• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?

Started by Chigaru, April 04, 2022, 02:21:00 AM

Previous topic - Next topic

Chigaru

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?



ทำไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความกลัวถือเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ ได้แก่ การกลัวการเจ็บปวด กลัวคนแปลกหน้า ความกลัวสถานการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งความกลัวจะเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น โดย ความกลัวนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวเด็กอีกครั้งว่าเด็กนั้นที่ผ่านมาบิดามารดาอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีปัจจัยที่ส่งผลให้เด็กกลัว ทันตแพทย์เด็กหรือกลัวการรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก เช่น ประสบการณ์การดูแลรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในสมัยก่อน โดยเฉพาะการนำเด็กเข้าการรักษาฟันในเวลาที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน แล้วก็อาจทำให้เด็กทั้งยังเจ็บแล้วกลัวและก็ฝังลึกในใจเลยทำให้เกิดความหวาดกลัว และก็อาจก่อให้เด็กกลัวหมอที่ใส่ชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิกทันตกรรมต่างๆและก็การฟังจากคำกล่าวจากญาติ พี่น้อง สหาย แล้วก็เด็กบางทีอาจจะรับรู้ได้จากพฤติกรรมอะไรบางอย่าง หรือจากสีหน้าท่าทางที่มีความรู้สึกไม่สบายใจที่บิดามารดาแสดงออกมาโดยไม่ทันได้รู้สึกตัว เป็นต้น

การจัดเตรียมลูก สำหรับเพื่อการมาเจอคุณหมอฟันหนแรก

ทันตกรรมเด็กกับการเตรียมการเด็กที่ดีนั้นมีผลเป็นอย่างมากต่อการกระทำของเด็กแล้วก็ความสำเร็จสำหรับการรักษา ฉะนั้นคุณพ่อและก็คุณแม่จึงต้องควรหลีกเลี่ยงคำกล่าวที่น่าสยดสยองหรือแสดงความกลุ้มใจเกี่ยวกับทันตแพทย์เด็กที่ให้บริการทัตนกรรมเด็ก และไม่ควรที่จะใช้ทันตแพทย์หรือวิธีการทำฟันเป็นสิ่งที่ใช้ในการขู่ลูก เช่น "หากไม่ยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้แพทย์ถอนฟันเลย" ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งหัวใจและกลัวทันตแพทย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้คุณพ่อและก็คุณแม่อาจช่วยสนับสนุนทัศนคติในทางบวกต่อกระบวนการทำฟันให้แก่ลูก ตัวอย่างเช่น "คุณหมอจะช่วยให้หนูมีฟันสวยและก็แข็งแรง" ยิ่งไปกว่านี้เมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรพาลูกมาทำฟันตั้งแต่ในระหว่างที่ยังไม่มีลักษณะของการปวด ถ้ารอคอยให้มีอาการปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความไม่สบายใจสำหรับการทำฟันมากยิ่งขึ้น

เมื่อมาหาทันตแพทย์แล้ว ถ้าเกิดลูกกลัวทันตแพทย์ ไม่ให้ความร่วมมือผู้ปกครองแล้วก็หมอฟัน ควรทำยังไง

เด็กแต่ละคนที่มีความหวาดกลัวก็จะแสดงกริยาที่ต่างกันออกไป เด็กที่มีความหวาดกลัวและไม่ร่วมมือ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทันตแพทย์จึงควรวิเคราะห์หาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาเลือกใช้ขั้นตอนการจัดการความประพฤติ ซึ่งพ่อแม่จะมีส่วนช่วยอย่างมากมายสำหรับเพื่อการให้ข้อมูลเบื้องต้นพวกนี้ หลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ ทันตแพทย์ที่จะเลือกใช้วิธีปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อให้เด็กให้ลดความกลัว ความวิตกกังวล และก็ยอมความร่วมมือสำหรับการทำฟันเด็ก โดยวิธีที่ใช้เยอะที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการคุย ปลอบประโลม ชมเชย เกื้อหนุนให้กำลังใจ การเบี่ยงเบน ความสนใจ หรือการแยกผู้ปกครอง ดังนี้ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก ระดับของความร่วมแรงร่วมใจ รวมทั้งปริมาณงานหรือ ความเร่งรีบของการดูแลและรักษาด้วย อย่างเช่น ในเด็กเล็กต่ำกว่า 3 ขวบ ที่ยังเสวนาสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมแรงร่วมใจอย่างมาก หมอฟันก็บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องขอใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อให้สามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กอย่างปลอดภัยรวมทั้งมีประสิทธิภาพมากเพิ่มขึ้น หรือบางทีอาจจะพรีเซ็นท์ทางเลือกการดูแลและรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการดมกลิ่นยาสลบให้แก่ผู้ปกครองเป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวหมอฟันเด็ก

สิ่งที่ยอดเยี่ยมของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวหมอฟันคือ การดูแลโพรงปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรจะพาลูกมาเจอหมอฟันตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือข้างในขวบปีแรก รวมทั้งตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็มักจะไม่กลัวทันตแพทย์ แต่เมื่อลูกมีฟันผุแล้วคุณพ่อและก็คุณแม่ก็ควรจะอดทนที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดอย่างสม่ำเสมอ แม้ลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อรู้ว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อให้ลูกของคุณมีสุขภาพโพรงปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพช่องปากที่ก็ดีแล้วก็จะช่วยสนับสนุนให้เด็กมีความก้าวหน้าในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย