• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chigaru

#9991
ลงทองเรียกจิต เป็นการเรียกจิตให้อีกฝ่ายคิดถึง

ด้วยการเสกแผ่นทองคำเปลวแท้  100 %  ด้วยคาถาเรียกจิต  เพื่อเรียกจิตบุคคลที่ต้องการมาไว้ในแผ่นทอง  จากนั้นนำแผ่นทองที่ผ่านการเสกแล้ว  ไปติดตรงตำแหน่งกึ่งกลางหน้าผาก  โดยใช้สีผึ้งเรียกจิตทาก่อน  แล้วท่องคาถาเรียกจิตจนบุคคลที่ต้องการ  คิดถึงเรามากๆ 

ค่าครู 99  บาท
สนใจติดต่อ
โทร 0846623662
lide id : teerapat999

ลาซาด้า  คลิก
https://pdp.lazada.co.th/products/i2641064456.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.7dfb4edfDYXNoK

#9992


กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รับโควิดกระทบซัพพลายเชนสะดุด หวั่น 6 เดือนหลังสถานการณ์ในไทยไม่ดีขึ้น อาจกระทบซัพพลายเชนทั้งโลก เสี่ยงถูกโยกกำลังการผลิตไปประเทศอื่น งัดทุกมาตรการดูแล "พนักงาน" ไม่ให้เกิดความเสี่ยง เผยพร้อมจัดซื้อวัคซีนให้กลุ่มพนักงานเพิ่ม หลังอัตราการฉีดยังครอบคลุมไม่มากพอ 

นายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ ประธานสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า สถานการณ์ภาพรวมในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ช่วงนี้ หากมองทั้งซัััพพลายเชนที่มีอยู่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ พบว่า "เริ่มสะดุด" ในไทยถูกผลกระทบจากโควิด ส่งผลให้บางบริษัทได้ปิดไปในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ มาตรการที่ถูกนำมาใช้ขณะนี้ ทุกบริษัทจะมุ่งดูแล "คน" ก่อน "ธุรกิจ" แต่ละบริษัทจะมีมาตรการดูแลพนักงานไม่ให้มีการติดเชื้อภายในบริษัท ขณะเดียวกัน ให้ความรู้พนักงานกรณีที่ต้องออกไปภายนอก แจ้งเตือนทำความเข้าใจถ้าไม่จำเป็นอย่าออกไปเสี่ยง


หวั่นสะเทือนซััพพลายเชนทั้งโลก

"แต่ละโรงงานในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ การจะใช้มาตรการ Bubble and seal หรือ Home Isolation รวมไปถึงโรงพยาบาลสนาม ก็อาจจะมีติดขัดอยู่บ้างไม่น้อย ที่ผ่านมาในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เองได้มีการจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้กับพนักงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นเป็นวัคซีนซิโนฟาร์มของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นหลัก วัคซีนที่มาจากภาครัฐน้อยมาก" 

นายสัมพันธ์ ย้ำว่า ภาคอิเล็กทรอนิกส์เองพร้อมที่จะจัดซื้อวัคซีนเพื่อนำมาฉีดให้กับกลุ่มพนักงานมาก แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อที่ไหน ซึ่งปัจจุบันอัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้ก็ยังครอบคลุมไม่มากพอ 

"ถ้าตัวเลขการติดเชื้อในประเทศไม่ลดลง ไทยจะกลายเป็น Bottleneck ของซัพพลายเชนอิเล็กทรอนิกส์ทั้งโลก"

ทั้งนี้ใน 6 เดือนแรกที่ผ่านมา กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว 10% แต่ 6 เดือนข้างหน้า มีความไม่แน่นอนสูง หากตัวเลขติดเชื้อในประเทศไม่ลด จะกระทบไปหมด ซึ่งมาตรการที่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์นำมาใช้ก็อาจจะป้องกันไม่ได้ 100% ซึ่งหลักๆ พยายามดูแลคนในภาคอิเล็กทรอนิกส์ไม่ให้เป็นภาระของภาครัฐ  

"ช่วงเดือน ก.ค ถือว่าหนักมาก ดังนั้นไตรมาสนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก ถ้ายังเป็นสถานการณ์ลักษณะนี้ อาจเห็นภาพการโยกการผลิตจากประเทศไทยไปประเทศอื่น" นายสัมพันธ์ กล่าว 


เปิดรายได้ยักษ์ฮาร์ดดิสก์โลกในไทย

โควิดระลอกล่าสุด ส่งผลกระทบกับกลุ่มโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางโรงงานต้องปิดตัวลงชั่วคราว ข้อมูลจาก Creden data เผยรายได้ในกลุ่มบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ 2 ยักษ์ใหญ่ บริษัทซีเกท ประเทศไทย ฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์สำคัญของโลก มีรายได้ปี 2563 ที่ 154,499,475,430 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีรายได้ 149,568,157,717 บาท

บริษัทเวสเทิร์น ดิจิตอล ประเทศไทย หรือดับบลิวดี ฐานการผลิิตและส่งออกฮาร์ดดิสก์โลกที่สำคัญเช่นกัน มีรายได้ปี 2563 ที่ 88,178,228,057 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีรายได้ราว 78,092,718,973 บาท อย่างไรก็ตาม ย้อนหลังไป 5 ปีที่ผ่านมารายได้ของ ดับบลิวดีอยู่ในระดับแสนล้านบาทมาโดยตลอด


การ์ทเนอร์ชี้โควิดกระทบชิพขาด

นายคานิสกัส ชัวฮาน นักวิเคราะห์หลัก ฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานและการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ ประเภทในปีนี้ ขณะที่โรงงานผลิตขึ้นราคาแผ่นเวเฟอร์ ที่เป็นส่วนประกอบหลักผลิตชิพ และมีผลต่อเนื่องไปถึงบริษัทผู้ผลิตชิพก็ขึ้นราคาตามไปด้วย

ปัญหาการขาดแคลนชิพ เริ่มเกิดกับอุปกรณ์ประเภทต่าง ๆ ก่อน เช่น อุปกรณ์สำหรับการจัดการพลังงาน จอแสดงผล และไมโครคอนโทรลเลอร์ ที่ผลิตจากบนโหนดการทำงานแบบเดิม ของโรงงานผลิตชิพขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว ซึ่งมีวัตถุดิบจำกัด เวลานี้ปัญหาการขาดแคลนส่งผลต่อไปยังอุปกรณ์อื่นและมีข้อจำกัดด้านความจุ 

รวมถึงขาดสารตั้งต้นในการผลิต กระบวนการเชื่อมลวดทองคำ ส่วนประกอบแบบพาสซีฟ วัสดุและการทดสอบ ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน ที่กำลังเป็นปัญหานอกจากเรื่องโรงงานผลิตชิพ การ์ทเนอร์คาดว่าปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์แทบทุกหมวดหมู่จะกระทบต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2565

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952257
#9995


ไอบีเอ็ม วิเคราะห์เหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลที่เกิดกับองค์กรกว่า 500 แห่งทั่วโลก พบมูลค่าความเสียหายของเหตุด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังจัดการยากขึ้น เพราะองค์กรมีการปรับรูปแบบการดำเนินงานครั้งใหญ่ อีกทั้งค่าใช้จ่ายยังเพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ปีที่แล้วองค์กรต่างถูกบีบให้ต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้รวดเร็ว หลายบริษัทต้องให้พนักงานทำงานจากบ้าน ขณะที่องค์กร 60% ปรับงานสู่คลาวด์มากขึ้นช่วงแพร่ระบาด ผลศึกษาชี้ให้เห็นว่า ระบบซิเคียวริตี้ขององค์กรอาจยังปรับตัวตามระบบไอทีที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ทัน กลายเป็นอุปสรรครับมือเหตุข้อมูลรั่วไหลขององค์กร

รายงานมูลค่าความเสียหายของเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลประจำปี ที่ดำเนินการโดยสถาบันโพเนมอน ภายใต้การสนับสนุนและวิเคราะห์โดยไอบีเอ็ม ซีเคียวริตี้ ระบุถึงเทรนด์สำคัญ ดังนี้

ผลกระทบจากการทำงานระยะไกล จะเห็นได้ว่าการปรับโหมดสู่การทำงานระยะไกลอย่างรวดเร็ว ทำให้มูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลสูงขึ้น เคสที่มีปัจจัยต้นเหตุมาจากการทำงานระยะไกล สร้างความเสียหายมากกว่า เคสทั่วไปที่ไม่มีปัจจัยดังกล่าวเข้ามาเกี่ยวข้องเฉลี่ยกว่า 35 ล้านบาท (มูลค่าความเสียหาย 162 ล้านบาท เทียบกับ 127 ล้านบาท) 

ความเสียหายจากข้อมูลเฮลธ์แคร์รั่วพุ่งสูง อุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงอย่างมากช่วงการแพร่ระบาด อย่างเฮลธ์แคร์ ค้าปลีก บริการ และการผลิต กระจายสินค้าอุปโภค-บริโภค ต้องเผชิญค่าใช้จ่ายจากเหตุข้อมูลรั่วเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เหตุข้อมูลรั่วในกลุ่มเฮลธ์แคร์สร้างความเสียหายมากสุด คือ 303 ล้านบาทต่อเคส ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 60 ล้านบาทต่อเคส เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ข้อมูลรับรองตัวตนของบุคคลรั่ว นำสู่ข้อมูลรั่ว ข้อมูลรับรองตัวตนของบุคคลที่ถูกขโมย คือ ต้นเหตุข้อมูลรั่วไหลที่พบมากที่สุด ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (เช่น ชื่อ อีเมล และพาสเวิร์ด) คือ ชุดข้อมูลที่พบมากสุดในเหตุข้อมูลรั่วไหล หรือราว 44% ของเหตุที่เกิดขึ้น การที่ข้อมูลชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดรั่วไปพร้อมกัน อาจนำสู่ผลที่ร้ายแรงกว่าที่คิด เพราะเป็นการเปิดช่องโจมตีในอนาคตให้กับอาชญากร

เทคโนโลยีก้าวล้ำลดมูลค่าความเสียหาย การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ซิเคียวริตี้ อนาไลติกส์ และการเข้ารหัสมาใช้ เป็นหนึ่งในสามปัจจัยหลักช่วยลดมูลค่าความเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่วให้องค์กรได้ประมาณ 41-48 ล้านบาท เมื่อเทียบกับองค์กรที่ไม่ได้มีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้จริงจัง 

ทั้งนี้ พบว่า องค์กรที่ใช้แนวทางไฮบริดคลาวด์มีมูลค่าเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่ว 118 ล้านบาท น้อยกว่ากลุ่มที่ใช้พับลิกคลาวด์เป็นหลัก (157 ล้านบาท) หรือกลุ่มที่ใช้ไพรเวทคลาวด์เป็นหลัก (149 ล้านบาท)

"คริส แมคเคอร์ดี" รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ไอบีเอ็ม ซิเคียวริตี้ กล่าวว่า มูลค่าความเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่วไหลที่พุ่งสูงขึ้นกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นขององค์กร ขณะที่องค์กรเองต้องปรับตัวรวดเร็ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วงแพร่ระบาด 

"แม้มูลค่าความเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่วไหล จะสูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา แต่ผลศึกษาชี้ให้เห็นแนวโน้มเชิงบวกจากการนำเทคโนโลยีซิเคียวริตี้ที่ก้าวล้ำเข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็น เอไอ ออโตเมชัน หรือ zero trust เทคโนโลยีเหล่านี้อาจนำสู่มูลค่าความเสียหายที่ลดลงในอนาคต"

หลายองค์กรปรับตัวสู่การทำงานระยะไกล และเริ่มใช้คลาวด์มากขึ้น การที่สังคมหันพึ่งการปฏิสัมพันธ์ดิจิทัลเพิ่มช่วงแพร่ระบาด รายงานชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยเหล่านี้ก่อให้เกิดผลกระทบ องค์กรเกือบ 20% ระบุว่า การทำงานระยะไกล คือ สาเหตุของข้อมูลรั่ว ซึ่งสร้างความเสียหายให้บริษัทถึง 162 ล้านบาท (สูงกว่าเหตุข้อมูลรั่วโดยเฉลี่ย 15%)

ข้อมูลรับรองตัวตนบุคคลรั่วไหล

รายงานยังชี้ว่า 82% ของกลุ่มบุคคลที่สำรวจยอมรับว่าใช้พาสเวิร์ดเดิมซ้ำในหลายแอคเคาท์ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นต้นเหตุและผลลัพธ์หลักของเหตุข้อมูลรั่ว แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงให้กับธุรกิจต่างๆ ด้วย

ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล เกือบครึ่ง (44%) ของเหตุข้อมูลรั่วที่วิเคราะห์ เป็นต้นเหตุที่ทำให้ข้อมูลลูกค้าหลุดออกไป ไม่ว่าจะเป็นชื่อ อีเมล พาสเวิร์ด หรือแม้แต่ข้อมูลด้านสุขภาพ เหล่านี้เป็นชุดข้อมูลที่พบว่ามีการรั่วไหลมากที่สุด

ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าสร้างมูลค่าความเสียหายสูงสุด การสูญเสียข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า มีมูลค่าความเสียหายสูงกว่าข้อมูลประเภทอื่นๆ (ราว 6,000 บาทต่อรายการ เทียบกับค่าเฉลี่ย 5,300 บาทของข้อมูลประเภทอื่น)

วิธีการโจมตีที่พบมากที่สุด การเจาะระบบด้วยข้อมูลรับรองตัวตนของบุคคลที่รั่ว คือวิธีการเริ่มต้นโจมตีที่อาชญากรใช้มากที่สุด นับเป็น 20% ของเหตุข้อมูลรั่วไหลที่ศึกษา

แม้การปรับเปลี่ยนระบบไอทีช่วงแพร่ระบาดจะนำสู่มูลค่าความเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่วที่เพิ่มขึ้น แต่องค์กรที่ระบุว่าไม่ได้ดำเนินโครงการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น คือ กลุ่มที่เผชิญกับมูลค่าความเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่วสูงกว่า โดยสูงกว่าองค์กรอื่นประมาณ 24.6 ล้านบาทต่อเคส (16.6%)

องค์กรที่ระบุว่าใช้แนวทางซิเคียวริตี้แบบ Zero Trust มีความพร้อมรับมือเหตุข้อมูลรั่วไหลได้ดีกว่า โดย Zero Trust เป็นแนวทางบนพื้นฐานของสมมติฐานที่ว่า ทั้งข้อมูลระบุตัวตนของผู้ใช้และตัวเน็ตเวิร์คเองอาจถูกเจาะแล้ว ดังนั้นจึงใช้เอไอและอนาไลติกส์เข้ามาทำหน้าที่รับรองการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้ ข้อมูล และทรัพยากรต่างๆ แทน องค์กรที่ใช้กลยุทธ์ Zero Trust มีมูลค่าความเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่วเฉลี่ย 108 ล้านบาทต่อเคส ซึ่งต่ำกว่าองค์กรที่ไม่ได้ใช้แนวทางดังกล่าวราว 58 ล้านบาท

การลงทุนพัฒนาทีมและแผนตอบสนองต่อเหตุโจมตียังเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยลดมูลค่าความเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่ว โดยองค์กรที่มีทีมรับมือเหตุโจมตีและมีการทดสอบแผนการรับมือ มีมูลค่าความเสียหายจากเหตุข้อมูลรั่วเฉลี่ย 106 ล้านบาท ขณะที่องค์กรที่ไม่มีทั้งทีมงานและแผนรับมือ ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายจากเหตุข้อมูลรั่วเฉลี่ย 187 ล้านบาท (ต่างกัน 54.9%)

เป็นที่น่าสังเกตุว่า ครั้งนี้ เหตุข้อมูลรั่วไหลในอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์มีมูลค่าความเสียหายสูงสุด (ราว 303 ล้านบาทต่อเคส) ตามด้วยอุตสาหกรรมการเงิน (188 ล้านบาท) และเภสัชกรรม (165 ล้านบาท) โดยแม้กลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีก สื่อ บริการ และภาครัฐ จะมีมูลค่าความเสียหายต่ำกว่า แต่ถือว่ามีมูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
#9996


พร้อมหรือยัง.. เปิดให้ขึ้นฟรีวันนี้ "รถไฟชานเมืองสายสีแดง" บางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน
ช่วงเช้าวันนี้ เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการระบบ รถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน (soft opening) วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม 2564 เวลา 9.30 น. ที่สถานีกลางบางซื่อ โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด

"รถไฟชานเมืองสายสีแดง"

การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยจะให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

และจะเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปี 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่ต้องการจะเดินทางจากปริมณฑล พื้นที่ชานเมืองเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร


สำหรับตารางการเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีดังนี้

เส้นทาง บางซื่อ-รังสิต เที่ยวแรกจากบางซื่อ เริ่มเดินรถเวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกจากรังสิต เริ่มเดินรถเวลา 06.00 น. เช่นกัน

เส้นทาง บางซื่อ-รังสิต เที่ยวสุดท้ายจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. ส่วนสุดท้ายจากรังสิต เวลา 19.30 น.

เส้นทาง บางซื่อ-ตลิ่งชัน เที่ยวแรกจากบางซื่อ เริ่มเดินรถเวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกจากรังสิต เริ่มเดินรถเวลา 06.06 น.

เส้นทาง บางซื่อ-ตลิ่งชัน เที่ยวสุดท้ายจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. ส่วนสุดท้ายจากรังสิต เวลา 19.36 น.

ทั้งนี้ เฉพาะวันที่ 2 สิงหาคม 2564 จะเริ่มเดินรถ เวลา 10.30 น.
#9998
ลงทองเรียกจิต เป็นการเรียกจิตให้อีกฝ่ายคิดถึง

ด้วยการเสกแผ่นทองคำเปลวแท้  100 %  ด้วยคาถาเรียกจิต  เพื่อเรียกจิตบุคคลที่ต้องการมาไว้ในแผ่นทอง  จากนั้นนำแผ่นทองที่ผ่านการเสกแล้ว  ไปติดตรงตำแหน่งกึ่งกลางหน้าผาก  โดยใช้สีผึ้งเรียกจิตทาก่อน  แล้วท่องคาถาเรียกจิตจนบุคคลที่ต้องการ  คิดถึงเรามากๆ 

ค่าครู 99  บาท
สนใจติดต่อ
โทร 0846623662
lide id : teerapat999

ลาซาด้า  คลิก
https://pdp.lazada.co.th/products/i2641064456.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.7dfb4edfDYXNoK

#9999
 App "มีตังค์" ทำจริงจัง ก็ได้เงินจริงนะ ไม่จกตา สร้างรายได้หลักแสน หลักล้าน อย่างง่าย ๆ
App "มีตังค์" คือ ธุรกิจที่ใช่ ในยุค COVID ครองเมือง
ระบบ Content Builder System
ที่ทำทุกอย่างผ่าน Social บนมือถือเพียงเครื่องเดียว ง่าย ๆ เพียงแค่แชร์
เปลี่ยนใจสมัครกับเราตอนนี้ยังทัน


ธุรกิจ New Platform(แฟลตฟอร์มใหม่)
ที่ลงทุนด้วยเงิน 2,699 ครั้งเดียวผ่าน App เก็บเกี่ยวได้ตลอดชีวิต
รับเฉพาะคนที่จริงจังพร้อมทำเท่านั้น


สอบถามเพิ่มเติม
ไลน์ไอดี teerapat999
โทร 0846623662

ลงทะเบียนฟรีเพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้ในกลุ่มปิดเปิดเผยชัดเจน
https://www.metang-solution.com/member/register.php...

รายละเอียดเพิ่มเติม https://web.facebook.com/richbyteerapat

#10000
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#10001


ไม่มีแผ่วเลยสำหรับวงการซีรีส์ของทางฝั่งจีนที่ช่วงนี้ก็ไม่วายมีผลงานเรื่องใหม่ ๆ ปล่อยออกมาให้เราได้รับชมกันแบบรัว ๆ เหมือนเช่นเคย โดยจากการไปตามส่องเก็บข้อมูล ในส่วนของนักแสดงซึ่งเป็นปัจจัยที่ดึงดูดผู้ชมได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่โต๊ะฯจีนแอบไปสังเกตเห็นและพบว่าน่าสนใจมาก นั่นก็คือ จากบรรดาซีรีส์จีนที่กำลังออกอากาศและได้รับความนิยมอยู่ในช่วงนี้ มีนักแสดงสาวสวยอยู่คนหนึ่งที่ได้ร่วมแสดงและครองบทเด่นไปรวดเดียวถึง 3 เรื่องด้วยกัน!! ซึ่งเธอคนนั้นมีนามว่า 'จินเฉิน' นั่นเอง...

'จินเฉิน' (金晨) นางแบบ นักแสดงสาวชาวจีนวัย 31 ปี เกิดที่เมืองจี่หนาน มณฑลชานตง ประเทศจีน เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกเมื่อปี 2011 ในผลงานซีรีส์จีนแนวกำลังภายในเรื่อง "เจ็ดยอดศาสตรา ตอนเดชขนนกยูง" (Kong Que Ling: 孔雀翎) นอกจากนั้นในปีเดียวกัน 'จินเฉิน' ยังได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการประกวดเต้นชื่อดังอย่าง "China's Strictly Come Dancing" ซีซั่น 3 (舞动奇迹 3) จนในที่สุดสามารถคว้าแชมป์ของซีซั่นนั้นไปครองได้อีกด้วย

ต่อมาหลังจากเริ่มมีชื่อเสียง 'จินเฉิน' ได้มีผลงานการแสดง โดยเฉพาะในฝั่งของซีรีส์ออกมาให้ได้รับชมกันอีกหลายเรื่อง ที่เด่น ๆ ก็อย่างเช่น "หมอผีไร้ใจ" (WuXin The Monster Killer: 无心法师) ปี 2015 "พระสนมเหมิงเฟยเสด็จแล้ว" (Mengfei Comes Across: 萌妃驾到) ปี 2016 และ "มหาอำนาจแห่งความลับ" (Fearless Whispers: 隐秘而伟大) ปี 2020

ล่าสุดหากบอกว่าช่วงนี้เป็น "จังหวะทอง"ของนักแสดงสาวหน้าสวย 'จินเฉิน' ก็ดูเหมือนจะไม่เกินจริงเสียเท่าไหร่นัก เนื่องจากในบรรดาซีรีส์กระแสดีที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ เธอได้มีโอกาสร่วมแสดงในบทบาทเด่น ๆ ที่จะทำให้ผู้คนได้จดจำความสวยปังที่มาพร้อมกับทักษะการแสดงสุดยอดเยี่ยมของเธอไปแล้วถึง 3 เรื่องด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่างานนี้โต๊ะฯจีนก็ไม่พลาด ขออาสาพาคุณผู้อ่านไปส่องกันเสียหน่อยสิว่า ในบรรดาซีรีส์ 3 เรื่องที่ว่านี้ 'จินเฉิน' ของเราจะได้เล่นเป็นใคร และต้องถ่ายทอดบทบาทแบบไหนออกมากันบ้าง

'จินเฉิน' กับบท "ไต้เสียวอวี่" หญิงสาวสุดอาภัพในซีรีส์สร้างแรงบันดาลใจ "เพื่อนหญิง วิ่งตามฝัน"

สำหรับในซีรีส์เรื่อง "เพื่อนหญิง วิ่งตามฝัน" หรือ "Crossroad Bistro" (北辙南辕) 'จินเฉิน' ได้รับบทเป็น "ไต้เสียวอวี่" หญิงสาวคนหนึ่งที่แทบจะเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ทั้งหน้าตาดี ฉลาด การศึกษาสูง แต่แล้วชีวิตของเธอกลับมีโชคชะตาความรักที่แสนจะอาภัพ โดยจุดเริ่มต้นของความอาภัพที่ว่านี้มาจากที่วันหนึ่งเธอได้พบว่าแฟนที่คบกันมากว่า 5 ปีและกำลังจะแต่งงานด้วยนั้น มีภรรยาอยู่แล้ว อีกทั้งด้วยความกระทบกระเทือนจิตใจเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคนรัก ยังทำให้เธอได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนสุดท้ายต้องตัดมดลูกทิ้งและสูญเสียลูกในท้องไป

ถึงแม้ต่อมาบท "ไต้เสียวอวี่" ที่รับบทโดย 'จินเฉิน' จะยังคงยืนหยัดลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง แต่ด้วยจุดนี้เองที่ทำให้เป็นเสน่ห์ให้ชวนน่าติดตามมากว่าท้ายที่สุด 'จินเฉิน' จะถ่ายทอดบทบาทตัวละครของผู้หญิงที่มีปมจากการเคยประสบกับภาวะอ่อนแอในชีวิตเข้าอย่างจังให้กลับมาเป็นคนใหม่ได้เป็นอย่างไร

'จินเฉิน' กับบท "เซี่ยฉิง" แฟนเก่าพระเอกในซีรีส์รักโรแมนติก "ดุจดวงดาวเกียรติยศ"

ในซีรีส์สุดฮิตที่กำลังดังเป็นพลุแตกอย่าง "ดุจดวงดาวเกียรติยศ" หรือ "You Are My Glory" (你是我的荣耀) 'จินเฉิน' รับบทเป็น "เซี่ยฉิง" อดีตแฟนสาวของ "อวี๋ถู" หรือพระเอกของเรื่องที่รับบทโดย 'หยางหยาง'(杨洋) โดยตามพล็อตเรื่องแล้วตัวละคร "เซี่ยถิง" ที่รับบทโดย 'จินเฉิน' นั้นจัดอยู่ในหมวดของผู้หญิงสวย เก่ง สุดมั่นใจ ตัวเธอกับอวี๋ถูคบหากันในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ต้องเลิกรากันไปเนื่องจากต่างคนต่างมีความฝันและมีจุดมุ่งหมายในชีวิตที่ไม่เหมือนกัน จนกระทั่งในคราที่ต้องวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง เมื่อเธอพบว่า "อวี๋ถู" และ "เฉียวจิงจิง" (นางเอกของเรื่องรับบทโดย 'ตี่ลี่เร่อปา') ต่างเริ่มมีความรู้สึกดีต่อกัน จึงพยายามทำบางอย่างเพื่อขัดขวางความสัมพันธ์ของพวกเขา

ว่ากันว่า ณ ปัจจุบันแม้บทของ "เซี่ยฉิง" จะขึ้นชื่อว่าเป็นบทรับเชิญ แต่จุดเริ่มต้นของความสำเร็จของ 'จินเฉิน' ในบทบาทนี้ก็เริ่มปรากฎให้เห็นกันในระดับหนึ่งแล้ว พิสูจน์ได้จากที่ว่าตัวของ 'จินเฉิน' สามารถถ่ายทอดตัวละคร "เซี่ยฉิง" ซึ่งเดิมทีในเวอร์ชั่นนิยายต้นฉบับไม่ได้มีบทบาทมากมายอะไรนัก ออกมาได้อย่างโดดเด่นจนกลายเป็นที่จับตามองไม่แพ้ตัวละครอื่น ๆ เลยล่ะจ๊ะ
'จินเฉิน' กับบท "สวี่เฟิ่งเฉียว" ลูกสะใภ้สายโหดในซีรีส์พีเรียดย้อนยุค "Song of Youth"

สำหรับซีรีส์เรื่อง "Song of Youth" (玉楼春) 'จินเฉิน' รับบทเป็น "สวี่เฟิ่งเฉียว" ลูกสะใภ้คนที่สามของบ้านตระกูลซุน (พี่สะใภ้พระเอก) ซึ่งด้วยความที่มีชาติกำเนิดอันสูงส่ง บวกกับบุคลิกสุดเข้มแข็ง เป็นนักวางแผนมีความชำนาญกับการจัดการเรื่องน้อยใหญ่ในบ้าน ทำให้สถานะในบ้านของสวี่เฟิ่งเฉียวต่างเป็นที่น่าเคารพนับถือมาก ถึงขนาดที่ว่าสามีของตัวเองยังต้องเกรงกลัว

จากทักษะการแสดงและความโดดเด่นของ 'จินเฉิน' ในซีรีส์เรื่องนี้ ทำให้ทั้งตัวเธอและตัวละคร "สวี่เฟิ่งเฉียว" ได้รับกระแสตอบรับและการถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก โดยทางแหล่งข่าวจาก Tencent News ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากซีรีส์ "Song of Youth" เริ่มออกอากาศไปได้ไม่นาน ชื่อของ 'จินเฉิน' นั้นก็แทบจะขึ้นเป็นรายการค้นหายอดนิยมบนโลกโซเชียลของจีนในทันทีทันใดเลยล่ะจ้า

เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ 3 เรื่อง 3 รสที่เราจะได้เห็น 'จินเฉิน' ใน 3 บทบาทที่ต่างกันสุดขั้วอย่างแน่นอน งานนี้ใครที่สนใจอยากจะตามส่องความสวยปังที่มาพร้อมกับทักษะการแสดงสุดเลิศแบบจัดเต็มของ 'จินเฉิน' นักแสดงสาวมากความสามารถคนนี้ล่ะก็ สามารถเช็คลิสต์ติดตามรับชมซีรีส์ทั้ง 3 เรื่องได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยนะจ๊ะ
#10002


บอร์ด ทอท.เคาะขยายเวลาก่อสร้างสุวรรณภูมิ 3 สัญญา "APM-สายพานและเครื่องตรวจระเบิด" โควิดนำเข้าอุปกรณ์ไม่ได้ คำสั่งปิดแคมป์หยุดก่อสร้างหมด มั่นใจไม่กระทบบริการ ชี้ใช้ SAT-1 เมื่อเกิน 50 ล้านคน คาดอุตสาหกรรมการบินฟื้น มี.ค. 66

แหล่งข่าวจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่มี นายสราวุธ เบญจกุล เป็นประธาน ได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลางานจ้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 จำนวน 3 สัญญา ได้แก่ 1. ขยายระยะเวลาสัญญางานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบิน และที่จอดรถด้านทิศตะวันออก โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับบริษัทพระราม 2 จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 6 มิ.ย. 2562 มูลค่าสัญญา 871.888 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีกจำนวน 231 วัน จากเดิมวันที่ 14 ธ.ค. 2563 เป็นวันที่ 2 ส.ค. 2564

2. อนุมัติขยายระยะเวลาสัญญางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Movew : APM) ให้แก่นิติบุคคลร่วมทำงานไออาร์ทีวี ประกอบด้วย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เรืองณรงค์ จำกัด บริษัท แบคเคอร์ อินดัสทรี จำกัด และ บริษัท วิวเท็กซ์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 20 พ.ย. 2560 มูลค่าสัญญา 2,999.90 ล้านบาท ขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีก 330 วัน จากเดิมวันที่ 3 ก.ย. 2563 เป็นวันที่ 30 ก.ค. 2564

โดยสัญญางานระบบ APM ระยะเวลาก่อสร้างเดิม 870 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 2560-วันที่ 7 เม.ย. 2563 ต่อมามีการขยายระยะเวลาอีก 149 วัน จากวันที่ 7 เม.ย. 2563-วันที่ 3 ก.ย. 2563 และล่าสุดขยายอีก 330 วัน นับรวมระยะเวลาดำเนินงาน 1,019 วัน

3. อนุมัติขยายระยะเวลางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) ให้กับนิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส ประกอบด้วย บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 1 ก.พ. 2561 มูลค่าสัญญา 3,646.560 ล้านบาท โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จจำนวน 214 วัน จากเดิมวันที่ 6 ส.ค. 2564 เป็นวันที่ 8 มี.ค. 2565

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ทอท. กล่าวว่า บอร์ด ทอท.มีการพิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 จำนวน 3 สัญญา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่สามารถนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศได้ตามกำหนด และคาดว่าในภาพรวมอาจจะต้องมีการพิจารณาปรับขยายระยะเวลาสัญญาอีกครั้งเนื่องจากมาตรการรัฐบาลที่ให้ปิดแคมป์ก่อสร้าง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ทำให้งานก่อสร้างโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ต้องหยุก่อสร้างทุกสัญญาในขณะนี้ ยกเว้นงานที่อยู่ในความดูแลของวิศวกร เช่น การทดสอบระบบที่ยังทำได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะขยายระยะเวลาสัญญา แต่ในขณะนี้โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) เสร็จแล้ว แต่ ทอท.วางแผนในการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ต่อเมื่ออาคารผู้โดยสารหลักมีปริมาณผู้โดยสารเกิน 50 ล้านคน/ ปี จึงจะเปิดใช้อาคาร SAT-1 เพื่อลดความแออัดของอาคารหลัก แต่หากอาคารหลักยังไม่แออัดก็ไม่จำเป็นเร่งเปิดใช้ SAT-1 เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 300 ล้านบาท/เดือน

แต่จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งมีการประเมินว่าอุตสาหกรรมการบินจะกลับมาในช่วงตารางบินฤดูร้อนปี 2566 (ประมาณเดือน มี.ค. 2566) ซึ่งยังมีเวลาเพียงพอในการก่อสร้างและทดสอบระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของสุวรรณภูมิเฟส 2
#10003


แซนเดอร์ ชอฟเฟเล โปรจาก สหรัฐอเมริกา คว้าเหรียญทอง การแข่งขันกอล์ฟประเภทบุคคล โอลิมปิก 2020 เฉือน รอรีย์ ซับบาตินี จาก สโลวาเกีย แค่สโตรกเดียว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม

ก้านเหล็กมือ 5 ของโลก หวด 4 อันเดอร์พาร์ 67 รวม 18 อันเดอร์พาร์ 266 ขณะที่ ซับบาตินี สร้างเซอร์ไพรส์ หวด 10 อันเดอร์พาร์ 61 รวม 17 อันเดอร์พาร์ 267 จบอันดับ 2 ที่สนาม คาสุมิกาเซกิ คันทรี คลับ พาร์ 71

ชอฟเฟเล ผู้นำรอบที่แล้ว กวาด 4 เบอร์ดี ตลอด 8 หลุมแรก ทว่าพลาดโอกาสทิ้งห่าง ช่วง 9 หลุมหลัง เสียโบกี ที่หลุม 14 พาร์ 5 สกอร์รวมเท่ากับ ซับบาตินี ที่นั่งรออยู่ในคลับเฮาส์

อย่างไรก็ตาม ชอฟเฟเล วัย 27 ปี เก็บเบอร์ดีอันล้ำค่า ด้วยลูกพัตต์ระยะ 6 ฟุต ที่หลุม 17 พาร์ 4 และพัตต์เซฟพาร์ ระยะ 4 ฟุต หลุม 18 ท่ามกลางความกดดันมหาศาล

ขณะที่ 7 ผู้เล่น กำลังเพลย์ออฟ ชิงเหรียญทองแดง ได้แก่ พอล เคซีย์ (สหราชอาณาจักร), ฮิเดกิ มัตสึยามา (ญี่ปุ่น), รอรีย์ แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์), คอลลิน โมริคาว่า (สหรัฐอเมริกา), เซบาสเตียน มูญอซ (โคลอมเบีย), ซี.ที. แพน (ไต้หวัน) และ มิโต เปไรรา (ชิลี)

ปรากฏว่า ฮิเดกิ มัตสึยาม่า กับ พอล เคซีย์ เสียโบกี เพลย์ออฟหลุมแรก (18 พาร์ 4) ต่อมา แม็คอิลรอย, เปไรรา และ มูญอซ ทำได้เพียงพาร์ เพลย์ออฟหลุม 3 (11 พาร์ 4) เหลือ โมริคาวา กับ ซี.ที. แพน สู้กันต่อหลุมพิเศษที่ 4

กลับมาที่หลุม 18 พาร์ 4 โมริคาว่า แอพโพรชจากบังเกอร์ ตกนอกกรีน และพัตต์พาร์ระยะไกลพลาด ขณะที่ ซี.ที. แพน พัตต์พาร์ ระยะ 8 ฟุต คว้าเหรียญทองแดง

ส่วน "โปรแจ๊ส" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ความหวังสูงสุดของไทย เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวม 9 อันเดอร์พาร์ 275 รั้งอันดับ 27 ร่วม และ กัญจน์ เจริญกุล มือ 281 ของโลก อยู่อันดับ 45 ร่วม สกอร์ 4 วัน 4 อันเดอร์พาร์ 280
#10004


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประกาศขยายระยะเวลาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือผ่าน 6 มาตรการ ดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในโครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ครอบคลุมทั้งมาตรการแบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้น ตัดดอกเบี้ย) พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy บน Application Line ได้ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 พร้อมประกาศปิดลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 15 และ 16 พักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ย เนื่องจากเต็มกรอบวงเงิน และตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนเข้ามาตรการ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้ประกาศขยายระยะเวลาความช่วยเหลือลูกค้าที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการตาม "โครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ" ในมาตรการที่ 9, 10, 11, 11 New Entry, 13 และ 14 ให้ไปสิ้นสุดระยะเวลาความช่วยเหลือในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 โดยเปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อขยายระยะเวลาความช่วยเหลือผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy บน Application Line ระหว่างวันที่ 1-29 กรกฎาคม 2564 และภายหลังครบกำหนดระยะเวลาลงทะเบียน พบว่ามีจำนวนลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์รวมกว่า 85,900 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 85,700 ล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูง ทำให้ภาครัฐยังคงยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารจึงได้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อเข้ามาตรการ จำนวน 6 มาตรการ ผู้มีสิทธิ์เข้ามาตรการยังขยายให้ครอบคลุมทั้งลูกค้าเดิมที่อยู่ในมาตรการ และลูกค้าที่ยังไม่ได้อยู่ในมาตรการ โดยต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้



สำหรับรายละเอียดของมาตรการ ดังนี้

มาตรการที่ 9, 10, 11 และ 11 New Entry : แบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้น ตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบัน โดยทั้ง 4 มาตรการ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ สถานะ NPL และลูกหนี้สถานะ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้

มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เป็น NPL ไม่อยู่ขั้นตอนของกฎหมาย และไม่อยู่ระหว่างทำข้อตกลงประนอมหนี้) และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้

มาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกหนี้ที่สถานะ NPL และลูกหนี้ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้ หรือตามคำพิพากษา

ทั้งนี้ มาตรการที่ 9, 11, 11 New Entry และ 13 ธนาคารขยายระยะเวลาให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ได้ถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2564 สำหรับมาตรการที่ 10 และ 14 จะขยายถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2564

โดยทุกมาตรการข้างต้นจะได้รับความช่วยเหลือไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และภายในเดือนตุลาคม 2564 ธนาคารจะทำการสำรวจความประสงค์ของลูกค้าอีกครั้งว่าต้องการรับความช่วยเหลือต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือไม่ และสำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์เข้ามาตรการจะต้อง Upload หลักฐานยืนยันว่าได้รับผลกระทบทางรายได้ผ่านทาง Application : GHB ALL และ GHB Buddy ให้ธนาคารพิจารณา โดยสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy บน Application Line ได้ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30-15.00 น. เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนกรณีที่ลูกค้าไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการได้ที่ www.ghbank.co.th



ส่วนการพักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2564 ในมาตรการที่ 15 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ ไม่อยู่ระหว่างการประนอมหนี้หรือสถานะกฎหมาย และมาตรการที่ 16 สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะ NPL (ค้างชำระเงินงวดติดต่อกันมากกว่า 3 เดือน) หรืออยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ล่าสุด ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ทั้ง 2 มาตรการเป็นจำนวนรวม 90,800 บัญชี เงินต้นคงเหลือรวม 101,000 ล้านบาท และสูงกว่ากรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนดไว้ที่ 100,000 ล้านบาท ดังนั้น ธนาคารจึงขอแจ้ง ปิดลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 15 และ 16 เนื่องจากมีลูกค้าลงทะเบียนเต็มกรอบวงเงิน และทำการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ลงทะเบียนเข้ามาตรการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยธนาคารจะประกาศวันที่เปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมอีกครั้งให้ทราบในภายหลังต่อไป

ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th, Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ Application : GHB ALL
#10005



แม้ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านกัน หรือถ้าออกไปก็ต้องใส่แมสก์ตลอด แต่สาว ๆ อย่าละเลยเรื่องการบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มกระจ่างใสเด็ดขาด สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ แนะนำ 12 มาสก์หน้าสุดฮอตฮิต ที่เชื่อว่าสาว ๆ ต้องมีติดบ้านไว้อย่างน้อยสองชิ้น ที่สุดในดวงใจชิ้นแรกต้องยกให้ Jung Saem Mool Essential Mool Cream Mask ขึ้นชื่อว่า Mool Cream แล้วการันตีได้ถึงความปังแน่นอน ไม่เพียงแค่มีครีมบำรุงผิวเท่านั้น แต่ Mool Cream ยังมีมาสก์ด้วย เป็นมาสก์ เนื้อเข้มข้นครีมมี่ ด้วยคุณค่าเซรามายด์และไฮยาลูโรนิคเอซิด ทำให้ผิวชุ่มชื่น เนียนเรียบ สุขภาพดี


ตามมาด้วย Shiseido White Lucent Overnight Cream and Mask มาสก์สูตรไวท์เทนนิ่งที่หรูหรา ช่วยเรื่องผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวที่ไม่เสมอกัน ใช้แล้วผิวจะเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์, M.A.C Mineralize Reset & Revive Charcoal Mask เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีสิวเสี้ยนเยอะ ตัวนี้จะช่วยดูดสิวเสี้ยนออกไปด้วยสารสกัดจากชาร์โคล เนื้อมาสก์ไม่แห้ง ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น, Three Purifying Clay Mask  อีกตัวที่สาวผิวมันห้ามพลาด สารสกัดจากธรรมชาติ 92% และสารช่วยนำความหยาบกร้านของผิวออกไป ช่วยลดผิวมันและขจัดเซลล์ผิวส่วนเกินได้ดี


สำหรับสาวที่ผิวแห้งมาก ๆ Kiehl's Ultra Facial Overnight Hydrating Masque ตัวนี้ช่วยกู้ผิวให้กลับมาชุ่มชื่นอย่างรวดเร็ว ผิวฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังใช้รู้สึกได้ทันที ส่วน Lush Mask of Magnaminty มาสก์เนื้อสีเขียวมิ้นต์ มีเท็กเจอร์เหมือนเป็นเมล็ดธัญพืช สามารถขัดผิวได้ในตัว ทำให้หน้านุ่มและผิวละเอียดเนียนมากขึ้น ไม่มีสารกันบูดและสารอันตรายต่อผิว, Etude House Soon June Sleeping Pack  ถูกใจสาว ๆ ที่อยากมาสก์หน้าแล้วนอนหลับไปเลย เพราะอีทูดี้ตัวนี้เป็นแนวสลีปปิ้ง มาสก์ นอนหลับได้เลยไม่ต้องห่วง เนื้อครีมมี่บาล์มทาเบา ๆ มีส่วนผสมของแพนเท็นโซไซต์ 5% ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น, Frudia Firming My Orchard Squeeze Mask Acai Berry จาก All Abou You มาสก์หอม ๆ ด้วยสารสกัดอาซาอิเบอร์รี่ ช่วยยกกระชับผิว คงความชุ่มชื่น ให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย


ด้าน Sephora มีมาสก์หลายตัวที่ครองใจสาว ๆ Laneige Water Sleeping Mask EX สลีปปิ้งมาสก์ที่ครองใจสาว ๆ มานาน เชื่อว่าทุกคนต้องเคยใช้แน่นอน มีส่วนผสมของไมโครไบโอม โปรไบโอติคที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ใบหน้ากระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด, Biotherm Life Plankton Mask สารสกัดจากไลฟ์แพลงก์ตอนบริสุทธิ์ เมื่อประสานการทำงานเข้ากับผิวทำให้ผิวชุ่มชื่นสุด ๆ เนื้อมาสก์เป็นเจลข้น กลิ่นหอมสดชื่นแบบธรรมชาติ อีกหนึ่ง มาสก์ยอดนิยมที่ช่วยกู้ผิวแห้งให้กลับมาฉ่ำน้ำแบบรวดเร็ว, Foreo Call It a Night เด่นที่ส่วนผสมของโสมและน้ำมันโอลีฟ เอ็กโซติค ธรรมชาติสุด ๆ แต่ตัวนี้พิเศษนิดตรงนี้ต้องใช้คู่กับอุปกรณ์ยูเอฟโออันโด่งดังของแบรนด์ แต่รับรองว่าผลลัพธ์จะทำให้พึงใจสุด ๆ สีผิวสม่ำเสมอและเรียบเนียนขึ้นแน่นอน ปิดท้ายกับ Tatcha Luminous Dewy Skin Mask ขวัญใจบิวตี้ เอดิเตอร์ทั่วโลก ถูกหยิบยกให้มาอยู่ในลิสต์มาสก์ในดวงใจเสมอ ๆ มีส่วนผสมของชาเขียวออกแนวสไตล์ญี่ปุ่น แผ่นมาสก์นุ่มอ่อนโยนต่อผิวที่สุด