระทบจากสภาวะต่างๆได้ เพื่อรองรับกับสถานการณ์และสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป โดยคาดว่าหากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มปรับตัวดีขึ้น โครงสร้างธุรกิจใหม่ของบริษัทจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานทั้งในแง่การจำหน่าย การบริหารจัดการ และลดต้นทุนในการดำเนินงาน ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวกลับมาดีขึ้น

'ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์' ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บมจ. ดู เดย์ ดรีม หรือ DDD เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิดส่งผลกระทบต่อยอดขายมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 3 ปี 2564 ทำให้บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้รวมปีนี้เป็นเติบโต 20-30% จากเดิมที่คาดเติบโต 25-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,490.62 ล้านบาท

อย่างไรตาม บริษัทได้ดำเนินการด้วยการเน้นการลดค่าใช้จ่ายโดยรวมให้ลดลง ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าเช่าคลังสินค้า และ ค่าขนส่งในแต่ละกลุ่มธุรกิจมาไว้ที่เดียวกัน ซึ่งคาดจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 3 และ เห็นผลชัดเจนในไตรมาส 4 ปี 64 รวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และ การลดค่าใช้จ่ายในการผลิตผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสปาร์คเคิลมาผลิตที่โรงงานของบริษัทเอง โดยจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยเฉลี่ยลงตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 64 เป็นต้นไป

สำหรับตลาดในฟิลิปปินส์คิดเป็นสัดส่วน 20% ของพอร์ตรวม โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 64 ยอดขายยังเติบโตได้ดี แม้ยอดผู้ติดเชื้อจะสูงกว่าประเทศไทย และ มีมาตรการล็อกดาวน์ แต่ผู้บริโภคในฟิลิปปินส์มีพฤติกรรมใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้ช่วงเทศกาล shopping 6.6 และ 7.7 แบรนด์ของบริษัทติดอันดับผลิตภัณฑ์ขายดีทุกรายการทั้งสเนลไวท์ และ OXECURE

ในขณะเดียวกันเมื่อเดือนที่ผ่านมา บริษัทยังเจาะตลาดด้วยแบรนด์สปาร์คเคิล ทั้งยาสีฟันแปรงสีฟัน และ น้ำยาบ้วนปาก โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังทั้งในประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ดังนั้นภาพรวมผลการดำเนินงานของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่า ยอดขายจะยังเติบโตได้ 20-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน 

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2564 บริษัทประเมินว่า ยอดขายจะฟื้นตัวได้ดีจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ตามการกระจายวัคซีน และ คาดว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะฟื้นตัวตามนโยบายรัฐ ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายจากกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ฟื้นตัว ประกอบกับ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับสุขภาพ และ การปรับขนาดของผลิตภัณฑ์ให้คุ้มค่า คุ้มราคามากขึ้น ตลอดจนปิดดีลการควบรวมกิจการ (M&A) 1 ดีล ภายในสิ้นปีนี้ 

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทมีแผนรองรับในส่วนกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง ไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องทางการขาย การออกผลิตภัณฑ์ และ การปรับขนาดผลิตภัณฑ์ เช่น แบรนด์ SOS ที่เป็นแบรนด์ได้รับความนิยมกลุ่มวัยรุ่นเกาหลี และ ญี่ปุ่น ซึ่งปกติแล้วราคาจะเฉลี่ย 200-300 บาท จึงปรับขนาดลงจาก 50 มิลลิลิตร ลงเหลือ 25-30 มิลลิลิตร เพื่อกระตุ้นยอดขายควบคู่กับการทำให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป

รวมทั้งมีการออกแบบสินค้าใหม่เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น แบรนด์ N Life Plus ได้แก่ โปรไบโอติก Ginger plus shot และผลิตภัณฑ์ดูแลผม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการในเทรนด์ปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคสนใจเรื่องสุขภาพมากกว่าความสวยงาม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร+Zinc ในรูปแบบสเปรย์เพื่อพ่นปากและ ลำคอ นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 64 และ ต้นปี 65 เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับกัญชงกัญชาเพิ่มเติมด้วย
#3643


การแข่งขันฟุต. รีโว่ ไทยลีก 2021 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดสนามช้างอารีนา พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

เริ่มครึ่งเวลาแรก นาทีที่ 11 รัตนากร ใหม่คามิ เล่นลูกเตะมุมเร็วทางฝั่งขวา จ่ายเรียดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ศุภชัย ใจเด็ด แต่ง.แล้วยิงอัดเข้าไปหน้าประตู ซามูเอล โรซา แหย่เท้าจิ้ม.เข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0

จากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันได้ ทำให้จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 1-0 ประตู

กลับมาเล่นครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 55 สุภโชค สารชาติ ได้.กลางสนาม แตะขึ้นหน้า แล้วจ่าย.ทะลุช่องให้ ศุภชัย ใจเด็ด เกี่ยว.กระชากเข้าเขตโทษ แล้วยิงหักข้อ .พุ่งเรียดผ่านมือ นนท์ ม่วงงาม เข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนี เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เป็น 2-0

นาทีที่ 84 ปราสาทสายฟ้า ได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้าเขตโทษ จักรกฤษ ลาภตระกูล วิ่งเข้าไปยิงเต็มแรง .พุ่งเสียบสามเหลี่ยม เป็นประตูให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่างเป็น 3-0

นาทีที่ 90+3 ปราสาทสายฟ้า มาได้ประตูที่ 4 พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี เก็บ.ได้ที่แถวสอง แต่ง.เข้าเท้าขวาข้างถนัด ซัด.พุ่งเสียบโคนเสาให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำขาด 4-0

จากนั้น ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ไปได้ 4-0 ส่งให้ ปราสาทสายฟ้า คว้า 3 คะแนนไปครอง ขยับไปมี 7 คะแนน จากการลงสนาม 3 นัด

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), พรรษา เหมวิบูลย์, ดิเกา, เรบิน สุลากา, ปิยพล ผานิชกุล, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (C), พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, รัตนากร ใหม่คามิ (ชุติพนธ์ ทองแท้ น.67), สุภโชค สารชาติ (อ่อง ธู น.56), ศุภชัย ใจเด็ด (จักรพันธ์ แก้วพรม น.81), ซามูเอล โรซา (จักรกฤษ ลาภตระกูล น.81)

เชียงใหม่ ยูไนเต็ด : นนท์ ม่วงงาม (ผู้รักษาประตู), ทศพล ลาเทศ, เอฟซั่น พาทริซิโอ้, ศิริศักดิ์ ไฝดง (C), สุรวิช โลกาวิทย์ (ธนา อิซอ น.60), กรกช วิริยอุดมศิริ, ธนะวิชช์ ธนศศิร์ภัทร์ (คัพฟ้า บุญมาตุ่น น.72), สหรัฐ กันยะโรจน์ (บวร ตาปลา น.46), ถวิล บุตรสมบัติ, เซอร์จิโอ เอสคูเดโร (พูลศักดิ์ มาสุข น.82), เมวิน เดอ ลูว์ (ยานนิค โบลี น.60)
#3644


ความเคลื่อนไหวหลังเกมการแข่งขันฟุต.ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021/22 แมตช์ที่ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้า ช้างอารีนา เอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ไปได้ 4-0 ส่งให้ ปราสาทสายฟ้า คว้า 3 คะแนนไปครอง ขยับไปมี 7 คะแนน จากการลงสนาม 3 นัด

อเล็กซานเดร กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า "เกมนี้เรามีความสุขมาก ไม่ใช่เพราะเราชนะ แต่เป็นเพราะทีมเล่นได้ดีขึ้น ผลการแข่งขันทำให้เห็นว่าเราควบคุมเกมได้ สร้างโอกาสการยิงประตูได้เยอะ เกมนี้ผมเองก็มีความสุข แต่อย่างไรก็ตาม ทีมของเราสามารถพัฒนาให้เก่งกว่านี้ได้"

"วันนี้นักเตะหลายคน ทำผลงานได้ดีขึ้น นักเตะที่ถูกส่งลงสนามไปเป็นตัวสำรอง ก็ทำผลงานได้ดี สามารถรักษามาตรฐานการเล่นของทีมได้ จริง ๆ แล้ว เกมนี้เป็นเกมที่ยากมาก เพราะต้องเจอกับทีมที่เล่นเกมรับแบบ 2 ชั้น แต่ลูกทีมของผม ก็ทำงานกันออกมาได้ดี ผมภูมิใจในลูกทีมทุกคน"

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เกมต่อไปต้องออกไปเยือนเป็นเกมแรก และต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กุนซือชาวบราซิล เปิดเผยว่า "แน่นอนมันเป็นเกมบิ๊กแมตช์ เป็นเกมที่ยาก แต่เราพร้อมอยู่แล้วในการเตรียมตัวฝึกซ้อม เพื่อออกไปเยือน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ผมก็หวังว่าลูกทีมของผม จะยกระดับการเล่นให้สูงขึ้น เพื่อที่จะเก็บ 3 คะแนน แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้ ทีมคู่แข่งก็เป็นทีมที่ดี เราก็ให้เกียรติคู่แข่งเสมอ แต่เราคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เราต้องชนะเท่านั้น เราจะทำให้เต็มที่ในเกมดังกล่าว"
#3645


แอสตัน วิลล่า กลายเป็นทีมแรกที่หยุดความแรงของ เอฟเวอร์ตัน หลังเปิดบ้านจัดการเคี้ยว "ทอฟฟี" เละ 3-0 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลล่า 3-0 เอฟเวอร์ตัน

คู่สุดท้ายวันเสาร์ แอสตัน วิลล่า อันดับ 14 มี 4 แต้ม เปิดรังเจอ เอฟเวอร์ตัน อันดับ 5 มี 10 แต้ม เกมนี้ วิลล่า ใช้คู่หน้าคือ ออลลี วัตกินส์ กับ แดนนี อิงส์ ส่วน "ทอฟฟี" วาง 3 ประสาน ซาโลมอน รอนดอน, เดอมาราย เกรย์ และ อันโดรส ทาวน์เซนด์ ลงไปยิง

เริ่มเกม นาที 3 เอฟเวอร์ตัน เกือบนำเร็ว เบน ก็อดฟรี จ่ายยัดให้ ซาโลมอน รอนดอน สอดขึ้นมาจิ้มเสาแรกแต่ออกหลัง ขณะที่ นาที 15 ทีมเยือนได้เตะมุม อันโดรส ทาวน์เซนด์ โยนโด่งจากขวาให้ ไมเคิล คีน โหม่งจ่อๆ แต่หลุดเสานิดเดียว

นาที 27 วิลล่า ตอบโต้ แมตต์ ทาร์เก็ตต์ แย่ง.ลากขึ้นหน้าแล้วโดนสกัดแต่.ยังเด้งหา จอห์น แม็คกิน ยิงแต่หลุดกรอบ ต่อมา นาที 44 ทอฟฟี สวนหมัด เดอมาราย เกรย์ จ่ายเข้าทาง อันโดรส ทาวน์เซนด์ ลองยิงซ้ายไกลแต่ติดเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ จบครึ่งแรกยัง 0-0

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านเล่นดีกว่าจน นาที 65 ขึ้นนำสำเร็จ ดักกลาส ลุยซ์ ดีดขึ้นหน้าให้ แม็ทธิว แคช วิ่งตัดเข้าไปตะบันซ้ายตุง 1-0 และได้ดีใจกันต่อ นาที 69 ลีออน ไบญี เปิดเตะมุมฝั่งขวาแล้ว ลูคัส ดีน โหม่งเช็ดเข้าประตูตัวเองให้ วิลล่า นำห่าง 2-0

นาที 74 วิลล่า เริงร่าไม่หยุด แดนนี อิงส์ โยนข้ามฟากให้ ลีออน ไบญี กระชากหลุดเดี่ยวแล้วซัลโวเต็มตีน 3-0 ส่วนเวลาที่เหลือ เอฟเวอร์ตัน บุกมาทวงประตูไม่ได้แล้ว จบเกม ทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ลิ้มรสความพ่ายแพ้นัดแรก ส่วน วิลล่า เก็บเพิ่มเป็น 7 แต้ม ขึ้นมาอยู่อันดับ 10

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แอสตัน วิลล่า - เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, อเซล ทวนเซเบ้, ไทโรน มิงส์, เอซรี คอนซ่า, แมตต์ ทาร์เก็ตต์, แม็ทธิว แคช, ดักกลาส ลุยซ์, จอห์น แม็คกิน, จาค็อบ แรมซีย์, ออลลี วัตกินส์, แดนนี อิงส์
เอฟเวอร์ตัน - แอสเมียร์ เบโกวิช, เบน ก็อดฟรี, ไมเคิล คีน, เยอร์รี มิน่า, อับดุลลาย ดูคูเร่, อัลลัน, ลูคัส ดีน, อเล็กซ์ อิโวบี, ซาโลมอน รอนดอน, เดอมาราย เกรย์, อันโดรส ทาวน์เซนด์
#3646


รายงานข่าวจากสำนักยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ระบุว่า ซีพียืนยันว่า บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมกับเว็บไซต์ www.cpgroupglobal.com ที่มีการนำโลโก้ ชื่อซีพี และภาพบางส่วนไปใช้ทำเว็บหลอกให้ประชาชนหลงเชื่อเพื่อเชิญชวนให้ลงทุนถูกกฎหมายเชื่อถือได้ในบิทคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัล

 "ช่วงที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีการเผยแพร่และนำเสนอข่าวสารที่สร้างความสับสนให้กับสังคม ซึ่งซีพีขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว เพราะอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินได้ และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวในช่องทางต่างๆ"รายงานข่าวระบุ


ทั้งนี้ ซีพี จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบิดเบือนข้อมูลอันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายต่อองค์กรต่อไป เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่า เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 109

บุคคลใดเลียนเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่นนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตลอดจน เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฎเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
#3647


อัพเดท'คนละครึ่งเฟส 3' เหลือ 8 แสนสิทธิ ยังเปิดลงทะเบียน สมัครวันนี้รับ 3,000 บาท ผู้ได้สิทธิ์อยู่แล้ว รอเงินเข้ารอบใหม่ 1,500 บาท พร้อมเปิดให้ใช้จ่ายถูกกฎหมายเชื่อถือได้ผ่าน'ฟู้ดเดลิเวอรี่'ตุลาคมนี้

เกาะติดโครงการ'คนละครึ่งเฟส 3' กระทรวงการคลัง เตรียมเติมเงินรอบ 2 วงเงินรวมกว่า 40,350 ล้านบาท ให้ผู้ได้รับสิทธิ์คนละ 1,500 บาทในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ 

ความคืบหน้าข้อมูล ณ สิ้นวันที่ 17 กันยายน 2564 โครงการคนละครึ่ง ยังเหลือสิทธิ์อีก 805,855 สิทธิ์ และยังคงเปิดรับลงทะเบียน'คนละครึ่ง' www.คนละครึ่ง.com จนกว่าจะครบ 31 ล้านสิทธิ์

ทั้งนี้หากสมัครเข้าร่วมโครงการฯวันนี้ จะได้รับวงเงินใช้จ่ายผ่านแอปเป๋าตัง 1,500 บาท สำหรับการใช้จ่ายรอบแรก (1 ก.ค.-30 ก.ย.64  ) และรับอีก1,500 บาท ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 สำหรับการใช้จ่ายรอบ 2 ( 1 ต.ค.-31 ธ.ค. 64 )

แต่หากสมัครหลังวันที่1 ตุลาคม 2564 จะได้รับวงเงินใช้จ่าย 3,000 บาท แต่ยังคงเงื่อนไขการใช้จ่ายเหมือนเดิม โดยรัฐจะช่วยจ่าย 50%ไม่เกินวันละ 150 บาทจนถึง 31 ธันวาคมนี้ หรือจนกว่าจะใช้หมดวงเงิน กรณีที่ยังใช้วงเงินรอบแรก 1,500 บาทไม่หมด จะไม่ถูกยึดคืน และยังสามารถเก็บไว้ใช้จ่ายได้ยาวจนถึงสิ้นปีนี้

'คนละครึ่งเฟส 3'www.คนละครึ่ง.com ยังเปิดลงทะเบียน สมัครวันนี้รับ 3,000บาท
'คนละครึ่งเฟส 3'www.คนละครึ่ง.com ยังเปิดลงทะเบียน สมัครวันนี้รับ 3,000บาท

 


'คนละครึ่ง'จ่ายซื้อ'ฟู้ดเดลิเวอรี่'ต.ค.นี้

นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป กระทรวงการคลังจะมีการปรับหลักเกณฑ์ให้สามารถนำสิทธิโครงการคนละครึ่ง มาใช้จ่ายซื้ออาหารผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ได้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายให้กับประชาชนสอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ นิวนอร์มัล

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า  กระทรวงการคลังพร้อมเติมเงินเข้าโครงการคนละครึ่งรอบที่ 2 วงเงินรวมกว่า 40,350 ล้านบาท ให้กับผู้ได้รับสิทธิ์คนละ 1,500 บาท ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้ประชาชนใช้จ่ายในช่วงไตรมาส 4/64  (ต.ค.-ธ.ค.64) ได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 80,700 ล้านบาท  

