• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Joe524

#3561


การแข่งขันวอลเลย์.ยุวชนหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีชิงแชมป์โลก ที่สนามเฟนาดู รัฐดูรังโก้ ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 รอบแรก กลุ่ม ซี. ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ ทีมชาติเปอร์โตริโก

โดยรายชื่อผู้เล่น 6 คนแรกของทีมชาติไทย ประกอบด้วย ดลพร สินโพธิ์, สุชานันท์ แน่นอุดร, อัมพา สนสุรัตน์, อริสรา ลุนไธสง, ภิญญดา โต๊ะพ่อ, กัญญาณัฐ พลมะศรี ตัวรับอิสระ ณัฐมน เหลืองวัฒนวิไล

ซึ่งผลการแข่งขันปรากฎว่า ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มร้อนแรง เอาชนะไป 3-0 เซต 25-20, 25-23, 25-20 คะแนน ขณะที่ ดลพร สินโพธิ์ เป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดของทีมรวมทั้งสิ้น 14 คะแนน

สำหรับผลงานของทีมชาติไทย แข่งขัน 4 นัด ชนะ 2 แพ้ 2 มี 7 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 3 ของกลุ่ม ซี. ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยจะแข่งขันในวันที่ 27 กันยายนนี้ โดยสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทาง Youtube : Volleyballworld
#3562


บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด รับรางวัล Chachoengsao Labour Management Excellence Award 2021 จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจัดขึ้นเพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติคุณสถานประกอบกิจการ ประกอบด้วย 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001-2563) และรางวัลสถานประกอบกิจการที่นำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (Good Labour Practices : GLP) ประจำปี 2564

นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการสายงานผลิต บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด เปิดเผยว่า การได้รับรางวัลดังกล่าวตอกย้ำถึงบรรทัดฐานการปฏิบัติต่อแรงงานที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบทางสังคม ที่มุ่งเน้นถึงการสร้างระบบการจัดการให้สามารถรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอกที่กระทบต่อการดำเนินงาน ด้วยการมีระบบการจัดการที่ชัดเจน และตอกย้ำถึงการเป็นสถานประกอบกิจการที่สามารถดำเนินงานผ่านระบบการจัดการ สิทธิมนุษยชน สภาพการจ้าง สวัสดิการ และความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และพร้อมก้าวสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานอย่างยั่งยืนต่อไป

สำหรับพิธีมอบรางวัล Chachoengsao Labour Management Excellence Award 2021 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 โดยมี นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล และมีนายประสิทธิ์ ปาตังคะโร สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สถานประกอบกิจการ และสถานศึกษา เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลฯ จัดขึ้นโดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติคุณสถานประกอบกิจการในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีระบบบริหารจัดการที่ดี ประจำปี 2564

นายกมลดิษฐ กล่าวว่า นอกจากมาตรฐานด้านแรงงานที่บริษัทดำเนินการอย่างเข้มข้นแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือชุมชนรอบอำเภอบางปะกง ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานผลิต โดยดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ มอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนรอบข้าง รวมถึงมีแผนในการจัดโครงการต่างๆ ที่ครอบคลุมด้านการศึกษา ดนตรี และกีฬา อาทิ ฝึกสอนฟุต., สนับสนุนอุปกรณ์กีฬา ฯลฯ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม และชุมชนรอบอำเภอบางปะกง

บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มของคาราบาว กรุ๊ป โดยโรงงานทั้งหมดตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายในพื้นที่ 180 ไร่ ประกอบด้วยโรงงานผลิตขวดแก้ว (APG) โรงงานบรรจุสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง (CBD) โรงงานผลิตกระป๋องอลูมิเนียม (ACM) และโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ เช่น กล่อง ฉลาก และฟิล์มใส (APM) ซึ่งทั้งหมดเป็นฐานการผลิตแบบครบวงจรของคาราบาว เพื่อผลิต และจัดส่งสินค้าเครื่องดื่มทั้งที่จำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ อีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลก

#คาราบาว #คาราบาวแดง #Carabao #CarabaoGreenApple
#สินค้าระดับโลก #แบรนด์ระดับโลก #WorldClassProduct #WorldClassBrand
#3563

"ไดร์เป่าผม" อุปกรณ์ช่วยทำผมเองที่บ้าน อย่างไรก็ตามเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคนจำนวนไม่น้ิยต้องกำลังมีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้งานแบบผิด ๆ เสี่ยงสร้างปัญหาผมเสียก่อนเวลาอันควร จึงตั้งใจนำข้อมูลดี ๆ มาแชร์เรื่องต้องรู้กับข้อห้ามของการใช้งานอุปกรณ์ทำผมชนิดนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจใหม่ ไม่มีปัญหาเรื่องผมเสียกวนใจในอนาคต
5 ข้อห้ามเมื่อจะเลือกใช้งานไดร์เป่าผม เรื่องของผมที่สาว ๆ ต้องทราบ
1. เลือกเป่าผมทั้งที่ยังเปียก
เป็นข้อห้ามแรกที่หลายคนต้องรู้ก่อนเลย ไม่ควรเป่าผมขณะที่ยังเปียก เนื่องด้วยตอนนั้นผมจะมีความอ่อนแอมาก การนำความร้อนไปสัมผัสยิ่งทำให้เสียความชุ่มชื้นของเส้นผมเข้าไปใหญ่ แนะนำว่าเช็ดผมจนแห้งหมาด ๆ แล้วค่อยเป่า ช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ในระดับหนึ่ง แม้กระนั้น ปัจจุบันไดร์หลายยี่ห้อมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น ไดร์เป่าผม dyson ที่มีระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ อ่อนโยนต่อเส้นผม และหนังศีรษะ ช่วยให้การเป่าผมปลอดภัยขึ้น
2. หลังสระผมมาใหม่ ๆ ก็เป่าผมทันที
หลาย ๆ ท่านไม่รู้คิดว่าต้องรีบเป่าผมให้แห้ง หลังสระผมมาแล้วก็ใช้ไดร์เป่าทันที ทั้งที่จริงแล้วผมของเราจะพันกันยุ่งไปหมด ใช้ความร้อนทันทีจึงไม่ดีแน่นอน แนะนำว่าให้เช็ดผมแห้งหมาดแล้วสางผมออกเบา ๆ ให้ผมเรียงเส้นเป็นระเบียบ ต่อจากนั้นจึงค่อยเป่าผมให้แห้งง่ายขึ้น 
3. เป่าผมเสร็จแล้วไม่บำรุงเส้นผม
นี่ก็เป็นอีกข้อห้ามที่หลังจากเป่าผมเสร็จก็ปล่อยละเลย ทั้งที่จริงเราควรบำรุงเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเลือกใช้ไดร์เป่าผม dyson ไดร์เป่าผม Philips หรือยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีนวัตกรรมช่วยเส้นผมสุขภาพแข็งแรงอย่างไรก็ตาม แนะนำว่าให้ทาเซรั่มหรือครีมบำรุงเส้นผม เป็นการเพิ่ม / ล็อกความชุ่มชื้น 
4. ขณะเป่าไม่แบ่งผมออกเป็นช่อ
สุดท้ายคือการที่เราเป่าผมไปดื้อ ๆ โดยไม่มีการแบ่งผมเป็นช่อ จะทำให้ผมแห้งไม่สม่ำเสมอ แนะนำว่าควรแบ่งเป็นช่อ ๆ แล้วเป่า เริ่มจากด้านในออกมาด้านนอก เป่าจนเส้นผมแห้งสนิท หากผมจุดไหนแห้งไม่สนิทเมื่อทำผมต่อ อาทิเช่น ใช้เครื่องหนีบ หรือม้วนผม พอความร้อนไปถูกตรงที่แห้งไม่สนิทก็ทำผมเสีย ผมไหม้ได้
นอกจากนี้ ควรเลือกหวีที่เหมาะสมต่อการใช้ไดร์เป่าผมด้วย โดยหวีที่อยากแนะนำควรมีลักษณะเป็นม้วนกลม หรือ Round Bush ช่วยจัดทรงผมได้ดี ไดร์ผมตรงจุด อยากลอนช่วงปลายก็ไม่มีปัญหา ทั้งนี้บ้านเราเรามีหลายยี่ห้อ ได้แก่ ไดร์เป่าผม dyson ไดร์เป่าผม Philips หรือยี่ห้ออื่น ๆ อยากให้ลองศึกษารายละเอียด ฟังก์ชันการทำงานก่อนหาซื้อเสมอ
เข้ารับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP160101
 
#3564

แฟลช เอ็กซ์เพรส สาขาวังน้อย ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 10 บริษัทต้นแบบ "อยุธยาโมเดล"โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากสถานประกอบการทั้งหมด 2,700 แห่ง ที่มีส่วนร่วมการพัฒนาให้ได้มาตรฐานในการจัดการป้องกันและควบคุมโรคCovid-19 ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมเข้ารับเกียรติบัตรจากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ย้ำมุ่งมั่นสร้างความปลอดภัยอย่างยั่งยืน เพื่อชุมชน สังคม องค์กร และลูกค้า

นางจรัสพักตร์ การปลื้มจิตต์ Group Partner กลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) เปิดเผยว่า บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุสัญชาติไทยขนส่งเอกชนไทยรายแรกที่ก้าวสู่ยูนิคอร์นระดับสากล โดยศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อย ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 10 สถานประกอบกิจการที่ดีเยี่ยมจากสถานประกอบการทั้งหมด 2,700 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีส่วนร่วมการพัฒนาจัดการป้องกันและควบคุมโรคCovid-19 จากโครงการ "อยุธยาโมเดล" สถานประกอบกิจการต้นแบบมาตรฐานในการจัดการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)ในสถานประกอบกิจการ โดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ,สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทำแผนที่จะพัฒนาแนวทางในการสร้างโรงงานต้นแบบ ที่มีการควบคุมโรคป้องกันการแพร่ระบาดเพื่อที่จะสร้าง SOP (Standard Operation Procedure) ขึ้นมา และคาดหวังให้สถานประกอบการทั้งหมดภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานำไปเป็นตัวอย่าง ตลอดจนจะได้เป็นแนวทางที่จังหวัดอื่นๆได้นำไปใช้ต่อได้

สำหรับการบริหารจัดการป้องกัน และควบคุมโรคCovid-19 ในรูปแบบ Bubble and Seal ภายในศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อย ที่ทางแฟลช เอ็กซ์เพรส ได้ดำเนินการพัฒนาจนได้รับเลือกเป็นบริษัทฯต้นแบบในครั้งนี้ประกอบไปด้วย การบริหารจัดการด้านพนักงาน ที่ให้พนักงานทุกคนที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ต้องมีการวัดอุณหภูมิทุกครั้ง จัดให้มีจุดล้างมือด้วยสบู่ และก่อนเข้าพื้นที่ต้องสวมหน้ากาก สวมถุงมือ พกน้ำดื่มส่วนตัว พร้อมทั้งกำหนดจุดระยะห่างเพื่อลดความแออัดในขณะปฎิบัติหน้าที่เพื่อไม่ให้ปะปนกัน เช่นเดียวกับบริเวณที่พักผ่อน พักรับประทานอาหารที่มีการเว้นระยะห่างมีที่กั้น และกำหนดที่นั่งอย่างชัดเจนแต่ละคน อีกทั้งมีการพ่นฆ่าเชื้อทุกช่วงพักเปลี่ยนกะทำงาน และมีจุดแอลกอฮอล์ให้สำหรับล้างมือทั่วคลังสินค้า นอกจากนี้พื้นที่ภายในศูนย์มีการจัดการเรื่องการถ่ายเทของอากาศภายในโดยกำหนดจุดพัดลมในทิศทางเดียวกัน และมีการแยกประเภทของขยะให้ชัดเจนโดยเฉพาะขยะที่ติดเชื้อ ในส่วนรถขนส่งพัสดุมีการบริหารจัดการรถที่เข้ามาในพื้นที่ต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานขับรถทุกคนทุกคันก่อนเข้ามาภายในศูนย์ พร้อมทั้งต้องมีใบยืนยันผลการตรวจก่อนเข้ามาในศูนย์กระจายพัสดุอีกด้วย

นอกจากนี้ แฟลช เอ็กซ์เพรส ยังได้นำมาตรฐานการเป็นโรงงานต้นแบบ "อยุธยาโมเดล" ดังกล่าวไปใช้ในสาขาอื่นๆทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ด้วยคำนึงว่าพัสดุทุกชิ้นที่ส่งโดยบริษัทฯจะมีความปลออดภัยในด้านสุขอนามัยอย่างแน่นอน
#3565
สนใจติดต่อเรา หจก.บิวตี้เฟล็กซ์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง
โทร.080-9006306
Line ID :0809006306
หรือกอเข้าไลน์ได้ที่นี่ : https://line.me/ti/p/EK6tQ369A0
https://www.youtube.com/watch?v=LezIpkyxYmA
รับประกอบเชื่อมงานสแตนเลส ตามต้องการทุกอย่าง ทุกแบบ





 
#3566
มารดาแม่ตั้งครรภ์ทานข้าวกล้องออแกนิค Low GI ข้าวอร่อยโภชนาการสูงสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร ข้าวสุรินทร์ 100%
กลุ่มข้าวอินทรีย์สุรินทร์ จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวอินทรีย์  มาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์  ต้นข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวเกษตรอินทรีย์)
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ  ข้าวorganic  " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวมะลินิลorganic, ปลูกข้าวมะลินิลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวผกาอำปึลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิคสำหรับทารก, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9. ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.ข้าวปะกาอำปึล  ข้าวกล้องผกาอำปึลอินทรีย์(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวสุขภาพผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงปลอดสารพิษ 6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลสุขภาพ
7. ข้าวไรซ์เบอรี่organic  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3567

ศึกกอล์ฟ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการกอล์ฟโลก หลังผนึกกำลังเซ็นสัญญา 10 ปีกับเอเชียนทัวร์ เริ่มตั้งแต่ปี 2022 พร้อมเพิ่มเงินรางวัลชิงชัย

เอเชียนทัวร์ ร่วมกับ สหพันธ์กอล์ฟซาอุดิอารเบีย และกอล์ฟซาอุดิ แถลงข่าวการผนึกกำลังเป็นพันธมิตรครั้งประวัติศาสตร์ในวงการกอล์ฟโลก จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่ "ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พรีเซนเต็ดบาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนต์ แอดไวเซอร์" โดยเซ็นสัญญายาว 10 ปี เริ่มปีหน้า ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 166 ล้านบาท แข่งขันระหว่างวันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ 2022 ที่สนามกรีนส์กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันไปทั่วโลก โดยมีไอเอ็มจี บริษัทชั้นนำด้านกีฬา แฟชั่นและสื่อ ดูแลการจัดการแข่งขัน

โดยก่อนหน้านี้การแข่งขันกอล์ฟรายการ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล เป็นรายการในโปรแกรมการแข่งขันของยูโรเปียนทัวร์ เริ่มจัดในปี 2019 ชิงเงินรางวัลรวมปีละ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ได้รับความสนใจจากนักกอล์ฟฝีมือระดับแถวหน้าของโลกร่วมชิงชัยคับคั่ง เป็นรองแค่ทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์เท่านั้น การเซ็นสัญญากับเอเชียนทัวร์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับการแข่งขันรายการที่มีชื่อเสียงในตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญทั่วโลก

มาเจด อัล-ซอรูร์ ประธานบริหารกอล์ฟซาอุและสหพันธ์กอล์ฟซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า "วันนื้ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการพัฒนาการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่ของเรา และสานต่อวิสัยทัศน์ของเราในการส่งเสริมและยกระดับรายการกอล์ฟระดับโลก ทั้งในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (จีซีซี) และเวทีระดับนานาชาติ ภูมิภาคเอเชียมีบทบาทสำคัญในเวทีกอล์ฟโลก โดยเฉพาะในฐานะผู้มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจระดับโลก การร่วมมือกับเอเชียนทัวร์ในครั้งนี้ จะช่วยปลดล็อกและเพิ่มโอกาสมากมายสำหรับนักกอล์ฟ ผู้สนับสนุน และแฟนกีฬากอล์ฟ ที่สำคัญที่สุดคือเรามีความกระตือรือร้นที่จะจัดการแข่งขันที่มีความครอบคลุมทุกด้านมากขึ้น ก้าวข้ามขอบเขตของกีฬาครอบคลุมทุกพรหมแดนและวัฒนธรรม โดยส่งเสริมความร่วมมือกับทัวร์ใหญ่ๆ และนี่คือก้าวแรกที่จะนำไปสู่จุดหมายนั้น"

ด้านโช มิน ตัน กรรมาธิการและประธานบริหารของเอเชียนทัวร์ เผยว่า "นี่คือการพัฒนาที่สำคัญของเอเชียนทัวร์ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายสำหรับสมาชิกในทัวร์ของเรา ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การแข่งขันกอล์ฟรายการ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พรีเซนเต็ดบาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนต์ แอดไวเซอร์ส เป็นรายการระดับโลก เรารู้สึกตื่นเต้นที่การแข่งขันรายการนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเอเชียนทัวร์ และนำไปสู่การขยายฐานของเราไปยังพรหมแดนใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น"

นอกจากนี้ ทางเอเชียนทัวร์กำลังวางแผนกำหนดโปรแกรมการแข่งขันรวมฤดูกาล 2020/2021 หลังเผชิญผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะประกาศกำหนดการแข่งขันใหม่ในเร็วๆนี้
#3568


วันที่ 1 ต.ค. ที่จะถึงนี้ กระทรวงการคลังมีกำหนดจะเริ่มใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่แทนโครงสร้างปัจจุบันที่ใช้มาตั้งแต่ 16 ก.ย. 2560 และมีกระแสข่าวว่าเครือข่ายรณรงค์ต่อต้านยาสูบกำลังกดดันกระทรวงการคลังอย่างหนักให้ขึ้นภาษีบุหรี่ในอัตราสูง เพื่อลดการสูบบุหรี่และเพิ่มรายได้ภาษีให้รัฐ โดยปฏิเสธว่าการขึ้นภาษีเป็นตัวทำให้เกิดปัญหาบุหรี่เถื่อน

นายสุเทพ ทิมศิลป์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ ให้ความเห็นว่ารัฐมีบทเรียนจากการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่รอบที่แล้วเมื่อปี 2560 ซึ่งทำให้บุหรี่ยี่ห้อหลักๆ ของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ต้องขึ้นราคา 10-30 บาทต่อซอง หรือราว 20%-50% เพราะภาระภาษีเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในชั่วข้ามคืน จึงเกิดปัญหาบุหรี่เถื่อนทะลักเข้ามามากขึ้นถึง 29%ในที่สุดกำไรของ ยสท. ลดลงไป 94% จาก 9.3 พันล้านบาทเมื่อปี 2560 เหลือเพียง 550 ล้านบาทในปี 2563 ทำให้ ยสท. เองก็ไม่มีกำลังและความต้องการซื้อใบยาสูบมากเหมือนเมื่อก่อน

"ท่านรัฐมนตรีอาคมไม่ควรอ่อนไหวไปกับกระแสกดกันของกลุ่มเอ็นจีโอถ้าคิดกันเพียงว่าการขึ้นภาษีสูงๆ จะช่วยดูแลสูขภาพคนไทยและเพิ่มรายได้ภาษีให้รัฐ แต่ไม่ได้ประเมินสภาพความเป็นจริงในประเทศอย่างรอบด้านอย่างแท้จริงเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดปัญหาซ้ำรอยปี 2560 ที่ทำให้บุหรี่ถูกกฎหมายต้องขึ้นราคาอย่างก้าวกระโดดจนบุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมืองจะหวังการปราบปรามก็ทำได้ไม่ทั่วถึงซึ่งเป็นปัญหากับอาชญากรรมอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องบุหรี่เถื่อนนี่คือเหตุผลว่าทำไมตอนนี้บุหรี่เถื่อนถึงทะลักเข้ามามากตอนนี้ไม่ใช่แค่กำไรของ ยสท. และรายได้ของชาวไร่ยาสูบเท่านั้นที่ลดลง แต่รายได้ภาษีสรรพสามิตยาสูบของรัฐบาลที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ก็ลดลงทุกปีเช่นกัน"

สุเทพ ทิมศิลป์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ
สุเทพ ทิมศิลป์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ

นายสุเทพกล่าวถึงผลกระทบในอุตสาหกรรมยาสูบจนถึงปัจจุบันว่า "เกษตรกรและเครือข่ายผู้ค้าบุหรี่ที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายอีกเกือบ 500,000 คนทั้งต้นน้ำ-กลางน้ำและปลายน้ำได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอดระยะเวลาเกือบ 82 ปี ที่ตั้งโรงงานยาสูบ จนมาถึงการเป็นการยาสูบแห่งประเทศไทยและทำให้เกษตรกรซึ่งปลูกยาสูบนั้นได้รับผลกระทบและต้องออกมาประท้วงกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน และที่สำคัญก็คือผู้สูบบุหรี่ก็ไม่ได้ลดน้อยลงตามวัตถุประสงค์ที่เครือข่ายต่อต้านได้ตั้งความหวังไว้ ผลกำไรสุทธิ 88% ที่ยสท. ต้องนำส่งเข้าคลัง ก็ไม่ได้มีการนำส่งมาตั้งแต่ปี 2560 เท่ากับเม็ดเงินในการบริหารประเทศหายไปถึง 34,000 ล้านบาท ภาษีก็เก็บได้น้อยลง แต่บุหรี่เถื่อนได้ประโยชน์มากขึ้น"

นายสุเทพเสนอว่า "สำหรับการปรับโครงสร้างภาษีครั้งใหม่ที่จะใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไปนั้น อยากวิงวอนฝ่ายนโยบายและท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่สมัยปี 2560 ว่าอย่าทำพลาดซ้ำสอง ขอให้ภาระภาษีใหม่นี้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ถ้าบุหรี่ถูกกฎหมายต้องขึ้นราคาอีก 6-8 บาทตามข่าวก็ถือว่ามากแล้ว ขอให้ ยสท. พร้อมพนักงานและลูกจ้างเกือบ 3 พันชีวิต ได้ลืมตาอ้าปากบ้าง"

สงกรานต์ ภักดีจิตร 
สงกรานต์ ภักดีจิตร

นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ หนึ่งในแกนนำภาคีชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตั้งแต่ที่ชาวไร่ยาสูบถูก ยสท. ตัดโควตารับซื้อในปี 2561 มาต่อเนื่อง 4ปีหลังจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่เมื่อปี 2560 นั้น ที่ผ่านมาชาวไร่ได้เงินชดเชยเพียงปีเดียวคือของปี 2561

"ตอนนี้พี่น้องชาวไร่ยาสูบกว่า 30,000 ครอบครัวในจังหวัดภาคเหนือ อีสานและภาคกลาง ต่างฝากความหวังไว้ที่ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนายอาคมว่าจะไม่ปล่อยให้โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ซ้ำเติมปัญหาปากท้องซึ่งลำบาก

มากอยู่แล้วตอนนี้ หากบุหรี่ต้องขึ้นราคาไปถึง 8 บาทต่อซอง ไปขายที่ราคา 68 บาท ตามที่เป็นข่าวจริง ๆ พวกเราคงต้องโดนการยาสูบฯ ลดโควตารับซื้อใบยาสูบลงอีกแน่ ๆอีกวันสองวันนี้เราจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการคลังเพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ"

"สำหรับเรื่องเงินชดเชยพวกเราเรียกร้องมาต่อเนื่องทุกปีแต่ก็ยังไร้วี่แวว อยากฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและท่านนายกรัฐมนตรีว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่อ่อนแอแบบนี้หวังว่าท่านจะเห็นใจพวกเราบ้าง อย่าคิดแต่จะขึ้นภาษีมากๆ เป็นการซ้ำเติมชาวไร่ตามที่นักวิชาการเรียกร้อง เพราะเจ็บมาพอแล้วในปี 2560 ดังนั้นในครั้งนี้ขอให้ท่านฟังเกษตรกรรากหญ้าอย่างพวกเราบ้างไม่ใช่ฟังแต่หมอหรือนักวิชาการที่เอาแต่เป้าหมายสุขภาพโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ" นายสงกรานต์กล่าว
#3569



ถึงแม้มหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกจำนวนมากยังคงเป็นสถาบันการศึกษาในสหรัฐฯ แต่ผลการศึกษาวิจัยชิ้นใหม่แสดงให้เห็นว่า ภายในปี 2025 นี้ พวกมหาวิทยาลัยจีนจะสามารถผลิตผู้จบการศึกษาปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี-วิศวกรรม-คณิตศาสตร์ หรือที่เรียกกันว่า "สะเต็มศึกษา" ได้เป็นจำนวนเกือบๆ 2 เท่าตัวของที่สหรัฐฯทำได้

โตเกียว - ในบทความชิ้นก่อน เรื่อง China-US contest will come down to education (การแข่งขันระหว่าง'จีน-สหรัฐฯ' ใครแพ้ใครชนะจะตัดสินกันที่'การศึกษา') ผมได้เขียนถึงวิกฤตการณ์ในการศึกษาระดับประถมและระดับมัธยมของอเมริกัน อย่างที่ผมได้สัญญาเอาไว้ในข้อเขียนดังกล่าว สำหรับในบทความชิ้นนี้ผมจะพูดถึงความเสื่อมโทรมย่ำแย่ลงโดยเปรียบเทียบของพวกมหาวิทยาลัยอมริกันในสาขาวิชาทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม, และคณิตศาสตร์ (science, technology, engineering and mathematics เรียกย่อๆ ว่า STEM ภาษาไทยมีผู้ใช้ว่า สะเต็มศึกษา -ผู้แปล)
(ดูบทความเรื่อง China-US contest will come down to education ภาษาอังกฤษได้ที่ https://asiatimes.com/2021/07/china-us-contest-will-come-down-to-education/ สำหรับที่เก็บความเป็นภาษาไทยแล้ว ดูได้ที่ https://mgronline.com/around/detail/9640000092985)

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ ยังไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างถนัดชัดเจนแล้ว มหาวิทยาลัยระดับดีที่สุดของโลกจำนวนมากยังคงเป็นสถาบันการศึกษาในสหรัฐฯ พวกเขายังคงรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณอันดีเลิศเอาไว้ได้

ตัวอย่างเช่น ในการจัดอันดับ "มหาวิทยาลัยทั่วโลกยอดเยี่ยม" (Best Global Universities) ประจำปี โดยนิตยสาร ยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ต (US News & World Report) ซึ่งล่าสุดจัดกันเป็นปีที่ 7 และนำออกเผยแพร่เมื่อเดือนตุลาคม 2020 นั้น พบว่าในจำนวนสถาบันการศึกษาระดับท็อป 25 แห่ง มี 19 แห่งทีเดียวเป็นสถาบันอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ QS (QS World University Ranking) ซึ่งเผยแพร่โดย ควัคควาเรลลี ไซมอนด์ส (Quacquarelli Symonds) บริษัทในสหราชอาณาจักร และอาจจะมีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลมากกว่า เวอร์ชั่นของล่าสุดซึ่งออกมาเมื่อเดือนกรฎาคมปีนี้ พบว่า มหาวิทยาลัยท็อป 25 ของทั่วโลก มี 12 แห่งอยู่ในสหรัฐฯ, 5 แห่งอยู่ในสหราชอาณาจักร, 3 แห่งอยู่ในจีน, อยู่ในสิงคโปร์กับในสวิตเซอร์แลนด์ประเทศละ 2 แห่ง, และ 1 แห่งอยู่ในญี่ปุ่น
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.topuniversities.com/university-rankings/world-university-rankings/2022)

ครั้นแล้ว ตอนต้นเดือนสิงหาคม ศูนย์กลางเพื่อความมั่นคงและเทคโนโลยีเกิดใหม่ (Center for Security and Emerging Technology หรือ CSET) แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ (Georgetown University) ในกรุงวอชิงตัน ได้ออกรายงานฉบับหนึ่ง ใช้ชื่อเรื่องว่า "China is Fast Outpacing US STEM PhD Growth," (จีนกำลังมีฝีก้าวแซงหน้าสหรัฐฯอย่างรวดเร็วเรื่องอัตราเติบโตของผู้จบ PhD สาขา STEM) โดยมีข้อสรุปว่า "จากการคำนวณโดยอิงอยู่กับแบบแผนการลงทะเบียนเรียนในปัจจุบัน เราคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 มหาวิทยาลัยต่างๆ ของจีนจะผลิตผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอก PhD ในสาขา STEM เป็นจำนวนมากกว่า 77,000 คนต่อปี เปรียบเทียบกับในสหรัฐฯซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 คน"
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://cset.georgetown.edu/publication/china-is-fast-outpacing-u-s-stem-phd-growth/)

แน่นอนอยู่แล้วว่า พวกมหาวิทยาลัยจีนนั้น โดยสาระสำคัญแล้วคือมุ่งให้การศึกษาแก่พวกนักศึกษาชาวจีน ขณะที่พวกมหาวิทยาลัยอเมริกันนั้นทำหน้าที่ให้การศึกษาแก่นักศึกษาจากทั่วโลกมากกว่า ด้วยเหตุนี้ การศึกษาของจอร์จทาวน์ชิ้นนี้จึงพบว่า "ถ้าหักพวกนักศึกษานานาชาติออกไปจากตัวเลขของมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯแล้ว ผู้จบการศึกษา PhD สาขา STEM ที่เป็นชาวจีน จะมีจำนวนมากกว่าผู้สำเร็จการศึกษาที่เป็นชาวอเมริกันในอัตราส่วนมากกว่า 3 ต่อ 1 ทีเดียว"

จีนแซงหน้าสหรัฐฯในเรื่องจำนวนของผู้จบการศึกษา PhD สาขา STEM มาตั้งแต่ปี 2007 แล้ว และเมื่อถึงปี 2019 ก็นำหน้าทิ้งห่างออกไปเป็นราวๆ 47% ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเวลานี้แนวโน้มก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ ถึงแม้ย้อนกลับไปเพียงเมื่อปี 2000 นี้เอง สหรัฐฯยังผลิตผู้จบ PhD STEM ได้ในระดับเป็นกว่า 2 เท่าตัวของจีนอยู่เลย

พร้อมกันนี้ คุณภาพของการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของจีนในสาขา STEM ยังกำลังปรับปรุงดีขึ้นเรื่อยๆ

"อัตราการเติบโตขยายตัวของชาวจีนที่ลงทะเบียนเรียนระดับ PhD ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วในระยะหลังๆ มานี้ ส่วนใหญ่ที่สุดเป็นการลงทะเบียนเรียนในพวกมหาวิทยาลัยระดับคุณภาพสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อน" นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่การศึกษาของ CSET ค้นพบ และระบุว่า "เนื่องจากชาวจีนผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกมากกว่า 3 ใน 4 เป็นผู้ที่มีความชำนาญเชี่ยวชาญในสาขาทางด้าน STEM นี่จึงเป็นหลักฐานบ่งบอกว่า สายท่อบรรจุผู้มีความรู้ความสามารถด้าน STEM ของจีนกำลังแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ"

ไม่น่าประหลาดใจเลย เมื่อการศึกษานี้ยังบอกต่อไปว่า "เมื่อพิจารณาจากขนาดขอบเขตของการลงทุนที่จีนทุ่มเทลงไปในการศึกษาขั้นอุดมศึกษา และการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่มี.สูงลิ่ว ช่วงห่างในการผลิต PhD สาขา STEM สามารถที่จะกลายเป็นตัวบ่อนทำลายเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติในระยะยาวของสหรัฐฯได้"
#3570


ทางยกระดับดอนเมือง จ่อผนึกพันธมิตรรุกธุรกิจใหม่ ทั้ง รีเทล-จุดชาร์ทรถอีวี-บริการขนส่งรอง หวังเพิ่มช่องทางรายได้เติบโต หลังเงินระดมทุนช่วยปล็ดล็อคสภาพคล่องการเงินแข็งแกร่ง !

กว่าภาครัฐจะเปิดประมูล 'โครงการทางด่วน' แต่ละเส้นทางใช้เวลานานมาก... ฉะนั้น ทิศทางการเติบโตของธุรกิจโครงการสัมปทานทางยกระดับ ที่ผ่านมาจึ่งมีอัตราการเติบโตล่าช้ามาก ประกอบกับเมื่อมีการเติบโตแต่ละครั้งจำต้องใช้เงินลงทุนโครงการมูลค่า 'มหาศาล' รวมทั้งใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างกว่าจะสร้างรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 3-5 ปี

และหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีธุรกิจหลักในโครงการสัมปทานทางยกระดับ ที่มีประสบการณ์บริหาร ยาวนานกว่า 31 ปี คงต้องยกให้ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ผู้ประกอบธุรกิจบริหารโครงการสัมปทานทางยกระดับดอนเมืองช่วงดินแดงจนถึงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ (อนุสรณ์สถานฯ) ระยะทาง 21 กิโลเมตร ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ 'ตระกูลพานิชชีวะ' ที่เพิ่งนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2564 

'ศักดิ์ดา พรรณไวย' รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจและการเงิน บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ให้สัมภาษณ์พิเศษ 'หนังสือกรุงเทพธุรกิจ' ว่า ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสัมปทานทางยกระดับ (ทางด่วน) เกือบ 100% แบ่งออกเป็น 2 ส่วน นั่นคือ 1.ทางหลวงสัมปทานเดิม (Original Tollway) ตอนดินแดง-ดอนเมือง ระยะทาง 15.4 กิโลเมตร และ 2.ทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายด้านทิศเหนือ (Northern Extension) ช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ระยะทาง 5.6 กิโลเมตร 

ทว่า หลังจากบริษัทมีการเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น ! เปรียบเหมือนเป็นการ 'ปลดล็อค' ฐานะทางการเงินให้มีความแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านบริษัทได้ชำระหนี้ตามสัญญาทางการเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวจำนวน 1,683.78 ล้านบาท ทำให้ภาระหนี้สิน 'ลดลง' อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันเหลือเงินกู้ระยะสั้น ประเภทตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 300 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีอัตราส่วน 'หนี้สินต่อทุน' (D/E) ปรับลดลงจากเดิม 0.40 เท่า เป็น 0.11 เท่า 

DMT เล็งจับมือพันธมิตร ผุด ธุรกิจรีเทล สร้างการเติบโตใหม่


ฉะนั้น เมื่อบริษัทมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนแล้ว ก็พร้อมที่จะสร้างการเติบโตครั้งใหม่ ! ด้วยแผนธุรกิจระยะ 1-3 ปีข้างหน้า (2564-2566) ใน 2 ธุรกิจ คือ 1.ธุรกิจประมูลเส้นทางด่วน 2.ธุรกิจเกี่ยวเนื่องทางด่วน ซึ่งพยายามดำเนินการควบคู่กัน โดยเฉพาะการแสวงหาโอกาสขยาย 'ธุรกิจใหม่' (New Business) ด้วยนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ร่วมพัฒนาโครงการที่ภาครัฐเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน ซึ่งบริษัทศึกษาและวางแผนเข้าร่วมประมูลในโครงการที่มีศักยภาพรวมถึงได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานอย่างยั่งยืน 

สอดคล้องกับ ปัจจุบันบริษัทสนใจประมูล 'โครงการพัฒนาจุดพักรถริมทางหลวง' หรือ Rest Area ของกรมทางหลวงจำนวน 3 เส้นทาง คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กรุงเทพ-บ้านฉาง ซึ่งกรมทางหลวงมีแผนที่จะประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุนแบบ PPP จำนวน 2 แห่ง ที่ศรีราชาและบางละมุง คาดว่าจะเปิดประมูลเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2564 และแผนเปิดบริการปี 2566 

2. โครงการจุดพักรถริมทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา คาดจะเปิดประมูลปลายปีนี้ ซึ่งจะเปิดบริการปี 2566 และ3.โครงการจุดพักรถริมทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี ที่จะมีการเปิดประมูลในปี 2565 เปิดให้บริการ 2567 

โดยเมื่อ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา กรมทางหลวงได้เชิญเอกชนผู้สนใจเข้าประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น (Market Sounding) สำหรับโครงการบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กรุงเทพ-บ้านฉาง ซึ่งวันนั้นมีผู้ประกอบการเอกชนที่ทำ 'ธุรกิจรีเทล' (ค้าปลีก) สนใจร่วมเข้าฟัง 500 ราย มีทั้งที่เป็นรายใหญ่ (บิ๊กเนม) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และรีเทลรายย่อย 


ทั้งนี้ บริษัทเปิดกว้างร่วมมือกับ 'พันธมิตรในประเทศและต่างชาติ' ในการเข้าประมูลโครงการพัฒนาจุดพักรถริมทางหลวง ซึ่งปัจจุบันก็มีการคุยกันหลายราย นอกเหนือจากที่บริษัทมีพันธมิตร คือ บริษัท เครือเจริญโภคภัทฑ์ จำกัด (ซีพี) และ บริษัท ไทยรุ่งเรือง-เคอรี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท และเป็นพันธมิตร ที่อนาคตบริษัทสนใจเป็น Strategic Partner ในโครงการใหม่ๆ

โดยมองว่าอนาคตจุดพักรถริมทางจะไม่มีแค่สถานีเติมน้ำมันแล้ว แต่จะเป็นโมเดลที่พัฒนาเป็นแหล่งชอปปิ้ง หรือ แม้แต่การนำสินค้าที่เป็นโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โอทอป มาขายได้ และในอนาคตรัฐมีโครงการมอเตอร์เวย์อีกกว่า 20 เส้นทาง ระยะทางเกือบ 6,000 กิโลเมตร เพราะฉะนั้น โครงการต่างๆ ก็ต้องมีพื้นที่พัฒนาจุดพักรถริมทางอีกหลายแห่ง ดังนั้น ถือเป็นโอกาสขยายธุรกิจ ซึ่งตัวโมเดลแบบนี้มีหลายประเทศทำกัน และที่ประสบความสำเร็จมากๆ คือ ประเทศญี่ปุ่น 

DMT เล็งจับมือพันธมิตร ผุด ธุรกิจรีเทล สร้างการเติบโตใหม่

อีกทั้งยังสนใจเข้าร่วมพัฒนา 'โครงข่ายระบบขนส่งรอง' (Feeder) โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง หลังจากเริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชนเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวบริษัทได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยศึกษาการใช้ระบบ Smart Feeder มาให้บริการ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะใช้โมเดลไหน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกำลังศึกษาระบบรถโดยสารขนาดตั้งแต่ EV Mini Bus , EV Full Size Bus , และ Tram Bus เป็นต้น 

สอดรับกับบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาการให้บริการช่วยเหลือสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันให้บริการแก่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น การหาอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า ทั้งรูปแบบเคลื่อนที่สำหรับชาร์จไฟฟ้าชั่วคราวแบบ Quick Charge และการเคลื่อนย้ายรถยนต์ไฟฟ้าไปยังสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ให้บริการโดยพันธมิตร

รวมถึงการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าของบริษัท สำหรับช่วยเหลือยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป และองค์ความรู้เหล่านี้บริษัทก็จะใช้ในการวางแผนปฏิบัติการ และพัฒนาการให้บริการให้ดีขึ้นไป อีกทั้งสามารถต่อยอดไปเป็นผู้ให้บริการสำหรับทางด่วนสายอื่นๆ ในอนาคตที่ต้องดำเนินการในลักษณะนี้ต่อไปอย่างแน่นอน

สำหรับการเติบโต 'ธุรกิจหลัก' (Core Business) โครงการส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (M5) ระยะทาง 18 กม. ซึ่งจะไปเชื่อมต่อโครงการมอเตอร์เวย์โคราช ถือเป็นโครงการหน้าบ้านที่มีลักษณะคล้ายโทลล์เวย์ ซึ่งบริษัทมีความคุ้นเคย ดังนั้น จึงมีศักยภาพในการเสนอบริการที่ดีให้กับภาครัฐและประชาชน คาดจะเปิดประมูลไตรมาส 1 ปี 2565 

โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม-ชะอำ (M8) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนในแต่ละโครงการ ขึ้นอยู่กับทีโออาร์ที่จะเป็นตัวกำหนดการ แต่บริษัทมีความพร้อมไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ PPP Net Cost หรือ PPP Gross Cost ซึ่งบริษัทมีประสบการณ์แล้ว โดยในขณะนี้บริษัทจะเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งเรื่องบุคลากรและเงินลงทุน

ท้ายสุด 'ศักดิ์ดา' ทิ้งท้ายไว้ว่า กรณีรัฐเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และลดความรุนแรงของการติดเชื้อโควิด-19 จะส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้งภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
#3571

การแข่งขันรายการ 2021 U.S. FIGURE SKATING NOVICE & JUNIOR CHALLENGE SKATE ระหว่างวันที่ 15 - 19 กันยายน 2564 ณ เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

ปรากฎว่ามีนักกีฬาชาวไทยคว้าเหรียญทอง คือ 'น้องอันริ' เด็กหญิงภัทรธิดา คาเนะชิเกะ นักกีฬาของสมาคมฟิกเกอร์และสปีดเก็ตติ้งไทย และเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทอง

ทั้งนี้ 'น้องอันริ' ทำคะแนนรวม 145.34 คะแนน ในรุ่น Novice Ladies พร้อมกับคว้าเหรียญทอง โดยก่อนหน้านี้ก็เพิ่งคว้า 1 เหรียญทอง รุ่น Novice Ladies จากรายการ 2021 Colorado Springs Invitational and Rocky Mountain State Game ณ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยคะแนน Short Program 50.29 และคะแนน Free Skate 100.10
#3572


น.ส.ฐะปะนีย์ เครื่องประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงบูดาเปสต์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้คณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2021/1317 ว่าด้วยการแก้ไขปริมาณตกค้างสูงสุด (MLs) ของสารตะกั่ว (Lead) ในอาหาร และ Commission Regulation (EU) 2021/1323 การแก้ไขปริมาณตกค้างสูงสุด (MLs) ของสารแคดเมียม (Cadmium) ในอาหาร ตามลำดับ โดยปรับปรุงเพิ่มเติมจากระเบียบเก่า เนื่องจากสารดังกล่าวเป็นพิษต่อระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ อีกทั้งเป็นสารก่อมะเร็ง จึงปรับปริมาณ MLs ในสินค้าอาหารกลุ่มเสี่ยง และอาหารที่บริโภคโดยทารกและเด็กเล็ก เช่น น้ำนม นมสำหรับทารก อาหารทารก เนื้อสัตว์ ธัญพืช น้ำมัน ผัก ผลไม้ น้ำผลไม้ ไวน์ อาหารเสริม สมุนไพร เกลือ เป็นต้น ทั้งนี้ สินค้าที่ผลิตขึ้นก่อน 31 ส.ค. 2564 (วันที่ระเบียบข้างต้นมีผลบังคับใช้) อนุโลมให้จำหน่ายในท้องตลาดได้จนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2565

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปรายงานว่า การบังคับใช้กฎระเบียบดังกล่าวเป็นไปเพื่อลดปริมาณสารก่อมะเร็งในสินค้าอาหาร และส่งเสริมให้ผู้บริโภคเข้าถงอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการต่อสู้กับโรคมะเร็ง Europe's Beating Cancer Plan ปี 2564 เนื่องจากโรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประชากรทั่วโลก โดยปัจจุบันผู้ป่วยโรคมะเร็งราว 1 ใน 4 จากทั้งโลกอยู่ในพื้นที่สหภาพยุโรป โรคมะเร็งที่พบบ่อย ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ โดยจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี

น.ส.ฐะปะนีย์กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกสินค้าทางการเกษตรและสินค้าอาหารไปยังสหภาพยุโรปเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน โดยในปี 2563 สินค้าหมวดอาหารและสัตว์มีชีวิต เครื่องดื่มและยาสูบ และน้ำมัน ไขมันจากพืชและสัตว์ คิดเป็นร้อยละ 9 ของสินค้านำเข้าทั้งหมดจากประเทศไทยไปยังสหภาพยุโรป จึงนับว่าสินค้าอาหารจากไทยยังมีโอกาสทางการค้าในสหภาพยุโรปอยู่มาก แต่ผลจากสหภาพยุโรปให้ความสำคัญต่อสวัสดิภาพและสุขอนามัยของผู้บริโภคอย่างมาก จึงมีการทบทวนระเบียบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของสินค้าอุปโภคบริโภคตลอด ผู้ประกอบการไทยที่สนใจจะส่งสินค้าไปขายในฮังการีและโรมาเนีย ควรติดตามข่าวการควบคุมด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาหารจากคณะกรรมาธิการยุโรปอยู่อย่างสม่ำเสมอ

ก่อนหน้านี้ หน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority หรือ EFSA) แถลงในรายงานประเมินความปลอดภัยของสารไทเทเนียมไดออกไซด์ในวัตถุเจือปนอาหารฉบับล่าสุดว่า ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันยืนยันว่าสารไทเทเนียมไดออกไซด์มีความเสี่ยงที่เป็นพิษต่อพันธุกรรม (Genotoxicity) เป็นเหตุให้ไม่สามารถยืนยันปริมาณที่มนุษย์สามารถรับประทานและสะสมเข้าในร่างกายได้ทุกวันโดยไม่ก่อให้เกิดความผิดปกติใดๆ ต่อสุขภาพอนามัย จึงให้ถือว่าสารไทเทเนียมไดออกไซด์ไม่ปลอดภัยสำหรับการบริโภค (Unsafe) ข้อมูลชุดนี้จะเป็นข้อมูลสำคัญให้แก่คณะกรรมาธิการยุโรปในการพิจารณาห้ามใช้สารดังกล่าวในการผลิตอาหารทั้งสหภาพยุโรปในอนาคต ขณะที่ฝรั่งเศสได้ห้ามใช้สารดังกล่าวในสินค้าอาหารที่จำหน่ายในประเทศตั้งแต่ปี 2562 โดยชี้แจงว่าไม่มีหลักฐานยืนยันความปลอดภัยของสารดังกล่าวต่อผู้บริโภคในระยะยาว

สารไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium dioxide : TiO2) หรือมักเรียกในวงการอุตสาหกรรมอาหารว่า E171 โดยทั่วไปมีสีขาว ทึบแสง ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เนื่องจากไม่มีกลิ่น และดูดซับได้ดี ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอาหารมักใช้สารไทเทเนียมไดออกไซด์ในสารแต่งสีขาว เช่น ซุป น้ำสต๊อก ซอสปรุงรส ลูกกวาด หมากฝรั่ง แป้ง น้ำตาลตกแต่งหน้าเค้กและขนมอบต่างๆ รวมทั้งน้ำตาลไอซิ่ง เป็นต้น ปรุงแต่งสีอาหารให้มีสีนวลขึ้น และใช้เคลือบฟิล์มบนพื้นผิวผลิตภัณฑ์ขนมไม่ให้ขนมติดกัน แต่มิได้มีคุณค่าทางโภชนาการแต่อย่างใด และยังใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอื่นๆ เช่น ใช้เป็นส่วนประกอบของบรรจุภัณฑ์ เวชภัณฑ์ ยาสีฟัน เครื่องสำอาง ครีมกันแดด สีทาบ้าน เป็นต้น เนื่องจากมีคุณสมบัติเพิ่มความข้นหนืด ทำให้ผิวกระจ่างใส นุ่มลื่น และป้องกันแดดจากคุณสมบัติทึบแสงและการดูดกลืนรังสี UV ได้
#3573


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองแชมป์เก่า พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เตรียมล้างบางช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมนี้ คาดว่านักเตะ 7 คน จะถูกโละทิ้ง เพื่อรวบรวมทุุนคว้า ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด

'เดอะ ซัน' แท็บลอยด์หัวดังของอังกฤษ รายงาน อองโตนี มาร์กซิยาล, เจสซี ลินการ์ด, ดอนนี ฟาน เดอ บีก, ฟิล โจนส์, เอริค ไบญี, ดีเอโก ดาโลต์ และ อเล็กซ์ เตลเลส ต่างอยู่ในข่ายอำลาถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ตามลิสต์ดังกล่าว ไม่มีใครลงเล่นสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงไม่น่าส่งผลกระทบตอทีมชุดหลัก หรือการขยายขนาดทีม 'ปืศาจแดง' หากดึงคนใหม่มาทดแทน

เข้าใจว่า ยูไนเต็ด วางแผนนั่งโต๊ะพูดคุยกับนักเตะเกี่ยวกับอนาคต ก่อนรอบการซื้อ-ขายฤดูหนาว หลังปีใหม่

มาร์กซิยาล อายุเพิ่ง 25 ปี กลายเป็นส่วนเกิน หลังการเซ็นสัญญา คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังโปรตุกีส มาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของแนวรุก

ลินการ์ด วัย 28 ปี เกือบย้ายไป เวสต์ แฮมฯ แบบถาวร ช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ ยืนยันว่า ยังอยู่ในแผนการทำทีม

อย่างไรก็ตาม กองกลางดีกรีทีมชาติอังกฤษ ลงเล่นเพียง 28 นาที เฉพาะเกมลีก และเพิ่งมอบของขวัญให้ ยัง บอยส์ ยิงประตูชัยทดเจ็บ เกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม วันอังคารที่ผ่านมา (14 ก.ย.)

ฟาน เดอ บีก วัย 24 ปี ลงเล่นแค่ 5 นาที เฉพาะเกมลีก และยังมีปัญหาด้านการปรับตัว ขณะที่การย้ายมาของ ราฟาเอล วาราน ปิดกั้นโอกาสสำแดงฝีเท้าของ ไบญี และ โจนส์

สุดท้ายนี้ โซลชา ยังต้องการขาย ดาโลต์ กับ เตลเลส ฟูลแบ็กสำรอง จึงมีความจำเป็นต้องมองหาคนมา สแตนด์ บาย อารอน วาน-บิสซากา กับ ลุค ชอว์ กรณีปล่อยตัวทิ้ง
URL
 546
 
#3574


อิชิตัน ลุยต่อตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ส่งสินค้าใหม่ ผสมวิตามิน เกาะกระแสผู้บริโภครักสุขภาพ สานกลยุทธ์บุกช่องทางจำหน่าย "ร้านค้าทั่วไป" หลังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ร้านสะดวกซื้อเจอพิษโควิด "ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวส์" กระทบเปิด-ปิดร้าน ทำยอดขายดิ่ง

ตลาดชาเขียวผ่านยุคเฟื่องฟู ผู้ประกอบการขับเคี่ยวทำตลาด โปรโมชั่น หนุนการเติบโต และช่วงชิง "ส่วนแบ่งทางการตลาด" ทว่า การโหมแคมเปญ อัดเงินมหาศาลห้ำหั่นกัน จึงเป็นตัวเลขเติบโตที่ "ลวงตา" สุดท้าย ค่ายใหญ่ปรับเกมกันใหม่ เพื่อให้ธุรกิจมี "กำไร" ท่ามกลางตลาดหดตัว 

นอกจากนี้ ทิศทางตลาดที่ดิ่งลง ทำให้เจ้าพ่อชาเขียว "ตัน ภาสกรนที" ปรับตัว หาหมากรบใหม่ๆ บุกตลาดเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ 1-2 ปีที่ผ่านมา "น้ำผสมวิตามิน" มาแรง จึงเบนทิศรับเทรนด์ เสริมพอร์ตโฟลิโอ ผลักดันให้ Non-Tea หรือธุรกิจที่ไม่ใช่เครื่องดื่มชาเขียว มาช่วยทำเงินอีกขา 

ทว่า ชาเขียวยังเป็นธุรกิจหลัก โจทย์ที่ผ่านมา คือการพยายามมุ่งเจาะช่องทางขายผ่าน "ร้านค้าทั่วไป" หรือ Traditional Trade: TT อย่างต่อเนื่อง เพราะการขายออก "เร็ว" ถูกกฎหมายเชื่อถือได้และยังทำ "กำไร" ในเกณฑ์ที่ดี 

ล่าสุด กลยุทธ์การทำตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม "อิชิตัน" ได้เกาะกระแสสุขภาพ  ส่ง "อิชิตัน กรีนที เอ็กซ์"  เจาะกลุ่มเป้าหมาย โดยจุดขายของสินค้าใหม่ คือการจับชาเขียวมารวมกับหรือเอ็กซ์(X : Collaboration)กับวิตามิน เพื่อให้ผู้บริโภคได้คุณประโยชน์ครบจบในขวดเดียว จากชาเขียว และคุณค่าของวิตามิน A และวิตามิน C ซึ่งนำเข้าจากยุโรป รับกระแสสุขภาพ ฮอตฮิตในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยอย่างมากท่ามกลางโควิดระบาด เพราะวิตามิน C  มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ให้ร่างกายพร้อมสู้กับเชื้อโรคอยู่เสมอ 

ทั้งนี้ อิชิตัน กรีนที เอ็กซ์ มาในขนาดใหม่ 350 มิลลิลิตร(มล.) ราคาคุ้มค่า 15 บาท การวางจำหน่ายยังครอบคลุมทุกช่องทางทั่วประเทศ แต่พื้นที่เชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ ยังให้น้ำหนักช่องทางร้านค้าทั่วไปอย่างต่อเนื่อง 

'อิชิตัน' ลุยชาเขียวเจาะร้านค้าทั่วไปรับโต 10% สวนทางร้านสะดวกซิ้อ "ติดลบ"

สำหรับตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 6,616 ล้านบาท ในช่วง 7 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ค.64) ช่องทางร้านค้าทั่วไปมีการอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึง 10.3% ไม่เพียงรองรับเทรนด์สุขภาพที่เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการ "ล็อกดาวน์" รวมถึงการ "เคอร์ฟิวส์" ของภาครัฐ ทำให้จำกัดเวลาเปิด-ปิดร้านสะดวกซื้อ(CVS) จนกระเทือนตลาดหดตัว 11.7% อีกช่องทางที่เติบโตคือห้างค้าปลีกสมัยใหม่(Modern trade) มีการเติบโต 17.7% 

ขณะที่สัดส่วนช่องทางขายเป็นดังนี้ ร้านค้าทั่วไปยังใหญ่สุด 46.6% ร้านสะดวกซื้อ 43.9% และโมเดิร์นเทรด 9.6% 

ออกสินค้าใหม่บุกตลาด สิ่งที่ "อิชิตัน" ใชเป็นอาวุธเจาะกลุ่มเป้าหมายควบคู่กันคือการดึงศิลปิน นักแสดง ไอดอลชื่อดังเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่คราวนี้ เอาใจสายวาย(ผู้บริโภคที่ชื่นชอบกระแสนักแสดงชายรักชาย) ด้วยการคว้าคู่จิ้น จิมมี่ – กานต์ กฤษณะพันธ์ และ ทอมมี่ – สิทธิโชค เผือกพูลผล หรือ "มี่ทู" ที่กำลังโกอินเตอร์กับผลงานซีรีส์วาย ไทย X เกาหลี เรื่อง "Peach Of Time" ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์เบอร์แรกด้วย 

นอกจากนี้ ยังเอาใจเหล่าเกมเมอร์อย่างต่อเนื่อง จึงตอกย้ำมแผนการสื่อสารเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจเกมออนไลน์ ทั้งการเล่นและการดูสตรีม ด้วยการร่วมสนับสนุนศึกใหญ่อันดุเดือด Free Fire Pro League Season 5 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมนักสู้ระดับประเทศ ดันเกมเมอร์ไทยให้ดังไกลในระดับโลก  

'อิชิตัน' ลุยชาเขียวเจาะร้านค้าทั่วไปรับโต 10% สวนทางร้านสะดวกซิ้อ "ติดลบ"

 อย่างไรก็ตาม การออกสินค้าใหม่ อิชิตัน กรีนที เอ็กซ์ ที่ผสมวิตามิน การใช้พรีเซ็นเตอร์ เอาใจเหล่าเกมเมอร์ ยังตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล ที่ใช้ชีวิตภายใต้วิกฤติโควิด ซึ่งยังคงใช้มือถือ ออนไลน์มากขึ้น  เช่น คนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์นานถึง 11.25 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งเรียนออนไลน์ ตามติดซีรีย์ดัง ปั่นยอดวิวยูทูป รวมถึงเล่นเกมออนไลน์ และข้อมูลพบว่าคนไทย 83.9% เล่นเกมออนไลน์ทุกสัปดาห์ สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก

สำหรับสินค้าใหม่ จะเป็นจิ๊กซอว์ผลักดันรายได้ของอิชิตันปีนี้ให้โต 10% ขณะที่ครึ่งปีแรกมีรายได้ 2,780.5 ล้านบาท เติบโต 4.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยตลาดในประเทศเติโตถึง 20.5% ส่วนรายได้ต่างประเทศหดตัว 43.1% ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 285.9 ล้านบาท ลดลง 7.3%
#3575


ฉลากสินค้า นามบัตร แผ่นพับ ใบปลิว ใบโบรชัวร์ สีสวย คมชัด

อยากเพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับแบรนด์ ด้วยสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าไดคัทพิมพ์ด้วย เครื่องดิจิตอล สีสวย คมชัด ทำให้ข้อความฉลากสินค้าโดนเด่น สดุดตา อ่านง่าย แตกต่างจากงานพิมพ์อิงเจ็ตแบบเดิมๆ และที่สำคัญ ถูกมากกกก!!! ราคาประหยัด ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้กับลูกค้า ของเราใช้ สติ๊กเกอร์ PP กันน้ำ 100% ไม่ใช่แค่สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าอย่างเดียวเท่านั้น!!!  เรายังทำ นามบัตรสวยๆ เปลี่ยนนามบัตรเก่าให้ดูสมัย โบรชัวร์สวยๆเก๋ๆ โบวชัวคมชัดสีสวยสดใส  ใบปลิวเก๋ๆ ไว้ใส่ข้อมูลสินค้าหรือใส่ข้อมูลอื่นๆ ลงในใบปลิวได้เราจัดให้ บัตรสะสมแต้มแบบสำเร็จรูปหรือออกแบบบัตรสะสมแต้มขึ้นมาใหม่ได้ เมนูอาหารสวยๆ เมนูอาหารเก๋ นำไปตกแต่งร้านสวยๆเก๋ๆ ดึงดูดความสนใจเพิ่มยอดขายได้  แผ่นพับสำหรับข้อมูลสินค้าก็ได้ แผ่นพับสวยๆ ใช้คู่กับแฟ้มสะสมผลงาน  และอื่นๆ เครื่องพิมพ์ของเรา พิมพ์สีสดใส คุ้มค่ากับการใช้งานแน่นอน!!!

- ราคาเริ่มต้น 25-49 บาท 
- ปริ้น-ไดคัท #ฟรี ไม่บวกเพิ่ม
- กันน้ำได้ 100% แช่แข็งได้
- ทนความร้อน เข้าไมโครเวฟได้
- งานไว สีสวย ภาพคมชัด
- จัดส่งทั่วประเทศ

Tags :: ฉลากสินค้า อุดร,สติ๊กเกอร์ไดคัท อุดร,ทำนามบัตร อุดร,รับทำใบปลิว อุดร,ทำแผ่นพับ อุดร,พิมพ์ใบโบรชัวร์ อุดร
#3576


ธนาคารกสิกรไทย ส่งเอปแรกในไทย! FinVest เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ซื้อขายกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง รวมกองทุนเด่นจาก 33 บลจ.ชั้นนำระดับโลก มากกว่า 1,000 กองทุน เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 30,000 บาทเท่านั้น ชูจุดเด่นไม่เสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน

นายพิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK เปิดเผยว่า  เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลกับสถานการณ์โควิด-19 เศรษฐกิจไทยที่หดตัว จึงทำให้แนวโน้มการลงทุนกองทุนต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนเมษายน 2564 กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ FIF  (ไม่รวม Term Fund) ได้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากกว่าระดับ 1 ล้านล้านบาท และภาพรวมครึ่งปีแรกมีเงินไหลเข้าสะสมถึง 1.9 แสนล้านบาท  

สำหรับฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนรวมต่างประเทศ หรือ Offshore ที่พัฒนาขึ้นร่วมกันของ ลู อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) กลุ่มโรโบเวลธ์ ช่วยตอกย้ำจุดเด่นของ FinVest ที่เป็น Open Architecture ซึ่งเป็นการคัดเลือกกองทุนรวมจาก บลจ.ชั้นนำทั่วโลกมาให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อโดยตรงได้เองถูกกฎหมายเชื่อถือได้ ทำให้ไม่เสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนและสะดวกครบจบภายในแอปเดียว แตกต่างจากการลงทุนแบบเดิมที่การซื้อขายมีข้อจำกัด เนื่องจากสถาบันการเงินจะขายเฉพาะกองทุนรวมของ บลจ. ที่อยู่ในเครือเท่านั้น

การลงทุนแบบ Open Architecture ใน FinVest  ทำให้นักลงทุนเข้าถึงรูปแบบการลงทุนที่หลากหลายทั่วโลก ซึ่งในบางหมวดธุรกิจเป็นกลุ่มที่ยังไม่ครอบคลุมในตลาดหุ้นไทย เช่น เทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนและยังตอบโจทย์นักลงทุนสมัยใหม่ที่ต้องการความหลากหลาย และต้องการเปิดโอกาสลงทุนในต่างประเทศด้วยวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง สามารถบริหารการลงทุนให้สอดคล้องทันสถานการณ์

กสิกรไทย ส่ง FinVest เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ซื้อขายกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง


นางสาวโจอันนา แทง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลู อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการลงทุนระดับโลกในเครือผิงอันกรุ๊ป (Ping An Group) กล่าวว่า การพัฒนาฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนต่างประเทศ เป็นการทำงานร่วมกันโดยนำจุดแข็งของทั้ง 3 องค์กร มาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการลงทุนแบบดิจิทัลในประเทศไทยที่มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้เชื่อมต่อ FinVest เข้ากับระบบซื้อขายหน่วยลงทุนในต่างประเทศเพื่อลงทุนได้โดยตรง และยังสามารถใช้สกุลเงินบาทซื้อกองทุนต่างประเทศได้ทันที โดยระบบจะทำการแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราต่างประเทศให้แบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการซื้อขายในทุกขั้นตอน นอกจากการลงทุนในต่างประเทศจะมีผลตอบแทนที่น่าจูงใจแล้ว FinVest ยังช่วยให้การซื้อขายกองทุนต่างประเทศง่ายขึ้นและมีตัวเลือกที่หลากหลาย นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถลงทุนกองทุนต่างประเทศโดยตรงด้วยจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำที่น้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในไทย

ทั้งนี้ FinVest ได้รับการพัฒนาระบบให้ใช้งานง่าย โดยคำนึงถึง User Experience และ User Interface ที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่ง ลู อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับซื้อขายกองทุนในต่างประเทศ รวมทั้งความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดมาพัฒนาฟีเจอร์การซื้อขายกองทุนต่างประเทศ บน FinVest ให้ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความง่ายและความสะดวกต่อการใช้งาน


นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรโบเวลธ์ บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน Wealth Tech ที่เป็นผู้ดูแลการให้บริการแพลตฟอร์ม FinVest กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน FinVest ประมาณ 130,000 คน ซึ่งมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 26 - 30 ปี และส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทที่มีความสนใจในการลงทุน ทั้งยังพบว่าผู้ใช้บริการ FinVest กว่า 80% ลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศผ่านธีมการลงทุนประเภทต่าง ๆ ที่ได้รับการแนะนำโดยตรงจากแอปฯ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนไทยสนใจการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีในการนำเสนอฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนต่างประเทศโดยตรง หรือ Offshore เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนต่างประเทศให้แก่นักลงทุนไทย ให้ผู้ใช้บริการ FinVest สามารถซื้อขายกองทุนต่างประเทศได้ตรง ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนอีกต่อไป และ FinVest จะแลกเงินบาทเป็นเงินตราต่างประเทศให้แบบอัตโนมัติ โดยใช้อัตราแรกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังได้คัดเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจในรูปแบบ Thematic Investment เน้นการให้ข้อมูลการลงทุนอย่างเป็นกลางผ่านการคัดเลือกโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนร่วมกับผู้บริหารใน Product Screening Committee ที่ช่วยกันคัดเลือกกองทุนจาก 33 บลจ.ชั้นนำทั่วโลก ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อกองทุน ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 30,000 บาทเท่านั้น

พิเศษ! ช่วงเปิดตัวฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนรวมต่างประเทศโดยตรงบน FinVest ระหว่างวันนี้-15 พฤศจิกายน 2564 ฟรี! ค่าธรรมเนียมจากการขายหน่วยลงทุน (Front-end-fee) แบบไม่มีเพดาน สำหรับ 5 กองทุนแนะนำ ดังนี้

กองทุน Robeco Smart Mobility จาก UOBAM เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยี ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับ

กองทุน Global Energy Transition จาก Schroder ISF เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจและเทคโนโลยีพลังงานสะอาดระดับโลก

กองทุน Blockchain Innovation จาก BNY Mellon เน้นลงทุนในบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนในหลากหลายอุตสาหกรรม

กองทุน Healthcare Innovation จาก Schroder ISF เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ รวมทั้ง Johnson & Johnson, AstraZeneca, Pfizer

กองทุน Worldwide Long Term Global Growth Fund จาก Baillie Gifford  เน้นลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่นจากทั่วโลก และมีความสามารถในการแข่งขันสูง
#3577
ผู้สูงอายุทาน ข้าวหอมมะลินิล และประโยชน์ของข้าวหอมมะลินิล ช่วยชะลอวัย  
ข้าวมะลินิล ข้าวหอมมะลินิล ข้าวกล้องมะลินิล ข้าวกล้องหอมมะลินิล ข้าวมะลินิลสุรินทร์  ข้าวหอมมะลินิลสุรินทร์  #ขาวกล้องมะลินิลสุรินทร์ ข้าวกล้องหอมมะลินิลสุรินทร์  ข้าวปลอดสาร  
"ข้าวมะลินิลสุรินทร์" สุดยอดข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวมะลินิลสุรินทร์เป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้มหรือสีดำ  คุณภาพการหุงต้มของ ข้าวกล้องมะลินิลอินทรีย์ รับประทานดี เป็นข้าวเมล็ดเรียวยาว เปอร์เซนต์อะมิโลสต่ำเมื่อหุงสุกจะเหนียวนุ่มหอม   ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ มีคุณสมบัติในการป้องกันโรคมะเร็ง   ข้าวมะลินิลสุรินทร์ ข้าวต้านความเสื่อม     ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์   ชะลอวัย ทานแล้วไม่แก่เร็ว  Anti-Aging Rice




ประโยชน์ของ ข้าวมะลินิล/ ข้าวหอมมะลินิล (  กลุ่มข้าวมะลินิลอินทรีย์)
-   ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแอนโทไซยานิน (High Antioxidants) ประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอี 6 เท่า
-   ข้าวมะลินิลเกษตรอินทรีย์ มีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวขาวทั่วไปถึง 62% ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด, ความหิว, น้ำหนัก และลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน
-   ข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ มี วิตามิน บี1, บี 2, บี6 และบี9 ป้องกันโรคเหน็บชา, การทำงานของระบบประสาท และช่วยในกระบวนการสร้าง DNA RNA
-   ข้าวมะลินิลปลอดสารพิษ  มี ลูทีน ช่วยปกป้องเยื่อแก้วตา (Retina) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา
-   ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคสำหรับทารก  มีสานต้านอนุมูลอิสระฟีนอะลิกและแอนโธไซยานินสูง มีฤทธิ์ต้านการซึมเศร้าและวิตกกังวล
-   ข้าวกล้องมะลินิลอินทรีย์  มีสารอนุมูลอิสระที่ได้จากการสกัดข้าวดิบและข้าวกล้องมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งสำไส้ใหญ่ มีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ที่มีในการรักษาสุขภาพ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวหอมมะลินิลสุรินทร์ ข้าวกล้องหอมมะลินิลสุรินทร์    ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000 โทร. 092-8245655
website : xn--22c6bf1bev6bzbun6ssb.net/
Facebook :  การปลูกข้าวสุขภาพ
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/ 
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ / ข้าวออร์แกนิค   การผลิตข้าวอินทรีย์    7 ประเภท
1.  ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์  2.   ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ   3.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิก (ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5. กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ 6.  ข้าวมะลินิลออแกนิค 7. ข้าวไรซ์เบอรี่


#ข้าวมะลินิล #ข้าวหอมมะลินิล #ข้าวกล้องมะลินิล #ข้าวกล้องหอมมะลินิล #ข้าวมะลินิลสุรินทร์  #ข้าวหอมมะลินิลสุรินทร์  #ข้าวกล้องมะลินิลสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลินิลสุรินทร์ #ข้าวมะลินิลอินทรีย์  #ข้าวหอมมะลินิลอินทรีย์ #ข้าวมะลินิลปลอดสาร #ข้าวหอมมะลินิลปลอดสาร  #ข้าวกล้องมะลินิลปลอดสาร #ข้าวกล้องหอมมะลินิลปลอดสาร #ข้าวมะลินิลเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลินิลเพื่อสุขภาพ #ข้าวกล้องมะลินิลสุขภาพ   #ข้าวกล้องหอมมะลินิลสุขภาพ

 

 
 
#3578


เอสที เทเลมีเดีย โกล. ดาต้าเซ็นเตอร์ (STT GDC) เห็นเทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลในไทยต่อเนื่อง 26.5% โดยเฉพาะปริมาณการใช้งานดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และการมาของ 5G ทำให้ผู้ให้บริการคลาวด์ OTT และองค์กรธุรกิจ มีความต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยเพิ่มขึ้น

ศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอสที เทเลมีเดีย โกล. ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการบริการโคโลเคชันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากองค์กร และผู้ให้บริการคลาวด์ในต่างประเทศ ที่เร่งขยายบริการเข้ามาเพื่อตอบรับกับการใช้งานดิจิทัลในไทย

"จากข้อมูลพบว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่ากว่า 30% ของการใช้งานดิจิทัลในไทย เพิ่งเริ่มใช้งานเป็นครั้งแรก และจะมีโอกาสใช้งานต่อเนื่องสูงถึง 95% ขณะเดียวกันการที่โอเปอเรเตอร์เริ่มให้บริการ 5G ทำให้มีปริมาณการใช้งานดีไวซ์ที่ออนไลน์เพิ่มขึ้นมหาศาล"

การที่ประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคอาเซียน และอุตสาหกรรมดิจิทัลซื้อหวยออนไลน์ของประเทศไทย คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 มีอัตราเติบโต 25% ในปี 2563 และคาดการณ์ว่า จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 ใน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทยในปี 2570 ขณะเดียวกันในปี 2563 จำนวนผู้บริโภคในตลาดดิจิทัลได้เติบโตถึง 30% ส่วนตลาดอีคอมเมิร์ซมีการเติบโตสูงถึง 81% ในช่วงระหว่างปี 2562-2563

จึงเป็นโอกาสของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญของไทย ในการให้บริการโคโลเคชัน ให้แก่ผู้ให้บริการคลาวด์ รวมถึงคอนเทนต์โพรวายเดอร์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่ม OTT อย่างผู้ให้บริการสตรีมมิ่งต่างๆ ที่ใช้งานแบนด์วิดท์ปริมาณสูงมาก

"ปัจจุบันสัดส่วนการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยกว่า 50% จะอยู่กับธุรกิจโทรคมนาคม และธนาคารอย่างละครึ่ง ในขณะที่ OTT มีสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น แต่เชื่อว่าในอนาคตจากเทรนด์การเติบโตในระดับนี้ เชื่อว่าสัดส่วนของ OTT มีโอกาสเพิ่มขึ้นไปเป็นสัดส่วนถึง 30%"

ล่าสุด STT GDC ได้เริ่มเปิดให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ STT Bangkok 1 แห่งแรกในแคมปัส STT Bangkok ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหัวหมาก ด้วยอาคารมีความสูง 7 ชั้น บนพื้นที่ทั้งหมด 30,000 ตารางเมตร และมีกำลังไฟพร้อมใช้สูงถึง 20 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของลูกค้า

"เป้าหมายของ STT GDC คือคาดว่าดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกที่ให้บริการรองรับกำลังไฟสูงถึง 20 เมกะวัตต์จะเต็มภายใน 5 ปีข้างหน้า และมีแผนที่จะขยาย STT Bangkok 2 เพิ่มในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า เพื่อให้แคมปัสแห่งนี้มีกำลังไฟรวมเป็น 40 เมกะวัตต์"



STT Bangkok 1 นับเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลแห่งแรกของประเทศไทยที่ผ่านมาตรฐานดาต้าเซ็นเตอร์จากทั้ง TIA-942 Certification Rated-3 และ Uptime Institute Tier III Certification รวมถึงมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED ระดับ Gold version 4 ทำให้มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงในเรื่องการใช้ทรัพยากรน้ำ พลังงาน คุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร

พร้อมกับออกแบบบนมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด ประกอบด้วย ระบบป้องกันภัยหลายชั้น (multi-layer security) การควบคุมการเข้าออก กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมาตรฐาน Threat and Vulnerability Risk Assessment (TVRA) เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของการปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยสูงสุด
#3579
 ตื่นเต้นมากฟังก์ชั่นพร้อมมากกก 
#3580


SCB มุ่งสู่การเป็นองค์กร Tech Company ชี้ธุรกิจธนาคารต้องปรับตัวภายใน 3-5 ปี ไม่เช่นนั้นจะแข่งขันยากภายใต้สภาพแวดล้อมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB กล่าวในเวทีสัมมนา "อนาคตสถาบันการเงินไทย" ในงานTHAILAND NEXT The Future of Financial System อนาคตโลกการเงิน จัดโดย เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ระบุว่า ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ต้องปรับตัวจาก Finance Market สู่ Technology Company โดย SCB ตั้งเป้าหมายซื้อหวยออนไลน์ไว้ว่าต้องทำให้บรรลุเป้าหมายภายใน 3-5 ปี

"ใครที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรได้ตามช่วงเวลานี้ โอกาสที่จะอยู่อย่างแข็งแกร่งจะน้อยลง อย่างธนาคารไทยพานิชย์ ตั้งโจทย์นี้มา 6 ปีแล้ว กับรูปแบบของธุรกิจภายใต้สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ที่จะได้รับผลกระทบจากระบบเศรษฐกิจ การบริหารความเสี่ยงและผลตอบแทน ตลอดจนการมาถึงของเทคโนโลยี พร้อมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงการเปิดกว้างของกฎระเบียบทางการเงินใหม่"

 

SCB เข้าสู่ยุคดิจิทัลด้วยการนำเทคโนโลยี และดาต้ามาใช้เพื่อให้เกิดความแม่นยำ และลดต้นทุน ทั้งยังเปิดโอกาสให้คนเข้าถึงบริการใหม่ๆ ในต้นทุนที่ต่ำลงได้  ขณะที่โควิด-19 และปัญหาเชิงโครงสร้างของไทย มีผลกระทบต่อสถาบันการเงิน ดังนั้นต้องทำให้การบริหารความเสี่ยงและผลตอบแทน เหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของธุรกิจ และโครงสร้างรายย่อย

 

"ในส่วนภาระหนี้ครัวเรือน มองว่าทางแก้คือไม่ใช่หาวิธีไปลดหนี้ แต่ต้องเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้มากกว่า ไม่เช่นนั้นระบบเศรษฐกิจจะมีแต่หดตัว" นายอาทิตย์ กล่าว