• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - hs8jai

#3001
UPA เอาจริง!เหมืองขุดคริปโตฯ
 
บมจ. ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) ปูทางสู่การเติบโตรอบใหม่ หลังประกาศงบปี 64 มีรายได้รวม 306.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 477.87% จากงวดเดียวกันปีก่อน? โดยในปี 65 "กวิน เฉลิมโรจน์" ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจรายได้และกำไรจะโตแบบก้าวกระโดดแน่นอน ยิ่งได้ธุรกิจใหม่ เหมืองขุดเหรียญคริปโตฯ ใน สปป.ลาว วางเป้าไว้ที่ 8,000 เครื่อง ล็อตแรกทยอยเข้ามา 1,400 เครื่อง ในไตรมาส 1/65 นี้แล้วจร้า ว่ากันว่ามาร์จิ้นสูง?จับตาดูกับผลสำเร็จเร็วๆนี้นะคะ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือธรรมศาสตร์ และ SkillLane พัฒนาหลักสูตรเรียนรู้การลงทุน

ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รศ. เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง SkillLane ร่วมเปิดโครงการ Thammasat Digital Skill Space ขยายช่องทางการเรียนรู้ด้านการลงทุนแบบครบวงจรจากหลักสูตร SET e-Learning ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอบโจทย์การเรียนรู้แบบดิจิทัล นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเพิ่มทักษะด้านการเงินของคนไทย วางรากฐานสร้างบุคลากรด้านการเงินการลงทุนที่มีคุณภาพ สนับสนุนการพัฒนาการศึกษา ตลาดทุน และเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน เมื่อ 4 มี.ค. 2565 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
#3002
TSTH บวก 1.37% โบรกฯคาดกำไรดีตามราคาเหล็ก,ลุ้นปันผลครั้งแรกรอบ 14 ปี

ราคาหุ้น TSTH ปรับขึ้น 1.37% หรือ 0.02 บาท มาที่ 1.48 บาท มูลค่าซื้อขาย 20.65 ล้านบาท จากราคาเปิด 1.47 บาท ราคาสูงสุด 1.49 บาท ราคาต่ำสุด 1.45 บาท

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาด บมจ.ทาทาสตีล (ประเทศไทย) (TSTH) จะมีกำไรในไตรมาส 4 ปี 64/65 (ม.ค.-มี.ค.65) ปรับตัวในเกณฑ์ดี จากปริมาณขายคาด 340,000 ตัน (+6%QoQ, -7%YoY) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น และจากราคาเหล็กเดือน ก.พ.-มี.ค.ปรับขึ้นหนุน

และ ช่วงที่เหลือของเดือน มี.ค. มีแนวโน้มจะปรับขึ้นตามทิศทางราคาเหล็กในตลาดโลก เราประเมินราคาขายเฉลี่ยไตรมาส 4 ปี64/65 (ม.ค.-มี.ค. 65) เท่ากับ 25,500 บาท/ตัน (+1%QoQ, +31%YoY) ส่วนต้นทุนราคาเศษเหล็กจากข้อมูลของสถาบันเหล็กไตรมาสปัจจุบันปรับขึ้นเป็น 17,425 บาท/ตัน (+5%QoQ, +34%YoY)

จากผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 64/65 ยังเด่น เราปรับประมาณการกำไรปี 64/65 (เม.ย.64-มี.ค.65) เพิ่ม 14% สู่ระดับ 2,931 ล้านบาท เติบโต 365% ทำสถิติสูงสุดใหม่

แนวโน้มปี 65/66 (เม.ย. 65-มี.ค. 66) เราคาดปริมาณขาย 1.375 ล้านตัน เติบโตเล็กน้อย 3% ภายใต้สมมติฐานราคาเหล็กไม่ใช่ขาขึ้นเหมือนปี 64/65 คือ ทรงตัวประมาณ 25,000-26,000 บาท/ตัน และ ต้นทุนเศษเหล็กทรงตัวจากไตรมาสก่อน เราประเมินกำไรเท่ากับ 976 ล้านบาท ลดลง 67%

TSTH จะมีส่วนกำไรสะสมจากติดลบพลิกมาเป็นบวกสำหรับงบปี 64/65 และได้เปลี่ยนนโยบายปันผลจากเดิมจ่ายไม่เกิน 40%ของกำไร เป็นจ่ายปันผลขึ้นกับผลการดำเนินงาน สมมติจ่ายปันผล 50% ของกำไรจะมีเงินปันผลจ่ายสำหรับกำไรปี 64/65 เท่ากับ 0.17 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 11.9% ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลครั้งแรกในรอบ 14 ปี จากประมาณการที่ปรับขึ้น เราเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 1.55 บาท ใกล้มูลค่าตามบัญชี จากเดิม 1.50 บาท เพิ่มเกรดเป็น ถือ จากเดิม ขาย
#3003
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#3004
การซื้อ-ขายทั้งสิ้นที่ปฏิบัติงานผ่านสะสม ได้ผ่านแนวทางการพิจารณาอย่างละเอียดลออทุกรายการ
ซื้อ-ขายในราคากึ่งกลางที่ตลาดเป็นผู้กำหนด พร้อมบริการข้างหลังวิธีขายระดับพรีเมียม รวมไปถึงการไม่เปิดเผยตัวตน เรามอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดในตลาด
ซื้อ-ขายง่าย ไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน หรือติดต่อกับผู้บริโภคหรือคนขายโดยตรง ช้อปนานาประการสินค้าที่คุณอยากได้ได้ในเพียงแค่ไม่กี่คลิก ในเว็ปไซต์สะสม SASOM
เข้าถึงข้อมูลราคาขายล่าสุดบนแพลตฟอร์ม ช่วยทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ เดา และก็เล่าเรียนมูลค่าของสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ-ขายได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กระบวนการซื้อ  Jordan 1 Retro High First Class Flight
ขั้นตอนที่ 1: เลือกของ SASOM ของคุณ
เลือกผลิตภัณฑ์ที่คุณอยากได้ แล้วคลิกที่ปุ่มซื้อ ถ้าเกิดปุ่มซื้อไม่พร้อมใช้งาน สามารถอ่านเพิ่มอีกพอดี "ไม่มีปุ่มกดซื้อผลิตภัณฑ์ที่ฉันปรารถนา"
ขั้นตอนที่ 2: เลือกราคา, ไซส์ และก็ภาวะผลิตภัณฑ์ที่คุณปรารถนา
เลือกราคา, ขนาด แล้วก็ภาวะสินค้าที่คุณอยาก แล้วจัดการต่อที่หน้าชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 3: กรอกที่อยู่ในการจัดส่ง  Jordan 1 Retro High First Class Flight
กรอกที่อยู่aสำหรับในการจัดส่ง หรือเลือกที่อยู่ที่คุณบันทึกไว้ คุณสามารถเลือกซื้อบริการเสริม (Add-on service) หรือเข้ารหัสส่วนลด (ถ้าเกิดมี) แล้วกดยอมรับกฎระเบียบและเงื่อนไขก่อนคลิกถัดไป
ขั้นตอนที่ 4: จ่ายเงิน  Jordan 1 Retro High First Class Flight
เลือกวิธีการชำระเงินที่คุณต้องhttps://bit.ly/35caTdKได้ โดยคุณสามารถมองข้อมูลวิถีทางการชำเงินต่างๆถึงที่กะไว้ "วิถีทางการจ่ายเงิน"
ขั้นตอนที่ 5: สะสมปฏิบัติการจัดส่งสินค้า  Jordan 1 Retro High First Class Flight
สะสมปฏิบัติงานจัดส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือคุณ! พร้อมรับประกันสินค้าว่าเป็นของแท้ 100% คุณภาพรวมทั้งภาวะผลิตภัณฑ์ตรงตามมาตรฐานของสะสม ถ้าเกิดเกิดเหตุติดขัดอะไรก็แล้วแต่
เกี่ยวกับรายการสั่งซื้อของคุณ ทางพวกเราจะแจ้งให้ท่านทราบรวมทั้งจัดหาช่องทางที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ!




https://bit.ly/3pKP8ZI
#3005
การซื้อ-ขายทั้งปวงที่ปฏิบัติงานผ่านสะสม ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจดูให้รอบคอบทุกรายการ
ซื้อ-ขายในราคากึ่งกลางที่ตลาดเป็นผู้กำหนด พร้อมบริการข้างหลังการขายระดับพรีเมียม รวมถึงการไม่เปิดเผยตัวตน พวกเรามอบประสบการณ์การซื้อขายที่เหมาะสมที่สุดในตลาด
ซื้อ-ขายง่าย ไม่มีอันตราย ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน หรือติดต่อกับผู้บริโภคหรือผู้ขายโดยตรง ช้อปหลากหลายสินค้าที่คุณอยากได้ได้ในเพียงแค่ไม่กี่คลิก ในเว็ปไซต์สะสม SASOM
เข้าถึงข้อมูลราคาขายล่าสุดบนแพลตฟอร์ม ช่วยทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ คาดคะเน แล้วก็ศึกษาเล่าเรียนค่าของสินค้า เพื่อประกอบการตกลงใจซื้อ-ขายได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

กระบวนการซื้อ  Jordan 1 Retro High Pine Green
ขั้นตอนที่ 1: เลือกของ SASOM ของคุณ
เลือกผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการ แล้วคลิกที่ปุ่มซื้อ ถ้าปุ่มซื้อไม่พร้อมใช้งาน สามารถอ่านเพิ่มอีกพอดี "ไม่มีปุ่มกดซื้อผลิตภัณฑ์ที่ฉันปรารถนา"
ขั้นตอนที่ 2: เลือกราคา, ไซส์ รวมทั้งสภาพสินค้าที่คุณอยาก
เลือกราคา, ขนาด และก็สภาพสินค้าที่คุณปรารถนา แล้วดำเนินการต่อที่หน้าชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 3: กรอกที่อยู่สำหรับการจัดส่ง  Jordan 1 Retro High Pine Green
กรอกที่อยู่aในการจัดส่ง หรือเลือกที่อยู่ที่คุณบันทึกไว้ คุณสามารถเลือกซื้อบริการเสริม (Add-on service) หรือเข้ารหัสส่วนลด (หากมี) แล้วกดยอมรับกฎเกณฑ์และข้อตกลงก่อนคลิกถัดไป
ขั้นตอนที่ 4: จ่ายเงิน  Jordan 1 Retro High Pine Green
เลือกกรรมวิธีการจ่ายเงินที่คุณต้องhttps://bit.ly/35caTdKได้ โดยคุณสามารถมองข้อมูลวิถีทางการชำเงินต่างๆได้ที่ "หนทางการจ่ายเงิน"
ขั้นตอนที่ 5: สะสมปฏิบัติการจัดส่งผลิตภัณฑ์  Jordan 1 Retro High Pine Green
สะสมดำเนินงานจัดส่งสินค้าถึงมือคุณ! พร้อมรับประกันผลิตภัณฑ์ว่าเป็นของแท้ 100% คุณภาพและภาวะผลิตภัณฑ์ตรงตามมาตรฐานของสะสม แม้เกิดเหตุขัดข้องอะไรก็ตาม
เกี่ยวกับรายการสั่งซื้อของคุณ ทางพวกเราชัดเจนให้คุณทราบแล้วก็จัดหาหนทางที่ดีเยี่ยมที่สุดให้กับคุณ



https://bit.ly/35EzyaZ
#3006
'เดอะ สตรีท รัชดา' จัดแคมเปญ 'March More Promotion' โปรฯ ดีมีนาคม ยิ่งช้อปมาก ยิ่งได้มาก

ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ไลฟ์สไตล์มอลล์วิถีคนเมือง ใจกลางถนนรัชดา จัดพาเหรดโปรโมชันมีนานี้มีแต่ให้เอาใจนักช้อปกับแคมเปญ 'The Street March More Promotion' ช้อปมาก ได้มาก ยกความสุขมาตอบแทนลูกค้า เพียงเข้ามาใช้จ่ายภายในศูนย์การค้าฯ ก็สามารถนำใบเสร็จมาแลกรับของสมนาคุณสุดคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น Gift Voucher จากร้านอาหารชั้นนำภายในศูนย์การค้าฯ หรือสินค้าพรีเมียมที่เตรียมมาเป็นพิเศษให้กับลูกค้าเดอะ สตรีท รัชดา และสมาชิก เดอะ สตรีท พอยท์ โปรโมชันตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565

'The Street March More Promotion' ช้อปมาก ได้มาก ประกอบด้วยโปรโมชัน March More 'Vouchers' และ March More 'Giveaways' โดยมีรายละเอียด ดังนี้

March More 'Vouchers'

รับฟรี! GIFT VOUCHER จากร้านอาหารชั้นนำ มูลค่า 100 บาท 1 ใบ เมื่อช้อปครบ 800 บาทต่อ 1 ใบเสร็จ พิเศษ! สำหรับสมาชิก เดอะ สตรีท พอยท์ เพียงช้อปครบ 700 บาทต่อ 1 ใบเสร็จ (ท่านละ 1 สิทธิ์ต่อวัน)
March More 'Giveaways'

รับฟรี! Color Ceramic Tableware 1 ใบ เมื่อช้อปครบ 1,500 บาทขึ้นไป พิเศษ! สำหรับสมาชิก เดอะ สตรีท พอยท์ เพียงช้อปครบ 1,300 บาทขึ้นไป รวมใบเสร็จได้สูงสุด 2 ใบ (ท่านละ 1 สิทธิ์ต่อวัน)
รับฟรี! กระเป๋า The Street Bag 1 ใบ เมื่อช้อปครบ เมื่อช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป พิเศษ! สำหรับสมาชิก เดอะ สตรีท พอยท์ เพียงช้อปครบ 3,000 บาทขึ้นไป รวมใบเสร็จได้สูงสุด 4 ใบ (ท่านละ 1 สิทธิ์ต่อวัน)
สำหรับ สมาชิก เดอะ สตรีท พอยท์ สามารถแลกรับของสมนาคุณในกิจกรรม 'โชคดีคนมีพอยท์' ดังนี้ 300 พอยท์ แลกรับฟรี! Color Ceramic Tableware 1 ใบ และ 800 พอยท์ แลกรับฟรี! กระเป๋า The Street Bag 1 ใบ

'The Street March More Promotion' แคมเปญดี ๆ ที่จะทำให้คุณได้แฮปปี้กับการช้อปปิ้งอย่างคุ้มค่าตลอดเดือนมีนาคม สามารถตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติม ณ เคาน์เตอร์ ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมของศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา เพิ่มเติมได้ทาง www.thestreetratchada .com หรือเฟซบุ๊ก www.facebook .com/TheStreetRatchada โทร. 02-232-1999
#3007
เซ็นทรัลพัฒนา ตอกย้ำการสร้างสรรค์สิ่งดี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ชู 'โอกาสที่เท่าเทียมกัน' เนื่องในวันสตรีสากล วันที่ 8 มีนาคม 2565

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์เพื่อความยั่งยืนของไทย ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ 36 สาขาทั่วประเทศและต่างประเทศ ร่วมส่งเสริมการมีโอกาสที่เท่าเทียมกันของทุกคน (Equality) และการให้ความสำคัญกับบทบาทของเพศหญิงเนื่องในวันสตรีสากล วันที่ 8 มีนาคม 2565

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เซ็นทรัลพัฒนา เป็นองค์กรที่ใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องโอกาสที่เท่าเทียมกัน (Equality) มาโดยตลอด โดยไม่มีการแบ่งแยกทางเพศในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การรับเข้าทำงาน การโปรโมท และการวัดผลงาน อย่างผู้บริหารระดับ C-Level ของบริษัทเราก็เป็นผู้หญิงถึง 50% และดิฉันเชื่อว่า เพศไม่ใช่ข้อจำกัด เราทุกคนมีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ และมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน เพียงดึงศักยภาพของตัวเองออกมาให้เต็มที่ เราจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ความสำเร็จร่วมกันได้อย่างแน่นอน"

สำหรับศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนา เราใส่ใจและให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงเป็นพิเศษมาโดยตลอด ยกตัวอย่างการที่เรามีบริการพิเศษสำหรับผู้หญิง เช่น โซนที่จอดรถสำหรับผู้หญิง หรือ Lady Parking ซึ่งเซ็นทรัลพัฒนาเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ริเริ่ม Lady Parking โดยมีการใช้สีชมพูเป็นสีไอคอนนิกในการตกแต่งจนกลายเป็นภาพจำ และเป็นต้นแบบของศูนย์การค้าอื่นๆทั่วประเทศ นอกจากนี้ เรายังมีบริการพื้นฐานสำหรับผู้หญิงอย่างครบครัน อาทิ บริการช่วยถือของ บริการห้องแม่และเด็ก ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อม และบริการและเคาน์เตอร์ให้ความช่วยเหลือต่างๆ อีกด้วย"
#3008
ห้างเพชรทองออโรร่าเปิดตัว Aurora Metaverse ร้านค้าปลีกทองคำและของมีค่าในโลกเสมือนรายแรกของตลาด

ออโรร่ากระทุ้งตลาดระลอกใหญ่อีกรอบ สะเทือนทั้งวงการค้าทองคำในประเทศ ด้วยการเปิดตัว "ออโรร่า เมต้าเวิร์ส (Aurora Metaverse)" ร้านค้าปลีกทองคำและของมีค่าในโลกเสมือนดิจิทัล ภายใต้แนวคิดของแบรนด์ออโรร่าที่ตอกย้ำมาตลอดคือ "ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า" ที่สามารถสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในการซื้อขายทองคำและของมีค่าระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนให้กับลูกค้าทั่วไป ทิ้งห่างพร้อมนำหน้าคู่แข่งในตลาดอีกขั้น

คุณอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด (CMO) บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด ได้เปิดเผยว่า "ออโรร่าได้มองเห็นสภาพตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่าน Big Data ของเราที่ชี้ชัดว่า โลกเสมือนดิจิทัล หรือ เมต้าเวิร์ส นี้ จะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางการจับจ่ายซื้อสินค้าของลูกค้าในอนาคตข้างหน้าในอีกไม่กี่ปี ออโรร่าจึงไม่หยุดยั้งที่จะก้าวเข้าสู่โลกเสมือนดิจิทัลหรือเมต้าเวิร์สอย่างรวดเร็ว เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพราะออโรร่าเองเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกทองคำและของมีค่าของประเทศมากว่า 50 ปี จนลูกค้ายอมรับเป็นอย่างดี ออโรร่าได้พัฒนาแนวคิดการสร้างร้านค้าในโลกเสมือนดิจิทัลนี้ โดยใช้ลูกค้าเป็นแกนกลางในการออกแบบดีไซน์ให้สอดคล้องกับความเป็นตัวตนของแบรนด์ออโรร่า ภายใต้แนวคิด "ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า" ซึ่งเป็นตัวตนของแบรนด์อยู่แล้วมาออกแบบดีไซน์ร้านค้านี้ ทั้งนี้เราได้วางกลยุทธ์เชื่อมต่อโลกเสมือนและโลกจริงแบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ควบคู่กับการสร้างปฏิสัมพันธ์หรือมีประสบการณ์ไปกับแบรนด์นั้น ๆ ไปในชีวิตจริง ๆ (Immersive Branding)  ให้ลูกค้าทุกท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าในโลกเสมือนอย่างง่ายดาย และรับสินค้านั้นได้ที่ ห้างเพชรทองออโรร่ากว่า 220 สาขาทั่วประเทศ และยังมีบริการจัดส่งภายใน 3 ชั่วโมงในเขตกรุงเทพและปริมณฑลอีกด้วย โดยสินค้าที่เราจะจำหน่ายในโลกเสมือนนี้ จะมีทั้งสินค้าที่วางจำหน่ายทางหน้าสาขา และสินค้าที่เราพัฒนาขึ้นมาภายใต้ไอเดีย "ตัวตนของคุณ (Personalization)" ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกปรับเปลี่ยน เพิ่มดีไซน์ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์ การสลักชื่อ หรือการสลับดีไซน์ เป็นต้น ออโรร่าคาดหวังว่าเม็ดเงินที่เราลงทุนไปกว่า 30 ล้านบาทในการก้าวเข้าสู่เมต้าเวิร์สนี้ จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าทุกท่านได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนทั่วไปที่นิยมซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร"

ท่ามกลางการเผชิญการแข่งขันในภาคค้าปลีกที่รุนแรงขึ้น เพื่อแย่งชิงฐานลูกค้าที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือมีจำกัด โดยหากการลงทุนใด ๆ แต่ละแบรนด์คงหนีไม่พ้นที่จะต้องมองให้กว้างกว่าสภาพตลาดในขณะนี้ นอกจากออโรร่าเมต้าเวิร์สจะเป็นรายแรกที่ก้าวเข้าสู่โลกเสมือนดิจิทัลนี้ก่อนร้านค้าทองแบรนด์อื่นในตลาดทั้งหมด ยังถือได้ว่าการลงทุนครั้งนี้.ด้วยเงินลงทุนมหาศาลที่แม้แต่รายใหญ่ในตลาดยังไม่กล้าลงมือหรือคิดจะทำอะไร ได้แต่เฝ้ามองเมต้าเวิร์สอยู่ห่าง ๆ  เกมส์ธุรกิจนี้ มองให้ขาดก็คือการวิ่งจับลูกค้าเพื่อให้แบรนด์ออโรร่าเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกเสมือนนี้ และทำให้ออโรร่าเป็นแบรนด์ของฉันเป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยใกล้ตัวลูกค้าทุกท่าน  เพราะแม้ว่าแบรนด์อื่นจะตามเข้ามา ก็เชื่อได้ว่า ก้าวไม่ทันออโรร่าอย่างแน่นอน เพราะโลกเสมือนนี้ไม่ใช่มีแค่เงินลงทุนเท่านั้น ต้องอาศัยจังหวะ โอกาส และเวลาที่เหมาะสมร่วมด้วย

คุณอนิพัทย์ ได้กล่าวอีกว่า "ออโรร่าเมต้าเวิร์สมุ่งเน้นสร้างรายได้ในช่องทางค้าปลีกใหม่ ๆ ที่มองว่ามีศักยภาพสูง ซึ่งแม้ในช่วงแรกอาจจะไม่ได้เกิดจากการใช้จ่ายในภาพรวมของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น แต่ถือเป็นการแบ่งรายได้มาจากช่องทางขายปกติ แต่เชื่อได้เลยว่า เมต้าเวิร์สนี้จะกลายเป็นขุมทรัพย์หลักของตลาดค้าปลีกในอนาคต ด้วย เพราะตอนนี้แบรนด์ค้าปลีกรายใหญ่ของตลาดกำลังซุ่มพัฒนาโลกเสมือนนี้ขึ้นมา และแน่นอนว่ามันคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าจากโลกจริงให้กลายเป็นการซื้อสินค้าในโลกเสมือนด้วย เพราะสามารถสร้างประสบการณ์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด สามารถตอบสนองทุกความต้องการ ทุกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่คนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่จะกลืนกินลูกค้าทั่วไปอย่างเรา ๆ ให้เริ่มหันไปซื้อสินค้าในโลกเสมือน เหมือนอย่างที่ตลาดอีคอมเมิร์ซได้เปลี่ยนรูปแบบและพฤติกรรมลูกค้าอย่างสิ้นเชิงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา"

ล่าสุด ออโรร่าได้ร่วมกับทาง T-Verse by BrandVerse แพลตฟอร์มเชื่อมโลกธุรกิจ การศึกษา และภาครัฐ ในรูปแบบ Metaverse เพื่อสร้างรูปแบบร้านใน T-Verse สำเร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนารูปแบบและดีไซน์สำหรับร้านออโรร่าในโลกเสมือนนี้ โดยได้ร่วมมือพัฒนา Thailand Metaverse Ecosystem เปิดตัว T-Verse : Thailand Multiverse Bridge Platform จักรวาล Metaverse แห่งใหม่ของไทยสร้างโอกาสที่ไร้ขีดจำกัด ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันก่อน เพื่อให้เป็นจักรวาลเชื่อมต่อทุก Metaverse และเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาเทคโนโลยีและแลกเปลี่ยนสินค้าบนโลกเสมือนจริง พร้อมขยายศักยภาพด้านเทคโนโลยีและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับประเทศ

ด้วยแนวคิด "ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า" ของแบรนด์ออโรร่าที่มุ่งเน้นให้ลูกค้าทุกคนซื้อทองคำในโลกดิจิทัลให้เป็นของขวัญแก่กันและกัน ผ่าน Immersive Branding & Marketing ด้วยการออกแบบและพัฒนาดีไซน์สินค้าให้เป็นของขวัญสำหรับทุกโอกาสและเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจ พู่ห้อย จี้ ทองแผ่น กำไลข้อมือ หรือแม้แต่กรอบรูปก็ตาม ทำให้การซื้อทองคำในโลกดิจิทัลไม่จำกัดเพียงแค่ผู้สูงอายุหรือรุ่นคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น แต่ออโรร่ายังก้าวเข้าไปจับใจคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนความคิดที่จะซื้อของขวัญทั่ว ๆ ไป ให้มาซื้อของขวัญจากทองคำแทน สุขใจผู้ให้ อิ่มใจผู้รับ ขายคืนก็ได้ราคา เพราะทองคำไม่มีวันเสื่อมมูลค่าเหมือนของขวัญทั่ว ๆ ไปที่คนนิยมซื้อกัน

แม้เมต้าเวิร์สจะเป็นเทรนด์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ช่วยสร้างความแตกต่างและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจที่รุนแรงและไม่แตกต่างกัน แต่ความสำเร็จในการทำธุรกิจค้าปลีกบนโลก Metaverse ในไทย ยังคงต้องใช้เวลาและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะความพร้อมด้านเทคโนโลยี ทรัพยากร และการตอบรับของผู้บริโภค แต่เมื่อหลาย ๆ แบรนด์ใหญ่กำลังพัฒนาและต่อยอดโลกเสมือนนี้ ไม่เว้นแม้แต่โซเชียลแพลตฟอร์มดังอย่างเฟสบุ๊ค ก็ประกาศออกมาว่าจะมุ่งไปที่เมต้าเวิร์สนี้ ปัจจัยด้านเวลาอาจจะไม่ใช่ตัวกำหนดความนิยมหรือความสำเร็จอีกต่อไป ความสำเร็จแบบก้าวกระโดดในโลกเสมือนเมต้าเวิร์สนี้กำหนดได้ด้วยวิสัยทัศน์ของแต่ละแบรนด์ต่างหาก ซึ่งออโรร่าคือแบรนด์แรกที่กล้าคิดอย่างแตกต่าง คิดให้เป็นผู้นำ ไม่ใช่ผู้ตามอย่างที่หลายห้างค้าทองกำลังคิดอยู่

เกมส์นี้ ถือเป็นบริบทใหม่ของโลกค้าปลีกที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! ด้วยกลยุทธ์ที่มั่นใจว่าจะทิ้งห่าง พร้อมนำหน้าคู่แข่งในตลาดอีกขั้น ผู้สนใจสามารถซื้อของขวัญจากทองคำในโลกดิจิทัลให้กันแทนอย่างง่าย ๆ แค่เข้าไปที่ "ออโรร่าเมต้าเวิร์ส" เท่านั้น

 
#3009
'เซ็นทรัล เอ็มบาสซี' ชวนช้อปฯ คลายร้อน ลุ้นรับฟรีตั๋วเครื่องบินและที่พักสุดหรู หนุนท่องเที่ยวไทย กับโปรโมชั่นสุดคูล 'Summer of Style 2022'

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ผู้นำด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ระดับโลก ตอบโจทย์ทุกสไตล์นักช้อปยุคใหม่ ชวนสาวกคนรักแฟชั่นและสาวกไลฟ์สไตล์ไอเท็มหลากหลายแนว มาช้อปฯ คลายร้อน กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ 'Summer of Style 2022' ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ถึง 30 เม.ย. 65 พร้อมรับฟรีบัตรกำนัล เงินคืน ตลอดจนลุ้นรับฟรีตั๋วเครื่องบินและที่พักสุดหรูมากมาย รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เมื่อใช้จ่ายครบตามเงื่อนไข เพื่อสร้างบรรยากาศการช้อปปิ้งในช่วงหน้าร้อนนี้ให้คึกคักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและมอบความคุ้มค่าในการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการสร้างแรงจูงใจในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น ภายใต้โครงการ 'ช้อป แลก เที่ยว' ของททท. วันที่ 1 มี.ค. - 15 เม.ย. 65

รับฟรี Central Embassy Voucher และ Cash Back จากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน รวมสูงสุด 49,000 บาท เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข จากร้านค้าในหมวดแฟชั่น และไลฟ์สไตล์ โดยรางวัลแบ่งเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 วันที่ 1 - 31 มี.ค. 65 และรอบที่ 2 วันที่ 1 - 30 เม.ย. 65 อาทิ รับรวมสูงสุด 3,300 บาท เมื่อช้อปสินค้าร้านค้าหมวด Luxury & brands ที่ร่วมรายการ ครบ 50,000 บาทขึ้นไป (Central Embassy Voucher มูลค่า 1,500 บาท จำกัด 500 รางวัลต่อรอบ พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก The Embassy Club และ Central Diamond Society รับเพิ่ม Central Embassy Voucher มูลค่า 1,000 บาท จำกัด 50 รางวัลตลอดรายการ และรับเพิ่ม Cash Back จากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน มูลค่า 800 บาท) หรือ รับรวมสูงสุด 17,000 บาท เมื่อช้อปสินค้าร้านค้าหมวด Luxury & brands ที่ร่วมรายการ ครบ 200,000 บาทขึ้นไป (Central Embassy Voucher มูลค่า 7,000 บาท จำกัด 40 รางวัลต่อรอบ พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก The Embassy Club และ Central Diamond Society รับเพิ่ม Central Embassy Voucher มูลค่า 5,000 บาท จำกัด 20 รางวัลตลอดรายการ และรับเพิ่ม Cash Back จากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน มูลค่า 5,000 บาท) หรือ รับเพิ่ม Cash Back จากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน มูลค่า 10,000 บาท เมื่อช้อปสินค้าร้านค้าหมวด Luxury & brands ที่ร่วมรายการ ครบ 500,000 บาทขึ้นไป อีกทั้ง รับทันที Central Embassy Voucher มูลค่า 300 บาท เมื่อช้อปสินค้าร้านค้าหมวด Street Fashion ครบ 5,000 บาทขึ้นไป (จำกัด 500 รางวัลต่อรอบ) และสิทธิพิเศษสำหรับบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน เดอะแบล็ค แบล็ค และลักซ์ Weekend Super Burn ทุกวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือน รับ Central Embassy Voucher มูลค่าสูงสุด 30% เมื่อแลกคะแนนเดอะวัน (5 ก.พ. - 3 เม.ย. 65)

พิเศษสุดเฉพาะสมาชิก The Embassy Club และ Central Diamond Society สำหรับ Top Spender ที่มียอดช้อปสูงสุด 3 ท่าน และมียอดช้อปสะสม 3 ล้านบาทขึ้นไปตลอดรายการ รับฟรี ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักสุด Exclusive 3 วัน 2 คืน ได้แก่ ลำดับที่ 1 รับฟรีที่พักห้อง Ocean Pool Villa จาก Six Senses, Yao Noi จ.พังงา สำหรับ 2 ท่าน รวมมูลค่า 200,000 บาท, ลำดับที่ 2 รับฟรีที่พักห้อง 1 Bedroom Sea View Villa จาก V Villa, MGallery จ.ภูเก็ต สำหรับ 2 ท่าน รวมมูลค่า 140,000 บาท และลำดับที่ 3 รับฟรีที่พักห้อง Partial Ocean View Pool Pavilion จาก Rosewood จ.ภูเก็ต สำหรับ 2 ท่าน รวมมูลค่า 130,000 บาท

เท่านั้นไม่พอ พิเศษ! สุด เมื่อช้อปทุก 5,000 บาทขึ้นไป ลุ้นรับของรางวัล รวมมูลค่ากว่า 236,000 บาท จำนวน 8 รางวัล ได้แก่ บัตรกำนัลที่พัก 3 วัน 2 คืน ห้อง Scenic Ocean View Pool Villa จาก Silavadee Pool Spa Resort จ.ภูเก็ต สำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 40,000 บาท (2 รางวัล), บัตรกำนัลที่พัก 3 วัน 2 คืน ห้อง Standard Pool Villa จาก The Standard Hotels หัวหิน สำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 40,000 บาท (2 รางวัล), บัตรกำนัลที่พัก 3 วัน 2 คืน ห้อง Executive Ocean Suite จาก Cross Pattaya Pratamnak จ.พัทยา สำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 20,000 บาท (2 รางวัล) และบัตรกำนัลที่พัก 3 วัน 2 คืน ห้อง Karma Room Pool จาก Karma Resort เกาะสมุย สำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 18,000 บาท (2 รางวัล) ตลอดจนมอบสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการสูงสุด 16% หรือผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ถึง 30 เม.ย. 65 ติดตามรายละเอียดโปรโมชั่น และกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook .com/centralembassy หรือ www.centralembassy .com สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2119-777#2001
#3010
การซื้อ-ขายทั้งผองที่ดำเนินการผ่านสะสม ได้ผ่านวิธีการตรวจตราให้รอบคอบทุกรายการ
ซื้อ-ขายในราคากึ่งกลางที่ตลาดเป็นผู้กำหนด พร้อมบริการหลังวิธีขายระดับพรีเมียม รวมถึงการไม่เปิดเผยตัวตน เรามอบประสบการณ์การซื้อขายที่เหมาะสมที่สุดในตลาด
ซื้อ-ขายง่าย ไม่มีอันตราย ไม่ต้องเผยตัวตน หรือติดต่อกับผู้บริโภคหรือคนขายโดยตรง ช้อปมากมายผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการได้ในเพียงแต่ไม่กี่คลิก ในเว็ปไซต์สะสม SASOM
เข้าถึงข้อมูลราคาขายปัจจุบันบนแพลตฟอร์ม ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ คาดคะเน และก็เรียนราคาของผลิตภัณฑ์ เพื่อประกอบกิจการตกลงใจซื้อ-ขายได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

วิธีการซื้อ  Jordan 1 Retro High Black Satin Gym Red
ขั้นตอนที่ 1: เลือกของ SASOM ของคุณ
เลือกสินค้าที่คุณต้องการ แล้วคลิกที่ปุ่มซื้อ หากปุ่มซื้อไม่พร้อมใช้งาน สามารถอ่านเสริมเติมถึงที่กะไว้ "ไม่มีปุ่มกดซื้อสินค้าที่ฉันอยาก"
ขั้นตอนที่ 2: เลือกราคา, ไซส์ และก็ภาวะผลิตภัณฑ์ที่คุณปรารถนา
เลือกราคา, ขนาด และก็ภาวะสินค้าที่คุณปรารถนา แล้วดำเนินงานต่อที่หน้าจ่ายเงิน
ขั้นตอนที่ 3: กรอกที่อยู่ในการจัดส่ง  Jordan 1 Retro High Black Satin Gym Red
กรอกที่อยู่aสำหรับเพื่อการจัดส่ง หรือเลือกที่อยู่ที่คุณบันทึกไว้ คุณสามารถเลือกซื้อบริการเสริม (Add-on service) หรือใส่รหัสส่วนลด (ถ้าเกิดมี) แล้วกดเห็นด้วยข้อกำหนดรวมทั้งข้อตกลงก่อนคลิกถัดไป
ขั้นตอนที่ 4: จ่ายเงิน  Jordan 1 Retro High Black Satin Gym Red
เลือกกรรมวิธีการชำระเงินที่คุณอยาก โดยคุณสามารถดูข้อมูลช่องทางการชำเงินต่างๆพอดี "ช่องทางการชำระเงิน"
ขั้นตอนที่ 5: สะสมดำเนินงานจัดส่งผลิตภัณฑ์  Jordan 1 Retro High Black Satin Gym Red
สะสมทำงานจัดส่งสินค้าถึงมือคุณ! พร้อมค้ำประกันสินค้าว่าเป็นของแท้ 100% คุณภาพแล้วก็สภาพผลิตภัณฑ์ตรงตามมาตรฐานของสะสม ถ้าเกิดเกิดเหตุขัดข้องอะไรก็แล้วแต่
เกี่ยวกับรายการสั่งซื้อของคุณ ทางเราจะแจ้งให้คุณทราบแล้วก็จัดหาหนทางที่ดีที่สุดให้กับคุณ!


https://bit.ly/3KdHMpk


 
#3011
พาณิชย์เผยไทยใช้สิทธิส่งออกภายใต้ RCEP ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ 1,165 ลบ.

นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 65 จนถึงวันที่ 28 ก.พ. 65 ผู้ส่งออกไทยได้มีการมาขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลง RCEP (Form RCEP) เป็นมูลค่าสูงถึง 1,165.52 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นการส่งออกไปญี่ปุ่นมากที่สุดเป็นอันดับแรก คิดเป็นมูลค่า 540.36 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าปลาปรุงแต่งประเภทปลาเฮอร์ริง ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ค ผักปรุงแต่ง และสิ่งทอ ลำดับรองลงมาคือจีน อยู่ที่ 453.95 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าพืช ผัก ผลไม้สด เช่น มันสำปะหลัง ลำไย ทุเรียน และมะพร้าว เป็นต้น และอันดับที่ 3 คือ เกาหลีใต้ มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 171.21 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าถุงลมนิรภัยพร้อมระบบพองลม รถจักรยานยนต์ ไขมันและน้ำมันชนิดระเหย แชมพู เชิ้ตของบุรุษหรือเด็กชายทำด้วยฝ้าย

อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form RCEP ในเดือนก.พ. 65 กับเดือนม.ค. 65 ซึ่งเป็นเดือนแรกของการเริ่มบังคับใช้ความตกลง RCEP จะเห็นได้ว่าในเดือนก.พ. มีมูลค่าการขอใช้สิทธิฯ สูงถึง 887.67 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 219.49%

สำหรับเดือนม.ค. 65 มีการขอใช้สิทธิฯ ภายใต้ RCEP อยู่ที่ 277.84 ล้านบาท เป็นการส่งออกไปยัง 2 ตลาดหลัก คือ ญี่ปุ่นและจีน และตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 65 ที่ความตกลง RCEP มีผลบังคับใช้กับเกาหลีใต้ จึงได้เริ่มมีการส่งออกไปยังเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นมา โดยการส่งออกไปยังเกาหลีใต้ในเดือนก.พ. ยังมีมูลค่าไม่สูงมากนัก อยู่ที่ประมาณ 171.21 ล้านบาท โดยสินค้าที่มีการขอหนังสือรับรอง Form RCEP ส่วนใหญ่เป็นสินค้าได้รับสิทธิในการลดภาษีจากเกาหลีใต้เพิ่มเติมภายใต้กรอบ RCEP รวมถึงเกณฑ์การได้ถิ่นกำเนิดสินค้าที่ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการส่งออกโดยใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี (AKFTA)

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ภายใต้ RCEP การใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีของผู้ส่งออกไทย ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการที่ผู้ส่งออกจะได้รับประโยชน์จากการลดภาษีขาเข้าของประเทศปลายทางที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าไทยมีการส่งออกภายใต้ RCEP ไปยังญี่ปุ่นและจีนมากที่สุด

ในส่วนของสินค้าที่มีการส่งออกไปญี่ปุ่น ได้แก่ สินค้าปลาปรุงแต่ง ทูน่ากระป๋อง ซึ่งไทยได้รับการลดภาษีเหลือ 0% อยู่แล้วภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) แต่ความได้เปรียบภายใต้ความตกลง RCEP เกิดขึ้นเนื่องจากเกณฑ์การได้ถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ RCEP ที่มีข้อกำหนดของหลักเกณฑ์ที่ง่ายขึ้น

สำหรับความตกลง RCEP ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขในการได้มาซึ่งวัตถุดิบในการนำมาผลิต ต่างจากความตกลง JTEPA ที่มีข้อกำหนดว่าปลาที่นำมาแปรรูปนั้น จะต้องเป็นปลาที่ได้จากเรือประมงที่ได้รับอนุญาต และ AJCEP ที่กำหนดว่า ปลาที่นำมาแปรรูปจะต้องเป็นปลาที่ได้จากประเทศสมาชิกภายใต้ความตกลงฯ เท่านั้น รวมถึงการส่งออกสินค้าพืช ผัก ผลไม้สด ไปจีน ที่แม้ว่าภายใต้ RCEP ส่วนใหญ่จะได้รับการลดภาษีในระดับที่เท่ากันกับกรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) คือเป็น 0%

ทั้งนี้ เนื่องจากความตกลง RCEP มีข้อกำหนดเรื่องการตรวจปล่อยสินค้าที่ชัดเจน คือ กรณีที่เป็นไปได้ให้ตรวจปล่อยสินค้าเน่าเสียง่ายให้แล้วเสร็จภายใน 6 ชั่วโมง และสำหรับสินค้าทั่วไป ให้มีการตรวจปล่อยสินค้าให้แล้วเสร็จภายใน 48 ชั่วโมง จึงคาดว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการมาขอใช้สิทธิภายใต้ RCEP กันมาก เนื่องจากสามารถวางแผนการนำเข้าส่งออกสินค้าล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาต (Self-declaration by Approved Exporter) ซึ่งเป็น 1 ใน 2 รูปแบบของการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้ได้ตามความตกลง RCEP ในปัจจุบัน ผู้ส่งออกจะต้องมาขอขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อเป็นผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาตก่อน จึงจะสามารถออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองได้

ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนตั้งแต่ความตกลง RCEP มีผลใช้บังคับ มีผู้ส่งออกมาขอขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศแล้ว จำนวน 22 ราย ประกอบด้วย ผู้ส่งออกเครื่องประดับ อาหารสำเร็จรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น ซึ่งตามประกาศกรมการค้าต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ผู้ส่งออกที่ขึ้นทะเบียนสำหรับการรับรองตนเองมีหน้าที่จะต้องรายงานรายละเอียดต่อกรมการค้าต่างประเทศ ว่ามีหรือไม่มีการส่งออกภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

สำหรับในเดือนม.ค. 65 ไทยยังไม่มีการส่งออกสินค้าที่ขอใช้สิทธิฯ ด้วยรูปแบบของการรับรองตนเอง คาดว่าสาเหตุเนื่องมาจากผู้ส่งออกยังไม่มีความมั่นใจที่จะรับรองตนเองสำหรับการส่งออก โดยยังมีข้อกังวลว่าหนังสือรับรองที่ออกด้วยตนเองอาจถูกตรวจสอบจากศุลกากรของประเทศปลายทางมากกว่าการใช้ Form RCEP ที่ออกให้โดยกรมการค้าต่างประเทศ

นอกจากนี้ ผู้ส่งออกที่จะรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองได้ จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าเป็นอย่างดีอีกด้วย อย่างไรก็ดี ทางกรมการค้าต่างประเทศ เห็นว่าการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของผู้ส่งออก จะเป็นประโยชน์ในการช่วยลดขั้นตอนในการออกเอกสารส่งออก และลดต้นทุนด้านเอกสารให้แก่ผู้ส่งออกได้ในระยะยาว จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการใช้รูปแบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองให้มากขึ้น

"กรมการค้าต่างประเทศ ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า และการขอใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ RCEP รวมถึงสิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีต่างๆ ทั้งหมด และเพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศมีกำหนดจัดงานสัมมนาเพื่อให้ความรู้และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์จากตามความตกลง RCEP ตามจังหวัดเป้าหมายในทุกภูมิภาค อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต นครพนม มุกดาหาร สงขลา จันทบุรี และระยอง ในระหว่างเดือนเม.ย.-ก.ย. 65 โดยขอให้ติดตามกำหนดการและการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการสัมมนาได้จากเว็บไซต์ของกรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th ต่อไป" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าว
#3012
ยอดใช้น้ำมัน ม.ค.65 เพิ่ม 20.9% รับมาตรการกระตุ้นศก.-คลายล็อกดาวน์

น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวัน เดือน ม.ค.65 เพิ่มขึ้น 20.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 11.8% กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 24.4% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 75.5% น้ำมันก๊าดเพิ่มขึ้น 2.8% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 40.8% LPG เพิ่มขึ้น 11.7% อย่างไรก็ตาม ขณะที่การใช้ NGV ลดลง 2.7%

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 30.54 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 11.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29.91 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้น 12.2%) การใช้แก๊สโซฮอล์ 91, แก๊สโซฮอล์ 95, แก๊สโซฮอล์ อี20 และแก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.04 ล้านลิตร/วัน, 15.79 ล้านลิตร/วัน, 6.13 ล้านลิตร/วัน และ 0.95 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ เนื่องจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.63 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากราคาเบนซินที่อยู่ในระดับสูง โดยแตะระดับสูงสุด 42.01 บาท/ลิตร ในช่วงปลายเดือน ม.ค.65 หากพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค.64 พบว่า การใช้ลดลง 9.4% เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนหลังเทศกาลปีใหม่

ด้านการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 75.87 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 24.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 62.63 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้น 68.9%) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.62 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 3.83 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.23 ล้านลิตร/วัน การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการใช้น้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้า โดยในเดือน ม.ค.65 อยู่ที่ 6.94 ล้านลิตร/วัน

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 6.99 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 75.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้าประเทศ เมื่อเทียบกับมาตรการปีก่อนหน้า แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน การใช้น้ำมัน Jet A1 จึงยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.19 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 11.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.54 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 20.9%) และการใช้ในภาคขนส่งที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.90 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 16.7%) นอกจากนี้ การใช้ในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.96 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 7.1%) และ 5.78 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 1.6%) ตามลำดับ

ส่วนการใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.18 ล้านกก./วัน ลดลง 2.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ลดลง

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,015,944 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 926,590 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น 2.6%) ในจำนวนนี้พบว่าเป็นการนำเข้าจากรัสเซีย 1.2% (ปี 64 การนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียคิดเป็น 3.3%) มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 81,810 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 77.5%)

สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 89,353 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 7,468 ล้านบาท/เดือน

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 150,897 บาร์เรล/วัน (ลดลง 0.8%) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 14,575 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 74.0%) มูลค่าการส่งออกที่สูงขึ้นนี้ เป็นผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในเดือน ม.ค.65
#3013
อีย็องจุน ที่เป็นประธานบริษัทขนาดใหญ่ในเกาหลี ลักษณะส่วนตัวของท่านประธานอี หล่อ สมาร์ท เพอร์เฟคในทุกๆด้านเลยก็ว่าได้ ประธานอีของเรามีความหลงตัวเองเป็นอย่างมากเลยค่ะ แถมยังเป็นคนบ้างานและจู้จี้สุดๆ เลยทำให้สาวสวยเลขาคิมที่คอยดูแลและช่วยเหลือประธานอีมาทั้งหมด 9 ปีเลยทำให้เลขาคิมประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งเลขา ท่านประธานอีจึงตัดสินใจทำทุกอย่างที่ทำได้หลังจากพูดคุยกับเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทของประธานอี เพื่อให้แน่ใจว่า เลขาคิม จะอยู่เคียงข้างเขา
รีวิวซีรี่ย์ รีวิวซีรี่ย์เกาหลี รีวิวหนัง
#3014






.
รับทำข้าวกล่อง อาหารกล่อง จ.ชุมพร
อร่อย-สะอาด-คุณภาพ-น่ารับประทาน
เสร็จตรงเวลา
.
อาหารตามสั่งทุกเมนูของครัวบ้านยายใช้บรรจุกล่องทนความร้อนสูง 120° มีฝาปิดแยกข้าวและกับข้าวไม่ปนกัน ไม่มีสารตกค้างมีความปลอดภัยสูงใช้แทนกล่องโฟม
.
ราคาเริ่มต้น 40 บาท/กล่อง
รายการประเภทอาหารกล่อง...
ผัดกระเพรา
ผัดพริกแกง
ผัดคั่วขพริกกลือ
ผัดกะปิ
ผัดน้ำพริกเผา
ผัดพริกใหญ่
ผัดคะน้า
ผัดผักบุ้ง
ผัดผักรวม
ข้าวผัดไข่
ก๋วยเตี้ยวตัมยำ
มาม่าต้มยำ
ราดหน้า
ผัดซีอิ้ว
สุกี้แห้ง-น้ำ
สปาเก็ตตี้
.
เลือกอาหารประกอบการผัดด้วย :
หมูกรอบ,หมูสามชั้น,หมูหมัก,หมูสับ,
ปลาดุกทอด,ไก่,ลูกชิ้น,ไข่เยี่ยวม้าทอด,
กุ้ง,หมึก,หอย,เบคอน,แหนม
Tel/Line 0867348650
#3015
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดเช้าร่วง 819.24 จุด วิตกราคาน้ำมันพุ่ง

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าร่วงลงกว่า 3% ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้น หลังมีรายงานว่าสหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปกำลังพิจารณาระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,166.23 จุด ร่วงลง 819.24 จุด หรือ -3.15%

หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้นำโดยกลุ่มขนส่งทางอากาศ, กลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง และกลุ่มเครื่องจักร

นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "State of the Union" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นในวันอาทิตย์ (6 มี.ค.) ว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย โดยมีเป้าหมายที่จะตอบโต้รัสเซียกรณีใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน

"ผมได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐในเรื่องน้ำมันของรัสเซีย และขณะนี้เรากำลังพูดคุยกับประเทศพันธมิตรของเราในยุโรป เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องสร้างความมั่นใจว่า อุปทานน้ำมันยังคงมีเพียงพอรองรับความต้องการในตลาดโลก" นายบลิงเกนกล่าวกับนายเจค แทปเปอร์ ผู้ดำเนินรายการของซีเอ็นเอ็น

ทั้งนี้ การให้สัมภาษณ์ของนายบลิงเกนส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นเหนือระดับ 125 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้
#3016
เครื่องฉีดพลาสติก หลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่

เครื่องฉีดพลาสติก ทุกชนิดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ตั้งแต่ 50, 100, 200 ,400 ตัน หรือมากกว่านั้น อาจจะถึง 2,000 ตัน เราก็มีพร้อมจำหน่ายถ้าท่านสนใจ เอาล่ะครับผมจะเริ่มเขียนเกี่ยวกับ เครื่องฉีดพลาสติก และงานฉีดพลาสติกแล้ว
การแปรรูปพลาสติกโดยวิธีการฉีดนั้น จะทำจากสารพลาสติกที่เป็นเม็ดหรือเป็นผง ซึ่งอาจจะเป็น เทอร์โมพลาสติก เทอร์โมเซตติ้งหรืออีลาสโตเมอร์
ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของเครื่องฉีดที่จะดัดแปลงให้เหมาะสมกับ พลาสติกชนิดต่าง ๆ สำหรับเทอร์โมพลาสติก นั้นเมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัวและเหลวสามารถนำไปแปรรูปได้หลายครั้ง ตามท้องตลาด จะมีทั้งเป็นสีธรรมชาติของพลาสติกเองและแบบผสมสี ต่อไปผมจะพูดเกี่ยวกับประเภทของเครื่องฉีดพลาสติกที่ทางบริษัทเราจำหน่ายนะครับ

Line : Lakkana99 , 0812079977
เบอร์ติดต่อ : 081-6428557 (คุณสมนึก) , 081-6428556 (คุณลักขณา)
เรียบเรียงบทความโดย : https://www.cctgroup.co.th 
#3017
ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 52,205 ล้านบาท

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 52,205 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขาย สูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 8,109 ล้านบาท 2. นักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 1,948 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 3,311 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 1.34% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.01%

ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนของ นักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET OUTFLOW 3,309 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 3,309 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) ด้านปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ประจำเดือน ก.พ. 65 ขยายตัว 5.28% (YoY) สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 4.0-4.1% เนื่องจากสินค้าในกลุ่มพลังงาน อาหารและ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและราคาวัตถุดิบ ด้านปัจจัยต่างประเทศ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 215,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย สำหรับ Holding ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นสัปดาห์นี้ปรับลดลง 31,400 ล้านบาท จาก 1,154,663 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้าเป็น 1,123,263 ล้านบาท ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มี NET SELL ของนักลงทุนต่างชาติ 3,665 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดติดตามผลการประชุม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า

สรุปภาวะการซื้อขายตราสารหนี้

ตลาดตราสารหนี้ไทย             04-03-2022   %Change
มูลค่าการซื้อขาย              52,205.30 ลบ.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 3 เดือน  0.47 %    0.00 %
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 1 ปี     0.51 %    0.00 %
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี     1.34 %   +0.01 %

มูลค่าการซื้อขายแบบ Outright (แยกตามประเภทตราสาร)
ประเภทตราสาร       ล้านบาท      %Change
ตั๋วเงินคลัง         9,216.46       +134 %
พันธบัตรรัฐบาล     17,472.77         +1 %
ตั๋วสัญญาใช้เงินรัฐบาล     0.00          n/a
พันธบัตร ธปท.     21,245.38        -23 %
พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ      70.71        -27 %
หุ้นกู้เอกชน         1,958.43        -58 %
พันธบัตรต่างประเทศ      0.00       -100 %

หมายเหตุ: n/a คือ หาค่าไม่ได้ เนื่องจากไม่มีมูลค่าการซื้อขายในวันก่อนหน้า
#3018
ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex ดิ่งกว่า 700 จุด ร่วงวันที่ 3 กังวลสถานการณ์ยูเครน

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียร่วงลงกว่า 700 จุดในวันนี้ โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครนที่มีความรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนี S&P BSE Sensex ปิดตลาดที่ 54,333.81 ลบ 768.87 จุด หรือ 1.40%

หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงนำตลาดวันนี้

J ร่วมทุน รพ.วิมุต ทำศูนย์ดูแลฟื้นฟูสุขภาพใกล้ JAS green village คู้บอน

นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) กล่าวว่า บริษัทเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท วิมุต เวลเนส เซอร์วิส จำกัด ในเครือ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) เพื่อร่วมกันเพื่อดำเนินธุรกิจศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพ สำหรับครอบครัว และผู้สูงอายุ บนถนนคู้บอน ติดกับโครงการ JAS green village คู้บอน ซึ่งเป็นการตอบโจทย์การให้บริการและรองรับสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในวันที่ 14 มี.ค. 65
#3019
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แอปเปิ้ลออกมายืนยันแล้วว่าได้หยุดการจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ทั้งหมดของรัสเซีย ตามการร้องขอของรองนายกรัฐมนตรียูเครน Mykhailo Fedorov โดยจดหมายจากซีอีโอ ทิม คุก ระบุว่า Fedorov ขอให้บริษัทหยุดการจำหน่ายอุปกรณ์และบล็อก App Store. ในรัสเซียFedorov เขียนจดหมายร้องขอไว้ว่า "เราขอร้องคุณ และมั่นใจว่าคุณจะไม่แค่รับฟังเฉยๆ แต่จะร่วมมือทำทุกอย่างเพื่อช่วยปกป้องประชาชนชาวยูเครน คนยุโรป และที่สำคัญที่สุดคือ โลกประชาธิปไตยทั้งหมด จากความก้าวร้าวบ้าเลือดในการรุกรานดินแดน""ตั้งแต่การหยุดให้บริการและจำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ลในรัสเซีย ที่รวมถึงการบล็อกการเข้าถึง App Store ด้วย เราเชื่อว่าการดำเนินการเหล่านี้จะกระตุ้นให้วัยรุ่น และประชาชนในรัสเซียออกมาเคลื่อนไหวให้ยุติกิจกรรมทางทหารของประเทศตัวเองที่น่าอับอายอยู่ตอนนี้"ปัจจุบัน ถ้ากดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลผ่านออนไลน์ในรัสเซีย จะขึ้นข้อความว่า "ไม่สามารถจัดส่งได้" นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังหยุดส่งออกทุกอย่างไปยังรัสเซีย ปิดการอัพเดทการจราจรและเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ในยูเครนผ่าน Apple Maps เพื่อให้คนยูเครนปลอดภัยมากที่สุด

อ่านต่อ MyMainer.com
#3020
ราคาทองในประเทศเช้านี้ปรับขึ้นบาทละ 450 ระยะสั้นผันผวน กังวลรัสเซีย-ยูเครน

สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาขายปลีกทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศ เมื่อเวลา 09.39 น. ปรับขึ้นจากเมื่อวันเสาร์ (5 มี.ค.) บาททองคำละ 450 บาท โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 30,600.00 บาท ขายออกบาททองคำละ 30,700.00 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 30,047.12 บาท ขายออกบาททองคำละ 31,200.00 บาท

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด วิเคราะห์ว่า ราคาทองคำ Spot สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นแรงอีกครั้งเข้าใกล้บริเวณ 1,974 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงดำเนินไปต่อเนื่องเป็น 2 สัปดาห์แล้ว รวมถึงความรุนแรงที่ส่อแววมากขึ้น หลังการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน ขณะที่ในวันนี้ จะมีการจัดการเจรจากันรอบที่ 3 กันอีกครั้ง ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 27.29 ตันจากสัปดาห์ก่อน

แนวโน้มราคาทองคำ คาดเคลื่อนไหว Sideways up ทั้งนี้ ราคาทองคำในระยะสั้นยังมีแนวโน้มผันผวน ตามสถานการณ์ในยูเครน โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,960 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,940 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ และ 2,100 ดอลลาร์