⚡👉🥇โดยปกติแล้วเมื่อท่านทำการก่อสร้างบ้าน อาคารต่าง ๆ📢 ถ้าท่านไม่ใช่วิศวกรส่วนใหญ่ก็จะทำตามแนวทางที่ผู้รับเหมาแนะนำ✅ แต่ผู้รับเหมาบางเจ้า📢ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย📢 (ต้องขอย้ำว่าไม่ใช่ทุกรายนะครับ🥇) ก็จะตัดการทดสอบที่ตนเห็นว่าไม่จำเป็นออกไป⚡ ซึ่งสิ่งแรก ๆ ที่ตัดสินใจตัดออกคงหนีไม่พ้นเรื่องการเจาะสำรวจดินก็เป็นแน่📢 ในบทความนี้จะอธิบายความสำคัญของการเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้าง🌏 ว่าไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์อย่างไร✅
(https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/450797550_972429818011786_3606166409515295525_n.jpg?_nc_cat=111&ccb=1-7&_nc_sid=127cfc&_nc_ohc=UBuLHFtoFpcQ7kNvgG6qxfw&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.fna&oh=00_AYDBG4hFuJWh9e9RSvdD7osmftiqdLqdhK_vquOVgMiaxg&oe=66A57927)
⚡✨🥇🌏เหตุผลในการเจาะสำรวจดิน🦖🛒📌🦖👉
1. ทำให้เราทราบประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง📢 เพื่อทำให้ทราบลักษณะเชิงกล🛒 เพื่อเลือกฐานรากที่เหมาะสม🎯 หากดินมีความแข็งแรงเพียงพอ อาจเลือกใช้ฐานแผ่🎯
2. ทำให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง)🦖 ว่าอยู่ลึกลงไปเท่าไร เพื่อการคำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม📌 และการประเมินความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม✨
3. ลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม✨ หากพบชั้นดินแข็งที่ไม่หนาในความลึกที่น้อย✅ อาจทำให้คนตอกเสาเข็มหยุดตอก เพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็งแล้ว🦖 แต่ที่จริงสามารถตอกต่อไปได้อีกเล็กน้อย🎯
4. หากดินในบริเวณสำรวจมีความผันผวนสูง⚡ วิศวกรอาจสั่งให้เจาะสำรวจหลายหลุมเพื่อเปรียบเทียบ📢 อาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบเพื่อก่อสร้างอาคารในบริเวณนั้น📌
📢🌏⚡👉ประเภทของการเจาะสำรวจดินที่นิยมใช้⚡✨🥇🛒📢
1. การเจาะสำรวจดิน โดยใช้เครื่องเจาะแบบ Motorized Drilling Rig✅
เป็นเครื่องเจาะสำรวจดินที่สามารถขนย้ายเข้าจุดเจาะสำรวจดินได้แบบไม่ยุ่งยาก🦖 อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดาหน่วยเจาะสำรวจดิน👉 ว่ากันด้วยเรื่องของความง่าย🦖 และประหยัดเวลาในการติดตั้ง⚡ ทำให้งานเจาะสำรวจดิน (https://th.linkedin.com/in/soil-boring-test)เสร็จเร็วขึ้น ในที่นี้ขอกล่าวถึง การเจาะแบบฉีดล้าง (Wash Boring)🎯 ก็จะเป็นในลักษณะของการใช้เครื่องสูบน้ำช่วยเจาะด้วยหัวกระทุ้ง (Chopping Bit)📌 ต่อจากก้านเจาะ📌 ปลายบนต่อกับหัวหมุนน้ำ🥇 ซึ่งจะต่อไปยังเครื่องสูบน้ำขณะทำการกระทุ้งดิน👉 จะทำการฉีดน้ำผ่านรูก้านเจาะ🥇 น้ำที่ฉีดจะไหลวนขึ้นมาพร้อมกับเศษดิน ซึ่งจะมาตกในบ่อน้ำวน จนได้ความลึกที่ต้องการเก็บตัวอย่าง
การเจาะตลอดความลึกของหลุมเจาะ ในชั้นดินเหนียวอ่อน🦖 หลุมเจาะจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วและลดลงเหลือ 3 นิ้ว ในดินแข็ง🥇 ระหว่างดำเนินการเจาะสำรวจดินก็ต้องมีการฝัง ท่อป้องกัน✅ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้วลงไปจนถึงชั้นดินแข็ง📌 เพื่อป้องกันการพังทลายของหลุม🥇 และใช้ Bentonite Slurry⚡ ช่วยป้องกันการพังในชั้นทราย📢 ทำการเจาะจนถึงชั้นดินแข็งที่มีค่า SPT-N มากกว่า 50✅
2.การใช้เครื่องเจาะแบบ Rotary Drilling📢
สามารถเจาะสำรวจดินได้กับทุกสภาพชั้นดิน👉 เป็นลักษณะของเครื่องมือเจาะที่มีประสิทธิภาพสูง🎯 ด้วยระบบไฮดรอลิก🎯 เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนแรงงานคนและแรงโน้มถ่วง📢 สามารถเจาะสำรวจดินแบบทะลุทะลวงได้ลึกเกินกว่า 40 เมตร👉 โดยใช้เครื่องยนต์ (Rotary Drilling Rig)🦖 ที่ส่งกำลังแรงปั่นหัวเจาะลงไปลึก ๆ และอยู่ในระดับความเร็วที่ต้องการ⚡ ดินจะถูกปั่นขึ้นมาตาม (flight auger)✨
วิธีนี้เครื่องยนต์ใช้กำลังบิดสูง✨ ดังนั้นจึงมักเจาะสำรวจดินลงไปในช่วงสั้น ๆ เช่น 1.5 เมตร👉 แล้วยกหัวเจาะขึ้นนำดินออก✅ แล้วเจาะต่อไปอีก 1.5 เมตร✨ จึงสามารถตรวจลักษณะชั้นดินได้📌 การใช้หัวเจาะผนวกกับการเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง🥇 หรือจะเป็นไปในลักษณะของการเจาะสำรวจดินด้วยความเร็วสูง✨ ทำให้ตัดดินขาดออก พร้อมทั้งปล่อยน้ำ⚡ โดยใช้แรงดันน้ำสูง🦖 เพื่อพาดินขึ้นมาที่ผิวดิน📌 เศษดินหรือหินจะถูกส่งขึ้นมาด้วยน้ำจากก้นหลุมเจาะด้วยหัวฉีดที่อยู่บริเวณหัวเจาะ⚡ ในดินแข็งหลุมที่เจาะจะเปิดไม่พังทะลาย👉
แต่ในดินแบบ soft clay หรือ sand📌 ต้องสวมท่อเหล็กเพื่อป้องกันดินพังทลาย🦖 หรือใช้ drilling mud (น้ำผสมสาร Bentonite)✨ ผสมลงในน้ำที่ฉีดลงไปในหลุมเจาะ เพื่อป้องกันการพังทลายของหลุมเจาะ📢 นอกจากจะทำให้ผนังและหลุมเจาะไม่พัง ยังช่วยพาเศษวัสดุขึ้นมาด้วย🥇 เป็นเหตุให้หลุมเจาะสะอาด ในกรณีพบหินแข็งต้องใช้หัวเจาะเพชรเพื่อตัดชั้นหินและเก็บตัวอย่างหิน✅ จึงเรียกว่า การเจาะหิน (Rock Coring)🦖
เข้าใจแล้วครับ
ขอบคุณครับ
น่าสนใจค่ะ
เข้าใจแล้วครับ