• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chigaru

#2801
ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวเหนือ $110 หลังทรุดหนักวานนี้
 
ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 110 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนหลังการเจรจาระหว่างนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด

ณ เวลา 22.50 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 1.51 ดอลลาร์ หรือ 1.38% สู่ระดับ 110.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ บวก 1.78 ดอลลาร์ หรือ 1.60% สู่ระดับ 112.92 ดอลลาร์/ บาร์เรล

การประชุมระหว่างนายลาฟรอฟและนายคูเลบาซึ่งจัดขึ้นที่ตุรกีในวันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง

ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง หรือการกำหนดเส้นทางปลอดภัยสำหรับชาวยูเครนที่จะอพยพออกจากประเทศแต่อย่างใด

"เราได้หารือกันเกี่ยวกับการหยุดยิงเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยการเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบาก" นายคูเลบากล่าวในการแถลงข่าว

นายคูเลบายังแสดงความผิดหวังต่อการที่นายลาฟรอฟได้เข้าร่วมการเจรจา แต่ไม่มีอำนาจในการทำข้อตกลงหยุดยิง

"ดูเหมือนว่ามีผู้ที่อยู่ในรัสเซียกำลังบงการการตัดสินใจดังกล่าว" เขากล่าว
ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนักวานนี้ หลังจากที่นายยูซุฟ อัล โอไทบา เอกอัครราชทูตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประจำสหรัฐ ระบุว่า UAE สนับสนุนให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันตึงตัว อันเนื่องจากการที่รัสเซียถูกนานาชาติคว่ำบาตร

อย่างไรก็ดี นายซูฮาอิล อัล-มาซโรอี รัฐมนตรีพลังงานของ UAE ได้ปฏิเสธคำกล่าวของนายโอไทบาในเวลาต่อมา โดยยืนยันว่า UAE จะยังคงยึดมั่นตามมติของโอเปกพลัส และมีเพียงกระทรวงพลังงานของ UAE เท่านั้นที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อนโยบายน้ำมันของประเทศ
#2802
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วง วิตกเงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง,เจรจายูเครน-รัสเซียไม่คืบหน้า
 
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ร่วงลงตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังมีรายงานว่า การเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครนประสบความล้มเหลว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,495.03 จุด ลดลง 195.37 จุด หรือ -0.76%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,460.03 จุด ลดลง 430.23 จุด หรือ -2.06% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,259.32 จุด ลดลง 36.77 จุด หรือ -1.12%

บรรยากาศการซื้อขายในภูมิภาคถูกกดดันหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.9% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 7.8%

วิลล์ คอมเพอร์นอลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอฟเอชเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดถือเป็นการตอกย้ำว่าสหรัฐเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป โดยนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครนยังกดดันตลาด หลังจากการเจรจาระหว่างนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน ไม่มีความคืบหน้า โดยทั้งสองฝ่ายประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว หรือการกำหนดเส้นทางปลอดภัยสำหรับชาวยูเครนที่จะอพยพออกจากประเทศ ซึ่งการเจรจาดังกล่าวจัดขึ้นที่ตุรกีเมื่อวานนี้ และใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 217,000 ราย ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงสูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ

นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีกำหนดเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนม.ค. ของเกาหลีใต้ และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนม.ค. ของญี่ปุ่น

 
#2803
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย รุกโลกเสมือนจริง Metaverse เปิดตัว "น้องวันนี้ " อินฟลูเอนเซอร์เสมือนคนจริง ที่เป็น CIMB Preferred Metaverse Customer คนแรกของไทย

ตัน คีท จิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตัว "น้องวันนี้" ลูกค้าเสมือนคนจริง ซึ่งเป็นสมาชิก CIMB Preferred Metaverse Customer คนแรกของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และของวงการธนาคารในประเทศไทย

"ปัจจุบันวงการธนาคารได้ตื่นตัวและให้ความสำคัญเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงและสามารถสื่อสารได้ตรงตามกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง สำหรับกระแสโลกเสมือนจริง Metaverse บวกความล้ำหน้านวัตกรรม AI (Artificial Intelligence) ที่มีอยู่ในขณะนี้ธนาคารได้เลือก 'น้องวันนี้' Virtual Influencer มาช่วยบอกต่อเรื่องประสบการณ์ลูกค้าที่ดีของ CIMB Preferred ทั้งด้านการบริการ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุน และสิทธิพิเศษต่างๆ นับเป็นการตอกย้ำนโยบาย To be a digital-led bank with ASEAN Reach หรือ การก้าวไปสู่การเป็นธนาคารชั้นนำของอาเซียนที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล อย่างแท้จริง"

'PTC' เตรียมขึ้น XD 15 มี.ค.นี้ ก่อนรับปันผล 0.10 บาท/หุ้น

เป็นหุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai มาไม่นาน สำหรับ 'บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น' หรือ PTC ผู้ประกอบธุรกิจคลังน้ำมันสำหรับรับ เก็บ ผสมและจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ที่โชว์ฟอร์มทำผลงานเติบโตแข็งแกร่งไม่มีหยุดหย่อน โดยเฉพาะยอดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนธันวาคม 64 ที่ทำสถิติ All time high รวมกว่า 120 ล้านลิตร จากคลังน้ำมันทั้ง 2 แห่ง งานนี้ ซีอีโอหนุ่มไฟแรง "วีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์" แอบกระซิบว่ายอดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนมกราคมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องและคาดว่าจะสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน

ล่าสุด?บอร์ดใจดี อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 64 ในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น งานนี้นักลงทุนที่สนใจห้ามพลาด เก็บหุ้น PTC ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 15 มีนาคมนี้ และเตรียมรับปันผลเป็นเงินสด 24 พฤษภาคม 65 เลยทันที
#2804
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.08 กลับมาแข็งค่าจากช่วงเช้า หวังสถานการณ์ขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนคลี่คลาย

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.08 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.13 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าจากช่วงเช้า โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.08 - 33.23 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดมี ความหวังมากขึ้นว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนอาจคลี่คลายลง ในขณะเดียวกัน เริ่มเห็นสัญญาณราคาน้ำมันปรับตัวลด ลงบ้าง ขณะที่ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมาก ด้านสกุลเงินภูมิภาคเป็นแบบผสมทั้งแข็งค่าและอ่อนค่า

"วันนี้บาทปิดที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าแข็งค่ามากที่สุดของวัน เนื่องจากข่าวบวก มีการไล่ราคาหุ้นขึ้นมาเยอะใน ช่วงบ่าย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.95 - 33.20 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัยที่ ต้องติดตาม ยังเป็นสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน และราคาน้ำมัน

