• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - dsmol19

#9782

ล้วงกลยุทธ์ 'เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์' เจ้าของอาณาจักรแสนล้าน 'บีทีเอสกรุ๊ปโฮลดิ้งส์' ! หมากเกมนี้...ลึกแต่ไม่ลับ ดันโมเดลหาหลากเพื่อนใหม่ ต่อ 'จิ๊กซอว์ 4 ธุรกิจ' ผลัดดันองค์กรโตหลายเด้ง ปิดดีลใหญ่ส่ง VGI-U ผนึกกำลัง JMART-SINGER มูลค่า 1.75 หมื่นล้าน

เหมือนกำลังจะกลายเป็นวัฒนธรรมประจำของ 'ตระกูลกาญจนพาสน์' เจ้าพ่ออาณาจักร 'ให้บริการรถไฟฟ้า' ที่เคยเป็นหนึ่งในบริษัทมีหนี้สินจำนวน 'มหาศาล' จากวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะเกือบตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องเห็น 'เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์' เจ้าของ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS โดดเข้าถือหุ้นในธุรกิจใหม่ๆ ในหลากหลายวงการ เพื่อต่อยอด 'ความมั่งคั่ง' (Wealth) ให้ 4 ธุรกิจหลัก 1. ธุรกิจให้บริการเดินรถไฟฟ้า 2. ธุรกิจสื่อโฆษณา 3.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจบริการ

สะท้อนผ่านธุรกิจในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อาทิ บมจ. วีจีไอ หรือ VGI ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจสื่อโฆษณา บีทีเอส ถือหุ้น 51.60% กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ถือเป็นการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองแรกของประเทศไทย บีทีเอสถือหุ้น 33.33% บมจ. ยู ซิตี้ หรือ U ธุรกิจพัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ บีทีเอสถือหุ้น 36.22% และ บมจ. มาสเตอร์ แอด หรือ MACO ธุรกิจสื่อนอกบ้าน บีทีเอสถือหุ้น 41.16% (ตัวเลข ณ 4 ส.ค.2564)

จากวันวานที่เคยมีหนี้สินมหาศาล ทว่าในวันนี้กลับกลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มี 'มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด' (Market Cap) เพิ่มพูนจาก 3,000-4,000 ล้านบาท มาอยู่ในระดับสูงถึงแสนล้านบาท ! ฉะนั้น เรื่องแหล่งเงินทุนในการซื้อสินทรัพย์ใหม่ๆ แทบไม่มีปัญหา สะท้อนผ่านช่องทางการระดมทุนต่างๆ ทั้งในตลาดเงิน-ตลาดทุน 

สอดคล้องกับประโยคที่ลูกชายคนโตของ 'เจ้าสัวคีรี' อย่าง 'กวิน กาญจนพาสน์' กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 'บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์' ที่เคยเล่าให้ 'กรุงเทพธุรกิจ' ฟังว่า ในมุมมองของคีรี (พ่อ) และเขา เห็นตรงกันว่า.. 'ผมและคุณคีรี (พ่อ) มีมุมมองว่าที่ผ่านมาใช้เวลาในการขยายธุรกิจเยอะมากทั้งที่สร้างขึ้นมาเองและการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ฉะนั้นเปรียบเหมือนกินอาหารสะสมมาร่วม 10 ปี ทำให้ตอนนี้เราอ้วนมากแล้ว !'

ดังนั้น หลังสะสมขุมกำลังทางธุรกิจมามาก ผ่านการขยายเครือข่ายธุรกิจอื่นๆ แบบลงทุนเอง และร่วมกับพันธมิตร เกมธุรกิจจากนี้ในสเต็ปต่อไป จะเป็นเกมของการ Synergy (ผนึกกำลัง) ของแต่ละธุรกิจในกลุ่มและพันธมิตรทางธุรกิจอย่างแท้จริง !!

เขายังระบุด้วยกว่า หากไม่ปรับตัวองค์กรแห่งนี้จะขยับตัวลำบาก โดยจะเห็นผลชัดในระยะไม่เกิน 3-5 ปีจากนี้ ตามเป้าหมายองค์กรแห่งนี้ต้องแข็งแรงทั้งในและนอก ด้วย 'กลยุทธ์' ต่อจากนี้คือ บีทีเอสจะไม่เดินคนเดียวแต่จะหาเพื่อนใหม่ๆ เข้ามาร่วม เสมือนให้มาเป็นเพื่อนกับบีทีเอส และเป็นการขยายฐานลูกค้าเพิ่มและทำความรู้จักกับลูกค้ารายใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักบีทีเอสมาก่อน

หากย้อนดู เมื่อฟื้นธุรกิจกลับมาได้ ในปี 2550 บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนผ่าน 'กลุ่มบีทีเอส' เข้าไปลงทุนถือหุ้นในหลากหลายธุรกิจ อย่าง บมจ. แพลนบี มีเดีย หรือ PLANB ธุรกิจสื่อนอกบ้าน ถือหุ้น 18.59% บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ถือหุ้น 9.13% 

บมจ. บางกอก เดค-คอน หรือ BKD ธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายใน ถือหุ้น 9.25% บมจ. ฮิวแมนิก้า หรือ HUMAN ธุรกิจเทคโนโลยี ถือหุ้น 10.01% บมจ. อาฟเตอร์ ยู หรือ AU ธุรกิจขนมหวาน ถือหุ้น 9.77% บมจ. เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX ธุรกิจขนส่ง ถือหุ้น 18.06% บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป หรือ YGG ธุรกิจเทคโนโลยี ถือหุ้น 9.08% 

ขณะที่ อ้างอิงตามที่ 'กลุ่มบีทีเอส' แจ้งการลงทุนเข้าซื้อหุ้นเนื่องจากไม่ปรากฏสัดส่วนการถือหุ้น 10 อันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาทิ บมจ. คอมเซเว่น หรือ COM7 ธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไอที ถือหุ้น 4.92% , บมจ. อาร์เอส หรือ RS ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม , สื่อ ถือหุ้น 6.06% และ บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง หรือ SPI ธุรกิจลงทุนในธุรกิจสินค้าอุปโภคอาหารและเครื่องดื่ม ถือหุ้น 0.87% 

และล่าสุดกับ 'บิ๊กดีลระดับหมื่นล้านบาท !!' ของ 'กลุ่มบีทีเอส' หลังทุ่มเงินมูลค่า '1.75 หมื่นล้านบาท' ผ่าน บมจ. วีจีไอ หรือ VGI และ บมจ. ยู ซิตี้ หรือ U เข้าซื้อหุ้นของ บมจ. เจ มาร์ท หรือ JMART และ บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย หรือ SINGER 

 'อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีที่ลงทุนในบริษัทอื่นที่มีศักยภาพ (Investment Holding Company) กล่าวว่า บมจ. วีจีไอ หรือ VGI และ บมจ. ยู ซิตี้ หรือ U ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม BTS Group Holdings เข้ามาร่วมลงทุนในกลุ่มเจมาร์ทครั้งนี้ นับเป็นโอกาสใหญ่ที่ได้ผสานพลังร่วมกับกลุ่มผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอีโคซิสเต็มครบวงจร 

สะท้อนความเชื่อมั่นใน JMART SINGER และ JMT ที่มีศักยภาพการเติบโตอีกมาก สิ่งที่เข้ามาปลดล็อกในครั้งนี้ คือ การปลดล็อกฐานเงินทุนที่จะเพิ่มขึ้น และแผนการ Transform และ Synergy ร่วมกันในทุกรูปแบบ โดยเป็นการมองระยะยาวไปอีก 3 - 5 ปีจากนี้ ด้วยเม็ดเงินระดมทุนก้อนใหญ่ ที่สามารถรองรับการขยายธุรกิจ แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด ก็เชื่อมั่นได้ว่า เจมาร์ทมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ 

สำหรับแผนการ Synergy ร่วมกันในช่วงต่อจากนี้ คาดจะได้เห็นการขยายฐานลูกค้า การขยายผลิตภัณฑ์และบริการในเครือของเจมาร์ท ในธุรกิจค้าปลีก การเงิน ประกัน และเทคโนโลยี ไปสู่ขอบเขตการให้บริการที่เป็นมากกว่า Online-to-Offline (O2O) โซลูชั่นส์ บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณาของ VGI ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ 

ในแง่ของช่องทางการจำหน่าย SINGER ยังถือเป็นเบอร์หนึ่งที่สามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านตัวแทนขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยปัจจุบันมีร้านสาขาและแฟรนไชส์รวมกว่า 2,800 แห่ง รวมทั้ง ช่องทางร้านค้ากลุ่มสินค้าเทคโนโลยี JAYMART MOBILE และบริษัทในเครือ เป็นเครือข่ายการกระจายสินค้าและเข้าถึงผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ผสานกับ KERRY เพิ่มโอกาสการต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ในเครือเจมาร์ทได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 

รวมทั้ง ทางด้านเทคโนโลยีทางการเงิน Blockchain รวมทั้งศึกษาเรื่อง Digital Token และการนำเอา JFIN Token มาใช้บนอีโคซิสเต็มของกลุ่ม BTS เป็นโอกาสในการสร้างระบบนิเวศน์ในเครือเจมาร์ทให้ครบวงจร

นอกจากธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตยิ่งขึ้นแล้ว การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของกลุ่มเจมาร์ท ทำให้มีงบดุลที่แข็งแกร่งขึ้น มีโอกาสที่เครดิตเรทติ้งจะดีขึ้น และการขยายธุรกิจด้วยต้นทุนการเงินที่ลดลงของ SINGER และ JMT จะสะท้อนกลับมาที่ JMART ในแง่ของกำไรที่โดดเด่นชัดเจน 


โดยตั้งเป้าภาพรวมกำไรปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี ซึ่งยังไม่นับรวมการผนึกพันธมิตรต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกับบริษัท VGI และ U ภายในกลุ่ม BTS ทั้งนี้ VGI และ U เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ของ JMART รวมสัดส่วน 24.9% ของทุนที่ชำระแล้ว โดย VGI เข้ามาถือสัดส่วน 15% ส่วน U ถือสัดส่วน 9.9% 

พร้อมกันนี้ JMART ในฐานะเป็นบริษัทแม่ของ JMT และผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SINGER พร้อมนำเงินจากพันธมิตรที่ได้จากการออก PP ครั้งนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท สนับสนุนแผนเพิ่มทุน (RO) ของ SINGER คิดเป็นมูลค่าราว 1,300 ล้านบาท รองรับการขยายโอกาสในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน 

และอีกส่วนหนึ่งใช้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (RO) ของ JMT มูลค่าประมาณ 5,300 ล้านบาท รองรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหาร ท่ามกลางสถานการณ์ของอุตสาหกรรมที่สนับสนุนการเติบโตของกิจการในอนาคต ซึ่ง JMT เป็นผู้บริหารหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่ของประเทศ โดยผู้ถือหุ้นท่านใดที่เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตนี้ ก็สามารถมีส่วนร่วมเติบโตไปด้วยกันในครั้งนี้ พร้อมให้วอแรนท์ชุดใหม่ รองรับการเติบโตในอนาคต

ด้าน บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย หรือ SINGER เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ RO และ PP รวมได้เงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการออก PP ให้ บมจ. ยู ซิตี้ หรือ U ถือหุ้นสัดส่วน 24.9% มีแผนจะนำเงินที่ได้ 7,700 ล้านบาท ใช้สนับสนุนการขยายพอร์ตสินเชื่อของ SINGER ให้เติบโตโดดเด่น ด้วยต้นทุนทางการเงินในระดับต่ำมาก และเงินส่วนที่เหลือนำไปคืนหนี้หุ้นกู้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
#9783


นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยในงานสัมมนา "กลางวิกฤต COVID โอกาสทางธุรกิจยังมีอยู่ไหม?" จัดโดย ศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันวิทยาการตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทมีการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) มาอย่างต่อเนื่อง และยังมีเป้าหมายขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในอนาคต

โดยช่วงแรกที่เริ่มลงทุนในประเทศกัมพูชา และลาว บริษัทใช้วิธีการจัดตั้งบริษัทย่อยที่ถือหุ้นเอง 100% และใช้วิธีส่งออกสินค้าออกไปจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักผลิตภัณฑ์ของบริษัทก่อน เพื่อให้เกิดการทดลองใช้ และเกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ก่อนจะเข้าไปจัดตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกน้ำมันให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงยางมะตอยเพื่อจัดทำถนน ฯลฯ

อย่างไรก็ดี ช่วงแรกประมาณ 5-8 ปี พบว่า กำไรสุทธิยังติดลบ ซึ่งบริษัทต้องใช้กลยุทธ์ปรับผลิตภัณฑ์ วิธีการทำงาน และการขยายสาขา กว่าที่จะได้การประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) อีกทั้งพบว่าการเป็นเจ้าของ 100% มีอุปสรรคในการขอใบอนุญาตที่นานกว่าปกติ และนานกว่าการที่ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ของบริษัทในแต่ละประเทศเข้าไปขอใบอนุญาตเอง

ส่งผลให้การลงทุนในระยะต่อมาในประเทศเมียนมา และเวียดนาม บริษัทจึงปรับจากการจัดตั้งบริษัทเองเป็นการแสวางหาพันธมิตรผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) กับบริษัทท้องถิ่นที่มีจุดแข็งที่บริษัทไม่มี ซึ่งช่วยให้การขอใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจ การจัดหาแรงงาน และการติดต่อกับหน่วยงานราชการมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการปรับอัตลักษณ์ของสาขาให้เข้ากับท้องถิ่ง เพื่อสร้างความผูกพันกับคนในพื้นที่ รวมถึงให้คนื้องถิ่นเข้ามาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ให้ตรงกับความต้องการของคนในประเทศนั้นๆ มากขึ้น


ทั้งนี้ ปัจจุบัน OR ให้บริการสถานีน้ำมันในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งสิ้น 161 แห่ง ร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน 261 สาขา ร้านค้าสะดวกซื้อ Jiffy 100 สาขา ศูนย์บริการรถยนต์ FIT Auto 5 แห่ง ร้านชานมไข่มุก Pearly Tea 4 สาขา และร้านอาหารข้าวเปียกปูปากเซ 1 แห่ง

'เยียวยาประกันสังคมมาตรา 40' เช็คโอนพร้อมเพย์-ทบทวนสิทธิ์ ยังไม่ได้เงินทำไง?
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังตายสูง! พบเสียชีวิต 292 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 17,984 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,535 ราย
เตรียมตัวให้พร้อม "ร้านนวด-เสริมสวย" คลายล็อก 1 ก.ย. นี้
นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา ประธานกรรมการ บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BTNC กล่าวว่า การทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ต้องมี "3 Knows" ได้แก่ 1. Know How ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการของตนเอง 2. Know Who บริษัทต้องรู้ว่าควรเข้าหาใคร ซึ่งผู้ที่ต้องเข้าหาอาจไม่ใช่คนใหญ่คนโตของประเทศเสมอไป เช่น ผู้ที่มีความสามารถด้านภาษา หรืออาชีพที่รู้จักคนกว้างขวางอย่างไกด์ เป็นต้น และ 3. Know GU ต้องรู้ว่าตนเองสามารถทำอะไรได้บ้าง

"และที่สำคัญคือไปไหนต้อง 'เทียวไล้เทียวขื่อ' หรือไปมาหาสู่อย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่คบหากับพันธมิตรอย่างจริงใจ รวมถึงผูกพันช่วยเหลือผ่านการลงนามความร่วมมือ (MOU) โดยตนในฐานะที่ปรึกษาสภาธุรกิจไทย-เมียนมา ได้สนับสนุนการลงนาม MOU มากถึง 14 ความร่วมมือเพื่อทำธุรกิจในประเทศดังกล่าว"

ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น นายปณิธาน กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตดังกล่าว การดำเนินธุรกิจใน CLMV ยังทำต่อเนื่องได้ เพราะคนที่ไม่ป่วยยังทำงานตามปกติ อีกทั้งมีมาตรการ Bubble and Seal เพื่อแยกผู้ติดเชื้อกับคนปกติออกจากกัน แต่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อป้องกัน และเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะสามารถคลี่คลายได้ในระยะข้างหน้า
#9784


ราคาน้ำมันดีดตัว 2% ในวันศุกร์(27ส.ค.) นับเป็นสัปดาห์ที่ปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี จับตาพายุลูกหนึ่งกำลังถาโถมเข้าหาอ่าวเม็กซิโก ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำปิดบวก จากความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ณ ที่ประชุมประจำปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

บรรดาบริษัทน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯเร่งอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะต่างๆนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ก่อนคาดหมายว่าเฮอร์ริเคนไอดาจะซัดถล่มรัฐลุยเซียนาในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

สำนักความปลอดภัยและการบังคับใช้ทางสิ่งแวดล้อมแห่สหรัฐฯเปิดเผยว่าด้วยพายุลูกที่ 9 ของฤดูกาลนี้กำลังคืบคลานเข้าหาแท่นขุดเจาะน้ำมันหลักนอกชายฝั่งสหรัฐฯ ส่งผลให้เหล่าผู้ผลิตน้ำมันในวันศุกร์(27ส.ค.) ต้องลดปฏิบัติการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกลง 59%

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(27ส.ค.)พุ่งแรง ดันเอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ เป็นครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์ หลังความเห็นของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ณ ที่ประชุมประจำปี ในเมืองแจ็คสัน โฮล สยบความกังวลเกี่ยวกับกรอบเวลาลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 242.68 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,455.80 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 39.37 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,509.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 183.69 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,129.50 จุด

แม้ พาวเวลล์ ไม่ได้ให้ภาพที่ชัดเจนในเรื่องของกรอบเวลาลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่ดูเหมือนเขาส่งสัญญาณอะลุ้มอล่วยกว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)คนอื่นๆ ในนนั้นรวมถึง เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์และโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ซึ่งคาดหวังว่าจะเริ่มลดระดับเข้าซื้อพันธบัตรเร็วๆนี้และจะปิดโครงการในปีหน้า

อย่างไรก็ตามด้วยความคิดเห็นของ พาวเวลล์ ไม่ได้ก่อความประหลาดใจใดๆแก่นักลงทุน เกี่ยวกับแผนของเฟด ส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(27ส.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 24.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,819.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)
#9786
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th/

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#9787
 ข้าวปลอดสารสุรินทร์  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย    ข้าวปลอดสารเคมีสุรินทร์ การปลูกข้าวปลอดสาร    จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวปลอดสาร   ปลูกข้าวปลอดสาร กันมั้ย   ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 
การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวออร์แกนิค
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  โครงการนาข้าวออร์แกนิค

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ส่งออกข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique มาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ขายข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#9788


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังหมายเลข 7 โพสต์ข้อความอำลาแฟน. ยูเวนตุส ยักษ์แห่ง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ซึ่งถือเป็นความในใจแรกของเจ้าตัวหลังเก็บของย้ายกลับไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โรนัลโด้ ย้ายมาสวมเสื้อลายขาว-ดำ ของพลพรรค 'ม้าลาย' เมื่อปี 2018 และประสบความสำเร็จซิวถ้วยแชมป์ 5 ใบคือ กัลโช่ เซเรีย อา 2 สมัย, โคปปา อิตาลี 1 สมัย และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย ทว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเมื่อเจ้าตัวกลับไปเล่นกับ 'ผีแดง' สโมสรที่พาแจ้งเกิดบนสังเวียนระดับโลก

เป็นเรื่องธรรมดาที่ว่าเมื่อจากลาก็ต้องมีการร่ำลา และนักเตะวัย 36 ปี ก็ตัดสินใจบอกลาโค้ช ทีมงาน และแฟน.ทุกคนผ่าน โซเชียล มีเดีย มีใจความดังต่อไปนี้

'วันนี้ผมต้องเดินออกจากสโมสรที่น่าทึ่ง ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิตาลี และแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ผมมอบหัวใจและจิตวิญญาณให้แก่ ยูเวนตุส และผมจะรักเมืองตูรินไปจนวันสุดท้าย แฟน.ของเรา ทิฟโฟซี เบียงโคเนรี ให้การยอมรับผมเสมอมา ผมจึงพยายามขอบคุณด้วยการต่อสู้เพื่อพวกเขาในทุกเกม ทุกฤดูกาล และทุกการแข่งขัน'

ในท้ายที่สุด เราทุกคนสามารถมองย้อนกลับไป และระลึกได้ว่าเราประสบความสำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้ไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องการ แต่เราก็ได้เขียนเรื่องราวที่สวยงามไปด้วยกัน'

"Juve, storia di un grande amore
Bianco che abbraccia il nero
Coro che si alza davvero
Juve per sempre sara..."

'ผมจะเป็นหนึ่งเดียวกับคุณเสมอ คุณเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของผม และผมรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ อิตาลี, ยูเว, ตูริน, ทิฟโฟซี เบียงโคเนรี คุณจะอยู่ในใจผมเสมอ'
#9789
การสั่งจองคัมภีร์พระเวทย์
โดยประสิทธิ์ให้เป็นรายบุคคล ท่านใดต้องการจอง ค่าครู 399 บาท



คัมภีร์พระเวทย์ มีวิชาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

บทนำ บทสวดมนต์ การอัญเชิญบรมครู การขึ้นพานครู บทไหว้ครู บทอัญเชิญครู วิชาเชิญแม่คุ้มครอง วิชากันภัย ๘ ทิศ

วิชากำลังช้างสาร วิชาเสกน้ำปลุกตัว วิชากำแพงแก้ว วิชาตาข่ายเพชรพระเจ้า ๕ พระองค์ วิชาผูกหุ่นพยนต์เฝ้าบ้าน

วิชากันขโมย วิชาปล่อยปลาต่ออายุ การทำสังฆทาน วิชาแก้กรรมทำแท้ง วิชาแก้อาถรรพ์ (ไปรับวัตถุมงคลที่ไม่ดี, รับขันธ์ ฯลฯ) วิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยตนเอง วิชาตั้งหิ้งพระค้าขาย วิชาการแก้กรรมเฉพาะกิจ วิชาทวงหนี้

วิชาแก้ไฝในที่ลับ วิชาพฤกษาชาติเสริมชะตา วิชาขอขมาพ่อแม่ วิชาลอยสรรพเคราะห์ด่วน วิชาทำน้ำมนต์ประทุมทิพย์

วิชาแก้เคล็ดเสริมลาภ วิชามงกุฎยอดทรัพย์ วิชาไหว้ผีปู่ผีย่า วิชาสร้างปราณเสริมลาภ การทำน้ำมนต์ถอนคุณไสย

วิชาถอนของ ของสมเด็จโต วิชาแก้ของในร้านค้า วิชาเรียกของหาย พระคาถาต่าง ๆ พระคาถาขุนแผน พระคาถาคิ้วทอง

พระคาถาพระลักษณ์หน้าทอง พระคาถาสาลิกาลิ้นทอง พระคาถาเขี้ยวแก้ว พระคาถาราศีทอง พระคาถาสาลิกามัดจิต

พระคาถาไม้สวรรค์ พระคาถาเมตตาอ่อนใจ พระคาถาผูกใจ พระคาถาเสกสีผึ้ง พระคาถาพ่นบุหรี่ พระคาถามหาระรวย

พระคาถามหานิยม พระคาถาเทพรัญจวน พระคาถานะหน้าทอง พระคาถานกแขกเต้า พระคาถาเสกสีผึ้งสีปาก

พระคาถาการะเวกเสียงทอง พระคาถาสาลิกาดลใจ พระคาถาพญาไก่แก้วทั้ง ๑๖ ลืมรัง วิชาฤามหานิยม

การทำเสน่ห์ด้วยใบรักซ้อน วิชาทำหุ่น ทำรัก-ทำเลิก การทำเสน่ห์การ้องทัก (เรียกจิต) วิชาฤาษีมัดใจ(เสกของกิน)

มนต์เสน่ห์มัดใจ(รักกันจนวันตาย) มนต์ปู่จ้อยมหาเสน่ห์ วิชาหงส์ร่อนมังกรรำ วิชามนต์เทพมัดจิตบังคับใจ

วิชากลับธาตุกลับใจ วิชากรงทอง คาถาเสริมลาภ เสกธูปเรียกขนหงส์ทอง คาถาขอลาภ เสกธูปเรียกคน

พระคาถาเรียกเงิน การทำน้ำมนต์ค้าขาย มนต์ขุนแผนเรียกคน บทสวดขอลาภ การทำเทียนสะเดาะเคราะห์

คาถาเรียกเลข วิชาลงทอง เสกน้ำล้างหน้า เหตุใดคาถาถึงศักดิ์สิทธิ์และไม่ศักดิ์สิทธิ์ มนต์ทำงัวธนู การบูชาท้าวเวสสุวรรณ คาถาแก้ฝันร้าย รวมทั้งนิมิตร้าย และลางร้ายต่างๆ เชิญอาคมเข้าสู่ตัว คาถาอาวุธ ๔ ประการ คาถาขอทรัพย์พญานาคราช คาถาบูชาจ้าวปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธมัจฉราชจริยาคาถา คาถาปลาช่อน (คาถาขอฝน) การบูชาพระราหู พระคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เปิดโลก (เรียกบุญบารมีเดิม) คาถาเงินล้าน คาถาชินบัญชร การฝึกสมาธิ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่



โทร. 0846623662

id line : teerapat999



ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632506885.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfMp9Zq0



#9790


เคทีซีปรับแผนธุรกิจหมวดบริจาครับวิถีใหม่ วางตัวเป็นสื่อกลางระหว่างสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีและพันธมิตรองค์กรการกุศลกว่า 60 แห่ง เพื่อร่วมกันช่วยเหลือสังคมในหลากหลายมิติ พร้อมเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มช่องทางการบริจาค ออฟไลน์ ออนไลน์ และโมบายแอปพลิเคชั่น "KTC Mobile"

ล่าสุดเปิดรับบริจาคด้วยบัตรเครดิตผ่าน QR Pay และแลกคะแนนผ่าน QR Point ทางแอปฯ KTC Mobile เพื่อให้สมาชิกเข้าถึงการบริจาคได้ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หลีกเลี่ยงการเดินทางและลดการแพร่ระบาดจากไวรัสโควิด-19"



นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เคทีซีเข้าใจและตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยหวังว่าจะมีส่วนช่วยสร้างสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยได้ดำเนินการช่วยเหลือสังคมในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการร่วมเป็นจิตอาสา หรือการสบทบทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เคทีซีได้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์สนับสนุนโครงการและกิจกรรมต่างๆ ระหว่างมูลนิธิกับสมาชิก พร้อมทั้งเปิดช่องทางรับบริจาคผ่านบัตรเครดิตให้กับสมาชิกเคทีซี เพื่อส่งต่อให้กับมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่างๆ กว่า 60 แห่ง โดยปี 2563 มียอดบริจาคผ่านบัตรเครดิตเคทีซีด้วยคะแนน KTC FOREVER กว่า 50 ล้านคะแนน ยอดเงินบริจาครวม 300 ล้านบาท"

"สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงและขยายวงกว้างขณะนี้ ภารกิจสำคัญที่สุดที่เคทีซีต้องดำเนินการ คือให้ความร่วมมือกับมูลนิธิต่างๆ ด้วยความกระตือรือร้นและรวดเร็ว เพื่อให้เข้าถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ ผู้กักกันตน โรงพยาบาลที่ขาดแคลนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือการสร้างศูนย์พักคอยรองรับผู้ป่วยสีเขียวในต่างจังหวัด โดยถือเป็นภาระเร่งด่วนที่สุดในการประสานกับมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และเปิดช่องทางให้สมาชิกเคทีซีสามารถเข้าถึง เพื่อเสริมแรงสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม"



ดร. บรรจงเศก ทรัพย์โสภา ผู้อำนวยการมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ กล่าวว่า "มูลนิธิได้ทำงานช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในประเทศไทยมา 64 ปี ใน 3 รูปแบบ คือ 1. พัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี 2. พัฒนาเด็กและเยาวชนในชุมชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพเพื่อเป็นอนาคตของประเทศ 3. เน้นทำงานควบคู่กับเครือข่ายภาคี เช่น เคทีซี ภาครัฐและเอกชน รวมถึงองค์กรการกุศล 4. ปรับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เช่น โควิด-19"

"ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้มูลนิธิต้องปรับตัวหลายด้าน ทั้งการทำงานที่ต้องปรับเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมมาใช้รูปแบบออนไลน์มากขึ้น เช่น การเยี่ยมเด็ก และการทำกิจกรรมร่วมกับผู้นำชุมชน หรือโรงเรียน เพื่อรักษาระยะห่าง ที่ผ่านมามูลนิธิได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกเคทีซีค่อนข้างมาก ในรูปแบบของเงินบริจาคผ่านบัตรเครดิต และการบริจาคผ่านการแลกคะแนน และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ มูลนิธิฯ อยากผลักดันการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายต่างๆ และอาสาสมัครเพื่อร่วมกันบรรเทาผลกระทบของการแพร่ระบาดครั้งนี้ มูลนิธิฯ ซี.ซี.เอฟ. ฯ ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยชุมชนและแยกกักกันในต่างจังหวัดเพื่อให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพราะส่วนใหญ่ศูนย์พักคอยมักจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ หรือในเขตเมือง ปัจจุบันเรามีศูนย์ฯ ที่สนับสนุนอยู่ในต่างจังหวัดทั้งหมด 37 แห่ง และกำลังจะสนับสนุนเพิ่ม 16 แห่ง แต่ยังขาดแคลนด้าน เวชภัณฑ์ อาหาร และสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วยมาก"

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า "สภากาชาดไทยเป็นองค์กรสาธารณกุศล เพื่อบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยากในสังคม ซึ่งจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สภากาชาดไทยก็ได้รับผลกระทบในหลายด้านเช่นกัน ได้แก่ 1.บริการทางการแพทย์ บุคลากรและอุปกรณ์การแพทย์ไม่เพียงพอ กับจำนวนผู้ป่วยที่ต้องการเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มสูงขึ้น 2. บริการโลหิต เกิดภาวะวิกฤตประชาชนไม่มั่นใจที่จะมาบริจาคเพราะห่วงความปลอดภัย 3. การหารายได้เข้ามูลนิธิ เพื่อใช้บริหารความช่วยเหลือไม่เป็นไปตามแผน เนื่องจากประชาชนมีกําลังในการบริจาคลดลง ซึ่งการที่เคทีซีเป็นพันธมิตรในการเผยแพร่ข่าวสารและจัดแคมเปญต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดรับบริจาคผ่านช่องทางของเคทีซี ถือเป็นการขยายโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้าถึงการแบ่งปันและการช่วยเหลืออย่างมาก ซึ่งรายได้จากการบริจาคจะนําไปใช้ช่วยเหลือประชาชนตามภารกิจต่างๆ ทั้งการรักษาพยาบาล บรรเทาทุกข์ ผู้ประสบภัย บริการโลหิต และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต รวมไปถึงสถานการณ์เร่งด่วนในขณะนี้คือ การช่วยเหลือและเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19"

"ปัจจุบันสภากาชาดไทยยังมีโครงการจัดครัวเคลื่อนที่ ทําอาหารปรุงสุกให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การแจกชุดธารน้ำใจให้ผู้กักตน ผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ติดเชื้อโควิด และดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ โควิดของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมถึง Hospitel และ Home Isolation เฉลี่ยวันละ 800-900 ราย รวมถึงสร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วนและจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด ทั้งนี้สมาชิกเคทีซีสามารถร่วมบริจาคด้วยการแลกคะแนนสะสมเป็นเงินบริจาค นอกเหนือจากการบริจาคด้วยบัตรเครดิต เพื่อร่วมสมทบทุนเข้าโครงการต่างๆ ของสภากาชาดไทย โดยสามารถติดตามข่าวสารของสภากาชาดไทยผ่านเคทีซีในทุกๆ ช่องทางได้อีกด้วย"



นางสาวจุฑารัตน์ วิบูลสมัย ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาแหล่งทุน มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม กล่าวว่า "มูลนิธิเป็นองค์กรการกุศลทางการแพทย์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในพ.ศ. 2525 และก่อตั้งในไทยเมื่อพ.ศ. 2540 มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ รวมถึงแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก นิ้วติด นิ้วเกิน หรือใบหน้าที่ผิดรูป โดยมูลนิธิได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเคทีซี ในการรับบริจาคผ่านบัตรเครดิตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พ.ศ. 2557 รวมทั้งพนักงานเคทีซียังได้ร่วมเป็นจิตอาสาประกอบแฟ้มผู้ป่วย เพื่อใช้เก็บประวัติข้อมูลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ที่จะเข้ารับการผ่าตัด"

"ในช่วงสถานการณ์โควิดทำให้มูลนิธิไม่สามารถปฏิบัติการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้การผ่าตัดที่ต่างจังหวัดได้ ซึ่งโดยปกติปีหนึ่งจะมีการวางแผนออกหน่วย 4 ครั้งต่อปี ใน 4 จังหวัด ครั้งหนึ่งประมาณ 7 วัน โดยไปทำการผ่าตัดให้ผู้ป่วยเด็กเฉลี่ย 80 - 100 คน อย่างไรก็ตาม มูลนิธิฯ ยังดำเนินการ "โครงการผ่าตัดแบบต่อเนื่อง" โดยให้งบสนับสนุนกับโรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ที่มีศัลยแพทย์ จึงยังคงสามารถผ่าตัดผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ได้ต่อเนื่อง ซึ่งการรักษาเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ต้องได้รับการผ่าตัดมากกว่า 1 ครั้ง บางคนต้องผ่าตัด 3 - 5 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีโครงการ "Smile Box" กล่องแห่งรอยยิ้ม ซึ่งบรรจุผ้าอ้อมเด็ก นมผง หน้ากากอนามัย อุปกรณ์การเรียน แผ่นพับที่ให้ความรู้ในการดูแลเด็ก และขวดนมที่มีลักษณะยาวพิเศษสำหรับเด็ก ปากแหว่งเพดานโหว่ เพื่อส่งให้กับผู้ป่วยเด็กที่เราเคยผ่าตัดไปแล้ว กับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัด โดยส่งไปแล้วประมาณ 200 กล่อง และสำหรับแผนงานในปีหน้า เมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น ทางมูลนิธิหวังว่าจะสามารถออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ผ่าตัดที่ต่างจังหวัดได้ตามเดิม"

นางสาวอรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการแผนกส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR กล่าวว่า "สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติก่อตั้งมายาวนานถึง 70 ปี โดยมีบทบาทให้ความช่วยเหลือ ผู้ลี้ภัยที่มีเหตุการณ์ในประเทศ เช่น สงคราม หรือความขัดแย้งทำให้ไม่สามารถอยู่ในประเทศตนเองได้ ซึ่งตอนนี้มีจำนวนถึง 82.4 ล้านคนทั่วโลก ปัจจุบันเราทำงานใน 135 ประเทศ และร่วมงานกับประเทศไทยมานาน 46 ปี"

"ไวรัสโควิด-19 พิสูจน์แล้วว่าไวรัสไม่ได้แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา หรือกลุ่มคน กลุ่มผู้ลี้ภัยก็มีการแพร่ระบาดของไวรัสเช่นกัน และอยู่ในความเสี่ยงสูงมากจากข้อจำกัดต่างๆ UNHCR ได้ระดมกำลังเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและบุคคลในความห่วงใยทั้งในและนอกค่ายทั่วโลกให้ได้รับความเท่าเทียม โดยไม่เลือกปฏิบัติ เพิ่มจุดแจกจ่ายน้ำให้มากขึ้น จุดล้างมือ จุดแจกจ่ายสบู่ หรือหน้ากากอนามัย และสิ่งสำคัญที่สุดคือ การอบรมให้ทราบถึงการเว้นระยะห่าง การรักษาพยาบาลเพิ่มเติม กรณีมีเคสผู้ป่วย กลุ่มแพทย์และพยาบาลต้องรับรู้เคสและสามารถรักษาผู้ป่วยเหล่านี้ รวมทั้งสร้างพื้นที่ในการคัดแยกผู้ป่วยอีกด้วย"

"ความช่วยเหลือจากทุกๆ ฝ่ายเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับ UNHCR มีผู้บริจาคที่มีคุณภาพผ่านบัตรเครดิตแบบต่อเนื่องค่อนข้างมาก จากสถิติผู้ลี้ภัยตกอยู่ในสถานะนี้โดยเฉลี่ยถึง 17 ปี ดังนั้นการบริจาคต่อเนื่องจะช่วยให้เรามีงบประมาณในการช่วยชีวิตผู้ลี้ภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรามุ่งเน้นช่วยกลุ่มที่เปราะบางเพราะ 80% ของผู้ลี้ภัยคือ ผู้หญิงและเด็ก ช่องทางการบริจาคผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเป็นวิธีที่ง่าย แต่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน ในอนาคตจะมีโครงการมอบทุนให้กับผู้ลี้ภัยทั่วโลก เพราะผู้ลี้ภัยเพียง 3% ที่ได้รับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย รวมถึงวิกฤติด้านมนุษยธรรมล่าสุดในอัฟกานิสถาน เราจึงอยากมอบโอกาสและอนาคตที่ดีให้กับผู้ลี้ภัยด้วยกัน"

นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต "เคทีซี" กล่าวทิ้งท้าย "ยุคที่ต้องเว้นระยะห่างและหลีกเลี่ยงการเดินทาง เพื่อลดการติดเชื้อโควิด-19 นั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มูลนิธิและองค์กรการกุศลต่างๆ ต้องเผชิญกับภาวะที่ได้รับการสนับสนุนจากสังคมลดน้อยลง ดังนั้นเคทีซีจึงตั้งใจพัฒนาแพลตฟอร์มช่องทางการบริจาค ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ และโมบายแอปพลิเคชั่น โดยล่าสุดได้พัฒนาช่องทางออนไลน์ ด้วยฟังก์ชันการบริจาคผ่านบัตรเครดิตด้วย QR Pay การบริจาคด้วยคะแนนผ่าน QR Point โดยแลกคะแนนผ่านแอปฯ "KTC Mobile" เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกเคทีซีสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมได้ง่ายขึ้น"
#9792
 ขายที่ดินท่าอิฐขายถูกกว่าทั่วไป นนทบุรี  ขนาด 1 ไร่ ใกล้ถนนราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ขายถูกกว่าทั่วไป 30,000 บาท/ตร.วา ทำเลดี ราคาถูกกว่า ทั่วไป



ขายที่ดินท่าอิฐ1ไร่ใกล้ถนนราชพฤกษ์  ขนาด 1 ไร่ ใกล้ถนนราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า ขายถูกกว่าทั่วไป ใกล้เคียงเพียง 30,000 บาท/ตร.วา  ขายที่ดินท่าอิฐ ซอย12
ขายถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียง ขายที่ดินท่าอิฐซอย12  เพียง 30,000 บาท/ตร.วา

 ขายที่ดินท่าอิฐซอย12
ลักษณะเด่น :
ที่ดินเปล่า ขนาด 1 ไร่ รูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้า หน้ากว้าง 35 เมตร
ในซอยท่าอิฐ 12 ห่างจากถนนราชพฤกษ์เพียงกิโลครึ่ง
เดินทางสะดวก เข้าออกได้ 2 ทาง 
ทั้งทางถนนราชพฤกษ์ หรือออกทางรัตนาธิเบศร์
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ
ที่สวย ทำเลดี ราคาถูกกว่าทั่วไป

ที่ดินใกล้สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ที่ดินทำเลทอง สะดวก น้ำประปา, มีไฟฟ้า ใกล้ระบบคมนาคมขนส่ง, ใกล้หน่วยงานราชการใกล้แหล่งชุมชน ใกล้สถานีรถไฟฟ้า/รถไฟฟ้าใต้ดิน, ใกล้ห้างสรรพสินค้า, ใกล้โรงพยาบาล/คลีนิค, ใกล้โรงเรียน/มหาวิทยาลัย
ที่ตั้ง ซอยท่าอิฐ 12 ถนนราชพฤกษ์ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
เนื้อที่ 1 ไร่ รูปสี่เหลี่ยม หน้ากว้าง 35 ม.  ลึก 45 ม.


สถานที่ ใกล้เคียง
– ใกล้ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
– ใกล้ เซ็นทรัล เวสต์เกต
– ใกล้ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
– ใกล้ สถานีรถไฟฟ้า สถานีท่าอิฐ (บางซื่อ-บางใหญ่)
– ในซอยมีร้านสะดวกซื้อ 7-11

ที่ดินซอยท่าอิฐ12 ขาย 12,000,000 บาท (30,000 บาท/ตร.วา) ค่าโอนออกคนละครึ่ง
สนใจ ติดต่อ คุณวิน 0621959053
ไลน์: ravinm23


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.rubpostban.com/ขายที่ดินท่าอิฐซอย12/

คำค้น
ขายที่ดินท่าอิฐ,  ขายที่ดินท่าอิฐซอย12,  ขายที่ดินท่าอิฐนนทบุรี ขายที่ดินท่าอิฐ1ไร่ใกล้ถนนราชพฤกษ์, ขายที่ดินท่าอิฐใกล้รถไฟฟ้า, ขายที่ดินท่าอิฐขายถูกกว่าทั่วไป, ที่ดินท่าอิฐขายถูก30000/วา,
#9794


เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม จีนและลาวได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถบรรทุกสินค้าทางถนน เชื่อมระหว่างนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน กับนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว

โดยรถคอนเทนเนอร์ขนาด 18 ล้อ บรรทุกเครื่องจักร อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่ารวม 3 ล้านหยวน ได้ออกเดินทางจากนครคุนหมิง ข้ามด่านชายแดนจีนที่เมืองบ่อหาน เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เข้ามายังดินแดนลาวที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา จากนั้นเดินทางต่อลงมาตามถนนหมายเลข 13 จนถึงนครหลวงเวียงจันทน์

ในเวลาเดียวกัน รถคอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้า ซึ่งถูกระบุเพียงว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของลาว ได้เดินทางออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ ข้ามชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน ต่อขึ้นไปถึงนครคุนหมิง ซึ่งถูกใช้เป็นจุดกระจายสินค้าที่บรรทุกจากลาวไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน

ขบวนรถบรรทุกสินค้าข้ามประเทศครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลการจราจร ต้นทุน ค่าใช้จ่าย รวมถึงอุปสรรคและข้อบกพร่องที่อาจพบ ในการเดินทางระหว่างนครคุนหมิงกับนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับเตรียมเปิดเส้นขนส่งสินค้าทางถนนจีน-ลาว ซึ่งจะใช้คู่ขนานกับเส้นทางรถไฟลาว-จีน (เวียงจันทน์-คุนหมิง) ที่กำหนดเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 2 ธันวาคมที่จะถึงนี้

ที่ผ่านมา ในช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ระบาด มีข้อตกลงให้รถจีนและลาววิ่งข้ามไป-มาระหว่างกันได้ เพราะเป็น 2 ประเทศที่มีชายแดนติดกัน อย่างไรก็ตาม รถจากจีนสามารถเดินทางไปยังทุกแขวงของลาว แต่รถจากลาว ไม่สามารถเดินทางไปได้ทุกมณฑลของจีน เพราะแต่ละพื้นที่มีกฏระเบียบที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ หากเป็นรถสัญชาติลาว ส่วนมากมักวิ่งขึ้นไปไม่ถึงนครคุนหมิง ต้องเปลี่ยนไปใช้หัวรถจีน หรือเปลี่ยนไปใช้รถบรรทุกสัญชาติจีนเสียก่อน