• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - dsmol19

#3601


ทำความรู้จักกับยาไวอาก้า (Viagra) อย่างถูกต้อง

          ยาไวอากร้าคืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร: ยาไวอากร้า (Viagra) มีชื่อสามัญทางยาว่า Sildenafil ยานี้เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพแต่ไม่สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศได้โดยยานี้จะไปขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศชายทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้นานขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

          วิธีการรับประทานยาไวอากร้าอย่างถูกต้อง: ควรรับประทานยาก่อนมีเพศสัมพันธ์ 1 ชม. และควรรับประทานยาหลังอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง โดยกลืนยาทั้งเม็ดแล้วดื่มน้ำตาม และไม่ควรรับประทานยานี้มากกว่าวันละหนึ่งครั้ง

สิ่งที่เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาไวอากร้า
1. ไวอากร้า ไม่มีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้
2. ใช้ได้เฉพาะเพศชายเท่านั้น เพราะตัวยาออฤทธิ์ให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ง่ายขึ้น
3. เป็นยาควบคุมพิเศษ ไเพราะตัวยามีเงื่อนไขการใช้ที่ต้องได้รับการวินิจฉัย และใบสั่งยาจากแพทย์ก่อนเท่านั้น ไม่ควรซื้อทานได้เองเนื่องจากในตลาดทั่วไปได้มีการผลิตยาปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานจากองค์การอาหารและยา เป็นอันตรายถึงชีวิต
4. ยิ่งทานเยอะ ยิ่งอยู่นาน นั้นไม่เป็นความจริง เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ยาไวอากร้า ไม่ใช่ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ การบริโภคเป็นจำนวนมาก โดยไม่จำเป็นอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี

          ยาไวอากร้านั้นมีฤทธิ์กระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือด ช่วยให้สมองสั่งการผ่านเส้นประสาทไปยังอวัยวะเพศทำให้แข็งตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ จนการร่วมรักดำเนินไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้เรื่องการใช้ยาไวอากร้าไม่ควรใช้กับยาชนิดอื่นๆ โดยไม่ได้รับการแนะนำการแพทย์ ก็เป็นจุดที่ควรระวัง เพราะอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้

website :: https://www.viagra-easy.com/
#3602
คำทำนายดวงชะตาระหว่างวันที่ 6 - 12 กันยายน 2564 โดย อ.ณัฐกฤตา นาควัชระ

ราศีมังกร (เกิดระหว่างวันที่ 16 มกราคม-12 กุมภาพันธ์)

สิ่งที่สู้อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปดูเหมือนว่าจะได้ใจใครหลายคน คุณภาพที่คับแก้วของคุณเริ่มฉายแววให้ผู้ใหญ่เห็นไม่ว่าจะคิดหรือทำการใดก็ดูจะเข้าตาไปซะทุกเรื่อง ข้อเรียกร้องได้รับการสนองตอบแบบทันทีทันควัน ขอความช่วยเหลืออะไรจากใครมักไม่ค่อยพลาด สำหรับข้อตกลงหรือข้อแลกเปลี่ยนเป็นไปแบบสมน้ำสมเนื้อ หนทางที่เคยตีบตันก็จะได้รับการอนุเคราะห์ให้ได้เจอทางสว่าง ยังคงจะต้องแอ็คทีฟต่อไปให้ต่อเนื่อง มีโอกาสที่ผลงานจากความคิดที่สร้างสรรค์จะได้รับรางวัล มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเพียงชั่วข้ามคืน สำหรับบางเรื่องที่ยังเป็นเพียงนามธรรมก็อย่าเพิ่งคุยโวไป ดูข้อผูกมัดต่างๆในสัญญาให้ดีก่อนที่จะลงนาม ความอดทนต่อสิ่งที่เข้ามากระทบยังค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐานซึ่งเป็นเรื่องที่ควรต้องปรับปรุงโดยด่วน มีสติพร้อมรับมือกับเรื่องที่เหนือความคาดหมายด้วยล่ะ

ด้านการเงิน สภาพคล่องไม่ดีเท่าควร ถ้ายิ่งมือเติบก็จะยิ่งกู่ไม่กลับ ปัญหาคือการจมไม่ลงของคุณเอง ไม่ค่อยหวงของ ใช้ทิ้งๆขว้างๆ มีแต่เรื่องให้ต้องสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แถมเจอเพื่อนพาจนอีกต่างหาก มิควรคาดหวังในสิ่งที่เลื่อนลอยหรือเป็นเพียงนามธรรม

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด มีคนมีติดพันมากพอสมควรเรียกได้ว่ามีคนที่ตาถึงพร้อมๆกันเยอะ น่าจะได้เจอสักคนที่โดนใจ ส่วนคนมีคู่ มีกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันเยอะขึ้น สัมพันธภาพที่ดีหวนคืนมาอีกครั้ง



ราศีกุมภ์ (เกิดระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์-13 มีนาคม)

มีภารกิจมากมายหลายหลากให้ได้ทำถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคบ้างแต่ก็สามารถจัดการให้เข้าที่เข้าทางได้เร็วกว่าที่คาดไว้มาก มักจะลงมือทำในสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ถึงหรือเดาทางคุณได้ยาก บางทีก็อาจไปขวางทางคนอื่นที่คิดว่าจะต้องได้กินหมูเข้าโดยมิได้ตั้งใจด้วยความขี้สงสัยและยิงคำถามแบบตรงๆซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ถึงกับวงแตกได้ เป็นจังหวะที่จะได้รับการพิจารณาความดีความชอบแต่อาจจะผิดหวังเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้รับเพราะความคาดหวังของคุณไปไกลกว่านั้นหากแต่สิ่งที่คุณทำนั้นพลอยทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับอานิสสงส์ไปด้วย ด้วยความเจ้ากี้เจ้าการที่มากไปอาจสร้างความหงุดหงิดใจให้ใครหลายคน อย่าใจร้อน ควรที่จะต้องมีความแยบยลและพิถีพิถันมากขึ้นกว่าเดิม มิควรอวดรู้อวดฉลาดให้ใครๆต้องหมั่นไส้ เลือกใช้อาวุธให้เหมาะแก่สถานการณ์ มิควรที่จะย่ำอยู่กับที่ ระวังอุบัติเหตุด้วยล่ะ

ด้านการเงิน สภาพคล่องยังดีอยู่มาก แต่ถ้ายิ่งรู้จักใช้รู้จักจ่ายได้ก็จะยิ่งดีมาก แต่ก็มักจะได้เงินมาเติมในกระเป๋าทันเวลา ต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งหรือผลประโยชน์ของตนไว้ให้ดี ระวังทรัพย์สินเงินทองหรือข้าวของสูญหายเพราะเก็บไม่มิดชิดพอ

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด เป็นแม่สื่อแม่ชักให้ใครหลายคู่ พอถึงคราวตัวเองจะมีเหตุให้ต้องถูกเทนับครั้งไม่ถ้วน ส่วนคนมีคู่ ปัญหาเกิดจากอาการมโนไปเองและการดูแลเอาใจใส่ที่ไม่เสมอต้นเสมอปลาย



ราศีมีน ( เกิดระหว่างวันที่14 มีนาคม-12 เมษายน)
ชุลมุนวุ่นวายไปหมด ติดๆขัดๆตลอด ต้องรบทั้งกับคนและกับงาน ความแตกแยกแบ่งพรรคแบ่งพวกพร้อมที่จะเกิดขึ้นได้เสมอโดยเฉพาะเมื่อเจออะไรที่ผิดหู ทางที่ดีคุณก็ควรวางตัวให้เป็นกลางไว้ เรื่องหยุมหยิมจุกจิกกวนใจมีเข้ามาไม่ขาดสาย บางทีต้องใช้ธรรมะเข้าข่มเมื่อถูกขัดคอในสิ่งที่นำเสนอหรือถูกคัดค้านในวิธีการ มิควรที่จะเสียเวลาไปกับการต่อความยาวสาวความยืด การทำงานร่วมกับผู้อาวุโสจะมีความสบายใจกว่าเพราะค่อนข้างที่จะให้อิสระทางความคิดและยังให้ข้อคิดในหลายๆเรื่องแก่คุณอีกด้วย ทักษะเฉพาะตัวบางอย่างทำให้คุณมีความโดดเด่นกว่าใครในหมู่มวล สามารถนำศาสตร์ต่างๆมาประยุกต์ใช้ได้อย่างลงตัว บางท่านอาจจะถูกปรับย้ายหรือสลับหน้าที่แบบมิทันได้ตั้งตัว แต่มิว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดลองได้ตั้งใจทำก็ไม่มีอะไรที่จะขวางกั้นความพยายามได้

ด้านการเงิน ไหลเวียนสะดวกพอสมควร ส่วนมากมาจากน้ำพักน้ำแรงตน แต่รายรับบางตัวอาจจะเข้าช้ากว่ากำหนดและต้องคอยตามเรื่องด้วย มีลาภปากหรือจะได้ของฝากจากต่างถิ่นแดนไกล

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด มีตัวเลือกเยอะ เพราะความที่มนุษยสัมพันธ์ดี ส่วนคนมีคู่ เทคแคร์กันดี ครอบครัวอบอุ่น



ราศีเมษ (เกิดระหว่างวันที่13 เมษายน- 13 พฤษภาคม)

คงต้องใช้หลากหลายวิธีการเพื่อที่จะฟันฝ่าไปให้ถึงเป้าหมาย เป็นจังหวะที่จะเจองานเข้าหลายรอบหลายเรื่องเกิดจากความเข้าใจผิดในตัวคุณหรือเจตนารมณ์ของคุณผิดไป เหน็ดเหนื่อยกับการอธิบาย มีเหตุที่ทำให้ต้องต้องเสียเครดิตและพลอยกระทบถึงผู้ที่หนุนหลังคุณอยู่อีก การปรับเปลี่ยนหรือดัดแปลงเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งที่ทำถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่เห็นผลในระยะเวลาอันสั้นแต่ก็ดูเหมือนว่าจะมาถูกทางแล้วนะ การเจรจาต่างๆควรต้องใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่จึงจะบรรลุผลตามที่หวัง ระวังเจอปัญหาในลักษณะของความวัวยังไม่ทันหายความควายก็มาแทรกด้วยล่ะ ปลายสัปดาห์น่าจะออกสเต็ปได้ถนัดขึ้นและน่าที่จะได้รับข่าวดีอะไรบางอย่าง จะมีคนเห็นคุณค่าของคุณมากขึ้นเรื่อยๆถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เป็นตัวหลักก็ตามแต่ก็จะขาดคุณซะไม่ได้ หลีกเลี่ยงการปะทะและรับคำท้าโดยเด็ดขาด

ด้านการเงิน มีสิทธิ์ที่เข้าเนื้อ รายจ่ายทะลุเพดาน ทยอยกันมาแบบพร้อมเพรียงโดยที่มิได้นัดหมาย หรือมีเหตุให้ต้องเสียเงินซื้อเครื่องทุ่นแรงหรือเครื่องอำนวยความสะดวกบางอย่างซึ่งเป็นการไปพบเข้าโดยบังเอิญ

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด หาคนที่โสดแท้จริงๆไม่ค่อยมี ที่สำคัญอย่าให้ความลุ่มหลงบังตาได้ก็แล้วกัน ส่วนคนมีคู่ อย่าเจ้าอารมณ์จนเกินไป เหวี่ยงแบบไร้เหตุผลจะยิ่งทำให้บรรยากาศแย่เข้าไปอีก



ราศีพฤษภ (เกิดระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม-13 มิถุนายน)

ภารกิจรัดตัว ช่วงแรกๆอาจจะวุ่นๆหน่อยแต่ก็จะค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับ จะเห็นแนวทางที่ชัดเจนและมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ราศีเริ่มจับจากการที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในฝีมือ จะได้รับการติดต่อทาบทามทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อที่จะได้คุณไปร่วมงานด้วย จะได้รับข้อเสนอพิเศษหรืออภิสิทธิ์บางอย่างเพื่อที่จะจัดการบางสิ่งให้ลุล่วงโดยเร็ว คงต้องเผื่อเวลาไว้สำหรับเก็บกวาดงานที่คั่งค้างหรืองานที่ผู้อื่นทำไว้ไม่เรียบร้อยด้วย จะมีสังคมที่กว้างขวางขึ้นหรือเป็นที่รู้จักในวงกว้างดังนั้นจึงควรต้องรักษาภาพลักษณ์ด้วย ช่วงนี้ค่อนข้างที่จะเนื้อหอมไม่ว่าจะงานใดก็ต้องเข้าไปมีเอี่ยวด้วยแทบทั้งสิ้น ชื่อเสียงกำลังขายได้ น้ำขึ้นต้องรีบตัก จะได้ร่วมงานกับผู้มีความรู้ความสามารถหลากหลายวิชาชีพ มิตรภาพใหม่ๆจะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันได้ในวันข้างหน้า

ด้านการเงิน มีเสถียรภาพ ไหลเวียนสะดวก มีเงินผ่านมือจำนวนมาก ได้ผลประโยชน์ที่เกินคุ้ม แต่ก็จะถูกเบียดเบียน มีรายจ่ายเกี่ยวกับภาษีสังคมหรือการปรับลุคเพื่อหน้าที่การงานหรือหน้าตาทางสังคม จำเป็นต้องตัดงบรายจ่ายบางอย่างที่ไร้ความจำเป็นลงบ้าง

