• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#3661


เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่จาก กอ.รมน.จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมตำรวจจากสภ.บางพลี และฝ่ายปกครอง อ.บางพลี สนธิกำลังเข้าตรวจค้นภายในโรงพยาบาลสนาม 5 ตั้งอยู่ริมคลองส่งน้ำ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังมีเบาะแสจากเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ดูแลโรงพยาบาลสนามสมุทรปราการรวมใจ 5 ว่า ผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามทั้งชายและหญิงมั่วสุมมีเซ็กซ์หมู่ และก่อเหตุทะเลาะวิวาท ซึ่งฝ่าฝืนข้อบังคับของโรงพยาบาลสนาม

โดยการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องแต่งกายด้วยชุด PPE เพื่อป้องกันเต็มระบบ เข้าค้นภายในโรงพยาบาลสนามที่มีผู้ป่วยเข้าพักกว่า 900 เตียงจากทั้งหมด 3,000 เตียง และทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจค้นบุหรี่ได้ 23 ซอง และบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า และทำการตรวจยึดตามระเบียบของโรงพยาบาลฯ

พ.อ.กฤษภาณุ จำนงค์วงศ์ หน.กลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว ส่วนปฏิบัติการ กอ.รมน.จังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสมีผู้ป่วยในโรงพยาบาลบางกลุ่มฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งของโรงพยาบาลสนามฯ ปัญหาบุคคลภายนอกแอบลักลอบส่งสิ่งของให้แกาผู้ป่วย ปัญหาการทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ป่วย การทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังสุ่มตรวจภายในบริเวณหอพักผู้ป่วยของโรงพยาบาลสนามเพื่อค้นหาอาวุธ ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อให้การดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยภายในโรงพยาบาลสนามเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเพื่อป้องปรามการกระทำความผิด การฝ่าฝืนระเบียบคำสั่ง การทะเลาะวิวาท และเพื่อลดปัญหาด้านยาเสพติดภายใน รพ.สนาม
#3662


สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และลาซาด้า เปิดตัวความร่วมมือส่งเสริมแบรนด์และสินค้าอิตาลีบนห้างสรรพสินค้าออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย ผ่านการลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อเปิดตัวพาวิลเลียนอิตาลีในชื่อ "Authentic Italy" แคมเปญดิจิทัลส่งเสริมสินค้า "Made In Italy" ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพชั้นเยี่ยม ความร่วมมือนี้มุ่งหวังให้นักช้อปออนไลน์สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพจากประเทศอิตาลีแท้ๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว พร้อมยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดพรีเมี่ยมกับสินค้านานาชนิดจากประเทศอิตาลี เตรียมพบกับแคมเปญ Authentic Italy ได้ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 สิงหาคมนี้ บนแพลตฟอร์มลาซาด้าเท่านั้น

ฯพณฯ ลอเรนโซ กาลันตี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า "สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปยังต่างประเทศ ทำให้คนไทยที่ชื่นชอบแบรนด์อิตาลีไม่สามารถเดินทางไปช้อปปิ้งที่อิตาลีได้เหมือนเคย แต่ "Authentic Italy" พาวิลเลียนอิตาลีเสมือนจริงแห่งใหม่บน LazMall จะทำให้นักช้อปไทยสามารถเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งสินค้าอิตาลีเสมือนอยู่อิตาลีจริงๆ เพราะมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบอาหารอิตาลี และชอบการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มอิตาลีแท้ๆ จากที่บ้าน เราจึงมีความยินดีที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์อิตาลีชั้นดีให้ลูกค้าชาวไทยอันเป็นที่รักของเราได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เรายังมุ่งหวังที่จะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อิตาลีและขยายฐานลูกค้าใหม่ทั่วประเทศบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับพรีเมียมอีกด้วย ความร่วมมือกับลาซาด้าในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือระยะยาวตลอดทั้งปี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสินค้าอิตาลี ยิ่งไปกว่านี้ทุกสิ้นเดือน เราจะมีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าของเราเช่นกัน"

นายจูเซปเป ลามัคเคีย ข้าหลวงพาณิชย์ ประจำสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ข้อตกลงร่วมกันระหว่างสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนและลาซาด้า ประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินงานของเรา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้และเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ Made in Italy ของแท้ที่พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทย จากความมุ่งหวังดังกล่าว เราจึงส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจให้ใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีความล้ำสมัยผ่านการสร้างช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบพาวิลเลียนอิตาลีบน LazMall ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับแบรนด์ชั้นนำบนลาซาด้าเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

การวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "Authentic Italy" บนพาวิลเลียนอิตาลีออนไลน์จะทำให้นักช้อปไทยสามารถเลือกซื้อสินค้าทั้งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและแบรนด์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพของอิตาลี นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยจะได้ค้นพบและเลือกซื้อสินค้าอิตาลีที่หลากหลาย ตั้งแต่สินค้าประเภทอาหาร ไปจนถึงสินค้าอื่น ๆ อีกมากมายเพียงแค่ช้อปออนไลน์บน LazMall"

นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า "สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในประเทศไทยรุนแรงกว่าที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนต้องเก็บตัวอยู่บ้าน รวมทั้งร้านค้าและห้างสรรพสินค้าต้องจำกัดการให้บริการเพื่อควบคุมอัตราการระบาดของโรค ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ถือเป็นหน้าที่ของลาซาด้าในการเป็นแรงใจเคียงข้างชาวไทย ด้วยการส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าบนแพลตฟอร์มให้กับนักช้อปไทย

"เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายแรกที่ร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนในการเปิดตัวโครงการ 'Authentic Italy' โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้แบรนด์อิตาลีเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในขณะเดียวกันลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสเสน่ห์ของผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมจากประเทศอิตาลีได้ด้วยตนเองจากที่บ้าน และก้าวข้ามความท้าทายจากการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงข้อจำกัดในการเดินทางที่เผชิญตั้งแต่ปีที่แล้ว ผ่านประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดบนแพลตฟอร์มของเรา"

แคมเปญ "Authentic Italy" บน LazMall พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดพรีเมียมครอบคลุมสินค้าจากอิตาลีทุกความต้องการ ตั้งแต่วัตถุดิบปรุงอาหาร แฟชั่น และความงาม จากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษเอาใจนักช้อปตลอดปี การันตีสินค้าแท้ทุกชิ้น พร้อมส่งฟรีทั่วไทยถึงมือคุณ เลือกซื้อสินค้าง่ายๆ โดยพิมพ์คำว่า "Authentic Italy" ในแถบค้นหา (Search) บนแอปพลิเคชันลาซาด้า
URL
 1
 
#3663


นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด  ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า กรุงศรี ฟินโนเวต ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพ " ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I"  ซึ่งเป็นกองทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  มูลค่า 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุน 3 ปี 

กองทุน"ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I" มุ่งเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งไทย สัดส่วน 70% และต่างประเทศ สัดส่วน 30% โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เน้นลงทุนในสตาร์อัพ ระดับซีรี่ส์ A ขึ้นไปใน 3 กลุ่มธุรกิจ คือ ธุรกิจฟินเทค 40%  อีคอมเมิร์ซ 30% และยานยนต์ 30%  ในกลุ่มสตาร์ทอัพที่อาจฟื้นตัวเร็ว หรือได้รับโอกาสทางธุรกิจในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว เป็นต้นหรือที่เรียกว่า Post-Pandemic Boom Startup

กรุงศรี ฟินโนเวต จะเริ่มเดินสายนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (Roadshow) และเปิดขายให้กับนักลงทุนสถาบัน ตั้งแต่เดือนส.ค.นี้ และเตรียมขายให้กับนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth) ผ่านกองทุนรวม บริหารจัดการโดย บลจ.กรุงศรีอยุธยา เดือน พ.ย.นี้         


 นายแซม กล่าวว่า แม้ผลตอบแทนกองทุนนี้จะไม่สามารถการันตีได้ แต่มั่นใจว่าจะสร้างผลตอบแทนไม่น้อยกว่า ผลงานของกรุงศรี ฟินโนเวตที่เข้าลงทุน15 สตาร์ทอัพ เงินลงทุนมากกว่า 1,500 ล้านบาท ช่วง4 ปีที่ผ่านมา มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 20.8% ถือว่ามากกว่าผลตอบแทนของบริษัทหรือกองทุนเวนเจอร์ต่างๆ เฉลี่ยที่ 18%

รวมถึง กองทุนนี้มีโมเดลจากญี่ปุ่นและสหรัฐที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอีกทั้งได้ปิดความเสี่ยงระดับหนึ่ง เพราะไม่เพียงแต่ใช้ความเชี่ยวชาญการลงทุนสตาร์ทอัพของกรุงศรี ฟินโนเวตและเครือข่าย MUFG ที่ดูแลอยู่ทั่วโลกแล้ว ในส่วนนักลงทุนสถาบัน ยังมีโอกาสเข้าร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจสตาร์ทอัพที่อยู่ภายใต้กองทุนนี้ เพื่อช่วยต่อยอดธุรกิจ นำเสนอสินค้าและบริการที่เป็นนวัตกรรมร่วมผลักดันให้สตาร์ทอัพในไทยและอาเซียนเติบโตไปสู่ยูนิคอร์นหรือเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ  ตามเป้าหมาย 

ทั้งนี้คาดว่ากองทุนจะเริ่มลงทุนในสตาร์ทอัพรายแรกได้ในเดือนธ.ค.นี้ โดยขณะนี้ได้เริ่มคัดเลือกสตาร์ทอัพที่น่าสนใจลงทุนมีไม่ต่ำกว่า 10 บริษัทและน่าจะสามารถเข้าลงทุนได้แน่ราว 5  บริษัทนอกจากนี้สตาร์ทอัพในอาเซียนที่น่าสนใจ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ซึ่งมียูนิคอร์นจำนวนมาก และในประเทศที่ธนาคารกรุงศรีเข้าไปขยายธุรกิจ อย่างฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งมีเทคสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ

นอกจากนั้นที่แตกต่างจากในตลาด กองทุนนี้ยังเปิดกว้างให้นักลงทุนรายใหญ่พิเศษ ที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนได้ง่ายขึ้นจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินในการขยายธุรกิจที่มีศักยภาพอยู่แล้วให้ยิ่งขยายตัวเติบโตไปได้เป็นเท่าทวีคูณ


นายแซม กล่าวว่า ในระยะ3-5ปีข้างหน้า สตาร์ทอัพในไทยจะเติบโตแข็งแกร่งมากขี้น น่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯได้กว่า10 บริษัท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสตาร์ทอัพที่กรุงศรีฟินโนเวตลงทุนมากกว่าครึ่งหนึ่ง  เช่น  ฟินโนมิน่า กำลังเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ อีก 2 ปีข้างหน้า หลังจาก ปี 2558 พบการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพเติบโตกว่า 3 เท่าจากปกติ ประกอบกับในปี 2564 ประเทศไทยมียูนิคอร์นรายแรกอย่าง Flash Express ที่สะท้อนภาพความสำเร็จ 
#3664


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มบีทีเอส และกลุ่มเจมาร์ท วันนี้ (27 ส.ค.) บวกขึ้นเกือบยกแผง ภายหลังบริษัทในเครือบีทีเอส ได้แก่ บมจ.วีจีไอ (VGI) และ บมจ.ยู ซิตี้ (U) ประกาศเข้าลงทุนใน บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และบริษัทในเครือ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1.75 หมื่นล้านบาท


โดยพบว่าราคากลุ่มบีทีเอส ได้แก่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บวก 0.54% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 9.30 บาทต่อหุ้น ส่วนบริษัทลูก VGI บวก 0.80% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 6.30 บาทต่อหุ้น และ U บวก 4.72% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 1.11 บาทต่อหุ้น

ส่วนกลุ่มเจมาร์ท ได้แก่ JMART บวก 4.29% หรือ 1.50 บาท มาอยู่ที่ 36.50 บาทต่อหุ้น บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) บวก 1.18% หรือ 0.50 บาท มาอยู่ที่ 43.00 บาทต่อหุ้น และ SINGER ลบ 1.24% หรือ 0.50 บาท มาอยู่ที่ 39.75 บาทต่อหุ้น

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนของกลุ่มบีทีเอสในกลุ่มเจมาร์ท มองเป็นปัจจัยบวกต่อทั้ง 2 บริษัท โดยเฉพาะ VGI กับ JMART ที่คาดว่าจะเห็นการผนึกกำลังร่วมมือกัน (Synergy) อีกมาก โดยคาดว่า JMART จะได้ประโยชน์จากธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านการใช้สื่อร่วมกันกับ VGI

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ส่วน VGI ที่ก่อนหน้านี้ประกาศลงทุนใน บริษัท แฟนส์ลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (Fanslink) ผู้นำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (แก็ดเจ็ต) ของจีน คาดว่าจะได้ประโยชน์จากร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือและสินค้าที่เกี่ยวข้องของ JMART ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้งปัจจุบัน VGI มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ต่ำ (D/E) ที่ 0.1-0.2 เท่า จึงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน


สำหรับกลยุทธ์การลงทุนจากทั้ง 2 กลุ่ม เลือก VGI และ JMT เป็นหุ้นเด่น โดย VGI ราคาเหมาะสม 6.50 บาทต่อหุ้น แต่มีโอกาสปรับเพิ่มราคาเหมาะสมจากการเข้าลงทุนในกลุ่มเจมาร์ท

ส่วน JMT ราคาเหมาะสม 51.00 บาทต่อหุ้น ได้ปัจจัยหนุนการเพิ่มทุนของบริษัทที่ราคาไม่แตกต่างจากราคากระดานมาก โดยบริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน 70% ไปซื้อหนี้เสียมาบริหาร รองรับการเติบโตในอนาคต และอีก 30% จะนำไปใช้คืนหนี้ อีกทั้งบริษัทมีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมเพิ่มทุนอีกด้วย


นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า VGI และ U เข้าถือหุ้นใน JMART และ SINGER ทางกลุ่มบีทีเอสเข้าลงทุนในกลุ่มเจมาร์ทผ่านทางดีลสำคัญ 3 ดีล ได้แก่ 1. VGI เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน JMART 15% มูลค่า 6,257 ล้านบาท 2. U เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน JMART 9.9% มูลค่า 4,171 ล้านบาท และ 3. U เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน SINGER 24.9% มูลค่า 7,155 ล้านบาท ประเมิน Synergy ที่เกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเพิ่มทุนแบบวงจำกัด (PP) ของ JMART และ SINGER ที่ 30.337 และ 36.3005 บาท ต่ำกว่าราคาปิดในกระดานที่ 13% และ 9% ตามลำดับ อาจกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้นบ้าง สำหรับเงินทุนเราคาดส่วนใหญ่จะใช้การกู้ยืม เนื่องจาก VGI และ U มีหนี้สินต่อทุนต่ำที่เพียง 0.23 และ 0.49 เท่า ขณะที่มีส่วนผู้ถือหุ้นสูงถึง 15,904 และ 39,302 ล้านบาท
#3665


ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เสนอโซลูชันช่วยคนไทยจัดการหนี้ได้อย่างเหมาะสม ภายใต้แนวคิด "รอบรู้เรื่องกู้ยืม" โดยใช้สินทรัพย์ที่มีให้เกิดประโยชน์ ทั้งบ้าน รถ ใบแจ้งหนี้ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น นำไปเสริมสภาพคล่อง ลดภาระดอกเบี้ย และปลดหนี้ได้เร็วขึ้น ด้วยการรวบหนี้ที่มีอยู่เป็นก้อนเดียว   ลดภาระการผ่อนชำระ ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านแลกเงินทีทีบี  สินเชื่อรถแลกเงิน ทีทีบีไดรฟ์ (ttb  DRIVE) และสินเชื่อบุคคลทีทีบี แคชทูแคร์ (ttb cash2care) ช่วยให้ชีวิตสามารถเดินต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์วิกฤติ 

จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของโควิด-19 สะท้อนให้เห็นความเปราะบางทางด้านการเงินของคนไทยได้อย่างชัดเจน เมื่อรายได้ลดลง แต่ยังมีภาระผ่อนหนี้สินจากหลาย ๆ แห่ง ทำให้ขาดสภาพคล่องในการใช้จ่ายเพื่อดำรงชีวิต  ทีเอ็มบีธนชาต ตระหนักถึงปัญหาภาระหนี้ของคนไทย จึงได้พัฒนาโชลูชันการจัดการหนี้สินที่ตอบโจทย์ ภายใต้พื้นฐานการเงินด้าน "รอบรู้เรื่องกู้ยืม" ที่ช่วยจัดการหนี้อย่างเหมาะสม โดยใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่นำมาเป็นหลักประกันในการรวบหนี้ (Debt Consolidation) ช่วยลดภาระผ่อนต่อเดือนและเสริมสภาพคล่องให้แก่ลูกค้า

นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb)  กล่าวว่า ทีเอ็มบีธนชาต เข้าใจความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต โดยมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คนส่วนใหญ่อาจมีปัญหาขาดสภาพคล่องที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือหมุนเวียนธุรกิจ และต้องการสินเชื่อจากธนาคารเป็นอีกแหล่งเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง ดังนั้น ทีทีบี จึงต้องการสนับสนุนให้ลูกค้ามีความรอบรู้ทางด้านการเงิน โดยเฉพาะการจัดการเรื่องกู้ยืม เพื่อให้เข้าใจและเลือกใช้สินเชื่อได้อย่างเหมาะสม โดยหากมีภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงจากหลาย ๆ แห่ง ธนาคารแนะนำให้ลูกค้าเลือกใช้โซลูชันการรวบหนี้ (ttb debt consolidation) มารวมเป็นก้อนเดียวไว้กับทีทีบี ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบที่จะเข้ามารองรับความต้องการของแต่ละคน คิดดอกเบี้ยถูกลง ลดภาระผ่อนชำระต่อเดือนให้น้อยลง จึงมีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายในเรื่องจำเป็น และจัดการสภาพคล่องได้ดีขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าจะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ในอนาคต

นายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) กล่าวว่า ในฐานะผู้นำในตลาดสินเชื่อรถยนต์ ttb DRIVE มีลูกค้าให้ความไว้วางใจเป็นจำนวนมาก เมื่อสถานการณ์ปัจจุบันทำให้ลูกค้าจำเป็นต้องใช้เงินก้อนเพื่อมาเสริมสภาพคล่อง เราก็ได้พัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุด เพื่อช่วยแก้ปัญหา ช่วยเคลียร์ ช่วยรวบหนี้ให้ในเมื่อลูกค้ามีรถยนต์อยู่ ซึ่งรถถือเป็นสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน ทำให้ดอกเบี้ยไม่สูง ค่างวดลดลง และได้วงเงินที่สูงขึ้น พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลให้คำปรึกษา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการสินเชื่อรถยนต์ที่ใช้รถยนต์เป็นหลักประกันในการรวบหนี้ได้ โดยสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาให้บริการถึงที่ สะดวก ปลอดภัย และมั่นใจได้ เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการไปสาขาธนาคารในช่วงนี้ ช่วยให้ลูกค้าก้าวผ่านวิกฤตในยามที่รายได้ลดลงแต่รายจ่ายยังเท่าเดิม เป็นทางออกให้ลูกค้าสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ 

ทั้งนี้ หลังจากทีเอ็มบีและธนชาตรวมกิจการเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ธนาคารได้เดินหน้ายกระดับการบริการและส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้อย่างครอบคลุม เพื่อช่วยในการจัดการและชำระหนี้ที่อยู่ในระบบของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นหนี้บ้าน รถ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด โดยธนาคารจะช่วยตัดวงจรหนี้ซ้ำซ้อนและภาระผ่อนชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง ทำให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระค่างวดต่อเดือนลดลง และยังเหลือวงเงินใช้จ่ายหลังเคลียร์หนี้ที่รวบหมดแล้ว นำไปเสริมสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน หรือหมุนเวียนต่อยอดธุรกิจได้ ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่าง ได้แก่ 

สินเชื่อบ้านแลกเงิน ทีทีบี  สำหรับลูกค้าที่มีบ้านและต้องการวงเงินสูง  5 แสน ถึง 10 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องส่วนตัวหรือธุรกิจ เพียงมีบ้านที่ปลอดภาระแล้ว หรือกรณีผ่อนอยู่ก็สามารถรีไฟแนนซ์มาอยู่กับทีทีบี และขอวงเงินเพิ่มเติมได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ใน 3 เดือนแรก และดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 5.15% ต่อปี (เมื่อสมัครพร้อมประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ) ผ่อนเบาเพราะกู้ได้ยาวสูงสุดถึง 30 ปี พร้อมช่วยลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่ายด้วยสิทธิประโยชน์ ฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยและค่าประเมินราคาหลักทรัพย์    

สินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE สำหรับผู้ที่มีรถ ไม่ว่าจะปลอดภาระแล้ว หรือยังผ่อนอยู่(รีไฟแนนซ์) ต้องการวงเงินปานกลาง ประมาณ 2 แสนบาทขึ้นไป เพื่อนำไปจัดการกับรายจ่ายหลายทาง ทั้งค่าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ค่าผ่อนรถ โดยให้วงเงินสูงสุด 100% ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.18% ต่อปี บริการเดลิเวอรี่ไปทำสินเชื่อให้ถึงที่ รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไว ทันใจเมื่อเอกสารครบ ทำให้ลูกค้าสามารถเคลียร์หนี้เดิมได้ ลดภาระดอกเบี้ย และผ่อนต่อเดือนน้อยลง เคลียร์หนี้แล้วอาจมีเงินเหลือ สำหรับเสริมสภาพคล่องให้กับตัวเองหรือธุรกิจต่อไป
#3666


เมื่อต้องดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์วิกฤติโรคระบาด การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง "เอส แอนด์ พี" ร้านอาหารและเบเกอรี่ชั้นนำ ป็นอีกองค์กรที่ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ฮึดสู้และพลิกหลายกระบวนท่า จนนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี

วิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) ฉายภาพว่า ปี 2563 เป็นปีที่บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมาก ทั้งโรงงานผลิตสินค้า บริหารกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดและผู้บริโภค การดูแลแรงงานทั้งหน้าร้าน บาร์น้ำ เดลิเวอรี่ เพิ่มประสิทธิภาพหรือโปรดักทิวิตี้ ในการทำงานมากขึ้น ส่วนร้านที่มีสาขาในห้างค้าปลีก มีการเจรจากับเจ้าของหางหรือแลนด์ลอร์ดในการลดค่าเช่าพื้นที่ เป็นต้น 

ส่วนปี 2564 บริษัทเน้นการปรับตัวเร็วและแรงหรือ Agile มากขึ้น และต้องทำตลอดเวลา เพื่อให้เอสแอนด์พี มีความแข็งแรงมากขึ้น ไม่ว่าบริษัทจะเจอกับสถานการณ์หนักเบาเพียงใด หรือการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นตลอดเวลาก็ตาม 

"เรายังมุ่นมั่นดำเนินธุรกิจหลักให้แกร่ง แต่การที่ธุรกิจะมีความยั่งยืน วิธีการคิดหรือมายด์เซ็ทต้องเข้มแข็ง มุ่งมั่น เอสแอนด์พี เราต้องพร้อมจะเปลี่ยนเร็วและแรงเพื่อใหองค์กรอยู่รอดอย่างดี ด้านวิสัยทัศน์ระยะยาวต้องชัด มีการดิสรัปวิธีคิดใหม่ๆ อย่าให้ความคุ้นเคยเก่าๆ วิธีการทำงานเดิมๆทำให้บริษัทเชื่องช้า การมุ่งเรื่องฟิตและลีนต้องทำต่อเนื่อง เพื่อให้ผลประกอบการและกำไรเป็นไปตามเป้าหมาย และยังสานภารกิจสร้างสรรค์สินค้าและบริการตอบสนองให้ลูกค้ามีความสุข" 

ทั้งนี้ วิกฤติโควิดเปรียบเหมือนเสียงปลุก(Wake up call)ครั้งใหญ่ ทำให้รู้ว่าหนทางการต่อสู้ยังอีกยาวไกล บริษัทจึงต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆมาผลักดันการเติบโต โดยแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจครึ่งปีหลัง ลุย 4 เรื่อง ได้แก่ 1.ตอบโจทย์ความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค ด้วยการขยายร้านเดลต้าอีก 20 สาขา เพื่อให้สิ้นปีมีร้านครบ 31 สาขา รองรับบริการเดลิเวอรี่ และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ่้น 2.การผลักดันยอดขายเดลิเวอรี่ให้แตะ 3 ล้านบาทต่อวัน 


3.ปรับกลยุทธ์สินค้าที่จำหน่ายช่วงเทศกาล มาเป็นสินค้าขายทุกวัน เช่น คุกกี้จากขายช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองเดือนพฤศจิกายน ธันคาคม มาขายทุกวัน ขนมไหว้พระจันทร์ลด 20% ทุกวัน ไม่ต้องรอวันพุธ รังสรรค์เค้กที่ทานได้ทุกวัน มีเค้กรวมรสเพิ่มความหลากหลาย การสั่งเค้กต้องได้เค้ก คือลูกค้าต้องการเค้กแบบไหน เอสแอนด์พีต้องทำได้ตามสั่งทุกอย่าง ฯ  พร้อมทั้งผลักดันชุดอาหารไทยซึ่งสินคา "ฮีโร่"ต้องประกอบอาหารให้เร็ว เพื่อเสิร์ฟถึงมือลูกค้าเร็วขึ้น และ 4.การบริหารจัดการต้นทุน ทั้งโรงงาน พนักงาน ค่าเช่า การผนึกกำลังแบรนด์ในเครือทำตลาดเพื่อไม่ให้ขาดทุน เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ไมเซน ฯ 

ปี 2564 บริษัทยังเดินหน้าขยายร้านเอสแอนด์พี มาร์ท ให้เป็น 10 สาขา จากปัจจุบันมีร้านต้นแบบ 1 แห่งที่อาคารอิตัลไทย โดยร้านดังกล่าวมีคอนเซปต์ช้อปสนุก จ่ายเงินเร็ว ขณะเดียวกันบริษัทจะปรับปรุง(Revamp)กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า(ซีอาร์เอ็ม) ให้สอดคล้องกับดิจิทัลแพลตฟอร์มมากขึ้น รวมถึงเน้นสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าครบครันความอร่อย ร้อน เร็ว 

"เรายังมุ่งมั่นการเป็นร้านอาหารไทยและเบเกอรีร้านโปรดของคนไทย เช่น เบเกอรีต้องย้ำจุดแข็งเบอร์ 1 เค้กวันเกิด ทำให้ลูกค้าไม่ต้องนึกถึงแบรนด์อื่น  รีเทลปีนี้จะร่วมมือกับพันธมิตรนำสินค้าที่โดดเด่นไปเสนอขายผ่านช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตมากขึ้น ส่วนฟู้ดเซอร์วิส ต้องเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆต่อเนื่อง"   



อรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจ บริษัท เอส แอนด์ พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจเดลิเวอรี่เติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากขยายจุดจำหน่ายได้มากขึ้นทั้งแปลงร้านเบเกอรี 323 จุดทั่วประเทศ ขยายร้านเดลต้ามากขึ้น และการสั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่าน snp1344.com ง่าย สะดวกขึ้น รวมถึงพัฒนาเมนูป้อนเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ 

การปรับตัวตลอดดเวลา ทำให้บริษัทสร้างสถิติยอดขายมากมาย เช่น 12 สิงหาคม เดลิเวอรี่ทำนิวไฮ 4.4 ล้านบาท เค้กวันแม่ยอดขาย 14,000 จาน ข้าวแช่โกยยอด 26 ล้านบท หรือ 1.54 แสนชุด โต 3 เท่าจากปีก่อนขาย 4 หมื่นชุด การปิดบริการนั่งทานในร้าน แต่ออกโปรโมชั่น 1 แถม 1 ทำยอดขาย 61 ล้านบาท ประเดิมปรับกลยุทธ์ขายคุกกี้ทุกวันได้ 7 ล้านบาท จากขายเฉพาะเทศกาลกว่า 200 ล้านบาท  กาแฟบลูคัพหั่นราคาเริ่มที่ 69 บาท ยอดขาย 4 ล้านบาท หรือ 6 หมื่นแก้วต่อเดือน จากเดิม 4 หมื่นแก้วต่อเดือน ใช้พื้นที่นั่งทานอาหารในร้านปรับเป็น  "เอสแอนด์พีมาร์เก็ตเพลส" เดือนกรกฎาคมทำยอดขาย 100 ล้านบาท เป็นต้น 

เจาะกลยุทธ์ "เอสแอนด์พีมาร์เก็ตเพลส"

"เดลิเวอรี่ทำยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 28% อีกพระเอกคือกับข้าวไทย ครึ่งปีหลังจะออก 50 เมนูใหม่ ตอกย้ำช่องทางเดลิเวอรี่ รวมถึงเปิดตัวอาหารว่างหรือสแน็คบ็อกซ์ทำตลาดเพิม ที่ขาดไม่ได้คือการซีนเนอร์ยีร้านอาหารในเครือทั้งไมเซน อุเมะโนะฮานะ ออกโปรโมชั่นใหม่ๆ ตอบสนองและขยายฐานลูกคา"  

สำหรับภาพรวมครึ่งปีแรก บริษัททำรายได้รวม 2,214 ล้านบาท ลดลง 9% คิดเป็น 219 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 123 ล้านบาท เติบโต 258% หรือเพิ่มขึ้น 201 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ "ขาดทุน" 78 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 2 ทำกำไร 44 ล้านบาท เติมโต 185% หรือเพิ่มขึ้น 95 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขาดทุน 51 ล้านบาท
#3667


ลือกันใหญ่โตว่านักแสดงระดับตำนานของฮ่องกง "ตี้หลุง" กำลังป่วยหนัก และมีกระแสถึงขั้นว่าเขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว จนสุดท้ายลูกชายของ "ตี้หลุง" ต้องออกมาแก้ข่าวและยืนยันว่าพ่อยังสบายดี

เมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวว่า ตี้หลุง ประสบอุบัติเหตุเป็นลม และหกล้มในห้องน้ำ จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอย่างเร่งด่วน แล้วต้องเข้าไปรักษา ในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยจนลือกันว่าการของเขาอาจจะหนักถึงขั้นเสียชีวิต

ล่าสุด ถันจุนเหยียน ลูกชายของ ตี้ลุง ได้ออกมาแก้ข่าวเป็นที่เรียบร้อยเเล้วยืนยันว่าพ่อของเขายังสบายดี

"ขอบคุณที่เป็นห่วงคุณพ่อ ท่านยังสบายดี แต่ต้องรับโทรศัพท์มากผิดปกตินิดหน่อย เพราะมีเพื่อนโทรศัพท์มาสอบถามถึงเรื่องอาการป่วยกันมากมาย ข่าวที่ปรากฏเป็นเรื่องเท็จ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง" ลูกของ ตี้หลุง ที่เป็นนักแสดงเหมือนกันบอก

ตี้หลุง ที่มีชื่อจริงว่า ถันฟู่หรง เพิ่งจะอายุครบ 75 ปีเต็มไปเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเขายังพิ่งจะจัดงานฉลองวาระครบรอบวันคล้ายกันเกิดไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และมีลูกหลานมาร่วมอวยพรกันในงานเล็ก ๆ ที่จัดกันภายในครอบครัวด้วย

ตี้หลุง คือหนึ่งในนักแสดงระดับตำนานของ ชอว์บราเดอร์ ที่โด่งดังมาพร้อมกับเพื่อนคู่หูอย่าง เดวิด เจียง แต่มาแม้จะพ้นยุคของหนังกำลังภายในแล้ว แต่เขาก็ยังมีผลงานน่าประทับใจมากมาย รวมถึงหนังแอ๊คชั่นระดับตำนานวงการบันเทิงฮ่องกง "โหด เลว ดี" ผลงานการกำกับของ จอห์น วู ที่ ตี้หลุง ได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นน้องอย่าง โจวเหวินฟะ และ เลสลี จาง ด้วย โดยปัจจุบันเขายังคงรับงานแสดงภาพยนตร์อย่างเป็นปกติ และมีผลงานออกมาเรื่อย ๆ
#3668


"ไปรษณีย์ไทย- เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ -แฟลช เอ็กซ์เพรส" ร่วมมือเขย่าวงการขนส่ง ปั้น "ฟิ้วซ์ โพสต์" (FUZE POST) ธุรกิจขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน (Cold Chain Express) น้องใหม่ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ Cold Chain Logistics ประเทศไทย พร้อมให้บริการ 1 กันยายน 2564 โดย ระยะแรกเน้นให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 6 เส้นทางภูมิภาค

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผนึกกำลังดึงศักยภาพ 3 แบรนด์ ร่วมปั้น "ฟิ้วซ์ โพสต์" (FUZE POST) ธุรกิจขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน (Cold Chain Express) น้องใหม่ พร้อมก้าวสู่ การเป็นผู้นำในธุรกิจ Cold Chain Logistics ประเทศไทย พร้อมให้บริการ 1 กันยายน 2564 โดยในระยะแรก จะเน้นให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 6 เส้นทางภูมิภาค คือ หนองคาย เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตราด และบางละมุงเป็นหลักก่อน สำหรับลูกค้ารูปแบบ B2B B2C และ C2C ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของ ไปรษณีย์ไทย และ JWD สำหรับลูกค้าใหม่จะเน้นการให้บริการแบบ Direct Pick-up เป็นหลัก โดยเรียกใช้บริการผ่าน www.fuzepost.co.th และมีแผนจะเปิดให้บริการจุดรับฝาก (Drop off) ขยายเส้นทางขนส่งระหว่างภูมิภาคในเดือนมกราคม 2564

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจาก อุปสงค์ของผู้บริโภค รวมถึงความต้องการในการขนส่งสินค้าทางการเกษตร ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารสด ยาและเวชภัณฑ์ ฯลฯ ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ มูลค่าธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดในปี 2564 ประมาณ 34,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 8% หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% ของตลาดโลจิสติกส์ทั้งหมด และคาดการณ์ว่าการเติบโตของธุรกิจขนส่งรูปแบบนี้จะมีการเติบโตถึง 8-10% ในปี 2565

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการร่วมทุนพัฒนาธุรกิจขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิภายใต้แบรนด์ "ฟิ้วซ์ โพสต์" นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ผู้นำ ด้านการขนส่ง โลจิสติกส์ 3 หน่วยงาน มาร่วมเป็นพันธมิตรพร้อมนำศักยภาพของแต่ละหน่วยงานมาร่วมพัฒนาการให้บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิที่ดีที่สุดด้วยแนวคิด "ธุรกิจการขนส่งและกระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน หรือ Cold Chain Express"

"ฟิ้วซ์ โพสต์ เกิดขึ้นจากการดึงจุดแข็งของทั้ง ไปรษณีย์ไทย JWD และ Flash Express มาขับเคลื่อนการให้บริการที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยไปรษณีย์ไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งแบบ Door to Door ที่มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ มายาวนาน โดยเฉพาะบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คน ที่รู้จักทุกพื้นที่ใกล้ชิดกับชุมชน เมื่อผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งควบคุมอุณหภูมิของ JWD และเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดีของ Flash Express จะทำให้ "ฟิ้วซ์ โพสต์" สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิที่แข็งแกร่งในธุรกิจ Cold Chain Express ได้"

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า JWD เป็นผู้นำตลาดและดำเนินธุรกิจด้าน Cold Chain Logistics & Supply Chain มากว่า 25 ปี มีองค์ความรู้และความชำนาญครบทั้งในด้าน คลังจัดเก็บและบริหารจัดการสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ รวมไปถึงการบริหารจัดการซัพพลายเชนของธุรกิจอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรือแปรรูปอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญทางด้านระบบควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เทคโนโลยีในการบริหารจัดการอุณหภูมิตลอดทั้งซัพพลายเชน ตลอดจนเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยที่ผ่านมาทาง JWD ได้ให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิให้กับกลุ่มลูกค้า B2B มากว่า 15 ปี และได้เปิดบริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน หรือ Cold Chain Express ให้กลุ่มลูกค้า B2C และ C2C มาเป็นระยะเวลา 2 ปี ภายใต้ชื่อ JWD Express ดังนั้น การผนึกกำลังร่วมกับไปรษณีย์ไทย และ Flash Express ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวที่สำคัญที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในธุรกิจ Cold Chain Express และเป็นการขับเคลื่อนการเติบโตธุรกิจทางด้าน e-Commerce ตามแผนธุรกิจ 5 ปีที่ได้วางไว้ JWD เชื่อมั่นว่าการเอาจุดแข็งของพันธมิตรแต่ละฝ่าย มารวมกันในครั้งนี้ ภายใต้ชื่อ "ฟิ้วซ์ โพสต์" จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายในอนาคต

นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยและ e-Commerce แบบครบวงจร ขนส่งเอกชนไทยรายแรกที่ก้าวสู่ยูนิคอร์นระดับสากล เปิดเผยว่า จากการเติบโตของตลาดขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ หรือ Cold Chain Logistics ในประเทศไทย Flash Express เล็งเห็นถึงโอกาสในการเข้ามาทำตลาดในกลุ่มธุรกิจ Cold Chain จึงจับมือร่วมทุนกับผู้นำในตลาดอีก 2 บริษัท ในการรุกตลาด Cold Chain Logistics โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย และในอาเซียนต่อไป

"เราต้องการนำเอาศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่เรามี เข้ามาขับเคลื่อนในธุรกิจ Cold Chain เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยการต่อยอดธุรกิจไปสู่บริการในด้านอื่นๆ ที่สามารถตอบโจทย์ แก่ผู้บริโภคยุค New normal และ Next normal ที่เปลี่ยนพฤติกรรมจากออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์มากขึ้น พร้อมกันนี้ทีมงาน IT ของ Flash Express กว่า 100 คน ยังได้เตรียมวางระบบขนส่งในรูปแบบ Cold Chain Management System ทั้งในส่วนของ Fast optimization and tech adaption (การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงระบบให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และแก้ไขปัญหาอย่างท่วงทัน ท่วงที), Cloud computing (การคำนวณด้วยเทคโนโลยี), System infrastructure ตลอดจนการวางระบบเชื่อมการทำงานเข้ากับระบบปฏิบัติการ (Application Programming Interface: API),ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management System: OMS) อย่างไรก็ดี การร่วมทุนในโปรเจ็กต์ใหญ่ครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำว่าเราคือธุรกิจที่ทำบริการ e-Commerce ได้อย่างครบวงจร" นายคมสันต์กล่าว

ทั้งนี้ ฟิ้วซ์ โพสต์ เป็นการขนส่งและกระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน ที่เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจจาก "คู่แข่งขันมาเป็นคู่ค้า" เพื่อพัฒนาระบบการจัดการขนส่งให้แข็งแกร่ง มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และร่วมกันยกระดับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยปรากฏการณ์ในครั้งนี้ ผู้ใช้บริการจะได้สัมผัสถึงความเชี่ยวชาญด้านการเข้าถึงลูกค้าทุกพื้นที่ของไปรษณีย์ไทย ที่พร้อมส่งมอบความสดใหม่ให้ถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ จุดแข็งในด้านการเป็นผู้นำตลาดของ JWD ที่เข้าถึงและตอบสนองทุกความต้องการกลุ่มลูกค้า รวมทั้งเทคโนโลยีสุดล้ำด้านอีคอมเมิร์ซของ Flash Express ที่จะพลิกโฉมภาคการค้าวิถีใหม่ให้ก้าวกระโดดในทุกโซลูชัน
#3669


เริ่มเห็นแรงเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่ม Domestic อาทิ ค้าปลีก ร้านอาหาร สนามบิน ธนาคารพาณิชย์ เราเชื่อว่ามีประเด็นสนับสนุนดังต่อไปนี้ (1) จำนวนผู้ติดเชื้อโดยรวมไม่ทำจุดสูงสุดใหม่และเริ่มเห็นสัญญาณการลดน้อยถอยลง ข้อมูลล่าสุด ณ วันอาทิตย์พบผู้ติดเชื้อ 19,014 รายต่ำสุดในรอบ 20 วัน ขณะที่รักษาหายอยู่ที่ 20,672 ราย ถือเป็นสัญญาณที่ดีในแง่ระบบสาธารณสุขที่จะคล่องตัวมากขึ้น (2) มีรายงานว่า กทม. รับ Vaccine เข็มแรกไปแล้วกว่า 80% ของประชากรทั้งหมดใน กทม. หากอิงสมมติฐานเดียวกับ New York พบช่วงที่ประกาศผ่อนคลายมาตรการทาง New York วางสมมติฐานคือประชากรได้รับ Vaccine เกินกว่า 70% สำหรับเข็มแรก

(3) Valuation หุ้นกลุ่มเปิดเมืองหลายตัวค่อนข้างถูกประกอบกับมี Upside ค่อนข้างสูง บนสมมติฐานอิงกำไรและราคา PRE COVID-19 (4) คาดการณ์จาก ศบค. เชื่อว่าจุดสูงสุดของการติดเชื้อจะอยู่ในช่วง ก.ย. - ต.ค. สำหรับคำแนะนำของเราต่อกลุ่มเปิดเมืองคือสามารถสะสมได้เนื่องจากระดับ Valuation ระยะยาวที่น่าสนใจประกอบกับปีหน้าเชื่อว่าสถานการณ์ COVID-19 มีแนวโน้มจะดีกว่าปีนี้ ส่วนระยะสั้นหากรับความเสี่ยงได้ก็สามารถ Trading ได้

สำหรับสัปดาห์นี้เชื่อว่าตลาดจะจับจ้องกับการประชุม Jackson Hole ในวันที่ 26 – 28 ส.ค.มีการคาดการณ์จากตลาดว่าการประชุมครั้งนี้ FED จะเริ่มส่งสัญญาณถึงการลดวงเงิน QE (Tapering QE) ทั้งนี้เราเชื่อว่าปัจจุบันราคาหุ้นทั่วโลกสะท้อนถึงประเด็นการส่งสัญญาณ Tapering QE แล้ว ดังนั้นหากที่ประชุมส่งสัญญาณออกมาจริงเชื่อไม่มีผลกระทบมากนัก แต่กลับกันหากไม่มีสัญญาณออกมาเชื่อตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวก อย่างไรก็ตามกับตลาดหุ้นไทยไม่ว่าจะส่งสัญญาณหรือไม่ส่งสัญญาณเชื่อไม่มีผลใดๆมากนัก เพราะปัจจุบันการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยมาจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อย สถานะยอดหลัง 6 ปีพบนักลงทุนสถาบันและรายย่อยซื้อสุทธิ 3.73 แสนล้านบาทและ 2.96 แสนล้านบาทตามลำดับ ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 7.37 แสนล้านบาท ส่วนอื่นๆจะเป็นตัวเลขการค้าระหว่างประเทศในวันอังคาร Bloomberg ประเมินส่งออก +19.8%YoY นำเข้า +38.8%YoY หากดีกว่าคาดจะเป็น Sentiment บวกต่อตลาด รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุนระยะยาวขึ้นไปแนะทยอยสะสม Domestic Play ประกอบไปด้วยค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) รถไฟฟ้า (BTS BEM) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT SPA) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) สื่อ (PLANB VGI) ร้านอาหาร (M) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK) ส่วนนักลงทุนระยะสั้นเน้นหุ้นกำไรครึ่งปีหลังเติบโตเด่น (EPG JWD KCE MEGA WICE TU)

CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 37.5 บาท) เชื่อราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 12% จากจุดสูงสุดก่อนหน้าสะท้อนการระบาด COVID-19 ไประดับนึงแล้วจากนี้หากมีสัญญาณที่ดีของการควบคุมการระบาดได้หรือกระจาย Vaccine อย่างมีนัยยะ คาดราคาหุ้นจะเริ่มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น โดยคาดผลประกอบการปี 22 จะฟื้นตัวเด่น

PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 7.7 บาท) คาดรายได้สื่อของ PLANB จะปรับตัวลดลงไปที่จุดต่ำสุดใน 3Q21 ก่อนจะมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของ 4Q21 หนุนจากการใช้จ่ายค่าโฆษณาของภาคเอกชนที่กลับมาอีกครั้ง การเริ่มรับรู้รายได้จากป้ายสื่อโฆษณาที่ติดตั้งใหม่ในปลายปีที่แล้ว ทั้งในส่วนที่อยู่ใน 7-11 และสื่อที่รอรถเมล์ใน กทม
#3670


ในช่วงที่ตลาดผันผวนแบบนี้ จะ Long ซื้อถือระยะยาว หรือ Short ขายเก็งกำไรระยะสั้น ถึงเวลาที่ผู้ลงทุนในตลาดอาจต้องเลือกข้างแล้ว

ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า TFEX ได้จัดงานเวิร์กชอปออนไลน์ TFEX Trading Space 2021 #Workshop From Home ขึ้นมา พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน,  จรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายแนะนำการลงทุน บลป. คลาสสิก ออสสิริส และ  ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล. หยวนต้า มาร่วมกันแชร์มุมมองและเทคนิคการเทรดในสภาวะตลาดช่วงนี้ ในหัวข้อ "Trend & Trading Strategy: ถึงเวลาเลือกข้าง Long or Short?"

โดยงานเวิร์กชอปออนไลน์ครั้งนี้เริ่มจากการร่วมแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวมุมมองโดยรวมของตลาด ซึ่งทั้ง 3 ท่านมีความเห็นตรงกันว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยตอนนี้เป็น Sideway คือไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน หุ้นใหญ่ในตลาดไทย Underperform มาสักพักใหญ่ แต่ยังมีหุ้นขนาดกลางและเล็กคอยหนุนอยู่ จึงส่งผลให้ค่อนข้างเป็น Sideway ด้าน Downside ก็มีกรอบค่อนข้างจำกัด ส่วนตลาดทองคำที่แม้จะมีการฟื้นตัวกลับมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่ต้องระมัดระวังและควรจับตาดูเป็นพิเศษ เพราะหากมีการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อาจส่งผลกับเรื่องสภาพคล่องได้ ปริมาณเงินที่อัดฉีดเข้ามาจะทยอยหายไป ซึ่งทั้ง 3 ท่านให้จับตาไปที่ 2 ปัจจัยใกล้ ๆ นี้ ที่จะส่งผลกระทบกับตลาดอนุพันธ์ในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีก็คือ งานสัมมนา Jackson Hole Symposium ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนสิงหาคมนี้ และการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

กลยุทธ์รับมือกับภาวะผันผวนของตลาดในช่วงนี้ ด้วย 3 สินค้าอนุพันธ์ใน TFEX

1. SET50 Futures : "Sideway" ภาพในปัจจุบันมีปัจจัยลบค่อนข้างมากตามภาวะตลาดโลก แต่การที่ยังไม่หลุดแนวรับสำคัญทำให้มีแรงซื้อกลับมาบ้างท่ามกลางข่าวด้านลบในระยะสั้น แต่ทิศทางตลาดทุนโลกจะมีแรงกดดันมากขึ้นในช่วงอีก 1 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ในมุมมองนโยบายการเงินช่วงถัดไปของ Fed, ความเสี่ยง Regulatory Risk ของตลาดหุ้นจีน และปัจจัยภายในสำคัญอย่างเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เราได้ผ่านช่วงพีคของตัวเลขผู้ติดเชื้อมาหรือยัง รวมทั้งอัตราการฉีดวัคซีนที่โดยรวมอาจจะยังไม่ค่อยได้ตามเป้าที่วางไว้ จะสามารถเปิดประเทศได้ตามแผนหรือไม่ ซึ่งคาดว่าผลประกอบการรายไตรมาส 3 ของแต่ละบริษัทก็น่าจะออกมาไม่ดีเช่นกัน ในด้านราคาตอนนี้ตลาดอยู่ในช่วงค้นหาฐาน ลุ้นแนวรับหลักที่ 900 จุดเอาอยู่ไหม ถ้าไม่อยู่ตลาดจะปรับลึก

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - หาจังหวะ Short ได้

2. Gold Online Futures และ Gold Futures : "Sideway Down" ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำฟื้นตัว Rebound ขึ้นมา เกิดจากแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ ท่ามกลางการทยอยขายของกองทุน SPDR มาตลอดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว การที่ผู้เล่นรายใหญ่เริ่มถอน Position ประกอบกับ USD Dollar ยังแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ทองคำยังมีปัจจัยเชิงลบกดดันมากกว่า คาดการณ์ว่าการปรับตัวขึ้นของทองคำจะเริ่มจำกัด อยู่ที่บริเวณกรอบ Sideway อีกทั้งยังมีเรื่องของ Inflation ที่ต้องจับตาด้วย ส่วนปัจจัยเรื่องสงครามตอนนี้ยังอยู่ในวงค่อนข้างเล็กไม่น่าจะสร้างความผันผวนด้านราคาเท่าไรนัก ความชัดเจนจะเกิดขึ้นหลังงานประชุม Jackson Hole Symposium วันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ ซึ่งการที่ราคาทองคำหลุดแนวรับ $1,780-$1,800 ลงมาทำให้การเคลื่อนไหวของภาพใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงแล้ว

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - เลือกฝั่ง Short

3. USD Futures : "Sideways Up" ค่าเงินบาทอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า มีโอกาสอ่อนค่าเหนือ 33.50 บาท จากปัจจัยภายในที่ยังกดดันจากเรื่องโควิด-19 ส่วนตัวเลข GDP ยังคงไม่ฟื้นตัวทำให้ไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนเรื่องเงินบาทนัก โดยมีอัตราอ่อนค่ามากสุดในภูมิภาคทีเดียว ซึ่งเงินบาทที่อ่อนค่าลงนี้ช่วยพยุงหรือหนุนราคาทองคำในไทยไว้อยู่ ตามทิศทาง Dollar Index ที่ยังค่อนข้างแข็งค่า ซึ่งยังคงต้องจับตาดูในงานสัมมนา Jackson Hole Symposium ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ว่าจะมีทิศทางเรื่องนโยบายอย่างไร ประกอบกับ Fed อาจจะประกาศทำ QE Tapering หรือการปรับลดเม็ดเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE ในการประชุมปลายปีนี้ด้วย นอกจากนี้ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2022 ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - เลือกฝั่ง Long

นอกจากนี้ แนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติ ยังเป็นทิศทางไหลออกอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีประเด็นหรือปัญหาทางการเมือง มักจะทำให้เกิด Flow ไหลออกจากประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินบาทยิ่งอ่อนค่า ดังนั้นแม้ว่าตอนนี้ตลาดทุนในไทยจะยังไม่ได้อยู่จุดที่น่าเป็นห่วงและได้รับผลจากปัจจัยลบมากนัก แต่หากต้องการที่จะเดินหน้าเปิดประเทศและฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจให้ดีขึ้น สิ่งที่ต้องทำให้ได้ก็คือการบริหารรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยการเร่งอัตราการฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้นและทั่วถึงได้มากที่สุด ซึ่งแต่ละท่านได้ทิ้งท้ายสั้น ๆ ไว้ดังนี้

กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน "ฝากถึงนักลงทุนมือใหม่ เราอิงปัจจัยพื้นฐานเพื่อลงทุนระยะยาว มองเป้า 3-5 ปี อาจแบ่งมูลค่าพอร์ตซัก 10% มาใช้ TFEX เป็นเครื่องมือเพื่อบริหารความเสี่ยงในสภาวะที่ไม่แน่นอนอย่างช่วงนี้ได้ และสุดท้ายวัคซีนคือความหวังของตลาดทุนไทย"

จรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายแนะนำการลงทุน บลป. คลาสสิก ออสสิริส "หลาย ๆ คนเข้าตลาดมาเพื่อเก็งกำไรโดยหวังถึง 10-20 เท่า ซึ่งต้องพึงระลึกเสมอว่าถ้าเราผิดทาง จากที่หวังมาทั้งหมดอาจสูญเปล่าได้ ต้องมองความเสี่ยงก่อน แล้วคำนวณว่าเราควรเล่นกี่สัญญา พอร์ตเรารับได้เท่าไหร่ ไม่งั้นเรานี่แหละจะกลายเป็นผู้ออกจากตลาดไป"

ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า "ต้องเข้าใจ Mindset การลงทุน มองการลงทุนเป็น Financial Tool เพื่อลดความเสี่ยง คนที่เข้าใจจะใช้ Leverage เพื่อเพิ่มอัตราทดหรือเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองได้ ในตลาดนี้เราผิดทางได้ ถอยได้ ไม่ไหวอย่าฝืนเพื่อเอาคืนเด็ดขาด"
#3671


สำหรับสังคมชาวจีน ดูเหมือนว่า การสืบทอดวงศ์ตระกูลนั้นแทบจะสำคัญที่สุดก็ว่าได้ กับครอบครัวทั่วไป การเริ่มต้นสร้างครอบครัวอาจต้องมีการรัดเข็มขัด มีความจุกจิกด้านการเงิน ในขณะที่มหาเศรษฐีมักจะส่งเสริมให้คู่สามีภรรยามีลูกเร็วๆ โดยใช้เงินสด เพชรพลอย ไม่ก็คฤหาสน์หรู เป็นเครื่องล่อใจลูกสะใภ้ โดยเฉพาะหากได้ทายาทเป็นลูกชาย ยิ่งสุดๆ ไปเลย

มาริโอ โฮ & หมิงซี



หลังจากลูกชายของเจ้าพ่อกาสิโน สแตนลีย์ โฮ อย่าง มาริโอ โฮ สมรสกับนางแบบสาวสวยชาวจีน หมิงซี ได้ไม่นาน พวกเขาก็ได้ทายาทเป็นเด็กชายตัวน้อยๆ ซึ่งกลายเป็นหลานชายคนแรกของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง คิดดูสิว่า พวกเขาจะฉลองกันยิ่งใหญ่ขนาดไหน



เหลียงออนไค แม่ของมาริโอ รับขวัญหลานชายทันที ด้วยบ้านสุดหรูมองเห็นวิวอ่าวดีพวอเทอร์ในฮ่องกง มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

แจคกี เหิง & บีอา เฮย์เดน





ตอนที่ แจคกี เหิง นักแสดงฮ่องกง และ บีอา เฮย์เดน นักแสดงสาวไต้หวัน มีทายาทเป็นลูกสาวคนแรกในช่วงใกล้วันไหว้พระจันทร์ของปีที่ผ่านมา คุณย่ามหาเศรษฐี ทิฟฟานี เชง ก็ได้ซื้อแมนชันหรู ในย่านซินยี่ กรุงไทเป มูลค่า 170 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงให้ โดยทิฟฟานี ได้โชว์ภาพการตกแต่งที่เรีนบง่ายแต่น่าอยู่ให้กับเว่ยป๋อด้วย

เคนเนท ฟอค & กั๊วจิงจิง





หนึ่งในคู่แต่งงานที่มีงานแต่งที่หรูหราฟู่ฟ่าที่สุดในฮ่องกง ระหว่างนักธุรกิจหนุ่มกับแชมป์โอลิมปิคว่ายน้ำหญิง 4 สมัย ได้ของรับขวัญลูกคนแรกเป็นคฤหาสน์หลังโต เป็นบ้าน 3 ชั้นติดถนนบีชโร้ด ในย่านรีพัลส์เบย์ มูลค่า 160 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยคุณปู่ทิโมที ฟอค เป็นคนซื้อ

ลีกาชิง & เคที ฉุ่ย



หรูหราที่สุดคงไม่มีใครเกิดสะใภ้บ้านนี้ โดยหลังจากที่ เคที ฉุ่ย นักแสดงค่ายทีวีบี ได้มีทายาทให้ครอบครัวของ "เจ็กสี่" ลีเชากี นักธุรกิจใหญ่ชาวฮ่องกง ลูกของเธอก็ได้ที่ดินรับขวัญมูลค่า 18,200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ที่สร้างแมนชันบนพื้นที่ได้ถึง 3 หลัง -- นี่ขนาดว่าได้ลูกสาวนะจ๊ะ หนังสือพิมพ์โอเรียนทัล เดลีนิวส์ ยังรายงานว่า เคที ยังได้รับเรือยอชต์ มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ สำหรับทุกๆ สมาชิกใหม่ที่ลืมตาดูโลกอีกด้วย
#3672


รายงานดัชนีการยอมรับคริปโตเคอเรนซีประจำปี 2021 ที่ Chainalysis จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 2 และเผยแพร่เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า โลกให้การต้อนรับเงินตราดิจิตอลอบอุ่นขึ้น โดยอัตราการยอมรับพุ่งทะยานถึงกว่า 880% นับจากปี 2020 เฉพาะไตรมาส 2 ปีนี้เพิ่มขึ้น 24% จาก 2.5% ในช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

การจัดอันดับของ Chainalysis ครอบคลุม 154 ประเทศ โดยพิจารณาจากกิจกรรมทั้งหมดเกี่ยวกับคริปโต การเทรดคริปโตของบุคคลทั่วไป การออม และปริมาณธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม P2P หรือการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลกับบุคคล แทนที่จะโฟกัสการซื้อขายหรือการเก็งกำไร

เคนยา ไนจีเรีย เวียดนาม และเวเนซุเอลา เป็นส่วนหนึ่งของประเทศตลาดเกิดใหม่ที่เกาะกลุ่มกันด้านบนของตาราง ส่วนใหญ่เนื่องจากปริมาณธุรกรรมจำนวนมากบนแพลตฟอร์ม P2P เมื่อปรับตามความเสมอภาคของอำนาจซื้อ (PPP) ต่อหัว

การคำนวณด้วยโมเดลนี้พบว่า อันดับของจีนร่วงจาก 4 ลงมาอยู่ที่ 13 ขณะที่อเมริกาจาก 6 อยู่ที่ 8 เนื่องจากปริมาณธุรกรรม P2P ลดลง และประเทศส่วนใหญ่ในท็อป 20 เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ที่รวมถึงโตโก โคลอมเบีย อัฟกานิสถาน และไทยที่รั้งอันดับ 12 เท่ากับปีที่แล้ว

รายงานอธิบายว่า คนทั่วไปยอมรับคริปโตมากขึ้น ทำให้สินทรัพย์ดิจิตอลหลุดพ้นจากรัศมีการเก็งกำไรของกองทุนบริหารความเสี่ยงหรือธุรกิจต่างๆ และแนวโน้มนี้กำลังปรากฏในหลายประเทศทั่วโลกที่จมดิ่งเข้าสู่แวดวงคริปโตหรือมีอัตราการยอมรับเงินดิจิตอลมากขึ้น

Chainalysis ซึ่งเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ระบบบล็อกเชน พบว่า ปริมาณการทำธุรกรรม P2P มีสัดส่วนสูงมากในกิจกรรมคริปโตโดยรวม โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่

รายงานฉบับนี้เป็นความพยายามครั้งที่ 2 ของ Chainalysis ในการหาคำตอบว่า คริปโตได้รับการยอมรับทั่วโลกในระดับรากหญ้ามากน้อยแค่ไหน โดยการวิจัยของบริษัทบ่งชี้ว่า คนทั่วไปในตลาดเกิดใหม่อ้าแขนรับคริปโตเพื่อใช้เป็นเครื่องมือปกป้องเงินออมในช่วงที่ค่าเงินของประเทศอ่อนตัว และเพื่อรับ-ส่งเงินระหว่างประเทศ รวมทั้งทำธุรกรรมทางธุรกิจ

แมตต์ อัลบอร์ก นักวิเคราะห์ข้อมูล P2P อิสระ ชี้ว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญสำหรับบิตรีฟิลล์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยให้ลูกค้าใช้คริปโตในการดำเนินชีวิตปกติ เช่น ซื้อบัตรของขวัญด้วยบิตคอยน์

คิม กรูเออร์ ผู้อำนวยการวิจัยของ Chainalysis และเป็นผู้จัดทำรายงานฉบับนี้ อ้างอิงคำบอกเล่าของผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า ปัจจัยหนุนนำการยอมรับคริปโตในเวียดนามคือ การที่คนชาตินี้ขึ้นชื่อเรื่องการเสี่ยงโชค และการที่หนุ่มสาวซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ไม่สามารถลงทุนในกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นได้

โบแอซ โซบราโด นักวิเคราะห์ข้อมูลเทคโนโลยีการเงิน กล่าวว่า ประเทศที่ติดอันดับต้นๆ ในตารางยังมีอีกสิ่งที่เหมือนกันคือ รัฐบาลควบคุมด้านเงินทุนอย่างเข้มงวด

เมื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ในแต่ละเดือน รายงานพบว่า เอเชียกลางและเอเชียใต้ ละตินอเมริกา และแอฟริกา เข้าใช้แพลตฟอร์ม P2P มากกว่าภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่กว่า เช่น ยุโรปตะวันตกและเอเชียตะวันออก

ในทางกลับกัน การยอมรับคริปโตในอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก และเอเชียตะวันออกในช่วงปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลงทุนของนักลงทุนประเภทสถาบัน

อนึ่ง เมื่อต้นเดือน Finder.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพิ่งเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 42,000 คนใน 27 ประเทศในทวีปยุโรป เอเชีย และอเมริกา ซึ่งพบว่า เวียดนามมีสถิติการยอมรับคริปโตสูงสุด โดย 41% ของผู้ตอบแบบสำรวจบอกว่า เคยซื้อคริปโต, 21% เคยซื้อบิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโพลล์นี้ในทุกประเทศ

แม้คะแนนของเวียดนามที่ล้ำหน้าประเทศอื่นอาจน่าแปลกใจ แต่ผลสำรวจของไฟน์เดอร์ตอกย้ำข้อมูลของแหล่งอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่า ถ้าเปรียบเป็นนักมวย ต้องถือว่า ประเทศดาวเด่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ชกข้ามรุ่นในเรื่องการยอมรับคริปโต ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คอยน์เทเลกราฟระบุว่า เวียดนามติดอันดับ 13 ในการจัดอันดับการทำกำไรจากบิตคอยน์ในปี 2020 แม้อยู่ในอันดับ 53 ในแง่ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเมื่อวัดจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ก็ตาม

รายงานของไฟน์เดอร์แจงว่า การโอนเงินข้ามประเทศอาจเป็นแรงจูงใจสำคัญในการซื้อคริปโตในเวียดนาม เนื่องจากคริปโตเป็นตัวเลือกของชาวต่างชาติที่ต้องการส่งเงินกลับบ้านโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการแลกเงิน

อัตราการยอมรับคริปโตยังสูงมากในประเทศอื่นๆ ทั่วเอเชีย เช่น ผู้ตอบแบบสำรวจ 30% ในอินโดนีเซียและอินเดียบอกว่าเคยซื้อคริปโต ส่วนในมาเลเซียและฟิลิปปินส์ตัวเลขอยู่ที่ 29% และ 28% ตามลำดับ

ในทางกลับกัน อัตราการยอมรับคริปโตในสหราชอาณาจักรและอเมริกาต่ำที่สุดในตาราง โดยอยู่ที่ 8% และ 9%
#3673


อากิระ นิชิโนะ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ทำจดหมายเปิดผนึก แสดงความขอบคุณ และเผยความรู้สึกถึงทุกๆสิ่งที่เคยผ่านช่วงเวลาการทำงานกับ "ช้างศึก"

ก่อนหน้านี้ สมาคมกีฬาฟุต.แห่งประเทศไทยฯ ประกาศยกเลิกสัญญากับ อากิระ นิชิโนะ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังพาทีมทำผลงานล้มเหลวในฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

ล่าสุดยอดเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยเขียนจดหมายเปิดผนึกบอกเล่าถึงความรู้สึกต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย

เรียน ครอบครัวฟุต.ไทยทุกท่าน
สวัสดีครับ

หลังจากจบการแข่งรอบคัดเลือกที่ดูไบ เดิมที ผมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เลย แต่เนื่องจากมีธุระ จึงขอเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นชั่วคราวก่อน ซึ่งตอนนี้ หลังจากกักตัว ASQ ผมกลับมาพักอยู่ในกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว

ก่อนอื่น หลังจากที่ผมไปรายงานสรุปผลการทำงานให้กับ FA แล้ว ผมจะต้องแถลงข่าว และรายงานสรุปผลการทำงานให้กับแฟน. และผู้สนับสนุนทุกท่านทราบ แต่เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 จึงยังไม่สามารถทำได้ ต้องขอโทษด้วยครับ

ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่การเข้าแคมป์ฝึกซ้อม รวมไปถึงการแข่งขันฟุต.โลก รอบคัดเลือก ที่ดูไบ ในครั้งนี้ ไม่สามารถทำตามความคาดหวังของแฟน.ชาวไทยทุกคนได้

แต่ผู้ที่รู้สึกแย่ และหนักหน่วงมากที่สุด คือนักฟุต.ทุกคน หลังจากที่ได้พักเป็นเวลา 1 เดือน การเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมราบรื่น และทุกคนอยู่ในสภาพดี แต่เนื่องจากมีผู้ติดโควิด-19 ทำให้มีความจำเป็นต้องกักตัว 2 สัปดาห์ จึงไม่สามารถฝึกซ้อมเพื่อคัดเลือกนักเตะได้ และต้องพานักเตะทั้ง 42 คนไปยูเออีด้วยกัน

ซึ่งการที่ไม่สามารถตัดสินคัดเลือกนักเตะได้นั้น ทาง FA ก็เข้าใจดี และผมขอขอบคุณที่ช่วยพาทุกคนไป ในขณะเดียวกัน ก็ต้องทำให้เจ้าหน้าที่สมาคม และสต๊าฟฟ์โค้ช ต้องพลอยรับภาระหนัก และลำบากไปด้วย ผมจึงขอกล่าวคำขอบคุณพวกเขามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สำหรับตัวผมเองก็รู้สึกถึงความยากของการดูแลจัดการแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเช่นกัน

นักเตะทุกคนสู้อย่างแข็งขัน และเด็ดเดี่ยวภายใต้สภาพที่ไม่พร้อมเท่าที่ควร

น่าเสียดายที่มีทั้งนักเตะในประเทศ และนักเตะที่สร้างผลงานอยู่ในญี่ปุ่นถอนตัวไป แต่ผมเชื่อว่า หากทีมชาติไทย สร้างความแข็งแกร่งโดยขับเคลื่อนไปพร้อมกับไทยลีก ทีมชาติไทย จะสามารถยกระดับสเตตัส และกลายเป็นทีมชาติที่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน

สำหรับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ผมต้องขอขอบคุณอย่างสูง สำหรับความร่วมมือของ FA, ทีมสโมสร, สปอนเซอร์ และขอขอบคุณแรงเชียร์อันล้นหลามจากแฟน. และผู้สนับสนุนที่ต่อสู้มาด้วยกันในฐานะผู้เล่นหมายเลข 12

ผมขอให้สถานการณ์โควิด-19 จบลงโดยเร็วที่สุด และขอให้ฟุต.ลีกในประเทศได้กลับมาเริ่มการแข่งขัน ก่อนจะถึงวันนั้น เรามาสู้ไปด้วยกันนะครับ
#3674


นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้ออกมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้าสินเชื่อรายย่อย และผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยให้พักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 งวด เริ่มตั้งแต่งวด กค- ธค 64 โดยธนาคารได้เปิดให้ลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ และมีผู้สนใจเข้ามาตรการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีลูกหนี้อีกบางส่วน ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์พักชำระหนี้ตามมาตรการนี้ ซึ่งการได้พักชำระหนี้จะช่วยเหลือในเรื่องของการเสริมสภาพคล่อง และยับยั้งไม่ให้ลูกหนี้ต้องกลายเป็นหนี้เสีย (NPL) ที่จะส่งผลกระทบต่อการกู้เงินในอนาคต รวมถึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่ต้องขาดรายได้หรือรายได้ไม่แน่นอน จึงขอเชิญชวนให้ผู้ที่ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ขอพักชำระหนี้ โปรดรีบใช้สิทธิ์ ก่อนหมดเขตวันที่ 30 สิงหาคม 2564 นี้

ทั้งนี้ มาตรการพักชำระหนี้ลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท และไม่ใช้หลักทรัพย์ ค้ำประกัน สำหรับผู้ได้รับผลกระทบทำให้ต้องเลิกกิจการ ถูกเลิกจ้าง ขาดรายได้ ฯลฯ ฯลฯ (ยกเว้นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ) สามารถเข้าตรวจสอบสิทธิ์ในแอป MyMo และกดทำรายการได้ทันทีที่ปรากฏเมนูพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ส่วนผู้ที่ยังไม่มีแอป MyMo แต่มีบัตรเดบิต สามารถดาวน์โหลดและเปิดใช้งานแอป MyMo ด้วยตนเองได้โดยใช้ข้อมูลบัตรเดบิต ซึ่งจะได้รับความสะดวกในการขอพักชำระหนี้โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อที่สาขาธนาคาร สำหรับมาตรการพักชำระหนี้กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ เซอร์วิส อพาร์ตเม้นท์ ที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ SMEs มีวงเงินกู้ไม่กิน 250 ล้านบาท ติดต่อเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาธนาคาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GSB Contact Center โทร. 1115

อนึ่ง มาตรการพักชำระหนี้ โดยพักเงินงวดผ่อนชำระให้สูงสุด 6 งวด เริ่มตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม – เดือนธันวาคม 2564 หลังจากเมื่อสิ้นสุดระยะการพักชำระหนี้ ให้กลับมาจ่ายเงินงวดตามเงื่อนไขเดิม โดยเงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้พักไว้ จะถูกนำไปรวมชำระในงวดสุดท้ายของสัญญาเงินกู้หรือข้อตกลงที่ทำกับธนาคาร ทั้งนี้ ช่วงระยะเวลาที่พักชำระหนี้ ไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระและไม่ส่งผลต่อข้อมูลเครดิตของลูกค้า รวมถึงไม่มีดอกเบี้ยผิดนัดชำระและค่าปรับใด ๆ
#3675


โรเมลู ลูกากู ประเดิมซัดตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนาม พา "สิงห์บลูส์" เชลซี บุกเก็บชัยเหนือ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล 2-0 คว้าสามแต้มในศึกลอนดอนดาร์บีแมตช์

ศึกฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021/22 วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2564 เกมลอนดอนดาร์บีแมตช์ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ "สิงห์บลูส์" เชลซี

อาร์เซนอล ของกุนซือมิเกล อาร์เตต้า เกมที่แล้วบุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด ทีมน้องใหม่ 0-2 เกมนี้นำทัพมาโดย นิโคลัส เปเป้, บูกาโย่ ซากา, เอมิล สมิธ โรว์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี

ขณะที่ เชลซี ของเฮดโค้ช โธมัส ทูเคิล เกมที่แล้วทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0 เกมนี้ โรเมลู ลูกากู หัวหอกเบลเยียม ประเดิมลงสนามให้ทีมเป็นนัดแรกตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมอีกครั้ง ประสานงานในเกมรุกร่วมกับ เมสัน เมาท์ และไค ฮาแวร์ตซ์

น.15 เชลซี ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ จ่ายออกขวาไปให้ รีซ เจมส์ ก่อนปาดเข้ากลางมาให้ โรเมลู ลูกากู วิ่งมาแท็บอินโล่งๆ ถือเป็นการทำประตูแรกของตัวเองในการประเดิมลงเล่นซีซันนี้ให้ เชลซี

น.35 เชลซี ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ จ่ายออกขวาไปให้ รีซ เจมส์ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ และยิงหนีมือ แบรนด์ เลโน่ เข้าไปตุงตาข่าย และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล พยายามเปิดเกมบุกมากขึ้นเพื่อหวังทวงประตูคืนให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้ไม่เฉียบคมพอ ขณะที่ เชลซี อาศัยเกมโต้กลับเล่นงานแผงหลังของเจ้าถิ่นได้หลายครั้ง แต่ยังทำประตูไม่ได้เช่นกัน

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา 90 นาที อาร์เซนอล พ่ายคาบ้านให้กับ เชลซี 0-2 ทำให้ทีม "ปืนใหญ่" ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ด้วยการปราชัย 2 เกมติดต่อกัน ยังไร้แต้ม ขณะที่ "สิงห์บลูส์" มี 6 คะแนนเต็ม ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงร่วมกับ ลิเวอร์พูล

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : แบรนด์ เลโน่ (GK), เซดริค โซอาเรส, ร็อบ โฮลดิง, พาโบล มารี, คีแรน เทียร์นีย์, อัลเบิร์ต แซมบี โลกองกา, กรานิต ชากา, นิโคลัส เปเป้, เอมิล สมิธ โรว์, บูกาโย ซากา, กาเบรียล มาร์ติเนลลี

เชลซี: เอดูอาร์ด เมนดี (GK), รีซ เจมส์, เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, อันเดรส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช, ไค ฮาแวร์ตซ์, เมสัน เมาท์, โรเมลู ลูกากู
#3676


คาเมรอน สมิธ จากออสเตรเลีย กด 11 อันเดอร์พาร์ รวมสกอร์ 16 อันเดอร์พาร์ พุ่งพรวดขึ้นมาเป็นผู้นำร่วมกับ จอน ราห์ม จากสเปน ศึกกอล์ฟ "เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์" วันที่สาม

ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 316 ล้านบาท ที่สนาม ลิเบอร์ตี เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,353 หลา พาร์ 71 รัฐนิว เจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา วันที่ 21 สิงหาคม 2564 เป็นการชิงชัยในวันที่สาม

ปรากฎว่า คาเมรอน สมิธ โปรกอล์ฟหนุ่มจากออสเตรเลีย ท็อปฟอร์มสุดๆ ในวันนี้ เก็บไปถึง 11 อันเดอร์พาร์ รวมสกอร์สามวัน 16 อันเดอร์พาร์ ขึ้นมารั้งตำแหน่งผู้นำร่วมกับ จอน ราห์ม โปรกอล์ฟจากประเทศสเปน

ด้าน เอริค วาน รูเยน ก้านเหล็กจากแอฟริกาใต้ วันนี้เก็บเพิ่ม 9 อันเดอร์พาร์ รวมสกอร์สามวัน 15 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 3 ตามผู้นำ 1 สโตรก ส่วน จัสติน โธมัส และโทนี ฟินัว สกอร์รวมสามวันที่ 14 อันเดอร์พาร์ กอดคอรั้งอันดับ 4 ร่วม

ขณะที่ผลงานของโปรกอล์ฟคนอื่นๆที่น่าสนใจ แซม เบิร์นส์, ฮัดสัน สวาร์ฟฟอร์ด, คาเมรอน ทรินเกล, บรูคส์ โคปกา, แซนเดอร์ ชาฟเฟิล และคีธ มิตเชลล์ 6 ก้านเหล็กอเมริกัน มี 11 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 11 ร่วมกัน, ลี เวสต์วูด จากอังกฤษ มี 10 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 17 ร่วม
URL
 
#3677


Facebook ประเทศไทย และ มูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทย ได้ร่วมเปิดตัวแคมเปญออนไลน์ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย ที่จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม 2564 -5 กันยายน 2564 เพื่อเชิญชวนให้คนไทยได้ส่งแรงใจเชียร์ทีมนักกีฬาพาราลิมปิกไทย ในการแข่งขัน โตเกียวพาราลิมปิกเกมส์ 2020 และส่งเสริมค่านิยมเรื่อง Inclusion หรือการเห็นคุณค่าและนับรวมคนทุกกลุ่มผ่านแนวคิด This is for everyone*

มหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าทุกคนบนโลกได้ร่วมกันฉลองให้กับความสำเร็จ และศักยภาพของทุกชีวิตได้อย่างไร และแคมเปญล่าสุดที่ขับเคลื่อนด้วยแนวความคิดทางสังคมนี้ก็สะท้อนพันธกิจที่มีมาอย่างต่อเนื่องของ Facebook ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความหลากหลายของผู้คนโดยไม่มองถึงความแตกต่างทางความสามารถทางร่างกาย และการทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม รวมทั้งการเดินหน้าสนับสนุนผู้คนให้เติบโตไปด้วยกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าให้กับทุกชีวิต

การร่วมมือกับมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทยครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้แฟนกีฬาชาวไทยสามารถส่งแรงเชียร์และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพาราลิมปิกเกมส์ได้หลายวิธี ผ่านแอปพลิเคชันในเครือของ Facebook เช่น

• แฟนกีฬาและผู้สนใจสามารถติดตามบัญชี Instagram ภายใต้ชื่อ @ThaiParaHeroes และใช้แฮชแท็ก #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย เพื่อเป็นช่องทางให้แฟนๆ ได้ส่งเสียงเชียร์ผ่านโลกออนไลน์รวมทั้งผ่านเพจ Facebook Thailand ด้วย

• ศิลปะบอกเล่าเรื่องราวของเหล่านักกีฬาพาราลิมปิกของไทยผ่านงานภาพถ่ายจากทีม Sculpture Bangkok ที่เป็นที่รู้จักกันดีจากผลงานชุด Photoautomat ที่นำความรู้สึกดีๆ ในวันเก่าๆ มาบอกเล่าผ่านตู้ถ่ายภาพสติ๊กเกอร์

• ฟีเจอร์สนุกๆ ภายใต้แคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย ที่สร้างขึ้นจากแนวคิด This is for Everyone* (การเห็นคุณค่าและนับรวมคนทุกคน) นั้นรวมไปถึงกรอบรูปโปรไฟล์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบน Facebook และ AR Camera Effect ฟิลเตอร์ใหม่ 3 ชุดบน Instagram ที่ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มข้อความเพื่อส่งกำลังใจให้นักกีฬาได้ รวมทั้งสติ๊กเกอร์ภาพเคลื่อนไหว (giphy) บนไอจีชุด Virtual automat ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันและเชียร์เหล่านักกีฬาระหว่างการลงแข่งได้แม้ไม่มีผู้เข้าชมในสนาม

• มีการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันล่าสุด รวมถึงเนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจและบอกเล่าเรื่องราวของนักกีฬาพาราลิมปิกไทยและชุมชนกีฬาผู้พิการตลอดช่วงวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน

นอกจากนี้แคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย ยังมีการจัดทำหมวกรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น This is for Everyone* ที่ออกแบบโดย Sculpture Bangkok มาในแนวมินิมัล 2 สี (สีขาวและสีกรมท่า) โดยรายได้จากการจำหน่ายหมวก This is for Everyone* จะส่งมอบให้มูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทยเพื่อสนับสนุนกีฬาสำหรับผู้พิการต่อไป



"จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี" ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ทางมูลนิธิรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Facebook ในการเปิดตัวแคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย สะท้อนการให้ความสำคัญและเล็งเห็นการทำงานหนักของนักกีฬาพาราลิมปิกและเจ้าหน้าที่ทีมไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกสอน แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด หัวหน้าคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีมคณะนักกีฬาคนพิการไทย

ทำให้นักกีฬาคนพิการไทยได้แสดงความสามารถ ความเพียรพยายาม การมีน้ำใจนักกีฬาและผลงานอันเป็นเลิศให้ได้เห็นเสมอมา เราเชื่อว่าผู้ชมชาวไทยจะส่งแรงเชียร์ให้นักกีฬาคนพิการและเจ้าหน้าที่ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 16 นี้ แคมเปญนี้จะช่วยให้แฟนๆ ชาวไทยได้ร่วมส่งแรงใจและเฉลิมฉลองพลังแห่งความหลากหลายในสังคมของเรา"

"แพร ดํารงค์มงคลกุล" Country Director ของ Facebook ประเทศไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "เนื่องด้วยกีฬาพาราลิมปิกในครั้งนี้จะจัดขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 Facebook รู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสทำงานผ่านแคมเปญนี้เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ชมชาวไทยได้ส่งแรงใจให้กับเหล่านักกีฬาพาราลิมปิกของไทย ซึ่งได้แสดงให้เราเห็นว่าพวกเขาสามารถเดินหน้าสู่ความสำเร็จในการแข่งขันได้อย่างงดงาม"

"ค่านิยมในเรื่อง Inclusion หรือการนับรวมคนทุกคน ถือเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์หลักของเราที่ Facebook โดยภารกิจที่เรายังคงเดินหน้าทำอย่างต่อเนื่องในเรื่องของการเข้าถึงโอกาสต่างๆ ก็คือการทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะสามารถรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และสามารถมีส่วนร่วมในการพูดคุยและบทสนทนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนแอปพลิเคชันในเครือของ Facebook ได้อย่างเท่าเทียม สำหรับการร่วมมือกับมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ของ Facebook ประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจของเราและเป็นการต่อยอดภารกิจที่เราทำอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนชุมชนที่อาจจะถูกกีดกันให้เป็นคนชายขอบ และเพื่อฉลองพลังของการเชื่อมต่อกันของผู้คน"

การเปิดตัวแคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทยเกิดขึ้นพร้อมกับการประกาศของ Facebook ในโครงการระดับโลกเพื่อสนับสนุนกีฬาพาราลิมปิกด้วย โดยได้ร่วมมือกับคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (International Paralympic Committee - IPC) เพื่อเปิดตัวภาพยนตร์สั้นซีรีส์แนวสารคดีเพื่อสนับสนุนแคมเปญ #WeThe15

โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของกีฬากับชุมชนผู้พิการจาก 4 ประเทศ พร้อมชี้ให้เห็นว่ากีฬาได้เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับพวกเขาอย่างไร โดยภาพยนตร์ดังกล่าวมุ่งสร้างการตระหนักรู้ถึงกลุ่มคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความพิการซึ่งมีประมาณ ร้อยละ 15 ของประชากรโลก พร้อมแสดงให้เห็นว่ากีฬาจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่เปิดกว้างมากขึ้นได้ทั่วโลก

พวกเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย ได้โดยการติดตาม @ThaiParaHeroes บน Instagram หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจ Facebook ของ Facebook Thailand รวมทั้งสามารถรับชมภาพยนตร์สั้นซีรีส์แนวสารคดีเพื่อสนับสนุนแคมเปญ #WeThe15 ที่มาพร้อมคำบรรยายภาษาไทยได้แล้ว

https:// www.facebook.com/FacebookThailand/posts/368808974780450

และ https:// www.facebook.com/paralympics/
#3678



เพราะคนเรามีสภาพผิวแตกต่างกันไป การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวแต่ละชิ้นจึงต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรผสมที่ลงตัวเหมาะสมกับสภาพผิวพรรณของตนเอง 

"Ultra Facial Oil-Free Gel Cream" มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาหน้า ขึ้นชื่อเรื่องสามารถช่วยควบคุมความมัน สูตร Fresh Hydration ที่เหมาะสำหรับผู้มีผิวธรรมดาไปจนถึงผู้มีปัญหาผิวหน้ามันที่ต้องการครีมบำรุงสูตรล้ำลึกที่ไม่เพิ่มความมันหรือทำให้ใบหน้าเหนียวเหนอะหนะระหว่างวัน

รู้จักเจลครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ผ่านส่วนผสมสำคัญ 
เจลครีมจาก Kiehl's กระปุกนี้ประกอบด้วยส่วนผสมสำคัญหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเพื่อการบำรุงผิวหน้าและคุมความมันโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนผสมหลักที่ต้องหยิบยกมาพูดถึงนั้นได้แก่ "สารสกัดจากกลัยโคโปรตีน" (Glacial Glycoprotein) เป็นโปรตีนที่พบได้ในเกลเซียร์หรือธารน้ำแข็งในทะเล (sea glacier) มีประสิทธิภาพช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ชั้นผิว มีส่วนประกอบจาก"สารสกัดหญ้าคา" (Imperata Cylindrica Root Extract) ช่วยควบคุมไม่ให้ผิวหน้าแห้งหรือมันจนเกินไป มี "อะมิโนแอซิดขนาดเล็ก" (Micronized Amino Acid) ช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าพร้อมมอบความรู้สึกเย็นสบายแสนสดชื่นให้แก่ผู้ใช้ได้ทันทีหลังทาเนื้อเจลลงบนผิว

ผลลัพธ์และประสิทธิภาพของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ 
หลังการใช้เป็นประจำติดต่อกัน คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยเจลครีมช่วยเสริมน้ำมาหล่อเลี้ยงผิวได้มากขึ้น ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นกว่าเดิม ลดปัญหาผิวหน้าแห้งซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาหน้ามัน แม้ใช้ในช่วงกลางวัน หรือก่อนแต่งหน้าก็ไม่ได้ทิ้งความมันเยิ้มไว้ให้เป็นปัญหา หรือต้องคอยใช้กระดาษซับมันซับความมันส่วนเกินออกไป 

ทั้งนี้จากผลการทดสอบความพึงพอใจในผู้ใช้จริงพบว่า 95% รู้สึกว่าผิวดูมีความชุ่มชื้นมากขึ้น และกว่า 98% รู้สึกได้ว่าผิวมีความสมดุลโดยไม่มันหรือแห้งจนเกินไป

เนื้อเจลซึมซาบไว อ่อนโยนต่อผู้แพ้ง่าย
เนื่องจากปราศจากส่วนผสมของน้ำมัน และไม่มีพาราเบน รวมถึงวัตถุกันเสีย เมื่อทา Kiehl's Moisturizer ลงบนผิว เนื้อครีมจะซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างฉับไวไม่เหลือทิ้งไว้เป็นความมันเหนียวเหนอะหนะ นอกจากนี้ยังไม่มีการผสมน้ำหอม ทำให้ไม่อุดตันรูขุมขน และผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้จึงถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้มีผิวแพ้ง่ายสามารถเลือกใช้ได้

วิธีการใช้ — เกลี่ยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาหน้าให้ทั่วผิวหน้าที่ผ่านการทำความสะอาดและปรับสภาพแล้วในตอนเช้าและค่ำ หมั่นใช้เป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น 
 
#3679


"ดิจิทัล" เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนกลายมาเป็นสาขาที่มีจำนวนคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

BOI เริ่มให้การส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลมากว่า 20 ปี ตั้งแต่เปิดส่งเสริมกิจการพัฒนาซอฟต์แวร์และอีคอมเมิร์ซ เมื่อปี 2543 หลังจากนั้นได้ปรับปรุงและเพิ่มเติมกิจการด้านดิจิทัลอื่นๆ อีกหลายครั้ง ล่าสุดบอร์ด BOI ได้เห็นชอบการปรับเปลี่ยนมาตรการด้านดิจิทัลครั้งใหญ่ เพื่อให้มีความยืดหยุ่น และตอบสนองรูปแบบธุรกิจที่มีความหลากหลายมากขึ้น

มาตรการส่งเสริมดิจิทัลของ BOI มีอยู่ 5 ด้าน ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในทุกมิติ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และกิจกรรมดิจิทัลต่างๆ ส่งเสริมทั้งฝั่งผู้พัฒนาและผู้ใช้ รวมไปถึงด้านบุคลากร IT ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบุคลากรไทย หรือการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ

หนึ่ง การส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น Data Center, Cloud Service, Submarine Cable, Digital Park, Incubation Center, Maker Space หรือ Fabrication Lab, Co-working Space, ศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงกิจการพัฒนา Smart City

สอง การส่งเสริมกิจกรรมด้านดิจิทัล เดิม BOI แบ่งเป็นกิจการย่อยๆ แต่ในช่วงหลัง ธุรกิจเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และบางโครงการทำคาบเกี่ยวหลายกิจกรรม บอร์ด BOI จึงเห็นชอบให้ยุบรวมเป็นประเภทเดียว โดยใช้ชื่อว่า "กิจการพัฒนาซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัล หรือดิจิทัลคอนเทนต์"


พร้อมทั้งปรับเพิ่มการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 8 ปี และเปลี่ยนวิธีการกำหนดวงเงินยกเว้นภาษี จากเดิมอิงตามมูลค่าสินทรัพย์ มาเป็นการอิงตามค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ทั้งค่าจ้างและค่าฝึกอบรม รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้ใบรับรองมาตรฐาน เพราะมองว่า การลงทุนในตัวคน เป็นหัวใจของธุรกิจดิจิทัล

นอกจากนี้ ยังได้ขยายขอบข่ายรายได้ที่ได้รับสิทธิ จากเดิมที่ให้เฉพาะรายได้จากการจำหน่าย เช่า ใช้ซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์ม ขยายให้ครอบคลุมถึงค่าโฆษณา ซึ่งกลายมาเป็นรายได้หลักของธุรกิจดิจิทัลในปัจจุบัน

สาม เมื่อเร็วๆ นี้ BOI ได้ออกมาตรการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการนำซอฟต์แวร์ ระบบ ERP หรือระบบ IT อื่นๆ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรหรือสายการผลิต หรือเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบออนไลน์ของรัฐ เช่น National E–Payment หรือประยุกต์ใช้ AI, Machine Learning, Big Data หรือ Data Analytics โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ 3 ปี ในสัดส่วนร้อยละ 50 ของเงินลงทุน

สี่ มาตรการ Smart Visa เพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล และกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจากต่างประเทศ โดยการให้วีซ่าชนิดพิเศษที่มีระยะเวลานานกว่าปกติ และสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน อีกทั้งได้รับการขยายเวลารายงานตัวจากทุก 90 วันเป็น 1 ปี ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและสตาร์ทอัพได้รับการรับรอง Smart Visa แล้วกว่า 400 คน

ห้า การให้เงินสนับสนุนค่าจ้างบุคลากรแก่สตาร์ทอัพ จากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ เป็นมาตรการล่าสุดที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ หลักเกณฑ์สำคัญคือ ต้องเป็นสตาร์ทอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งด้านดิจิทัลและ Deep Tech และต้องเคยได้รับเงินทุนจาก VC หรือ CVC มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท สามารถยื่นขอรับเงินสนับสนุนสำหรับค่าจ้างบุคลากร ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 50 รวมไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อบริษัท ระยะเวลาสนับสนุนไม่เกิน 2 ปี

มาตรการทั้งหมดนี้จะสำเร็จได้ ต้องอาศัยพันธมิตรทั้งรัฐและเอกชนมาช่วยกันผลักดัน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว และสร้างให้ประเทศไทยเป็น "ดิจิทัลฮับ" ของภูมิภาค
#3680


ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์ (20ส.ค.)ร่วง 1.37 ดอลลาร์ ปรับตัวร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 จากพิษเดลตา

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ราคา 62.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ราคา 65.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิ่งลง ท่ามกลางความกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ทั้งนี้ ดอลลาร์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ในปีนี้

นักวิเคราะห์เตือนว่าการร่วงลงของราคาน้ำมันทะลุระดับ 65 ดอลลาร์ จะส่งผลให้ราคาไหลลงต่อไปในช่วง 57-65 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงการปรับตัวของราคาน้ำมันในไตรมาส 2

กลุ่มเฮดจ์ฟันด์ได้เทขายสัญญาน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้วเป็นสัปดาห์ที่ 6 ในรอบ 8 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีน ยุโรป และอเมริกาเหนือจะส่งผลกระทบต่อการสัญจรทางอากาศ

สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ออกรายงานเตือนว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะฉุดความต้องการใช้น้ำมันลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ไออีเอได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2564 ลงสู่ระดับ 5.3 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 5.4 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ดี ไออีเอ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันในปี 2565 สู่ระดับ 3.2 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 3 ล้านบาร์เรล/วัน