• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Panitsupa

#3641


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานการประชุมติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน มอบเช็คชําระหนี้ และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่เกษตรกร จังหวัดชุมพร ณ โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดําริ ตําบลบางลึก อําเภอเมือง จังหวัดชุมพร ว่า ประกันรายได้ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์และเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยได้มีการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ตัว คือ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ตอนนี้ปาล์มน้ำมันราคาเกินกว่ารายได้ที่ประกันไว้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะมาตรการที่ช่วยกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาล วันนี้ทะลุ 7 บาท ถึง 7.20 บาทแล้ว

ส่วนยางพารา มีปัญหาอยู่ตัวเดียว คือ น้ำยาง ราคาลงเหลือกิโลกรัมละ 40-50 บาทในบางช่วง ราคาต่ำกว่ารายได้ที่ประกันไว้ ที่กิโลกรัมละ 57 บาท เพราะน้ำยางส่วนมากนำไปทำถุงมือยาง แต่เกิดปัญหาโควิด-19 ที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตถุงมือยางมากประเทศหนึ่งของโลก การรับซื้อที่มาเลเซียมีปัญหา เพราะโรงงานผลิตถุงมือยางปิดตัวบางส่วน

ทั้งนี้ ยืนยันว่านโยบายประกันรายได้จะเป็นหลักประกันให้พี่น้อง เช่น ปาล์มน้ำมัน ถ้าราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท เกษตรกรจะมีรายได้ 2 ทาง จากราคาที่ขายในตลาดและเงินส่วนต่าง รวมกันจะเท่ากับรายได้ที่ประกัน
ซึ่งขณะนี้โครงการประกันรายได้เกษตรกรกำลังจะจบปี 2 เหลืองวดสุดท้ายและเราจะเดินหน้าประกันรายได้ปาล์มน้ำมันปี 3 ต่อไป

สำหรับยางพารา ได้ประกันรายได้มาแล้ว 2 ปี ปีนี้จะเป็นปีที่ 3 การยางแห่งประเทศไทยทำเรื่องถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และส่งเรื่องมาที่ตนเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติแห่ง ซึ่งจะมีการประชุมในเร็ว ๆ นี้ แล้วจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เริ่มก่อตั้งในสมัยชวน 2 (นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ) และตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งข้อ 1 จะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรที่เป็นหนี้และเอาที่ดินทำกินหรือสินทรัพย์ไปจำนองกับสถาบันการเงิน ถ้าไม่ไปผ่อนชำระตามกำหนดสถาบันการเงินจะยึดที่ดินขายทอดตลาด และฟ้องร้องดำเนินคดี กองทุนฟื้นฟูเกิดขึ้นเพื่อช่วยพี่น้องที่เป็นหนี้ไม่ให้ถูกยึดที่ทำกินและไม่ต้องให้สถาบันการเงินมาฟ้องดำเนินคดีโดยจะช่วยรับซื้อหนี้จากสถาบันการเงิน โอนหนี้มาเป็นของกองทุนแทนและมาผ่อนชำระกับกองทุนแทนสถาบันการเงิน โดยเงื่อนไขพิเศษผ่อนปรน 1.ไม่มีดอกเบี้ย 2.ไม่มีการยึดที่ดินทำกินเพราะต้องการช่วยให้มีที่ดินทำกินต่อไป ถ้าผ่อนหมดกองทุนฟื้นฟูจะคืนโฉนดให้กับพี่น้อง

"วันนี้ที่จังหวัดชุมพร มามอบโฉนดหรือออกประกาศนียบัตรให้กับผู้ที่ไม่มีโฉนดแต่ผ่อนหมดแล้วกับกองทุนฟื้นฟู จำนวน 86 ราย ประกอบด้วยผู้ที่ได้โฉนด 18 รายและที่เหลืออีกจำนวนหนึ่งที่กองทุนซื้อหนี้จากสหกรณ์หรือกลุ่มสหกรณ์ให้มาเป็นหนี้กองทุนเมื่อผ่อนหมดคืนที่ดินคืนหลักทรัพย์ให้ ขอแสดงความยินดีกับพี่น้อง และประกาศว่าเราจะเดินหน้าทำต่อไป"

อย่างไรก็ตาม เมื่อพี่น้องเป็นไทกับตัวเองแล้ว เรามีภารกิจ มีงบประมาณจัดให้กลุ่มเกษตรกรกลุ่มที่น้องไปฟื้นฟูเกษตรกรไปทำอาชีพทำโครงการต่างๆ ตามที่ร้องและกองทุนเห็นสมควร โดยวันนี้มีการทำโครงการฟื้นฟูจำนวน 4 โครงการ โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรช่วยดูแลพัฒนาทั้งการผลิตและการตลาด เรื่องปาล์มน้ำมัน 2 โครงการ ยางพารา 1 โครงการ และทำปศุสัตว์อีก 1 โครงการ รวมวงเงิน 3,600,000 บาท ขอให้ใช้เงินจำนวนนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตนได้นำกระทรวงพาณิชย์มาช่วยด้วย เพราะบางที่มีแต่โครงการผลิตให้กระทรวงพาณิชย์มาจับมือกับกองทุนฟื้นฟู ภายใต้ "กองทุนฟื้นฟูผลิตพาณิชย์ตลาด" ทำในสิ่งที่ตลาดต้องการ จะทำให้พี่น้องมีอนาคตมากขึ้น

สำหรับภาพรวมทั้งประเทศ เราสามารถดำเนินการตั้งแต่ปี 2540 สมัยรัฐบาลชวน 2 รวม 7,300 ล้านบาทที่ช่วยเหลือในทุกรูปแบบ มีเกษตรกรได้รับการช่วยเหลือซื้อหนี้ไปแล้วประมาณ 30,000 ราย
#3642
สำหรับการใช้งานเครื่องจักรมักจะมีความเกี่ยวข้องกับระบบลมอัดหรือระบบนิวแมติกส์ ซึ่งมักจะมีเครื่องมือที่เกี่ยวข้องมากมายก่ายกอง อย่างเช่น วาล์วต่างๆเครื่องอัดลม เครื่องระบายความร้อนของลม ตัวกรองลม กระบอกสูบและวัสดุอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมาย โดยระบบนิวแมติกส์นี้เกี่ยวกับลมหรืออากาศโดยตรง เมื่อมีการใช้งานไปเรื่อยๆก็มักจะต้องเอามาทำความสะอาด เหตุเพราะอากาศภายนอกก็เต็มไปด้วยเขม่า ควัน ผงและก็ฝุ่นต่างๆที่มีความสกปรกและก็สิ่งสกปรกจากภายในเครื่องจักรเองอย่างสนิมหรือเศษสิ่งของอื่นๆซึ่งอาจส่งผลให้เครื่องจักรของเรา ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การติดตั้งอุปกรณ์ช่วยกรองอากาศก็จะยิ่งทำให้เครื่องจักรสามารถดำเนินการได้เต็มความสามารถมากขึ้น





ในการดำเนินการของระบบนี้ เริ่มจากตั้วปั๊มลมจะส่งลมอัดไปที่เครื่องระบายความร้อนไปสู่ชุดกรองลมที่เราทำการติดตั้ง ไปสู่วาล์วต่างๆไม่ว่าจะเป็นโซลินอยด์วาล์ว วาล์วเปลี่ยนทิศทางลม วาล์วบังคับความเร็ว วาล์วลดความดันแล้วก็อื่นๆอีกมากมาย ไปสู่กระบอกลมหรือมอเตอร์ต่างๆโดยเครื่องมือชุดกรองลม 1 ชุดที่พวกเราติดตั้งไปนั้นก็มีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นแบบตอนเดียว แบบ 2 ตอนหรือแบบ 3 ตอนซึ่งในแต่ละแบบก็จะมีวัสดุอุปกรณ์ที่ต่างกัน ดังต่อไปนี้
–แบบตอนเดียว ประกอบด้วย ตัวกรองลม ตัวปรับแรงดันลมและตัวจ่ายน้ำมันหล่อลื่น
–แบบ 2 ตอน ประกอบด้วย ตัวกรองลม ตัวปรับแรงดันลม ตัวจ่ายน้ำมันหล่อลื่น เกจวัดความดัน ตัวหมุนปรับแรงดัน (ขนาดเล็ก) รูลมเข้า รูลมออก วาล์วเดรนน้ำ ตัวหมุนปรับอัตราการจ่ายน้ำมันแล้วก็ถ้วยสำหรับเติมน้ำมัน
–แบบ 3 ตอน ประกอบด้วย ตัวกรองลม ตัวปรับแรงดันลม ตัวจ่ายน้ำมันหล่อลื่น เกจวัดความดัน ตัวหมุนปรับแรงดัน (ระหว่างรูลมเข้าและก็ออก) รูลมเข้า รูลมออก วาล์วเดรนน้ำ ตัวหมุนปรับอัตราการจ่ายน้ำมันและก็ถ้วยสำหรับเติมน้ำมัน





โดยสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยกรองอากาศหรือชุดกรองลมเข้าไปในเครื่องจักรนั้นควรติดตั้งใกล้กับอุปกรณ์นิวแมติกส์ต่างๆซึ่งอาทิเช่น กระบอกลม มอเตอร์ลมหรือหัวขับลมให้ได้มากที่สุดเพื่อที่ให้การติดตั้งเกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยในการจัดตั้งมีข้อควรคำนึงดังนี้
–ควรจัดตั้งให้อยู่ในระดับความสูงที่เหมาะสมหรือมีพื้นที่ให้สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้สะดวก
–ควรจัดตั้งให้สะดวกต่อการปรับแรงดันหรือเติมน้ำมันหล่อลื่นได้สะดวก
–ควรจะจัดตั้งในพื้นที่ซึ่งสามารถเห็นเกจวัดแรงดันได้สะดวกรวมทั้งอ่านค่าได้อย่างเห็นได้ชัด
–ไม่ควรจัดตั้งในจุดยึดที่ไม่แข็งแรง พื้นที่ที่ความลาดเอียงหรือใกล้บริเวณที่มีการสะเทือนสูงๆ
–ไม่ควรจัดตั้งโดยการเดินท่อในทิศทางขึ้น เพราะเหตุว่าละอองน้ำจะไม่สามารถขึ้นไปได้





นอกจากประโยชน์ที่เราได้จากการใช้งานเครื่องจักรที่เราจำเป็นต้องคำนึงถึงแล้ว การบำรุง ดูแลและก็รักษาก็เป็นเรื่องที่ควรจะคำนึงถึงด้วยเช่นกัน เพราะว่าจะช่วยให้สามารถต่ออายุการใช้งานของเครื่องจักรออกไปให้สามารถใช้งานได้นานแล้วก็คุ้มค่ามากขึ้น
#3643


ทุเรียน!ราชาแห่งผลไม้ไทย พืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้ประเทศไทยมายาวนาน กำลังถูกพัฒนาต่อยอดเชิงนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ Local Fruit นี้ก้าวสู่อินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ "ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว" ภายใต้การปลุกปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่แห่ง "ทิพย์สุรัตน์"

"ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน ส่วนใหญ่ชื่นชอบรับประทานทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ไทย เราจึงมองเห็นโอกาสในการนำสกินแคร์ทุเรียนเข้าไปรุกตลาดเหล่านี้ เพราะมีความคุ้นเคยกับทุเรียนอยู่แล้ว เชื่อว่าจะช่วยให้เปิดรับผลิตภัณฑ์ได้ไม่ยาก"

เป็นโจทย์ตั้ง! ที่มองทะลุถึงโอกาสกว้างใหญ่ไพศาล ของนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่าง นพรุจ ธนภัทรชัยทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิพย์สุรัตน์ จำกัด ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว (Durrianar By SQ) 

นพรุจ เล่าว่า  ด้วยภูมิลำเนาของตน เป็นคนจังหวัดระยอง จึงเห็นโอกาสในการนำทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ชื่อดังของท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอด!  

"ทุเรียนเป็นผลไม้ขึ้นชื่อประจำจังหวัด จึงเริ่มมองการต่อยอด ด้วยการศึกษาผลไม้ท้องถิ่นตัวนี้ลงลึก เพื่อนำประโยชน์ที่มีมากกว่าเพียงนำไปรับประทานเป็นผลไม้ อาหาร ขนม หรือผลไม้แปรรูป เท่านั้น"

"ทุเรียน" นับเป็นราชาแห่งผลไม้ไทย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมายาวนาน หากมีการศึกษา ค้นคว้า วิจัยอย่างจริงจัง เชื่อว่าจะต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับทุเรียน ซึ่งเป็น Local Fruit ของประเทศไทย สร้างเป็น International Product ให้ราชาแห่งผลไม้ของไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้นได้ไม่ยาก!

จากจุดเริ่มต้นเมื่อปลายปี 2561ด้วยแนวคิดนำสารสกัดหรือประโยชน์จากทุเรียน นำมาพัฒนาต่อยอดเป็น "เครื่องสำอางประเภทสกินแคร์"  จึงได้เชิญ ผศ.ดร.จิราภรณ์ ทองตัน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เป็นที่ปรึกษาในการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจากสารสกัดทุเรียนเบื้องต้น เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอจดสิทธิบัตร รวมถึงอยู่ระหว่างการขอทุนวิจัย เพื่อขยายผลการศึกษาเชิงลึกและควบคุมคุณภาพของสารสกัดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

เป็นที่มาของการแจ้งเกิดนวัตกรรมสกินแคร์ทุเรียนภายใต้แบรนด์ "ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว"  ประเดิมด้วยการเปิดตัวแผ่นมาส์กบำรุงผิวหน้า เมื่อต้นปี 2562 จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัท ก่อนเปิดบูธแนะนำสินค้าที่ประเทศจีน มีการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวจีน จากนั้นจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ออกมาเสริมทัพในเวลาต่อมา

แจ้งเกิดแบรนด์สกินแคร์ทุเรียน 'ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว'  บุกตลาดจีน-อาเซียน

"สารสกัดจากทุเรียนของ ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว ใช้เทคโนโลยีและวิทยาการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางสกัดสารจาก King of Fruit เพื่อพัฒนาเป็น Queen of Beauty คือเป้าหมายใหญ่!!" 

โดยสารสกัดจากยอดอ่อนของทุเรียนที่ผ่านกรรมวิธีสกัดเย็น เพื่อรักษาคุณสมบัติและประสิทธิภาพของสาร Bioactives ถือว่าเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว พร้อมจุดขาย กลิ่นหอมของดอกทุเรียน ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะไม่มีกลิ่นทุเรียนแต่อย่างใด เป็นอีกเรื่องสำคัญที่อยู่ระหว่างวิจัยเพื่อพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง

แบรนด์ ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว ใช้ยอดอ่อนทุเรียนที่นำมาจากสวนจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นสวนเกษตรปลอดภัย โดยคนรุ่นใหม่ที่เป็น "Young Smart Farmer" ใช้เครื่องจักร และเทคโนโลยีต่าง ๆ ในการควบคุมทุกขั้นตอน รวมถึงลดการใช้แรงงาน และสารเคมี ส่งผลให้ได้ต้นทุเรียนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและปลอดภัย เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการในผลิต

ปัจจุบัน ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว มีสินค้า 7 รายการ ประกอบด้วย 3 กลุ่ม "Age Care Cream" ป้องกันริ้วรอย "Whitening Cream" เพื่อผิวขาว และ "Anti acne" ป้องกันสิว 

แจ้งเกิดแบรนด์สกินแคร์ทุเรียน 'ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว'  บุกตลาดจีน-อาเซียน

โปรดักท์หลักที่ได้รับความนิยม คือ แผ่นมาส์กบำรุงผิวหน้า "โกลเด้น ดูเรียน เฟเชียล มาส์ก" และคลีนซิ่งเช็ดหน้า "เอ็กซ์ตร้า เจนเทิล เอชทูโอ คลีนซิ่ง" สูตรน้ำ โดยหลังจากนี้จะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาสร้างความหลากหลาย วางเป้าหมายเจาะลูกค้าทุกช่วงวัยสามารถใช้ได้! ไม่ว่าจะวัยรุ่น กลุ่มอายุ 30 ขึ้นไป 

"โอกาสการเติบโตในตลาดเครื่องสำอางกว้างมาก และ Story telling ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว จะเป็นตัวชูโรงทำให้กลุ่มผู้ใช้มีความสนใจและหันมารู้จักกับเครื่องสำอางจากทุเรียน ที่ผลิตโดยคนไทยรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่จำหน่ายในต่างประเทศ"

การทำตลาดในไทย ปัจจุบันจำหน่ายผ่านช้อปปิ้งออนไลน์ ได้แก่ ช้อปปี้ เจดีเซ็นทรัล และเตรียมวางจำหน่ายในลาซาด้า นอกจากนี้ มีช่องทางออนไลน์ของบริษัท ผ่านเฟซบุ๊ก DurrianarTH/ รวมถึงวางจำหน่ายในคิงเพาเวอร์ ตั้งแต่ปี 2563  เป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ

"ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว มุ่งบุกตลาดต่างประเทศ โดยวางขายในคิง เพาเวอร์ และเข้าไปเปิดบูธในจีน พร้อมๆ กับการขยายตลาดในไทยที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างมากในช่องทางอีคอมเมิร์ซ ปีนี้จึงเริ่มวางขายสินค้าผ่านชอปปิงออนไลน์มากขึ้น และจะมีการปรับแพกเกจจิ้งของสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยโดยเฉพาะด้วย"

นพรุจ กล่าวต่อว่า บริษัทได้จด "เทรดมาร์ก" ทั้งในไทยและต่างประเทศมากกว่า 10 ประเทศ อาทิ จีน และเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมา ลาว รองรับแผนโกอินเตอร์ โดยตลาดหลักอย่าง "จีน" ได้นำสินค้าเปิดตลาดผ่าน ทีมอลล์ (www.tmall.com) เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่ในเครืออาลีบาบา ตั้งแต่เดือนก.ค. ถือเป็นโอกาสสำคัญในการแนะนำแบรนด์ ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว สู่ตลาดใหญ่มหาศาลทั้งมีความได้เปรียบจาก "ทุเรียน" ซึ่งเป็นผลไม้ที่คนจีนชื่นชอบเป็นอย่างมากอยู่แล้ว

ภายในสิ้นปีนี้ เตรียมเปิดตลาด "เวียดนาม"  ต่อเนื่อง และอนาคตตั้งเป้าขยายตลาดภูมิภาคอาเซียน ผ่านพันธมิตรคู่ค้าในแต่ละประเทศ ซึ่งมีความเข้าใจในสภาพตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศนั้น ๆ

"ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน ส่วนใหญ่ชื่นชอบรับประทานทุเรียน เป็นโอกาสสำคัญของสกินแคร์ทุเรียน และ แบรนด์ ดูร์เรียนาร์ บาย เอสคิว ก้าวสู่การเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ เป็นหนึ่งในโปรดักท์สร้างชื่อให้ประเทศไทย"
#3644


วันที่ 11 กันยายน 2564 ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตซอลโลก จัดการประชุมผู้จัดการทีมเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการแข่งขัน ฟุตซอลโลก รอบสุดท้าย กลุ่ม ซี ที่ประกอบไปด้วย ทีมชาติไทย, โปรตุเกส, โมร็อคโค และ หมู่เกาะโซโลมอน ผ่านระบบวีดีโอ คอนเฟอเรนซ์

สำหรับ ผลการประชุมมีดังนี้

- นัดแรก​ ทีมชาติไทย จะลงสนามด้วยเสื้อสีกรมท่า​ กางเกงสีกรมท่า และถุงเท้าสีกรมท่า ในเกมที่จะพบกับ ทีมชาติโปรตุเกส​ ที่ใส่เสื้อแดงกางเกงเขียว

- นัดที่สอง​ ทีมชาติไทย จะลงสนามด้วยเสื้อสีกรมท่า​ กางเกงสีกรมท่า และถุงเท้าสีกรมท่า ในเกมที่จะพบกับ ทีมชาติโมร็อคโค​ ที่ใส่เสื้อแดง​ กางเกงเขียว

- นัดที่สาม​ ทีมชาติไทย จะลงสนามด้วยเสื้อสีแดง กางเกงสีแดง และถุงเท้าสีแดง ในเกมที่จะพบกับ ทีมชาติหมู่เกาะโซโลมอน​ ที่ใส่เสื้อสีเหลือง​ กางเกงน้ำเงิน

- นอกจากนี้ ในแต่ละแมตช์การแข่งขัน ทุกทีมจะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด​-19​ และมีผลเป็นลบ​ โดยแต่ละทีมจะสามารถส่งชื่อนักกีฬา ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง รวมกันได้ทั้งหมด 14 คน

สำหรับ ฟุตซอลทีมชาติไทย จะลงฟาดแข้งฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 ที่ประเทศลิทัวเนีย ในระหว่างวันที่ 12 กันยายน-3 ตุลาคม 2564 โดยอยู่กลุ่มซี ร่วมกับ โปรตุเกส, โมร็อกโก และ หมู่เกาะโซโลมอน

โปรแกรมการแข่งขัน ทั้ง 3 เกมของไทยในรอบแรก ถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV HD 36 (ตามเวลาประเทศไทย)

วันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 00:00 น. ไทย VS โปรตุเกส
วันที่ 16 กันยายน 2564 เวลา 00:00 น. ไทย VS โมร็อกโก
วันที่ 19 กันยายน 2564 เวลา 00:00 น. หมู่เกาะโซโลมอน VS ไทย
#3645
มาทานข้าวกล้องอินทรีย์โภชนาการสูงปลอดสารพิษตัวช่วยคุณแม่ตั้งครรภ์ ข้าวที่มีโภชนาการสูง
ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ข้าวหอมมะลิแท้สุรินทร์    กลุ่มข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย การรับประทาน "#ข้าวกล้อง" (ข้าวสุขภาพสุรินทร์) นอกจาก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคคือ จะส่งผลดีโดยตรงต่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วยังส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย ข้าวกล้องออแกนิคถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงานต่อร่างกายในการใช้พลังงานต่อวันของเรา คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีความต้องการสารอาหารจาก ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่มากกว่าคนปกติ เพราะต้องน้ำสารอาหารที่จำเป็นหลายๆส่วนไปใช้ในการสร้างพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารกถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ อีกตัวช่วยหนึ่ง เนื่องจาก ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสี มีจมูกข้าว มีเยื่อหุ้มข้าว มีกาบา ซึ่งมีและสารอาหารต่างๆครบ ทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ซึ่งมีอะไรบ้างมาดูกัน..




1. ปัญหาหลักของคุณแม่ตั้งครรภ์ คือ ภาวะท้องผูก ข้าวกล้องมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ได้เป็นอย่างดี
ปัญหาต่อมา คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบเป็นตะคริว เมื่อคุณแม่รับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2 บรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
2. นอกจากคุณแม่จะทานยาที่คุณหมอให้สริมธาตุเหล็กมา ข้าวกล้องยังมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง จาก  ข้าวปะกาอำปึลนิลอินทรีย์
3. ในข้าวกล้อง   ข้าวมะลินิลorganic, ปลูกข้าวมะลินิลออแกนิค มีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผมของลูกและคุณแม่ที่ผมร่วงบ่อย
4. ใน  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค มีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ ป้องการให้คุณแม่ไม่เป็นโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้นอีกด้วย
5. ในข้าวกล้องมีไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ในข้าวกล้องเป็นไขมันดีที่ไม่มีคอเลสเตอรอล (Cholesterol)
6. ในข้าวกล้องมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ใน ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคคือ มีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8. ในข้าวกล้องแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมก็แข็งแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

เห็นไหมว่าข้าวกล้อง เช่น   ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์กรมการข้าว มีคุณค่าและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่และคุณลูกมากแค่ใหน เวลาเลือกซื้อข้าวกล้อง อย่าลืมเลือกซื้อข้าวกล้องอินทรีย์ เพราะทุกกระบวนการผลิตไม่มีการใช้สารเคมีดีต่อสุขภาพคุณแม่และคุณลูกอย่างปลอดภัย

เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิค   ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิคสำหรับทารก  ที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR)   รูปภาพสำหรับข้าวอินทรีย์
ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์   ทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : ข้าวเพื่อสุขภาพ
Facebook : ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวออร์แกนิค
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวออร์แกนิค  เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
2.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค
3.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง
6. ข้าวมะลินิลออแกนิก
7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิคคือ

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ #ข้าวกล้องสำหรับคนท้อง #ข้าวกล้องสำหรับคุณแม่ตั้งครภ์ #คนท้อง #ตั้งครรภ์ #ตั้งท้อง

 

 

 

 

 

 

 
 
#3646


นอกเหนือจากทำเลและราคา การบริหารจัดการโครงการและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัย เพราะสะท้อนถึงคุณภาพชีวิตตั้งแต่วันแรกที่เข้าอยู่จนถึงวันสุดท้ายก่อนขยับขยายสู่ความสำเร็จก้าวต่อไป ภารกิจของ ธนา ต่อสหะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC Expertise Meets Excellence จึงไม่ได้เสร็จสิ้นลงพร้อมกับการโอนกรรมสิทธิ์ แต่ยังต้องดำเนินต่อเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแก่เจ้าของร่วมและลูกบ้านทุกคนตลอด การอยู่อาศัยในโครงการ

หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมไฟฟ้า จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เริ่มต้นอาชีพด้วยตำแหน่งวิศวกรไฟฟ้าโทรคมนาคมในธุรกิจสำรวจและขุดเจาะน้ำมันที่ต่างประเทศถึง 2 ปี แล้วข้ามกลับมาทำงานที่ประเทศไทยในสายงาน Service Engineer ดูแลระบบเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ก่อนจะได้รับคำชักชวนให้มาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่คอนโดมิเนียมกำลังได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ซื้อขายทรัพย์กรมบังคับคดี และทรัพย์ NPA รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่ Renovation and Decoration และเฝ้ามองทิศทางการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยมาเรื่อยๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอดการลงทุนอสังหาฯ จนมาถึงการส่งมอบงานบริการด้านอสังหาฯ อย่างครบวงจร

"การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่แค่การซื้อมาขายไป ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจลูกค้าในหลายมิติมาก เราต้องเข้าใจทำเล รู้ว่าทำเลไหนน่าลงทุนและเข้าใจไลฟ์สไตล์ลูกค้า รู้ Customer Lottovip Insight เข้าใจเรื่องดีไซน์ รู้ว่าห้องต้องตกแต่งระดับไหนถึงจะสามารถขายได้ ที่สำคัญคือ การวางกลยุทธ์การตลาดและโปรโมชั่นช่วงเวลาไหนที่จำเป็น เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ และการบริการหลังการขายควรมีอะไร นักลุงทนอสังหาริมทรัพย์ต้องรู้จักบริหารจัดการพอร์ตคอนโดมิเนียมที่เราถืออยู่ในมือ เพื่อไม่ให้โอกาสกลายเป็นความเสี่ยง" ธนา อธิบาย

จากประสบการณ์ดังกล่าวทำให้ ธนาเห็นภาพของทั้งระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แม้จะข้ามเส้นทางจากอาชีพวิศวกรมาสู่อีกธุรกิจ แต่งานบริการคล้ายกับลักษณะงานที่เคยทำมาตลอดตั้งแต่แรกเริ่ม รวมกับประสบการณ์ที่ผ่านมา ทั้งการเป็นผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและซื้อลงทุน จึงไม่เป็นอุปสรรคในการต่อยอด สู่วงการอสังหาริมทรัพย์ เมื่อได้มีโอกาสเป็น Agency Partner ช่วยสร้างยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำได้อย่างต่อเนื่อง



"ไม่ว่าจะเซ็กเมนท์ไหน โดยธรรมชาติของลูกค้าต้องเลือกในสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการให้มากที่สุดเสมอ บางครั้งเราจึงต้องมีแผนสำรองเพื่อปรับบางจุดที่อาจจะไม่แมทช์กับลูกค้าให้กลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ก่อนที่เราจะเสียโอกาสนั้นไป เช่น ถ้าคอนโดมิเนียมที่เราเสนอมีครบทั้งคุณภาพ ดีไซน์ และทำเล แต่โปรโมชั่นอาจยังไม่ตรงใจลูกค้า หรือยังไม่ตอบโจทย์สภาพเศรษฐกิจขณะนั้น เราก็ต้องรีบปรับตัวแล้วเสนอในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า"

นอกจากประสบการณ์ด้านการขายโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว ธนายังเคยรับบทบาทบริหารภาพรวมธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ รับผิดชอบตั้งแต่กระบวนการขายไปจนถึงการดูแลหลังการเข้าอยู่อาศัย ก่อนจะก้าวสู่โอกาสใหม่อีกครั้งในตำแหน่งผู้บริหารที่ดูแลการขับเคลื่อนของ บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC Expertise Meets Excellence ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งให้บริการใน 6 กลุ่มธุรกิจหลักได้แก่ 1.ธุรกิจบริหารจัดการอาคาร 2.ธุรกิจนายหน้าซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ 3.ธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ 4.ธุรกิจตกแต่งและปรับปรุงที่อยู่อาศัย 5.ธุรกิจบริการด้านความสะอาด 6.ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง

โดยหนึ่งในโจทย์ที่ท้าทายคือ งานบริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร การเข้าถึงความต้องการของผู้ซื้อที่กลายมาเป็นลูกบ้านในอีกแง่ที่ต้องเข้าถึงมากขึ้น โดยเฉพาะงานด้านบริหารจัดการอาคาร (Property Management) ที่มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลคุณภาพชีวิตของลูกบ้านให้อยู่อาศัยในโครงการได้อย่างมีความสุขภายใต้การดูแลของ MDPC ทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของลูกบ้านในอนาคต ภารกิจหลักในฐานะผู้บริหารจึงเป็นการพัฒนานวัตกรรม Living Solutions อาทิ เทคโนโลยี M365 ดูแลระบบวิศวกรรมอาคารและแอปพลิเคชัน Lifescape ซึ่งตอบโจทย์ทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับการพัฒนา Essential Skills และปลูกฝัง Service Mind ในตัวตนของพนักงานทุกคนในการส่งมอบ Worry-Free Services รวมถึงธุรกิจบริการด้านความสะอาด และธุรกิจตกแต่งและปรับปรุงที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกด้านให้แก่ลูกบ้าน

"การสั่งสมประสบการณ์ในหลากหลายด้านรวมกว่า 20 ปี รวมถึงประสบการณ์ที่เคยเป็นนักลงทุนเอง ทำให้เราค่อนข้างเข้าใจความคิดของลูกค้า ดังนั้นในวันที่เราขึ้นมาเป็นคนดูแลภาพรวมทุกอย่างขององค์กร จึงพยายามต่อยอดและบอกกับทีมงาน MDPC ทุกคนเสมอว่าหัวใจสำคัญของงานบริการคือ ต้องดูแลลูกค้าทุกคนให้ดีที่สุด และเสนอให้มากกว่าความคาดหวังของลูกค้าถ้ามีโอกาส และตั้งใจที่จะสร้างรากฐานที่มั่นคงในการขับเคลื่อนองค์กร"

สำหรับบริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC Expertise Meets Excellence เป็นผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ปัจจุบัน ให้บริการใน 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจบริหารจัดการอาคาร 2.ธุรกิจนายหน้าซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ 3.ธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ 4.ธุรกิจตกแต่งและปรับปรุงที่อยู่อาศัย 5.ธุรกิจบริการด้านความสะอาด 6.ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง มีวิสัยทัศน์ในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือในการดูแลอสังหาริมทรัพย์เพื่อผู้บริโภค
#3647


ทีมโอบี ยื่นหนังสือทวงเงินค่าถ่ายทอดสดจาก บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2564 โดยทางอดีตเจ้าของลิขสิทธิ์ไทยลีกอ้างว่า รอเงินจาก ส..ฯ มูลค่ากว่า 65 ล้านบาท

หลังจากสมาคมกีฬาฟุต.ฯ ประกาศแยกทางกับ เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่ได้รับเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุต.ไทย เป็นเวลา 8 ปี ทว่า เซ้นส์ฯ ไม่สามารถวางเงินประกันได้ตามเวลาที่กำหนด ทำให้สัญญาดังกล่าวถูกยกเลิกไป

ทว่า บริษัทโปรดักชั่นหลายแห่ง ได้ส่งหนังสือทวงเงินค่าถ่ายทอดสดจากเซ้นส์ฯ หลังจากปฏิบัติงานไปเรียบร้อยแล้ว ระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2563 จนถึง เมษายน 2564 แต่ในส่วนของเงินค่าจ้างยังคงมีการค้างจ่ายในช่วงเดือน มีนาคม และ เมษายน ได้แก่ บริษัท นนท์โปรดักชั่น จำกัด จำนวน 1,622,400 บาท , บริษัท เมกเกอร์ เทเลวิชั่น จำกัด จำนวน 2,527,200 บาท , บริษัท ณภพ โปรดักชั่น จำกัด จำนวน 5,427,437.10 บาท

ซึ่ง เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ได้ชี้แจงว่า บริษัทเป็นเพียงแค่ตัวกลางในการประสานงานถ่ายทอดสดเท่านั้น ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2563 จนถึงเดือนเมษายนปี 2564 รวมทั้งสิ้น 245 แมตช์ โดยที่สมาคมฟุต.ฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมกับขอให้ เซ้นส์ฯ เป็นผู้สำรองจ่ายไปก่อน โดยจะเริ่มชำระเงินคืนทุกๆ 2 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าสมาคมฟุต.ฯ ยังไม่ได้จ่ายเงินคืนแม้แต่งวดเดียว ซึ่งเซ้นส์ได้มีการทวงถามทั้งทางจดหมายและโทรศัพท์ไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจนว่าจะจ่ายเงินค่าถ่ายทอดจำนวน 65 ล้านบาทเมื่อไหร่
#3648


ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต โดยเจ้าของโครงการคือ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ออกแบบโดย บริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเต็คส์ จำกัด ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะสร้างไอคอนสยามให้เป็นศูนย์รวมทุกมิติของภูมิปัญญาคนไทย ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลก ได้ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 4 ศูนย์การค้าที่ดีที่สุดของโลก บนเวทีประกวดอสังหาริมทรัพย์ MIPIM Awards 2021 ซึ่งเป็น Global Awards ที่มีมานานกว่า 30 ปี เมื่อวันที่ 8 กันยายน ณ เมืองคานส์ (Cannes) ประเทศฝรั่งเศส โดยนับว่าเป็นครั้งแรกของโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกจากประเทศไทยที่ได้รับเกียรตินี้

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ ผู้บริหารไอคอนสยาม กล่าวว่า "ไอคอนสยามเป็นโครงการที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมที่สุดของความเป็นไทยมานำเสนอให้คนทั่วโลกได้สัมผัสและชื่นชม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Co-creation" และ "Creating Shared Lottovip Value" โดยได้รวมพลังคนไทยจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันสร้างสรรค์โครงการที่มอบคุณค่าและการสมประโยชน์ให้เกิดแก่ชุมชนและบรรดาธุรกิจต่างๆ ที่รายล้อมสังคม และประเทศชาติเป็นวงกว้าง ซึ่งแม้วิกฤตการณ์โควิด-19 ได้ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปได้อย่างยากลำบากเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ ไอคอนสยามก็ยังคงยึดมั่นในปณิธานที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ชุมชน และผู้คนให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ การที่ไอคอนสยามได้รับคัดเลือกจาก MIPIM Awards 2021 ให้เป็นโครงการแรกจากประเทศไทยที่ได้ขึ้นทำเนียบ 1 ใน 4 ศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลกครั้งนี้ นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่จะส่งพลังใจให้แก่ผู้ประกอบการในวงการค้าปลีก และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนจากต่างประเทศได้ตระหนักถึงศักยภาพของคนไทย และประเทศไทย"



ไอคอนสยามติด 1 ใน 4 ศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลกจากจำนวนผู้เข้าแข่งขัน 172 โครงการจาก 36 ประเทศ และถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกแรกในประเทศไทยที่ได้รับเกียรติจาก MIPIM Awards ซึ่งเป็นเวทีประกวดโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกที่มีมานานกว่า 30 ปี และได้รับการยกย่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากทั่วโลกให้เป็นรางวัลออสการ์แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ 

ด้วยวิสัยทัศน์ในการทำโครงการแนวใหม่ของไอคอนสยามที่ถือกำเนิดจากความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งแห่งยุคจากผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่างๆ ทั่วโลกรวม 15 ชาติ และผู้เชี่ยวชาญคนไทยจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก วิศวกร ศิลปิน ช่างฝีมือ ผู้นำชุมชนจากหลายจังหวัดทั่วไทย รวมถึงภาครัฐและภาคเอกชน ประชาสังคม ตลอดจนผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 1,000 ราย เพื่อสร้างโครงการที่เสนอที่สุดแห่งความเป็นไทยภายใต้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ทั้งยังเป็นโครงการที่ถูกวางรากฐานให้ส่งต่อประโยชน์ และความเจริญรุ่งเรืองไปสู่ชุมชนและธุรกิจที่รายล้อมอย่างมหาศาล เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นโครงการที่มีศักยภาพเป็นที่ยอมรับนับถือระดับโลก



ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดให้บริการเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ไอคอนสยามได้รับรางวัลชนะเลิศแล้วถึง 13 รางวัลในสาขาต่างๆ จากเวทีชั้นนำของโลกมาเป็นลำดับ เช่น รางวัล โครงการที่ออกแบบดีที่สุดในโลก หรือ Best Design of the Year จาก World Retail Awards 2019 โดยสภาการค้าปลีกโลก และรางวัลชนะเลิศ สาขาศูนย์การค้าที่ดีที่สุด จากเวที MAPIC Awards 2019 เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส และรางวัล VIVA Best-of-the-Best Awards 2020 ในฐานะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกดีที่สุดในโลก จาก International Council Shopping Centers เป็นต้น

"กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ยึดมั่นในการเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่มุ่งจะสร้างปรากฏการณ์แรกในมิติต่างๆ ให้เกิดขึ้นเพื่อมอบให้แก่คนไทยและประเทศไทย วิสัยทัศน์ของสยามพิวรรธน์คือการนำศักยภาพของคนไทย และประเทศไทยไปชนะบนเวทีโลกและชนะใจคนทั้งโลก เราได้ก้าวข้ามการแข่งขันในประเทศไปสู่การยอมรับนับถือบนเวทีโลกได้สำเร็จ ทุกโครงการของเราคว้ารางวัลชนะเลิศ global awards มากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสิ้นนี้เป็นพลังใจให้เรามุ่งมั่นเดินหน้าที่จะทำโครงการที่มอบความประทับใจเหนือความคาดหมาย สร้างความสำเร็จอันยั่งยืนให้แก่บรรดาผู้ประกอบการที่ฝากอนาคตไว้กับเรา รวมทั้งส่งมอบประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติสืบต่อไป" นางชฎาทิพ กล่าวปิดท้าย



ไอคอนสยาม ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่หลักในการจัดงาน countdown ปีใหม่ของประเทศไทยติดต่อกันมาถึง 3 ปี ได้มอบประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจและมอบความสุขให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนตลอดมา ในวันนี้ไอคอนสยามพร้อมแล้วหลังจากรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ที่จะนำเสนอสินค้าและประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แบรนด์ชั้นนำของไทยและทั่วโลกมากมายที่ได้เปิดกิจการเพิ่มเติมท่ามกลางวิกฤตโควิดในปีนี้บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตรเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ เช่น

• ร้าน Starbucks Reserve Chao Phraya Riverfront (สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เจ้าพระยา ริเวอร์ฟรอนต์) เป็นร้านกาแฟสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยพื้นที่ 1,260 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบเพื่อส่งมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่มีชีวิตชีวา ท่ามกลางกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทย

• ร้าน MUJI เปิดสาขาใหม่บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 1,300 ตารางเมตร ครบครันด้วยทุกกรุ๊ปไอเท็มสินค้ากว่า 6,193 รายการ และครบทุกบริการ เช่น Labo รวมเสื้อผ้าที่ใช้ได้ทุกโอกาส โซนอาหารท้องถิ่นและของดีหารับประทานยากทั่วประเทศไทย และมี MUJI Coffee Corner ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายพร้อมมอบความสุขกับการดื่มกาแฟด้วยเมล็ดกาแฟจากดอยตุง อีกทั้งมีบริการปรึกษาออกแบบภายในอีกด้วย

• Great Wall Motors บริษัทผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและไฮบริดจากประเทศจีนที่จะมาเปิด Experience Center ครั้งแรกในประเทศไทยบนพื้นที่ถึงสองชั้น ขนาดพื้นที่ 1,638 ตารางเมตร

• Mega HarborLand สนามเด็กเล่นในร่มที่ได้มาตรฐานระดับโลกบนพื้นที่ 4,438 ตารางเมตร ออกแบบโดยบริษัทผู้ผลิตเครื่องเล่นชั้นนำของโลก ในคอนเซ็ปต์สนุกสนาน Little Thailand โดยมีกำหนดเปิดมกราคม 2022



รวมทั้งการกลับมาของสุขสยาม พื้นที่รวมสุดยอดอาหารจากทั่วไทยและผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจาก 77 จังหวัด ไอคอนสยามได้เตรียมโปรโมชันเพื่อช่วยส่งเสริมการขายให้แก่บรรดาร้านค้าเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อีกด้วย

เกี่ยวกับรางวัล MIPIM Awards
The MIPIM Awards เป็นเวทีประกวดระดับโลกด้านอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1991 โดย The MIPIM Awards ได้รับการยกย่องให้เป็นเสมือนรางวัลออสการ์ของวงการอสังหาริมทรัพย์ในระดับโลกและในภูมิภาคเอเชีย The MIPIM Awards จึงนับเป็นรางวัลเกียรติยศที่มอบแก่โครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงการค้าปลีกที่โดดเด่นและดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากการมอบรางวัลแล้ว MIPIM ยังจัดงานสัมมนาและอีเวนต์ระดับโลกด้านอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี ค.ศ.  1990 ซึ่งเป็นเสมือนงานรวมตัวของผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญทั่วโลก
#3649


น.ส.อุษาศรี เขียวระยับ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ชิคาโก สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้ติดตามสถานการณ์ตลาดธุรกิจบริการอาหารในสหรัฐฯ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้มองหาโอกาสสำหรับการส่งออกของไทย โดยพบว่าในปี 2563 มีร้านอาหารจำนวนไม่ต่ำกว่า 110,000 แห่งได้ปิดตัวเป็นการถาวร หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 15 ของจำนวนร้านอาหารทั้งประเทศ เพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่ปัจจุบันร้านอาหารได้กลับมาคึกคักเพิ่มขึ้น หลังจากผู้บริโภคได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้ยอดขายของร้านอาหารขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงความต้องการสินค้าของร้านอาหารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดสินค้าอาหารและวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารเข้าสู่ตลาดธุรกิจบริการอาหารในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ผลจากวิกฤตโควิด-19 ได้สร้างความต้องการสินค้ารายการใหม่ๆ อันเป็นผลจากการปฏิบัติในเรื่องความปลอดภัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายไวรัส โดยสินค้าที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นสูงของธุรกิจร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง คือ บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดที่ใช้หนเดียว ได้แก่ ถ้วย ชาม จาน ช้อน ส้อม มีด ถุง และกล่อง ซึ่งนำไปใช้บรรจุอาหารที่ซื้อไปรับประทานที่บ้าน

ดังนั้น ความต้องการสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หนเดียวที่เพิ่มขึ้นจะเป็นโอกาสการขยายตลาดการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐฯ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าดังกล่าวควรพิจารณาการออกแบบและปรับรูปแบบสินค้าให้มีความเหมาะสมกับประเภทอาหาร มีขนาดและความกะทัดรัด สามารถรักษาอุณหภูมิอาหาร และรวมไปถึงความปลอดภัยในการนำพาอาหาร

สำหรับช่องทางในการขยายตลาดสินค้าอาหารไทยเข้าตลาดธุรกิจบริการอาหารในสหรัฐฯ มีงานแสดงสินค้าที่ควรพิจารณา คือ NRA Restaurant Show, Chicago, Illinois www.restaurant.org/show, May 21-24, 2022, Western Foodservice & Hospitality Expo, Anaheim, CA www.westernfoodexpo.com, August 28-30, 2022 และ International Restaurant & Foodservice Show of NY, www.internationalrestaurantny.com, March 6-8, 2021
#3650


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าเกษตร (กสิกรรม ประมง และปศุสัตว์) ไปยัง 18 ประเทศที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้วย ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย เปรู ชิลี และฮ่องกง ในช่วง 7 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ค.) พบว่ามีมูลค่ารวม 11,664.8 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 75.75% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของไทย ขยายตัวถึง 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยไทยครองแชมป์เป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอันดับ 1 ในอาเซียน ตามด้วยเวียดนาม และอินโดนีเซีย

สำหรับตลาด FTA ที่มีการส่งออกขยายตัวสูง ได้แก่ เกาหลีใต้ เพิ่ม 268% เมียนมา เพิ่ม 91% อินเดีย เพิ่ม 85% ชิลี เพิ่ม 68% จีน เพิ่ม 66% มาเลเซีย เพิ่ม 51% ฟิลิปปินส์ เพิ่ม 43% ญี่ปุ่น เพิ่ม 13% และเปรู เพิ่ม 11% เป็นต้น ส่วนสินค้าเกษตรที่มีการส่งออกขยายตัว เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม 55% ยางพารา เพิ่ม 58% ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง เพิ่ม 3% ไก่แปรรูป เพิ่ม 4% เครื่องเทศและสมุนไพร เพิ่ม 147% และผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง เพิ่ม 55% โดยผลไม้สำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น ทุเรียนสด เพิ่ม 65% ลำไยสด เพิ่ม 44% มังคุด เพิ่ม 22% และมะม่วงสด เพิ่ม 52%

นางอรมนกล่าวว่า FTA มีส่วนสำคัญในการสร้างแต้มต่อทางการค้าให้แก่สินค้าเกษตรของไทยในตลาดโลก เนื่องจากประเทศไทยมี FTA ด้วย ได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกส่วนใหญ่แล้ว ทำให้สินค้าไทยได้เปรียบด้านราคาและต้นทุนทางภาษี เมื่อต้องแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่น ช่วยให้สินค้าเกษตรมีการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับสถิติการใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกสินค้าเกษตรด้วย FTA โดยเฉพาะผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และไก่แปรรูป ยางพารา และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์แนวโน้มการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในอนาคต พบว่ามีโอกาสสูงที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เพราะมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพเศรษฐกิจของตลาดส่งออกสำคัญเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ การฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และทิศทางของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2564 โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระทบต่อการส่งออกของไทยยังคงเป็นเรื่องการควบคุมแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ จึงต้องควบคุมไม่ให้กระทบต่อการผลิตของโรงงานและแหล่งผลิตสินค้าสำคัญของไทย
#3651


ก่อนหน้านี้ "แชมป์ นิตินันท์ จันทร์เดชา" นักร้องนำวง S.D.F โพสต์ใน IG ส่วนตัว เผยบันทึกข้อตกลงยกเลิกสัญญาศิลปิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 5 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา แฟนเพลงหลายคนต่างเข้ามาสอบถามว่าหมดสัญญาแล้วจะไปอยู่กับค่ายไหน ซึ่งหนุ่มแชมป์ ก็ไม่ได้เข้ามาตอบอะไร นอกจากโพสต์ขอบคุณว่า "แอบใจหายเหมือนกันนะ อยู่มา 8 ปี ต้องขอบคุณแกรมมี่มากๆ ที่คอยดูกันมาตลอด ให้เราได้มีเพลงดีๆ หลายเพลง ตลอดจนค่ายที่เราเคยอยู่ WE Records/Nevermind/Grand Musik พี่ๆ ทีมงานที่น่ารักทุกคน ขอบคุณจากใจครับ หลังจากนี้จะเป็นก้าวใหม่ของ @sdf_band รอติดตามกันนะครับ"

ล่าสุด "แชมป์ S.D.F" ได้โพสต์ใน IG ส่วนตัวว่า "วันนี้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่" ขณะเดียวกันเพจค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก็ได้โพสต์เปิดตัวศิลปินวง S.D.F ที่ได้ย้ายมาอยู่กับค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อย่างเป็นทางการ "S.D.F และ Khaosan Entertainment จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง" และทางเพจยังโพสต์ต้อนรับศิลปินใหม่ "ข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ S.D.F วงร็อกมากความสามารถที่อยู่บนเส้นทางสายดนตรีมากว่า 10 ปี" พร้อมคลิปฝากเนื้อฝากตัวจากศิลปินวง S.D.F ทั้ง 3 คน ได้แก่ แชมป์ นิตินันท์ จันทร์เดชา (ร้องนำ), เบียร์ ธนิต เทียนป้อม(กีตาร์) และ ไท จีรศักดิ์ ไฝสิงห์ (เบส)

"สวัสดีครับ พวกเรา S.D.F การเดินทางบนเส้นทางสายดนตรีครบ 10 ปีกับค่ายใหม่ บ้านหลังใหม่ค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ครับ พวกเราก็จะผลิตผลงานเพลงที่ดีกว่าเดิม และก็จัดเต็มกว่าเดิมครับ ผลงานของพวกเราพร้อมปล่อยให้แฟนๆ ฟังกันเร็วๆ นี้ครับ S.D.F และข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอนครับ"

มีคอมเมนต์จากแฟนคลับหลายคนตื่นเต้นที่เห็น S.D.F ย้ายมาอยู่กับค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งเป็นค่ายเดียวกับศิลปินรุ่นพี่ POWER PAT ที่หนุ่มแชมป์เคยได้ร่วมงานจิตอาสาและคุ้นเคยกันดี งานนี้แฟนคลับเตรียมจับตาดู เร็วๆ นี้ อาจมีโปรเจกต์ดีๆ ให้ลุ้นกันต่อแน่นอน
#3652


ความเคลื่อนไหวยักษ์ใหญ่ค้าปลีก " กลุ่มเซ็นทรัล " ในช่วงโควิดไม่ได้หยุดนิ่งแต่กลับเดินหน้าหาโอกาสลงทุนครั้งใหญ่ถึง 2 ดีล ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน  จนทำให้ต้องหันกลับมามองอีกครั้งว่าธุรกิจดังกล่าวพร้อมที่จะกลับมาแข่งขันดุเดือดเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว

ดีลแรกที่กลุ่มเซ็นทรัลสร้างความแปลกใจด้วยการเสนอซื้อหุ้น  บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF   ผ่านผู้ถือหุ้นรายใหญ่               บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR 29.58 %  หลังจากนั้นมีการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจนได้หุ้นไว้ในมือ 56.26 % ที่ราคาหุ้นละ 12 บาท รวมเม็ดเงิน 13,000 กว่าล้านบาท ถือว่าเป็นการต่อจิ๊กซอโซนตะวันออกด้วยการยึดแลนด์มาร์ทในพื้นที่ ด้วยจุดที่น่าสนใจของ SF มีโครงการ 18 โครงการในมือ มีพื้นที่เช่า 430,628  ตารางเมตร   มีศูนย์การค้าที่หลากหลายเซกเมนต์ และมีชื่อด้านทราฟฟิคในการใช้บริการของลูกค้าที่หนาแน่นด้วยอัตราการเช่าพื้นที่  94 % ของพื้นที่เช่าทั้งหมด

โดยมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่   เมกาบางนา ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่พร้อมแม่เหล็กสำคัญเอาใจ  คนรักบ้านและชอบตกแต่ง สัญชาติสวีเดน  "อีเกีย"  เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุน และกลายเป็นศูนย์การค้าที่มีพื้นที่เช่ามากที่สุดของพอร์ตถึง 47 %

ดังนั้นรายได้ส่วนใหญ่ของ SF  มาจาก 2 ส่วนคือ  รายได้ค่าเช่าและบริการ สัดส่วน  41 % และอีก 57% มาจากส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้า    ซึ่ง "เมกา บางนา" ถือว่าเป็นจุดแข็งให้ SF มีพื้นที่เช่า 180,000 ตารางเมตร  ก่อนจะมีการขยายพื้นที่ตามมาเป็น 201,491 ตารางเมตร และในสิ้นปี 2563 ซึ่งวิกฤติโควิดรุนแรงมากที่สุด แต่กลับมีด้วยอัตราการเช่าพื้นที่ในศูนย์ดังกล่าวคือ 100 %


การเพิ่มการลงทุนในครั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองถึงส่วนแบ่งกําไรจาก เมกกะ บางนา เพราะถือเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ (Super Regional Lottovip Mall) ที่เป็นที่นิยมและมีผู้เข้าใช้บริการเป็นจํานวนมากสะท้อนจาก Occ.Rate ที่ไม่ตํ่ากว่า 95% บวกองค์ประกอบด้านทําเลที่ตั้งเหมาะสําหรับผู้พักอาศัยละแวกนั้น  รวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเส้นทางตะวันออก เข้าสู่กรุงเทพฯ

ขณะเดียวกันยังมีโครงการทำเลทองของ SF อยู่ระหว่างก่อสร้าง Community Mall แห่งใหม่ บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา และโครงการ Mixed-Use บริเวณถนนทองหล่อ ยังไม่นับที่ดินเปล่าในมือยังไม่ถูกพัฒนา

อย่างไรก็ตามจากผลกระทบโควิดทำให้ศูนย์การค้า ที่ได้รับผลกระทบจากคําสั่งภาครัฐ ให้ปิดบริการจำนวน  21 แห่งจาก 33 แห่งในประเทศไทยมี สัดส่วนรายได้คิดเป็น 2 ใน 3 ของรายได้จากพื้นที่ให้เช่าในภายในศูนย์การค้า พร้อมทั้งรวมผลดําเนินงาน SF ที่จะรับรู้เต็มปีเมื่อเทียบกับ ราคาหุ้นปัจจุบันพบว่ายัง Upside มากกว่า 15% จึงปรับเพิ่มคําแนะนําเป็น "ซื้อ" ที่ราคา 61.50


ถัดมาดีลเซอร์ไพร์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN   คว้าสิทธิสิทธิการเช่าพื้นที่โครงการ Block A ในสยามสแควร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์สกาล่าเดิม กับสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยอายุสัญญาเช่า 30 ปี  มูลค่า เกือบ 6,000 ล้านบาท

คาดการณ์ว่าจะมีการส่งมอบพื้นที่เดือน ม.ค. 2565 และหลังจากนั้นจะเตรียมการพัฒนาโครงการ เบื้องต้นวางรูปแบบโครงการศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ เนื่องจากเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ที่ประมูลได้มากว่า 7 ไร่ และการที่บริษัทมี SF เข้ามาแล้ว ซึ่งมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและบริหารโครงการที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ทำให้บริษัทมีความพร้อมมากในการเดินหน้าพัฒนาโครงการดังกล่าว

แม้ขณะนี้จะยังไม่มีประกาศจาก CPN เกี่ยวกับแผนดังกล่าว แต่จะมีคำชี้แจงจากบริษัทเมื่อเสร็จสิ้นการศึกษา รายละเอียดโครงการ โดยคาดที่ดินจะถูกโอนภายในปี 2022 และเพิ่มพื้นที่ให้เช่าอีก 3.5 หมื่นตารางเมตร  สำหรับที่ดิน 7 ไร่ (พื้นที่สำหรับพัฒนา 5 ไร่) แม้การแข่งขันในบริเวณดังกล่าวจะค่อนข้างสูง แต่ยังขาด community mall ซึ่งเหมาะกับขนาดและพื้นที่ของแปลง ดังกล่าว รวมถึงยังมีความเชี่ยวชาญจาก SF ที่เพิ่งถูกซื้อมาก่อนหน้านี้ โดยพื้นที่ดังกล่าวจะเพิ่มพื้นที่เช่าโดยรวม 1.5% รอการประกาศอย่างเป็นทางการ แนะนำให้ "ซื้อ " โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 61.00 บาท
#3653


แม้ว่าประเทศไทยและทั่วโลกต่างประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน แต่โดยภาพรวมแล้ว ในหลายประเทศ ก็เริ่มมีการคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้ ภาคการผลิตต่างๆ ซัพพลายเชน เริ่มกลับมาสู่กระบวนการผลิตอีกครั้ง แม้จะไม่สมบูรณ์เหมือนก่อนเกิดโควิด-19 แต่เป็นสัญญาณการบ่งชี้ เศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ค่อยๆฟื้นตัว

โดยเฉพาะในท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 จะพบว่า ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ได้รับความสนใจจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น เข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้มากขึ้น เพราะเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตได้ ซึ่งเห็นได้จากอัตราครอบครองพื้นที่ สูงขึ้นกว่าช่วงก่อนโควิด-19 แสดงให้เห็นว่าธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ากลับได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางและการขนส่งสินค้าใช้ระยะเวลานานขึ้น ดังนั้น จึงเห็นการย้ายฐานของผู้ผลิตเข้ามาตั้งใกล้กับผู้บริโภคมากขึ้น

....โควิด-19 ได้เป็นปัจจัยเร่งสำคัญ ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวลดการลงทุน โดยหันมาเช่าโรงงานแทนการซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงงานเอง และเก็บกระแสเงินสดไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้ รวมทั้ง มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการปรับเปลี่ยนฐานการผลิตในอนาคต

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าในช่วงครึ่งหลังปีพ.ศ. 2564 คอลลิเออร์ส ประเทศไทย คาดการณ์ว่า ทิศทางธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานยังสามารถเติบโตได้ดี ความสนใจเช่าพื้นที่คลังสินค้าสำเร็จ (Built-to-Suit) และ Warehouse Farm ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ประกอบการต่างชาติ ยังมีความสนใจจะลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทยอยู่มาก บวกกับความต้องการในภาคการส่งออกสินค้าหลายกลุ่ม เช่น ธุรกิจแปรรูปอาหาร ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ ธุรกิจออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์

อีกทั้ง ยังมีปัจจัยสำคัญจากพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่หันมาซื้อขายทางออนไลน์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ ระบบโลจิสติกส์ โรงงานและคลังสินค้าเติบโตตามไปด้วย

โดยความต้องการคลังสินค้าและโรงงาน รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และผู้ประกอบการในกลุ่มคอนซูเมอร์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมา ส่งผลให้ ณ สิ้นครึ่งแรก ปี พ.ศ. 2564 มีคลังสินค้าและโรงงานมียอดการเช่าสัญญาใหม่มากกว่า 150,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) โดยพบว่าผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาด เช่น บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "WHA"และ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด "FPIT" ยังสามารถปล่อยเช่าพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ ณ สิ้นครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา มีพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานในประเทศไทยถูกใช้ไปแล้วทั้งหมด 6.099 ล้านตร.ม.จากพื้นที่ทั้งหมด 6.963 ล้านตร.ม. ซึ่งคิดเป็น 87.60% ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.10% จากในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา

ภาพรวมอุปทานคลังสินค้าและโรงงาน เปิดบริการใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา ยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณ 1.16% จากในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา จากการเปิดตัวคลังสินค้าและโรงงานใหม่ของ WHA ที่เปิดตัวโครงการ ดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง แห่งที่ 2 บนพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 50,000 ตร.ม. โดยมีผู้เช่าหลักเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มโลจิสติกส์ เพื่อใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าสำหรับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

รวมถึง บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวคลังสินค้าแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ ถ.บางนา–ตราด กม.18 ด้วยพื้นที่ทั้งหมด 10,000 ตร.ม. ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้าเข้าใช้บริการแล้ว 60.00%



อสังหาฯรุกธุรกิจคลังสินค้า–รง.ให้เช่า กระจายความเสี่ยง

นอกจากนี้ เรายังพบว่า จากความต้องการพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้พัฒนาอีกจำนวนมาก ยังคงให้ความสนใจพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าใหม่ รวมถึงผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยรายใหญ่ที่เข้ามาเพิ่มโอกาสและขยายตลาดในธุรกิจอสังหาฯเชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับความต้องในอนาคตอีกเป็นจำนวนมาก เช่น

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) ได้เปิดตัวเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางพลี 7โลจิสติกส์เซ็นเตอร์แห่งใหม่ บนทำเลย่านบางพลี โดยโครงการดังกล่าวประกอบไปด้วยศูนย์กระจายสินค้า 3 อาคาร มีพื้นที่อาคารรวม 74,000 ตร.ม. และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม จากกลุ่มผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำที่ให้ความสนใจและลงนามเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ไปแล้วกว่าร้อยละ 60.00 ก่อนเปิดตัวคลังสินค้าอาคารแรกอย่างเป็นทางการ และบริษัทอยู่ระหว่างการการพัฒนาคลังสินค้าแบบสร้างตามความต้องการแห่งใหม่ พื้นที่กว่า 34,000 ตร.ม. ตั้งอยู่ใน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ พาร์ค (วังน้อย 2) จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้กับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และยังมีแผนการพัฒนาพัฒนาพื้นที่ใหม่เพื่อเสริมสร้างพอร์ตโฟลิโออีกกว่า 1 ล้าน ตร.ม.ในอีก 5 ปีข้างหน้า

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ กับ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาพื้นที่และประกอบธุรกิจประเภทกิจการคลังสินค้าและอาคารโรงงานให้เช่า ในโครงการ "BFTZ วังน้อย" จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนที่ดินทั้งหมด 145 ไร่ ประมาณ 110,000 ตร.ม. โดยจะเริ่มก่อสร้างช่วงปลายปีพ.ศ. 2564 และจะส่งมอบพื้นที่เฟสแรกภายในช่วงต้นปีพ.ศ. 2566

นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ให้ความเห็นว่า ในส่วนของ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ มีความพร้อมรองรับความต้องการเช่าคลังสินค้าและโรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะบริษัทฯมีพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 2.7 แสนตร.ม. แบ่งเป็น โครงการ BFT 1 ประมาณ 1.5 แสนตร.ม. และขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายเพิ่มอีก 2 โครงการ คือ โครงการ BFTZ 2 และ BFTZ 3 ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถรองรับพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นอีก 1.2 แสนตร.ม. อย่างแน่นอน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ "S" เดินหน้าตามแผนโรดแมป ในการขยายธุรกิจใหม่เพื่อเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจอสังหาฯ โดยได้ลงนามในข้อตกลงเข้าซื้อหุ้น 100% ของบริษัท ปาร์ค อินดัสตรี จำกัด จากบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด โดยบริษัท ปาร์ค อินดัสตรี จำกัด เป็นเจ้าของนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ฟู๊ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ ซึ่งมีเนื้อที่ 1,790 ไร่ ตั้งอยู่ใน จ.อ่างทอง ธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,421 ล้านบาท

"การผสานธุรกิจนิคมฯเข้ากับธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า จะสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจของเรา เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วนิคมฯ คือ หนึ่งในผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด และมากกว่าความลงตัวในเชิงกลยุทธ์แล้ว เรายังมองเห็นอนาคตที่สดใสของธุรกิจนิคมฯ ที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทยด้วย โดยอัตราการเข้าใช้พื้นที่นิคมฯของทั้งประเทศนั้น เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 80% ณ ช่วงสิ้นปีของปีที่แล้ว ในขณะที่ ภาคกลางของประเทศไทย มีอัตราการเข้าใช้พื้นที่นิคมฯในระดับสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 89% และมีการคาดการณ์ ความต้องการที่ดินในนิคมฯในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น เมื่อมีการผ่อนปรนมาตรการความเข้มงวดในการเดินทางหลังการคลี่คลายของวิกฤตโควิด-19"นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าว



พัฒนานวัตกรรมเจาะลูกค้าที่อยู่อาศัย เชื่อมอีคอมเมิร์ซ

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ร่วมมือกับ บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ได้เปิดตัวธุรกิจเพื่อการอุตฯพร้อมบริการครบวงจร เนื่องจากโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จทางเศรษฐกิจในยุค New Normal พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนมาซื้อสินค้าและบริการผ่านออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจกระจายสินค้ามีบทบาทเพิ่มขึ้น

โดยนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้นฯ กล่าวถึงการร่วมทุนครั้งนี้ว่า เราเชี่ยวชาญด้านการหาที่ดิน การจัดการต้นทุนในการพัฒนาโครงการ มีพันธมิตรด้านอสังหาฯชั้นนำจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในฝั่ง B2C ขณะเดียวกัน เจดับเบิ้ลยูดี ก็เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารคลังสินค้า บริการที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ มีเครือข่ายที่แข็งแรงอยู่ทั่วอาเซียน ตลอดจนมีฐานลูกค้าที่กว้างขวางโดยเฉพาะในฝั่ง B2B ความร่วมมือระหว่างเราและเจดับเบิ้ลยูดีในครั้งนี้ จึงถือเป็นการสร้าง Synergy ผสานความแข็งแกร่งของทั้งคู่เข้าด้วยกัน ในการตอบโจทย์ตลาดอย่างครบวงจรทั้งในฝั่ง B2B และ B2C เราเชื่อมั่นว่า แอลฟา จะก้าวขึ้นเป็น Top 3 ของธุรกิจนี้ได้ภายใน 5 ปี

สร้างแอสเสทคลังสินค้า เข็นระดมทุนตั้งกองREIT

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ฯ เราและออริจิ้นจะบูรณาการ Total Solutions ที่แตกต่างจากตลาด เราไม่ได้แค่าที่ดินมาพัฒนาคลังสินค้า แต่เราจะมีทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ ระบบออโตเมชั่น หุ่นยนต์ และบริการที่ซับซ้อนอื่นๆ พร้อมนำเสนอแก่ลูกค้าฝั่ง B2B ในหลากหลายประเภทธุรกิจ ขณะเดียวกัน เราก็สร้างประสบการณ์ หรือ Customer Experience ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคในโครงการที่อยู่อาศัย ให้สามารถทำธุรกิจ e-Commerce จากที่พักอาศัยได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจของเราจะตอบโจทย์ความต้องการที่เกี่ยวข้องกับ โลจิสติกส์ได้อย่างครบวงจร" นายชวนินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2568 แอลฟา จะมีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าภายใต้การบริหารมากกว่า 1 ล้าน ตร.ม. พร้อมทั้งมีมูลค่า REIT Value ในระดับ 12,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน จะพิจารณานำสินทรัพย์ในกลุ่มต่างๆ เข้าจดทะเบียนเสนอขายแก่นักลงทุนในรูปแบบทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ด้วยภายในปี 2566



นายภัทรชัย กล่าวต่อว่า ณ สิ้นครึ่งแรก ปีพ.ศ. 2564 อุปทานสะสมพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ยังคงสูงที่สุด คิดเป็น 38.00% หรือ 2,691,6022 ตร.ม. ตามมาด้วยในพื้นที่อีอีซี คิดเป็น 32.00 % หรือ 2,255,517 ตร.ม. และยังคงพบว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ ยังคงพยายามขยายธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่า ตลอดทั้งปี พ.ศ. 2564 จะมีคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าเปิดบริการใหม่อีกกว่า 200,000 ตร.ม. และส่วนใหญ่พัฒนาโดยผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ,พระนครศรีอยุธยา และในพื้นที่อีอีซี(จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา) หลังจากความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานของอีอีซี เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อสนามบินและการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ยังส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจด้านอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสามารถดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุน เนื่องจากเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของประเทศไทยที่น่าจับตามองในอนาคตอันใกล้



โควิดเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ Customer Journey สู่รูปแบบออนไลน์มากขึ้น

ธุรกิจช้อปออนไลน์ในประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา มีโอกาสที่จะมีมูลค่ารวมถึง 400,000 ล้านบาทได้ในปีนี้ โดยคาดว่าแนวโน้มจะขยายตัวประมาณ 30.00% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ แต่คาดว่าจะได้เห็นการเติบโตเชิงบวกจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาจับจ่ายซื้อสินค้าบนออนไลน์แทนออฟไลน์ที่มีข้อจำกัด ซึ่งตลาดธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทยยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดดแม้ในช่วงของการระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ Customer Journey เปลี่ยนไปสู่รูปแบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นเสมือนตัวเร่งให้กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน สอดรับกับความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและความต้องการโรงงานและคลังสินค้าในไทยที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ ราคาค่าเช่าเฉลี่ยสำหรับพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานทุกพื้นที่ ในครึ่งแรกของปีพ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาปรับตัวมาอยู่ที่ 155 บาทต่อตร.ม. ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในช่วงครึ่งหลังของปีก่อนหน้า 3 บาท หรือคิดเป็น 1.97% ผู้พัฒนาส่วนใหญ่ปรับราคาค่าเช่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย พื้นที่กรุงเทพฯยังคงเป็นพื้นที่ที่มีราคาค่าเช่าเฉลี่ยสูงที่สุดที่ 180 บาทต่อตร.ม. ซึ่งคลังสินค้าให้เช่าบางแห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ มีราคาเสนอเช่าสูงกว่า 200 บาท (สัญญาเช่า 3 ปี) ตามด้วยค่าเช่าในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่ประมาณซึ่งอยู่ที่ 156 บาทต่อตร.ม. และในพื้นที่อีอีซี ที่ประมาณ 153 บาทต่อตร.ม.

"เราจะเห็นว่า ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ เช่น WHA และ FPIT ยังสามารถปล่อยเช่าพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และยังคงไม่ปรับลดเป้าผลประกอบการในปีนี้ ซึ่งพบว่าผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาด ยังคงให้มองเห็นโอกาสเดินหน้าเปิดตัวคลังสินค้าและโรงงานอีกมากกว่า 1 ล้านตร.ม.ในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา และในพื้นที่อีอีซี".
#3654
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#3655


นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า ตามที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกประกาศผ่านองค์การการค้าโลก (WTO) แจ้งการออกกฎระเบียบใหม่ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนผู้ผลิตอาหารนำเข้าจากต่างประเทศ (Decree 248) เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา โดยจะผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 นั้น มกอช. ในฐานะหน่วยงานกลางด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชของไทย ได้รวบรวมข้อคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งยังได้แจ้งสอบถาม ติดตามสถานะ และแสดงความกังวลเรื่องการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวต่อจีนร่วมกับประเทศสมาชิกขององค์การการค้าโลก และในเวทีที่เกี่ยวข้อง

ระเบียบดังกล่าวเป็นกฎระเบียบว่าด้วยการขึ้นทะเบียนผู้ผลิตอาหารนำเข้าจากต่างประเทศ มีสาระสำคัญกำหนดให้ผู้ส่งผลิตอาหารจากต่างประเทศ ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานผู้กำกับดูแลของประเทศผู้ส่งออก หรือขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการศุลกากรของจีน (GACC) โดยมีรายละเอียดแตกต่างไปตามชนิดของสินค้า ซึ่งนิยามของผู้ผลิตอาหารในระเบียบดังกล่าว ครอบคลุมทั้งสถานประกอบการผลิต แปรรูป และเก็บรักษาอาหาร แต่ไม่รวมวัตถุเจือปนอาหาร (Food Additives) และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร (Food Related Products) เช่น วัสดุบรรจุภัณฑ์ ภาชนะบรรจุอาหาร สารซักฟอก/สารฆ่าเชื้อที่ใช้สำหรับอาหาร และเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตหรือเตรียมอาหาร

สำหรับกลุ่มสินค้าที่กำหนดให้ผู้ผลิตต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานผู้กำกับดูแล (Competent Authority) ของประเทศผู้ส่งออก ประกอบด้วยสินค้า 20 ประเภท ได้แก่ (1) เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ (2) ผลิตภัณฑ์ไส้สำหรับบรรจุไส้กรอก (3) ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ (4) ผลิตภัณฑ์นม (5) รังนกและผลิตภัณฑ์จากรังนก (6) ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง (7) ไข่และผลิตภัณฑ์จากไข่ (8) น้ำมันและไขมันสำหรับการบริโภค (9) เมล็ดพืชน้ำมัน (10) ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลีสำเร็จรูป (11) เมล็ดธัญพืชสำหรับการบริโภค (12) ผลิตภัณฑ์เมล็ดธัญพืชบดและมอลต์เพื่อการอุตสาหกรรม (13) ผักสดและผักอบแห้ง (14) ถั่วอบแห้ง (15) เครื่องปรุงรส (16) ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืช (17) ผลไม้แห้ง (18) เมล็ดกาแฟและเมล็ดโกโก้ที่ยังไม่ผ่านการคั่ว และ (19)อาหารสำหรับวัตถุประสงค์พิเศษ และ (20) อาหารเพื่อสุขภาพ

ผู้ผลิตอาหารอื่นที่ไม่ใช่อาหารที่อยู่ใน 20 รายการข้างต้น กำหนดให้ผู้ผลิตต้องขึ้นทะเบียนกับ GACC โดยตรง หรือดำเนินการผ่านตัวแทน นอกจากนี้ ระเบียบดังกล่าวยังกำหนดให้สถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนจะต้องแสดงหมายเลขทะเบียนที่ได้รับจากจีนหรือได้รับจากหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศผู้ส่งออก โดยต้องแสดงทั้งบนบรรจุภัณฑ์ภายในและภายนอกของอาหารที่ส่งออกมายังจีน

"ทั้งนี้ ล่าสุด จีนได้ประกาศในการประชุม WTO/SPS ครั้งที่ 80 เมื่อวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2564 ว่า จีนจะเลื่อนระยะเวลาการบังคับใช้ (Transition Period) ของระเบียบ 248 ให้กับประเทศผู้ส่งออกทุกประเทศออกไปอีก 8 เดือน และเน้นย้ำว่าระเบียบดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อการดำเนินการตามข้อตกลง/พิธีสารที่ได้เคยมีการลงนามร่วมกัน เนื่องจากประเทศคู่ค้าของจีนหลายประเทศได้แสดงความกังวลและมีข้อคิดเห็นทักท้วงต่อระเบียบ 248 อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนก่อนการประกาศใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว และเลขทะเบียนยังไม่หมดอายุ สามารถส่งสินค้าออกไปจีนได้จนกระทั่งหมดอายุการอนุญาต จากนั้นให้ดำเนินการขอขึ้นทะเบียนผู้ผลิตอาหารนำเข้าจากต่างประเทศภายใต้ระเบียบฉบับนี้ต่อไป"เลขาธิการ มกอช. กล่าว
#3656


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยทีมจิตอาสา กฟผ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเทคโนโลยีอัฉริยะซอฟต์แวร์ ArcGIS โดยบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ชูการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันแบบฟอร์ม ArcGIS Survey123 เข้าบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังรอเตียงในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพิ่มประสิทธิภาพคัดกรองส่งต่ออย่างเป็นระบบ หนุนภารกิจการบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วย พร้อมส่งต่อรับการรักษาทันท่วงที เสริมทัพจัดการด้วย ArcGIS Dashboard ช่วยบริหารข้อมูลวางแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน เร่งประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานหนุนใช้เทคโนโลยีสู้วิกฤตโควิด-19 หวังเดินหน้าประเทศไทยผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน โดยล่าสุดรวบรวมและส่งต่อผู้ป่วยแล้วกว่า 975 คนทั่วนครนนท์

"กฟผ. พร้อมด้วย ESRI และบริษัท จีไอเอส จำกัด รวมถึงทีมจิตอาสาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังสนุบสนันสำคัญใช้เทคโนโลยีร่วมบริหารจัดการการระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ พร้อมทั้งขอส่งกำลังใจถึงผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ด้วยความร่วมมือร่วมใจที่เกิดขึ้นนี้ย่อมสามารถพาประเทศไทยข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน" แถลงการณ์ระบุ



แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ยังคงพบการติดเชื้อและการระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ และส่งผลให้มีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมากที่แจ้งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือและรอการส่งต่อการรักษาที่เหมาะสม ทำให้หลายหน่วยงานเร่งประสานความร่วมมือนำเอาสรรพกำลังความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมทั้งดึงเทคโนโลยีด้านต่างๆ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยหนึ่งในพื้นที่สำคัญของการระบาดและเดินหน้ารับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ พื้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งทีมจิตอาสาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเอาซอฟต์แวร์ ArcGIS โดย บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือเป็นผู้นำด้าน Location Intelligence การวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศในมุมมองใหม่ และมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ArcGIS ในประเทศไทยมากว่า 30 ปี จึงได้นำเอาศักยภาพสำคัญของซอฟแวร์มาใช้ในการจัดทำระบบเก็บข้อมูลและสรุปผลข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ที่รอเตียงในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อจัดส่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีในการวางแผนการจัดหาเตียงให้ผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

สำหรับภาพรวมภารกิจจิตอาสาในครั้งนี้ ทีมงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำเอาซอฟต์แวร์ ArcGIS ในฟังก์ชันแบบฟอร์มสำรวจสำเร็จรูป "ArcGIS Survey123" ที่เป็นแอปพลิเคชันพร้อมใช้งานสำหรับสร้างแบบฟอร์มเก็บข้อมูลโดยเฉพาะ มีความสามารถโดดเด่นในการวิเคราะห์ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว โดยทีมจิตอาสาจะทำการสร้างแบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลและระบุตำแหน่งพิกัดที่อยู่อาศัยของผู้ป่วยลงในแผนที่ด้วยระบบ Pinpoint (ผู้ให้บริการข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งใประเทศไทย โดยบริษัท บียอนด์ ซี จำกัด) จากนั้นทีมจิตอาสาจะตรวจสอบและค้นหาพิกัดที่อยู่ของผู้ป่วยเพื่อยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำที่สุดในระบบอีกครั้ง ซึ่งแบบฟอร์มสำรวจนี้ยังสามารถแนบรูปภาพหรือเอกสารผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เพื่อใช้ในการรับผู้ป่วยได้รวดเร็วและถูกต้อง ข้อมูลที่ได้จะถูกรายงานเข้าฐานข้อมูลแบบ real-time พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อได้ทันที

นอกจากการบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 และเพื่อให้การติดตามภาพรวมของสถานการณ์มอนิเตอร์สถานะที่เป็นปัจจุบัน โดย ESRI ยังร่วมกับบริษัท จีไอเอส จำกัด นำแพลตฟอร์ม ArcGIS Dashboard สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ทีมงานจิตอาสา กฟผ. ในการรายงานสรุปผลข้อมูลผู้ป่วยที่กำลังรอเตียงในรูปแบบ Interactive dashboard สามารถแสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ป่วยตามประเภทต่างๆ ได้ เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังอาการเป็นพิเศษ พิกัดตำแหน่งบ้านของผู้ป่วยเพื่อดูการกระจายตัวการระบาดในพื้นที่ควรเฝ้าระวัง ประเภทของที่พัก ตลอดจนวิธีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 และสามารถเลือกกรองข้อมูลตามประเภทที่ต้องการให้แสดงบนแอปพลิเคชันได้ เช่น ต้องการทราบข้อมูลผู้ป่วยในบางพื้นที่ เพื่อให้เห็นสัดส่วนของผู้ป่วยในด้านต่างๆ หรือแสดงรายละเอียดทั้งหมดนี้ได้อย่างสะดวกในแอปพลิเคชันเดียว นอกจากนี้ ในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ป่วย (Data Privacy) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ข้อมูลของผู้ป่วยที่ส่งเข้าระบบจะถูกเก็บเป็นความลับตามมาตรการที่กำหนด บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยได้

ปัจจุบัน ภารกิจภายใต้ทีมงานจิตอาสา กฟผ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนนทบุรี ได้รวบรวมฐานข้อมูลและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 แล้วจำนวน 975 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.ย.2564)
#3657


นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บจก. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล หรือ SCAP เผยว่าเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ซึ่งถือเป็นปัจจัยกดดันหลักที่อาจทำให้เกิดการชะลอตัวของธุรกิจในทุกด้าน แต่จากการติดตามตัวเลขสินเชื่อของบริษัทฯพบว่ายังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด

ทำให้เอสแคปประกาศขยับเป้าสินเชื่อรายย่อยจากเดิม 4,000 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นถึง 200 % จากปี  2563 บริษัทคาดการณ์ว่าในไตรมาส 4 ปี 64 เศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวสะท้อนถึงโอกาสในการขยายตัวของสินเชื่อที่มีเพิ่มขึ้นมากกว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา


"จากความต้องการสินเชื่อในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 ที่ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับสถานะเงินตึงตัวมากขึ้นของประชาชนโดยทั่วไป โดยสินเชื่อของบริษัทเป็นทางเลือกที่ผู้บริโภคหันมาใช้บริการมากขึ้น เนื่องจากธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไปจะเน้นให้สินเชื่อซื้อหวยออนไลน์กับผู้ที่มีหลักฐานทางการเงินที่ชัดเจนและมีฐานะการเงินมั่นคง"

"ส่วนนอนแบงก์เน้นปล่อยสินเชื่อขนาดเล็กและมีความยืดหยุ่นในการพิจารณาสินเชื่อมากกว่าจึงทำให้เกิดความคล่องตัวในการปล่อยสินเชื่อ ขณะเดียวกันธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จึงเกิดการแข่งขันด้านดอกเบี้ย ผู้บริโภคจึงได้รับอานิสงส์ส่งผลให้สินเชื่อเกิดการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ"

นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก โดยได้เข้าร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้บริการสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์แบบเฉพาะเจาะจง นอกจากนั้นบริษัทฯยังได้มีการขยายธุรกิจเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ใหม่แบบเต็มรูปแบบครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดหลักๆทั่วประเทศไทยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯมีโอกาสได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อหรือมีความต้องการมีรถมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง" นายวิชิต กล่าว


นายวิชิต กล่าวต่อไปว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัทฯถือว่าประสบความสำเร็จมากในสถานการณ์ที่นอกเหนือการควบคุม เช่นการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 บริษัทฯยังคงเดินหน้าให้บริการเพื่อให้เข้าถึงและเข้าใจลูกค้าทุกราย ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการขยับเป้าสินเชื่อรายย่อยเป็น 5,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2564 จะทำได้ไม่ยาก โดยไตรมาสที่ 4/2564 คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้นและผู้บริโภคก็มีความพร้อมที่จะเริ่มจับจ่ายใช้สอยเป็นปกติมากขึ้น และจะหนุนให้ธุรกิจโดยรวมของเอสแคปเติบโตได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่
#3658
ทาน ข้าวพันธุ์ดี เมืองช้างปลอดสารพิษ แท้ 100%
ข้าวออร์แกนิกปลอดสารแท้ 100% ข้าวอินทรีย์   ข้าวสุขภาพส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวมะลินิลorganic คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ข้าวอินทรีย์หอมมะลิข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf1bev6bzbun6ssb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์
3.ข้าวปะกาอำปึล
4. ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิค จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์สุรินทร์6.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3659
รถกอล์ฟ คุณภาพ นำเข้าและประกอบโดยโรงงานมาตรฐานในประเทศไทย 

ภายใต้การดูแลของ วิศวะกร ชำนาญด้าน รถกอล์ฟไฟฟ้า  จำหน่ายในราคาขายส่ง 

ไม่ว่าจะซื้อกี่ตันก็คาม ไม่มีขั้นต่ำ ด้วยประสพการณ์กว่า 20 ปี ท่านจึงสามารถมั่นใจในสินค้าและบริการได้ 

มีประกันสินค้า 1-2 ปี พร้อมอะไหล่ที่มีครบและหาง่าย

Tags :: รถกอล์ฟ, รถกอล์ฟไฟฟ้า,รถกอล์ฟมือสอง
















#3660


การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทยรายการ OR BRIC SUPERBIKE 2021 เตรียมระเบิดความมันส์สนามแรกของรายการในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน นี้

ล่าสุด 4 นักแข่งจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม โดยมี อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 อนุภาพ ซามูล #500 ซึ่งจะลงทำการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี ด้วยรถแข่งยามาฮ่า วายแซดเอฟ-อาร์วัน และอนุชา นาคเจริญศรี #10 ควงคู่ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 ที่จะลงทำการแข่งขันในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ด้วยรถแข่ง วายแซดเอฟ-อาร์ซิกซ์ เตรียมความพร้อมก่อนการลงล่าแชมป์การแข่งขันด้วยการซ้อมเทคนิคต่างๆ รวมถึงพัฒนาความพร้อมของร่างกายด้วยการเวทเทรนนิ่งพร้อมคำแนะนำจากผู้ฝึกสอนชั้นนำของไทย รวมถึงการเสริมเทคนิคการขับขี่ในสนามแข่งด้วยรถ อาร์วัน อาร์หนึ่งห้า และวายแซดสองห้าศูนย์ จาก โค้ชตั้น เดชา ไกรศาสตร์ อดีตแขมป์ ออลเจแปน และแชมป์เอเชีย เป็นผู้ฝึกสอน

สำหรับการแข่งขัน โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ จะระเบิดความมันส์สนามที่ 1 ในวันที่ 17-19 กันยายน 2564 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์