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด มีเสน่ห์ มีคนมาติดพันเยอะแต่ก็จะเจอเป้าหมายได้ในที่สุด ส่วนคนมีคู่ เจอปัญหาสุขภาพรบกวน ความหงุดหงิดครอบงำทำให้ปะทะกันง่ายๆ



ราศีเมถุน (เกิดระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน-14 กรกฎาคม)

ต้องผจญกับสารพันปัญหาที่เรียงรายเข้ามาไม่ได้หยุดได้หย่อน มีความขัดแย้งขัดคอกระทบกระทั่งจนเกือบที่จะเหลืออดโดยเฉพาะในช่วงต้นสัปดาห์ ฟีดแบ็คไม่ดีอย่างที่คิด ต้องรีบแก้ไขข้อบกพร่องโดยด่วน ส่วนอะไรที่ดีอยู่แล้วก็อย่าไปทำให้ต้องยุ่งยากและสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ อย่าได้คิดเล็กคิดน้อยให้มากไปไม่ว่าจะกับเรื่องอันใดก็ตาม วิธีแบบตาต่อตาฟันต่อฟันหรือหักด้ามพร้าด้วยเข่าเห็นทีว่าคงใช้ไม่ได้ผล จะเจอการตัดสินใจที่ยากลำบาก บางทีอาจจะเกิดความเครียดโดยที่ไม่รู้ตัว การขอความช่วยเหลือหรือความร่วมมือใดๆคงต้องใช้เวลาพอสมควรหรือจำเป็นที่จะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่สำคัญคือคุณต้องใจถึงหน่อยเท่านั้น ระวังถูกมัดมือชกและอุบัติเหตุไว้ด้วย ปัจจัยที่อยู่นอกเหนือจากการควบคุมถือเป็นความท้าทายอีกรูปแบบหนึ่ง

ด้านการเงิน มีช่องทางทำเงินเยอะ เป็นจังหวะที่จะได้สร้างความมั่นคงให้ตนเอง แต่ก็จะมีคนใกล้ชิดวนเวียนมารบกวนหยิบยืมอยู่เนืองๆ บางทีค่าตอบแทนที่ได้ก็มิใช่จะมาในรูปของตัวเงิน ระวังหนี้จะงอกเพราะคนอื่น

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด ระวังจะช้ำใจเพราะไม่ดูตาม้าตาเรือให้ดีก่อน ส่วนคนมีคู่ อาการผิดปกติบางอย่างทำให้เกิดข้อสงสัย ทำให้ต้องจับตาดูอยู่เงียบๆ



ราศีกรกฎ (เกิดระหว่างวันที่15 กรกฎาคม-16 สิงหาคม)

งานรุม มีโอกาสได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆ จะมีคนมาชักชวนให้ทำนั่นทำนี่ตลอดคงจะต้องใช้ดุลยพินิจและวิเคราะห์สถานการณ์ให้ขาดด้วยแต่บางทีก็อาจจะเป็นเพียงแค่หุ้นลมเพราะเพียงแค่ชื่อเสียงของคุณกำลังขายได้ ผลงานจะได้รับคำชมและความนิยมอย่างที่คุณเองก็คาดไม่ถึง ไปที่ไหนใครๆก็ต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ มีโอกาสได้เข้าสังคมที่หลากหลายมากขึ้น ได้เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยจากการพูดคุยหรือได้เรียนรู้ศาสตร์บางอย่างแบบครูพักลักจำด้วย ท่านอาจจะต้องรีบเคลียร์งานเก่าที่ค้างเติ่งและเตรียมวางแผนงานขั้นต่อไป ระวังปัญหาซ้ำรอยเดิมหรือวัฏจักรเดิมจะกลับมา ด้วยความเป็นกันเองอาจทำให้ไม่ได้ระวังคำพูดซึ่งก็จะทำให้ขุ่นเคืองใจกันได้ ความสำเร็จใดๆที่ได้มามักจะมีผู้สนับสนุนช่วยกรุยทางให้ จะมีการต่อสัญญว่าจ้างต่อไปอีก

ด้านการเงิน มีใช้ไม่ขาดมือแต่ก็จะประมาทมิได้ ต้องคำนวณเงินในกระเป๋าให้ดีก่อนที่จะซื้ออะไรๆ จะได้สินน้ำใจหรือได้บางสิ่งมาชดเชยกับของที่ต้องเสียไป จะสูญเงินฟรีเพราะความใจร้อนใจเร็วเกินเหตุ

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด เรื่องรักน่าที่จะสมหวังได้ไม่ยากโดยเฉพาะเมื่อมีผู้ใหญ่ช่วยเป็นสื่อให้ ส่วนคนมีคู่ มีโรแมนติคกันบ้างเบาๆแต่ทำเอาหลายคนตาร้อนกันไป



ราศีสิงห์ (เกิดระหว่างวันที่17 สิงหาคม-16 กันยายน)

มีหลายสิ่งที่อยากจะทำ ไอเดียกระฉูดแต่ต้องเลือกให้ดียึดเอาเรื่องของความเป็นไปได้ตามความเป็นจริงเป็นที่ตั้ง มิควรคิดทำอะไรที่เกินตัว ความคิดสร้างสรรค์และความแตกต่างยังเป็นจุดขายที่ดีเสมอ ต้องพร้อมลุยเมื่อต้องร่วมงานกับคนรุ่นใหม่ไฟแรงซึ่งก็อาจจะต้องทำงานแบบถึงไหนถึงกัน ทำหน้าที่แบบสมบุกสมบัน บางทีอาจจะต้องกลายเป็นที่ปรึกษาจำเป็นทั้งเรื่องของงานและส่วนตัวอีกต่างหาก จะมีเหตุให้ต้องมีการเปลี่ยนสถานที่ทำงานเนื่องจากมีการซ่อมแซมหรือปรับ

ฮวงจุ้ยเกิดขึ้นซึ่งก็น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณที่ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวและไม่ต้องย่ำอยู่กับที่ ท่านอาจจะถูกส่งไปอบรมทางด้านวิชาการหรือสัมมนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมทักษะซึ่งทำให้ได้รู้จักผู้คนมากหน้าหลายตามากขึ้นและสามารถเอื้อประโยชน์ต่อกันได้ในอนาคต

ด้านการเงิน สภาพคล่องดีพอสมควร มีรายได้เสริม มีเงินพอที่จะโปะหนี้ เด็กเล็กใช้เงินเปลือง มีรายจ่ายเกี่ยวกับค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมอะไรบางอย่าง ระวังถูกตุกติกในผลประโยชน์หรือถูกเอาเปรียบในสัญญา

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด มีคนที่รู้สึกปลื้มเป็นพิเศษตั้งแต่แรกเห็น ถึงขั้นประหม่ากันเลยทีเดียว ส่วนคนมีคู่ เหตุที่ทำให้ต้องทะเลาะกันหนีไม่พ้นเรื่องเก่าเกี่ยวกับมือที่สาม



ราศีกันย์ ( เกิดระหว่างวันที่17 กันยายน-16 ตุลาคม)

ต้องพยายามตามน้ำไปเรื่อยๆก่อน อะไรที่หยิบจับทำหรือริเริ่มด้วยตนเองดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเวิร์ค รวมถึงอาจจะต้องรับศึกหนักหลายด้านด้วย หาคนที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระได้ค่อนข้างยาก มีเหตุให้ต้องลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะจะหยิบจับมาก่อน ถูกมองข้ามความสำคัญหรือมีใครบางคนถือวิสาสะทำในสิ่งที่เป็นการข้ามหน้าข้ามตาคุณจนทำให้ต้องมีปากเสียงหรือบาดหมางกันได้ คนรอบข้างมักจะนำเอาความยุ่งยากและเดือดร้อนมาให้ หาความสงบไม่ค่อยได้ ถูกเอาเปรียบกินแรง เป็นช่วงที่มักจะมีความคิดอ่านสวนทางกับคนอื่นตลอด บางท่านก็อาจจะไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร อาการเซ็งกำเริบ ระวังจะถูกบิดพริ้วในเงื่อนไขข้อตกลงที่ทำกันไว้จนอาจบานปลายกลายเป็นคดีความฟ้องร้องกันเกิดขึ้น หากได้เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานหรือพาตนเองให้หลุดพ้นจากความซ้ำซากจำเจได้จะเป็นการดี ระวังอุบัติเหตุและปัญหาสุขภาพด้วยล่ะ

ด้านการเงิน รายรับไม่มาตามนัด กำเงินที่มีอยู่ไว้ให้แน่น คิดก่อนควัก แต่จะพบลู่ทางใหม่ในการหารายได้เสริม จะได้ทุนรอนจากผู้ใหญ่ จะได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือของเก่าโบราณที่ตกทอดกันมาไว้ในครอบครอง ระวังหนี้สินพอกพูนจากการประมาณการที่ผิดพลาด

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด ยังต้องตามหาเพื่อนร่วมทางต่อไปก่อน ส่วนคนมีคู่ พฤติกรรมไม่เป็นที่น่าวางใจทำให้มีเรื่องกันบ่อย



ราศีตุลย์ (เกิดระหว่างวันที่17 ตุลาคม- 15 พฤศจิกายน)

ยุ่งเหยิงซะเหลือเกิน งานประเคนเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งงานราษฎร์งานหลวง ต้ องกลายเป็นผู้รับเหมาโดยหน้าที่และโดยจำเป็น แต่ละสิ่งที่ต้องจัดการมิอาจทำแบบม้วนเดียวจบได้เนื่องจากว่าอาจจะลืมศึกษาขั้นตอนให้เรียบร้อยก่อนจึงทำให้ต้องเปลืองเวลาและพลังงานเพิ่มขึ้น การรวมตัวกันของบุคลากรที่มีความต่างกันในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์หรือวุฒิภาวะอาจจะทำให้ต้องเจอกับปัญหาที่คาดไม่ถึง จะมีความกดดันอันเนื่องมากจากความคาดหวังในผลลัพธ์ที่สูงจนเกินไป เป็นช่วงที่ควรต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยและใช้ความยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษ ยึดเรื่องความถูกต้องและตรงไปตรงมาเป็นสำคัญ บางทีอาจจะต้องขอแรงคนใกล้ชิดที่ไว้วางใจมาช่วยเป็นบางเรื่องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ทันตามกำหนด จะมีนัดหมายหรือการเดินทางแบบฉุกละหุก

ด้านการเงิน หาเงินเก่ง แต่มักอยู่ในมือได้ไม่นาน เจอแต่เรื่องที่ทำให้ต้องเสียเงิน งบจะบานปลาย เงินทองไหลออกเป็นว่าเล่นโดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาสุขภาพของคนในครอบครัวและตนเอง มีโชคประปราย

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด ระวังปัญหาอันเนื่องมาจากการคบซ้อนด้วยล่ะ ส่วนคนมีคู่ แฟนคุณหูตาเป็นสับปะรดนอกลู่นอกทางเมื่อไหร่เป็นได้เจอดี



ราศีพิจิก (เกิดระหว่างวันที่16 พฤศจิกายน- 15 ธันวาคม)

ยังคงไม่ได้ดั่งใจเหตุจากปัจจัยรอบตัวหลายอย่างที่ไม่เอื้อหรือบางทีมุมมองสำหรับในบางเรื่องของคุณยังไม่กว้างมากพอ จะทำการแบบพรวดพลาดมิได้ การอดทนและรอคอยเวลาที่เหมาะสมหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็น่าที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆขยับดีขึ้น จะได้ตัวช่วยที่หลากความสามารถและที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำทำให้สิ่งที่ดำเนินการกระเตื้องขึ้นแบบทันตาเห็น แต่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนสไตล์การทำงานใหม่ ควรเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวางมากกว่าเดิม มิควรชิงปฏิเสธโอกาสที่มีผู้หยิบยื่นมาให้เพียงเพราะเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยหรือมีประสบการณ์มาก่อนบางทีอาจจะทำให้ค้นพบอะไรใหม่ๆหรืออาจติดใจก็เป็นได้ สมองจะแล่นก็ต่อเมื่อไฟลนก้น ภารกิจจะสำเร็จแบบเส้นยาแดงผ่าแปด จะมีเหตุที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางหรือต้องจัดตารางงานใหม่

ด้านการเงิน มีรายรับจากหลายแหล่ง ที่เคยติดขัดก็ขยับดีขึ้น สินเชื่อผ่านการอนุมัติ มีลาภปากจากเพศตรงข้าม รายจ่ายจิปาถะเยอะคงต้องคุมให้อยู่ จะมีคนคุ้นเคยมาขอหยิบยืมหรือถูกตอดนิดตอดหน่อยอยู่เรื่อย ระวังหนี้งอกเพราะความไม่รู้จักพอ

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด จะได้เจอกับใครบางคนที่สุดแสนจะเพอร์เฟกคงจะปล่อยให้หลุดมือไปมิได้แน่นอน ส่วนคนมีคู่ อะลุ้มอล่วยกันบ้าง ตึงไปหย่อนไปก็ไม่ดี



ราศีธนู (เกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม- 15 มกราคม)

สถานการณ์และความเป็นไปต่างๆยังไม่เข้าข้างหรือเข้าทางคุณนักแต่ก็อย่าเพิ่งรีบถอดใจ หากมีโอกาสควรขอคำแนะนำและปรึกษาผู้รู้ บริหารเวลาและจัดลำดับความสำคัญของงานให้ดี คงต้องยอมรับสภาพว่ายังเป็นรองคนอื่นอีกหลายด้าน ต้องเร่งพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกหลายจุด บททดสอบค่อนข้างยากแต่ก็คงไม่มีความทุ่มเทใดที่จะไม่บังเกิดผลแค่อาจจะได้น้อยกว่าที่คิดไว้ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรทำใจ ภายในทีมควรมีการสื่อสารกันอย่าสม่ำเสมอเพื่อที่ผลลัพธ์จะได้ไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่ตกลงกัน วางความเป็นตัวตนไว้ก่อน ความพลิกล็อคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด เป็นช่วงที่เจ้านายไม่ค่อยปลื้มคุณนัก โอกาสต่างๆมักจะมาไม่ค่อยถึงมือ บางทีอาจจะต้องคิดพลิกแพลงหรือมองในมุมกลับบ้าง ท้ายสัปดาห์ก็น่าที่จะจัดสรรอะไรได้ลงตัวมากขึ้น มีวาทศิลป์เพิ่มขึ้นอีกนิดก็ดีและไม่ต้องพูดทุกอย่างตามที่คิดหรอกนะ

ด้านการเงิน ตึงมือเบาๆ อย่าเพิ่งหาภาระเพิ่มดีที่สุด อย่าทำให้หนี้งอกโดยไม่จำเป็น มีแววว่าจะต้องซ่อมบ้านหรือรถ ระวังทรัพย์สินสูญหายจากความสะเพร่าของตน เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย

ส่วนเรื่องความรัก คนโสด จะรู้สึกผูกพันทางใจกับใครบางคนโดยที่ไม่รู้ตัวในลักษณะของการแทรกซึมเข้ามาในใจทีละน้อย ส่วนคนมีคู่ หนักนิดเบาหน่อยก็ควรที่ต้องให้อภัยกัน
#3603


ประจวบคีรีขันธ์ - กระทรวงท่องเที่ยว ร่วมกับ จังหวัดประจวบฯ สาธารณสุขจังหวัด เทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมภาคเอกชน เดินหน้านำร่องเปิดเมืองหัวหินรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 ต.ค. นี้ ภายไต้โครงการ หัวหินรีชาร์ท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว หลังปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ตามเป้าหมายร้อยละ 70

วันนี้(5 ก.ย.) ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการแถลงข่าวความคืบหน้าโครงการหัวหิน รีชาร์จ ร่วมด้วย นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และนายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน

ทั้งนี้ เป็นการแถลงข่าวแบบออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น Zoom โดยภายในห้องประชุมยังมี นานางสาวแสงจันทร์ แก้วปทุมรัศมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์,นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน ชะอำ



นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าแผนการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะที่ 2 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2564 มี 5 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จ.เชียงใหม่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.เพชรบุรี และ จ.ชลบุรี หลังจากเปิดไปแล้ว 4 พื้นที่ ได้แก่ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จ.ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จ.กระบี่ และ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เขาหลัก จ.พังงา ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมสนับสนุน โดยเฉพาะการนำเสนอแผนการท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ให้ ศบค.พิจารณา เพื่อจัดสรรวัคซีนมาให้กับจังหวัดเพิ่มเติม เพื่อฉีดให้ครอบคลุมประชากรตามเป้าหมาย โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ประจวบฯ และเพชรบุรี เห็นว่าควรจะมีประชาชนได้รับวัคซีนในภาพรวมของแต่ละจังหวัดไม่น้อยกว่าร้อยละ 70

โครงการหัวหิน รีชาร์จ เป็นความร่วมมือของภาครัฐ ภาคสาธารณสุข และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ในพื้นที่อำเภอหัวหิน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึง การขอความเห็นชอบจากภาครัฐกำหนดให้ พื้นที่เทศบาลหัวหิน อันประกอบไปด้วย ตำบลหัวหิน และตำบลหนองแก เป็นพื้นที่นำร่อง ที่ได้รับการพิจารณาการจัดสรรวัคซีนอย่างเร่งด่วน ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด- 19 ครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่ และให้พนักงานในภาคธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวอันถือเป็นบุคคลากรด่านหน้าได้รับวัคซีนครบถ้วน เพื่อสามารถเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ ให้สามารถเดินทางมาพักในพื้นที่ได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป นำมาซึ่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการจ้างงานทั้งในพื้นที่และภาพรวมของประเทศ



นายพิพัฒน์  กล่าวว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดอีก 5 จังหวัดท่องเที่ยว ตามนโยบายการเปิดประเทศของนายกรัฐมนตรี จึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความพร้อมในแต่ละพื้นที่ โดยวันนี้ได้ลงมาดูความพร้อมของจังหวัดเพชรบุรี และที่อำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้มีการทำโครงการนำร่องเปิดเมืองท่องเที่ยวในชื่อ"หัวหินรีชาร์ท "พบว่าทั้ง 2 จังหวัดมีความพร้อม มีตัวเลขผู้ได้รับวัคซีนเข้าใกล้เป้าหมายร้อยละ 70

สำหรับจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่อยู่ติดกัน หากมีการควบคุมการเข้าออกจากทิศเหนือและทิศใต้อย่างเข้มข้น เป็นไปได้หรือไม่ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถท่องเที่ยวได้ 2 จังหวัดแบบไม่มีข้อกำหนด 7+7 เหมือนภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ยิ่งถ้าประชาชนได้รับวัคซีนไปแล้วเกินร้อยละ 70 ก็จะมีความปลอดภัยด้วยกันทุกฝ่าย เพราะจากข้อมูลภูเก็ตแซนต์บอกซ์ ไม่พบนักท่องเที่ยวนำเชื้อไปติดชาวบ้าน หรือชาวบ้านนำเชื้อมาติดนักท่องเที่ยว สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือ ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องได้รับวัคซีนครบแล้ว 100%

โครงการ หัวหินรีชาร์ท แม้จะนำร่องในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหัวหิน แต่ภาพรวมของการเปิดเมืองท่องเที่ยว จะต้องรวมกับอำเภอชะอำจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวด้านการท่องเที่ยว จะได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวรับรู้ไปพร้อมกัน ตอนนี้การท่องเที่ยวภายในประเทศก็เริ่มคึกคักมากขึ้นมาประมาณ 3 สัปดาห์ ดังนั้นโครงการ"หัวหินรีชาร์ท" จึงไม่ได้โฟกัสเฉพาะหัวหินอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงชะอำด้วย

ด้านนายยุทธศักด์ ศุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. จะประเมินความพร้อมของแต่ละพื้นที่ในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนโควิดให้คนในพื้นที่อย่างน้อยร้อยละ 70 โดยให้ยึดขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐานของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นเกณฑ์หลัก อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 5 จังหวัดในระยะที่ 2 นั้น ภาคเอกชนส่วนใหญ่มีความพร้อมและยืนยันในการเดินหน้าเปิดให้ได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตามที่กำหนดไว้ ซึ่ง ททท. ยืนยันที่จะพยายามผลักดันให้เปิดให้ได้ตามแผนที่วางไว้เช่นเดียวกัน



รายละเอียดแผนการดำเนินงานอยู่ระหว่างการจัดทำ ในส่วนของ จ.ประจวบฯ มีแนวทางการจัดการพื้นที่ปลอดภัยเพื่อการท่องเที่ยว 5 แผน ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนและสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่ แผนพัฒนาเมืองระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อตอบสนองพฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ แผนการตลาดและการสื่อการตลาด แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารความเสี่ยง และแผนการสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ยอมรับการเปิดเมือง

ด้านนพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชากรในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ทั้ง 2 ตำบล ได้แก่ตำบลหนองแก และตำบลหัวหิน ได้รับวัคซีนตามระบบการลงทะเบียนหมอพร้อม และการจัดสรรวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม ของที่เทศบาลเมืองหัวหินอีก 55,000 โดส หรือคิดเป็น 27,500 คน ทำให้ตัวเลขผู้ที่ได้รับวัคซีนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วสอดคล้องกับนโยบายการเปิดเมืองท่องเที่ยว ทำให้มีปะชาชนได้รับวัคซีนโควิด-19 คิดเป็นปริมาณร้อยละ 73.49 และหากจะเปิดเมืองท่องเที่ยวครอบคลุมทุกอำเภอจำเป็นต้องได้รับการจัดสรรวัคซีนอีก 110,000 โดส เพื่อจะทำให้ภาพรวมของทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีประชาชนได้รับวัคซีนเกินร้อยละ 70



นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า เทศบาลเมืองหัวหิน ได้สนับสนุนวัคซีน 55,000 โดส เพื่อฉีดสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนและบุคลากรภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน มีการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค เพื่อสุ่มตรวจหาผู้ติดเชื้อในสถานที่เสี่ยงต่างๆ เป็นระยะ เช่น ตลาด แหล่งท่องเที่ยว ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดในพื้นที่ และการให้ความรู้แก่ประชาชน มีความเข้าใจเกี่ยวกับสุขลักษณะที่ดี การเว้นระยะห่าง การหมั่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในสถานที่ทำงาน บ้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไปกับการฉีดวัคซีน

ขณะเดียวกันนายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน กล่าวว่า มาตรฐานแนวทางปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าร่วมโครงการหัวหิน รีชาร์จ เป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วโดยไม่ต้องกักตัว โดยนักท่องเที่ยวจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงสนามบินในประเทศไทยด้วยวิธี RT-PCR จากนั้นเดินทางเข้าห้องพักในโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA Plus+ ทันทีเพื่อรอผลการตรวจเชื้อโดยไม่มีแวะระหว่างทาง



หากไม่พบเชื้อก็สามารถท่องเที่ยวแบบอิสระหรือซื้อแพกเกจทัวร์เพื่อเดินทางภายในพื้นที่ 86.36 ตารางกิโลเมตรของเทศบาลเมืองหัวหินแบบไม่กักตัวได้ ทั้งนี้ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อให้ครบทั้ง 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 คือวันที่ 7 จากนั้นวันที่ 8 เปลี่ยนไปพักโรงแรมอื่นได้ ส่วนการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 คือวันที่ 13 เมื่อท่องเที่ยวและพำนักในพื้นที่ครบ 14 คืน จึงจะออกไปเที่ยวพื้นที่อื่นในไทยได้ ขณะนี้ผู้ประกอบการมีความพร้อมเต็มที่ ทั้งการฉีดวัคซีนที่จะครบ 2 เข็มทั้งหมดในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ และมาตรฐานของโรงแรม SHA Plus+ มั่นใจว่าหากเปิดเมืองหัวหินได้ คาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 1 แสนคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1,200 ล้านบาท
#3604


นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 ลูกค้ามีความตื่นตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากขึ้น ตลอดจนการเตรียมความพร้อมทางการเงินทั้งแผนระยะสั้น แผนระยะยาว ล่าสุดบริษัทฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการแบบ Customer Centric ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน mGrow 615 อีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ต้องจ่ายเบี้ยนาน เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการวางแผนชีวิตเพื่อเป้าหมายที่แน่นอน ในระยะเวลาที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่น สามารถขยายความคุ้มครองได้ สอดคล้องกับการวางแผนชีวิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน เพื่อบรรลุเป้าหมายในทุกช่วงของชีวิตอย่างไร้กังวล

ทั้งนี้ จุดเด่นของ mGrow615 คือความชัดเจน จ่ายเบี้ยประกันภัยหลักเพียง 6 ปี คุ้มครองยาว 15 ปี มั่นใจได้กับความคุ้มครองชีวิตต่อเนื่อง 15 ปี แม้มูลค่าการลงทุนจะมีค่าเท่ากับหรือน้อยกว่าศูนย์ โดยรับความคุ้มครองชีวิตจำนวน 3 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักรายปี พร้อมรับโบนัสพิเศษ 2% ของเบี้ยประกันภัยหลักที่ได้รับชำระแล้วทั้งหมด ณ ต้นปีกรมธรรม์ที่ 7 เมื่อไม่ลด ถอน หรือหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัยหลัก(1)  และสามารถขอขยายความคุ้มครองไปจนถึงอายุครบ 99 ปี(2) เลือกเพิ่มเติมความคุ้มครองสุขภาพและโรคร้ายแรงได้ สามารถสมัครทำประกันได้ถึงอายุ 70 ปี กำหนดเบี้ยประกันภัยได้เอง เริ่มต้นเพียง 20,000 บาทต่อปี เลือกความคุ้มครองได้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 3-10 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักตามอายุผู้เอาประกันและไม่จำกัดความคุ้มครอง เหมาะสำหรับลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่ต้องการวางแผนการเงินเพื่อเป้าหมายชีวิตในอนาคต เช่น คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการวางแผนการศึกษาให้ลูก หรือวัยทำงานที่กำลังวางแผนเก็บเงินสำหรับช่วงวัยเกษียณ เป็นต้น

"mGrow 615เป็นประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกจัดพอร์ตกองทุนรวมได้หลากหลาย เข้าถึงกองทุนคุณภาพได้ง่าย โดยบริษัทฯ ได้คัดสรรกองทุนรวมศักยภาพจาก บลจ.ชั้นนำ ทั้งยังมีพอร์ตการลงทุนแนะนำที่มีการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ตามระดับความเสี่ยงของลูกค้าให้เลือกลงทุนถึง 5 พอร์ตโฟลิโอ มีการติดตามผลการดำเนินงานและการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์การลงทุน โดยผู้จัดการกองทุนของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าบรรลุทุกเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นใจ" นายสาระ กล่าว
#3605


