• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Shopd2

#3761


วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบพระครูนนทกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอไทรน้อยและเจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร หลังทราบข่าวว่าทางวัดได้ทำน้ำกระชายขาวแจกชาวบ้านฟรี โดยมีส่วนผสมของกระชายขาว น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว และมีชาวบ้านที่เป็นโควิด-19 รับประทานน้ำกระชายขาวของทางวัดทำให้ค่าออกซิเจนเพิ่มขึ้นไม่ต้องไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ปัจจุบันไม่ต้องไปหาหมอแล้ว พระครูนนทกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอไทรน้อย เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย กล่าวว่า การทำน้ำกระชายของทางวัดเริ่มตั้งแต่มีการระบาด covid ครั้งที่ 2 ได้รับสูตรการทำน้ำกระชาย ซึ่งเป็นสูตรของศาสตร์ชาวบ้าน และมีคุณประโยชน์ต่อผู้ที่ได้รับเชื้อที่จะได้ป้องกันได้เร็วขึ้น ถ้าเรามัวแต่รอมันอาจจะสายเกินไปที่จะช่วยเหลือผู้ป่วย และต่อลมหายใจเขาได้ ทางวัดจึงได้คิดสูตรนี้ขึ้นมา 

ส่วนผสมก็จะมีกระชายขาว น้ำมะนาว และน้ำผึ้ง 3 อย่างนี้เอามาผสมกัน โดยวิธีทำจะเริ่มตั้งแต่การหาวัตถุดิบคือกระชายซึ่งเรามีอยู่ในครัวเรือนอยู่แล้วนำมาปั่นให้เป็นน้ำ เอาน้ำมะนาวใส่ผสมลงไปกะพอประมาณให้เรารับประทานได้ไม่ให้เฝื่อนเพราะกระชายมีรสเผ็ด โดยมหาวิทยาลัยมหิดลได้วิจัยออกมาแล้วว่ากระชายขาวมี 2 ชนิดที่ยับยั้งไม่ให้เชื้อโควิด-19 แพร่กระจายได้ โดยวิจัยในหลอดทดลอง มีผลดีมาก เราจึงนำกระชายขาวชนิดนี้มาทำน้ำปั่นกระชายในครั้งนี้ ส่วนมะนาวมีความเป็นด่าง และมีวิตามินซีเยอะ ซึ่งน้ำที่เป็นด่างจะสามารถไปฆ่าเชื้อโรคได้ ยิ่งเป็นเชื้อ covid จะเป็นส่วนผสมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนน้ำผึ้ง ปัจจุบันมีขายตามท้องตลาด นำมาเป็นส่วนผสมได้ ในพุทธประวัติพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้เป็นยาชนิดหนึ่งมีคุณสมบัติดีมาก จึงนำทั้ง 3 อย่างมาผสมกัน เมื่อผสมแล้วจะแต่งรสให้ดูน่ารับประทานมากขึ้น น้ำผึ้งมีความหวาน ส่วนน้ำมะนาวมีความเปรี้ยว ส่วนกระชายจะมีรสเฝื่อน เมื่อนำทั้ง 3 อย่างมารวมกันจะมีความกลมกล่อมมากขึ้น และเหมาะสำหรับผู้ติดเชื้อ covid สามารถช่วยชีวิตคนได้ เป็นศาสตร์ของชาวบ้านซึ่งมีมาตั้งแต่โบราณเราจึงเอาตรงนี้มาใช้ ถ้าเรามัวรอโรงพยาบาลอาจจะสายเกินไป ถ้าเราช่วยได้จะได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระของหมอและพยาบาล เราควรจะช่วยกัน เพราะว่าสังคมเราต้องอยู่ด้วยความสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะได้ผ่านวิกฤตตรงนี้ไปได้       

ส่วนปริมาณในการผลิตวันหนึ่งจะทำได้ประมาณ 350 ขวด ซึ่งเมื่อวานได้ใช้กระชายขาวทำไปประมาณ 30 กิโลกรัม น้ำผึ้ง 2 ขวด น้ำมะนาว 2 ขวด ซึ่งอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ เตรียมไว้ในตู้เย็น วันนี้จะนำไปแจกผู้ป่วยตามบ้านให้ได้รับประทานฟรี ทางวัดจะมีเจ้าหน้าที่คอยแจกให้ญาติที่ยังไม่ได้ป่วยโควิด-19 ให้ผู้ป่วยไปรับประทานเพื่อจะลดเชื้อได้ทันท่วงที ไม่ต้องเสียตังค์ ทางวัดพร้อมที่จะแจกให้ญาติโยมทุกคน ซึ่งทางวัดจะใช้วิกฤตตรงนี้เป็นโอกาสที่จะตอบแทนญาติโยมที่เคยช่วยเหลือวัด ถ้าแช่เย็นจะเก็บได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ถ้าไม่แช่เย็นอาจจะอยู่ได้ไม่นานเนื่องจากทางวัดไม่ได้ใส่สารเจือปน ซึ่งก่อนหน้านี้มีแม่ครัวที่วัดซึ่งลูกสาวติดโควิด-19 ลูกอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ทางแม่ครัวได้นำเครื่องวัดออกซิเจนกับน้ำกระชายของทางวัดไปให้ลูกดื่มเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น วันแรกที่แม่ครัววัดค่าออกซิเจนอยู่ที่ 95 หลังจากดื่มน้ำกระชายปั่นไปแล้วค่าออกซิเจนเพิ่มขึ้นจาก 95 เป็น 99 ภายในไม่กี่วันหลังจากดื่มน้ำกระชาย ปัจจุบันไม่ต้องหาหมอแล้ว อยู่ที่บ้านเนื่องจากดื่มน้ำกระชายขาวของทางวัด ซึ่งน้ำสูตรนี้มีคุณประโยชน์มากอยากให้ลองดื่มดู 
   
นางสุดใจ พานทอง 51 ปี แม่ครัวที่วัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร อายุ 30 ปี กล่าวว่า ลูกสาวติดโควิดมาจากน้องชายแฟนเขาไปอยู่ รพ.สนามได้ 2 วันหมอก็โทร.มาบอกว่าเขาติดเชื้อ แล้วได้น้ำกระชายของหลวงพ่อไปดื่ม 2 โหล ได้ถังออกซิเจน ที่วัดไข้ ที่วัดปลายนิ้ว วันแรกที่วัดค่าออกซิเจนได้ 95 ตอนนั้นยังไม่ได้ดื่มน้ำกระชาย พอดื่มไปได้สัก 2 วันค่าออกซิเจนก็ขึ้นมาเป็น 96, 97, 98 ไม่มีไข้ ดื่มมาตลอดจนวันนี้หมดเชื้อพอดี เป็นตั้งแต่วันที่ 21 ผ่านไป 3 วัน ยังไม่ได้ไปโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็ส่งยาฆ่าเชื้อมาให้ ก็ยังดื่มน้ำกระชายอยู่ ถ้าไม่ได้น้ำกระชายจากหลวงพ่อก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะลูกสาวเป็นหอบด้วย มั่นใจว่าเป็นเพราะน้ำกระชาย เพราะไม่ได้กินอะไร ค่าออกซิเจนก็ดีขึ้นโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล หมอที่อนามัยก็ว่าดี ตอนแรกนึกว่าต้องไปโรงพยาบาลแล้ว เห็นมีคนทยอยมาขอรับน้ำกระชายขาวจากทางวัดทุกวัน

น.ส.จุฑามาส ผลสะอาด อายุ 37 ปี เจ้าของร้านกาแฟ กล่าวว่า ญาติ 5 คนแรกเป็นโควิด-19 และไม่ได้ดื่มน้ำกระชาย ไปพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วัดหลวงพ่อเปิ่น อีก 5 คนหลังที่กักตัวอยู่ที่บ้าน ตนได้นำน้ำกระชายจากหลวงพ่อที่วัดอ่วมอ่องที่แจกให้ประชาชนฟรีให้เขาดื่มแล้วไปตรวจ หมอตรวจ Swab ให้ครั้งแรกตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตนรู้สึกดีใจมาก ต้องขอบคุณที่หลวงพ่อเมตตาต่อประชาชนในย่านนี้ วันนี้ตนมากับแม่มาเอาน้ำกระชาย 10 ขวดไปดื่มเองและแจกจ่ายญาติพี่น้อง

https:// m.mgronline.com/onlinesection/detail/9640000075737
#3762


นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า สรท.คงคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2564 เติบโต 10% ซึ่งหากจะให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ในช่วงครึ่งปีหลังจะต้องมียอดส่งออกให้ได้มากกว่าเดือนละ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่หากควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในภาคการผลิตไม่ได้จนเกิดผลกระทบรุนแรง จะทำให้การส่งออกขยายตัวลดลงเหลือเพียง 7%

โดยสถานการณ์การส่งออกในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมายังขยายตัวได้ดี เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของตลาดส่งออก เช่น จีน สหรัฐ สหภาพยุโรป ประกอบกับทิศทางการอ่อนค่าของเงินบาทที่ช่วยให้แข่งขันได้ดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มการส่งออกสินค้าทุกกลุ่มในปีนี้ยังคงสดใส ยกเว้นข้าว และน้ำตาล

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานประกอบการมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1,500 แห่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น อาหาร ยานยนต์ สิ่งทอ ทำให้กำลังการผลิตลดลงราว 20% ซึ่งเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจราวเดือนละ 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ ช่วงล็อคดาวน์ ต้องเร่งฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดด้วย ไม่เช่นนั้นการขยายพื้นที่และขยายเวลาล็อคดาวน์ออกไปอีกเท่าไรก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

ขณะที่ปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อการส่งออกได้แก่ 1.การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐ จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น จากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายตามปกติ,ดัชนีผู้จัดการฝ่ายการผลิตโลก (World PMI index) ที่อยู่ระดับมากกว่า 50 อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมการผลิตสอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างแข็งแกร่ง

2.ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าใกล้เคียง 33 บาท/ดอลลาร์ จากปัจจัยความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของโควิดในประเทศไทยที่มีความรุนแรง ซึ่งส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไทยปี 2564 ประกอบกับการแข็งค่าของดอลลาร์จากการเผชิญแรงกดดัน หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่รีบคุมเข้มนโยบายการเงิน แม้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะขยับสูงขึ้น

3.ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องถึงระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐ ที่เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในหลายพื้นที่ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ทั่วโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก ได้แก่ 1.สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีความรุนแรงในประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด–19 ภายในประเทศยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถควบคุมและลดการแพร่ระบาดได้อาจจะกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภาคการส่งออกซึ่งถือเป็นเครื่องจักรตัวสุดท้ายที่ยังขับเคลื่อนได้ กรณีการติดเชื้อในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเริ่มแพร่กระจายมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อกำลังการผลิต และการส่งมอบสินค้า ทำให้การส่งออกเติบโตได้เพียง 10% จากที่คาดว่ามีโอกาสเติบโตได้ถึง 15% ประกอบกับมาตรการ Bubble & Seal ซึ่งโรงงานขนาด SMEs ส่วนใหญ่ อาจไม่สามารถดำเนินการได้และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ขณะเดียวกันภาครัฐไม่สามารถอำนวยความสะดวกและสนับสนุนได้ทั้งหมด

2.ปริมาณความต้องการตู้สินค้ายังไม่เข้าสู่ภาวะสมดุล ปริมาณการหมุนเวียนของตู้สินค้ายังไม่เพียงพอ ประกอบกับค่าระวางเรือยังคงปรับตัวอยู่ในทิศทางขาขึ้น ค่าระวางการขนส่งสินค้าทางทะเลยังมีการปรับขึ้นในเกือบทุกเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางยุโรป และสหรัฐ เนื่องด้วยปริมาณการขนส่งทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่สายเรือใช้โอกาสเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มมากขึ้น อาทิ Peak Season Surcharge (PSS) ซึ่งแม้บางบริษัทยอมจ่ายอัตราพิเศษแต่ก็ยังไม่ได้ตู้สินค้า รวมถึงผู้ส่งออกที่ได้รับการยืนยันตู้แล้ว ก็อาจถูกยกเลิกก่อนกำหนด ทำให้ผู้ส่งออกไทยไม่สามารถส่งออกได้ตามเป้า การบริหารจัดการภายในท่าเทียบเรือที่ขาดประสิทธิภาพ และปัญหาจากการล่าช้าของเรือ ทำให้ตู้สินค้าไม่สามารถหมุนเวียนในระบบได้ดีเพียงพอ

3.แรงงานขาดแคลน เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทำให้ความต้องการแรงงานในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น แต่แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศและยังไม่ได้เดินทางกลับเข้ามา ประกอบกับยังไม่สามารถจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้เพียงพอกับจำนวนแรงงานในภาคการผลิต ซ้ำเติมปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ยังมีข้อจำกัดในการจ้างแรงงานแบบ part-time ให้สอดคล้องกับกฎหมายในปัจจุบัน

4.ปัจจัยการผลิตมีปริมาณไม่เพียงพอ ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น อาทิ Semiconductor Chip / Steel โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น และไม่สามารถผลิตได้ตามกำลังการผลิตหรือความต้องการของตลาดโลก

ทั้งนี้ สรท.มีข้อเสนอแนะดังนี้ 1.ไม่เห็นด้วยกับมาตรการ Fully Lockdown โดยขอยกเว้นให้ภาคการผลิตและกิจกรรมโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนำเข้า อาทิ การปฏิบัติงานของท่าเรือ การขนส่งสินค้าเข้าสู่ท่าเรือ ยังสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อสัญญาการค้าระหว่างประเทศ และหลายธุรกิจมีสัดส่วนการผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ หากมีการหยุดประกอบการ จะส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศตามมาในที่สุด

2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยเฉพาะแรงงานภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกให้เร็วที่สุด 3.ขอเรียกร้องให้มีการปรับใช้มาตรการทางสาธารณสุขที่เป็นมาตรฐานเดียวจากส่วนกลาง เพื่อให้สามารถดำเนินการเหมือนกันในแต่ละพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะกรณีโรงงานที่มีพนักงานอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 4.ขอเรียกร้องให้หน่วยงานราชการเร่งปรับปรุงการทำงานในการจัดการด้านเอกสารออนไลน์ (e-Document) และการขออนุญาต/ใบรับรองเพื่อการส่งออกนำเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) เพื่อลดการสัมผัสจากการเข้าไปติดต่อราชการ
#3763


ส.อ.ท.เปิดเผยผลสำรวจปัญหาแรงงานในช่วงวิกฤติโควิด-19 พบแรงงานติดเชื้อในโรงงานผสมกับภาวะการขาดแคลนแรงงานส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงและเริ่มกระทบส่งออกไทย วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีนให้แรงงานม.33 เร่งด่วน ขณะที่การจ้างงาน ลดลง 10 – 20% คิดเป็น 31.3% ส่วนการจ้างงานลดลงมากว่า 50% คิดเป็น 4.8 %

       นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 8 ในเดือนกรกฎาคม 2564 ภายใต้หัวข้อ "การจัดการปัญหาแรงงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19" พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ มองว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อแรงงานในภาคอุตสาหกรรมทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น จนส่งผลทำให้กำลังการผลิตลดลงและกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์หลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 นี้ จึงเสนอให้ภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนให้แก่แรงงาน ม.33 เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานประกอบการ รวมทั้ง รักษาศักยภาพในการผลิตและการส่งออกของประเทศ

จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 166 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 75 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด พบว่า อัตราการจ้างงานในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดนั้น ส่วนใหญ่ภาคอุตสาหกรรมยังสามารถคงอัตราการจ้างงานเท่าเดิม คิดเป็น 53.6% มีการจ้างงานลดลง 10 – 20% คิดเป็น 31.3% มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 10 – 20% คิดเป็น 10.3% และมีการจ้างงานลดลงมากว่า 50% คิดเป็น 4.8 %

ในส่วนของผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนแรงงานที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พบว่า โรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนได้รับผลกระทบทำให้ต้องลดกำลังการผลิตลง น้อยกว่า 30% คิดเป็น 45.2% โรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบ คิดเป็น 26.5% โรงงานที่กำลังการผลิตลดลง 30 – 50% คิดเป็น 20.5% และโรงงานที่กำลังการผลิตลดลงมากกว่า 50% คิดเป็น 7.8% เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ แรงงานบางส่วนต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาโรค หรือกักตัว รวมทั้ง การปิดโรงงานชั่วคราวตามข้อกำหนด คิดเป็น 51.8% รองลงมา สถานประกอบการไม่สามารถหาแรงงานสัญชาติไทยได้เพียงพอต่อความต้องการ คิดเป็น 49.4% และมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกพื้นที่ของแรงงานข้ามจังหวัด คิดเป็น 41.6%

สำหรับมาตรการที่ภาครัฐควรนำมาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การสนับสนุนเงินอุดหนุนในการจ้างแรงงานไทย และขยายโครงการจ้างงานเด็กจบใหม่ คิดเป็น 50% รองลงมา เป็นการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมทดแทนการใช้แรงงาน คิดเป็น 48.8% และการอนุญาตให้นำเข้าแรงงานต่างด้าวภายใต้ MOU เฉพาะแรงงานที่ได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว มีการทำประกันสุขภาพ และต้องผ่านการกักตัว 14 วัน เข้ามาทำงาน คิดเป็น45.8%

กรณีที่ภาครัฐจะมีการเปิดให้มีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตาม MOU ควรมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องใด พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การเตรียมความพร้อมระบบคัดกรอง ติดตาม และประเมินสถานประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าว คิดเป็น 69.9% รองลงมา การจัดตั้งศูนย์ One Stop Service สำหรับนายจ้างที่ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว คิดเป็น 66.9% และการปรับลดขั้นตอน เอกสารที่ไม่จำเป็น และปรับมาดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็น 65.1 %

ทั้งนี้ FTI Poll ยังได้เจาะลึกถึงมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานประกอบการอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การเร่งจัดหาวัคซีนและเร่งฉีดให้กับแรงงาน ม.33 คิดเป็น 92.8๔ รองลงมา การสนับสนุนด้านการรักษาพยาบาลแรงงานที่ติดเชื้อ และสนับสนุนยา อาหาร และเวชภัณฑ์ให้แก่แรงงานที่ติดเชื้อในการรักษาตัวที่บ้าน (Home isolation) คิดเป็น 69.9% และการลดเงินสมทบประกันสังคม เหลือ 1% ถึงสิ้นปี 2564 คิดเป็น 66.9 %

นอกจากนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ยังมองว่ามาตรการที่ภาคเอกชนมีความพร้อมและสามารถที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานประกอบการได้ พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การมีระบบคัดกรองแรงงานก่อนเข้าโรงงาน และการเฝ้าระวังผู้ปฏิบัติงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงตามมาตรการ Bubble & Seal คิดเป็น 83.1% รองลงมา การจัดหาวัคซีนทางเลือกให้แก่แรงงานในสถานประกอบการ คิดเป็น 68.1% และการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด (D-M-H-T-T-A) คิดเป็น 65.7%
#3764
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อมต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น 1


#3765


เจอตอเข้าให้แล้ว "ไวท์" และครอบครัว แถลงข่าวทั้งน้ำตา สุดแค้นใจโดนคู่กรณีลูกชายข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรม ทำร้ายร่างกาย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่มียอมความ อย่ามาอ้างว่าป่วยจิต

เป็นเรื่องเลยทีเดียว หลังจากนักแสดงวัยรุ่น "ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม" ออกมาโพสต์เดือด กรณีที่พ่อและแม่ของเจ้าตัวถูกคู่กรณีขับรถปาดหน้า และลงจากรถมาทำร้ายร่างกายกลางถนน โดยคุณพ่อโดนของแข็งตีที่หัว ส่วนคุณแม่ถูกตบหน้าจนหูอื้อ พร้อมกับโยนกระเป๋าของแม่ทิ้ง และโยนกุญแจรถทิ้ง ซึ่งหลังจากก่อเหตุคู่กรณีได้ขับรถหนีไปหน้าตาเฉย ทั้งยังออกมาโพสต์ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ผิด ท้าให้ไปคุยกันที่ศาล พร้อมกับส่งข้อความไปข่มขู่หนุ่มไวท์ ด่าเป็นดาราอย่าโง่

ล่าสุด วันนี้ (1 ส.ค. 64) หนุ่มไวท์ และคุณพ่อสุระศักดิ์ พุ่มโพธิงาม, คุณแม่นฤมล อริยานุวัฒน์ พร้อมทนายความส่วนตัว "นายไพศาล เรืองฤทธิ์" และ "ทนายพิพัฒน์ รำจวน" ได้เปิดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน สุดงงโดนคู่กรณีทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ยอมรับกลัวจะไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกข้าราชการระดับสูง แต่ขอสู้ตายจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งระหว่างแถลงข่าว ไวท์ พ่อและแม่ ถึงกับร้องไห้ออกมา

พ่อ : "ผมก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรเขาครับ ตอนผมออกมาจากปั๊มน้ำมันก็เห็นรถเขาออกมา แต่ตอนออกมาเราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พอออกมาตรงถนนเขาก็ขับมาจี้ตูดรถผม ผมก็ขับหนีเขา ตอนที่อยู่ในอุโมงค์เขาขับจี้รถท้ายผมแบบติดเลย จนภรรยาบอกว่าพอได้แล้วเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ก็ปล่อยให้เขาไป เขาก็ขับตบมาหารถผมเพื่อให้ผมชน ผมก็เลยเบรก"

"พอผมเบรก เขาก็ขับออกไปอีกรอบแล้วไปดักหน้ารถผม แล้วขับตบเข้ามาหารถผมอีกแล้วเบรกเพื่อให้ผมชน พอผมขับรถชนเขา ผมก็ลดกระจกเพื่อจะถามเขา แต่ไม่ทันจะได้ถามเขาเลย เขาก็ต่อยผม แล้วตรงขมับซ้ายของผมก็เหมือนโดนอะไรแข็งๆ แล้วผมก็ต่อยเขา จนเขาเลือดไหล"

"พอเห็นเขาเลือดไหลผมก็เลยถอยออกมา แล้วก็มีคนมาห้าม ผมก็เลยบอกว่าพอแล้วน้อง น้องเลือดไหลแล้ว ผมไม่ทำน้องแล้ว เขาก็เอะอะโวยวาย เอาเท้าถีบรถผม กระทืบ แล้วก็เอากระเป๋าของภรรยาผมเขวี้ยงทิ้ง แล้วปิดกุญแจแล้วตบหน้าภรรยาผม ตอนที่เขาต่อยหน้าผม ผมก็แค้นนะ แต่อย่าไปทำเขา (เสียงสั่น จนไวท์ลูกชายต้องยื่นมือมาจับขาพ่อเพื่อปลอบใจ ในขณะที่ไวท์และแม่ก็ร้องไห้ออกมาเช่นเดียวกัน) ผมก็กลัวไวท์เสียชื่อเสียงด้วย ผมก็เลยหยุดเพราะผมก็ไม่อยากทำเขาอีกแล้ว"

"ผมก็ไม่รู้ว่าเขามาทำผมทำไม ผมไม่ได้ปาดหน้าเขา ไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย เขามาทำแบบนี้กับผมทำไม ผมอยากถามเขาว่า มาทำผมทำไม ผมไม่ได้ไปทะเลาะอะไรกับเขาเลย ไม่ได้อะไรกับเขาสักอย่างเลยครับ พอเขาตบหน้าผมเขาก็ขับรถออกไป แล้วก็ถอยหลังมาชนรถผมอย่างแรง จนรถเลื่อนไปชนลูกน้องผมจนบริเวณเอวช้ำ แล้วเขาก็หนีเลย ผมก็เลยไปแจ้งความครับ"

"ตอนเขาลงมาจากรถ เขาไม่พูดอะไรเลย เขาต่อยอย่างเดียวเลย เหมือนเขาเป็นคนบ้า ตาเขา... แฟนเขายังบอกช่วยหนูด้วยๆ แฟนเขายังร้องไห้วิ่งหนีไปท้ายรถกระบะที่เห็นในคลิปเลยครับ พอจบแฟนเขาถึงวิ่งกลับมาพอเขาขึ้นรถไป"

พอไปแจ้งความตำรวจว่าไงบ้าง?
พ่อ : "เขาไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะว่าตอนแรกผมไม่รู้ทะเบียนรถเขาเพราะตกใจเลยจำไม่ได้ แต่ผมจำได้ว่าเจอเขาที่ปั๊มน้ำมันก็เลยขับรถกลับไปที่ปั๊ม เพื่อขอดูคลิปที่ปั๊มก็เลยรู้ทะเบียนรถเขา ตอนที่อยู่ที่ปั๊มผมก็ไม่เห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ"

แม่ : "เหตุการณ์ตอนนั้นเขาขับรถมาเบรกเพื่อให้สามีชนรถเขา พอเขาชนเสร็จก็เหมือนที่สามีเล่าเลยค่ะ พอชนเสร็จเขาก็ลงมาจากรถ แล้วสามีก็ลดกระจกรถลง แล้วสามีก็ลงไปจากรถ แต่เรายังอยู่ในรถกับลูกน้อง พอลูกน้องบอกสามีเราโดนต่อย เราก็เลยลงไปจากรถเพื่อไปห้าม ก็บอกให้สามีออกมาเพราะเขาไม่ได้ใส่แมสก์ แล้วเราก็กลัวด้วย เราก็ต้องป้องกันตัวเอง เราก็ดันสามีออกมา คือขวางเลย"

"ก็ถามเขาวว่าพี่ไปทำอะไรให้น้องเหรอ ทำไมถึงมาทำอะไรแบบนี้กับพี่ ถ้าเกิดแฟนพี่ทำอะไรไปพี่ขอโทษ แต่เขาไม่ฟังเราเลย เหมือนเขาทำสามีเราไม่ได้ เขาก็ไปคว้าเอากระเป๋าเราที่อยู่ในรถไปโยนทิ้ง พอโยนทิ้งเขาก็มาตบเราเลย เราพยายามบอกว่าพอได้แล้ว เราไม่อยากจะมีเรื่องแล้ว อยู่ดีๆ มาตบเรา ก็งงมากค่ะ ตบแรงจนเราหูอื้อเลยค่ะ อารมณ์เขารุนแรงมาก ตอนนั้นไม่มีการปะทะคารมอะไรกันเลยค่ะ"

พ่อ : "ไม่มีเลยครับ ผมยังงงเลยว่าไปทำอะไรเขา ถ้าผมไปทะเลาะกับเขา ผมยังจะเป็นคนผิด แล้วผมก็ไม่ได้ไปปาดหน้ารถเขา เพราะรถเขาอยู่หลังรถผม เขาขับมาจี้ท้ายรถผมจนเกิดเรื่องครับ ไม่มีชนวนเหตุอะไรเลย ฝากผ่านสื่อด้วยนะครับว่าผมไปทำอะไรให้เขา แล้วเขามาตบหน้าเมียผมทำไม (ร้องไห้) ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายคุณออกมาพูด"

พอได้ทราบเรื่องไวท์รู้สึกยังไง?
ไวท์ : "รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากครับ แต่ที่ผมเสียใจมากก็คือคู่กรณีตบแม่ผมครับ แล้วผมเพิ่งทราบครับว่าคู่กรณีคนนี้ได้เอาค้อนตีหัวพ่อผมครับ (ร้องไห้) ผมรู้สึกว่ามันไม่สมควรครับ และผมได้ทราบมาว่า คู่กรณีของพ่อเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรมครับ ผมกลัวว่าถ้าวันนั้นพ่อและแม่ของผมเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะช่วยเหลือผม ผมไม่รู้ว่าผมต้องทำยังไงเพราะผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผมไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุตรงนั้น"

"ผมรู้สึกเสียใจมากที่คู่กรณีคนนั้นทำแบบนี้กับครอบครัวผมครับ ผมอยากให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผมด้วยครับ (เห็นไวท์บอกว่าขอให้ใครที่มีหลักฐานในวันนั้นส่งมาให้ด้วย?) ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองอยากที่จะโพสต์สิ่งที่พ่อและแม่ผมได้เจอเรื่องราวนั้นมาเพื่อออกสื่อ ในการที่ใครที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นช่วยส่งคลิปหรือส่งหลักฐานสำคัญมาให้ผม ผมก็เลยตัดสินใจโพสต์ลงไปเพราะว่าผมเสียใจและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวแบบนี้กับครอบครัวผมครับ"

คู่กรณีอ้างว่า รู้จักไวท์ด้วย
ไวท์ : "พูดตรงๆ เลยนะครับ ผมไม่รู้ครับ และผมก็ไม่เคยเจอและไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยครับ แล้วเขามาพูดว่าเขารู้จักเพื่อนผม อันนี้ผมรู้สึกว่า... คือเขาจะรู้จักหรือไม่รู้จัก เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับครอบครัวใครก็ได้แบบนี้ครับ"

มีคนส่งหลักฐานมาให้บ้างรึยัง?
พ่อ : "มีคนส่งมาให้แล้วครับ แต่เราขอปิดไว้ก่อนครับ"

พอไวท์เห็นภาพหลักฐานที่คนส่งมาให้ ไวท์รู้สึกยังไงบ้าง?
ไวท์ : "ผมเข้าใจครับว่า คุณพ่อผมและคู่กรณีคนนี้เขาอาจจะรู้สึกว่าบนท้องถนน อาจจะผิดทั้งคู่ในการที่ขับรถประมาทในระดับนึง แต่อย่างที่คุณพ่อผมบอกว่าไม่ได้ไปหาเรื่องเขา แล้วในเหตุการณ์ที่คุณแม่ผมโดนตบ คุณแม่ผมแค่จะเข้าไปห้ามเขา แต่ไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายคู่กรณี ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่คุณแม่ผมจะต้องโดนตบครับ แล้วเขายังมาทำลายข้าวของในรถ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า และกุญแจรถด้วยครับ"

คู่กรณีไปคอมเมนต์ด้วยว่าเรื่องจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันหนังคนละม้วน เดี๋ยวไปเจอกันที่ศาล ด้านทนายยอมรับว่ารู้สึกกังวลเพราะพ่อของคู่กรณีเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม
ทนายไพศาล : "เบื้องต้นทางทีมทนายเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ผมทราบจากข่าวว่าคู่กรณีเคยมีข่าวเรื่องการทำร้ายพนักงานร้านโทรศัพท์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำผิดซ้ำซาก ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และทราบมาว่าเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทีมทนายเราก็มีความกังวลในเรื่องของการทำคดี เริ่มต้นตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน"

"แต่ยังไงก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์บนท้องถนนครับ เพราะว่าพฤติการณ์และพฤติกรรมไม่ยำเกรงกฏหมายเลย มีการจงใจขับรถหวาดเสียว ปาดหน้า แล้วถอยหลังมาให้ชน ซึ่งพยานหลักฐานทั้งหมดเราจะไปพิสูจน์กันในศาล (หลักฐานที่เรามีเรามั่นใจมั้ยว่าจะชนะคดี?) ก็ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินครับ ต้องอธิบายแบบนี้ว่า จากที่ทราบในข่าวทางคู่กรณีมีการกระทำผิดหลายครั้งแล้ว ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะมั่นใจ แต่ในทางเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และเราเชื่อว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วเขาจะต้องได้รับการลงโทษ อันนี้ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลตามพยานหลักฐาน ทางผู้เสียหายยืนยันแล้วว่าดำเนินคดีถึงที่สุดแน่นอน"

"เบื้องต้นเราได้ข้อมูลมาว่ามีการใช้ค้อนเป็นอาวุธในการทำร้ายด้วย ซึ่งสามารถเล็งเห็นได้ว่าเขาประสงค์ให้มีการบาดเจ็บสาหัส หรือประสบถึงชีวิต ซึ่งในข้อกว่าหาตรงนี้อยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวนครับ แต่ข้อกล่าวหาหลักๆ เลยคือทำร้ายร่างกายคุณแม่ และการขับรถประมาทหวาดเสียว"

ข้อกล่าวหาทั้งหมดโทษหนักแค่ไหน?
ทนายไพศาล : "ข้อกล่าวหาที่คุณทนายแจ้งไปนั้นยังเป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่หนัก แต่ข้อกล่าวหาเบื้องต้นที่มีการใช้ค้อนในการตีไปที่อวัยวะสำคัญ มันเป็นข้อหาหนักแต่ขอยังไม่บอก เดี๋ยวขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ซึ่งพฤติการณ์พฤติกรรมไม่ยำเกรงต่อกฏหมายบ้านเมือง คือไม่สำนึก แล้วทราบจากข่าวคู่กรณีเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรมด้วย ซึ่งผู้เสียหายก็มีความกังวลในเรื่องของคดีว่าเขาจะได้รับความยุติธรรมไหม"

คู่กรณีอ้างป่วย
"แล้วที่ผมทราบจากข่าวเขาอ้างตนว่าป่วย แต่ในตอนที่เกิดเหตุมีสติพูดรู้เรื่องหมดนะ ฉะนั้นมันอ้างไม่ได้ มันฟังงไม่ขึ้นนะครับ หลังเสร็จรูปคดีทางนี้จะแถลงข่าวอีกครั้งครับ แต่คดีนี้มีโทษหนักแน่นอน เพราะอาวุธที่ใช้ตีไปที่อวัยวะสำคัญด้วย ประสงค์ต่อผลเลยนะครับ อาจจะถึงชีวิตเลย แล้วทราบจากข่าวว่าเขาเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว และมีการยอมรับผิดแล้ว และมีการให้ข่าวไปแล้วว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็ยังทำอีกนะครับ พฤติกรรมทำผิดซ้ำซาก ไม่สำนึกไม่ยำเกรงกฎหมาย แล้วยังเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงด้วย เดี๋ยวต้องพิสูจน์กันในศาลครับ"

"ก็ต้องฝากสื่อให้ช่วยติดตามครับ ผมขอยกตัวอย่างไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้ามีบุคคลยกตัวว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้มีอำนาจ เป็นคนรวย แล้วจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ผมถามกลับนักข่าวว่ามันทำได้หรือไม่ มันถูกต้องไหม สังคมจะอยู่ยังไง ความสงบเรียบร้อยในสังคมจะเกิดยังไง"

"อีกประเด็นนึง ถ้ามีการกล่าวอ้างว่าป่วย มีบัตรจิตเวช มีการได้รับการรักษา แล้วปล่อยปละให้ออกมาทำแบบนี้ในสังคม ไปทำคนอื่น แล้วเราจะอยู่กันยังไงครับ คนป่วยต้องได้รับการรักษานะครับ ต้องมีผู้ดูแลนะครับ ผมสมมตินะครับว่าถ้าเขาไปโดนคนอื่นทำร้ายจนถึงตาย โดนกระทืบตายข้างถนน แล้วผู้ดูแลเขาจะไม่เสียใจเหรอครับ ฉะนั้น ผมอยากให้ดูแลพาไปรักษาครับ แต่อันนี้มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นในส่วนของรูปคดี เพราะการกระทำมีสติ พูดรู้เรื่องทุกอย่างนะครับ"

หลังจากที่ไวท์โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คู่กรณีก็ไดเรกแมสเสจมาหา
ไวท์ : "หลังจากที่ข่าวลงไป เขาได้ส่งไดเรกแมสเสจมาหาผม และได้เข้ามาโพสต์ไอจีผมต่างๆ นานา ผมก็กลัวครับ ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูงก็ยิ่งกลัวครับ เขาก็ส่งข้อความมาว่า เป็นดาราอย่าโง่ มึงคิดว่าพ่อแม่มึงถูกมากใช่ไหม ไปคุยกันในชั้นศาล เดี๋ยวคุณก็รู้ เขาก็ขู่ในทำนองนั้นครับ (ไวท์รู้สึกว่าข้อความที่เขาส่งมาส่วนตัวเป็นการข่มขู่เรา?) ใช่ครับ"

ทนายไพศาล : "ทางครอบครัวกลัวมากนะ เขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูง หนึ่งกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม สองกลัวรูปคดีไม่เป็นข้อเท็จจริง วันนี้หลังจากแถลงข่าวเสร็จทางทีมทนายจะพาผู้เสียหายไปให้การเพิ่มเติมที่ สน.ท้องที่เกิดเหตุครับ อยากให้สื่อมวลชนสร้างบรรทัดฐานให้สังคมครับ ยอมรับว่าทางทีมทนายก็กังวล มันอาจจะมีผล แต่เหนืออื่นใดคือข้อเท็จจริงครับ ความจริงก็คือความจริงครับ อยากให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยจับตาดูคดีนี้ว่าจะจบยังไง เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก มันหลายครั้งแล้ว"

ไม่ขอไกล่เกลี่ย เอาเรื่องให้ถึงที่สุด
พ่อ : "ไม่ครับ ผมจะทำให้เขารู้ว่าอย่าไปทำกับคนอื่นอีก เพราะผมเห็นเขาทำกับคนอื่นมาหลายครั้งแล้ว ผมอยากจะฝากบอกเขาว่าออกมาพูดความจริง แล้วคุณทำผมเพื่ออะไร ผมไม่ได้ไปทำอะไรคุณเลย ผมอยากจะถามเขาว่าคุณมาทำผมทำไม แค่นี้เองครับ (ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด?) ครับ"

ไวท์ : "เขาทะเลาะกับพ่อผม ผมเข้าใจ แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือเขาตบแม่ผม ผมเสียใจมากและผมจะดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดครับ (อยากบอกอะไรเขา?) อย่างที่คุณบอกกับพี่นักข่าวเมื่อวานว่า ถ้าคุณรู้ว่าสองคนนี้คือพ่อแม่ของผมแล้วคุณจะไม่ทำ มันไม่ใช่หรอกครับ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่น คุณก็ไม่สมควรทำครับ"
 
#3766



ในงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2564 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ณ อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี ประชาชนที่สนใจรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป รับฟังการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ AM ความถี่ 891 กิโลเฮิรตซ์ และสามารถรับชมผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล www.glo.or.th แอปพลิเคชันของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล "GLO Lottery official" ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วทำรายการซื้อสลากงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ในวันที่ 4 สิงหาคม 2564 และจองล่วงหน้าสลากงวดวันที่ 1 กันยายน 2564 ในวันที่ 5-6 สิงหาคม 2564 ผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารกรุงไทย

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดให้ลงทะเบียนจองคิวเพื่อขอรับเงินรางวัลสลากงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th หรือแอปพลิเคชัน GLO Lottery โดยเริ่มจองคิวได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ถูกรางวัลได้รับบริการที่สะดวกและเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ผู้ถูกรางวัลสามารถรับเงินรางวัลได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ สามารถขึ้นเงินรางวัลงวดปัจจุบันได้ทุกรางวัลยกเว้นรางวัลที่ 1 โดยมีค่าธรรมเนียมการให้บริการจากผู้ขอรับเงินรางวัล ในอัตราร้อยละ 1 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 0-2528-9999

สำนักงานสลากฯ ขอเตือนตัวแทนจำหน่าย และผู้ซื้อจองล่วงหน้าฯ การนำสลากไปขายต่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือเว็บไซต์ต่างๆ เป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขในสัญญา และหลักเกณฑ์การรับสลากไปจำหน่าย

สำนักงานสลากฯ ขอเตือนผู้ซื้อสลาก การซื้อสลากผ่านช่องทางดังกล่าว หากยังไม่ได้รับสลากมาไว้ในครอบครอง เมื่อถูกรางวัลท่านอาจไม่สามารถนำสลากมารับเงินรางวัลได้

https:// www.thairath.co.th/news/local/2150636
#3767



ที่ประชุมบอร์ดผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติอนุมัติมาตรการช่วยผู้สูงอายุ จ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการ คืนเบี้ยยังชีพ พร้อมพักชำระหนี้ 6 เดือน

นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30ก.ค.ที่ผ่านมาจากการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ 2/2564 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และคณะผู้บริหารกระทรวง พม.

ทั้งนี้คณะกรรมการฯได้เห็นชอบแนวทางขับเคลื่อนการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจ่ายเงินสงเคราะห์ฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน - กันยายน 2563 เป็นเวลา 4 เดือน และในปีงบประมาณ 2564 เสนอให้จ่ายในอัตราการจ่ายเดิม โดยจ่ายแบบเดือนเว้นเดือน เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2563 โดยผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือฯ 100 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือฯ 50 บาทต่อเดือน ส่วนระยะยาว เห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะทำงานฯ เพื่อพิจารณาการงบประมาณดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

นางพัชรีกล่าวว่าที่ประชุมยังได้เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้สูงอายุที่รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น โดยจ่ายเงินคืนให้กับผู้สูงอายุที่รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น และได้นำเงินมาคืนให้ทางราชการแล้ว พร้อมระงับการดำเนินคดีเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยจะเสนอ ครม. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พิจารณากระบวนการคืนเงินฯ ให้กับผู้สูงอายุ โดยจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพื่อกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2566–2580) และแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะกลาง 5 ปี (พ.ศ. 2566–2570) รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2563 และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพักชำระหนี้ของลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 3 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 31 มีนาคม 2565

https:// m.mgronline.com/politics/detail/9640000075096
#3768
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อมต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น 1


#3770



แรงบันดาลใจในวัยเด็กที่เกิดขึ้นไม่ได้ถูกลบไป หรือละทิ้งความพยายามที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง สำหรับ สาวเก่งมากความสามารถ หนึ่งในนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง "หมอเจี๊ยบ-พญ.ศรินทิพย์ สุนทรัช" ผู้ก่อตั้งเดอะ โคลฟเวอร์ คลินิก (The Clover Clinic) กลับนำแรงบันดาลใจที่มีมาต่อยอดเป็นสิ่งที่ตนเองหลงใหล โดยเริ่มต้นจากคำว่า "อยากช่วยเหลือคนอื่นๆ" กับการเริ่มต้นธุรกิจความสวยความงามของตัวเอง แม้เป็นลูกสาวคนโตของบ้านจากพี่น้อง 3 คน แต่ที่ผ่านมาครอบครัวไม่ได้บังคับให้สานต่อธุรกิจที่บ้านเลย (ธุรกิจเซียงกง) ให้เลือกตามความชอบของตัวเอง ซึ่งก็รู้สึกว่าเลือกถูก เพราะอาชีพในปัจจุบันตรงกับจริต และมีความสุขในทุกวันที่ได้ออกไปทำงานดูแลคนไข้


หมอเจี๊ยบ-พญ.ศิริทิพย์ เรียนจบมัธยมปลายสายวิทย์-คณิตศาสตร์ จากโรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในวัยเด็กคิดเสมอว่าอยากทำอะไร แต่ด้วยธุรกิจของครอบครัวเป็นเซียงกงคือ นำเข้าอะไหล่รถยนต์ญี่ปุ่นมาขาย จึงมองว่าไม่ได้เหมาะกับตัวเอง อีกทั้งตอนนั้นมีการพูดคุยกับคุณพ่อว่า ในครอบครัวมีผู้สูงอายุ ประกอบกับตัวเองชอบดูแลช่วยเหลือคนอื่นๆ จึงเป็นที่มาให้เลือกเรียนสายแพทย์ จึงศึกษาต่อคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และหลังเรียนจบได้มีโอกาสไปศึกษาต่อด้านผิวหนังที่มหาวิทยาลัยเวลส์ รวมทั้งศึกษาต่อด้านผิวหนังและความงามที่มหาวิทยาลัยไมอามี และด้านชะลอวัย (Anti-aging) ได้รับ American board anti-aging medicine


"ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เรียนแพทย์ทั่วไป 6 ปี จากนั้นไปเรียนต่อเฉพาะทาง Diploma Skin เพราะสนใจด้านผิวหนังและความงาม  สามารถวิเคราะห์ได้จากการมองเห็นตั้งเเต่แรกและตรวจเพิ่มเติม ส่วนเรื่องความงามเป็นคนที่ชอบเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว คิดว่ารักษาแบบนี้น่าจะดีกับคนไข้ ถึงแม้เป็นเพียงการแก้ไขรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นการช่วยรักษาจิตใจ ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะการทำให้คนไข้ มีความมั่นใจมีความสุขมากขึ้น ถึงแม้เป็นการรักษาแบบ Outside-In แต่ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทั้งภายในและภายนอกกี่ยวข้องกันหมด เรารักษาผสมผสานทั้ง Inside-Out และ Outside-In พอดูแลคนไข้แบบองค์รวมทั้งหมด คนไข้มั่นใจมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น เห็นตัวอย่างหลายๆ เคสไม่ใช่แค่ภายนอกดีขึ้นอย่างเดียว หลายอย่างเช่นความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ความมั่นใจ เรื่องการงาน ทุกอย่างดีขึ้นหมด ทำให้ชอบและรักที่จะทำงานนี้ และทำให้รู้ว่านี่คืองานที่เป็นตัวตนและตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด"

เส้นทางการทำงานของหมอเจี๊ยบ เริ่มต้นทันทีหลังเรียนจบกับเส้นทางความสวยความงาม โดย 8 ปีแรกทำที่คลินิกความงามทั่วไป ตอนนั้นรู้สึกว่าใช่ เพราะเวลารักษาคนไข้ ไม่ได้คิดว่าเป็นการรักษา แต่มองว่าเป็นการแนะนำเพื่อน มีการพูดคุยบางคนสนิทจนเป็นมิตรภาพยาวนาน ที่ยังคุยกันมาจนถึงปัจจุบัน เป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนานที่ดีกับคนไข้ไปโดยปริยาย บางคนดูแลเขาตั้งแต่เป็นนักศึกษา จนปัจจุบันแต่งงานมีลูกไปแล้ว ก็เป็นการตอกย้ำความคิดของเราในวันที่เริ่มต้นว่า อยากดูแลทุกคนให้ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ  รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่อยู่ในหลายช่วงของชีวิตคนอื่น เป็นคนที่ช่วยทำให้คนที่เป็นทุกข์เพราะสิวเรื้อรังดีขึ้น ทำให้เจ้าสาวรู้สึกสวยที่สุดในวันแต่งงาน หรือเป็นส่วนที่ทำให้คนไข้ได้ดูแลตัวเองและรักตัวเอง และส่งพลังบวกไปยังคนรอบข้าง

สำหรับจุดเปลี่ยนที่มาเริ่มต้นทำคลินิกของตัวเอง หมอเจี๊ยบยอมรับว่าเพราะมองเห็นว่า อยากมอบประสบการณ์และทุกอย่างให้คนไข้ในแบบดีที่สุด อยากใช้อะไรที่เลือกมาแล้วว่าดีที่สุด อยากหลุดจากกรอบเดิมๆ ที่เคยทำมา อยากใช้ยาและเครื่องมือดีที่สุด และมอบบริการที่ดีและจริงใจเหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน ถึงแม้ต้องซื้อเครื่องมือราคาแพงและลงทุนสูงแต่อยากเน้นสิ่งที่อยากทำเป็นหลัก เลยเป็นจุดเริ่มต้น The Clover สาขาแรกที่สุขุมวิท 26 ด้วยความที่อยากมีสถานที่ ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนไข้ โดยเป็นย่านออฟฟิคมุ่งเน้นการที่ไม่มีเซลล์ขาย เพราะไม่อยากให้คนไข้รู้สึกอึดอัดและถูกยัดเยียด ลูกค้าทุกคนได้เจอกับคุณหมอโดยตรง ถึงแม้ว่าการขายแบบ hard sale อาจช่วยให้ยอดขายมากขึ้น แต่การทำคลินิกตามความชอบของตัวเอง คิดว่าตัวเองอยากใช้บริการคลินิกแบบไหน จึงอยากทำให้คนที่เข้ามาสบายใจ ที่สำคัญคือ ประทับใจและต้องกลับมาอีกครั้ง เลยยึดแนวทางนี้จนขยายสาขามาเรื่อยๆ และเติบโตขี้นจนถึงปัจจุบัน


การทำงานในฐานะลูกน้องและเจ้าของธุรกิจสาวไฟแรงอย่างหมอเจี๊ยบยึดหลัก ต้องจริงใจทั้งกับพนักงาน ที่มองว่าเหมือนครอบครัว เรียกได้ว่าพนักงานแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ โดยเราต้อง Give&Take ให้คนอื่นก่อน และดูแลทุกคนให้ดีๆ เหมือนคนในครอบครัว ให้โอกาสเขาพัฒนาศักยภาพ เช่นเดียวกับคนไข้ เราต้องมีความจริงใจ พยายามใช้สิ่งที่ดีที่สุด และมีราคาที่สมเหตุสมผล คนไข้รับได้และเราอยู่ได้ เหมือนหลักการง่ายๆ คือ ความจริงใจ เวลาที่เราอยากคบใครยาวๆ มองว่า ต้องมีความจริงใจต่อกัน ก็จะสามารถมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาว


ส่วนแนวคิดหลักในการดำเนินชีวิต คุณหมอคนสวยพยายามทำหน้าที่แต่ละวันให้ดีที่สุด ซึ่งมองว่ายังใช้ได้ตลอด โดยต้องตั้งเป้าหรือเซตความสำคัญในแต่ละวัน เพราะใน 1 วัน มีจำกัด ดังนั้นต้องตั้งความสำคัญกับเรื่องที่จะทำในแต่ละวัน และเริ่มต้นลงมือทำ โดยนอกเหนือจากงานประจำแล้ว ชอบเล่นโยคะเพราะช่วยฝึกสมาธิให้การทำงาน ทำให้จิตใจสงบ และเอาไว้มองตัวเอง รับรู้การเคลื่อนไหวของตัวเอง เล่นมาประมาณ 5-6 ปีแล้ว นอกจากนั้นงานอดิเรกที่ทำเพิ่มเติมจากงานบริหารคลินิกคือ การลงทุนต่างๆ เพื่อให้มี passive income สำหรับการต่อยอดในอนาคตอีกด้วย ซึ่งในอนาคตอยากขยายสาขา (ปัจจุบันมี 5 สาขา) เพื่อรองรับความต้องการของคนไข้  และรวมไปถึงเพิ่มแนวทางรักษาแบบแอนไท-เอจจิ้ง ให้มากขึ้น เนื่องจากจะเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้นมีเรื่องของ Inside-Out ในแง่การดูแลสุขภาพ จะสามารถดูแลได้องค์รวมให้คนไข้มากยิ่งขึ้น

https:// www.dailynews.co.th/news/110745/
#3771



ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 80 เปอร์เซนต์มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการใดๆ โรคนี้กว่าจะแสดงอาการ มักเป็นช่วงที่เชื้อจะอยู่ในตัวเราแล้ว 5-6 วัน จนกระทั้ง 1 สัปดาห์แรก ผู้ป่วยรับเชื้ออาจจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นหวัดเล็กๆ น้อยๆ แต่แท้จริงแล้ว หลังจากรับเชื้อประมาณ 5-7 วัน เชื้อจะลงปอดอย่างรวดเร็ว นำพามาสู่ปัญหาปอดติดเชื้อ


ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาการทรงตัวดี แต่อาจแย่ลงอย่างรวดเร็ว เรียกว่า 3 วันอันตราย ถ้าคนไข้อยู่ในความดูแลของหมอ หมอจะดูในวันที่ 5, 6 และ 7 ว่ามีอาการปอดติดเชื้อหรือไม่

จากคำถามที่ว่าปอดของผู้ติดเชื้อจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความหนักเบา ถ้าพบอาการปอดติดเชื้อเล็กน้อยไม่มีอะไร ตรงนี้สามารถกลับมาเป็นปกติได้ แต่อาจจะใช้ระยะเวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน แล้วแต่ความหนักเบา แต่ถ้าถึงขั้นการหายใจล้มเหลว สภาพปอดถูกทำลายไปเยอะแล้ว ก็อาจกลับมาไม่เป็นปกติ

ใครคือกลุ่มเสี่ยงโควิด-19

กลุ่มเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงที่สุดของการติดเชื้อโควิด-19 อันดับแรก คือ ผู้สูงอายุ ทางการแพทย์นับที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มต่อมาคือผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะเบาหวาน เพราะผู้ป่วยที่มีโรคโควิด-19 และเบาหวานร่วมด้วยจะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าโรคอื่นๆ โรคประจำตัวอื่นๆ ที่น่าเป็นห่วงก็จะพวกโรคเรื้อรัง โรคปอด โรคหัวใจ ไต ตับ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงภาวะอ้วนด้วย

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วหายได้เองมีหรือไม่
มีโอกาสที่เป็นไปได้ เพราะจากที่กล่าวข้างต้นว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อมีอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการ ถ้าผู้ติดเชื้อไม่ได้ตระหนักว่าตัวเองมีความเสี่ยงก็อาจจะไม่ได้ไปตรวจ แต่จะกลายเป็นผู้แพร่เชื้อ (Super Spreader) ให้แก่คนอื่นได้

บทความโดย : พญ.พิมฑิราภ์ สุจริตวงศานนท์ ศูนย์ทางการแพทย์ อายุรกรรม โรคทางเดินหายใจ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์
#3772
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น1


#3773
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยอินสไปเรชั่นทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชอบที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งและก็แฟชั่นการแต่งกายยุคนั้น





ทำให้คุณพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดแนวคิดสำหรับในการทำเครื่องประดับร่วมกับการเรียนปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก จนกระทั่งกลายมาเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากยิ่งกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความสวยงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติและนอกเหนือจากนั้นทุกผลิตภัณฑ์มีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร แสดงถึงงานหัตถกรรมอย่างแท้จริง



 
 
#3774
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยแรงบันดาลใจทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชื่นชมที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งแล้วก็แฟชั่นการแต่งกายยุคนั้น





ทำให้ท่านพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดไอเดียสำหรับในการทำเครื่องประดับร่วมกับการเล่าเรียนปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก จนเกิดเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความสวยงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติแล้วก็นอกจากนี้ทุกผลิตภัณฑ์มีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร แสดงถึงงานฝีมืออย่างแท้จริง


#3775

 

บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2564 รายได้จากการขาย133,555 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ โดย มีปัจจัยหลักมาจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณขายที่ ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะมีผลกระทบจากปัญหาเรื่องการ

โดยมีกำไรสำหรับงวด เท่ากับ 17,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน ผลจากส่วนต่าง ราคาสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากส่วนต่าง ราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

ส่งผลทำให้ครึ่งปีแรกของปี 2564  มีกำไรสำหรับงวด 32,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA เท่ากับ 55,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายเท่ากับ 255,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ของปี 2564ในอัตรา 8.5 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 10,200 ล้านบาท โดยกำหนดจ่าย เงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 กำหนดวันที่ XD ในวันที่ 13 สิงหาคม 2564 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 16 สิงหาคม 2564
#3776



เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มทางเลือกลูกค้า รถอายุ 5 ปีขึ้นไป เปิดตัวอะไหล่ สตาร์พาร์ท (StarParts) รองรับทีั้งกลุ่มรถคอมแพคท์ เอสยูวี โรดสเตอร์ ช่วยลูกค้าประหยัด ดีลเลอร์มีรายได้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) เปิดตัว สตาร์พาร์ทส์  (StarParts) อะไหล่รถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้มาตรฐาน ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น โดยระบุว่าจะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุด 55%

ทั้งนี้ อะไหล่ "StarParts" พัฒนาและทดสอบตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ สำหรับการบำรุงรักษาในกลุ่มรถที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป

พุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหารฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกเหนือจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แล้ว การบำรุงรักษารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ StarParts ยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับตัวแทนจำหน่าย ในการรักษาลูกค้า และสร้างยอดขาย ด้านอะไหล่และบริการได้อีกด้วย



สำหรับอะไหล่ StarParts ผลิตออกมารองรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นต่างๆ ประกอบด้วย

  • A-Class (169/176)
  • GLA (156)
  • B-Class (245/246)
  • C-Class (203/204)
  • CLK-Class (209)
  • E-Class (211/212)
  • CLS-Class (218/219)
  • ML-Class (164/166)
  • SLK-Class (170/171)
โดยอะไหล่ที่ผลิตออกมาสำหรับ StarParts ประกอบด้วย

  • แบตเตอรี่สตาร์ท
  • ผ้าเบรก/ดิสก์เบรก
  • ไส้กรองอากาศสำหรับเครื่องยนต์
  • ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
  • ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ไส้กรองน้ำมันเกียร์
  • ไส้กรองสำหรับห้องโดยสาร
  • หัวเทียน
  • ใบปัดน้ำฝน
#3777
ขายอพาร์ทเม้นท์ อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 แขวงวังทองหลาง ขายถูกกู้ได้เต็ม กู้ได้สูง

ขายอพาร์ทเม้นท์ อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 รายได้ดี แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม สภาพสวย เหมือนใหม่ ขายถูกกู้ได้เต็ม กู้ได้สูง ตามเครดิตผู้กู้
ขายอพาร์ทเม้นท์ อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 วังทองหลาง กู้ได้เต็ม กู้ได้สูง 
ขายถูกกู้ได้สูงอพาร์ทเม้นท์ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 รายได้ดี ใกล้รถไฟฟ้า (กำลังก่อสร้าง) แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม ขนาด33ห้อง  เนื้อที่130ตรว.อพาร์มเม้นท์สภาพสวย เหมือนใหม่ ขายถูกกู้ได้เต็ม กู้ได้สูง ตามเครดิตผู้กู้

ขายอพาร์ทเม้นท์วังทองหลาง ลักษณะ: อพาร์ทเม้นท์ 4 ชั้น 33 ห้อง พื้นที่ทั้งหมด130ตรว (ตัวอาคาร 100ตรว ที่จอดรถ 30ตรว)

จุดเด่นทำเล: อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย 4 จากปากซอยเข้าเข้ามาในตึกประมาณ800 เมตร / ทำเลดีกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า

ที่ตั้งอพาร์ทเม้นท์
ที่อยู่: สมชัย อพาร์ทเม้นท์ 124/3 ซ.ลาดพร้าว 58 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม

อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 ขายอพาร์ทเม้นท์ทำเลทอง| กู้ได้เต็ม กู้ได้สูง ตามเครดิต
 ราคาขายทั้งหมด: 40 ล้านบาท

สนใจติดต่อ ชญานิน 0886293244/ ก้อย 0954149923

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://thaiapartment.online/?p=12


คำค้น
ขายอพาร์ทเม้นท์วังทองหลาง, ขายอพาร์ทเม้นท์ลาดพร้าว58, ขายอพาร์ทเม้นท์อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4, ขายอพาร์ทเม้นท์แขวงวังทองหลาง, ขายอพาร์ทเม้นท์เขตวังทองหลาง,
#3778
น้ำมันว่านสาวหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยมให้ทุกขวด  ขวดละ 299 บาท
เป็นว่านสาวหลงที่ทรงคุณค่าในทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างสูงสุด ถือกันว่าเป็นสุดยอดของว่านทางเสน่ห์มหานิยม ที่ไม่สามารถหาว่านชนิดอื่นใดมาเทียบเคียงได้อีกแล้ว ถ้าผู้ใดมีว่านนี้ปลูกไว้ในบ้านเรือนก็จะเป็นสิริมงคลเป็นยอดเสน่ห์แก่บ้านเรือนนั้นๆ ด้วย ท่านให้เอารากของว่านนี้มาฝนหรือบดผสมกับสีผึ้ง หรือแช่น้ำมันจันทน์ หรือเพียงแต่เอารากของว่านนี้ถือติดตัวไป ผู้คนทั้งปวงก็จะพากันงวยงงหลงรักใคร่ในผู้ที่มีว่านหรือทาน้ำมันหรือสีผึ้งที่เข้าว่านจนหมดสิ้นคาถา กำกับมะอะอุ พุทธะสังมิ จิเรรุนิ นะชาลิติ ปิยังมะมะ(ท่องเจ็ดจบ แล้วอธิษฐาน)ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

  ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย
หรือติดต่อได้ที่ โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า   
https://www.lazada.co.th/products/-i1867990020-s5770410635.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store&mp=3
#3779



สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันจันทร์(26ก.ค.)ปรับตัวลง 16 เซนต์เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-


สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 71.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 74.50 ดอลลาร์/บาร์เรล


ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันนี้สวนทางกับเมื่อวันศุกร์ (23 ก.ค.) ซึ่งราคาน้ำมันปิดบวกเพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าตลาดจะยังคงเผชิญกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวไปจนถึงสิ้นปีนี้ แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันนับตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 27-28 ก.ค.นี้
#3780
ใคร ๆ ก็ไม่รัก ไปไหนมีแต่คนไม่ชอบหน้า ขาดเสน่ห์ ไม่มั่นใจ

น้ำมันว่านดอกทองใส่ตะกรุดนะอกแตก แค่ท่องคาถา
เจิมที่หน้าผากตัวเรา บังเกิดออร่าน่าจับตามอง
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา
น้ำมันว่านดอกทองใส่ตะกรุดนะอกแตกให้ทุกขวด ขวดละ 399 บาท
ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ
ตะกรุดนะอกแตก เป็นมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม มหาละลวย แก่มนุษย์ทั้งหญิงชายทั้งหลาย
คาถากำกับ
โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ
อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ
นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)
ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999
เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/34

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1867850932-s5770096982...

shopee https://shopee.co.th/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1...