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.82 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 115.89 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0983 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0918 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.64 จุด เพิ่มขึ้น 24.54 จุด (+1.52%) มูลค่าการซื้อขาย 115,052 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,129.33 ลบ. (SET+MAI)
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินผลความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่จะกระทบ
ต่อเศรษฐกิจไทย โดยหากสถานการณ์ยืดเยื้อตลอดทั้งปี 65 (กรณีเลวร้ายสุด) คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบราว 2.44 แสนล้าน
บาท กด GDP ปีนี้เหลือโต 2.7% ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งไปที่ 4.5-5.5% ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะ stagflation
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ. 65 อยู่ที่ระดับ 43.3 ลดลงจากเดือนม.ค.65 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 44.8 ลดลงต่อเนื่องเป็น
เดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 5 เดือน โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลสถานการณ์ระบาดของไวรัสโอมิครอน, ปัญหาความขัดแย้งรัสเซีย-
ยูเครน, ราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น, เงินบาทแข็งค่า และความกังวลต่อปัญหาค่าครองชีพ สินค้ามีราคาแพงขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ มี.ค.65 อยู่ที่ 76.20 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือคิดเป็น 8.64% จากระดับ 70.14
จุดในเดือน ก.พ.65 โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมัน ความต้องการ
ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ และแรงซื้อเก็งกำไร
กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 26.24 ล้านราย และ
ยอดการใช้จ่ายรวม 52,376.4 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 26,620.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 25,756.1 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารโลก ระบุว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัสเซียเปิด
ฉากบุกยูเครน อาจทำให้ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่หดตัวลง อาทิ จีน,
อินโดนีเซีย, แอฟริกาใต้ และตุรกี
ราคาบิตคอยน์ พุ่งขึ้นทะลุระดับ 41,000 ดอลลาร์ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ ได้กล่าว
ชื่นชมทำเนียบขาวที่เตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลเร่งทำการศึกษาข้อดีและข้อเสียของการใช้คริปโทเคอร์
เรนซี
เลขาธิการองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกโรงเตือนว่าโลกเสี่ยงขาดแคลนน้ำมัน หลังนานาชาติคว่ำ
บาตรรัสเซีย และไม่อาจหาน้ำมันมาทดแทนส่วนแบ่งการส่งออกน้ำมันของรัสเซียได้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้พลังงานมาเป็น
เครื่องต่อรองทางการเมือง
นักวิเคราะห์หลายสำนักเตือนว่า มาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียของสหรัฐอาจทำให้ราคาน้ำมันและราคา
อาหารดีดตัวรุนแรงขึ้น
นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า วิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน จะสร้างความเสียหายต่อการขยายตัวของ
เศรษฐกิจโลก ขณะที่ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งทะยานขึ้น อย่างไรก็ดี การสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของจีน รวมถึงความแข็ง
แกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) คาดธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อย ให้กลับไปใกล้เคียง
กับระดับปกติในปีนี้ โดยในระยะใกล้ BOJ อาจออกนโยบายพิเศษเพื่อปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และเพื่อให้ผลตอบแทนจากตราสารหนี้ระยะ

ยาวที่ซื้อขายกัน มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

 
#2805
DKSH (ประเทศไทย) ร่วมกับ Iconix Brand Group, Inc. เปิดตัวแบรนด์ยีนส์ Lee Cooper(R) และ Mossimo(R) ในไทย

บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด คู่ค้าชั้นนำสำหรับบริษัทค้าปลีกที่ต้องการขยายธุรกิจในทวีปเอเชียและทั่วโลก พร้อมด้วย Iconix Brand Group, Inc. บริษัทบริหารจัดการแบรนด์ชั้นนำของโลก ที่มีพอร์ตโฟลิโอครอบคลุมแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่หลากหลาย ได้ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจด้วยการนำเข้าแบรนด์ Lee Cooper(R) แบรนด์เดนิมชื่อดังจากอังกฤษสู่ตลาดประเทศไทยอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังได้นำเข้าแบรนด์ไลฟ์สไตล์จากแคลิฟอร์เนียอย่าง Mossimo(R) เพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ทั้ง Lee Cooper(R) และ Mossimo(R) จะเริ่มเปิดตัวและวางจำหน่ายในร้านของแบรนด์ และมุ่งขยายสาขาทั่วประเทศไทย โดยแฟล็กชิฟสโตร์ของ Lee Cooper(R) ที่กรุงเทพฯ จะเปิดตัวในช่วงต้นปีนี้ ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์สินค้าทั้งหมด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกานั้น จะทำการผลิตในประเทศไทย โดย บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด

Lee Cooper(R) คือแบรนด์ไลฟ์สไตล์เดนิมสัญชาติอังกฤษที่มีฐานลูกค้าระดับนานาชาติ ที่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์เดนิมอันดับต้นๆ ในประเทศไทยและกัมพูชา โดยข้อมูลอ้างอิงจาก Euromonitor ได้รายงานภาพรวมของตลาดเดนิม
ในประเทศไทยว่ามีมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท และมีทิศทางความนิยมที่สูงขึ้นในประชากรกลุ่ม Gen Z

Mossimo(R) แบรนด์ไลฟ์สไตล์จากแคลิฟอร์เนีย ได้ทะยานสู่ความสำเร็จด้วยการผสมผสานวิถีชีวิตและวัฒนธรรม เซิร์ฟ กีฬา และ urban จนกลายเป็นแบรนด์แฟชั่นร่วมสมัยที่น่าดึงดูดใจในวงกว้าง และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดย Mossimo(R) ได้รวบรวมทั้งหมด 15 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไว้ในแบรนด์เดียว ได้แก่ ชุดกีฬา และเดนิม ทั้งสำหรับสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็ก

"ด้วยประสบการณ์ของ DKSH ในด้านการบริหารจัดการแบรนด์ชั้นนำทั้งในภาคส่วนธุรกิจแฟชั่น และการค้าปลีก รวมถึงประสบการณ์อีกกว่า 30 ปี ในธุรกิจเดนิม เรามั่นใจว่าความเชี่ยวชาญนี้จะทำให้แบรนด์ของเราได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น
ผ่านช่องทาง omni-channel ที่แข็งแกร่ง และการเข้าถึงแบรนด์ผ่านสาขาต่างๆทั่วประเทศ" บ็อบ กัลวิน กรรมการบริหาร และประธานบริษัท Iconix Brand Group กล่าว "และเราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นแบรนด์ของเราเติบโตในประเทศไทย ผ่านการดูแลของ DKSH"

"เรากำลังมีแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์ Lee Cooper(R) ในประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งจะมาพร้อมการปรับกลยุทธ์ใหม่ อีกทั้งมีแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์ Mossimo(R) ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองแบรนดนี้เป็นสุดยอดไอคอนิคแบรนด์ เราเชื่อว่าประสบการณ์การเป็นผู้นำในด้านธุรกิจเดนิม และแฟชั่นในประเทศไทยของเรา จะทำให้การร่วมมือในครั้งนี้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น ด้วยการเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ พร้อมกับความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการพัฒนาโซลูชั่นการค้าปลีกแบบ omni-channel รวมทั้ง
การครอบคลุมช่องทางค้าปลีกที่เป็นเลิศของเรา จะสามารถทำให้เกิดช่วงเวลาอันน่ารอคอยในวงการตลาดเดนิมได้" ปีเตอร์ ฮอร์นบี รองประธานฝ่ายบริหารธุรกิจการค้าปลีก บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
#2806
กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จับมือพันธมิตร CTBC Bank
 
กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จับมือพันธมิตร CTBC Bank จัดงาน "Inherit the Legacy to build a Better Tomorrow" ขอบคุณลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พร้อมมุ่งมั่นมอบบริการและผลิตภัณฑ์เหนือความคาดหมาย

กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จับมือพันธมิตร CTBC Bank จัดงาน "Inherit the Legacy to build a Better Tomorrow" เพื่อฉลองความสำเร็จในการร่วมมือทางธุรกิจการเงิน  ปัจจุบัน CTBC Bank เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่พร้อมส่งผ่านความเชี่ยวชาญและความชำนาญของ CTBC Bank ไม่ว่าจะเป็น Trade Finance, Wealth Management, Personal loan และ Digital Platform ใหม่ๆ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน และการเติบโตอย่างก้าวกระโดด การจัดงานครั้งนี้ เป็นการขอบคุณลูกค้า และพันธมิตรคู่ค้าทางธุรกิจ ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มธุรกิจการเงินฯ ด้วยดีเสมอมา 

กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ CTBC Bank พร้อมเดินหน้าพัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าภายใต้แนวคิด Customer Centric ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีส่งมอบให้ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกวัย   

รายชื่อผู้บริหาร

ดร. วรพล โสคติยานุรักษ์ ประธานกรรมการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (กลาง)
นายหลี่ หมิง-เซี้ย , Chairman of CTBC Bank (ขวาสุด)
นายเฮอร์เบิร์ต ชี, รองท่านทูต สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (ซ้ายสุด)
#2807
World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้  10, 2022

สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า นายยุน ซอกยอล ผู้สมัครจากพรรคพีเพิล พาวเวอร์ของฝ่ายค้านแนวอนุรักษ์นิยม คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) โดยเฉือนชนะนายอี แจมยอง ผู้สมัครจากพรรคเดโมเครติคของฝ่ายรัฐบาลแนวเสรีนิยม ไปเพียง 0.78% เท่านั้น

ด้านปธน.โจ ไบเดนได้โทรศัพท์หานายยุนเพื่อแสดงความยินดีที่ชนะการเลือกตั้ง โดยปธน.ไบเดนรอคอยที่จะได้กระชับสัมพันธ์แบบทวิภาคีเพื่อรับมือกับเกาหลีเหนือและปัญหาระดับโลกอื่น ๆ เช่น โควิด-19

-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งบริหาร เพื่อสั่งการให้หน่วยงานทั้งหมดของรัฐบาลสหรัฐทำการประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี พร้อมกับสั่งให้เร่งการวิจัยและพัฒนาสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัล

-- บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) เตรียมเรียกคืนรถยนต์ 1.03 ล้านคันทั่วโลก หลังพบความเสี่ยงว่าอาจเกิดไฟไหม้เครื่องยนต์ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ที่ BMW เรียกคืนรถยนต์ด้วยปัญหาเดียวกันนี้นับตั้งแต่ปี 2560

-- รัฐบาลสหรัฐประกาศเตือนวานนี้ (9 มี.ค.) ว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในการทำสงครามกับยูเครน ขณะปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซียที่ว่า มีการพัฒนาอาวุธชีวภาพอย่างผิดกฎหมายในยูเครน

-- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนได้กล่าวหาว่า รัสเซียได้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เครื่องบินรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็กของยูเครนเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยจำนวนมากถูกฝังอยู่ภายใต้ซากอาคาร แม้รัสเซียและยูเครนได้ทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่ออพยพประชาชนในเมืองมาริอูโพลแล้วก็ตาม

-- ฮิลตัน และไฮแอท เครือโรงแรมชื่อดังระดับโลก ประกาศระงับการลงทุนในรัสเซีย เพื่อเป็นการต่อต้านรัสเซียที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

ด้านบริษัทฮิตาชิ จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะระงับการดำเนินธุรกิจในรัสเซียเป็นการชั่วคราว ตามรอยบริษัทญี่ปุ่นรายใหญ่รายอื่น ๆ ด้วย

-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณพิเศษวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้จะเป็นการจัดสรรเงินช่วยเหลือให้กับยูเครนจำนวน 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนจำนวนที่เหลือจะเป็นการจัดสรรเงินให้กับหน่วยงานของรัฐบาลกลางไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.ปีนี้

-- สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย (BNPB) แถลงในวันนี้ว่า ภูเขาไฟเมอราปี (Merapi) ในจังหวัดยอกยาการ์ตา ได้ปะทุขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยพ่นลาวาร้อนและเถ้าถ่านไหลออกมาตามเนินเขา ส่งผลให้ต้องอพยพชาวบ้านในพื้นที่มากกว่า 250 คน

-- รมว.ต่างประเทศจากรัสเซียและยูเครนเตรียมจะเจรจากันในวันนี้ที่ประเทศตุรกี ซึ่งนับเป็นการเจรจาระดับสูงครั้งแรกของทั้ง 2 ประเทศ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งทางฝั่งตุรกีหวังว่า การเจรจาครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในความขัดแย้งระหว่าง 2 ชาติ

-- แหล่งข่าวรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้ (10 มี.ค.) ว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) จะไม่ดำเนินการโดยพลการเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำมัน โดย UAE จะยังคงยึดมั่นตามมติของโอเปกพลัสซึ่งเป็นการผนึกกำลังของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร พร้อมระบุเสริมว่า มีเพียงกระทรวงพลังงานของ UAE เท่านั้นที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อนโยบายน้ำมันของประเทศ
#2808
B เผย ผถห.ใส่เงินเพิ่มทุน RO ครบกว่า 915 ลบ.หนุนธุรกิจโตแกร่ง

นางสาวสุทธิรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานกรรมการ บมจ.บี จิสติกส์ (B) เปิดเผยว่า บริษัทต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจบริษัท โดยการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Right Offering) เกินความคาดหมาย โดยบริษัทได้รับเงินจากการเพิ่มทุนดังกล่าวจำนวน 915 ล้านบาท

การเพิ่มทุน RO ในครั้งนี้เพื่อสนับสนุนแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่ม B ให้มีความคล่องตัวและประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการเป็นธุรกิจสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยโฟกัส 2 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม(Green Logistics)และธุรกิจสาธารณูปโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Utilities) รวมทั้งธุรกิจใหม่ๆ ที่จะสามารถต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทธุรกิจหลักของบริษัทในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทก็มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้ต่อทุน(D/E) เพียง 0.09 เท่า เปรียบเทียบกับช่วงสิ้นปี 64 สัดส่วน D/E อยู่ที่ 0.15 เท่า

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน จากเดิม 1,655.61 ล้านบาท เป็น 3,093.44 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,114.45 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์) 0.68 บาท เสนอขาย RO จำนวน 1,409.63 ล้านหุ้น สัดส่วน 1.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ราคาหุ้นละ 0.68 บาท

ส่วนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลืออีก 704.81 ล้านหุ้นจะใช้รองรับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทชุดที่ 7 (B-W7) ที่จัดสรรฟรีให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน ในสัดส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ต่อ 1 หน่วย ราคาใช้สิทธิ 0.99 บาท/หุ้น
#2809
TM ลุยขายสินค้าผ่าน 'TM CARE SHOP' ปั้มรายได้โต 700-750 ลบ.

นายมานิต วงศ์ไพศาลลักษณ์ (ขวา) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด พร้อมด้วยนางสาวปรางฉาย จรรโลงบุตร (ซ้าย) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.เทคโนเมดิคัล (TM) ร่วมนำเสนอข้อมูลบริษัทฯ ภายในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) โชว์ศักยภาพการดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ปี 2564 เติบโตแข็งแกร่งทำให้มีรายได้(งบการเงินเฉพาะกิจการ) 698.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ(งบการเงินเฉพาะกิจการ) 62.15 ล้านบาท ประกาศเดินหน้าปั้มรายได้เติบโตปี 65 โตต่อเนื่อง 5-10% เป็น 700-750 ล้านบาท โดยเน้นหาพันธมิตรผู้ผลิตสินค้า OEM ภายใต้แบรนด์ TM เพื่อเพิ่มยอดขาย และศักยภาพในการแข่งขัน และการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 'TM CARE SHOP' หนุนยอดขายทั้งในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้ง อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น พร้อมปูทางการให้บริการในกลุ่มผู้สูงอายุ จากการเปิดธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทาง ภายใต้โครงการ 'THE PARENTS' ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ ณ สำนักงานใหญ่ บมจ.เทคโนเมดิคัล เมื่อเร็วๆ นี้
#2810
อาหารเสริม ผู้หญิง BLY Balance Y
สารสกัดจากตังกุย 
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
สารสกัดจากโปรตีนถั่วเหลือง
สารสกัดจากเปลือกสน
แอลกลูต้าไทโอน
สารสกัดจากโรสฮิป 

คุณสมบัติ
- ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน คุณผู้หญิง ลดปวดประจำเดือน ลดอาการตกขาว
- ช่วยเพิ่มความเต่งตึง ของ หน้า อก ช่วยให้ ภายใน กระชับ ดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
- ผิวสวย หน้าใส ฟื้นฟูผิวให้กลับมาเปล่งปลั่งสดใส คงความอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างคอลลาเจน
บำรุงผิวให้ขาว ลดรอยหมองคล้ำต่างๆ แก้ปัญหาสิว ฝ้า กระ
- ด้วยสมุนไพรจีนอย่างโหงวบี่จี ช่วยรักษาลมพิษ
อาการคันจากความเครียด รวมถึงอาการผมร่วงด้วย
- ช่วยเพิ่ม น้ำ หล่อ ลื่น
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้

BLY Balance Y
จดทะเบียนอย.ในชื่อ BLY "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บีแอลวาย ตราบาลานซ์"
เลขที่อย.12-1-05062-5-0123
ปกติ 1,090 บาท ราคาพิเศษเพียงกล่องละ 690 บาท
บรรจุมากถึง 10 แคปซูล 
สอบถาม
LINE: @err9020j (มี@ ด้านหน้า)
รายละเอียดเพิ่มเติม  > อาหารเสริมผู้หญิง BLY Balance Y
Balance ของแท้จากบริษัทโดยตรง
#2811
กพอ.เผยวิกฤตยูเครนยังไม่กระทบลงทุนใน EEC มั่นใจได้ตามเป้า แต่ห่วงโควิดฉุดยอดนทท.

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ประเมินสถานการณ์การสู้รับระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการต่างๆ ยังเดินหน้าต่อ ทั้งเรื่อง 5G และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังคงเดินหน้าตามแผน โดยยังเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน EEC ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ที่ 4 แสนล้านบาท แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น อาจส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโลก และอาจจะมีผลกระทบบ้างในส่วนของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

นายคณิศ มองว่า สถานการณ์รัสเซียและยูเครน ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ไกลมากสำหรับประเทศไทย และโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็เป็นโครงการที่เน้นการลงทุนในไทยเป็นหลัก และคาดว่าจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียยูเครนนั้น จะเห็นผลกระทบชัดเจนในช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากนี้ ซึ่งจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สถานการณ์โควิดอาจมีผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่ได้ประมาณการว่าจะมี 6 ล้านคนว่าจะเป็นไปตามเป้าหรือไม่

"ถือเป็นโชคดีของ EEC ที่ได้มีการเซ็นสัญญาไปแล้ว 4 โครงการใหญ่ก่อนโควิดระบาด เพราะหากต้องมาเซ็นสัญญาตอนนี้คงยาก อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า โครงการใดที่เซ็นสัญญาร่วมทุนไปแล้วให้เดินหน้าไปให้ได้ และทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และมีความเป็นธรรมกับคู่สัญญา ซึ่งต้องดูแลส่วนนี้ให้ดี" นายคณิศ กล่าว
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วยความรอบคอบ และถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยดำเนินการอย่างรวดเร็วสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งภายในประเทศและสถานการณ์โลก โดยเชื่อมั่นว่าทุกคนจะร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการต่าง ๆ ไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ นายกฯ มอบหมายกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมกันพิจารณาดำเนินการในรายละเอียดให้ชัดเจน เกี่ยวกับการขับเคลื่อนศูนย์กลางการเงินในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อเตรียมการล่วงหน้าในทุกมิติ โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนและประเทศจะได้รับด้วย

พร้อมกำชับให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และ กพอ. จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนในเรื่องแผนการลงทุนใน EEC ที่มีอยู่จำนวนมากให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ มีการเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ ต่อยอดสิ่งที่มีอยู่แล้วให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และมุ่งเน้นกิจกรรมที่จะสร้างประโยชน์กับคนในพื้นที่ในระยะแรก ก่อนพัฒนาขยายผลไปสู่ส่วนอื่น ๆ ต่อไป

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ตามเป้าหมาย โดยดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใด คำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนและประเทศชาติจะได้รับเป็นสำคัญ อีกทั้ง นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EFC) และการส่งสินค้าประเภทต่าง ๆ ของไทย รวมทั้งผลไม้ไปยังต่างประเทศ โดยมอบหมายกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเจรจาหารือเพื่อดำเนินการให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ทั้งการบริหารจัดการระบบขนส่ง ตู้คอนเทนเนอร์และห้องเย็นให้เพียงพอ พร้อมเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบสินค้าทุกประเภทให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ในมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับสากล ก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยอาจแสวงหาความร่วมมือกับภาคเอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น

พร้อมเน้นย้ำให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กับประชาชนในพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับทั้งในระดับพื้นที่และโดยรวมของประเทศ อันจะนำไปสู่ความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมและลดปัญหาความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
#2812
BA คาดปี 65 ขาดทุนลดลงก่อนพลิกกำไรปี 66 ตามแนวโน้มรายได้สายการบินทยอยฟื้น

นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายงานการเงินและบัญชี บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส คาดว่า ในปี 65 บริษัทจะยังคงมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน แต่จะขาดทุนลดลงต่อเนื่องจากปี 64 ที่ขาดทุนดำเนินงาน 2,532 ล้านบาท และปี 63 ขาดทุนจากการดำเนินงาน 3,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จากสายการบินไว้ที่ 8,175 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 1,200 ล้านบาทในปี 64 ซึ่งถือเป็นปีที่สายการบินเผชิญความยากลำบากจากผลกระทบสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ในปี 65 มองว่าธุรกิจสายการบินจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนผู้โดยสารต่างประเทศเข้ามาไม่น้อยกว่า 30-40% และจะมีรายได้จากเส้นทางระหว่างประเทศมากกว่า 40% ของรายได้รวม ซึ่งบริษัทจะโฟกัสไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปและตะวันออกกลาง

"ปีนี้ขาดทุนการดำเนินงานลดลง ก็พยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้น้อยลงไปอีก"นายอนวัช กล่าว
ในปีนี้มีปัจจัยบวก 2-3 ประการ ได้แก่ การติดเชื้อโควิดแม้ยังมีอยู่แต่ความรุนแรงน้อยลง ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศมีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มจากที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากเส้นทางในประเทศ และมาตรการภาครัฐที่ช่วยลดภาระภาคเอกชน เช่น ลดค่าเช่า ส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำ รวมถึงการไม่แข่งขันราคากัน เพราะหากแข่งขันกันจะทำให้สายการบินไม่สามารถอยู่รอดได้

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BA คาดว่า กว่าที่ธุรกิจการบินจะกลับมาเท่าปี 62 หรือก่อนเกิดโควิดที่มีผู้โดยสาร 5.8 ล้านคนน่าจะเป็นปลายปี 66 หรือ ปี 67 สอดคล้องกับการคาดการณ์ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO และ สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA)

BA คาดว่าในปี 65 ธุรกิจการบินจะฟื้นขึ้นมา 40% และในปี 66 จะฟื้นตัวกลับมามากขึ้นเป็น 80-90% และจะกลับไปเต็ม 100% ในปี 67 หรือคาดว่ากลับมาบินได้ตามปกติ ดังนั้น ในปี 66 คาดว่า BA น่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงาน

สำหรับปีนี้ BA ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน จำนวนเที่ยวบิน 3.4 หมื่นเที่ยวบิน อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ที่ 65% ราคาตั๋วโดยสารเฉลี่ย 3,100 บาท/เส้นทาง โดยมีแผนจะคืนเครื่องบินเช่า 5 ลำ และขายออก 2 ลำ ทำให้สิ้นปี 65 มีฝูงบิน 30 ลำ โดยปัจจุบันใช้ทำการบิน 19 ลำ ทั้งนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ในปี 65 จะทยอยกลับมาเปิดบริการเส้นทางเดิมมากขึ้น โดยในวันที่ 27 มี.ค.จะเปิดบินเส้นทางกรุงเทพ-กระบี่ และไตรมาส 3/65 จะเปิดเส้นทางต่างประเทศมากขึ้น อาทิ กรงุเทพ-เสียมเรียบ, กรุงเทพ-ดานัง, กรุงเทพ-หลวงพระบาง, กรุงเทพ-ย่างกุ้ง และ กรุงเทพ-มัลดีฟ

นายอนวัช ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากที่บริษัทได้รับกระทบจากโควิดมานาน 2 ปี การดำรงสภาพคล่องเป็นเรื่องสำคัญมาก บริษัทได้จัดหาวงเงินกู้กว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งได้เบิกใช้บ้างแล้ว ทำให้ยังมีสภาพคล่องพอใช้ในการดำเนินงาน แต่ก็ยังเตรียมจัดหาเพิ่มเติม ขณะที่ธุรกิจการบินก็ค่อยๆ ฟื้นตัวแล้ว เริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/64

ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวพุ่งขึ้นสูงนั้น นายอนวัช กล่าวว่า เนื่องจากปี 64 บริษัททำการบินน้อยลง ทำให้ต้นทุนน้ำมันไม่สูงมาก คิดเป็น 10% ของต้นทุนรวม เทียบกับช่วงก่อนโควิดที่อยู่ในสัดส่วน 30-35% โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่อยู่ค่าเช่าเครื่องบิน คิดเป็นสัดส่วน 25% ค่าใช้จ่ายพนักงานน้อยกว่า 25% ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างไรก็ดี เมื่อในปีนี้ทำการบินมากขึ้นก็จะทำให้สัดส่วนต้นทุนน้ำมันปรับขึ้นมาที่ 15%

และจากสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป โดย BA มีผู้โดยสารรัสเซียประมาณ 1-2%

นายจุลิน กอเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด BA กล่าวว่าการร่วมมือกับ Bitkub ที่จะออกเหรียญดิจิทัลมาใช้ชำระสินค้าและบริการนั้น ขณะนี้อยุ่ระหว่างทบทวนแผนธุรกิจ เพราะทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ไม่เห็นด้วยกับการนำเงินคริปโตแลกซื้อสินค้าหรือชำระค่าบริการ

*โครงการพัฒนาอู่ตะเภาชะลอ

นายอนวัช กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ผู้บริหารโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก ยังไม่ได้รับหนังสือให้เริ่มงาน (NTP) จากภาครัฐจากที่ระบุว่าต้นปี 65 จะเริ่มงานได้ เนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิดที่รุนแรงมากในปีก่อนทำให้การเข้าสำรวจพื้นที่ก่อสร้างทำได้ยาก และมีมาตรการห้ามเดินทางระหว่างประเทศทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศไม่สามารถเดินทางร่วมวางแผนและเขียบแบบงานได้ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ก็รับทราบและเข้าใจ

อย่างไรก็ดี UTA ก็ต้องเตรียมการให้พร้อมหากรัฐเร่งดำเนินการ นอกจากนี้จากการระบาดของโควิดทำให้สภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงก็อาจจะต้องปรับแผน และปรับขนาดการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด

"อาจจะต้องปรับแผนการก่อสร้างย่อมลงมา ก็ต้องคุยกับภาครัฐ ถ้าประมาณการการเดินทาง การคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารเปลี่ยนไป ในระยะแรกจะดำเนินการอย่างไรดี "นายอนวัช กล่าว
อนึ่ง ในเฟสแรก UTA จะสร้างอาคารผู้โดยสารรองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคน มูลค่าการลงทุนราว 3 หมื่นล้านบาท

โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ UTA ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของกลุ่มบีบีเอส (BBS) ประกอบด้วย BA ถือหุ้น 45% บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) 35% และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) 20%
#2813
'เยลเลน' ขานรับทำเนียบขาวระดมหน่วยงานรัฐเร่งศึกษาผลกระทบคริปโท

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้กล่าวชื่นชมทำเนียบขาวที่เตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลเร่งทำการศึกษาข้อดีของการใช้สกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี รวมทั้งข้อเสียที่อาจจะมีต่อผู้บริโภคและระบบการเงินเป็นวงกว้าง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่เกี่ยวกับกลยุทธ์ของรัฐบาลสหรัฐทางด้านสกุลเงินคริปโทฯ ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าปธน.ไบเดนจะสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหรัฐ ทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมาย รวมทั้งผลกระทบด้านความมั่นคงของชาติ และทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสกุลเงินดิจิทัล

ทั้งนี้ นางเยลเลนเปิดเผยในแถลงการณ์บนเว็บไซต์ของกระทรวงการคลังว่า คำสั่งดังกล่าวจะระบุถึงประโยชน์ด้านนวัตกรรมของคริปโทฯ และในขณะเดียวกันก็จะระบุถึงการรับมือกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเงินที่ผิดกฎหมาย, การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน และการป้องกันภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบการเงินและเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

แถลงการณ์ของนางเยลเลนยังระบุด้วยว่า กระทรวงการคลังสหรัฐจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อรวบรวมรายงานเกี่ยวกับระบบการเงินและการชำระเงินในอนาคต ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะจัดการประชุมหารือร่วมกับสภากำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงิน (FSOC) เพื่อประเมินความเสี่ยงที่มีต่อเสถียรภาพการเงิน และประเมินว่าควรใช้มาตรการป้องกันหรือไม่ นอกจากนี้ ทางกระทรวงจะร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการเพิ่มมาตรฐานและยกระดับตลาดการลงทุนในสกุลเงินคริปโทฯ

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับความคิดเห็นของสาธารณชนเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโทฯ จนถึงวันที่ 20 พ.ค.ปีนี้ หลังจากที่เฟดได้ออกรายงานการศึกษาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) โดยเฟดระบุว่าสกุลเงิน CBDC จะช่วยเสริมสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของโลก และช่วยให้การชำระบัญชีข้ามประเทศมีความรวดเร็วมากขึ้น

อย่างไรก็ดี เฟดระบุถึงข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัล โดยระบุว่าสกุลเงิน CBDC อาจจะทำให้เกิดการไหลออกของเม็ดเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวประสิทธิภาพของนโยบายการเงิน นอกจากนี้ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการรับมือกับการเงินที่ผิดกฎหมายก็ถือเป็นอีกประเด็นที่ต้องได้รับการแก้ไข
#2814
'เคธี วูด' ชี้ศก.ยุโรปถดถอยจากสงครามยูเครน ราคาน้ำมันพุ่งหนุนยอดขาย EV

นางเคธี วูด ซีอีโอบริษัท Ark Invest ได้แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจยุโรปอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่ล้าหลังมากนัก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะผลักดันให้บรรดาบริษัทเอกชนและผู้บริโภคหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีที่สามารถช่วยลดต้นทุน

นางวูดกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และคาดว่ากลุ่มบริษัทจีโนมิกส์ (Genomics) หรือบริษัทด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์นั้น จะได้ประโยชน์ในฐานะบริษัทที่สามารถประหยัดต้นทุนได้มากกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทที่ใช้แนวทางแบบดั้งเดิม

'ข่าวดีก็คือ นวัตกรรมช่วยแก้ปัญหาทั้งปวงได้' นางวูดกล่าว
นอกจากนี้ นางวูดยังกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ พร้อมกับกล่าวว่า 'ตลาดเต็มไปด้วยความวิตกกังวลในขณะนี้'

การแสดงความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับที่นายเจมส์ กอร์แมน ประธานและซีอีโอของมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวเมื่อวันจันทร์ (7 มี.ค.) ว่า 'เฟดกำลังเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางขาขึ้นและคาดว่าจะยืดเยื้อต่อไป' นอกจากนี้ นายกอร์แมนยังเรียกร้องให้เฟดใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากขณะนี้การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอันเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนกำลังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น
#2815
"ยูนิคอร์น" Unicorn ธุรกิจเครือข่าย น้องใหม่ มาแรง !! ฟอร์มทีมต้นสาย
สร้างรายได้ Passive income ของแท้ เกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย
ปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่  ระบบสร้างความสำเร็จชั้นแนวหน้าระดับประเทศ
ขายตรงน้องมาแรง !!  ร้อนแรง!! เขย่าวงการขายตรง
 
 
"ยูนิคอร์น" Unicorn ธุรกิจน้องใหม่ ธุรกิจออนไลน์ สร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัด รองรับตลาด AEC 
ธุรกิจเครือข่ายน้องใหม่ในโลกยุคดิจิทัล ที่มีระบบ "Smart Unicorn Ai" ในการสร้างธุรกิจ ให้ทำงานได้ง่ายขึ้น
 มีคอร์สเรียนรู้ พร้อมสำหรับผู้สนใจ
รับสมัครตัวแทนธุรกิจ
 
มาร่วมบุกเบิกเป็นต้นสาย 
"ยูนิคอร์น" Unicorn กับเรา
ฟอร์มทีมผู้นำ 77 จังหวัด ทั่วประเทศ
รีบตัดสินใจวันนี้
สนใจ กรอกข้อมูลรับรายละเอียดเพิ่มเติม
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
 
สนใจ กรอกข้อมูลรับรายละเอียด+ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซด์...

https://www.uncthai.com

✅ รับสมัครตัวแทนธุรกิจ 
Line : @uncth (มี@นำหน้า)
https://lin.ee/0qb4kkl 




Unicorn, ยูนิคอร์น, Unicornขายตรง, ยูนิคอร์นขายตรง, ธุรกิจเครือข่าย, ขายตรง, ธุรกิจออนไลน์, สร้างรายได้, ธุรกิจเครือข่ายน้องใหม่, UNCTHAI,
#2816
JWD คาด Q1/65 โต YoY ตามดีมานด์เช่าพื้นที่-ขนส่ง,ทั้งปีเชื่อโตกว่า 10-15%

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 จะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก เห็นได้จากตัวเลขในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.65 ที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการเช่าพื้นที่และการขนส่งสินค้าที่ขยายตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องรอดูในเดือน มี.ค.ให้ชัดเจนก่อน แต่บริษัทก็มั่นใจว่าจะยังเติบโตกว่าปีก่อนในระดับสูง

สำหรับทั้งปี 65 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% จากทุกกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโต โดยเฉพาะธุรกิจขนส่ง ตามความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่บริษัทสามารถปรับราคาขึ้นและลงได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาสำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในระยะยาว ส่วนลูกค้าแบบ Spot ก็ได้เร่งเจรจาขอปรับราคาแล้ว ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยต้นทุนน้ำมันคิดเป็น 40% ของค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (Operating Expenses) ของกลุ่มขนส่ง ขณะที่กลุ่มขนส่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 17% ของรายได้รวมเท่านั้น

ด้านธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น ปัจจุบันได้เริ่มเปิดให้บริการคลังสินค้าใหม่ "PACM Cold Storage" ที่ JWD ร่วมลงทุนกับลูกค้า ซึ่งมีความต้องการเข้ามาใช้อย่างมาก คาดว่าจะเต็ม Capacity ได้ภายใน 3 เดือนนี้ และน่าจะสร้างรายได้และกำไรเข้ามาอย่างรวดเร็ว ขณที่บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างคลังสินค้าห้องเย็นแห่งใหม่ที่สระบุรี (Saraburi Cold Storage) ซึ่ง JWD ลงทุน 100% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนต.ค.นี้ แต่ปัจจุบันได้มีการ Pre-sell ให้กับลูกค้าบ้างแล้ว

อีกทั้งการร่วมลงทุนกับ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ในการสร้างคลังสินค้าห้องเย็น "PACT Cold Storage" ทำให้บริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้าสำคัญไว้ในระยะยาว คาดว่าเมื่อมีการก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 1/66 ก็จะมีสินค้าจากกลุ่ม TU ทยอยเข้ามาใช้บริการ

ส่วนธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า (Self-Storage) และบริการจัดเก็บงานศิลปะครบวงจร (Art Space) ก็มีการขยายสาขาเพิ่มเติมที่สาขาลาดพร้าว หรือ JWD Store it Ladprao คาดก่อสร้างเสร็จในเดือนเม.ย.นี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขาให้บริการทั้งสิ้น 7 สาขา ซึ่งถือว่ามีสาขาและพื้นที่โดยรวมมากที่สุดในประเทศไทย รวมถึงยังต่อยอดการให้บริการไปในส่วนอื่นๆ ด้วย

และธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย และธุรกิจให้บริการอาหารที่เข้าลงทุนใน CSLF ประเทศไต้หวัน ก็มีการเติบโตดีขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นในบริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (ESCO) เพิ่มเติมอีก 5% จากเดิมถือหุ้นอยู่ที่ 15% คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในครึ่งปีแรกของปีนี้ และจะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเข้ามาทันที ส่งผลให้กำไรปีนี้เติบโตมากขึ้น

นายชวนินท์ กล่าวว่า บริษัทยังวางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 1.5-1.8 พันล้านบาท รองรับการขยายคลังสินค้าห้องเย็น 400-500 ล้านบาท, การซื้อหุ้นเพิ่มเติมใน ESCO จำนวน 165 ล้านบาท, การลงทุนที่ร่วมกับกลุ่ม Origin Property ในการขยาย Alpha Industrial Solutions ในปีนี้ คาดใช้เงินราว 500 ล้านบาท, การปรับปรุงราว 200-300 ล้านบาท และการซื้อกิจการ (M&A) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อรองรับการเติบโต
#2817
พาณิชย์ เร่งเสริมศักยภาพธุรกิจโลจิสติกส์ หนุน SME ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การทำธุรกิจในปัจจุบัน ไม่เพียงแค่มีแผนการตลาดดี หรือมีทีมขายที่เก่ง แต่ยังรวมถึงการใช้ข้อมูลทางธุรกิจมาวิเคราะห์ เชื่อมโยงข้อมูล และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ โดยปัจจุบันธุรกิจได้ใช้ Data Analytics เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาช่วยด้านกลยุทธ์การตลาด กลยุทธ์การบริหารองค์กร การวางแผนธุรกิจ การดูแลลูกค้า เพราะหากธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูล หาความสัมพันธ์ของข้อมูลและความต้องการของคู่ค้า-ลูกค้า นำมาใช้ประโยชน์จะทำให้ธุรกิจนั้นได้เปรียบคู่แข่งทันที

ดังนั้น ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย จึงต้องปรับตัวและเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัยสอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลง มีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงข้อมูลสารสนเทศเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ และบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ การใช้ Data Analytics จึงถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการนำองค์กรสู่ความเป็นองค์กรแห่งอนาคต เนื่องจากการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาใช้ทำการตลาดยุคดิจิทัล (Digital Marketing) ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญลำดับต้นๆ ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ เพื่อรองรับธุรกิจยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้จัดงานสัมมนาหลักสูตร เพิ่มศักยภาพโลจิสติกส์ไทยด้วย Data Analytic โดยใช้ MS Power BI ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 9-10 มี.ค. 65 โดยผู้เข้าร่วมสัมมนา จะได้รับความรู้เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ยุคดิจิทัล การประยุกต์ใช้โปรแกรม BI (Business Intelligence) ด้านการเงินและการบัญชี ด้านการขาย ด้านงานบุคคล และด้านการบริหารทรัพย์สินในองค์กร เป็นต้น

"ธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้นั้น นอกจากจะมีการวางแผนที่ดีแล้ว ผู้ประกอบการต้องมีความตื่นตัว มีไหวพริบพร้อมแก้ปัญหา และรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ ที่สำคัญคือการนำ "ข้อมูล" ที่มีอยู่มาใช้ในเชิงวิเคราะห์ เพื่อวางแผนในการพัฒนาองค์กร ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับลูกค้า และหน่วยงานภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว เสริมประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น" นายทศพล กล่าว
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.พ. 65) มีนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 31,243 ราย นับเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ ที่จะได้รับการพัฒนาธุรกิจของตนเองได้อย่างถูกจุด และตรงตามความต้องการของตลาดยุคดิจิทัล
#2818
ภูมิพัฒน์ เจียมวิจิตรกุล เข้าซื้อหุ้น THL จำนวน 13.0482%
 
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของบมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) โดย นายภูมิพัฒน์ เจียมวิจิตรกุล ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 13.0482% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 13.0482% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

บวรรัฐ วนดุรงค์วรรณ ซื้อหุ้น VIH จำนวน 0.9452% รวมถือ 15.892%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) โดย นายบวรรัฐ วนดุรงค์วรรณ ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 0.9452% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 15.892% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดเช้าบวก 182.78 จุด จากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดเช้าบวกในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นราคาถูกหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี ตลาดปรับตัวขึ้นอย่างจำกัดเช้านี้ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าวันนี้ที่ระดับ 24,973.73 จุด เพิ่มขึ้น 182.78 จุด หรือ +0.74%

หุ้นบวกเช้านี้นำโดยกลุ่มขนส่งทางอากาศ, กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง และกลุ่มเหมืองแร่
#2819

"เซรั่ม" สินค้าเพื่อความสวยที่ผู้คนจำนวนมากจำเป็นมาก เนื่องจากว่ามีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวลึกล้ำมากกว่าการทาครีมทั่วๆไป ทั้งยังผู้หญิงและก็เพศชายก็สามารถใช้เซรั่มเป็นตัวช่วยเลี้ยงดูผิวพรรณได้ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากตอนนี้มีหลายสูตรให้เลือกใช้ ตอบปัญหาทุกปัญหาผิว แต่การจะใช้ ออร่าบลู เซรั่มให้ได้ผลที่สุด ก็ต้องทราบการใช้ที่ถูก



รู้จัก "เซรั่ม" (Serum) เป็นยังไง จำเป็นต้องเพียงใดในการบำรุงผิว?
ออร่าบลู เซรั่มหมายถึงสินค้าเพื่อดูแลผิวพรรณที่มีขนาดโมเลกุลเล็กมาก เนื้อสัมผัสจะน้อยลง มีลักษณะเป็นของเหลวใสๆอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีสีขุ่นๆรวมถึงมีสีสันต่างๆตามส่วนผสมและก็สารสกัดที่ใช้ เซรั่มมีลักษณะเด่นที่ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สำคัญ (Active Ingredients) ซึ่งมีคุณภาพช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวได้ลึกล้ำ ด้วยการใช้ในปริมาณเพียงแต่ 2-3 หยดเพียงแค่นั้น



เดี๋ยวนี้ มีการผลิตภัณฑ์ ออร่าบลู เซรั่มผิวออกมานานาประการสูตร โดยเฉพาะเซรั่มบำรุงผิวหน้า เพื่อแต่ละคนเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง ช่วยไขปัญหาได้ถูกจุดเพิ่มมากขึ้น ดังเช่น ออร่าบลู เซรั่มเพื่อผิวกระจ่างขาวใส, ลดลางเลือนจุดด่างดำ, ลดเลือนริ้วรอย, กระชับรูขุมขน ฯลฯ

คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเซรั่ม คือ การซึมลึกลงไปยังผิวชั้นใน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผิวอย่างอ่อนโยน และก็ป้องกันผิวให้มีความแข็งแรงมากขึ้น เว้นแต่ใช้ออร่าบลู เซรั่มบำรุงผิวหน้าทั่วๆไปแล้ว วิธีใช้เซรั่มสำหรับผู้ชาย ยังช่วยลดอาการระคายเคืองของผิวจากการโกนหนวดได้อีกด้วย
"ออร่าบลู เซรั่ม" แตกต่างจาก "ครีม" อย่างไร?
แม้ว่าทั้งยังเซรั่มรวมทั้งครีมจะมีบทบาทในการช่วยดูแลบำรุงผิวพรรณ แต่ว่าก็มีคุณลักษณะที่แตกต่าง ซึ่งถ้าเกิดทราบไว้ก็จะช่วยให้เราเรียงลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงรักษาผิวพรรณหน้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อการดูแลรักษาและบำรุงผิวพรรณมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง



เซรั่ม : เป็นสารบำรุงที่มีความเข้มข้น ซึมไปสู่ผิวเร็ว บางเบา ใช้ในจำนวนน้อย จัดการกับปัญหารวมทั้งฟื้นฟูผิวได้ตรงจุด ย้ำการบำรุงผิวจากภายใน แทรกซึมผ่านผิวได้ลึกล้ำ ผลิตภัณฑ์ออร่าบลู เซรั่มจะแพงค่อนข้างสูง

ครีม : มีเนื้อสัมผัสที่หนักกว่าเซรั่ม แก้ไขปัญหาผิวโดยรวม บำรุงผิวชั้นนอก ช่วยทำให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้ง บางทีอาจจำเป็นต้องใช้จำนวนเยอะแยะสำหรับเพื่อการทำบำรุงผิวหน้า แต่ครีมโดยมากจะแพงไม่แพงเท่ากับเซรั่ม

การใช้ ออร่าบลู เซรั่ม ควรจะใช้ตอนไหนให้ได้คุณภาพที่สุด (สำหรับผู้หญิงและเพศชาย)
สำหรับผู้ที่อยากหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกนี้ แต่ก็สงสัยว่าเซรั่มใช้ยังไง ใช้ตอนไหนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ชายใช้ได้หรือเปล่า? คำตอบเป็น ไม่ว่าจะเพศหญิง เพศชาย หรือเพศไหน ก็สามารถใช้เซรั่มผิวเพื่อดูแลผิวพรรณได้ สำหรับแนวทางใช้นั้นง่ายมาก เพียงรู้ลำดับขั้นตอนการใช้ ก็สามารถบำรุงผิวหน้าได้แล้ว ดังนี้

1. ทำความสะอาดหน้าเพื่อเตรียมผิว
เรียกว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดที่ไม่สมควรละเลย ข้างหลังอาบน้ำควรจะล้างหน้าล้างตาเพื่อจัดการสิ่งสกปรกติดค้าง ต่อจากนั้นเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน เพื่อเปิดรูขุมขน ไม่ถูแรงจนถึงเกินความจำเป็น ซึ่งในขั้นตอนที่ผิวหน้ากำลังเปียกชื้นเป็น การเตรียมผิวที่เหมาะสมที่สุด ในขั้นตอนนี้สามารถใช้เอสเซนส์บำรุงเพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ด้วย

2. เริ่มทาเซรั่มบนผิวหน้า
การใช้เซรั่มในขณะที่ผิวกำลังชุ่มชื้น ออร่าบลูจะช่วยทำให้สารบำรุงซึมลึกลงสู่ชั้นในของผิวได้ดีกว่าในตอนที่ผิวหน้าแห้ง โดยบีบเซรั่มจากหลอด ให้มีขนาดเท่าเมล็ดถั่ว เพียงแต่ 2-3 หยด ต่อจากนั้นใช้ปลายนิ้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า เริ่มจากจุดกลางหน้าผาก จมูก ปลายคาง และก็แก้มทั้งยัง 2 ข้าง นวดเบาๆให้เนื้อเซรั่มกระจัดกระจายทั่วใบหน้าและคอ

3. ทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือสรับประทานแคร์อื่นๆ
ภายหลังทาเซรั่มแล้ว ควรจะคอยสัก 5 นาที เพื่อสารบำรุงซึมลงสู่ผิวชั้นใน และก็หลังจากนั้นจึงค่อยทามอยส์พบไรเซอร์ ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยอาจลำดับงวยงง ให้จดจำไว้เสมอว่า "ลงเซรั่มก่อนมอยส์พบไรเซอร์" เนื่องจากออร่าบลู เซรั่มมีความบางเบาที่สุด ส่วนมอยส์พบไรเซอร์มีความเข้มข้นกว่า จะช่วยล็อกความชุ่มชื้นของชั้นผิวไว้ได้ ไหมว่าจะใช้ครีมบำรุงแล้วก็สรับประทานแคร์จำพวกไหน ก็ควรจะทาตัวที่มีเนื้อครีมหนักเป็นลำดับข้างหลังๆเพื่อให้การบำรุงมีประสิทธิภาพสูงสุด



การเลือกเซรั่มที่ดี ควรที่จะทำการเลือกใช้ของสินค้าที่น่าไว้ใจ เพื่อให้ปลอดภัยจากสารปรอทรวมทั้งส่วนประกอบที่เกิดอันตราย คนไหนกันแน่ที่แพ้ง่ายก็ควรหันมาใช้ออร่าบลู เซรั่มสูตรสุภาพ มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไร้สีรวมทั้งกลิ่น โดยจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับภาวะปัญหาผิวของตนเอง ที่สำคัญอย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายรวมทั้งร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด ออกกำลังกาย และพักให้เพียงพอ

"ออร่าบลูจะทำให้คุณออร่า เพราะผิวสวย ไม่ใช่แค่กระจ่างใส"

สนใจสมัครตัวแทนจำหน่าย

www.aurabluecenter.com

Line id : @aurayou (มี @ ด้านหน้า)
#2820
สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนกุมภาพันธ์ 2565

ราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากกรณีพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลให้ผู้ลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินโลกโดยเห็นสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย อีกทั้งพบว่ามีเงินลงทุนจำนวนมากเคลื่อนย้ายจากตลาดทุนในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากกรณีพิพาท ได้แก่ ประเทศในทวีปยุโรปไปยังกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าเช่นกลุ่มประเทศ ASEAN

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยภายในประเทศที่มีความเชื่อมโยงไปยังรัสเซียและยูเครนค่อนข้างน้อย และในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัด และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทจดทะเบียนโดยเฉพาะในภาคบริการและการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมืองในอนาคต ทำให้เห็น Fund Flow จากผู้ลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 61,336 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุดในรอบ 16 ปี ทำให้ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 SET Index ปิดที่ 1,685.18 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.2% จากเดือนก่อนหน้า

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 SET Index ปิดที่ 1,685.18 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.2% จากเดือนก่อนหน้าซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN
SET Index ในสองเดือนแรกปี 2565 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มการเงิน
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 99,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.0% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คิดเป็น 42.80% ของมูลค่าการซื้อขายรวม ซึ่งเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนที่สามโดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 61,336 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุดในรอบ 16 ปี
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 1 บริษัท คือ บมจ. พีซแอนด์ลีฟวิ่ง (PEACE) และใน mai 1 บริษัท คือ บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น (PTC)
Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ระดับ 18.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 13.0 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า
อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ระดับ 2.64% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.36%
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 614,587 สัญญา เพิ่มขึ้น 8.5% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures