• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chanapot

#10201


21 กรกฎาคม 2564 เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี มุ่งมั่นสนับสนุนและส่งเสริมคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างพลังสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่บนเวทีการประชุมระดับนานาชาติ One Young World 2021 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นเวที "การประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก" และในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 กรกฎาคม 2564 ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมสนับสนุน 20 ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่จากกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีเข้าร่วมเวที One Young World 2021 เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและแบ่งปันประสบการณ์ของเยาวชนคนรุ่นใหม่จากทั่วโลกกว่า 2,000 คน ใน 190 ประเทศที่จะมารวมตัวกันเพื่อแสวงหาความร่วมมือและแนวทางแก้ปัญหาสำคัญต่างๆของโลก

โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเครือซีพีตระหนักถึงการส่งเสริมและสร้างบทบาทผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่ของไทยที่จะขึ้นมาเป็น "The Change Maker" หรือผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้กับสังคมและประเทศชาติ เพื่อเป็นพลังสำคัญต่อการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โลกที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

สำหรับปีนี้การประชุม One Young World 2021 จะจัดขึ้นในรูปแบบผสมผสานโดยส่วนกลางจะจัดขึ้นที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี และผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลกจะร่วมประชุมในรูปแบบการประชุมเสมือนจริงผ่านทางออนไลน์ หรือ Virtual Summit โดยตลอดช่วงเวลาของการจัดประชุม ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ตั้งแต่อายุ 18-30 ปี จากทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่อร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และเสนอแนวทางแก้ไข (solution) และกรณีศึกษาต่างๆ (Best Practices) ในวิกฤตสำคัญของโลก ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดหัวข้อที่เป็นปัญหาเร่งด่วนระดับโลกเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไข ประกอบด้วย 6 ประเด็น คือ


1.การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Crisis)

2.การศึกษา (Education)

3.สิทธิและเสรีภาพ (Rights & Freedom)

4.การแก้ปัญหาความขัดแย้ง (Conflict Resolution)

5.การพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต (Future Economies)

6.บทเรียนจากโรคระบาด (Lessons from The Pandemic) ซึ่งเป็นประเด็นที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตโควิด-19

พร้อมกันนี้ยังได้เชิญตัวแทนผู้นำระดับโลกในหลากหลายสาขาอาชีพทั้งในแวดวงการเมือง ธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม มาร่วมปาฐกถาพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายแก่เหล่าผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่จาก 190 ประเทศทั่วโลกในเวทีนี้ด้วย


ในการนี้ เครือซีพีได้รับเกียรติจาก "ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส" (Muhammad Yunus) นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ผู้ริเริ่มแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคม (Social Business) และผู้ก่อตั้ง Yunus Foundation หนึ่งในนักสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเคยร่วมขึ้นเวที One Young World มาให้แนวคิดพร้อมจุดประกายความคิด สร้างแรงบันดาลใจแก่ 20 ตัวแทนเยาวชนไทย ในการเตรียมความพร้อมก่อนถึงวันประชุม One Young World 2021

ศาสตราจารย์ยูนุส กล่าวว่า ตัวแทนผู้นำคนรุ่นใหม่ของคนไทยจะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างการเปลี่ยนแปลงบนเวที One Young World 2021 ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญจะเป็นบทพิสูจน์และความท้าทายให้กับผู้นำรุ่นใหม่ในการร่วมกันหาทางออกและแก้ปัญหาสำคัญของโลก โดยเฉพาะในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ที่มาจากภาคธุรกิจ ที่จะต้องตระหนักว่าการดำเนินธุรกิจจากนี้จะไม่มุ่งแสวงหาเพียงผลกำไรเท่านั้น แต่จะต้องคำนึงถึงการสร้างประโยชน์เพื่อสังคม

ตลอดจนมองเห็นมิติการแก้ปัญหาด้านความยั่งยืนคู่ขนานไปด้วย ซึ่งคนรุ่นใหม่จะต้องเร่งลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในหลักการที่เรียกว่า "สามศูนย์" (three zeros) คือ

1.ความยากจนต้องเป็นศูนย์ (Zero Poverty)

2.อัตราการว่างงานเป็นศูนย์ (Zero Unemployment)

3.การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Net Carbon Emission)

ทั้งนี้ การทำธุรกิจเพื่อสังคมจะเป็นคำตอบของโลกในยุคใหม่ในการนำองค์ความรู้จากองค์กรธุรกิจมาช่วยแก้ไขปัญหาชุมชน สังคมและโลกให้เกิดความสันติสุขและยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย

"ผมเชื่อมั่นว่าตัวแทนผู้นำคนรุ่นใหม่ไทย และจากทั่วโลกในเวที One Young World 2021 จะเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ขณะนี้ยังลุกลามทำลายระบบเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างคาดไม่ถึง ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้นำรุ่นใหม่ต้องลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้สามารถสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ต้องผสมผสานแนวคิดการทำงาน การทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการสร้างประโยชน์และแก้ปัญหาสังคม ชุมชนในเวลาเดียวกัน"เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพกล่าว
#10203
5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มืออาชีพ ลงทะเบียน 97 บาทเท่านั้น
#10206
ต้องการถมดิน ถมที่ นึกถึงเรา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ใช่นายหน้า ติดต่อ 080-022-3804
รับทุกขนาดพื้นที่ ฟรีตรวจสอบพื้นที่ประมาณ ราคา
#10207
5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มืออาชีพ ลงทะเบียน 97 บาทเท่านั้น
#10208
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804  หรือ www.mmee2000.com
#10209


สศช.ชงครม.เพิ่ม "เยียวยา" อีก 3 จังหวัดสีแดงเข้มตามประกาศ ศบค.ชลบุรี อยุธยา ฉะเชิงเทรา "สุชาติ" เผยเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีแรงงาน ม.33 มากกว่า 1 ล้านคน

การระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นเสี่ยงเกิดภาวะวิกฤตระบบสาธารณสุข ซึ่งทำให้มัการยกระดับความเข้มข้นของการล็อกดาวน์ และเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เป็น 13 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.2564

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ก.ค.2564 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน กลุ่มแรงงาน และผู้ประกอบการอันเนื่องมาจากข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) สาระสำคัญจะปรับปรุงมาตรการการเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการยกระดับมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิดที่เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดจาก 10 เป็น 13 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา

แหล่งข่าว กล่าวว่า การทำให้ต้องมีการขยายขอบเขตการให้ความช่วยเหลือแรงงานทั้งในและนอกระบบประกันสังคมในพื้นที่ดังกล่าวจากเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติไว้แล้วเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอนุมัติการจ่ายเงินเยียวยาแรงงาน 9 กลุ่มธุรกิจ วงเงิน 30,000 ล้านบาท ในขณะที่การช่วยลดค่าครองชีพค่าน้ำค่าไฟฟ้าวงเงิน 12,000 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือทั้งประเทศอยู่แล้ว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ส่งข้อมูลแรงงานใน 3 จังหวัดที่ประกาศเพิ่มเติมให้ สศช.แล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีแรงงานทั้งในและนอกระบบมาก โดยเฉพาะแรงงานในระบบประกันสังคมตาม ม.33 รวม 1 ล้านคน โดยชลบุรีมากที่สุด 7 แสนคน รองลงมาพระนครศรีอยุธยาและฉะเชิงเทรา รวมกันมากกว่า 3 แสนคน 

"การดูแลแรงงานพื้นที่นี้จะทำตามมติ ครม.ซึ่ง สศช.จะนำเสนอ ซึ่งคงไม่ต่างจาก 10 จังหวัด ที่ประกาศเป็นพื้นที่สีแดงเข้มก่อนหน้านี้ และ 9 กลุ่มอาชีพกิจการต้องได้รับการเยียวยาเหมือนกัน โดยส่งข้อมูลแรงงานไปแล้วเชื่อว่าการเยียวยาคงไม่ตกหล่น"นายสุชาติ กล่าว 


สำหรับมาตรการเยียวยาใน 3 จังหวัด จะมีรูปแบบที่ ครม.อนุมัติ คือ การเยียวยาแรงงานในระบบประกันสังคมและนอกระบบ โดยในระบบประกันสังคมแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.กลุ่มแรงงาน ม.33 ในกิจการ 9 หมวด รัฐจะจ่ายเงินเยียวยาให้ 50% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) และจ่ายสมทบให้ลูกจ้างสัญชาติไทยอีก 2,500 บาทต่อคน รวมแล้วได้สูงสุดไม่เกิน10,000 บาท

2.ผู้ประกอบการหรือนายจ้างตามหลักการให้ความช่วยเหลือ ได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน อัตรา 3,000 บาทต่อคน จำนวน 1 เดือน

3.ผู้ประกันตนตาม ม.39 และ ม.40 สัญชาติไทยที่ยังประกอบอาชีพจะได้รับความช่วยเหลือ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่เป็นผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 สัญชาติไทย ที่ยังประกอบอาชีพให้เตรียมหลักฐานลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตน ม. 40 ภายในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อรับความช่วยเหลือ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน
#10213
ต้องการถมดิน ถมที่ นึกถึงเรา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ใช่นายหน้า ติดต่อ 080-022-3804
รับทุกขนาดพื้นที่ ฟรีตรวจสอบพื้นที่ประมาณ ราคา
#10214
5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มืออาชีพ ลงทะเบียน 97 บาทเท่านั้น
#10215
รับจ้างโพสขายบ้าน อสังหา ทีดิน บ้านเดี่ยว