• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Prichas

#3601


นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเร่งเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอก ภายใต้กลยุทธ์ "Building A Stronger Now" ปรับตัวและพัฒนาทิศทางการทำงานของทุกองคาพยพในองค์กร เพื่อให้องค์กร พนักงาน พันธมิตร ลูกบ้าน ตลอดจนลูกค้าใหม่ ยังสามารถก้าวไปได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ภายใต้ทุกความท้าทายในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

"ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังคงได้รับแรงกดดันอย่างมากจากโควิด-19 ทุกธุรกิจและอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน สิ่งที่เราต้องทำคือ ทำให้มากกว่า ทำให้แกร่งกว่า วางแผนพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายสุด ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้เราสามารถควบคุมความไม่แน่นอนเหล่านั้นและรับมือทุกสถานการณ์ได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ใช่แค่ทำให้องค์กรแข็งแกร่งขึ้น เราต้องช่วยพนักงาน ช่วยพันธมิตร ช่วยลูกบ้าน ช่วยลูกค้า ช่วยผู้เกี่ยวข้องกับองค์กรในทุกส่วนให้แกร่งขึ้นไปด้วย เพื่อให้ทุกคนรอดพ้นจากความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน" นางสาวเพชรลดา กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ Building A Stronger Now ประกอบด้วยการปรับตัวและพัฒนาการทำงานภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.Stronger Move เดินหน้าองค์กรให้แกร่งกว่าเดิมและเข้ากับสถานการณ์ เริ่มต้นจากด้านการพัฒนาโครงการ ด้านการพัฒนาโครงการ ปรับแผนในช่วงไตรมาส 4/2564 เน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวแทนคอนโดมิเนียม โดยปรับจากแผนเดิมที่มีบ้านเดี่ยว 1 โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ สู่การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการและคอนโดมิเนียม 1 โครงการแทน ด้านการตลาด เร่งจับมือพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการของเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น อาทิ การเยี่ยมชมโครงการแบบ 360 Virtual Tour ภายใต้ Major Private Tour และจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้านการเงิน เร่งสำรองเงินสด และสินเชื่อพร้อมใช้ ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรับมือความท้าทาย พร้อมทั้งได้เตรียมการในการจ่ายคืนหุ้นกู้ในปีนี้ให้ครบถ้วน ด้านการกระจายความเสี่ยง เร่งเดินหน้าธุรกิจใหม่ๆ ให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ HealthScape ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต (Lifescape Developer) คาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ธุรกิจ HealthScape ในช่วงปลายไตรมาส 3/2564 นี้

2.Stronger Community ดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ทุกส่วนให้แข็งแกร่งกว่าเดิม ทั้งกลุ่มพนักงาน พันธมิตร ตลอดจนลูกบ้าน โดยออกแคมเปญ We've got your back เข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือผู้เกี่ยวข้องในด้านชีวิตความเป็นอยู่ อาทิ การเปิดให้ลูกบ้าน พนักงาน ครอบครัว คู่ค้า สามารถร่วมจองวัคซีนทางเลือกผ่านบริษัท การจัดส่งอาหารและของใช้จำเป็นไปมอบให้ผู้รับเหมาและแคมป์คนงาน การเปิดพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถโปรโมทร้านค้าของตัวเองได้บน Official Facebook Fanpage ของ Major Development การมอบพริวิเลจดูแลทั้งลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงให้ครอบคลุมความเป็น Pet-friendly residences ขณะเดียวกัน เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน มอบ Financial Solution ดูแลทั้งลูกบ้านเดิมและลูกค้าใหม่

3.Stronger Life Journey เร่งศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค และ Customer Journey ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงโควิด-19 เพื่อมาพัฒนาสินค้าและบริการทั้งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีและกลุ่มธุรกิจใหม่ให้ตอบโจทย์ทุกห้วงเวลาชีวิตของผู้บริโภคในอนาคต

ADVERTISEMENT


x
นางสาวเพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทยังคงรักษาขีดความสามารถในการดำเนินการได้อย่างดี มี Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 รวม 4,635 ล้านบาท และสามารถปิดการขายได้ถึง 3 โครงการ ในที่นี่รวมไปถึงโครงการมอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 31 ที่ปิดโครงการได้ภายในเวลาเพียง 1 ปี การก่อสร้างและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย ที่ทำได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน มาตรการปิดแคมป์คนงาน ในช่วงเดือน ก.ค. ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานภาพรวมของบริษัทมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพียงไม่กี่โครงการ เช่น โครงการมิวนีค หลังสวน ซึ่งเดิมก่อสร้างมาได้เร็วกว่าแผนงาน และน่าจะส่งมอบได้ตามกำหนดการ การเดินหน้ากลยุทธ์ Building A Stronger Now จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ต่อยอดการดำเนินงานของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นจากครึ่งปีแรก พร้อมรับมือทุกความท้าทายและดูแลทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้ก้าวไปได้อย่างยั่งยืน
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเร่งเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอก ภายใต้กลยุทธ์ "Building A Stronger Now" ปรับตัวและพัฒนาทิศทางการทำงานของทุกองคาพยพในองค์กร เพื่อให้องค์กร พนักงาน พันธมิตร ลูกบ้าน ตลอดจนลูกค้าใหม่ ยังสามารถก้าวไปได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ภายใต้ทุกความท้าทายในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

"ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังคงได้รับแรงกดดันอย่างมากจากโควิด-19 ทุกธุรกิจและอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน สิ่งที่เราต้องทำคือ ทำให้มากกว่า ทำให้แกร่งกว่า วางแผนพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายสุด ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้เราสามารถควบคุมความไม่แน่นอนเหล่านั้นและรับมือทุกสถานการณ์ได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ใช่แค่ทำให้องค์กรแข็งแกร่งขึ้น เราต้องช่วยพนักงาน ช่วยพันธมิตร ช่วยลูกบ้าน ช่วยลูกค้า ช่วยผู้เกี่ยวข้องกับองค์กรในทุกส่วนให้แกร่งขึ้นไปด้วย เพื่อให้ทุกคนรอดพ้นจากความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน" นางสาวเพชรลดา กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ Building A Stronger Now ประกอบด้วยการปรับตัวและพัฒนาการทำงานภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.Stronger Move เดินหน้าองค์กรให้แกร่งกว่าเดิมและเข้ากับสถานการณ์ เริ่มต้นจากด้านการพัฒนาโครงการ ด้านการพัฒนาโครงการ ปรับแผนในช่วงไตรมาส 4/2564 เน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวแทนคอนโดมิเนียม โดยปรับจากแผนเดิมที่มีบ้านเดี่ยว 1 โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ สู่การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการและคอนโดมิเนียม 1 โครงการแทน ด้านการตลาด เร่งจับมือพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการของเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น อาทิ การเยี่ยมชมโครงการแบบ 360 Virtual Tour ภายใต้ Major Private Tour และจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้านการเงิน เร่งสำรองเงินสด และสินเชื่อพร้อมใช้ ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรับมือความท้าทาย พร้อมทั้งได้เตรียมการในการจ่ายคืนหุ้นกู้ในปีนี้ให้ครบถ้วน ด้านการกระจายความเสี่ยง เร่งเดินหน้าธุรกิจใหม่ๆ ให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ HealthScape ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต (Lifescape Developer) คาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ธุรกิจ HealthScape ในช่วงปลายไตรมาส 3/2564 นี้

2.Stronger Community ดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ทุกส่วนให้แข็งแกร่งกว่าเดิม ทั้งกลุ่มพนักงาน พันธมิตร ตลอดจนลูกบ้าน โดยออกแคมเปญ We've got your back เข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือผู้เกี่ยวข้องในด้านชีวิตความเป็นอยู่ อาทิ การเปิดให้ลูกบ้าน พนักงาน ครอบครัว คู่ค้า สามารถร่วมจองวัคซีนทางเลือกผ่านบริษัท การจัดส่งอาหารและของใช้จำเป็นไปมอบให้ผู้รับเหมาและแคมป์คนงาน การเปิดพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถโปรโมทร้านค้าของตัวเองได้บน Official Facebook Fanpage ของ Major Development การมอบพริวิเลจดูแลทั้งลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงให้ครอบคลุมความเป็น Pet-friendly residences ขณะเดียวกัน เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน มอบ Financial Solution ดูแลทั้งลูกบ้านเดิมและลูกค้าใหม่

3.Stronger Life Journey เร่งศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค และ Customer Journey ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงโควิด-19 เพื่อมาพัฒนาสินค้าและบริการทั้งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีและกลุ่มธุรกิจใหม่ให้ตอบโจทย์ทุกห้วงเวลาชีวิตของผู้บริโภคในอนาคต

นางสาวเพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทยังคงรักษาขีดความสามารถในการดำเนินการได้อย่างดี มี Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 รวม 4,635 ล้านบาท และสามารถปิดการขายได้ถึง 3 โครงการ ในที่นี่รวมไปถึงโครงการมอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 31 ที่ปิดโครงการได้ภายในเวลาเพียง 1 ปี การก่อสร้างและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย ที่ทำได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน มาตรการปิดแคมป์คนงาน ในช่วงเดือน ก.ค. ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานภาพรวมของบริษัทมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพียงไม่กี่โครงการ เช่น โครงการมิวนีค หลังสวน ซึ่งเดิมก่อสร้างมาได้เร็วกว่าแผนงาน และน่าจะส่งมอบได้ตามกำหนดการ การเดินหน้ากลยุทธ์ Building A Stronger Now จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ต่อยอดการดำเนินงานของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นจากครึ่งปีแรก พร้อมรับมือทุกความท้าทายและดูแลทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้ก้าวไปได้อย่างยั่งยืน
#3602
3in1 led 36pcs 1w led flat par light DJ DMX512 Stage Lighting   

ไฟเวที LED FLAT PAR สุดคุ้มการใช้ ปาร์ตี้, ดิสโก้, KTV, ผับ, ร้านอาหาร, สวน, สวนสาธารณะ, พลาซ่า เพิ่มความตื่นตาตื่นใจ ด้วยชุดไฟ วิบวับ  แค่ 990 บาท 

- 1 หลอดมีหลาย สี  RGB MiXED COLOR
- วัตต์: ประมาณ 36 x  วัตต์
- แรงดันไฟฟ้า: 110-220 - v
-แหล่งพลังงาน: AC
- สามารถใช้ได้กับเครื่องควบคุมสัญญาณไฟ DMX512 
- รูปแบบไฟเปลี่ยนได้ถึง 7 แบบ ได้แก่ ปล่อยอัตโนมัติ เปลี่ยนตามจังหวะดนตรี master-slave
- รับประกัน 1 เดือน

สนใจ ติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้า
โทร : 094-5102033
LINE :@gentech
หรือคลิก https://lin.ee/eYs6pVN


#ป้ายNeonflex #ป้ายไฟสั่งทำ #ป้ายเชียร์ #ป้ายร้าน #ป้ายไฟดัด #ป้ายไฟled
#lighting #ไฟled #ledonhome #ป้ายไฟ #ป้ายไฟร้าน #ราคาป้ายไฟ #อุปกรณ์ไฟ
#โคมไฟ #ไฟตกแต่ง #ไฟประดับ #ไฟดาวไลน์led #วิธีเปลี่ยนหลอดled #วิบวับ #laser






#3603
สำนักพรเทวะ (มหาสารคาม)


ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง ดูดวง รับสอนการพยากรณ์ด้วยไพ่ออราเคิล แก้อาถรรพ์ร่างกาย รับลงนะ ลงทอง สาริกาลิ้นทอง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รับทำเทียนสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา รับโชค แก้ชง เสริมดวงเสริมบารมีต่างๆ เรียกคู่ เรียกจิต สักน้ำมันว่านยา 108 ให้บูชาน้ำมันว่านสาวหลง น้ำมันว่านดอกทอง อื่น ๆ รับวิเคราะห์ชื่อ(ฟรี) รับตั้งชื่อ จำหน่ายเพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต ให้บูชาคัมภีร์พระเวทย์

สนใจติดต่อ
นายธีรพัชร์ วงศ์วรนิตย์ (อ.ทองเอก พรเทวะ)
โทร 0846623662
website :  http://goo.gl/Y5nYSO
Facebook: facebook.com/teerapat992018
Line : teerapat999lazada : https://www.lazada.co.th/shop/porntaywa/?spm=a2o4m.pdp_revamp.delivery_options.1.6dbbfeeao328sS&itemId=1863368460&channelSource=pdpshopee :   https://shopee.co.th/teerapat992018 
 
#3604



ญี่ปุ่นเผชิญการระบาดของโควิดระลอกที่ 5 ทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อรายวัน 7,629 คน เฉพาะกรุงโตเกียว 2,848 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว

ทางการกรุงโตเกียวยืนยันยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2,848 คน เป็นตัวเลขรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนในจังหวัดอื่นก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก คือ จังหวัดคานางาวะ 758 คน, จังหวัดโอซากา 741 คน, จังหวัดไซตามะ 593 คนสูงสุดเป็นประวัติการณ์, จังหวัดชิบะ 405 คน, จังหวัดโอกินาวา 354 คนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งประเทศญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อเมื่อวานนี้ 7,629 คน

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกฯญี่ปุ่น ยอมรับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากญี่ปุ่นเพิ่งผ่านช่วงวันหยุดยาว 4 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดฤดูร้อนและเทศกาล "โอบง" ที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อสักการะบรรพบุรุษ

ผู้นำญี่ปุ่นเรียกร้องให้ประชาชนชมการแข่งขัน "โตเกียวโอลิมปิก" ทางโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน และงดออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น

การระบาดระลอกใหม่นี้สร้างความกังวลมากขึ้น เมื่อมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มมากขึ้นคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 30 ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด แต่ทว่าจำนวนผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตยังค่อนข้างน้อย เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย และมีผู้ป่วยหนัก 514 ราย

คณะแพทย์เตือนว่า เชื้อสายพันธุ์เดลตาติดต่อได้รวดเร็ว และลุกลามสู่ปอดได้เร็ว ทำให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มคนหนุ่มสาวก็อาจมีอาการหนักจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและใช้เครื่องช่วยหายใจ คณะแพทย์เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วย และสร้างระบบติดตามผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้าน

หนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ติดเชื้อเพียบ

การระบาดระลอกนี้ผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาววัย 20-40 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ส่วนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 2% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด

ญี่ปุ่นเร่งการฉีดวัคซีนได้มากกว่าวันละ 1,600,000 เข็ม แต่ขณะนี้การจัดสรรวัคซีนเผชิญปัญหาหยุดชะงัก ทางการท้องถิ่นหลายแห่งระงับการฉีดวัคซีนเข็มแรก โดยฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้กับผู้สูงอายุเท่านั้น ขณะนี้ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วราว 68.2% ส่วนประชากรทั้งหมดได้รับวัคซีนครบแล้วราว 25.5% .

ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนแล้ว แต่กลุ่มหนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ภาพรวมทั้งประเทศมีผู้ฉีดเข็มแรก 36.9% ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว 25.5%
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนแล้ว แต่กลุ่มหนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ภาพรวมทั้งประเทศมีผู้ฉีดเข็มแรก 36.9% ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว 25.5%
#3605



โควิด-19 ฉุดธุรกิจรายได้หาย กำไรหด ชิ่งการจ้างงาน คนตกงาน ว่างงานมโหฬาร แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป ชี้ช่ององค์กร นายจ้าง ยังต้องการคนทำงานทั้งสายไอที การตลาดดิจิทัล โลจิสติกส์ รับอีคอมเมิร์ซโต แต่จ้างงานเน้น "ชั่วคราว" สัญญาจ้าง ลดเสี่ยง ความไม่แน่นอนในอนาคต

นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระยะยาวข้ามปี ส่งผลต่อตลาดแรงงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ซึ่งจากการสำรวจและประเมินภาพรวมตลาดพบว่านายจ้างและแรงงานต่างได้มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น แต่ในห้วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ตลาดงาน สายงานต่างๆ เป็นสิ่งที่แรงงานต้องการมากสุด เพื่อสร้างโอกาสการมีอาชีพ รายได้ในยามวิกฤติ  

ทั้งนี้ เจาะลึกตลาดงานยังเป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆ มีดังนี้ 1.กลุ่มงานสายไอทีเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงมาก เพราะปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือทำงานมากขึ้นในยุคโควิด โดยตำแหน่งงานที่ต้องการ ได้แก่ Application Developer, IT Network, IT Engineer, Programmer & Developer, IT Sales, IT Support และ IT Specialist เป็นต้น 2.สายงานที่สร้างรายได้ให้ธุรกิจ ได้แก่  งานด้านการขาย  ทั้งงานขายออนไลน์ รองรับการเติบโตตลาดอีคอมเมิร์ซ  งานพัฒนาธุรกิจ  เพื่อหาตลาดใหม่รวมถึงการเพิ่มฐานลูกค้ารับมือการเปลี่ยนแปลงทุกสถานการณ์   

3.สายงานด้านการตลาดดิจิทัล รองรับธุรกิจในยุคที่เทคโนโลยี ดิจิทัลทรงพลัง หนึ่งในอาชีพใหม่ยอดฮิตคือการเกิดขึ้นของเหล่า "ยูทูปเบอร์"  (YouTuber) และบล็อกเกอร์ (Blocker) เป็นเครื่องมือเสริมศักยภาพในการสื่อสารการตลาดและเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าบริการต่างๆ และยังมีอาชีพ เทรนเนอร์ออนไลน์ ,ติวเตอร์ออนไลน์ ,ธุรกิจให้คำปรึกษาออนไลน์ เป็นโอกาสของคนมองหางานและรายได้เพิ่มเติม


4.สายงานด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเติบโตของการค้าขายอีคอมเมิร์ซ การบริหารงานคลังสินค้าและการขนส่ง โดยตำแหน่งมีหลากหลายทั้งการจัดการคลังสินค้า การจัดส่งสินค้าหรือไรเดอร์ พนักงานขับรถส่งอาหารเดลิเวอรี่, งานขับรถส่งสินค้าและพัสดุ เป็นต้น 5.สายงานบัญชีและการเงิน เช่ย พนักงานบัญชี  พนักงานการเงิน และงานที่ปรึกษาด้านการเงิน 6.สายงานผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะทาง ได้แก่ แพทย์  พยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์


"ในห้วงวิกฤติโรคโควิด-19 บุคลากรทางการแพทย์ เป็นอีกอาชีพที่ความตลาดแรงงานมีความต้องการสูง เพื่อเป็นด่านหน้าในการรับมือกับโรคระบาด" 

นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจ คือการจ้างในสายโรงงานอุตสาหกรรม แม้ว่ามีความต้องการวิศวกรและพนักงานฝ่ายผลิตจำนวนมาก แต่บางอุตสาหกรรม เลือกรูปแบบการ "จ้างงานชั่วคราว" หรือเป็นสัญญาจ้าง เพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ต่างทีไม่แน่นอน ส่วนสายงานอื่นๆที่ยังมีความต้องการสูง เช่น งานบริการลูกค้าให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ งานด้านประกันภัย รองรับธุรกิจที่เติบโตค่อนข้างมาก  เป็นต้น 

ขณะที่คุณสมบัติที่นายจ้างต้องการจากแรงงาน สำหรับงานระยะสั้น คือทักษะการทำงานข้ามสายงานได้ ใช้เทคโนโลยีได้ดี มีการปรับตัวยอมรัและเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว  รวมทั้งพนักงานต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองสูง สามารถทำงานโดยไม่มีหัวหน้าทำงานเพื่อติดตามและแนะนำ พร้อมยังต้องแก้ปัญหาเฉพาะได้ดี และมีมุมมองของความเป็นผู้นำในตัวเอง

"การปรับตัวของแรงงานท่ามกลางยุคโควิด-19 ระบาด เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ควร คนทำงานจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง พร้อมปรับตัว การเรียนรู้สิ่งใหม่ ทั้งทั้งเทคโนโลยี  ระบบใหม่ๆ  การทำงานผ่านแพลตฟอร์มต่างๆมากขึ้น ขณะเดียวกันแรงงานควรทำความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ มีความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และสื่อสารอย่างเหมาะสม  เพื่อให้การทำงานกับผู้อื่นเป็นไปด้วยความราบรื่นและบรรลุวัตถุประสงค์ ภายใต้ข้อจำกัดมากมาย ทั้งระยะห่างทางกายภาพและการทำงานระยะไกลผ่านเทคโนโลยีต่างๆ"
#3606
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยอินสไปเรชั่นทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชอบที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งและก็แฟชั่นการแต่งกายสมัยนั้น





ทำให้คุณพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดความคิดในการทำเครื่องประดับร่วมกับการเล่าเรียนปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก จนกลายมาเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความสวยงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติและนอกจากนี้ทุกสินค้ามีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร แสดงถึงงานหัตถกรรมอย่างแท้จริง


#3607



เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และมีผลต่อการดำเนินชีวิตมากๆ ตัวช่วยที่ใกล้มือที่สุด ณ ปัจจุบันนี้คงหนีไม่พ้นแอพพยากรณ์อากาศ เพราะ แอพ ประเภทนี้ซึ่งมีมากมาย ช่วยให้เรารู้ว่าอากาศจะเป็นอย่างไรบ้างในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า เพียงแค่ปลายนิ้วก็รู้ได้อย่างง่ายดาย

แต่สภาพแวดล้อมมหาสมุทรซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กันล่ะ มีแอพ "พยากรณ์อากาศ" หรือเปล่า? ล่าสุดผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นได้สร้าง "แอพ" มือถืออย่าง Global Ocean on Desk (GOOD) หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า "GOOD APP" เพื่อให้คนทั่วโลกเข้าถึงการพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรได้ง่ายๆ

"GOOD APP" เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกดูข้อมูลพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรได้โดยตรงตามใจต้องการบนมือถือของตัวเอง โดย "แอพ" นี้พยากรณ์ภัยพิบัติทางทะเล อย่างคลื่นพายุซัดฝั่งและคลื่นสึนามิได้ ทั้งยังช่วยทีมชายฝั่งทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ป้องกันและลดภัยอันตรายทางทะเล บริหารจัดการการประมง และแม้แต่การท่องเที่ยว

"แอพ" นี้ใช้งานได้ 3 ภาษา ได้แก่ ไทย มาเล และอังกฤษ โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างไทย มาเลเซีย และจีน ด้วยการสนับสนุนจากกองทุน China-ASEAN Cooperation Fund แอพดังกล่าวแสดงผลการพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรเชิงตัวเลขให้เป็นภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นความสูงของคลื่นพื้นผิว ระยะเวลาของคลื่น ระดับน้ำทะเล กระแสน้ำมหาสมุทรแบบสามมิติ อุณหภูมิและความเค็มของทะเล เป็นต้น ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลกในช่วง 120 ชั่วโมงข้างหน้า (5 วัน) ผ่านสมาร์ทโฟน


แน่นอนว่า "GOOD APP" ไม่ได้ถูกคิดค้นและสร้างขึ้นในคืนเดียว เพราะก่อนที่จะเปิดตัวแอพนี้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ระบบ Ocean Forecast System (OFS) ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของแอพนี้ ถูกพัฒนาขึ้นเป็นเวลากว่าหลายทศวรรษ และมีการนำไปทดลองใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561


โดยที่ OFS ใช้โมเดลเชิงตัวเลขที่คอยประสานการไหลเวียน คลื่น และกระแสน้ำพื้นผิว โมเดลใหม่นี้แตกต่างจากโมเดลมหาสมุทรอื่นๆ ที่พยากรณ์คลื่น กระแสน้ำ และการเคลื่อนไหวแยกกันโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระหว่างกันของปัจจัยเหล่านี้ เพราะโมเดลใหม่ดังกล่าวนำปัจจัยทั้ง 3 นี้มาพิจารณาพร้อมกัน และยกระดับความแม่นยำและประสิทธิภาพของการพยากรณ์มหาสมุทรได้อย่างมาก

ตัวอย่างเช่น ข้อผิดพลาดจากการพยากรณ์ความลึกของชั้นผสม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปกป้องระบบนิเวศทางทะเล การก่อตัวของไต้ฝุ่น และการพยากรณ์สภาพอากาศ นับว่าเป็นจุดติดขัดมาถึงครึ่งศตวรรษ แต่บัดนี้ปัญหาดังกล่าวหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์


ศาสตราจารย์ Qiao Fangli หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบัน First Institute of Oceanography (FIO) ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน กล่าวว่า "โมเดลดังกล่าวได้รับการตรวจสอบแล้วจากการสังเกตและการทดลองในห้องปฏิบัติการ โดยช่วยยกระดับความแม่นยำของการพยากรณ์มหาสมุทรได้ถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์"

ย้อนกลับไปยังปี 2551 เมื่อ Qiao Fangli ได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับความสำเร็จของแบบจำลองมหาสมุทรของเขาในการประชุมวิชาการระดับนานาชาติของ IOC/WESTPAC ครั้งที่ 8 เขาได้พบกับ ศาสตราจารย์ สมเกียรติ ขอเกียรติวงศ์ จากศูนย์ชีววิทยาทางทะเล จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย เป็นครั้งแรก ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของระบบสังเกตการณ์ในทะเลและมหาสมุทรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAGOOS) และ ศาสตราจารย์ Fredolin Tangang จากมหาวิทยาลัย Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM) ของมาเลเซีย หลังจากการอภิปรายกันอย่างดุเดือด แนวคิดความร่วมมือระหว่างทีมนักวิจัยจากจีน ไทย และมาเลเซีย ในการพัฒนาระบบพยากรณ์มหาสมุทรแบบใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น โครงการนี้ได้รับการอนุมัติโดย IOC/WESTPAC ในปี 2553 และในอีก 2 ปีถัดมา OFS แบบปฏิบัติการ ก็เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2555


ศาสตราจารย์ Qiao กล่าวว่า "ประเทศไทย มาเลเซีย จีน และประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สามารถได้รับประโยชน์จากโครงการ OFS และความร่วมมือของเราก็เข้ามาเสริมสร้างมิตรภาพและความร่วมมือในระหว่างประเทศต่างๆ ได้อย่างมาก"

OFS มีบทบาทสำคัญในการค้นหากู้ภัยในเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งเรือท่องเที่ยว 2 ลำ พร้อมนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 130 ราย โดยส่วนมากเป็นชาวจีน จมลงนอกเกาะภูเก็ตทางภาคใต้ของประเทศไทย เนื่องมาจากพายุที่รุนแรงในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

นอกจากภารกิจค้นหาและกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ไทยแล้ว ทีมวิจัยระหว่างประเทศของจีนและไทยได้ให้ความช่วยเหลือทางวิทยาศาสตร์อย่างแข็งขัน พวกเขาใช้ OFS คาดการณ์กระแสน้ำในมหาสมุทรและคลื่น ตลอดจนลดพื้นที่การค้นหาลงเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ ผ่านการคาดการณ์กระแสน้ำบริเวณรอบเรือที่จมได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยให้ทีมกู้ภัยของไทยปฏิบัติภารกิจกู้ภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

OFS จึงนับเป็นระบบ "พยากรณ์" สภาพแวดล้อมในมหาสมุทรระดับชาติของทั้งประเทศไทยและมาเลเซียในขณะนี้ นอกจากความช่วยเหลือทางทะเลแล้ว ยังมีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายๆ ด้าน เช่น การปกป้องแนวปะการัง ความปลอดภัยของการขนส่งทางทะเล การติดตามแหล่งที่มาและการพยากรณ์ขยะที่ลอยอยู่ในทะเล รวมถึงการรั่วไหลของน้ำมัน เป็นต้น สำหรับชาวประมง OFS และ "GOOD APP" ที่พัฒนาขึ้นมาจาก OFS คาดการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงเพื่อที่จะรับรองความปลอดภัยและการผลิต
#3608




รัสเซียไฟเขียวเดินหน้าการทดลองทางคลินิก ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้า/มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดของสหราชอาณาจักร กับสปุตนิก วี ของรัสเซีย จากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของแดนหมีขาว หลังจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการด้านจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุขเคยสั่งระงับกระบวนการเห็นชอบสำหรับการทดลองทางคลินิกในเดือนพฤษภาคม และร้องขอข้อมูลเพิ่มเติม

คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของรัสเซีย เปิดเผยว่า คลินิก 5 แห่งจะดำเนินการทดลองฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้ากับสปุตนิก วี และมีกำหนดเสร็จสิ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2022

ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและสปุตนิก วี ต่างเป็นวัคซีน 2 เข็ม แต่ สปุตนิก วี ใช้ไวรัสเวคเตอร์ที่ต่างออกไปในวัคซีน 2 เข็มของพวกเขา

กองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund หรือ RDIF) ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนวัคซีนสปุตนิก วี แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจให้เดินหน้าการทดลอง

"เวลานี้ RDIF กำลังทำการทดลองทางคลินิกร่วม ในการใช้วัคซีนสปุตนิก วี ไลท์ กับวัคซีนจากผู้ผลิตต่างชาติเจ้าอื่นๆ" กองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง

"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัคซีนสปุตนิก วี ไลท์ สามารถใช้ร่วมกับวัคซีนอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในนั้นรวมถึงกับตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่เป็นผลจากการกลายพันธุ์ของไวรัส"

สปุตนิก วี เป็นการใช้ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ มาเป็นพาหะ (vector) ผลิตโดยใช้วัคซีนชนิดที่ทำให้อ่อนฤทธิ์แล้วและไม่เป็นอันตรายต่อคน มาติดต่อใส่สารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ลงไป แล้วฉีดเข้าร่างกายมนุษย์ เพื่อกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำเชื้อไวรัส จนสามารถตรวจจับและต่อสู้กับเชื้อไวรัสในภายภาคหน้าได้

ก่อนหน้านี้การทดลองในมนุษย์ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าสลับกับสปุตนิก วี ได้รับอนุมติแล้วทั้งในอาเซอร์ไบจาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เบลารุส และอาร์เจนตินา

(ที่มา : รอยเตอร์)
#3609



เมื่อวันที่ 26 ก.ค. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสมาพันธ์นิสิตนักศึกษานานาชาติแห่งประเทศไทย (International Federation of Medical Students' Associations : IFMSA) จัดงานประกาศผลการตัดสินการประกวดนโยบายและนวัตกรรมทางสังคมของคนรุ่นใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 ภายใต้โครงการ Thailand Youth Policy Initiative (TYPI) เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเยาวชนและวัยทำงาน อายุ 16-30 ปี เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 120 คน ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดรวม 30 ผลงาน สำหรับประกวดครั้งนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาและตัดสินอย่างรอบคอบ โดยผู้ได้รับรางวัล Best Innovation ได้แก่ ทีม People Matter (PM 4.0 ) ชื่อผลงานแพลตฟอร์มดิจิทัลสาธารณะ เพื่อการจัดการมาตรการ PM2.5 แบบชี้เป้า และรางวัลชนะเลิศ 3 รางวัล ได้แก่ 1.ทีมDustsappear 2. ทีมAirtopia และ3.ทีมทางของฝุ่น


นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยที่สะสมมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ เนื่องจากมีการก่อสร้างพัฒนาเมืองตลอดเวลา รวมถึงการเผาไหม้ของรถบนท้องถนน จากข้อมูลการประมาณการณ์ความเสียหายจากฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ปี 2563 พบว่า กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งค่าเสียโอกาสด้านสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเครื่องฟอกอากาศ ค่าเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยว และค่าเสียโอกาสของภาคธุรกิจ การประกวดนโยบายและนวัตกรรมทางสังคมของคนรุ่นใหม่เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งนี้ ผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดทุกคน ถือเป็นกำลังสำคัญในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้รับโอกาสต่อยอดผลงานถูกนำไปใช้งานได้จริง และขยายผลต่อไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่ต้นเหตุ เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนได้ในระยะยาว


ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษา30ทีมที่เข้าร่วม และนำเสนอนวัตกรรมวันนี้ เชื่อว่าเราจะได้นโยบายสาธารณะที่ช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ได้จากการช่วยกันคิดนวัตกรรมของคนหลายวัย หลายสาขาจะเป็นประโยชน์กับประเทศ รวมถึงขอให้มีการศึกษาวิจัยเรื่องอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝากคือการนำโนยายสาธารณะที่เป็นสากลของประเทศตะวันตกมาใช้นั้นต้องเรียนว่าใช้ได้เพียงเล็กน้อย เพราะบริบทของประเทศไทยกับตะวันตกมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการทำนโยบายสาธารณะจะต้องมีการศึกษาบริบท วัฒนธรรมของประเทศเราเองด้วย เช่น นโยบายสาธารณะในเรื่องที่เกี่ยวกับ PM 2.5 ต้องทราบว่าส่วนหนึ่งมาจากการเผาไหม้ทางการเกษตรในพื้นที่ชนบท รวมถึงเกษตรกรในประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ที่เราต้องเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และให้ประชาชนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกับป่าได้


ศ.พิเศษ ดร.เอนก กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือเรื่องของช่วงวัย (Generation) ซึ่งตนยินดีต้อนรับคนรุ่นใหม่เสมอ ดังนั้น การที่เราได้ตระหนักว่าเราอยู่ในวัยไหนแล้วรู้ว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร แล้วนำมาปรับเข้าหากันเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งวันนี้ประเทศไทยก็พัฒนาขึ้นมากจากเมื่อก่อน มีเป้าหมายต่อจากนี้ในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้พ้นจากการเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับบน ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เช่นอีกไม่นานประเทศไทยก็จะผลิตวัคซีนป้องกันโควิดได้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ไม่ได้แตกต่างกับที่ต่างประเทศทำอยู่


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดค่ามาตรฐานของฝุ่น PM2.5 ที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ปลอดภัยต่อสุขภาพอยู่ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ในประเทศไทยกลับพบฝุ่น PM2.5 ที่ 50-68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามากกว่ามาตรฐานเกือบ 2 เท่าตัว กลายเป็นปัญหามลพิษทางอากาศต้นเหตุสำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินทางใจ สสส. ตระหนักถึงผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 มุ่งขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ไปจนถึงระดับนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ต้องเร่งแก้ไขแบบองค์รวม ทั้งการปลูกจิตสำนึกส่วนบุคคล การสร้างความสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วมของคนในสังคม เพื่อร่วมแก้ปัญหา ไม่ใช่เป็นการออกกฎ ระเบียบบังคับใช้เท่านั้น


ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า สสส. สนับสนุนการสร้างเมล็ดพันธุ์นักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพจากพลังคนรุ่นใหม่ที่สำคัญของประเทศ เพื่อพัฒนานวัตกรรมให้เป็นรูปธรรม และขยายผลไปสู่การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่ผ่านมา สสส. แก้ปัญหาฝุ่นควันภายใต้แนวคิด 3 ข.คือ 1.เขย่า คิดนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น นวัตกรรมธงสุขภาพ สีฟ้า เขียว เหลือง ส้ม แดง ใช้คู่กับเครื่องวัดค่าฝุ่น แจ้งเตือนให้คนในพื้นที่รู้ระดับคุณภาพอากาศ ดำเนินการใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งลดเสี่ยงต่อสุขภาพ 2.ขยับ นำสิ่งใหม่ที่คิดไปปรับใช้จริงตามบริบทของแต่ละพื้นที่และ 3.เขยื้อน ขยายผลจากระดับปัจเจกหรือระดับพื้นที่ นำไปสู่การผลักดันนโยบายเพื่อการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเร่งด่วน โดย สสส. ร่วมกับสภาลมหายใจ 8 จังหวัดภาคเหนือ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมทำงานอย่างทุ่มเท สามารถแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดความร่วมมือและเปลี่ยนแปลงค่านิยมในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ หากทุกพื้นที่นำแนวคิด 3 ข. ไปปฏิบัติได้สำเร็จสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในพื้นที่ได้.
 
#3610



ขณะที่การระบาดส่อเค้าลากยาว แถมยังยากที่จะควบคุม จนต้องยกระดับมาตรการที่คุมเข้มขึ้น ด้วยการประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่ 13 จังหวัด รวม กทม.และปริมณฑล หลายกิจการต้องปิดชั่วคราว มีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 21.00-04.00 น.

ถือเป็นยาแรงชุดใหญ่ที่หวังจะช่วยยับยั้งโรคระบาด แต่ในทางกลับกันหากยังไม่ได้ผล ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ลดลงอย่างที่หวัง คงได้เห็นมาตรการที่คุมเข้มมากกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมาตรการเข้มเท่าไหร่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะยิ่งมากขึ้นไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

จะเห็นว่าตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด เครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แทบหยุดชะงักลงทันที ทั้งการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนภาครัฐ มีเพียงแค่ "การส่งออก" เท่านั้นที่โตสวนวิกฤต ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและจากฐานที่ต่ำในปีก่อน

โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนมิ.ย. ยังคงร้อนแรง ขยายตัว 43.82% สูงสุดในรอบ 11 ปี คิดเป็นมูลค่ารวม 23,699.43 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวม 6 เดือนแรก ปี 2564 การส่งออกไทยขยายตัว 15.53% คิดเป็นมูลค่า 132,334.65 ล้านดอลลาร์

"รถยนต์" เป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่เติบโตร้อนแรง โดยยอดการส่งออกรถยนต์ในเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 83,022 คัน เพิ่มขึ้น 65.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังยอดขายรถยนต์ในประเทศคู่ค้าหลายประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย และในทวีปยุโรป


ขณะที่ครึ่งปีแรกไทยส่งออกรถยนต์ไปแล้วทั้งหมด 473,489 คัน เพิ่มขึ้น 35.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดการผลิตและยอดขายรถยนต์ในประเทศยังขยายตัวแกร่งเช่นกัน โดยมียอดการผลิตรวม 844,601 คัน เพิ่มขึ้น 39.34% และยอดขายรวม 373,193 คัน เพิ่มขึ้น 13.57%

ทั้งนี้ แม้ว่ายอดการผลิตในเดือนมิ.ย. จะชะลอตัวลงเล็กน้อย 4% จากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 134,245 คัน จากผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ และปัญหาขาดแคลนชิพ จนหลายค่ายต้องปรับลดกำลังการผลิตลง แต่ในภาพรวมถือว่าผลกระทบยังจำกัด โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ปรับเพิ่มเป้าการผลิตรถยนต์ปีนี้เป็น 1.55-1.6 ล้านคัน จากเดิมที่ 1.5 ล้านคัน

การฟื้นตัวของตลาดรถยนต์กลายเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนที่จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย สอดรับกับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้องแรง อย่างบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ราคาหุ้นปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากราคาปิดปีก่อนที่ 16.40 บาท

ส่วนบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ขึ้นมาราวๆ 40% ขณะที่บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY ที่ทำหลอดไฟรถยนต์ อาจจะสวนทางเพื่อนๆ เพราะราคาหุ้นยังไม่ค่อยขยับ

อีกหนึ่งบริษัทที่มองข้ามไม่ได้ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE แม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มยานยนต์โดยตรง แต่ก็ขายชิ้นส่วนให้ลูกค้าในกลุ่มนี้เยอะโดยเฉพาะในยุโรป แถมยังได้อานิสงส์จากเงินบาทอ่อนต่าหนุนอีกแรง จนดันราคาหุ้นพุ่งทำออลไทม์ไฮ พุ่งขึ้นเกือบ 100%

โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ยังคงน้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาด" โดยมองว่าผลประกอบการของหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ในปี 2564-2565 จะฟื้นตัวโดดเด่นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน และตลาดส่งออกที่ฟื้นตัว สวนกระแสการแพร่ระบาดของโควิด-19

เลือก AH เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มเนื่องจากคาดกำไรจะฟื้นตัวโดดเด่นสุดในปี 2564 ขณะที่ Valuation ถูกสุดในกลุ่ม โดยซื้อขายที่ PER เพียง 7.3 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 10 เท่า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ย้อนหลัง 5 ปี ของบริษัทที่ 10.7 เท่า

ส่วนบล.เมบ์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า แม้ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 ของกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์จะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นและผลกระทบจากการขาดแคลนชิพชิพ แต่จะโตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ประสบปัญหาขาดทุน แต่แนะนำให้รอจังหวะเข้าซื้อช่วงราคาอ่อนตัว
#3611



สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดหลักสูตรใหม่เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาเอสเอ็มอีไทย ด้วยการยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี สู่การเปลี่ยนแปลงธุรกิจด้วยฐานคิดนวัตกรรม ภายใต้แนวความคิด " The Transformation" ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จะทำให้องค์กรเกิดการ "เปลี่ยนแปลง" ครั้งสำคัญ โดยมุ่งเน้นตั้งแต่การสร้าง การพัฒนา และการใช้นวัตกรรม เพื่อตอบสนองทิศทางธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตและเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นด้วยการเป็นองค์กรนวัตกรรม ทั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทภาคเอกชนในหลากหลายธุรกิจเข้าร่วมการอบรมกว่า 80 ราย ระหว่างเดือน กรกฎาคม-กันยายน 2564

ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า "NIA เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาเอสเอ็มไทยให้ก้าวสู่การเป็น "Innovation Based Enterprise; IBE" ซึ่งหมายถึงการเป็นองค์กรธุรกิจที่เป็นองค์กรนวัตกรรม และสามารถสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในองค์กร รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ของผู้นำ/แบรนด์/องค์กร ที่สามารถให้บุคคลภายนอกรับรู้และยอมรับการเป็นองค์กรนวัตกรรมของเอสเอ็มอีไทยที่มิใช่แค่การเป็นองค์กรที่ขายสินค้านวัตกรรมเพียงด้านเดียว ซึ่งจะทำให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดนวัตกรรม เพราะฉะนั้น หลักสูตรนี้จะเน้นไปในเรื่องของการใช้เครื่องมือการเรียนรู้ในหลากหลายวิชาที่สามารถสร้างกระบวนการให้เกิดวัฒนธรรมนวัตกรรมองค์กรของผู้อบรมในที่สุด "



ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA เปิดเผยว่า "หลักสูตร SMEs to IBE เป็นหลักสูตรใหม่ของสถาบันวิทยาการนวัตกรรม หรือ NIA Academy ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในระบบธุรกิจของประเทศ โดยมุ่งเป้าไปยังกลุ่มเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว แต่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเองด้วยวิธีคิดแบบการเป็นองค์กรนวัตกรรม ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกท่ามกลางกระแสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โดย NIA ได้คัดเลือกบริษัทที่จะเข้าร่วมในหลักสูตรนี้ทั้งสิ้น 42 บริษัท จำนวน 83 ราย จากกว่า 10 แขนงธุรกิจ เช่น ธุรกิจบริการ ธุรกิจระบบขนส่ง ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขาย และธุรกิจดิจิทัล เป็นต้น และคาดหวังว่า กระบวนการเรียนรู้ที่ได้เตรียมและจัดเป็นหลักสูตรในครั้งนี้ จะสามารถสร้างองค์กรธุรกิจที่มีแนวคิดนวัตกรรมและนำองค์ความรู้และเครือข่ายที่ได้กลับไปประยุกต์ต่อยอดการพัฒนาธุรกิจของตนเองได้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและวัดผลได้"


 
หลักสูตร SMEs to IBE เป็นหลักสูตรการเรียนรู้ที่เปิดรับสมัครเอสเอ็มอีไทยที่สนใจเข้าอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจของตนเอง โดยต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกจากคณะกรรมการหลักสูตรและมีระยะเวลาการเข้าอบรม 10 สัปดาห์ ตลอดหลักสูตรมีวิทยากรที่มีประสบการณ์ชั้นแนวหน้ากว่า 20 คน รวมถึงกระบวนการเรียนรู้เครื่องมือที่จำเป็นต่อการสร้างวัฒนธรรมองค์กรนวัตกรรมที่แตกต่างจากหลักสูตรอื่นอย่างชัดเจน
#3612


เปิดเวทีสัมมนาออนไลน์ " Boost Social Media Marketing Conference" 20-22 ส.ค.นี้ นักการตลาดโซลเชียมีเดียไม่ควรพลาด 17 กูรูนักการตลาดดิจิทัล ตบเท้าพร้อมแชร์ประสบการณ์ใหม่ด้านการตลาดโซเชียลมีเดียในยุคโควิด-19 ที่ต้องฝ่าด่านธุรกิจรัดเข็มขัดอย่างไรให้ได้ผลคุ้มค่า พร้อมอัพเดทเทรนด์ และฟีเจอร์ใหม่ 5 แพลตฟอร์มยอดนิยม พร้อมกลยุทธ์การเข้าถึง DATA แบบไม่ผิดกฎหมาย

นายศิริพงศ์ เตียวพิพิธพร Facebook Marketer และอาจารย์ผู้ออกแบบหลักสูตร Mini MBA Digital Marketing Management ของหลักสูตรประกาศนียบัตรระยะสั้นโดยวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล (Neo Academy by CMMU ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่20-22 สิงหาคม 2564 จะมีการสัมมนาออนไลน์ " Boost Social Media Marketing Conference " ผ่าน 17 กูรูด้านการตลาดดิจิทัลมากประสบการณ์ที่จะรวบรวมความรู้ใหม่ๆด้านการตลาดโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะกรณีศึกษาล่าสุดในยุคการแพร่ระบาดโควิด-19ที่ทำให้โลกโซเชียลหมุนเร็วมากขึ้น พร้อมกับไฮไลท์สำคัญคือการอัพเดทเทรนด์และฟีเจอร์ใหม่ใน 5 แพลตฟอร์มยอดนิยม ได้แก่ LINE OA, FACEBOOK, INSTRAGRAM, YOUTUBE, TIKTOK ด้วยกลยุทธ์ เทคนิค และตัวช่วยทางการตลาดหรือ MarTech


"เราต้องยอมรับว่าโลกการตลาดโซเชียลมีเดียหมุนเร็วมากจนตามไม่ทัน การปรับฟีเจอร์จากเจ้าของแพลตฟอร์มกระทบกับฐานลูกค้าและแผนงานแบบไม่ทันตั้งตัว ทุกครั้งที่เปิดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียขึ้นมา นอกเหนือไปจากข่าวสารบ้านเมือง ทัศนะของเพื่อนและคนที่เราติดตาม เราหนีไม่พ้นที่จะต้องพบเจอกับโฆษณาสารพัดรูปแบบในช่วงล็อกดาวน์เช่นนี้ นักการตลาดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขึ้นมาอยู่บนโลกออนไลน์ แต่เหนือสิ่งอื่นใดการได้ข้อมูลที่จำเป็นมาต้องไม่ผิดกฎหมายด้วย"

ทั้งนี้ในปี 2564 (ค.ศ.2021) คำว่าฐานข้อมูลหรือ Data ในโลกการตลาดดิจิทัลจะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นหลังการมาของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ PDPA ที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายทั้งฉบับ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 รวมถึงระบบปฏิบัติการ iOS 14.5 ที่ถามความสมัครใจของผู้ใช้งาน iPhone ว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้แอปพลิเคชันที่กำลังใช้งาน สามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ ของผู้ใช้งานได้หรือไม่ทำให้เป็นความท้าทายในการได้ข้อมูลมามากขึ้นเพราะต้องได้มาแบบไม่ผิดกฎหมายด้วย


นอกจากนี้ เทรนด์ของปี 2021 อีกเรื่องคือ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีรูปแบบการสนทนาและการสร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในชุมชนผ่าน 'เสียง' เป็นหลักอย่างClubhouse ที่ได้รับความนิยมอย่างมากและตามมาด้วย ฟีเจอร์สนทนาเสียงบนแพลตฟอร์ม Space ใน Twitter, Spotify Greenroom และ Audio & Video Room ใน Facebook โดยมี Podcast เป็นกระแสมาก่อนหน้านี้ ในการสื่อสารที่ผุดขึ้นมาไม่รู้จบ เป็นโจทย์สำคัญที่ต้องนำมาขบคิดหาวิธีการสร้างสรรค์การสื่อสารให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด

"พฤติกรรมของคนหนึ่งคนแสดงออกต่างบุคลิกกันไปในต่างแพลตฟอร์ม นักการตลาดโซเชียลมีเดียหากมีพลังจะเข้าถึงทุกช่องทางก็ไม่มีใครว่าแต่เรื่องความคุ้มค่ายิ่งต้องพิจารณาในช่วงโรคระบาดของโควิด 19 เข้ามา ทุกธุรกิจยิ่งใส่ใจการใช้เงินมากขึ้น ดังนั้นนักการตลาดโซเชียลมีเดียต้องมีพลวัตหรือ Dynamic ก้าวไปกับโซเชียลมีเดียได้เรื่อย ๆ และอนาคต การเรียนการสอนด้านการตลาดจะมุ่งไปในรูปแบบของ Self-Study เป็นหลัก เปิดโอกาสให้ทั้งคนทำงานหรือนักเรียนนักศึกษาก็สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง หลายคนเรียนรู้ ฝึกฝนด้วยตัวเองจนเชี่ยวชาญนำไปใช้ทำงานได้จริงแม้ไม่ได้ผ่านสถาบันการศึกษาก็ตาม เวทีสัมมนาครั้งนี้จะตอบโจทย์ทั้งหมดให้กับนักการตลาดโซเชียลมีเดียและผู้ที่สนใจโดยหากต้องการข้อเพิ่มเติมและซื้อบัตร Early Bird ได้ที่ https:// www.boostconference.co"
#3613



วันที่ 26 ก.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กว่า 16 ปี ที่ประเทศไทยมุ่งมั่น ผลักดันพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2548 และเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก ถึง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2562 จนเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปี พ.ศ. 2564 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยเกณฑ์ข้อที่ 10 ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช หรือสัตว์ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก

นายวราวุธ กล่าวต่อว่าพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานนั้น เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งที่ 3 ของไทย นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548 ซึ่งพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ และมีคุณค่าโดดเด่นระดับโลก รวมไปถึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำภาชี เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดของพื้นที่ มากกว่า 200 กิโลเมตร ประเทศไทยในฐานะเจ้าของแหล่งจะต้องปกป้องรักษาแหล่งที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้คงคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลไว้ให้ลูกหลานต่อไป ซึ่งการที่พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนี้ นอกจากเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของคนในประเทศแล้ว ยังทำให้คนในประเทศเกิดการตระหนัก รู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหนทรัพยากรที่เรามีอยู่ด้วย

"ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างสมดุลในการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน ยกระดับการบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นมาตรฐานสากลมากขึ้น รวมทั้ง ให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยสอดคล้องกับกฎหมาย นโยบาย มติ และระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ไทยจะรักษาแหล่งมรดกโลกพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานให้คงไว้ และสามารถส่งต่อไปยังอนุชนรุ่นหลังสืบไป" นายวราวุธ กล่าว

ด้าน นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี กล่าวทราบภายหลังป่าแก่งกระจานได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของมวลมนุษยชาติว่า รู้สึกยินดีและดีใจที่ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้แก่งกระจานเป็นมรดกโลกของประเทศไทย แห่งที่ 3 ของประเทศไทยในวันนี้ ขอบคุณคนไทยทุกภาคส่วน เจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่าน และผู้บริหารที่ต่อสู้จนได้ความสำเร็จในวันนี้ วันนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนดีใจและภูมิใจ พร้อมเดินหน้าเพื่อดูแลปกปักษ์รักษาผืนป่าแก่งกระจานให้เป็นมรดกสู่ลูกหลานตลอดไป.
#3614
 สีผึ้งว่านดอกทอง ฝังดอกว่านดอกทองและตะกรุดนะเมตตามหานิยม

พุทธคุณ เน้นเรื่อง เสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขายก่อนว่าคาถาก็ให้นึกขอบารมีพระพุทธเจ้า และคุณครูบาอาจารย์คาถากำกับโอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาป้าย แล้วทาที่ปากตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย
หรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
https://pdp.lazada.co.th/products/i2632497251.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfF8zGh5  
#3615


ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี (สสวท.) จัดทำ โครงการ Project-14 สนับสนุนอำนวยความสะดวกการเรียน Online ครบทุกวิชาวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์กว่า 2000 คลิป รับมือสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 มั่นใจผู้เรียนจะได้รับความรู้เทียบเท่าในห้องเรียน เดินหน้าพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สู่ศตวรรษที่ 21

ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับศตวรรษที่ 21 การศึกษาถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ จะต้องเปลี่ยนการเรียนรู้ให้เป็นเรื่องง่าย สนุก ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ ยิ่งปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องเกิดการปฏิรูปโดยตรงถึงเยาวชนให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องง่ายมากขึ้นสำหรับทุก ๆ คน

ขณะนี้ทางสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี (สสวท.) ได้จัดทำโครงการ Project 14 โครงการนำสู่ความปกติใหม่ทางการศึกษา (New Normal Education) ที่เปิดโอกาสให้ครูทั่วประเทศและนักเรียนทุกคนได้เรียนโดยไม่ถูกจำกัดแค่ในห้องเรียน แต่สามารถเกิดการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่ผู้เรียนเลือกหรือกำหนด ด้วยบทเรียนออนไลน์การสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีที่ตรงตามหลักสูตร เพื่อใช้ในการศึกษาค้นคว้า เรียนรู้ หรือทบทวนบทเรียน นอกจากนี้ครูผู้สอนเองยังสามารถใช้แหล่งเรียนรู้นี้ประกอบการจัดการเรียนรู้ตามปกติในห้องเรียน เพื่อส่งเสริมคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนอีกด้วย

"การจัด Project 14 เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์รองรับศตวรรษที่ 21 ควบคู่ไปกับการดินหน้านโยบาย Coding แห่งชาติเพื่อลูกหลานของเรา Project 14 จะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา กำหนดการเรียนรู้ได้ตัวเอง เน้นความเข้าใจเชื่อมโยงชีวิตจริง และตรงตามหลักสูตรผู้เรียนจะได้รับความรู้เทียบเท่าเรียนในห้องเรียน ถือเป็นการวางรากฐานการปฏิรูปการศึกษาโดยตรงถึงเยาวชนไทย" ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว



ด้าน ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี (สสวท.) กล่าวว่า โครงการ Project 14 เป็นการเปลี่ยนบทเรียนจากหนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ คณิศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้มาเป็นบทเรียนออนไลน์ที่ประกอบด้วยวีดีโอการสอนที่ครอบคลุมทุกระดับการศึกษา ตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.6 และแอนิเมชันประกอบที่จะช่วยให้ผู้เรียนสนุก จดจำ และเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น กำหนดการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าใครก็สามารถเรียนได้ เน้นความเข้าใจ เชื่อมโยงกับชีวิตจริง เนื้อหาตรงตามหลักสูตรแกนกลางและหนังสือเรียนของ สสวท. คุณครูสามารถนำบทเรียนไปประกอบการสอนได้เลย เปลี่ยนการเรียนรู้ให้เป็นเรื่องง่าย สนุก ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงและขยายวงกว้าง ทำให้การเรียนต้องผ่านระบบออนไลน์เกือบจะ 100% จึงอยากเชิญชวนนักเรียนทุกระดับตั้งแต่ประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาเข้ามาเรียนรู้ใน Project 14 ซึ่งมีครบทุกวิชาวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ทุกชั้นปี ทุกเล่มที่ สสวท.รับผิดชอบ ประมาณกว่า 2,000 คลิป มั่นใจว่านักเรียนจะได่รับความรู้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ
#3616


วันนี้ (26 ก.ค.) นายเอกชัย แสนดี หัวหน้าฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่า (เขายายดา) ต.ตะพง อ.เมืองระยอง พร้อมด้วย นายยงยศ สุขถาวร หัวหน้าป้องกันรักษาป่าที่ รย.2 (บ้านค่าย) และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ระยอง ได้นำชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ร่วมตรวจสอบบริเวณหน้าผา "จุดชมวิว" เขายายดา

หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนบ้านสำเภาทอง ว่า มีการลักลอบตัดต้นคูนขนาดใหญ่ริมหน้าผาสูงชันซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 429 เมตร

โดยรอบพบร่องรอยการใช้เลื่อยยนต์ตัดต้นคูณขนาดใหญ่จนเหลือเพียงโคนต้น ส่วนต้นคูณบริเวณริมหน้าผาอีก 2 ต้น ถูกตัดกิ่งทิ้งกองไว้ โดยไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด

นายเอกชัย เผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด พบมีการตัดต้นคูนก่อนทิ้งไม้ลงไปบริเวณหน้าผาลาดชัน โดยไม่ทราบว่าการลักลอบตัดไม้ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ใด แต่ในเบื้องต้นถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายป่าไม้ เนื่องจากจุดชมวิวเขายายดา อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่ากะเฉด -ป่าเพ-ป่าแกลง)

และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณปากทางขึ้นเขา ตรวจสอบพบว่ามีรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยขับขึ้นเขาเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรา ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ตะพง บอกว่า ทางขึ้นเขายายดาอยู่ในพื้นที่ ต.ตะพง ซึ่งเป็นถนนกว้างประมาณ 4 เมตร โดยที่ผ่านมา มักจะมีชาวบ้านพากันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งขึ้นเขา และยังได้แวะพักผ่อนจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงาม และยังมีอากาศสดชื่น รวมทั้งยังสามารถมองเห็นทะเลและเกาะเสม็ดได้อีกด้วย



ด้าน ธนิตศักดิ์ เจริญรุจิภูวเลิศ ประธานชุมชนบ้านสำเภาทอง เผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางชุมชนได้ติดป้ายขอความร่วมมือห้ามไม่ให้ประชาชนขึ้นมากางเต็นท์เพื่อพักค้างแรมและห้ามก่อกองไฟ แต่ยังพบว่าประชาชนหลายรายที่ฝ่าฝืน

และเมื่อที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบตัดโค่นต้นคูนขนาดใหญ่ริมหน้าผาจุดชมวิว และเมื่อขึ้นมาตรวจสอบไม่พบตัวผู้กระทำผิดแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก จึงขอให้เจ้าหน้าที่เร่งหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว
#3617


วันที่ 26 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่น.ส.ศิริลักษณ์ ศรีนวลจันทร์ อายุ 25 ปีสั่งซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์จากแม่ค้า แต่ดันไม่ได้เงินกลายเป็นหวยอลเวง ต่อมาน.ส.ศิริลักษณ์ซึ่งทำงานอยู่ต่างประเทศได้ให้ ร.ต.อ.เรืองเดช ศรีนวลจันทร์ ซึ่งเป็นบิดาไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.ประสาท อันธพิระ สารวัตรสอบสวน สภ.วังสามหมอ เพื่ออายัดลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 คือหมายเลข 556725 งวดที่ 27 ชุดที่ 31 งวดวันที่ 16 กรกฏาคม 2564 โดยห้ามมิให้ผู้ใดขึ้นเงินกับทางสำนกงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ออกหมายจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น
 
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ ร.ต.อ.เรืองเดช ศรีนวลจันทร์ ซึ่งเป็นตร.ที่อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี โดยเจ้าตัวอ้างว่าไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ กล่าวแต่เพียงว่า ลูกสาวบอกให้มาแจ้งความอายัดลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไว้ก่อน ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนและทนายต่อไป แต่ยืนยันว่า ลูกสาวจ่ายเงินไปหมดแล้วก่อนวันหวยออก ซื้อทั้งหมด 8 ใบรวมเป็นเงิน 1,320 บาทในจำนวนนี้มีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ด้วย คือหมายเลข 556725
#3618


มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด-19 กรณีเงินเยียวยา สำหรับ แรงงาน 9 กลุ่มอาชีพ ใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ที่ประกาศ ล็อกดาวน์ โดยประกันสังคม เปิดลงทะเบียนผ่าน www.sso.go.th ล่าสุด ได้มีรายละเอียดของการจ่ายเงินเยียวยาให้กับกลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 39 และ 40 ออกมาแล้วว่าระบบจะโอนเงินเข้าวันไหน

สำหรับรายละเอียดสำคัญในการรับเงินเยียวยานั้น ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยาผ่านช่องทางออนไลน์ได้ คลิกที่นี่ ขณะที่ กลุ่มผู้ประกันตน ม.39 ม.40 ยังไม่เปิดตรวจสอบสิทธิผ่านออนไลน์

ยิ่งไปกว่านั้น ต้องไม่ลืมว่า หากได้รับสิทธิ ต้องผูกพร้อมเพย์ กับบัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประชาชน เพื่อรับการโอนเงิน


รายละเอียดหลักเกณฑ์ และช่วงเวลาของการจ่ายเงินเยียวยา ประกันสังคม ผู้ประกันตนมาตรา 33

กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 39 และ 40 นั้น จะมีรายละเอียด ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการรับเงินเยียวยาจากประกันสังคมในกรณีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แตกต่างกันไป ดังนี้ 

กลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 33 มีเงื่อนไข และหลักเกณฑ์การรับเงินเยียวยา จากประกันสังคม คือ 

ผู้ประกันตน มาตรา 33  ใน 9 กิจการ 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มที่ถูกล็อกดาวน์ช่วงแรก ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร  นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา จะได้รับเงินเยียวยาในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ ได้ที่ www.sso.go.th 

ผู้ประกันตน มาตรา 33 ใน 3 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ที่ประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติม คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ได้รับเงินเยียวยาภายในเดือน สิงหาคม 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

สมัคร 'ประกันสังคม ม.40' ได้สิทธิอะไรบ้าง แล้วจะเสียสิทธิ 'บัตรทอง' ไหม?
เช็คสิทธิ์เยียวยา 'ประกันสังคม มาตรา 33' บางคน 'ไม่ได้รับสิทธิ' เป็นเพราะอะไร?
'ประกันสังคม' ม.33 ม.39 ม.40 www.sso.go.th เช็ควิธีผูกพร้อมเพย์รับเงินเยียวยา


ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ทะลุหมื่นห้า! พบเสียชีวิต 129 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 15,335 ราย
'ประกันสังคม' ผู้ประกันตนมาตรา 33 39 40 สรุปรายละเอียดรับ 'เงินเยียวยา' วันไหน
เปิดแผนจัดสรรวัคซีน 13ล้านโดสเดือนสิงหาคมใครได้ฉีดบ้าง

รายละเอียดหลักเกณฑ์ และช่วงเวลาของการจ่ายเงินเยียวยา ประกันสังคม ผู้ประกันตนมาตรา 39 และ 40


กลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 39 และ กลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 40 มีเงื่อนไข และหลักเกณฑ์การรับเงินเยียวยา จากประกันสังคม คือ  

กลุ่มนี้ ผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 39 และ 40 ก่อนวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ให้รีบสมัครภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 กับสำนักงานประกันสังคม เพื่อให้สามารถได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาทจำนวน 1 เดือน สามารถลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ คลิกที่นี่ ซึ่งกลุ่มนี้ยังไม่สรุปจะโอนเงินเมื่อไร ต้องรอลงทะเบียนให้ครบก่อน 
ช่องทางการรับเงินเยียวยาประกันสังคม

ผ่านระบบพร้อมเพย์
วิธีการและช่องทางการลงทะเบียนของแต่ละธนาคาร ตามลิงก์ต่อไปนี้ ธนาคารกรุงเทพ คลิกที่นี่ธนาคารกรุงไทย คลิกที่นี่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คลิกที่นี่ธนาคารกสิกรไทย คลิกที่นี่ธนาคารไทยพาณิชย์ คลิกที่นี่ธนาคารออมสิน คลิกที่นี่ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย คลิกที่นี่ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต คลิกที่นี่ธนาคารทิสโก้ คลิกที่นี่ธนาคารไทยเครดิต คลิกที่นี่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร คลิกที่นี่ธนาคารยูโอบี คลิกที่นี่ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ คลิกที่นี่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ คลิกที่นี่ธนาคารอิสลาม คลิกที่นี่
#3619
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#3620
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด

สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย

เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด

คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย

คาถามหาหลง

โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้งยืน หลงทั้งนั่ง หลงทั้งนอน สวาหะจับติด นะจับจิต โมจับใจ พุทจับไว้ ธาจดจำ ยะจำใส่จิต ติดไว้ใส่ใจ พระอิศวรนารายณ์ พระพาย พระภูมิ พระพรหมเจ้าที่ ครูปู่อยู่ถ้ำ สิทธิให้หลง...ติด

วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย

สอบถามเพิ่มเติม
ไลน์ไอดี teerapat999
โทร 0846623662

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก
https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.searchlist.list.1.54a9133d7TxmgS&search=1&freeshipping=1