• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Joe524

#3421
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนว่า ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งเปิดการซื้อขายอย่างเป็นทางการโดยมี 81 บริษัทนำหุ้นเข้าซื้อขายเป็นปฐมฤกษ์ในตลาดหุ้นแห่งที่ 3 ของจีน ต่อจาก ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และเสิ่นเจิ้น ทั้งนี้เพื่อรองรับแนวยโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ว่าด้วย "ความรุ่งเรืองร่วมกัน" ที่มีเป้าหมายหลักเพื่อลดช่องว่างของความมั่งคั่งภายในประเทศ

ตลาดหุ้นปักกิ่ง ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการที่เริ่มต้นกิจการด้วยตัวเอง (เอนเทอร์เพรเนอร์) นายอี้ ฮุ่ยมัน ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งจีน (ซีเอสอาร์ซี) ระบุว่า การเปิดตลาดหุ้นปักกิ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการปฏิรูปตลาดทุนของจีน ซึ่งจะเป็นตลาดทุนที่มีหลายระดับ, ทำให้โอกาสในการระดมทุนของเอสเอ็มอีปรับตัวดีขึ้น และเป็นตัวผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและการยกระดับเศรษฐกิจประเทศในที่สุด


ตลาดปักกิ่งจะเป็นตลาดเสริมสำหรับตลาดหุ้นขนาดใหญ่กว่า อย่างเช่นตลาดเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมุ่งให้ความสำคัญไปที่การซื้อขายหุ้นของบริษัททางด้านเทคโนโลยี และตลาดเสิ่นเจิ้น โดยตลาดที่ก่อตั้งขึ้นก่อนทั้ง 2 นี้รองรับบริษัทธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) สูงกว่ามาก






จนถึงขณะนี้ มีนักลงทุนกว่า 4 ล้านรายเปิดบัญชีเพื่อเข้าทำการซื้อขายในตลาดหุ้นแห่งใหม่นี้ ในขณะที่บริษัทที่นำหุ้นเข้าเสนอขายในตลาดแห่งนี้ส่วนใหญ่มาจากภาคธุรกิจซอฟท์แวร์, ฟาร์มาซูติคอล และโรงงานผลิตชั้นสูง โดยในการซื้อขายวันแรกมี 10 บริษัทที่ราคาหุ้นพุ่งกระฉูดเกิน 30 เปอร์เซ็นต์จนต้องระงับการซื้อขายชั่วคราวตามกฏตลาด
#3422
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 ว่ามีรายได้รวม 1,083.9 ล้านบาท เติบโต 13.6% และมีกำไรสุทธิ 142.9 ล้านบาท เติบโต 6.3% ดันผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก มีรายได้รวม 2,816.9 ล้านบาท เติบโต 11.5% และมีกำไรสุทธิ 353.2 ล้านบาท เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังตลาดต่างประเทศฟื้นตัวแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะ High Season ในไตรมาสที่ 2/2564 ต่อเนื่องมายังไตรมาสที่ 3/2564

"ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 ที่แข็งแกร่ง มาจากแบรนด์สินค้าที่เข้าถึง Lifestyle ของผู้บริโภค และการสร้างช่องทางการขายในรูปแบบใหม่ๆ ของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะ เอเชีย สหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในหลายๆ ประเทศเริ่มคลี่คลายขึ้น กำลังซื้อผู้บริโภคมีมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจน นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์แบบ O2O หรือ Online to Online/Offline Marketing ผสมผสานการทำตลาดบนออนไลน์และการขายทั้งบนออนไลน์/ออฟไลน์ให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็ว ส่งผลให้สามารถสร้างยอดขาย New High ได้ในไตรมาส 3"

ส่วนตลาดในประเทศ นางสาวปิยจิต กล่าวยอมรับว่า ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดอยู่พอสมควร บริษัทฯ จึงปรับกลยุทย์มุ่งเน้นไปที่การขายผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ (Online Commerce) อาทิ e-Marketplace รวมถึง Chat Commerce เช่น Line และ Facebook Messenger เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าถึงสินค้าและโปรโมทกิจกรรมการตลาดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รองรับกลุ่มผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการซื้อสินค้าที่หันมาสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายจากช่องทางออนไลน์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโตกว่า 600% ทั้งนี้มั่นใจว่าทั้งตลาดต่างประเทศและในประเทศจะมีผลตอบรับดีต่อเนื่อง ดันผลการดำเนินงานในปีนี้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้




นางสาวปิยจิต กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนซื้อหุ้นใน บริษัท เอ็มอินเทลลิเจนซ์ จำกัด ("M-Intel") ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ตอัพไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM), การวิเคราะห์ข้อมูล และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อช่วยในการเพิ่มยอดขาย ทำการตลาด การขาย การบริการแบบครบวงจร ช่วยยกระดับการดำเนินงานของธุรกิจ และ Customer Experience

โดยเข้าถือหุ้น M-Intel จำนวน 116,667 หุ้น เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 70,000,200 บาท คิดเป็นสัดส่วน 16.21% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ M-Intel โดยเงินจำนวนดังกล่าว จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจให้เติบโตในอนาคต นับเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ พร้อมเข้าสู่โลก Digital Transformation ซึ่งไม่ได้แค่นำเทคโนโลยีมาใช้ แต่นับเป็นการเพิ่ม Space ใหม่ในการต่อยอดทางธุรกิจของเซ็ปเป้จากนี้
#3423

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) เปิดเผยว่า ผลงานการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2564 โออาร์มีกำไรสุทธิ 9,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3,253 ล้านบาท คิดเป็น 55.4% ทั้งจากรายได้ขายที่เพิ่มขึ้น 34,652 ล้านบาท คิดเป็น 11.0% และกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมเพิ่มขึ้น 3,394 ล้านบาท คิดเป็น 27.1%

"ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในปีนี้ ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจน้ำมันดีขึ้นจากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น แม้ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันจะปรับลดลง 8% และกลุ่มธุรกิจนอนออยล์ปรับตัวลดลงเล็กน้อยก็ตาม แต่เมื่อเทียบผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้กับไตรมาสที่แล้ว รายได้จากการขายและบริการปรับลดลงเล็กน้อยจากโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ขยายวงกว้างมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจน้ำมันและกลุ่มธุรกิจนอนออยล์"


โดยปริมาณการขายของกลุ่มธุรกิจน้ำมันลดลง แม้ราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์น้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนกลุ่มธุรกิจนอนออยล์รายได้ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนตามอุปสงค์ที่ลดลง เป็นปัจจัยกดดันให้ปริมาณขายรวมลดลง แต่ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย การออกกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายผ่านช่องทางอื่น เช่น การนำกลับบ้าน บริการจัดส่ง รวมถึงไดร์ฟ-ธรู (Drive-Thru) ทำให้ยอดขายของกลุ่มธุรกิจนอนออยล์ลดลงไม่มากนัก

ด้านกลุ่มธุรกิจต่างประเทศยังทรงตัว โดยไตรมาส 3 โออาร์มีรายได้จากการขายและบริการ 116,792 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 1.6% อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการที่เป็นคู่ค้าของโออาร์

บริษัทจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือคู่ค้า แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ลดการจัดเก็บค่าสิทธิ และค่าการตลาดสำหรับผู้ประกอบ การแฟรนด์ไชส์ ร้านคาเฟ่อเมซอน ลดอัตราค่าเช่าให้กับผู้ประกอบการร้านเช่า เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรักษาการจ้างงาน เป็นต้น



บริษัทประเมินทิศทางการดำเนินธุรกิจไตรมาส 4/2564 ยังเน้นการลงทุนต่อยอดและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความคล่องตัวและไลฟ์สไตล์ รองรับความต้องการของผู้บริโภค อำนวยความสะดวกให้ทุกการเดินทางเพื่อตอบโจทย์คนเดินทางในทุกรูปแบบ รวมถึงการสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตที่ครบวงจร

นอกจากนี้ ยังแสวงหาพันธมิตรธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพในการเติบโตและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ โออาร์ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การท่องเที่ยว สุขภาพ รวมถึงดิจิตอล ไลฟ์สไตล์ต่างๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของโออาร์ รวมทั้งผู้ประกอบการไทยให้มีโอกาสในการก้าวสู่ความสำเร็จและเติบโตร่วมกันต่อไป
#3424


สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 12 พ.ย. 2564 SET Index ดัชนีปิดที่ 1,633.94 จุด เปลี่ยนแปลง +1.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 70,359.34 ล้านบาท


โดย 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุดประกอบด้วย KBANK 148.00 บาท (-1.00 บาท), BAM 20.30 บาท (+1.20 บาท), CPALL 65.25 บาท (-), KCE 90.75 บาท (-0.25 บาท) และ PTT 37.50 บาท (-0.50 บาท) ตามลำดับ


ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-12 พ.ย. 2564) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.72 จุด มาปิดที่ 1,633.94 จุด โดยมี Sentiment เชิงบวก หลัง Pfizer Inc. เปิดเผยยาเม็ดประสิทธิภาพสูงที่สามารถรักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 (Paxlovid) และได้ยื่นขออนุมัติไปแล้วก่อนหน้า ประกอบกับการอนุมัติร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน วงเงินราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐ ซึ่งคาดสามารถกระตุ้นการจ้างงานและหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หลังเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 โดยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลได้อีกครั้ง ในอัตราไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิปี 2564

บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)
#3425
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKPower) ชื่อย่อหลักทรัพย์ "CKP" ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทฯ ที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่ม CKPower ในไตรมาสที่ 3/2564 และช่วง 9 เดือนของปี 2564 สามารถสร้างกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทฯ เพราะปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของทั้ง NN2 และ XPCL เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ CKPower ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก โดยในไตรมาสที่ 3/2564 CKPower มีรายได้รวม 2,508.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 377.9 ล้านบาท หรือ 17.7% และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ สูงถึง 1,234.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 403.6 ล้านบาท หรือ 48.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทฯ

โดยการเติบโตของผลการดำเนินงานมาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 (NN2) จำนวน 998.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน




และที่สำคัญบริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 49.8% โดยส่วนใหญ่มาจากการลงทุนในบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าเฉลี่ยมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มีรายได้ 4,799 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงจากการทยอยชำระคืนเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ XPCL มีกำไรสุทธิสูงถึง 2,366 ล้านบาท อีกทั้ง CKPower ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน XPCL เป็น 42.5% ตั้งแต่สิ้นไตรมาสที่ 2/2564 ทำให้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL มากขึ้นอีกด้วย






ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2564 CKPower มีรายได้รวม 6,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,180.8 ล้านบาท หรือ 20.6% และมีกำไรสุทธิ 2,056.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,659.6 ล้านบาท หรือ 418.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทฯ เช่นกัน โดยมีปัจจัยมาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าของ NN2 เพิ่มขึ้น 77.8% และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 479.1% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการลงทุนใน XPCL เช่นเดียวกัน

ในส่วนของภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าของไทย ในปัจจุบันผู้ผลิตไฟฟ้าในไทยมีการลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นแนวทางการลงทุนที่ CKPower มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะการลงทุนและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่



"ปัจจุบัน CKPower มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ในสัดส่วน 89% ของกำลังการผลิตติดตั้งรวม ทั้งจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะคงสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้ไม่น้อยกว่า 85% ของกำลังการผลิตติดตั้งรวม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยที่จะมุ่งสู่สังคมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2608" นายธนวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ จากการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ CKPower ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำคะแนนประเมิน CG score ในระดับ "ดีเลิศ" (Excellent) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ตามโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2564 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies: CGR) ที่จัดทำขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ผ่านการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ CKPower ที่สะท้อนถึงแนวทางที่บริษัทฯ มุ่งเน้นมาโดยตลอดคือ การให้ความสำคัญในประเด็นด้านความยั่งยืน ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG) พร้อมทั้งยึดหลักการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส คำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย และสอดคล้องกับความคาดหวังของนักลงทุน
#3426
จำหน่ายอุปกรณ์กีฬามาตรฐาน สำหรับหน่วยงานราชการ อบต. เทศบาล อบจ. www.ขายส่งอุปกรณ์กีฬา.com ขอเสนอ งานอุปกรณ์กีฬามาตรฐานสำหรับหน่วยงานราชการ  BEST SPORT EQUIPMENTS เป็นอุปกรณ์กีฬาที่ได้รับการอนุมัติให้เป็นอุปกรณ์กีฬามาตรฐานสำหรับประเทศไทย ทั้งวัสดู และ ยี่ห้อ ที่ได้มาตรฐานการยอมรับ เป็นอุปกรณ์กีฬาที่มีคุณภาพสูงหมวดหมู่สินต้า (Product Catalogue)ไม่ว่าจะเป็น ฟุต. ฟุตซอล บาสเกต. วอลเวลย์. แชร์. แฮนด์. ตะกร้อ เปตอง ปิงปอง มวย แบตมินตัน ฟิตเนส และ อุปกรณ์กีฬาทุกประเภทได้รับการรับอรงโดย กกท.  การกีฬาแห่งประเทศไทย กรมพลศึกษา และสมาคมต่างๆตลอดจนกระทรวงศึกษาธิการสินค้าเกรด A+ ได้คุณภาพ ซื้อได้ในราคาปลีกและราคาส่งมั่นใจในคุณภาพ และ ราคาช่องทางการติดต่อขายส่งอุปกรณ์กีฬาเว็บไซต์ขายส่งอุปกรณ์กีฬาดอทคอมเลขที่ 339/303  เพชรเกษม69 ซอยอิทรปัตย์9 แยก5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม 10160มือถือ: 087-035-6821,063-989-7935อีเมล: hearhui@gmail.comLine ID : nattiyaya,hearhuihttps://xn--12cabu5d3b7bl3d0af0dk4b1bzttc.com/%e0%b8%88.../ 
#3427

รวมทุกขั้นตอน-เงื่อนไข-ดอกเบี้ย เตรียมพร้อมก่อนซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ สบม. "ออมไปด้วยกัน" ผ่านแอพเป๋าตัง วันแรก 15 พ.ย.นี้ เริ่ม 08.30 น.

ธนาคารกรุงไทย เตรียมเปิดจําหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์วอลเล็ต สบม. ครั้งที่ 5 รุ่น "ออมไปด้วยกัน" บนแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง จำนวน  2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ยสูงสุด 3.0% ต่อปี และอายุ 10 ปี ดอกเบี้ยสูงสุด 4.0% ต่อปี วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เริ่มจำหน่ายวันแรกตั้งแต่เวลา 08.30 น. ของวันที่ 15 พ.ย. ถึงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 3 ธ.ค.64

สำหรับขั้นตอนการลงทุนพันธบัตรวอลเล็ต สบม.รายละเอียดดังนี้

1.ดาวน์โหลดแอพเป๋าตัง


2.เปิดใช้งานวอลเล็ต สบม.

3.เติมเงินเข้าวอลเล็ต สบม. ด้วยวอลเล็ต ไอดี (Wallet ID) หรือคิวอาร์ พร้อมเพย์ (QR PromptPay) ผ่านโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคาร

4.เลือกรุ่นพันธบัตรที่ต้องการซื้อ



5.ระบุจํานวนเงิน

6.กดยืนยันการชําระเงิน ด้วยรหัส 6 หลัก ( PIN )

7.จะได้รับหลักฐานเป็นอี-สลิป (E-Slip Payment) ที่จัดเก็บในมือถือโดยอัตโนมัติ

ส่วนลูกค้าแอพ Krungthai NEXT ที่ต้องการปรับวงเงินเพื่อโอนเข้าวอลเล็ต สบม. เพื่อซื้อพันธบัตร สามารถทํารายการผ่านแอพ Krungthai NEXT ได้ทันที ขณะที่ลูกค้าที่มีบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทยสามารถผูกบัญชีกับวอลเล็ต สบม. โดยระบบจะตัดยอดเงินบัญชีอัตโนมัติ

ด้านอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรออมทรัพย์วอลเล็ต สบม. "ออมไปด้วยกัน" บนแอพเป๋าตัง จะจ่ายดอกเบี้ยแบบขั้นบันได รุ่นอายุ 5 ปี ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี ปีที่ 2-4 อัตราดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี และปีที่ 5 อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.10% ต่อปี

รุ่นอายุ 10 ปี ปีที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี ปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี ปีที่ 6-9 อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี และปีที่ 10 อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.00% ต่อปี

เงื่อนไข/คุณสมบัติ : ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อคน จำหน่ายให้บุคคลธรรมดา สัญชาติไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.krungthai.com หรือติดต่อ Krungthai Contact Center โทร. 0-2111-1111... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/450562/
#3428

"ซื้อ-ขาย 77 จังหวัด งาน ONLINE เพื่อชีวิต ABOVE LINE"

http://chiangrai.seomediamarketing.ws/index.php
 
สินค้าทั้งหมดจำนวน : 95 รายการ หมวด : เครื่องสำอางค์ เสริมความงาม (15) หมวด : สินต้าแลับริการ (1) หมวด : งาน หางาน สมัครงาน (0) หมวด : รถยนต์ ยานพาหนะ (0) หมวด : ธุรกิจ รับจ้าง ขายตรง (0) หมวด : บ้าน อสังหาริมทรัพย์ (0) หมวด : สุขภาพ สปา การแพทย์ (0) หมวด : เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย (0) หมวด : เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่ง (0) หมวด : คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอที (0) หมวด : ลูกร้อยมาเลย์ (3) หมวด : มือถือ อุปกรณ์สื่อสารมือถือ อุปกรณ์สื่อสาร (0) หมวด : กล้อง อุปกรณ์ถ่ายภาพ (0) หมวด : จิวเวลลี่ เครื่องประดับ (1) หมวด : เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ (0) หมวด : แฟชั่น นาฬิกา แว่นตา ดัดฟัน (0) หมวด : สัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์ อุปกรณ์ (0) หมวด : เกมส์ วีดีโอเกมส์ แผ่นเกมส์ (0) หมวด : อุตสาหกรรม นำเข้า ส่งออก (0) หมวด : ของเล่น ของสะสม งานอดิเรก (0) หมวด : บันเทิง การรื่นเริง จัดงาน (0) หมวด : ลูกนอกมาเลย์นำเข้า (2) หมวด : หนัง เพลง DVD VCD (0) หมวด : อื่นๆ จิปาถะ (45) หมวด : บริการ (0) หมวด : แม่พันธืปลาเก่ง (1) หมวด : บริการ (12) หมวด : สุขภาพ (3) หมวด : สุขภาพ (0) หมวด : สมุนไพร (2) หมวด : เครื่องดื่ม (2) หมวด : ผลิตภัณฑ์แบรนด์เปี่ยมสุข (8)


 
#3429

"อาคม" รอ 'บินไทย' เข้าพบ ถกสภาพคล่อง เผยพอใจบินไทยทำได้ดีกว่าแผนฟื้นฟู คาดอาจไม่ต้องการสภาพคล่องถึง 50,000 ล้านบาท ขณะที่ "สันติ" เผยไม่ห่วงหาก "บินไทย" ปรับโครงสร้างแล้วกระทบความเป็นสายการบินแห่งชาติลด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้การบินไทยยังไม่ได้นัดเข้ามาหารือเรื่องการจัดหาแหล่งเงินเสริมสภาพคล่องกับกระทรวงการคลัง แต่ก่อนหน้านี้การบินไทยได้เข้าไปรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับทราบแล้ว

กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือว่าการบินไทยทำได้ดีกว่าแผนฟื้นฟูฯ ที่กำหนดไว้ เช่น จากเดิมบอกว่าสภาพคล่องจะหมดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่ตอนนี้ก็ยังพอมีสภาพคล่องเพียงพอให้เดินหน้าต่อได้

 

"คลังจะต้องเข้าไปช่วยหาแหล่งเงินทุนให้การบินไทยอีกหรือไม่นั้น ยังต้องรอดู รอให้การบินไทยได้ทำให้ถึงที่สุดก่อน ที่เคยบอกต้องการ 50,000 ล้านบาท วันนี้ก็อาจต้องการไม่ถึง ซึ่งอาจจะพอที่ 25,000 ล้านบาท ส่วนรูปแบบจะเป็นแบบไหนก็ต้องให้การบินไทยใช้ความพยายามเอง เพราะเป็นเอกชนก็อาจต้องไปหากู้เงินเองก่อน เพราะคลังเข้าไปค้ำประกันให้ไม่ได้แล้ว" นายอาคม กล่าว

 

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง


นายอาคม กล่าวด้วยว่า การบินไทยได้แจ้งว่า หลังกลับมาเปิดการบินได้ ตัวเลขบุ๊คกิ้งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีรายได้เข้ามา และเริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นกำไรที่เกิดจากการบิน ไม่ใช่จากการขายสินทรัพย์

 

ขณะนี้สภาพคล่องการบินไทยมี และมีกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความจำเป็นต้องใช้เงินกู้น้อยลง แต่หากท้ายที่สุด การบินไทยยังต้องการสภาพคล่องเพิ่ม ก็ต้องเข้ามาคุยเพื่อหาแนวทางร่วมกัน เพราะคลังไม่สามารถค้ำประกันเงินกู้ให้ได้ เนื่องจากการบินไทยไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว


ส่วนกรณีข้อกังขาการขายเครื่องบินของการบินไทยให้เอกชน ซึ่งซื้อมาในราคาแพงแต่ขายออกในราคาถูกนั้น นายอาคมกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของการบินไทยที่จะต้องชี้แจงกับทางกระทรวงคมนาคม ซึ่งการขายเครื่องบินที่มีการปลดระวาง ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่ในอดีตก็เคยทำ แต่ในส่วนของข้อกังขาที่เกิดขึ้น การบินไทยก็ต้องชี้แจงให้ชัดเจน 

 

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการเติมสภาพคล่องของการบินไทย วงเงิน 25,000 ล้านบาท โดยฝั่งเอกชน อาจทำให้สถานะผู้ถือหุ้นของคลังลดลง ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของการเป็นสายการบินแห่งชาติให้ลดลงไปด้วยนั้น

 

ในฝั่งของกระทรวงการคลังไม่ห่วง เพราะมองว่าหากการปรับโครงสร้างของการบินไทย แล้วจะทำให้ธุรกิจและสถานะทางการเงินของการบินไทยกลับมาดีขึ้นได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ท้ายที่สุดการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ ซึ่งก็มีคนของกระทรวงการคลังนั่งอยู่ในนั้นด้วย และมั่นใจว่าผู้บริหารแผนฯ จะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ

 

"สายการบินแห่งชาติ ถือเป็นภาพลักษณ์และเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ แต่หากต้องมีการปรับโครงสร้างและทำให้ความเป็นสายการบินแห่งชาติลดลงบ้าง ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเมื่อสถานการณ์ของการบินไทยกลับมาดีขึ้น ท้ายที่สุดทั้งนักลงทุนทุกภาคส่วน รวมถึงรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ก็จะกลับมาให้ความสนใจและเข้าไปลงทุนเพิ่ม" นายสันติ กล่าว

 

สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 
สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

 

ด้านนางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) กล่าวว่า ตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ว่า กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นจะใส่เงินเพิ่มทุน หรือ ในฐานะเจ้าหนี้จะแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูการบินไทยหรือไม่

 

เนื่องจาก ยังไม่เห็นรายละเอียดของแผน ซึ่งจะต้องหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะในฐานะผู้จัดหาแหล่งเงินและระดับนโยบาย ทั้งนี้ หากมองในเชิงนโยบายแล้ว กระทรวงการคลังคงต้องมีหุ้นในการบินไทยในระดับที่พอสมควร แม้ขณะนี้ จะลดสัดส่วนลงมาเหลือ 47% และเมื่อบวกกับหุ้นที่ธนาคารออมสินถืออยู่อีกประมาณ 2% เป็น 49%
#3430

เช็คด่วน!ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งปิดบริการชั่วคราว SCB Connect วันนี้ เวลา 20.00น. ด้านธนาคารกรุงไทย เตรียมอัพเกรดระบบหลังบ้าน วันที่ 14 พ.ย.นี้ ตรวจสอบช่องทางบริการไหนบ้าง ที่ไม่สามารถทำธุรกรรมได้

ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งว่าวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2564 บริการ SCB Connect จะปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อพัฒนาระบบ ตั้งแต่ เวลา 20:00 น. ของวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ถึงเวลา 02:00 น. ของวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2564 

 

อนึ่งบริการ SCB Connect คือช่องทางในการให้บริการทางการเงิน ผ่านแอปพลิเคชัน LINE  โดยจะแจ้งความเคลื่อนไหวทางบัญชี ทั้ง รายรับ รายจ่าย เช็กยอดบัญชี ยอดบัตรเครดิต  ยอดสินเชื่อ รวมไปถึงบริการพิเศษอื่นๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ 



ด้านธนาคารกรุงไทย ก็ประกาศว่าในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เวลา 00.01 - 05.00 น. ธนาคารฯจะมีการพัฒนาระบบงาน เพื่อยกระดับการให้บริการ ส่งผลให้ระบบและช่องทางบริการที่ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ชั่วคราว โดยมีรายละเอียดดังนี้


Krungthai NEXT เช่น

โอนเงิน
เติมเงิน
จ่ายบิล
ถอนเงินไม่ใช้บัตร
ดูข้อมูลบัญชี
บริการบัตรกรุงไทย Travel card
เปิดบัญชีออนไลน์
 
เป๋าตัง

บริการยืนยันตัวตน และ เติมเงินผ่าน Krungthai NEXT
 

Krungthai Connext เช่น

สมัครใช้บริการ Krungthai Connext ด้วยการยืนยันตัวตนผ่าน Krungthai NEXT
เปิดและปิดการแจ้งเตือนบน Krungthai Connext
#3431
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#3432
น้ำยาทำความสะอาด ในยุคปี 2021 นี้หรือเรียกได้ว่าตั้งแต่ปี 2020 ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเราทุกคนเป็นอย่างมากด้วยสถานการณ์ของโรคระบาดที่ดูทีท่าว่าจะไม่เลิกลงง่ายๆ และนั่นก็หมายความว่าเรานั้นจะต้องดูแลเรื่องความสะอาดป้องกันเชื้อโรคทุกสิ่งอย่างรอบตัวของเราให้ดีที่สุด เมื่อก่อนเราอาจจะไม่สนใจเรื่องนี้กันมากนัก บางท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อของ น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาทำความสะอาดอย่างเช่นน้ำยา เดทตอล แต่ไม่เคยสนใจที่จะนำมาใช้งานด้วยกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรงและเรื่องของการใช้นั้นดูเหมือนว่าจะเกินความจำเป็นสำหรับทุกคน

มาในยุคนี้ น้ำยาทำความสะอาด เป็นเรื่องที่ทุกคนนั้นจะต้องมีติดบ้านอย่างน้อย 2-3 จุดเป็นต้นไป บางคนนั้นก่อนจะเข้าบ้านก็ต้องมีน้ำยาทำความสะอาดวางไว้ 1 จุด ก็เพราะว่าถ้าเราเข้ามาในบ้านแล้วถ้ามือเราไปจับอะไรในบ้านการจะไปตามเช็ด ตามทำความสะอาดที่หลังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากอย่างมาก แถมด้วยเหรอเราจะต้องมี น้ำยาฆ่าเชื้อ ติดรถไว้อีก 1 จุดเมื่อขึ้นรถและลงรถ เรียกว่าจุดนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องใช้งานกับรถลาเป็นประจำควรจะต้องมีติดไว้อย่างน้อย 2 จุดทั้งซ้ายขวาสำหรับคนขับและคนนั่งกันเลย

และตอนนี้น้ำยา เดทตอล ถือว่ามาแรงเนื่องด้วยใช้งานได้จริงไม่ว่าจะในส่วนของเสื้อผ้าหรือการทำความสะอาดทุกส่วน สามารถใช้งานได้ทั้งหมด และปัจจุบันน้ำยาตัวนี้ได้มีการปรับปรุงในเรื่องของกลิ่นให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ลดความฉุนแล้วเพิ่มความหอมเพิ่มขึ้นทำให้คนที่ใช้งานนั้นรู้สึกโล่งสบายจมูก ได้สูดกลิ่นแล้วได้ดมกลิ่นแล้วรู้สึกว่ามีความสะอาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน ส่วนในเรื่องของราคานั้นก็มีการปรับลดลงมาให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจ เพื่อต้องการให้ทุกคนนั้นช่วยกันรณรงค์ในเรื่องของความสะอาดและ เราอาจจะต้องอยู่กับเรื่องราวของการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อไปอีกยาวนานถ้ามีราคาที่สูงเกินไปการใช้งานก็จะดูเป็นเรื่องที่ยากสำหรับทุกคน

เรื่องของความสะอาดไม่จำเป็นจะต้องรอให้โรคนั้นเกิดขึ้นมาก่อน ความเป็นจริงเราควรที่จะดูแลความสะอาดอย่างไม่ว่างเว้น ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่การสร้างสุขนิสัยเรื่องของการดูแลทุกสิ่งทุกอย่างให้สะอาดเรียบร้อยเป็นสิ่งที่ดี ส่วนการใช้ น้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ นั้น เป็นตัวช่วยหลังจากที่เราได้ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างดีแล้ว

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0609

#3433
'อินทรีเหล็ก' เยอรมนี โชว์ฟอร์มสุดโหด ต้อนสมันน้อยประจำกลุ่ม อย่าง ลิกเตนสไตน์ ขาดลอย 9-0 นำโด่งจ่าฝูงของกลุ่ม ศึกฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป

ศึกฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป คืนวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เกมที่น่าสนใจในกลุ่ม เจ 'อินทรีเหล็ก' เยอรมนี เปิดรังโวล์คสวาเกน อารีน่า รับการมาเยือนของ ลิกเตนสไตน์

'อินทรีเหล็ก' ภายใต้การคุมทีมของ ฮันซี ฟลิค การันตีตั๋วไปเล่นในรอบสุดท้ายที่กาตาร์เป็นที่แน่นอนแล้ว เกมนี้ส่ง โธมัส มุลเลอร์ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี มาร์โก รอยส์, เลรอย ซาเน และโบเต บาคู ทำเกมรุก

ปรากฎว่าเกมนี้ เยอรมนี เหนือกว่าด้วยประการทั้งปวง เปิดบ้านไล่ต้อนเอาชนะ ลิกเตนสไตน์ ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 9 ไปแบบขาดลอย 9-0 ได้ประตูจาก อิลคาย กุนโดกัน น.11, ดาเนียล คุฟมันน์ (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.20, เลรอย ซาเน น.22, มาร์โก รอยส์ น.23, เลรอย ซาเน น.49, โธมัส มุลเลอร์ น.77, โบเต บาคู น.80 โธมัส มุลเลอร์ น.86 และแม็กซ์ ก็อปเปล (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.89

จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ เยอรมนี มีเพิ่มเป็น 24 แต้ม จาก 9 นัด ด้วยผลงานชนะ 8 แพ้ 1 ยึดตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่มอย่างเหนียวแน่น ส่วน ลิกเตนสไตน์ รั้งบ๊วยต่อไป มี 1 แต้ม จาก 9 นัด

รายชื่อ 11 ตัวจริงทีมชาติเยอรมนี
มานูเอล นอยเออร์ (GK), โยนาส ฮอฟมันน์, ธีโล เคห์เรอร์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, คริสเตียน กุนเตอร์, เลออน โกเร็ตซ์กา, อิลคาย กุนโดกัน, โบเต บาคู, มาร์โก รอยส์, เลรอย ซาเน, โธมัส มุลเลอร์


ผลฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป วันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา

กลุ่ม เอ
อาร์เซอร์ไบจาน 1-3 ลักเซมเบิร์ก
ไอร์แลนด์ 0-0 โปรตุเกส

กลุ่ม บี
จอร์เจีย 2-0 สวีเดน
กรีซ 0-1 สเปน

กลุ่ม เอช
รัสเซีย 6-0 ไซปรัส
มอลตา 1-7 โครเอเชีย
สโลวาเกีย 2-2 สโลวีเนีย

กลุ่ม เจ
อาร์เมเนีย 0-5 นอร์ธ มาซิโดเนีย
เยอรมนี 9-0 ลิกเตนสไตน์
โรมาเนีย 0-0 ไอซ์แลนด์
#3434
    ชุดอุปกรณ์กีฬา ราคาพิเศษ ชุด 2990 บาท
ชุดอุปกรณ์กีฬา ราคาพิเศษ ชุด 2990 บาท
[list=1]
  • ลูกฟุต. ยี่ห้อ Molten เบอร์ 5 รุ่น F5A1000 หนังเย็บ TPU จำนวน 2 ลูก
  • ลูกวอลเลย์. ยี่ห้อ Molten เบอร์ 5 รุ่น TV58SLC หนังอัด PU. จำนวน 2 ลูก
  • ลูกฟุตซอล ยี่ห้อ Molten เบอร์ 3.5 รุ่น F9G2600 หนังอัด PU จำนวน 1 ลูก
  • ลูกบาสเก็ต. ยี่ห้อ Molten  เบอร์ 7 รุ่น B7R-Classique จำนวน 1 ลูก
  • ลูกตะกร้อมาราธอน รุ่น MT101 จำนวน 1 ลูก
  • ตาข่ายใส่.หมู่ใหญ่ (ใส่.ได้ 20. ลูก) จำนวน 1 ผืน
  • แถมที่สูบลมแบบมือ ยี่ห้อ Grandsport จำนวน 1 อัน
  • เชือกกระโดด เชือกไนล่อน ด้ามไม้ ยาว 2.75  เมตร จำนวน 1 อัน
  • ฟรีค่าส่ง
#3435
เวียดนาม โชว์เกมรับอันเหนียวแน่น พ่ายคาบ้านให้กับ ญี่ปุ่น ไปแบบหวุดหวิด 0-1 ปราชัย 5 เกมรวด ศึกฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย

ศึกฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย พลพรรค 'ดาวทอง' ทีมชาติเวียดนาม ลงสนามนัดที่ 5 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ 'ซามูไรบลู' ทีมชาติญี่ปุ่น

เวียดนนาม ลงเล่นมา 4 นัดก่อนหน้านี้ แพ้รวด ยังไม่มีแต้ม เกมนี้ ปาร์ค ฮังซอ เฮดโค้ชคนเก่ง จัดทัพชุดใหญ่เต็มสูบลงสนาม นำโดย เหงียน คองเฟือง, เหงียน เทียน ลินห์, เหงียน กวงไฮ, เหงียน ตวน อันห์

ด้าน ญี่ปุ่น 4 นัดก่อนหน้านี้ ชนะ 2 เสมอ 2 โดยล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านเอาชนะออสเตรเลีย 2-1 เกมนี้วาง ยูยะ โอซาโกะ จับคู่ในแดนหน้าร่วมกับ จุนยะ อิโตะ โดยมี ทาคูมิ มินามิโนะ และเอโอะ ทานากะ คอยปั้นเกม

ปรากฎว่าเกมนี้ ญี่ปุ่น ทำได้ดีกว่า เป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะ เวียดนาม ไปแบบหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ จุนยะ อิโตะ ในนาทีที่ 17

จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้ ญี่ปุ่น มีเพิ่มเป็น 9 แต้ม จาก 5 นัด ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตารางชั่วคราว ส่วน เวียดนาม แพ้ 5 นัดรวด ยังไร้แต้ม ยึดบ๊วยของตารางอย่างเหนียวแน่น

สำหรับโปรแกรมถัดไป เวียดนาม จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ซาอุดิอาระเบีย ในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ เวลา 19.00น. ส่วน ญี่ปุ่น จะยกพลไปเยือน โอมาน ในวันที่ 16 พฤศจิกายน เวลา 23.00น.
#3436
เครื่องดื่มสมุนไพร เถาวัลย์เปรียงผสมโสม (คณาฟูดส์)



สูตรเข้มข้น|มีกล่อง|ราคาข้างขวด299฿|มีแก้วตวงให้30มล.

สรรพคุณ : บำรุงร่างกาย บำรุงกำลังช่วยรักษาเส้นเอ็นขอด เส้นเอ็นพิการ บรรเทาอาการปวด ปวดหลัง ปวดเอว ปวดข้อ ข้ออักเสบ ข้อเข่าเสื่อม อาการอักเสบของกล้ามเนื้อ เพิ่มระบบการไหลเวียนของโลหิต สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้เป็นปกติส่วน

ประกอบสำคัญของน้ำสมุนไพร


1. กระชายดำ  ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายเนื่องจากทำงานหนัก บำรุงฮอร์โมนเพศ บำรุงหัวใจ แก้ลมวิงเวียน

2. เถาวัลย์เปรียง  เป็นสมุนไพรที่คนไทยใช้มาเนิ่นนาน เพื่อแก้อาการปวดเมื่อยและแก้อักเสบของกล้ามเนื้อ ถ่ายเส้น ถ่ายกษัต แก้เส้นเอ็นขาด เส้นตึง ขับปัสสาวะ

3. เก๋ากี๋  ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดความดันโลหิต ไขมันในเส้นเลือดไม่อุดตัน ลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ข่วยให้ระบบในร่างกายทำงานได้สมบูรณ์ขึ้น บำรุงร่างกายให้แข็งแรง

4. ชะเอมเทศ  ช่วยขับเลือดเสีย แก้น้ำลายเหนียว ช่วยให้ชุ่มคอ แก้เสมหะเป็นพิษ

5. เห็ดหลินจือ  ช่วยบำรุงร่างกายเป็นยาอายุวัฒนะ

6. โสม  ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร ลดอาการอ่อนเพลีย

เลขที่ อย. 40-1-10257-2-0008




คำเตือน : สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน คนมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

ขนาดรับประทาน : รับประทานครั้งละ 30 มล. หลังอาหารเช้า หรือ เย็น

ราคา :1 ลัง (12 ขวด) 2,300 บาท (จัดส่งฟรี) **มีบริการเก็บเงินปลายทางบวกเพิ่ม 100 บาท

Line : 0932581924 หรือกดลิงค์ สั่งซื้อ ==> https://line.me/R/ti/p/~0932581924

โทร. 091-582-0158 (คุณนิพนธ์)

=> http://xn--72c3apfzacbirv7bb2gn8c2kg0c8m.com/
=> https://shop.line.me/@herb_th
=> https://www.facebook.com/เครื่องดื่มสมุนไพร-เถาวัลย์เปรียง-1244587152256832เครื่องดื่มสมุนไพรเถาวัลย์เปรียงผสมโสม
#3437


"เดลี เทเลกราฟ" รายงานว่า สตีเวน เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีมกลาสโกว์ เรนเจอร์ส สนใจที่จะเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการเข้ารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา แทนที่ของ ดีน สมิธ ที่เพิ่งถูกไล่ออกไป

รายงานระบุว่าสตีวีจีที่มีสัญญากับเรนเจอร์สถึงปี 2024 เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของวิลลา ที่เตรียมทาบทามเป็นทางการ แม้ว่ายักษ์ใหญ่ลีกขี้เมาไม่อยากเสียอดีตมิดฟิลด์ "หงส์แดง" กลางฤดูกาล แต่ก็เริ่มทำใจหาก เจอร์ราร์ด อยากลองความท้าทายใหม่ โดยที่ วิลลา จ่ายเงินชดเชย 2.5 ล้านปอนด์

เจอร์ราร์ด คุ้นเคยกับ คริสเตียน เพอร์สโลว์ ประธานบริหารวิลลา กันมาตั้งแต่สมัยร่วมงานที่แอนฟิลด์ และการทำงานที่มิดแลนด์ก็ดีต่อครอบครัวเขาเองด้วยที่เวลานี้ก็ยังอาศัยอยู่ที่เมอร์ซีย์ไซด์ แต่ถ้าจะมีอุปสรรคอาจเป็นกรณีที่ เจอร์ราร์ด ต้องการยกทีมงานจาก เรนเจอร์ส ไปเกือบหมด รวมถึง แกรี แม็คอัลลิสเตอร์, ไมเคิล บีล และ ทอม คัลชอว์


อัตราต่อรองผู้จัดการทีมคนใหม่ของ วิลลา เจอร์ราร์ด นำโด่งที่ 4-11 (แทง 11 จ่าย 4) แฟรงค์ แลมพาร์ด ตามมาห่างๆ อัตรา 7-1, จอห์น เทอร์รี 10-1, แคสเปอร์ ฮูลมันด์ 14-1 เท่ากับ โรแบร์โต มาร์ติเนซ.
#3438
ธปท.ออกกฎ KYM คุมอีมันนี่ สกัดฟอกเงิน-ทุจริตผ่านร้านค้าชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ดึงผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรระหว่างประเทศประเมินและจัดระดับความเสี่ยง ยกระดับระบบชำระเงินให้ปลอดภัย

ปัจจุบันการชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของการซื้อขายสินค้าหรือบริการจากร้านค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือร้านค้าออนไลน์ได้รับความนิยมและมีปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ  มีการอำนวยความสะดวกแก่ร้านค้าในการรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

 

เช่น การวางเครื่องรับบัตร (Electronic Data  Capture: EDC) การให้บริการ Quick  Response Code (QR Code) และการรับชำระเงินรูปแบบต่าง ๆ โดยมีการทำความรู้จักและการบริหารติดตามความเสี่ยงร้านค้าที่แตกต่างกัน ทั้งในมิติของการพิจารณาความเสี่ยงของประเภทสินค้าหรือบริการ ความเสี่ยงของร้านค้า และความเสี่ยงของวิธีการรับชำระค่าสินค้าหรือบริการ

 


ซึ่งการประเมินความเสี่ยงที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้มีการใช้การรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นช่องทางการทุจริต การฟอกเงิน หรือการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลเสียหายต่อลูกค้าได้

ธปท.ออกกฎ KYM คุมอีมันนี่  สกัดฟอกเงินมีผล 1ม.ค.65
ธปท.ออกกฎ KYM คุมอีมันนี่ สกัดฟอกเงินมีผล 1ม.ค.65

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จึงกำหนดแนวนโยบายการรู้จักและการบริหารติดตามความเสี่ยงร้านค้าสำหรับการรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Know Your Merchant (KYM) 

 

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจ ได้แก่

1.ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ 

2.ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ 

3.ผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน 

4.สถาบันการเงินเฉพาะกิจ  ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรับชำระเงินแก่ร้านค้าด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ มีกระบวนการรู้จักและพิสูจน์ทราบร้านค้า

 

รวมทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เพียงพอเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของร้านค้า  เป็นแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานขั้นต่ำ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565


ความเสี่ยง 3ระดับ

สาระสำคัญประกอบด้วย

 1.จัดให้มีการประเมินและจัดระดับความเสี่ยงร้านค้าโดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1) ร้านค้าทั่วไป  คือ ร้านค้าที่ผู้ประกอบธุรกิจประเมินแล้วว่าขายสินค้าหรือบริการทั่วไป ที่ไม่เข้าลักษณะความเสี่ยงสูงหรือไม่ใช่ร้านค้าที่เข้าลักษณะต้องห้าม

2) ร้านค้าที่เข้าลักษณะความเสี่ยงสูง คือ  ร้านค้าที่ผู้ประกอบธุรกิจประเมินว่าขายสินค้าหรือบริการที่เข้าลักษณะความเสี่ยงสูงจากการประเมินจากปัจจัยความเสี่ยง เช่น ประเภทสินค้าหรือบริการช่องทางการขายสินค้าหรือบริการ รูปแบบธุรกิจ สถานที่ตั้งของร้านค้า เป็นต้น หรือเข้าลักษณะตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้ประกอบธุรกิจอาจนำแนวทางการจัดประเภทสินค้าหรือบริการตาม Merchant Category Code (MCC) ของผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรระหว่างประเทศมาใช้ในการประเมินความเสี่ยงด้วยก็ได้

3) ร้านค้าที่เข้าลักษณะต้องห้าม  คือ  ร้านค้าที่ผู้ประกอบธุรกิจประเมินแล้วว่าขายสินค้าหรือบริการอย่างหนึ่งอย่างใดต้องห้ามโดยกฎหมายชัดแจ้ง หรือที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน เช่น ร้านค้าที่ขายสินค้าหรือบริการที่เข้าข่ายความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

 

2. กำหนดนโยบายการรู้จักร้านค้า แนวปฏิบัติและกระบวนการประเมิน ติดตาม สอบทาน และบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ ตั้งแต่เริ่มกระบวนการรู้จักร้านค้าจนถึงการยุติความสัมพันธ์กับร้านค้าตามระดับความเสี่ยงร้านค้า และสอดคล้องกับกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

 

สำหรับร้านค้าที่เข้าลักษณะความเสี่ยงสูง ผู้ประกอบธุรกิจต้องกำหนดนโยบายแนวปฏิบัติ และกระบวนการสำหรับร้านค้าเพิ่มเติมจากแนวปฏิบัติขั้นต่ำที่ใช้กับร้านค้าทั่วไป รวมถึงกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติที่วางไว้อย่างเคร่งครัด

 

4หลักการสำคัญ คือ

1) การจัดกลุ่มและกำหนดกระบวนการรู้จักร้านค้าที่สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของร้านค้าและกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง 

2) การบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีกลไก กระบวนการ ระบบงาน หรือเครื่องมือที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของร้านค้า และสามารถติดตามตรวจสอบได้อย่างต่อเนื่อง 

3) การรู้จักและการบริหารติดตามความเสี่ยงร้านค้ามีมาตรฐานระหว่างผู้ประกอบธุรกิจ และไม่เป็นภาระให้กับผู้ประกอบธุรกิจเกินสมควร  และ 4) ระบบการชำระเงินมีความปลอดภัยในการให้บริการ

 

สำหรับแนวนโยบายการรู้จักและการบริหารติดตามความเสี่ยงร้านค้า  ผู้ประกอบธุรกิจต้องดำเนินการ  ได้แก่ 

1.กำหนดนโยบาย มาตรการบริหารความเสี่ยง กระบวนการควบคุมภายใน  เช่น หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการแสดงตนของลูกค้าและการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน หรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝาก หรือการเปิดใช้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น

 

โดยนโยบายดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทหรือคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งจัดให้มีการเผยแพร่และจัดอบรมแก่พนักงานหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามนโยบาย มาตรการ และแนวทางดังกล่าว และจัดให้มีการทบทวนและปรับปรุงนโยบาย มาตรการบริหารความเสี่ยง กระบวนการควบคุมภายในและการติดตามตรวจสอบความเสี่ยงและการปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

 

2 ประเมินและจัดระดับความเสี่ยงร้านค้าจากข้อมูลและหลักฐานของร้านค้า (Merchant  categorization) โดยจัดระดับความเสี่ยงตามรูปแบบลักษณะและประเภทของธุรกิจ และต้องคำนึงถึงปัจจัยความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการทุจริต การฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นขั้นต่ำ หรือการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้ประกอบธุรกิจอาจนำปัจจัยความเสี่ยงตามแนวทางของผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรระหว่างประเทศ (International Card Schemes) มาใช้ในการประเมินและจัดระดับความเสี่ยงด้วยก็ได้

 

3 แนวปฏิบัติในการรู้จักและบริหารติดตามความเสี่ยงร้านค้า ครอบคลุมกระบวนการตั้งแต่การรู้จักร้านค้าจนถึงการติดตามตรวจสอบและยุติความสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงร้านค้าโดยร้านค้าทุกแห่งปฏิบัติตามแนวปฏิบัติขั้นต่ำ

 

สำหรับร้านค้าที่เข้าลักษณะความเสี่ยงสูงต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติเพิ่มเติมด้วย ดังนี้

 1) แนวปฏิบัติขั้นต่ำ   การรู้จักร้านค้าเพื่อให้บริการรับชำระเงิน (Onboarding)   ผู้ประกอบธุรกิจต้องทำความรู้จักเจ้าของร้านค้าหรือผู้มีอำนาจจัดการร้านค้า (KYM) ทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การแสดงตนของลูกค้าและการพิสูจน์ตัวตน ลูกค้าตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึงหลักเกณฑ์การรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝาก การเปิดใช้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ของ ธปท. หรือการให้บริการรับชำาระเงินรูปแบบอื่น แล้วแต่กรณี

 

ทั้งนี้ผู้ประกอบธุรกิจพิสูจน์ทราบข้อมูลและหลักฐานร้านค้า (Verification)ให้สอดคล้องกับลักษณะและความเสี่ยงของธุรกิจแต่ละประเภท เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ความแท้จริง และความเป็นปัจจุบันของข้อมูลและหลักฐานของร้านค้า

 

นอกจากนี้การบริหารติดตามความเสี่ยงร้านค้า (Ongoing monitoring)  ให้ผู้ประกอบธุรกิจกำหนดมาตรการ แนวทางดำเนินการ กระบวนการและกลไกในการบริหารติดตาม และตรวจสอบความเสี่ยง ความเคลื่อนไหวของธุรกรรมรับชำระเงิน รวมถึงติดตามปรับปรุงข้อมูลสถานะของร้านค้าที่ตนให้บริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทราบถึงระดับความเสี่ยงของร้านค้าที่อาจเปลี่ยนแปลงไป

 

 เช่น การเปลี่ยนแปลงประเภทสินค้าหรือรายได้จากการขายสินค้า พร้อมทั้งจัดทำรายชื่อกลุ่มร้านค้าที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด (Watch list) ด้วย

 

อีกทั้งดูแลกระบวนการบริหารติดตามความเสี่ยงของร้านค้าครอบคลุมทั้งร้านค้าหลัก(Master merchant) และร้านค้าอื่นภายใต้ร้านค้าหลัก (Sub-merchant) ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจควรกำหนดให้ร้านค้าหลักถือปฏิบัติตามแนวนโยบายฉบับนี้เพื่อดูแลร้านค้าอื่นภายใต้ร้านค้าหลัก เช่น กำหนดให้มีแนวทางในการดำเนินการกับร้านค้าอื่นภายใต้ร้านค้าหลักในกรณีที่พบความผิดปกติของร้านค้าดังกล่าว

พร้อมกำหนดตัวชี้วัดความเสี่ยง และความถี่ในการติดตามและทบทวนความเสี่ยงของร้านค้าให้สอดคล้องตามระดับความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดระดับความเสี่ยงร้านค้ายังคงสะท้อนความเสี่ยงของร้านค้าได้อย่างเหมาะสม

กรณีตรวจพบความผิดปกติของร้านค้า ตลอดจนกำหนดให้มีระยะเวลาและขั้นตอนการรายงานข้อมูลต่อผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามนัยสำคัญของความผิดปกติดังกล่าว  และ มีแนวทางปรับปรุงข้อมูลร้านค้า ข้อมูลของเจ้าของร้านค้าหรือผู้มีอำนาจจัดการร้านค้า และข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน

 

ขณะเดียวกันได้กำหนดแนวปฏิบัติเพิ่มเติม

1) การรู้จักร้านค้าเพื่อให้บริการรับชำระเงิน (Onboarding) การพิสูจน์ทราบข้อมูลและหลักฐานร้านค้า (Verification) ให้ตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้สามารถบ่งชี้และเชื่อได้ว่าข้อมูลและหลักฐานของร้านค้าถูกต้อง แท้จริง และเป็นปัจจุบัน เช่น การตรวจสอบหลักฐานการจดทะเบียนพาณิชย์หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกระทรวงพาณิชย์ การตรวจสอบหน้าร้าน (Site visit) การตรวจสอบช่องทางการขายทางออนไลน์จากเว็บไซต์ เป็นต้น

2.) การบริหารติดตามความเสี่ยงร้านค้า (Ongoing monitoring) การตรวจสอบและติดตามความเสี่ยงต้องดำเนินการในระดับที่เข้มข้นสำหรับร้านค้าที่เข้าลักษณะความเสี่ยงสูง โดยมีระบบงานหรือเครื่องมือที่ช่วยให้ติดตามและตรวจสอบธุรกรรมของร้านค้าได้อย่างครอบคลุมเพียงพอ หรือด้วยวิธีการพิเศษ เช่น การเพิ่มความถี่ในการออกตรวจสอบหน้าร้านหรือช่องทางการขายทางออนไลน์การตรวจสอบแบบไม่แสดงตน (Mystery shopping)ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวรวมถึงร้านค้าในกลุ่มที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด (Watch list) ด้วย และมีแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนกรณีตรวจพบความผิดปกติ

3) ร้านค้าที่เข้าลักษณะต้องห้าม ผู้ประกอบธุรกิจต้องไม่ดำเนินการใด
#3439
คลัง เผย "บินไทย" สัญญาณบวกหลังเริ่มกลับมาบินได้ คาดอาจไม่ต้องกู้เสริมสภาพคล่องถึง 5 หมื่นล้าน ขณะที่สังคมเริ่มกังขา หลัง "บินไทย" เร่งขายเครื่องบินเสริมสภาพคล่องไม่โปร่งใส

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลาโหม วันนี้ว่า เป็นเพียงการเข้ารับฟังความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยปฏิเสธตอบคำถามกรณีการช่วยหาแหล่งเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้การบินไทยวงเงิน 25,000 ล้านบาท

 

โดยแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในกรณีการเพิ่มทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องตามแผนฟื้นฟูการบินไทยวงเงิน 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการบินไทยกู้เงินเองจากสถาบันการเงินของเอกชน วงเงิน 25,000 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งทุนหรือค้ำประกันเงินกู้วงเงิน 25,000 ล้านบาทให้นั้น ว่า ยังต้องดูสถานการณ์หลังกลับมาเปิดการบินในช่วง 1-2 เดือนนี้ก่อน


 

เนื่องจากเริ่มมีรายได้เข้ามาแล้ว ซึ่งจากตัวเลขที่การบินไทยรายงาน ก็นับเป็นสัญญาณที่ดี และอาจทำให้การบินไทยไม่จำเป็นต้องหาเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องถึง 50,000 ล้านบาทตามที่ระบุในแผนฟื้นฟูฯ

 

ส่วนจะต้องการเท่าไหร่ การบินไทยจะต้องเข้ามาหารือร่วมกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง ทั้งนี้ในแผนฟื้นฟูฯ ได้กำหนดชัดเจนว่าคลังสามารถช่วยจัดหาแหล่งเงินกู้ได้ โดยอาจให้บริษัทลูกของกระทรวงการคลังช่วยค้ำประกันเงินกู้ให้

 

 


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมกรณีที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศขายเครื่องบิน เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่งทางธุรกิจ และเป็นการลดต้นทุนการดำเนินงานนั้น ขณะนี้ได้มีการตั้งประเด็นคำถามการขายทรัพย์สินของการบินไทย ว่า เป็นไปตามเงื่อนไขและแผนการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการแจกแจงรายละเอียดของการขายเปรียบเทียบการซื้อ ค่าเสื่อม และราคาขาย ณ ปัจจุบัน 

 

ทำให้หลายฝ่ายกังขาการขายทรัพย์สิน โดยเฉพาะการขายเครื่องบินให้เอกชน ที่ซื้อมาในราคาแพง แต่ขายในราคาที่ถูก 

 

อย่างไรก็ตามแม้การบินไทย ไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว แต่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดังนั้นการดำเนินการใดๆ ก็ต้องทำอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และโปร่งใส แม้การบินไทย จะมีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องเร่งขายทรัพย์สิน เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ หรือชำระหนี้ที่คงค้าง ก็ตาม

 

ส่วนกรณีที่กระทรวงคมนาคม ในฐานะนายทะเบียน ยังไม่เซ็นยินยอมการขายเครื่องบินนั้น ต้องสอบถามว่าเหตุใด กระทรวงคมนาคม ไม่ยอมเซ็นให้ขายเครื่องบิน  ทั้งๆที่การบินไทย มีความจำเป็นต้องขาย เพื่อลดต้นทุนขององค์กร
#3440

บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  บริษัทย่อยในเครือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ดำเนินธุรกิจให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าทุกสายของบีทีเอส กรุ๊ปฯ ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายแก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าการออกหุ้นกู้รวม 10,200 ล้านบาท โดยมีนักลงทุนแสดงความจำนงในการลงทุนกว่า 2 เท่า หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 'A' จากทริสเรทติ้ง สำหรับเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้บริษัทฯ จะนำไปใช้ในโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ – ใต้ ซึ่งเป็นโครงการที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยนำคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นมาสู่คนกรุงเทพฯ และปริมณฑล สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน-ยึดมั่นดูแลสิ่งแวดล้อมของ บีทีเอส กรุ๊ปฯ

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ("BTSG") เปิดเผยว่า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยในเครือบีทีเอส กรุ๊ปฯ ออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Green Bond ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด อายุ 3, 5, 7 และ 10 ปี มูลค่าเสนอขายรวม 10,200 ล้านบาท แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 3 – 5 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีผู้ลงทุนแสดงความจำนงในการลงทุนเป็นจำนวนกว่า 2 เท่า โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการออก Green Bond ในครั้งนี้ ไปใช้ในโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ – ใต้ ในส่วนของการจัดซื้อรถไฟฟ้าและระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล (Electrical and Mechanical Works) ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวดังกล่าว เป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ลดการใช้รถยนต์ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) นำมาซึ่งคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นแก่ชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล การออกหุ้นกู้ Green Bond ของ BTSC ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของบีทีเอส กรุ๊ปฯ ในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมความยั่งยืน และยังสอดคล้องกับความตั้งใจของบีทีเอส กรุ๊ปฯ ที่จะออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง


การออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ BTSC ในครั้งนี้ ถือเป็น Green Bond ชุดแรกของ BTSC ซึ่งอยู่ภายใต้ Green Bond Framework ของบีทีเอส กรุ๊ปฯ และบริษัทฯ ได้ดำเนินการให้ Green Bond ของบริษัทฯ ในครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานสากล คือ Green Bond Principles 2021 (GBP) ซึ่งออกโดย International Capital Market Association (ICMA) และ ASEAN Green Bond Standards 2018 (ASEAN GBS) ซึ่งออกโดย the ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) โดยมี Sustainalytics ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำด้าน ESG และ Corporate Governance เป็นผู้ประเมินและออก Second Party Opinion (SPO) ว่า Green Bond ของบริษัทฯ เป็นไปตามมาตรฐานสากลดังกล่าว นอกจากนี้ Climate Bonds Initiative หรือ CBI ยังได้รับรองว่า Green Bond ของบริษัทฯ เป็นไปตาม Climate Bonds Standard version 3.0 ในเกณฑ์ Low Carbon Transport อีกด้วย






"บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ไว้วางใจและให้ความสนใจจองซื้อ Green Bond ของ BTSC รวมทั้งขอบคุณ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้ ซึ่ง Green Bond ในครั้งนี้เป็น Green Bond ครั้งแรกของ BTSC หลังจากที่ BTSG ประสบความสำเร็จในการออก Green Bond มาแล้ว 2 ครั้งในปี 2562 และ 2563 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของผู้ลงทุนต่อความมุ่งมั่นของบีทีเอส กรุ๊ปฯ ในการลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนการขยายตัวทางธุรกิจอย่างยั่งยืน" นายสุรยุทธกล่าว