• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Jessicas

#11071


ByteDance เจ้าของ TikTok แอปพลิเคชั่นยอดฮิตสำหรับสร้างสรรค์ผลงานวิดีโอที่กำลังมาแรงในช่วง 2 ปีหลัง เล็งเห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของผู้ใช้ ทำให้แบรนด์จำนวนมากหันมาใช้โฆษณาบน TikTok เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ตัดสินใจพร้อมลุยตลาดในภูมิภาคเอเชียอย่างจริงจัง ใช้เวลากว่า 6 เดือนคัดเลือกบริษัทตัวแทนในการดูแลการซื้อขายมีเดียทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย

สุดท้ายได้บริษัทที่มีความเหมาะสม คือ "iFulFeel Co., Ltd." โดย TikTok แต่งตั้งเป็นตัวแทนดูแลการการซื้อขายมีเดียให้กับ Tiktok ทั่วทั้งทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย โดย iFulFeel Co., Ltd. มีหัวเรือใหญ่ คือ "ชาร์ลี ฉั่ว" นักธุรกิจผู้คร่ำหวอดในวงการโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับจีนมากว่า 30 ปี นั่งแท่นเป็น CEO ของ iFulFeel และเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันก่อให้เกิด ความตกลงครั้งสำคัญนี้

ตั้งเป้า นำ TikTok มาเป็นส่วนหนึ่งมาสร้างระบบ E-Commerce ระหว่างประเทศให้ทุกคนที่มี TikTok สามารถเข้าถึงได้ โดย iFulFeel เป็นจุดศูนย์กลาง

TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการทำวิดีโอเป็นคอนเทนต์หลัก ชาร์ลี ฉั่วเล็งเห็นว่า โปรดักชั่นในการถ่ายทำก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความสำคัญ และถือเป็นหัวใจหลักของ TikTok จึงได้สร้างโปรเจกต์ iFulFeel x G-Village x Playground ขึ้นมา รวบรวมกลุ่มบริษัทที่มีความสามารถในวงการโฆษณาเพื่อสร้าง TikTok Production House Specialist นำโดย Liveplus Hause Co.,Ltd. โดยมีฐานหลักอยู่ที่ G-Village Co-Creation Hub สถานที่รวบรวมและสร้างคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไว้มากมาย และยังเป็น Studio ท่ีมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ

นอกจากนี้ iFulFeel ยังได้ "โรจน์ พุทธคุณ" ผู้ก่อตั้งบริษัท Mainstand บริษัทผู้ผลิตข่าวในวงการกีฬา และไลฟ์สไตล์ชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นบุคคลสำคัญผู้ผลักดันและพัฒนาวงการ E-Sports ในประเทศไทยให้ฮิตติดเทรนด์ในทุกวันนี้ ที่ครั้งนี้มาในนาม Playground เป็นผู้ดูแลการผลิตทั้งหมดและบริหารสตูดิโอ รวมถึงการตั้งเป้าพัฒนาให้ G-Village กลายเป็นจุดศูนย์กลางที่จะรองรับ TikTok Cerators ที่มีความสนใจในการสร้าง Content สนุก เพื่อสร้างให้ TikTok กลายเป็นโซเชียลมีเดียที่ฮิตติดเทรนด์

สิ่งที่สำคัญ สำหรับวิสัยทัศน์ของ "ชาร์ลี ฉั่ว" คือ การที่เล็งเห็นว่า SME ไทย ต้องการสร้างเเคมเปญโฆษณาต่าง ๆ โดยใช้ TikTok แต่ยังขาดผู้ให้คำปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงได้ร่วมมือกับ Zpace Group Advertising Agency กลุ่มบริษัทโฆษณาในไทย ที่นำทัพโดย จักรพันธ์ ศรีจันทร์ทัพ และ คุณภัทร วิชชุภานน์ ที่จะมาดูแลในส่วนของการวางแผนงานโฆษณาและแคมเปญต่าง ๆ ครอบคลุมถึงการทำแคมเปญในรูปแบบ IMC เพื่อรองรับธุรกิจทุกรูปแบบ

รวมถึงการประชาสัมพันธ์ที่ได้ Space Flares Creative PR Agency นำโดย อุทุมพร สุขประวิทย์ เข้ามาเป็นอีกพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งในสายงานประชาสัมพันธ์ โดยได้มีการเริ่มโปรเจกต์ไปแล้วบางส่วน เช่น แคมเปญ 100 บาทช่วยชาติ ที่มีการประสานงานกับ Gmall Co., Ltd. เพื่อช่วยเกษตรกรและ SME ชาวไทยในช่วงวิกฤตการณ์ Covid-19

ชาร์ลี ฉั่ว ยังได้เผยถึงมุมมองแนวคิดการทำงานว่า ต้องการสร้างทีมที่สามารถทำงานโฆษณาได้ครบทุกด้าน เพราะนั่นถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ Tiktok Asia เพื่อตอบรับความต้องการของกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับรูปแบบทางเศรษฐกิจในทุกวันนี้ โดยมีความตั้งใจจะให้บริการในรูปแบบ One Stop Service และต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการกับผู้บริโภคถึงขีดสุด

โดยเมื่อผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ โฆษณาบน TikTok Media จาก iFulFeelแล้ว จะได้รับการบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนที่มีความสำคัญและเป็นหัวใจหลักของการทำ TikTok อย่างการทำโปรดักชั่นจากทีมงานมืออาชีพอย่าง Playground พร้อมด้วยคำแนะนำด้านการทำงานครีเอทีฟและสตูดิโอสำหรับจัดกิจกรรมและการถ่ายทำที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับงานทุกรูปแบบจาก G-village เพื่อยกระดับการสร้างสรรค์ผลงานของผู้บริโภคให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ปัจจุบัน TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจซึ่งตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Generation Y-Z เป็นอย่างมาก ด้วยรูปแบบโฆษณาที่โดดเด่น หลากหลาย และสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม คุณชาร์ลี ฉั่ว คาดว่าภายในระยะเวลา 2 ปี TikTok จะสามารถขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มหลักของสื่อโซเชียลมีเดียคู่กับ Facebook และจะกลายเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ของ E-commerce ได้อย่างเเน่นอน
#11072
MEE SK FiR **นวัตกรรมอาหารผิว-เซลล์ ดูดซึม100%เข้าสู่เซลล์ใน5นาทีล่าสุดจากเกาหลี


อยากมีผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส่ฟังทางนี้ วิตามินบูสผิว สารสกัดเข้มข้น 18 ชนิด นวัตกรรมอาหารผิว อาหารเซลล์ ลิขสิทธิ์ระดับโลก 'หนึ่งเดียว'

ด้วยนวัตกรรม FiR FAR INFRARED...



อาหารผิวมาแรงที่สุด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมไวเข้าสู่เซลล์ 'ภายใน 5 นาที

5 ประโยชน์ทำไม ต้องทาน ?

เสริมสร้างภูมิต้านทาน

ลดการเกิดสิวอักเสบ

ผิวเด็กกระจ่างใส

ช่วยบำรุงสายตา

ลดรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย ฝ้า กระ

ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

วิตามินสูงกว่า ทั่วไป 80 เท่า



โปรโมชั่นเปิดตัว   # เปิดบิล 2,699฿ เป็นตัวแทนติดบริษัท  ได้รับ 2 กล่อง



ไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าเอง

ไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเอง

ไม่มีความรู้ ก็เริ่มทำธุระกิจได้

กำไร 50-75%

มีทีมงานการตลาดสอนเทคนิคการขายฟรี

มีกลุ่มและทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอด

สามารถเริ่มทำงานได้ทันที

  

เติมอาหารผิวเพียงวันละ 1-2 ม็ด (30 แคปซูล )

ปลอดภัย อย. 13-1-14959-5-1478



สนใจสั่งซื้อหรือสมัครตัวแทน

ไลน์ไอดี teerapat999

โทร 0846623662

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1230

 กดเข้าลิ้งค์นี้  ลงทะเบียนฟรี !!! เพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมการสร้างรายได้

https://www.metang-solution.com/member/register.php...







#11073


กลายเป็น TALK OF THE TOWN ในทันที่ สำหรับ "ฟ้าทะลายโจร" หลังจากมีข่าว "การถอนผลวิจัย" ที่ชื่อว่า "Efficacy and safety of Andrographis paniculata extract in patients with mild COVID-19: A randomized controlled trial" ของคณะวิจัยจากประเทศไทย ซึ่งกำลังได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ และเผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ "เมดอาซีฟ" (www.medrxiv.org) เว็บไซต์คลังงานวิจัยที่เป็นต้นฉบับที่ยังไม่ตีพิมพ์เกี่ยวกับการแพทย์ การทดลองทางคลินิก และวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่น ๆ

งานวิจัยชิ้นนี้ เป็นผลงานของนักวิจัย 7 คน โดย 5 คนมาจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข อีก 2 คนมาจากโรงพยาบาลสมุทรปราการ และสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

เมื่อเรื่องปรากฏต่อสาธารณชน ความสับสนอลหม่านก็เกิดขึ้นไปทั่วประเทศ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา "คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ" ได้เพิ่มยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร และยาจากผงฟ้าทะลายโจร เป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ให้เป็นยาที่ใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย และประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาต่างก็พากันไปซื้อฟ้าทะลายโจรมาใช้เป็นจำนวนมาก

กระทั่ง "พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ว่า การขอถอนข้อมูลงานวิจัยชิ้นดังกล่าวไม่ได้เป็นการถูกปฏิเสธจากวารสารวิชาการ แต่นักวิจัยไทยได้ขอถอนงานวิจัยกลับมาชั่วคราว เนื่องจากพบ "ความผิดพลาดของสถิติหนึ่งจุด" และระบุว่าผลลัพธ์การทดลองที่มีความคลาดเคลื่อนทางสถิติดังกล่าวไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิธีการกินยาหรือจ่ายยาฟ้าทะลายโจรในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19

หรือแปลไทยเป็นไทยก็คือ ยังสามารถใช้ "ฟ้าทะลายโจร" ในการต่อสู้กับโควิด-19 ได้ต่อไป

อย่างไรก็ดี ถ้าหากสังคมพินิจพิเคราะห์ "ปรากฏการณ์ถอนงานวิจัยฟ้าทะลายโจร" ที่เกิดขึ้นก็จะพบ "ความผิดปกติ" โดยเฉพาะกรณี "ความผิดพลาดของสถิติจุดหนึ่ง" ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กับ "งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์" ที่ต้องมีความแม่นยำก่อนที่จะเผยแพร่ผลงานออกไปสู่สาธารณชน ยิ่งเป็นการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศด้วยแล้ว ยิ่งไม่ใช่เรื่องที่จะทำ "มั่วซั่ว" ได้ เพราะต้องไม่ลืมว่านี่คือ "งานวิจัยทางการแพทย์ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์" ซึ่งไม่ใช่ "งานวิจัยทางสังคมศาสตร์" ที่สามารถมีข้อโต้แย้งในภายหลังหากพบ "หลักฐานใหม่"

หลายคนตั้งคำถามว่า หรือจะเป็นเพราะ "คณะวิจัย" ทำด้วย "ความเร่งรีบ" หรือทำงานภายใต้ "ภาวะกดดันบางประการ" จนทำให้เกิด "ความผิดพลาดของสถิติหนึ่งจุด" ซึ่งก็มีความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้

ขณะที่อีกหลายคนก็อาจตั้งคำถามว่ามี "อะไรในกอไผ่" หรือไม่ดังสมมติฐานและเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น เหมือนดังที่ "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งคำถามเอาไว้ว่า "มีคำถามอยู่ว่างานระดับที่ป้อนข้อมูลและใช้การคำนวณโดยโปรแกรมเช่นนี้ เกิดความผิดได้อย่างไร? จนถึงขั้นแปลผลผิดจากแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กลายเป็นแตกต่างกันแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ" (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมหน้า 48)

ทีนี้ มาดูรายละเอียดในงานวิจัยชิ้นนี้กันว่า เป็นอย่างไร

พญ.อัมพร อธิบายรายละเอียดเอาไว้ว่า งานวิจัยนี้นี้เริ่มต้นในช่วงที่ยังไม่มียาตัวใดเลยที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการว่าสามารถฆ่าไวรัสโคโรนาหรือรักษาโรคโควิด-19 ได้โดยตรง จึงมีการทดลองและเก็บข้อมูลการใช้ยาชนิดต่าง ๆ ที่คาดว่าจะใช้รักษาโควิดได้ เช่น ฟาวิพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ และสมุนไพรฟ้าทะลายโจร โดยเป็นการทดลองแบบสุ่มโดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบ ใช้ผู้ป่วยโควิดอาการเล็กน้อยอายุตั้งแต่ 18-60 ปี จำนวน 57 คน ที่ยืนยันการตรวจพบเชื้อไวรัสด้วยวิธี RT-PCR แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งกินสารสกัดฟ้าทะลายโจร อีกกลุ่มกินยาหลอก หรือเม็ดยาเปล่า ๆ ที่ไม่ได้มีฟ้าทะลายโจร

"พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
"พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

จากผู้ป่วย 57 ราย ในกลุ่มผู้ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจร 29 ราย ไม่พบอาการปอดอักเสบ แต่ในกลุุ่มที่ได้ยาหลอก 28 ราย พบอาการปอดอักเสบ 3 ราย คิดเป็น 10.7%

สำหรับเรื่องความคงอยู่ของตัวไวรัสในวันที่ 5 พบผู้ป่วยกินสารสกัดฟ้าทะลายโจร ใน 29 ราย ไวรัสอยู่แค่ 10 ราย (34.5%) ส่วนผู้ป่วยกลุ่มกินยาหลอก 28 ราย เจอว่าไวรัสยังอยู่ 16 ราย (57.1%)

ขณะที่ในเรื่องความคลาดเคลื่อนนั้นอยู่ที่ค่านัยสำคัญทางสถิติในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้ยาหลอกในการทดลอง โดยค่านัยสำคัญทางสถิติที่คำนวณได้ครั้งแรกมีความคลาดเคลื่อน กล่าวคือตอนแรกคำนวณได้ว่าเป็น 0.03 และได้นำเสนอไป แต่เมื่อได้กลับพิจารณาอีกครั้ง จึงค้นพบว่ามีจุดอ่อนอยู่จุดหนึ่งแทนที่จะเป็น 0.03 ก็เป็น 0.112 หรือหมายความว่า หากมีการทดลอง 100 ครั้ง การค้นพบว่าผลลัพธ์คงเดิมจะอยู่ที่ประมาณ 97 ครั้ง ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก แต่ตัวเลขที่คำนวณถูกต้อง หรือ 0.112 จะหมายความได้ว่า หากมีการทดลอง 100 ครั้ง ผลลัพธ์ที่เจอว่าเหมือนเดิมจะอยู่ที่ 90 ครั้ง ความคงที่จะลดลงมาในระดับหนึ่ง

วิญญูชนก็น่าจะ "คิด วิเคราะห์ แยกแยะ" พร้อมตั้งคำถามได้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยแม้แต่น้อย

เอาเป็นว่า หลังจากที่ถอนผลวิจัยออกมาแล้ว คงต้องติดตามกันต่อไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับการปรับปรุง "ความผิดพลาดทางสถิติหนึ่งจุด" ดังกล่าว การวิจัยจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่และจะมีการนำเสนอเพื่อกลับไปตีพิมพ์เหมือนเดิมด้วยข้อมูลที่ออกมาในลักษณะไหน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ "ไม่อาจกระพริบตา" ได้เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ติดตามเรื่องฟ้าทะลายโจรมาอย่างต่อเนื่อง คงต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะ "ด้อยค่าฟ้าทะลายโจร" จาก "แพทย์แผนปัจจุบัน" ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่ "นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์" ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว ซึ่งออกมาโพสต์เรื่องการถอนผลวิจัยฟ้าทะลายโจรเป็นรายแรกๆ จนต้องออกมาโพสต์แก้ไขซ้ำอีกครั้ง

นพ.สันต์โพสต์เอาไว้ว่า "คณะผู้วิจัยชาวไทยที่ทำวิจัยฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้ขอถอนต้นฉบับของตัวเองกลับออกมาจากเว็บไซต์งานวิจัยรอตีพิมพ์ (medRxiv) เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการคำนวณเชิงสถิติในประเด็นการคิดค่านัยสำคัญทางสถิติ (p-value) คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ตัดเอาบทความของตนครึ่งบรรทัดไปโพนทะนาผ่านทางหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิดไม่ได้ ผลเสียแล้วควรต้องเลิกใช้ ซึ่งเป็นการตัดบทความเอาไปแค่บรรทัดเดียวแล้วเอาไปกระเดียดที่ได้ผล ทั้งนี้ ตนขอแก้ไขคำพูดใหม่ เป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ในคนยังมีไม่มากพอ เพราะยังขาดงานวิจัยระดับ RCT จึงต้องทำวิจัยซ้ำโดยการขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น เพราะการที่กลุ่มตัวอย่างเล็กได้ค่า p มากกว่า 0.05 ก็บอกได้แค่ว่ายังบอกไม่ได้ว่าความแตกต่างในผลการรักษา คือการเกิดปอดบวม ในทั้งสองกลุ่มมันต่างกันจริงหรือไม่ การจะรู้ได้ก็ต้องมีกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้ ไม่ได้บ่งชี้ว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ไม่ได้ผล ซึ่งยาคู่แข่งกันที่ใช้ในเมืองไทยอีกตัว คือ Favipiravir ก็มีข้อมูลน้อยประมาณเดียวกัน คือทุกอย่างติดอยู่ที่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ"

"แต่ฟ้าทะลายโจรมีความพิเศษกว่า Favipiravir ตรงที่แค่ทำวิจัยซ้ำขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้นอีกนิดเดียว ก็จะเห็นดำเห็นแดงแล้วว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลต่างจากยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ อีกทั้งฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสามัญในท้องถิ่น หาง่ายกว่า ราคาถูกกว่า มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชาติมากกว่า ในแง่การค้าขายระดับนานาชาติ หากจะขายฟ้าทะลายโจรก็ต้องมีงานวิจัยระดับ RCT สนับสนุน ตัวหมอสันต์จึงลุ้นตัวโก่งให้ทำงานวิจัยนี้ต่อให้เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำ โดยยินดีช่วยทุกอย่างเท่าที่หมอแก่คนหนึ่งจะช่วยได้"

หรือแม้กระทั่ง "กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก" เอง โดยเฉพาะตัว "อธิบดี" เองที่ให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวเรื่องการถอนผลงานวิจัยเอาไว้ว่า "เราไม่ได้ต้องการให้เชื่อมั่นในฟ้าทะลายโจรจนเกินความพอดี ใช้กันอย่างพร่ำเพรื่อโดยไม่ระมัดระวัง อันนี้ถือเป็นแรงกระตุกที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม" ซึ่งฟังดูแล้วต้องใช้คำว่า "แปลกๆ" ทั้งๆ ที่ "คณะทำงานหลัก" ของการวิจัยชิ้นนี้ก็มีถึง 5 คนที่มาจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเอง

คำว่า "อันนี้ถือเป็นแรงกระตุกที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม" หมายความว่า ดีแล้วที่มีการถอนการวิจัยออกมาเช่นนั้นหรือ?

แล้วที่เป็น "ดรามา" ไม่แพ้กันคือ "หมอแล็บคนดัง" ที่ไปแชร์ข้อความจากเฟซบุ๊กของแพทย์คนหนึ่ง พร้อมระบุว่า งานวิจัยฟ้าทะลายโจรชิ้นนี้ผู้วิจัยขอถอนออกไปแล้ว เพราะคำนวณสถิติผิดพลาด สรุปที่ถูกต้องสำหรับงานวิจัยนี้คือ "ฟ้าทะลายโจรไม่แตกต่างจากยาหลอก" ซึ่งมีคนวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียดอย่างที่ "หมอสันต์" ว่า จนเกิดปรากฏการณ์ "ทัวร์ลง" ทว่า "หมอแล็บคนดัง" ก็ออกมาโพสต์ข้อความในเพจว่า "เสียใจ หาฟ้าทะลายโจรมาให้ผู้ป่วยเยอะมาก ล่าสุดแชร์งานวิจัยที่ถูกถอนแค่งานวิจัยเดียว โดนหาว่าด้อยค่าฟ้าทะลายโจรไปอีกครับ ชีวิตอดสูมาก นอนแพ้บ"

แต่ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ เพราะความจริงก็คือ ในเฟซบุ๊กหมอแล็บคนดังได้ลบข้อความที่ระบุว่า "งานวิจัยฟ้าทะลายโจรชิ้นนี้ถูกถอดออกไปแล้วครับ เพราะคำนวณสถิติผิดพลาด สรุปที่ถูกต้องสำหรับงานวิจัยนี้คือ ฟ้าทะลายโจรไม่แตกต่างจากยาหลอก" ออกจากเพจไป ซึ่งมิอาจมองเป็นอื่นได้ว่า ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด ด้วยมีผู้ "แคปข้อความ" เอาไว้ได้เป็นหลักฐานชัดเจน

ความจริง ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โตมากนักสำหรับ "หมอแล็บคนดัง" ถ้าหากจะยอมรับความผิดพลาดอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่การที่แถไถและลบข้อความออกไป ทำให้นักเทคนิคการแพทย์ผู้นี้ถูกมองว่า "ด้อยค่าฟ้าทะลายโจร" อย่างที่เจ้าตัวบ่นพึมพำในเพจเฟซบุ๊กของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่สำคัญคือ การใช้คำว่า "ฟ้าทะลายโจรไม่ต่างจากยาหลอก" ถือเป็นคำที่นัยสำคัญมาก

ในทางการแพทย์ "ยาหลอก" (Placebo) ก็คือยาที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยทำให้มีลักษณะ สี และขนาดต่าง ๆ ให้ดูคล้ายกับยาทั่วไป แต่ไม่มีสารออกฤทธิ์ทางการแพทย์ มีส่วนประกอบหลักที่ทำมาจาก แป้งหรือน้ำตาล จากนั้นก็นำไปให้ผู้ป่วยรับประทานเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่คนไข้มีอาการต่างๆ ดีขึ้น จากการให้ยาที่ไม่ได้มีตัวยาอยู่จริง โดยมีการนำมาใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1785

ที่สำคัญคือ ในการทดลองพบว่า ยาหลอกก็มีผลต่อการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เช่นกันแม้ไม่มีสารออกฤทธิ์ทางการแพทย์

แต่ในความเข้าใจของประชาชนคนทั่วไป เมื่อเห็นคำว่า "ยาหลอก" มักเข้าใจว่าคือ "ยาปลอม" ซึ่งไม่ถูกต้อง

ดังนั้น การที่ใช้คำว่า "ไม่ต่างจากยาหลอก" จึงเสมือนเป็นการ "ด้อยค่าฟ้าทะลายโจร" ทั้งในทางการแพทย์คือมองว่าเป็นยาที่ไม่มีสารออกฤทธิ์กับโควิด-19 ทั้งในความรู้สึกของประชาชนที่อาจเข้าใจว่าเป็น "ยาปลอม" ไปเลยก็ได้

ทั้งๆ ที่มีผลวิจัยและผลการศึกษามากมายที่ยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของฟ้าทะลายโจร หนึ่งในนั้นก็คือสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์

สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่อง "ฟ้าทะลายโจร" เอาไว้ดังนี้

"สืบเนื่องจากมีผู้เผยแพร่ข้อมูลว่าใช้ฟ้าทะลายโจรแล้วทำให้ตับพัง จากงานวิจัยฟ้าทะลายโจรในต่างประเทศที่ใช้ฟ้าทะลายโจรทั้งชนิดผงและสารสกัด ในการรักษาอาการหวัด หลอดลมอักเสบ ไม่มีรายงานว่าฟ้าทะลายโจรก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ นอกจากนั้นในการศึกษาทางคลินิกเกี่ยวกับความปลอดภัยและการเปลี่ยนแปลงสภาพยาของการใช้ผงฟ้าทะลายโจรปริมาณ 12 แคปซูล (4.2 กรัม) ต่อวัน ติดต่อกัน 3 วัน (มีปริมาณสาร Andrographolide 97 มิลลิกรัมต่อวัน) ไม่พบว่าการทำงานของเอนไซม์ตับ AST (Aspartate Aminotransferase) และ ALT (Alanine Aminotransferase) ผิดปกติ (Suriyo et al., 2017) สำหรับการศึกษาความปลอดภัยและการเปลี่ยนแปลงสภาพยาของสารสกัดฟ้าทะลายโจรปริมาณ 9 แคปซูล ต่อวัน (มีปริมาณสาร Andrographolide ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน) [อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษา] ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นการเพิ่มทั้งขนาดและระยะวันการได้รับฟ้าทะลายโจร ก็ไม่พบการเปลี่ยนแปลงการทำงานของเอนไซม์ตับเช่นกัน

"แต่หากใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสาร Andrographolide ในขนาดสูงถึง 360 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกัน 7 วัน จะพบการเปลี่ยนแปลงของ AST เล็กน้อย ในอาสาสมัคร 1 คนใน 12 คน ซึ่งค่าเอนไซม์ตับที่สูงขึ้นนี้จะกลับเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนค่าเอนไซม์ ALT จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอาสาสมัคร 4 คน ซึ่งคิดเป็น 33.33% แต่การทำงานของเอนไซม์ก็จะกลับเป็นปกติภายใน 1-3 สัปดาห์ ดังนั้นขนาดของสาร Andrographolide ที่เหมาะสม คือ 180 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน จึงไม่ควรใช้ในขนาดและระยะเวลานานเกินกว่านี้

"เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมากที่ต้องการยารักษาโรคโควิด-19 และยาฟ้าทะลายโจรก็เป็นสมุนไพรที่ได้มีการศึกษาอย่างกว้างขวาง ทั้งกลไกการออกฤทธิ์ อาการข้างเคียง และการศึกษาในทางคลินิกในผู้ติดเชื้อจริง ทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน ซึ่งได้มีการใช้ในรูปแบบผง สารสกัด และการพัฒนาสารอนุพันธ์ Andrographolide ให้อยู่ในรูปแบบยาฉีด ดังนั้นหากมีการพบการติดเชื้อโควิด-19 จึงควรใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรทั้งรูปแบบผงและสารสกัดทันที ในขนาดและระยะเวลาที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นยาที่มีประโยชน์มากและมีความปลอดภัยในระดับที่รับได้ เป็นการช่วยลดภาระของรัฐบาลและช่วยระบบสาธารณสุขของชาติได้"

จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นเกี่ยวกับ "ฟ้าทะลายโจร" ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการ ฟันธงแบบไม่กลัว "ธงหัก" ได้เลยว่า สงครามโควิด-19 ซีซั่นใหม่นี้ ไม่อาจกระพริบตาด้วยมีความลึกลับซับซ้อนและปริศนาในทุกมิติเลยทีเดียว.
#11076
รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอลการ์ดราคาส่ง
ราคาถูก ราคาเบา ราคาโรงงาน
มีเลขที่จดแจ้ง ได้มาตรฐาน 
ราคาเริ่มต้น 15 บาท/ชิ้น
สนใจติดต่อ  https://lin.ee/nXGuYwR
โทร. 0863754112
#11077
 5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มือาชีพ


ประกาศๆ แจ้งให้ทราบ ถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่
ไม่มีประสบการณ์เลย
วิกฤตธุรกิจไปต่อไม่ได้
อายุเยอะแล้วกลัวเรียนไม่ทัน
อยากขายออนไลน์เป็น แต่ไม่มีคนสอน
เอาความรู้ไปต่อยอด

>>> 97 บาท <<<
ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ตอนนี้!!!
เพราะเราออกแบบคอร์สนี้
มาให้สำหรับท่านแล้ว
____________________________
5 วัน 5 วิชา
ที่สามารถพาคุณไปเจอกับโลกใบใหม่
เรียนผ่านมือถือเครื่องเดียว
วัยไหนก็เรียนได้
ปรึกษาได้ตลอด
ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันที่ 1 การปรับหน้าโปรไฟล์
วันที่ 2 การสร้างวีดีโอ / รูปให้ดูน่าสนใจ
วันที่ 3 การสร้าง Content
วันที่ 4 การสร้างเพจมืออาชีพ
วันที่ 5 สอนยิงตรงกลุ่ม ยิงถูก ปิดยอดเก่ง
พร้อมวิธีหากลุ่มเป้าหมายแบบตรงเป๊ะ
.
เรียนจบครบทั้ง 5 วัน รับวุฒิบัตรได้ด้วย
ทั้งหมดนี้
เราเก็บค่าคอร์สกับคุณเพียง 97 บาท
ย้ำ!!คุณดูไม่ผิดหรอก 97 บาท
จากราคาปกติ 7,990 บาท
.
จำนวนจำกัด
สิทธิ์ 97 เฉพาะ 100 ท่าน
.
ขอท่านที่สนใจเรียนจริงๆ
เพราะเราก็ตั้งใจสอนให้ท่านจริงๆเช่นกันสนใจติดต่อ โค้ชเอก

โทร 0846623662

line id : teerapat999
รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99.iconsalepage.com/
#11078
MEE SK FiR **นวัตกรรมอาหารผิว-เซลล์ ดูดซึม100%เข้าสู่เซลล์ใน5นาทีล่าสุดจากเกาหลี


อยากมีผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส่ฟังทางนี้ วิตามินบูสผิว สารสกัดเข้มข้น 18 ชนิด นวัตกรรมอาหารผิว อาหารเซลล์ ลิขสิทธิ์ระดับโลก 'หนึ่งเดียว'

ด้วยนวัตกรรม FiR FAR INFRARED...



อาหารผิวมาแรงที่สุด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมไวเข้าสู่เซลล์ 'ภายใน 5 นาที

5 ประโยชน์ทำไม ต้องทาน ?

เสริมสร้างภูมิต้านทาน

ลดการเกิดสิวอักเสบ

ผิวเด็กกระจ่างใส

ช่วยบำรุงสายตา

ลดรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย ฝ้า กระ

ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

วิตามินสูงกว่า ทั่วไป 80 เท่า



โปรโมชั่นเปิดตัว   # เปิดบิล 2,699฿ เป็นตัวแทนติดบริษัท  ได้รับ 2 กล่อง



ไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าเอง

ไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเอง

ไม่มีความรู้ ก็เริ่มทำธุระกิจได้

กำไร 50-75%

มีทีมงานการตลาดสอนเทคนิคการขายฟรี

มีกลุ่มและทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอด

สามารถเริ่มทำงานได้ทันที

  

เติมอาหารผิวเพียงวันละ 1-2 ม็ด (30 แคปซูล )

ปลอดภัย อย. 13-1-14959-5-1478



สนใจสั่งซื้อหรือสมัครตัวแทน

ไลน์ไอดี teerapat999

โทร 0846623662

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1230

 กดเข้าลิ้งค์นี้  ลงทะเบียนฟรี !!! เพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมการสร้างรายได้

https://www.metang-solution.com/member/register.php...







#11079
ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย   ข้าวสุขภาพสุรินทร์ ข้าวปลอดสาร    กลุ่มข้าวปลอดสารสุรินทร์   โครงการนาข้าวปลอดสาร ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 

การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค (ต้นข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวออร์แกนิค
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  การผลิตข้าวออร์แกนิคต้นทุนต่ำ

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  สถานการณ์ข้าวอินทรีย์ไทย

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique พันธุ์ข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิ 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 
 
#11080


ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2564 มีกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1,022 ล้านบาท หากไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง กำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,011 ล้านบาท เติบโต 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 56.5% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ ขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้นสู่ 3,524 ล้านบาท เติบโต 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยมีปัจจัยสำคัญจากปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 47.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 831 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากหลายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ยางรถยนต์ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และกลุ่มก๊าซอุตสาหกรรม ควบคู่กับการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 21.2 เมกะวัตต์ ในช่วงไตรมาส 2/2564 หรือ 31.5 เมกะวัตต์ ในครึ่งปีแรก จากเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 40 เมกะวัตต์ในปีนี้

นอกจากนี้ กำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นยังเป็นผลจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชาเมื่อเดือนธันวาคม 2563 และการเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 1 จำกัด (ABPR1) และบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 2 จำกัด (ABPR2) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 รวมถึงประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 17.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติได้ปรับตัวลดลง 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด บี.กริม เพาเวอร์ ได้ประกาศ 7 ยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้สังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately) เพื่อสร้างคุณค่าให้สังคมในรูปแบบของ Sustainable Utility Solution Provider ด้วยการผลิตพลังงานที่มีคุณภาพสูงและบริการแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ส่วนความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปีนี้ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบ่อทอง วินด์ฟาร์ม 1&2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร มีกำหนดการ COD ในเดือนสิงหาคม 2564

ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 48 โครงการ โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเติบโตจาก 3,058 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2563 เป็นมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 และมุ่งสู่ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 ด้วยมีเป้าหมายรายได้ต่อปีกว่า 100,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.15 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 26 สิงหาคม 2564 และวันที่จ่ายปันผล 10 กันยายน 2564
#11082


ออร่าความเท่ ไม่มีแผ่ว ทำสาวๆหรือใครๆเห็นแล้วอยากจะขยับเข้าใกล้ ล่าสุดพระเอกดาวรุ่งพุ่งแรงสามีแห่ง "ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล" ขึ้นแท่นรับตำแหน่งเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ "สเปรย์ฉีดผ้าลดรอยยับ Mrs. WoW" คนใหม่ล่าสุด ด้วยคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนครบทุกด้าน สื่อถึงผู้บริโภครุ่นใหม่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตัวช่วยให้การทำงานบ้านในการรีดผ้าโดยเฉพาะผู้ชายเป็นเรื่องที่ง่าย ประหยัดแรง ประหยัดเวลา ด้วยนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับคนรักผ้าเรียบแค่ฉีดแล้วลูบก็ทำให้ผ้าเรียบโดยไม่ต้องใช้เตารีด พร้อมมีสารแอนตี้แบคทีเรีย ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าไปถึงโครงสร้างของเนื้อผ้า และคุณสมบัติพิเศษให้ผ้าหอมยาวนานตลอดทั้งวัน

"ผมว่ามันเวิร์คมากและเหมาะมากๆสำหรับคนที่ไม่มีเวลารีดผ้า โดยเฉพาะเหล่าคุณผู้ชายที่จะต้องมีตัวช่วยแบบนี้ไว้ติดบ้าน เพราะวิธีใช้งานง่าย สะดวกสบาย แค่ฉีดแล้วลูบ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผ้าเรียบและมีกลิ่นหอมแล้ว ยังช่วยเรื่องการระงับกลิ่น ฆ่าเชื้อโรค และยังช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตจากเนื้อผ้ากับผิวได้ดีอีกด้วย ทำให้เราฟีลกู๊ดไปได้ทั้งวัน"

เตรียมพบกับโปรเจ็กต์พิเศษพร้อมกิจกรรมให้ร่วมสนุก ให้แฟนๆ ได้ฟิน และมีส่วนร่วมกับแบรนด์และพรีเซ็นเตอร์ ก๊อต จิรายุ ตลอดทั้งปี รอติดตามได้ในเร็วๆนี้ สำหรับผู้สนใจสามารถสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http:// www.mrswow-thailand.com/
#11083
 5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มือาชีพ


ประกาศๆ แจ้งให้ทราบ ถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่
ไม่มีประสบการณ์เลย
วิกฤตธุรกิจไปต่อไม่ได้
อายุเยอะแล้วกลัวเรียนไม่ทัน
อยากขายออนไลน์เป็น แต่ไม่มีคนสอน
เอาความรู้ไปต่อยอด

>>> 97 บาท <<<
ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ตอนนี้!!!
เพราะเราออกแบบคอร์สนี้
มาให้สำหรับท่านแล้ว
____________________________
5 วัน 5 วิชา
ที่สามารถพาคุณไปเจอกับโลกใบใหม่
เรียนผ่านมือถือเครื่องเดียว
วัยไหนก็เรียนได้
ปรึกษาได้ตลอด
ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันที่ 1 การปรับหน้าโปรไฟล์
วันที่ 2 การสร้างวีดีโอ / รูปให้ดูน่าสนใจ
วันที่ 3 การสร้าง Content
วันที่ 4 การสร้างเพจมืออาชีพ
วันที่ 5 สอนยิงตรงกลุ่ม ยิงถูก ปิดยอดเก่ง
พร้อมวิธีหากลุ่มเป้าหมายแบบตรงเป๊ะ
.
เรียนจบครบทั้ง 5 วัน รับวุฒิบัตรได้ด้วย
ทั้งหมดนี้
เราเก็บค่าคอร์สกับคุณเพียง 97 บาท
ย้ำ!!คุณดูไม่ผิดหรอก 97 บาท
จากราคาปกติ 7,990 บาท
.
จำนวนจำกัด
สิทธิ์ 97 เฉพาะ 100 ท่าน
.
ขอท่านที่สนใจเรียนจริงๆ
เพราะเราก็ตั้งใจสอนให้ท่านจริงๆเช่นกันสนใจติดต่อ โค้ชเอก

โทร 0846623662

line id : teerapat999
รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99.iconsalepage.com/
#11084
รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอลการ์ดราคาส่ง
ราคาถูก ราคาเบา ราคาโรงงาน
มีเลขที่จดแจ้ง ได้มาตรฐาน 
ราคาเริ่มต้น 15 บาท/ชิ้น
สนใจติดต่อ  https://lin.ee/nXGuYwR
โทร. 0863754112
#11085


นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM Drama-Addict เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 201 ล้านบาท ทั้งนี้กำไรของบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นกว่าระลอกที่ผ่านมา โดยในไตรมาสนี้รายได้จากการดำเนินงานจำนวน2,403 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 86 ล้านบาท หรือ 3.5% แต่ด้วยการบริหารจัดการด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดทำให้กำไรสุทธิเพิ่มจากปีก่อน 49 ล้านบาท หรือ 32.2%

โดยบริษัท มีรายได้จากค่าผ่านทาง ลดลง 103 ล้านบาท รายได้จากค่าโดยสารและรับจ้างเดินรถ ลดลง 15 ล้านบาทขณะที่มีรายได้พัฒนาเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 32 ล้านบาท

สำหรับผลดำเนินงานรอบ 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.)2564 บริษัท มีกำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น จำนวน 506 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 154 ล้านบาท หรือ 23.3% จากผลกระทบการแพร่ระบาด ของโควิด-19 ทำให้ปริมาณจราจรและปริมาณผู้โดยสารลดลง

ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก BEM ยังคงดูแลผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทางพิเศษให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าปริมาณผู้โดยสารและปริมาณจราจรจะฟื้นตัวกลับมาเร็ว เมื่อแนวโน้มการระบาดลดลง และอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น