• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - luktan1479

#3681



จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีตัวเลขผู้ป่วย New High เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ป่วยที่ต้องการเตียงพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวนมาก เพื่อเป็นการบรรเทาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว 'บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)' จึงได้จับมือร่วมกับ 'มูลนิธิมาดามแป้ง' ดำเนินภารกิจสู้วิกฤตโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยสมทบทุนจัดตั้งศูนย์ Community Isolation จำนวน 400 เตียง และจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท ใน 4 แห่งรอบกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว หวังบรรเทาวิกฤตเตียงไม่เพียงพอ ลดวงจรการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต เริ่มเปิดบริการต้นเดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้นไป



'มาดามแป้ง' นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวถึงการทำงานครั้งนี้ว่า "นับเป็นการบูรณาการความช่วยเหลือให้เท่าทันสถานการณ์ ในวินาทีที่สังคมต้องการความช่วยเหลือ เราพร้อมหมุนตัว 360 องศาช่วยเต็มที่ ด้วยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น วัด โรงเรียน ชุมชน อาสาสมัคร โดยในอนาคตอันใกล้นี้ เราคงมีพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมกับเราอีกหลายองค์กร แน่นอนว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการแก้ไขวิกฤตของประเทศ"



สำหรับ Community Isolation ทั้ง 4 แห่งนั้น สามารถรองรับผู้ป่วยได้แห่งละ 100 เตียงต่อรอบการรักษา ซึ่งกระจายอยู่ทั้ง 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วิทยาลัยพาณิชยการอินทราชัย เขตวังทองหลาง โดย รพ.ลาดพร้าว, ร.ร.สุขุมนวพันธ์อุปถัมภ์ เขตบึงกุ่ม โดย รพ.พญาไท นวมินทร์, โกดังเก็บของ บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เขตราษฎร์บูรณะ โดย รพ.ประชาพัฒน์ และวัดกำแพง (บางแวก) เขตภาษีเจริญ โดย รพ.มิตรประชา (เพชรเกษม 2) โดยจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการในช่วงต้นเดือนสิงหาคม



นางนวลพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ปัญหาใหญ่หนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ คือการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมองอย่างไรก็ไม่มีทางเพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายวัน ดังนั้น นอกจากสนับสนุนการตั้งศูนย์ขึ้นแล้ว เรายังมีแผนสร้างทีมอาสากล้าใหม่มูลนิธิมาดามแป้งขึ้นมาเป็นผู้ช่วยหมอ พยาบาล ในการดูแลผู้ป่วยหน้างานอย่างเร่งด่วน ด้วยรูปแบบการอบรมระยะสั้นตามมาตรฐาน หากเราทำได้ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระงานของหมอ พยาบาลไปได้อีกมาก และยังสามารถขยายโมเดลนี้ได้ทั่วประเทศในอนาคตอีกด้วย"
#3682



คอลัมน์ "เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น" โดย "ซาระซัง"

สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ยุคนี้อาจเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจที่ญี่ปุ่นมีนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกในวัยเพียงสิบกว่าขวบเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งไม่แพ้กันก็คือญี่ปุ่นมีนักกีฬาผู้เฒ่าหลายคนที่ทุบสถิติโลกในการแข่งกีฬาผู้สูงอายุ รวมทั้งมีครูฝึกสูงวัยสุดฟิตเปรี๊ยะด้วยเช่นกัน วันนี้เลยมีเรื่องสองคุณยายจอมพลังแห่งญี่ปุ่นมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

คุณยายนักวิ่งลมกรด

หลายคนอาจเคยเห็นภาพคุณยายใส่ชุดนักกีฬาวิ่งอยู่ในสนามแข่งกันมาบ้าง เธอชื่อ โมริตะ มิสึ ปัจจุบันอายุ 98 ปี เคยทำลายสถิติการวิ่งระยะสั้นมาแล้วมากมายทั้งในญี่ปุ่นและนานาชาติตั้งแต่วัย 80 เป็นต้นมา ได้รับเหรียญมาแล้วกว่า 350 เหรียญ รวมทั้งโล่และถ้วยกว่า 50 ชิ้น

ตอนอายุ 90 ปีคุณยายโมริตะทำลายสถิติวิ่ง 100 เมตรในการแข่งกรีฑาผู้สูงอายุญี่ปุ่นกลุ่มผู้หญิงวัย 90-94 ปีอย่างขาดลอย โดยสถิติเดิมอยู่ที่ 50.90 วินาที แต่เธอทำได้ 23.80 วินาที ตอนนั้นเธอนึกเสียดายว่าอีกนิดเดียวก็จะทำลายสถิติโลกได้อยู่แล้ว เลยตั้งเป้าว่าคราวหน้าจะทำลายสถิติโลกให้ได้ และแล้วต่อมาเธอก็ทำลายสถิติโลกได้จริง ๆ ทั้งวิ่ง 100 เมตรที่ 23.15 วินาที และวิ่ง 200 เมตรที่ 55.62 วินาที

เห็นคุณยายโมริตะวิ่งทำลายสถิติแบบนี้ อาจจะคิดว่าคุณยายวิ่งเก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ที่จริงเธอไม่เคยเล่นกรีฑามาก่อนเลยจนกระทั่งอายุ 69 ปี และการวิ่งแข่งครั้งแรกของเธอก็เกิดขึ้นเพราะสถานการณ์พาไปแท้ ๆ คือตอนนั้นเธอไปดูการแข่งกีฬาในท้องถิ่น แล้วพอดีว่าขาดผู้ลงแข่งวิ่งไปหนึ่งคนในกลุ่มอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป เธอเลยเข้าร่วมและได้ที่สอง ซึ่งตัวเธอเองก็ตกใจเหมือนกัน

จากนั้นมาคนรู้จักเลยชวนคุณยายให้ไปแข่งกรีฑาผู้สูงอายุ เธอจึงเข้าร่วมการวิ่ง 400 เมตรตอนอายุ 70 ปี แต่วิ่งไปไม่ถึงเส้นชัยเพราะหมดแรงเสียก่อน ด้วยความเจ็บใจตัวเองเธอเลยเริ่มฝึกอย่างจริงจัง ทุกเสาร์เธอจะฝึกร่วมกับเด็กประถม หนึ่งในการฝึกได้แก่การวิ่งลากล้อรถ โดยเอาเชือกผู้ยางล้อรถไว้แล้วเอาปลายเชือกอีกข้างผูกไว้กับเอว ส่วนเวลาอยู่บ้านก็วิ่งจากหน้าบ้านไปถึงห้องนั่งเล่นในระยะ 20 เมตร 6 รอบ โดยฝึกเอาท่วงท่าวิ่งที่ถูกต้องซึ่งจะช่วยให้วิ่งได้เร็ว ก่อนนอนก็ทำท่าปั่นจักรยานบนฟูก 300 ครั้งเพื่อให้ขาได้เคลื่อนไหวสม่ำเสมอ

ที่คุณยายมีแรงเล่นกีฬาได้น่าจะเป็นเพราะปกติรับประทานโปรตีนเป็นหลักตั้งแต่มื้อเช้า ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูแล่บางย่างกระทะ ไข่ดิบ นมสด คู่กับข้าวสวยและสลัด ถ้ามื้อเย็นมักรับประทานทั้งเนื้อสัตว์และเนื้อปลาควบคู่กันไปในมื้อเดียว ซึ่งผลการตรวจร่างกายของคุณยายพบว่าเธอมีมวลกล้ามเนื้อและมวลกระดูกเกินค่าเฉลี่ย มีปริมาณไขมันอยู่ที่ค่าเฉลี่ย เรียกได้ว่าเป็นร่างกายที่สมบูรณ์เอามาก ๆ และหาได้ยากในกลุ่มผู้สูงอายุเช่นนี้

หลังจากสามีเสียชีวิตไป คุณยายก็มีการวิ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยว เธอใช้ชีวิตอย่างร่าเริง มีเป้าหมาย และสนุกกับการวิ่งมาก จนถึงกับบอกว่าอยากจะวิ่งจนถึงอายุร้อยปีเลย เธอบอกว่า "การตั้งเป้าหมายแล้วทำให้สำเร็จได้เป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก"

คุณยายครูฝึกฟิตเนส

มาดูเรื่องราวของคุณยายอีกท่านกันบ้าง หลายเดือนก่อนสามีฉันเรียกให้ดูคลิปวีดีโอคุณยายวัยเก้าสิบ ซึ่งเป็นครูฝึกสอนในฟิตเนส เห็นแล้วก็ตกใจในความทรงพลังของเธอจนรู้สึกอายตัวเองเลยค่ะ แม้พวกฉันจะเกิดหลังคุณยายหลายสิบปีและออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ก็ยังไม่แกร่งและเต็มไปด้วยพลังชีวิตเท่าเธอเลย

คุณยาย ทากิชิมะ มิกะ หรือชื่อเล่นว่า "ทากิมิกะ" เป็นครูฝึกฟิตเนสที่อายุมากที่สุดในญี่ปุ่น ปัจจุบันเธออายุ 90 ปีแล้ว แต่สามารถยกน้ำหนักได้ นั่งยืดขาออกด้านข้างได้เกือบ 180 องศา และออกกำลังแบบที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องได้ ที่จริงแต่ก่อนคุณยายทากิมิกะก็เป็นแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่ง เคยใส่กางเกงไซส์ใหญ่กว่าปัจจุบันเท่าหนึ่ง แต่ตอนนั้นไม่ยอมรับว่าตัวเองอ้วน จนวันหนึ่งสามีผู้แสนดีบอกตรง ๆ ว่าเธออ้วนนะ คุณยายคงช็อคเลยเริ่มออกกำลังกายจริงจังด้วยการไปฟิตเนส เวลานั้นเธออายุได้ 65 ปี พอเล่นฟิตเนสแล้วชอบก็เลยเล่นสม่ำเสมอ ผ่านไปห้าปีเธอลดน้ำหนักไปได้ 15 กิโล ความพยายามอย่างต่อเนื่องทำให้เธอประสบความสำเร็จเช่นนี้เอง

แม้จะผอมลงแล้ว แต่เธอก็ยังไปฟิตเนสไม่ได้ขาด อีกทั้งยังจ้างครูฝึกมาช่วยเทรนให้เธออยู่หลายปี จนครูฝึกเล็งเห็นแวว เลยจับเธอมาลองสอนคนอื่นดูบ้าง ปรากฏว่าทำได้ดีเกินคาด คุณยายเลยผันตัวจากนักเรียนมาเป็นครูฝึกในวัย 87 ปี สอนทั้งคนรุ่นเดียวกันและรุ่นเด็กกว่า ปัจจุบันสอนออนไลน์ในช่วงโควิดด้วย

กิจวัตรประจำวันของคุณยายทากิมิกะคือ ทุกเช้าตอนตีสี่เธอจะเดินสลับวิ่งเป็นเวลาสองชั่วโมงในระยะทางทั้งหมด 8 กิโล คือเดิน 4 กิโล วิ่งเหยาะ 3 กิโล และเดินถอยหลังอีก 1 กิโล จากนั้นรับประทานอาหารเช้า โดยเน้นโปรตีนและผัก ไม่ว่าจะเป็นปลา ไข่ เต้าหู้ ถั่วเน่า สลัด ผักดอง หลังอาหารก็จะทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ทำงานบ้านอื่น ๆ จิปาถะ

อาจเพราะรับประทานหนักในมื้อเช้าแล้ว อาหารกลางวันของคุณยายจึงมีเพียงกล้วยหนึ่งใบและยาคูลท์หนึ่งขวด ตอนบ่ายออกกำลังกายอีกสองชั่วโมงทุกวัน ด้วยการบริหารยืดเส้นยืดสายก่อน แล้วออกกำลังแบบที่สร้างกล้ามเนื้อ จากนั้นมื้อเย็นดื่มไวน์หนึ่งแก้ว ก่อนรับประทานอาหารที่เน้นผักและโปรตีนอีกเช่นกัน คุณยายให้ความสำคัญกับการกินอาหารครบทุกหมู่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่รับประทานอาหารปรุงแต่งหรือใส่สารกันบูดเลย



ช่วงหลังมื้อเย็นมักเป็นเวลาอันแสนอิสระของใครต่อใคร แต่คนอย่างคุณยายทากิมิกะฤาจะยอมนั่ง ๆ นอน ๆ เธอเอาเวลาไปทำการบ้านที่ทางฟิตเนสให้มา รวมทั้งศึกษาการใช้งานสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ และยังเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมอีกต่างหาก เรียกได้ว่าหากิจกรรมทำตลอดไม่เคยว่างก็ว่าได้

ปัจจุบันคุณยายมีช่องยูทูปของตัวเอง และยังเป็นแขกรับเชิญในช่องอื่น ๆ ด้วย ถ้าเพื่อนผู้อ่านได้เห็นเธอออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวตัวระหว่างทำกับข้าวจากวีดีโอข้างต้นแล้ว จะไม่รู้สึกเลยว่าเธออายุ 90 ปี เพราะเธอขยับตัวอย่างคล่องแคล่ว พูดจาฉะฉาน ร่าเริงเป็นที่สุด เห็นเธอแล้วพลอยได้พลังตามไปด้วยเลยค่ะ

เธอมักพูดติดปากเสมอว่า "อายุเป็นเพียงตัวเลข" หรือ "อย่าหมดหวังกับสุขภาพเพราะคิดว่าแก่แล้ว" และอยากให้ใคร ๆ หันมาออกกำลังกายกันเป็นกิจวัตรเพื่อสุขภาพที่ดี

นอกจากคุณยายสองท่านนี้แล้ว ญี่ปุ่นยังมีนักกีฬาสูงวัยอีกมากที่พิสูจน์คำกล่าวข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นคุณตา มิยาซากิ ฮิเดคิจิ ที่ทำลายสถิติโลกตอนอายุ 100 ปีจากการวิ่ง 100 เมตรในกลุ่มนักกีฬาชายอายุ 100-104 ปี และเป็นนักกีฬาชายคนที่สองของโลกที่ลงแข่งวิ่งระยะสั้นตอนอายุ 105 ปี ไม่เพียงเท่านั้นคุณตายังลงแข่งกีฬาทุ่มน้ำหนักด้วย


อีกท่านหนึ่งคือคุณยาย นางาโอกะ มิเอโกะ ซึ่งเป็นนักว่ายน้ำ เดิมทีเธอหัดว่ายน้ำเพื่อรักษาเข่าที่บาดเจ็บเมื่ออายุ 80 ปี ซึ่งกว่าจะว่าย 25 เมตรได้ใช้เวลาเป็นปี แต่ใครจะรู้ว่าต่อมาเธอคนนี้เข้าแข่งขันว่ายน้ำและได้รับรางวัลมากมายทั้งในญี่ปุ่นและนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นคนแรกของโลกในการแข่งขันรุ่น 100-104 ปีที่ว่ายได้ครบระยะทาง 1500 เมตร นอกจากนี้ก็ยังมีคุณตาคุณยายนักกีฬาในทุกชั้นวัยอีกมากที่ไม่อาจเล่าได้หมดในที่นี้


ท่านผู้เฒ่าเหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายและสนุกสดใสกับชีวิตมากเลยนะคะ แม้จะอายุมากถึงขนาดที่ว่าอาจหมดอายุขัยลงเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พวกท่านก็ใช้เวลาแต่ละวันอย่างมีความหมาย สนุกกับการฝึกฝนตัวเองไปสู่จุดหมาย แข่งกับตัวเองทุกวัน เป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังเราน่าเรียนรู้ไว้เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตอย่างยิ่ง

ได้ยินว่าบางคนพอได้เห็นผู้สูงวัยใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงเช่นนี้ จากที่เคยหมดอาลัยตายอยากก็กลับมีกำลังใจ ตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างคนมองโลกแง่ดีให้ได้บ้าง หวังว่าเพื่อนผู้อ่านจะได้รับแรงบันดาลใจจากพวกท่านบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีค่ะ.

https:// m.mgronline.com/japan/detail/9640000074747
#3683



ถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่สร้างแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดีสำหรับรายการ "Next People คนไม่หมดไฟ" ของ เว็บไซต์ MThai.com (เอ็มไทยดอทคอม) ในเครือโมโน เน็กซ์

ล่าสุดไปฟังแนวคิดจาก "คุณยายบัวฮอง จงปัตนา" แม่ค้าผักย่านบางโพวัย 72 ปี ที่ต่อสู้ ไม่ย่อท้อต่อโรคมะเร็ง อัดคลิปขายของลงโซเชียลจนได้กลายเป็นดาว TIKTOK ที่มีคนติดตามกว่า 2.5 แสนคน และมีคนกดหัวใจส่งให้กว่า 2 ล้านคน จนสามารถสร้างรายได้ ให้กับคุณยายมากมายในช่วงสภาวะเช่นนี้

โดย คุณยายบัวฮองเผยว่า "เริ่มต้นเล่น TIKTOK จากคนขายผักด้วยกันชวนให้เล่นนานแล้ว เค้าบอกว่าเล่นแล้วมีความสุขนะ ยายก็เล่นไปไม่ได้คิดอะไร จนดัง ตอนนี้น้ำพริกยายขายไปถึงเมืองนอกเลยนะ ยายอ่านหนังสือไม่ออกด้วย ต้องให้ Siri อ่านให้ เวลาลงคลิปยายก็ลงเองหมดเลย มีคนถามว่าใครตัดต่อให้ ยายบอกเลยว่าไม่มี ยายทำคนเดียว ถามว่าแก่แล้วมาทำอะไรแบบนี้อายไหม? ยายไม่อาย เราทำของเรา เรามีความสุขเราก็ทำ เจอต้นไม้ที่ไหนยายก็เต้น ใครจะมองก็ช่างเขา ไม่สนใจ ชีวิตเราใครเขาจะมาช่วยเรานอกจากตัวเราเอง


ประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ยายเป็นมะเร็งในมดลูก ไปตรวจเจอหมอเขาก็ตัดออกก็รักษามาเรื่อยๆแต่ทีนี้มันลามอีก บางคนก็บอกว่าทำคีโมแล้วจะหัวล้านนะ 3 เดือนตายนะ ยายบอกยายไม่ตายหรอก ยายไม่กลัว ยายสู้ถึงที่สุด คนเรามีลมหายใจอยู่ก็ต้องสู้ อย่าท้อ ไม่ต้องไปขอใครเดี๋ยวเกิดชาติหน้าลำบาก ยายอยากจะบอกคนที่ท้อหรือมีปัญหาอะไร เป็นโรค อะไรก็ตาม ถ้ายังมีลมหายใจอยู่อยากให้สู้ต่อไป"

สามารถ ติดตามรับชมย้อนหลังผ่านทุกช่องทางของ Mthai, youtube channel : mono29 และ เว็บไซต์ seeme.me
#3684



แค่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ก็น่ากลัวแล้ว แต่ล่าสุดมีข่าวการติดเชื้อไข้หูดับจนเสียชีวิตยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าหวาดวิตกเพิ่มขึ้นไปอีก

โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มีชื่อว่า สเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis.) โดยส่วนใหญ่สาเหตุหลักเกิดจากหมู แต่ความจริงแล้วโรคนี้จะเกิดการติดเชื้อที่ เยื่อหุ้มสมอง กระแสโลหิต ทำให้เกิดอาการความดันตกจนถึงขั้นเกิดอาการช็อกได้ หรือมีข้ออักเสบ ลิ้นหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ ติดเชื้อในช่องท้อง

สาเหตุ แหล่งที่มาของโรค การติดต่อ การแพร่ระบาด ความรุนแรงของโรค
สาเหตุหลักของการติดเชื้อ คือการสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรีย สเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis) ที่อยู่ในหมู เพราะฉะนั้น อาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับหมู อาจเกิดความเสี่ยงค่อนข้างสูง เช่น พ่อค้าขายหมู โรงงานแล่เนื้อหมู หรืออีกกลุ่มที่พบบ่อยคือ กลุ่มกินหมูดิบ ไม่ได้ผ่านปรุงสุกให้ดี และกลุ่มสัตวแพทย์ที่ดูแลหมู เพราะเชื้อแบคทีเรียตัวนี้จะอยู่ในระบบทางเดินหายใจของหมู (ทอนซิล) ระบบทางเดินอาหาร (ลำไส้)


สาเหตุหลักของการติดเชื้อในหมูคือ การเลี้ยงฟาร์มปศุสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐานในเรื่องสุขอนามัย หรือ ความสะอาด คอกหมูสกปรกไม่ได้มาตรฐาน อับชื้น ทำความสะอาดไม่ดี อาจทำให้เชื้อแบคทีเรีย สเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis) ก่อโรคในหมู แต่มีพบรายงานการติดเชื้อในสัตว์ประเภทอื่นอยู่บ้าง เช่น ม้า แมว สุนัข หมูป่า

ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคนี้เกิดจากการสัมผัสเนื้อหมูที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis) ผู้สัมผัสไม่มีการสวมถุงมือ และมีแผลที่นิ้ว จะทำให้เกิดการติดต่อได้ง่ายขึ้น หรือในบางรายมีการสูดดมกลิ่นเข้าไป อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ ถ้าเป็นการรับประทานก็จะก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ทางเยื่อบุในช่องปาก ในลำไส้ โดยเชื้อจะวิ่งเข้าสู่กระแสโลหิต ไปยังสมอง อาจอันตรายถึงชีวิตได้


ความรุนแรงของโรคจะมีหลายระดับ แต่ที่อันตรายที่สุด คือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ติดเชื้อในกระแสโลหิต ความดันตก ติดเชื้อที่ผิวหนังอักเสบรุนแรงมีเลือดออกที่ผิวหนัง ลิ้นหัวใจ ปอดอักเสบ เยื่อบุช่องท้องอักเสบอาการเหล่านี้รุนแรงต้องรีบได้รับการรักษา หรือในคนที่เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจเกิดสภาพหูดับได้หลังจากการรักษา หรือถ้าเซลล์สมองส่วนไหนโดนทำลายก็อาจส่งผลต่ออวัยวะนั้นๆ เช่น เสียการทรงตัว วิงเวียนศีรษะ

อาการหลังได้รับเชื้อ ต้องมีการสอบถามประวัติว่ามีการสัมผัสหมูหรือไม่ หรือกินเลือดหมู เนื้อหมูดิบ อาการคือ ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน มีแนวโน้มติดเชื้อ

วิธีรับประทานอาหารป้องกันโรคไข้หูดับ

กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หมูที่นำประกอบอาหารต้องผ่านอุณหภูมิความร้อน อย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส ในการประกอบอาหารต้องมั่นใจว่าสุก ไม่มีเลือดที่ชิ้นเนื้อ แปลว่ายังมีเชื้อโรคอยู่ ประกอบอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ห้ามทานดิบเด็ดขาด ระหว่างการประกอบอาหารควรสวมถุงมือ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุมีดบาดมืออาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปสู่กระแสเลือดได้ รวมถึงอุปกรณ์ที่ มีด เขียงหั่นหมู ต้องมีการทำความสะอาดทุกครั้ง

การรับประทานอาหาร หากเป็นอาหารประเภทปิ้งย่าง ควรมีการแยกตะเกียบ คือ ตะเกียบสำหรับใช้กับเนื้อดิบ และตะเกียบสำหรับใช้กับเนื้อที่สุกแล้ว


การเลือกซื้อเนื้อหมูมาประกอบอาหาร อาจจะแยกยากโดยการใช้ตาเปล่า แต่ดูความสดของหมู หากมีกลิ่น หรือสีที่ดูมีแนวโน้มใกล้จะเสีย ไม่ควรซื้อ แต่ถ้าเกิดไม่มั่นใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำมาประกอบอาหารต้องสุกเสมอ

บทความโดย : นพ.วิชิต ประสานไทย อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพญาไท 1
#3685



นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และวิทยากรในการสัมมนาออนไลน์

องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ร่วมเป็นวิทยกรในการสัมมนาออนไลน์ "Low carbon for sustainable development" ซึ่งจัดโดย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA) เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจกับองค์กรภาคเอกชนให้มีความตระหนักรู้เรื่องการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ร่วมเป็นวิทยกรในการสัมมนาออนไลน์ "Low carbon for sustainable development" ซึ่งจัดโดย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA) เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจกับองค์กรภาคเอกชนให้มีความตระหนักรู้เรื่องการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการบรรยายเกี่ยวกับ ความสำคัญในการลดก๊าซเรือนกระจกกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในการลดก๊าซเรือนกระจก แนวทางการเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจก และการดำเนินงานด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร 

โดยมี นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก คุณร่มฉัตร ทรงศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สำนักเลขานุการบริษัท บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และคุณอรทิพย์ อ้อทอง Sustainable Development Manager บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยองค์กรภาคเอกชน และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เข้าร่วมผ่านแอพลิเคชั่น Microsoft team
#3686
 
 มากกว่าคำว่ากาแฟ Room Coffee อร่อยดี ไม่มีอ้วน




ประโยชน์เพียบจากสารสกัด 36 ชนิด
เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ชงง่าย
ชงได้ทั้งน้ำร้อนน้ำเย็น อยากกินต้องได้กิน

มีสารสกัดทั้งหมดมากถึง 36 ชนิด
เช่น โสม ถั่วเช่า เห็ดหลินจือ เมล็ดเจีย คอลลาเจน (สูตรเจ) และอีก...เยอะ
ที่ให้คุณ 5 คุณประโยชน์
Detox ขับสารพิษ
Block บล็อกแป้งและน้ำตาลที่มาใหม่
Burn ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
Build  ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อให้กระชับ
Boost  เพิ่มพลังงานให้กระฉับกระเฉง

และยังช่วยเสริมภูมิต้านทาน ให้ไกลจากโรคหวัดและโรคต่างๆอีกด้วย ทุกอย่างรวมไว้ให้คุณขนาดนี้
บอกเลย คุ้ม

Room Coffee 1 ห่อ มี 10 ซอง ราคา 299 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม/รีวิวสินค้า https://teerapat99.iconroomcoffee.com/ 
#3687



โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค วิตกจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนฯ และโควิดระบาดหนัก ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้า หลังจากที่ได้ตอบรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่นักลงทุนยังมีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 และกังวลจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวลงนำตลาดอื่นในภูมิภาค

นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในภูมิภาคลงด้วย นักลงทุนจึงโยกเงินไปเล่นที่ฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปกัน ทำให้ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเวลานี้ถือว่าดีมาก

ส่วนบ้านเรายังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อยู่ จากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่งบฯออกมาดี และให้ปันผลดีที่ด้วย อย่างหุ้น SCC ให้ปันผลดี รวมถึงอาจมีแรงเก็งกำไรประเด็น M&A แม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนออกมา

ทั้งนี้ ดัชนีฯไม่ควรหลุดแนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,545-1,550 จุด
URL
 34
 
#3688



กลายเป็นดราม่าร้อนเลยทีเดียว เมื่อนักแสดงตลกหนุ่ม นุ้ย เชิญยิ้ม โพสต์ภาพข้อความลงในไอจีส่วนตัวว่า "คำว่าแก่ก็ควรแก่อย่างมีคุณค่า ไม่ใช่แก่แบบกะโหลกกะลา อย่าทำตัว แก่เกินแกง" ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นจากชาวเน็ต และมีหลายคนโยงไปถึง เทพ โพธิ์งาม ซึ่งมีข่าวเรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยบอกว่าเด็กรุ่นใหม่เอาแต่ด่า พร้อมทั้งชูนายกฯ และระบบไทยดีที่สุด

ล่าสุด นุ้ย เชิญยิ้ม โพสต์ภาพตัวเองและเขียนข้อความว่า "ผมอยู่วงการตลกมา 30 ปี ไม่เคยล่วงเกินหรือปีนเกลียวผู้ใหญ่ หรือแม้แต่นักแสดงตลกที่เด็กกว่าผม ผมก็ให้ความเคารพทุกคน ผมแค่แสดงความคิดเห็นส่วนตัว กับการบริหารงานของผู้ใหญ่ ถ้าหากไปกระทบจิตใจใครผมก็ขออภัยด้วยครับ

ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ถ้าทำดีแล้วเราก็พร้อมชื่นชม แต่ถ้าเรารู้สึกว่ามันยังขาดตกบกพร่องเราควรมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น อย่าตีกรอบว่าการวิจารณ์อีกฝ่ายหมายถึงเราเลือกอีกฝ่าย หลายๆ ท่านที่ออกมาพูดเพราะอยากเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ที่วิกฤติแบบนี้ อย่าตัดสินเองว่าใครอยู่ฝั่งไหน.. ด้วยความเคารพครับ"


นอกจากนี้ นุ้ย เชิญยิ้ม ยังโพสต์คลิปให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ลงไอจี โดยยืนยันว่าไม่ได้โพสต์ถึงป๋าเทพแน่นอน ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก.
#3689



รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงมือ 6 ของไทย เผยได้เสื้อแขนกุดตัวใหม่มาใส่ลงแข่งขันรอบน็อกเอาต์ โอลิมปิก 2020 หลังผู้ใหญ่อนุมัติและจัดการเตรียมเสื้อตัวใหม่ให้ในช่วงก่อนแข่งตอนเช้า ก่อนระบุไม่อยากให้มีดราม่าเพราะใส่ตัวไหนก็ต้องเล่นให้ดีที่สุด

แมตช์รอบน็อกเอาต์เช้าวันที่ 29 กรกฏาคม 2564 ขนไก่สาวเบอร์ 1 ของไทย ลงแข่งเจอกับ เกรกอเรีย มาริสก้า ตันจุง มือ 23 ของโลกจากอินโดนีเซีย ก่อนชนะไป 2-0 เกม 21-12, 21-19 ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปเผชิญหน้า ไท่ ซื่อ-หยิง มือ 1 โลกจากไต้หวัน

ประเด็นน่าสนใจอยู่ที่เสื้อแขนกุดสีฟ้า ที่เจ้าตัวได้ใส่ลงสนามแทนเสื้อของ แกรนด์ สปอร์ต ที่เคยเป็นประเด็นดรามาในโลกออนไลน์ว่าทำให้นักกีฬาไทยโชว์ฟอร์มไม่สะดวก ต้องถลกแขนเสื้อเล่นบ่อยครั้ง ซึ่ง เมย์ ก็บอกว่าเพิ่งได้เปลี่ยนมาใส่ตอนเช้าก่อนแข่งไม่กี่ชั่วโมง

"นี่เป็นเสื้อที่เพิ่งได้มาเมื่อเช้าเลยค่ะ ผู้ใหญ่บอกให้เปลี่ยนก่อนแข่ง แต่เอาจริงเรื่องเสื้อไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับเรา ใส่อะไรก็ได้ ที่ผ่านมาเราใส่ แกรนด์ สปอร์ต มาตั้งแต่รอบแรกอยู่แล้ว เราแค่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจะดีกว่า" ขนไก่สาวไทย ตอบเรื่องนี้

ส่วนรอบต่อไปที่ต้องเจอกับ ไท่ ซื่อ-หยิง มือ 1 โลกในรอบ 8 คนสุดท้าย ซึ่งเจอกันมา 29 ครั้ง แล้วเป็น ไท่ ซื่อ-หยิง สถิติดีกว่า 15-14 ขนไก่สาวไทยบอกว่าแม้อีกฝ่ายจะได้เปรียบเรื่องเทคนิคและพละกำลัง แต่ก็ขอใส่เต็มที่ เล่นให้ดีที่สุด และหวังว่าจะมีข่าวดีมาฝากทุกคน
#3690



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายแพทย์​เกียรติ​ภูมิ​ วงศ์​รจิต​ ปลัด​กระทรวง​สาธารณสุข โพสเฟสบุ๊ค เกี่ยวกับ ฉากทัศน์ covid-19ของไทย"คาดการณ์สถานการณ์การระบาด COVID-19 ของประเทศไทย ระหว่าง ส.ค. - ธ.ค. 2564 จัดทำโดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข  โดยการจำลองตัวเลข ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า 

หากล็อกดาวน์หนึ่งเดือน (เริ่ม 19 ก.ค. 64) คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงต้นเดือน ตุลาคม และหากล็อกดาวน์สองเดือน คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงปลายเดือน พฤศจิกายน

 หากมาตรการล็อกดาวน์ได้ผลมากขึ้น เช่น จากที่ช่วยลดค่า R ได้ 20% เป็น 25% น่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรได้ประมาณสองสัปดาห์ แต่ขนาดของการระบาดโดยรวมไม่เปลี่ยนไปมากนัก

หากมาตรมาตรการล็อกดาวน์ได้ผล และร่วมกับมาตรการวัคชีนในผู้สูงอายุได้ผลดี และดำเนินการได้รวดเร็ว ในเวลาไม่เกิน 2 เดือน น่าจะช่วยคงให้ความชุกของการใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1,500 รายต่อวัน และ อุบัติการณ์การเสียชีวิตไม่เกิน 200 รายต่อวัน ไปจนถึงเดือนธันวาคม

   ​

โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ปลัด​กระทรวง​สาธารณสุข ได้เข้าร่วม​ประชุม​ เรื่องการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม​ ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด ​โดยมี​ นายกรัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรีว่​าการกระทรว​งสาธารณสุข​ เป็น​ประธาน​การประชุม​ (โดยประชุมผ่านระบบ Zoom) ณ​ ห้องป​ระชุมการบูร​ ตึก​สำนักงาน​ปลัดกระทรว​งสาธารณสุข

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร    คณะเจริญ  เลขาธิการแพทยสภา อธิบายฉากทัศน์ดังกล่าวในเฟสบุ๊คว่าเห็นการจำลองตัวเลข"ฉากทัศน์ covid-19ของไทย"  ของกระทรวงสาธารณสุข แล้วน่ากลัวมาก พบว่า ถ้าไม่คุมให้ดี มีโอกาสติดวันละ 45,000 คน ตายวันละ 450 คน


ผลการล็อกดาวน์วันนี้เราลดได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะทำให้คนติดเชื้อและคนตายไม่มากเท่านั้น แต่ต้องแลกด้วย มาตรการจำนวนมาก ที่ทำให้ทุกคน กระทบชีวิตประจำวัน อาชีพการงานและการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนป่วยและเสียชีวิตมาก เกินกว่าที่โรงพยาบาลจะรับ ไหว ซึ่งวันนี้ก็เริ่มเกินแล้ว ถ้ามากกว่านี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

ในฉากทัศน์ นี้แสดงให้เห็นว่าการล็อกดาวน์จะยืดเยื้อไปอีก 2 เดือน เพื่อลดให้คนป่วยน้อย จนเตียงพอดูแลได้ และไม่ให้มีคนตายเยอะ ในภาพความเป็นจริง จะเป็นได้หรือไม่ต้องติดตามดู และขึ้นกับ สถานการณ์ของทรัพยากรและบุคลากรทางสาธารณสุข ที่จะต้อง โหมกระหน่ำลงไปสู้กันครับ สงครามนี้ไม่มีคนชนะ มีแต่ความเสียหาย ความสูญเสีย และความตาย ท่ามกลางความอดทนและเสียสละของทุกฝ่าย แต่อย่างไร พวกเราทุกคนก็ต้องสู้ต่อครับ ไม่นานเชื้อเหล่านี้จะหมดไปโดยธรรมชาติ เราต้องอดทน ต่อสู้ ให้ถึงวันนั้น
#3691



บอร์ด "วันทูวัน คอนแทคส์" ส่งบริษัทย่อย "อินโน ฮับ" เข้าลงทุนใน "อินไซท์ มีเดีย กรุ๊ป" (IMG) จำนวน 2,964,000 หุ้น คิดเป็น 76% มูลค่า 15 ล้านบาท สยายปีกสู่ธุรกิจบริการเกี่ยวกับการผลิตสื่อโฆษณา "คณาวุฒิ วรรทนธีรัช" ระบุเป็นการต่อยอดธุรกิจ ตอบโจทย์ Lifestyle ผู้บริโภคยุค New Normal

นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัท อินโน ฮับ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100% เข้าลงทุนในบริษัท อินไซท์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (IMG) ซึ่งปัจจุบันประกอบธุรกิจด้านการให้บริการเกี่ยวกับการผลิตสื่อโฆษณาในประเทศไทย จำนวน 2,964,000 หุ้น คิดเป็น 76% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุน 15,000,000 บาท

โดย "อินโน ฮับ" จะดำเนินการเข้าซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นปัจจุบัน 3 ราย ได้แก่ นายสุภสิทธิ์ รักกสิกร นายเมธวิน อังคทะวานิช และนายทศพล สุรวาศรี จำนวนรวม 1,964,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็น 67.72% ของหุ้นทั้งหมดใน IMG โดยมีมูลค่าการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 5,000,000 บาท (ธุรกรรมการซื้อหุ้นเดิม) และภายใน 4 เดือนหลังจากการเข้าทำธุรกรรมซื้อหุ้นเดิมเสร็จจะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ IMG จำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็น 25.64% ของหุ้นทั้งหมดภายหลังจากการเพิ่มทุน โดยมีมูลค่าการจองซื้อหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 10,000,000 บาท (ธุรกรรมการซื้อหุ้นเพิ่มทุน)

"การแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจผลิตสื่อและโฆษณาในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจให้บริษัทฯ สอดรับ Lifestyle ผู้บริโภคยุค New Normal ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต" นายคณาวุฒิ กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ OTO ดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารจัดการงานลูกค้าสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบ และให้บริการออกแบบพัฒนาและติดตั้งระบบศูนย์บริการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จให้แก่องค์กรภาครัฐและเอกชน และมีบริการให้เช่าอุปกรณ์ Contact Center และบริการให้เช่าซอฟต์แวร์ ทั้งซอฟต์แวร์สำเร็จรูป และซอฟต์แวร์ระบบ Contact Center ที่ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้เหมาะสมกับธุรกิจขององค์กรเพื่อให้บริการลูกค้า
#3692



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ทีมนักวิจัยจากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ สหรัฐฯ ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ผ่านวารสารวิชาการทางการแพทย์ชื่อดังเมื่อวันจันทร์ (26 ก.ค.) ค้นพบว่า คนส่วนใหญ่ที่เกิดการแพ้วัคซีนประเภท mRNA จะยังคงสามารถฉีดเข็ม 2 ได้อยู่ หลังการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อสู้กับการระบาดไวรัสเดลตา ซึ่งล่าสุดมีการค้นพบในจีนว่า ผู้ป่วยไวรัสเดลตามีเชื้อไวรัสในช่องจมูกสูงกว่า 1,260 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับของการระบาดระลอกแรก

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ผู้แต่งร่วมอาวุโสของการวิจัย คิมเบอร์ลี จี.บลูเมนทัล (Kimberly G.Blumenthal) จากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts General Hospital) กล่าวในรายงานที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสารทางวิชาการแพทย์ชื่อดัง JAMA Internal Medicine เมื่อวันจันทร์ (26) ว่า หนึ่งในสิ่งสำคัญจากการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นปฏิกิริยาการแพ้ทันทีต่อวัคซีน mRNA  อาจจะไม่ใช่เป็นการแพ้อย่างเป็นกลไกเช่นเดียวกันการแพ้โดยทั่วไป ซึ่งสำหรับลักษณะการแพ้ทั่วไปนั้นเกิดจากการที่ร่างกายต้องพบกับสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทำให้เกิดอาการแพ้และมีความรุนแรงมากขึ้น

ด้านผู้แต่งร่วมอาวุโสของการวิจัยอีกคน อาลีนา บาเนอร์จี (Aleena Banerji) จากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์เช่นกันระบุว่า การศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ามันมีความปลอดภัยต่อคนส่วนใหญ่ในการได้รับวัคซีน mRNA เข็มที่ 2

"หลังเกิดปฏิกิริยาแพ้จากเข็มแรกแล้ว ผู้เชี่ยวชาญภูมิแพ้อาจจะมีประโยชน์ในการช่วยเหลือสำหรับการประเมินความเสี่ยงและประโยชน์และให้การช่วยเหลือในการฉีดให้ภูมิคุ้มกันได้อย่างปลอดภัยและครบถ้วน" บาเนอร์จี กล่าวผ่านรายงานของ Science daily

รอยเตอร์รายงานว่า ในการวิจัยพบว่าทีมได้ทำการศึกษาข้อมูลจากกลุ่มผู้ใหญ่ 189 คนที่ได้รับวัคซีน mRNA ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค หรือวัคซีนโมเดอร์นา 1 เข็มแรกและมีอาการแพ้ปรากฏหลังการฉีดไม่ว่าจะเป็นหน้าแดง มึนศีรษะ วิงเวียน หายใจถี่ อาการเป็นเหน็บ อาการเจ็บคอและแน่นภายในคอที่อาจจะเกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุ (throat tightness) ลมพิษ หรือกระทั่งหายใจถี่และมีเสียงออกมา

Science daily ชี้ว่าการวิจัยชิ้นนี้ต้องการทราบว่า จะมีความปลอดภัยหรือไม่ที่จะให้ผู้ที่เคยรับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคและวัคซีนโมเดอร์นาและมีอาการแพ้เกิดขึ้นจะสามารถรับวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ต่ออย่างปลอดภัย โดยทีมวิจัยนี้เป็นความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ (Vanderbilt University Medical Center) ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเซาท์เวสต์ (University of Texas Southwestern Medical Center) คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเยล (Yale School of Medicine)

พบว่าจากทั้งหมดของ 189 คนของการศึกษา จำนวนส่วนใหญ่หรือ 84% (159 คน) เข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อโดย 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้รับยาต้านภูมิแพ้ก่อนเข้าฉีดเข็มที่ 2 รอยเตอร์รายงานว่า คนทั้งหมดมีความทนทานโดยไม่มีผลข้างเคียงปรากฏหลังเข็มที่ 2 รวมไปถึงกลุ่มคนที่มีปฏิกิริยาเกิดภูมิแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลันที่เรียกว่า (anaphylactic reactions)

ทีมวิจัยกล่าวว่า อาการแพ้ใดๆ ที่อาจขึ้นหลังจากได้รับเข็มที่ 2 แล้วนั้นพบว่าจะอยู่ในระดับต่ำและสามารถจัดการได้ง่าย

รอยเตอร์รายงานว่า มีการบันทึกถึงการแพ้ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน mRNA นั้นสูงถึง 2% ซึ่งผู้นำการวิจัย แมทธิว เอส.ครานต์ซ์ (Matthew S.Krantz) จากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ กล่าวย้ำว่า "การได้รับวัคซีนครบ 2 โดสนั้นมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสเดลตา และทางเราสงสัยว่าอาจจะมีคนเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดเข็มที่ 2 เนื่องมาจากเกิดอาการแพ้"

ทั้งนี้ การวิจัย "Second COVID-19 mRNA vaccine dose found safe following allergic reactions to first dose" ของโรงพยาบาลกลางสหรัฐฯ นี้ได้รับเงินวิจัยสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ NIH (the National Institutes of Health) และโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์
#3693



เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิล เฮดโค้ชชาวเยอรมัน ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นนัดแรกด้วยการยกพลไปเยือน บอร์นมัธ ทีมในลีกแชมเปียนชิพ อังกฤษ

"สิงห์บลูส์" ยังไม่มีบรรดานักเตะที่ไปช่วยทีมชาติผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ ในยูโร 2020 เช่น เมสัน เมาท์, รีซ เจมส์, เบน ชิลเวลล์, เอ็นโกโล ก็องเต้, อันเดรส คริสเตนเซน และจอร์จินโญ่ เช่นเดียวกับ ติอาโก ซิลวา ที่ไปเล่นให้กับ บราซิล ในโคปา อเมริกา

เกมนี้พวกเขาส่งนักเตะชุดผสมลงเป็น 11 คนแรก โดยมีตัวหลัก อย่าง แทมมี อับราฮัม, เกปา อาร์ริซาบาลากา, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, ฮาคิม ซิเยค, คริสเตียน พูลิซิช รวมไปถึง แดนนี ดริงก์วอเตอร์ มิดฟิลด์อังกฤษที่กลับคืนสู่ทีมอีกหลัง หลังย้ายไปเล่นให้กับ คาซิมปาซ่า ในลีกตุรกีด้วยสัญญายืมตัว

ปรากฎว่าเกมในครึ่งเวลาแรกถึงแม้ เชลซี จะเป็นฝ่ายที่โหมบุกใส่ บอร์นมัธ อย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้ไม่ดีพอ และหมด 45 นาที ไปด้วยสกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง "สิงห์บลูส์" เปลี่ยนเอาผู้เล่นอย่าง รอสส์ บาร์คลีย์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เอดูอาร์ เมนดี รวมถึงดาวรุ่งอีกหลายคนลงสนาม และในนาทีที่ 66 ก็กลายเป็น บอร์นมัธ ที่ออกนำก่อน 1-0 จากลูกโหม่งของ เอมิเลียโน มาร์คอนเดส

แต่ เชลซี ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาทำ 2 ประตูรวด แซงนำ 2-1 จากการยิงของดาวรุ่ง อย่าง อาร์มานโด โบรยา ในนาทีที่ 72 และอีกหนึ่งดาวรุ่ง อย่าง อิเค อั๊กโบ ในนาทีที่ 76 และจบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้
#3694



รายงานข่าวจากบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับสุทธิของธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ 19 แห่ง (ธ.พ.ไทย) ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2564 ขยับขึ้นจากเดือนก่อนหน้าประมาณ 7.84 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า อัตราการเติบโตของสินเชื่อระบบธ.พ.ไทยน่าจะปิดสิ้นไตรมาส 2/2564 ที่ระดับประมาณ 4.4% YoY เทียบกับ 4.6% YoY ในไตรมาสที่ 1/2564

โดยแม้จะเริ่มชะลอตัวลง แต่ก็ยังไม่มากนัก เพราะได้รับแรงประคองทิศทางกลับมาบางส่วนจากการขยายตัวต่อเนื่องของสินเชื่อใน 2 ส่วนหลัก ได้แก่ (1) สินเชื่อกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อเสริมสภาพคล่องและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และ (2) สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ยังคงมีกำลังซื้อ กลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบราคาประมาณ 1-3 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท ตามลำดับ 

อย่างไรก็ตาม หากขาดแรงส่งของสองกลุ่มสินเชื่อดังกล่าวที่มาจากลูกค้าที่ยังมีขีดความสามารถในการกู้เงินและสามารถบริหารจัดการผลกระทบจากโควิดได้นั้น คาดว่าจะเห็นตัวเลขอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ชะลอตัวอย่างชัดเจนขึ้น นำโดยสินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นๆ อาทิ สินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค

เงินฝากเติบโตในอัตราชะลอลงเช่นกัน โดยส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันปีก่อน  

สำหรับภาพรวมเงินรับฝากของระบบธ.พ.ไทย ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2564 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1.09 แสนล้านบาท นับเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยเป็นการปรับตัวลงในเกือบทุกธนาคาร ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลของการนำเงินฝากไปลงทุนในตัวเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ประกอบกับมีการทยอยเบิกใช้สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์โควิด 19 ทั้งในส่วนของภาคธุรกิจและผู้ฝากเงินรายย่อย ซึ่งทำให้ภาพรวมเงินฝาก ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 ชะลอการขยายตัวลงมาที่ 4.0% YoY เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตราการขยายตัวที่ 5.0% YoY ในไตรมาสที่ 1/2564


นอกจากนี้หากพิจารณาเงินฝากในกลุ่มผู้ฝากเงินรายย่อย จะพบว่า เงินฝากกลุ่มรายย่อยยังเติบโตในอัตราใกล้เคียงกับภาพรวมเงินฝากทั้งระบบ

อย่างไรก็ดี ภาพเงินฝากรายย่อยอาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) เงินฝากรายย่อยในกลุ่มที่วงเงินต่อบัญชีสูงกว่า 1 ล้านบาท (สัดส่วน 65% ของเงินฝากรายย่อยโดยรวม) ซึ่งประคองการเติบโตได้สูงกว่าเงินฝากรายย่อยในภาพรวม และ 2) เงินฝากรายย่อยในกลุ่มที่วงเงินต่อบัญชีไม่เกิน 1 ล้านบาท (สัดส่วน 35% ของเงินฝากรายย่อยโดยรวม) ที่มีอัตราการเติบโตที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวงเงินต่อบัญชีไม่เกิน 50,000 บาท และกลุ่มวงเงินต่อบัญชีเกินกว่า 50,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาท  ซึ่งอาจสะท้อนภาพการนำเงินฝากบางส่วนมาใช้เพื่อประคองสถานการณ์ในช่วงโควิด-19


ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะทำให้ความต้องการสินเชื่อจากกลุ่มลูกค้าที่ยังพอมีรายได้หรือศักยภาพนั้น เป็นไปอย่างระมัดระวัง ทำให้การเติบโตของสินเชื่อปิดสิ้นปี 2564 ในอัตราการเติบโตใกล้เคียงระดับกลางปีที่ประมาณ 4.5% ซึ่งชะลอลงจากที่ขยายตัว 5.8% ในปี 2563

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ยอดคงค้างสินเชื่อของระบบธ.พ.ไทยในครึ่งหลังของปี 2564 มีโอกาสขยายตัวได้ต่อเนื่อง เพียงแต่แรงหนุนสำคัญยังมาจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงิน ทั้งในส่วนของการปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องกับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ และการเร่งอนุมัติสินเชื่อผ่านโครงการสินเชื่อฟื้นฟู

ขณะที่การช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านมาตรการพักชำระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ น่าจะส่งผลทำให้การชำระคืนหนี้ช้าลง และลดแรงกดดันต่อยอดคงค้างสินเชื่อในภาพรวม อย่างไรก็ดี การปล่อยสินเชื่อใหม่ในส่วนอื่นๆ น่าจะเริ่มชะลอลง เนื่องจากสถานการณ์โควิดในประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งทำให้ทั้งฝั่งลูกค้าชะลอความต้องการสินเชื่อเพื่อลงทุนออกไป ขณะที่ฝั่งสถาบันการเงินยังคงต้องประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตจากการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง 
#3695

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ โพสต์คลิปวิดีโอของ ป๋าเทพ หรือ เทพ โพธิ์งาม บางช่วงกล่าวถึง กระแสการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล รวมถึงการออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื้อหาในบางช่วง ป๋าเทพ กล่าวว่า

"ผู้ใหญ่บางคนที่แก่ๆ กันแล้ว ก็ควรแนะนำเด็กๆ ไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง เด็กๆ บางคนสร้างประโยชน์ สร้างความดี สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ แต่บางคนกลับทำลายประเทศ หยุดกันสักทีเถอะ ตอนนี้รักษาเอาไว้ สักวันก็ต้องตาย อย่ามาคุยเก่ง ใครคิดทำให้ชาติไขว้เขวไปไม่รอด ทำให้คนส่วนใหญ่ลำบาก แล้วมาสร้างปัญหา ต้องเห็นใจคนทำงาน ผู้นำต้องแข็งแกร่ง มองไปข้างหน้า เค้าว่าอะไรก็อย่าไปสวน"

"พวก-ึงทำอะไรกันมีความคิดบ้าง พูดเก่ง พูดกันเก๊งเก่ง แต่ทำอะไรให้ประเทศบ้าง ไม่เคยเห็นประเทศไทยมีแบบนี้เกิดขึ้น เกิดมา 71 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นใครมาด่าทอ"

"คนรุ่นใหม่ หน้าตาหล่อๆ ดีๆ ความคิดยิ่งกว่าคนรุ่นเก่า มาพูดมาด่าคนทำงานอยู่นั่นแหละ มาช่วยกันสิ มาช่วยหมอสิ มาช่วยคนทำงานดีกว่า จะเบื่อใครก็แล้วแต่ จะเกลียดหรือชอบก็อยู่ได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวมันก็เป็นไปตามกรรม ตอนนี้อึดอัดมากแล้ว มาช่วยกันออกความคิดกันดีกว่า ไม่ใช่มาด่าทอกัน -ูว่า-ูโง่แล้ว แต่เห็นคนโง่กว่า-ูอีก ไม่น่าเชื่อ"


"มาเถียงกันต้องเอาความจริง พวกผู้ใหญ่ ที่เป็นดอกเตอร์กันเนี่ย แก่มาแล้วหัวล้านแล้ว หัวหงอกแล้ว เป็นอาจารย์คนแล้วมาสอนให้คนแตกแยกกันเนี่ย อยุธยาแตกก็เพราะพวก-ึงนี่แหละ เป็นก๊กเป็นเหล่า มันต้องร่วมใจกันสิ"

"การที่-ึงพูดออกไป พวก-ึงรู้รึเปล่าว่ามันแรงสะเทือนไปถึงขนาดไหน มันทำบ้านเมืองวุ่นวายทำไมช่วงนี้ คิดบ้างว่าวิกฤติขนาดนี้-ึงต้องรวมใจกันแล้วไอ้ค-ย รวมใจกันสิไอ้-ัส มาเกลียดชังกันอะไร เค้ารักษากันมาขนาดนี้แล้ว -ูว่าระบบเมืองไทยเนี่ยดีที่สุดในโลกแล้วไอ้ค-ย -ึงจำไว้"

"เห็นไหมว่าตั้งแต่ยุคไหนมา เคยมีเรื่องปัญหาอะไรมากมายเหมือนประเทศอื่นเค้าไหม คิดซะบ้างอย่าคิดแต่ชีวิตพวก -ึงมองชีวิตข้างๆ บ้าง ต้องขออภัยที่ต้องพูดไอ้-ัส ไอ้เ-ี้ยบ้าง แต่เพราะมันอัดอั้น แต่ปล่อยไปก็จะเลอะเทอะกันใหญ่"

"พูดให้มีสาระจะไม่ว่า แต่บอกแต่จะให้ออกไป ออกไป พูดเหมือนคนปัญญาอ่อน พูดแล้วไม่คิดบ้างว่าจะเป็นยังไงต่อ จะเอาคนที่ไม่ดีเข้ามาอีกหรือ เด็กรุ่นหลังคิดแบบนี้แล้วประเทศจะอยู่ได้อย่างไร จะฝากความหวังไว้ได้อย่างไร ต้องมีเหตุผล"

"ผู้นำไม่ต้องไปสนใจ เราทำงานให้ประเทศเดินไปได้ ไอ้คนนั้นอ่ะ ดีที่สุดที่ตั้งแต่เห็นมา ผู้นำประเทศคนนี้พอได้นะ เรื่องการปกครองคน ต้องให้เป็น ไม่ใช่เอาใครก็ได้มาปกครอง ในสภาดูที่พูดกันซิ พูดอะไรกัน เป็น ส.ส.มาได้อย่างไร จะมาดูแลบ้านเมือง พี่น้องคนไทย แบบนี้ได้หรือ คนไหนไม่ดีคนไหนดี -ูดูออก ถึงจบ ป.4 แต่ก็วิเคราะห์ได้เพราะ-ูติดตามไง"

"จะเชียร์ใครจะทำอะไรดูเหตุผลด้วย ไม่ใช่เอาแต่มันอย่างเดียว บ้านเมืองนะ ไม่ใช่บ้านของ-ึง เป็นบ้านคนอื่นด้วย บ้านของคน 70 ล้านคน จะมาแสดงความเห็นคนเดียวหรือ ต้องเห็นความเป็นส่วนมากเข้าไว้ นี่คือมนุษย์ไม่ใช่จิงโจ้"

หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น
#3696



สอวช. จับมือ วช. และ มจธ. เดินหน้าพัฒนาระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และพัฒนากลไก ในการขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้สัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรม

 นอกจากนี้ ยังเป็นการร่วมพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรด้านการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ในการเพิ่มขีดความสามารถและการขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมของประเทศ และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ให้เกิดเครือข่าย การวิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ที่จะนําไปสู่การร่วมกําหนดและผลักดันนโยบาย ววน. ร่วมกันได้อย่าง มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล

โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พร้อมด้วย ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ (ระบบ ZOOM)

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวถึงการเชื่อมโยงบทบาทของ วช. กับนโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศในฐานะ PMU ด้วยว่า การมี กระทรวง อว.เกิดขึ้นในส่วนของการรวมกลไกหลักสำคัญของประเทศ ทั้งในเรื่องของการอุดม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและต้องมีความเข้าใจอย่างมาก สำหรับทีมงานของ วช.ที่ต้องเข้าไปสัมพันธ์กับรูปแบบการทำงานที่มีความเชื่อมโยงทั้งเรื่องเชิงระบบ เชิงกลไก เชิงแผนงาน และการนำส่งผลสำเร็จผลลัพธ์ของงาน อย่างไรก็ตาม การที่จะขับเคลื่อนงานให้เดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพสิ่งหนึ่งคือการเชื่อมต่อในเชิงนโยบาย

สำหรับบทบาทของ PMU ที่ วช.ให้ความสำคัญคือนโยบายและยุทธศาสตร์ อววน.ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ในส่วนของการลงนามวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตัวสมรรถนะของความเข้าใจของบุคลากร วช. ในเรื่องของการพัฒนานโยบาย ววน.มีความเข้มแข็ง สามารถเข้าไปทำความใจระบบใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ


ด้าน ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผอ.สอวช.กล่าวถึง ความสำคัญของระบบและนโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ว่า การสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่เกิดขึ้นขณะนี้ที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ก็เพื่อให้ระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) มีความเข้มแข็งมากขึ้น ในส่วนของการจัดการนั้นจะต้องดำเนินการในเชิงระบบให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้ง ววน.จะต้องมีมากกว่างานวิจัย และต้องไปถึงการพัฒนาที่มีฐานความรู้ทั้งจากงานวิจัยและนวัตกรรม โดยจะต้องมีการถ่ายทอดให้ความรู้ลงไปถึงกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น


ขณะที่ รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึงงนวัตกรรมหลักสูตรเพื่อส่งเสริมสมรรถนะของบุคลากรในการบริหารการวิจัยของประเทศด้วยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นความสำคัญอย่างมาก ในการบริหารจัดการงานวิจัยให้ตอบสนองนโยบายของประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหลักสูตรการพัฒนาบุคลากร ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่มีการคิดอย่างตนวางระบบที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
#3697



ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง สำหรับนางเอกหน้าหวาน มิน พีชญา วัฒนามนตรี ที่ก่อนหน้านี้ลงครัวทำอาหารไปมอบให้กับคนงานที่แคมป์ก่อสร้างต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร

แต่ล่าสุดนางเอกคนดังก็ครีเอทไอเดียเจ๋งช่วยประชาชนที่เดือดร้อนกับพิษโควิด-19 แบบคูณสอง กับการเหมาอาหาร ขนมและเครื่องดื่มจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของไม่ได้เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้เดือดร้อนจากโรคระบาดดังกล่าวได้กินฟรีรอบกรุงฯค่ะ

"กับโครงการนี้จริงๆ มินได้มีโอกาสทำมาพักนึงแล้วค่ะ คือตอนแรกอย่างที่ทุกคนได้เห็นว่ามินทำอาหารแจกพี่ๆ น้องๆ ที่แคมป์คนงาน แต่ตอนนี้เราก็ลองปรับมาดูว่าเราสามารถช่วยอะไรได้มากกว่านั้นไหม


มินเลยลองเปลี่ยนจากการทำอาหารเองมาเป็นการซื้ออาหาร ไปเหมาอาหารจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของไม่ได้ดีกว่า แล้วมินก็เอาของที่ซื้อมาแจกจ่ายให้กับพี่ๆ น้องๆ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิดแทน

ถือว่าเราได้ช่วยคนแบบสองต่อเลยค่ะ เพราะบางร้านค้าขายของไม่ได้เลย บางร้านก็ขายได้แต่ก็ไม่พอค่าเช่าที่ แถมพ่อค้าแม่ค้าบางคนยังมีลูกเล็กๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอีก

คือเราเห็นแล้วก็สงสารพ่อค้าแม่ค้าทุกคนค่ะ เราเลยมาช่วยตรงจุดนี้ เพราะพอเราซื้อของเค้า เหมาของเค้าพ่อค้าแม่ค้าเองก็ยิ้มได้ มีเงินกินเงินใช้เลี้ยงดูครอบครัว

มินเห็นเค้ามีความสุขเราเองก็ดีใจ ส่วนคนที่มารับของที่เราซื้อไว้ทุกคนก็ยิ้มได้ ได้กินของอร่อย ได้ยินแค่คำขอบคุณเราเองก็ปลื้มใจเช่นกันค่ะ


เพราะเรารู้ว่าตอนนี้พี่ๆ น้องๆ บางคนก็ตกงาน บางคนทำงานเป็นรายวัน ตอนนี้โรงงานปิดก็ขาดรายได้ บางคนก็โดนลดเงินเดือน เราก็ถือว่าเราได้ช่วยให้เค้ามีความสุข ได้อิ่มท้องในแต่ละวัน

เราเองก็มีความสุขมากแล้วค่ะ เพราะถ้าทุกคนมีข้าวกินในแต่ละวัน ทุกคนก็จะมีแรงต่อสู้กับปัญหาที่จะเข้ามาและมินก็คิดว่าจะทำโครงการดีๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ" 
#3698



สืบมาไม่ใช่อย่างนั้นไม่เข้าข้างใครขอพูดเป็นกลาง หลังจาก เต๋า ทีวีพูล โพสต์เปิดประเด็นความแตก น้ำ มิสแกรนด์ แฉ ณวัฒน์ ติดเชื้อโควิดจากสตูดิโอดัง หลังโดนตลก ต. ชวนให้ไปออกรายการ แคปชั่นว่า คาดติดเกิอบ40รายแต่ปิดข่าว พร้อมทั้งยังคอมเมนต์ตอบคนในโพสต์รัวๆ อาทิ ใครพูดว่าติดโดนออก , ช่องที่ลุงดูก็ติดโควิดนะลุง ข่าวนี้คนสงสัยมานานแล้ว ลุงแก่ๆควรพัก นั้น

ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย กล่าวถึงเรื่องนี้ในรายการหนึ่งว่า ส่วนตัวที่ผมรู้มา ได้ยินมามันไม่ใช่ มุมของผมกับมดดำ (คชาภา) เห็นด้วยเหมือนกันว่าไม่น่าใช่ที่จะเป็นอย่างนั้น พอทราบข่าวผมก็เช็คข่าว ก็สืบมาก็ไม่ใช่อย่างนั้น


ในนั้นไม่ได้เอ่ยว่าตุ๊กกี้ติด แต่เขาบอก ดาราตลก ต. เป็นคนชวนไป ถามจริงๆ ตุ๊กกี้ (ชิงร้อย) จะชวนไปได้ยังไง มันไม่ใช่ พูดตรงๆ พี่ณวัฒน์ (อิสรไกรศีล) ก็ไปขายของ พูดเป็นกลางจริงๆเลยนะ ตุ๊กกี้จะชวนพี่ณวัฒน์ไปขายของที่นั่นเหรอ ก็ไม่ใช่ ตุ๊กกี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ต้องผ่านเอเจนซี่ พูดแบบนี้ไม่ชัด ไม่น่าใช่

ถ้าเขาพูดมาแบบนี้ก็ต้องรอดูหลักฐาน ต้องเอาหลักฐานมาว่ากันว่าจริงหรือเปล่า เรื่องแบบนั้นพูดลอยๆไม่ได้นะ มันมีเรื่องความเสียหายองค์กรเขา เสียหายไปอีกหลายคน มันไม่ใช่มาพูดว่าที่นี่ที่นั่น เราพูดเป็นกลางที่สุดไม่ได้ข้างใดข้างหนึ่ง เราตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแบบนี้

ด้าน มดดำ กล่าวว่า ไม่เห็นมีใครติด ตุ๊กกี้ก็ไม่ติด พูดกันตรงๆ เวิร์คพอยท์ตรวจทุกวัน ตรวจหนักกว่าเราอีก ทั้งแรพิดฯ ทั้งพีซีอาร์ถามว่าบริษัททุกที่มีคนติดกันทั้งนั้น ใครติดก็แยกรักษา แต่ติดคลัสเตอร์ 40 คนต้องมีข่าวหรือเปล่า ดาราติดคนหนึ่งมีใครไม่รู้บ้าง องค์กรเขาเป็นตลาดหลักทรัพย์เขาฟ้องได้นะ
#3699
นาฬิกานับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า-ถอยหลัง 

LED Count Down Timer ตัวเลขขนาด 10 cm x 6 cm

นาฬิกาจับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง

- LED Count Down Timer 
- แถมรีโมทไร้สาย คู่มือภาษาไทย 
- ขนาด : ยาว 70 cm. สูง 16 cm. หนา 4 cm. 
- ใช้จับเวลาตามโรงยิม,สนามมวย,โรงงาน,สนามชนไก่ เป็นต้น
- ใช้ไฟ220 v
- มีรีโมทพควบคุมไร้สาย
- รับประกัน1ปี

ติดตอสอบถาม
โทร 094-5102033 
line@ : @gentech
Facebook : Gentechshop


#3700



ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชัน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนในครึ่งปีหลัง 2021 พร้อมเผยถึงความก้าวล้ำของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ชี้ให้เห็นชัดว่ารูปแบบใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

งาน Samsung Galaxy Unpacked เมื่อเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา ดร. ทีเอ็ม โรห์ ได้นำเสนอกลยุทธ์และความมุ่งมั่นในการส่งมอบสมาร์ทโฟนอันทรงประสิทธิภาพแก่ผู้คนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราต้องการเทคโนโลยีที่ดีเพื่อการดำเนินชีวิตที่สะดวกและง่ายขึ้น จนถึงวันนี้ โลกกำลังขับเคลื่อนไปในหลากหลายรูปแบบ ทำให้ทุกคนต่างเริ่มมองหาอิสรภาพและโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

ในปีที่ผ่านมา ซัมซุงได้ร่วมมือกับพันธมิตรอันแข็งแกร่ง ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานที่ลื่นไหลไร้รอยต่อ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวและความฉลาดล้ำยิ่งกว่าที่เคย และเชื่อว่าการสร้างระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) จะเป็นทางเดียวที่จะเร่งกระบวนการการสร้างนวัตกรรม ให้ผู้คนมีอิสระในการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองมากที่สุด


ครั้งนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าเดิม โดยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง


"ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทุกท่านจะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง" ดร.ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชั่น ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว

เปิดประตูสู่โลกใหม่ด้วยซัมซุง กาแลคซี่

เขา บอกว่า โลกในปัจจุบันต้องการเทคโนโลยีที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากหลายและง่ายดายยิ่งขึ้น "ผู้คน" คือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่แบรนด์ทำ เรารับฟังทุกความคิดเห็นของผู้ใช้เพื่อให้มั่นใจว่าดีไวซ์รุ่นใหม่เป็นนวัตกรรมที่มีความหมาย และเติมเต็มการใช้ชีวิตด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็น กล้องระดับมืออาชีพ หน้าจอที่ให้ภาพคมชัด สมจริง แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน หรือแม้กระทั่งระบบการรักษาความปลอดภัยอันแข็งแกร่ง ที่สะท้อนให้เห็นได้ว่า ซัมซุงมุ่งเน้นที่จะมอบสิ่งที่ผู้คนต้องการอย่างแท้จริง

ระหว่างทางของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เราได้ค้นพบมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ อย่าง Samsung Galaxy Fold โดยหลังจากการส่งรุ่นแรกสู่ตลาด เราไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะเรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ดังที่ทุกคนคงได้เห็นใน Galaxy Z Fold2 และ Galaxy Z Flip ที่มาพร้อมจำนวนหน้าจอที่เพิ่มขึ้น

รวมถึงฟีเจอร์อันหลากหลายที่ผู้ใช้รักและชื่นชอบ โดยทางซัมซุงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบอกว่าสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ของซัมซุงในเจเนอเรชันที่ 3 นี้จะเป็นการเปิดประตูสู่โลกใหม่ของการใช้งานแบบมัลติทาส์กกิ้ง (Multitasking) ที่มาพร้อมกับความแข็งแรงทนทานที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

ดินหน้าขยายพันธมิตรเพื่อมอบที่สุดแห่งประสบการณ์

การร่วมมือกับพันธมิตร คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากโดยเฉพาะในโลกแห่งการเชื่อมต่อที่หลายคนมองหาระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) ที่มาพร้อมประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัย สำหรับซัมซุงแล้ว นโยบาย "การเปิดกว้าง" และ "ความปลอดภัย" เป็นสองสิ่งที่อยู่คู่กันเสมอ

การจับมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Google และ Microsoft ช่วยให้สามารถส่งมอบเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ปลอดภัยและพร้อมสำหรับการใช้งานในโลกที่เชื่อมต่อกันได้ทุกที่ทุกเวลา โดยซัมซุงยังคงเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัย เพื่อทำหน้าที่ดูแลอุปกรณ์และข้อมูลของผู้ใช้ในทุกขั้นตอน ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการแอปพลิเคชัน ข้อมูล และความเป็นส่วนตัว เพื่อออกแบบประสบการณ์ในแบบฉบับของตัวเองโดยไม่ต้องกังวลด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

การได้ร่วมงานกับพันธมิตร ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาแพลทฟอร์มบนอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ ที่ซัมซุงได้พัฒนาร่วมกับ Google ซึ่งนอกจากแอปพลิเคชันที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง Samsung Health และ SmartThings แล้ว ยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ อีกมากมายบน Google Play Store อีกทั้งอินเทอร์เฟซบนหน้าปัดของ One UI Watch ใหม่นี้ยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในตระกูลกาแลคซี่ เพื่อมอบการเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างกาแลคซี่วอทช์และสมาร์ทโฟนซัมซุง

ที่สำคัญ เรายังร่วมงานกับ Google เพื่อยกระดับอีโคซิสเต็มของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ด้วยแอปพลิเคชันและบริการยอดนิยม ทั้งนี้ สำหรับ Galaxy Z เจเนอเรชันที่ 3 เราได้รวบรวมแอพพลิเคชันมากมายจากเหล่าพันธมิตรที่จะช่วยดึงประสิทธิภาพอันรอบด้านของรูปทรงสมาร์ทโฟนในซีรีส์นี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอลแบบแฮนด์ฟรีผ่าน Google Duo การดูวิดีโอด้วย Flex Mode บน YouTube หรือการมัลติทาส์กกิ้งใน Microsoft Teams เพื่อผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่เหนือชั้นและราบรื่นกว่าที่เคย

ยุคใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนมาถึงแล้ว

สมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold ที่กำลังจะเผยโฉมในครั้งนี้ ได้ผสานสุดยอดนวัตกรรมที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่อย่างสิ้นเชิง พลิกโฉมรูปแบบการทำงาน การเชื่อมต่อสื่อสาร และการสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมดีไซน์ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันและทนทาน ด้วยวัสดุที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และนั่นทำให้เราเชื่อว่า อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์ด้านเทคโนโลยียุคใหม่แห่งนวัตกรรมสมาร์ทโฟน

เราได้สร้างมาตรฐานใหม่และบุกเบิกโลกที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้กับผู้ใช้จำนวนมากขึ้น เราหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy Z และแชร์โมเมนต์ที่น่าทึ่งร่วมกันกับเรา ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกของปากกา S Pen ที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้โดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการนำฟีเจอร์อันโดดเด่นของ Galaxy Note มาสู่อุปกรณ์รุ่นอื่นๆ ของซัมซุง แทนการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy Note รุ่นใหม่ในช่วงเวลานี้