เมื่อธุรกิจคอร์สเรียนออนไลน์ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง สิ่งที่ผู้บริโภคมองหาไม่ใช่เพียงแค่คอร์สเรียนอย่างเดียว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ตัวคอร์สเรียนนั้นก็คือ "ความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป" ผู้บริโภคจะมองว่า หลังจากซื้อคอร์สไปแล้วจะได้รับอะไรกลับมา ในครั้งนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมงาน ENGNOW สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ กับเคล็ดลับการเติบโตของธุรกิจที่น่าสนใจ

คุณโหน่ง-กิตติคุณ ธนภัทรเจริญกิจ ตำแหน่ง Sale Director สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ ENGNOW โดยคุณโหน่งกล่าวว่า "ในด้านการขาย ตอนนี้มีทีมงานกว่า 50 คนที่ Work from Anywhere ทุกคนสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ที่สบายใจ เลือกสภาพแวดล้อมการทำงานเองได้ตามไลฟ์สไตล์เพื่อให้เขาทำงานได้ออกมาดีที่สุด เรามีหน้าที่คิดแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆออกมาให้ดี เพื่อให้ทีมขายทำงานง่ายขึ้น กำหนดทิศทาง กำหนด KPI ของทีม เราทำงานกับ DATA ตั้งแต่ขั้นวางแผน เราวิเคราะห์เหตุผลที่ลูกค้าซื้อ หรือเหตุผลว่าทำไมลูกค้าไม่ซื้อ เราเอาข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับกลับมาปรับแผน และวางแผนต่ออย่างรวดเร็วเพื่อให้กลยุทธ์การขายของเราดีขึ้น ในเรื่องของการประเมินผลทีมงาน เรามองว่าการทำยอดให้ถึงไม่ใช่ KPI เดียวที่เราจะวัด แต่เรามองลึกไปถึงทัศนคติของตัวบุคคลในการทำงาน ปัญหาที่ทีมเจอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพ ปัญหาส่วนตัว เรายินดีรับฟังและเข้าใจมากๆ ถ้าเป็นปัญหาที่เกิดจากการทำงาน เราจัดให้มีนักจิตวิทยาเข้ามารับฟังปัญหาที่เขาเจอ และให้คำแนะนำเบื้องต้นเพื่อเป็นอีกเครื่องมือทีสามารถช่วยเขาได้ ฉะนั้นเรากล้าพูดเลยว่า ยอดขายไม่ใช่สิ่งเดียวที่เราต้องการ คุณภาพชีวิตของทีมงานคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ยอดขายเราจึงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับการเติบโตของทีมเราอย่างเห็นได้ชัดครับ"



คุณนาว ปกรณ์ พรหโมปกรณ์ Human Resources สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ ENGNOW ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงานของคนในองค์กร ENGNOW ว่า "ที่นี่การทำงานของเราค่อนข้างเป็นสมัยใหม่ครับ พวกเราทำงานกันแบบพี่น้อง ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เราเคารพและให้ความเท่าเทียมกับทุกคนในการทำงาน เราค่อนข้างรับฟังกันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นไอเดียเล็กน้อยอย่างไร เราให้ความสำคัญกับทุกไอเดียจากทุกคนเลย เพราะเราเชื่อว่าจุดเล็กๆอาจทำให้องค์กรเราพัฒนาและเติบโตได้ไม่แพ้กัน"

"ผมเห็น ENGNOW ตั้งแต่เรามีกันไม่กี่คน จนตอนนี้เรามีทีมงานมากมาย ความตั้งใจตั้งแต่วันแรกของพวกเราจนถึงวันนี้ยังเต็มที่เหมือนเดิม ทัศนคติในการทำงาน ความจริงใจ และความเต็มที่ของทีมงานทุกคน ผมเชื่อว่านี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ENGNOW เติบโตอย่างรวดเร็วมาจนถึงวันนี้ครับ" คุณนาวกล่าวปิดท้าย
#3606


นางสาวณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติปี 2564 ซึ่งตรงกับวันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นโอกาสที่สังคมจะร่วมตระหนักถึงศักยภาพของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ในปีนี้ สสส. ร่วมมือกับ School of Changemakers จัดกิจกรรม ThaiHealth Youth Solutions ครั้งที่ 2 สำหรับเยาวชนอายุ 14 – 20 ปี ที่สนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสังคม โดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่จากทั่วประเทศได้สมัครเข้าร่วมเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเสวนา 8 ครั้ง อบรมเชิงปฏิบัติการ 15 ครั้ง และกิจกรรมทดลองแนวคิดหรือทดสอบไอเดียใหม่ในการแก้ปัญหาอีก 5 กิจกรรม ซึ่งผู้สมัครสามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ตามได้ความสนใจโดยทุกกิจกรรมจะนำเสนอตลอดเดือนกันยายนผ่านโปรแกรมซูม (Zoom) โดยปีนี้มีเยาวชนอายุ 14-20 ปีสมัครเข้าร่วมโครงการรวม 354 คน เป็นเยาวชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 83 คน ที่เหลือกระจายอยู่ในทั่วทุกภูมิภาค

นางสาวณัฐยา กล่าวต่อว่า กิจกรรม ThaiHealth Youth Solutions เกิดจากเจตนารมณ์ที่ต้องการพลิกมุมมองต่อเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มักถูกนำเสนอในมุมของปัญหา ให้เห็นถึงความตั้งใจที่ดีและความกระตือรือล้นที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงดีๆให้เกิดกับสังคมรอบตัว ในการจัดงานปีแรก เป็นงานแบบออนไซต์ 2 วัน มีเยาวชนเข้าร่วมงานเกือบ 150 คน แต่ในปีนี้สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องเปลี่ยนมาจัดแบบออนไลน์แต่พบว่าสามารถเข้าถึงเยาวชนจำนวนมากจากทั่วทุกภาคของประเทศ เห็นได้จากการเปิดรับสมัครเพียง 5 วัน ผ่านหน้าเพจแต่กลับมีเยาวชนสนใจสมัครเข้าร่วมหลายร้อยคน ซึ่ง สสส. มีความตั้งใจที่จะเปิดพื้นที่แห่งโอกาสและการเรียนรู้เช่นนี้ให้แก่วัยรุ่นและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการที่หลากหลายตลอดทั้งปีสามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กของ สสส.



นางสาวพรจรรย์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร School of Changemakers กล่าวว่า อยากจะเชิญชวน เยาวชนที่สนใจ เข้าร่วมหรือต้องการติดตามผลงานของผู้เข้าร่วมงานสามารถติดตามได้ที่ แฟนเพจเฟซบุ๊ก School of Changemakers น้องๆ จะได้พบปะ พูดคุยกัน เรียนรู้การทำโปรเจกต์เพื่อสังคมของเพื่อนๆ เยาวชน เวิร์คชอปเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และกิจกรรมเพื่อสังคมที่เริ่มต้นได้ทันทีจากพี่ๆ ที่กำลังทำกิจการเพื่อสังคมต่างๆ กิจกรรมภายในงานจะจัดขึ้นทุกเสาร์-อาทิตย์ ผ่าน Zoom ตลอดเดือนกันยายน 2564 เวลา 13.00-21.00 น. ภายในงานมีหัวข้อที่น่าสนใจมากมาย เช่น ชวนตามหาไลฟ์สไตล์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม, คิดไอเดียเที่ยวทิพย์ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว, แชร์ปัญหาผู้สูงอายุ สถานการณ์และโอกาสการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยสามารถติดตามตารางกิจกรรมแต่ละสัปดาห์ได้ที่ www.Schoolofchangemakers.com
#3607


บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC Expertise Meets ­Excellence ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการอสังหาริมทรัพย์แบบ ครบวงจร ผนึกกำลัง บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ผู้ให้บริการรถเช่าแบบครบวงจรผ่านแอปพลิเคชัน ASAP App โดยเพิ่มทางเลือกในทุกการเดินทาง บริการด้วยมาตรฐานระดับ พรีเมี่ยม เพื่อความสะดวกปลอดภัย เป็นส่วนตัวเหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูแลครอบครัวผู้อยู่อาศัยบ้าน คอนโดมิเนียมและผู้ใช้บริการอาคารสำนักงานภายใต้การดูแลของ MDPC ผ่าน "ASAP App" กับบริการรถเช่าครอบคลุม 7 บริการได้แก่ บริการรับ-ส่งสัตว์เลี้ยง,บริการขับรถสำหรับผู้สูงอายุ, บริการรถเช่ารายวัน,บริการรถพร้อมคนขับ,บริการรับ-ส่งด้วยรถหรูสำหรับโอกาสพิเศษ,บริการขนย้ายสิ่งของ และ บริการผู้ช่วยขับรถ เพื่อขับรถของคุณ พิเศษรับสิทธิ์ส่วนลดสุงสุด 10% เมื่อเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2564 สามารถดาวน์โหลด "ASAP App" ได้แล้ววันนี้ที่ App Store และ Play Store

บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC Expertise Meets Lottovip Excellence เป็นผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ปัจจุบัน ให้บริการใน 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจบริหารจัดการอาคาร 2.ธุรกิจนายหน้าซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ 3.ธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ 4.ธุรกิจตกแต่งและปรับปรุงที่อยู่อาศัย 5.ธุรกิจบริการด้านความสะอาด 6.ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง มีวิสัยทัศน์ในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือในการดูแลอสังหาริมทรัพย์เพื่อผู้บริโภค
#3608


ทำเอา "ไฮโซแชมป์ จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์" รีบออกมาชี้แจงผ่านอินสตราแกรมส่วนตัวอย่างด่วนจี๋ หลังจากก่อนหน้านั้นได้โพสต์ภาพตนเอง เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมแคปชั่นว่า "l'm vaccinated.. เข็มที่ 1 ผ่านไป #pfizer #1stdosedone" เนื่องจากถูกชาวเน็ต แห่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ว่าเหตุใดถึงได้สิทธิฉีดก่อนใคร? อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไหน? พร้อมทั้งถูกวิพากษ์วิจารณ์โจมตีอย่างหนัก

โดยล่าสุด เจ้าตัวออกมาชี้แจงถึงเหตุผลที่ตนเองได้รับวัคซีนไฟเซอร์ว่า เพราะทางโรงพยาบาลที่รักษาไวรัสโควิด-19 แจ้งให้มาฉีด และทุกอย่างก็ทำตามขั้นตอน ที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้วยขอความละเอียดยิบว่า

"ขออนุญาตชี้แจงกรณีการฉีดวัคซีน Pfizer นะครับ

เนื่องจากเมื่อเดือนเมษายนผมติดโควิด เชื้อลงปอด และได้ทำการรักษาที่ MedPark Hospital ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 กันยายน เวลา 18:48 น. ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อเข้ามาหาผม แจ้งให้ผมมาฉีดวัคซีนในวันถัดไป เนื่องจากผมเป็นคนไข้ของทางโรงพยาบาลที่ต้อง follow up case ซึ่งผมเองยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนเลย จึงไปฉีดตามคำแนะนำของทางโรงพยาบาลตามวันนัดดังกล่าว 

ซึ่งผมได้สอบถามเพื่อนที่ติดโควิด เชื้อลงปอดและรักษาตัวที่โรงพยาบาลเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน ก็บอกว่าทางโรงพยาบาลได้โทรมาแจ้งให้ไปฉีดวัคซีนเช่นกัน แต่เพื่อนผมได้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มไปก่อนแล้วเขาจึงได้ปฏิเสธ

ผมไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษใดๆในการรับวัคซีน Pfizer วันนี้ผมเข้าคิวรอฉีดวัคซีนตามขั้นตอนปกติเหมือนคนอื่นๆ ฉีดเสร็จก็นั่งพักสังเกตอาการ 30 นาทีก็กลับบ้าน และไม่เสียค่าใช่จ่ายใดๆทั้งสิ้น

สอบถามทางโรงพยาบาลได้ครับ ขอบคุณครับ"
 
#3609


โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมพื้นที่เพิ่มลงทุนหลังจากที่บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด หรือเดิมชื่อ บริษัทรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มซีพี) ได้ลงพื้นที่เตรียมการก่อสร้างแล้ว

การส่งมอบพื้นที่ในระยะแรก ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร จะดำเนินการได้ในเดือน ต.ค.2564 รวมทั้งจะถ่ายโอนแอร์พอร์ตเรลลิงก์ช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิ ได้ในเดือน ต.ค.2564 และจะส่งมอบพื้นที่ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง และช่วงพญาไท-บางซื่อ ได้ในเดือน ต.ค.2566

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 ได้พิจารณา แก้ปัญหาซ้อนทับโครงการรถไฟความเร็วเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) และโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ในช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ซึ่งใช้โครงสร้างโยธาร่วมกัน แต่เวลาการก่อสร้างและมาตรฐานเทคนิคไม่สอดคล้องกัน

ทั้งนี้ การพิจารณาแก้ปัญหาการซ้อนทับของโครงการในเรื่องดังกล่าว เกิดขึ้นจากงานโยธาในช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ที่ตามแผนจะต้องมีการก่อสร้างทางรถไฟ 4 แทร็ค รองรับการให้บริการของรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จำนวน 2 แทร็ค และรถไฟไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน 2 แทร็ค โดยจากผลการศึกษาพบว่าควรก่อสร้างในครั้งเดียว เพื่อลดผลกระทบและประหยัดเวลา


ดังนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หน่วยงานเจ้าของโครงการ จึงกำหนดในสัญญาร่วมทุนโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากในการหารือร่างสัญญาในขณะนั้นพบว่าโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน เอกชนคู่สัญญามีความพร้อมที่จะดำเนินโครงการอยู่แล้ว

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อมีการลงสำรวจพื้นที่ และทำสัญญาส่งมอบพื้นที่นั้น กลับพบว่าพื้นที่ช่วงพญาไท-ดอนเมือง ของโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ยังไม่สามารถส่งมอบให้เอกชนคู่สัญญานำไปพัฒนาโครงการได้ เพราะยังติดปัญหารื้อย้ายสาธารณูปโภค โดยเฉพาะท่อน้ำมันในช่วงพญาไท ทำให้ข้อกำหนดของการส่งมอบพื้นที่ของโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน จึงกำหนดให้มีการส่งมอบพื้นที่ช่วงพญาไท-ดอนเมือง แล้วเสร็จภายใน 4 ปี หลังจากลงนามสัญญา

"ตอนแรกการรถไฟฯ มอบหมายให้ทางเอกชนของไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน เป็นผู้ก่อสร้างแทร็คช่วงทับซ้อนกับรถไฟไทย-จีน เพราะเอกชนมีความพร้อม แต่พอทำจริงไม่สามารถส่งมอบพื้นที่พญาไท-ดอนเมืองได้ เอกชนจึงยังมีเวลาที่จะไปสร้างช่วงอื่นก่อน ส่วนช่วงพญาไท-ดอนเมือง ตามกรอบต้องส่งมอบแล้วเสร็จใน 4 ปี เอกชนจึงยังมีเวลาอีก 4 ปีค่อยมาก่อสร้างช่วงนี้ ซึ่งก็รวมช่วงทับซ้อนของไทยจีนด้วย ทำให้เป็นปัญหา"

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า จากปัญหาของการรื้อย้ายสาธารณูปโภคช่วงพญาไทที่ต้องใช้เวลานั้น เป็นผลกระทบต่อโครงการไฮสปีดเทรนไทย-จีน ที่เดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง และเหลือช่วงของการพัฒนาเพียงพื้นที่ทับซ้อนช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ทำให้ต้องการมีหารือร่วมกับเอกชนคู่สัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินขของกลุ่มซีพี เพื่อปรับแก้สัญญาให้กลุ่มซีพีดำเนินการก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ในพื้นที่ทับซ้อนนี้ก่อน โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน ก.ค. 2569

ทั้งนี้ จากการปรับแก้สัญญาดังกล่าว มีข้อกำหนดให้ทางกลุ่มซีพีดำเนินการลงทุนก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง โดยให้จัดสรรวงเงินลงทุนไปล่วงหน้า และระหว่างการก่อสร้างนั้น สกพอ.จะดำเนินการทยอยจ่ายเงินลงทุน ซึ่งจะเป็นการนำวงเงินลงทุนจากโครงการไฮสปีดเทรน 3 สนามบินที่สัญญาก่อนหน้านี้กำหนดว่า สกพอ.จะอุดหนุนเงินลงทุนก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ภายใน 4 ปีหลังลงนามสัญญา และเงินก่อสร้างอีกส่วนจะเป็นเงินลงทุนของโครงการรถไฟไทยจีน เพื่อนำมาจ่ายชดเชยให้กลุ่มซีพี

"ทางออกตอนนี้เพื่อเร่งก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองให้ทันต่อการใช้งานของไฮสปีดเทรนไทยจีน ทางกลุ่มซีพียอมที่จะจัดหางบประมาณมาก่อสร้างให้ก่อน และระหว่างนั้น สกพอ.จะทยอยเบิกจ่ายงบประมาณมาชดเชยให้ ซึ่งเป็นเงินก้อนส่วนของงานก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ตามกรอบกำหนด แต่เป็นการเบิกจ่ายมาลงทุนก่อน และค่าก่อสร้างอีกส่วน ก็จะมาจากสัญญารถไฟไทยจีน"

สำหรับความคืบหน้าของการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัจจุบันได้ ร.ฟ.ท.ได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนคู่สัญญามีความคืบหน้า 86% รวม 5,521 ไร่ และพร้อมส่งมอบส่วนแรก ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ทั้งหมดภายในเดือน ก.ย.2564 คู่ขนานไปกับการยกระดับแอร์พอร์ต เรลลิงก์ โฉมใหม่ ที่ผู้โดยสารจะได้รับบริการ ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยจะโอนสิทธิ์ในการบริหารแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ภายในเดือน ต.ค.นี้

ด้านกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้างานสำคัญที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ประกอบด้วย 

1.การเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ร.ฟ.ท.ได้ทำสัญญาซื้อขายแล้ว 634 สัญญา มูลค่า 3,599 ล้านบาท จากจำนวน 737 สัญญา มูลค่า 4,121 ล้านบาท 

2.การโยกย้ายผู้บุกรุก ที่กีดขวางการก่อสร้างช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภา ได้ดำเนินการโยกย้ายแล้วเสร็จ 100%

3.งานรื้อย้ายสาธารณูปโภค โดยหน่วยงานเจ้าของสาธารณูปโภคได้ดำเนินการรื้อย้ายสาธารณูโภคช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภาแล้วเสร็จ 257 จุด และอยู่ระหว่างการรื้อย้าย 396 จุด ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินงาน เพื่อให้แล้วเสร็จทันตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ คือ ภายในเดือน ก.ย. 2564
#3610


หุ้นบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที หลังประกาศซื้อหุ้น บริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด เจ้าของ บริษัท โลตัสส์ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และโลตัสส์ มาเลเซีย โดยราคาพุ่งทะยานขึ้นเกือบ 20% ผิดปกติวิสัยหุ้นที่มักจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ

MAKRO จะรับโอนกิจการโลตัสส์ ทั้งประเทศไทยและมาเลเชีย โดยการซื้อหุ้น บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด จากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท ซี.พี. เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ในราคาหุ้นละ 43.50 บาท

การซื้อหุ้นจะไม่ชำระด้วยเงิน แต่ MAKRO จะออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 5,010.32 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 50 สตางค์ คิดเป็นมูลค่า 217,949.07 ล้านบาท เพื่อชำระแทน

การรับโอนกิจการโลตัสส์ จะทำให้ MAKRO ก้าวเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีก ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่จะเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ใหญ่ในเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น และมีแผนขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียด้วย

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์แต่ละสำนัก ประเมินว่า การซื้อโลตัสส์ จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ MAKRO และกำหนดราคาเป้าหมายหุ้นอยู่แถวประมาณ 46 บาท

แต่ราคาหุ้นบนกระดานกลับพุ่งทะยานไปไกลกว่าราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินไว้ โดยเมื่อวันพุธที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากประกาศการซื้อกิจการโลตัสส์ ราคาหุ้นปิดที่ 50 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือเพิ่มขึ้น 19.05% มูลค่าซื้อขาย 7,571.88 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวัน

MAKRO จัดอยู่ในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี เป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมักจะซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงกว่า 2% อย่างสม่ำเสมอ มีค่า พี/อี เรโช 35 เท่า

แต่ปัญหาของ MAKRO ไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย เพราะฟรีโฟลทหรือหุ้นที่นักลงทุนรายย่อยถือมีจำนวนต่ำ โดยจำนวนผู้ถือหุ้นรายใหญ่มี 11,032 ราย แต่ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 6.92% ของทุนจดทะเบียนเท่านั้น

ทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ MAKRO มีจำนวน 4,800 ล้านหุ้น มีมาร์เก็ตแคปหรือหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 240,000 ล้านบาท โดยจัดเป็นหุ้นขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้ถูกบรรจุคำนวณในดัชนี SET100 เนื่องจากปัญหาฟรีโฟลท

แต่ MAKRO มีแผนออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเสนอขายประชาชนผู้ลงทุนทั่วไป เพื่อเพิ่มฟรีโฟลทเป็น 15% โดยทุนจดทะเบียนปัจจุบันมี 4,800 ล้านหุ้น และจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีก 5,010.32 ล้านหุ้น เพื่อแลกซื้อโลตัสส์ รวมจะมีทุนเป็น 9,810.32 ล้านหุ้น

ถ้าจะเพิ่มฟรีโฟลทเป็น 15% MAKRO จะต้องออกหุ้นเพิ่มทุนอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายประชาชนผู้ลงทุนทั่วไป

ยังไม่มีการเปิดเผยว่า MAKRO จะออกหุ้นใหม่เสนอขายประชาชนในราคาเท่าไหร่ แต่เมื่อการเพิ่มทุนครั้งใหญ่เสร็จสมบูรณ์ MAKRO จะมีทุนจดทะเบียนประมาณ 11,000 ล้านหุ้น

มาร์เก็ตแคปจะพุ่งพรวดสู่ระดับ 550,000 ล้านบาท โดยคำนวณจากราคาหุ้น 50 บาท ซึ่งไม่เป็นเพียงหุ้นขนาดยักษ์เท่านั้น แต่ยังเป็นหุ้นที่ไม่ติดเงื่อนไขฟรีโฟลท และสามารถถูกบรรจุเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ในทันที

และถ้าอยู่ใน SET50 บรรดานักลงทุนสถาบันหรือกองทุนทั้งในและต่างประเทศ จะต้องเพิ่มน้ำหนักหุ้น MAKRO ในพอร์ต

ราคาหุ้น MAKRO ที่พุ่งทะยานเหนือคำทำนายของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในขณะนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า จะมีแรงซื้อของกองทุนทะลักข้ามา นอกเหนือจากแรงซื้อของนักเก็งกำไรระยะสั้น

เพราะเมื่อประเมินแล้วว่า จำเป็นต้องซื้อ MAKRO เข้าพอร์ต ทำไมจะต้องรอจน MAKRO เข้า SET50

ทำไมไม่ชิงจังหวะเก็บเสียแต่ตอนนี้ ในขณะที่ราคายังไม่แรงเกินไป และไม่ต้องแย่งกันซื้อเท่าไหร่

เบื้องหลังความร้อนฉ่าของหุ้น MAKRO อาจเกิดจากกองทุนเข้ามาลุยเก็บก็ได้
#3611
ซื้อทั้งที ซื้อของดีไปเลย ...
ผักอบกรอบ ผับรวมอบกรอบ ผักและผลไม้อบกรอบ ผักอบ tts888 [พร้อมทาน]
เกรดพรีเมี่ยม ผลิตใหม่ตลอด = 100 กรัม = ไม่เหม็นหืน การันตรีความอร่อย
สินค้ายอดนิยม ที่มีคะแนนเรทติ้งถึง 290 คะแนน
--------------------------------------------------------
ราคา 59 บาท
--------------------------------------------------------
สั่งซื้อได้เลยที่นี่ >>https://bit.ly/3jCCqJS
รายละเอียดสินค้า
หากคุณกำลังมองหา ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Unknown
เป็นสินค้าขายดีในหมวด ช็อกโกแลต,ขนมขบเคี้ยวและขนมหวาน จาก Unknown in TH
เราได้คัดสรรค์สินค้าดี มีคุณภาพ มาให้คุณได้เลือกซื้อ
พิเศษสุด วันนี้ จากราคาปกติ 200 บาท เหลือเพียง 59 บาท เท่านั้น (ลดถึง 70%)"
ผักอบกรอบ ผับรวมอบกรอบ ผักและผลไม้อบกรอบ ผักอบ tts888 [พร้อมทาน]
เกรดพรีเมี่ยม ผลิตใหม่ตลอด = 100 กรัม = ไม่เหม็นหืน การันตรีความอร่อย เป็นสินค้าใหม่ ได้ความนิยมในระดับ 290 คะแนน
----------------------------------------------
สินค้าคุณภาพ
สั่งซื้อง่าย ๆ เพียงแค่กดที่ลิงค์ด้านล่าง สั่งผ่านระบบ ไม่มีโจร ไม่ต้องโอนเงินก่อน
--------------------------------------------
สั่งซื้อได้เลยที่นี่ >>https://bit.ly/3jCCqJS
--------------------------------------------
สินค้าใหม่
ถูกใจใช่เลย
สินค้าคุณภาพ
สินค้าพร้อมส่ง
รับประกันความพอใจ
หมายเหตุ :โปรดตรวจสอบราคา ณ ปัจจุบัน ก่อนสั่งซื้อทุกครั้ง
#3612


ความพยายามในการออกมาตรการและข้อบังคับของรัฐบาลจีนเป็นไปเพื่อการควบคุมและจัดระเบียบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทำให้ในระยะสั้นตลาดหุ้นอาจเกิดความผันผวนจากนโยบายของรัฐบาล
ในช่วงที่ผ่านมา ปธน. สี จิ้น ผิง ได้เน้นย้ำถึงการสนับสนุน "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน หรือ Common Prosperity" เพื่อจัดการกับช่องว่างความร่ำรวยขนาดใหญ่ในประเทศ โดยสำนักข่าว Bloomberg ได้มีการนับคำพูดดังกล่าวของ ปธน.สีจิ้นผิงในปี 2021 มากกว่า 60 ครั้ง ถือเป็นการพูดที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนๆ สะท้อนโอกาสสูงที่นโยบายที่เกี่ยวข้องจะถูกนำมาบังคับใช้ ส่งผลให้มหาเศรษฐีหลายรายถูกจับตามอง ดังเช่น กรณี Jack Ma อดีตมหาเศรษฐีที่ถือว่าร่ำรวยติดอับดับของประเทศจีน มีมูลค่าทรัพย์สินลดลง หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการและข้อบังคับใหม่ๆ ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทให้ปรับตัวลดลงอีกด้วย



มหาเศรษฐีจีน 10 อันดับแรกพบว่ามีเพียง 5 ราย ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับกลุ่มเทคโนโลยี

ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมารัฐบาลจีนมีความต้องการที่จะลดระดับช่องว่างความมั่งคั่งที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความกังวลต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการเงินที่อาจถูกควบคุมโดยบริษัทเอกชนบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ส่งผลให้ในเดือนพ.ย. 2020 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้ออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมกำกับดูแลบริษัทเอกชน โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยี ทั้งการป้องกันการผูกขาดการค้า (Antitrust), การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล, การควบคุมโรงเรียนกวดวิชา และการควบคุมและจำกัดเวลาในการเล่นเกมออนไลน์ของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี นอกจากนั้นรัฐบาลยังได้ประกาศแผนปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 2021-2025) ในการยกระดับการคุมเข้มในหลายอุตสาหกรรม เพื่อการดำเนินชีวิตและการมีสุขภาพที่ดี และคงความเท่าเทียมของประชาชนโดยรวม

จากมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด 500 รายทั่วโลกที่ได้รับการจัดอันดับโดย Bloomberg พบว่า มีมหาเศรษฐีจีน 81 ราย มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น $1.1 ล้านล้าน เป็นรองเพียงสหรัฐฯเท่านั้น นอกจากนั้น UBS Group AG ยังประมาณการไว้ว่าในปีที่ผ่านมา ประเทศจีนมีมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินระดับพันล้านกว่า 380 ราย


ทั้งนี้จากมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของจีน พบว่ามี 5 รายที่เป็นเจ้าของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Zhang Yiming Huay (ByteDance), Ma Huateng (Tencent), Jack Ma (Alibaba), Colin Huang (Pinduoduo) และ William Ding (NetEase) โดยเกือบทั้งหมดมีมูลค่าทรัพย์สินในปีนี้ลดลงจากปีก่อน อย่างไรก็ดี บุคคลดังกล่าวมีท่าทีและส่งสัญญาณบวกช่วยลดแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากรัฐบาล  หลายท่านมีการบริจาคเงิน และประกาศจะทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม  อาทิ Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง Bytedance ระบุจะลาออกจากตำแหน่ง CEO ในปีนี้และจะทำงานช่วยสังคม หรือ ผู้ก่อตั้ง Tencent Holding นาย Ma Huateng ระบุจะบริจาคเงินสำหรับการกุศลสูงถึง $15 billion ในเดือน ส.ค. 


บริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ล้วนออกมาตอบรับนโยบายของรัฐบาล สร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับการลงทุน

บริษัทจีนกว่า 73 บริษัทได้ตอบรับนโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของรัฐบาล โดย Ping An, Meituan และ Bank of China ได้เน้นย้ำถึงความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันและการลดความเหลื่อมล้ำในรายงานนำส่งผู้ถือหุ้นสำหรับเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสัญญาณบวกที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าจะเป็นสัญญาณบวกต่อบรรยากาศลงทุน

Meituan – ผู้ให้บริการส่งอาหารรายใหญ่ของจีน ได้กล่าวในรายงานผู้ถือหุ้นถึงการสนับสนุนความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในสังคมที่ขยายขึ้น และได้เน้นย้ำถึงความเจริญร่วมกันที่อยู่ในสายเลือดของบริษัท

Pinduoduo - ผู้ให้บริการ E-Commerce รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศบริจาคกำไรทั้งหมดในไตรมาส 2/21 กว่า $372 ล้านให้กับโครงการพัฒนาภาคการเกษตรในพื้นที่ชนบทของจีน ซึ่งถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของบริษัท รวมถึงยังยังตั้งเป้าหมายบริจาคในส่วนอื่นๆเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้นกว่า $1.5 พันล้าน

Tencent - บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีนประกาศบริจาคเงินกว่า $7.7 พันล้านให้กับโครงการแก้ไขปัญกาความยากจนและความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาของจีน รวมถึงยังได้ตั้งเป้าหมายในการบริจาคเพิ่มขึ้นอีกกว่าสองเท่าสำหรับโครงการ หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น $1.5 หมื่นล้าน

ความพยายามในการออกมาตรการและข้อบังคับของรัฐบาลจีนเป็นไปเพื่อการควบคุมและจัดระเบียบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทำให้ในระยะสั้นตลาดหุ้นอาจเกิดความผันผวนจากนโยบายของรัฐบาล แต่ราคาหุ้นหลายบริษัทที่ปรับลงมาถือว่าได้รับข่าวไปมากแล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลไม่ได้มีความต้องการที่จะหยุดการเติบโตและการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ดังนั้นในระยะข้างหน้าหากการจัดระเบียบเป็นไปอย่างเรียบร้อย เชื่อว่าผลที่เกิดขึ้นจะเป็นแรงผลัดดันให้เกิดการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ตามที่รัฐบาลจีนเคยประกาศเจตจำนงเอาไว้

Source: Bloomberg

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
#3613


ศูนย์การค้าขานรับนโยบายภาครัฐ เปิดให้บริการแล้ว ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติผ่อนคลายอนุญาตให้เปิดกิจการ กิจกรรมเพิ่มเติม ตามความพร้อมและความจำเป็นเพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด ศูนย์การค้าย่านใจกลางกรุงเทพฯ  ได้แก่ ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ซึ่งประกอบด้วย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ร่วมกับบรรดาร้านค้าภายในศูนย์การค้า ได้เปิดให้บริการภายใต้มาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดและมาตรฐานคัดกรองพนักงาน 100 % เข้มข้นก่อนเข้าปฏิบัติงาน สร้างความมั่นใจให้แก่ทั้งผู้ประกอบการ ร้านค้า พนักงาน และลูกค้าทุกคน พร้อมให้การต้อนรับลูกค้าด้วยคอนเซปต์ "ONE SMILE FORWARD สยามยิ้มสู้ไปด้วยกัน" ก้าวสู่ชีวิตวิถีใหม่ไปพร้อมกัน

สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ ไอคอนสยาม  ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และได้ใช้มาตรการเชิงรุกเฝ้าระวังขั้นสูงสุดทั้งส่วนให้บริการลูกค้าและพนักงาน รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา  ในการเปิดให้บริการในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามแนวทางมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวดสูงสุด และมีมาตรฐานเข้มข้นของการคัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน  เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการ

นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ได้เปิดให้บริการด้วยมาตรการความปลอดภัยอย่างสูงสุด สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของมาตรการองค์กรของ ศบค. เพื่อลดความเสี่ยงในการเผยแพร่โรคสำหรับการเปิดกิจการ/จัดกิจกรรมได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน ด้วย COVID-Free Setting Protocol เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน ร้านค้า และผู้ใช้บริการ อาทิ มาตรการเข้มข้นคัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน ได้แก่ กำหนดให้พนักงานทุกคนจะต้องได้รับวัคซีน, การตรวจคัดกรองด้วย Antigen Test Kit,  Platform Thai Safe Thai, พนักงานต้องใส่หน้ากากและปฏิบัติตาม D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด, ร้านค้าประเมินมาตรฐาน Thai Stop Covid+ กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ยังคงให้ความสำคัญเรื่องระบบสาธารณูปโภคต่างๆ  อาทิ การทำความสะอาดระบบปรับอากาศ  การหมุนเวียนอากาศภายในศูนย์ และระบบคุณภาพน้ำ รวมถึงมาตรการเชิงรุกในการทำความสะอาดแบบ Big Cleaning  โดยฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคภายในพื้นที่ส่วนกลางและร้านค้า การทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ ในศูนย์การค้าทุก 30 นาที,  การทำความสะอาดฆ่าเชื้อบัตรจอดรถ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพนักงานและผู้มาใช้บริการ 


สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้า ยังคงต้องฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ได้แก่ การลงทะเบียนการเข้า-ออก ร้านค้าและศูนย์การค้า โดยสแกน QR Code ผ่านแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" ตามมาตรการของ ศบค. ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และปฏิบัติตามกฎของศูนย์การค้า ได้แก่ การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การผ่านจุดคัดกรอง การป้องกันตนเอง ลดการสัมผัส การใช้ Cashless หรือ
E-Payment ในการชำระค่าบริการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงิน

นอกจากนี้  ศูนย์การค้าได้ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไร้สัมผัสบริการลูกค้าภายในอาคาร (Touchless Building Facilities) อาทิ ระบบจัดการเข้าออกที่จอดรถอัตโนมัติโดยไม่ต้องรับบัตรจอดรถ, ตู้รับชำระเงินค่าที่จอดรถอัตโนมัติ สำหรับรองรับลูกค้าที่ไม่ต้องการชำระเงินและรับทอนเงินที่ตู้เก็บเงินบริเวณทางออกอาคาร, เครื่องจ่ายเจลแอลกอฮอล์ อัตโนมัติภายในอาคารและลิฟท์, ติดตั้งก๊อกน้ำล้างมือ/โถปัสสาวะ/ เครื่องจ่ายโฟมล้างมือ เป็นระบบ Sensor เป็นต้น

"บริษัทยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. ที่ประกาศอย่างเคร่งครัดเต็มที่เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดที่สร้างความเชื่อมั่นในทุกย่างก้าวของการใช้บริการ และขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยภาครัฐฯ ส่งเสริมให้คนไทยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประเทศของเราผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยกัน" นางสาวนราทิพย์ กล่าว

สยามพิวรรธน์ มั่นใจว่า ทั้ง ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ซึ่งผนึกกำลัง 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะให้บริการด้วยมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยในทุกมิติอย่างสูงสุด มอบความสุขและนำรอยยิ้มสยามกลับคืนสู่ทุกคนอีกครั้ง โดยในการเปิดให้บริการตามมาตรการภาครัฐในครั้งนี้ วันสยามและไอคอนสยาม ได้มีจัดเตรียมความพร้อมของพนักงานในทุกส่วน ร้านค้า สถานที่ สินค้าและบริการ ภายใต้คอนเซ็ปท์ "ONE SMILE FORWARD สยามยิ้มสู้ไปด้วยกัน" และพร้อมมอบความพิเศษให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการด้วยแคมเปญโปรโมชั่นสุดคุ้มค่า เพื่อมอบประสบการณ์ความสุข คืนยิ้มสยามให้กับคนไทยทุกคนอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ต่อไป 

ไอคอนสยามจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 - 20.00 น. 

สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดบริการวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 11.00 - 20.00 น. 

วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. (สำหรับซูเปอร์มาเก็ตเปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น.)  
#3614


พลพรรคแข้ง "สิงโตคำราม" จัดการรัวประตูช่วงครึ่งหลังแบบคนยิงไม่ซ้ำหน้า ก่อนถลุงใส่ ฮังการี ขาดลอย 4-0 เกมรอบคัดเลือก ฟุต.โลก 2022 โซนยุโรป เมื่อคืนวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา

ฟุต.โลก 2020 รอบคัดเลือก
ฮังการี 0-4 อังกฤษ

นัดที่ 4 ของกลุ่มไอ อังกฤษ จ่าฝูงมี 9 แต้ม ออกไปเยือน ฮังการี อันดับ 2 มี 7 แต้ม เกมนี้ "สิงโตคำราม" ตัวหลักลงสนามครบครันทั้ง แจ๊ค เกรียลิช, ราฮีม สเตอร์ลิง, เมสัน เมาต์ และ แฮร์รี เคน

เริ่มเกม นาที 8 อังกฤษ เกือบนำ ลุค ชอว์ เปิดเตะมุมทางซ้ายให้ แฮร์รี แม็คไกวร์ เทกตัวโหม่งแต่ข้ามคาน ขณะที่ นาที 19 อังกฤษ บุกขึ้นต่อ แจ๊ค เกรียลิช ป้าย.ให้ แฮร์รี เคน ลองซัดไกลแต่ก็ข้ามคานเหมือนกัน

เกมมีจังหวะให้ลุ้นน้อย รอถึง นาที 40 ฮังการี ได้ลูกฟรีคิกระยะมีลุ้น โดมินิค โซบอสซาไล วาง.แล้ววิ่งมาตะบันด้วยขวาแต่.ข้ามคาน สรุปครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอก่อน 0-0

ครึ่งหลัง นาที 56 อังกฤษ ทะลวงประตูสำเร็จ เมสัน เมาต์ เติมขึ้นทางซ้ายแล้วตบ.ให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แปตุง 1-0 ต่อมา นาที 62 ลูกสองก็มาจากเกมตัด.กลางสนาม ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดตักเข้าซ้ายให้ แฮร์รี เคน โหม่งไม่พลาด 2-0

ประตูไหลเป็นน้ำ นาที 69 ลุค ชอว์ เปิดเตะมุมโด่งให้ แฮร์รี แม็คไกวร์ โหม่ง ปีเตอร์ กูลาสซี ปัดแล้วแต่ไม่พ้นทำให้ อังกฤษ ทิ้งห่าง 3-0 ก่อนที่ นาที 86 อังกฤษ ตอกฝาโลง แจ๊ค เกรียลิช คืน.แถวสองแล้ว ดีแคลน ไรซ์ ตะบันแหวกกองหลังเจ้าบ้านเข้าประตู 4-0

จบเกมกลายเป็นว่า อังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เก็บเพิ่มเป็น 12 แต้ม ชนะรวดจาก 4 นัดที่ลงสนาม ส่วน ฮังการี มี 7 แต้มและอยู่อันดับ 2 เท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฮังการี - ปีเตอร์ กูลาสซี, วิลลี ออร์บัน, อัตติล่า ซาไล, อากอส เคสเกส, อันดราส เชเฟอร์, ลาซโล เคเลนเลอร์, อัตติล่า ฟิโอล่า, เบนเดกัซ โบลล่า, โดมินิค โซบอสซาไล, โรลันด์ ซัลไล, อดัม ซาไล
อังกฤษ - จอร์แดน พิคฟอร์ด, แฮร์รี แม็คไกวร์, จอห์น สโตนส์, ลุค ชอว์, ไคล วอล์คเกอร์, เมสัน เมาต์, ดีแคลน ไรซ์, คัลวิน ฟิลลิปป์ส, แจ๊ค เกรียลิช, ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี เคน
#3615
สมุนไพรจีนต้านโควิด "เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล" ของแท้ต้องมีฉลากไทย อย.ไทย

ยาสมุนไพรจีนต้านโควิด เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล เป็นยาที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และกองกำกับการแพทย์จีน และยาสมุนไพรจีน แห่งประเทศจีน ประกาศให้ถูกกำหนดอยู่ในกรอบแนวทางการวินิจฉัยและการรักษาโควิด-19 และคณะกรรมการอาหารและยาของจีน ได้อนุมัติให้เพิ่มข้อบ่งใช้ยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ในการรักษาโควิด-19 อย่างเป็นทางการในไม่นานนี้เอง

บริษัท เอิร์น เวย์ จำกัด บริษัทผู้นำเข้ายาสมุนไพรจีน ต้านโควิด เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2535 โดยมีกรรมการ 2 คนคือ นางสาวสุภาภรณ์ แซ่จาง และนางสาวบุษบัน จันทราสิริตระกูล ด้วยมูลค่าทุนจดทะเบียน 11 ล้านบาท มีสำนักงานอยู่ที่ 1858/29-30 อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ ชั้น 8 ถนนเทพรัตน แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ บริษัทได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาผลิตภัณฑ์สมุนไพร และได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยา ตามกฎหมายผลิตภัณฑ์สมุนไพร 2562 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ซึ่งใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยามีอายุถึงวันที่ 26 มีนาคม 2568 ซึ่งหากผู้ใดผลิตนำเข้าหรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากมีโทษ ตามกฎหมายนี้ ให้ระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยา เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว โดยมีจำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาและสถานพยาบาลเท่านั้น กฎหมายไม่อนุญาตให้ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรผ่านทางสื่อออนไลน์และห้ามโฆษณาผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากผู้บริโภคสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่มีการลักลอบขายทางสื่อออนไลน์ เสี่ยงต่อการได้รับผลิตภัณฑ์สมุนไพร ปลอมและไม่ได้คุณภาพ และอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ทั้งยังขายในราคาแพงกว่ายาจริง โดยจากการตรวจสอบพบว่าราคายาเหลียนฮัวปลอม ตั้งราคาจำหน่ายกล่องละ 350-380 บาท ของจริงราคากล่องละ 279 บาท

วิธีสังเกตยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ของแท้ โดยมี 4 จุดดังนี้ 
1. ของแท้ต้องมีโลโก้ของเอินเวย์ 
2. ของแท้ต้องมีชื่อยาเป็นภาษาไทย 
3.ของแท้ต้องมีเลขทะเบียนยา 
4.ของแท้ต้องมีฉลากภาษาไทย 

หากท่านต้องการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับยา เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล หรือต้องการเป็นตัวแทนที่จำหน่ายถูกต้องตามกฎหมาย LINE OA @lianhuaTH

ขอบคุณที่มา
https://www.pimthai.co.th/81368
https://www.prachachat.net/economy/news-736268
https://www.dailynews.co.th/news/154360/

Tags :: ยาเหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล,ยาเหลียนฮัวชิงเวินของแท้, สมุนไพรต้านโควิด, สมุนไพรจีนต้านโควิด, lianhua Qingwen capsule,ยาต้านโควิด


























#3616


นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ได้ส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้ของลูกหนี้ธนาคารออมสิน แม้ว่าที่ผ่านมาธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้วก็ตาม แต่ยังมีลูกหนี้ส่วนหนึ่งที่ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ต้องขาดรายได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จากการปิดกิจการ ถูกเลิกจ้าง หรือมีรายได้ลดลง จึงไม่สามารถชำระหนี้ได้ ซึ่งธนาคารตระหนักถึงสภาพปัญหาที่ลูกหนี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ความยากลำบากที่เกิดขึ้น จึงตั้งใจช่วยเหลือไม่ให้ต้องกังวลเรื่องคดีความ โดยธนาคารจะชะลอการดำเนินการทางกฎหมายต่อลูกหนี้ NPLs ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

ทั้งนี้ มาตรการชะลอ/ผ่อนปรนการดำเนินการทางกฎหมายต่อลูกหนี้ NPLs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโควิด 19 ครั้งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อช่วยลดภาระลูกหนี้ที่กลายเป็น NPLs ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ประกอบด้วยสินเชื่อ 4 ประเภท ได้แก่ 1) สินเชื่อบุคคล-รายย่อย 2) สินเชื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย 3) สินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา และ 4) สินเชื่อธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยธนาคารจะชะลอการฟ้องคดีต่อศาลไว้จนถึงสิ้นปี 2564 ซึ่งรวมถึงลูกหนี้ที่มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความในชั้นศาล และมีการผ่อนชำระดีมาอย่างต่อเนื่อง แต่มาเริ่มค้างชำระในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 - 31 กรกฎาคม 2564 ธนาคารจะชะลอการดำเนินการทางกฎหมาย (ไม่ฟ้อง ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด และไม่ฟ้องล้มละลาย) แล้วแต่กรณีตามสถานะของลูกหนี้แต่ละราย

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

อนึ่ง การประกาศชะลอดำเนินการทางการกฎหมายครั้งนี้ เพื่อช่วยลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข และกลายเป็น NPLs ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2564 เท่านั้น และจะเป็นมาตรการที่ดำเนินการเพียงครั้งเดียว โดยไม่มีการขยายระยะเวลาดำเนินการอีกในอนาคต ธนาคารจึงขอแนะนำให้ลูกหนี้ที่ประสบปัญหา โปรดติดต่อธนาคารออมสินสาขาเจ้าของบัญชีเงินกู้ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 นี้
#3617


นายวิเชียร แพทยานันท์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC เปิดเผยว่า จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2564 ได้มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจของบริษัท และการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อย จำนวน 2 กลุ่มบริษัท คือ 1. ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล (Hospital Company) และ 2. ดำเนินธุรกิจโรงแรม (Hotel Huay Company) เพื่อรองรับต่อการขยายธุรกิจในการแบ่งโดรงสร้างการดำเนินธุรกิจให้ชัดเจน

โดยกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล ได้แก่ บริษัท เทเลด็อค จำกัด จัดตั้งเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2564 เพื่อดำเนินธุรกิจด้านการแพทย์และโรงพยาบาล ทุนจดทะเบียน 50,000 บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญ 500 หุ้น หุ้นละ 100 บาท และ ณ วันที่ 30 ก.ค.2564 ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นจำนวน 10,000,000 บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญ 100,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาล รับรักษาคนไข้ และผู้ป่วยเจ็บ รวมทั้งทำการสั่งเข้ามาซึ่งสินค้าเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ทุกชนิด โดย CMC ถือหุ้น 99.99% และมีกรรมการบริษัท ได้แก่ นายวิเชียร แพทยานันท์ นางสาวปรรญรักษ์ สิริวัฒนชัยกุล และ นายทรงศักดิ์ นิกรมาลากุล ขณะที่แหล่งเงินทุนที่ใช้มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท


บริษัท ซีเมดิเทค จำกัด จัดตั้งเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2564 เพื่อดำเนินธุรกิจกลุ่มด้ารแพทย์และเวชภัณฑ์สมุนไพร ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญ 10,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อประกอบกิจการผลิตยารักษาโรค เภสัชภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ที่ใช้เป็นยารักษาโรค


สัดส่วนการถือหุ้น CMC ถือหุ้นร้อยละ 75 นายวิเชียร แพทยานันท์ ถือหุ้นร้อยละ 10 นายวรัทภพ แพทยานันท์ ถือหุ้นร้อยละ 10 และ นายวุฒิพงษ์ แพทยานันท์ ถือหุ้นร้อยละ 5 ขณะที่แหล่งเงินทุนที่ใช้มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

ส่วนกลุ่มธุรกิจโรงแรมจัดตั้ง บริษัท ซีทูเอซ จำกัด วันที่จัดตั้ง 22 เม.ย.2564 เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารจัดการที่พักให้เช่าระยะสั้น-ยาว (Chain Hospitality) โดยมีทุนจดทะเบียน 50,000 บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญ 500 หุ้น หุ้นละ 100 บาท และ ณ วันที่ 8 ก.ค.2564 ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นจำนวน 2,000,000 บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญ 20,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อประกอบกิจการโรงแรม ที่พัก หอพัก สถานที่พักฟื้น และเป็นการขยายธุรกิจจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยสู่ธุรกิจการบริการ (Hospitality) โดย CMC ถือหุ้น 99.99% ขณะที่แหล่งเงินทุนที่ใช้มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

ตามที่บริษัทฯ มีรายละเอียดของหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.2563 โดยบริษัทมีรายการจ่ายซื้อหุ้นสามัญในบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง จำนวน 78,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 2,200 บาท รวมมูลค่า 171.6 ล้านบาท เป็นร้อยละ 25 จากจำนวนหุ้นทั้งหมด ทั้งนี้ บริษัทขอชี้แจ้งที่มาของรายการดังกล่าว

จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2562 ได้มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอ็น.ดี.เอส 34 จำกัด จำนวน 78,000 หุ้น โดยคิดเป็นมูลค่าหุ้นตามวิธี DCF มูลค่าหุ้นละ 2,256.21 บาท โดยบริษัทฯ ตกลงราคาซื้อขายที่มูลค่าหุ้นละ 2,200 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 171,600,000 บาท

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการลงทุนใน เอ็น.ดี.เอส 34 เพื่อเข้าลงทุนในกิจการโรงพยาบาล ป.แพทย์ 1 และ ป.แพทย์ 2 โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
#3618
 
ข้าวออร์แกนิคสำหรับมารดาตั้งท้อง
การผลิตข้าวอินทรีย์(ออแกนิค)   ทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์  การปลูกข้าวอินทรีย์  รูปภาพสำหรับข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด )
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ขายข้าวมะลินิลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์  , ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิorganic, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลเกษตรอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.ข้าวปะกาอำปึลเพื่อสุขภาพ  , ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวกล้องผกาอำปึลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.  ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ , ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ขายข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวหอมมะลิออแกนิค
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค
3.  ข้าวปะกาอำปึลออร์แกนิค   ข้าวผกาอำปึลเกษตรอินทรีย์(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวหอมมะลิผสมหลายสายพันธุ์อินทรีย์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงปลอดสารพิษ 6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค
7.  ข้าวสุไรซ์เบอรี่ขภาพ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3619

บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (2 ก.ย.) เป็นวันแรก ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 320 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 25-27 ส.ค. ด้วยราคาเสนอขาย 3.9 บาทต่อหุ้น

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คาดว่าหุ้น CV Huay ที่เข้าซื้อขายวันนี้เป็นวันแรกจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็น กลุ่มธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย รวมถึงเป็นธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ส่งผลให้การหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นกระแสเติบโตของโลกในระยะยาว (เมกะเทรนด์)

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนการลงทุน ประกอบกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังค่อนข้างเอื้ออำนวย ภายหลังจากหุ้นขนาดกลางถึงเล็กยังสามารถปรับขึ้นได้ดี สะท้อนสภาพคล่องที่อยู่ในระดับสูง จึงเป็นจังหวะที่ดีของหุ้นไอพีโอในการเข้าระดมทุน โดยคาดว่า CV จะสามารถปรับขึ้นเหนือราคาจองได้

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ดีมาก  ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของ CV เป็นหุ้นที่ดีและมีศักยภาพเติบโตเช่นกัน ดังนั้น คาดว่าการเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นวันแรกจะได้รับการตอบรับที่ดีและเปิดตัวเหนือราคาจองซื้ออย่างแน่นอน 

อย่างไรก็ดี คาดว่าปริมาณการซื้อขาย (วอลุ่ม) อาจไม่คึกคักเท่าหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนแบ่งเงินเข้าซื้อหุ้นที่มีประเด็นข่าวบวกเฉพาะตัว เช่น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) และ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ซึ่งคาดว่าจะเห็นแรงซื้อต่อเนื่องจากวานนี้ (1 ก.ย.)
#3620


" เจริญโภคภัณฑ์อาหาร" โอนกิจการทั้งหมดของ " ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง" ให้ "สยามแม็คโคร" ขณะ MAKRO ออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อตอบแทน พร้อมแบ่งหุ้นขาย PO เพิ่มฟลีโฟลท " ศุภชัย เจียรวนนท์" แจงเพื่อความคล่องแคล่วรวดเร็วเกิดประโยชน์ด้วยเป้าหมายเพื่อนำบริษัทในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของเครือซีพีขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบธุรกิจในเวทีระดับโลก โบรกฯมองเป็นบวก

ราคาหุ้น MAKRO หรือบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 43.75 บาทเพิ่มขึ้น 4.17 % หรือ 1.75 บาท ส่วน MAKRO หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ราคาเปิดที่ 67 บาท เพิ่มขึ้น 3.07% หรือ 2 บาท และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาทหรือ0.93% รับข่าวการโอนกิจการในเครือซีพี

CPF โอนกิจการ CPRH ทั้งหมดให้ MAKRO

กอบบุญ ศรีชัย เลขานุการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัททำกาารโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (CPRH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมใน 20.00 % ผ่านบริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) ให้แก่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (MAKRO) (Entire Business Transfer หรือ EBT) ซึ่งมีมูลค่ารวม 43,589,814,450 บาท

ทั้งนี้ ภายใต้การทำ EBT นั้น เป็นการโอนกิจการของ CPRH ให้แก่ Makro ด้วยวิธีโอนกิจการทั้งหมด รวมถึงหุ้นในบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอป เม้นท์ จำกัด (CPRD)ซึ่ง CPRH ถืออยู่ 99.99% ของทุนจดทะเบียนของ CPRD และทรัพย์สินอื่นของCPRH อาทิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด โดย Makro จะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้แก่ CPRH ในจำนวนไม่เกิน 5,010,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 43.50 บาทต่อหุ้น เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทน

ทั้งนี้ เมื่อการทำ EBT เสร็จสมบูรณ์CPRH จะจดทะเบียนเลิกบริษัทและเริ่มชำระบัญชีโดย CPRH จะโอนทรัพย์สินทั้งหมดของ CPRH รวมถึงหุ้นใน MAKRO ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPRH ตามสัดส่วนการถือหุ้น ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของCPRH ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ถือหุ้นของ CPRH แต่ละรายจะได้รับหุ้นใน MAKRO และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน MAKRO

หลังจากนั้น เมื่อ EBT เสร็จสมบูรณ์และ CPRH ได้ส่งมอบหุ้นใน MAKRO ให้แก่ CPM แล้ว CPM มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Mandatory Tender Offer) ของ MAKRO ร่วมกับ CPHH ในราคาหุ้นละ 43.50 บาท โดยที่ CPM จะรับซื้อหุ้นสามัญใน MAKRO เป็นสัดส่วนหนึ่งในสามและ CPH จะรับซื้อหุ้นสามัญใน Makroสัดส่วนสองในสามของจำนวนหุ้นที่มีผู้ตอบรับคำเสนอซื้อในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน MAKRO ดังกล่าวซึ่งจำนวนหุ้นสูงสุดที่ CPM ต้องรับซื้อจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้จะมีจำนวนไม่เกิน 110,699,500 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 43.50 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,815,428,250 บาท สุดท้ายคือให้ CPM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CPF ขายหุ้นสามัญMAKRO ที่ CPM จะได้รับจากการคืนเงินลงทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPRH ให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering) 181,600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 1.85ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจ าหน่ายได้แล้วทั้งหมดของMAKRO Makro ภายหลังจากการทำ EBTและคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 1.63 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MAKRO ภายหลัง PO ของ Makroเสร็จสิ้น พร้อมกับการดำเนินการ PO ของ Makro)

MAKRO เพิ่มทุนตอบแทนค่าหุ้น - ขาย PO

ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร และประธานกรรมการ MAKRO  เผยว่า เครือซีพีตั้งเป้าขยายร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งของเครือให้ได้อย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค ซึ่งรวมถึงสาขาของสยามแม็คโคร และศูนย์ค้าปลีกค้าส่งรูปแบบอื่นๆ ในเครือซีพี บริษัทจะต้องตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำบริษัทในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของเครือซีพีขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบธุรกิจในเวทีระดับโลก หากเมื่อมีการปรับโครงสร้างธุรกิจต่างๆ หลังได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว จะทำให้สยามแม็คโคร กลายเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

"การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความคล่องตัวในการตัดสินใจต่างๆ และยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย ก็คือ จะช่วยทำให้แม็คโคร และโลตัส มีความคล่องแคล่ว รวดเร็ว (Agility) ในการเดินหน้าสู่ความสำเร็จบนเวทีระดับนานาชาติ"  ศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการ MAKRO เมื่อ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน จากปัจจุบัน 2,400 ล้านบาท เป็น 5,586 ล้านบาท โดยการออกหุ้นใหม่ 6,372,323,500 หุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อแบ่งขายให้ประชาชนทั่วไป 1,362,000,000 หุ้น

"การเพิ่มสัดส่วนที่มากขึ้นให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาร่วมเป็นเจ้าของแม็คโคร โดย MAKRO ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการเป็นเจ้าของบริษัทฯ ให้ประชาชนทั่วไปถึง 2 เท่า จากเดิมสัดส่วนที่ประชาชนทั่วไปร่วมเป็นเจ้าของ MAKRO อยู่ที่ 7% จะเพิ่มเป็นมากกว่า 15% ในขณะที่จำนวนการถือหุ้นของเครือซีพีใน MAKRO จะลดลงจาก 93% เหลือ 85% โดยที่การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทต่างๆ ครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการของ MAKRO และบริษัทอื่นๆ ที่ดำเนินการอยู่"

โดย MAKRO จะได้รับโอนกิจการทั้งหมดของดของ บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้งจำกัด มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 217,949,072,250 บาท ด้วยวิธีโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ซึ่ง MAKRO จะออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ 5,010,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 43.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 217,949,072,250 บาท ให้ CPRH เพื่อใช้ชำระเป็นค่าตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมดจากCPRH แทนการชำระด้วยเงินสด (Payment in Kind) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 104.38ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ก่อนการจัดสรรหุ้นเพื่อตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมด

สำหรับ CPRH ประกอบธุรกิจลงทุน (Investment Holding Company) โดยมีทรัพย์สินหลักคือหุ้นในบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (CPRD) ในสัดส่วน 99.99% ของทุนจดทะเบียนของ CPRD อาทิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และ CPRD ถือหุ้น (ก) สัดส่วน 99.99 %ในบริษัท โลตัสส์สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้นสัดส่วน 99.99 % ในบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus's ในประเทศไทย และ (ข) สัดส่วน 100.00% ใน Lotuss Stores (Malaysia) Sdn. Bhd. ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus's ในมาเลเซีย

โบรก ฯ มองป็นบวกต่อ CPALL และ CPF

บล. ทิสโก้ มองหลัง CPFโอน Lotus ให้ MAKRO - CPF ซื้อ MAKRO เพิ่ม ทั้งนี้หลังCPF แจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ ถือหุ้นของ Lotus (CPRH) และได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารแล้ว MAKRO จะได้รับธุรกิจทั้งหมด (EBT) ของ Lotus จาก CPALL/CPF/CPH ซึ่งจะได้รับหุ้น MAKRO ใหม่ หลังการทำ EBT CPF จะทำคำเสนอซื้ออหลักทรัพย์ทั้หมด (MTO) ร่วมกับ CPH หลังจากนั้น MAKRO จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป ทำให้สัดส่วน Lotus อยู่ที่ 20% ส่วน MAKRO อยู่ที่ 7.34-8.33%

ทั้งนี้  ผู้บริหาร CPF เน้นย้ำประโยชน์ที่ได้รับจาก EBT : คือการขยายแพลตฟอร์มเพื่อรวม b2b และ b2c ,ปรับปรุงสภาพคล่องสำหรับการลงทุนในโลตัส ,เพิ่มผลประโยชน์ผ่าน CPALL และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคการถือ MAKRO – CPF จะเปลี่ยนการถือสัดส่วนโลตัสจาก 20% เป็น 10.21% ผ่าน MAKRO หลัง EBT MTO สามารถ เพิ่มสัดส่วนสูงสุด 1.13% ขณะที่ PO อาจส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้น MAKRO ลดลง 1.85% เมื่อเสร็จสิ้น CPF จะถือหุ้น MAKRO ราว 7.34-8.33%

บล.ทิสโก้ ประเมินไม่มีการระบุถึงกำไร/ขาดทุนที่ชัดเจนจากการขายหุ้น Lotus แต่ผู้บริหารคาดหวังเห็นกำไรเบื้งต้นราว 2.62 พันลบ.(ยอดขาย 4.359หมื่นล้านบาท ด้วยราคา 4.097 หมื่นล้านบาท)หาก EBT, MTO และ PO ได้รับการอนุมัติ บล.ทิสโก้ คาดจะเห็นผลบวกต่อกำไรของ CPF ในระยะสั้นเล็กน้อย กำไรของ MAKRO ดีขึ้น vs.Lotus คาดจะเพิ่มผลกำไรระยะสั้น ส่วนในระยะยาวขึ้นอยู่กับความสามารถในการ synergy แนะนำให้ "ซื้อ" โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 40.00 บาท (SOTP)

บล. เอเซียพลัส จำกัด ประเมินผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง หลังกลุ่มซีพี ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกในเครือ นำ Lotus's มาอยู่ภายใต้ MAKRO กล่าวคือ CPALL เป็นบวก ผลกระทบการถือหุ้น MAKRO ลดลง เชื่อว่าชดเชยได้จาก MAKRO ที่มีขนาดใหญ่ จากการถือหุ้นใน Lotus's และมูลค่า (Value) เดิมที่ของ MAKRO ที่จะเพิ่มขึ้นจาก Synergy ร่วมกับ Lotus's บวกกับยังได้เงินที่จะขายหุ้น MAKRO พร้อมกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป( PO) ไปลดภาระหนี้สิน ดังนั้น ประเมินสร้างอัพไซต์(Upside) ต่อประมาณการนับจากปี 2565 โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ คงแนะนำ" ซื้อ"

MAKRO เป็นบวกเล็กน้อย แม้มีผลกระทบหลัก คือ Dilution จากการเพิ่มทุน เพื่อรับโอนกิจการจากบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (CPRH) รวมถึง PO ในระยะถัดไปที่สูง ขณะที่กำไรส่วนชดเชยจาก Lotus's ระยะสั้นยังถูกหักล้างจากดอกเบี้ยจ่ายที่บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (CPRD) แต่ภาพระยะยาว ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าดีขึ้นมีนัยยะจาก Synergy การขยายตัวร่วมกันทั้งในรูปแบบเดิม และการเปิดสาขาใหม่ๆ ในต่างประเทศร่วมกัน รวมถึง Omnichannel Platform B2C – B2B ขณะที่ราคาหุ้นระยะสั้นยังน่าจะรักษาระดับใกล้เคียงราคา Tender Offer ที่ 43.50 บาท โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ คงแนะนำ "ซื้อ"

ทั้งนี้ จากการขายหุ้น PO เพิ่มทั้งในส่วนของ MAKRO, CPALL, CPF คาดจะช่วยแก้ปัญหา ฟรีโฟลต(Free Float) ให้ MAKRO และมีโอกาสกลับสู่ SET50 ได้ในระยะถัดไป

CPF เป็นบวก จาก Unlock value จากการลงทุนใน Lotus's มาเป็น MAKRO แทน ซึ่งมีสภาพคล่องมากขึ้น และหลังจากนั้นจะได้ผลบวกจากการขายหุ้น MAKRO แบบ PO จำนวนไม่เกิน 181.6 ล้านหุ้น หรือ 1.85% ของจำนวนหุ้นของ MAKRO ทั้งหมดภายหลังการโอนกิจการ Lotus's เพื่อไปลดภาระหนี้สินในอนาคต และ Synergy ในอนาคต จากการขายอาหารสดเข้า MAKRO และ Lotus's ในไทยเพิ่มขึ้นในระยะยาว และหาก MAKRO และ Lotus's ขยายธุรกิจในต่างประเทศ เพราะ CPF มีการลงทุนใน 17 ประเทศทั่วโลก จึงสามารถขายอาหารสดระหว่างกันได้ อีกทั้งผลบวกทางอ้อมจากการถือหุ้น CPALL 34.12% ของทุนชำระแล้ว ที่จะได้ผลบวกในระยะยาวเช่นกัน จึงยังแนะนำซื้อ CPF กำหนดราคาเป้าหมาย ปี 2565 เท่ากับ 31 บาท

ทั้งนี้ กระบวนการโอนธุรกิจทั้งหมดจะเสร็จ ต.ค.64 โดยหลังแล้วเสร็จ CPG + CPF จะต้องทำการ Tender offer ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย MAKRO เดิม 332 ล้านหุ้น หุ้นละ 43.5 บาท เท่ากับราคาหุ้น MAKRO ที่ได้มาผ่าน ซึ่งการแลกหุ้นหลังจากนั้น ในส่วนของ MAKRO จะมีการเสนอขายหุ้น PO โดยเป็นหุ้นใหม่ 1.36 พันล้านหุ้น (เพิ่มจากหุ้นที่รวม PP ที่ 9.81 พันล้านหุ้น) โดยปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดราคา PO อีกทั้งจะขายหุ้นของผู้ถือหุ้น MAKRO คือ CPALL และ CPF ออกมาด้วยในช่วง PO ถือเป็นการ Unlock Value MAKRO และ Lotus's พร้อมกัน รวมถึงเป็นการแก้ไขปัญหา Free Float ของ MAKRO และช่วยให้ได้เงินกลับเข้ามาที่ทั้ง MAKRO, CPALL และ CPF คาดจะไปขยายธุรกิจและลดภาระหนี้