• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chigaru

#3621


กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 เป็นครั้งแรกจำนวน 29 ราย

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ระบุไว้ในระเบียบการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนว่า หากได้รับวัคซีนแล้วมีผลข้างเคียงรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาลหรือพิการ รัฐบาลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว และจ่ายค่าชดเชยเป็นรายเดือนสูงสุดเดือนละ 37,000 เยน (ราว 12,000 บาท)

คณะผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาผู้ที่ยื่นขอรับค่าชดเชยเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ส.ค. จำนวน 41 ราย และมีมติให้จ่ายค่าชดเชยให้ 29 ราย ซึ่งเข้าข่ายมีอาการทางสุขภาพซึ่งเกิดจากการฉีดวัคซีน 29 คนนี้มีทั้งชายและหญิงอายุตั้งแต่ 20-69 ปี

ผู้ที่ได้รับค่าชดเชย 23 คนมีอาการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง และ 6 คนมีอาการแพ้วัคซีนแบบฉับพลัน แต่ทางกระทรวงไม่ได้เปิดเผยรายชื่อบุคคลและชนิดของวัคซีนที่ได้รับ (ในญี่ปุ่นใช้วัคซีน 2 ยี่ห้อคือ ไฟเซอร์ และโมเดอนา)



ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีน 29 คนนี้จะได้รับค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชย ทางกระทรวงยังจะติดตามอีก 12 คนที่ยังไม่ได้รับอนุมัติให้รับค่าชดเชยในครั้งนี้ต่อไปว่า อาการที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่

นี่เป็นครั้งแรกที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นอนุมัติจ่ายค่าชดเชยที่เกิดจากการฉีดโควิด-19 และการดำเนินการพิจารณาจะมีต่อเนื่องไป.
#3622
ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ   กลุ่มข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" / ข้าวมะลินิลเพื่อสุขภาพ  คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์  ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์เลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf3bcuv6dva2b1ntb.com/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
2. ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคคือ
3. ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิคจังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อสุขภาพ 


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 
 
#3623


ดร.ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ยังคงยืดเยื้อ อีกทั้งการระบาดระลอกใหม่ในครั้งนี้ มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนเตียงผู้ป่วย และอุปกรณ์จำเป็นทางการแพทย์มีจำนวนไม่เพียงพอ

บริษัทฯ ตระหนักดีถึงวิกฤตการณ์ดังกล่าว ล่าสุด EPG ได้ร่วมกับ บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด หรือ AEROKLAS ซึ่งเป็นบริษัทย่อย นำเทคโนโลยีที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำแนวคิดเรื่องการผลิต "เตียงสนามแอร์โรคลาส" ซึ่งเป็นเตียงพลาสติกสำเร็จรูปสำหรับโรงพยาบาลสนาม (Field hospital Bed) มาค้นคว้าวิจัยและพัฒนา ออกแบบ จัดทำแม่พิมพ์ เริ่มผลิตและทดสอบสำเร็จภายใน 2 สัปดาห์ สามารถผลิตเป็นสินค้านวัตกรรมยามฉุกเฉิน "เตียงสนามแอร์โรคลาส" โดยได้ปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตบางส่วนของ AEROKLAS ซึ่งผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ มาผลิตเตียงสนามแอร์โรคลาส จึงมั่นใจได้ในคุณภาพมาตรฐาน



สำหรับคุณสมบัติของ "เตียงสนามแอร์โรคลาส" ผลิตจากพลาสติกประเภท HDPE และ PP ชนิดพิเศษ ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้ผลิตเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไป มีขนาดกว้าง 91 ซม. ยาว 210 ซม. สูง 30 ซม. น้ำหนักเบาประมาณ 20 กิโลกรัม แข็งแรง อายุการใช้งานยาวนาน มีความคงทนสูง ไม่ยุบตัว สามารถรับน้ำหนักได้กว่า 200 กิโลกรัม ติดตั้งง่ายใช้เวลาประกอบ 5 นาที ไม่มีปัญหาการสะสมของเชื้อโรค เมื่อต้องใช้ซ้ำ สามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้ง่าย เพราะเป็นวัสดุที่ไม่อมน้ำทั้งเตียงและฟูก

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการวางแผนงาน โดยคิดครอบคลุมครบทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง การใช้งาน จนสิ้นสุดการใช้งาน โดยเมื่อมีการปิดโรงพยาบาลสนามแล้ว จะสามารถส่งต่อเตียงสนามแอร์โรคลาสให้กับโรงพยาบาลที่มีความต้องการใช้งาน หรือนำไป Reuse เป็นโต๊ะด้วยการเปลี่ยนขาเตียง หรือส่งคืนเตียงสนามแอร์โรคลาสให้กับบริษัทเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว เพื่อนำไปเก็บรวบรวมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือสามารถนำไป Recycle เป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ง่ายไม่เกิดปัญหากับสิ่งแวดล้อม



ดร.ภวัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับการผลิตเตียงสนามแอร์โรคลา.แรก บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท พีทีที โกล. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC นำเม็ดพลาสติกเพื่อให้ AEROKLAS ขึ้นรูปเป็นเตียงสนามแอร์โรคลาส โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 1,000 เตียง ได้จัดส่งให้กับโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอยหลายแห่งของ GC เรียบร้อยแล้ว

EPG มีความตั้งใจที่จะบริจาคเตียงสนามแอร์โรคลาสให้แก่หน่วยงานต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ หรือจัดจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการเอกชนที่จัดทำมาตรการ Bubble and Seal ที่มีความต้องการ ซึ่ง บริษัทจะ จัดจำหน่ายในราคาพิเศษ ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามหรือหน่วยงานเอกชนที่สนใจขอรับบริจาค หรือสั่งซื้อเตียงสนามแอร์โรคลาส สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์โทร หรือ Line ID 081-698-5312

ทั้งนี้ ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา EPG พร้อมร่วมฝ่าฟันในทุกวิกฤติ โดยนำนวัตกรรรมและเทคโนโลยีที่มีมาผลิตอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน เช่น ช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ได้ผลิตเรือเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และช่วงวิกฤติ Covid-19 บริษัทและบริษัทย่อย ได้จัดโครงการ "EPG ร่วมใจสู้ภัย Covid-19" โดยให้การช่วยเหลือสังคมตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาด เมื่อเกิดปัญหาภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัย บริษัทได้ผลิตหน้ากากอเนกประสงค์ EP-Kare และ Face shield อีกทั้ง ส่งมอบบรรจุภัณฑ์กล่องใส่อาหาร EPP เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมด้วยเงินบริจาค เพื่อสนับสนุนด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วย Covid-19 แก่มูลนิธิและโรงพยาบาลต่างๆ

ดร.ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG
ดร.ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG

"ในนามของ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ขอขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ที่เสียสละ ทุ่มเททำงานอย่างหนัก ขอให้ท่านปลอดภัย และร่วมฝ่าฟันวิกฤติ Covid-19ไปด้วยกัน และด้วยปณิธาน "รับจากสังคม คืนสู่สังคม" บริษัทขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางแพทย์ให้พร้อมรองรับและช่วยเหลือผู้ป่วย Covid-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที"ดร.ภวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
#3624


เรียกว่าโพสต์อินสตาแกรมสตอรีติดตามการชกมวยระหว่าง "ยอร์เดนิส อูกัส" แชมป์รุ่นเวลเตอร์เวตของ สมาคมมวยโลก (WBA) กับ "แมนนี ปาเกียว" อย่างต่อเนื่องทีเดียวสำหรับนักแสดงหญิงลูกครึ่งของช่อง 3 อย่าง "จีน่า ญีนา ซาลาส"

โดยหลังจากที่นักชกจากคิวบาสามารถเอาชนะยอดมวยจอมเก๋าชาวฟิลิปปินส์ไปได้ เจ้าตัวก็ได้โพสต์แสดงความยินดีด้วยเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้นอกจากจะเป็นเพราะนักมวยคนดังกล่าวเป็นชาวคิวบาเหมือนกับผู้เป็นบิดาแล้ว ทางด้านบิดาของเจ้าตัวอย่าง "อิสมาเอล ซาลาส" นั้นยังเป็นเทรนเนอร์คอยฝึกสอน ติวเรื่องแผนการชกต่างๆ ให้กับนักชกชาวคิวบาอีกต่างหากนั่นเอง

มีรายงานด้วยว่าบิดาของนักแสดงหญิงเองในอดีตเคยเข้ามาทำงานในการเป็นเทรนเนอร์ให้กับนักชกชาวไทยมาแล้วหลายคน ทั้ง แสน ส.เพลินจิต, พิชิต ศิษย์บางพระจันทร์ ฯ

เรียกว่ามีคุณพ่อที่ดีกรีไม่ธรรมดาแบบนี้ใครคิดจะจีบคงต้องคิดหนักกันหน่อยแล้ว...
#3625
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#3626


เพื่อให้คลังเวชภัณฑ์ทำงานอัตโนมัติ, สร้างระบบเก็บ-รับ-ส่ง-ประมวล-แสดงผลข้อมูลการเข้า-ออก และตำแหน่งปัจจุบันของเวชภัณฑ์แต่ละชนิดอย่างละเอียด เรียลไทม์ ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้โรงพยาบาลสามารถวางแผนและจัดเตรียมเวชภัณฑ์ให้เพียงพอต่อการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

ผศ.กานดา บุญโสธรสถิตย์ หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมโลจิสติกส์ บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มจธ. และหัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะฯ กล่าวว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เวชภัณฑ์ในโรงพยาบาล โดยเฉพาะชุด PPE, หน้ากาก N95 และเวชภัณฑ์อื่นๆ ที่มีกว่า 130 ชนิด (SKU) ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มีไม่เพียงพอ หรือ ขาดสต๊อก มาจากปัญหาข้อมูลเวชภัณฑ์ในระบบไม่อัปเดต เพราะต้องใช้แรงงานคนในการติดตามการใช้งานและนับสต็อก ก่อนการคีย์ข้อมูลเข้าระบบจำนวนมาก ใช้เวลานาน

และไม่สามารถอัปเดตได้ตลอดเวลา ข้อมูลปริมาณการใช้งานและจำนวนคงเหลือที่มีอยู่ในระบบจึงไม่สะท้อนความจริง ทำให้กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถจัดสรรจำนวนเวชภัณฑ์ให้โรงพยาบาลได้อย่างเหมาะสม รวมถึงประชาชนที่ต้องการบริจาคเวชภัณฑ์เพื่อช่วยสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ก็ไม่สามารถบริจาคได้ตามความขาดแคลนที่แท้จริง นี่จึงเป็นที่มาของโครงการพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ ที่เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้

"เรานำนวัตกรรมโลจิสติกส์มาพัฒนาคลังเวชภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้ทันสมัยขึ้น โดยอัปเกรดอุปกรณ์ในคลัง เช่น รถเข็น, ตะกร้า, กล่องรักษา-ควบคุมอุณหภูมิ, ชั้นวางของ, ตู้แช่เย็น ด้วยกลุ่มเทคโนโลยี IoT ได้แก่ เทคโนโลยี RFID ที่ติดตั้งแท็กบนเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ ทำให้สามารถรับและส่งข้อมูลเวชภัณฑ์ได้อัตโนมัติ เช่น ประเภทของเวชภัณฑ์ หมายเลขล็อตหรือแบ็ทช์, สถานที่ผลิต, วันผลิต, วันหมดอายุ, ตำแหน่งการวางและหยิบเวชภัณฑ์ในคลัง เป็นต้น ทดแทนการใช้คนจดบันทึกและคีย์ข้อมูลเข้าระบบ โดยโรงพยาบาลสามารถนำไปเชื่อมต่อเข้ากับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) สำหรับการจัดการเวชภัณฑ์คงคลัง ด้วย Economic Order Quantity (EOQ) เพื่อมาคำนวณว่า ควรสั่งเวชภัณฑ์แต่ละประเภทปริมาณเท่าใด และเมื่อไหร่ ทั้งนี้ ข้อมูลเวชภัณฑ์จะอัปเดตทันทีเมื่อมีการนำเวชภัณฑ์เข้าและออกจากคลัง ช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถเช็คข้อมูลสต๊อกได้ถูกต้อง ตรงกัน และสั่งเวชภัณฑ์ได้ทันเวลา"


โดย ทีมวิจัยฯ เลือกใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน แก้ปัญหาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กำลังเผชิญ ด้วยงบประมาณที่สมเหตุสมผล เช่น การบันทึกปริมาณการใช้เวชภัณฑ์ สามารถเลือกใช้การติดตั้งตราชั่ง หรือ โหลดเซลล์ บนอุปกรณ์ ร่วมกับแท็ก RFID บนชั้นวางสำหรับเวชภัณฑ์ราคาสูงและ/หรือมีขนาดเล็ก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพง ส่วนเวชภัณฑ์อื่นๆ สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดหรือบาร์โค้ด ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้

 ด้าน รศ.นพ. พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันระบบการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคลังเวชภัณฑ์ใหญ่ กับคลังย่อยของวอร์ดต่างๆในโรงพยาบาลยังไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้การตรวจสอบปริมาณที่แท้จริงของเวชภัณฑ์แต่ละชนิดที่มีและใช้อยู่เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 เวชภัณฑ์อย่างชุด PPE, หน้ากาก N95 เป็นเวชภัณฑ์ป้องกันที่จำเป็นและขาดไม่ได้ การพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ จะเข้ามาช่วยให้การบริหารจัดการเวชภัณฑ์ทั้งระบบดีขึ้น ทำให้รับรู้ปริมาณของที่มีถูกต้อง และช่วงเวลาที่ควรสั่งซื้อ จนถึงความเหมาะสมในการนำเวชภัณฑ์แต่ละชนิดไปใช้ ซึ่งหากระบบนี้สำเร็จจะช่วยป้องกันปัญหาเวชภัณฑ์ขาดแคลนได้ เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาผู้ป่วย และการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์
"นอกจากประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาและความปลอดภัยของผู้ป่วย ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของโรงพยาบาล คลังอัจฉริยะยังส่งผลดีต่อการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาล ช่วยลดภาระงานของบุคลากรในงานด้านข้อมูล หมดปัญหาเวชภัณฑ์หมดอายุ เพราะมีการบันทึกวันเข้าและวันออกจากคลังแบบเรียลไทม์ ขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมโยงสู่ระบบโลจิสติกส์ เพราะภายในโรงพยาบาลจะมีคลังย่อยต่างๆ แต่การบริหารจัดการแบบภาครัฐ จะให้ความสำคัญกับคลังใหญ่เป็นหลัก มีการเช็คข้อมูลสต๊อก ของเข้าและออกในคลังใหญ่ แต่ยังไม่มีระบบจัดการข้อมูลในคลังย่อย หากเป็นไปได้ก็อยากเห็นทุกโรงพยาบาลในประเทศไทยมีระบบคลังอัจฉริยะที่เชื่อมโยงข้อมูลไปถึงคลังย่อยแบบครบวงจร สามารถดูภาพรวมของที่มีอยู่ในโรงพยาบาลได้ทั้งหมด จะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจน" รศ.นพ. พฤหัส กล่าวเพิ่มเติม 

โครงการพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และบริษัททำน้อยได้มากจำกัด ผู้ให้บริการด้านระบบการจัดการคลังสินค้า และผู้ให้คำปรึกษาด้านลีน ที่มาร่วมกันพัฒนาคลังเวชภัณฑ์เพื่อรองรับการทำงานของโรงพยาบาลต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงหาทุนสนับสนุนวิจัย เมื่อได้รับทุนแล้วก็พร้อมลงมือพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะได้ทันที
#3627


ภาพจาก https://hanako.tokyo/
คอลัมน์ "เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น" โดย "ซาระซัง"

สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ช่วงโควิดแบบนี้อาจจะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกอย่างเก่าไม่ได้ แต่ก็มีเรื่องสนุกให้ทำได้จากบ้านมากมาย อย่างการทำ "คาเฟ่ที่บ้าน" นอกจากจะทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้ใช้โอกาสนี้พักผ่อนคลายเครียดด้วยนะคะ

ที่ญี่ปุ่นมีร้านคาเฟ่อยู่ทั่วไป และเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ เวลาเปิดหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่เน้นกลุ่มผู้อ่านผู้หญิง จึงมักจะเจอร้านคาเฟ่แนะนำอยู่ในนั้นด้วยเสมอ ร้านคาเฟ่เหล่านี้ไม่ได้เน้นขายเฉพาะเครื่องดื่มกับขนมหวานเท่านั้น แต่ยังขายอาหารเป็นมื้อแบบไม่หนักท้องเกินไป และมีบรรยากาศที่น่านั่งเพลิน ๆ ด้วย

จุดเด่นของคาเฟ่ที่ญี่ปุ่นคือ การออกแบบภายในร้านที่สวยงาม สะอาดสะอ้าน โล่ง สว่าง ให้บรรยากาศสบาย ๆ เปิดเสียงดนตรีที่ให้ความรู้สึกสดใสรื่นเริง บางร้านก็มีที่นั่งริมทะเลหรือริมระเบียงด้วย แต่ละร้านจะมีลักษณะเฉพาะในการจัดและออกแบบร้านที่ชวนให้จดจำ อีกทั้งลักษณะการให้บริการของพนักงานก็ยังมีส่วนสร้างบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครให้กับทางร้านอีกด้วย


เมนูอาหารตามคาเฟ่ทั่วไปอาจจะเน้นชากาแฟ แซนวิช พาสต้า ขนมหวาน ของว่าง แต่ถ้าเป็นคาเฟ่ที่ดีหน่อยจะเน้นไปที่อาหารหรือเครื่องดื่มเฉพาะของร้าน เช่น มีเมนูสูตรเด็ดที่ทางร้านคิดขึ้นมาเอง ไม่มีขายที่อื่น หรืออาจใช้วัตถุดิบคัดสรร อย่างเช่น วัตถุดิบเฉพาะของท้องถิ่น วัตถุดิบออแกนิก ใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาว เป็นต้น รวมทั้งอาจมีเมนูเฉพาะกิจซึ่งมีให้สั่งได้แค่เฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยเช่นกัน

ฉันจำได้ว่าตอนไปเที่ยวโอกินาวา เคยไปคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ขายข้าวแกงกะหรี่สูตรพิเศษ ร้านนั้นตั้งอยู่ในมุมเล็ก ๆ ภายในตึกขายสินค้าท้องถิ่น มีที่นั่งเพียง 3-4 โต๊ะเท่านั้น แม้ว่าอาหารและกาแฟร้านนั้นจะอร่อยมาก แต่หลังจากนั้นฉันกลับจำบรรยากาศร้านได้ดีกว่าอาหารเสียอีก อาจเพราะเขาใช้จานและถ้วยที่ทำจากดินเผาซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองของโอกินาวา แถมยังมีรูปร่างและสีสันแปลกตา อีกทั้งบรรยากาศร้านก็นั่งสบายเสียจนลืมไปเลยว่าร้านนี้เป็นเพียงมุมหนึ่งในตึกธรรมดาเท่านั้นเอง


คงเพราะคาเฟ่เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศแสนสบายอย่างนี้เอง คนญี่ปุ่นจึงหันมาทำ"โอะอุจิคาเฟ่" (おうちカフェ) หรือ 'คาเฟ่ที่บ้าน' กันมาก กิจกรรมนี้มีมาหลายปีก่อนที่จะเริ่มมีโควิดเสียอีก แต่พอโควิดมาเยือน คนต้องอยู่ติดบ้านกันมากขึ้น กระแสคาเฟ่ที่บ้านเลยยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นไปอีก

พจนานุกรมญี่ปุ่นให้นิยาม "โอะอุจิคาเฟ่" ว่าหมายถึง 'การสร้างบรรยากาศแบบคาเฟ่ในบ้านตนเอง จุดเด่นอยู่ที่การใช้อาหาร เครื่องดื่ม ของกระจุกกระจิก และดนตรี เป็นต้น เพื่อสร้างบรรยากาศหรูและสบาย ๆ แบบคาเฟ่' พูดง่าย ๆ ก็คือ จำลองบรรยากาศแบบคาเฟ่ภายในบ้านนั่นเอง

ฉันเข้าใจว่าการใช้คำว่า "คาเฟ่ที่บ้าน" น่าจะเริ่มมาจากการที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ในญี่ปุ่นออกสินค้าขนมภายใต้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อ "Uchi Café SWEETS" (ขนมหวานคาเฟ่ที่บ้าน) เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ภายใต้คอนเซ็ปต์ทำบ้านให้เป็นคาเฟ่
แต่เดิม Lawson ก็ทำขนมหวานของตัวเองออกมาวางขายอยู่แล้ว แต่ที่หันมาทำแบรนด์ใหม่ "Uchi Café SWEETS" ก็เพราะทำสำรวจกลุ่มลูกค้าแล้วพบว่า สตรีอายุ 20-30 ปีซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ให้ความสนใจสูงกับเรื่องขนมหวาน มักจะยุ่งกับการทำงานหรือไม่ก็การเลี้ยงลูก และได้รับประทานขนมหวานช่วงเย็นหรือช่วงดึก บริษัทจึงออกความคิดว่าอยากให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับขนมอร่อย ๆ และช่วงเวลาสบาย ๆ แบบคาเฟ่ภายในบ้านหรือที่ทำงาน ก็เลยทำขนมแบรนด์นี้ขึ้นมา ส่วนใหญ่หน้าตาขนมจะดูดีแบบขนมตามร้านคาเฟ่ หรือใช้วัตถุดิบดีหน่อย แต่ราคาไม่แพงมาก ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจาก Lawson แล้ว แฟมิลี่มาร์ทและเซเว่นอีเลเว่นของญี่ปุ่นก็ทำขนมหวานของตัวเองออกมาเช่นกัน เพียงแต่อาจจะไม่ได้เรียกชื่อว่า "คาเฟ่ที่บ้าน" เหมือน Lawson แต่หลายอย่างก็ดูดีและรสชาติใช้ได้ ที่น่าสนใจคือร้านสะดวกซื้อเหล่านี้จะคอยผลัดเปลี่ยนทำสินค้าขนมหน้าตาใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อยตามฤดูกาล บางอย่างก็มีขายเฉพาะในบางท้องถิ่นเท่านั้น ทำให้ลูกค้าไม่เบื่อกับขนมหน้าตาซ้ำซากจำเจ

ต่อมาก็มีคนทำคาเฟ่ที่บ้านด้วยการลงมือเข้าครัวทำอาหาร ขนม และเครื่องดื่มเอง จากนั้นก็แปะรูปลงสื่อโซเชียลต่าง ๆ ทำให้กระแสทำคาเฟ่ที่บ้านบูมขึ้นเรื่อย ๆ มีการใช้แฮชแท็ค #おうちカフェ (คาเฟ่ที่บ้าน) ในอินสตาแกรมถึง 6.4 ล้านครั้งเลยทีเดียว (ณ สิงหาคม พ.ศ. 2564)

การที่คาเฟ่ที่บ้านได้รับความนิยมน่าจะมาจากสาเหตุหลายประการ อาทิ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าไปรับประทานที่ร้าน สามารถทำเองได้ไม่ยาก จะต่อเติมเสริมแต่งอะไรเข้าไปให้ดูไม่ซ้ำใครก็ได้ อีกทั้งยังได้สนุกกับช่วงเวลาตระเตรียมของจนกระทั่งทำเสร็จได้รับประทาน แถมใครชอบเล่นโซเชียลก็ได้โอกาสลงรูปกันสนุกอีก


ช่วงนี้คนเครียดกันเยอะแยะ หลายคนก็อยู่บ้านจนเซ็ง ลองหาเวลาทำคาเฟ่ที่บ้านให้ตัวเองหรือคนในครอบครัวกันดีไหมคะ จะได้ถือโอกาสพักผ่อนหย่อนใจบ้าง เผลอ ๆ อาจได้เจองานอดิเรกหรือความชอบใหม่ ๆ ด้วยนา

แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์ของคาเฟ่ที่บ้านไม่ได้อยู่ที่การมีของกินและเครื่องดื่มเป็นอันจบ แต่อยู่ที่การสร้างบรรยากาศสบาย ๆ แบบคาเฟ่ เพราะฉะนั้นหากนึกอยากพักผ่อนจิบน้ำชารับของว่าง เพื่อน ๆ ก็อาจจะตระเตรียมอะไรบ้างนิดหน่อยให้ดูดี และสร้างบรรยากาศไปด้วยในตัว

ขั้นแรกก็ต้องเตรียมพื้นที่กันก่อน อาจจะเลือกมุมหนึ่งของห้องหรือของบ้านมาสักมุม แล้วหาโต๊ะเล็ก ๆ มาวาง ใช้แผ่นรองแก้วหรือแผ่นรองจานอาหารสวย ๆ เอาดอกไม้ปักแจกันเก๋ไก๋มาแต่งเสียหน่อย แค่นี้ก็เริ่มได้บรรยากาศร้านคาเฟ่หน่อย ๆ แล้ว

แต่ถ้าใครไม่มีอุปกรณ์ครบครัน ก็ไม่ต้องถึงขนาดไปหาซื้อให้สิ้นเปลืองนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวพอเลิกเห่อแล้วจะมีอะไรก็ไม่รู้เต็มบ้านไปหมด แค่เอาของที่มีในบ้านมาพลิกแพลงใช้ก็ได้แล้ว ถ้าไม่มีโต๊ะ อาจจะหาถาดมาใส่ของกินกับเครื่องดื่มวางแทนโต๊ะ แล้วนั่งกับพื้น แคร่ ตั่ง เฉลียง ชาน หรือบนพื้นหญ้า อย่างนี้ก็ได้ ลองนึกดูว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความรู้สึกพิเศษและสบายอารมณ์ยิ่งกว่าการรับประทานอาหารหรือของว่างในบ้านตามปกติ ก็คงมีไอเดียผุดขึ้นมามากมายให้สนุกกันละค่ะ


บ้านฉันที่ไทยมีเฉลียงอยู่ติดกับบ่อน้ำเล็ก ๆ แม่เคยปลูกบัวในบ่อน้ำนี้อยู่หลายกระถางดูสวยเพลินตาดี เมื่อก่อนฉันชอบมานั่งอ่านหนังสืออยู่แถวเฉลียงที่ว่า ถ้าจะทำคาเฟ่ที่บ้านฉันก็คงจะเลือกมุมนี้แหละ แล้วหาถาดหรือผ้าลายสวย ๆ มาปูที่พื้นเฉลียง แล้วค่อยวางจานของกินกับแก้วเครื่องดื่ม นั่งชิลล์เพลิน ๆ ได้

จานชามก็มีส่วนสร้างบรรยากาศได้นะคะ แต่ถ้ามันไม่ได้สะสวยอย่างที่ใจต้องการ ก็อาจจะใช้วิธีจัดวางอาหารให้ดูเก๋ไก๋ เอาใบตองหรือกระดาษเช็ดปากมีลวดลายมาวางบนจาน แล้วค่อยวางขนมลงไป แค่นี้ก็น่ามองแล้ว อาจจะดูคลาสสิกกว่าใช้จานชามสวย ๆ อีก

หากใครไม่ถนัดทำอาหารและเครื่องดื่ม ก็อาจจะหาซื้อหรือสั่งซื้อเอาก็ได้ เดี๋ยวนี้คนทำขนมขายออนไลน์กันเยอะแยะ มีให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว จะได้ถือโอกาสอุดหนุนกันในยามยากด้วยนะคะ แต่ถ้าใครอยากลองทำเองฉันก็เชียร์เต็มที่ คือจากประสบการณ์แล้วฉันเคยคิดว่าของกินหรือขนมอร่อย ๆ นี่มันคงต้องทำยากมาก แต่พอได้ลองทำขึ้นมาสักอย่างแล้ว จึงได้อุทานในใจว่า... "ไฮ้! ง่ายปานนี้เชียวรึ ??"  แถมเวลาได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ก็เพลินดี ได้ลับสมองเป็นของแถม แล้วยังได้ลุ้นด้วยเพราะไม่รู้ว่ามันจะออกมาหน้าตาอย่างไร กินได้ไหม ก็เป็นบรรยากาศสนุกไปอีกแบบนะคะ


อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือดนตรี โดยมากร้านคาเฟ่จะเปิดดนตรีแจ๊สหรือบอสซาโนวา คงเพราะให้ความรู้สึกแจ่มใสรื่นเริง และสร้างบรรยากาศสบาย ๆ ได้ง่าย เดี๋ยวนี้มี BGM ทางยูทูปให้ฟังฟรีมากมาย สามารถเปิดคลอไปได้เรื่อย ๆ ตัวฉันเองก็มักเปิดเพลงแจ๊สฟังเวลาทำงาน เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกราวกับบรรยากาศรอบตัวคลายความร้อนลง คงเพราะปกติจะได้ยินเพลงแจ๊สเวลาอยู่ในร้านกาแฟหรือร้านคาเฟ่เย็น ๆ เลยพลอยรู้สึกเหมือนอยู่ในที่เย็น ๆ ไปด้วย ถ้ามีชาหรือกาแฟสักถ้วย หรือโกโก้เย็นสักแก้วละก็ ยิ่งได้บรรยากาศคล้ายนั่งทำงานในร้านกาแฟเลย ทั้งที่ตัวอยู่บ้านนี่แหละ

ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับช่วงเวลาทำคาเฟ่ที่บ้าน ก็คือการที่เราได้พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางบรรยากาศที่บรรจงเสกสรรค์ขึ้นมา เพราะฉะนั้นจึงน่าจะเป็นการดีกว่ากันมากหากเพื่อน ๆ จะวางมือถือหรือแท็บเบล็ตลง ปิดโทรทัศน์ ใช้เวลานี้อยู่กับตัวเอง อยู่กับคนที่นั่งอยู่กับเรา สนทนากัน เพลิดเพลินกับอาหารเครื่องดื่มตรงหน้า และดนตรีสบาย ๆ ภายในช่วงเวลาอันร่มรื่นนี้ แล้วช่วงเวลาของคาเฟ่ที่บ้านจะมีความหมายกว่าที่คิดเยอะเลย ลองดูนะคะ
#3628


นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังได้ร่วมดำเนินการ 2 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู) วงเงิน 250,000 ล้านบาท ความคืบหน้ามีสินเชื่อฟื้นฟูที่อนุมัติแล้ว 92,316 ล้านบาท ผู้ได้รับความช่วยเหลือจำนวน 30,194 ราย โดยมีวงเงินอนุมัติเฉลี่ยอยู่ที่ 3.1 ล้านบาทต่อราย และ 2.มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจมีสิทธิซื้อทรัพย์สินนั้นคืนในภายหลัง (มาตรการพักทรัพย์ พักหนี้) วงเงิน 100,000 ล้านบาท มีมูลค่าสินทรัพย์ที่รับโอน 10,510.61 ล้านบาท จำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือ 65 ราย ทั้งนี้ ทั้ง 2 โครงการเป็นมาตรการที่รัฐบาลตอบสนองต่อภาคเอกชน ให้สามารถเข้าถึงเงินสินเชื่อได้มากขึ้น เสริมสภาพคล่องและการลงทุน สนับสนุนวงเงินในการดูแลสินทรัพย์ให้ภาคธุรกิจโรงแรมและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรงยังสามารถกลับมาทำธุรกิจตามปกติ หลังจำเป็นต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว ตามมติคณะรัฐมนตรี 23 มีนาคม 2564 ให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าแนวทางในการช่วยเหลือนักเรียน ผู้ปกครอง และครู ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามมาตรการลดภาระทางการศึกษาของรัฐบาลนั้น ในส่วนของเงินเยียวยานักเรียน รัฐบาลจะจ่ายให้นักเรียนทุกคน ทุกสังกัด ทั้งภาครัฐและเอกชน ระดับอนุบาล-ม.ปลาย และ ปวช./ปวส. ทั่วประเทศ คนละ 2,000 บาท โดยหลังจากกระทรวงการคลังจัดสรรงบประมาณแล้ว จะโอนเงินให้ 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (โรงเรียนเอกชน/กศน.) สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เขตพื้นที่การศึกษาของรัฐ) และสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (วิทยาลัย อาชีวศึกษา/เทคนิค) ภายใน 5-7 วัน ซึ่งผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสิทธิกับสถานศึกษาถึงวิธีการรับเงิน ทั้งผ่านเลขบัญชีธนาคาร พร้อมเพย์ หรือรับเงินสด โดยคาดว่าจะได้รับเงินภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ขณะนี้มีอยู่จำนวนกว่า 11 ล้านคน แบ่งเป็นสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษา รวม 9.8 ล้านคน และสถานศึกษานอกสังกัด ศธ. อีก 1.2 ล้านคน งบประมาณดำเนินการรวม 22,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นผู้ปกครองและนักเรียน นักศึกษา สามารถตรวจสอบสิทธิ์กับสถานศึกษา หรือโรงเรียนของรัฐตรวจสอบสิทธิและข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ> https://student.edudev.in.th และในส่วนของโรงเรียนเอกชนตรวจสอบสิทธิและข้อมูลได้ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) https://opec.go.th

โฆษก ศบศ. กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษนั้น ยอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 38.25 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 66,150.3 ล้านบาท แบ่งเป็น 1)โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 23.68 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 59,183.6 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 30,049.5 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 29,134.1 ล้านบาท 2)โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 68,157 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,352 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 38 ล้านบาท 3)โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.49 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 5,234.5 ล้านบาท

และ 4)โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.01 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 342.2 ล้านบาท ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการเร่งเชื่อมระบบแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่กับโครงการ "คนละครึ่ง" คาดว่าจะพร้อมใช้งานได้ในเดือนตุลาคม 2564 เพื่อให้ทันกับการรองรับการโอนเงิน "คนละครึ่ง" รอบ 2 อีก 1,500 บาท อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเร่งเยียวยาประชาชนทุกกลุ่มควบคู่ไปกับการป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19
#3629


ศึกฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ลงสนามนัดที่ 2 เปิดเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ "นกขมิ้น" นอริช ซิตี

"เรือใบสีฟ้า" ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกมที่แล้วบุกไปแพ้ให้กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 เกมนี้นำทัพมาโดย 3 ประสานแดนหน้า อย่าง แจ็ค กรีลิช, เฟร์ราน ตอร์เรส และ กาเบรียล เชซุส

ขณะที่ นอริช ซิตี ภายใต้การคุมทีมของ ดาเนี่ยล ฟาร์เก้ เกมที่แล้วพ่ายคาบ้านให้กับ ลิเวอร์พูล 0-3 เกมนี้นำทัพมาโดย ติโม ปุ๊กกี, ท็อดด์ คานต์เวลล์ และ มิลอต ราชิค่า

นาทีที่ 7 แมนฯ ซิตี ได้ประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส ได้.หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวาก่อนตัดสินใจยิงยัดไปโดนตัว แกรนท์ ฮานลีย์ และเด้งไปโดนตัว ทริม ครูล เข้าประตูตัวเอง

นาทีที่ 22 แมนฯ ซิตี้ ขยับหนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส หลุดมาทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลาง.ไปแฉลบกองหลังนอริช และเด้งมาโดนหัวเข่าของ แจ็ค กรีลิช เข้าไป ถือเป็นประตูแรกในสีเสื้อ "เรือใบสีฟ้า" ของนักเตะค่าตัว 100 ล้านปอนด์ และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ยังเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า และก็มาได้ประตูนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 64 จากจังหวะลูกเตะมุม อายเมริค ลาปอร์ต โหม่งจังหวะแรกไปโดนกองหลังนอริช แต่.ยังเด้งมาเข้าทางเจ้าตัวซ้ำดาบสองเข้าไป

นาทีที่ 70 แมนฯ ซิตี ที่ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง ก็มาได้ประตูนีห่างไปอีกเป็น 4-0 จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนปาดเข้ากลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งมาเข้าฮอร์สง่ายๆ ถือเป็นแอสซิสต์ที่ 2 ของ เชซุส ในเกมนี้

นาทีที่ 84 เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูขยับเป็น 5-0 จากจังหวะที่ รูเบน ดิอาส ตัก.มาให้ ริยาด มาห์เรซ ที่วิ่งสอดมาหลังแนวรับนอริช ซิตี้ ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปนิ่มๆ

ช่วงเวลาที่เหลืองทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดบ้านไล่ต้อน นอริช ซิตี 5-0 เก็บสามคะแนนแรกในฤดูกาลนี้

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี : เอแดร์ซอน (GK), ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์ต, เจา กานเซโล่, โรดรี, แบร์นาร์โด ซิลวา, อัลคาย กุนโดกัน, กาเบรียล เชซุส, แจ็ค กรีลิช, เฟร์ราน ตอร์เรส

นอริช ซิตี : ทิม ครูล (GK), แม็กซ์ อารอนส์, แกรนท์ ฮานลีย์, เบน กิ๊บสัน, ดิมาทริออส จานนูลิส, บิลลี กิลมัวร์, ปิแอร์ ลีส์-เมลู, ลูกัส รัปป์, มิลอต ราชิค่า, ท็อดด์ คานต์เวลล์, ตีมู ปุ๊กกี


ผลการแข่งขันฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 21 สิงหาคม 2564 คู่อื่นๆ
แอสตัน วิลล่า 2-0 นิวคาสเซิ่ล
คริสตัล พาเลซ 0-0 เบรนท์ฟอร์ด
ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-2 เอฟเวอร์ตัน
#3630
ชั้นวางทีวี บางบ้านนั้นมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเลือก ตู้วางทีวี หรือ โต๊ะวางทีวี ให้เหมาะสมต่อบ้านของเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปทรง ประโยชน์ในการใช้งานจะต้องเน้นย้ำในเรื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ตัวนี้ โชว์ให้กับเพื่อนบ้านหรือทุกคนที่เข้ามาดูทีวีของเราเกิดความประทับใจเป็นอันดับแรกกันด้วย

แต่ความเป็นจริงหรือหลักที่ถูกต้องที่สุดคือเราควรจะเลือก ชั้นวางทีวี ที่เกิดประโยชน์กับตัวเลือกหลากหลายที่สุด เราควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ตัวนี้ให้เกิดประโยชน์กับเราอย่าง เช่นจะต้องมีลิ้นชักในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ นานา โดยส่วนใหญ่แล้วทีวี 1 เครื่องก็จะมีเครื่องเสียงที่วางอยู่ด้านข้างประกบกันด้วย เรียกว่าปัจจุบันทีวีก็มีขนาดจอที่ใหญ่โตมโหฬาร สามารถตั้งเป็นโฮมเธียเตอร์สำหรับบ้านของเราได้และนั่นหมายความว่าการตั้งโชว์บน ชั้นวางทีวี ก็ควรจะมีจุดเด่นมีเอกลักษณ์ประจำตัวที่ดูแล้วให้ความสุขและความอลังการอย่างเต็มที่สำหรับตัวของผู้ชมเอง

สำหรับหลักการเลือก ชั้นวางทีวี หรือ โต๊ะวางทีวี เราควรจะไปเลือกด้วยตัวของเราเองหรือมีการจัดสีสันที่เหมาะสมสำหรับการวางเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านของเรา บางครั้งการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีที่แตกต่างกันของจอทีวีก็ทำให้ ตัวของทีวีหรืออุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆ นั้นดูโดดเด่นมากเพิ่มขึ้นไปด้วย การวางสีโทนเดียวกันทั้งหมดอาจจะทำให้ดูเรียบง่ายเรียบหรู ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องแล้วแต่ว่าแต่ละคนนั้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปแบบไหนซึ่งถามว่า การเลือกเฟอร์นิเจอร์นั้นมีเรื่องของความผิดหรือความถูกในการเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือไม่ก็คงจะไม่มีเรื่องของความผิดถูก แต่สำหรับคนที่เชื่อในเรื่องของการจัดวางหลักฮวงจุ้ยหากจำเป็นจะต้องดูในเรื่องของสีสัน ของชั้นวางทีวีกันสักเล็กน้อยเพื่อเสริมดวงเสริมดวงชะตาให้กับเราเองประสบความสำเร็จในสิ่งต่างๆรอบตัวกันไปด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้ ชั้นวางทีวี มีสีสันมากมายให้กับเราได้เลือกใช้ ลองเปรียบเทียบกันดูว่าสีสันไหนและรูปแบบไหนจะเหมาะกับเราและเกิดประโยชน์เสริมฮวงจุ้ยเสริมดวงให้กับเรา เลือกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราในทุกทิศทางกันดู
#3631


ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสซูเปอร์สตาร์ชายขวัญใจแฟนๆ ประกาศขอหยุดพักตลอดฤดูกาล 2021 ไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึงขอไม่ลงแข่ง แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพน เพื่อเอาเวลาไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ขา

นักหวดมือ 4 โลกจากสเปน บาดเจ็บที่ขาซ้ายมาตั้งแต่ลงแข่ง แกรนด์ สแลม เฟรนช์ โอเพน รอบรองชนะเลิศ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหายตัวไปเยียวยาอาการบาดเจ็บ และไม่ส่งสัญญาณคัมแบ็กใดๆ ทั้งที่ ยูเอส โอเพน จะเริ่มวันที่ 29 สิงหาคมนี้

กระนั้น นาดาล ให้คำตอบกระจ่างผ่าน ทวิตเตอร์ ว่าจะไม่ลงสนามแล้วในปีนี้ เพื่อโฟกัสกับการรักษาอาการบาดเจ็บจนกว่าจะหายดี ซึ่งหมายความว่าจะไม่ลงแข่ง แกรนด์ สแลม ที่มหานครนิวยอร์ค ด้วยเช่นกัน

"สวัสดีทุกคน ผมอยากแจ้งข่าวไม่ค่อยดีว่าผมได้ปิดฉากฤดูกาล 2021 แล้ว พูดตามตรงว่าผมทรมานกับอาการที่เท้ามากเกิน 1 ปีแล้ว และอยากใช้เวลาแก้ไขอาการบาดเจ็บ หรืออย่างน้อยก็ทำให้มันดีขึ้นเพื่อให้ลงเล่นได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า"

"ผมจะทำทุกทางด้วยความกระตือรือร้น เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และกลับมาแข่งขันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของผม ทุกอย่างจะสำเร็จตามเป้าหากขาของผมหายดี ผมสัญญาว่าจะทำงานอย่างหนักเพื่อลงเล่นกีฬานี้ต่อไป" นาดาล ระบุ
#3632


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ครั้งที่ 1/2564 (ครั้งที่ 250) ผ่านระบบ Zoom เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ณ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม

น.ส.รัชดากล่าวว่า นายจุรินทร์ได้ให้นโยบายการดูแลเกษตรกรภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต้องเป็นไปอย่างครอบคลุม เข้าถึงปัญหาอย่างรวดเร็ว และดูแลอย่างเป็นธรรม โดยในปีงบประมาณ 2565 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 2,562 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือสินค้าเกษตร 10 กลุ่มสินค้า ได้แก่ ผลไม้ พืชหัว พืชผัก ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปศุสัตว์ ประมง กล้วยไม้

สำหรับการช่วยเหลือ จะดำเนินการผ่านมาตรการต่าง ๆ ได้แก่ 1.เพิ่มช่องทางระบายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต 2.เสริมสภาพคล่องด้านเงินทุน ชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ยืม เพื่อใช้ในการรับซื้อผลผลิตจากการเกษตรกรเพื่อจำหน่ายหรือเก็บสต๊อกไว้รอจำหน่าย 3.สร้างการรับรู้เพื่อเพิ่มการบริโภค กระตุ้นการบริโภค 4.ผลักดันและบริหารจัดการส่งออก เพื่อลดอุปทานส่วนเกินในประเทศ 5.ส่งเสริมด้านปัจจัยการผลิตเพื่อพัฒนาคุณภาพปรับคุณภาพและด้านทุนการผลิต ทั้งนี้ จะมีการกำหนดราคาเป้าหมายสินค้าเกษตรปี 2565 เพื่อกองทุนฯ จะได้ใช้เป็นเกณฑ์ในการช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

ส่วนผลการดำเนินการในปีงบประมาณ 2564 นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563-15 ก.ค.2564 กองทุนฯ ได้จัดสรรงบประมาณไปแล้ว 2,100 ล้านบาท ในการดูแลเกษตรกรในกลุ่มสินค้าผลไม้ ไข่ไก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน พืชหัว พริก ข้าวเหนียว ปศุสัตว์ ประมง เป็นการช่วยเหลือผ่านการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าออกนอกแหล่งผลิต ผลักดันการส่งออก และชดเชยดอกเบี้ยเพื่อการชะลอการจำหน่ายโดยการเก็บสต๊อก
#3633


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปัญหาการส่งออกลำไยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดยเป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาด้านผลผลิตทางการเกษตร (ลำไย) พร้อมด้วย นายฤหัส ไชยศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายสมบัติ ตงเต๊า รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ และตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมประชุม และผ่านระบบ Zoom Meeting ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดจันทบุรี ว่า

 

 จากปัญหาการตรวจพบศัตรูพืช (เพลี้ยแป้ง)ในลำไยผลสดจากไทยที่ส่งออกไปจีน ทำให้สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of China Customs: GACC) ได้ระงับการส่งออกชั่วคราวโรงคัดบรรจุ 66 แห่ง เป็นโรงคัดบรรจุในเขตภาคตะวันออก ในจังหวัดจันทบุรี 28 แห่ง และจังหวัดสระแก้ว 1 แห่ง

           ทั้งนี้ ทางการจีนขอให้กรมวิชาการเกษตรสอบสวนหาสาเหตุ และกําหนดมาตรการควบคุมให้ทางการจีนพิจารณา ซึ่งเป็นเรื่องสําคัญและเร่งด่วน เนื่องจากใกล้ฤดูกาลเก็บเก่ียวลําไยของจังหวัดจันทบุรี ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนลําไยเป็นจํานวนมาก กรมวิชาการเกษตร สํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 6 นายกสมาคมการค้าและการท่องเท่ียวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี และนายกสมาคมชาวสวนลําไยจันทบุรี ได้ร่วมกันหามาตรการป้องกันเสนอให้ทางการจีนพิจารณา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตรวจพบศัตรูพืชอีก ซึ่งขณะนี้ทางการจีนได้มีการผ่อนผันปลดล็อค ให้สามารถส่งออกได้แล้ว


รมช.มนัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการเจรจาทำให้ทางการจีนอนุญาตให้โรงคัดบรรจุ 50 แห่ง จาก 66 แห่ง ที่มีความถี่ในการตรวจพบศัตรูพืชค่อนข้างต่ำสามารถส่งออกลำไยไปจีนได้ และอนุญาตให้โรงคัดบรรจุอีก 6 แห่ง จาก 9 แห่ง ที่ไทยได้ระงับเองเป็นการชั่วคราวเมื่อเดือน มี.ค.2564 มีการปรับปรุงแก้ไขเป็นไปตามเงื่อนไขที่จีนกำหนด สามารถส่งออกได้เช่นเดียวกัน รวมทั้งสิ้นมีโรงคัดบรรจุ 56 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปจีนในครั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 2564 สำหรับโรงคัดบรรจุในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก มีจำนวนทั้งสิ้น 93 แห่ง สามารถส่งออกไปจีนได้ จำนวน 88 โรง และยังคงถูกระงับการส่งออกชั่วคราว จำนวน 5 โรง เป็นโรงคัดบรรจุที่ตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรีทั้งหมด (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ส.ค. 2564) โดยจีนจะประเมินประสิทธิภาพของมาตรการเฝ้าระวังป้องกันกำจัดศัตรูพืชของไทย ในขั้นตอนกักกันการนำเข้า หากมาตรการดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ โรงคัดบรรจุที่เหลือ จำนวน 5 โรง ที่มีความถี่ในการตรวจพบศัตรูพืชค่อนข้างสูง จึงจะสามารถส่งออกลำไยไปจีนได้


         "โรงคัดบรรจุที่ถูกตรวจพบศัตรูพืชหลายครั้ง จะต้องปรับปรุงแก้ไข และเป็นไปตามขั้นตอนที่กรมวิชาการเกษตรได้หารือกับทางการจีน จึงหวังว่าหลังจากน้ี ผู้ประกอบการของไทยจะพัฒนาระบบการส่งออกให้เป็นไปตามที่จีนต้องการในฐานะประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของไทย และขอให้เจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรดําเนินการตามมาตรการที่เสนอไปยังจีนอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตรวจพบศัตรูพืชควบคุมอีก ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ให้ความสําคัญในเรื่องของคุณภาพผลผลิตลําไยที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ ก็จะสามารถขับเคลื่อนให้ธุรกิจการค้าลําไยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีความยั่งยืนตลอดไป" รมช.มนัญญา กล่าว

         รมช.มนัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในคุณภาพสินค้า ทำอย่างไรให้คงความเป็นเอกลักษณ์ลำไยของไทย และควบคุมราคาไม่ให้ตกต่ำ โดยการสนับสนุนการบริโภคในประเทศให้มากขึ้น การแปรรูปลำไย การปรับเปลี่ยนเป็นลำไยอินทรีย์เพื่อเพิ่มมูลค่า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ พร้อมสนับสนุนเครื่องอบลดความชื้นให้กับสหกรณ์จันทบุรีเพื่อลดปริมาณความชื้นลงตามเกณฑ์มาตรฐาน เก็บรักษาผลผลิตไว้รอการจำหน่ายช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรทำให้เกษตรกรสมาชิกมีความเชื่อมั่นในระบบบริหารจัดการการผลิตและการตลาดของสหกรณ์ ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีแหล่งจำหน่ายผลผลิตที่แน่นอน ในราคาที่เป็นธรรม ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

         จากนั้น รมช.เกษตรฯ เดินทางไปเยี่ยมชมการจัดการโรงคัดบรรจุ พร้อมรับฟังปัญหาและการบรรยายสรุป ณ บริษัท ไชน่า จิงหว่อหยวน เอ็กพอร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด ต.หนองตาคง อ.โป่งร้อน จ.จันทบุรี

           สำหรับสถานการณ์การส่งออกลำไยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ในฤดูกาลผลิต ปี 2564/2565 สมาคมชาวสวนลำไยจังหวัดจันทบุรี คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดมากกว่า 300,000 ตัน สำหรับโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ลำไย ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก มีจำนวนทั้งสิ้น 93 โรง อยู่ในจังหวัดจันทบุรี 89 โรง จังหวัดสระแก้ว 2 โรง และจังหวัดระยอง 2 โรงทั้งนี้ ภาคตะวันออก มีพื้นที่ปลูกลำไย 379,255 ไร่ เกษตรกรยื่นขอใบรับรอง GAP 336,294 ไร่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ได้ตรวจประเมินแปลง และให้การรับรอง GAP แล้ว 330,662 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 98 ของพื้นที่ ที่เกษตรกรยื่นขอใบรับรอง ในส่วนของจังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ปลูกลำไย 296,640 ไร่ เกษตรกรยื่นขอใบรับรอง GAP 278,542 ไร่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ได้ตรวจประเมินแปลง และให้การรับรอง GAP แล้ว 275,321 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 99 ของพื้นที่ ที่เกษตรกรยื่นขอใบรับรอง
#3634


จากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องของปริมาณขยะพลาสติกที่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะตามมา ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกหันมาตระหนักและให้ความสำคัญกับการดูแลในเรื่องของปัญหาขยะพลาสติกกันมากขึ้น ผ่านมาตรการต่างๆ ในการจัดการขยะพลาสติก รวมถึงการรณรงค์งดใช้พลาสติก การนำขยะพลาสติกมารีไซเคิล หรือหันไปใช้วัสดุอย่างอื่นทดแทน

แต่สำหรับช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ จากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ผู้บริโภคกังวลและหันมาดูแลป้องกันสุขภาพกันมากขึ้น จึงก่อให้เกิดปริมาณขยะโดยเฉพาะกลุ่มขยะติดเชื้อ หรือมูลฝอยติดเชื้อ ที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และขยะกลุ่มดังกล่าวถือเป็นขยะอันตรายและต้องมีกลวิธีในการทำลาย หรือกำจัดเฉพาะ

ปัจจุบันด้วยสถานการณ์การระบาดที่ยังไม่คลี่คลายในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยที่หากเปรียบเทียบจำนวนยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในอาเซียน พบว่า ไทยมียอดผู้ติดเชื้อรายวันในช่วงเกือบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา (1 สิงหาคม – 18 สิงหาคม 2564) ยังคงพุ่งสูงขึ้นเป็นอันดับ 2 ในอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย อีกทั้งผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ก็น่าจะทำให้ปริมาณขยะติดเชื้อยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและวิธีการบริหารจัดการขยะเหล่านี้ในอนาคต


สำหรับไทย เดิมทีปริมาณขยะติดเชื้อส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มสถานบริการทางการแพทย์ทั้งรัฐและเอกชน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ป่วยทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงการเข้าสู่สังคมสูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยที่เพิ่มขึ้น แต่จากสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และการระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่จะทำให้ปริมาณขยะติดเชื้อจากภาคธุรกิจบริการทางการแพทย์เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่หมายถึงการหันมาใส่ใจป้องกันดูแลสุขภาพของภาคครัวเรือนที่ทำให้ปริมาณขยะติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันตัวเอง ชุดตรวจโควิด เป็นต้น

ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย และยังคงพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันสูง ส่งผลให้คาดว่า ปริมาณขยะติดเชื้อหรือมูลฝอยติดเชื้อในช่วงที่เหลือของปี 2564 น่าจะยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ทั้งปี 2564 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ปริมาณขยะติดเชื้อน่าจะอยู่ที่ประมาณ 61.3 ล้านกิโลกรัมเพิ่มขึ้นกว่า 2.0 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงปกติที่ไม่มีการระบาดของโควิดในปี 2562

จากปริมาณขยะติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงประเมินว่า ต้นทุนในการบริหารจัดการขยะติดเชื้อ ในปี 2564 น่าจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 920 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ยังไม่มีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งต้นทุนในการบริหารจัดการขยะติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ ถือเป็นต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 และเกิดจากความจำเป็นในการป้องกันดูแลสุขภาพของประชาชนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุมหนึ่ง ต้นทุนจากขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นบางส่วนมาจากการป้องกันดูแลสุขภาพของประชาชนที่ระมัดระวังขึ้น ก็อาจจะช่วยลดค่าเสียโอกาสจากการเจ็บป่วยของโรคได้บ้าง แต่ทั้งนี้อาจจะต้องมาควบคู่กับการบริหารจัดการขยะติดเชื้อที่เกิดขึ้นอย่างถูกวิธีและปลอดภัยด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้เป็นความเสี่ยงต่อผู้อื่นและกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือระบบนิเวศโดยรอบ

ในระยะข้างหน้า ด้วยสถานการณ์ของการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่แน่นอน ประกอบกับการใส่ใจดูแลสุขภาพที่มากขึ้นของประชาชน รวมถึงความเสี่ยงในการเจ็บป่วยที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ และความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ เช่น การเกิดปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM2.5 ที่ทำให้ประชาชนต้องหันมาสวมหน้ากากอนามัยในช่วงที่มีการแพร่กระจายของฝุ่นละออง การเกิดโรคอุบัติใหม่ๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดปริมาณขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงอาจส่งผลต่อความไม่แน่นอนของต้นทุนในการบริหารจัดการขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

คำถามที่ตามมาคือ ประสิทธิภาพในการเก็บขนขยะและจัดการขยะติดเชื้อในปัจจุบันจะเพียงพอหรือไม่ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ควรตระหนักถึงแนวทางการรับมือและจัดการขยะเหล่านี้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นปริมาณเตาเผาหรือโรงกำจัดขยะติดเชื้อ รวมถึงการรณรงค์หรือให้ความรู้และวิธีการในการคัดแยกขยะติดเชื้อที่ถูกวิธีแก่ประชาชน ซึ่งปัจจุบันทางหน่วยงานรัฐได้มีการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะติดเชื้อที่ถูกวิธีแก่ประชาชนไปบ้างแล้ว นอกจากนี้ อาจจะต้องมีการจัดเตรียมถังขยะสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัย และขยะติดเชื้อประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะในจุดสำคัญต่างๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการทิ้งและคัดแยกขยะมาทำลาย อีกทั้งยังปลอดภัยต่อพนักงานเก็บขยะหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดที่รุนแรง เช่น จีน สหรัฐฯ ต่างได้รับผลกระทบจากปริมาณขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน และได้มีการออกมาตรการต่างๆ มาเพื่อบริหารจัดการกับขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น

ตัวอย่างแนวทางการรับมือหรือมาตรการในการจัดการขยะติดเชื้อหลังเกิดโควิด-19

- จีน

·  สร้างโรงเผาขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ เช่น อู่ฮั่น หรือมีการดัดแปลงโรงกำจัดขยะเดิมเพื่อกำจัดขยะติดเชื้อ

·  กำหนดให้ตั้งถังขยะพิเศษในชุมชนทุกแห่ง และออกข้อกำหนดให้ประชาชนนำหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วพับใส่ถุงพลาสติกและทิ้งลงในถังขยะพิเศษสีแดงเท่านั้น

·  ติดตั้งกล้อง CCTV ในจุดที่ทิ้งขยะ เพื่อบันทึกตลอดเวลา

· ออกมาตรการลงโทษหรือปรับเงินผู้ที่ฝ่าฝืนหรือปฏิบัติเกี่ยวกับการทิ้งขยะติดเชื้อไม่ถูกวิธีในบางพื้นที่ เช่น เซี่ยงไฮ้ 

- สหรัฐ

·  การสร้างความเข้าใจและความตระหนักรู้ให้ประชาชนแยกขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี

·  พนักงานเก็บขยะและผู้ที่้เกี่ยวข้องต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันเชื้อ เช่น ถุงมือ เสื้อผ้าที่รัดกุม และเฟซชิลด์ เพื่อลดความเสี่ยงจากขยะติดเชื้อที่มาจากภาคครัวเรือน

ที่มา: TDRI และรวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
#3635


นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยังมีแนวโน้มไม่ลดลงและยังมีการระบาดในวงกว้าง ซึ่งคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้มีมติให้ปรับเพิ่มมาตรการและการจัดการขององค์กร โดยกำหนดมาตรการองค์กรสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้เน้นการทำงานนอกสถานที่ (Work from home) อย่างต่อเนื่อง หากจำเป็นต้องมาปฏิบัติงานให้มีการคัดกรองด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ทุกสัปดาห์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่จำเป็นต้องมาปฏิบัติงาน ต้องมีการตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานที่ส่วนราชการ ตามมาตรการที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กำหนด

กรมบัญชีกลางจึงขอซ้อมความเข้าใจว่า การเบิกจ่ายค่าชุดตรวจ ATK สำหรับเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดดังกล่าว เป็นการเบิกจ่ายค่าวัสดุตามนัยระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. 2553 ข้อ 17 ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการสามารถพิจารณาอนุมัติให้เบิกจ่ายค่าชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS-CoV-2 (เชื้อก่อโรค COVID-19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen test self-test kits) ได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น เหมาะสม ประหยัด และเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

ทั้งนี้ ขอให้ส่วนราชการดำเนินการควบคุมให้มีการเบิกจ่ายค่าชุดตรวจ ATK ให้สอดคล้องกับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานตามจริงด้วย

สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างชุดตรวจ ATK สำหรับการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคโควิด-19 คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 115 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2563 เรื่อง การดำเนินการกรณีจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาหรืออุปกรณ์การแพทย์ หรือการจัดจ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุสำหรับการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID – 19)) การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุสำหรับการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคโควิด-19 ในแต่ละครั้งทุกวงเงิน ถือเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน จึงยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ​โดยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงินการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ และวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างในการแต่งตั้งผู้ตรวจรับพัสดุ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ที่เกี่ยวข้อง โดยให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามข้อ 79 วรรคสอง แห่งระเบียบฯ และให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานนั้นดำเนินการไปก่อนแล้วรีบรายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ และเมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบแล้วให้ถือว่ารายงานดังกล่าวเป็นหลักฐานการตรวจรับโดยอนุโลม และการดำเนินการดังกล่าว หากมีความจำเป็นจะต้องจ่ายเงินค่าพัสดุล่วงหน้าให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบฯ ข้อ 89 (4) โดยให้จ่ายได้ตามเงื่อนไขที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างกำหนด และยกเว้นการวางหลักประกันการรับเงินล่วงหน้าตามระเบียบฯ ข้อ 91 วรรคสอง ดังนั้น หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการตามหนังสือเวียนฉบับดังกล่าวได้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ
#3636


นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในประเทศไทยที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อโรค โควิด-19 อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อการให้บริการทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วย โควิด-19 ไม่สามารถเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลได้อย่างทันท่วงที ภาครัฐจึงได้นำแนวทางการรักษาแบบ Home Isolation หรือการรักษาตัวเองจากที่บ้านมาใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือผู้ป่วย โควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่มีอาการไม่รุนแรง ได้เข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วขึ้น

ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อ โควิด-19 ที่อยู่ในกลุ่มสีเขียวได้เข้าถึงการรักษาของแพทย์ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน สมาคมประกันวินาศภัยไทย จึงได้มีแนวทางให้บริการกับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อ โควิด-19 และรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation ให้เข้าถึงบริการ Telemedicine ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยในการประสานงานกับผู้ให้บริการ Telemedicine พร้อมทั้งมอบหมายให้คณะทำงานของสมาคมฯ ประกอบด้วย นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ เลขาธิการสมาคมฯ นายปิยะพัฒน์ วนอุกฤษฏ์ ประธานคณะกรรมการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ และ นายวาสิต ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจและวิชาการประกันภัย เพื่อดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ เลขาธิการ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้กล่าวถึงความร่วมมือกันระหว่าง สมาคมประกันวินาศภัยไทย ทรู ดิจิทัล และ Third Party Administration หรือ TPA ว่า เป็นบริการปรึกษาแพทย์ผ่านแอพพลิเคชัน True HEALTH สำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันภัย โควิด-19 ที่มีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หากติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันภัยสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาของแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเบิกค่าสินไหมทดแทนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

สำหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมในบริการ Telemedicine สำหรับผู้เอาประกันภัย โควิด-19 มีจำนวน 16 บริษัท ได้แก่
1. บมจ.กรุงเทพประกันภัย
2. บมจ.เจมาร์ท ประกันภัย
3. บมจ.เดอะ วัน ประกันภัย
4. บมจ.ทิพยประกันภัย
5. บมจ.เทเวศประกันภัย
6. บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัย
7. บมจ.ธนชาตประกันภัย
8. บมจ.นวกิจประกันภัย
9. บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์
10. บมจ.ฟอลคอนประกันภัย
11. บมจ.เมืองไทยประกันภัย
12. บมจ.วิริยะประกันภัย
13. บมจ.สินมั่นคงประกันภัย
14. บมจ.อาคเนย์ประกันภัย
15. บมจ.เอเชียประกันภัย 1950
16. บมจ.เอฟดับบลิวดีประกันภัย


ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ทรู เฮลท์ เพื่อเพิ่มช่องทางให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ได้ง่าย ๆ จากทุกที่ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล พร้อมมอบประสบการณ์ดูแลสุขภาพในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบครบวงจร ทั้งพบหมอออนไลน์ รับยาที่บ้าน และ เคลมประกันได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย ด้วยฟังก์ชันใหม่

ล่าสุด "เทเลเมดิเคลม" (TeleMediClaim+) ซึ่งความร่วมมือกับ สมาคมประกันวินาศภัยไทย และ TPA ในครั้งนี้ ทรู เฮลท์ ต่อยอดฟังก์ชัน "เทเลเมดิเคลม" ไปอีกขั้น เพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วย โควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่มีกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ของบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการ สามารถปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากชีวีบริรักษ์คลินิกเวชกรรม ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH ได้ทั้งในรูปแบบของการโทร แช็ต และวิดีโอคอล (VDO Call) พูดคุยกับแพทย์ได้จากทุกที่แบบเรียลไทม์

พร้อมมีบริการส่งยาตามใบสั่งแพทย์ถึงหน้าบ้านทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ และสามารถเคลมประกันเบิกค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้ทันที มั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งพลังในการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยโรค โควิด-19 ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ให้สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง สะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาลและค่ายาด้วยความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัย โควิด19
#3637


เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ยังรุนแรงต่อเนื่องขึ้นทุกวัน "อ.นิ่ม เทวจิตศิษย์ปู่" ซึ่งเป็นหมอดูชื่อดังเว็บรวยruay  สื่อเจ้าที่จิตสัมผัส เป็นต้นฉบับการไหว้เจ้าที่กลางบ้าน ที่ได้รับความไว้วางใจเป็นที่ปรึกษาให้กับนักแสดงหลายๆท่านอาทิ "แม่ก้อย ทาริกา,ไก่ วรายุฑ,หน่อง หมอเจี๊ยบ ลลนา,จอย รินลณี,อาย กมลเนตร,แจ็คกี้ ชาเคอลีน,ใบเฟิร์น อัญชสา,ติ๊นา ศุภนาฎ ,นิวเคลียร์ หรรษา" ได้ให้คำแนะนำทำพิธีไหว้เจ้าที่กลางบ้านด้วยตนเอง ผ่อนร้ายกลายเป็นเบา เสริมพลังเจ้าที่ให้มีพลัง   ใครกำลังติดขัด การเงินมีปัญหา ต่อเติมบ้าน สร้างบ้านไม่เสร็จสักที ลองทำวิธีนี้ดู

"การไหว้เจ้าที่กลางบ้าน คือการไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของที่เจ้าของทาง เจ้าของบ้านเจ้าของเรือน ไหว้เพื่อขอขมา ขอเปิดทางทำมาหากิน เปิดทางรับทรัพย์ สามารถไหว้เองได้แต่ต้องเป็นอังคารหรือเสาร์เที่ยงตรงเพราะเป็นวันรับ วันแข็ง  ปกติใน1ปีจะห้ามไหว้เองคือเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม  เมษายนเป็นเดือนร้อน ส่วนเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่สัมภเวสีจะมาขอส่วนบุญ จึงให้งดไหว้เอง สำหรับปีนี้ที่แนะนำให้ไหว้เดือนสิงหาคม เพราะเชื่อกันว่าเป็นเดือนประตูนรกเปิด และในเดือนนี้ตรงกับวันสารทจีน ทำให้เดือนสิงที่ควรเป็นสิงห์ กลับเป็นเดือนที่อ่อนแอแทนจึงควรเพิ่มพลังให้เจ้าที่"

"ในส่วนของดวงเมืองคงต้องดูยาวๆไปถึงเมษายนปีหน้า โรคระบาดก็เฝ้าระวังแบบ100% จนถึงตุลาคม เพราะกันยายน-ตุลาคมดวงเมืองมีความระส่ำ อุทกภัยหนัก ปลายปี ทั้งน้ำทั้งไฟ แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกเป็นเพียงการคาดการณ์ต้องเฝ้าระวัง เพราะต้องดูแลตัวเองเท่านั้นถึงจะรอด แต่ถ้าด้านจิตใจก็ให้เน้นสวดบทมหาจักรพรรดิ์ เปิดทางทั้ง3โลก ปรับภพภูมิให้กับทุกสิ่ง"

สำหรับการไหว้เจ้าที่กลางบ้าน สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
You Toub :นิ่มจูเมเตลู ค้นหา การไหว้เจ้าที่กลางบ้านฉบับเต็ม โดย อ.นิ่ม เทวจิตศิษย์ปู่
Face book: อ.นิ่ม เทวจิตศิษย์ปู่ ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน

อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/บทสวดมนต์ในศาสนาพุทธ
#3638


ในยุคที่ผู้คนใช้เครื่องมือสื่อสารในชีวิตประจำวันจนคล้ายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้ว ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงเวลาเข้านอน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ในภาวะที่การเดินทางระหว่างประเทศก็เป็นไปได้ยาก บางรายอาจไม่ทราบวิธีการเข้าถึงข้อมูลด้านการค้า ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน การมีข้อมูลที่มากกว่าจะช่วยให้เราสามารถวางแผน ตัดสินใจ และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

DITP Overseas เป็นบริการของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) พร้อมจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ โดยรวบรวมข้อมูลความรู้ด้านการค้า และเทรนด์สินค้าใหม่ๆ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 32 แห่ง ใน 6 ภูมิภาคซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกา ลาตินอเมริกา ภูมิภาคยุโรป และCIS ภูมิภาคแอฟริกา และตะวันออกกลาง

โดยข้อมูลของ DITP Overseas เหล่านี้ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ ย่อย และนำเสนอให้เข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้น ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเอกสารข้อมูล ภาพ เสียง และโมชั่นกราฟฟิก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้พิจารณาปัจจัยแวดล้อมของแต่ละตลาดสินค้าที่สนใจ สร้างโอกาสและต่อยอด เพื่อประโยชน์ด้านการค้าของตนเองต่อไป

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กำลังพัฒนาคู่มือการค้าของทั้ง 27 ประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจตลาดใน 6 ภูมิภาคนี้ ช่องทางในการค้นหาข้อมูลการค้าได้สะดวก โดยสามารถกรอกรายละเอียดเพื่อสมัครสมาชิก และรับข่าวสารกิจกรรมด้านการค้าและรับสิทธิในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทางการค้าจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 32 แห่งได้ง่ายๆ ในรูปแบบกิจกรรมสัมมนาออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญตลาดการค้าในแต่ละประเทศ หรือกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์

โดยระบบการจัดเก็บรายชื่อดังกล่าว ยังช่วยเอื้อประโยชน์ให้สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกิจของผู้ประกอบการไทย และสามารถนำเสนอข้อมูลต่อไปยังผู้ซื้อในต่างประเทศที่สนใจได้โดยตรงอีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลสำคัญด้านการค้าเหล่านี้ได้ ผ่านช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์มได้ทาง

FB: DitpOverseas https:// www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube: DITP Overseas
Website: https:// ditp-overseas.com/
#3639


บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEL) ฟื้นชัด! ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 กำไรสุทธิพุ่งแตะ 20.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.15% จากงวดเดียวกันปีก่อน อานิสงส์ควบคุมต้นทุนได้ดีหลังปรับโครงสร้างองค์กร ฟากซีอีโอ "ธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์" ระบุแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง เน้นกลยุทธ์ควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 2,900 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้ยาวถึงปีหน้า มั่นใจช่วยผลักดันผลงานปีนี้เทิร์นอะราวนด์ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ได้แน่นอน

นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.15% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุนเท่ากับ 51.65 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีผลขาดทุนเท่ากับ 102.16 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการบริษัทฯ มีกำไรพิเศษ รวมถึงการควบคุมต้นทุนสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และระบบการควบคุมงบประมาณที่ดี ส่งผลให้เกิดต้นทุนต่อหน่วยลดลง ขณะที่การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และการบริหารให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"การดำเนินธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2564 มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และสามารถมีกำไรเติบโตจากงวดเดียวกันปีก่อน แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากภายหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กร ทำให้บริษัทฯ มีความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิต และต้นทุนค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเริ่มรับรู้ผลกำไรจากการลงทุนของบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าที่มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จากมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ของภาครัฐที่มีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้าง ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าน่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง Q4/2564 เนื่องจากปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) อยู่แล้วกว่า 2,900 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2565 ทำให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2565 จะสามารถฟื้นเทิร์นอะราวนด์ได้อย่างชัดเจน จากปริมาณงานในมือกว่า 2,900 ล้านบาท และโดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้ในส่วนของโครงการภาครัฐ และเอกชนจะกลับมาขยายการลงทุนได้อีกครั้ง
#3640


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ "น้องเทนนิส" เรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยถือเป็นเหรียญทองแห่งความสุขและความภาคภูมิใจหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ได้จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ นับเป็นเหรียญทองเหรียญที่ 10 ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยจากการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และเป็นเหรียญทองเหรียญแรกที่ได้จากการแข่งขันกีฬาเทควันโดอีกด้วย ในวันนี้ (16 สิงหาคม 2564) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน จึงได้มอบเงินรางวัลพิเศษรวม 4,000,000 บาท ให้แก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอน ที่มุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักจนนำมาซึ่งความสำเร็จได้ในที่สุด โดยมีรายละเอียด ดังนี้​ 1.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 3,000,000 บาท ให้แก่ "น้องเทนนิส" เรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก. หญิง


2.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 500,000 บาท ให้แก่ "น้องจูเนียร์" นายรามณรงค์ เสวกวิหารี นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 58 กก. ชาย

3.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 500,000 บาท ให้แก่ "โค้ชเช" ชเว ย็อง-ซ็อก หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย

โดยหลังจากรับมอบเงินรางวัลแล้ว ทั้ง 3 คน ยังได้นำเงินรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ แบ่งไปเก็บออมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ด้วยการซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว หน่วยละ 5,000 บาท โดยน้องเทนนิสซื้อสลากจำนวน 200 หน่วย หรือมูลค่า 1 ล้านบาท ขณะที่​ โค้ชเช และน้องจูเนียร์ ซื้อสลากคนละจำนวน 20 หน่วย หรือ 100,000 บาท ซึ่งทุกหน่วยจะได้สิทธิ์ลุ้นเงินรางวัลสูงสุดมูลค่า 1 ล้านบาท/หมวด พร้อมด้วยรางวัลอื่น ๆ รวมถึงรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว รางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัว ลุ้นรางวัลได้ต่อเนื่องนาน 24 เดือน และยังได้รับผลตอบแทนหน้าสลาก 0.40% ต่อปี นอกจากนี้ดอกเบี้ยและเงินรางวัลยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย

"ธอส. ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ได้ให้การสนับสนุนปีละ 17 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 260 ล้านบาท รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยพัฒนาวงการกีฬาเทควันโดให้โดดเด่น และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีการแข่งขันระดับโลกมากกว่า 160 รายการ รวมถึงการคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 มาได้สำเร็จในครั้งนี้ ถือเป็นการทำให้คนไทยมีความสุขท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะนี้ และ ธอส. ยืนยันว่าพร้อมให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโด แห่งประเทศไทยในการพัฒนาวงการกีฬาเทควันโดต่อไป เพื่อนำความภาคภูมิใจให้กับคนไทยให้ได้อย่างต่อเนื่อง"นายฉัตรชัย กล่าว

นอกจากการสนับสนุนทางด้านกีฬาให้กับสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยแล้ว ธอส. ยังคงมุ่งมั่นตามภารกิจหลักในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตลอดระยะเวลาเกือบ 68 ปี ธนาคารสร้างโอกาสให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ควบคู่ไปกับการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์/ศาสนา/ศิลปวัฒนธรรม