• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Fern751

#11342



"แทมมี่ ดักเวิร์ธ" ส.ว.สหรัฐฯ ลูกครึ่งไทย เผย สหรัฐอเมริกาวางแผนส่งวัคซีนโควิด-19 ช่วยไทย เพิ่มเป็น 2.5 ล้านโดส โดยล็อตแรก 1.54 ล้านโดส จะส่งถึงประเทศไทยวันศุกร์นี้

เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ นักการเมืองหญิงอเมริกันเชื้อสายไทย จากพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาวางแผนที่จะจัดหาวัคซีนโควิด-19 ทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส ให้กับประเทศไทย

ดักเวิร์ธ กล่าวระหว่างพิธีการเปิดงานเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ "U.S. and Thailand Perspectives on Geostrategic Landscape and Regional Architecture" จัดโดยสถาบัน East-West Center ในกรุงวอชิงตัน และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน หัวข้อ "โอกาสใหม่สำหรับสหรัฐฯ-ไทย ในฐานะพันธมิตรอินโด-แปซิฟิก" เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2564 ว่า แผนดังกล่าวเป็นตามคำมั่นของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะจัดหาวัคซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทยจะได้รับทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส

ดักเวิร์ธ ระบุอีกว่า สหรัฐฯได้ส่งวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส ไปยังประเทศไทยแล้ว โดยวัคซีนดังกล่าวมีกำหนดจัดส่งถึงกรุงเทพฯ ในวันศุกร์นี้ (30 ก.ค.) หลังจากล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งเดือน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. วุฒิสมาชิกแทมมี่เคยประกาศแสดงความยินดีเรื่องสหรัฐฯ มอบวัคซีนให้แก่ไทย โดยดักเวิร์ธ ระบุในแถลงการณ์เมื่อครั้งนั้น ว่า ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะประกาศวันนี้ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบวัคซีนอย่างน้อย 1.5 ล้านชุด ให้ประเทศไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวไทยเอาชนะปัญหาโควิด-19 ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยการบริจาควัคซีนของสหรัฐฯ ซึ่งมีประสิทธิผลสูงนี้ ไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีขึ้นด้วยความเข้าใจว่าจะไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์จนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัย
#11343



วันที่ 29 ก.ค. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. กล่าวในตอนหนึ่งของการแถลงข่าวสรุปการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านระบบ Cisco Webex Meetings ถึงกรณี กทม.และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีปัญหากันหรือไม่นั้น โดยยืนยันว่า กทม.และ กระทรวงสธ.ทำงานร่วมกันมาตลอด ส่วนที่มีกระแสข่าวทะเลาะกับ สธ.นั้น ทาง กทม.ได้ชี้แจงไปแล้วว่า กทม.ได้รับวัคซีนจำนวนเท่าไร โดย กทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในระบบหมอพร้อม 1,220,000 โดสเป็นกระบวนการที่ทำร่วมกับ สธ.ดังนั้น จะมียอดลงทะเบียนของทั้งสองหน่วยงานในจำนวนนี้กว่า 30,000โดส ใช้ในการฉีดผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน และได้รับวัคซีนจากโครงการไทยร่วมใจเพียง 680,000 โดส และใน 1-2 วันนี้จะมีการตัดวัคซีนไปฉีดผู้ป่วยในชุมชนอีกประมาณ 30,000 โดส ตรงนี้เป็นตัวเลขทั้งหมดที่ได้รับ

"ส่วนจำนวน 700,000 โดส คืออะไร ก็ต้องบอกว่าถ้าเอาตัวเลขเป๊ะๆ ที่ได้รับจากโครงการไทยร่วมใจอยู่ที่ 680,000 โดส ซึ่งทุกครั้งที่จะนำวัคซีนจากโครงการไทยร่วมใจไปใช้จะต้องมีการขอมติจาก ศบค.ด้วยว่าจะให้ฉีดเท่าไรอย่างไร"ร.ต.อ.พงศกร ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ กทม.จะจัดซื้อวัคซีนเอง ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกวัคซีนที่รัฐจัดหา และกลุ่มสองวัคซีนทางเลือก ซึ่งกทม.มีความพร้อมและได้จัดซื้อวัคซีนทางเลือกแล้วบางส่วน อาทิ ซิโนฟาร์ม ใช้ในการฉีดในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง และอยู่ระหว่างการพูดคุยในเรื่องการจัดซื้อโมเดอร์นาในลำดับถัดไป ส่วนการกระจายวัคซีนคงไม่มีการปรับแผน โดย กทม.ทำตามนโยบายมาตลอด เพื่อเร่งฉีดกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคและผู้ที่มีความเสี่ยง โดยมีเป้าหมายฉีดให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ซึ่งศักยภาพของศูนย์ฉีดได้ 7-8 หมื่นต่อวัน หากได้วัคซีนเพิ่มเราก็มีศักยภาพที่จะฉีดเพิ่มได้

โฆษก กทม. กล่าวด้วยว่า ส่วนกลุ่มที่ไปรอฉีดสถานีกลางบางซื่อจำนวนมากจนเกิดภาพความแออัด กทม.เป็นแค่หนึ่งคณะกรรมการกระจายวัคซีน ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจว่าใครจะได้รับวัคซีนเท่าไร แต่ กทม.พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการฉีดวัคซีนในสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งมีภาพความแออัด และอาจจะมีความเสี่ยงต่อการระบาด แต่อยู่กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดในการควบคุมการระบาด เพราะรู้ว่าการกระจายวัคซีนและการบริหารจัดการควรเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาด กทม.คงไปสั่งแทนไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ แต่ กทม.พร้อมเข้าไปช่วย


ด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กทม.ยังคงให้บริการวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นการฉีดโดยหลายหน่วยงานอาทิ จุดฉีดสถานีกลางบางซื่อโดยกระทรวงสาธารณสุข จุดฉีดศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงโดยกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งได้ร่วมกันจัดหน่วยฉีดให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯ รวมจำนวนสะสม 5,668,720 โดส แบ่งผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แล้วจำนวน 1,025,493 ราย หรือ 2,050,986 โดส ส่วนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 3,617,734  ราย

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของ กทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า รวมจำนวนทั้งสิ้น 680,000 โดส โดยได้ฉีดให้แก่ประชาชนผ่านโครงการไทยร่วมใจ ที่จุดฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล โดยความร่วมมือระหว่าง กทม.และหอการค้าไทยทั้ง 25 แห่ง โดยในเดือน มิ.ย.มีจำนวน 200,000 โดส และในเดือน ก.ค. ได้ฉีดให้แก่ผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการไทยร่วมใจและได้รับแจ้งให้เลื่อนคิว รวมจำนวน 480,000 โดส ซึ่งคาดว่าจะให้บริการวัคซีนได้ครบภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้

สำหรับการให้บริการวัคซีน ที่จุดบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล "หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร - หอการค้าไทย"  ขณะนี้ได้ให้บริการวัคซีนแก่ประชาชน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ "ไทยร่วมใจ" ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือเว็บไซต์ www.ไทยร่วมใจ.com หรือร้านค้าสะดวกซื้อ ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ท็อปส์ เดลี่ และมินิบิ๊กซี ทั้งนี้รวมถึงผู้ที่เคยลงทะเบียนแล้ว และผู้ที่ลงทะเบียนใหม่

2.กลุ่มผู้ที่ตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป สามารถ Walk-in เข้ารับวัคซีนได้ที่ศูนย์ฉีดโดยแสดงหลักฐานใบฝากครรภ์หรือใบรับรองการตั้งครรภ์จากแพทย์พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง และ 3.กลุ่มผู้ที่มีอายุ 18 – 59 ปี ที่มีคิวฉีดวัคซีนเดิมซึ่งได้ลงทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 26 – 30 มิ.ย. โดยคิวเดิมวันที่ 30 มิ.ย. สามารถมารับบริการได้ในวันที่ 30 ก.ค. ในส่วนของผู้ที่มีคิวนัดกับโครงการไทยร่วมใจตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป จะแจ้งคิวฉีดวัคซีนใหม่ให้ทราบทันที เมื่อ กทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า ขณะที้สถานการณ์การการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในกรุงเทพฯ จากข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) สำนักการแพทย์ กทม. จากยอดวันที่ 28 ก.ค.64 เวลา 23.59 น. มีจำนวนผู้ป่วยซึ่งยังคงรักษาตัวโรงพยาบาลทุกสังกัด ทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 26,969 ราย โดยเป็นผู้ป่วยโควิดซึ่งยังคงพักรักษาตัวโรงพยาบาลสังกัด กทม. รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ในความดูแลของสำนักการแพทย์ รวมจำนวนทั้งสิ้น 3,587 ราย โดย 146 ราย มีอาการรุนแรง

สำหรับจำนวนเตียงโรงพยาบาลสังกัด กทม. รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ในความดูแลของสำนักการแพทย์ จำนวนทั้งสิ้น3,632 เตียง ใช้ไปแล้ว 3,597 เตียง คิดเป็นร้อยละ 98.76 ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เปิดให้บริการแล้ว จำนวน 26 ศูนย์ จำนวนเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วย ได้ 3,499 เตียง ขณะนี้ใช้ไปแล้ว 2,439 เตียง ทั้งนี้ ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตอยู่ระหว่างการนำส่งผู้ป่วยเพื่อเข้าสู่สถานพยาบาลและศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อทุกแห่งให้ครบเต็มจำนวน

อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการผู้ป่วยในศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ สำนักการแพทย์ กทม. ได้ดำเนินการคัดแยกกลุ่มผู้ป่วยที่มีผลเป็นบวกจากชุดตรวจ ATK แยกกักตัวกับกลุ่มผู้ป่วยที่ทำการตรวจด้วย RT-PCR โดยจะทำการตรวจ RT-PCR ซ้ำ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงหากผลบวกจากชุดตรวจ ATK เป็นผลบวกที่คลาดเคลื่อน เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยสูงสุด

นอกจากนี้ สำนักอนามัย กทม.ได้สรุปจำนวนผู้ที่อยู่ระหว่างการแยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation จากข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค.64 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,364 ราย โดยเขตที่มีผู้ได้รับการแยกกักตัวที่บ้าน สูงสุด ตามลำดับ คือ เขตธนบุรี (208 ราย) บางซื่อและบางกอกใหญ่(เขตละ 130 ราย) ทุ่งครุ (120 ราย) และสายไหม (99 ราย)
#11346



ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์หนึ่งในปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุที่ต้องเผชิญ คือ โรคในช่องปากส่งผลให้ผู้ป่วยสูงวัยที่มีภาวะโรคดังกล่าวมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี นักวิจัยมหิดล จึงพัฒนา ชุดตรวขคัดกรองโรคในปากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก วช.

ศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิง วรานันท์ บัวจีบ หัวหน้าโครงการวิจัยนวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคในปาก จึงได้เริ่มการศึกษาโรคดังกล่าวในประชากรสูงวัย เพื่อนำข้อมูลที่สำคัญมาวิเคราะห์เตรียมความพร้อมให้ผู้สูงวัยมีบั้นปลายชีวิตที่เป็นสุข

ทั้งนี้ศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิง วรานันท์ บัวจีบ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำรัส พร้อมมาศ ดร.เบญจพร เลิศอนันตวงศ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรี เจียรนัยกูร คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ในแผนงานทุนท้าทายไทย เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ในการคิดค้นนวัตกรรม ชุดตรวจคัดกรองโรคในปาก ของผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว เพื่อพัฒนาชุดตรวจให้มีประสิทธิภาพ รู้ผลได้เร็ว เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งช่องปากในระยะแรก มักไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด ทำให้มักจะมาพบทันตแพทย์เมื่อโรคลุกลามมาก การป้องกัน และเฝ้าระวังการเกิดมะเร็งช่องปากจึงมีความสำคัญ และจำเป็น จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่ามะเร็งช่องปากมีความสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ได้แก่การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การเคี้ยวหมาก รวมทั้งการติดเชื้อไวรัส HPV

ทีมผู้วิจัยตระหนักถึงความเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV ในช่องปาก ที่อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติของเซลล์จนกลายเป็นมะเร็งของเยื่อเมือกช่องปาก จึงพยายามพัฒนาให้มีวิธีการคัดกรองไวรัส HPV ในช่องปากเบื้องต้น ที่ทำได้รวดเร็ว เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์และการตรวจสอบหารอยโรคที่เสี่ยงสูงต่อการกลายเป็นมะเร็งทั้งนี้ในผู้สูงอายุมักพบรอยโรคที่เสี่ยงสูงต่อการกลายเป็นมะเร็งของเยื่อเมือกในช่องปากที่สำคัญ ได้แก่ รอยโรคลิวโคเพลเคียและรอยโรคไลเคน แพลนัส การมีไวรัส HPV ในรอยโรคดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการกลายเป็นมะเร็งช่องปาก

นวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคในปาก ได้ถูกนำมาตรวจคัดกรอง HPV ในรอยโรคลิวโคเพลเคียและรอยโรคไลเคน แพลนัส โดยการใช้แปรงขนนิ่มขนาดเล็กขูดเซลล์ที่รอยโรคดังกล่าวไปตรวจหาไวรัส จัดว่าเป็นวิธีที่สะดวก ทำได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดแผลหรือความเจ็บปวด และยังช่วยในการเฝ้าระวังและติดตามโรค รวมถึงให้การรักษาที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สูงอายุ


โดยขั้นตอนของการตรวจ หลังจากการทำปฏิกิริยาที่ใช้เพิ่มปริมาณดีเอ็นเอ เพื่อเพิ่มปริมาณไวรัสที่จะตรวจแล้วจะใช้วิธีตรวจที่พัฒนาขึ้นนี้ทดแทนการรันเจลที่ใช้เวลานานกว่า เพื่อตรวจสอบผลการคัดกรองมะเร็งจากเชื้อไวรัสด้วยเทคนิคเคมีไฟฟ้า โดยการผสมสีที่เมื่อแตกตัวแล้วส่งสัญญานไฟฟ้าได้ สีดังกล่าวจะมีการเตรียมให้จำเพาะต่อดีเอ็นเอของไวรัสที่เกี่ยวข้องกับการคัดกรองมะเร็ง ดังนั้นหากพบดีเอ็นเอของเชื้อไวรัส สีดังกล่าวจะเข้าจับ และเกิดกระแสไฟฟ้าขึ้น ซึ่งปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นขึ้นอยู่กับปริมาณหรือจำนวนของเชื้อไวรัส


การทดสอบขั้นตอนนี้ทำได้ง่ายด้วยการหยดดีเอ็นเอที่ติดสีดังกล่าวเพียงหยดเดียวลงบน strip test ที่ทางโครงการวิจัยได้พัฒนาขึ้น แล้วใช้เครื่องอ่านผลปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้าแบบพกพาขนาดเล็กที่มีการใช้อยู่แล้ว โดยเชื่อมต่อสัญญาณกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้ทราบผลการวัดในเวลารวดเร็ว


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. สนับสนุนงานวิจัยด้านผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้อายุให้ได้รับการบริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยการนำองค์ความรู้ต่างๆ ขับเคลื่อนผลงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยี ไปสู่การขยายผลต่อกลุ่มเป้าหมายและผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งนวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคในปาก เป็นชุดตรวจที่สะดวก ทำได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดแผลและสามารถลดระยะเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างดี
#11347
เรื่องงานดิน ให้เป็นหน้าที่เรา บริการครบวงจร ยินดีให้คำปรึกษา โทร 080-022-3804 หรือ www.mmee2000.com
#11349




หลังจากที่เน็ตไอดอลชื่อดัง "พิมฐา" หรือ "พิม ฐานิดามานะเลิศเรืองกุล" โดนโซเชียลถล่มเละ เหตุมาจากพื้นที่สีแดง แต่ไม่กักตัว ตระเวนไปทั่ว ต่อมาเจ้าตัวพบว่าติดโควิด-19 ทำเอาวุ่นไปทั้งเชียงใหม่ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) เจ้าตัวก็รักษาอาการโควิดจนหายเป็นปกติแล้ว

พิมฐาได้โพสต์ไอจี ว่าได้เดินทางไปมอบเงินเยียวยา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด จากกระทำของเธอและเพื่อนสนิท "แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์" ที่ไม่สามารถเดินทางมาได้ด้วยตนเองเรียบร้อยแล้ว

โดยสาวพิมฐาและครอบครัว ได้แสดงความรับผิดชอบ ที่ทำให้นักศึกษาหลายคน ต้องปรับเปลี่ยนการเรียน เป็นระบบออนไลน์ ด้วยการเข้าพบสมาคมนักศึกษา เพื่อขอโทษและมอบทุนการศึกษาให้กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หวังช่วยบรรเทาความเดือนร้อนไม่มากก็น้อย

"วันนี้พิมได้มีโอกาสเข้าไปพบประธานสมาคมนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่หลังจากได้ทราบข่าวของนักศึกษาหลายท่านที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid 19 และต้องเข้าเรียนในระบบออนไลน์

พิมและครอบครัวรวมถึง ต้องขอขอบคุณทางฝ่ายตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ยอมรับและเข้าใจ และให้โอกาสเราในการร่วมสมทบทุนบริจาคโครงการทุนการศึกษารวม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดสรรเป็นทุนปี การศึกษา2564

และเราทราบดีว่าเราไม่สามารถทดแทนและเยียวยาผลกระทบในวงกว้างได้ทั้งหมดแต่หวังว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่นักศึกษาหลายท่านต้องเผชิญอยู่ไม่มากก็น้อย ขอบพระคุณค่ะ "

ส่วนร้านอาหารและค่าเฟ่ ที่ได้รับผลกระทบ ตามรายชื่อที่ปรากฎอยู่ในไทม์ไลน์ เจ้าตัวก็ได้เดินทางไปขอโทษ พร้อมมอบเงินเยียวยาให้ครบหมดทุกร้าน

"หลังจากที่พิมได้รักษาตัวจนหายจากโรค covid19 และได้กักตัวตามที่แพทย์แนะนำจนครบแล้ว พิมและครอบครัวได้แวะไปตามร้านต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบและมอบค่าเยียวยาที่พิมและ @bank_thiti ตั้งใจมอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากพวกเราในครั้งนี้

เราทราบดีว่าไม่อาจเยียวยาในความเสียหายทั้งหมดได้ แต่เราหวังว่าจะช่วยเยียวยาได้ไม่มากก็น้อย

พิมอยากขอบคุณร้านค้าทุกๆ ร้านที่เข้าใจและยอมรับการขอโทษในความผิดพลาดครั้งนี้ของเรา ทางพิมและแบงค์อยากขอโทษอีกครั้ง และพวกเราขอน้อมรับคำติทั้งหมด และสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกค่ะ "

ซึ่งงานนี้หนึ่งในร้านอาหารได้รับการเยียวยา ก็ได้ออกกล่าวถึงพิมฐาและแบงค์ โดยบอกว่าคิดอยู่นาน ว่าจะออกมาโพสต์ดีไหม แต่ตั้งแต่ที่ทราบว่าติดโควิด ครอบครัวของพิมฐา ก็ได้ติดต่อมาช่วยเหลือทุกทาง และขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ได้ขอบคุณทั้งสองคนในฐานะคนดัง แต่อยากขอบคุณในฐานะผู้ป่วยรายที่ 4254 ที่พยายามแสดงความรับผิดชอบ เป็นครั้งแรกที่มีคนมองเห็นและได้ยินเสียงเล็กๆ จำนวนเงินที่มอบให้ทางร้านและพนักงานทุกคน มีค่ามาก เหมือนเป็นการต่อลมหายใจ
#11352



ปัญหาสภาวะโลกรวนทำให้หลายประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกามีความพยายามที่จะกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้มข้น รวมถึงประเทศไทยที่ออกมาขานรับการเดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำเช่นกัน โดยเฉพาะในภาคพลังงานที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึงร้อยละ 30

แผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่จึงมุ่งเป้าสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ด้วยนโยบาย 4D1E ประกอบด้วย

- DIGITALIZATION ยกระดับโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าให้เป็นระบบอัจฉริยะรองรับไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานทดแทนและพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน

- DECARBONIZATION ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ชีวมวล ส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล

- DECENTRALIZATION ส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน สร้างความสมดุลของพื้นที่ไฟฟ้าในทุกภูมิภาค

- DE-REGULATION สนับสนุนการเปิดพื้นที่เฉพาะให้สามารถพัฒนาและทดสอบนวัตกรรมด้านพลังงานได้โดยผ่อนปรนกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค (ERC Sandbox) และส่งเสริมสตาร์ทอัพด้านพลังงาน

- ELECTRIFICATION ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า

เทรนด์แบตเตอรี่มาแรง หนุนไทยมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

รศ.ดร.ณอคุณ สิทธิพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการองค์การซีเกรฝ่ายไทย กล่าวถึงทิศทางพลังงานโลกภายในงาน TNC – CIGRE WEBINAR 2021 ระบุว่า หลายประเทศทั่วโลกได้เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น แต่ความผันผวนของการผลิตไฟฟ้าที่เป็นไปตามสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ ทำให้ต้องนำเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบบของแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) เข้าช่วยเสริมเสถียรภาพการบริหารจัดการไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน อีกทั้งราคาแบตเตอรี่ที่มีแนวโน้มลดลงจะมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตให้เพิ่มมากขึ้นด้วย

Mr. Wilhelm van Butselaar ผู้แทนจาก Wärtsilä Singapore กล่าวเสริมว่า เทคโนโลยี BESS ได้ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายและมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากนำมาประยุกต์ร่วมกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและพลังงานฟอสซิลจะสามารถลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยของระบบได้มากกว่าร้อยละ 25 หรือหากนำไปใช้ร่วมกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจะช่วยลดความผันผวนจากข้อจำกัดด้านสภาพแวดล้อมและเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบให้มีความมั่นคง ถือเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตไฟฟ้าเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต

ชู 'โซลาร์ลอยน้ำไฮบริดและแบตเตอรี่' จุดเด่นโมเดลผลิตไฟฟ้ารับหมุนเวียน

ด้าน กฟผ. ก็ไม่ตกเทรนด์มุ่งพัฒนา BESS เชื่อมต่อกับระบบส่งไฟฟ้า (Grid Scale) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อช่วยเสริมความมั่นคง รองรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดย BESS จะกักเก็บพลังงานในช่วงที่ระบบมีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อย และจ่ายพลังงานให้กับระบบในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาความถี่ของระบบไฟฟ้าด้วย โดย กฟผ. ได้เริ่มนำร่อง BESS ในพื้นที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ และสถานีไฟฟ้าแรงสูงชัยบาดาล จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสูง

นอกจากนี้ กฟผ. ยังขานรับเทรนด์พลังงานโลกเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ชูจุดเด่นของการผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานจากพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อน กฟผ. หรือ Hydro-Floating Solar Hybrid ซึ่งถือเป็นโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำแบบไฮบริดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยนำร่องแห่งแรก ณ เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำแบบไฮบริดของ กฟผ. ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ยาวนานขึ้น โดยในช่วงกลางวันจะผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และช่วงกลางคืนผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ควบคู่กับแบตเตอรี่ที่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าส่วนที่เหลือจากการผลิตไฟฟ้าในตอนกลางวัน อีกทั้งยังเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เดิมของเขื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาทิ สายส่งไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าแรงสูง ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่ำลงไม่เกิน 1.50 สตางค์ต่อหน่วย

ส่วนในภาคการขนส่ง กฟผ. ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การติดตั้งสถานีชาร์จอีวี EleX by EGAT จำนวน 14 แห่ง และเตรียมขยายเพิ่มอีก 30 แห่งในอนาคต การพัฒนาแอพพลิเคชัน EleXA สำหรับค้นหาสถานีชาร์จอีวี ออกแบบและติดตั้ง EGAT Wallbox สำหรับชาร์จอีวีภายในบ้านหรือสถานที่ประกอบการ รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์ม BackEN สำหรับบริหารจัดการสถานีชาร์จอีวีแบบครบวงจร


การพัฒนาการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความมั่นคงเชื่อถือได้ และเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความพยายามในการเดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำเท่านั้น แต่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์คือ ความร่วมมือจากประชาชนและทุกภาคส่วนในการดำเนินกิจกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
#11353



สมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ร่วมกับเดอะมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และเดอะอาร์แอนด์เอ ผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ (เอเอซี) ร่วมแถลงข่าวยืนยันการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ครั้งที่ 12 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2021 ที่สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ในนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากต้องยกเลิกไปในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การแข่งขันกอล์ฟกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2009 เพื่อเป็นเวทีพัฒนานักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยแชมป์รายการนี้จะได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในระดับเมเจอร์ รายการเดอะ มาสเตอร์ส และ ดิ โอเพน ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายลุ้นตั๋วลุยศึก ดิ โอเพน โดยในปี 2020 การแข่งขันถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด -19 ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันเผยกำหนดการแข่งขันในปี 2021 จะกลับมาดวลวงสวิงระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกอล์ฟรายการนี้ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งใน 42 ประเทศสมาชิกของสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก และนครดูไบก็เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับอาชีพและระดับสมัครเล่นทุกปี รวมถึงการแข่งขันรายการ ดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ของยูโรเปียนทัวร์ และรายการดีพี เวิลด์ทัวร์ แชมเปียนชิพ

ไทมูร์ ฮัสซัน อามิน ประธานสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก เฟร็ด ริดลีย์ ประธานมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และ มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของอาร์แอนด์เอ กล่าวร่วมกันถึงการจัดการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2021 ว่า "การสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เมเจอร์รายการ เดอะ มาสเตอร์ส ในปีนี้ของฮิเดกิ มัตสึยามา ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 สมัย เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการแข่งขันรายการนี้ในฐานะที่เวทีสำหรับการพัฒนากีฬากอล์ฟและความสามารถของนักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาค เราขอขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับสมาพันธ์ฟอล์ฟเอมิเรตส์ และดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ที่ให้การสนับสนุนจัดการแข่งขันในปีนี้ และเรามุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการแข่งขันในปีนี้ได้อย่างปลอดภัยตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อมอบโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น ที่สมควรได้รับโอกาสเหล่านี้ ขณะที่สนามดูไบครีกจะช่วยยกระดับมาตรฐานสนามที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ และเราก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นการประชันฝีมือของนักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแถวหน้าของเอเชีย-แปซิฟิกในเดือนพฤศจิกายนนี้"

สำหรับสนามดูไบ ครีก เปิดบริการในปี 1993 เป็นสนาม 18 หลุม พาร์ 71 ซึ่งเริ่มแรกออกแบบโดยคาร์ล ลิตเท่น ก่อนจะมีการออกแบบใหม่ในปี 2004 นำทีมออกแบบโดย โธมัส บียอร์น สนามแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ในปี 1999 และ 2000 และรายการ ดูไบ ครีก โอเพ่น ซึ่งเรย์ฮัน โธมัส รองแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปี 2018 โชว์ฟอร์มทำสถิติสนามในปี 2017 เมื่อเร็วๆนี้ สนามดูไบ ครีก เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ดูไบ แชมเปียนชิพ รายการในเวิลด์ อเมเจอร์ ทัวร์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ด้าน ชีค ฟาฮิม บิน สุลต่าน อัล กอซิมี ประธานสมาพันธ์กอล์ฟเอมิเรตส์ กล่าวว่า "หลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ มาหลายปีในฐานะสมาชิกของสมาพันธ์กอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีมากที่จะได้ต้อนรับการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้สู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นครั้งแรก การแข่งขันรายการนี้มีความหมายอย่างมากกับบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นในเอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมสนับสนุนสมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซฟิก, มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และอาร์แอนด์เอ ในความพยายามจัดการแข่งขันที่ปลอดภัยและประสบความสำเร็จร่วมกันในการสร้างเวทีเพื่อพัฒนาและส่งเสริมเกมกีฬากอล์ฟ"

คริสโตเฟอร์ เมย์ ประธานประธานกรรมการบริหารของดูไบกอล์ฟ กล่าวว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ เป็นการรวมตัวกันของเหล่านักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลก เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรผู้ก่อตั้งทัวร์นาเมนต์ เลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าการแข่งขันเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปีนี้ จะเป็นบททดสอบที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมชิงชัย และเรากำลังเฝ้ารอที่จะได้เป็นเวทีแห่งการประชันฝีมือของบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วโลกและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเกมกีฬากอล์ฟ"

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ การแข่งขันรายการนี้คือบันไดก้าวแรกสู่การเป็นผู้เล่นชั้นนำของโลกของนักกอล์ฟหลายคน รวมถึง มัตสึยามา ซึ่งคว้าแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 ครั้ง และมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์หลังชนะเลิศรายการมาสเตอร์ส ในปี 2021

ทางด้าน หลิน ยู่ซิน นักกอล์ฟมือสมัครเล่นจากจีน ดีกรีแชมป์ปี 2017 และ 2019 หวังสร้างสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ 3 สมัย หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ทำผลงานผ่านการตัดตัวในรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 149 ที่สนามรอยัล เซนต์ จอร์จส

นักกอล์ฟถนัดซ้ายมือสมัครเล่นอันดับ 16 ของโลก กล่าวกว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพเป็นทัวร์นาเมนต์ที่วิเศษมากที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ลงเล่นรายการเมเจอร์ทั้งในมาสเตอร์ส และดิ โอเพน ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณรายการนี้อย่างมาก"
#11354



ภายหลังจากที่ "โค้ชเช" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าพร้อมสละสัญชาติเกาหลีใต้ เพื่อที่จะรับสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย และบุคคลในรัฐบาลขานรับพร้อมพิจารณากรณีดังกล่าว

โดย "โค้ชเช" ที่มารับงานคุมทีมชาติไทย ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545 ได้ถูกทาบทามจากหลายชาติด้วยค่าตอบแทนที่สูงกว่า หลังทำผลงานกับทีมชาติไทยอย่างยอดเยี่ยม ทว่าเจ้าตัวก็ปฏิเสธไป เนื่องจากทำใจไม่ได้ที่จะไปฝึกให้นักกีฬาชาวต่างชาติมาแข่งขันกับลูกศิษย์ของตนเอง

ทั้งนี้ผลงานในโอลิมปิกเกมส์ ของนักกีฬาไทย ภายใต้การดูแลของ "โค้ชเช" ประกอบด้วย

- เยาวภา บุรพลชัย เหรียญทองแดงโอลิมปิก ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ
- บุตรี เผือดผ่อง เหรียญเงินโอลิมปิก ที่ปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
- ชนาธิป ซ้อนขำ เหรียญทองแดงโอลิมปิก ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
- พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองโอลิมปิก ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดยก่อนหน้ามีการเปิดเผยว่า "โค้ชเช" ได้ชื่อสำหรับรับสัญชาติไทย คือ "ชัยศักดิ์" อย่างไรก็ตาม ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เผยว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่ชื่อ ชัยศักดิ์ อย่างที่เข้าใจกัน โดย โค้ชเช มาปรึกษาขอให้ตั้งชื่อไทยให้ ซึ่งผมเห็นว่าควรให้พระตั้งให้ จึงไปกราบเรียน "เจ้าคุณธงชัย" หรือ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี แห่งวัดไตรมิตรฯ นำวันเดือนปีเกิดไปตั้งให้ ซึ่งตอนนี้ได้เหรียญทองโอลิมปิกกลับมาก็จะกลับไปขอชื่อไทยกับท่าน

ทั้งนี้ยังมีการเปิดเผยด้วยว่าก่อนเดินทางไป "โตเกียวเกมส์" ครั้งนี้ ทีมเทควันโดของไทย ได้เข้าพบ "เจ้าคุณธงชัย" โดยได้รับมอบยันต์มาทั้งทีม ซึ่งตัว "โค้ชเช" เผยว่าตนได้พกติดตัวไปด้วย และระหว่างการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้นำมาลูบหน้า "น้องเทนนิส" ก่อนที่เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก บอกให้ลูบที่เกราะลำตัวด้วย

ซึ่ง "โค้ชเช" ยอมรับว่าเขาได้ภาวนาว่า ขอให้น้องเทนนิส ทำอะไรก็ได้คะแนน และคู่ต่อสู้ทำอะไรน้องเทนนิสไม่ได้อีกด้วย
#11355
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด