• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - dsmol19

#9766

ไบรสัน เดอชอมโบ นักกอล์ฟมือ 6 ของโลกชาวอเมริกัน รีดเร้นฟอร์มสุดยอดตีสกอร์รวมสะสมถึง 16 อันเดอร์พาร์ ก่อนทะยานขึ้นไปนั่งเก้าอี้ผู้นำศึก บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ เมื่อจบรอบสอง วันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 311 ล้านบาท) ณ สนาม เคฟส์ วัลเลย์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,226 หลา พาร์ 71 แมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา เข้าสู่การดวลสวิงวันที่สอง ซึ่งมีบางคนแข่งไม่จบเพราะฟ้ามืดก่อน

ปรากฏว่า ไบรสัน เดอชอมโบ ก้านเหล็กหนุ่มเจ้าบ้าน แสดงฝีมือตี 12 อันเดอร์ จากผลงาน 8 เบอร์ดีกับ 2 อีเกิล ไม่มีความผิดพลาดเลย จบวันสกอร์รวมเป็น 16 อันเดอร์พาร์ พุ่งจากอันดับ 18 ขึ้นมาเป็นผู้นำเหนือกว่าอันดับ 2 อย่าง แพทริค แคนท์เลย์ เพื่อนร่วมชาติและ จอน ราห์ม ผู้นำรอบก่อน 1 สโตรก

ด้านมือดังคนอื่นๆ เซร์คิโอ การ์เซีย จอมเก๋าจากสเปน เก็บเพิ่มอีก 5 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 12 อันเดอร์พาร์ คงที่ในอันดับ 4 ตามด้วย รอรีย์ แม็คอิลรอย ผู้นำรอบที่แล้วอีกรายจากไอร์แลนด์เหนือ ตีเพิ่มได้แค่ 2 อันเดอร์ สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ หล่นมาอยู่อันดับ 8 ร่วม

ส่วน 'ดีเจ' ดัสติน จอห์นสัน มือ 2 โลกชื่อดังอีกรายของอเมริกา รอบนี้ทำได้เพียง 2 อันเดอร์ สกอร์รวมมี 7 อันเดอร์พาร์ หล่นมาอยู่อันดับ 17 ร่วม
#9768


ราชกิจจานุเบกษา ประกาศข้อกำหนดฉ.32 ผ่อนคลายมาตรการตามมติศบค. นั่งกินในร้านได้ ร้านเปิดแอร์นั่งได้ 50% ไม่เปิดแอร์นั่งได้ 75% เปิดสถาบันศึกษา ให้อยู่ในความรับผิดชอบศธ.-อว. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้มาตรการอย่างเคร่งครัด เริ่ม 1ก.ย.

วันนี้ (29ส.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ 2548 ฉบับที่ 32 ลงนามโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เป็นมาโดยภายหลังมีมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 ความว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด 19ในปัจจุบันฝ่ายสาธารณสุขได้ประเมินว่าค่อนข้างทรงตัวและมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของ ศบค.ดังต่อไปนี้

ข้อ 1. การกำหนดพื้นที่สถานะการจำแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด กำหนดระดับของพื้นที่สถานการณ์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุม

ข้อ 2. ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคโดยต้องขออนุญาตจัดกิจกรรมการพิจารณาอนุญาตรวมถึงกิจกรรมหรือการรวมกลุ่มที่ได้รับยกเว้นที่สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาตตามข้อ 4 และข้อ 5 แห่งข้อกำหนดฉบับที่ 30 โดยแบ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า 25 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุดห้ามจัดกิจกรรมการรวมกลุ่ม มากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมห้ามจัดกิจกรรมหรือการรวมกลุ่มมากกว่า 100 คน พื้นที่เฝ้าระวังสูงห้ามจัดกิจกรรมหรือรวมกลุ่มมากกว่า 200 คน และพื้นที่เฝ้าระหว่างห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 500 คน

ข้อ 3 มาตรการเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจะบังคับใช้ ในอนาคตให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการภาครัฐและแผนการเกี่ยวกับการจัดหาและจัดสรรวัคซีนยาเครื่องมือแพทย์โรงพยาบาลสนามสถานพยาบาล แล้วเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั้งส่วนบุคคลองค์กรผู้ประกอบการแต่ละประเภทรับทราบ โดยให้เพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล หรือ Universal Prevention for COVID19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

ข้อ 4. การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เกี่ยวกับการ ห้ามออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 ถึง 04:00 น ของวันรุ่งขึ้น

ข้อ5. การปรับมาตรการ การควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ปรับมาตรการ เพื่อให้สามารถดำเนินการ ได้โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเวลาการจัดระบบระเบียบและมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

ประกอบด้วยโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท ให้สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอนการฝึกอบรมหรือการทำกิจกรรมใดๆที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากได้ โดยให้ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

ขณะเดียวกัน ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มสามารถเปิดให้บริการได้โดยให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 20:00 น ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน หากเป็น ร้านที่ติดเครื่องปรับอากาศให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งปกติ แต่หากเป็นร้านที่เป็นพื้นที่ ถ่ายเทไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ เช่นร้านอาหารขนาดเล็กหาบเร่แผงลอยรถเข็นให้มีจำนวนผู้นั่งบริโภคไม่เกินร้อยละ 75 และให้ใช้บังคับมาตรการนี้กับร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน

สถานเสริมความงามร้านเสริมสวยแต่งผมหรือตัดผมให้เปิดดำเนินการได้สถานประกอบการเพื่อสุขภาพหรือสถานประกอบการนวดแผนไทยให้เปิดให้บริการได้เฉพาะการให้บริการนวดเท้า ตลาดนัดให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติจนถึง 20:00 น เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคหรือบริโภคเท่านั้น ส่วนห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันสามารถเปิดได้ตามเวลาปกติ จนถึงเวลา 20:00 น รวมไปถึงคลินิกเวชกรรมเสริมความงามสถานเสริมความงามสามารถเปิดดำเนินการและให้บริการได้ผ่านการนัดหมายส่วนร้านเสริมสวยแต่งผมหรือตัดผมให้เปิดดำเนินการได้โดยผ่านการนัดหมายและจำกัดเวลาในการให้บริการในร้านไม่เกิน รายละ 1 ชั่วโมง

สถาบันกวดวิชา,โรงภาพยนตร์,สวนสนุก,สวนน้ำ,สระว่ายน้ำ,สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส,ตู้เกมส์,เครื่องเล่นเกมส์ และการจัดเลี้ยงหรือการจัดประชุมยังคงให้ปิดการดำเนินการไว้ก่อน

ส่วนสวนสาธารณะลานกีฬาสนามกีฬาสระน้ำเพื่อการกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำเพื่อการสันทนาการหรือสระว่ายน้ำสาธารณะหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้ง ตั้งอยู่ในที่โล่ง สามารถเปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 20:00 น และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม

ข้อ 6. การใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อการเดินทางข้ามจังหวัดจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ไปยังที่อื่นสามารถกระทำได้แต่ขอความร่วมมือให้ประชาชนเดินทางต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้นเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและแพร่เชื้อ ข้อ 7. การขนส่งสาธารณะกระทรวงคมนาคมกรุงเทพมหานครจังหวัดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบกำกับดูแลให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดโดยจำกัดผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุผู้โดยสาร มีการเว้นระยะห่างระบบระบายอากาศที่ดีมีการแวะพักตามช่วงเวลา และปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข และข้อกำหนด ทางราชการอย่างเคร่งครัด

และข้อ 8 ในกรณีที่ ศปก.ศบค.ได้ประเมินสถานการณ์ตามข้อกำหนดนี้แล้วเห็นว่าควรปรับเปลี่ยนหรือขยายความมาตราในเรื่องใดเพื่อให้เกิดความชัดเจนเหมาะสมสะดวกแก่การปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นให้เสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการได้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564เป็นต้นไป
#9770


วันนี้ (27 ส.ค.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝน ปัญหาที่พบบ่อยคือเสื้อผ้ามีกลิ่นอับชื้น เนื่องจากเปียกฝนหรือสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นเป็นเวลานานๆ หลายชั่วโมง รวมถึงการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยที่เปียกชื้นอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ ดังนั้น เมื่อกลับถึงบ้านแล้วควรนำเสื้อผ้าที่เปียกไปแขวนผึ่งให้แห้ง ก่อนใส่ตะกร้าเพื่อรอการซัก ไม่ควรทิ้งไว้นาน ๆ เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราบนเสื้อผ้าได้ หากนำมาสวมใส่อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังจากเชื้อราตามมา อาทิ โรคกลาก เกลื้อน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง มีขุยรอบ ๆ เกิดอาการคัน ทำให้เป็นผื่นแพ้และติดเชื้อได้ ไม่ควรเกาหรือปล่อยไว้จนลุกลาม ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธีต่อไป ซึ่งการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับชื้นหรือปัญหาเชื้อราบนผ้า สามารถทำได้ด้วย 2 วิธีคือ วิธีที่ 1 ซักตามปกติแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดนาน 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ส่วนวิธีที่ 2 แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถหาได้ในครัวเรือน ได้แก่ น้ำยาซักผ้าขาวที่มีส่วนผสมโซเดียมไฮโปคลอไรด์ โดยเติม 1 ฝา ต่อน้ำ 10 ลิตร แช่ผ้าไว้นาน 5-15 นาที หรือใช้น้ำส้มสายชู 2-3 ถ้วยตวง ต่อน้ำ 1-2 ลิตร แช่ผ้าไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง แล้วซักตามปกติ จากนั้นนำไปตากแดดจัดหรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทจนแห้ง แล้วนำมารีดทั้งข้างในและข้างนอกตัวเสื้อ โดยก่อนทำความสะอาดเสื้อผ้า ควรอ่านป้ายสัญลักษณ์การดูแลรักษาเสื้อผ้า เพื่อเลือกวิธีทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ดีที่สุดและป้องกันเสื้อผ้าชำรุด ส่วนหน้ากากผ้า ควรเปลี่ยนทุกวัน หรือเปลี่ยนเมื่อรู้สึกเปียกชื้นในระหว่างวัน และให้ซักหน้ากากผ้าให้สะอาดทุกวันด้วยสบู่หรือผงซักฟอกแล้วตากแดดให้แห้ง กรณีสวมหน้ากากอนามัย ให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยชิ้นใหม่ทุกวัน หรือเมื่อหน้ากากเปียกชื้น และควรพกหน้ากากอนามัยสำรองไว้ติดตัว เพื่อให้สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ทันที

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงหน้าฝน สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการกำจัดเชื้อราในบ้าน เพราะหน้าฝนความชื้นในอากาศ สามารถทำให้ภายในบ้านมีความชื้นสูง อาจเป็นแหล่งของเชื้อราได้ อาทิ ห้องน้ำ ห้องนอน และห้องครัว เชื้อราจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความชื้น สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่สีดำ น้ำตาล เขียว แดงเหลือง และขาว พบได้เป็นกลุ่มๆ ในบริเวณที่มีความอับชื้น เช่น ฝ้าและผนัง เพดาน เฟอร์นิเจอร์ ใต้พื้นพรม เครื่องนอน เครื่องปรับอากาศ หากสปอร์ของเชื้อราเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพต่าง ๆ ตามมา เช่น หากเข้าตาและจมูก จะทำให้เกิดการระคายเคือง มีอาการจาม น้ำมูกไหล มีไข้ บางรายก่อให้เกิดโรคหอบหืด ภูมิแพ้ และปอดอักเสบในที่สุด ซึ่งกลุ่มที่ต้องระวังคือ ผู้สูงอายุ และเด็กอ่อน

"ทั้งนี้ สามารถเช็ดทำความสะอาดบ้านเรือนที่ปนเปื้อนเชื้อราได้ 3 ขั้นตอน คือ 1. พื้นผิววัสดุที่พบเชื้อรา ให้ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่หรือกระดาษหนังสือพิมพ์พรมน้ำให้เปียกเล็กน้อย เช็ดพื้นผิวไปในทางเดียว แล้วนำกระดาษทิชชูหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ดังกล่าวทิ้งลงในถังขยะที่ปิดมิดชิด 2. ใช้กระดาษทิชชู แผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ชุบลงในน้ำผสมกับสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดซ้ำในจุดที่มีเชื้อราอีกครั้ง และ 3. ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น น้ำส้มสายชู 5-7 เปอร์เซ็นต์ หรือแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60-90 เปอร์เซ็นต์ เช็ดทำความสะอาดเพื่อเป็นการทำลายเชื้อในขั้นตอนสุดท้าย" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
#9771


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาคเอกชน เดินหน้าช่วย เกษตรกรไทย ลดผลกระทบจากวิกฤต การแพร่ระบาดของ COVID-19 ภายใต้โครงการเกษตรกรแฮปปี้ ด้วยการรับขนส่งผลไม้ผ่านบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทย ในอัตราค่าบริการพิเศษ และเปิดพื้นที่ขายผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าขนส่งและเพิ่มช่องทางการขายให้เกษตรกร

โดยสามารถจำหน่ายได้ทั้งช่องทางออนไลน์เว็บไซต์ thailandpostmart.com และที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงให้สิทธิ์เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ฝากส่งผลไม้ 5 ประเภท ได้แก่ มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง และทุเรียน ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่มีการ แพร่ระบาดของ COVID-19 ไปรษณีย์ไทยได้เดินหน้าผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน ในการช่วยบรรเทาผลกระทบแก่เกษตรกรไทยด้วยการลกต้นทุนค่าขนส่งให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ต้องการระบายผลผลิตให้ทันตามฤดูกาลมาอย่างต่อเนื่อง


โดยได้จัดตั้งโครงการ เกษตรกรแฮปปี้ เปิดช่องทางให้เกษตรกรสามารถนำผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ มังคุด ลำไย และ เงาะโรงเรียน มาจำหน่ายผ่าน เว็บไซต์ thailandpostmart.com และที่ทำการไปรษณีย์ ในราคาพิเศษ รวมถึงลดค่าบริการส่งด่วนทั่วไทย (EMS) สูงถึง 20% ในช่วงเทศกาลผลไม้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 และปรับอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายในราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 3 กิโลกรัมแรก เพียง 50 บาท ส่งได้สูงสุดถึง 20 กิโลกรัม เพื่อช่วยเกษตรกรและประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง

นายดนันท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังได้เดินหน้าโครงการบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ฝากส่งผลไม้ 5 ประเภท ได้แก่ มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง และทุเรียน ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม ซึ่งในช่วงฤดูกาลจำหน่ายลำไยที่กำลังจะมาถึงนี้ ไปรษณีย์ไทยเปิดให้บริการรับฝากผลไม้ผ่านการหุ้มห่อและใส่บรรจุภัณฑ์ได้ตามปกติ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ได้ทั้งแบบกล่องและตะกร้าตามที่ไปรษณีย์ไทยวางจำหน่าย และจัดส่งได้ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศจนถึงสิ้นปี 2564


ในการก้าวสู่ปีที่ 19 ขององค์กร ไปรษณีย์ไทยยังคงยึดมั่นและเป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรไทยได้ฝ่าวิกฤต COVID-19 อย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งจะเดินหน้าสนับสนุนภาครัฐและเอกชนในการเข้าถึงความช่วยเหลือในทุกภารกิจสำคัญ โดยเฉพาะภาคสังคมและสาธารณสุข อย่างเช่น โครงการ "ส่งความห่วยใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19" ที่ช่วยขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เพื่อส่งพลังความห่วงใยและเคียงข้างคนไทยให้ผ่านสถานการณ์วิกฤต COVID-19 นี้ ไปด้วยกัน นายดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย
#9772


รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยการนำเข้าและส่งออกรอบ 7 เดือนแรกของปีนี้ หรือนับตั้งแต่ม.ค.ถึงก.ค.ที่ผ่านมาว่า มียอดการนำเข้าสินค้ามูลค่ารวม 4.71 ล้านล้านบาท โดยมูลค่าการนำเข้าได้ทยอยเพิ่มขึ้นจากระดับ 6 แสนล้านบาทต่อเดือนในช่วงต้นปีมาอยู่ที่ประมาณ 7 แสนล้านบาทต่อเดือนในช่วงกลางปี

ทั้งนี้ ในเดือนม.ค.มีมูลค่าการนำเข้าที่ 6.01 แสนล้านบาท , ก.พ.อยู่ที่ 6.1 แสนล้านบาท,มี.ค.7.08 แสนล้านบาท , เม.ย.6.60 แสนล้านบาท,พ.ค.6.99 แสนล้านบาท,พ.ค. 6.99 แสนล้านบาท,มิ.ย.7.18 แสนล้านบาท และ ก.ค. 7.12 แสนล้านบาท


สำหรับมูลค่าการส่งออกรอบ 7 เดือนนั้น มีมูลค่ารวม 4.72 ล้านล้านบาท โดยเดือนม.ค.อยู่ที่ 5.87 แสนล้านบาท ,ก.พ. 6.0 แสนล้านบาท,มี.ค. 7.18 แสนล้านบาท , เม.ย.6.54 แสนล้านบาท,พ.ค.7.14 แสนล้านบาท,มิ.ย.7.37 แสนล้านบาทและก.ค. 7.08 แสนล้านบาท


แหล่งข่าวกล่าวว่า​ การนำเข้าของไทยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าทุน (อาทิ เครื่องจักรกล เครื่องจักรไฟฟ้า) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งนำมาใช้เป็นปัจจัยการผลิตสินค้าเพื่อบริโภคในประเทศและเพื่อส่งออก โดยในเดือน ก.ค. สินค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด คือ สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (สัดส่วน 42% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด) ขยายตัว 51.5% รองมา คือ สินค้าทุน (สัดส่วน 25% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด) ขยายตัว 35.4% การนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของไทยเริ่มฟื้นตัวจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคต
#9774

ล้วงกลยุทธ์ 'เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์' เจ้าของอาณาจักรแสนล้าน 'บีทีเอสกรุ๊ปโฮลดิ้งส์' ! หมากเกมนี้...ลึกแต่ไม่ลับ ดันโมเดลหาหลากเพื่อนใหม่ ต่อ 'จิ๊กซอว์ 4 ธุรกิจ' ผลัดดันองค์กรโตหลายเด้ง ปิดดีลใหญ่ส่ง VGI-U ผนึกกำลัง JMART-SINGER มูลค่า 1.75 หมื่นล้าน

เหมือนกำลังจะกลายเป็นวัฒนธรรมประจำของ 'ตระกูลกาญจนพาสน์' เจ้าพ่ออาณาจักร 'ให้บริการรถไฟฟ้า' ที่เคยเป็นหนึ่งในบริษัทมีหนี้สินจำนวน 'มหาศาล' จากวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะเกือบตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องเห็น 'เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์' เจ้าของ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS โดดเข้าถือหุ้นในธุรกิจใหม่ๆ ในหลากหลายวงการ เพื่อต่อยอด 'ความมั่งคั่ง' (Wealth) ให้ 4 ธุรกิจหลัก 1. ธุรกิจให้บริการเดินรถไฟฟ้า 2. ธุรกิจสื่อโฆษณา 3.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจบริการ

สะท้อนผ่านธุรกิจในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อาทิ บมจ. วีจีไอ หรือ VGI ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจสื่อโฆษณา บีทีเอส ถือหุ้น 51.60% กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ถือเป็นการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองแรกของประเทศไทย บีทีเอสถือหุ้น 33.33% บมจ. ยู ซิตี้ หรือ U ธุรกิจพัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ บีทีเอสถือหุ้น 36.22% และ บมจ. มาสเตอร์ แอด หรือ MACO ธุรกิจสื่อนอกบ้าน บีทีเอสถือหุ้น 41.16% (ตัวเลข ณ 4 ส.ค.2564)

จากวันวานที่เคยมีหนี้สินมหาศาล ทว่าในวันนี้กลับกลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มี 'มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด' (Market Cap) เพิ่มพูนจาก 3,000-4,000 ล้านบาท มาอยู่ในระดับสูงถึงแสนล้านบาท ! ฉะนั้น เรื่องแหล่งเงินทุนในการซื้อสินทรัพย์ใหม่ๆ แทบไม่มีปัญหา สะท้อนผ่านช่องทางการระดมทุนต่างๆ ทั้งในตลาดเงิน-ตลาดทุน 

สอดคล้องกับประโยคที่ลูกชายคนโตของ 'เจ้าสัวคีรี' อย่าง 'กวิน กาญจนพาสน์' กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 'บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์' ที่เคยเล่าให้ 'กรุงเทพธุรกิจ' ฟังว่า ในมุมมองของคีรี (พ่อ) และเขา เห็นตรงกันว่า.. 'ผมและคุณคีรี (พ่อ) มีมุมมองว่าที่ผ่านมาใช้เวลาในการขยายธุรกิจเยอะมากทั้งที่สร้างขึ้นมาเองและการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ฉะนั้นเปรียบเหมือนกินอาหารสะสมมาร่วม 10 ปี ทำให้ตอนนี้เราอ้วนมากแล้ว !'

ดังนั้น หลังสะสมขุมกำลังทางธุรกิจมามาก ผ่านการขยายเครือข่ายธุรกิจอื่นๆ แบบลงทุนเอง และร่วมกับพันธมิตร เกมธุรกิจจากนี้ในสเต็ปต่อไป จะเป็นเกมของการ Synergy (ผนึกกำลัง) ของแต่ละธุรกิจในกลุ่มและพันธมิตรทางธุรกิจอย่างแท้จริง !!

เขายังระบุด้วยกว่า หากไม่ปรับตัวองค์กรแห่งนี้จะขยับตัวลำบาก โดยจะเห็นผลชัดในระยะไม่เกิน 3-5 ปีจากนี้ ตามเป้าหมายองค์กรแห่งนี้ต้องแข็งแรงทั้งในและนอก ด้วย 'กลยุทธ์' ต่อจากนี้คือ บีทีเอสจะไม่เดินคนเดียวแต่จะหาเพื่อนใหม่ๆ เข้ามาร่วม เสมือนให้มาเป็นเพื่อนกับบีทีเอส และเป็นการขยายฐานลูกค้าเพิ่มและทำความรู้จักกับลูกค้ารายใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักบีทีเอสมาก่อน

หากย้อนดู เมื่อฟื้นธุรกิจกลับมาได้ ในปี 2550 บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนผ่าน 'กลุ่มบีทีเอส' เข้าไปลงทุนถือหุ้นในหลากหลายธุรกิจ อย่าง บมจ. แพลนบี มีเดีย หรือ PLANB ธุรกิจสื่อนอกบ้าน ถือหุ้น 18.59% บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ถือหุ้น 9.13% 

บมจ. บางกอก เดค-คอน หรือ BKD ธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายใน ถือหุ้น 9.25% บมจ. ฮิวแมนิก้า หรือ HUMAN ธุรกิจเทคโนโลยี ถือหุ้น 10.01% บมจ. อาฟเตอร์ ยู หรือ AU ธุรกิจขนมหวาน ถือหุ้น 9.77% บมจ. เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX ธุรกิจขนส่ง ถือหุ้น 18.06% บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป หรือ YGG ธุรกิจเทคโนโลยี ถือหุ้น 9.08% 

ขณะที่ อ้างอิงตามที่ 'กลุ่มบีทีเอส' แจ้งการลงทุนเข้าซื้อหุ้นเนื่องจากไม่ปรากฏสัดส่วนการถือหุ้น 10 อันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาทิ บมจ. คอมเซเว่น หรือ COM7 ธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไอที ถือหุ้น 4.92% , บมจ. อาร์เอส หรือ RS ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม , สื่อ ถือหุ้น 6.06% และ บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง หรือ SPI ธุรกิจลงทุนในธุรกิจสินค้าอุปโภคอาหารและเครื่องดื่ม ถือหุ้น 0.87% 

และล่าสุดกับ 'บิ๊กดีลระดับหมื่นล้านบาท !!' ของ 'กลุ่มบีทีเอส' หลังทุ่มเงินมูลค่า '1.75 หมื่นล้านบาท' ผ่าน บมจ. วีจีไอ หรือ VGI และ บมจ. ยู ซิตี้ หรือ U เข้าซื้อหุ้นของ บมจ. เจ มาร์ท หรือ JMART และ บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย หรือ SINGER 

 'อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีที่ลงทุนในบริษัทอื่นที่มีศักยภาพ (Investment Holding Company) กล่าวว่า บมจ. วีจีไอ หรือ VGI และ บมจ. ยู ซิตี้ หรือ U ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม BTS Group Holdings เข้ามาร่วมลงทุนในกลุ่มเจมาร์ทครั้งนี้ นับเป็นโอกาสใหญ่ที่ได้ผสานพลังร่วมกับกลุ่มผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอีโคซิสเต็มครบวงจร 

สะท้อนความเชื่อมั่นใน JMART SINGER และ JMT ที่มีศักยภาพการเติบโตอีกมาก สิ่งที่เข้ามาปลดล็อกในครั้งนี้ คือ การปลดล็อกฐานเงินทุนที่จะเพิ่มขึ้น และแผนการ Transform และ Synergy ร่วมกันในทุกรูปแบบ โดยเป็นการมองระยะยาวไปอีก 3 - 5 ปีจากนี้ ด้วยเม็ดเงินระดมทุนก้อนใหญ่ ที่สามารถรองรับการขยายธุรกิจ แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด ก็เชื่อมั่นได้ว่า เจมาร์ทมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ 

สำหรับแผนการ Synergy ร่วมกันในช่วงต่อจากนี้ คาดจะได้เห็นการขยายฐานลูกค้า การขยายผลิตภัณฑ์และบริการในเครือของเจมาร์ท ในธุรกิจค้าปลีก การเงิน ประกัน และเทคโนโลยี ไปสู่ขอบเขตการให้บริการที่เป็นมากกว่า Online-to-Offline (O2O) โซลูชั่นส์ บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณาของ VGI ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ 

ในแง่ของช่องทางการจำหน่าย SINGER ยังถือเป็นเบอร์หนึ่งที่สามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านตัวแทนขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยปัจจุบันมีร้านสาขาและแฟรนไชส์รวมกว่า 2,800 แห่ง รวมทั้ง ช่องทางร้านค้ากลุ่มสินค้าเทคโนโลยี JAYMART MOBILE และบริษัทในเครือ เป็นเครือข่ายการกระจายสินค้าและเข้าถึงผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ผสานกับ KERRY เพิ่มโอกาสการต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ในเครือเจมาร์ทได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 

รวมทั้ง ทางด้านเทคโนโลยีทางการเงิน Blockchain รวมทั้งศึกษาเรื่อง Digital Token และการนำเอา JFIN Token มาใช้บนอีโคซิสเต็มของกลุ่ม BTS เป็นโอกาสในการสร้างระบบนิเวศน์ในเครือเจมาร์ทให้ครบวงจร

นอกจากธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตยิ่งขึ้นแล้ว การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของกลุ่มเจมาร์ท ทำให้มีงบดุลที่แข็งแกร่งขึ้น มีโอกาสที่เครดิตเรทติ้งจะดีขึ้น และการขยายธุรกิจด้วยต้นทุนการเงินที่ลดลงของ SINGER และ JMT จะสะท้อนกลับมาที่ JMART ในแง่ของกำไรที่โดดเด่นชัดเจน 


โดยตั้งเป้าภาพรวมกำไรปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี ซึ่งยังไม่นับรวมการผนึกพันธมิตรต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกับบริษัท VGI และ U ภายในกลุ่ม BTS ทั้งนี้ VGI และ U เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ของ JMART รวมสัดส่วน 24.9% ของทุนที่ชำระแล้ว โดย VGI เข้ามาถือสัดส่วน 15% ส่วน U ถือสัดส่วน 9.9% 

พร้อมกันนี้ JMART ในฐานะเป็นบริษัทแม่ของ JMT และผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SINGER พร้อมนำเงินจากพันธมิตรที่ได้จากการออก PP ครั้งนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท สนับสนุนแผนเพิ่มทุน (RO) ของ SINGER คิดเป็นมูลค่าราว 1,300 ล้านบาท รองรับการขยายโอกาสในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน 

และอีกส่วนหนึ่งใช้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (RO) ของ JMT มูลค่าประมาณ 5,300 ล้านบาท รองรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหาร ท่ามกลางสถานการณ์ของอุตสาหกรรมที่สนับสนุนการเติบโตของกิจการในอนาคต ซึ่ง JMT เป็นผู้บริหารหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่ของประเทศ โดยผู้ถือหุ้นท่านใดที่เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตนี้ ก็สามารถมีส่วนร่วมเติบโตไปด้วยกันในครั้งนี้ พร้อมให้วอแรนท์ชุดใหม่ รองรับการเติบโตในอนาคต

ด้าน บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย หรือ SINGER เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ RO และ PP รวมได้เงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการออก PP ให้ บมจ. ยู ซิตี้ หรือ U ถือหุ้นสัดส่วน 24.9% มีแผนจะนำเงินที่ได้ 7,700 ล้านบาท ใช้สนับสนุนการขยายพอร์ตสินเชื่อของ SINGER ให้เติบโตโดดเด่น ด้วยต้นทุนทางการเงินในระดับต่ำมาก และเงินส่วนที่เหลือนำไปคืนหนี้หุ้นกู้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
#9775


นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยในงานสัมมนา "กลางวิกฤต COVID โอกาสทางธุรกิจยังมีอยู่ไหม?" จัดโดย ศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันวิทยาการตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทมีการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) มาอย่างต่อเนื่อง และยังมีเป้าหมายขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในอนาคต

โดยช่วงแรกที่เริ่มลงทุนในประเทศกัมพูชา และลาว บริษัทใช้วิธีการจัดตั้งบริษัทย่อยที่ถือหุ้นเอง 100% และใช้วิธีส่งออกสินค้าออกไปจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักผลิตภัณฑ์ของบริษัทก่อน เพื่อให้เกิดการทดลองใช้ และเกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ก่อนจะเข้าไปจัดตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกน้ำมันให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงยางมะตอยเพื่อจัดทำถนน ฯลฯ

อย่างไรก็ดี ช่วงแรกประมาณ 5-8 ปี พบว่า กำไรสุทธิยังติดลบ ซึ่งบริษัทต้องใช้กลยุทธ์ปรับผลิตภัณฑ์ วิธีการทำงาน และการขยายสาขา กว่าที่จะได้การประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) อีกทั้งพบว่าการเป็นเจ้าของ 100% มีอุปสรรคในการขอใบอนุญาตที่นานกว่าปกติ และนานกว่าการที่ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ของบริษัทในแต่ละประเทศเข้าไปขอใบอนุญาตเอง

ส่งผลให้การลงทุนในระยะต่อมาในประเทศเมียนมา และเวียดนาม บริษัทจึงปรับจากการจัดตั้งบริษัทเองเป็นการแสวางหาพันธมิตรผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) กับบริษัทท้องถิ่นที่มีจุดแข็งที่บริษัทไม่มี ซึ่งช่วยให้การขอใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจ การจัดหาแรงงาน และการติดต่อกับหน่วยงานราชการมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการปรับอัตลักษณ์ของสาขาให้เข้ากับท้องถิ่ง เพื่อสร้างความผูกพันกับคนในพื้นที่ รวมถึงให้คนื้องถิ่นเข้ามาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ให้ตรงกับความต้องการของคนในประเทศนั้นๆ มากขึ้น


ทั้งนี้ ปัจจุบัน OR ให้บริการสถานีน้ำมันในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งสิ้น 161 แห่ง ร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน 261 สาขา ร้านค้าสะดวกซื้อ Jiffy 100 สาขา ศูนย์บริการรถยนต์ FIT Auto 5 แห่ง ร้านชานมไข่มุก Pearly Tea 4 สาขา และร้านอาหารข้าวเปียกปูปากเซ 1 แห่ง

'เยียวยาประกันสังคมมาตรา 40' เช็คโอนพร้อมเพย์-ทบทวนสิทธิ์ ยังไม่ได้เงินทำไง?
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังตายสูง! พบเสียชีวิต 292 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 17,984 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,535 ราย
เตรียมตัวให้พร้อม "ร้านนวด-เสริมสวย" คลายล็อก 1 ก.ย. นี้
นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา ประธานกรรมการ บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BTNC กล่าวว่า การทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ต้องมี "3 Knows" ได้แก่ 1. Know How ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการของตนเอง 2. Know Who บริษัทต้องรู้ว่าควรเข้าหาใคร ซึ่งผู้ที่ต้องเข้าหาอาจไม่ใช่คนใหญ่คนโตของประเทศเสมอไป เช่น ผู้ที่มีความสามารถด้านภาษา หรืออาชีพที่รู้จักคนกว้างขวางอย่างไกด์ เป็นต้น และ 3. Know GU ต้องรู้ว่าตนเองสามารถทำอะไรได้บ้าง

"และที่สำคัญคือไปไหนต้อง 'เทียวไล้เทียวขื่อ' หรือไปมาหาสู่อย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่คบหากับพันธมิตรอย่างจริงใจ รวมถึงผูกพันช่วยเหลือผ่านการลงนามความร่วมมือ (MOU) โดยตนในฐานะที่ปรึกษาสภาธุรกิจไทย-เมียนมา ได้สนับสนุนการลงนาม MOU มากถึง 14 ความร่วมมือเพื่อทำธุรกิจในประเทศดังกล่าว"

ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น นายปณิธาน กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตดังกล่าว การดำเนินธุรกิจใน CLMV ยังทำต่อเนื่องได้ เพราะคนที่ไม่ป่วยยังทำงานตามปกติ อีกทั้งมีมาตรการ Bubble and Seal เพื่อแยกผู้ติดเชื้อกับคนปกติออกจากกัน แต่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อป้องกัน และเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะสามารถคลี่คลายได้ในระยะข้างหน้า
#9776


ราคาน้ำมันดีดตัว 2% ในวันศุกร์(27ส.ค.) นับเป็นสัปดาห์ที่ปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี จับตาพายุลูกหนึ่งกำลังถาโถมเข้าหาอ่าวเม็กซิโก ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำปิดบวก จากความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ณ ที่ประชุมประจำปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

บรรดาบริษัทน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯเร่งอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะต่างๆนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ก่อนคาดหมายว่าเฮอร์ริเคนไอดาจะซัดถล่มรัฐลุยเซียนาในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

สำนักความปลอดภัยและการบังคับใช้ทางสิ่งแวดล้อมแห่สหรัฐฯเปิดเผยว่าด้วยพายุลูกที่ 9 ของฤดูกาลนี้กำลังคืบคลานเข้าหาแท่นขุดเจาะน้ำมันหลักนอกชายฝั่งสหรัฐฯ ส่งผลให้เหล่าผู้ผลิตน้ำมันในวันศุกร์(27ส.ค.) ต้องลดปฏิบัติการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกลง 59%

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(27ส.ค.)พุ่งแรง ดันเอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ เป็นครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์ หลังความเห็นของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ณ ที่ประชุมประจำปี ในเมืองแจ็คสัน โฮล สยบความกังวลเกี่ยวกับกรอบเวลาลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 242.68 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,455.80 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 39.37 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,509.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 183.69 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,129.50 จุด

แม้ พาวเวลล์ ไม่ได้ให้ภาพที่ชัดเจนในเรื่องของกรอบเวลาลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่ดูเหมือนเขาส่งสัญญาณอะลุ้มอล่วยกว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)คนอื่นๆ ในนนั้นรวมถึง เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์และโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ซึ่งคาดหวังว่าจะเริ่มลดระดับเข้าซื้อพันธบัตรเร็วๆนี้และจะปิดโครงการในปีหน้า

อย่างไรก็ตามด้วยความคิดเห็นของ พาวเวลล์ ไม่ได้ก่อความประหลาดใจใดๆแก่นักลงทุน เกี่ยวกับแผนของเฟด ส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(27ส.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 24.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,819.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)
#9778
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th/

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#9779
 ข้าวปลอดสารสุรินทร์  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย    ข้าวปลอดสารเคมีสุรินทร์ การปลูกข้าวปลอดสาร    จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวปลอดสาร   ปลูกข้าวปลอดสาร กันมั้ย   ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 
การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวออร์แกนิค
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  โครงการนาข้าวออร์แกนิค

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ส่งออกข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique มาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ขายข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#9780


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังหมายเลข 7 โพสต์ข้อความอำลาแฟน. ยูเวนตุส ยักษ์แห่ง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ซึ่งถือเป็นความในใจแรกของเจ้าตัวหลังเก็บของย้ายกลับไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โรนัลโด้ ย้ายมาสวมเสื้อลายขาว-ดำ ของพลพรรค 'ม้าลาย' เมื่อปี 2018 และประสบความสำเร็จซิวถ้วยแชมป์ 5 ใบคือ กัลโช่ เซเรีย อา 2 สมัย, โคปปา อิตาลี 1 สมัย และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย ทว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเมื่อเจ้าตัวกลับไปเล่นกับ 'ผีแดง' สโมสรที่พาแจ้งเกิดบนสังเวียนระดับโลก

เป็นเรื่องธรรมดาที่ว่าเมื่อจากลาก็ต้องมีการร่ำลา และนักเตะวัย 36 ปี ก็ตัดสินใจบอกลาโค้ช ทีมงาน และแฟน.ทุกคนผ่าน โซเชียล มีเดีย มีใจความดังต่อไปนี้

'วันนี้ผมต้องเดินออกจากสโมสรที่น่าทึ่ง ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิตาลี และแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ผมมอบหัวใจและจิตวิญญาณให้แก่ ยูเวนตุส และผมจะรักเมืองตูรินไปจนวันสุดท้าย แฟน.ของเรา ทิฟโฟซี เบียงโคเนรี ให้การยอมรับผมเสมอมา ผมจึงพยายามขอบคุณด้วยการต่อสู้เพื่อพวกเขาในทุกเกม ทุกฤดูกาล และทุกการแข่งขัน'

ในท้ายที่สุด เราทุกคนสามารถมองย้อนกลับไป และระลึกได้ว่าเราประสบความสำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้ไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องการ แต่เราก็ได้เขียนเรื่องราวที่สวยงามไปด้วยกัน'

"Juve, storia di un grande amore
Bianco che abbraccia il nero
Coro che si alza davvero
Juve per sempre sara..."

'ผมจะเป็นหนึ่งเดียวกับคุณเสมอ คุณเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของผม และผมรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ อิตาลี, ยูเว, ตูริน, ทิฟโฟซี เบียงโคเนรี คุณจะอยู่ในใจผมเสมอ'