• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chigaru

#3681



รายงานข่าวจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี ธนาคารทหารไทยธนชาต เปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากคลัสเตอร์โรงงานและไม่ได้พบในจังหวัดสีแดงเข้มเท่านั้น แต่ยังมีจังหวัดอื่น ๆ ด้วย ทำให้คาดว่าหากไม่สามารถควบคุมคลัสเตอร์โรงงานได้ จะทำให้การผลิตหยุดมากกว่า 2 สัปดาห์จะเกิดความเสียหาย 1.9 แสนล้านบาท และกระทบต่อการส่งออกไทยปี 64 อาจทำได้เพียง 6.8% แต่ถ้าควบคุมการระบาดได้เร็วจะทำให้ส่งออกไปขยายตัวที่ 9.4%

ทั้งนี้จากข้อมูลกรมอนามัย ตั้งแต่เดือนเม.ย.-ก.ค. 64 มีโรงงานติดเชื้อสะสมมากถึง 1,607 โรงงาน เป็นโรงงานขนาดใหญ่ 67% ซึ่งมีแรงงานจำนวนมาก โดยเป็นทั้งโรงงานผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศและป้อนตลาดต่างประเทศ คลัสเตอร์โรงงานจึงเป็นคลัสเตอร์ใหญ่นอกเหนือไปจากแคมป์ก่อสร้าง และส่วนใหญ่เป็นโรงงานใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยางพารา และผลิตภัณฑ์สิ่งทอ

ขณะที่ในไทยมีโรงงานใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมนี้มากถึง 11,637 แห่ง มีแรงงาน 1.96 ล้านคน และมูลค่าตลาดต่อปีเท่ากับ  8.87  ล้านล้านบาท มีสัดส่วนส่งออกกว่า 57%  และจากการที่เป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานค่อนข้างมาก เมื่อมีผู้ติดเชื้อจึงมีโอกาสที่จะเกิดการแพร่กระจายสูง นำมาซึ่งการใช้มาตรการปิดโรงงานหยุดกระบวนการผลิตชั่วคราว


รายงานข่าว ระบุ การปิดคลัสเตอร์โรงงาน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อควบคุมการระบาดจะก่อให้เกิดการสูญเสียมูลค่า 3.5 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 4% ของมูลค่าตลาด โดยอุปทานสินค้าป้อนตลาดจากโรงงานในอุตสาหกรรมอาหาร ยานยนต์ ยางพาราและพลาสติก จะได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานเร็วที่สุด เพราะมีสินค้าคงคลังน้อยกว่าช่วงปกติ ดังนั้น หากไม่สามารถควบคุมการระบาดคลัสเตอร์โรงงานได้ ภาครัฐต้องมีการล็อกดาวน์โรงงานเพิ่มขึ้น หรือขยายระยะเวลาปิดโรงงานออกไป จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการฟื้นเศรษฐกิจครั้งนี้ 

นอกจากนี้ สินค้าส่งออกทั้ง 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจอาเซียนได้รับผลกระทบจากที่ต้องเจอยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ทำให้กลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ซึ่งส่งผลต่อความต้องการสินค้าส่งออกจากไทยในช่วงครึ่งปีหลัง โดยการส่งออกใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม  คิดเป็น 2 ใน 3 ของมูลค่าการส่งออกไปตลาดอาเซียนซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท
#3682



"ชัยวุฒิ" มอบหมาย บ.ไปรษณีย์ไทย ใช้จุดแข็งในศักยภาพด้านการขนส่ง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจรายย่อยและสินค้าเกษตรฝ่าวิกฤติโควิด-19 ควบคู่สนับสนุนระบบสาธารณสุข รับอาสาขนส่งฟรีอุปกรณ์การแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ และให้ความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ใช้ศักยภาพด้านการขนส่งและเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในช่วงการระบาดโควิด-19 ช่วยเหลือประชาชน ผู้ประกอบการ เกษตรกร พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนระบบสาธารณสุข ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นอีกครั้ง

โดยในส่วนของการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะครอบคลุมทั้ง การออกโปรโมชันเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับผู้ประกอบการ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เว็บไซต์ Thailandpostmart.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมขายสินค้ากว่า 6,500 ราย มีสินค้ามากกว่า 17,000 รายการจากทั่วทุกภูมิภาค

ทั้งนี้ ปณท ได้ปรับลดอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในพิกัดน้ำหนักตั้งแต่เกิน 2,000 กรัมขึ้นไป และให้การสนับสนุนการส่งผลผลิตของเกษตรกรในราคากล่องเหมาจ่าย ด้วยบริการ EMS พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการขายให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกร เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยยังสามารถเดินหน้าต่อได้ในภาวะวิกฤติ

นอกจากนี้ ยังมีบริการ Pick up Service รับฝากพัสดุถึงบ้าน อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ผู้ใช้บริการไม่ต้องออกจากบ้าน ลดความเสี่ยงการสัมผัสเชื้อโควิด-19 โดยสามารถใช้บริการดังกล่าวได้ทางไลน์ออฟฟิเชียล @ThailandPost



"ผมยังได้มอบหมายให้ ปณท สนองนโยบายการดำเนินงานของรัฐบาลด้วยการสนับสนุนระบบสาธารณสุขในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ได้แก่ การช่วยขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการส่ง การส่งยาและเวชภัณฑ์จากโรงพยาบาล ไปให้ผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยโควิด -19 สีเขียวในโครงการ Home Isolation-Community Isolation ให้ความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว เพื่อรอการนำส่งต่อไปรักษาที่สถานพยาบาลต่อไป" นายชัยวุฒิ กล่าว



ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด -19 โดยมีโครงการ "ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19" ซึ่งได้รวบรวมอุปกรณ์การแพทย์จากคนไทย จัดส่งฟรีให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้วกว่า 2.2 แสนกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าการจัดส่งกว่า 8 ล้านบาท ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรขนส่งเตียงกระดาษไปให้โรงพยาบาลสนามต่างๆ ทั่วประเทศฟรีกว่า 2,300 เตียง จัดทำโครงการ "ไปรษณีย์ reBOX" โดยร่วมกับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) นำกล่อง/ซองกระดาษที่รวบรวมจากคนไทยน้ำหนักกว่า 23,500 กิโลกรัม มาแปรรูปเป็นเตียงกระดาษ อีกทั้งร่วมกับองค์การเภสัชกรรม เตรียมพร้อมเปลี่ยนกล่อง/ซองเป็นหน้ากากอนามัย บรรจุใน กล่องBOXบุญ ที่จะส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น
#3683



น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในเดือนมิ.ย.64 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19 โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนยังอ่อนแอ แม้ปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยังมีอยู่

อย่างไรก็ดีการส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า และยังช่วยพยุงการลงทุนภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐยังขยายตัวได้เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน

ขณะที่ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงปรับลดลง เนื่องจากผลของฐานต่ำในหมวดราคาพลังงานทยอยหมดไป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อน จากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ประกอบกับดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้นตามทิศทางการส่งออก

โดยในเดือนมิ.ย.64 เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับดีขึ้นบ้างจากเดือนก่อน หลังจากภาครัฐทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. อย่างไรก็ดี เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับรายได้และความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่อ่อนแอจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้าและวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลให้การส่งออกยังเพิ่มขึ้นในหลายหมวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ การส่งออกเหล็กเร่งขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเปลี่ยนไปเน้นตลาดส่งออกมากขึ้นในช่วงที่ความต้องการในประเทศลดลง

"การระบาดของโควิดในโรงงานต่างๆ อาจมีผลกระทบกับการผลิตบ้างในระยะสั้น แต่ผู้ผลิตก็มีการปรับตัว บางโรงงานก็มีการทำ Bubble & Sealed เพื่อให้การผลิตยังเดินหน้าต่อ ส่วนผลกระทบระยะยาวนั้น ขอรอดูการประเมินจากที่ประชุม กนง.วันที่ 4 ส.ค.นี้ก่อน"

ADVERTISEMENT


สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการส่งออก ขณะที่การลงทุนหมวดก่อสร้างปรับลดลงต่อเนื่องตามอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ รวมทั้งการได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง

ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามการผลิตหมวดยานยนต์ ปิโตรเลียม และวัสดุก่อสร้าง สอดคล้องกับอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ โดยปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และเซมิคอนดักเตอร์ยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตหมวดอาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์

ทั้งนี้มูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะหมวดเชื้อเพลิงและสินค้าอุปโภคบริโภคสอดคล้องกับอุปสงค์ในประเทศที่ยังอ่อนแอ อย่างไรก็ดี การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางปรับดีขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคการส่งออก

โดยการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีต่อเนื่อง โดยรายจ่ายประจำขยายตัวตามการเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางขยายตัวตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านคมนาคมเป็นสำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่

ขณะที่ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลง เนื่องจากผลของฐานต่ำในหมวดราคาพลังงานทยอยหมดไป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมิ.ย.ขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อน จากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ประกอบกับดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้นตามทิศทางการส่งออก

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศที่ยังยืดเยื้อ โดยเดือนมิ.ย. เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยจาก พ.ค. เป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับในประเทศเองยังมีการระบาดโควิดอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บาทอ่อนค่า

โดยล่าสุดในเดือน ก.ค.เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องจากเดือนมิ.ย. เป็นผลจากนักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาในหลายประเทศ จึงทำให้มีการเข้าไปถือดอลลาร์มากขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ขณะเดียวกัน จากการระบาดของโควิดในไทยเองที่ยังมีความรุนแรง ทำให้ ศบค.ต้องยกระดับมาตรการควบคุมให้เข้มงวดขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้ในเดือนก.ค. เงินบาทปรับตัวอ่อนค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นๆ

อย่างไรก็ดี หน้าที่ในการดูแลค่าเงินของ ธปท.นั้น ไม่ได้ขึ้นกับว่าเงินบาทจะแข็งค่าไปมาก หรืออ่อนค่าไปมาก แต่จะเข้ามาดูแลก็ต่อเมื่อค่าเงินมีความผันผวนจนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพโดยรวม ซึ่ง ธปท.มีกลไลที่จะเข้าไปดูแลในส่วนนี้อยู่แล้ว

"เรามีเครื่องมือที่จะดูแลอยู่แล้ว หากค่าเงินมีความผันผวนสูง...เราไม่ได้ดูว่าจะแข็งค่ามาก หรืออ่อนค่ามาก แต่เราจะดูว่าไม่ให้มีการผันผวนเร็วเกินไปจนภาคธุรกิจไม่สามารถปรับตัวได้ เพราะจะส่งผลต่อเสถียรภาพโดยรวม เราจะดูแลไม่ให้บาทผันผวนมากเกินไป"

สำหรับในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอก 3 ของ โควิด-19 ส่งผลให้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับลดลงจากไตรมาสก่อน แม้มาตรการภาครัฐจะช่วยพยุงกำลังซื้อได้บางส่วน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังอ่อนแอ เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยังมีอยู่ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งช่วยพยุงการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชน สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนถึงบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐ

ส่วนด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับมาเป็นบวกตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานเป็นสำคัญ เนื่องจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งฐานราคาพลังงานที่ต่ำในปีก่อน ด้านตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากกว่าไตรมาสก่อน ตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลเพิ่มขึ้น

น.ส.ชญาวดีกล่าวอีกว่า ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค.64 ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจมีแนวโน้มลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีความรุนแรง ประกอบกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ออกมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องติดตามความเสี่ยงจากปัญหา supply disruption ทั้งการแพร่ระบาดในโรงงาน รวมถึงการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ และตู้คอนเทนเนอร์
#3684



"กรุงเทพธุรกิจ" มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "ชาติชาย พยุหนาวีชัย" อดีตขุนพลมือดีที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเงินนานกว่า 30 ปี และผู้บริหารของธนาคารหลายแห่ง ที่เข้ามาเป็นกำลังหลักเดินหน้าภารกิจก้าวข้ามสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญจากนี้ ในฐานะ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการบริษัท ร่วมสานกลยุทธ์ "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ภายใต้แนวคิด "ORIGIN NEXT LEVEL" ที่จะมีการขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึกด้วยทำเลใหม่ แบรนด์ใหม่ กลุ่มธุรกิจใหม่ ความร่วมมือใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายใหม่ และ สร้างสรรค์ฟังก์ชั่นใหม่ และบริการใหม่ ในบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม

ชาติชาย เล่าย้อนการมาร่วมทัพ "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ครั้งนี้ ได้รับการชักชวนจากผู้บริหารออริจิ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจมาร่วมทัพด้วย คือเรื่อง "ความหลงใหล"(Passion)การทำงานที่ตรงกัน และบิ๊กชาเลนจ์ในการสร้างอีโคซิสเท็มของออริจิ้น เพื่อ "ต่อยอด" ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ อย่างครบวงจร ถือเป็นความท้าทายใหม่ในการนำประสบการณ์จากภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐมาใช้ในการทำงานร่วมกับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

"ไม่ใช่" เพียงแค่ด้านการเงินเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงทั้งด้านการตลาด และด้านภาพลักษณ์องค์กร ในการก้าวสู่ เน็กซ์ เลเวลในด้านต่างๆ ตามที่ประกาศแผนไว้เมื่อช่วงต้นปี อาทิ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company : AMC) ที่เขามีความคุ้นเคยอยู่แล้วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเข้ามาช่วยปรับองค์กรในภาพรวมเพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ชาติชาย กล่าวย้ำว่า กลยุทธ์สำคัญที่จะนำพา "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ให้ก้าวไปตามแผน "ออริจิ้น เน็กซ์ เลเวล" ได้นั้น เกิดจาก 2 ส่วนหลัก ส่วนแรก การคิดแบบ "เน็กซ์ นอร์มอล" ให้โตไปแบบ เน็กซ์ เลเวล โดยนำแนวคิดในการปรับตัวรับมือวิกฤติโควิดในช่วงท้ายของการทำงานที่ธนาคารออมสินก่อนเกษียณ มาใช้ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบงาน ขีดความสามารถในการทำงานของทีมงานใหม่เพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันข้างหน้า

"เราเห็นเลยว่าความยืดหยุ่นเป็นเรื่องสำคัญ และทีมงานจำเป็นต้องเข้าใจเรื่อง เน็กซ์ เลเวลในทุกมิติ เพราะถ้าไม่เข้าใจ ก็จะปรับตัวไม่ทัน และก้าวไปไม่ทันโลก"

ส่วนที่สอง "ซินเนอร์จี้" ธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดี (Sunrise Industry)ทั้งแนวกว้างและแนวลึก โดยในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ จะมีบ้านจัดสรร มีคอนโดมิเนียมครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์

สเต็ปต่อไปคือการก้าวไปสู่เซ็กเตอร์อุตสาหกรรมใหม่เพื่อขยายแลนด์สเคปธุรกิจของออริจิ้นให้กว้างขึ้นในอนาคต!!

จากเมื่อต้นปี ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้ประกาศทิศทาง เน็กซ์ เลเวล ใน 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจบริหารสินทรัพย์, ธุรกิจเวลเนส และธุรกิจโลจิสติกส์ ถือเป็นธุรกิจที่มีอนาคต และที่เติบโตรวดเร็วในยุคเน็กซ์ นอร์มอล ล่าสุดขยายไปสู่ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจความงาม ข้อดีของการซินเนอร์จี้ระหว่างเซ็กเตอร์ระหว่างอุตสาหกรรมจะทำให้องค์กรแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากธุรกิจที่หลากหลาย

สำหรับ ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ซึ่งเผชิญวิกฤติโควิด-19 มาตลอดช่วงเกือบ 2 ปีนี้ มีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก แต่ออริจิ้น มีการปรับตัวตลอดเวลา ซึ่งองค์กรค่อนข้างมีพื้นฐานชุดความคิดที่ยืดหยุ่น (Flexible Mindset) พร้อมรับการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง การทำ Property Live ขายคอนโดแบรนด์ ดิ ออริจิ้น ผ่าน Live สดบนเฟซบุ๊ก จนกวาดยอดขายกว่า 200 ล้านบาท

"พื้นฐาน ออริจิ้น เป็นองค์กรที่ไม่มีกำแพง ไม่มีเพดาน คนในองค์กรพร้อมจะคิดสิ่งใหม่ๆ ไปทั้งแนวกว้าง แนวสูง แนวลึก กันอยู่เสมอ 2 กลยุทธ์ที่ผมบอกไปข้างต้น จะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญที่ทำให้ออริจิ้นก้าวไปแบบ เน็กซ์ เลเวล ได้ทั้งองคาพยพ"

จากประสบการณ์ของ "ชาติชาย" ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยใช้เวลา2-3ปีในการฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย หากองค์กรไหนมีการปรับตัวดีจะมีอัตราการเติบโตเหนือกว่าอุตสาหกรรม และคู่แข่ง อย่าง ออริจิ้น ในภาวะแบบนี้ยังขายได้จากการหาลูกค้าใหม่เข้ามาเสริม เช่น กลุ่มนักศึกษา คนชอบเลี้ยงสัตว์ กลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงการขยายช่องทางขายผ่านทางออนไลน์ ที่ผ่าน มียอดโอนจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ กว่า 600 ล้านบาท!!

ปัจจุบัน ออริจิ้น พยายามนำ "บิ๊กดาต้า" ของลูกค้าที่มีอยู่กว่าแสนรายนำมาใช้ประโยชน์ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้ทุกช่วงชีวิตทั้งไลฟ์สเตต(เมนต์) และไลฟสไตล์ ตั้งแต่เริ่มทำงาน เข้าสู่ช่วงวัยกลางคนและสูงวัย รวมทั้งการลงทุนร่วมสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ เข้ามาเสริมให้ออริจิ้นแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงเรื่องของ "ดิจิทัลแอสเสท" เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ซึ่งแต้มต่อที่สำคัญที่จะทำให้ ออริจิ้นจะสามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้า 360 องศา เพื่อวิเคราะห์โอกาสการขายที่เป็นไปได้กับลูกค้าแต่ละราย เพื่อการขายเพิ่ม ขายซ้ำ และสุดท้ายลูกค้าก็มีความสุข พึงพอใจในบริการของบริษัทและกลายเป็นลูกค้าชั่วชีวิต

พร้อมกับการทะยานขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาฯ ได้ในหลากหลายมิติทั้งจากนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล ช่องทางขายสื่อสารผ่านทางออนไลน์ การร่วมมือพาร์ทเนอร์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และก้าวเป็นเบอร์หนึ่งในอนาคต "ชาติชาย" เชื่อว่า เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินฝัน หลังจากที่ออริจิ้นสามารถผลักดันยอดขายเติบโตจนมียอดขายปีละเกือบ 30,000 ล้านบาทและมีแบ็คล็อก (Backlog)ถึง 40,000 ล้านบาททำให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง
#3685
ลงทองเรียกจิต เป็นการเรียกจิตให้อีกฝ่ายคิดถึง

ด้วยการเสกแผ่นทองคำเปลวแท้  100 %  ด้วยคาถาเรียกจิต  เพื่อเรียกจิตบุคคลที่ต้องการมาไว้ในแผ่นทอง  จากนั้นนำแผ่นทองที่ผ่านการเสกแล้ว  ไปติดตรงตำแหน่งกึ่งกลางหน้าผาก  โดยใช้สีผึ้งเรียกจิตทาก่อน  แล้วท่องคาถาเรียกจิตจนบุคคลที่ต้องการ  คิดถึงเรามากๆ 

ค่าครู 99  บาท
สนใจติดต่อ
โทร 0846623662
lide id : teerapat999

ลาซาด้า  คลิก
https://pdp.lazada.co.th/products/i2641064456.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.7dfb4edfDYXNoK
#3686




สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต รอบ 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 20-26 ก.ค. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมีจำนวน 126 คน มาจากในประเทศ 118 คน และคัดกรองพบจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" อีก 8 คน สร้างความกังวลว่า "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" จะยังดำเนินการต่อได้หรือไม่ เพราะผู้ติดเชื้อเกินเงื่อนไข 90 คนต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักเกณฑ์ของแผนเผชิญเหตุที่จะต้องนำมาพิจารณาในการเดินหน้า ทบทวน ชะลอ หรือยุติโครงการ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้หารือร่วมกับ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 26 ก.ค. เพื่อรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย หลังมีข้อกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในภูเก็ตที่เพิ่มขึ้นสูง โดยได้มีการพิจารณาหลักเกณฑ์อื่นๆ ประกอบ ยืนยันว่ายังรับมือและควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีนัยยะต่อการทบทวนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในตอนนี้ จึงได้ข้อสรุปว่าเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง

แม้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ระหว่างวันที่ 21-27 ก.ค. จำนวน 145 คน จะเกิน 90 รายต่อสัปดาห์ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กำหนดเป็นหลักเกณฑ์ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งอาจนำไปสู่การทบทวนยุติโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หลังเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา 

"แต่เมื่อดูยอดผู้ติดเชื้อสุทธิหลังมีการรักษาหายแล้ว พบว่าเหลือเพียง 60 กว่าคน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และเอกชนท่องเที่ยวได้พิจารณาหลักเกณฑ์ต่างๆ รอบด้าน ต่างยืนยันว่ายังรับมือไหว"


"พิพัฒน์"สั่งกดยอดผู้ติดเชื้อ 7 วัน
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สั่งให้จับตาการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ 7 วันจากนี้ เพื่อหาวิธีกดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ลดลง หากตัวเลขผู้ติดเชื้อในภูเก็ตยังเพิ่มขึ้นหรือไม่ลดลง จนกระทบต่อระบบสาธารณสุข ไม่สามารถรับมือไหว ททท.จะมีการดำเนินงานในขั้นต่อไป

ด้านจังหวัดภูเก็ตได้มีการปรับมาตรการตามแผนจากเบาไปหาหนัก ขณะนี้เริ่มปรับลดกิจกรรม ได้แก่ ปิดศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล ฟลอเรสตา ภูเก็ต 7 วัน ตั้งแต่ 27 ก.ค.-2 ส.ค. รวมทั้ง ปิดสนามกีฬาฟุตบอล ฟุตซอล ตั้งแต่ 27 ก.ค.-2 ส.ค.เช่นกัน ปิดโรงเรียนจนถึงวันที่ 16 ส.ค และให้รวมกลุ่มทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 100 คน ขณะที่ตลาดนัด ตลาดสด จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 4 ตารางเมตรต่อ 1 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.

"เอกชนในภูเก็ตได้หารือถึงการยกระดับมาตรการป้องกันการระบาดไม่ให้แพร่กระจายเป็นวงกว้าง มีการเสนอให้ปิดเกาะภูเก็ตเพื่อไม่ให้คนในพื้นที่อื่นเดินทางเข้า ทางปฏิบัติคงทำได้ยาก เพราะคนภูเก็ตที่ไปทำงานข้ามจังหวัด หรือมีลูกหลานในจังหวัดอื่นๆ ต้องการเดินทางกลับภูเก็ต จะปิดกั้นไม่ให้กลับคงทำได้ยาก แต่มีวิธีคุมเข้มและรัดกุมมากขึ้น"

ล่าสุด กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากทุกจังหวัด รวมถึงผู้ที่อยู่ในภูเก็ตแต่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ต้องแสดงหลักฐานผลการฉีดวัคซีนครบโดส และมีผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ Antigen Test เป็นลบ ภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมง ตั้งแต่ 25 ก.ค.-2 ส.ค.นี้

รักษาป้อมปราการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
นายยุทธศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ททท.ไม่มีความคิดที่จะยกเลิกโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และไม่มีอำนาจในการสั่งยกเลิก เพราะขึ้นอยู่กับทางจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ตัดสินใจ โดยการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ขณะนี้ ถือเป็นการทดลองระบบ รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น่าจะเดินทางเข้ามามากขึ้นในไตรมาส 4

ในเดือน ส.ค. นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สามารถต่อเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ โดยจะมีเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและไทยสมายล์ที่รับส่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยเฉพาะ 

"ททท.ต้องพยายามรักษาป้อมปราการของภูเก็ตเอาไว้ให้ได้ เพราะ 15 เดือนที่เผชิญวิกฤติโควิด คนภูเก็ตที่เคยอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างมาก ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จึงถือเป็นครั้งแรกที่ทำให้ธุรกิจเริ่มเดินได้ พนักงานภาคท่องเที่ยวมีรายได้จุนเจือครอบครัว การทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จึงไม่ใช่การเปิดๆ ปิดๆ ระหว่างทางทำอะไรได้ก็ทำต่อ หากเปิดแล้วยังวิ่งไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆ เดินไปอย่างมั่นใจ"

ประเด็นที่ ททท.พยายามสื่อสารไปยังตลาดต่างประเทศ คือ ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมองจำนวนผู้ติดเชื้อในภูเก็ตแยกออกจากภาพรวมของยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดในไทยซึ่งมีจำนวนมาก เพราะอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขณะเดียวกันต้องติดตามการตัดสินใจของสายการบินต่างๆ ที่ทำการบินเข้าภูเก็ตด้วยว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรืองดบินหรือไม่ จากรายงานเดือน ส.ค.พบว่ามีสายการบินทำการบินระหว่างประเทศเข้าภูเก็ตเพิ่มอีก 4 สายการบิน


จองโรงแรมภูเก็ตเฉียด2.8แสนคืน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-26 ก.ค. ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มีนักท่องเที่ยวสะสมรวม 11,806 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อ 26 คน ส่วนใหญ่พบจากการตรวจหาเชื้อครั้งแรก 10 คน โดยหลายคนที่ตรวจพบว่าเป็นซากเชื้อ ส่วนการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 พบ 7 คน การตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 พบ 2 คน แสดงให้เห็นว่าเป็นการติดเชื้อมาก่อน ไม่ได้ติดจากคนในประเทศ ส่วนผู้สัมผัสและมีความเสี่ยงสูงตรวจพบเชื้อ 7 คน

ด้านยอดจองโรงแรมในภูเก็ตที่ได้มาตรฐาน SHA+ ไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 278,623 คืน เดือน ก.ค. 192,916 คืน ส.ค. 79,982 คืน และ ก.ย. 5,725 คืน เมื่อนับรวม ต.ค.2564-ก.พ.2565 ซึ่งตรงกับช่วงไฮซีซั่นอีก 5,250 คืน รวมมียอดจองโรงแรม 283,873 คืน

"ตัวเลขยอดการจองโรงแรมยังไหลเข้ามาต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าการระบาดหนักของไทยส่งผลต่อยอดจอง ส.ค.-ก.ย.อยู่บ้าง แต่การระบาดช่วงนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะในไทย พบระบาดหนักทั้งภูมิภาค ต้องดูการตัดสินใจให้บริการของสายการบินหากยังบินเข้าภูเก็ต ยอดจองโรงแรมก็น่าจะเดินหน้าได้ตามเดิม"

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (27 ก.ค.) เห็นชอบตามที่คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 (ศบศ.) ในส่วนมาตรการการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่นำร่องเพิ่มเติมนอกเหนือจาก ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น หลังพำนักในภูเก็ต 7 วัน และเดินทางท่องเที่ยวและต้องพำนักในพื้นที่อื่นอีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) เริ่มนวันที่ 1 สิงหาคม 2564

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงท่องเที่ยวฯ และ ททท. ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการการตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 เข้าไปแพร่ระบาดในพื้นที่

สั่งทำแผนยกระดับจุดคัดกรอง
รวมทั้งประสานกระทรวงมหาดไทยพิจารณานำแนวทางของ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" เผยแพร่ให้จังหวัดอื่นเพื่อเป็นกรณีศึกษานำไปวางแนวทางระยะต่อไป และประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจข้อมูลสถานการณ์แพร่ระบาดของไทยในพื้นที่ท่องเที่ยว รวมถึงความคืบหน้าและความสำเร็จของ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ให้สถานทูตประเทศต่างๆ และสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศรับทราบต่อเนื่อง

นอกจากนี้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งทำคำของบประมาณและแผนกำลังคนรองรับการยกระดับศักยภาพของจุดคัดกรองให้เพียงพอ ทั้งกระบวนการคัดกรองผู้เดินทางด้วยระบบดิจิทัล การจัดหา Rapid Antigen Test และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ และประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ ในรายละเอียดของแหล่งเงิน เพื่อเสนอ ครม. และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งขึ้นทะเบียนรับรองวัคซีน Sputnik V เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนดังกล่าวเดินทางเข้ามาเที่ยวได้
#3687



เสียวหมี่ (Xiaomi) เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์ AIoT ใหม่ ขยายอาณาจักรสมาร์ทลิฟวิ่งด้วยสินค้ากลุ่มความบันเทิงในบ้าน อุปกรณ์ทำอาหาร และสกู๊ตเตอร์สำหรับเดินทางในชีวิตประจำวัน วางเป้าหมายยกระดับการใช้ชีวิตอัจฉริยะสำหรับผู้บริโภคในทุกด้าน สินค้าเด่นคือ Mi Smart Air Fryer หม้อทอดไร้น้ำมันอัจฉริยะขนาด 3.5 ลิตร สั่งการด้วยเสียง

การเปิดตัวรอบนี้ถือเป็นก้าวล่าสุดของเสียวหมี่ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 แม้จะระบุว่าเป็น "บริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก" แต่หลักการของบริษัทคือไม่ลดละที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในราคาที่เป็นจริง ทำให้สินค้าที่แหวกแนวหลายตัวของบริษัทได้รับความสนใจในวงกว้าง

ผลคือในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 เสียวหมี่กลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 2 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม AIoT (AI+IoT) สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสถิติล่าสุดย้ำว่าเสียวหมี่มีสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 324.8 ล้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสียวหมี่วางจำหน่ายมากกว่า 100 ตลาดทั่วโลก

หม้อทอดสั่งด้วยเสียง

หม้อทอดไร้น้ำมันอัจฉริยะ Mi Smart Air Fryer ขนาด 3.5 ลิตร เป็นหม้อทอดที่เสียวหมี่เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตของทุกคนที่ง่วนอยู่กับการจัดการชีวิต ไม่พลาดกับการมีสุขภาพที่ดี เนื่องจากการเข้าครัวจะเป็นเรื่องง่าย เพราะหม้อทอดนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น Mi Home ได้ ผู้ใช้งานจึงควบคุมได้จากทุกที่ ซึ่งสามารถเซ็ตความร้อนได้ตั้งแต่ 40°C จนถึง 200°C ทำให้อาหารสุกพร้อมทานอย่างพอดี นอกจากนี้ในตัวแอปยังมีสูตรอาหารไอเดียใหม่ๆ กว่า 100 รายการที่ใช้กับ Mi Smart Air Fryer ขนาด 3.5 ลิตรนี้ได้ ทำให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายดายและไม่จำเจ

สามารถใช้ Voice Command จาก Google Assistant หรือ Alexa จาก Amazon ที่จะช่วยเปิด ปิด หรือแจ้งว่าเหลือเวลาที่ตั้งไว้อีกกี่นาที 

สามารถใช้ Voice Command จาก Google Assistant หรือ Alexa จาก Amazon ที่จะช่วยเปิด ปิด หรือแจ้งว่าเหลือเวลาที่ตั้งไว้อีกกี่นาที

ผู้ใช้งาน Mi Smart Air Fryer ขนาด 3.5 ลิตร สามารถตั้งเวลาในการทำอาหารได้ล่วงหน้าถึง 24 ชั่วโมง นับว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ทำอาหารในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการหมักโยเกิร์ต การเอาน้ำออกจากอาหารสัตว์ และหากว่ามือไม่ว่าง ผู้ใช้งานก็ยังสามารถใช้ Voice Command จาก Google Assistant หรือ Alexa จาก Amazon ที่จะช่วยเปิด ปิด หรือแจ้งว่าเหลือเวลาที่ตั้งไว้อีกกี่นาที นอกจากนี้หน้าจอ OLED สุดคมชัดยังทำให้คุณชำเลืองมองเวลาและอุณหภูมิได้อย่างง่ายดาย ราคา 99 ยูโร (ราว 3,800 บาท)

เสียวหมี่ยังแจ้งเกิดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ใช้ชีวิตนอกบ้านได้สนุกยิ่งขึ้น นั่นคือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Mi Electric Scooter 3 นวัตกรรมใหม่จากเสียวหมี่ที่มีจุดขายว่าสามารถยกระดับการใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกบ้านได้

Mi Electric Scooter 3 ยานพาหนะที่มีฟีเจอร์และระบบความปลอดภัย
เสียวหมี่มองว่าตัวเองเป็นผู้นำในธุรกิจสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพราะมียอดขายกว่า 4,000,000 คันทั่วโลกแล้ว รอบนี้เป็นคิวของ Mi Electric Scooter 3 ยานพาหนะที่มีฟีเจอร์และระบบความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาแล้ว โดยมีสองสีให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น Onyx Black หรือ Gravity Grey นอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักที่เบาและอัปเกรดดีไซน์มาให้พับได้ถึงสามขั้น

Mi Electric Scooter 3 ราคาเท่าจอมอนิเตอร์

Mi Electric Scooter 3 สามารถทำความเร็วได้ถึง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์สูงสุด 600W และไม่ว่าจะเจอเนินหรือหลุม Mi Electric Scooter 3 ก็สามารถเคลื่อนผ่านไปได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ๆ ซึ่งรวมไปถึงระบบเบรค E-ABS regenerative anti-lock และดิสก์เบรคคู่ล้อหลัง ราคาเริ่ม 449 ยูโร (ประมาณ 17,000 บาท)

สำหรับสินค้ากลุ่มการเชื่อมต่อ เสียวหมี่เปิดตัว Mi Router AX9000 ในฐานะเราเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อบ้านในอนาคต สำหรับเป็นดิจิทัลฮับกระจายความบันเทิง

Mi Router AX9000

ความพิเศษของ Mi Router AX9000 คือการเป็นเราเตอร์รุ่นแรกของเสียวหมี่ที่รองรับ Tri-Band WI-FI 6 มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ตของ Qualcomm® Hexa-core processor เราเตอร์ระดับแฟลกชิปตัวนี้รองรับคลื่นความถี่ 4GHZ 1 ช่องและ 5GHZ ได้พร้อมกันถึง 2 ช่อง จึงสามารถยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมได้อย่างไม่มีสะดุด แม้จะเชื่อมต่อกับหลายอุปกรณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน

Mi Router AX9000 ทำความเร็วสูงสุด 8,354 Mbps ครองใจเหล่าเกมเมอร์ยุคใหม่ตลอดจนบ้านที่ต้องการเราเตอร์ระดับไฮเอนด์ ที่รองรับ high-bandwidth ไม่ว่าจะเล่นเกม ดาวน์โหลดไฟล์ หรือสตรีมหนังระดับ 4K มาพร้อมกับเสาสัญญาณ AIoT ที่ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อและจัดการเน็ตเวิร์คของอุปกรณ์ได้ ราคา 299 ยูโร (ราว 11,639 บาท)


นอกจากนี้ยังมี Mi 2K Gaming Monitor ขนาด 27 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ 2560 x 1440 QHD และมีอัตรารีเฟรชเรทสูง 165Hz ราคาเริ่ม 449 ยูโร (ประมาณ 17,000 บาท)

รวมถึงหูฟัง Redmi Buds 3 Pro หูฟังใหม่ล่าสุดที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ANC รวมถึงการรับเสียงจากภายนอกภายใต้ รองรับ Bluetooth 5.2 ซึ่งสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันได้ถึง 2 เครื่องแบบไม่ต้องกลัวหลุด รับสายโทรเข้าได้ขณะที่กำลังดูวิดีโอจากแลปท็อปอยู่ สามารถใช้งานลำพังได้นานถึง 6 ชั่วโมง หรือทั้งหมด 28 ชั่วโมงเมื่อนำไปชาร์จเข้ากับตัวเคส และเพียงชาร์จแค่ 10 นาที หูฟังจะสามารถใช้ฟังเพลงได้นาน 3 ชั่วโมง ราคาเริ่ม 69.9 ยูโร (ราว 2,720 บาท).
#3688
บ้านถั่วลิสง The Peanut House  เรื่องถั่ว... เราถนัด
สืบต่อตำนานความอร่อยและส่งต่อภูมิปัญญาการผลิตถั่วลิสงจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก

 โรงงานถั่วลิสง "ซินกวงน่าน" เป็นโรงงานทำถั่วลิสงเพียงแห่งเดียวในจังหวัดน่าน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2521 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ได้พัฒนาตัวเองสู่โรงงานแปรรูปถั่วลิสงครบวงจร ตั้งแต่เลือกเมล็ดพันธ์ลงแปลงปลูกโดยเครือข่ายเกษตรกรของพวกเรา เก็บเกี่ยวแล้วก็ส่งถั่วลิสงเข้าสู่ขั้นตอนการแปรรูปที่สะอาดปลอดภัยตามมาตรฐาน จนเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงในรูปแบบต่างๆที่พร้อมส่งต่อซินกวงน่านถึงมือคุณ


เรื่องราวของเราแล้วก็แกลลอรี่ถั่วลิสง Our History & Peanut Gallery
ชมประวัติความเป็นมาของโรงงานถั่วลิสงเก่าแก่เพียงแห่งเดียวของจังหวัดน่าน แผนภาพขั้นตอนการผลิตวัตถุดิบแล้วก็กรรมวิธีแปรรูปสินค้าถั่วลิสง นอกจากนี้ชวนทำความรู้จักกับ "ต้นถั่วลิสง" จำลองขนาด 2.5 เมตรที่ออกแบบแล้วก็ผลิตขึ้นเพื่อให้ได้มองเห็นลำต้น ดอก ใบ แล้วก็เมล็ดถั่วลิสงคล้ายจริงที่สุดที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย และประโยชน์ที่ได้รับมาจากถั่วลิสง - ธัญพืชที่ให้โปรตีนทดแทนเนื้อสัตว์รวมทั้งไขมันที่ร่างกายต้องการแต่ไม่สามารถสร้างเองได้





 สินค้าถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปจังหวัดน่าน Peanuts and many moreข้างในร้านบ้านถั่วลิสง นอกเหนือจากที่มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถั่วลิสงแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปของจังหวัดน่านที่มีคุณภาพจำนวนมากหลากหลายให้ได้เลือกซื้อเป็นของฝากจากจังหวัดน่านสำหรับคนที่รักและคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมัลเบอรี่ ลูกเดือย กาแฟ ข้าว ถั่ว งา รวมทั้งธัญพืชในแบบต่างๆ ตลอดจนสมุนไพรที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นเครื่องสำอางรวมทั้งยาด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านผสมผสานกับนวัตกรรมสมัยใหม่ 





 กาแฟน่านและเบเกอรี่จากถั่วลิสง Nan Coffee and Peanut Bakery
กาแฟที่เสิร์ฟในร้านบ้านถั่วลิสงเป็นกาแฟอาราบิก้าผสมโรบัสต้าในสัดส่วนที่ลงตัว หอมอร่อย คั่วเข้ม โดยเลือกใช้เมล็ดกาแฟเดอม้ง ซึ่งปลูกและก็ผลิตโดยชุมชนบ้านมณีพฤกษ์ ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ซึ่งเป็นกาแฟที่ผ่านการคัดสรรสายพันธ์ที่ดีที่เหมาะกับการปลูกที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1400-1600 เมตร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้พี่น้องชาวบ้านมณีพฤกษ์มีรายได้ยั่งยืน มีอาชีพที่มั่นคง และก็ช่วยรักษาแล้วก็ฟื้นฟูป่าน่านให้อุดมสมบูรณ์ต่อไป  นอกเหนือจากนั้นยังมี "พีนัทซอฟท์เค้ก" แล้วก็ "พีนัทเบคชีสเค้ก" เบเกอรี่โฮมเมดที่มีส่วนผสมของเนยถั่วลิสงและนมถั่วลิสงที่แสนอร่อย หวานน้อย ครีมเบานุ่ม ไม่เลี่ยน  และหอมกลิ่นเนยถั่วลิสง ซึ่งหาทานได้ที่บ้านถั่วลิสงเท่านั้น
 

นมถั่วลิสง Peanut Milk
ไฮไลต์ที่คุณไม่ควรพลาดบ้านถั่วลิสงชวนลอง "น้ำนมถั่วลิสง" Peanut Milk ที่ทำมาจากถั่วลิสง 100% ไม่มีครีมเทียม รวมทั้งหัวนมผง และไม่ใส่สารแต่งสีแต่งกลิ่น เป็นน้ำนมจากถั่วลิสงตามธรรมชาติ ต้มสดทุกรุ่งเช้า หอม อร่อย ทานง่าย มีเสริฟทั้งแบบร้อน เย็น ปั่น ให้ทุกคนได้ทานตรงนี้ที่เดียวในน่าน นมถั่วลิสงให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ เหมาะกับทั้งเด็กรวมทั้งผู้ใหญ่ ผู้รักสุขภาพ ผู้ที่แพ้นมจากสัตว์  


บ้านถั่วลิสงเปิดรับคณะเยี่ยมชมดูงานกรรมวิธีแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับกลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชน นักศึกษา นักเรียน หรือกรุ๊ปท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์เพื่อเปิดประสบการณ์เกี่ยวกับการแปรรูปถั่วลิสง (รับเป็นคณะ 20 คนขึ้นไป รวมทั้งติดต่อล่วงหน้าเท่านั้น)


#3689
ฟรี!! แอพสติ๊กเกอร์ที่ส่งไปได้ทั้ง Line, Facebook, Whatsapp และ WeChatแชทสติ๊ค มาร์เก็ต แหล่งรวมผลงานสติกเกอร์ จากแบรนด์ดังและเหล่าครีเอเตอร์มากมาย โดยจัดหมวดหมู่สติกเกอร์ และจัดอันดับสติกเกอร์สุดฮิตให้คุณไม่ตกเทรนด์คุณจะสามารถส่งสติกเกอร์ไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Messenger, Whatsapp, Skype หรือในทุกช่องทางการแชทไหนก็ทำได้ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการแชทที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
https://www.chatstickmarket.com/single-post/chatstickmarket

iOS ดาวน์โหลดที่นี่
Android ดาวน์โหลดที่นี่

#3690
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม =AT2aYc9PaeU2TIKg1MwOOnVXBr_9O1l7vOLmz0s4BDMSB1YITXRuefb3qDSOYxydIpvZE4RkOEwmEuXMWkjUeb-v_tPirUQmWbahLiNk_ISJe-JwJqcVCzqJeMmiHIr32r_LLPNlkhtL4PPnmLMWWH2DS9Kh_o_HW_xX5S9ty3kqcbLw58fpn7ouNGaMWYvX2XGeuvzh]http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208
แฟนเพจ =AZUK5w_cAH-0MmZpnEaDXILy46nGgqLSfcotjN3tEDH-xv7qsrN93K1QBKcH1c3tAfWUfpJpUZwgQlD4gaAsW2HqhjMoCCoBq53cjHg9MRGbXaFCxn-9n6HSCNZ7BOWEqjOrmH62FJ_n7tp11H0lXEuZKDnwerb0mJrC5tJ03bKQQqlEuTxQB8WNdSYmZ4dr92g&__tn__=kK-R]https://web.facebook.com/porntaywa
#3691



สุธาสินี เสวตรบุตร นักเทเบิลเทนนิสหญิง เอาชนะ เอลิซาเบตา ซามารา จาก โรมาเนีย 4-1 เกม เข้ารอบ 16 คนสุดท้าย ประเภทเดี่ยว โอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม

การแข่งขัน เทเบิล เทนนิส โอลิมปิก 2020 ณ สนาม โตเกียว เมโทรโปลิแทน ยิมเนเซียม ดำเนินมาถึงรอบ 3 ประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งมี 2 ตัวแทนของไทย สุธาสินี เสวตรบุตร กับ อรวรรณ พาระนัง ลงสนาม

ปรากฏว่า อรวรรณ วัย 24 ปี ต้านทาน คาซึมิ อิชิคาวา ดีกรีเหรียญเงิน ลอนดอน เกมส์ 2012 และเหรียญทองแดง ริโอ เกมส์ 2016 ไม่ไหว พ่ายไป 2-4 เกม 5-11, 11-5, 4-11, 11-6, 4-11 และ 8-11

ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง สุธาสินี เสวตรบุตร มือ 41 ของโลก ออกแรง 29 นาที ปราบ เอลิซาเบตา ซามารา จอมเก๋าวัย 32 ปี 11-7, 11-6, 4-11, 11-8 และ 11-2 ยืนรอผู้ชนะระหว่าง มิมะ อิโตะ มือ 3 ของโลก กับ หยู ฟู่ จาก โปรตุเกส
#3692



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO)หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยความคืบหน้าธุรกิจให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19ระลอกใหม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ลูกค้าชะลอแผนการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปออกไปก่อน

"ยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันลำบาก ไม่มีคนอยากจะลงทุน และหลายโรงงานก็มีปิดตัวลง ทำให้ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปยังไม่คืบหน้า ตอนนี้ยังไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่ในอนาคตยังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ และบริษัทยังไม่ล้มเลิกธุรกิจนี้แน่นอน เพียงแต่รอความพร้อมของลูกค้าที่ขอชะลอการติดตั้งออกไปก่อน"

ทั้งนี้บริษัทระบุว่ามีลูกค้าในมือแล้ว 40เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตการบริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแตะระดับ 200 เมกะวัตต์ใน 5 ปี โดยจะมุ่งเน้นเจาะตลาดในกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังคงเดินหน้าเร่งรัดขยายการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพการเติบโตมากกว่าแทน โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานทดแทน ที่จะเป็นส่วนของสำคัญของการพลังงานสะอาดที่มีอนาคตเติบโตอีกมาก โดยปรับเป้าหมายจะมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 30% จากเดิม 25% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม ภายในปี 2573 และอีก 75% จะเป็นกำลังการผลิตจากพลังงาน Conventional และธุรกิจใหม่ จากปัจจุบันสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอยู่ที่ 22-23% ของกำลังการผลิตทั้งหมด

ส่วนโอกาสปรับเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้มากกว่า 30%คงต้องรอดูความชัดเจนจากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2022) เนื่องจากปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศขณะนี้สูงถึง 40% การเติมพลังงานทดแทนช่วงดังกล่าวอาจยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟได้

ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,016 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 29 แห่ง คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,695 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 321 เมกะวัตต์
#3693


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มอบหมายให้ นางสาวสุชาดา มากเกลี้ยง ผู้จัดการสาขาภูเก็ต พร้อมด้วยคณะผู้แทนธนาคารในพื้นที่ ให้การต้อนรับ และร่วมแสดงความยินดีกับ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ผู้สร้างประวัติศาสตร์เหรียญทองแรกของเทควันโดไทยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และเป็นเหรียญทองเหรียญแรกของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 

พร้อมด้วย"โค้ชเช" ชเว ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย "จูเนียร์" รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดรุ่น 58 กิโลกรัมชายทีมชาติไทย และคณะทีมงานเทควันโดไทย ในโอกาสเดินทางกลับถึงเมืองไทยในวันนี้(26 กรกฎาคม 2564) เมื่อเวลา 09.25 น. ณ สนามบินนานาชาติภูเก็ต เข้าเพื่อเข้าสู่มาตรการโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยมี ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ร่วมให้การต้อนรับ 

ทั้งนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ปีละ 17 ล้านบาท ล่าสุด คณะกรรมการธนาคารโดยมี นายยุทธนา หยิมการุณ ประธานกรรมการธนาคาร มีมติเห็นชอบให้ธนาคารมอบ 3 ล้านบาท ให้กับ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในฐานะที่ได้สร้างความสุขความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในขณะนี้อีกด้วย
#3694


ห่างหายไปหลายวันกับการอวดเซ็กซี่ให้แฟนๆ ชุ่มชื่นใจสำหรับเน็ตไอดอลสาว เอื้อย พรสวรรค์ หวานใจของนักร้องเสียงดี อาร์ เดอะสตาร์ ที่ล่าสุดขออวดความเซ็กซี่อีกรอบ ผ่านชุดวันพีซผ่าหน้าลึก ซึ่งเป็นกึ่งสปอร์ต งานนี้ต้องบอกเลยว่าสาวเอื้อยใส่แล้ว ดูยังไงก็แซ่บมากๆ ไหนจะท่าโพสอีก แม้ออกมาแนวกีฬา แต่คอมเมนต์ไม่ธรรมดาจริงๆ


โดยคอมเมนต์ส่วนใหญ่ที่ส่งหาสาวเอื้อยนั้นก็มีทั้ง สวยมากแม่ สวยแซ่บ, ชอบนะแซ่บมาก, อยากสวยแบบนี้ทำไง, อยากเห็นตัวจริง, หุ่นดีมากกินอะไรอ่ะ, กินข้าวบ้างหรือเปล่าถามจริง, สวยมากเลย แบบว่าปัง ชอบมาก ฯลฯ


ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @ueay_pornsawan
#3695



รายการ "เจาะใจ" ในสัปดาห์นี้พบกับการกลับมาเยือนรายการอีกครั้งในรอบ 5 ปี   ของ "หนุ่ม KALA"  หรือ "ณพสิน  แสงสุวรรณ"  กับบทเรียนชีวิตที่ยังคงเข้มข้นไปด้วยเรื่องราวแห่งความทุกข์และสุข ซึ่งเค้าคนนี้ได้ผ่านมาหมดแล้ว ทุกอุปสรรคเป็นบทเรียนแล้วพลิกเปลี่ยนมุมมองปรับมาเป็นบทเรียนบทใหม่ของการใช้ชีวิตได้อย่างน่าประทับใจ  โดย "ดู๋-สัญญา คุณากร"  พาเปิดแนวคิด ถึงบทเรียนอันมีค่า จากชีวิตในวันที่ติดลบ สู่ชีวิตบทบาทใหม่  เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาดในรายการ "เจาะใจ" วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 22.00 น. ทางช่อง9 MCOT HD (หมายเลข30) 

  โดย "หนุ่ม KALA" เล่าว่า "ชีวิตคนเราเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน  ชีวิตผมได้เปลี่ยนไปมากในระยะเวลาอันสั้น ๆ หลังจากที่ผมได้มาเป็นศิลปินเดี่ยว แม้ว่าตอนแรกผมจะกลัวมาก ๆ ในการก้าวออกมาด้วยตัวเอง ผมก็รู้สึกว่านี้แหละคือแนวทางชีวิตที่เหมาะที่สุดสําหรับผม   อาชีพนักร้องของผมก็เหมือนกัน  บัตรคอนเสิร์ตของผม หมดตั้งแต่รอบแรก ๆ เรียกว่าพีคเลยก็ได้ แต่ในที่สุดแล้วเหมือนทุกอย่างเริ่มพังลง เมื่อผมโดนข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์  ทุกเช้าผู้จัดการจะคอยเช็คว่ามีหมายจับเราที่ไหนบ้าง เพื่อจะได้ไปรายงานตัว  ถ้าความสำเร็จมันทำให้สุขสุดๆ คดีความมันคือทุกข์สุด ๆ  ช่วงที่โดนคดี 2 ปีใช้ชีวิตอยู่ระหว่างเวทีคอนเสิร์ตกับโรงพักตลอด จนพูดกับผู้จัดการว่า กราบขอบคุณพื้นดินเลย ถ้าวันนั้นผมไม่ได้บวช วันนี้ผมบ้าแน่นอน เวลาที่มีคนปลอบใจเราว่า  "ไม่เป็นไรหนุ่ม..เดี๋ยวมันก็ผ่านไป" หรือเวลาเราพูดคำนี้เฉยๆ มันจะรู้สึกแบบว่ามันไม่เห็นมีคุณค่าเลย แต่พอวันหนึ่งที่เราเจออะไรมามากๆ คำนี้มันใช้กับผมได้ทุกครั้ง อย่างบางทีวันนี้เครียดจนหัวจะแตก  เราจะบอกตัวเองว่า "เดี๋ยวมันก็ผ่านไป...ใจเย็นๆ"  เป้าหมายในชีวิตตอนนี้คือ อยากแข็งแรงเพื่อครอบครัว    ตอนนี้ลูกขวบกว่าแล้ว  มันก็เลยรู้สึกว่าเราต้องแข็งแรง   นอกจากความมั่นคงทางการเงิน มันต้องมีร่างกายที่แข็งแรง ถ้าเราเป็นอะไรไป ลูกจะทำยังไง  พยายามเลี้ยงลูกให้ดีให้เขาแข็งแรงจากในบ้าน    เพราะข้างนอกโหดร้ายกว่าในบ้านเยอะ  ที่เราผ่านมาได้ ผมอยากขอบคุณตัวเองที่ยังสู้ในวันนั้น และไม่ยอมแพ้ และขอบคุณทุกคนรอบๆ ตัวที่คอยอยู่เคียงข้างและส่งกำลังใจให้ผมตลอด" 
#3696
 
App "มีตังค์" ทำจริงจัง ก็ได้เงินจริงนะ ไม่จกตา สร้างรายได้หลักแสน หลักล้าน อย่างง่าย ๆ
App "มีตังค์" คือ ธุรกิจที่ใช่ ในยุค COVID ครองเมือง
ระบบ Content Builder System
ที่ทำทุกอย่างผ่าน Social บนมือถือเพียงเครื่องเดียว ง่าย ๆ เพียงแค่แชร์
เปลี่ยนใจสมัครกับเราตอนนี้ยังทัน


ธุรกิจ New Platform(แฟลตฟอร์มใหม่)
ที่ลงทุนด้วยเงิน 2,699 ครั้งเดียวผ่าน App เก็บเกี่ยวได้ตลอดชีวิต
รับเฉพาะคนที่จริงจังพร้อมทำเท่านั้น


สอบถามเพิ่มเติม
ไลน์ไอดี teerapat999
โทร 0846623662

ลงทะเบียนฟรีเพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้ในกลุ่มปิดเปิดเผยชัดเจน
https://www.metang-solution.com/member/register.php...

รายละเอียดเพิ่มเติม https://web.facebook.com/richbyteerapat

 
 
#3697
 
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย


 
เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด
 
คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย
 
คาถามหาหลง
โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้ง


 
วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
 
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย
สนใจติดต่อโทร. 0846623662
id line : teerapat999

แฟนเพจ https://web.facebook.com/porntaywa
เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/12

lazada  https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.seller.list.19.751ebb9eN8X8vA&mp=1&freeshipping=1  
#3698

  

นับถอยหลังกับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 "โตเกียวเกมส์2020" กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังจากโดนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เล่นงาน ทั่วโลก จนต้องเลื่อนทำการแข่งขันมากว่า 1 ปี

ทั้งนี้จะมีการเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งเป็นพิธีเปิดการแข่งขันและจะไปสิ้นสุดการแข่งขันในพิธีปิดในวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 17 วัน มีการชิงชัยกันทั้งหมด 33 กีฬา โดยมี 5 ชนิดกีฬาใหม่ที่ถูกบรรจุเพิ่มเข้ามาสเก็ตบอร์ด,ปีนหน้าผา,เบส.&ซอฟท์.,คาราเต้และกระดานโต้คลื่น

สำหรับนักกีฬาไทยผ่านการคัดเลือก และได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย 37 โควตา รวมจำนวน42 คนจาก 14 ชนิดกีฬา ยิงปืน&ยิงเป้าบิน , ขี่ม้า, เทควันโด, จักรยาน, เรือใบ&วินด์เซิร์ฟ , มวยสากล , กรีฑา , เทเบิลเทนนิส , เรือแคนู , เรือกรรเชียง , กอล์ฟ , ยูโด , ว่ายน้ำและแบดมินตัน

โปรแกรม"นักกีฬาไทย" ในโอลิมปิก2020 วันเสาร์ 24 ก.ค. 2564
แบดมินตัน รอบแบ่งกลุ่มเริ่มเวลา 07.00 น.
หญิงเดี่ยว:บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์พบ ดาเนียล่า มาเซียส (เปรู) ลงแข่งขันเวลา 07.40 น. โดยประมาณ
หญิงคู่:จงกลพรรณ กิติธรากุล และ รวินดา ประจงใจพบ เฉิน ชิงเฉิน และ เจีย ยี่ฟาน (จีน) ลงแข่งขันเวลา 09.40 น. โดยประมาณ
คู่ผสม:เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัยพบ โจชัว ฮัลเบิร์ต-ยู และ โจเซฟิน หวู (แคนาดา) ลงแข่งขันเวลา 16.40 น. โดยประมาณ

เทควันโดชิง 2 เหรียญทองเริ่มเวลา 09.00 น.
รุ่น 49 กก. หญิง (พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ)
รุ่น 58 กก. ชาย (รามณรงค์ เสวกวิหารี)


มวยสากลสมัครเล่น รอบแรกเริ่มเวลา 09.00 น.
เฟเธอร์เวต 57 กก. ชาย/หญิง (ฉัตรชัยเดชา บุตรดี)
เวลเตอร์เวต /หญิง (ใบสน มณีก้อน)


เทเบิลเทนนิสเริ่มเวลา 07.00 น.
ประเภทชายเดี่ยว/หญิงเดี่ยว (สุธาสินี เสวตรบุตร,อรวรรณ พาระนัง)
#3699


ช่วงกักตัวอยู่ที่บ้าน รอให้โควิดหายไป ธุรกิจบันเทิงเกี่ยวกับโรงหนัง ได้รับผลกระทบเต็มๆ โดยมีธุรกิจสตรีมมิง Streaming จากหลายค่ายใหญ่ เป็นอีกแหล่งบันเทิงเข้ามาแทนที่ได้พักใหญ่แล้ว กับการดูหนังเด็ดซีรีส์ดังต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เก็บเงินรายเดือน ตามแต่โปรโมชันล่อใจในแต่ละเดือน ลดแลกแจกแถมสุดๆ ได้ดูหนังซีรีส์แบบจุใจ ดูตาแตกคาบ้านไปเลย

วิเคราะห์จากหลายอย่างแล้ว ครึ่งปีหลังอีก 6 เดือน โควิดที่ไทยน่าจะยังไม่จบในเร็วๆ วันนี้ มีคำถามคาใจน่าคิด จริงหรือไม่ ถ้า 6 เดือนต่อจากนี้โควิดยังไม่ดีขึ้น โรงหนังยังฟื้น สตรีมมิง Streaming จะเข้ามาแทนที่โรงหนัง เพราะพฤติกรรมการดูหนังของคนเปลี่ยนไปกับโควิด ไทยรัฐรีเฟรช Thairath Refresh จะพาไปค้นหาคำตอบชัดๆ 

SF เปิดใจโควิดกระทบหนัก ยิ่งกว่าสงครามโลก 
มีโรงหนังเยอะมากๆ ทั่วไทย ต้องไปคุยกับผู้บริหารหมื่นล้าน สุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SF Corporation Public Company Limited ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ไทยรัฐรีเฟรช Thairath Refresh

ธุรกิจโรงภาพยนตร์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ครั้งนี้ มากน้อยแค่ไหน? "โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงภาพยนตร์โดยตรง อย่างหนักหน่วงและรุนแรงมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ธุรกิจโรงภาพยนตร์ เราไม่เคยเห็นโรงภาพยนตร์ทั่วโลก ปิดให้บริการมาก่อน

"ในช่วงสงครามโลกโรงภาพยนตร์ก็ยังเปิดให้บริการได้ แต่วิกฤติโควิด-19 ที่เป็นวิกฤติโลกครั้งนี้ โรงภาพยนตร์ก็เหมือนกับหลายธุรกิจ ที่ต้องขาดรายได้จากการหยุดให้บริการ แต่ในขณะเดียวกัน เรายังคงต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงดูแลพนักงานกว่า 3,000 คน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

"ช่วงที่สถานการณ์ในต่างประเทศมีความรุนแรง โดยเฉพาะประเทศหลักที่เป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลี คอนเทนต์ก็ได้รับผลกระทบ ทำให้ต้องเลื่อนฉาย แต่สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ต่างประเทศดีขึ้นแล้ว โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการ ทำให้เรามีคอนเทนต์ที่พร้อมเข้าฉาย แต่โรงภาพยนตร์ในไทย ยังคงถูกสั่งปิด ต้องรอสถานการณ์ภายในประเทศให้ดีขึ้น จนกว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการ ให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการได้"


ตอนนี้คนยังกลัวๆ การเข้าโรงหนัง ถึงแม้ว่าจะไม่มีคลัสเตอร์ที่โรงหนังชัดเจน จะปั่นกระแสให้คนกลับมาดูหนังได้ยังไงบ้าง?

"คงต้องเป็นเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่น ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามั่นใจ นับตั้งแต่มีวิกฤติโควิด-19 เอสเอฟ SF ได้เตรียมความพร้อม ในการดูแลพนักงานและลูกค้าทุกคนอย่างดีที่สุด

โดยเฉพาะมาตรการดูแลด้วยใจ ที่ให้ความสำคัญกับความสะอาด ลดการสัมผัส และการจัดผังที่นั่งเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือมาคู่ เพราะสำหรับเอสเอฟ SF แล้ว นอกจากเราต้องดูแลความสุขของลูกค้า ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด

"จากตัวเลขของผู้ใช้บริการที่เอสเอฟ SF ในช่วงการแพร่ระบาดลดลง เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ถ้าเรามีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ มีคอนเทนต์ดีๆ เข้ามาฉาย มีความพร้อมในการให้บริการ คนก็พร้อมกลับเข้าโรงภาพยนตร์ อย่างปรากฏการณ์วันเดอร์วูเมน Wonder Woman 1984, อีเรียมซิ่ง ในปลายปีที่ผ่านมา และก็อดซิลลา Godzilla VS Kong ในเดือนมีนาคม

และอีกเหตุผลที่ธุรกิจโรงภาพยนตร์ อยากให้ทุกคนมั่นใจ ยังไม่มีคลัสเตอร์ที่เกิดจากโรงภาพยนตร์เลย ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่โรงภาพยนตร์ทั่วโลกก็ไม่เคยเกิดคลัสเตอร์เลย  

"ในส่วนสถานการณ์ของประเทศอื่นๆ ที่โรงภาพยนตร์สามารถกลับมาเปิดให้บริการเป็นปกติได้ ตัวเลขคนเข้าโรงภาพยนตร์ เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เป็นการยืนยันว่าคนยังต้องการใช้ชีวิตตามปกติ และคนยังคิดถึงโรงภาพยนตร์"

หนังเด็ดดังระดับโลก จ่อรอคิวฉาย
หลังโควิดสงบ จะมีแผนเด็ด ดึงคนดูให้เข้าโรงหนังอย่างไรบ้าง? "ชัดเจนเลยครับ หนังหรือคอนเทนต์ที่จะเข้าฉาย เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ของการดึงดูดให้คนกลับมา เร็วๆ นี้จะมีหนังฟอร์มใหญ่หลายเรื่องรอเข้าฉาย โดยเฉพาะหนังที่น่าจะทำรายได้สูงสุดของปี 2021 อย่างฟาสต์แอนด์ฟิวเรียส Fast & Furious 9 ภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่ทำรายได้สูงสุดมาตลอด หรือแฟนมาร์เวล Marvel ก็ต้องรอชมแบล็กวิโดว์ Black Widow, Eternals

มีหนังอีกหลายแนว เช่น Conjuring The Devil Made Me do it, The Suicide Squad, Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings, Venom : Let There Be Carnage, Spider-Man: No Way Home, No Time To Die, The Matrix 4, The King's Man ฯลฯ รวมไปถึงหนังไทย ค่าย GDH เช่น บุพเพสันนิวาส 2 เป็นต้นครับ




"อีกส่วนที่ขาดไม่ได้ก็คือ โรงภาพยนตร์ในช่วงโควิด ที่ผ่านมาเรามีการพัฒนาโรงภาพยนตร์ เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเดอะเบดซีเนมา The Bed Cinema รวมไปถึงกิจกรรมดูหนังในรูปแบบพิเศษ ไดรฟ์อินซีเนมา Drive-in Cinema และมูฟวี่บรันช์ Movie Brunch ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และลูกค้าอยากให้จัดกิจกรรมพิเศษลักษณะนี้อีก

"สุดท้ายเรามีเตรียมแคมเปญพิเศษ เพื่อต้อนรับทุกคน คัมแบ็กทูซีเนมา "Comeback to Cinema" โปรโมชันและกิจกรรมการตลาดจำนวนมากจากเอสเอฟ SF และพาร์ทเนอร์ของเรา ที่จะมอบให้กับลูกค้า ส่วนรายละเอียดจะเป็นอะไรบ้าง ให้รอติดตามกันนะครับ"

โรงหนังไม่มีวันตาย สตรีมมิงไร้ Cinematic Experience
สตรีมมิงค่ายต่างๆ ตอนนี้กล้าทุ่มจ้างผู้กำกับเก่งๆ ดาราดังๆ มาทำคอนเทนต์ฉายเฉพาะ ซึ่งก็ดึงคนดูได้ดีเลย มองการเติบโตตรงนี้ ที่จะมาแย่งคนดูในโรงหนังได้มากน้อยแค่ไหน ผู้เชี่ยวชาญด้านหนังหลายคนทำนายว่าโรงหนังจะค่อยๆ ตายไปภายใน 5 ปีหลังจากนี้
จริงหรือไม่?

"ผมมองว่า เป็นคำทำนายที่ไม่เป็นความจริง ไม่มีการนำข้อมูลในอดีตมาวิเคราะห์ โดยเฉพาะโรงภาพยนตร์ในเมืองไทย ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหนักกว่านี้เยอะมาก

"หนักสุดน่าจะเป็นยุคเทปผีซีดีเถื่อน ซึ่งคนโหลดมาดูฟรีกันที่บ้าน ก็มีมานานแล้ว แต่โรงภาพยนตร์เป็นเอาต์ออฟโฮม Out of Home ที่ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป หรือพูดง่ายๆว่า มันเป็นคนละแพลตฟอร์ม Platform หรือจะเรียกว่าบิซิเนสโมเดล Business Model ที่แตกต่างกัน

"สตรีมมิงดูไม่ดูก็ต้องจ่าย โรงภาพยนตร์อยากดูก็ค่อยจ่าย และที่สำคัญโรงภาพยนตร์ยังเป็นเฟิร์สวินโดว์ First Window ในการเข้าฉายของหนังอยู่

เราเชื่อว่าสตูดิโอหรือผู้สร้างรายใหญ่ ยังคงให้ความสำคัญ กับการฉายในโรงภาพยนตร์เป็นลำดับแรก โดยเฉพาะกับหนังฟอร์มยักษ์ ต้องอาศัยระบบภาพและเสียง ที่ช่วยให้คอนเทนต์สมบูรณ์แบบกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ

เช่น ถ้าคุณดูฟาสต์แอนด์ฟิวเรียส Fast & Furious 9 ดูในโรงภาพยนตร์กับดูผ่านมือถือ คุณภาพไม่เหมือนกันแน่ๆ เพราะซีเนมาติกเอ็กซ์พรีเรนซ์ Cinematic Experience หรือประสบการณ์การชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ เป็นสิ่งที่สตรีมมิงให้ไม่ได้!

"ยกเว้นเหตุสุดวิสัย ที่ทำให้ไม่สามารถฉายในโรงภาพยนตร์ได้จริงๆ เช่น สถานการณ์ในตอนนี้ หรือเป็นหนังฟอร์มกลางไปถึงเล็ก ที่ไม่ได้เน้นรายละเอียด หรือองค์ประกอบของเทคนิคต่างๆ ในขณะเดียวกัน โรงภาพยนตร์เองยังมีการนำคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่หนังมาฉายในโรงภาพยนตร์

"ปีที่ผ่านมาเรามีการจัดคอนเสิร์ต ฉายคอนเสิร์ต ฉายสเปเชียลคอนเทนต์ Special Content ไปจนถึงจัดงานแฟนมีตติ้ง Fan Meeting ศิลปิน ทั้งหมดนี้คือการยืนยันว่า โรงภาพยนตร์เป็นสถานที่สำหรับคอนเทนต์ได้ทุกรูปแบบ


"สตรีมมิงไม่ใช่สิ่งใหม่ ถ้ามองให้ดี สตรีมมิงก็เป็นอีกช่องทางของการดูที่บ้าน เหมือนที่ดูฟรีทีวี จุดแข็งของเขาคือทีวีซีรีส์ ในขณะเดียวกันจุดแข็งของโรงภาพยนตร์ คือภาพยนตร์

สตรีมมิงไม่ได้ถือเป็นคู่แข่งของโรงภาพยนตร์ ส่วนตัวมองว่า สตรีมมิงกำลังแข่งขันกันเองมากกว่า"

เร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เปิดประเทศ
ฝากถึงหน่วยงานรัฐ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแล ธุรกิจบันเทิงโรงหนังหน่อย ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง? "โรงภาพยนตร์เป็นธุรกิจกลุ่มแรกๆ ที่ถูกสั่งปิด และก็เป็นกลุ่มท้ายๆ ที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดเสมอ ทางสมาคมโรงภาพยนตร์ได้ยื่นจดหมาย ไปยังกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อสอบถามถึงแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูธุรกิจ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

"ผมเชื่อว่าตอนนี้ ทุกคน ทุกธุรกิจ มีเป้าหมายเดียวกัน คืออยากให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เราได้เห็นสัญญาณที่ดี จากการที่รัฐบาลออกมาประกาศ เรื่องการเตรียมเปิดประเทศภายใน 120 วัน ซึ่งจุดชี้วัดคือ การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรได้มากที่สุด เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้เศรษฐกิจและสังคม กลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้ง

"หลังจากนี้ อยากฝากไปทางหน่วยงานของภาครัฐฯ ควรมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ให้เดินไปข้างหน้า

"สุดท้ายนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ และเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ พวกเราชาว เอสเอฟ SF พร้อมที่จะต้อนรับทุกท่านสู่โรงภาพยนตร์อีกครั้ง"  


เมเจอร์เจ้าใหญ่รวยเละ แต่รายได้หายเยอะช่วงโควิด
ด้านผู้บริหารใหญ่ ของเครือโรงหนังเมเจอร์ Major วิชา พูลวรลักษณ์ ทางเราพยายามติดต่อสัมภาษณ์นานหลายวัน แต่ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้ โควิดระบาดระลอกนี้เจ็บหนักอยู่ จากที่เคยโกยเงินสนั่น แต่ตอนนี้ต้องมีหลายโรง หลายจังหวัดต้องปิดไป แต่ยังพอมีบางโรงบางจังหวัด ก็ยังเปิดบริการตามปกติ ซึ่งต้องลดรอบลดโรงไปเยอะเลย เพราะคนไม่ค่อยเข้าไปดู

เมเจอร์เงินเยอะจริง ไม่ง้อรอหนังจากค่ายอื่นๆ จึงผลิตหนังไทยเองมานานแล้ว ตั้งหลายบริษัทในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เช่น 

- เอ็ม พิคเจอร์ส M PICTURES

- เอ็มเทอร์ตี้ไนน์ M๓๙

- ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม Transformation Film

- ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ CJ MAJOR Entertainment

- ไท เมเจอร์ Tai Major นำทัพโดย วิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่ปล่อยหนังเรื่องแรกของค่าย บอสฉันขยันเชือด

ส่วน รฤก โปรดักชั่น เน้นการผลิตงานเบื้องหลังมากกว่า หนังหลากหลายแนว จากหลายค่ายของเมเจอร์ Major มีทั้งลงทุนเองหมด แต่ก็มีน้อยนะ ต้องลดอัตราเสี่ยงเจ๊ง ด้วยการไปร่วมทุนกับบริษัทต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ

หนังจากค่ายเมเจอร์ช่วยสร้างความคึกคัก ให้กับวงการหนังไทยได้อยู่ โดยหนังส่วนใหญ่ จะทำเสร็จล่วงหน้ามากกว่า 1 ปี เพื่อจะได้มีเวลาเหลือเยอะๆ สำหรับการเก็บแก้ ปรับเปลี่ยนรายละเอียด วางแผนพีอาร์โปรโมตปั่นกระแส หรือวางโปรแกรมฉายล่วงหน้าหลายๆ เดือน วางไทม์มิ่ง Timing เพื่อไม่ให้ชนกับหนังฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่ๆ ซึ่งเป็นรายได้หลักของโรงหนัง

การมีค่ายหนังเป็นของตัวเอง มีโรงหนังเป็นของตัวเอง จุดแข็งคือ ถ้าหนังดีมีคุณภาพกระแสแรง ก็เพิ่มโรงเพิ่มรอบโกยเงินได้ง่ายทันทีเลย แต่ถ้าหนังเรื่องไหนกระแสแย่ คนไม่ดู ก็ต้องลดรอบลดโรงเป็นเรื่องธรรมดา ค่ายเมเจอร์ Major ยังได้ขยายโรงหนังไปอีกสาขาแล้วที่ ลาว, กัมพูชา และมีแผนโกยเงินต่อ จะขยายสาขาใหม่เพิ่มอีกเยอะ ทั้งในและต่างประเทศ

โรงหนังทางเลือก ทางรอดที่โตจริง
ธุรกิจโรงหนังสายป่านไม่ยาว รอวันตายได้เลย อุ๋ย ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ ลูกสาวเสี่ยพันล้าน อดีตเจ้าพ่อหนังไทย เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ เงินเยอะจริงได้ร่วมกับ จ๋อง พงศ์นรินทร์ อุลิศ ตั้งใจสร้างโรงหนังทางเลือก House RCA เปิดมานานกว่า 15 ปี เป็นโรงหนังอินดี้ในดวงใจแฟนหนังตัวจริง จน 31 สิงหาคม 2562 ได้ปิดตัวไป แล้วย้ายมาเปิดใหม่ที่ เฮ้าส์สามย่าน House Samyan

โรงหนังลงทุนเยอะหลายสิบล้านบาท ถึงจะมีสาขาเดียว แต่ก็ครองใจคนรักหนังตัวจริงทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่อิงหนังกระแสแรง แต่ขยันหาหนังจี๊ดๆ เด็ดๆ มาให้ดูตลอด แต่โควิดช่วงนี้จำใจต้องปิดโรงแล้ว เบื้องต้นประกาศปิดไปยาวจนถึง 30 มิถุนายนก่อน แล้วรอประเมินสถานการณ์ว่าจะเปิดได้อีกเมื่อไหร่

ผู้บริหารสาว อุ๋ย ชมศจี ที่รักหนังสุดจิตใจ ลุยธุรกิจโรงหนัง แบบไม่แคร์เจ๊ง หนังเก่าบ้างใหม่บ้าง สลับสับเปลี่ยนมาให้คนดูเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นหนังเก่าที่ยังขลัง ดูได้ไม่เบื่อ ก่อนจะย้ายมาที่ เฮ้าส์สามย่าน House Samyan แถวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็สั่งลากับหนังชายรักชายระดับโลก คอลมีบายยัวร์เนม Call Me By Your Name รอบสุดท้ายลาโรงที่เฮ้าส์อาร์ซีเอ House RCA 

คนแห่ไปแน่นโรง พิสูจน์ชัดแล้วว่า โรงหนังถ้าฉลาดเลือกหนังดีมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเก่าแค่ไหน หรือใหม่แต่โดนมองเมิน คนดูก็พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว ดังนั้นที่ใครบอกว่า หนังนอกกระแส หนังไม่มีกระแสแรง หนังอินดี้ทุนน้อยนิด ดาราไม่ดัง คนจะไม่ดู ไม่จริง!

เชื่อว่าแฟนหนังตัวจริง ยังต้องการโรงหนังทางเลือกอยู่อีกเยอะ น่าเสียดายที่โรงหนังเล็กๆ แบงค็อกสกรีนนิงรูม Bangkok Screening Room ย่านศาลาแดง ทนพิษโควิดไม่ไหว คนมาดูน้อยลง จนต้องปิดตัวไปแล้วตั้งแต่ 31 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

หรือไม่ต้องสร้างโรงหนังอินดี้เฉพาะเหมือน เฮ้าส์สามย่าน House Samyan อย่างโรงหนังเอสเอฟ SF ก็ใจกว้างพอ แบ่งโรงฉายเปิดพื้นที่ให้หนังนอกกระแส ดีเด่นโดน เข้าฉายเรื่อยๆ มีคนดูเพิ่มขึ้นตลอด 



ธุรกิจโรงหนัง เสือนอนกิน?
เป็นความจริงส่วนหนึ่ง ที่ว่าโรงหนังเป็นธุรกิจเสือนอนกินสบายๆ รวยจริงจัง มีแต่ได้กับได้ กำไรมากกำไรน้อยเท่านั้น ขาดทุนแทบจะไม่มี เพราะถ้าหนังเรื่องไหน คนไม่ดู กระแสไม่แรง ก็แค่ถอดทิ้งรีบเขี่ยจากโปรแกรมฉาย เอาหนังใหม่ๆ กระแสดีเด่น ดาราดังเล่น คนอยากดูเข้ามาแทนที่เลย

แต่อย่าลืมว่า ต้นทุนการสร้างโรงหนังแต่ละแห่ง ก็แพงมาก ยิ่งในช่วงโควิดระบาดหนัก เราจะเห็นผลกระทบเต็มๆ ของโรงหนังหลายแห่ง ที่จำต้องปิด หรือต้องลดรอบฉายลงต่อวัน ทำให้โรงหนังรายได้ลดหายไปเยอะ

เรื่องเงินเรื่องใหญ่ เปอร์เซ็นต์การแบ่งเงินกัน ระหว่างโรงหนังกับผู้สร้างหนัง ตามแต่ตกลงกันเลย ดีลแต่ละเรื่องจะไม่เท่าไร ขึ้นอยู่ที่ว่าส่งใครมาดีล มีคอนเนกชันมากน้อยแค่ไหน ที่จะต่อรองกัน ถ้าเป็นจากค่ายเล็ก หนังเล็กหนังอินดี้ จะได้ส่วนแบ่งไปแค่ 40-45% ตลอดการฉาย แต่ถ้าเป็นหนังจากค่ายใหญ่ ฟอร์มดี ดาราดังเล่น ก็จะได้ส่วนแบ่ง 50-50% และได้รอบฉายต่อวันต่อโรงเยอะมากๆ


ต่างกันเยอะความรู้สึก ที่ดูจากสตรีมมิง-โรงหนัง
พีอาร์ตัวแม่ตัวจริง โป้ง ปฐมทัศน์ คชาภา ทำงานเกี่ยวกับการดันดังหนังไทย และหนังต่างประเทศจากหลายค่ายใหญ่เพื่อเข้าโรง มานานกว่า 33 ปี เปิดใจดังๆ "ในฐานะคนดู ที่เราก็จ่ายเงินสมัครรายเดือน เพื่อดูหนัง-ซีรีส์กับค่ายสตรีมมิงต่างๆ พูดตรงๆ มันมาแทนที่การไปดูหนังในโรงหนังใหญ่ไม่ได้ จอใหญ่ระบบเสียงกระหึ่มของโรงหนัง เข้าโรงหนังมืดๆ ทำให้เรามีสมาธิตั้งใจดู ในขณะที่เราดูหนังจากสตรีมมิงต่างๆ เราก็มักจะทำอย่างอื่นไปด้วย ทำให้พลาดฉากสำคัญไป หรือจะย้อนกลับมาดู อารมณ์ความรู้สึก มันก็ไม่เหมือนกับดูหนังจอใหญ่ๆ อยู่แล้ว


"ระบบเสียงต่างๆ มันดีกว่าเยอะ ดีกว่าเยอะมากๆ แบบมันเทียบไม่ได้อยู่แล้ว ที่เราจะเพ่งดูจอเล็กๆ ทางทีวี ทางคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ และที่สำคัญ การดูหนังของคนไทยเป็นวัฒนธรรม เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ชวนกันไปดูหนัง จีบกันในโรงหนัง แล้วไปกินข้าว เดินเล่นแล้วไปเที่ยวต่อตามจุดต่างๆ

"ย้อนไปอดีตยุคก่อน ที่มีวิดีโอ video ให้เช่าตามร้านต่างๆ หลายคนก็บอกว่า โรงหนังจะตายแล้ว คนไม่เข้าไปดูในโรง แต่มันก็ไม่ใช่! หรือยุคที่มีหนังแผ่นหนังวีซีดี VCD หลายค่ายก็ทุ่มทุนดึงดาราดังๆ มาเล่นเยอะ เร่งผลิตจนบูมในยุคหนึ่ง แต่คนก็ยังชอบเข้าไปดูหนังในโรงมากกว่า

"หรือยุคถัดมาที่มีหนังดีวีดี DVD คนก็ซื้อไปดูที่บ้านและสะสมกันเยอะ แต่ก็หมดยุคไปแล้ว ตอนนี้ใครจะซื้อดีวีดี DVD ไปดู มันก็น้อยลงๆ เกือบจะไม่มีแล้ว ต้องพ่ายแพ้ให้กับระบบของโรงหนังที่ดีกว่า ยุคนี้เรามีหนัง-ซีรีส์เยอะเลยจากทั่วโลกให้เลือกกดๆ ดูในสตรีมมิงต่างๆ แต่ถึงที่สุด เชื่อเถอะว่ามนตร์เสน่ห์ของโรงหนังก็ยังจับใจ มีพลังดึงดูดมากกว่าการดูผ่านสตรีมมิง  

"โรงหนังจะตาย ลดความนิยมลงเรื่อยๆ เพราะสตรีมมิงจะมาแย่งตลาดเหรอ คงไม่ใช่นะ! สังเกตสิ ห้างใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอด โรงหนังก็ต้องมีเยอะตามไปหมด กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของห้าง โรงหนังหรูหราอลังการทั้งนั้น บริษัทใหญ่ๆ ที่ทำโรงหนัง ยังมุ่งเจาะตลาดต่างจังหวัดต่อไป มีแผนจะเปิดโรงหนังทั่วไทยอีกเพียบ นั่นความหมายว่า โรงหนังมีแต่เพิ่มๆ ไม่ได้ลดลงเลย"


ค่ายใหญ่สตรีมมิง ไม่ยอมให้ระบบโรงหนังตายไป
ไปๆ ไปคุยกันต่อกับ นุชี่ อนุชา บุญยวรรธนะ ผู้กำกับปังจริง จากหนังชายรักชายหลายเรื่อง เช่น อนธการ The Blue Hour, มะลิลา Malila The Farewell Flower ล่าสุดค่ายใหญ่ระดับโลก วอร์เนอร์มีเดีย Warner Media ทีวีช่องดังระดับโลก HBO GO ซึ่งเป็นอีกเจ้าใหญ่ และยังมีสตรีมมิงหนัง-ซีรีส์อีกด้วย ก็จ้างให้ นุชี่-จอช คิม Josh Kim มากำกับร่วมซีรีส์สยองแตก 8 ตอนเรื่อง Forbidden ที่นำโดย เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม

นุชี่ ได้วิเคราะห์ถึงการเติบโตของสตรีมมิง ที่อาจจะเข้ามาแทนที่โรงหนังในอนาคต
"จริงๆ โรงหนังมันไม่หายไปไหน ถึงแม้ค่ายสตรีมมิงต่างๆ จะทำออริจินัลคอนเทนต์ Original Content มากขึ้นก็ตาม ถึงแม้มีการใช้เงินมาก ลงทุนเยอะสร้างดี มีการเติบโตแค่ไหน

แต่การฉายหนังในโรงก่อน จะได้เงินเป็นกอบเป็นกำ มากกว่าที่จะฉายเฉพาะสตรีมมิงทางเดียว รายได้จากโรงหนังเป็นวันต่อวันเห็นชัดๆ ทางบ็อกซ์ออฟฟิศ Box Office แต่รายได้สตรีมมิง คิดเก็บเงินได้เป็นรายเดือน มันอาจจะไม่คุ้มทุนสร้าง โดยเฉพาะโปรเจกต์หนังใหญ่ๆ ลงทุนสูง

"แต่ละค่ายของสตรีมมิงที่ทำหนังออกมาตลอด ใช้เงินทุนสูงมาก บางเรื่องก็ 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าออกฉายเฉพาะทางสตรีมมิงมันไม่คุ้มทุน เช่น ค่ายดิสนีย์ Disney ก็มีสตรีมมิงเขาเอง สร้างหนังลงทุนสูงก็ต้องพึ่งโรงหนัง อยากจะให้หนังเข้าโรง เพราะทำเงินได้มากกว่า

ในอนาคตน่าจะเห็นโมเดล แบบฉายทั้งสองช่องทางมากขึ้น อย่างเรื่องโรมา Roma (หนังขาวดำของผู้กำกับ อัลฟอนโซ กัวรอน) ที่เน็ตฟลิกซ์ Netflix ซื้อไปเป็นออริจินัลคอนเทนต์ Original Content นำไปฉายทั้งโรงหนังและสตรีมมิงด้วย ก็ได้กระแสดี ได้เงินสองช่องทางเลย และได้รางวัลจากสถาบันต่างๆ อีกเยอะด้วย

"อนาคตค่ายสตรีมมิงต่างๆ อาจจะฉายพร้อมกันทั้งทางสตรีมมิงและโรงหนัง ก็เป็นไปได้ ยังไงสตูดิโอใหญ่ต่างๆ เขาไม่ยอมให้ระบบโรงหนังตาย หายไปไหนหรอก เพราะมันเป็นแหล่งทำเงินให้พวกเขา มากกว่าที่ฉายเฉพาะสตรีมมิง"


สตรีมมิงแย่งตลาด คนดูหนังในโรงไม่ได้
อีกหนึ่งผู้กำกับหนังตัวพ่อของเมืองไทย ต้องยกให้ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค เขาบอกกับเราว่าสตรีมมิงแย่งตลาด คนดูหนังในโรงไม่ได้


"สตรีมมิงมันมาแย่งตลาดคนดูหนัง ที่ชอบบรรยากาศของโรงหนังไม่ได้หรอกครับ ก็ได้แค่ช่วงโควิดนี้แหละ เพราะถ้าโรงหนังกลับมาเปิดเต็มที่อีกครั้ง หลังโควิดเลิกระบาดแล้ว คนก็ยังพร้อมจะเข้าไปดูหนังในโรงหนังกันอยู่ การดูหนังในโรง มันเป็นวัฒนธรรมที่แข็งแรง เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย และคนทั่วโลกไปแล้ว

"รายได้จากการนำหนังไปฉายที่ค่ายสตรีมมิง มันก็จำกัดตายตัว ต่างกับการฉายโรง ถ้าหนังเกิดโดนขึ้นมา มันจะทำเงินให้คนทำหนัง มากกว่าเก็บค่าลิขสิทธิ์จากสตรีมมิง แต่ตอนนี้เมื่อโรงหนังถูกปิด แน่นอนการดูหนังอยู่บ้านจึงเป็นทางเลือก แค่เลือกเข้ามาเพียงเพื่อขั้นเวลา แต่ปัญหาคือ มันเป็นการขั้นเวลา ที่กินเวลาปีครึ่งเข้าไปแล้ว และที่สำคัญมันไม่มีใครรู้ว่า เจ้าของโรงที่ทำเงินของคนทำหนัง จะยืนต่อได้นานแค่ไหน

"ค่ายสตรีมมิงอย่างเน็ตฟลิกซ์ Netflix เริ่มบุกตลาดเมืองไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็คงได้เรียนรู้รสนิยมของการดูหนัง ดูซีรีส์ของคนไทยไปแล้ว ว่าแตกต่างจากคนชาติอื่นอย่างไร ตอนนี้คงตกใจอยู่ว่า ทำไมคนไทยชอบดูหนังดูซีรีส์เกาหลี มากกว่าดูหนังไทยของชาติตัวเอง


"ตอนนี้เน็ตฟลิกซ์ Netflix คงอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนคนดูแลคอนเทนต์ content พวกเขาคงต้องค้นหา คนที่เข้าใจรสนิยมของคนดูคนไทย และเป็นคนที่เข้าใจโปรดักชั่นและวิถีการทำงานแห่งไทย ที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก เข้ามาดูแลให้ได้".