โครงการ'คนละครึ่งเฟส 3'รัฐบาลได้ดำเนินการขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศองค์รวม โดยประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่1กรกฏาคม 2564- 31 ธันวาคม 2564

 

คุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ

มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
ประชาชนสามารถเลือกลงทะเบียนได้ 1 โครงการเท่านั้น 
     - ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

     *ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th

      -ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน)

     * ตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิผ่านบัตรประชาชนได้จาก www.เราชนะ.com

     - ไม่เป็นผู้ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้

การลงทะเบียนรับสิทธิ สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง

ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
ลงทะเบียนผ่านแอปฯเป๋าตัง พร้อมผูก G-wallet (กดแถบโครงการคนละครึ่ง) สำหรับผู้ที่เคยได้รับสิทธิโครงการ/มาตรการรัฐที่ใช้แอปฯเป๋าตัง
ที่มา : www.คนละครึ่ง.com 
#3648


ธุรกิจขายตรง จะโตต่อในโลกอนาคต ต้องปรับตัวรอบด้าน ทั้งผสาน "ดิจิทัล" เสริมแกร่ง Personal Touch หัวใจเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ขณะครึ่งปี 64 ตลาด 70,000 ล้าน หดตัว 5% เหตุกำลังซื้อลูกค้าหดตัว
โรคโควิด-19 ระบาดเกือบ 2 ปี สร้างความเสียหายให้ธุรกิจมหาศาล และต้องปรับตัวเพื่อพ้นวิกฤติ แต่อีกหนึ่งตัวแปรที่ยังไม่หายไปคือ "ดิจิทัล ดิสรัปชั่น" เพราะไม่เพียงโรคระบาดทำให้ "ดิจิทัล"ทรงพลังมากขึ้น ยังเร่งให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ธุรกิจต้องทรานส์ฟอร์ม นำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้เคลื่อนธุรกิจ

"ธุรกิจขายตรง" ได้รับผกกระทบจาก 2 ตัวแปรข้างต้น เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ ทำให้ภาพรวมตลาดหดตัว ต้องปรับตัวรับบริบทโลก การตลาดที่เปลี่ยนไป โดย กิจธวัช ฤทธีราวี ​นายกสมาคมการขายตรงไทย ฉายภาพรวมธุรกิจขายตรงในประเทศไทยปี 2563 หดตัวราว 1% ทว่า ครึ่งปีแรก 2564 ตลาดติดลบหนักขึ้นที่ 5% จากมูลค่าประมาณ 70,000 ล้านบาท

สาเหตุที่ฉุดตลาดให้ดิ่งลง เนื่องจากโรคระบาดส่งผลต่อ "กำลังซื้อของผู้บริโภค" ให้ลดน้อยถอยลง และการเลือกซื้อสินค้าและบริการในช่วงวิกฤติต้องโฟกัส "สินค้าจำเป็น" ลำดับแรก

ท่ามกลางธุรกิจขายตรงไทยหดตัว แต่ตลาดระดับโลก กลับเติบโตสวนทางที่ 5.8% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.79 แสนล้านดอลลาร์ มีนักธุรกิจอิสระทั่วโลกกว่า 125 ล้านราย เติบโต 4.3% ปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อตลาด เพราะประเทศสำคัญ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ ปรับตัวได้เร็วในการผลักดันยอดขาย "สินค้าเพื่อสุขภาพ" เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคที่ตระหนักเรื่องสุขภาพมากขึ้น หลังเผชิญโควิด-19 นั่นเอง กลับกันสินค้าในหมวดความงามหรือบิวตี้ แผ่วลงตามสถานการณ์

โจทย์ใหญ่ "ขายตรง" อยู่รอด  ดึงพลัง "ดิจิทัล" เสริมธุรกิจ

"ย้อนไป 10 ปี ธุรกิจขายตรงมีการเติบโตสูงมากเฉลี่ย 7% แต่ตอนนี้ตลาดเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวไปบ้าง ถือเป็นปกติของวัฏจักรที่อาจมีติดลบบ้าง"

ขณะที่จำนวนนักธุรกิจ ยังคงเข้าออกหมุนเวียนกันไป ปัจจุบันทั้งประเทศมีประมาณ 11 ล้านราย บางบริษัทมีนักธุรกิจใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น 5-10% แต่ที่น่าสนใจคือจำนวนคนที่ออกจากธุรกิจ มีอัตราขยายตัวเท่ากัน สะท้อนถึงภาวะ "ทรงตัว"

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก ธุรกิจขายตรงในอนาคตต้องเผชิญความท้าทายอีกมาก หากต้องการเติบโต โดย กิจธวัช วิเคราะห์ว่า การปรับตัวต้องให้ความสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้องไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย ซื้อง่าย "ราคา" จับต้องได้ และสินค้าสุขภาพมาแรง 2.การสร้างแบรนด์ ทำการตลาดต่างๆ หมดยุคทุ่มงบประมาณ 30 หรือ 50 ล้านบาท ซื้อสื่อโฆษณาทางทีวี เพราะ "ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่" ไม่ดูทีวีแล้ว แบรนด์ยังต้องสร้างตัวตนที่แท้จริงถูกกฎหมายเชื่อถือได้ จริงใจในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย และ 3.แพลตฟอร์ม สิ่งที่ผู้ประกอบการ นักธุรกิจขายตรงต้องอยู่ให้ได้คือการนำเอกลักษณ์ด้าน Personal touch หรือเจอผู้บริโภคแบบตัวต่อตัวในการขายสินค้า ผสานกับ "ดิจิทัล" เพิ่มศักยภาพการทำตลาด ขายสินค้า

"Personal touch เป็นหัวใจของธุรกิจขายตรง ต้องผสานกับดิจิทัล ไม่เช่นนั้นการขายสินค้าจะไม่แตกต่างกับอีคอมเมิร์ซทั่วไป เราต้องดูแลทั้งเส้นทางการซื้อของผู้บริโภค(Journey) ตั้งแต่สั่ง จนถึงส่งสินค้าปลายทาง(Last mile)"

เมื่อการเปลี่ยนแปลงตลาด เทรนด์ใหม่ๆเกิดขึ้นตลอด ธุรกิจขายตรงต้องอัพเดทสถานการณ์ ซึ่งปี 2564 โอกาสดีที่ งานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลก ครั้งที่ 16 จะจัดขึ้นในประเทศไทยระหว่าง 6-7 ตุลาคมนี้ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จึงต้องปรับรูปแบบการจัดงานภายใต้สถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด โดย สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานจัดงานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลก ครั้งที่ 16 กล่าวว่า เดิมงานขายตรงโลก จะจัดขึ้นปี 2563 แต่ต้องเลื่อนมาเพราะพิษโควิด

โจทย์ใหญ่ "ขายตรง" อยู่รอด  ดึงพลัง "ดิจิทัล" เสริมธุรกิจ

สำหรับการจัดงานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลกที่ไทยภายใต้แนวคิด Tomorrow is Now ยังเป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนจากออฟไลน์เป็น "ออนไลน์" และเปิดโอกาสให้นักธุรกิจอิสระเข้าร่วมงานได้ จากปกติต้องจัดสรรงบประมาณก้อนโต เพื่อส่งตัวแทนเพียงไม่กี่คนเดินทางไปยังประเทศต่างๆ จึงคาดการณ์ปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมงาน 2,000-3,000 ราย จาก 60 ประเทศทั่วโลก

ส่วนไฮไลท์ของงานปีนี้ มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายวงการ ทั้งขายตรง เทคโนโลยี มาแสดงวิสัยทัศน์ ฉายแนวโน้มธุรกิจ เทรนด์ต่างๆ รวมถึงโอกาสและความท้าทายในอนาคต เช่น มาร์ค เบนิออฟ (Mr. Marc Benioff) ซีอีโอจาก Salesforce ที่เป็นบริษัทซอฟท์แวร์ระดับโลก เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย ผู้บริหารจากดีเอชแอล(DHL) และ มุกพิม อนันตชัย ผู้บริหารจากยูทูป(YouTube) แพลตฟอร์มดิจิทัลยักษ์ใหญ่ เป็นต้น

"เน้นเนื้อหาการปรับตัว เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจขายตรงให้เติบโตต่อในยุคใหม่ท่ามกลางกระแสดิจิทัล และแนวคิด Tomorrow is Now เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็วจนไม่มีวันพรุ่งนี้"
#3649


จากการที่ BTS ประกาศยุติการทำโปรโมชั่นเที่ยวเดินทาง 30 วันทุกประเภท โดยจะขายถึงวันที่ 30 กันยายนนี้เป็นวันสุดท้าย โดยให้เหตุผลว่าการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้พฤติกรรมการเดินทางของผู้โดยสารเปลี่ยนไปจากเดิม โปรโมชั่นดังกล่าวจึงไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI ได้เผยแพร่บทความโดย ดร.สุเมธ องกิตติกุล และภัทราภรณ์ วัฒนผดุงศักดิ์ ซึ่งมีข้อเสนอแนะว่ารัฐบาลควรสนับสนุนงบประมาณเยียวยาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอกชน เพื่อให้ดำเนินธุรกิจต่อได้โดยไม่ผลักภาระมาให้ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นค่าโดยสาร หรือลดการให้บริการ ซึ่งทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความเดือดร้อน

TDRI ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบขนส่งมวลชนสาธารณะทั่วโลก เพราะรัฐบาลแต่ละประเทศต่างมีมาตรการลดการเดินทาง ทำให้ปริมาณผู้โดยสารลดลง ส่งผลให้รายได้ลดลงเช่นกัน แต่ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนในต่างประเทศ จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณเยียวยาถูกกฎหมายเชื่อถือได้จากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ หรือเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

โดยรัฐบาลอังกฤษให้เงินเยียวยาหน่วยงานท้องถิ่นกว่า 3.4 พันล้านปอนด์ และให้ยืมเงินเพิ่มอีก 600 ล้านปอนด์ ส่วนบริษัทเอกชนได้รับเงินช่วยเหลือกว่า 7.4 พันล้านปอนด์ และยังเรียกร้องค่าธรรมเนียมการบริหารกิจการอีก 88.8 ล้านปอนด์

ส่วนกรณีของรถไฟฟ้าบีทีเอส พบว่าจากมาตรการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวด ทำให้ปริมาณผู้โดยสารในปี 2563 ลดเหลือ 124.9 ล้านคน รายได้จากค่าโดยสารลดเหลือ 3,715 ล้านบาท หรือลดลงถึง 45.5% แต่รัฐบาลไม่มีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการจากมาตรการป้องกันโควิดแต่อย่างใด

รถไฟฟ้าบีทีเอสจึงต้องประกาศยกเลิกตั๋วรายเดือน เพื่อเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อเที่ยวของการเดินรถ ทำให้ประชาชนแบกรับภาระค่าโดยสารเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงควรพิจารณางบประมาณเพื่อเยียวยาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ

สำหรับข้อดีของตั๋วรายเดือนนอกจากทำให้อัตราค่าโดยสารลดลง ยังช่วยลดความแออัดบริเวณชานชลาชั้นจำหน่ายตั๋ว ลดเวลาในการต่อคิวซื้อตั๋วเที่ยวเดียวหน้าสถานี และยังจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพราะค่าโดยสารเฉลี่ยจะอยู่ที่ 26 บาทต่อเที่ยวเท่านั้น

TDRI ยังระบุว่า รัฐบาลควรมีมาตรการแก้ไขปัญหาสัญญาสัมปทานระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อให้ได้ค่าโดยสารระบบรถไฟฟ้าที่เป็นตารางค่าโดยสารร่วมทุกเส้นทางโดยไม่ต้องคิดค่าโดยสารแยกในแต่ละเส้นทาง เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น
#3650


ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งและครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ GISTDA ได้รับรางวัลประเภทนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา GISTDA ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศในการทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อตั้งหน่วยงานขึ้นมา รางวัลในครั้งนี้ยิ่งช่วยตอกย้ำได้ว่าผลงานของ GISTDA ได้เป็นที่ประจักษ์ในสังคมสามารถช่วยเหลือสังคมได้อย่างแท้จริง และนำความภาคภูมิใจในส่วนนี้ส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนในการทำ ทุ่มเทแรงกายแรงใจและมีส่วนในการคิด ให้โครงการนี้ได้ไปต่อ รวมถึงช่วยในการผลักดันให้ทั้ง 2 โครงการประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
.
ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการแรก ระบบชี้จุดไฟป่าฯ เป็นในเรื่องของนวัตกรรมบริการ ประการแรกเลย จะเห็นได้ว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อชุมชน ต่อประเทศและต่อสังคมโดยตรง เพราะสามารถทำให้การบริหารจัดการเรื่องไฟป่าสามารถลดมลภาวะทางอากาศในพื้นที่นั้นๆได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วยังเป็นการสร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญถึงผลกระทบจากไฟป่า หรือผลกระทบจากการวางแผนการกำจัดพื้นที่ การเผาในพื้นที่โล่งจำพวกนี้ จะได้ช่วยกันแก้ปัญหาในพื้นที่ตรงจุดนั้นให้ได้มากที่สุด การร่วมด้วยช่วยกันจึงเกิดขึ้นในภาคสังคม ภาคประชาชน เกิดการมีส่วนร่วมในการใช้บริการระบบและชี้จุดที่ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศที่เกิดจากไฟป่าได้ ประการที่ 2 จะเป็นการช่วยสังคมในเรื่องของการสร้างองค์ความรู้จากระบบบริหารจัดการ และประการที่ 3 จะเป็นการช่วยภาครัฐในการบริหารจัดการเรื่องไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น
.
ส่วนโครงการที่ 2 เป็นโครงการที่ทำในเรื่องของการมีส่วนร่วมของสังคม พัฒนาชุมชนด้วยเทคโนโลยีฯ เป็นการสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนได้รู้จักกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง กับภูมิสารสนเทศที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ในเรื่องของการบริหารจัดการพื้นที่ของตนเองรวมไปถึงใช้ในการบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ ทั้งในเรื่องของการรู้จัก GPS และเครื่องมือทางด้าน GIS ทั้งหลาย ทำให้คนในชุมชนมีองค์ความรู้และใช้ในการต่อยอดในการประกอบอาชีพได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่า ทุกงาน ทุกโครงการที่ GISTDA กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ นอกเหนือจากภารกิจหน้าที่แล้ว ยังมีการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของแต่ละโครงการเพื่อนำมาปรับแก้และประยุกต์ใช้ในเกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังมีการดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CG&CSR ทำงานด้วยจิตอาสาเพื่อสังคมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ นโยบายที่จะเกิดขึ้นในปี 65 และปีต่อๆไป เป้าหมายคือจะต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลระบบที่มีอยู่และใช้ประโยชน์ได้สูงสุดต่อไป ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว
#3651


คนจะรวย ตรวจหวยตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล แม่ค้าซื่อสัตย์-แจ้งลูกค้าถูกรางวัลที่หนึ่ง 5 ใบรับ 30 ล้าน ชาวเน็ตแห่แชร์

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เฉลิมรักษ์ ปิ่นแก้ว ได้โพสต์ข้อความหลังจากที่การประกาศผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 16 กันยายน 2564 พร้อมกับสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ชุด 5 ใบ มาโพสต์ปรากฏว่ามีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังคุณเฉลิมรักษ์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ต้นนั้นเป็นแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล อยู่ที่หน้าตลาดสดสันกำแพงและที่หน้าตลาด บ้านป่าไผ่ 

ส่วนลูกค้าที่ซื้อหวยออนไลน์ถูกสลากรางวัลที่ 1 ชุด 5 ใบนั้น เป็นลูกค้าขาประจำ ไม่ประสงค์ออกนาม อยู่ที่ในเมืองเชียงใหม่ ได้มาสั่งซื้อสลาก 1 ชุด 5 ใบ และฝากไว้ที่ตน ทุกๆงวด โดยจะโอนเงินมาให้ก่อนและเก็บหวยไว้ที่ตน ปรากฏว่าวันนี้หวยออก รางวัลที่ 1 ตรงกับเลขของลูกค้าที่ซื้อ และหวยก็ยังอยู่ที่ตนจึงได้โทรศัพท์ไปบอกลูกค้าว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 

ทางลูกค้าจึงได้เดินทางมารับสลากกินแบ่งรัฐบาล ในช่วงเย็นวันเดียวกัน และเพื่อเป็นสักขีพยานตนจึงได้ถ่ายภาพลูกค้าและถ่ายภาพตลาดที่ถูกรางวัลที่ 1 ลงใน Facebook ส่วนตัวจนมีคนแชร์ เป็นจำนวนมาก
#3652


นายกิจธวัช ฤทธีราวี นายกสมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยภาพรวมธุรกิจขายตรงโลกว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขายตรงทั่วโลกในช่วงสองปีที่ผ่านมาคือ Digital Disruption และการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่ในปี 2563 ธุรกิจขายตรงทั่วโลกยังคงมีอัตราการเติบโตด้วยมูลค่าตลาดรวม 179.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโต 5.8% และมีจำนวนนักธุรกิจอิสระทั่วโลกมากกว่า 125 ล้านคนหรือเติบโต 4.3% โดยภูมิภาคเอเชียยังครองสัดส่วนสูงสุด ทั้งในด้านยอดขายที่สูงถึง 43% และจำนวนของนักธุรกิจอิสระที่มีส่วนแบ่งกว่าครึ่งอยู่ที่ 55% ของขายตรงโลก ซึ่งกล่าวได้ว่าเอเชียกลายเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนหลักของธุรกิจขายตรงในปัจจุบัน ส่วนตลาดจีนไม่เติบโต



ในส่วนของประเทศไทย ยอดขายปี 2563 ติดลบประมาณ 1% และในช่วงครึ่งปี 2564 ที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายตรงไทยติดลบมากกว่า 5% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 70,000 ล้านบาท โดยมีนักธุรกิจอิสระรวมกว่า 11 ล้านคน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีเข้ามาใหม่จำนวมาก สาเหตุที่ตลาดในไทยติดลบเพราะกำลังซื้อที่ลดลง แต่เชื่อว่าในครึ่งปีหลัง หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายและมาตรการต่างๆ เช่น การจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุมได้มากขึ้น การผ่อนคลายล็อกดาวน์ ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ จะช่วยให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น และคาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้ธุรกิจขายตรงจะมียอดขายกลับมาดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรกได้

ตลาดขายตรงโลกโต แต่ของไทยติดลบนั้น มองว่าตลาดของไทยเติบโตมากตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 7% ต่อปีอยู่แล้ว อาจจะถึงช่วงอิ่มตัวพอดีตามวงจรตลาด ประกอบกับเกิดโควิดระลอกใหม่ในไทยในปีนี้ที่รุนแรง ก็เลยตกลงมากหน่อยเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งปีที่แล้วที่หลายประเทศเกิดโควิดรุนแรงอย่าง ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ทำให้สินค้าขายตรงด้านสุขอนามัยขายดี ก็เลยทำให้ตลาดโลกรวมเติบโตดีด้วย



"สาเหตุที่เชื่อว่าธุรกิจขายตรงไทยจะฟื้นตัวได้ในไม่ช้า เพราะสินค้าในธุรกิจขายตรงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันและลูกค้ามีความจงรักภักดีในแบรนด์สูง รวมถึงเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น จะเป็นโอกาสของบริษัทขายตรงที่มีศักยภาพด้านงานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ โดยพบว่าสินค้าด้านสุขภาพอนามัยยังเติบโตดีในยุคโควิด มีส่วนแบ่งกว่า 60% ของตลาด รองลงมาคือ สินค้าความงามสัดส่วน 20% แต่โตเล็กน้อย นอกจากนั้น ผลกระทบจากโควิด-19 ยังส่งผลให้คนมองหาอาชีพเสริมมากขึ้น ธุรกิจขายตรงจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถเติมเต็มความต้องการดังกล่าวได้อย่างลงตัวในสถานการณ์ปัจจุบัน" นายกิจธวัชกล่าว

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจขายตรงหลังจากสถานการณ์โควิด-19 นั้น นายกิจธวัชให้ความเห็นว่า สถานการณ์โควิดเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั่วโลก แต่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องผ่านไป เราต้องปรับตัวรองรับวิถีใหม่กัน แต่อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การทรานส์ฟอร์มจากออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ของยุคใหม่ เป็นอีกส่วนที่ทำให้ธุรกิจ ผู้บริโภค และทุกอย่างต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นสินค้า หรือแพลตฟอร์มการทำธุรกิจ



นางสุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานจัดงานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลก ครั้งที่ 16 เปิดเผยถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า งานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลกจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 3 ปี โดยหมุนเวียนการเป็นเจ้าภาพไปในแต่ละประเทศสมาชิกของสมาพันธ์ขายตรง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ และแลกเปลี่ยนมุมมอง รวมถึงแบ่งปันข้อมูลด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจและพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการขายตรงและนักธุรกิจอิสระทั่วโลก โดยมีทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย รวมถึงนักธุรกิจและผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำระดับโลกมาร่วมเปิดประสบการณ์บนเวทีการประชุม

"ปัจจัยที่สนับสนุนให้ประเทศไทยเราได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพนั้น ก็คือ ความเข้มแข็งและความพร้อมในทุกด้านของสมาคมการขายตรงไทย สมาคมฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2526 เป็นสมาคมการค้าแห่งเดียวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงในประเทศไทยที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์การขายตรงโลก โดยมีบริษัทสมาชิกขายตรงรวม 32 บริษัท รวมถึงประเทศไทยเราก็มีศักยภาพในทุกด้าน และเป็นตลาดที่แข็งแกร่งมากแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ธุรกิจขายตรงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยการจัดงานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลก ครั้งที่ 16 ในรูปแบบออนไลน์จัดขึ้นภายใต้ธีม "Tomorrow is Now" ที่มุ่งเน้นในการรวมเนื้อหาข้อมูลที่สำคัญทันยุคทันสมัยและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจขายตรงยุคดิจิทัลมารวมไว้ภายในงาน ทั้งยังเป็นการแสดงศักยภาพและรวมพลังครั้งสำคัญของบริษัทขายตรงที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฯ รวมถึงเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้นักธุรกิจอิสระในแต่ละประเทศทั่วโลกได้มาร่วมเปิดรับประสบการณ์ใหม่พร้อมกัน โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการจัดงานประชุมขายตรงระดับโลกในรูปแบบผ่านทางออนไลน์ โดยนำเทคโนโลยีที่ทันยุคทันสมัยมาใช้ในการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อความสะดวกของผู้ร่วมเข้าประชุมในแต่ละประเทศทั่วโลกและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้" นางสุชาดากล่าวเสริมถึงจุดมุ่งหมายของการจัดงาน



ทั้งนี้ งานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลก ครั้งที่ 16 ในรูปแบบออนไลน์ ได้รับเกียรติจากเหล่าวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายวงการและในวงการขายตรงเอง มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ที่เป็นประโยชน์อย่างคับคั่ง "วิทยากรทุกท่านล้วนอยู่ในแวดวงธุรกิจระดับโลกมาอย่างยาวนาน มีทั้งวิทยากรที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในธุรกิจขายตรง และวิทยากรจากสาขาอาชีพธุรกิจอื่นๆ มากมาย ทั้งท่านที่เป็นผู้ประกอบการมีธุรกิจของตนเอง และเป็นผู้บริหารระดับสูงมืออาชีพ เช่น Keynote Speaker มร.มาร์ค เบนิออฟ (Mr. Marc Benioff) ซีอีโอจาก Salesforce ที่เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลก, คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย ผู้บริหารจาก DHL บริษัทขนส่งระดับอินเตอร์ และคุณมุกพิม อนันตชัย ผู้บริหารจาก YouTube แพลตฟอร์มดิจิทัลยักษ์ใหญ่ เป็นต้น ซึ่งแต่ละหัวข้อในการประชุมในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการขายตรงและนักธุรกิจอิสระในแต่ละประเทศทั่วโลก โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับไปเป็นแนวทางในการปรับใช้กับธุรกิจขายตรงของตนเองในโลกยุคดิจิทัลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแนวโน้มของผู้บริโภค การพัฒนารูปแบบและช่องทางในการทำธุรกิจ รวมถึงโอกาสและความท้าทายของธุรกิจขายตรงช่วงหลังโควิด-19 เป็นต้น" นางสุชาดากล่าวสรุป

งานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลก ครั้งที่ 16 ในรูปแบบออนไลน์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2564 พร้อมเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมงานแล้ววันนี้-30 กันยายน 2564 สำหรับนักธุรกิจอิสระ ท่านละ 600 บาท สามารถร่วมงานได้วันที่ 6 ตุลาคม 2564 และผู้ประกอบการขายตรง ท่านละ 1,500 บาท สามารถร่วมงานได้ 2 วัน วันที่ 6-7 ตุลาคม 2564 ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.wfdsa2020bangkok.com
#3653


วันนี้ (16 ก.ย.) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จากัด เผยความคืบหน้าหลังเปิดตัวบริการขนส่ง สินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วนน้องใหม่ ฟิ้วซ์ โพสต์ (FUZE POST) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ JWD และ Flash Express พบผู้ประกอบการและลูกค้ารายย่อยให้ความสนใจต่อเนื่อง เดินหน้าให้บริการขนส่งอาหารทะเลสดๆ จากภาคใต้ตรงถึงปลายทางกรุงเทพฯและปริมณฑลภายใน 1 วันทำการนับจากวันที่ฝากส่งและปลายทาง พื้นที่ภูมิภาคภายใน 2 วันทำการนับถัดจากวันที่ฝากส่ง คาดแบรนด์น้องใหม่ "ฟิ้วซ์ โพสต์" (FUZE POST) จะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม B2B B2C พร้อมเคียงข้างคนไทย และผู้ประกอบการให้สามารถกระจายสินค้าแบบ ควบคมุอณุหภูมิเพื่อคงความสดใหม่ตรงผู้บริโภคได้ทั่วไทย

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธ์ุ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จากัด กล่าวว่า ฟิ้วซ์ โพสต์ บริการขนส่งสินค้าควบคมุอณุหภูมิแบบด่วนภายใต้ความร่วมมือของไปรษณีย์ไทย JWD และ FlashExpress ท่ีเร่ิมให้บริการตงั้แต่วันที่1กันยายนที่ผ่านมาในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑลและต่างจังหวดั 6 เส้นทางคือ เชียงใหม่ หนองคาย สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตราด และบางละมุง ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจานวนมาก โดยล่าสุดไปรษณีย์ไทยให้บริการฝากส่งแบบควบคุมอุณหภูมิจากร้านค้าอาหารทะเลสดและแช่แข็งจาก ปากน้ำหลังสวน สวี ปากน้ำชมุพร ปากน้ำตะโก สะพลี เมืองชุมพร จ.ชุมพร เพื่อกระจายสินค้าถึงผู้ประกอบการ และลูกค้ารายย่อยในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาคอื่นๆ พร้อมเตรียมต่อยอดขนส่งจาก จ.สุราษฎร์ธานี จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา ในระยะถัดไป

"ขณะนี้ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคกาลังฟื้นตัว ผู้คนเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอย ร้านค้ารายย่อยเปิด บริการและให้นั่งรับประทานได้ภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 รวมทั้งผู้ประกอบการที่มีหน้าร้าน ได้เพิ่มช่องทางขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขนึ้ ซึ่งในพื้นท่ีภาคใต้ที่ขนึ้ ช่ือเรื่องอาหารทะเลสดๆ ทั้งปลา กุ้ง หมึก ปู เป็นต้น สามารถส่งอาหารทะเลสด ซีฟู้ดเดลิเวอรี่ถึงผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านฟิ้วซ์ โพสต์ บริการขนส่ง สินค้าควบคุมอุณหภูมิ โดยไปรษณีย์ไทยจะมารับฝากถึงร้านค้า (Pick Up Service) นอกจากนี้ยังสามารถ ให้บริการขนส่งผักและผลไม้สินค้าแช่เย็นและสินค้าแช่แข็งอื่นๆอาทิเนื้อวัวแช่แข็งเนื้อหมูแช่แข็งปลาแช่แข็ง

"ทุกชนิด เนื้อแปรรูป แฮม เบคอน ไส้กรอก เป็นต้น ซึ่งรองรับบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกล่องกระดาษ กล่องโฟม และบรรจุในกล่องควบคุมอุณหภูมิ (Cooling Box) ผู้สนใจใช้บริการสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ และเฟซบ๊กุ Fuzepost หรือ โทร.0 2982 8222" ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย
 
#3654
สนใจติดต่อเรา หจก.บิวตี้เฟล็กซ์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง
โทร.080-9006306
Line ID :0809006306
หรือกอเข้าไลน์ได้ที่นี่ : https://line.me/ti/p/EK6tQ369A0

ท่ออ่อนสแตนเลส 8" x ความยาวตามที่ลูกค้าต้อง สามารถสั่งทำได้ตามต้องการ 
หัวท้าย: สามารถเลือกได้ตามที่ลูกค้าต้อง มีทั้งสแตนเลส และเหล็ก
การใช้งาน
- ผ่านน้ำร้อน
- ผ่านน้ำเย็น
- ผ่านน้ำมัน
- ผ่านไอเสีย
- ผ่านควัน

Spec 
- ทนแรงดัน 10 Bar
- ทนอุณหภูมิ - 250C - +450C
- รองรับการสั่นสะเทือนตลอดเวลา




#3655


นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยในงาน "THAILAND NEXT The Future of Financial System อนาคตโลกการเงิน" ภายใต้หัวข้อ "อนาคตสถาบันการเงินไทย" ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้สมาคมธนาคารไทยได้ดำเนินงาน 4 แนวทาง ประกอบด้วย
1.การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับประเทศ โดยจะเร่งดำเนินการเรื่องของการพัฒนาโครงสร้าง Digital platform ซึ่งเป็นพื้นฐานของระบบซื้อหวยออนไลน์ทางการเงินให้มีการเชื่อมโยง รวมถึงมีการสอดประสาน มีการทำงานร่วมกัน (Synergy)ที่ไม่ซ้ำซ้อนและสามารถที่จะต่อยอดได้  สิ่งที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ คือ ระบบ Check Clearing ที่จะรับระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บภาพเช็ค (Imaged Cheque Clearing and Archive System : ICAS) เข้ามาดำเนินการในเรื่องของ Thailand Smart financial infrastructure ที่อยู่ระหว่างการร่วมผลักดันกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบบการยืนยันตัวตนแบบดิจิตอล ระบบ e-signature 
รวมไปถึงการเร่งประสานกับ ธปท. และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการวางกรอบมาตรฐานและโครงสร้างในการสนับสนุนระบบ Open Banking ให้เกิดการต่อยอดการแข่งขันที่เป็นธรรมและมีความเท่าเทียมกันทั้งกลุ่มผู้ประกอบการธนาคาร และผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) อีกทั้งยังมีการให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารความเสี่ยงเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลรวมไปจนถึงความเสี่ยงทางไซเบอร์ (Cyber Risk) ให้ปลอดภัยทั้งกับระบบของธนาคารเองและกับความปลอดภัยของประชาชนและผู้บริโภค


2.การพยายามผลักดันให้ระบบการเงินของประเทศเป็นผู้นำระดับภูมิภาคโดยเฉพาะในพื้นที่ CLMV ที่มีขอบเขตที่ติดกับประเทศไทยและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกันอย่างมากมาย  การเชื่อมโยงโครงสร้างระบบทางการเงินที่เรียกว่าเป็นการทำงานร่วมกัน (interoperability)

รวมถึงระบบสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ (CBDC)ให้สามารถมีกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับระบบการเงินของภูมิภาคได้อย่างไร โดยอุปสรรคและรอยต่อทั้งหมดอยู่ระหว่างการร่วมผลักดันกับ ธปท. ซึ่งหวังว่าจะเป็นการต่อยอดจาก e-money ที่มีการดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน

ผยง ศรีวณิช
ผยง ศรีวณิช

3.การตอบโจทย์เรื่องการพักชำระหนี้ โดยภาคธนาคารมีเป้าหมายชัดเจนทั้งในด้านตัวชี้วัดและเงื่อนเวลา (Timeline) ที่จะส่งมอบและร่วมที่จะตอบโจทย์การเข้าถึงการทำงานร่วมกันกับการบริการทางการเงิน และการร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน โดยให้ความรู้ ให้โอกาสร่วมกันพัฒนาการนำระบบ Credit scoring ทางเลือกมาใช้ โดยมองภาพอนาคตและการใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์มากขึ้นกว่ารูปแบบเดิม กว่าที่ใช้ข้อมูลในอดีตเป็นสำคัญ

และสามารถที่จะนำข้อมูลอื่น เช่น พฤติกรรมการใช้น้ำและไฟมาประกอบได้โดยที่การดูภาระหนี้ของลูกหนี้ก็พยายามผลักดันให้ดูให้ครบ ทั้งในระบบสถาบันการเงิน รวมถึงหนี้ในระบบ Non-Bank รวมไปจนถึงหนี้สหกรณ์ให้ครบ เพื่อจะสามารถแก้ปัญหาได้แบบเบ็ดเสร็จ และตอบโจทย์ผลักดันแบบไม่มีช่องว่างทั้งกฎระเบียบ  โดยสิ่งที่สำคัญคือมีประสิทธิผลกับลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ยั่งยืน และไม่สร้างต้นทุนที่ไม่จำเป็นให้กับระบบหรือนำไปสู่การไม่ส่งเสริมให้เกิดวินัยทางการเงิน (moral hazard) อย่างที่เคยมีบทเรียนในอดีต


อย่างไรก็ดี ต้องพยายามให้ผู้ประกอบการรายเล็กได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนสะดวก มีต้นทุนที่เป็นธรรม เช่น ใบแจ้งค่าบริการทางอีเมลล์ โดยมีการสร้างมาตรฐานเรื่องการเชื่อมโยงคลังข้อมูลโดยใช้มาตรฐาน ISO 20022 เข้ามา  ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถที่จะช่วยรายเล็กอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงกับระบบการเปลี่ยนส่งข้อมูลกับภาครัฐมีมาตรฐานกลางของระบบการแจ้งค่าบริการผ่านทางอีเมลล์ ที่สามารถนำมากู้เงินในระบบ Credit market ที่มีมาตรฐาน เป็นต้น โดยมุ่งหวังที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ดูแลการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเราจะไม่สนับสนุนกิจการที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
4.การให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคล ในระบบของสถาบันการเงินเองมีความจำเป็นต้องดูแลบุคลากรของพวกเราเอง เสริมสร้างทักษะที่จะเปลี่ยนไปมากในบริบทของ Thailand next หรือ New Normal เพื่อตอบโจทย์และสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจต่อไปในระบบ information based economy เป็นตัวสำคัญในภาคระบบธนาคาร
"ทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างความร่วมมือการปรับกระบวนทัศน์ขับเคลื่อนไปในอนาคตโดยพยายามที่จะเปลี่ยนจุดยืนของประเทศจากการที่เป็นผู้วิ่งตามเป็นการวิ่งนำแบบก้าวกระโดดต่อยอดจากอุตสาหกรรมที่เรามีศักยภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาคอาหารเกษตรเทคโนโลยีชีวภาพ 
การแพทย์ การผลักดันอุตสาหกรรม s-curve ใหม่ตามนโยบายของรัฐบาลในการที่จะร่วมมือลดการกระจุกตัวของระบบเศรษฐกิจที่เดิมเน้นอยู่กับผู้เล่นรายใหญ่มาให้เป็นการเติบโตโดยที่มีการดูแลคนตัวเล็กให้การกระจายไปสู่ SMEe มีผลกับ GDP มากขึ้นเพื่อ    เพิ่มศักยภาพในการดูแลชีวิตของคนส่วนใหญ่และลดความเหลื่อมล้ำของคนไทยโดยองค์รวมไปพร้อมๆกันและไม่ให้เกิด Digital device ในสถานการณ์ที่อาจจะเกิด Digital disruption ในช่วงที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน"
ขณะเดียวกันก็พยายามที่จะเปลี่ยนจากเศรษฐกิจบนฐานทรัพยากรที่เหลื่อมล้ำไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลหรือที่เรียกว่า resource based economy ไปสู่ information based economy ด้วยการนำ Big Data มาใช้
ในการขับเคลื่อนระบบ Open Banking แบบที่มีการแข่งขันที่เป็นธรรม (Fair competition) กับผู้เล่นทุกรายทั้งสถาบันการเงิน และ Non-Bank บนการกำกับดูแลที่เท่าเทียมกันไปจนถึงการผลักดันทางเลือก credit scoring 
นอจกานี้ ยังมีเรื่องการเปลี่ยนจากความเปราะบางจากการมีภูมิคุ้มกัน การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจโดยการยึด ESG เป็นสรณะทั้งในเรื่องสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาลซึ่งทั้งหมดนี้สมาคมธนาคารไทยมีแผนขับเคลื่อนใน 3 ปีข้างหน้าชัดเจนมีเงื่อนเวลาและสามารถส่งมอบได้ (deliverable) ที่ได้หารือกันระหว่างธนาคารสมาชิกและได้มีการนำเรียนกับ ธปท. ไปแล้ว 
#3656
คนท้องควรกิน สุขภาพที่มีโภชนาการสูงปลอดสารพิษ ข้าวทุ่งกุลาร้องไห้ แท้ 100%
ข้าวออแกนิกปลอดสารแท้ 100%ปลูกข้าวออแกนิค  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวมะลินิลออแกนิค คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




 ข้าวหอมมะลิออร์แกนิคข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก ข้าวปะกาอำปึลเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก ข้าวหอมมะลิแดงเพื่อสุขภาพ เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออร์แกนิค แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22cs9b8acu9b9a7a3hub5cc1c.life/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก
3.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลออแกนิค
4. ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิค จ.สุรินทร์
5.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคสำหรับทารก7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่เกษตรอินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3657
คนตั้งท้องควรทานข้าวกล้องโภชนาการสูงข้าวอินทรีย์เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อย
ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด   ข้าวกล้องออร์แกนิคส่งทั่วไทย   ข้าวออแกนิคคือ เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวปลอดสาร    สถานการณ์ข้าวปลอดสารไทย   เกษตรปลอดสาร  ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 
การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( หลักปฏิบัติในการผลิตข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม  ทำไมต้องเป็นข้าวออร์แกนิค
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์ กลุ่มผลิตข้าวออร์แกนิค

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique มาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3658


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การลงทุนของบริษัทชั้นนำในยุโรปมีความน่าสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจด้านดิจิทัล เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านสังคมดิจิทัล และด้านสิ่งแวดล้อมของยุโรปในระยะยาว ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านยูโร สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของการขยายตัวของธุรกิจกลุ่มนี้ และโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนซื้อหวยออนไลน์ บลจ.กรุงไทยจึงคว้าช่วงเวลาที่เหมาะสมออกกองทุนเปิดเคแทม ยูโรเปียน เทคโนโลยี อิควิตี้ ฟันด์ (KT-EUROTECH) โดยจะเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 15 - 21 กันยายน 2564 เริ่มต้นลงทุนเพียง 1,000 บาท

ทั้งนี้ กองทุนเปิดเคแทม ยูโรเปียน เทคโนโลยี อิควิตี้ ฟันด์ มีนโยบายการลงทุนที่มุ่งเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน JPMorgan Funds - Europe Dynamic Technologies Fund (กองทุนรวมหลัก) เพียงกองเดียว ในชนิดหน่วยลงทุน (share class) "I" ในสกุลเงินยูโร โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ซึ่งกองทุน JPMorgan Funds -Europe Dynamic Technologies Fund (กองทุนหลัก) ดังกล่าว ได้จดทะเบียนในประเทศ Luxembourg และ จัดเป็น Société d'investissement à capital variable  (SICAV) และกองทุนหลักได้รับการกํากับดูแลและอนุญาตจาก Commission de Surveillance du Secteur Financier (CSSF) ซึ่งเป็นสมาชิกของ International Organizations of Securities Commission (IOSCO) และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ UCITS (Undertakings for Collective Investment in Transferable Securities) บริหารและ จัดการโดย JPMorgan Asset Management (Europe) S.à r.l

ทั้งนี้ กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์การลงทุน คือสร้างผลตอบแทนจากการ เพิ่มขึ้นของมูลค่าของเงินลงทุนในระยะยาว ผ่านการลงทุนในบริษัทในภูมิภาคยุโรปที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นหลัก (รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง อุตสาหกรรมเทคโนโลยี สื่อ และ โทรคมนาคม) และอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ และธีมการลงทุนในปี 2564 ที่กองทุนเน้นจะมี 3 กลุ่มหลักด้วยกัน ได้แก่ 1. Sustainability 2. Digitalisation 3. Sustainable & digital enablers (ที่มาของข้อมูล: J.P. Morgan Asset Management ณ วันที่ 31 มี.ค. 2564)

นอกจากนี้ กองทุนหลัก JPMorgan Funds -Europe Dynamic Technologies Fund ยังเป็นกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี สูงสุดเป็นอันดับที่ "1" เมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ ในแต่ละกลุ่ม ซึ่งจัดกลุ่มตาม Morningstar Category (ที่มาของข้อมูล: J.P. Morgan Asset Management, Morningstar Rankings/Universe ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. 2011- 30 มิ.ย. 2021) และยังได้รับการจัดอันดับที่ระดับ 3 ดาวจาก Morningstar อีกด้วย (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564)

นางชวินดา กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มีบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอีกมากมายในทวีปยุโรปที่อาจจะถูกนักลงทุนหลงลืมไป ซึ่งบริษัทเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Value Chain ที่สำคัญของบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ทั่วโลก อีกทั้งการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนและพร้อมจะผลักดันอย่างเต็มที่ของฝั่งยุโรปจะเป็นอีกปัจจัยส่งเสริมที่ดี ซึ่งบริษัทชั้นนำในยุโรปต่างมีความพร้อมและศักยภาพในการลงทุน รวมทั้งเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่การผลิตระดับโลก จึงมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว และความน่าสนใจที่สำคัญของกองทุนเปิดเคแทม ยูโรเปียน เทคโนโลยี อิควิตี้ ฟันด์ (KT-EUROTECH) คือ กองทุนรวมหลักมีนโยบายการลงทุนแบบยืดหยุ่นและไม่จำกัดกรอบในการลงทุน (Unconstrained Strategy) และมีการวิเคราะห์การลงทุนแบบ Bottom-Up Approach อีกด้วย ทำให้กองทุนนี้เหมาะกับผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไปนั่นเอง
#3659


นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบในวงกว้างและรุนแรง หลายคนตกอยู่ในสภาวะขาดรายได้ ในขณะที่ภาระที่แบกรับอยู่ยังไม่หมดไป เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระการผ่อนบ้านและหนี้สินต่าง ๆ ที่อัตราดอกเบี้ยสูง และช่วยเหลือคนไทยให้ก้าวผ่านความยากลำบากนี้ไปด้วยกัน ธนาคารออมสิน จึงออกแคมเปญสินเชื่อบ้าน "กู้ปีนี้ ผ่อนปีหน้า" ด้วยเงื่อนไขพิเศษที่ยังไม่ต้องผ่อนปีนี้ ให้เริ่มผ่อนปีหน้าและผ่อนต่อเดือนที่ต่ำมาก ทำให้มีเงินสดไว้ใช้จ่ายที่จำเป็น หรือนำไปปิดบัญชีเงินกู้เพื่อปลดล็อกหนี้ต่าง ๆ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารออมสิน

ทั้งนี้ แคมเปญ "กู้ปีนี้ ผ่อนปีหน้า" ประกอบด้วย สินเชื่อบ้าน เพื่อไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น หรือ รีไฟแนนซ์ มีให้เลือกทั้งแบบปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% นาน 9 เดือน โดยในเดือนที่ 10-12 ผ่อนล้านละ 2,000 บาท และแบบปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน โดยในเดือนที่ 7-12 ผ่อนล้านละ 1,500 บาท ซึ่งทั้ง 2 แบบ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.50% ต่อปี โดยลูกค้าที่รีไฟแนนซ์จะได้สิทธิในการกู้เพิ่มเติม เพื่ออุปโภคบริโภคในวงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท มีทั้งเงินกู้ระยะยาว (LT) ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก จากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 3.90% ต่อปี และวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (OD) อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.75% หลังจากนั้นคิด MOR+1.00% ต่อปี (MOR ธนาคารออมสินปัจจุบัน = 5.995%) และสินเชื่อบ้าน เพื่อซื้อ สร้าง หรือต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% 6 เดือนเช่นกัน ซึ่งในเดือนที่ 7-12 ผ่อนล้านละ 1,500 บาทเท่านั้น โดยธนาคารไม่คิดค่าจัดทำนิติกรรมสัญญาและค่าบริการสินเชื่อแต่อย่างใด

โดยลูกค้าที่กู้สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์ดังกล่าว จะต้องได้รับอนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ยกเว้นโปรแกรมรีไฟแนนซ์ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 9 เดือน ต้องได้รับอนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 โดยสามารถติดต่อยื่นกู้ที่สาขาธนาคารออมสินทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่บัดนี้
#3660


20 ปีที่ผ่านมาเภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล  กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัดผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียม "เดนทิสเต้" ได้ปลุกปั้นผลิตภัณฑ์"เดนทิสเต้"ให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า เริ่มจากยาสีฟันก่อนนอนสำหรับคู่รักจนประสบความสำเร็จ ด้วยส่วนแบ่ง 40% ในเซ็กเมนต์พรีเมี่ยม ที่มีสัดส่วน 20% จากตลาดรวมผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก หรือออรัลแคร์มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เติบโตประมาณ 5% ต่อปี

จากนั้นมีการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาบ้วนปาก แปรงสีฟัน แปรงไฟฟ้า ไหมขัดฟัน เม็ดอมระงับกลิ่นปาก ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง แต่คนส่วนใหญ่ยังคงรู้จักแค่ยาสีฟันสำหรับแปรงก่อนนอน 

และจากข้อมูลของกรมอนามัยพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ 98% มีปัญหาฟันผุ ทั้งๆ ที่แปรงฟันเพิ่มขึ้น จึงเป็นที่มาแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาฟันผุ ในรูปแบบของยาสีฟันชนิด "แปรงแห้ง" ไม่ต้องใช้น้ำในการแปรงฟันเพื่อให้ฟลูออไรด์เคลือบฟันดีขึ้น ภายใต้ชื่อเดนทิสเต้ แอนตี้คาวิตี้ แม็กซ์ ฟลูออไรด์

แต่ความท้าทายคือการสื่อสารกับผู้บริโภคในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีวิธีการใช้งาน แตกต่างไปจากเดิม ถือว่าเป็นเรื่องยาก แต่จากประสบการณ์ในฐานะนักการตลาดคิดนอกกรอบ มองว่า เป็นโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ขึ้นมาเพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่มเจนวาย เจนซี ที่ชอบลองของใหม่ได้เร็ว และเห็นว่าที่สำคัญการขายสินค้าในยุคนี้จำเป็นต้องมีคอนเทนต์ที่ดีและโดนใจ

  "จากประสบการณ์พบว่า ปัจจุบันเหตุผลการตัดสินใจซื้อหวยออนไลน์มาจาก2 ส่วน คืออารมณ์มีสัดส่วนถึง 90% จากเดิม 70% ส่วนที่ 2 คือเหตุผลลดลงเหลือแค่ 10% จากเดิม 30% จึงเป็นเหตุผลให้คนตัดสินใจซื้อของออนไลน์บ่อย และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราตัดสินใจ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า Blackpink มาเป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ "

และเนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเดนทิสเต้ มีวางจำหน่ายใน 25 ประเทศ และทำยอดขายดีมากที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งลิซ่าเป็นศิลปินในสังกัด วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ ประเทศเกาหลี มีอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก "LISA SOLO" ที่สร้างกระแสหลังจากปล่อยภาพออกมาเพียงไม่นาน แฮชแท็ก #SoloistLisa ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของโลกและติดอันดับ 1 ใน 7 ประเทศทั่วโลก จึงเป็นโอกาสดีในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ในหลาย ๆ ประเทศ ตอกย้ำความเป็น" โกล.แบรนด์ "

  "การจะได้ลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี อีกทั้งยังได้ฐานแฟนคลับเข้ามาด้วย เพราะการสื่อสารให้สารเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่อายุลดลง จึงต้องใช้ความเข้าใจและต้องเข้าถึงในการสื่อสาร"

 โดยการสื่อสารให้เข้าใจจะเป็นการประชาสัมพันธ์ร่วมกับทันตแพทย์ แจกตัวอย่างสินค้าให้ทดลองใช้ ว่าสินค้าเรามีคุณภาพจริง และสื่อสารให้เข้าถึง คือ การมี "ลิซ่า" เป็นผู้ส่งต่อแมสเสจ สำคัญจะสร้างความน่าสนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเหล่าแฟนคลับของศิลปินเองก็มีลอยัลตี้ กับศิลปิน โดยแฟนคลับพร้อมจะสนับสนุนศิลปินที่ชื่นชอบแบบทุ่มหมดใจ ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก อัลบั้ม ตั๋วคอนเสิร์ตเพื่อสนับสนุนศิลปินในดวงใจ

เภสัชกร ดร.แสงสุข ระบุว่า บริษัทใช้งบประมาณ300 ล้านบาทในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมมีภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ LISA Confident Smile ต้องการเน้นการยิ้มอย่างมั่นใจ ตอบรับกับเอกลักษณ์ของลิซ่าอย่างชัดเจน นั่นคือ "รอยยิ้ม" สังเกตได้จากทุกครั้งที่ลิซ่าปรากฏตัว จะมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สวย ฟันขาว มีความมั่นใจทุกครั้งที่ยิ้ม เป็นบุคลิกที่ดูพรีเมี่ยมสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ 

นอกจากนี้ได้จัดทำแปรงสีฟันรุ่นพิเศษ สินค้า รุ่นลิซ่า ที่มีตัวด้ามสีชมพู และ ชุดยาสีฟันแปรงสีฟัน Limited Edition 25,000 ชุด 

คาดว่า การได้ลิซ่ามาร่วมงานในครั้งนี้ จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด 3% โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าเจนซีและเจนวายให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่ควรได้รับการเคลือบฟลูออไรด์เพื่อป้องกัน ฟันผุ

"ปีหน้าเดือน พ.ค. -มิ.ย มีแผนที่ลิช่าเข้าทำกิจกรรมในเมืองไทย หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย แต่ถ้าไม่อาจทำกิจกรรมเวอร์ชวลให้กับแฟนๆอีกครั้ง และสัปดาห์หน้าจะมีกิจกรรมให้ได้ร่วมสนุกกับลิซ่าออกมาอีกครั้งพร้อมๆกับเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา "