• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - dsmol19

#3621


ราคาน้ำมันดีดตัว 2% ในวันศุกร์(27ส.ค.) นับเป็นสัปดาห์ที่ปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี จับตาพายุลูกหนึ่งกำลังถาโถมเข้าหาอ่าวเม็กซิโก ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำปิดบวก จากความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ณ ที่ประชุมประจำปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

บรรดาบริษัทน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯเร่งอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะต่างๆนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ก่อนคาดหมายว่าเฮอร์ริเคนไอดาจะซัดถล่มรัฐลุยเซียนาในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

สำนักความปลอดภัยและการบังคับใช้ทางสิ่งแวดล้อมแห่สหรัฐฯเปิดเผยว่าด้วยพายุลูกที่ 9 ของฤดูกาลนี้กำลังคืบคลานเข้าหาแท่นขุดเจาะน้ำมันหลักนอกชายฝั่งสหรัฐฯ ส่งผลให้เหล่าผู้ผลิตน้ำมันในวันศุกร์(27ส.ค.) ต้องลดปฏิบัติการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกลง 59%

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(27ส.ค.)พุ่งแรง ดันเอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ เป็นครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์ หลังความเห็นของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ณ ที่ประชุมประจำปี ในเมืองแจ็คสัน โฮล สยบความกังวลเกี่ยวกับกรอบเวลาลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 242.68 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,455.80 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 39.37 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,509.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 183.69 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,129.50 จุด

แม้ พาวเวลล์ ไม่ได้ให้ภาพที่ชัดเจนในเรื่องของกรอบเวลาลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่ดูเหมือนเขาส่งสัญญาณอะลุ้มอล่วยกว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)คนอื่นๆ ในนนั้นรวมถึง เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์และโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ซึ่งคาดหวังว่าจะเริ่มลดระดับเข้าซื้อพันธบัตรเร็วๆนี้และจะปิดโครงการในปีหน้า

อย่างไรก็ตามด้วยความคิดเห็นของ พาวเวลล์ ไม่ได้ก่อความประหลาดใจใดๆแก่นักลงทุน เกี่ยวกับแผนของเฟด ส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(27ส.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 24.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,819.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)
#3622
 ข้าวปลอดสารสุรินทร์  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย    ข้าวปลอดสารเคมีสุรินทร์ การปลูกข้าวปลอดสาร    จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวปลอดสาร   ปลูกข้าวปลอดสาร กันมั้ย   ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 
การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวออร์แกนิค
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  โครงการนาข้าวออร์แกนิค

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ส่งออกข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique มาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ขายข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3623


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังหมายเลข 7 โพสต์ข้อความอำลาแฟน. ยูเวนตุส ยักษ์แห่ง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ซึ่งถือเป็นความในใจแรกของเจ้าตัวหลังเก็บของย้ายกลับไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โรนัลโด้ ย้ายมาสวมเสื้อลายขาว-ดำ ของพลพรรค 'ม้าลาย' เมื่อปี 2018 และประสบความสำเร็จซิวถ้วยแชมป์ 5 ใบคือ กัลโช่ เซเรีย อา 2 สมัย, โคปปา อิตาลี 1 สมัย และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย ทว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเมื่อเจ้าตัวกลับไปเล่นกับ 'ผีแดง' สโมสรที่พาแจ้งเกิดบนสังเวียนระดับโลก

เป็นเรื่องธรรมดาที่ว่าเมื่อจากลาก็ต้องมีการร่ำลา และนักเตะวัย 36 ปี ก็ตัดสินใจบอกลาโค้ช ทีมงาน และแฟน.ทุกคนผ่าน โซเชียล มีเดีย มีใจความดังต่อไปนี้

'วันนี้ผมต้องเดินออกจากสโมสรที่น่าทึ่ง ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิตาลี และแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ผมมอบหัวใจและจิตวิญญาณให้แก่ ยูเวนตุส และผมจะรักเมืองตูรินไปจนวันสุดท้าย แฟน.ของเรา ทิฟโฟซี เบียงโคเนรี ให้การยอมรับผมเสมอมา ผมจึงพยายามขอบคุณด้วยการต่อสู้เพื่อพวกเขาในทุกเกม ทุกฤดูกาล และทุกการแข่งขัน'

ในท้ายที่สุด เราทุกคนสามารถมองย้อนกลับไป และระลึกได้ว่าเราประสบความสำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้ไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องการ แต่เราก็ได้เขียนเรื่องราวที่สวยงามไปด้วยกัน'

"Juve, storia di un grande amore
Bianco che abbraccia il nero
Coro che si alza davvero
Juve per sempre sara..."

'ผมจะเป็นหนึ่งเดียวกับคุณเสมอ คุณเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของผม และผมรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ อิตาลี, ยูเว, ตูริน, ทิฟโฟซี เบียงโคเนรี คุณจะอยู่ในใจผมเสมอ'
#3624


เคทีซีปรับแผนธุรกิจหมวดบริจาครับวิถีใหม่ วางตัวเป็นสื่อกลางระหว่างสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีและพันธมิตรองค์กรการกุศลกว่า 60 แห่ง เพื่อร่วมกันช่วยเหลือสังคมในหลากหลายมิติ พร้อมเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มช่องทางการบริจาค ออฟไลน์ ออนไลน์ และโมบายแอปพลิเคชั่น "KTC Mobile"

ล่าสุดเปิดรับบริจาคด้วยบัตรเครดิตผ่าน QR Pay และแลกคะแนนผ่าน QR Point ทางแอปฯ KTC Mobile เพื่อให้สมาชิกเข้าถึงการบริจาคได้ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หลีกเลี่ยงการเดินทางและลดการแพร่ระบาดจากไวรัสโควิด-19"



นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เคทีซีเข้าใจและตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยหวังว่าจะมีส่วนช่วยสร้างสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยได้ดำเนินการช่วยเหลือสังคมในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการร่วมเป็นจิตอาสา หรือการสบทบทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เคทีซีได้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์สนับสนุนโครงการและกิจกรรมต่างๆ ระหว่างมูลนิธิกับสมาชิก พร้อมทั้งเปิดช่องทางรับบริจาคผ่านบัตรเครดิตให้กับสมาชิกเคทีซี เพื่อส่งต่อให้กับมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่างๆ กว่า 60 แห่ง โดยปี 2563 มียอดบริจาคผ่านบัตรเครดิตเคทีซีด้วยคะแนน KTC FOREVER กว่า 50 ล้านคะแนน ยอดเงินบริจาครวม 300 ล้านบาท"

"สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงและขยายวงกว้างขณะนี้ ภารกิจสำคัญที่สุดที่เคทีซีต้องดำเนินการ คือให้ความร่วมมือกับมูลนิธิต่างๆ ด้วยความกระตือรือร้นและรวดเร็ว เพื่อให้เข้าถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ ผู้กักกันตน โรงพยาบาลที่ขาดแคลนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือการสร้างศูนย์พักคอยรองรับผู้ป่วยสีเขียวในต่างจังหวัด โดยถือเป็นภาระเร่งด่วนที่สุดในการประสานกับมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และเปิดช่องทางให้สมาชิกเคทีซีสามารถเข้าถึง เพื่อเสริมแรงสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม"



ดร. บรรจงเศก ทรัพย์โสภา ผู้อำนวยการมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ กล่าวว่า "มูลนิธิได้ทำงานช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในประเทศไทยมา 64 ปี ใน 3 รูปแบบ คือ 1. พัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี 2. พัฒนาเด็กและเยาวชนในชุมชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพเพื่อเป็นอนาคตของประเทศ 3. เน้นทำงานควบคู่กับเครือข่ายภาคี เช่น เคทีซี ภาครัฐและเอกชน รวมถึงองค์กรการกุศล 4. ปรับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เช่น โควิด-19"

"ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้มูลนิธิต้องปรับตัวหลายด้าน ทั้งการทำงานที่ต้องปรับเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมมาใช้รูปแบบออนไลน์มากขึ้น เช่น การเยี่ยมเด็ก และการทำกิจกรรมร่วมกับผู้นำชุมชน หรือโรงเรียน เพื่อรักษาระยะห่าง ที่ผ่านมามูลนิธิได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกเคทีซีค่อนข้างมาก ในรูปแบบของเงินบริจาคผ่านบัตรเครดิต และการบริจาคผ่านการแลกคะแนน และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ มูลนิธิฯ อยากผลักดันการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายต่างๆ และอาสาสมัครเพื่อร่วมกันบรรเทาผลกระทบของการแพร่ระบาดครั้งนี้ มูลนิธิฯ ซี.ซี.เอฟ. ฯ ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยชุมชนและแยกกักกันในต่างจังหวัดเพื่อให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพราะส่วนใหญ่ศูนย์พักคอยมักจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ หรือในเขตเมือง ปัจจุบันเรามีศูนย์ฯ ที่สนับสนุนอยู่ในต่างจังหวัดทั้งหมด 37 แห่ง และกำลังจะสนับสนุนเพิ่ม 16 แห่ง แต่ยังขาดแคลนด้าน เวชภัณฑ์ อาหาร และสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วยมาก"

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า "สภากาชาดไทยเป็นองค์กรสาธารณกุศล เพื่อบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยากในสังคม ซึ่งจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สภากาชาดไทยก็ได้รับผลกระทบในหลายด้านเช่นกัน ได้แก่ 1.บริการทางการแพทย์ บุคลากรและอุปกรณ์การแพทย์ไม่เพียงพอ กับจำนวนผู้ป่วยที่ต้องการเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มสูงขึ้น 2. บริการโลหิต เกิดภาวะวิกฤตประชาชนไม่มั่นใจที่จะมาบริจาคเพราะห่วงความปลอดภัย 3. การหารายได้เข้ามูลนิธิ เพื่อใช้บริหารความช่วยเหลือไม่เป็นไปตามแผน เนื่องจากประชาชนมีกําลังในการบริจาคลดลง ซึ่งการที่เคทีซีเป็นพันธมิตรในการเผยแพร่ข่าวสารและจัดแคมเปญต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดรับบริจาคผ่านช่องทางของเคทีซี ถือเป็นการขยายโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้าถึงการแบ่งปันและการช่วยเหลืออย่างมาก ซึ่งรายได้จากการบริจาคจะนําไปใช้ช่วยเหลือประชาชนตามภารกิจต่างๆ ทั้งการรักษาพยาบาล บรรเทาทุกข์ ผู้ประสบภัย บริการโลหิต และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต รวมไปถึงสถานการณ์เร่งด่วนในขณะนี้คือ การช่วยเหลือและเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19"

"ปัจจุบันสภากาชาดไทยยังมีโครงการจัดครัวเคลื่อนที่ ทําอาหารปรุงสุกให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การแจกชุดธารน้ำใจให้ผู้กักตน ผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ติดเชื้อโควิด และดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ โควิดของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมถึง Hospitel และ Home Isolation เฉลี่ยวันละ 800-900 ราย รวมถึงสร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วนและจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด ทั้งนี้สมาชิกเคทีซีสามารถร่วมบริจาคด้วยการแลกคะแนนสะสมเป็นเงินบริจาค นอกเหนือจากการบริจาคด้วยบัตรเครดิต เพื่อร่วมสมทบทุนเข้าโครงการต่างๆ ของสภากาชาดไทย โดยสามารถติดตามข่าวสารของสภากาชาดไทยผ่านเคทีซีในทุกๆ ช่องทางได้อีกด้วย"



นางสาวจุฑารัตน์ วิบูลสมัย ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาแหล่งทุน มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม กล่าวว่า "มูลนิธิเป็นองค์กรการกุศลทางการแพทย์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในพ.ศ. 2525 และก่อตั้งในไทยเมื่อพ.ศ. 2540 มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ รวมถึงแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก นิ้วติด นิ้วเกิน หรือใบหน้าที่ผิดรูป โดยมูลนิธิได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเคทีซี ในการรับบริจาคผ่านบัตรเครดิตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พ.ศ. 2557 รวมทั้งพนักงานเคทีซียังได้ร่วมเป็นจิตอาสาประกอบแฟ้มผู้ป่วย เพื่อใช้เก็บประวัติข้อมูลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ที่จะเข้ารับการผ่าตัด"

"ในช่วงสถานการณ์โควิดทำให้มูลนิธิไม่สามารถปฏิบัติการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้การผ่าตัดที่ต่างจังหวัดได้ ซึ่งโดยปกติปีหนึ่งจะมีการวางแผนออกหน่วย 4 ครั้งต่อปี ใน 4 จังหวัด ครั้งหนึ่งประมาณ 7 วัน โดยไปทำการผ่าตัดให้ผู้ป่วยเด็กเฉลี่ย 80 - 100 คน อย่างไรก็ตาม มูลนิธิฯ ยังดำเนินการ "โครงการผ่าตัดแบบต่อเนื่อง" โดยให้งบสนับสนุนกับโรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ที่มีศัลยแพทย์ จึงยังคงสามารถผ่าตัดผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ได้ต่อเนื่อง ซึ่งการรักษาเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ต้องได้รับการผ่าตัดมากกว่า 1 ครั้ง บางคนต้องผ่าตัด 3 - 5 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีโครงการ "Smile Box" กล่องแห่งรอยยิ้ม ซึ่งบรรจุผ้าอ้อมเด็ก นมผง หน้ากากอนามัย อุปกรณ์การเรียน แผ่นพับที่ให้ความรู้ในการดูแลเด็ก และขวดนมที่มีลักษณะยาวพิเศษสำหรับเด็ก ปากแหว่งเพดานโหว่ เพื่อส่งให้กับผู้ป่วยเด็กที่เราเคยผ่าตัดไปแล้ว กับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัด โดยส่งไปแล้วประมาณ 200 กล่อง และสำหรับแผนงานในปีหน้า เมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น ทางมูลนิธิหวังว่าจะสามารถออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ผ่าตัดที่ต่างจังหวัดได้ตามเดิม"

นางสาวอรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการแผนกส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR กล่าวว่า "สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติก่อตั้งมายาวนานถึง 70 ปี โดยมีบทบาทให้ความช่วยเหลือ ผู้ลี้ภัยที่มีเหตุการณ์ในประเทศ เช่น สงคราม หรือความขัดแย้งทำให้ไม่สามารถอยู่ในประเทศตนเองได้ ซึ่งตอนนี้มีจำนวนถึง 82.4 ล้านคนทั่วโลก ปัจจุบันเราทำงานใน 135 ประเทศ และร่วมงานกับประเทศไทยมานาน 46 ปี"

"ไวรัสโควิด-19 พิสูจน์แล้วว่าไวรัสไม่ได้แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา หรือกลุ่มคน กลุ่มผู้ลี้ภัยก็มีการแพร่ระบาดของไวรัสเช่นกัน และอยู่ในความเสี่ยงสูงมากจากข้อจำกัดต่างๆ UNHCR ได้ระดมกำลังเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและบุคคลในความห่วงใยทั้งในและนอกค่ายทั่วโลกให้ได้รับความเท่าเทียม โดยไม่เลือกปฏิบัติ เพิ่มจุดแจกจ่ายน้ำให้มากขึ้น จุดล้างมือ จุดแจกจ่ายสบู่ หรือหน้ากากอนามัย และสิ่งสำคัญที่สุดคือ การอบรมให้ทราบถึงการเว้นระยะห่าง การรักษาพยาบาลเพิ่มเติม กรณีมีเคสผู้ป่วย กลุ่มแพทย์และพยาบาลต้องรับรู้เคสและสามารถรักษาผู้ป่วยเหล่านี้ รวมทั้งสร้างพื้นที่ในการคัดแยกผู้ป่วยอีกด้วย"

"ความช่วยเหลือจากทุกๆ ฝ่ายเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับ UNHCR มีผู้บริจาคที่มีคุณภาพผ่านบัตรเครดิตแบบต่อเนื่องค่อนข้างมาก จากสถิติผู้ลี้ภัยตกอยู่ในสถานะนี้โดยเฉลี่ยถึง 17 ปี ดังนั้นการบริจาคต่อเนื่องจะช่วยให้เรามีงบประมาณในการช่วยชีวิตผู้ลี้ภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรามุ่งเน้นช่วยกลุ่มที่เปราะบางเพราะ 80% ของผู้ลี้ภัยคือ ผู้หญิงและเด็ก ช่องทางการบริจาคผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเป็นวิธีที่ง่าย แต่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน ในอนาคตจะมีโครงการมอบทุนให้กับผู้ลี้ภัยทั่วโลก เพราะผู้ลี้ภัยเพียง 3% ที่ได้รับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย รวมถึงวิกฤติด้านมนุษยธรรมล่าสุดในอัฟกานิสถาน เราจึงอยากมอบโอกาสและอนาคตที่ดีให้กับผู้ลี้ภัยด้วยกัน"

นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต "เคทีซี" กล่าวทิ้งท้าย "ยุคที่ต้องเว้นระยะห่างและหลีกเลี่ยงการเดินทาง เพื่อลดการติดเชื้อโควิด-19 นั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มูลนิธิและองค์กรการกุศลต่างๆ ต้องเผชิญกับภาวะที่ได้รับการสนับสนุนจากสังคมลดน้อยลง ดังนั้นเคทีซีจึงตั้งใจพัฒนาแพลตฟอร์มช่องทางการบริจาค ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ และโมบายแอปพลิเคชั่น โดยล่าสุดได้พัฒนาช่องทางออนไลน์ ด้วยฟังก์ชันการบริจาคผ่านบัตรเครดิตด้วย QR Pay การบริจาคด้วยคะแนนผ่าน QR Point โดยแลกคะแนนผ่านแอปฯ "KTC Mobile" เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกเคทีซีสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมได้ง่ายขึ้น"
#3625
 ขายที่ดินท่าอิฐขายถูกกว่าทั่วไป นนทบุรี  ขนาด 1 ไร่ ใกล้ถนนราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ขายถูกกว่าทั่วไป 30,000 บาท/ตร.วา ทำเลดี ราคาถูกกว่า ทั่วไป



ขายที่ดินท่าอิฐ1ไร่ใกล้ถนนราชพฤกษ์  ขนาด 1 ไร่ ใกล้ถนนราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า ขายถูกกว่าทั่วไป ใกล้เคียงเพียง 30,000 บาท/ตร.วา  ขายที่ดินท่าอิฐ ซอย12
ขายถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียง ขายที่ดินท่าอิฐซอย12  เพียง 30,000 บาท/ตร.วา

 ขายที่ดินท่าอิฐซอย12
ลักษณะเด่น :
ที่ดินเปล่า ขนาด 1 ไร่ รูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้า หน้ากว้าง 35 เมตร
ในซอยท่าอิฐ 12 ห่างจากถนนราชพฤกษ์เพียงกิโลครึ่ง
เดินทางสะดวก เข้าออกได้ 2 ทาง 
ทั้งทางถนนราชพฤกษ์ หรือออกทางรัตนาธิเบศร์
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ
ที่สวย ทำเลดี ราคาถูกกว่าทั่วไป

ที่ดินใกล้สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ที่ดินทำเลทอง สะดวก น้ำประปา, มีไฟฟ้า ใกล้ระบบคมนาคมขนส่ง, ใกล้หน่วยงานราชการใกล้แหล่งชุมชน ใกล้สถานีรถไฟฟ้า/รถไฟฟ้าใต้ดิน, ใกล้ห้างสรรพสินค้า, ใกล้โรงพยาบาล/คลีนิค, ใกล้โรงเรียน/มหาวิทยาลัย
ที่ตั้ง ซอยท่าอิฐ 12 ถนนราชพฤกษ์ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
เนื้อที่ 1 ไร่ รูปสี่เหลี่ยม หน้ากว้าง 35 ม.  ลึก 45 ม.


สถานที่ ใกล้เคียง
– ใกล้ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
– ใกล้ เซ็นทรัล เวสต์เกต
– ใกล้ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
– ใกล้ สถานีรถไฟฟ้า สถานีท่าอิฐ (บางซื่อ-บางใหญ่)
– ในซอยมีร้านสะดวกซื้อ 7-11

ที่ดินซอยท่าอิฐ12 ขาย 12,000,000 บาท (30,000 บาท/ตร.วา) ค่าโอนออกคนละครึ่ง
สนใจ ติดต่อ คุณวิน 0621959053
ไลน์: ravinm23


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.rubpostban.com/ขายที่ดินท่าอิฐซอย12/

คำค้น
ขายที่ดินท่าอิฐ,  ขายที่ดินท่าอิฐซอย12,  ขายที่ดินท่าอิฐนนทบุรี ขายที่ดินท่าอิฐ1ไร่ใกล้ถนนราชพฤกษ์, ขายที่ดินท่าอิฐใกล้รถไฟฟ้า, ขายที่ดินท่าอิฐขายถูกกว่าทั่วไป, ที่ดินท่าอิฐขายถูก30000/วา,
#3626


เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม จีนและลาวได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถบรรทุกสินค้าทางถนน เชื่อมระหว่างนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน กับนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว

โดยรถคอนเทนเนอร์ขนาด 18 ล้อ บรรทุกเครื่องจักร อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่ารวม 3 ล้านหยวน ได้ออกเดินทางจากนครคุนหมิง ข้ามด่านชายแดนจีนที่เมืองบ่อหาน เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เข้ามายังดินแดนลาวที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา จากนั้นเดินทางต่อลงมาตามถนนหมายเลข 13 จนถึงนครหลวงเวียงจันทน์

ในเวลาเดียวกัน รถคอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้า ซึ่งถูกระบุเพียงว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของลาว ได้เดินทางออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ ข้ามชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน ต่อขึ้นไปถึงนครคุนหมิง ซึ่งถูกใช้เป็นจุดกระจายสินค้าที่บรรทุกจากลาวไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน

ขบวนรถบรรทุกสินค้าข้ามประเทศครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลการจราจร ต้นทุน ค่าใช้จ่าย รวมถึงอุปสรรคและข้อบกพร่องที่อาจพบ ในการเดินทางระหว่างนครคุนหมิงกับนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับเตรียมเปิดเส้นขนส่งสินค้าทางถนนจีน-ลาว ซึ่งจะใช้คู่ขนานกับเส้นทางรถไฟลาว-จีน (เวียงจันทน์-คุนหมิง) ที่กำหนดเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 2 ธันวาคมที่จะถึงนี้

ที่ผ่านมา ในช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ระบาด มีข้อตกลงให้รถจีนและลาววิ่งข้ามไป-มาระหว่างกันได้ เพราะเป็น 2 ประเทศที่มีชายแดนติดกัน อย่างไรก็ตาม รถจากจีนสามารถเดินทางไปยังทุกแขวงของลาว แต่รถจากลาว ไม่สามารถเดินทางไปได้ทุกมณฑลของจีน เพราะแต่ละพื้นที่มีกฏระเบียบที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ หากเป็นรถสัญชาติลาว ส่วนมากมักวิ่งขึ้นไปไม่ถึงนครคุนหมิง ต้องเปลี่ยนไปใช้หัวรถจีน หรือเปลี่ยนไปใช้รถบรรทุกสัญชาติจีนเสียก่อน
#3627


รัฐบาลญี่ปุ่นจะแจกชุดตรวจแอนติเจนสูงสุด 800,000 ชุดให้แก่โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถม และมัธยมต้นตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนนี้ และเพิ่มมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันทางติดเชื้อที่โรงเรียนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในหมู่เด็ก ๆ ก่อนเริ่มภาคเรียนใหม่

ชุดตรวจแอนติเจนจะใช้เวลาที่นักเรียนมีอาการป่วย เช่น มีไข้ แต่ไม่สามารถไปพบแพทย์ทันทีหรือรีบกลับบ้านได้ โดยใช้กับนักเรียนชั้นประถม 4 ขึ้นไป และครูอาจารย์, เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน

นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะขอให้ทางการท้องถิ่นเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ครูอาจารย์และเจ้าหน้าที่สถานศึกษา โดยให้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่จัดการฉีดวัคซีน

เดิมที เด็กนักเรียนมีโอกาสติดเชื้อค่อนข้างน้อย เนื่องจากเดินทางแค่ไปโรงเรียนและกลับบ้านเท่านั้น แต่เนื่องจากขณะนี้มีการติดเชื้อในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ผู้ปกครองหลายคนที่ติดเชื้อก็ต้องรักษาตัวที่บ้าน จึงอาจทำให้ลูกติดเชื้อไปด้วย



นายโอมิ ชิเงรุ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัฐบาลญี่ปุ่น เสนอให้เลื่อนการการเปิดภาคการศึกษาใหม่ เพื่อลดการติดเชื้อไม่ให้แพร่กระจาย

กำหนดการเปิดภาคเรียนในญี่ปุ่นจะกำหนดโดยคณะกรรมการการศึกษาในแต่ละท้องถิ่น แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม-ต้นเดือนกันยายน

นายโอมิกล่าวว่า การเปิดภาคเรียนใหม่ของโรงเรียนในช่วงนี้อาจมีความเสี่ยงทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอีก และจะเป็นภาระให้กับระบบการแพทย์ ทางการท้องถิ่นควรพิจารณาเลื่อนการเปิดภาคเรียนออกไป

ทั้งนี้ญี่ปุ่นแทบจะไม่ใช้การเรียนแบบออนไลน์เต็มรูปแบบในระดับประถมและมัธยม นักเรียนที่ป่วยสามารถเรียนออนไลน์ได้ และในพื้นที่ที่มีการระบาดมาก เด็กนักเรียนก็ยังมาโรงรียนอยู่โดยสลับคาบเรียนกัน.
URL
#3628


ฟิตบิท (Fitbit) เปิดตัวสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ Fitbit Charge 5 ตัวเรือนบางลง 10% เพิ่มความสามารถวัดความเคลียด ออกซิเจนในเลือด และอุณหภูมิผิวหนัง หวังช่วยวัดความพร้อมร่างกายในทุกมิติในเครื่องเดียว ในราคาเปิดตัว 7,690 บาท แบตเตอรีใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 วัน

การเปิดตัว Fitbit Charge 5 ถือเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกที่เปิดตัวหลังจากฟิตบิท เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Google ทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งการปรับรูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมที่ช่วยให้แอปพลิเคชัน Fitbit สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับ Google Fit เพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพไว้ในที่เดียว

ความน่าสนในของ Fitbit Charge 5 ที่มีการปรับปรุงดีไซน์ให้ทันสมัย เหมาะกับการใส่ใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น ยังมาพร้อมความสามารถในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา และทำการแจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นสูง หรือต่ำกว่าระดับปกติ รวมถึงการตรวจจับความเคลียด ที่จะคอยบันทึกข้อมูลการตอบสนองของร่างกาย ข้อมูลการหายใจ อุณหภูมิผิวหนัง และการวัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) ด้วย

ทั้งนี้ จุดเด่นหลักของ Fitbit คือแอปพลิเคชันเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูล ที่ได้มีการเพิ่มบริการบอกรับสมาชิก Fitbit Premium ขึ้นมาช่วยแนะนำการออกกำลังกาย ซึ่งผู้ที่ซื้อ Fitbit Charge 5 จะสามารถใช้งานได้ฟรี 6 เดือน และหลังจากนั้นจะมีค่าบริการรายเดือนต่อไป



พร้อมกันนี้ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ AMOLED แบบติดตลอดเวลา (Always On) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลเวลา และสถานะก้าวเดินในแต่ละวันได้ตลอดเวลา โดยแบตเตอรีสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มีระบบตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ วัดการนอน และการปลุกในช่วงที่ดีที่สุด

Fitbit Charge 5 วางจำหน่ายในราคา 7,690 บาท โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้ ก่อนวางขายพร้อมกันทั่วโลกในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ โดยนอกจากตัวเรือนแล้ว ยังมีสายฟิตเนสแทร็กเกอร์ในรูปแบบที่หลากหลายมาให้เลือกด้วย
#3629


นายกวิน เฉลิมโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 มีมติอนุมัติให้ บริษัท แคนนา แคร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนใน บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด ( GTG) โดยการซื้อหุ้นสามัญเดิม GTG จากบุคคลจำนวนรวม 5 ราย ประกอบด้วย นางสาว กนกพร ศีตวรรัตน์, นางสาวพลอย ปิ่นแสง ,นายวิรุณ ชาญวิทยารมณ์ ,นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ และนางสาวสุภารัตน์ สง่าเมือง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยของ GTG จำนวนรวมทั้งสิ้น 940,767 หุ้น คิดเป็น 10.63% ในราคา 226.09 บาทต่อหุ้น หรือ คิดเป็นมูลค่ารวม 212.70 ล้านบาท และภายหลังจากการทำรายการในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัท แคนนา แคร์ จำกัด จะถือหุ้นทั้งหมดใน GTG คิดเป็นสัดส่วน 14.62 % ของทุนจดทะเบียนของ GTG จากเดิมถือหุ้น 3.98 % ปัจจุบัน

สำหรับ GTG ยังคงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และมีศักยภาพที่จะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทฯ ในอนาคต ประกอบกับบริษัทฯ มีความสัมพันธ์อันดีกับ GTG และผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อเสนอขายหุ้นของ GTG ให้กับบริษัทฯ ในราคา 226.09 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับราคาที่ต่ำกว่า ราคาเสนอขายในรายการซื้อหุ้น GTG ในครั้งก่อนหน้านี้

" การเข้าลงทุนใน GTG ได้มีการปรับวิธีการลงทุน เนื่องจากการเจรจากับผู้ถือหุ้นที่เป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบางราย ได้ปฏิเสธข้อเสนอการซื้อหุ้นสามัญของ GTG ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถซื้อหุ้นของ GTG ได้ในสัดส่วน 96.49 %ของทุนจดทะเบียน ดังนั้นจึงส่งให้ บริษัท แคนนา แคร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของUPA ซึ่งปัจจุบันได้ถือหุ้นใน GTG อยู่แล้ว 3.98% เข้าไปซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายบุคคล ทำให้หลังการทำรายการจะถือหุ้นรวม 14.62% และยังคงทำให้มีสิทธิในการเข้าร่วมลงทุน (Joint Venture) กับ GTG ในธุรกิจเพาะปลูกกัญชง กัญชา เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำธุรกิจทางการแพทย์ตามเป้าหมายเดิม" นายกวิน กล่าว

อนึ่ง บริษัท แคนนา แคร์ จำกัด ลงทุนในบริษัทหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการพัฒนาและลงทุนในพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย ซึ่งรวมถึง กัญชง และกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดย UPA ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100
#3630


พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 จัดเต็มแมตช์สด ส่งท้ายเดือนสิงหาคมนี้ กับความมันส์อัดแน่น 3 แมตช์รวด ตั้งแต่เย็นยันค่ำ ในวันเสาร์ที่ 28 ส.ค.นี้ ประเดิมด้วย ศึกบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ พบ อาร์เซน่อล เวลา 18.30 น. ต่อด้วยบิ๊กทีม ศึกบุนเดสลีกา เอาก์สบวร์ก พบ เลเวอร์คูเซ่น เวลา 20.30 น. และ บาเยิร์น มิวนิค พบ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เวลา 23.30 น.

สัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมนี้ เป็นการแข่งขันในแมตช์ที่ 3 ของ ทั้งพรีเมียร์ลีก และบุนเดสลีกา ในฤดูกาล 2021/22 ซึ่งมีหลายคู่ หลายทีมที่กำลังเป็นประเด็น และน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง พีพีทีวี จึงคัดเอา 3 แมตช์ที่แฟน.ไม่ควรพลาด มาถ่ายทอดสดให้แฟน.ได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง ในวันเสาร์ที่ 28 ส.ค. นี้ จะประเดิมด้วย ศึกพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ เวลา 18.30 น. "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าของกุนซือหัวใส เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แม้จะเปิดม่านไม่ค่อยสวยนัก ด้วยการบุกไปพ่าย สเปอร์ส ในแมตช์แรก 0-1 แต่ก็กลับคืนฟอร์มโหดอย่างรวดเร็ว ด้วยการเปิดบ้านกระซวก นอริช ถึง 5-0 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมดาวเตะตัวใหม่อย่าง แจ็ค กรีลิช ก็ซัดประตูแรกในสีเสื้อเรือใบ เรียกความมั่นใจไปเต็ม ๆ เป็นที่เรียบร้อย

ผิดกับฝั่ง "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ผู้มาเยือนจากลอนดอนที่อาการน่าเป็นห่วง หลังบุกไปพ่ายน้องใหม่ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 ในนัดแรก และเปิดบ้านพ่ายให้กับ เชลซี ไป 0-2 ในศึกดาร์บี้แมตช์ลอนดอน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำเอาเก้าอี้ของกุนซือหนุ่ม มิเกล อาร์เตตา เริ่มร้อน เพราะนี่คือผลงานเปิดฤดูกาลที่แย่ที่สุดในรอบ 118 ปี ของประวัติศาตร์สโมสร กับการแพ้ 2 รวดเกมติด แถมไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ส่งผลให้ทีมร่วงไปอยู่อันดับรองบ๊วยของตาราง และเจ้าตัวก็ถูกปรับให้เป็นเต็งหนึ่งของผู้จัดการทีมที่อาจจะถูกปลดในฤดูกาลนี้อีกด้วย ศึกบิ๊กแมตช์ครั้งนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อทั้ง อาร์เตต้า และอาร์เซน่อล คงต้องดูกันว่า เรือใบ แชมป์เก่าจะยัดเยียดความพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 3 ให้กับอาร์เซน่อล และกดพวกเขาลงสู่ก้นตาราง หรือ ไอ้ปืนใหญ่ จะขืนใจหักปากกาเซียน บุกมาคว้าชัยแมตช์แรกได้สำเร็จ สร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์! ส่งท้ายเดือนสิงหาคมนี้กันแน่



นอกจากบิ๊กแมตช์ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว พีพีทีวียังมีอีก 2 บิ๊กทีมจาก ศึกบุนเดสลีกา มาให้แฟนๆ ได้ชมกันต่อเนื่องในวันเดียวกัน เวลา 20.30 น. ชม เอาก์สบวร์ก รองบ๊วยเปิดบ้านรับศึกหนัก "ห้างขายยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มแจ่ม ถล่ม กลัดบัค ไป 4-0 ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และปิดท้าย เวลา 23.30 น. "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค แชมป์เก่า ที่เพิ่งเปิดบ้านเชือด โคโลญจน์ ไป 3-2 ในนัดก่อน อยู่เฝ้ารังรอซดทีมท้ายตารางอย่าง แฮร์ธ่า เบอร์ลิน โดยทัพเสือใต้ต้องปักหมุดหมายด้วยการคว้าชัยในแมตช์นี้เท่านั้น เพื่อเรียกความฮึกเหิม ก่อนที่จะบุกไปทำศึกบิ๊กแมตช์กับรองแชมป์เก่าอย่าง ไลป์ซิก ต่อไปในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

พลาดไม่ได้! กับความมันส์ของบิ๊กแมตช์ และบิ๊กทีม ต่อเนื่อง 3 แมตช์รวด วันเสาร์ที่ 28 ส.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ถ่ายทอดสดบนหน้าจอฟรีทีวี ทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง36 (รับสัญญาณผ่านกล่องทีวีดิจิทัล หรือโทรทัศน์รุ่นใหม่ที่มีอุปกรณ์รับสัญญาณในตัวเครื่องเท่านั้น) รวมทั้งชมสดออนไลน์ได้ทาง www.pptvhd36.com
#3631
แซนดีสุจิตราเครื่องประดับแฮนเมด ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์



แซนดีสุจิตราต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์  แซนดีสุจิตราเครื่องประดับแฮนเมด
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ โดย แซนดีสุจิตรา แนะนำผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม เป็นผลงานศิลปะในตัวเอง และ เป็นงานฝีมืออย่างพิถีพิถันโดยศิลปินท้องถิ่น

ต่างหูแฮนเมดราคาย่อมเยาว์แซนดีสุจิตรา  ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ มีของฝากมากมายให้ซื้อในประเทศไทย หัวของคุณจะหมุนแน่นอนเมื่อตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร คุณภาพในราคาที่ไม่แพงนอกจากนี้คุณยังพบกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะทำให้คุณประหลาดใจว่าศิลปะไทยมีความพิเศษอย่างไร แนะนำ ชิ้นนี้ ต่างหูแฮนเมด-โดยแซนดีสุจิตรา Trust Pearl & Rose Quartz

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา และสินค้าอืนๆมากมาย แนะนำ สินค้าอืนๆอีกมาก https://www.sandysujittra.com/
The most beautiful product that we prod of and recommend, Handman Earing By Sandysujittrahandcrafted by local artist
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา 

Handman Earing By Sandysujittra

One of the most beautiful product that we proud of and recommend, These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.

There are a lot of souvenir items to buy in Thailand.Your head will surely spin when trying to decide on what to buy.here are selected items which is unique and will surely remind you of your wonderful time at Thailand.

Handman Earing By Sandysujittra

Recommend, product

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.
Our products have made by thai local people who love art & have much experience
Please visit Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop
https://www.sandysujittra.com/


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/เครื่องประดับ/ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุ/


คำค้น
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, Handman Earing By Sandysujittra

 
#3632


นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบในด้านการเติบโตของเศรษฐกิจและธุรกิจเพียงอย่างเดียว ในมุมผู้บริโภคถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตไปอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการเดินทาง การกิน การอยู่ การใช้จ่าย การทำงาน การเรียน หรือการพบแพทย์ ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายจากการที่ยังไม่สามารถคาดเดาตอนจบในอนาคตได้ ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพไปพร้อม ๆ กับเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ส่งสัญญาณให้เห็นชัดขึ้นจากสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ทั่วโลก

จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด อัปเดตเทรนด์ที่อยู่อาศัยในอุดมคติของผู้บริโภคในยุค Next Normal เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตอย่างราบรื่นและยั่งยืนในระยะยาว

เทรนด์รักษ์โลกส่งเสริมการใช้ชีวิตประหยัดพลังงาน การทำงานที่บ้าน( Work from Home) ทำให้บ้านกลายมาเป็นสถานที่ทำงาน/เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่พื้นที่ออกกำลังกายดูแลสุขภาพ กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นและกลายเป็นค่าไฟที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานภายใต้แนวคิดรักษ์โลกที่ช่วยประหยัดการใช้พลังงาน โดยมากกว่าครึ่ง (62%) ต้องการบ้าน/คอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop) เพื่อสร้างพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับบ้าน/คอนโดฯ ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อน (58%) และฟังก์ชั่นดูดซับมลพิษภายในบ้าน (48%) เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตภายในบ้านมีความสะดวกสบายและมั่นใจยิ่งขึ้น เมื่อต้องรับมือปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่เรื่อย ๆ หน้าต่าง/ประตูที่มีฉนวนกันความร้อน(47%) และเครื่องกำจัดเศษขยะ (32%)

นวัตกรรมมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพ การที่ผู้บริโภคหันมาตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมที่ชัดเจนที่สุดหลังเผชิญวิกฤติการแพร่ระบาดฯ ทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรรมมาช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพให้ง่ายขึ้นแม้ในช่วงที่ยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ผ่านบริการดูแลสุขภาพแบบออนไลน์ รวมไปถึงการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ที่ช่วยให้เข้าถึงการตรวจรักษาและรับการวินิจฉัยจากแพทย์ได้โดยตรง ในตลาดที่อยู่อาศัย


นอกจากผู้พัฒนาอสังหาฯ จะหันมาจับมือโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสุขภาพเพื่อเพิ่มบริการดูแลสุขภาพหรือบริการทางการแพทย์ไว้ในโครงการฯ แล้ว นวัตกรรมที่เลือกใช้ในการก่อสร้างโดยตรงก็เป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเช่นกัน มากกว่าครึ่งนึงของผู้บริโภค (60%) มองว่า บ้าน/คอนโดฯ ที่ถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการก่อสร้างที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นและสะท้อนความร้อนภายนอก บ้านที่มีระบบสร้างอากาศบริสุทธิ์ ป้องกันฝุ่น PM 2.5 หรือบ้านปลอดไวรัส ก็ล้วนมีผลต่อการเลือกซื้อบ้าน/คอนโดฯ ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยไม่น้อยพื้นที่ใช้สอยต้องพร้อมรองรับการทำงานที่บ้าน ระยะยาว

แม้การทำงานที่บ้านจะไม่ใช่เรื่องใหม่และอาจกลายเป็นวิถีชีวิตที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแม้การแพร่ระบาดฯ จะหมดไป แต่การลงทุนสร้างห้องทำงานไว้ที่บ้านอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นของทุกคน ดังนั้น พื้นที่ใช้สอยในบ้าน/คอนโดฯ จึงต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้รองรับการ ทำงานที่บ้าน และอำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานออนไลน์ได้อย่างราบรื่นเช่นกัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในเรื่องการจัดแต่งสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการทำงาน ซึ่งจะส่งผลดีและช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นไปที่สภาพแวดล้อมที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก (65%) ตามมาด้วยการมีระบบถ่ายเทความร้อนและประหยัดพลังงานภายในห้อง (49%) และมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงรองรับการทำงานที่ลื่นไหล (48%) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้จำกัดเพียงการทำงานที่บ้านเท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกให้คนในครอบครัวสามารถใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย
#3634

กรุงเทพมหานคร จัดตั้งศูนย์พักคอย (Community Isolation) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันจัดตั้งให้ครอบคลุมทั้ง 50 เขต แล้ว 65 แห่ง และจะทยอยเปิดอีก 5 แห่ง ให้ครบ 70 แห่ง

เพจเฟซบุ๊ค ผู้ว่าฯ อัศวิน โดย พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ข้อมุลว่าการจะหยุดหรือลดการแพร่ระบาดได้นั้น ต้องแยกผู้ป่วยให้ออกจากครอบครัวหรือชุมชน ผู้ป่วยติดเชื้อหลายคนใน กทม. ไม่สามารถแยกกักรักษาตัวที่บ้านได้ จำเป็นต้องมีศูนย์พักคอยรองรับ

ตอนนี้ มีเตียงรองรับผู้ป่วยได้ทั้งสิ้น 8,804 เตียง ซึ่งเมื่อรวมกับศูนย์พักคอยที่กำลังจะเปิดอีก 5 แห่ง จะมีเตียงเพิ่มขึ้นอีกรวมเป็น 9,684 เตียง ในจำนวนนี้ได้ปรับศูนย์พักคอย 7 แห่งให้เป็นกึ่งโรงพยาบาลสนาม (CI Plus) รองรับผู้ป่วยเหลืองได้ 1,240 ราย

ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโควิดอาการสีเขียวและสีเหลืองเข้ามาพักรักษาตัวที่ศูนย์พักคอยแล้วทั้งสิ้น 15,498 ราย โดยส่งต่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล และมีผู้ป่วยหายกลับบ้านแล้วรวมทั้งสิ้น 12,384 ราย ซึ่งยังมีผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ 3,586 ราย

"ศูนย์พักคอย ยังสามารถเปิดรับผู้ป่วยได้อีก 5,218 เตียง ซึ่งเพียงพอต่อการแยกผู้ป่วยออกจากชุมชนและครอบครัว ไม่ให้แพร่ระบาดไปยังผู้อื่น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้ลดลงโดยเร็วที่สุด และได้ขยายศักยภาพระบบการรักษา ทำให้ผู้ป่วยโควิดเข้าสู่ระบบการรักษาให้เร็วที่สุดและให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยครับ"

สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการพักรักษาที่ศูนย์พักคอยสามารถโทรติดต่อได้ที่ สายด่วนโควิดเขต ทั้ง 50 เขต ลิ้งค์ตามนี้ http://www.prbangkok.com/th/hotnews/view/MDY1cDBzNnM0NHIyb3Ezc3E2NnEyNDk0cDRyOTQzcjQ1MzI2Mg
#3635


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุในเดือนก.ค. ตัวเลขการส่งออกไทยยังคงขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 20.27%YoY ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี และสูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 19.7% โดยใน 7 เดือนแรกของปี 2564 ตัวเลขส่งออกไทยเติบโตที่ 16.2% ซึ่งเติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาคแต่ระดับของการเติบโตยังคงต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ที่สามารถขยายตัวได้มากกว่า 20% ทั้งนี้ เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธยุทธปัจจัย การส่งออกใน 7 เดือนแรกของปีขยายตัวได้ที่ 21.47% ซึ่งสะท้อนภาคเศรษฐกิจจริงที่เติบโตอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ อัตราการฉีดวัคซีนที่รวดเร็วส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญของไทยหลายประเทศกลับสู่ภาวะปกติช่วยหนุนภาคการส่งออกของไทย โดยในเดือนก.ค. การส่งออกไปในประเทศคู่ค้าสำคัญเติบโตแข็งแกร่งในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปสหรัฐฯ (+22.2%) ที่ขยายตัวได้ 14 เดือนต่อเนื่อง รวมถึงสหภาพยุโรป 28 (+20.4%) ขยายตัวได้ 5 เดือนติดต่อกัน ในฝั่งของเอเชียแม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะยังมีแนวโน้มยืดเยื้อแต่การส่งออกไปจีนขยายตัวได้ถึง 41.0% ด้านญี่ปุ่นแม้จะเผชิญกับการประกาศภาวะฉุกเฉินภายในประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง แต่การส่งออกไปญี่ปุ่นยังสามารถขยายตัวได้ 9 เดือนติดต่อกันโดยในเดือนก.ค.ขยายตัวที่ 23.3% เมื่อพิจารณารายสินค้าพบว่าสินค้าหลักที่หนุนภาคการส่งออกยังคงเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เช่น ผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อย่างไรก็ตาม คลัสเตอร์ติดเชื้อจากตลาดอาหารทะเลยังคงส่งผลกระทบการส่งออกต่ออาหารทะเลสด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป แต่ภาครัฐได้เข้ามาแก้ไขปัญหาโดยดำเนินนโยบายในการสร้างความเชื่อมั่นสินค้าไทยปลอดโควิด เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้านและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของภาคการผลิตยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าได้กลับมาต่อเนื่องสะท้อนจากการขยายตัวของสินค้าสิ้นเปลืองที่มีราคาสูง เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ)

สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2564 ภาคการส่งออกที่เป็นปัจจัยหลักในขับเคลื่อนเศรษฐกิจเริ่มเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งปัจจัยภายนอกประเทศที่เริ่มมีการเผชิญการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าที่มีแนวโน้มรุนแรง ขณะที่ปัจจัยในประเทศเองภาคการผลิตเผชิญความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการแพร่ระบาดในโรงงาน โดยหากการแพร่ระบาดยังคงไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลให้เกิดการปิดโรงงาน และมีผลต่อเนื่องไปยังห่วงโซ่การผลิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมายังภาคการส่งออกของไทย จากข้อมูลล่าสุดการระบาดในคลัสเตอร์โรงงานมีการกระจุกตัวอยู่ใน 5 อุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมโลหะ และอุตสาหกรรมพลาสติก อย่างไรก็ดี โครงการนำร่องการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox) น่าจะเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้บ้าง อีกทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ และยุโรป ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า น่าจะยังส่งผลให้การส่งออกไทยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะยังคงขยายตัวได้ในระดับสูง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับประมาณการส่งออกของไทยในปีนี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12.4% จาก 11.5%
#3636


ล่าสุดคือ "แอร์เอเชีย ดิจิทัล" หน่วยธุรกิจด้านดิจิทัลของกลุ่มแอร์เอเชีย เปิดตัวบริการใหม่ "แอร์เอเชียฟู้ด" (airasia food) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564 เพื่อยกระดับ "แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ" (airasia super app) โดดเด่นเรื่องสินค้าท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจองเที่ยวบินและโรงแรมที่พัก พุ่งเป้าสู่จุดหมายสำคัญ นั่นคือการเป็นซูเปอร์แอพชั้นนั้นของภูมิภาคอาเซียน!

หลังจากเมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 เจ้าพ่อสายการบินโลว์คอสต์แห่งอาเซียน "โทนี่ เฟอร์นันเดส" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ "โกเจ็ก" (Gojek) ส่วนที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท (50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ขณะที่โกเจ็ก สตาร์ทอัพสัญชาติอินโดนีเซียผู้ให้บริการแพลตฟอร์มมัลติเซอร์วิสรายใหญ่ชั้นนำของอาเซียน จะเข้าถือหุ้นบางส่วนในแอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ ซึ่งมีมูลค่าประเมินทางตลาดอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 หมื่นล้านบาท) และทำให้โกเจ็กสามารถเพิ่มการลงทุนในการดำเนินงานได้ โดยเฉพาะในตลาดเวียดนามและสิงคโปร์

วรุฒ วุฒิพงศาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ กล่าวว่า ด้วยการผนึกความรู้ที่ได้จากความสำเร็จของซูเปอร์แอพในมาเลเซียและสิงคโปร์ ความเชี่ยวชาญของทีมเทเลพอร์ต ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจด้านโลจิสติกส์ของกลุ่มแอร์เอเชีย ความแข็งแกร่งของทีมแอร์เอเชียในเรื่องของธุรกิจท่องเที่ยว และความเข้าใจในตลาดของทีมงานโกเจ็ก ประเทศไทย จึงเชื่อว่า "แอร์เอเชียฟู้ด" จะสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้าที่สุดและกลายเป็นทางเลือกที่ผู้คนในกรุงเทพฯนิยมใช้อย่างแน่นอน

โดยบริการ airasia food เปิดตัวพร้อมแคมเปญฟรี 30,000 มื้อตลอดระยะเวลา 30 วัน และส่วนลดอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าในกรุงเทพฯ 4 พื้นที่ ได้แก่ ดินแดง จตุจักร ลาดพร้าว และห้วยขวาง

จากนั้นจะขยายพื้นที่ให้บริการอีก 4 เขตเร็วๆ นี้ ได้แก่ พญาไท ราชเทวี ปทุมวัน และวัฒนา โดยในแอพพลิเคชันมีร้านค้ามากมายหลากหลายให้เลือก ตั้งแต่แบรนด์ดังอย่างแมคโดนัลด์ แฟลช คอฟฟี่ หรือคาเฟ่ อเมซอน ไปจนถึงร้านค้าเอสเอ็มอี และเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.30 น. ถึง 19.00 น. ของทุกวัน พร้อมตั้งเป้าขยายสู่พื้นที่อื่นๆ อาทิ เชียงใหม่และภูเก็ตในอนาคตอันใกล้

"และสำหรับร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ในการเปิดตัวเราขอมอบค่าคอมมิชชั่นเพียง 5% ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนร้านค้าในขณะนี้" วรุฒกล่าว



ฟาก "โรบินฮู้ด" (Robinhood) ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทลูกของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หลังจากรุกทำตลาด "ฟู้ดดิลิเวอรี่" ด้วยการชูจุดขายค่าจีพี (GP: Gross Profit) หรือค่าบริการระบบที่ร้านอาหารจ่ายให้กับแพลตฟอร์มที่ 0% จนสามารถสร้างฐานลูกค้ามากกว่า 2 ล้านรายในปัจจุบัน ให้บริการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 4 จังหวัด มีร้านอาหารเข้าร่วมมากกว่า 1.3 แสนราย ไรเดอร์ 2.6 หมื่นคน

ล่าสุดขอกระโดดร่วมวงชิงส่วนแบ่งตลาดบริษัทตัวแทนขายท่องเที่ยวออนไลน์ หรือ "Online Travel Agents" (OTA) ด้วยการนำคอนเซ็ปต์เดียวกับการบุกตลาดฟู้ดดิลิเวอรี่ ชูจุดขาย "Zero GP OTA" เก็บค่าคอมมิชชั่น 0% จากผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยว เพื่อหนุนโรบินฮู้ดสู่หมุดหมายการเป็นซูเปอร์แอพ!

สีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า โรบินฮู้ดเตรียมเปิดตัวบริการ "โรบินฮู้ด ทราเวล" อย่างเป็นทางการในต้นปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดคนไทยน่าจะออกท่องเที่ยวภายในประเทศได้อีกครั้ง โดยออกแบบบริการให้ครอบคลุมความต้องการสินค้าท่องเที่ยวตลอดเส้นทางการเดินทางของลูกค้า ทั้งที่พักโรงแรม เที่ยวบิน ทัวร์และกิจกรรม รวมถึงบริการรถเช่า

"ธุรกิจ OTA หลายๆ รายของต่างประเทศจะแข่งกันที่ราคา และมีการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากผู้ประกอบการประมาณ 30-35% เพื่อทำกำไร แต่โรบินฮู้ดเก็บค่าคอมมิชชั่นที่ 0% เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถออกโปรโมชั่น ขายแพ็คเกจแบบมัดรวม (Bundle Packages) ในการดึงดูดลูกค้าได้ เช่น แพ็คเกจห้องพักแถมสปา แพ็คเกจห้องพักแถมอาหารมื้อค่ำ และอื่นๆ"

พงศ์ศักดิ์ ตฤณธวัช ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ โรบินฮู้ด กล่าวเสริมว่า และในเมื่อไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชั่นและค่า Visibility Booster ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มอัตราการปรากฏของสินค้าท่องเที่ยวบนหน้าแพลตฟอร์ม ทางโรบินฮู้ดเลือกใช้วิธีเรียงการนำเสนอผู้ประกอบการกลุ่มที่เป็น "Preferred Partners" ซึ่งมีการนำเสนอดีลพิเศษ เพิ่มสิทธิประโยชน์ เช่น ให้วอยเชอร์ส่วนลดสำหรับใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ และของแถมต่างๆ จัดเป็นแพ็คเกจให้แก่ลูกค้า ให้ปรากฏอยู่ในหน้าแรกๆ ของแพลตฟอร์ม

"ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมบางแห่งมีข้อตกลงกับ OTA รายอื่นว่าไม่สามารถขายในราคาต่ำกว่านี้ได้ ถ้าเช่นนั้น...โรบินฮู้ดบอกไม่เป็นไร ผู้ประกอบการสามารถเสนอขายในราคาเท่ากับ OTA รายอื่นได้ แต่ขอมีสิทธิประโยชน์เพิ่มแต่แก่ลูกค้าแทน โดยโรบินฮู้ดทราเวลเตรียมให้บริการอย่างไม่เป็นทางการในเดือน พ.ย.นี้ และให้บริการอย่างเป็นทางการทั่วประเทศในไตรมาส 1 ปี 2565"
#3637


ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัว "ฮยอนบิน" นักแสดงชาวเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็น Hallyu Star (ผู้ขับเคลื่อนกระแสความนิยมในเกาหลี) มาขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ LazMall ระดับภูมิภาคเป็นคนแรกอย่างเป็นทางการ โดย LazMall ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับการยอมรับจากแบรนด์คู่ค้าต่างๆ ทั่วโลก และปัจจุบันยังเป็นศูนย์รวมแบรนด์มากกว่า 32,000 แบรนด์ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติบนแพลตฟอร์มลาซาด้าทั่วภูมิภาค

โดยนักแสดงหนุ่ม ฮยอนบิน ถือเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากที่สุดของเกาหลีใต้ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นนักแสดงที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อน Hallyu หรือกระแสความนิยมในเกาหลี ด้วยบทบาทการแสดงที่หลากหลายการันตีด้วยรางวัลมากมาย จากผลงานละครโทรทัศน์ ซีรีส์ และภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก อาทิ Secret Garden, Memories of the Alhambra, The Negotiation และผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่องล่าสุด Crash Landing on you ที่ส่งให้เขารับรางวัลนักแสดงชายยอดนิยม จากงานประกาศรางวัล Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 56 และรางวัลศิลปินเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จาก Yahoo! ในงาน Asia Buzz Awards มากไปกว่านั้น ฮยอนบิน ยังสามารถกวาดรางวัล Presidential Commendation ในงาน Korean Popular Culture and Arts Awards ประจำปี 2020 ที่ผ่านมาได้อีกด้วย

แมรี่ โจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า "ลาซาด้าเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซเจ้าแรกที่นำเสนอแนวคิดห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ "ฮยอนบิน" ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall ด้วยผลงานภาพยนตร์และงานละครโทรทัศน์ที่ได้รับการชื่นชมในวงกว้าง ฮยอนบิน คือนักแสดงหนุ่มที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความจริงใจ และการอุทิศตนต่อการทำงานอย่างมุ่งมั่น เพื่อสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพให้แก่เหล่าแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งตรงตามอัตลักษณ์ของ LazMall ที่มุ่งเน้นถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของสินค้า รวมทั้งยังเป็นจุดหมายของการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เชื่อถือได้ โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินและได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายสูงสุด"

เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปี ของ LazMall และเปิดตัวแคมเปญ 9.9 นี้ ซึ่งเป็นแคมเปญแรกของมหกรรมช้อปปิ้งส่งท้ายปี ฮยอนบิน จะได้ร่วมนำแสดงในภาพยนตร์สั้น ที่รวบรวมจินตนาการของเหล่าบรรดาแฟนคลับ จากตัวละครที่ชวนให้นึกถึงฉากแอคชั่นในผลงานที่มีชื่อเสียงของเขา โดยในโฆษณาดังกล่าว ฮยอนบิน จะรับบทเป็นเอเจนท์ที่ปฏิบัติภารกิจลับ ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ในการบังคับบัญชาทีม ที่จะมอบกล่องแห่งความห่วงใยจาก LazMall นับพันชิ้นสู่สาธารณชน ซึ่งนำเสนอในรูปแบบที่สนุกสนาน และหักมุม สร้างความเพลิดเพลินแก่ผู้รับชม

ฮยอนบิน แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคของ LazMall กล่าวว่า "ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลาซาด้า และได้ใกล้ชิดแฟนๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall ซึ่งผมตั้งตารอที่จะสร้างความสนุกร่วมกันกับแฟนๆ เริ่มด้วยเทศกาลช้อปปิ้ง 9.9 ที่จะถึงนี้ ผมขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย จนกว่าเราจะสามารถพบกันได้อีกครั้งเร็วๆ นี้"

โดย ฮยอนบิน ได้กล่าวปิดท้ายว่า "การถ่ายทำหนังภาพยนตร์สั้น สำหรับการเปิดตัวแคมเปญสนุกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดสร้างสรรค์ในการเล่าเรื่องภารกิจสายลับ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความหลากหลายในตัวเลือกสินค้าที่ LazMall นำเสนอให้ผู้บริโภค"

นอกจากนี้ ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา LazMall ยังได้เปิดตัว LazMall Premium ครอบคลุม 8 หมวดหมู่สินค้าหลัก ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าแบรนด์ระดับพรีเมียมมากกว่า 50 แบรนด์ อาทิ Bang & Olufsen, Elemis, Longines, Polo Ralph Lauren รวมไปถึงแบรนด์ใหม่ล่าสุดอย่าง La Mer ทั้งนี้ นอกเหนือจากฟีเจอร์ยอดนิยมอย่าง "Brand Mega Offers", การรับประกันคืนสินค้าภายใน 15 วัน และการรับเงินคืนสูงสุด 2 เท่า หากผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ของแท้จาก LazMall ผู้บริโภคยังสามารถเข้าถึงแบรนด์โปรดผ่านประสบการณ์การช้อปที่ใกล้ชิด และเต็มอิ่มด้วยภาพที่ช่วยเล่าเรื่องราวของสินค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการอัพเกรดหน้าเพจแนะนำสินค้าผ่าน The Edit ซึ่งจะนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายและแตกต่างไปตามแต่ละธีมในรูปแบบบทความ

ที่สำคัญ เทศกาลช้อปปิ้ง "9.9 Mega Brands Sale" ในครั้งนี้ จะรวบรวมแบรนด์จำนวนมากที่สุดในระดับภูมิภาค รวมถึงบรรดาผู้ขายรายโปรดให้มาอยู่ในแพลตฟอร์มลาซาด้า เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยข้อเสนอและดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก Crazy Brand Mega Offers ที่จำกัดเวลาเฉพาะสองชั่วโมงแรกของแคมเปญ รวมไปถึงโปรโมชั่น Flash sale ที่จะเกิดขึ้นตลอดวันที่ 9 – 11 กันยายนนี้เท่านั้น ปิดท้ายการเฉลิมฉลองเทศกาลช้อป ด้วยการนำลาซาด้า มาสคอตหรือ "Lazzie" มาแปลงร่างเป็นไอดอลฝึกหัดผ่านเกมใหม่ล่าสุดบน LazGames "Lazzie Star" ให้เหล่านักช้อปช่วย Lazzie เพิ่มเลเวล เพื่อให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวจริง ด้วยการผ่านด่านในแต่ละวันและพิชิตภารกิจพิเศษให้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยปลดล็อกคูปองสุดพิเศษจากทั้งแพลตฟอร์มและผู้ขาย รวมไปถึง Lazada Bonus อีกด้วย

รับชมโฆษณาแคมเปญ LazMall 9.9 Mega Brands Sale ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=31AZCXWcR4g
#3638


นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า งานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีหนี้เช่าซื้อรถยนต์ทุกสถานะที่มีความยากลำบากในการจ่ายชำระหนี้ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังระบาดอย่างรุนแรงจะมีจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2564 เท่านั้น จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีหนี้เช่าซื้อรถยนต์ สมัครลงทะเบียนเข้ามาในช่วง 10 วันสุดท้ายนี้โดยงานมหกรรมครั้งนี้รองรับหนี้เช่าซื้อรถยนต์ทุกสถานะซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม

(1) กลุ่มที่ยังผ่อนชำระปกติแต่เริ่มมีปัญหาการผ่อนชำระ ในช่วงนี้ท่านสามารถที่จะขอลดจำนวนค่างวดที่ต้องจ่ายลง หรือขอพักชำระหนี้ ซึ่งดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้จะคำนวณจากฐานของค่างวดในช่วงที่พักชำระหนี้ตามแนวทางของ สคบ. ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มมีไม่มาก

(2) กลุ่มที่รถถูกยึดไปไม่นาน รถยังไม่ถูกขายทอดตลาด ถ้าเป็นรถที่ใช้ทำมาหากิน รวมทั้งกรณีที่ได้จ่ายค่างวดไปมากระดับหนึ่ง ท่านสามารถที่จะขอไกล่เกลี่ยเพื่อรับรถคืน โดยแนวการไกล่เกลี่ยส่วนนี้คือผู้ให้เช่าซื้อจะยอมให้รับรถที่ยึดมากลับไป โดยจะให้ผ่อนชำระหนี้ต่อจากที่หยุดไป และจะคิดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มจากค่างวดที่ค้างชำระเท่านั้น ซึ่งจะไม่มาก

(3) กลุ่มที่รถถูกขายทอดตลาดไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้เกี่ยวกับจำนวนหนี้เช่าซื้อส่วนขาดที่เจ้าหนี้เรียกร้องให้ชำระเพิ่มเติม ก็สามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมครั้งนี้เจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ โดยยอดหนี้ที่ต้องชำระหนี้เพิ่มจะคำนวณโดยวิธีที่เป็นธรรม และสามารถผ่อนชำระหนี้ส่วนนี้ได้นาน 3 ปีโดยไม่มีดอกเบี้ย 

สคบ. สำนักงานศาลยุติธรรม และ ธปท. ได้จัดทำโปรแกรมการคำนวณสำหรับผู้ที่มีปัญหาติ่งหนี้ ที่สามารถเข้าไปเช็คเบื้องต้นได้ง่ายๆ ว่าท่านจะมีภาระหนี้เหลือสักเท่าไหร่ ที่เว็บไซต์ของ สคบ. (www.ocpb.go.th/debt/) เราเชื่อว่าความโปร่งใสที่มีมากขึ้นจะทำให้เจ้าหนี้และลูกหนี้สามารถหาข้อยุติได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น สมประโยชน์ทั้งลูกหนี้และผู้ให้บริการเช่าซื้อ

ADVERTISEMENT


แม้ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของผู้ให้เช่าซื้อทั้ง 12 แห่งที่ร่วมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ แต่ได้รับความเดือดร้อนประสบปัญหาจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด 19 ท่านสามารถยื่นขอความช่วยเหลือผ่านช่องทาง "ทางด่วนแก้หนี้" ของ ธปท. ที่ https://www.1213.or.th/App/DebtCase ธปท. จะเป็นคนกลางในการส่งคำขอไกล่เกลี่ยหนี้ของท่านไปที่เจ้าหนี้ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. หรือ https://www.1213.or.th/App/DMed/V1 และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการลงทะเบียนออนไลน์ ท่านสามารถโทรสอบถามได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. หรือ นอกเวลาทำการ ท่านสามารถส่งอีเมลมาที่ Debtfair@bot.or.th พร้อมแจ้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของท่านไว้ เจ้าหน้าที่ของ ธปท. จะติดต่อท่านกลับในลำดับต่อไป    
#3639


ศึกฟุต.ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 เกมที่น่าสนใจ บาร์เซโลน่า ยกพลไปเยือน แอธเลติก บิลเบา ที่สนามซาน มาเมส

บาร์เซโลน่า ของกุนซือโรนัลด์ คูมัน เกมที่แล้วเปิดบ้านเอาชนะ รีล โซเซียดัด 4-2 เกมนี้นำทัพมาโดย 3 แนวรุก อองตวน กรีซมันน์, เมมฟิส เดปาย และมาร์ติน เบรธเวต ส่วน แอธ.บิลเบา เกมที่แล้วเจ๊า เอลเช่ 0-0 เกมนี้นำทัพโดย อินากี วิลเลียมส์, โออิฮาน ซาสเชต์ และอีเคร์ มูเนียอิน

รูปเกมในครึ่งแรกค่อนข้างสูสี โดยเป็นเจ้าถิ่นแอธ.บิลเบา ที่ถึงแม้ชื่อชั้นเป็นรอง แต่เป็นฝ่ายที่ทำเกมบุกได้ดีกว่า มีโอกาสลุ้นประตูได้หวาดเสียวมากกว่าเล็กน้อย แต่ยังทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลา 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง แอธ.บิลเบา ยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นฝ่ายออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 50 จากจังหวะลูกเตะมุม อีเคร์ มูเนียอิน เปิดมาให้ อินิโก มาร์ติเนซ วิ่งมาโหม่งเต็มๆหัวเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 75 บาร์เซโลน่า ที่โหมบุกอยู่นาน ก็มาตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่เซร์กี โรแบร์โต จ่ายให้ เมมฟิส เดปาย หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนซัดเต็มข้อแสกหน้านายทวารเจ้าถิ่นเข้าไป เป็นประตูแรกในเกมอย่างเป็นทางการของเจ้าตัวในสีเสื้อ "อาซูลกราน่า"

น.90+2 บาร์เซโลน่า ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อเอริค การ์เซีย ตั้งใจเสียบ อินากี วิลเลียมส์ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

จบเกมการแข่งขัน 90 นาที บาร์เซโลน่า บุกไปเสมอกับ แอธเลติก บิลเบา 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม โดย "บาร์ซ่า" ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว มี 4 คะแนน จาก 2 นัด ส่วน "บิลเบา" มี 2 แต้มจาก 2 นัด

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แอธ.บิลเบา : ฆูเลน อากีร์เรซาบาลา (GK), อินิโก เลเก้, ดานี วิเวียน, อินิโก มาร์ติเนซ, มิเกล บาเลนเซียกา, อเล็กซ์ เบเรนเกอร์, ดานี การ์เซีย, อูไน เบนเซเดอร์, อีเคร์ มูเนียอิน, อินากี วิลเลียมส์, โออิฮาน ซาสเชต์

บาร์เซโลน่า: เนโต (GK), แซร์จินโญ เดสต์, เอริค การ์เซีย, เกราร์ด ปิเก, ยอร์ดี อัลบา, เซร์คิโอ บุสเกตส์, เฟรงกี เดอ ยอง, เปดรี, อองตวน กรีซมันน์, เมมฟิส เดปาย, มาร์ติน เบรธเวต
#3640


จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่องยาวนานมาร่วม 1 ปีครึ่ง โดยการระบาดในช่วงแรก มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยอย่างมาก โดย มีเงินไหลออกจาก "กองทุนรวมตราสารหนี้" สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกประสบกับภาวะสภาพคล่องที่ไม่ปกติ จนทำมาสู่มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนรายวันเป็นมูลค่าสูง เป็นเหตุให้ธนาคารแห่งประเทศไทย  (ธปท.)ออกมาตรการดูแล ทำให้หยุดการแพนิกของนักลงทุนและตลาดค่อยๆฟื้นตัวหลังจากนั้น โดยใช้เวลาราว1ปีครึ่งกลับมาฟื้นตัวจากโควิด-19ได้ 

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) รายงานว่า  ณ ไตรมาส1 ปี2563 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย (เฉพาะกองทุนเปิด ไม่รวมกองทุนปิด, ETF, REIT, Infrastructure fund)อยู่ที่ 3.6 ล้านล้านบาท ลดลง17.1% จากสิ้นปี 2562 โดยมีเงินไหลออกสุทธิ 3.9 แสนล้านบาท โดยเงินไหลออกจากกองทุนรวมตราสารหนี้ถึง 4.5 แสนล้านบาท 

โดยในช่วงตลอดปี 2563 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยค่อยๆ เริ่มฟื้นตัวกลับมา การหดตัวของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเริ่มชะลอตังลง จากเงินลงทุนไหลเข้าสู่กองทุนตลาดเงินและตราสารทุนในไตรมาส2ปี2563 และในช่วงครึ่งปีหลัง2563 การลงทุนเปลี่ยนโหมด เป็นเงินลงทุนไหลเข้ากองทุนตราสารทุนแทน ส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่ไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ภาพอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยที่นักลงทุนแพนิกเทขายกองทุนตราสารหนี้ช่วงต้นปีนั้น ยังทำให้ ณ สิ้นปี2563 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย แม้ในช่วงไตรมาส4ปี2563 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 5.8% ไปอยู่ที่ 4.0 ล้านล้านบาท แต่ทั้งปี2563 ยังลดลด 7.3% จากสิ้นปี2562 โดยมีเงินไหลออกสุทธิทั้งปีรวมทั้งสิ้น 2.8 แสนล้านบาท

หลังจากนั้นในปี2564 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19  มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย อยู่ที่ 4.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากสิ้นปี2563 และสูงกว่ามี.ค. ราว 15% แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ที่เคยอยู่ระดับสูงสุดช่วงธ.ค. 2562 ที่เกือบ 4.3 ล้านล้านบาทโดยในไตรมาสแรกปีนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิ 3.3 หมื่นล้านบาท เน้นไปที่เงินไหลเข้าสุทธิกองทุนรวมตราสารทุน 

จนกระทั้งครึ่งปีแรก 2564 จึงฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7%จากไตรมาสแรกปีนี้ หรือ 5.4% จากสิ้นปี2563 จากการเพิ่มขึ้นนี้ทำให้มูลค่าทรัพย์สินเข้าใกล้ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ 4.3 ล้านล้านบาท หรือต่างกันราว 1 แสนล้านบาท โดยในรอบครี่งปีแรกมีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 9.3 หมื่นล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลัง2564 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย ยังมีเทรนด์การเติบโตที่ดี ทั้งจากอานิสงกส์ ลดคุ้มครองเงินฝากเหลือ1ล้านบาท ทำให้มีเงินฝากไหลเข้ามาทะลักมาสู่กองทุนตราสารหนี้

และบลจ.ต่างๆยังคงแนะนำนักลงทุนไทย กระจายเงินลงทุนไปทั่วโลก  เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดหุ้นไทย อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในปีนี้ที่ภาวะการลงทุนมีความผันผวนมาก ทั้งสถานการณ์โควิด-19ที่รุนแรงขึ้นและยาวนานขึ้น เฟดมีสัญญาณลดคิวอีภายในปีนี้ รวมถึงการเมืองในประเทศกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ซึ่งยังเป็นเทรนด์การลงทุนต่อเนื่องในปีนี้ 

ลองมาดูกันว่า การเติบโตของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ในช่วงวิกฤติโควิดรอบ1ปีครึ่งที่ผ่านมานี้ บลจ.ที่มีการเติบโตสูงสุด5อันดับ ดังนี้ 

1.บลจ.กสิกรไทย มูลค่าทรัพย์สิน 1.06 ล้านล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 25.2%

2.บลจ.ไทยพาณิชย์ มูลค่าทรัพย์สิน 6.9 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด16.4%

3.บลจ.บัวหลวง มูลค่าทรัพย์สิน 5.8 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 13.7%

4.บลจ.กรุงไทย มูลค่าทรัพย์สิน 4.1 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 9.8% 

5.บลจ.กรุงศรี มูลค่าทรัพย์สิน 4 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 9.4%

"ชญานี จึงมานนท์"  นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยมีบลจ.กสิกรไทย เป็นผู้นำด้วยมูลค่าทรัพย์สินสูงสุด 1.06 ล้านล้านบาท หรือสัดส่วน 1 ใน 4 ของทั้งอุตสาหกรรม และเป็นเพียงบลจ.แห่งเดียวที่มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านล้านบาท การเติบโตนั้นมีส่วนมาจากทั้งกองทุนตราสารหนี้และกองทุนหุ้นต่างประเทศ กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือกองทุน K SF Plus รวมเกือบ 4 หมื่นล้านบาท

"บลจ.ไทยพาณิชย์"ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับสองราว 16.4% จากมูลค่าทรัพย์สิน 6.9 แสนล้านบาท หรือมูลค่าทรัพย์สินลดลงจากช่วงก่อนโควิด 11.5% โดยมีส่วนมาจากมูลค่ากองทุน term fund และกองทุนผสมที่ลดลงอย่างมากหรือรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือSCB Short Term Fixed Income Plus A ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท

"บลจ.บัวหลวง"ยังคงมีมูลค่าทรัพย์สินสูงสุดเป็นอันดับสามด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 5.8 แสนล้านบาท หรือเท่ากับสัดส่วน 13.7% ซึ่งถือว่าค่อนข้างทรงตัวจากปี 2562 โดยกองทุนบัวหลวงมีมูลค่าทรัพย์สินขนาดใหญ่อยู่ในกลุ่มหุ้นไทยที่เป็นกองทุน LTF แม้ว่าเงินลงทุนในส่วนนี้จะค่อย ๆ ลดลง แต่การขายกองทุนต่างประเทศในกลุ่ม Global Equity, China Equity หรือ Global Technology หรือกองทุนตราสารตลาดเงิน ก็ยังช่วยให้มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิ รวมเป็นมากกว่า 4 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา (ไม่รวมกองทุน term fund) คือ Bualuang Treasury 1.5 หมื่นล้านบาท

"บลจ.กรุงไทย" มีส่วนแบ่งตลาด 9.8% ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.1 แสนล้านบาท หรือเติบโต 17.2% จากสิ้นปี 2562 โดยมีการเติบโตจากกองทุนหุ้นจีนที่เคยมีมูลค่าราว 2 พันล้านบาทในปี 2562 และเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน ประกอบกับการเติบโตจากกองทุน Asia Pacific ex-Japan Equity รวมไปถึงกองทุนเพื่อความยั่งยืน ทำให้บลจ.กรุงไทยที่เคยมีมูลค่าทรัพย์สินที่อันดับ 6 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือ KTAM China A Shares Equity A ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท

"บลจ.กรุงศรี" มีมูลค่าทรัพย์สินรวมเกือบ 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากสิ้นปี 2562 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกองทุนตราสารทุนเช่นกองทุนหุ้นจีน กองทุนหุ้นทั่วโลกเช่นเดียวกับบลจ.รายอื่น มีส่วนแบ่งตลาดที่ 9.4% เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อยที่ 9.0% กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือ Krungsri Smart Fixed Income ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท

"การเติบโตของบลจ.รายใหญ่ 5 อันดับแรกมีความคล้ายกันคือมีการเติบโตของมูลค่าการลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะตราสารทุน เช่น กองทุนหุ้นจีน หุ้นทั่วโลก และการเติบโตในลักษณะเดียวกันนี้เองทำให้ส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่หรือราว 75% ยังอยู่ในบลจ. 5 อันดับแรกเช่นเดิม"

"ชญานี" กล่าวว่า  ขณะที่ บลจ.รายอื่นที่มีการเติบโตดี ได้แก่ "บลจ.ทิสโก้" มีมูลค่าทรัพย์สินสูงขึ้น 46.0% มาอยู่ที่ระดับ 7 หมื่นล้านบาท ทำให้ขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในบลจ.ขนาดใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรก

นอกจากนี้ยังมีบลจ.ที่มีการเติบโตมากกว่า 100% โดยจะเป็นบลจ.ขนาดเล็กลงมาเช่น "บลจ.วรรณ" เติบโต 106.2% มูลค่าทรัพย์สินล่าสุด 7.1 หมื่นล้านบาท "บลจ.บางกอกแคปปิตอล" 318.6% มูลค่าทรัพย์สินล่าสุด 1.4 หมื่นล้านบาท และ "บลจ.เอ็กซ์สปริง" เติบโต 213% มูลค่าทรัพย์สิน 75.2 ล้านบาท