• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - deam205

#10968


วันนี้ (2 ส.ค.) ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ที่สั่งการให้หน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ต่อระบบนิเวศทางทะเลและพี่น้องประชาชนในพื้นที่มีความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง

ดร.ยุทธพล กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมของประเทศในปัจจุบันยังคงเหลือพื้นที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอีกประมาณ 87 กิโลเมตร จากความยาวชายฝั่งทั้งสิ้น 3,151 กิโลเมตร ซึ่งเรื่องนี้ ตนได้หารือกับอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตลอดจนเป็นหน่วยงานที่ต้องประสานกับหน่วยงานภายนอก รวมถึง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบูรณาการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามแนวทางและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

ดร.ยุทธพล กล่าวต่อว่า สำหรับแนวปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นที่ได้ดำเนินการในปีงบประมาณ 2564 มีระยะทางการปักทั้งสิ้นจำนวน 11,150 เมตร ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตราด 3,000 เมตร จังหวัดจันทบุรี 1,600 เมตร จังหวัดสมุทรสงคราม 800 เมตร จังหวัดเพชรบุรี 1,750 เมตร และจังหวัดนครศรีธรรมราช 4,000 เมตร ซึ่งในปัจจุบันดำเนินการปักแล้วเสร็จประมาณ 9,500 เมตร หากไม่มีมรสุม หรือพายุคลื่นลมที่รุนแรงเกิดขึ้นสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นและพร้อมส่งมอบภายในเดือน ส.ค.นี้แน่นอน สำหรับการดำเนินการดังกล่าวใช้งบประมาณจำนวน 42,300,000 บาท โดยประโยชน์จากแนวปักไม้ไผ่ดังกล่าว นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่หาดโคลนแล้ว ยังมีส่วนช่วยเร่งการตกตะกอนและเพิ่มพื้นที่หาดเลนหลังแนวไม้ไผ่ อันจะส่งผลให้พื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ดร.ยุทธพล กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนเป็นลูกหลานชาวเพชรบุรี ที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจปัญหาในพื้นที่เป็นอย่างดี จังหวัดเพชรบุรี นอกจากความโดดเด่นเรื่องประเพณีและธรรมชาติที่สวยงามหลากหลายแล้ว ในเขตอำเภอบ้านแหลมยังมีพื้นที่ป่าชายเลนและหาดโคลนที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นแหล่งประกอบอาชีพประมงที่สำคัญได้แก่ อาชีพการจับหอยทะเลทั้งหอยแครง หอยเสียบ หอยลาย อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่หาดโคลนดังกล่าวก็ประสบปัญหาเรื่องการกัดเซาะชายฝั่งเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 60-63 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นเป็นระยะทาง 5,010 เมตร คงเหลือพื้นที่ประสบปัญหากัดเซาะพื้นที่หาดโคลนในพื้นที่ ตำบลบางแก้ว ซึ่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในปี 64 เป็นระยะทางไม้ไผ่ 1,750 เมตร

"ในขณะนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นในพื้นที่ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้วและพร้อมส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ เพื่อรักษาระบบนิเวศชายฝั่งและป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และผมขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวจังหวัดเพชรบุรีช่วยกันดูแลรักษาแนวไม้ไผ่ดังกล่าวเพื่อใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าด้วย" ดร.ยุทธพล กล่าว

ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานที่เข้ามาดำเนินการลักษณะต่างคนต่างทำ มีความซ้ำซ้อน แก้ปัญหาไม่ตรงจุด แก้จุดหนึ่งส่งผลกระทบอีกจุดหนึ่ง ดังนั้น ในช่วงที่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งอธิบดี โดยในปีที่ผ่านมา ได้มีแนวคิดในการกำหนดหลักเกณฑ์ประกอบการจัดทำแผนงานโครงการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งขึ้น เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมเจ้าท่า กรมโยธาธิการและผังเมือง จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำไปใช้ประกอบการจัดทำแผนงานโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง รวมทั้งสำนักงบประมาณได้นำไปใช้ในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้มีความเหมาะสมแต่ละพื้นที่

"ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในปีงบประมาณ65นี้ ทาง ทช.ได้นำร่องในการใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยใช้กลไกของคณะทำงานกลั่นกรองโครงการฯ ซึ่งจัดตั้งภายใต้คณะอนุกรรมการบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง พิจารณาโครงการฯที่หน่วยงานเสนอเข้ามาทั้งหมด 64 โครงการ โดยมีโครงการที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ข้างต้นเพียง 17 โครงการเพื่อเสนอต่อสำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรค์งบประมาณต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีตได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ไม่เกิดความซ้ำซ้อนอย่างแน่นอน"

อธิบดีกรม ทช. กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของ ทช.ได้ดำเนินการ ตามแนวทางของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดี ทช.ที่ยึดมาตรการสีเขียว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 16 ม.ค.61 โดยการนำวัสดุทางธรรมชาติมาใช้ในการแก้ไขปัญหาโดยวิธีปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 50 ถึงปี 64ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี ระนอง และกระบี่ รวมระยะทางไม้ไผ่ทั้งสิ้น 94.66 กิโลเมตร ซึ่งผลที่ได้จากการดำเนินการดังกล่าวสามารถเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนหลังแนวไม้ไผ่ได้ไม่ต่ำกว่า 450ไร่ โดยป่าชายเลนเหล่านี้จะกลายเป็นปราการทางธรรมชาติในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งนอกจากนี้ประชาชนยังได้ใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตจากพืชและสัตว์ที่เกิดบริเวณป่าชายเลน สามารถสร้างอาชีพและรายได้อีกด้วย
#10969


เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง การจัดโครงสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๖) ความว่า 

ตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปต่อเนื่องเป็นลำดับ โดยมีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๕/๒๕๖๓ เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่  ๓๙/๒๕๖๓ เรื่อง การจัดโครงสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๕) ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น

เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน และการดำเนินการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และข้อ ๔ (๓) ของคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ ๕/๖๕๖๓ เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้


๑. ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็น (๘) ของข้อ ๑ ของคำสังนายกรัฐมนตรี ที ๖/๒๕๖๓ เรื่อง การจัดโครงสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 ลงวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๙/๕๖๓ เรื่อง การจัดโครงสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๕) ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ส. ๒๕๖๓"(๔๘) ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสื่อสารในอินเทอร์เน็ต มีเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นหัวหน้าศูนย์"

๒. ให้หัวหน้าศูนย์และผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสื่อสารในอินเทอร์เน็ต เป็นผู้ปฏิบัติงานในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19
#10970
คิดจะ ถมดิน ขุดท่อ ทำถนน ขุดสระ ถางป่า เครียร์พื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#10971
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry"ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค""อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค""ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ"ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี
#10972
" BOOM COLLAGEN PLUS "  คอลลาเจน+วิตามินผิว 36 ชนิด



เติมความสดชื่น ผิวลื่นไปอีกก !!  หอม อร่อย สดชื่น ปังมาก

Boom Collagen+

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยดูแลสุขภาพผิว ผม เล็บ  ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง

ให้คุณดูดีจากภายในสู่นอก ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด



นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก คุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

 ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์ 



เสริมสร้างสุขภาพได้ง่ายๆ

- นอกจากช่วยให้ผิวสวยแล้ว ยังช่วยบำรุงข้อกระดูก ช่วยลดอาการเสื่อมของข้อต่อ

-เสริมสร้างคอลลาเจน เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ...ดื่มทุกวัน ดีทุกวัน...

ผิวบูมได้ทุกวัน ง่ายๆ

อย่างครบวงจร ให้คุณดูดีจากภายในสู่ภายนอก

ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด

นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก



Collagen คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

คอลลาเจนเป็นโปรตีนมีอยู่ในสัดส่วน 30 % ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย

โดยพบมากที่สุดที่ผิวหนัง

ด้วยคุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์



ผิวบูมได้ทุกวัน

เพื่อให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่พร้อม เปล่งประกาย

เพียงแค่ดื่ม BOOM วันละ 1-2 ซอง

ผิวของคุณก็จะค่อยๆดูดีขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Boom

ช่วยในการดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงจากภายใน

สู่ความสวยใสเปล่งประกาย สู่ผิวพรรณภายนอก

ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา

ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-5-0104

ราคา 590 บาท


สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ

Tel. 0846623662

Line id : teerapat999



รายละเอียดเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1232


#ปัญหาฝ้า #กระ #จุดด่างดำ #ผิวหมองคล้ำ #ดูดซึมง่ายทันที #พกพาสะดวก  #ขาวใส
#10973


ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรง ทำให้มีความกังวลว่าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน อาจจะต้องเลื่อนเปิดให้บริการจากวันที่ 2 ส.ค. 2564 ออกไปก่อนหรือไม่ ซึ่ง "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รีบยืนยันว่ารถไฟสายสีแดงปักหมุดเปิดให้บริการ (Soft Opening) วันที่ 2 ส.ค. 2564 แน่นอน...ไม่เลื่อน โดยตามกำหนดการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดผ่านระบบออนไลน์ จากตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยจะให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรีเป็นเวลา 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค. 2564)

สำหรับรถไฟสายสีแดงถือเป็นตำนานโครงการรถไฟฟ้าที่ใช้ระยะเวลาก่อสร้างยาวนานมากที่สุดเส้นทางหนึ่ง และเป็นรถไฟฟ้าสายที่ประชาชนคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลจับตา และรอคอยสายหนึ่ง

โดยช่วงบางซื่อ-รังสิต หากนับจากวันที่เริ่มต้นสัญญาก่อสร้างงานโยธาเมื่อ 10 ก.พ. 2556 จนถึง 2 ส.ค. 2564 ที่รถไฟสายสีแดงขบวนแรกจะเปิดหวูดให้ประชาชนได้ทดลองนั่งฟรี ใช้ระยะเวลากว่า 8 ปี โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาโครงการมีปัญหาอุปสรรคมากมาย จนทำให้ต้องมีการขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง และปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างมาแล้ว 5 ครั้ง จากกรอบเริ่มต้น 52,220 ล้านบาท เป็น 93,950 ล้านบาท ซึ่งยังเหลือครั้งล่าสุดที่จะเสนอขอปรับอีก 10,345 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าก่อสร้างเพิ่มเติม (Variation Order : VO) โดยจะทำให้กรอบวงเงินโครงการสายสีแดงรวมช่วงบางซื่อ-รังสิต เพิ่มเป็น 104,295 ล้านบาท


"ศักดิ์สยาม" ปักหมุดเปิดให้บริการ จี้ รฟท.เร่งแก้ปัญหาติดขัดทุกมิติ

ก่อนหน้านี้ รฟท.กำหนดเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดงอย่างไม่เป็นทางการในเดือน ม.ค. 2564 "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ประกาศนโยบายปักหมุดเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดงภายในปี 2564 หลังจากตรวจเช็กการก่อสร้างงานโยธา 2 สัญญา และความก้าวหน้าสัญญา 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล วางไทม์ไลน์ ปิดจ็อบ และเมื่อรถไฟฟ้า 2 ขบวนแรกเดินทางมาถึง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2562 และเข้าประจำการ ณ โรงซ่อมบำรุงสถานีกลางบางซื่อ ในเดือนพ.ย. 2562 รฟท.เดินหน้าเข้าสู่โหมดการทดสอบระบบตามขั้นตอน

นอกจากนี้ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ยังได้มีการติดตามการดำเนินการในทุกๆ ด้านอย่างใกล้ชิด โดยตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อจำนวน 5 คณะ ประกอบด้วย

1. ด้านการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทยทั้งระบบ รวมทั้งการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง 2. ด้านสถานี 3. ด้านราคาค่าโดยสารและบัตรโดยสาร 4. ด้านการสื่อสารสาธารณะ 5. ด้านการกำหนดจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้า (Gateway/Hub)

นอกจากนี้ ยังมีคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และพื้นที่ช่วงสถานีกลางบางซื่อ และคณะอนุกรรมการด้านการพิจารณาดำเนินการขอพระราชทานชื่อโครงการ 2 สายทาง สายทางละ 3 ชื่อ ซึ่ง รฟท.ได้จัดทำหนังสือถึงสำนักงานราชบัณฑิตยสภาและกรมศิลปากรเพื่อพิจารณาชื่อที่จะขอพระราชทาน

โครงการสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต) เสนอ 3 ชื่อ ได้แก่ เฉลิมมหามงคล อาทรวัฒนวิถี และสวัสดิลีลาศ

โครงการสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) เสนอ 3 ชื่อ ได้แก่ ฉลองมหานคร สิทธิรังสีรัถยา และ ประพาสภิรมย์



ช่วงทดลองให้บริการฟรี วิ่งความถี่ 15-30 นาที

รถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. มี 10 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ, สถานีจตุจักร, สถานีวัดเสมียนนารี, สถานีบางเขน, สถานีทุ่งสองห้อง, สถานีหลักสี่, สถานีการเคหะ, สถานีดอนเมือง, สถานีหลักหก และสถานีรังสิต ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 25 นาที ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีบางซ่อน สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาที

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟท.โดยบริษัท รฟฟท. จำกัด ได้มีการทดลองระบบการเดินรถ มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุต่างๆ ตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยวิศวกรที่ปรึกษาอิสระ (Independent Certification Engineer : ICE) ของโครงการได้เข้าตรวจสอบและออกใบรับรองให้แล้ว พร้อมที่จะเปิดให้ประชาชนร่วมใช้บริการโดยไม่เก็บค่าโดยสารตามแผนงาน

ในช่วงทดลองตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.นี้จะกำหนดความถี่ในการให้บริการเวลาเร่งด่วน 15 นาที นอกเวลาเร่งด่วน 30 นาที วิ่งเฉลี่ย 78 เที่ยว/วัน ใช้รถประมาณ 12 ขบวน โดยสายบางซื่อ-รังสิตจะใช้รถแบบ 6 ตู้/ขบวน จำนวน 8 ขบวน สายบางซื่อ-ตลิ่งชันใช้รถแบบ 4 ตู้/ขบวน จำนวน 4 ขบวน

ตารางการเดินรถสายบางซื่อ-รังสิต เที่ยวแรกออกจากบางซื่อ เวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกออกจากรังสิต เวลา 06.00 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากรังสิต เวลา 19.30 น.

สายบางซื่อ-ตลิ่งชัน เที่ยวแรกออกจากบางซื่อ เวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกออกจากตลิ่งชัน เวลา 06.06 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากตลิ่งชัน เวลา 19.36 น.



ระบบฟีดเดอร์เชื่อมเข้าสถานียังไม่สมบูรณ์

สำหรับการเดินทางเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อและสถานีรายทางนั้น ต้องยอมรับว่าการจัดระบบฟีดเดอร์และโครงสร้างพื้นฐานยังไม่สมบูรณ์ 100% ซึ่งคาดว่าก่อนจะถึงกำหนดเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์เดือน พ.ย.จะมีความพร้อมมากขึ้น

โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถเมล์ 4 สาย ได้แก่ สาย 49 สาย 67 สาย 79 และ สาย 522 ปรับปรุงเส้นทางเดินรถให้เชื่อมเข้าสถานีสายสีแดง

ขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก่อสร้างทางเดินเชื่อมต่อกับบริเวณทางเดินชั้นใต้ดินของสถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 จุด คือ บริเวณทางเดินผู้โดยสารของสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ และทางเดินเชื่อมต่อบริเวณชั้นจำหน่ายบัตรโดยสารของสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ

"ขณะที่สถานีกลางบางซื่อนั้นมีลานจอดรถใต้ดินรองรับได้ถึง 1,600 คัน คาดว่าจะเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารในช่วงแรกที่คาดว่ายังมีไม่มากนัก"



เร่งปรับปรุงถนนเชื่อมเข้าสถานีรังสิต เกตเวย์ด้านเหนือ

สำหรับสถานีรังสิต ซึ่งเป็นเกตเวย์จุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการดำเนินการพัฒนาโครงข่ายจุดเชื่อมต่อผู้โดยสารเสร็จแล้ว คือ ปรับปรุงถนนหน้าสถานี (ฝั่งตะวันตก) รฟท.ดำเนินการ และการปรับปรุงทางเข้าสถานีจาก ทล.346 (ทิศทางจากรังสิต) วงเงิน 4 แสนบาท (กรมทางหลวง ดำเนินการ)

ส่วนที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมอีกคือ ก่อสร้างสะพานกลับรถด้านทิศใต้ วงเงินรวม 206 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 12 เดือน คาดแล้วเสร็จเดือน มี.ค. 2566, ปรับปรุงจุดกลับรถใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ทางเท้า และระบบระบายน้ำ (ทิศทางจากปทุมธานี) วงเงิน 4.6 ล้านบาท ดำเนินการช่วงปี 2565 โดยกรมทางหลวง (ทล.)

ในส่วนของการจ้างบริการเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี ประกอบด้วย 1. จ้างงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) และจราจร 2. จ้างบริการทำความสะอาดอาคารและบริเวณสถานี 3. งานบริหารจัดการงานอาคารและสถานที่บริเวณสถานี 4. จ้างบริการรักษาความปลอดภัยและทำความสะอาดภายในอาคารและพื้นที่โดยรอบของโรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีแดง (CT Depot) และทำความสะอาดขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง 5. จ้างติดตั้งระบบจัดการจราจรภายในบริเวณลานจอดรถสถานีกลางบางซื่อ และจัดเก็บค่าบริการจอดรถ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหาตามขั้นตอน

ด้านการจัดประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ อยู่ระหว่างจัดทำร่างประกาศเชิญชวนเพื่อคัดเลือกเอกชนดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์และป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 สถานี คาดว่าจะเสนอบอร์ด รฟท.พิจารณาอนุมัติร่างทีโออาร์ในเดือน ส.ค.นี้ คาดว่าจะได้เซ็นสัญญาและเริ่มดำเนินการในเดือน พ.ย. 64 โดยจะแบ่งเป็นเฟสเพื่อเปิดให้บริการได้รวดเร็วขึ้น

โดยมี 4 ฉบับ คือ 1. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ

2. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการเช่าสิทธิติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ

3. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี

4. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการเช่าสิทธิติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี



โจทย์สุดหิน...ห้ามขาดทุน

การให้บริการโครงการรถไฟฟ้ารายได้มาจาก 2 ส่วน คือ จากค่าโดยสาร และจากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งรายได้จากค่าโดยสารจะมากหรือน้อยขึ้นกับปริมาณผู้โดยสาร แต่... สถานการณ์ในปัจจุบัน ปริมาณการเดินทางลดลงไปอย่างมาก โดยล่าสุดพบว่าผู้โดยสารระบบรางทั้งระบบเหลือเพียง 98,453 คน/วันเท่านั้น หรือลดลงถึง 91.82% เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณผู้โดยสารช่วงปี 2562 ก่อนที่จะเกิดโรคโควิด-19 ที่ระบบรางมีผู้โดยสารรวมถึงกว่า 1.2 ล้านคน/วัน

ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารและอัตราค่าโดยสารจะผันแปรโดยตรงกับรายได้ ซึ่งรถไฟสายสีแดงมี 13 สถานี ระยะทาง 41.56 กม. กำหนดอัตราเริ่มต้นที่ 12 บาท สูงสุด 42 เฉลี่ย 1.01 บาท/กม.

ทั้งนี้ ตามผลการศึกษาเดิม คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการเฉลี่ยที่ 86,620 คน/วัน โดยคาดว่าจะมีรายได้ในปีแรกรวมประมาณ 1,153 ล้านบาท โดยมาจากค่าโดยสารราว 673 ล้านบาท และมีรายได้เชิงพาณิชย์ 480 ล้านบาท

ส่วนรายจ่ายรวมอยู่ที่ 1,267 ล้านบาท หลักๆ จะเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรประมาณ 376.6 ล้านบาท ค่าไฟฟ้าประมาณ 327 ล้านบาท ค่าประปา 7.5 ล้านบา ค่ารักษาความปลอดภัยและรักษาความสะอาดอีกราว 284.1 ล้านบาท ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา 90.3 ล้านบาท

ภายใต้สมมติฐานรายรับ รายจ่ายนี้ เท่ากับในปีแรกสายสีแดงจะยังขาดทุนประมาณ 113 ล้านบาท โดยยังไม่หักค่าดอกเบี้ย เงินกู้งานไฟฟ้าและเครื่องกลอีกกว่า 317 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีผลขาดทุนสุทธิ 431 ล้านบาท

สำหรับประมาณการผู้โดยสารนั้น ในข้อเท็จจริงมีการปรับลดลงมากกว่าครึ่ง ประกอบกับในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รุนแรงหนักหน่วงเช่นนี้ คงไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารได้เลย ...คงได้แต่รอลุ้นว่าในเดือน พ.ย. 2564 ที่จะมีการเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ และเริ่มเก็บค่าโดยสารสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลงแล้วหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์กลับคืนปกติ รฟท.คาดหวังว่าจะสามารถใช้โปรโมชันการปรับลดอัตราค่าโดยสาร การจัดทำตั๋วเดือน เข้ามาใช้เพื่อจูงใจให้เพิ่มผู้ใช้บริการรถไฟสายสีแดง

หากมีการเปิดประเทศ การเดินทางกลับสู่ปกติ สนามบินดอนเมืองเปิด สายการบินให้บริการนักท่องเที่ยวกลับมา คาดหมายว่าสนามบินดอนเมืองจะป้อนผู้โดยสารเข้าสายสีแดงอย่างน้อย 10,000 คน/วัน ขณะที่ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ทุบโต๊ะห้ามสีแดงขาดทุน...โจทย์สุดหิน! ที่ รฟท.ต้องหาคำตอบให้เจอ...

https:// m.mgronline.com/business/detail/9640000075315
#10974
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#10977
" BOOM COLLAGEN PLUS "  คอลลาเจน+วิตามินผิว 36 ชนิด



เติมความสดชื่น ผิวลื่นไปอีกก !!  หอม อร่อย สดชื่น ปังมาก

Boom Collagen+

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยดูแลสุขภาพผิว ผม เล็บ  ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง

ให้คุณดูดีจากภายในสู่นอก ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด



นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก คุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

 ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์ 



เสริมสร้างสุขภาพได้ง่ายๆ

- นอกจากช่วยให้ผิวสวยแล้ว ยังช่วยบำรุงข้อกระดูก ช่วยลดอาการเสื่อมของข้อต่อ

-เสริมสร้างคอลลาเจน เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ...ดื่มทุกวัน ดีทุกวัน...

ผิวบูมได้ทุกวัน ง่ายๆ

อย่างครบวงจร ให้คุณดูดีจากภายในสู่ภายนอก

ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด

นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก



Collagen คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

คอลลาเจนเป็นโปรตีนมีอยู่ในสัดส่วน 30 % ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย

โดยพบมากที่สุดที่ผิวหนัง

ด้วยคุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์



ผิวบูมได้ทุกวัน

เพื่อให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่พร้อม เปล่งประกาย

เพียงแค่ดื่ม BOOM วันละ 1-2 ซอง

ผิวของคุณก็จะค่อยๆดูดีขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Boom

ช่วยในการดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงจากภายใน

สู่ความสวยใสเปล่งประกาย สู่ผิวพรรณภายนอก

ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา

ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-5-0104

ราคา 590 บาท


สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ

Tel. 0846623662

Line id : teerapat999



รายละเอียดเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1232


#ปัญหาฝ้า #กระ #จุดด่างดำ #ผิวหมองคล้ำ #ดูดซึมง่ายทันที #พกพาสะดวก  #ขาวใส
#10978
คิดจะ ถมดิน ขุดท่อ ทำถนน ขุดสระ ถางป่า เครียร์พื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#10979



การประชุมคณะกรรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีมติเห็นชอบปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปี 2564 – 2566 เพื่อรองรับการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติระยะที่ 2 โดยกำหนดโควตาให้นำเข้าในปี 2564 จำนวน 4.8 แสนตันต่อปี ส่วนปี 2565 นำเข้าได้ 1.74 ล้านตันต่อปี และปี 2566 นำเข้าได้ 3.02 ล้านตันต่อปี

เมื่อภาคนโยบายกำหนดปริมาณการนำเข้าที่ชัดเจนตามข้อสั่งการของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมเชื้อแพลิงธรรมชาติ และบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT พิจารณากำหนดปริมาณการนำเข้า LNG ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และให้ กกพ. บริหารความสามารถของ LNG Terminal และทบทวนความเหมาะสมของ TPA Regime และ TPA Code 

ทั้งนี้ ให้ กกพ. เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการพิจารณาการดำเนินงานให้เป็นไปตามรูปแบบการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า การนำเข้า LNG ของผู้ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper)รายใหม่ จะดำเนินการได้ทันภายในไตรมาส 3 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่นั้น ยังขึ้นอยู่กับความพร้อมในหลายเรื่อง เช่น การประชุม กบง. และกพช.นัดถัดไป ซึ่งก็ต้องลุ้นว่า จะเกิดขึ้นในไตรมาส 3นี้ หรือไม่ จากเดิมกำหนดจะประชุมในไตรมาส 2 รวมถึง แผนบริหารจัดการนำเข้า LNG ของ กกพ. หลัง กบง. อนุมัติโควตาช่วง 3 ปีแล้ว จะสามารถจัดทำวิธีการปฏิบัติได้เสร็จทันหรือไม่

หลังได้รับรายงานในเบื้องต้นว่า ขณะนี้ กกพ. ประสานขอตารางการจอง LNG Terminal ที่ว่างอยู่ ของ ปตท. เพื่อจัดส่งให้ Shipper พิจารณาเลือกคิวที่ต้องการโดยเร็วที่สุด รวมถึง กกพ.จะส่งเอกสารให้ Shipper แต่ละราย ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการใช้สิทธิ์โควตานำเข้าในปริมาณเท่าไหร่ และห้ามมีเงื่อนไขโดยเด็ดขาด ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้เสร็จภายในกลางเดือน ส.ค.นี้ เพื่อจะได้มีเวลานำเข้า LNG ได้ทันโควตาในปีนี้


"เท่าที่ทราบ บอร์ด กกพ. เมื่อเร็วๆนี้ ยังไม่อนุมัติให้ผู้ Shipper รายใด นำเข้า LNG ตามโควตา 4.8 แสนตันในปีนี้ เพราะ Shipper บางรายตั้งเงื่อนไข เช่น จะนำเข้า LNG หากราคาอยู่ในระดับที่ต้องการ หรือจะนำเข้า LNG ก็ต่อเมื่อจอง LNG Terminal จาก ปตท. ได้ก่อน ทำให้ กกพ.ต้องเข้มหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อป้องกันกรณี Shipper ไม่นำเข้า LNG ตามจริง ซึ่งอาจทำให้ประเทศประโยชน์ได้"


แหล่งข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ระบุว่า สำนักงาน กกพ. อยู่ระหว่างเตรียมส่งเอกสารถึง Shipper ทั้ง 7 ราย อีกครั้ง เพื่อให้ยืนยันปริมาณความประสงค์ที่จะนำเข้า LNG และจัดส่งตารางจอง LNG Terminal พร้อมใบเสร็จชำระค่าจองใช้ LNG Terminal ที่ชัดเจนมายังกกพ. ก่อนที่จะอนุมัติสิทธินำเข้าในปีนี้

ส่วนปี 2565 ที่มีโควตานำเข้า อยู่ที่ 1.74 ล้านตัน ทาง กกพ. เตรียมพิจารณาออกบทลงโทษหาก Shipper ยื่นขอใช้สิทธิแต่ไม่นำเข้ามาจริง เช่น หาก Shipper ไม่สามารถจัดหา LNG มาส่งให้กับลูกค้าโรงไฟฟ้าได้ ขั้นแรกต้องไปยืม LNG จาก Shipper รายอื่น แต่หากยังไม่สามารถยืมได้ และจะหันมาซื้อก๊าซฯ จาก ปตท. ในระบบ จะต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่ม เป็นต้น โดยการกำหนดบทลงโทษนี้ จะเสนอ กพช. พิจารณาอนุมัติใช้ในการประชุมนัดถัดไป

สำหรับ Shipper ทั้ง 7 ราย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.),บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน),บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด,บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด,บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป, บริษัท PTT Global LNG Company Limited หรือ PTTGL และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG


นางราณี โฆษิตวานิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยืนยันว่า กฟผ.มีความพร้อมที่จะนำเข้า LNG ในปีนี้ ตามปริมาณที่เคยแจ้งต่อ กกพ.ไปแล้ว อยู่ที่ ประมาณ 3 แสนตัน ซึ่งในส่วนของการจอง LNG Terminal นั้น ในส่วนของ กฟผ.ได้ดำเนินการจองคลังก๊าซฯภายใต้โควตา 1.5 ล้านตันไปแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้นในส่วนของประเด็นนี้สำหรับกฟผ.ไม่น่าจะมีปัญหา

"กฟผ.เราพร้อมมาก หาก กกพ.อนุมัติปริมาณนำเข้า และ กบง.เห็นชอบแล้ว ทาง กฟผ.ก็พร้อมออก TOR เปิดประมูลจัดหาฯ LNG ทันที ซึ่งปริมาณนำเข้า 3 แสนตัน น่าจะมีมูลค่าราว 4-5 พันล้านบาท"

อย่างไรก็ตาม ตามแผนเดิมนั้น กฟผ.จะเริ่มทยอยนำเข้า LNG ตั้งแต่เดือน ส.ค. ถึงเดือน ต.ค.ปีนี้ แต่ขณะนี้กระบวนการอนุมัติจากภาครัฐยังไม่เกิดขึ้น ฉะนั้น คาดว่า เดือน ส.ค.นี้ คงนำเข้า LNG ไม่ทัน และน่าจะเริ่มนำเข้าได้ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ เป็นต้นไป ก็อาจส่งผลให้ปริมาณนำเข้า LNG ปีนี้ ลดลงจากแผนบ้าง ส่วนปีหน้าก็ยังคาดหมายที่จะนำเข้าในปริมาณ 1.2-1.3 ล้านตันต่อปี

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951931
#10980
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry"ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค""อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค""ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ"ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี